สำหรับใครหลายคนที่เคยเล่นเกม Final Fantasy 7: Remake แบบเป็นสายเสพเนื้อเรื่อง ก็น่าจะรู้กันว่าเกมภาคนี้แอบมีส่วนที่ 'พล็อตโฮล' โดยเฉพาะการที่ตัวละครสาว Aerith เพิ่งได้เจอกับ Cloud ครั้งแรก แต่ก็เรียกเขาไปทันทีเลยว่า 'ทหารรับจ้าง' ซึ่งถึงแม้ Aerith จะบอกว่าเดาจากดาบ Buster Sword ของ Cloud แต่มันก็ดูไม่น่าใช่จากการเดาอยู่ดี หรือในตอน Chapter 12 ที่ Tifa จะขอให้ Aerith ไปช่วย Marlene แต่ Aerith ก็ดันรู้ก่อน Tifa จะอธิบายจบล่าสุดนี้ทางสื่อ IGN ได้รายงานว่่า Square Enix ฝั่งญี่ปุ่น JP ออกมาเผยบน Twitter แล้วว่าที่ Aerith เป็นแบบนี้ก็เพราะ 'เธอนั้นมีความทรงจำจากอนาคต' โดยสรุปได้ดังนี้Aerith เธอนั้นมีความทรงจำจากอนาคต เพราะเธอได้ความทรงจำนี้จาก "ตัวตนในอนาคตที่อยู่อีกมิติหนึ่ง"แต่ Aerith นั้นก็มีความทรงจำแบบคลุมเครือ และเรียก Cloud ไปแบบนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์เหมือนเรียกไปตามใต้จิตสำนึก โดยที่ Aerith เป็นแบบนี้ก็เพราะฝีมือ The Whispers ผู้ที่คอยทำให้เรื่องราวต่างๆ ในเกม Final Fantasy 7 ไม่เปลี่ยนแปลงจากชะตากรรมThe Whispers ได้ใช้วิธีดูดเอาความทรงจำจากอนาคตของ Aerith ไปทีละน้อยในทุกครั้งที่สัมผัสเธอ เพื่อให้ Aerith จะไม่เอาความทรงจำนี้มาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ตามชะตากรรมนั่นเองทั้งหมดนี้ จึงเป็นส่วนที่บ่งบอกว่า 2 เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่พล็อตโฮลนะ!!! เกม Final Fantasy 7: Remake กำลังจะมีภาคต่อในชื่อ Final Fantasy 7: Rebirth วางขายในช่วงต้นปี 2024 บน PS5 ใครสนใจก็รอเล่นกันได้เลย                                                                                                                        เครดิต : ign..............................พบเกม PC ลดราคาแรงตลอดปีที่ร้าน 2gameซื้อผ่านลิงก์ https://2game.com?ref=gamefeverth และใส่รหัสคูปอง Gamefever เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม!

Lollipop Chainsaw คือหนึ่งในเกมประเภท hack-and-slash ฟันแหลกแหกดงซอมบี้ที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดเกมหนึ่ง เนื่องด้วยตัวละครเอกที่เป็นสาวน้อยน่ารัก แต่ดันพกเลื่อยยนต์เดินไปไหนมาไหนนี่มันช่างเป็นภาพที่หาดูได้ยากอย่างแน่นอนสำหรับเกมอื่น ซึ่งทางคุณ Yoshimi Yasuda อดีต CEO ของ Kadokawa Games ได้ออกมาทวีตข้อความว่า “Lollipop Chainsaw กลับมาแล้ว ภายใต้การพัฒนาของ Dragami Games เตรียมรอรับความสนุกได้เลย!!!” หากใครที่สงสัยว่า Dragami Games  คือใคร ทำไมถึงมารับช่วงต่อการพัฒนาของ Lollipop Chainsaw เช่นนี้ แล้วเขาจะทำได้ดีหรือไม่?ก็ต้องขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลยว่า Dragami Games คือบริษัทพัฒนาเกมที่คุณ Yasuda เป็นผู้ก่อตั้งหลังจากที่เขาลาออกจาก Kadokawa Games นั่นเอง เพราะงั้นไว้ใจเรื่องการพัฒนาเกมฉบับ Remake นี่ได้เลย “ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง ทำให้ตัวเกมเวอร์ชันต้นฉบับไม่สามารถที่จะเข้าเล่นได้แล้ว ซึ่งปัญหานี้มันก็กินระยะเวลามานานนมเลยล่ะ ดังนั้น พวกเราในฐานะทีมพัฒนาดั้งเดิมของ Lollipop Chainsaw พวกเราคิดว่าเกมนี้คือสมบัติอันล้ำค่า และพวกเราก็ไม่อยากที่จะปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ถูกฝังถูกในส่วนลึกของจิตใจ”คุณ Yasuda เล่าถึงเหตุผลที่ตัวเขาและทีมงานตัดสินใจเข้าซื้อลิขสิทธิ์ของเกมมาจากบริษัทเก่า ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lollipop Chainsaw Remake แต่คาดว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายในปี 2023 ใครที่สนใจก็ต้องรอติดตามข่าวสารกันต่อไปก่อนนะครับ แหล่งข้อมูล: thegamer  

ต้องยอมรับว่า กระแสเกี่ยวกับเกม Silent Hill ตอนนี้ค่อนข้างมาแรงเลยทีเดียว เพราะนอกจากภาพเกมที่คาดว่าจะเป็นภาคใหม่จะหลุดออกมานั้น ยังจะมีข่าวลือเกี่ยวกับการนำเกม Silent Hill 2 มา Remake โดยฝีมือของทีมพัฒนามากฝีมืออย่าง Bloober Team อีกด้วย ซึ่งหลังจากที่ข่าวลือพวกนี้เริ่มแพร่สะพัดสู่วงการเกม จนมีเกมเมอร์ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทางหนึ่งในสื่อเกมใหญ่จากต่างประเทศอย่าง IGN ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะหยิบจับเรื่องนี้มาตีแผ่ให้กรัจ่างมากยิ่งขึ้น โดย IGN ได้ไปสัมภาษณ์ Piotr Babieno เจ้าของตำแหน่ง CEO ประจำ Bloober Team ที่กำลังมีประเด็นอยู่ในตอนนี้ ถึงเรื่องข่าวลือที่ออกมาและทาง Piotr ก็ได้ตอบกลับออกมาว่า พวกเรายังไม่สามารถบอกอะไรเพิ่มเติมถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ได้ในตอนนี้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงไป เพราะเราจะประกาศถึงโปรเจกต์นี้ในทันทีที่เราสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นคุณรอติดตามข่าวสาร และข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการกันได้เลย  นอกจากนี้ ทาง Piotr ยังได้พูดถึงการเป็นคู่ค้ากันระหว่าง Bloober Team กับบริษัทอื่น ๆ อีกด้วยซึ่งหากมองย้อนกลับไปในช่วงประมาณปีที่แล้ว ก็จะเห็นได้ว่า Bloober Team กับ Konami ได้ประกาศทำธุรกิจร่วมกันอย่างเป็นทางการสู่สาธารณะ โดยการร่วมมือกันครั้งนี้ ก็ยิ่งมาเติมเชื้อไฟแห่งความน่าสงสัยเข้าไปอีก ต้องมาตามดูกันว่า ข่าวลือที่เกี่ยวกับ Silent Hill ต่าง ๆ จะออกมาเป็นเรื่องจริง หรือจะเป็นเพียงแค่ข่าวลือกันต่อไปกันแน่นะครับ แหล่งข้อมูล: thegamer

Dead Space Remake เป็นอีกหนึ่งเกมที่หลายคนต่างตั้งตาคอย เนื่องจากตัวเกมจากแฟรนไชส์นี้ไม่ได้มีภาคต่อมานานนับ 9 ปี เลยทีเดียวเพราะฉะนั้นต่อให้เป็นแค่การ Remake แต่การที่ได้เห็นตัวละครที่รัก กลับมาโลดแล่นอยู่บนจออีกครั้ง ก็นับว่าเป็นความสุขที่แฟนเกมยิ้มกันแก้มแทบปริแล้วซึ่งตัวเกมภาคปรับปรุงใหม่นี้ ได้มีข่าวลือว่าจะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2022 ออกมาหนาหู แต่ดูเหมือนว่าทาง EA และ Motive Studios ที่รับผิดชอบในโปรเจกต์นี้จะต้องการเวลามากกว่านั้นเสียหน่อยโดยล่าสุด มีรายงานจาก Jeff Grubb นักข่าวในวงการเกมว่า ทางผู้พัฒนา Dead Space Remake น่าจะตั้งเป้าวางจำหน่ายตัวเกมในช่วงต้นปี 2023 มากกว่า นอกจากนี้ Grubb ยังเชื่อว่า ภายในการถ่ายทอดสดจากทางผู้พัฒนา ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม 1:00 น. ตามเวลาประเทศไทย จะมีการประกาศถึงวันวางจำหน่ายของตัวเกมที่ชัดเจนออกมาอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครที่สนใจอยากจะรับชมกันแบบสด ๆ ก็สามารถเข้าไปดูที่ลิงก์ด้านล่างนี้กันได้เลยDead Space Remake อาจจะวางจำหน่ายในปี 2023 บนแพลตฟอร์ม PC, PS5 และ Xbox Series X|Sแหล่งข้อมูล: gamerant

ภายในงาน The Game Awards 2021 ที่ผ่านมา แฟนๆ ที่เฝ้ารอจะได้เล่นเกม Final Fantasy VII Remak Intergrade บน PC ต่างได้รับข่าวดีเมื่อผู้พัฒนา Square Enix ทำการยืนยันวันวางจำหน่ายของเกมภายในงานผ่านตัวอย่างใหม่ โดยผู้เล่นชาว PC จะสามารถพบกับเกมได้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้!ล่าสุด ทางผู้พัฒนายังได้ทำการเปิดเผยความต้องการ PC สำหรับใช้เล่นเกมออกมาทาง Twitter ของค่ายด้วย ซึ่งแม้จะดูไม่หนักหนาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าความต้องการที่ค่ายเปิดเผยมานี้ตั้งเป้า Performance ไว้ที่เท่าไหร่ (ความต้องการขั้นต่ำอาจจะเล่นเกมได้ที่ 30FPS เท่านั้นก็เป็นได้) สำหรับเกมเวอร์ชั่น PC นี้จะสนับสนุนกราฟิคระดับ 4K, HDR, RTX รวมไปถึงสนับสนุนการเล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดตามมาตรฐานของเกมเวอร์ชั่น PC ทั่วไป แต่จุดน่าสนใจคือการที่ผู้พัฒนาบอกว่า 'คอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงที่สุดจะสามารถสัมผัสเกมที่ระดับ 120 FPS ได้เลย' ซึ่งดูจะบ่งบอกว่าเกมจะล๊อค FPS สูงสุดไว้ที่ 120 FPS เท่านั้นทั้งนี้ ผู้เล่นหลายคนอาจจะรู้สึกว่าดีใจได้ไม่เต็มอก เมื่อผู้พัฒนา Square Enix เปิดเผยด้วยว่าเกม Final Fantasy VII Intergrade จะวางจำหน่ายบน PC ในราคา $70 (หรือเท่ากับเกม PS5 บ้านเรา แผ่นละ 2,000+) ซึ่งถือเป็นเกม AAA เกมแรกที่ตั้งราคานี้บน PC ในขณะที่แม้แต่เกม PS5/Xbox Series X/S อื่นๆ ยังต้องลดราคาลงมาเหลือ $60 (ราว 1,800 บาท) โดย Square Enix ยังประกาศด้วยว่าเกมผจญภัยโลกเปิด Forsaken ของพวกเขา ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในปีหน้า ก็จะวางจำหน่ายในราคาเท่ากันด้วยแน่นอนว่าการซื้อเกมในราคาระดับเกิน 2,000 บาทต่อเกมไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านๆ มาเกมที่มีราคาระดับนี้มักจะมาพร้อมกับ DLC หรือเป็นชุดพิเศษ Collector's Edition อะไรซักอย่าง ในขณะที่ FF7R: Intergrade จะวางจำหน่ายเกมชุดปกติในราคาเท่ากัน แถมเป็นเกมที่วางจำหน่ายไปแล้วพักใหญ่ในคอนโซลอื่นๆ ด้วย คงต้องรอดูต่อไปว่าผู้พัฒนาเกมค่ายอื่นๆ จะฉวยโอกาสเอาอย่างบ้างไหม และจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่นอย่างเราๆ มากน้อยแค่ไหนในอนาคตแหล่งข่าว: PCGamer

หลังจากที่เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้ากันไปเมื่อเร็วๆ นี้กับเกม Battle Royale น้องใหม่อย่าง Final Fantasy VII: The First Soldier ล่าสุดเกมได้เปิดให้ผู้เล่นเข้าไปดาวน์โหลดล่วงหน้าได้แล้ว ก่อนที่จะเปิดเซิฟเวอร์ให้เล่นพร้อมกันในวันที่ 17 พฤษจิกายนนี้ (วันพรุ่งนี้แล้ว!)สำหรับขนาดไฟล์เกมบนเครื่อง iOS จะอยู่ที่ 2.43GB ซึ่งรวมถึงแพทช์อัปเดตขนาดราวๆ เกือบ 800MB ที่ต้องเข้าไปโหลดในเกมอีกทีแล้วด้วย โดยเชื่อว่าขนาดไฟล์บน Android ก็คงไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่นักเกม Final Fantasy VII: The First Soldier เป็นเกมแนว Battle Royale ที่ตั้งอยู่ก่อนเหตุการณ์ของเกม Final Fantasy VII ภาคหลัก ซึ่งจะให้ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นทหารหัวกะทิของบริษัท SHINRA ที่จะต้องต่อสู้กันเพื่อให้ได้รับเลือกเข้าสู่หน่วยรบพิเศษ SOLDIER ที่กำลังจะถูกตั้งขึ้นใหม่เป็นรุ่นแรก (เป็นหน่วยทหารที่ตัวเอก Cloud และ Sephiroth สังกัดอยู่นั่นเอง) โดยนอกจากอาวุธทั่วๆ ไปอย่างปืน ระเบิด หรือยานพาหนะชนิดต่างๆ ผู้เล่นจะสามารถใช้อาวุธและเวทมนต์ของจักรวาล Final Fantasy ในการต่อสู้ และยังสามารถต่อสู้กับเหล่ามอนส์เตอร์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากซีรีส์เพื่อเก็บเลเวลได้อีกด้วย<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/FA8iaJDVrWc' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>

ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานออกมาว่า Metal Gear Solid 3 กำลังถูกทำการ Remake โดยบริษัท Virtuos ในสิงคโปร์อยู่ แต่เนื่องจากยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการโดย Konami เลยไม่มีใครทราบว่ารายงานดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน แต่จาก LinkedIn ของสมาชิกผู้ก่อตั้ง Virtuos ล่าสุด ดูเหมือนเป็นไปได้ว่าอาจเป็นเรื่องจริงพบโดยผู้ใช้งาน Twitter ชื่อ FaizShaikh7681 หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งของ Virtuos ได้ใส่รายละเอียดใน Profile ของเขาว่า 'ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2018 - กลางปี 2019 เขาได้มีโอกาสช่วยพัฒนาเกม Action-Adventure Remake ระดับ AAA ที่จะลงให้กับทุกเครื่อง และสามารถเล่นได้ด้วยความละเอียด 4K' โดยเป็นไปได้ว่าเกมที่พูดถึงดังกล่าวอาจหมายถึง Metal Gear Solid 3 Remake แม้ว่าไม่มีอะไรสามารถยืนยันว่าโปรเจกต์ดังกล่าวคือ Metal Gear Solid 3 Remake จริงๆ หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียวที่จะเป็นเกมดังกล่าวจริง แต่ถ้าหากว่าไม่ใช่ก็หมายความว่าเรากำลังจะได้เห็นเกม Action-Adventure ระดับ AAA สักเกมหนึ่งที่เป็นฉบับ Remake ในอนาคตดันใกล้นี้ ต้องรอดูกันต่อไปSo Virtuos Studios Working on Remake According to this LinkedIn Profile, Probably Metal Gear Solid 3... Previously It's been reported by @AndyPlaytonic.- AAA Action Adventure Remake- Looks like Ground up Remake- 4k For Certain Platform@bogorad222 pic.twitter.com/HpAUk0PgkT— Faizan Shaikh (@FaizShaikh7681) October 10, 2021 Credit : GamingBolt

สดร้อนๆ หลังจากประกาศเข้าเป็นส่วนหนึ่งกับ PlayStation ล่าสุดก็มีการยืนยันด้วยว่า โปรเจกต์ต่อไปของ Bluepoint Games จะไม่ใช่การ Remake หรือ Remastered แต่เป็นผลงานต้นฉบับของพวกเขาเอง! ยังไม่มีข้อมูลอะไรมากไปกว่านี้ แต่การได้เห็นภาคต่อของ Shadow of The Colossus อาจไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป!ในผลงานที่ผ่านมา Remake และ Remastered มากมายของ Bluepoint Games ได้ทำให้ทีมพัฒนาของพวกเขาได้เห็น ได้ผ่านโครงสร้าง Code รวมถึงการออกแบบโมเดลมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างผลงานล่าสุด Demon's Souls Remake ก็เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมทั้งในแง่ของภาพ ระบบ และความลับที่ใส่มาอย่างลงตัว ดังนั้นเชื่อว่าผลงานต่อไปของพวกเขาต้องสามารถคาดหวังได้อย่างแน่นอน'ทีมของพวกเรามีประสบการณ์ มีความสามารถ หลายๆ คนเป็นผู้มีประสบการณ์มากกว่า 15ปี ที่เคยทำเกม Original กับค่ายใหญ่ๆ มาแล้ว พวกเราไม่ได้พัฒนาฝีมืออย่างหนัก เพื่อจะทำเกม Remakle / Remastered เพียงอย่างเดียว ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่เราจะกลับมาทำผลงานต้นฉบับของพวกเราเอง ด้วยการสนับสนุนจาก Sony เราจะโชว์ให้เห็นเองว่า PlayStation สามารถทำอะไรได้บ้าง'Credit : GamingBolt

ในงานไลฟ์สตรีมของ Motive Studio เมื่อวานนี้ ทางทีมงานได้ไลฟ์ผ่าน Twitch เพื่อเผยภาพความคืบหน้าของเกม Dead Space Remake ออกมาพร้อมกับเผยรายละเอียดต่างๆ ของเกมด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อรับข้อเสนอจากกลุ่มแฟนๆ ทั้งนี้ผู้ใช้ Twitter ชื่อ Nibel ได้จับภาพจากไลฟ์สตรีมไว้เป็นจำนวนหนึ่ง จากภาพเหล่านั้นบอกให้เราได้รู้ว่า Dead Space Remake ได้รักษาสภาพแวดล้อมของเกมภาคต้นฉบับไว้เป็นอย่างดี สามารถดูภาพเปรียบเทียบได้ด้านล่างนี้เลยครับทางผู้พัฒนาได้ยืนยันไว้ด้วยว่าตัวเกมตอนนี้อยู่ในช่วงแรกของการพัฒนา แต่มันชัดเจนแล้วว่ากราฟิกของเกมจะสวยขึ้นกว่าภาคต้นฉบับแบบก้าวกระโดด การปรับปรุงที่ทางทีมงานเผยให้เราเห็นในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบโถงทางเดิน แสงเงา ปรับปรุงวัตถุต่างๆ ในเกม นอกจากนี้ยังปรับให้ตัวเอกอย่าง Isaac Clarke ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นอีกด้วยในตอนนี้ Dead Space Remake ยังไม่ได้กำหนดวันวางขายไว้ แต่ที่เรารู้ก็คือตัวเกมจะวางขายให้กับเครื่อง PlayStation 5, Xbox Series X / S และ PCWhat to expect from this #DeadSpace stream- a first look at very, very early footage of the game- no long gameplay segments- intention is to get early community feedback and to give fans insight into how the team is approaching this project pic.twitter.com/IqrxuB9yKY— Nibel (@Nibellion) August 31, 2021 Dead Space (2008) vs an early build of the #DeadSpace remake pic.twitter.com/O9Upvprcxf— Nibel (@Nibellion) August 31, 2021 Credit : GamingBolt

เมื่อเดือนที่แล้ว ทาง EA กับ Motive Studio ได้เปิดตัว Dead Space Remake ไว้พร้อมกับประกาศให้เหล่าแฟนๆ ได้รู้ด้วยว่าในเกมภาคนี้จะมีความหลอนเพิ่มให้ผู้เล่นได้สั่นกลัวกันมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่มีรายละเอียดนอกเหนือจากนี้ออกมาเท่าไหร่ จนทำให้เหล่าแฟนๆ ต้องตั้งตารอรายละเอียดเพิ่มเติมที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ผมมีข่าวดีมาให้ครับเมื่อไม่นานมานี้ทางผู้พัฒนา Motive Studio ได้ยืนยันผ่าน Twitter ไว้ว่าจะมีงานไลฟ์สตรีมในวันนี้เวลา 00.00 น. ซึ่งในไลฟ์สตรีมเราจะได้เห็นตัวเกมในช่วงแรกของการพัฒนาพร้อมกับได้รู้ว่าการพัฒนาเกมสุดหลอนนี้คืบหน้าไปถึงไหนบ้างแล้ว ดังนั้นเราคงคาดหวังตัวอย่างเกมเพลย์ได้ไม่มากเท่าไหร่ แต่เราอาจจะได้รู้รายละเอียดใหม่ๆ เกี่ยวกับเกมภาค Remake นี้ก็ได้The passionate team at @MotiveStudio are bringing you in for a very early look at the development of #DeadSpace.Tune in to our stream tomorrow at 10am PT / 1pm ET. https://t.co/woBW8jSB8z pic.twitter.com/Jb1D0foen9— Dead Space (@deadspace) August 30, 2021 ตอนนี้เกม Dead Space Remake กำลังอยู่ในช่วงพัฒนาอยู่ ยังไม่มีประกาศวันวางจำหน่ายออกมา แต่เรารู้ว่าจะวางขายเกมนี้ให้กับเครื่อง PS5, Xbox Series X / S และ PC นอกจากนี้ยังมีข่าวลือออกมาด้วยว่าทางผู้พัฒนาตั้งใจจะวางขายเกมนี้ในช่วงต้นปี 2022 แต่ผมคิดว่ารอการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการจะดีที่สุดครับCredit : GamingBolt

หลังเปิดตัว Dead Space Remake ไปเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน EA ได้ทำให้เหล่าแฟนๆ Dead Space กับแฟนเกมหลอนได้ตื่นเต้นและพร้อมรับประสบการณ์หลอนครั้งใหม่ในเกมที่ได้เปิดตัวไปนี้ แต่ EA ให้เราเห็นตัวอย่างเกมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้บอกวันวางขายด้วยเช่นกัน ถึงจะเป็นแค่ข่าวลือแต่นี่อาจจะเป็นข่าวดีสำหรับเพื่อนๆ ที่ตั้งตารอเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดนี้ก็ได้ครับรายงานนี้ถูกนำมาเผยแพร่โดย Jeff Grubb นักปล่อยข่าวลือครับ โดย Grubb ได้อ้างว่าจากแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับผู้พัฒนาได้บอกไว้ว่าทาง EA กำลังตั้งใจจะวางขาย Dead Space Remake ในช่วงกันยายน ‘ปีนี้’ แต่ติดปัญหาโควิด 19 ที่ทำให้กระบวนการพัฒนาเกมยุ่งยากขึ้น เลยเป็นไปได้ว่า EA จะวางขายเกมในช่วงปีงบประมาณถัดไปหรือ Financial year ซึ่งอยู่ในช่วง 1 เมษายน ปี 2022 จนถึง 31 มีนาคม ปี 2023 แทนGrubb ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า EA ตั้งใจจะเผยตัวอย่างของ Dead Space Remake เพิ่มเติมก่อนสิ้นปีนี้ ดังนั้นเราอาจจะได้เห็นตัวอย่างของเกมหรือดีหน่อยก็อาจจะได้เห็นฟุตเทจกับเกมเพลย์ของเกมเลยก็ได้ แต่ข่าวทั้งหมดนี้ก็อย่างที่ผมบอกคือยังเป็นแค่ข่าวลือ เราต้องรอการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการของ EA เพื่อยืนยันข่าวลือนี้ แต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ Dead Space Remake จะวางขายให้กับเครื่อง PS5, Xbox Series X / S และ PC ถึงจะไม่รู้วันวางขายที่แน่นอนแต่เราก็เตรียมหลอนกันได้เลยครับCredit : GamingBolt

หลังจากที่เราได้ตื่นเต้นไปกับการเปิดตัว Dead Space Remake ไปแล้วเมื่อคืน ตอนนี้ผู้พัฒนาก็ออกมาเผยข้อมูลของเกมเลยว่า Dead Space Remake ไม่มีหน้าโหลดเกมแน่นอน จากงานสัมภาษณ์ของ IGN กับทีมผู้พัฒนาของ Motive ซึ่งประกอบไปด้วย Philippe Ducharme ผู้อำนวยการสร้างและ Roman Campos Oriola ผู้กำกับเกม โดยพวกเขาพูดถึงแผนการของเกมในอนาคตทางผู้พัฒนาได้บอกไว้ว่า ”ทั้งเรื่องกราฟิก เสียง เกมเพลย์ พวกเราจะสร้างสิ่งเหล่านี้ใหม่ทั้งหมด แน่นอนว่ารวมถึงการเคลื่อนไหวภายในเกมด้วย นอกจากนี้เรายังต้องการให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับโลกของ Dead Space ตั้งแต่หน้าจอหลักไปจนถึงจบเกมเลย ซึ่งด้วย SSD ของคอนโซลยุคใหม่นี้แหละ จะทำให้ตัวเกมไม่มีฉากโหลด ทำให้ไม่มีจังหวะที่จะมาขัดประสบการณ์ในการเล่น Dead Space จากจุดนี้ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมนี้ได้ตั้งแต่หน้าเมนูยาวไปจนจบเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุดอะไรทั้งนั้น” “เราต้องการถ่ายทอดความรู้สึกในเกม Dead Space ให้ผู้เล่นได้รับรู้จริงๆ เพราะฉะนั้นการเพิ่มเอฟเฟกต์กับเพิ่มแสงก็เลยเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศ นอกจากนี้เรายังใช้ 3D Audio เพื่อให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศเหล่านี้ด้วย แต่เราก็ต้องการใช้เสียงที่เหล่าแฟนๆ คุ้นเคยดีแล้วปรับปรุงจากเสียงเหล่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นเสียงเปิดประตู เสียงแถมเลือด เราจะปรับปรุงมันจากต้นฉบับ เพราะงั้นเราจะตรวจสอบให้แน่ใจเลยว่าเสียงเหล่านี้เหมือนกับภาคต้นฉบับ”จากที่ผู้พัฒนาได้บอกไว้นะครับ ว่าจะใช้ 3D Audio จากจุดนี้ทำให้ Philippe Ducharme ออกมากล่าวว่า “ด้วย 3D Audio จะทำให้ผู้เล่นเข้าใจว่าเสียงมาจากทางไหน ไม่ว่าจะเป็นทางเดิน ช่องระบายอากาศ หรือแม้แต่ข้างหลังผู้เล่น ทั้งหมดนี้แหละคือสิ่งที่เราต้องการเพิ่มเติมเข้ามาในเกม” จากบทสัมภาษณ์นี้ก็ทำให้เราเข้าใจเลยว่าทาง Motive ต้องการให้ผู้เล่นได้กลับมารู้สึกหลอนในเกม Dead Space Remake นี้ถึงจะไม่ได้บอกไว้อย่างเป็นทางการว่าจะวางขายในปีไหน แต่ที่เรารู้ก็คือตัวเกมจะวางขายให้กับเครื่อง PS5, Xbox Series X / S กับ PC แน่นอน ส่วนคอนโซลเครื่องอื่นๆ ยังไม่มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็เตรียมหลอนกันให้ดีล่ะCredit : GamingBolt

Dead Space เป็นเกมที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 ในฐานะเกมยิงมุมมองบุคคลที่สาม แนวสยองขวัญ ที่แฟนเกมทั่วโลกต่างยกย่องว่าเป็นตำนาน และในที่สุด Motive Studios ก็ได้ทำการคืนชีพมันกลับมาอีกครั้ง!โดยในช่วงปิดสตรีมของงาน EA Play Live ที่ผ่านมา ทาง Electronic Arts ก็ได้ปล่อยวีดิโอตัวอย่างใหม่ของ Dead Space ฉบับ Remake ออกมาให้เราชาวเกมตื่นเต้นกันจนนั่งไม่อยู่กันเลยทีเดียว!ซึ่งแม้จะไม่ได้มีตัวอย่างเกมเพลย์ หรือหน้าเปิดตัวอะไรให้เราได้เห็นเลย แต่วิดีโอตัวอย่างนี้ก็แสดงให้เราได้เห็นพลังของ Frostbite Engine ที่ใช้ในการพัฒนา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคมชัดของกราฟิกที่ดีขึ้น และปรับปรุงการเล่นให้ยอดเยี่ยมขึ้น โดยยังคงเอกลักษณ์กับบรรยากาศดั้งเดิมของเกมต้นฉบับเอาไว้ตัวเกมที่เปิดตัวครั้งแรกนั้นได้ลงให้กับเครื่อง Xbox 360, PS3 และ PC ในขณะที่เวอร์ชัน Remake จะลงให้สำหรับเครื่อง Xbox Series X/S, PS5 และ PC ค่ะ อย่างไรก็ดีในตอนนี้ตัวเกมก็ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอะไรมากมายนัก และสำหรับเราชาวแฟนเกมแล้ว ก็ต้องเกาะจอรอติดตามความคืบหน้ากันต่อไปค่ะCredit: GamingBolt

เมื่อวานนี้ทีมงานของ NoClip ได้ทำการปล่อยผลงานสารคดีชิ้นเอกเกี่ยวกับเกม ที่ได้วางขายไปเมื่อช่วงปี 2020 อย่าง Demon’s Souls Remake ลงบนช่อง Youtube ของพวกเขา โดยที่เนื้อหาจะเป็นการบอกเล่าถึงการสร้างเกม ซึ่งจะมีการพูดคุยกับทั้งทาง Sony Japan กับ Bluepoint Games ที่ร่วมพัฒนาเกมนี้มาด้วยกัน รวมไปถึงคนที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งจากสตูดิโอ PlayStationซึ่งตัววีดิโอสารคดีนี้มีความยาวกว่าหนึ่งชั่วโมง และครอบคลุมรายละเอียดทุกอย่างตั้งแต่การยกเครื่องกราฟิกใหม่ทั้งหมด บอสที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเกม และอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถรับชมได้จากคลิปวีดิโอด้านล่างนี้เลยค่ะอย่างไรก็ดีตัวเกม Demon's Souls วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 5 เท่านั้นค่ะCredit: GamingBolt

จนถึงตอนนี้ก็เป็นที่รู้โดยกันไปแล้วว่า Final Fantasy 7 Remake ไม่ได้ถูกสร้างออกมาอย่างที่แฟนๆ เกมคิดเอาไว้ ในขณะที่ตัวเกมได้สร้างการเปิดตัวเมือง Midgar ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ตามต้นฉบับสุดคลาสสิกจากปี 1997 แต่มันก็เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ดำเนินไปในทิศทางซึ่งต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ทำให้ใครหลายคนมุ่งความสนใจไปยัง Part 2 ของภาค Remake นี้ รวมไปถึงแนวทางต่อไปของมันในอนาคตหลังจากการหาข้อมูลเพิ่มเติมคร่าวๆ แล้ว ก็ทำให้เราพอจะบอกได้ว่าเนื้อหาหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรหลังการเปิดตัว รวมถึง DLC Episode INTERmission ที่จะมี Yuffie ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นได้ใน Final Fantasy 7 ภาคดั้งเดิม แต่ทำไมต้องเป็นเธอ แทนที่จะเป็นแวมไพร์อย่าง Vincent กันล่ะ?ซึ่งจากการพูดคุยระหว่าง TheGamer กับผู้กำกับร่วมอย่าง Motomu Toriyama เขาก็ได้กล่าวถึงบทบาทของ Yuffie ใน DLC ว่า เราจะสามารถเล่าและเปิดโอกาสให้แฟนเกม ได้เรียนรู้เรื่องราวเบื้องลึกของตัวละครนี้ได้มากขึ้น ได้รู้จักกับตัวละครใหม่ๆ มากขึ้น จากบทบาทก่อนหน้านี้ของเธอ ที่เป็นเพียงตัวเสริมที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้เท่านั้น และเหตุผลที่เขาเลือกเธอแทนที่จะเป็น Vincent ทาง Toriyama ก็ให้คำตอบง่ายๆ ว่า บทของพ่อแวมไพร์คนนี้อยู่ในส่วนของ Midgar แล้ว เป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้จักรวาลของภาค Remake จะแตกต่างออกไปจากเดิม แต่บางส่วนพวกเขาก็ยังอยากที่จะอนุรักษ์บางส่วนของภาคคลาสสิกเอาไว้“เราไม่ได้รับประกันว่า Yuffie ตัวเอกใน DLC Episode INTERmission นี้จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมตัวเอกในตัวเกมหลัก แต่เพราะแบบนั้นก็ทำให้เธอซึ่งเป็นนักล่า Materia เป็นตัวละครที่ทำให้เรามีอิสระมากขึ้นในการขยายเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของเธอออกไปอีก เมื่อเทียบกับ Vincent ที่หลับใหลอยู่ในโลงศพที่คฤหาสน์ Shinra และไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ ซึ่งในการเดินทางภายใน DLC นี้เราก็จะได้ทำความรู้จักกับ Yuffie มากขึ้น และก็จะเชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวของเธอต่อไป”Final Fantasy 7 Remake Intergrade และ Episode INTERmission พร้อมให้เล่นแล้วบน PlayStation 5 และ Final Fantasy Remake พร้อมให้เล่นบน PlayStation 4 แล้วเช่นกันCredit: GamingBolt

อีกเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น กับการกลับไปรับบทเป็น Yuffie ใน Final Fantasy VII Remake Intergrade ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าตัว DLC : Intermission นี้จะเป็นเกมแยกที่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแยกกันบนเครื่อง PS5 ไม่ว่าผู้เล่นจะซื้อในแบบแผน หรือ Digital ก็ตามในส่วนของ DLC : Intermission นี้เราจะได้รับบทเป็น Yuffie Kisaragi สำรวจ Midgar ในช่วงเวลาเดียวกันกับเนื้อเรื่องในเกมหลัก โดยส่วนเสริมนี้ได้เพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามาอีก 2 Chapter สำหรับเจ้าของเกมบนเครื่อง PS4 จะสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชัน Intergrade ได้ฟรี แต่ตัว DLC : Intermission จะเล่นได้บนเครื่อง PS5 เท่านั้นครับส่วนสำหรับคนที่ซื้อแผ่น  Final Fantasy VII Remake Intergrade มา ภายในกล่องจะมี Code ของ DLC : Intermission แยกมาให้ด้วย สามารถเติม Code ดังกล่าวแล้วกด Download ส่วนเสริมได้เลยCredit : https://www.gameinformer.com/2021/05/12/final-fantasy-vii-remake-intergrade-yuffie-dlc-needs-to-be-downloaded-separately

ตามภาคหลักไปสำหรับ Final Fantasy 7 Remake Intergrade ที่ล่าสุดมีการประกาศออกมาว่าจะ Exclusive บน PS5 เป็นเวลา 6 เดือน โดยที่ยังไม่รู้ว่าหลังจากหมดช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว เกมจะลงให้กับ PS4. Xbox หรือ PC ด้วยหรือไม่แม้จะผ่านมามากกว่า 1 ปี แล้ว แต่ Final Fantasy 7 Remake ก็ยังไม่ได้ลงให้กับ PC แต่ไปลงให้กับ PS5 แทน ซึ่งคิดว่า Intergrade น่าจะเป็นแบบเดียวกันแต่เป็นลงให้ PS4 แทน แม้ว่าจะยังไม่มีประกาศจากผู้พัฒนา แต่ก็หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เล่นเกมนี้บน PC เช่นกัน<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/YsXnDKAv_h8' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-will-be-exclusive-to-ps5-for-at-least-6-months

ประธาน Square Enix คุณ Yosuke Matsuda ถูกถามในการสัมภาษณ์กับ VGC ว่า 'เกมอะไรของบริษัทที่เขาคาดหวังมากที่สุดในปี 2021' แม้ว่าทานประธานไม่ได้เอ่ยชื่อของเกมออกมาตรงๆ แต่เขากลับบอกว่าให้รอดูประกาศเกมที่จะมาหลังจากนี้ในช่วงปลายปีภายในงาน E3'Outrider วางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษา, NieR Replicant ก็จะวางจำหน่ายในเดือนเดียวกัน ส่วน Final Fantasy VII Remake Intergrade จะขายเดือน มิถุนายน บริษัทจะประกาศแผนช่วงครึ่งปีหลังเร็วๆ นี้ เรามีแผนจะประกาศบางอย่างในงาน E3 ด้วย'ถ้าพูดถึงผลงานที่กำลังถูกจับตามองอยู่ของ Square Enix คิดว่าคงไม่พ้น Final Fantasy 16 ที่ติดอันดับในนิตยสาร Famitsu มาหลายอาทิตย์แล้ว ไม่แน่ว่าในงาน E3 เราอาจได้เห็นวันวางจำหน่ายของเกมภาคใหม่นี้เป็นครั้งแรกรึเปล่า คงมีแต่คนในบริษัทที่รู้ตอนนี้ครับCredit: https://www.videogameschronicle.com/news/square-enix-joins-the-growing-digital-e3-2021-roster/

นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับแฟนๆ Final Fantasy 7 Remake ที่ Sqaure Enix ได้มีการเอาตัวเกมไปลงให้กับเครื่อง PS5 และเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมใหม่ของ Yuffie เข้ามา การพอร์ตเกมไปลงให้กับเครื่องรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพมากกว่าย่อมหมายถึง ภาพที่สวย และ FPS ที่ลื่นขึ้นครับSquare Enix ได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่เปรียบเทียบกราฟิก และเกมเพลย์ให้เราได้ชมกันวันนี้ ซึ่งจุดแรกเลยที่สามารถสังเกตได้คือความละเอียดของ Texture ที่มากขึ้น ต่อมาคือ FPS ที่เป็นแบบ 60+ ทำให้จังหวะการเคลื่อนไหวดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก ต่อมาคือระบบแสงที่มีความสมจริงขึ้น สุดท้ายคือเรื่องของความละเอียดที่เป็นแบบ 4KFinal Fantasy 7 Remake Intergrade จะวางขายในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 บน PS5 เท่านั้นในราคา $70 สำหรับคนที่มีเกมเวอร์ชั่น PS4 อยู่แล้ว สามารถอัพเกรดได้ฟรีในวันเดียวกันครับ<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/YVyic4U88TA' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit:  https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-extended-ps5-features-trailer-shows-more-technical-improvements

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังกระหายข้อมูลเกี่ยวกับ DLC ตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake Intergrade วันนี้ผมมีข้อมูลน่าสนใจมาฝากครับ อย่างแรกคือ DLC นี้จะมาพร้อมกับมนต์อสูรและ Materia ใหม่ แต่จุดที่น่าเสียดายคือเราจะควบคุมได้แค่ Yuffie เท่านั้น!แต่ไม่ต้องเสียใจไปเพราะในการต่อสู้ผู้เล่นสามารถกด L2 เพื่อใช้ท่าโจมตีประสานกับ Sonon ได้เหมือนที่เราให้ในตัวอย่าง จากบทสัมภาษณ์กับ Tetsuya Nomura โดย Famitsu ทาง Square Enix ไม่มีแผนจะปล่อย DLC ตัวไหนออกมาเพิ่มเติมแล้วหลังจากนี้ เนื่องจากต้องการโฟกัสไปที่ Part 2 ของเกม แต่หลังจาก Part 2 วางขายแล้ว อาจจะมี DLC ตัวอื่นตามมาTetsuya Nomura ยังยืนยันด้วยอีกว่าในปีหลังจากนี้ และปีต่อๆ ไป จะมีการประกาศเปิดตัว Final Fantasy ภาคใหม่เรื่อยๆ ดังนั้นขอให้ทุกคนเข้าใจว่า Final Fantasy 7 Remake เป็นแค่จุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่เท่านั้นNew interview with Tetsuya Nomura- Episode Yuffie has new summons and Materia- Only Yuffie is playable- You can fight together with Sonon during combat (pressing L2) as seen in the trailer- No further DLC planned; focus in part 2 for nowhttps://t.co/IUz4w7ydKb pic.twitter.com/MHzy0UjYCX— Nibel (@Nibellion) March 17, 2021Credit:   https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-yuffie-episode-features-new-summons-materia

ยังคงโหนกระแสอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับการกลับมาของ Final Fantasy 7 Remake บนเครื่อง PS5 ที่มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมในส่วนของ Yuffie เข้ามาด้วย เชื่อว่าตั้งแต่มีการเปิดตัวน่าจะมีหลายคนสงสัยว่า "แล้วส่วนเสริมใหม่นี้จะมีความยาว หรือใช้เวลาเล่นขนาดไหน?" วันนี้ รายงานใหม่ได้เผยว่าเนื้อเรื่องส่วนเสริมจะมีความยาว 2 บทครับ น่าเสียดายที่ไม่มีการเปิดเผยว่า 2 บทดังกล่าว จำเป็นต้องใช้เวลาเล่นทั้งหมดกี่ชั่วโมง แต่เราได้ทราบแทนว่า Yuffie จะเป็นตัวละครที่สามารถต่อสู้ได้ทั้งแบบประชิด ระยะกลาง และไกล ด้วยชูริเคนยักษ์ของเธอ กับคาถานินจาของเธอ นอกจากนี้ Yuffie ยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่นอกการต่อสู้ที่มากกว่าตัวละครในเกมหลักเช่นการ ปีนกำแพง หรือขว้างชูริเคนเพื่อสับสวิตซ์ Final Fantasy 7 Remake Intergrade จะลงให้กับ PS5 เท่านั้น โดยจะมาในช่วงกลางปีนี้ Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-episode-yuffie-will-consist-of-two-chapters

กลางปีนี้เหล่าเกมเมอร์จะได้กลับไปเล่น Final Fantasy 7 Remake กันอีกครั้ง พร้อมกับสนุกไปกับส่วนเสริม Intergrade ที่เพิ่มเนื้อเรื่องของ Yuffie เข้ามา โดยเวอร์ชันนี้จะลงให้กับเครื่อง PS5 เท่านั้น ซึ่งมาพร้อมกับการอัพเกรดภาพ / กราฟิก ให้มีความสวยงามมากขึ้น โดยในวันนี้ทาง Square Enix ได้มีการปล่อยภาพชุดใหม่ ที่โชว์ให้เห็นความสวยงามของกราฟิก ซึ่งเอาจริงๆ ตัวเกม Original ก็เรียกได้ว่ามีภาพที่สวยมากๆ แล้ว แต่ในเวอร์ชันนี้คือเรียกได้ว่ามีความสวยงามของแสง, เงา และรายละเอียดของฉากที่สวยยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูรูปชุดดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Final Fantasy 7 Remake Intergrade จะวางขายในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 นี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-gets-new-screenshots-including-yuffie-episode

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มีข่าวประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปจากผู้พัฒนาเกมฟอร์มยักษ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Prince of Persia: The Sands of time Remake, Hogwarts Legacy, Gran Turismo 7, Rider Republic และ Dying Light 2 ที่น่าจะเลื่อนไปแบบยาวๆ และล่าสุดก็มีความเป็นไปได้ที่ Horizon Forbidden West ก็จะเลื่อนวันวางขายเช่นกันครับ Anton Logvinov ที่เคยปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับ Horizon Zero Dawn จะลงให้กับ PC ก่อนหน้านี้ ได้โพสต์ข้อความใหม่บน Twitter พูดคุย Vadim Elistratov ซึ่งในตอนแรก Vadim ได้ โพสต์รายชื่อเกมที่มีประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปแล้ว จากนั้น Anton ก็มาคอมเมนต์โพสต์ดังกล่าวว่า "ฉันขอเพิ่ม Horizon เข้าไปในนั้นด้วย" แม้จะยังไม่มีการยืนยันจาก Sony หรือ Guerrilla Games แต่ในสถานการณ์ COIVD-19 เช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เกมจะเลื่อนวันวางขายออกไปจริงๆ ซึ่งคิดว่าไม่เกินกลางปีนี้เราน่าจะได้ทราบวันวางจำหน่ายของเกมจริงๆ พร้อมกันแล้วครับ я тебе еще хорайзон туда же запишу — Anton Logvinov (@alogvinov) February 25, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/horizon-forbidden-west-delayed-to-2022-rumor 

เดือน กุมภาพันธ์ ได้จบลงแล้ว และมันหมายความว่าสมาชิก PS Plus จะสามารถรับเกมฟรีมาเล่นกันได้อีกครั้ง ซึ่งสำหรับรายชื่อเกมฟรีเดือนนี้ เชื่อว่าถูกใจคนที่ชอบเล่นเกม RPG อย่างแน่นอน เพราะเป็น Final Fantasy 7 Remake, Maquette, Remnant from the Ashes, Farpoint VR ที่เปิดให้รับได้ฟรีในเดือนนี้ครับ ถือได้ว่าเป็นข่าวดีมากเลยจริงๆ เนื่องจากเรากำลังจะได้เล่นส่วนเสริมตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake ที่เป็นเรื่องราวของ Yuffie ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ มันจึงเป็นการดีสำหรับคนที่ยังไม่ได้เล่นภาคนี้ ที่จะได้เข้าไปสัมผัสก่อน เพื่อรอเล่นการมาของส่วนเสริมใหม่ครับ สำหรับเกมอื่นๆ เองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Remnant from the Ashes ที่เรียกได้ว่าเป็นเกมอีกหนึ่งเกม Action เหมาะสำหรับคนที่ชอบสู้กับปีศาจด้วยอาวุธปืน ส่วน Maquette เป็นเกมแนวแก้ Puzzle ที่โยนเราลงไปในโลกที่ทุกอย่างดูเล็กไปหมด Coming to PS Plus in March - Final Fantasy VII Remake - Maquette - Remnant from the Ashes - Farpoint VR via https://t.co/lR29C9MRim pic.twitter.com/LEb3aHcyXI — Nibel (@Nibellion) February 26, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-maquette-free-with-playstation-plus-in-march

หลังจากประกาศเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกก็ได้รู้ถึงการมีอยู่ของเกม Final Fantasy 16 และภาคนี้จะใช้ระบบต่อสู้แบบ Action จัดเต็มเช่นเดียวกับ Final Fantasy 7 Remake ที่วางจำหน่ายเมื่อช่วงต้นปี 2020 ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ถนัดเกมเพลย์แบบนี้ ผู้พัฒนาเขาก็มีการใส่ระบบที่จะช่วยให้ต่อสู้ได้ง่ายขึ้นเข้ามาด้วยครับ! โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Naoki Yoshida ได้ยืนยันผ่าน Broadcast ว่า Final Fantasy 16 จะใช้ระบบต่อสู้แบบ Action จัดเต็ม ซึ่งตอนนี้ทางทีมพัฒนากำลังพัฒนาระบบที่จะช่วยให้คนที่เล่นเกมแนวนี้ไม่เก่งสามารถสนุกไปกับ ตัวเกมภาคใหม่นี้ได้ด้วยเช่นกันอยู่ ยังไม่มีการเปิดเผยว่าระบบดังกล่าวทำงานยังไง แต่อะไรแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วใน Final Fantasy 7 Remake ที่มีระบบซึ่งตัวละครของเราจะออกท่าโจมตีเอง และสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็คือการดูเกจ ATB ของตัวเอง หรือหาจังหวะร่ายเวทมนตร์ ไม่ก็โยนไอเทมเท่านั้น โดยคิดว่าในภาคใหม่นี้เองก็น่าจะเป็นระบบที่คล้ายๆๆ กันครับ Yoshida briefly discussed FF16 on a radio broadcast he was invited to primarily to discuss FF14. He said that FF16 is "action-oriented" and that theyre putting effort into supporting players who are less-skilled at action games -- also that theyre working hard on the story. https://t.co/G3C2jmm3Rr — active time boop (@TonyGarsow) February 22, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-16-is-action...

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมต่อสู้ชั้นนำอย่าง Tekken 7 ได้เพิ่มตัวละครนักสู้รับเชิญแปลกๆ เข้าไปในเกมมากมาย ตั้งแต่วายร้ายจอมหวดจากซีรี่ส์ The Walking Dead อย่าง Negan ไปจนถึงองค์ชายบอยแบนด์ Noctis จากเกม Final Fantasy XV โดยล่าสุด ด้วยอานิสงส์จากนักม๊อดที่ใช้ชื่อว่า Wolfe ดูเหมือนว่าเกมจะได้รับเชิญตัวละครจากซีรี่ส์ Final Fantasy เข้าสู่สังเวียนราชากำปั้นเหล็กอีกคนหนึ่งแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาวชวัญใจมหาชนจาก Final Fantasy VII คุณ Tifa Lockhart นั่นเอง! สำหรับม๊อด Tifa Lockhart นี้จะเป็นการนำสกินของ Tifa มาสวมทับลงไปบนตัวละคร Josie ที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว โดยนอกจากจะมาพร้อมกับชุดต่างๆ ให้เลือกถึง 5 แบบดังที่เห็นได้ในคลิปด้านบน ยังมีเสียงพากย์ตัวละครที่ดึงมาจากเกม Final Fantasy VII Remake แถมเขายังทำม๊อดแยกเป็นด่านต่อสู้ในเมือง Midgar ที่มีเตาปฏิกรณ์ Mako ในฉากหลังให้โหลดมาใช้คู่กันอีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Wolfe เปิดเผยว่าเขาใช้เวลาในการพัฒนาม๊อดตัวนี้ถึง 500 ชั่วโมงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และยอมรับว่าม๊อดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี 100% เพราะเขายังอยากเพิ่มเสียงพากย์และเพิ่มชุดให้กับตัวละครอีกอย่างน้อย 1 ชุด (ชุดกี่เพ้าเขย่าใจต้องมาแล้ว) แถมยังต้องแก้บั๊คเล็กน้อยอีกประมาณหนึ่ง แต่สำหรับชาว Tekken 7 ที่อยากได้น้อง Tifa มาร่วมสังเวียนก่อน สามารถหาโหลดม๊อดดังกล่าวได้จากลิงค์นี้ (โหลดม๊อดด่าน Midgar จากลิงค์นี้) Credit: Kotaku

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมต่อสู้ชั้นนำอย่าง Tekken 7 ได้เพิ่มตัวละครนักสู้รับเชิญแปลกๆ เข้าไปในเกมมากมาย ตั้งแต่วายร้ายจอมหวดจากซีรี่ส์ The Walking Dead อย่าง Negan ไปจนถึงองค์ชายบอยแบนด์ Noctis จากเกม Final Fantasy XV โดยล่าสุด ด้วยอานิสงส์จากนักม๊อดที่ใช้ชื่อว่า Wolfe ดูเหมือนว่าเกมจะได้รับเชิญตัวละครจากซีรี่ส์ Final Fantasy เข้าสู่สังเวียนราชากำปั้นเหล็กอีกคนหนึ่งแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาวชวัญใจมหาชนจาก Final Fantasy VII คุณ Tifa Lockhart นั่นเอง! สำหรับม๊อด Tifa Lockhart นี้จะเป็นการนำสกินของ Tifa มาสวมทับลงไปบนตัวละคร Josie ที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว โดยนอกจากจะมาพร้อมกับชุดต่างๆ ให้เลือกถึง 5 แบบดังที่เห็นได้ในคลิปด้านบน ยังมีเสียงพากย์ตัวละครที่ดึงมาจากเกม Final Fantasy VII Remake แถมเขายังทำม๊อดแยกเป็นด่านต่อสู้ในเมือง Midgar ที่มีเตาปฏิกรณ์ Mako ในฉากหลังให้โหลดมาใช้คู่กันอีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Wolfe เปิดเผยว่าเขาใช้เวลาในการพัฒนาม๊อดตัวนี้ถึง 500 ชั่วโมงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และยอมรับว่าม๊อดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี 100% เพราะเขายังอยากเพิ่มเสียงพากย์และเพิ่มชุดให้กับตัวละครอีกอย่างน้อย 1 ชุด (ชุดกี่เพ้าเขย่าใจต้องมาแล้ว) แถมยังต้องแก้บั๊คเล็กน้อยอีกประมาณหนึ่ง แต่สำหรับชาว Tekken 7 ที่อยากได้น้อง Tifa มาร่วมสังเวียนก่อน สามารถหาโหลดม๊อดดังกล่าวได้จากลิงค์นี้ (โหลดม๊อดด่าน Midgar จากลิงค์นี้) Credit: Kotaku

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy VII Remake นั้น สิ่งที่หลายคนน่าจะสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคต่อหรือ Part 2 ของเกมที่มีข่าวแว่วๆ ว่าอาจจะได้เปิดตัวให้เห็นกันเร็วๆ นี้ แต่จากข่าวลือล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนา Square Enix จะยังไม่วางมือจากเกมภาคแรกซะทีเดียว และอาจจะมีการเพิ่มส่วนเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปในเกมสำหรับเวอร์ชั่น PS5 และ PC ด้วย! สำหรับข่าวชือดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera ที่ใช้ชื่อว่า Navtra โดยเขากล่าวว่าเกม FF7R เวอร์ชั่น PC และ PS5 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมและเพิ่มความคมชัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกมจะมีเนื้อเรื่องเสริมมามากกว่าที่เห็นในเวอร์ชั่น PS4 อีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Navtra ก็ยอมรับว่าข้อมูลที่เขาได้ทราบมาอาจจะเป็นข้อมูลเก่าไปแล้ว เพราะเดิมเกมเวอร์ชั่น PC/PS5 (ยังไม่มีข่าวเวอร์ชั่น Xbox) เคยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Future of Gaming ของ Sony เมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับเกม Project Athia และ Final Fantasy XVI แต่แผนการดังกล่าวกลับถูกยกเลิกไป และแม้ว่าเกมทั้งสองจะได้รับการเปิดตัวไปในงานอื่นๆ ในภายหลัง แต่ FF7R เวอร์ชั่นปรับปรุงนี้กลับเงียบหายไปเฉยๆ เขาจึงยังไม่รู้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจะยังถูกต้องแค่ไหน แต่เขาก็เชื่อว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ว่านี้ยังไม่ได้ถูกยกเลิกไปอย่างแน่นอน ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกม FF7R จะหมดสัญญา Exclusive กับ Sony ในเดือนเมษายน 2021 นี้ เป็นไปได้ว่า Square Enix อาจจะรอให้สัญญาดังกล่าวหมดไปซะก่อนจึงจะประกาศเกมเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า! Credit: GamingBolt

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy VII Remake นั้น สิ่งที่หลายคนน่าจะสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคต่อหรือ Part 2 ของเกมที่มีข่าวแว่วๆ ว่าอาจจะได้เปิดตัวให้เห็นกันเร็วๆ นี้ แต่จากข่าวลือล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนา Square Enix จะยังไม่วางมือจากเกมภาคแรกซะทีเดียว และอาจจะมีการเพิ่มส่วนเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปในเกมสำหรับเวอร์ชั่น PS5 และ PC ด้วย! สำหรับข่าวชือดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera ที่ใช้ชื่อว่า Navtra โดยเขากล่าวว่าเกม FF7R เวอร์ชั่น PC และ PS5 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมและเพิ่มความคมชัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกมจะมีเนื้อเรื่องเสริมมามากกว่าที่เห็นในเวอร์ชั่น PS4 อีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Navtra ก็ยอมรับว่าข้อมูลที่เขาได้ทราบมาอาจจะเป็นข้อมูลเก่าไปแล้ว เพราะเดิมเกมเวอร์ชั่น PC/PS5 (ยังไม่มีข่าวเวอร์ชั่น Xbox) เคยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Future of Gaming ของ Sony เมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับเกม Project Athia และ Final Fantasy XVI แต่แผนการดังกล่าวกลับถูกยกเลิกไป และแม้ว่าเกมทั้งสองจะได้รับการเปิดตัวไปในงานอื่นๆ ในภายหลัง แต่ FF7R เวอร์ชั่นปรับปรุงนี้กลับเงียบหายไปเฉยๆ เขาจึงยังไม่รู้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจะยังถูกต้องแค่ไหน แต่เขาก็เชื่อว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ว่านี้ยังไม่ได้ถูกยกเลิกไปอย่างแน่นอน ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกม FF7R จะหมดสัญญา Exclusive กับ Sony ในเดือนเมษายน 2021 นี้ เป็นไปได้ว่า Square Enix อาจจะรอให้สัญญาดังกล่าวหมดไปซะก่อนจึงจะประกาศเกมเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า! Credit: GamingBolt

หากนึกย้อนกลับไปช่วงต้นๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมา Square Enix ได้สร้างกระแสเล็กๆ ในวงการเกมด้วยการจดสิทธิบัตรใหม่หลายฉบับในญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย "Ever Crisis" และ "The First Soldier" ที่ดูจะบ่งชี้ถึง "อะไรซักอย่าง" เกี่ยวกับเกม Final Fantasy 7 โดยสิทธิบัตรดังกล่าวยังได้ถูกนำไปจดทะเบียนในแคนาดา, ยุโรป, และออสเตรเลียด้วยในเวลาไล่เลี่ยกัน ล่าสุด สิทธิบัตรดังกล่าวได้ถูกจดทะเบียนในสหรัฐอเมรีกาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุชัดเจนว่าเป็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประเภท "เกม" อีกด้วย ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดจากทาง Square Enix ว่าสิทธิบัตรดังกล่าวจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แต่สื่อมวลชนหลายสำนักก็ได้คาดเดากันไปว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ Final Fantasy 7 อย่างแน่นอน ทั้งจากคำว่า "Crisis" ที่มักถูกใช้ตั้งชื่อเกมในจักรวาลของ FF7 มาแล้วมากกว่าหนึ่งเกม เช่นเกม Crisis Core บนเครื่อง PSP และเกม Before Crisis: Final Fantasy VII ที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มมือถือในญี่ปุ่น และติดตามตัวละครจากกลุ่ม Turks อย่าง Tseng, Reno, และ Rude อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อสิทธิบัตร "The First Soldier" ทำให้เชื่อได้ว่าตัวละคร Sephiroth อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างด้วย ในฐานะ "ทหาร SOLDIER คนแรก" ของบริษัทชินระตามเนื้อเรื่องของเกมนั่นเอง สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างเกม Final Fantasy 7 Remake จะหมดช่วงเวลา Exclusive สำหรับแพลตฟอร์ม PlayStation ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ถ้าจะมีการเปิดตัวหรือประกาศอะไรก็เดาได้ว่าอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกัน รอดูกันได้เลย! Credit: Siliconera

ในที่สุดชาวไทยเราก็มีโอกาสได้สัมผัสเกม Demons Souls ภาคใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากปล่อยให้ต่างชาติเขาเล่นไปก่อนอยู่นาน ตัวผมเองเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเกมตระกูลนี้ของ From Software มาก เนื่องจากทุกครั้งที่เล่นจะมีความรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปเสมอ (เนื่องจากหนึ่งภาคใช้เวลาเล่นนานมากๆ) ซึ่งครั้งนี้เองก็นับเป็นโชคดีของผมที่มีโอกาสได้เล่นเกมนี้ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วันนี้เลยจะมารีวิวเกมนี้ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ก่อนจะเริ่ม ขอออกตัวก่อนเลยว่าตัวผมเอง "ไม่เคย" เล่นตัวเกมเวอร์ชัน PS3 ที่เป็นตัว Original มาก่อนเลย ดังนั้นประสบการณ์ที่เพื่อนๆ จะได้อ่านต่อไปนี้จึงเป็น First Impression โดยแท้จริงครับ ซึ่งต้องยอมรับว่าตัวผมเองทั้งได้สนุก, หัวร้อน, และตื่นเต้น มากมายหลายครั้งเลยในการเล่นเกมนี้ ถ้าทุกคนพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ! เนื้อเรื่อง เรื่องราวของ Demons Soul จะเริ่มด้วยการโยนตัวละครของเราลงไปในโลกโดยไม่บอกอะไรเลยเหมือนกับเกม Dark Souls ภาคอื่นๆ โดยเนื้อเรื่องของเกมจะเริ่มในท่อระบายน้ำของอาณาจักรแห่งหนึ่ง (ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็น Boletaria) ซึ่งหลังจากเดินทางไปได้สักพัก เราจะได้พบกับปีศาจขนาดใหญ่ได้เข้าต่อสู้กับมัน และตายลง (ที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสามารถสู้ให้ชนะในฉากนั้นเลยได้หรือไม่) แต่แทนที่จะ Game Over ตัวเกมจะตัดภาพมาที่ The Nexus ดินแดนระหว่างโลกคนเป็นกับคนตาย ที่แห่งนี้เราจะได้พบกับหญิงสาวปริศนา เธอจะบอกว่าดวงวิญญาณของเราเป็นของ The Nexus เราไม่มีทางหนีไปจากที่แห่งนี้ได้ แต่ยังสามารถไปยังโลกภายนอกได้ผ่าน Archstone หลังจากเดินทางไปยัง Boletaria และปราบปิศาจตัวแรกลงได้ เมื่อกลับมาที่ The Nexus อีกครั้งหญิงสาวปริศนา จะบอกให้เราไปคุยกับ Monumental (ไม่รู้จะแปลว่าอะไรดีเหมือนกันครับ) ที่อยู่ด้านบนของ The Nexus เพื่อฟังเรื่องราวของโลกใบนี้ และเหตุผลในการมีอยู่ของสถานที่แห่งนี้ รูปปั่นจะเล่าว่า เมื่อก่อนโลกใบนี้เคยสงบสุข ทุกดวงวิญญาณอาศัยอยู่รวมกันอย่างเท่าเทียมภายใต้ Soul Arts แต่แล้ววันความหิวกระหายในพลังได้ปลุก The Old One ขึ้นมา (คิดว่าน่าจะหมายถึงราชาของเหล่าปีศาจทั้งมวล) หมอกควันแห่งความตายได้ปกคลุมไปทั่วโลกทุกๆ เผ่าพันธุ์ บนโลกต้องเผชิญหน้ากับการรุกรานของปิศาจจนเกือบสูญพันธุ์ แต่โชคดีที่เหล่าผู้เหลือรอดได้ทำให้ The Old One กลับไปหลับใหลได้สำเร็จ แต่ก็แลกมาด้วยความตายของชีวิตมากมายมหาศาล เพื่อป้องกันการตื่นขึ้นมาอีกครั้งของ The Old One เหล่า Monumental ได้มอบหินวิเศษ 6 ก้อนให้กับผู้นำทั้ง 6 ของเผ่าพันธุ์ที่ยังมีชีวิตเหลือรอด ด้วยพลังของ หินวิเศษทั้ง 6 ทำให้สามารถจองจำ The Old One ไว้ใต้ The Nexus สำเร็จ นั่นคือเรื่องราวเมื่อนานมาแล้ว แต่ตอนนี้สิ่งมีชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวกำลังจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยความโลภในพลังของราชาผู้โง่เขลา ในตอนสุดท้ายของเรื่องราว Monumental จะขอให้เราสังหารราชาคนนั้น และทำให้ The Old One กลับไปหลับใหลอีกครั้ง เรื่องราวของ Demons Soul ไม่ได้ถูกเล่าเป็นเส้นตรง แต่ให้ผู้เล่นไปหาข้อมูลเอาเองจากการพูดคุยกับ NPC รวมไปจนคำอธิบายในไอเทมต่างๆ แต่โดยรวมถือว่าสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า Dark Souls เป็นอย่างมาก เนื่องจากเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ก็ถูกเล่ามาโดย Monumental แล้วหลังจากนี้คือการผจญภัยของเราเอง โดยวิธีการดำเนินเรื่องก็แล้วแต่ผู้เล่นเองเลย จะไปเดินทางไปยัง Archstone ไหน หรือสำรวจดินแดนไหนก่อนก็ได้เพราะปลายทางของเนื้อเรื่องก็จะมาจบที่ The Nexus อยู่ดี เรียกได้ว่าเก็บรายละเอียด และเสน่ห์ของเนื้อเรื่องตามสไตล์ Souls จาก From Software ไว้ได้อย่างครบถ้วน (ต้องยกนิ้วให้กับ Bluepoint Games กับการ Remake ครั้งนี้ครับ) กราฟิก / การนำเสนอ ก่อนอื่นเอาแค่เรื่อง ภาพ, กราฟิก กับ Visual Effects ก่อน สามจุดนี้ขอยอมรับว่าทำออกมาได้ดี, สวยงาม, และเก็บรายละเอียดของวัตถุได้เนี๊ยบมากๆ ส่วนหนึ่งคิดว่าเป็นเพราะความสามารถของตัวเครื่อง PS5 ที่มาพร้อมกับการ์ดจอ และซีพียูที่แรงมากๆ ด้วย ทำให้ตลอดเวลาที่ได้เล่นเกมนี้รู้สึกตื่นตาตื่นใจได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นฉากของปราสาทที่กำลังลุกเป็นไฟ, หมอกและควันจากศพที่ไหม้, แสงที่สองผ่านช่องวางของหน้าต่างมา, รูปร่างหน้าตาของปีศาจที่ได้พบ, ซากประหลักหักพังท่ามกลางพายุ, วิหาร The Nexus ทุกอย่างถูกออกแบบใหม่ให้สวยงามยิ่งขึ้น พอเอาไปรวมกับความละเอียดแบบ 4K / 60 FPS ก็ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจตลอดเวลาที่เล่นครับ ต่อมาในด้านการนำเสนอ จุดแรกที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจ พร้อมทั้งรู้สึกดีมากๆ ตลอดเวลาที่เล่นคือระบบสั่น กับแรงต้านของจอย Dualsense และระบบเสียงที่ใช้งานเทคโนโลยี Tempest ของเกม ที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกเสมือนจริง ได้มากขึ้นเป็นอย่างมากตลอดเวลาในการเล่น สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดคือการที่รูปแบบของแรงสั่นจากจอยเวลากระทบกับวัตถุประเภทต่างๆ รวมถึงน้ำหนัก และทิศทางเสียงที่เกิดขึ้นในเกม มันแตกต่างกันออกไปทั้งหมดครับ เห็นในชัดที่สุดคือตอนเวลาเอาอาวุธประเภททุบๆ อย่าง ค้อน, กระบอง หรือคทา โจมตีใส่ศัตรู ความรู้สึกที่สัมผัสได้ผ่านจอยคือเหมือนเราได้ตีใส่ศัตรูภายในเกมจริงๆ ด้วยตัวเองเลยครับ (ความรู้สึกเวลาเอา Mace ทุบหินจะแน่นๆ และทำให้รู้สึกว่ามือชาหน่อยๆ ) (เวลาทุบกระดูกจะแรงต้านไม่เยอะเท่า แต่จะรู้สึกเหมือนทำอะไรแตกหัก) พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีเสียง Tempest ต่ออีกนิด นอกจากเสียงที่เกิดจากกระทบของวัตถุแล้ว หากใส่หูฟังเล่น จะได้พบกับเสียงของฝน, เสียงไฟ, เสียงกรีดร้อง รวมถึงเสียงการก้าวเดินของตัวละครบนพื้นผิวต่างๆ ที่สมจริงมาก มันสมจริงถึงขนาดที่ว่าถ้าใส่แว่น VR เล่น และเปลี่ยนมุมมองเป็น FPS คงแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนคือความจริงๆ อันไหนคือในเกม ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเพียงแค่ระบบของเสียงเปลี่ยนไปเป็น 3D จะสร้างความแตกต่างทางด้านประสบการณ์ที่ได้รับมากขนาดนี้ เอาจริงๆ ผมอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ถูกเหมือนกัน เอาเป็นว่าด้วยระบบเสียงใหม่นี้ทำให้สามารถทำให้เรารู้สึกว่าได้เข้าไปเดินในโลกใบนั้นจริงๆ แหล่งกำเนิดเสียงอยู่ที่ไหนเป็นอะไร ก็จะได้ยินเสียงของวัตถุชิ้นนั้นจากทิศทางนั้นจริงๆ คงพูดได้แค่ว่ามันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ จริงครับ (เสียงตอนเคียวปาดบนเนื้อหินฉากนี้คือสุดยอดมากๆ ) ต่อมาคือในเรื่องของอนิเมชั่นการขยับของตัวละคร ที่เวอร์ชันนี้ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล ถูกต้อง แต่จุดที่ผมประทับใจมากที่สุดคือมีการเพิ่มท่าโจมตีแบบ Fatal Attack เข้ามาใหม่ถึงอาวุธละ 3 ท่าด้วยกัน กล่าวคือการจับอาวุธด้วยมือเดียว หรือสองมือ โจมตีแบบ Fatal Attack จากข้างหน้า และข้างหลัง เราจะได้เห็นท่าโจมตีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมันทำให้รู้สึกหลากหลายมากขึ้นในตอนเล่น และนับเป็นหนึ่งในข้อดีที่ผมอยากชมผู้พัฒนา ต่อมาคือเรื่องของบรรยากาศ ในจุดนี้ตัวผมเองคิดว่าด้วยเซตติ่งของโลก รวมถึงสไตล์ของสถานที่ซึ่งให้เราไปสำรวจแล้ว เกมนี้มีธีมโดยรวมของฉากที่สว่างมากเกินไปครับ ถ้าหากว่าทำออกมาให้มืดมากกว่านี้คิดว่าคงทำให้อินได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามเหมือนว่าตัวผู้พัฒนาเองก็เข้าใจถึงจุดนี้ดี จึงได้ใส่ Filter ต่างๆ มาให้เราได้ใช้งานด้วย ซึ่งมันเลยทำให้สามารถปรับรูปแบบของสีในฉากต่างๆ ของเกมได้ตามใจผู้เล่นเอง จนปัญหาข้างต้นหมดไป ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ Bluepoint Games ให้ความสำคัญ และตัดสินใจทำได้ดีมากๆ ครับ เกมเพลย์ เบื้องต้นในเรื่องของระบบต่อสู้ Demons Soul ภาคนี้เหมือนเอาระบบต่อสู้ของ Dark Souls 3 มาพัฒนาต่อให้ดีขึ้น การบังคับ, จังหวะการโจมตี, กลิ้ง, ป้องกัน, ระยะของฮิตบล็อก ทุกอย่างถูกทำให้มีความถูกต้องมากขึ้น พอเอาไปรวมกับตัวเกมที่สามารถเล่นได้แบบ 60 FPS แล้ว จึงทำให้ประสบการณ์ต่อสู้ในภาคนี้ดูดียิ่งกว่า Dark Souls 3 เป็นอย่างมากจุดนี้ขอชมเชยจากใจครับ ทีนี้มาพูดถึงเรื่องความยากกันบ้าง ก่อนอื่นศัตรูข้างทางที่เราได้พบมีความยากน้อยกว่า ตระกูล Dark Souls พอสมควรครับ  เนื่องจากรูปแบบการโจมตีของศัตรูแต่ละตัวจะมีประมาณ 2 - 4 แบบเท่านั้น และประมาณ 70% มีรูปร่างเป็นแบบ Humanoid (รูปร่างแบบมนุษย์) จึงทำคาดเดาการโจมตี รวมถึงระยะสามารถทำได้ง่ายกว่า ถ้าจะมีจุดที่ยากเลย คิดว่าคงเป็นเรื่องของดาเมจที่ศัตรูทำได้ในแต่ละครั้งมักจะแรงมากๆ และจุดเซฟแต่ละจุดอยู่ห่างกันแบบสุดๆ ครับ ต่อที่ความยากเวลาสู้กับบอส โดยปกติแล้วความยากของเกมตระกูล Souls มักจะอยู่ที่ความเก่งของบอสแต่ละตัว ซึ่งใน Demons Soul ภาคใหม่นี้ก็ไม่ใช่แบบนั้น อย่างที่ผมบอกไปว่ารูปแบบการโจมตีของศัตรูในภาคนี้จะมีอยู่แค่ 2 - 4 แบบเท่านั้น ซึ่งมันรวมถึงบอสด้วยครับ ถ้าหากเพื่อนๆ ใจเย็นและค่อยๆ ใช้เวลาเรียนรู้การโจมตีของบอสก่อน ทุกตัวน่าจะสามารถผ่านได้ตั้งแต่การสู้ครั้งแรกเลย (ผมเองก็สู้ครั้งเดียวผ่านอยู่หลายตัวมากๆ เช่นกัน) ส่วนหนึ่งคิดว่าคงเป็นเพราะเกมในยุค PS3 ที่เป็นต้นตำรับสามารถใส่ความหลากหลายเข้ามาได้แค่นี้ด้วย แต่เอาตรงๆ สำหรับตัวเกมที่ถูกเรียกว่า Remake แล้ว ผมเองปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองคาดหวังความท้าทายที่มากกว่านี้ครับ ต่อมาจะขอพูดถึงระบบภายในเกมที่น่าสนใจในภาคนี้กันบ้าง หนึ่งในระบบที่ผมชอบมากๆ คือระบบที่มีชื่อว่า Fractured World ที่จะสลับซ้าย และขวาของทุกอย่างในเกม (ย้ำว่าทุกอย่าง กระทั่งตัวละครเราเองก็จะเปลี่ยนไปถืออาวุธในมือซ้าย ถือโล่มือขวาเช่นกัน) การสลับซ้ายกับขวานี้จะทำให้การเดินทางในสถานที่เดิน และการกลิ้งหลบเปลี่ยนไปทั้งหมด ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีความลับบางอย่างที่เราสามารถหาได้ในโลกแบบสลับด้านนี้เท่านั้นด้วย ถือได้ว่าเป็นไอเดียที่ดีมากๆ ครับ ระบบที่สองที่ถูกเพิ่มเข้ามาใหม่คือระบบที่ให้เราสามารถขอขมากรรมที่ทำไปได้ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ในเกมตระกูล Souls เราสามารถโจมตี NPC ทั้งหมดที่มีในเกมได้ ซึ่งบางตัวจะไม่ยอมยกโทษให้กับรวมถึงไม่ยอมคุยด้วย (ทีนี้จะฝากของ หรือตีบวกอาวุธก็ทำไม่ได้อีก) ระบบขอขมากรรมมีไว้เพื่อการนี้ โดยหลังจ่าย Souls เท่ากับกรรมที่ทำไปแล้ว เราก็จะได้รับการยกโทษให้จากเหล่า NPC มันช่วยได้เยอะมากๆ เนื่องจากบางครั้งมันก็มีการกดผิดจากปุ่มตกลงเป็นปุ่มโจมตีกันอยู่บ้างครับ (ก็มันชินอะ) ฟังข้อดีกันไปเยอะแล้ว มาดูข้อเสียของเกมนี้บ้าง หลักเลยๆ ผมมีเรื่องเดียวที่จะติครับ นั้นคือการที่จำนวนชั่วโมงที่จำเป็นต้องใช้ในการเคลียร์มันน้อยมาก ถ้าชินกับจังหวะของเกมแล้วคิดว่า 10 - 15 ชั่วโมงก็สามารถเคลียร์ได้แล้ว จริงอยู่ว่าเกมนี้มีความลับ รวมถึงเนื้อเรื่องเสริมให้เราเล่นด้วย แต่คิดว่าคงกินเวลาเพิ่มไม่ถึงอีก 10 ชั่วโมงครับ ซึ่งถือว่าใช้เวลาน้อยมากๆ ครับ สรุป โดยรวมแล้ว Demons Souls Remake ถือเป็นภาคหนึ่งของตระกูล Souls ที่สนุก, กราฟิกสวย, เนื้อเรื่องเข้าใจง่าย, มีระบบใหม่ที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การหามาเล่นสักครั้งสำหรับคนที่ชื่นชอบเกมแนวนี้ แต่ตัวเกมจะใช้เวลาเล่นไม่นาน และอาจไม่ยากถูกใจสาย Hardcore เท่าไหร่นัก (แต่ถือว่ายากกว่าเกมในยุคปัจจุบันพอสมควรเลย) แน่นอนว่าเกมนี้ไม่ได้มอบสิ่งใหม่ๆ ที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ ดังนั้นคิดว่าโดยรวมแล้วเกมนี้ควรจะมีคะแนนอยู่ที่ 8 เต็ม 10 แม้จะสนุกมากแต่ก็ไม่ถึงกับยอดเยี่ยมจริงๆ หลังจากที่ได้เล่นไปถึงจุดหนึ่งแล้ว ตัวผมเองได้พบกับจุดเชื่อมโยงเนื้อเรื่องของ Demons Soul, Dark Souls และ Bloodborne เข้าด้วยกันไม่แน่ว่าโลกทั้ง 3 ใบของ From Software อาจใกล้เคียงกันมากกว่าที่เราคิดก็ได้ ถ้าหากรวบรวมข้อมูลได้แล้ว จะเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันอย่างแน่นอนครับ [penci_review id="78504"]

Square Enix มีแผนจะที่จัด Final Fantasy 7 Remake Orchestra World Tour ในประเทศญี่ปุ่นวันเสาร์นี้ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณ Motomu Toriyama ที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมพัฒนาได้ออกมาบอกว่า "ภายในคอนเสิร์ตจะมีช่วงของการประกาศเปิดตัวด้วย โดยจะมีการเปิดตัวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ Final Fantasy 7 Remake" ในจุดนี้มีความเป็นไปได้ 3 อย่างด้วยกัน เรื่องแรกคือการประกาศว่าตัวเกมจะไปลงให้กับ PS5 และ PC ด้วย (คิดว่ายังไงก็น่าจะมาแน่ๆ ) ส่วนสองคือการประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ Ever Crisis และ The First Soldier ที่เพิ่งจดสิทธิบัตรไปก่อนหน้านี้ สุดท้ายคือความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัว Final Fantasy 7 Remake Part 2 ด้วยเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไป Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น FF7R Co-Director Toriyamas message about the upcoming FF7R Orchestra Concert is VERY interesting. He mentions there will be a special small section of the concert where he will talk about some info about FF7R revealed only during the concert ? Heres the subs for the video! pic.twitter.com/YAZJAUufrK — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) February 8, 2021 Credit: GamingBolt

เปิดตัวครั้งแรกช่วงเดือน กันยายน 2020 และเคยมีกำหนดจะวางขายในช่วงเดือนที่แล้วกับ Prince of Persia: The Sands of Time Remake ด้วยปัญหาในการพัฒนาเลยทำให้เลื่อนไปวางจำหน่ายวันที่ 18 มีนาคม 2021 แทน แต่ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าปัญหายังไม่จบ ต้องเลื่อนวางขายออกไปอีกครั้ง Ubisoft ได้ทำการประกาศออกมาผ่านทาง Twitter อีกครั้งว่าจำเป็นต้องเลื่อนวางขาย Prince of Persia: The Sands of Time Remake ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยเหตุผลในการขอเวลาพัฒนาเพิ่มครั้งนี้ถูกเขียนไว้ว่า "เวลาในการพัฒนาเพิ่มเติมนี้ เราจะทำให้แน่ใจว่าสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีใหม่ๆ ให้กับผู้เล่นที่ชอบเกมนี้เวอร์ชัน Original ได้" ในปัจจุบันสถานการณ์ COVID-19 ยังคงไม่สู้ดีทั้งในบ้านเรา และต่างประเทศ การที่วิกฤตนี้จะทำให้ทำงานได้ยาก รวมถึงไม่ทันกำหนดการคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรมากมายนัก ยังไงก็อยากให้แฟนๆ อดใจรอเล่นเกมที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเพิ่มอีกนิดครับ Another update from Prince of Persia: Sands of Time Remake dev team: pic.twitter.com/O6OOmYXhOD — Prince of Persia (@princeofpersia) February 5, 2021 Credit: GamingBolt

2020 ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยม และผิดพลาดในเวลาเดียวกันของ Square Enix โดยพระเอกในปีที่ผ่านมาคงจะเป็นใครไปไม่ได้เล่นนอกจาก Final Fantasy 7 Remake ที่ตอบรับความต้องการของแฟนๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม และทำยอดขายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ น่าเสียดายที่ไม่ใช้กับ Marvel’s Avengers ที่ดูจะไม่เป็นไปตามที่คิดช่วง Q2 กับ Q3 ของปี แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทก็ยังมียอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 33.7% อยู่ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะมียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 33.7% แต่ทางฝั่งกำไรที่ทำได้ในปีนี้ยังคงน้อยกว่าของปีก่อนหน้าอยู่ 4.7% (ปีงบประมาณของ Square Enix จะจบลงที่เดือน 3 ของแต่ละปี ดังนั้นรายงานนี้จึงยังไม่ใช่ผลประกอบการทั้งปีของบริษัทครับ) อย่างไรก็ตามทางบริษัทคาดว่าพวกเขาจะทำกำไรในปีนี้ได้มากขึ้น 12.4% เมื่อเทียบแบบ ปี ต่อ ปี ครับ ทางฝั่งของแผนก MMO เอง แม้ว่าจะมียอดขายที่ลดลงในปี Q3 ของปี แต่ก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่ครับ (ต้องขอบคุณเหล่าผู้เล่น Final Fantasy XIV) ในปี 2021 จะมีการประกาศเปิดตัว Expansion ใหม่ของ FFXIV และยังมีการพอร์ต FF7 Remake มาลงให้กับ PS5 กับ PC ด้วย ดังนั้นคิดว่าในปีนี้เองทางบริษัทก็น่าจะยังทำเงินได้มากสุดๆ เหมือนเดิมครับ Credit: GamingBolt

หลังจากลงให้กับ PS4 เท่านั้นเป็นเวลา 1 ปี เร็วๆ นี้ Final Fantasy 7 Remake ก็กำลังจะมาลงให้กับเครื่องอื่นๆแล้ว (ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็น PC กับ PS5) แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการเปิดตัว Part 2 ของเกมเวอร์ชันนี้เลย (น่าจะมาหลัง FF16) โดยล่าสุดคุณ Kitase ที่เป็น Director ได้บอกว่า เนื้อเรื่องของ Part 2 จะทำให้แฟนๆ ทุกคนตกใจ จาก CEDEC conference (ที่แปลโดย @Aitaikimochi บน Twitter) ไดเรกเตอร์ทั้ง 2 คุณ Yoshinori Kitase และ Naoki Hamaguchi ได้กล่าวว่า "พวกเราอยากทำให้ Final Fantasy 7 Remake Part 2 จะเป็นเกมที่ยังคงตอบสนองต่อความคาดหวังของแฟนๆ ได้ ซึ่งในขณะเดียวกัน มันจะเหนือความคาดหมายของแฟนๆ ไปในทางที่ดีด้วย" ย้อนกลับไปพูดถึงเนื้อเรื่องในตัวเกมเวอร์ชัน Remake ก็คงต้องยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับพอสมควร จนส่งผลให้ฉากจบที่ควรจะเป็นไม่เหมือนเดิม และคงไม่มีใครสามารถคาดเดาเนื้อเรื่องของช่วงต่อไปได้อีกแล้ว มารอลุ้นไปพร้อมๆ กันว่า เรื่องราวใน Part 2 นี้จะสร้างความตกใจให้เราได้ขนาดไหนครับ! FF7R Producer Kitase and Co-Director Hamaguchi talked a bit about Part 2 during the CEDEC conference! Heres the excerpts translation. Kitase mentions for Part 2, they want to deliver something that will live up to everyones expectations but also throw them off, in a good way. pic.twitter.com/aJtZq2jdz7 — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) January 30, 2021 Credit: GamingBolt

ก่อนหน้านี้เราได้ทราบจากข่าวลือว่า Capcom วางแผนจะขาย Resident Evil อีกหลายภาคนอกจาก Village ในช่วง 4 ปีหลังจากนี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ระบุว่า Resident Evil 4 Remake จะวางจำหน่ายในช่วง Q4 ของปี 2022 ซึ่งล่าสุด ดูเหมือนผู้พัฒนาจะพบกับปัญหาใหญ่ จนทำให้ต้องเลื่อนไปวางขายปี 2023 แทนครับ จากรายงานของ VGC ดูเหมือนว่าทีมพัฒนาเกม M-Two กับ Capcom จะมีความเห็นไม่ตรงกันในเรื่องทิศทางของเกม ซึ่ง M-Two ตัดสินใจว่าควรจะ Remake เกมนี้แบบ 1 : 1 หรือกล่าวคือรักษาของเดิมเอ้าไว้ให้มากที่สุด และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพัฒนาเกมเพลย์ กับกราฟิกให้ดีขึ้น แต่ทาง Capcom ดูเหมือนจะอยากได้การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่มากๆ ในเวอร์ชันนี้ จนส่งผลให้มีการเปลี่ยนผู้นำในการพัฒนาไปเป็น Capcom Division 1 แทน และลดบทบาทของ M-Two ในโปรเจกต์นี้ลง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การพัฒนาเกมติดขัด และจำเป็นต้องเลื่อนการวางขายไปเป็นปีถัดไปแทน ซึ่งเนื่องจากของเดิมจะขายในช่วงปลายปีอยู่แล้ว ดังนั้นคิดว่าคงไม่เกินช่วงกลางปี 2023 เราก็น่าจะได้เล่นภาคนี้กัน (ถ้ามันมาจริงๆ อะนะ) และ RE4 Remake จะแตกต่างจากต้นฉบับมากๆ เลยด้วยครับ Credit: GamingBolt

พวกเราทราบกันดีว่า Diablo 4 กำลังอยู่ระหว่างพัฒนา และจะมีข่าวสารเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมในงาน BlizzCon ที่จะถึงนี้  แต่ใครจะไปคิดว่านอกจากภาคใหม่แล้ว เราจะได้เล่นภาค Remake ของ Diablo 2 ด้วย เมื่อรายงานล่าสุดจาก Bloomberg รายงานว่าเกมดังกล่าวกำลังถูกพัฒนาอยู่จริงๆ ครับ Jason Schreier ได้เขียนรายงานเรื่องการยุบ Team 1 ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Warcraft 3: Reforged, StarCraft 2, Heroes of the Storm, และStarCraft Remastered ซึ่งดูเหมือนว่าทีมนี้มีกำหนดจะเป็นผู้พัฒนา Diablo 2 Remake แต่ด้วยการเปิดตัวที่ย่ำแย่ของ Warcraft 3: Reforged เลยทำให้ทีมดังกล่าวถูกยุบไป และโปรเจกต์นี้ก็ถูกส่งต่อให้กับทีมพัฒนา Diablo 4 ครับ ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอีก 1 จุดที่น่าสนใจ คือสตูดิโอ Vicarious Visions ที่เป็นผู้พัฒนา (Crash Bandicoot และTony Hawk remakes) ของทาง ดูเหมือนจะถูกรวมทีมเขากับ Blizzard เรียบร้อยแล้ว และจะมีส่วนร่วมในการพัฒนา Diablo 2 Remake ด้วยเช่นกัน ดังนั้นงานของทีมที่พัฒนา Diablo 4 อยู่ จึงน่าจะไม่หนักเกินไปครับ ในงาน BlizzCon ปีนี้ คิดว่าคงเป็นโอกาสดีที่จะโชว์ว่าพวกเขากำลังทำ Diablo 2 Remake กันอยู่ ต้องรอดูกันไปว่าเราจะได้เห็นการเปิดตัวในงานดังกล่าวหรือไม่ Credit: GamingBolt

ในช่วง 6 - 7 วันก่อนหน้านี้มีข่าวลือที่บอกว่า Final Fantasy 7 Remake จะลงให้กับ PS5 หลังจากช่วงเวลา Exclusive บน PS4 หมดลงในช่วงต้นเดือน 4 ของปี 2021 ซึ่งวันนี้จากเว็บไซต์ ResetEra เอง ก็มีข่าวลือคล้ายๆ กันถูกปล่อยออกมาจาก KatharsisT ผู้เคยปล่อยข่าวลือที่มีความถูกต้องสูงเกี่ยวกับเกมของ Square Enix มาก่อนครับ! KatharsisT ได้กล่าวว่า เขาทราบเพียงแค่ว่าตัวเกมเวอร์ชัน PS5 และ PC จะถูกเปิดตัวภายในปี 2021 นี้ แต่เรื่องว่าจะลงวันไหน เดือนไหน เขาเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จากรายงานของเว็บไซต์ Dsogaming ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ขุดไฟล์เกม Demo แล้วพบกับโค้ดบางส่วนที่สนับสนุนว่าตัวเกมจะลงให้กับ PC ไม่ว่าจะเป็น AMD, NVIDIA หรือ Resolutions สูงๆ ดังนั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เล่นบนเครื่อง PC จริงๆ ครับ ในจุดที่จะลง PC คิดว่าคงไม่อยู่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตัวเกมจะรองรับ Ray-Tracing กับ DLSS หรือไม่? มากกว่า ถ้าหากว่าเราสามารถเล่นเกมนี้แบบเปิด Ray ได้คิดว่าคงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยจริงๆ ครับ Yeah already discussed this yesterday in Discord with others that there are many "many" signs inside the Demo that we will see a future PC Port sooner or later. There is PC Code still left inside, and it mentions various higher Resolutions together with some NVIDIA and AMD stuff. — Roxanne ❎??‍♀️? (@roXyPS3) January 2, 2020 Credit: dsogaming

เกือบจะครบ 1 ปี แล้วตั้งแต่ที่ Final Fantasy 7 Remake ลงให้กับ PS4 เมื่อปีที่แล้ว มันจึงหมายความว่าชาว PC ใกล้จะได้สัมผัสเกมนี้ในแบบที่ภาพสวยกว่า และเฟรมเรตดีกว่าแล้วเร็วๆ นี้ (FF7 Remake จะเอ็กซ์คลูซีฟจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2021) ซึ่งนี่อาจหมายถึงการที่ตัวเกมอาจมีเวอร์ชัน PS5 ออกมาด้วยเช่นกันครับ Navtra ซึ่งเป็นผู้ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับ Final Fantasy 16 และเกมอื่นๆ อีกมากมายก่อนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้โพสต์ข้อความใหม่บนเว็บไซต์ ResetERA กล่าวถึงการเปิดตัวของ Final Fantasy 7 Remake เวอร์ชัน PS5 กับ Expansion ใหม่ของ Final Fantasy XIV ในช่วงต้นเดือนหน้า แถมพวกเขายังคิดว่า Life is Strange ภาคใหม่ก็อาจเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันด้วย อย่างไรก็ตาม Navtra ยังกล่าวอีกด้วยว่า สถานการณ์โควิดที่โลกเจออยู่ในตอนนี้ อาจทำให้ไม่มีการเปิดตัวอะไรเลยในช่วงเดือนหน้าก็เป็นได้ แต่เขาก็ยังเชื่อว่าภายในเดือน กุมภาพันธ์ของปีนี้ เราจะได้เห็น Square Enix ปล่อยข้อมูลออกเกี่ยวกับโปรเจคต์ที่ทำอยู่ออกมาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GamingBolt

Bloodborne กับ Demon’s Souls Remake เรียกได้ว่าเป็นเกมฟอร์มยั้ากษ์ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation และทำเงินให้กับ Sony ได้เยอะมากๆ ซึ่งเกมทั้ง 2 จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลยหากขาดการนำทีมโดยโปรดิวเซอร์มากความสามารถอย่างคุณ Teruyuki Toriyama วันนี้มีข่าวน่าใจหายสำหรับแฟนๆ ทั้ง 2 เกม เพราะคุณ Toriyama เพิ่งจะประกาศว่าเขาจะเลิกทำงานให้กับ SIE Japan Studio แล้วหลังจากหมดเดือนนี้ การประกาศลาออกครั้งนี้ส่งผลให้เกิดคำถามกับแฟนที่รอการมาของ Bloodborne Remaster ที่มีข่าวลือหลุดออกมาก่อนหน้านี้ว่า "แล้วอนาคตของซีรีส์นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป?" แต่มันก็สามารถคิดได้ว่าโปรเจกต์ดังกล่าวอาจใกล้พัฒนาเสร็จแล้ว หรืองานที่ต้องมีคุณ Teruyuki Toriyama ได้สําเร็จลุล่วงไปหมดแล้ว ซึ่งถ้าหากว่าเป็นแบบนั้น หมายความว่าเราอาจจะได้เล่นภาค Remaster เร็วๆ นี้ครับ [Notice] I will be leaving SIE WWS JAPAN Studio at the end of Dec. To all the users who have supported JAPAN Studio so far,thank you so much! I will continue to take on the challenge of creating new game IPs in my new company, and I ask for your continued support. #JAPANStudio — 鳥山晃之 (Teruyuki Toriyama) | SIE JAPAN Studio (@TORIYAMA_SIE) December 24, 2020 อย่างไรก็ตามการออกของคุณ Teruyuki Toriyama ไม่น่าจะส่งผลอะไรถึง Elden Ring ที่กำลังจะออกในเป็นเกมต่อไปของ From Software แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: VGC

"Capcom กำลังพัฒนา Resident Evil 4 Remake อยู่" คือข่าวลือที่มักจะโผลมาเป็นระยะๆ ในช่วงปี 2020 นี้ โดยเฉพาะหลังจากที่ ตัวเกมภาค 2 กับ 3 ในซีรีส์ต่างถูกทำเป็นภาค Remake ใหม่ทั้งหมด ทำให้แฟนเกมเชื่อว่าภาค 4 เองก็กำลังจะได้รับการ Remake และจะวางจำหน่ายในอีก 1 - 2 ปีนี้จริงจามข่าวลือ โดยไดเรกเตอร์ของเกม Original คุณ ชินจิ มิคามิ เองก็เหมือนจะเชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน จากบทสัมภาษณ์ที่ปล่อยออกมาโดย Variety คุณ ชินจิ มิคามิ ยืนยันว่าเขาไม่ได้เคยได้รับการติดต่อจาก Capcom เกี่ยวกับโปรเจค Resident Evil 4 Remake เลย แต่ถ้าถามว่ามีความเป็นไปได้มากขนาดไหนที่โปรเจคดังกล่าวจะมีอยู่จริง เขาก็ตอบว่า มีความเป็นไปได้สูง เนื่องจากบริษัทจะสามารถทำกำไรจากมันได้ และมันก็เป็นโอกาสทางการตลาดที่ดีด้วยเช่นกัน เอาจริงๆ ในตอนนี้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับ Resident Evil 4 Remake เป็นเพียงสิ่งที่มาจากข่าวลือทั้งนั้น ไม่มีอะไรยืนยันเลยว่าเกมดังกล่าวอยู่ระหว่างพัฒนาจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าเอาตามที่คุณ ชินจิ มิคามิ ว่ามามันก็คงมีความเป็นไปได้สูงจริง ที่เราจะได้เห็นเกมภาค 4 Remake ในอีก 1 - 2 ปีหลังจากนี้ครับ Credit: Comicbook

ในตอนแรก Prince of Persia: The Sands of Time Remake มีกำหนดจะวางขายในวันที่ 21 มกราคม 2021 แต่ล่าสุดจาก Facebook ของ Ubisoft เหมือนว่าเกมนี้จะเลื่อนไปวางขายวันที่ 18 มีนาคม 2021 แทน พร้อมกับข้อความที่บอกว่า "เราเชื่อว่านี้คือการตัดสินใจที่ถูกต้อง และมันเป็นวิธีที่จะทำให้ผู้เล่นสนุกได้มากที่สุด" ภาคนี้เปิดตัวครั้งแรกในงาน Ubisoft Forward ช่วงเดือน กันยายน ซึ่งเป็นการเอาตัวเกมที่เคยวางขายในปี 2003 มาพัฒนาใหม่อีกครั้ง ที่เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย ดังนั้นคิดว่า Ubisoft เองก็อยากแน่ใจว่าเกมนี้จะสร้างความสนุกให้กับผู้เล่นจริงๆ จึงได้เลือนวันวางขายออกไปอีก 2 เดือนครับ Prince of Persia: The Sands of Time Remake จะวางขาย 18 มีนาคม 2021 บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt

PlayStation Partner Awards 2020 คืองานประกาศรางวัลให้กับเกมยอดเยี่ยมที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation ในปี 2020 ซึ่งงานนี้จะมีจัดขึ้นหลายภูมิภาคทั่วโลกซึ่งในโซน Japan Asia เป็น Final Fantasy 7 Remake,  Dragon Ball Z: Kakarot, และ eFootball PES 2020 ที่ได้รางวัลไปในปีนี้ครับ! โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Yoshinori Kitase ขึ้นรับรางวัลในงานครั้งนี้พร้อมกับดาบ Buster Sword ที่เป็นการบ่งบอกว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจกับรางวัลนี้ และเกม FF7 Remake มากขนาดไหน ซึ่งนอกจากรางวัลดังกล่าวเกมนี้ยังมีอีกหลายรางวัลที่เข้าไปรอในรอบชิงแล้วใน The Game Awards 2020 งานนี้ต้องรอดูวันที่ 10 ธันวาคม 2020 พร้อมกันว่าเกมนี้จะได้รางวัลอะไรบ้างครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PS5 Credit: GamingBolt 

วางจำหน่ายมาได้เกือบเดือนแล้วกับเกม Demons Soul Remake ที่เป็น Launch Title ให้กับเครื่อง PS5 ซึ่งเชื่อว่าแฟนๆ ที่รอเกมนี้มาตั้งแต่มีข่าวลือในปี 2019 น่าจะเล่นกันจนอิ่มหนำสำราญไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อเกมนี้มาเล่นดีหรือไม่ (รวมถึงคนที่ยังหาเครื่องไม่ได้ด้วยนะ) วิดีโอตัวใหม่นี้น่าจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเล็กน้อยครับ PlayStation ได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์คะแนนที่เกมนี้ได้จากสื่อชื่อดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Game Informer, IGN, GameSpot หรือ Easy Allies ซึ่งคะแนนที่ได้จากผู้เล่นบนเว็บไซต์ Metacritic เองก็เป็นไปในทิศทางบวกมากๆ เช่นกัน ดังนั้นสำหรับใครที่ชอบเกมสไตล์นี้ และยังไม่ได้ซื่อมาเล่น ไม่ว่าจะเป็นเพราะสภาพการเงิน หรือยังไม่มีเครื่อง ถ้าพร้อมแล้วคิดว่าควรหามาเล่นสักครั้งเลยครับ Demons Souls วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit: GamingBolt

ข่าวเกี่ยวกับการขึ้นราคาเกมในยุคหลังจากนี้ เป็นเรื่องที่เรารับรู้กันมาสักพักแล้ว ด้วยต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกมในยุคหลังจากนี้จะมีราคามาตรฐานใหม่เป็น $70 ซึ่งในจุดนี้คิดว่าผู้เล่นทุกคนน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราเองก็ได้เกมที่มีคุณภาพสูงขึ้นมาเล่นเช่นกัน อย่าง Demons Souls กับ Sackboy: A Big Adventure ก็มีราคาเกมอยู่ที่ $70 เช่นกัน อย่างไรก็ตามใน EU เหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น เพราะเกม Demon Souls มีราคาสูงถึง €70 ซึ่งคิดได้เป็นราคา $83 เลยทีเดียว หลานคนอาจมองว่า "นี้เป็นเรื่องที่ไม่แฟร์เลย" แต่คุณ Jim Ryan ผู้เป็น CEO ของ PlayStation ไม่คิดเช่นนั้น จากบทสัมภาษณ์กับทาง The Telegraph เขาเปิดเผยว่า "มันเป็นราคาที่สมเหตุสมผลแล้ว กับเกมยอดเยี่ยมอย่าง Demons Soul ถ้าเรากำลังพูดถึงความสนุกที่ได้จากเกมนี้แล้ว มันเป็นอะไรที่คุ้มค่ากับราคาแล้ว" ที่ผ่านมาราคาเกมในโซน EU เหมือนจะแพงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในลักษณะนี้อยู่แล้ว (เช่นเกมที่ราคา $60 ก็จะราคา €60 ใน EU เช่นกัน) ดังนั้นคิดว่าผู้เล่นในโซนภูมิภาคนี้ น่าจะชินกับเรื่องของราคากันไปนานแล้วครับ ซึ่งนอกจากแสดงความคิดเห็นเรื่องราคาของเกมแล้ว คุณ Jim Ryan ยังยืนยันอีกหนึ่งเรื่องด้วยว่า "จะไม่มีการขึ้นราคามาตรฐานของเกมไปสูงกว่า $70 อย่างที่มีข่าวลือ" ครับ PS5 จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลกในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้ครับ Credit: GamingBolt

Resident Evil Village คือภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์เกมยิงผีที่กำลังจะวางจำหน่ายในปีหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวเกี่ยวกับเกม Resident Evil 4 Remake เองก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แฟนๆ ให้ความสนใจ ซึ่งจากโพสต์ล่าสุดของ Nick Apostolides ผู้ให้เสียงพากย์ และเป็นเจ้าของใบหน้าของ Leon S Kennedy ใน RE2 Remake คิดว่าเป็นไปได้สูงเลยที่ RE4 Remake จะมาจริงๆ ครับ Nick Apostolides ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับรูปภาพว่า "ผมรู้สึกดีใจมาก ที่ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง" ซึ่งตัวเขาได้ใส่แฮชแท็ก VideoGames เอาไว้ด้วย จึงเป็นไปได้ว่าเขากำลัง Motion Capture เป็น Leon สำหรับเกม RE4 Remake อยู่ แต่ตัวผมเองกลับรู้สึกว่า เขาน่าจะกำลัง Motion Capture ให้กับการ์ตูน Resident Evil ของ Netflix อยู่ครับ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็น RE4 Remake เช่นกันครับ ส่วนความจริงจะเป็นอย่างไรต้องรอดูต่อไป Man does it feel good to get back to work! Safely had a blast with some crazy people on this one....can’t wait to share the project! #mocap #performancecapture #motioncapture #videogames #action #stunts pic.twitter.com/LTrrqU5073 — Nick Apostolides (@Nik_apostolides) November 2, 2020 Credit: GameRant

หนึ่งในเซอร์ไพรส์ที่ประกาศออกมาในงาน Nintendo Direct Mini เมื่อคืนนี้ นอกจากการแสดงตัวอย่างใหม่ของเกมที่ประกาศไปแล้ว คือการประกาศการมาถึงของเกมอย่าง Control และ Hitman 3 ในเครื่อง Nintendo Switch ในรูปแบบของเกม Cloud Mode เป็นโอกาสอันดีที่สาวกปู่นินจะได้มีโอกาสเล่นเกมเหล่านี้บนเครื่องเกมที่ชอบเป็นครั้งแรก! สำหรับการเล่นเกมแบบ Cloud Version จะมีลักษณะเป็นการสตรีมหน้าจอเกมจากเซิฟเวอร์ของผู้พัฒนามาสู่จอของผู้เล่น กล่าวคือเครื่อง Nintendo Switch เองจะไม่ได้เป็นตัวรันโปรแกรมเกม แต่จะเป็นเพียงตัวควบคุมที่คอยส่งสัญญาณการขยับจอยจากฝั่งผู้เล่นไปที่เซิฟเวอร์ ก่อนที่เซิฟเวอร์จะประมวลผลและส่งภาพกลับมานั่นเอง ซึ่งข้อดีคืออาจจะทำให้เราสามารถเล่นเกมที่โดยปกติจะเล่นบนเครื่อง Nintendo Switch ไม่ไหว ในระดับความชัดที่สูงกว่าเกม Nintendo Switch ทั่วไป แต่ความลื่นไหลก็ต้องขึ้นอยู่กับความแรงและความเสถียรของอินเตอร์เน็ตเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นบางกลุ่มได้เข้าไปขุดข้อมูล (data mine) ในการประกาศของเกม Control: Ultimate Edition และพบว่าเกม Resident Evil 3: Remake ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่จะได้รับเวอร์ชั่น Cloud Version สำหรับ Nintendo Switch ด้วยเช่นกัน ตามหลังเกมภาค 7 ที่เคยวางจำหน่ายในลักษณะเดียวกันมาแล้วในญี่ปุ่น So apparently this was just data mined from the Control Ultimate Edition cloud version website for some reason. I guess every version of RE:3 is just doomed to being data mined before its official announcement. pic.twitter.com/FUoGIotXZU — Alex Aniel (@cvxfreak) October 28, 2020 แน่นอนว่าสำหรับเกม RE3: Remake อาจจะยังต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่การมาของเกมเหล่านี้ก็ดูจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าเราอาจจะได้เห็นเกมฟอร์มใหญ่ๆ มาวางจำหน่ายสำหรับ Nintendo Switch มากขึ้นในอนาคต แม้จะมาในรูปแบบของ Cloud Version ที่ต้องต่ออินเตอร์เน็ตเล่นก็ตาม Credit: Nintendo Life

Prince of Persia ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ห่างหายไปนานพอสมควร แต่การกลับมาในครั้งนี้จะเป็นการนำตัวเกม Prince of Persia: The Sands of Time กลับมารีเมคใหม่ซึ่งเป็นเกมที่ดีที่สุดในซีรี่ย์ ตอนนี้ทางทีมผู้พัฒนาก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตัวเกมกำลังปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ต้นอยู่ จากบทสัมภาษณ์ของคุณ Pierre-Sylvain Gires ผู้กำกับเกมได้พูดคุยกับสื่อ Gamingbolt ว่าทาง Ubisoft กำลังมีความคิดจะนำเกมในยุคเก่าที่เป็นกระแส กลับมาพัฒนาใหม่อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งเขาได้เตรียมการปรับปรุงพร้อมทั้งพัฒนาตัวเกมใหม่ตั้งแต่ต้นให้เข้ากับยุคสมัย แต่จะยังหลงเหลือความเป็นคลาสสิคของเกมไว้บางส่วน เพราะพวกเขาตั้งใจว่าจะทำการนำเสนอเนื้อเรื่องของตัวเกมพร้อมปรับเปลี่ยนมุมมองของตัวเกมให้มีความแตกต่างจากเดิม ด้วยเทโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นเขาจะเพิ่มท่าทางที่มีความผาดโผนของตัวละคนให้มีรูปแบบใหม่ และความสมูทมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากต้องการให้เกมมีความเหมาะสมกับยุคสมัย Prince of Persia: The Sands of Time Remake จะเพร้อมให้ทุกคนได้เล่นบนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ในวันที่ 21 มกราคม 2021 Credit: Gamingbolt

หลังจากที่แฟนๆ เฝ่ารอและเรียกร้องกันมานานหลายปี ในที่สุดเราก็จะมีโอกาสได้เล่น Demons Souls Remake อีกครั้งจริงๆ แล้ว ล่าสุดในงาน PS5 Showcase ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ของภาคใหม่นี้เป็นครั้งแรก สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เข้าไปอีก ซึ่งสำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะรอเล่นเกมนี้บนเครื่องอื่น คิดใหม่ได้เลยครับ! ล่าสุดได้มีการประกาศออกมาจากทาง Sony ว่า "Demons Souls ภาคใหม่ที่กำลังจะมานั้น จะสามารถเล่นได้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น และจะไม่มีการพอร์ตเกมนี้ไปลงให้กับเครื่องอื่นๆ ซึ่งเหตุผลที่วิดีโอก่อนหน้านี้บอกว่าตัวเกมจะลงให้กับ PC ด้วย เป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการสื่อสาร" พร้อมยังปล่อยรูปภาพใหม่ที่ยืนยันว่าเกมนี้จะเล่นได้แค่บน PS5 ได้เท่านั้นออกมาด้วยครับ Demon Souls จะวางจำหน่ายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit: Kotaku

ถือว่ามีข่าวลือกันมานานมากแล้วสำหรับ Ubisoft กำลังจะนำตัวเกม Prince of Persia กลับมาใหม่ในภาค Prince of Persia: The Sands of Time และพร้อมให้ทุกคนเล่นกันในปี 2021 โดยมีข่าวลือหลุดออกมาล่าสุดว่าตัวเกมอาจจะลงบนเครื่อง Switch ด้วย โดยระหว่างที่ผู้พัฒนาเกมยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของตัวเกมออกมาเพิ่มเติม ทาง Cheap Ass Gamer ก็ได้โพสข้อความบน Twitter ว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม Switch ,Xbox one  และ PS4 พร้อมทั้งแนบรูปที่แสดงให้เห็นถึงร้านค้า Gamestop ติดแท๊กเกมนี้ว่าจะอยู่ในเครื่อง Switch ด้วย ถึงแม้แท๊กดังกล่าวจะถูกลบออกไปแล้วก็ตาม Pre-Order: Prince of Persia Remake (Switch/PS4/X1) $39.99 via GameStop. Switch version after all. https://t.co/jTg5351TMu pic.twitter.com/vOH3MpiB6Q — Cheap Ass Gamer (@videogamedeals) September 10, 2020 จนกระทั่งตอนนี้ Ubisoft ก็ยังไม่ได้ออกมาประกาศรายละเอียดขงตัวเกมเพิ่มเติมเลย คงต้องรอการประกาศของทางบริษัทอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเรื่องของระบบเกมวันวางจำหน่ายรวมไปจนถึงแพลตฟอร์มที่ตัวเกมจะนำไปลงอีกด้วย Credit: Gamingbolt

หลังจากที่ลือกันให้แซ่ดว่า Ubisoft กำลังซุ่มพัฒนาเกม Prince of Persia อยู่ ล่าสุดในงาน Ubisoft Forward ทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าข่าวลือนั้นเป็นความจริง! และเกมที่ว่านั้นก็คือการคืนชีพเกมองค์ชายแห่งเปอร์เซียภาคคลาสสิค Prince of Persia: Sands of Time Remake นั่นเอง! Prince of Persia: Sands of Time Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 21 มกราคม 2021 สำหรับ PS4, Xbox One, PC

ถึง Fall Guys จะวางจำหน่ายได้ไม่นานแต่เราก็บอกได้เลยว่าเจ้าเกมเมล็ดถั่วฝ่าดงอุปสรรคเกมนี้มาแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ ครับ แถมมันยังมีสกินของเกมหรือของบริษัทต่างๆ อยู่ในเกมด้วย แต่เจ้าเมล็ดถั่วไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ในตอนนี้มันได้บุกเข้าไปในเกม Resident Evil 3 Remake แล้ว Resident Evil 3 Remake ได้มี Mod ใหม่สำหรับ Jill กับ Carlos ในชื่อว่า Jilly Bean Mod Pack โดย Mod ที่ว่านั้นคือการเปลี่ยน Jill และ Carlos ให้กลายเป็นเจ้าเมล็ดถั่วจาก Fall Guys ถึงมันจะมีส่วนที่ผิดพลาดนิดหน่อยสำหรับ Mod นี้ คือจมูกของตัวละครมันชอบโผล่ออกมาจากหัวของสกินเมล็ดถั่วเนี่ยสิ มันดูค่อนข้างน่ากลัวนิดหน่อย ดูหลอนกว่าบรรยากาศของเกมเสียอีก คุณสามารถรับ Jilly Bean Mod Pack ได้จาก Nexus Mods นอกจากนี้ในแพ็คเกจดังกล่าวยังมี Costume ของตัวละคร Nemesis อยู่อีกด้วยครับ! Credit: PCGames

หนึ่งในเกมที่ได้กลับมาอีกครั้ง หลังจากแฟนๆ เรียกร้องอยู่นานคือ Demons Souls Remake ตัวเกมเปิดตัวครั้งแรกในงาน Future of Gaming แต่จนถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่า ข่าวสารเกี่ยวกับเกมนี้มีน้อยมากๆ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้จะเคยมีข่าวหลุดว่ามีเกม PS5 มากมายได้ถูกส่งให้เกาหลีจัดเรตติ้งอายุแล้ว ทำเอาหลายคนคิดว่าเกมนี้น่าจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้พร้อมกับเครื่อง PS5 แต่เหมือนว่า Imran Khan นักเขียนจาก Gameinformer ไม่คิดแบบนั้นครับ! บนเว็บไซต์ Twitter มีคนส่งข้อความไปถาม Imran Khan ว่า "มีความเห็นอย่างไร กับเรื่องที่บอกว่ามีเกม PS5 มากมายได้ถูกส่งไปให้เกาหลีจัดเรตติ้งอายุแล้ว? และเป็นไปได้ หรือไม่ที่เกมจะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้?" ซึ่งตัว Khan เองก็ได้ตอบกลับไปว่า "ตัวผมเองก็สงสัยในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน แต่เท่าที่ผมรู้ ตัวเกมยังพัฒนาไม่เสร็จในตอนนี้" จากคำพูดของเขา มันสามารถตีความได้ 2 อย่างครับ 1.) Khan รู้ข่าววงในเกี่ยวกับการพัฒนาจริง และเขารู้ว่าตัวเกมจะยังไม่วางจำหน่ายเร็วๆ นี้ 2.) ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นความคิดเห็นของเขาล้วนๆ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่เกมจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้อยู่ดีครับ คงต้องรอดูต่อไปว่าเราจะได้เล่นเกมนี้เมื่อไหร่ Demons Souls Remake จะวางจำหน่ายบนเครื่อง PS5 ส่วนเวลายังไม่แน่ชัด I’d doubt it if only for COVID reasons but I don’t think it’s off the table. As far as I know, they had always been targeting launch/launch window. — Imran Khan (@imranzomg) August 20, 2020 Credit: GameRant

นับว่าในช่วง 2 ปีนี้ บริษัท Capcom ดูจะมาแรงจริงๆ ครับ เพราะไม่ว่าจะทำเกมอะไรออกมาก็ดูจะขายดีไปหมดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น Resident Evil 2 Remake, Resident Evil 3 Remake, Devil May Cry 5, หรือ Monster Hunter World ซึ่งล่าสุดก็มีการเปิดเผยออกมาว่า RE3 Remake นั้นปัจจุบันมียอดขายสูงถึง 2.7 ล้านชุด และ MHW เองก็ทำยอดขายได้ 16 ล้านชุดแล้วเช่นกัน!     ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่า Resident Evil 3 Remake ทำยอดขายได้สูงถึง 2 ล้านชุดตั้งแต่ 5 วันแรกหลังจากเกมวางจำหน่าย ซึ่งดูเหมือนว่ายอดขายของเกมไม่ได้เพิ่มขึ้นอะไรมากมายนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ด้วยยอดขาย 2.7 ล้านชุด ทำให้ปัจจุบัน Capcom สามารถขายเกมที่มีคำว่า Resident Evil อยุ่ในชื่อได้ทั้งหมด 103 ล้านชุดแล้ว!     ในส่วนของ Monster Hunter World ถึงแม่ว่าตัวเกมจะมีอายุ 3 ปีแล้ว แต่การมาของส่วนเสริม Iceborne และการจัดกิจกรรมภายในเกมอย่างต่อเนื่อง ก็เลยยังทำให้เกมนี้สามารถเพิ่มยออดขายได้เรื่อยๆ ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีข่าวว่าเกมนี้ขายได้ 15 ล้านชุดแล้ว และปัจจุบันตัวเกมมียอดขาย 16 ล้านชุดแล้ว นับว่าเติมโตอย่างต่อเนื่องจริงๆ ครับ     Resident Evil 3 Remake และ Monster Hunter World วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt

จากบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อของ Famitsu เกี่ยวเกม Final Fantasy VII Remake ที่ก่อนหน้านี่ได้เปิดเผยข้อมูลการทำงานภายในทีมในเรื่องของจุดจบของเกมที่ทางผู้พัฒนามีความเห็นต่างกัน ว่าอยากให้ตัวเกมใน Part หลังมีจุดจบแปลกใหม่มากขึ้น     ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันออกมาแล้วว่าตัวเกมกำลังมุ่งหน้าพัฒนาอย่างเต็มที่ ด้วยข้อความพร้อมภาพที่โพสบน Twitter ของ aitaikimochi ผู้แปลบทความจาก Ryokutya2089 ที่ทาง Tetsuya Nomura ผู้พัฒนา กล่าวถึงฟีเจอร์บางอย่างในเกมเกี่ยวกับตัวเกมออกมาเพิ่มเติม เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยอีกว่า     "พวกเรากำลังเร่งพัฒนาให้เร็วที่สุด และทำออกมาอย่างเต็มที่เพื่อมอบประสบการณ์บนโลก Final Fantasy สุดยิ่งใหญ่ให้กับแฟนๆ ที่รอคอย พวกเขาจะมอบภาพรวมไปถึงรายละเอียดตัวเกมอันสวยงามให้ตัวเกมเป็นงานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น"     ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเกมเพิ่มเติมเลยว่าจะมีทิศทางไปทางใดกันแน่ ผู้เล่นอย่างเราคงต้องไปรอลุ้นกันในเกมต่อไปค่ะ         Credit: Gameinformer

ใกล้เข้ามาแล้วกับ Destroy All Humans! remake ที่กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุง และพัฒนาถึงแม้ตัวเกมที่ทำออกมาครั้งแรกจะนานมากแล้วตั้งแต่ปี 2005 ก็ไม่ได้หมายความว่าเนื้อเรื่องของเกมจะไม่ถูกปรับเปลี่ยนเช่นกัน เนื้อหาในภารกิจบางส่วนจากก่อนหน้านี้ที่ถูกตัดออกไปจากเกมผู้พัฒนากล่าวว่าจะนำมาเพิ่มเติมเนื้อเรื่องในครั้งนี้อีกด้วย     จากวิดีโอเมรลเลอร์ที่ปล่อยออกมาเพิ่ม ได้กล่าวถึงภารกิจที่ Crypto นั้นได้แทรกซึมเข้าไปยังฐานในพื้นที่ 42 และสร้างความวุ่นวายเกิดขึ้น และมีสถานที่ต่างๆ ที่เหล่าแฟนเกมต่างคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยสามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ที่ข้างล่างนี้     Destroy All Humans จะพร้อมให้ทุกคุนได้เล่นกันในวันที่ 28 กรกฏาคมนี้ บน PS4, Xbox one , PC และ Stadia Credit: Gamingbolt      

หนึ่งในเกมที่ทุกคนต่างรอคอยในการเปิดให้แฟนๆ ได้เข้าไปเล่นกันต่อกับเกมแห่งปีที่จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Final Fantasy 7 Remake ซึ่งมีข่าวลือ และรายละเอียดของตัวเกมออกมาตลอดเวลาทำให้ผู้คนต่างคาดหวังกับส่วนของ Part 2 ที่กำลังพัฒนาอยู่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร     จากบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อ Famitsu ที่ได้พูดคุยกับหนึ่งผู้พัฒนาเกมคุณ Tetsuya Nomura เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานภายในทีมเป็นไปอย่างราบลื่นไม่มีปัญหาภายในทีมตลอดระยะเวลาในการทำงานเลย ด้วยการวางแผนการทำงานที่ดี และการทำตามแผนงานตั้งแต่เริ่ม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมพัฒนาคือความเห็นต่างในเรื่องของเนื้อเรื่องตอนท้ายที่หลายๆ  คนอยากให้จุดจบแตกต่างออกไปจากเดิมเนื่องจากมีความเห็นว่าผู้เล่นใน Part แรกอาจคาดเดาเนื้อเรื่องใน Part ที่ 2 ได้     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไม่ได้มีการออกมายืนยันอย่างแน่ชัดว่าตัวเกมจะเปลี่ยนจากเดิมหรือไม่ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นเนื้อเรื่องที่ดูมีความเข้มข้นขึ้นจากบางส่วนที่ผู้พัฒนาตั้งใจอยากจะทำให้ผู้เล่นตื่นเต้นกับตัวเกมใน Part 2 มากกว่า Part ก็เป็นได้ ถือว่าผู้พัฒนาเองมีความใส่ใจในการพัฒนาอยู่ตลอดเวลายังไงก็คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ     Credit: Gamingbolt

เหมือนกับหลายๆ วงการ โลกของวิดีโอเกมเองก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นกัน ผลกระทบนี้ทำให้การพัฒนาเกมหรือการให้บริการเกมล่าช้าลง และหนึ่งในเกมที่ได้รับผลนั้นก็คือ Final Fantasy VII Remake โปรดิวเซอร์ Yoshinori Kitase ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake เขากล่าวว่าเกมนี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นผลกระทบในระยะยาว ในปัจจุบันทีมพัฒนายังคงสร้างเกมต่อไป แม้ว่าประสิทธิภาพของการทำงานจะลดลงเพราะต้องทำงานทางไกล Kitase หวังว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะช่วยบรรเทาความเครียดของผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตในช่วงเวลา Lockdown และมอบความเพลิดเพลินให้กับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เมื่อต้นปีไม่นานหลังจากวางจำหน่าย Final Fantasy VII Remake ทีมพัฒนาก็ประกาศว่ากำลังทำภาคต่อของเกมดังกล่าว แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราก็ได้แต่หวังว่าภาคต่อของเกมนี้จะทำออกมาได้ดีเหมือนภาคแรกครับ Credit: Gamingbolt

หลังจากมีข่าวลือว่า อีกหนึ่งเกมที่กำลังจะถูกนำกลับมาทำใหม่อย่าง Resident Evil 4 กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา ก็ทำให้แฟนๆ ของซีรีส์นี้ต่างรอคอย และติดตามข่าวสารของเกมนี้กันอย่างจริงจัง ล่าสุดก็มีข่าวลือว่า ตัวเกมจะเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่ๆ รวมถึงปรับปรุงลูกเล่นในเกมด้วยค่ะ โดยข่าวนี้ก็มาจากบน Twitter ของ Dusk Golem ซึ่งหากเป็นผู้ติดตามข่าวของซีรีส์นี้ จะรู้ว่าข่าวสารที่มาจากเขาเกี่ยวกับตัวเกม Resident Evil ถือว่าผิดพลาดน้อยมาก ล่าสุดเขาได้โพสต์ลง Twitter กล่าวว่า เนื้อเรื่องของ Resident Evil 4 Remake จะมีความแตกต่างจาก Original มากกว่า ภาคก่อนหน้านี้อย่าง RE3 Remake ที่ได้มีการปรับปรุงให้เหลือเพียงการจบในรูปแบบเดียว ส่งผลให้แฟนๆ บางคนอาจจะไม่พอใจกับเนื้อเรื่องของเกมเวอร์ชั่นใหม่ แต่นี้ถือเป็นเพียงการคาดการณ์ที่ทางผู้พัฒนาไม่ได้ออกมาสรุปอย่างแน่นอนว่า ตัวเกมจะออกมาในทางรูปแบบใด เนื้อเรื่องจะเป็นไปตามนี้ หรือไม่ต้องรอติดตามกันต่อไป (1/2) This is the last RE4 Remake question Ill answer for a while (I know more than most on RE4 Remake right now, but theres a LOT I dont know at this point in time, & the things I do know mostly are best to be seen than talked about literally a year or so before the games https://t.co/0C01IzH4Rt — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 24, 2020 (2/3) announcement, I keep saying this but Ill repeat myself, RE4 Remake leaked too soon even if with RE8 I think some would get suspicious), but yes the story is an area theyre focusing on expanding greatly. Not in the way you described though. I guess the one random thing I — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 24, 2020 (3/3) can toss out there as an example is, have you ever thought about what Dr. Salvadors deal in RE4 was? No? Well, prepare to be intrigued. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 24, 2020 Credit: Gamerant

ในช่วงที่ผ่านมานอกจากจะมีการเปิดตัวเครื่องคอนโทรลรุ่นใหม่สุดยิ่งใหญ่มา อีกหนึ่งการประกาศอย่างยิ่งใหญ่คือ Final Fantasy 7 Remake เกมแนว RPG ที่ฮอตฮิตมาอย่างยาวนาน เราได้เห็นความพัฒนาของตัวเกมมาอย่างมากมายจนถึงปัจจุบันที่จะพัฒนาระบบออกมาใหม่ แต่จะไม่เปลี่ยนแปลงเสน่ห์ของตัวเกมไป หนึ่งในระบบเกมที่มีการเปลี่ยนไปไปมากที่สุด ก็คือระบบการใช้ Summon นั้นเอง! Naoki Hamaguchi ผู้สร้างตัวเกมได้ออกมาประกาศบน Blog ของ PlayStation เพื่ออธิบายถึงสาเหตุในการจัดทำตัวเกม Final Fantasy 7 Remake พร้อมทั้งพูดถึงการพัฒนาตัวเกมนี้ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน และเขาจะพยายามถึงที่สุดให้ตัวเกมนั้นออกมาดี โดยรายละเอียดการปรับปรุงของตัวเกมเขาได้กล่าวว่า "พวกเราต้องการให้เหล่า Summon ดูเป็นการต่อสู้ร่วมไปกับเราจึงอยากให้ใช้หลอด ATB ของตัวละครของเราเองมากกว่าที่จะสร้างหลอด ATB ของตัวที่ Summon ขึ้นมา" หากใครอยากทราบรายละเอียดของตัวเกมจากบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมสามารถอ่านเพิ่มได้ที่ LINK ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake นั้นจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน ทางผู้พัฒนาอาจจะปรับปรุงในส่วนของตัวเกมเพื่อให้แฟนๆ ได้รู้สนุกกับตัวเกมมากขึ้นอย่างก็ตามคงต้องติดตามกันต่อไป Final Fantasy 7 Remake จะพร้อมให้ไดด้เล่นแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 Credit : Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Dark Souls ได้กลายเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมชื่อดังของโลก และสร้างรายได้ให้กับผู้พัฒนาอย่าง FromSoftware อย่างมหาศาล แต่ซีรีส์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นมาไม่ได้เลยถ้าหากไม่มี Demons Souls เป็นต้นแบบในการพัฒนา ถึงแม้ว่าเกมดังกล่าวจะไม่โดงดังเท่ากับซีรีส์ Dark Souls แต่เชื่อว่าแฟนๆ ของ FromSoftware ต้องเคยได้ยินชื่อของ Demons Souls มาไม่มากก็น้อย มันจึงเป็นเรื่องน่าดีใจมาก ที่ได้ทราบว่าเกมดังกล่าวได้ถูกทำการ Remake และกำลังจะวางจำหน่ายอีกครั้งบนเครื่อง PS5 Demons Soul Remake ได้ประกาศเปิดตัวครั้งแรกในงาน Future of Gaming ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก ภายในวิดีโอที่ปล่อยออกมาได้มีการโชว์บอสที่เป็นดังสัญลักษณ์ของเกมออกมามากมายไม่ว่าจะเป็น อัศวินยักษ์, ปีศาจไฟ หรือยมทูตเงา และวันนี้ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ก็ได้มีการปล่อย Screenshot ใหม่ที่โชว์ให้เห็นถึงบอสอัศวินยักษ์ออกมา พร้อมทั้งยังโชว์ความสวยงามของกราฟิกในเกมได้เป็นอย่างดี สามารถรับชมรูปภาพดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Demons Soul Remake จะวางจำหน่ายบนเครื่อง PS5 ในปีอันใกล้นี้ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

ปัจจุบันนี้มีเกมดีๆ ออกมากมายสนุกทั้งในเกมเพลย์ เนื่อเรื่อง เสียงเพลง หรือกระทั่งความอลังการของงานภาพ แต่เกมบางเกมเราไม่สามารถเล่นกับเพื่อนได้! มีหลายเกมที่ใส่โหมด Co-op แล้วมีปัญหาตามมามายครับ แต่ถ้าสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ การที่เราสามารถเล่นเกมที่ดี และที่เรารักกับเพื่อนๆ ได้มันจะมีความสนุกขนาดไหนกันครับลองคิดดู วันนี้เรา GameFever TH ได้นำ 10 เกมออฟไลน์ที่ควรจะมีโหมดผู้เล่นหลายคน ( จะเป็นภาค DLC หรือภาคต่อไปผมเชื่อว่าแฟนๆ ร้องดีใจลากเพื่อนมาเล่นด้วยแน่นอนครับ ) เรามาดูกันครับว่ามีเกมอะไรบ้าง. 1.Horizon Zero Dawn Horizon Zero Dawn ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมล่ามอนส์สุดมันอย่างเกม Monster Hunter  ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทางเกมได้แสดงเคารพของพวกเขาด้วยการให้ Aloy ตัวเอกของเรื่องเข้าไปเป็นสกินในเกม Monster Hunter บน PS4  ซึ่งถ้าเกมนี้สามารถเล่น Online หรือ Co-op ได้บอกเลยว่าเราจะสนุกไปกับดารล่าหุ่นยนต์ไดโนเสาร์กับเพื่อนๆ แน่นอนเรียกได้ว่า ให้ความรู้สึกเหมือน Monster Hunter เลยนะครับ. 2.The Legend Of Zelda: Breath Of The Wild Legend Of Zelda: BreathOf The Wild ภาคแรกก็ให้เสียงตอบรับที่ดีแล้ว ซึ่งล่าสุดมีแฟนๆ จำนวนมากเห็นคลิปวีดีโอเปิดตัวตัวอย่างภาค 2 ทำให้เห็นว่า Link และ Zelda ออกเดินทางผจญภัยไปด้วยกัน ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ สามารถช่วยกันปราบมอนส์เตอร์ และสำรวจ Hyrule เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลย. 3.Final Fantasy VII Remake สำหรับเกม Final Fantasy VII Remake ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ ในบรรดาแฟนๆ และหมู่นักวิจารณ์แต่มีความเห็นจากนักวิจารณ์บางกลุ่ม แนะนำว่า Final Fantasy VII Remake ควรมีโหมดผู้เล่นหลายคน ลองนึกภาพเรากับเพื่อนๆ ร่วมกันทำภารกิจบุกเมือง Midgar แล้วทำการบุกยึดเตาปฏิกรณ์ Shinra ในฐานะสมาชิก Avalanche ซึ่งบอกเลยว่าทั้งดูเท่ และมันแน่นอน ยิ่งถ้าเราเล่นกันแบบเป็นงานมีการออกคำสั่งคนนึงเก็บซ้าย เก็บตัวขวา บอกเลยว่าโึคตรเท่! 4.Middle-Earth: Shadow Of War เรียกได้ว่า Middle-Earth: Shadow Of War เป็นหนึ่งในเกมที่ไม่มีค่ายไหนสามารถพยายามที่จะเลียนแบบระบบของเกมนี้ได้เลย สำหรับคนที่รู้จักจะพอเข้าใจนะครับว่าเป็นนี้มันมีรายละเอียดเยอะมากๆ อันดับต้นๆ ของเกมแนวนี้เลยก็ว่าได้ครับ แล้วทีนี้มันจะเจ๋งแค่ไหนครับ ถ้าผู้พัฒนาจะเปิดโหมดใหม่หรือสร้างโหมดผู้เล่นหลายคนให้เราสามารถไปยึดถิ่น หรือรวบรวมกองทัพOrcs ของตัวเองยกทัพไปตีกันเอง หรือรวมมือกันหลายๆ กองทัพแล้วไปถล่มศัตรู โคตรเท่ โคตรอลังการ! 5.Marvel’s Spider-Man Marvel’s Spider-Man ถือว่าทำหลายๆ ส่วนได้ดีในหมดเกมแนว Spider-Man และมีผู้เล่นบางคนเอาเขาไปลง Mod ใน Grand Theft Auto V จึงได้มีหลายๆ คนเสนอแนวคิดของโหมดผู้เล่นหลายคน เช่น ให้ทีมหนึ่งอยู่ในกลุ่มอันธพาลเป็นวายร้าย ทีมหนึ่งเป็น Spider-man คอยขวัดขวางไม่ให้วายร้ายก่อเหตุสำเร็จ ซึ่งแนวคิดหลายๆ อย่างที่แฟนๆ เสนอไปผมเชื่อว่าทางผู้พัฒนาจะนำไปปรับปรุงและทำให้เกมเหล่านี้มีโหมดออนไลน์แน่นอนครับ. 6.Valkyria Chronicles 4 Valkyria Chronicles 4 ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าถ้าเกมนี้สามารถเล่นกับเพื่อนได้มันจะเพิ่มความสนุกได้หลายเท่าตัวเลยครับ เกมนี้จะเป็นเกมผสมกันระหว่าง กลยุทธ์ RPG Real-time Turn-Base เป็นเกมที่ผสมเยอะแต่ลงตัวครับ นึกภาพเราอยู่ในสนามรบจริงๆ มีเวลาคิดจำกัดต้องสื่อสารกันดีๆ ทุกฝีก้าว ซึ่งถ้าใครไม่เชื่อฟังความเห็นของเพื่อน หรือของหัวหน้าความซวยมาเยือนแน่นอนครับ แต่ซวยทั้งทีม เห็นมั้ยครับว่าแค่คิดก็สนุกแล้ว ถึงแม้ว่าเกมนี้จะออกมานานแล้ว แต่ในอนาคตถ้ามีภาค5 ผมเชื่อเลยครับว่าผู้พัฒนากำลังหาทางใส่โหมด Co-op ลงไปแน่นอนครับ. 7.Just Cause 4 ซีรีส์นี้สร้างขึ้นจากแนวคิดของการสร้างความโกลาหลด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ที่จะทำให้ภาพยนตร์แอ็คชั่นกลิ่นอายยุค 80 แล้วจะเป็นยังไงครับถ้าคนที่จะมาสร้างความวอดวาย ความโกลาหลมีมากกว่าหนึ่งคน โดยการชวนเพื่อนมาทำภารกิจ แต่ว่าเรื่องนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ครับ สำหรับเกมนี้เพราะถ้ามีผู้เล่นเพิ่มมาอาจจะทำให้เรื่องกราฟฟิค หรือเรื่องเกมเพลย์ที่สนุกน้อยลง ดังนั้นเราต้องมารอดูในอนาคตว่าผู้พัฒนาจะตัดสินในกับเรื่องนี้อย่างไรครับ. 8.Sekiro: Shadows Die Twice FromSoftware ค่ายที่สร้างสรรค์ผลงานเกมตระกูล Dark Souls มามากมาย หนึ่งในนั้นก็มีเกม Sekiro: Shadows Die Twice แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือเกมนี้ไม่มีโหมด Co-op หรือโหมดออนไลน์เหมือนกับเกม Soul อื่นๆ แต่ผู้พัฒนาหันมาโฟกัสที่ระบบเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ที่เพิ่มความเร็วขึ้นมากกว่าเกมอื่นๆ ในซีรี่ส์ แต่ถ้าลองคิดๆ ดูนะครับเวลาเราเจอบอสยักษ์ใหญ่ โหดๆ แล้วอยากได้เพื่อนซักคนมาคอยรุกคอยรับช่วยเราจะเป็นอะไรที่สนุกไปอีกระดับนึงเลยนะครับ ยิ่งถ้ามีลานประลองฝีมือก็ยิ่งได้วัดสกิลเพลย์กันได้ด้วย! 9.Shadow Of The Colossus Shadow Of The Colossus เป็นเกมที่มีเนื้อหาและเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ถ้าเราสามารถสามารถต่อสู้กับเหล่ายักษ์ใหญ่ในเกมกับเพื่อนๆ ได้ล่ะครับมันจะเป็นยังไง คงได้ได้อารมณ์แบบเกม Monters Hunter ระดับนึงเลยแต่เกมนี้จะแฝงไปด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่จะทำให้แตกต่างจากเกมอื่นๆ ซึ่งหวังหว่าในอนาคตที่เครื่อง PS5 ออกวางจำหน่ายเกมนี้จะมีภาคใหม่ๆ ที่มีระบบออนไลนฺ์ให้เราร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ได้นะครับ. 10.Resident Evil 3 Remake อีกหนึ่งเกมที่ควรจะมีโหมด Co-op มากๆ ครับเพราะนอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นแล้ว เรายังได้เห็นความแอบหวานของจิลกับคาร์ลอส ซึ่งถ้าเราสามารถเล่นกับเพื่อน หรือเล่นกับแฟนอาจจะสนุกไม่ใช่น้อยเลยครับ ขอแค่โหมดเนื้อเรื่องซักนิด Mini-Games ซักหน่อยเหมือน Resident Evil 7 หลังจากเคลียร์เกม มีนักวิจารณ์บางท่านบอกมาว่าถ้าเป็นไปได้ก็ทำให้มีโหมด Co-op ในเกมไปเลยอาจจะเพิ่มความสนุกและโอกาสที่จะทำให้เกมเมอร์กลับไปเล่นซ้ำได้มากกว่าการทำ Project Resistance แบบออนไลน์เพราะตัวเกมภาคนี้สนุกก็จริง แต่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องหรือความต่อเนื่องในการเล่นเท่าไหร่นัก ซึ่งหวังว่าในอนาคต resident evil ภาคต่อๆ ไปจะมีโหมด Co-op ให้เล่นกับเพื่อนได้ แบบนี้มีตกใจขว้างจอยพร้อมกันแน่นอนครับ555 Credit: Gamerant

Final Fantasy VII Remake เรียกได้ว่าเป็นเกม RPG ดังจากยุคเก่าที่กลับมาได้อย่างสมศักดิ์ศรีจริงในปี 2020 ตัวเกมเรียกได้ว่าทำออกมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, กราฟิก, หรือเพลงประกอบ ซึ่งล่าสุดเราก็สามารถซื้อเพลงประกอบของเกมมาฟังได้แล้ว ทั้งในรูปแบบ CD และไฟล์ Digital ครับ! เพลงประกับเวอร์ชั่น CD สามารถสั่งซื้อได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ Square Enix Store ในราคา $77.77 ที่ตอนนี้ขึ้นว่าของขาดตลาดอยู่ แต่ที่ใครไม่อยากรอ ก็สามารถซื้อเพลงเหล่านี้ในรูปแบบไฟล์ Digital ผ่าน Amazon Music Store, Google Play Store, และ iTunes ได้เช่นกัน สามารถฟังแบบ Online ได้ถ้าหากเป็นสมาชิกของ Apple Music แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถฟังผ่าน Spotify ได้ครับ Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะเล่นเกมนี้จนเคลียร์ และพบว่าเนื้อเรื่องของเกมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร ทำให้เราไม่รู้แล้วว่าใน Part ต่อไปที่จะออกมา เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่เหมือนว่าตอนแรกโปรดิวเซอร์ของเกมจะอยากให้เนื้อเรื่องมันแตกต่างจาก Original มากกว่านี้อีกครับ! Yoshinori Kitase ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของเกมได้เปิดเผยกับ Push Square ว่า ในตอนแรกตัวเขาตั้งใจที่จะให้เนื้อเรื่องมันแตกต่างไปจาก Original มากกว่านี้ แต่ว่าไดเร็กเตอร์ทั้งสองคุณ Tetsuya Nomura กับ Naoki Hamaguchi คิดว่าควรให้ความเคารพเนื้อเรื่อง Original และรักษามันไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้เนื้อเรื่องของเกมมันออกมาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GamingBolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

การกลับมาของ Final Fantasy VII Remake ไม่เพียงแต่จะมีกราฟฟิคที่สวยงามและเนื้อเรื่องที่ถูกเขียนขึ้นมาใหม่ แต่ระบบการเล่นของเกมที่เปลี่ยนเป็นแบบ Action RPG ก็ยังทำให้อาวุธแต่ละแบบนั้นมีความจำเป็นและมีความสามารถที่แตกต่างกัน ทำให้ช่วยเพิ่มรูปแบบการเล่นได้หลากหลายตามสไตล์ของผู้เล่นแต่ละคนได้มากขึ้น ซึ่งอาวุธแต่ละแบบนั้นจะมีความสามารถอะไร และสามารถตามหามาใช้ได้จากไหนบ้าง ก็ลองไปดูไกด์แนะนำในคราวนี้กันได้เลย อาวุธของ Cloud อาวุธของ Cloud นอกจากจะมีดาบ Buster Sword ขนาดใหญ่แล้ว ก็ยังมีดาบที่มีรูปร่างและความสามารถแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วระยะการโจมตีจะอยู่ที่ระยะสั้นถึงระยะกลาง และมีพลังโจมตีที่มากตามการใช้งาน โดยรวมแล้วเป็นรูปแบบการโจมตีที่ใช้ได้ง่ายและหลากหลายตามวิธีการเล่นของแต่ละคน Buster Sword วิธีได้รับ - มีติดตัวตั้งแต่เริ่ม Ability - Focused Thrust - โจมตีศัตรูด้วยการพุ่งแทงที่รุนแรง มีระยะการโจมตีในระยะกลาง สามารถช่วยเพิ่มค่า Stagger ของศัตรูได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว Iron Blade วิธีได้รับ - ได้รับตามเนื้อเรื่องใน Chapter 3 Ability - Triple Slash - พุ่งตัวเข้าไปโจมตีศัตรู 3 ตัวสลับกันอย่างรวดเร็ว (ถ้าหากมีศัตรูตัวเดียว จะทำการโจมตี 3 ครั้งแทน) Nail Bat วิธีได้รับ - ได้รับจากการทำ Side Quest - Kids On Patrol ใน Chapter 8 Ability - Disorder- เปลี่ยน Mode การโจมตีเป็นการหวดด้วยไม้แทน มีพลังโจมตีที่แรง แต่มีระยะการโจมตีที่สั้นมาก Hardedge วิธีได้รับ - ซื้อได้จากร้านขายอาวุธที่ Wall Market ใน Chapter 9 Ability - Infinity’s End - ทำการหมุนตัวและกระโดดโจมตีศัตรูด้วยความรุนแรง สามารถสร้างความเสียหายได้สูงมาก แต่ก็แลกมากับการใช้ ATB 2 เกจ  และระยะเวลาการออกท่าโจมตีที่ต้องใช้เวลา Mythril Saber วิธีได้รับ - ซื้อได้จากร้านขายอาวุธที่ Wall Market ใน Chapter 14 Ability - Blade Burst - โจมตีด้วยคลื่นพลังสามแฉก ทำให้มีโอกาสโจมตีโดนศัตรูเป็นวงกว้างมากขึ้น Twin Stinger วิธีได้รับ - ได้รับจากกล่องสมบัติใน Chapter 17 หลังจากรวมทีมกับ Barret และจัดการ M.O.T.H. Unit แล้ว จะสามารถผ่านประตูไปพบกับกล่องสมบัติ Ability - Counterstance - ทำการตั้งท่าป้องกัน เมื่อศัตรูโจมตีมา จะสวนกลับได้ด้วยการโจมตีที่แรงกว่าเดิม อาวุธของ Barret อาวุธของ Barret คือปืนกลติดแขน ซึ่งมีความสามารถในการโจมตีด้วยการยิงจากระยะไกล ช่วยให้สามารถรักษาระยะห่างในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี แต่นอกจากนั้นก็ยังมีอาวุธที่สามารถเปลี่ยนไปโจมตีในระยะประชิด เพื่อสร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง และยังมีอาวุธที่ช่วยซัพพอร์ทเพื่อนร่วมทีมได้ด้วย Gatling Gun วิธีได้รับ - มีติดตัวตั้งแต่เริ่ม Ability - Gatling Gun - ใช้เกจ ATB ทั้งหมดที่มี เพื่อชาร์จพลังโจมตีออกไปในทีเดียว สามารถช่วยเพิ่มค่า Stagger ของศัตรูได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว Light Machine Gun วิธีได้รับ - ได้รับตามเนื้อเรื่องใน Chapter 6 Ability - Lifesaver - สามารถช่วนรับความเสียหายของเพื่อนร่วมทีมได้ Big Bertha วิธีได้รับ - สามารถซื้อได้จากพ่อค้าใน Chapter 13 Ability - Maximum Fury - ใช้เกจ ATB ทั้งหมด ในการยิงปืนกลต่อเนื่อง Steel Pincers วิธีได้รับ - แลกซื้อได้จาก Moogle Emporium ใน Chapter 13 Ability - Charging Uppercut - อาวุธนี้จะเปลี่ยนไปทำให้โจมตีในระยะใกล้สามารถพุ่งเข้าไปโจมตีศัตรูด้วยความรุนแรงได้ Wrecking Ball วิธีได้รับ - ได้รับจากการทำ Side Quest Subterranean Menace ใน Chapter 14 Ability - Smackdown - อาวุธนี้จะเปลี่ยนไปทำให้โจมตีในระยะใกล้สามารถต่อยลงพื้นเป็นระเบิดที่รุนแรงได้ EKG Cannon วิธีได้รับ - ซื้อได้จากตัวละครที่จะพบเจอตามเนื้อเรื่องใน Chapter 16 ด้วยการให้เงิน 10,000 Gil Ability - Poiny Blank - ทำการติดระเบิดไว้ที่ศัตรู และทำการระเบิดอย่างรุนแรงในเวลาต่อมา อาวุธของ Tifa Tifa นั้นมีทักษะการต่อสู้ในระยะประชิด ทำให้อาวุธของเธอคือถุงมือที่ต้องใช้ระยะการโจมตีที่ใกล้มากๆ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถใช้กระบวนท่าการโจมตีที่หลากหลาย และสามารถทำคอมโบต่อเนื่องด้วยการใช้ท่าโจมตีต่อเนื่องกันได้เป็นอย่างดี Leather Gloves Gatling Gun วิธีได้รับ - มีติดตัวตั้งแต่เริ่ม Ability - Divekick - กระโดดโจมตีพุ่งเตะลงมาใส่ศัตรู สามารถกดตอนตัวละครอยู่กลางอากาศเพื่อทำคอมโบได้ Metal Knuckles วิธีได้รับ - ได้รับหลังปราบบอส Crab Warden ใน Chapter 5 Ability - Overpower - กระโดดหมุนตัวเตะใส่ศัตรู สามารถทำให้ศัตรูกระเด็น และใช้ต่อเนื่องเพื่อทำคอมโบได้อย่างรวดเร็ว Sonic Strikers วิธีได้รับ - เก็บได้จากกล่องสมบัติใน Chapter 7 Ability - Focused Strike - กระโดดถอยหลังและพุ่งตัวเข้าโจมตีใส่ศัตรู สามารถหลบการโจมตีและเพิ่มค่า Stagger ของศัตรูได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว Feathered Gloves วิธีได้รับ - เก็บได้จากกล่องสมบัติใน Chapter 10 หลังจากเปิดประตุระบายน้ำแล้วสามารถเข้าไปเก็บได้ Ability - Starshower - โจมตีต่อเนื่องสลับไปมาอย่างรวดเร็ว สามารถสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างมาก Mythrill Claws วิธีได้รับ - ได้รับตามเนื้อเรื่องใน Chapter 13 Ability - Chi Trap - สร้างคลื่นพลังทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายต่อเนื่อง Purple Pain วิธีได้รับ - เก็บได้จากกล่องสมบัติใน Chapter 16 เมื่อได้บังคับ Tifa สามารถสำรวจหากล่องสมบัติในฉากได้ Ability - True Strike - โจมตีด้วยการกระแทกอย่างรุนแรงในระยะใกล้ ช่วยเพิ่มค่า Stagger ของศัตรูได้เป็นอย่างมาก อาวุธของ Aerith Aerith นั้นมีกระบองหรือคฑาเวทมนตร์เป็นอาวุธ ทำให้รูปแบบการเล่นของเธอนั้นแทบจะเป็นการโจมตีจากระยะไกล และเป็นสายซัพพอร์ทอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเวทมนตร์ของเธอนั้นก็มีทั้งเวทย์ที่โจมตีในระยะใกล้และระยะไกล และมีเวทย์ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในระหว่างการเล่นได้ Guard Stick วิธีได้รับ - มีติดตัวตั้งแต่เริ่ม เมื่อได้บังคับ Tifa สามารถสำรวจหากล่องสมบัติในฉากได้ Ability - Arcane Ward - ทำการสร้างวงเวทย์ขึ้นมาตรงตำแหน่งยืนของตัวละครเมื่ออยู่ในวงเวทย์แล้วจะสามารถร่ายเวทย์ได้ 2 ครั้ง โดยอัตโนมัติ Silver Staff วิธีได้รับ - สามารถแลกซื้อจาก  Moogle Emporium ได้ใน Chapter 8 Ability - Sorcerous Storm - โจมตีด้วยเวทมนตร์อย่างรุนแรงใส่ศัตรูที่อยู่ในระยะใกล้ Arcane Scepter วิธีได้รับ - ได้รับจากการทำ Side Quest ใน Chapter 9 ด้วยการชนะโคลอสเซี่ยมในเควสต์ Dynamite Bodies Ability - Fleeting Familiar - เสกภูติออกมาช่วยโจมตีได้ในระยะเวลาหนึ่ง Mythrill Rod วิธีได้รับ - เก็บได้จากกล่องสมบัติใน Chapter 11 Ability - Ray of Judgment - ใช้ ATB 2 เกจ เพื่อยิงลำแสงโจมตีอย่างรุนแรง สามารถช่วยเพิ่มค่า Stagger ของศัตรูได้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว Bladed Staff วิธีได้รับ - ขโมยจากบอสรถม้าปีศาจ Eligor ใน Chapter 11 ด้วยการติดตั้ง Steal Materia และพยายามขโมยให้ได้ หากตัวละครมีค่า Luck สูง จะเพิ่มโอกาสขโมยได้มากขึ้น Ability - Ray of Judgment - สร้างกำแพงเวทมนตร์ขึ้นมา สามารถป้องกันการโจมตีได้เป็นอย่างดีมาก Reinforced Staff วิธีได้รับ - เก็บได้จากกล่องสมบัติในห้องของ Aerith ใน Chapter 17 Ability - ATB Ward - ใช้ ATB 2 เกจ เพื่อสร้างพื้นที่เวทมนตร์ขึ้นมา เมื่ออยู่ในพื้นที่นี้แล้วจะช่วยฟื้นฟูเกจ ATB ได้เร็วขึ้น

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเลยครับ สำหรับแฟนๆ เกม Resident Evil เพราะล่าสุดก็ดูเหมือนว่า Nicholai Ginovaef ที่เป็นตัวละคร Master Mind คนใหม่ที่ถูกอัปเดตเข้ามาในเกม Resident Evil Resistance จะมีความสามารถในการเรียก Nemesis ออกมาไล่ฆ่า Survivors ได้ ที่สำคัญคือ ผู้เล่นสามารถบังคับเจ้า Nemesis เองได้ด้วยครับ! แน่นอนว่าการเรียก Nemesis นั้นไม่สามารถทำได้ทันทีหลังจากเกมเริ่ม โดยผู้เล่นจะสามารถเรียกใช้งานเขาได้เร็วขึ้น หากสามารถสะกดรอย และกำจัดเหล่า Survivor ได้ ซึ่งในจุดนี้ตัว Nicholai Ginovaef เลยมีสกิลพิเศษต่างๆ เพื่อช่วยในการสะกดรอยเช่น สามารถมองทะลุกำแพงได้ เป็นต้น ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ในการเล่น 1 รอบ ผู้เล่นจะสามารถใช้ Nemesis ได้อย่างน้อย 1 ครั้งแน่นอนครับ Resident Evil Resistance เป็นเกมที่แถมมาด้วยเมื่อทำการซื้อ Resident Evil 3 Remake และตัวเกมดังกล่าวก็วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC ครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

บทความนี้อาจจะมีเนื้อหาสปอยเนื้อเรื่องของเกม Final Fantasy 7 Remake เชื่อว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่น่าจะได้สัมผัสกันไปแล้วกับเกม Final Fantasy 7 Remake เกม JRPG สุดคลาสสิค ที่คืนชีพขึ้นมาใหม่ด้วยเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้นจากเมื่อยีสิบกว่าปีที่แล้วอย่างลิบลับ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว จะมีแฟนๆ บางส่วนที่ไม่ค่อยพอใจกับช่วงตอนจบ ที่ดูจะเปลี่ยนแปลงทิศทางของเนื้อเรื่องเกมไปอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบตอนจบ เชื่อว่าทุกคนที่ได้เล่นเกมก็คงแอบรอดูภาคต่อไปของเกมอย่างจดจ่อไม่แพ้กันอย่างอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้ แม้แต่ผู้พัฒนาก็ยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าเกมภาคสองจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับร่วมสองคน คุณ Motomu Toriyama และ Naoki Hamaguchi และผู้กำกับระบบต่อสู้คุณ Teruki Endo ในหนังสือ Final Fantasy VII Remake Ultimania ที่เปิดเผยว่าในขณะนี้ เกม FF7R ภาคสองยังคงอยู่ในกระบวนการวางแผนเท่านั้น และยังไม่มีการตัดสินใจอะไรแน่นอนเกี่ยวกับเกมภาคใหม่ Here is Part 8 of the #FF7RUltimania interview with Toriyama (Co-Director), Hamaguchi (Co-Director), and Endo (Battle Director) where they talk about plans for the next installments world. Im translating this interview in random order, so parts will be uploaded sporadically! pic.twitter.com/cQAhVmD9Go — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) May 3, 2020 "เกมภาคแรกนั้นตั้งอยู่ในเมือง Midgar ทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนที่ผมรับผิดชอบในเกมภาคต้นฉบับด้วย ผมจึงจำเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน Midgar ได้ขึ้นใจเลย แต่ในเกมภาคใหม่นี้ เราจะให้ผู้เล่นได้ออกไปสำรวจนอกเมือง Midgar แล้ว ซึ่งผมยอมรับว่าตัวผมเองจำเนื้อเรื่องหลังจาก Midgar ไม่ค่อยได้แล้ว ผมจำได้ว่าพวกตัวเอกจะเดินทางไปยังเมืองที่ชื่อว่า Kalm ต่อไป แต่ระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันนี้คงต้องไปเล่นเกมดั้งเดิมทวนความจำซะก่อน" คุณ Toriyama กล่าว ด้วยสเกลของเกม ที่ถูกปรับให้กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเกมภาคต้นฉบับหลายเท่า ย่อมทำให้การออกแบบโลก Open World ของเกมภาคต่อมีความท้าทายตามไปด้วย ซึ่งคุณ Hamaguchi กล่าวว่าทีมพัฒนาอยากจะทำให้โลกของเกมมีความกว้างใหญ่ไพศาล เพื่อให้ผู้เล่นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการผจญภัยจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน โลกก็ต้องไม่ใหญ่เกินไปจนเป็นอุปสรรคกับเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นจุดสมดุลที่ทีมพัฒนายังหากันอยู่ในช่วงนี้ สุดท้ายนี้ เมื่อถูกถามถึงความคาดหวังของผู้พัฒนาต่อเกมภาคต่อไป ทางคุณ Hamaguchi กล่าวว่าเขายังคงอยากให้เกมภาคต่อไปสามารถสร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เล่นได้ไม่ต่างกับเกมภาคแรก โดยเขาอยากจะเพิ่มระบบใหม่ๆ ที่จะทำให้เกมภาคต่อแตกต่างจากเกมภาคแรก แต่จะเป็นอะไรกันแน่นั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไปอีกยาวๆ เลยจ้า! Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PS4 โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ยังไม่ได้สัมผัสเกม สามารถอ่านรีวิวของเราได้ตามลิงค์ นี้ ส่วนคนที่เล่นจบแล้ว อยากจะร่วมพูดคุยกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของซีรี่ส์ สามารถเข้าไปอ่านบทวิเคราะห์ตอนจบเกม (คลิ๊ก) และบทความเปิดประวัติตัวละคร Zack Fair (SOLDIER ผมดำในนิมิตของ Cloud) ของเราได้ ที่นี่ Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ 20 วันแล้ว ซึ่งคงต้องยอมรับว่า FF7 Remake เป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว ไม่ใช้แค่เกมเพลย์ กับเนื้อเรืองเท่านั้นที่ทำออกมาได้ดี แต่เพลงประกอบของเกมเองก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เช่นกัน ไม่ใช้เรื่องแปลกเลยที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต Orchestra โดยนำเพลงในเกมมาเล่นสดให่ฟังด้วย ซึ่งตอนแรกตัว Final Fantasy 7 Remake Orchestra World Tour มีกำหนดจะไปขึ้นแสดงในหลายๆ ประเทศช่วงปี 2020 นี้ แต่เพราะการระบาดของ COVID-19 ก็เลยดูเหมือนว่า การขึ้นแสดงจะต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 แทนในบางพื้นที่ครับ! รายชื่อของโชว์ที่ต้องถูกเลื่อนวันขึ้นแสดงออกไปเป็นปี 2021 แทนนั้นตอนนี้มี 3 โชว์ด้วยกัน ซึ่งทางเราก็ได้ทำการสรุปไว้ให้แล้วข้างล่างนี้ ว่างานไหนบ้างที่ถูกเลื่อนออกไป และเลื่อนออกไปเป็นวันที่เท่าไหร่ครับ The Los Angeles จากวันที่ 14 มิถุนายน 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 6 มีนาคม 2021 The Toronto, Ontario จากวันที่ 26 และ 27 มิถุนายน 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 20 และ 21 พฤษภาคม 2021 Singapore จากวันที่ 4 กรกฎาคม 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 23 มิถุนายน 2021 แทน Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  

Diablo 2 นั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกม Hack and Slash ระดับตำนานของโลกเลยครับ ด้วยความยอดเยี่ยมของเกมคงจะมีแฟนๆ หลายคนเลยที่รอจะได้เห็นเกมนี้อีกครั้งในเวอร์ชั่น Remake แต่มันเป็นเรื่องตลกร้ายมากเลยครับ ที่ Diablo 2 Remake ตัวแรกถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่า Modder แถมไม่ใช้ Mod ของเกม Diablo เอง แต่ Mod ดังกล่าวเป็นของเกม Grim Dawn ที่เป็นหนึ่งในคู่แข่งตัว Diablo เองครับ Mod ของ Grim Dawn ตัวนี้มีชื่อว่า Reign of Terror และถูกพัฒนาโดย Ram โดยในหัวข้อ Introduction ของ Mod ตัวนี้ได้เขียนอธิบายเอาไว้ว่า "Reign of Terror เป็น Mod ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำการ Remake Diablo 2 ภายใน Mod ตัวนี้มีการใส่เพลงประกอบ, คอนเทนต์ทั้งหมด, คลาสต่างๆ รวมไปจนถึง DLC  Lord of Destruction ของเกม Diablo 2 เอาไว้ด้วย" อย่างไรก็ตาม Mod ตัวนี้เป็นของเกม Grim Dawn ดังนั้นหมายความว่าก่อนที่จะเข้าไปเล่น Mod ตัวนี้ผู้เล่นต้องมีเกม Grim Dawn ก่อนครับ อย่างไรก็ตาม Mod ตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของเกม Grim Dawn ดังนั้นไม่มีทางที่ผู้เล่นจะได้สัมผัสประสบการณ์ รวมไปจนถึงแมคคานิคที่เหมือนกับ Diablo 2 แบบ 100% แต่นี้คือสิ่งที่ใกล้เคียงที่สุดแล้ว เท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูได้ครับ [caption id="" align="aligncenter" width="1280"] Grim Dawn จำเป็นต่อการเล่น Mod Diablo 2 Remake[/caption] Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในยุคสมัยของ PlayStation 1 วงการวีดีโอเกมก็ได้เข้าสู่ยุคสมัยของกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น ซึ่งในปี 1997 เกม Final Fantasy VII ก็ได้แสดงให้ชาวเกมเห็นถึงกราฟฟิคที่สวยงามมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหรือเมืองขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคนิคที่ไม่น่าจะทำได้ในสมัยนั้น และเกิดเป็นมาตรฐานใหม่ของเกม Final Fantasy ที่จะมาพร้อมกับภาพที่มีความสมจริงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งการกลับมาของ Final Fantasy VII Remake ในปี 2020 งานใหญ่อีกงานหนึ่งของ Square Enix ก็คือการทำให้กราฟฟิคและตัวละครของเกม ให้กลับมาในภาพที่มีความสมจริงล้ำสมัยอีกครั้ง ด้วยเทคดนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปไกลกว่าเดิม ซึ่งเบื้องหลังที่มาของการทำให้ตัวละครมีความสมจริงนั้นจะเป็นอย่างไร ก็สามารถติดตามได้ใน Inside Final Fantasy VII Remake ตอนสุดท้ายนี้ ********** อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 / อ่านตอนที่ 3 / อ่านตอนที่ 4 ********** เมื่อปี 2005 ภาพยนตร์ Final Fantasy VII: Advent Children ได้เคยแสดงให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความสมจริงของกราฟฟิค CG ที่มีตัวละครเหมือนกับคนจริงๆ มาแล้ว และถึงแม้มันจะผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่หลายคนก็ยังคงรู้สึกว่ากราฟฟิคของภาพยนตร์นั้นยังมีความสมจริงอยู่มากทีเดียว ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น คุณ Tetsuya Nomura (Director & Concept Design) จึงได้บอกว่าตัวเกมในตอนนี้นั้นเป็นกราฟฟิคที่มีความสมจริงแบบ “Remake” ซึ่งทั้ง Remake และ Advent Children นั้นถึงพยายามจะทำให้มีความสมจริงมากขนาดไหน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำให้สมจริงเหมือนกับคนจริงๆ แบบ 100% เพื่อเป็นการรักษาเสน่ห์ของตัวละครเอาไว้ ทั้งสองภาคจึงได้ทำให้มีความคาบเกี่ยวกับคนจริงๆ แบบเฉียดฉิวมากที่สุด คุณ Masaaki Kazeno (Character Modelling Director) และ คุณ Hiroyuki Nagatsuka (Lead Animator) เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการทำโมเดลของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นโมเดลของตัวละครเอกอย่าง Cloud, Barret, Aerith, Tifa และศัตรูกับมนต์อสูร ซึ่งคุณ Masaaki จะดูภาพต้นแบบตัวละครฉบับดั้งเดิมที่ดีไซน์โดยคุณ Nomura ควบคู่กับองค์ประกอบใหม่ที่ได้ถูกดีไซน์ขึ้นมาในภาคนี้ จากนั้นจึงได้นำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นสัดส่วนที่ดูมีความสมจริงมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นตัวเอกอย่าง Cloud ที่จะถือดาบ Buster Sword ที่มีขนาดใหญ่เอาไว้ เขาจึงต้องดูมีกล้ามเนื้อที่จะถือดาบได้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียวก็ตาม และจุดเด่นของตัวละครใน Final Fantasy ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือทรงผม ซึ่งพวกเขาต้องทำให้ดูแบบ 360 องศาแล้ว ก็ยังดูเป็นทรงผมที่ชี้แหลมของ Cloud ได้อยู่ ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวของตัวละครนั้น คุณ Hiroyuki จะต้องคิดว่าตัวละครแต่ละคนจะแสดงการเคลื่อนไหวแบบไหน ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต่างกัน อย่างเช่นเมื่อเวลาตัวละครอยู่เฉยๆ ก็จะเห็นแบร์เร็ตขยับแขนหรือจับแขนข้างที่มีอาวุธอยู่ ส่วนคลาวด์ก็อาจจะขยับดาบที่มีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวเอง ทางด้าน คุณ Hidekazu Miyake (Cutscene Director) ที่รับผิดชอบส่วนของฉากคัตซีน ก็ต้องทำคัตซีนขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากเกมต้นฉบับเดิม ซึ่งจะมีอีกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในส่วนนี้อย่าง คุณ Ryo Hara (Lead Animation Programmer) และ คุณ Akira Iwasawa (Facial Director) ที่เป็นผู้รับผิดชอบเป็นส่วนสุดท้าย ด้วยการทำส่วนของการแสดงสีหน้าตัวละคร ซึ่งในขณะที่ Final Fantasy VII: Advent Children ฝ่ายอนิเมเตอร์ต้องเริ่มทำภาพขึ้นมาจาก 0 โดยที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเหมือนในสมัยนี้ ซึ่งการแสดงสีหน้าตัวละครในภาค Remake นี้ ก็จะมีการใช้ Facial Capture ที่แสดงผลการตรวจจับใบหน้าได้แบบเรียลไทม์เหมือนกับ Motion Capture โดยพื้นฐานของการแสดงสีหน้าจะมี 6 แบบ คือ โกรธ, เกลียด, กลัว, ดีใจ, เสียใจ, และ ตกใจ ซึ่งทุกตัวละครจะมีการเซ็ตอัพการแสดงสีหน้าในแบบต่างๆ เอาไว้ และนำมาปรับให้เข้ากับเสียงพากย์ ทำให้การเคลื่อนไหวของปากนั้นสามารถเปลี่ยนตามเสียงพากย์ของประเทศต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติตามที่เซ็ตไว้ ทีมงานต้องการแสดงความเท่ของตัวละคร และความเป็น Final Fantasy VII รูปแบบใหม่ การเคลื่อนไหวในฉากต่างๆ จึงมีการทำงานที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ฉากแรกของเกมที่ Cloud กระโดดลงมาจากรถไฟนั้น ก็ได้ใช้นักแสดงที่เป็นนักยิมนาสติกจริงๆ มาเป็นคน Capture การเคลื่อนไหวให้ หรือตอนที่ตัวละครถูกเสกกลายเป็นกบ คุณ Hiroyuki Yamaji (Battle Animation Director) ก็ได้ทำให้กบนั้นสามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เมตร และมีการออกแบบท่าต่อยเตะในเวลาต่อสู้ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เหมือนกบจริงๆ ซะทีเดียว แต่ก็เป็นการต่อสู้ของกบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนแน่นอน อีกด้านหนึ่ง คุณ Iichiro Yamaguchi (Lighting Director) เป็นคนรับผิดชอบเรื่องการแสดงผลของแสง เขาก็ต้องทำให้มันสมดุลย์กับความ Retro และความ Modern เพื่อทำให้ผู้เล่นเก่ารู้สึกถึงโทนภาพที่คุ้นเคยในรูปแบบใหม่ได้ ซึ่งคุณ Ichiro ก็ได้บอกว่าส่วนที่ยากที่สุดคือการแสดงของแสงในเมืองสลัมของ Midgar ที่มีทั้งผู้คนและบ้านเมือง กับฉากของ Cloud และ Sephiroth ที่อยู่ท่ามกลางกองไฟ นอกจากเรื่องของกราฟฟิคตัวละคร และแสงสีต่างๆ แล้ว ก็ยังมีเรื่องของเอฟเฟ็คต์ประกอบเป็นสีสันเพิ่มเติมด้วย ซึ่งคุณ Shintaro Takai (Graphics & VFX Director) ก็บอกว่าเขารู้สึกสนุกกับการใส่เอฟเฟ็คต์เท่ๆ อย่างตอนเวลาที่ Cloud ใช้ Limit Break ที่ชื่อ “Cross Slash” เขาก็ต้องใส่เอฟเฟ็คต์ให้ตรงกับจังหวะการเคลื่อนไหว แต่ก็มีจุดที่ยากคือเหล่ามนต์อสูรที่ต้องทำให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิมมาก ยกตัวอย่างเช่น Ifrit นั้น ในเกมต้นฉบับสามารถทำให้ดูเป็นการโจมตีด้วยไฟที่ร้อนแรงได้ก็พอ แต่ใน Remake นั้นจะต่างออกไป และมีเรื่องของการเคลื่อนไหวและการโจมตีด้วย สุดท้ายนี้ คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ผู้เป็นคนริเริ่มทำโปรเจ็คต์ Final Fantasy VII Remake ก็ได้บอกว่าระหว่างการทำงานนั้นเขามีทั้งส่วนที่สนุกและมีความสุข จากการที่ได้นำผลงานที่ผ่านมาถึง 23 ปี ให้กลับมามีความสมจริงมากขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้มันจะมีเรื่องแปลกๆ อย่างการที่มีมอนสเตอร์ปลาอยู่ในตึก หรือการมีหุ่นยนตร์ รวมถึงการตกจากความสูงมากกว่า 100 เมตร แล้วยังไม่ตายอยู่บ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ยังคงเอาไว้เพื่อไม่ให้เอกลักษณ์ของเกมต้นฉบับเปลี่ยนไป และทำให้ทีมงานสนุกกับการออกแบบกัน และคุณ Kitase ก็คาดหวังให้กราฟฟิคของเกมในตอนนี้ สามารถแสดงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างสมจริง และเข้าใจความรู้สึกของตัวละครอย่าง Cloud รวมถึงให้ผู้เล่นได้สนุกกับเรื่องราวการต่อสู้กับบริษัทชินระ ภายในเมืองขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Midgar นี้ด้วย

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้ว ซึ่งคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะเล่นตัวเกมภาคนี้จนเคลียร์กันไปแล้ว หลังจากที่เล่นเกมภาคนี้จนจบคิดว่าหลายคนคงสัยสัยเลยว่าตัวเกม Part ต่อไปจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ และภาคนี้จะมีทั้งหมดกี่ Part กันแน่ โดยคำตอบของคำถามนี้ ดูเหมือนว่าแม้แต่ Producer ของเกมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมภาคนี้มันจะมีทั้งหมดกี่ Part กันแน่ครับ! ได้มีบทสัมภาษณ์กับคุณ Tetsuya Nomura ไดเรกเตอร์ของเกม และ Yoshinori Kitase ที่เป็นโปรดิวเซอร์ จากนิตยสาร Ultimania เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าตัวเกมนั้นจะมีทั้งหมดกี่ Part รวมไปจนถึงมีแผ่นการต่อไปอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องแรกที่คุณ Nomura เปิดเผยเกี่ยวกับ Part ต่อไปก็คือว่า "เราอยากให้การต่อสู้กับ Last Boss ตัวต่อไปนั้นเกิดขึ้นที่ทางหลวง Midgar และจะมีตัวละครหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งเขาจะนำไปสู่ปริศนาที่ยิ่งใหญ่กว่า" ส่วนว่าตัวเกมจะมีทั้งหมดกี่ Part นั้น คุณ Nomura ได้กล่าวว่า "มีการคาดเดากันอย่างแพร่หลายว่าเกมจะมีทั้งหมด 3 Part แต่ในความเป็นจริงก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมจะมีทั้งหมดกี่ Part" "ส่วนคำถามเรื่องว่าภาคต่อไปจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วเราอยากให้เกมมีกี่ Part กันแน่ ถ้าเราแบ่งเนื้อเรื่องทั้งหมดออกเป็นแค่ไม่กี่ส่วน เกมแต่ละภาคอาจจะยาวขึ้น แต่ก็ต้องพัฒนานานขึ้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าเราปล่อยเป็นส่วนเล็กๆ หลายส่วนแทน ก็อาจจะทำให้ปล่อยภาคต่อไปได้เร็วขึ้น ซึ่งผมเองได้แต่หวังว่าเราจะปล่อยภาคต่อไปได้โดยเร็วที่สุด" Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น (หมายเหตุ: บทความเวอร์ชั่นดั้งเดิม มีการผิดพลาดในการแปลเนื้อหาจากแหล่งข่าว ทำให้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้พัฒนาจะปล่อยเกมออกเป็นหลายส่วน ซึ่งเราได้แก้ไขเนื้อหาให้ตรงตามข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ต้องขออภัยท่านผู้อ่านที่อาจจะเกิดการเข้าใจผิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อนด้วยครับ) https://twitter.com/aitaikimochi/status/1254993181701111809?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1254993181701111809&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.vg247.com%2F2020%2F04%2F28%2Fff7r-nomura-final-fantasy-7-remake-parts%2F https://twitter.com/aitaikimochi/status/1254993741451952128 Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวที่ค่อนข้างชวนช็อคในแวดวงนักอ่านและนักเขียนพอสมควร เมื่อ คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันในนามปากกา พนมเทียน’ เจ้าของผลงานนิยายผจญภัยอมตะของไทยอย่าง ‘เพชรพระอุมา’ และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540 ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปีด้วยโรคหัวใจ ถือได้ว่าเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่แวดวงอย่างที่ไม่อาจประเมินค่าได้ [caption id="attachment_51861" align="aligncenter" width="1024"] คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ ครูพนมเทียน เจ้าของผลงานนวนิยาย เพชรพระอุมา ผู้ล่วงลับ[/caption] สำหรับผู้เขียน เพชรพระอุมา จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วย Shape เส้นทางงานตัวอักษรอยู่ไม่น้อย เพราะได้พาตัวเองไปร่วมท่องป่าล่องไพรไปกับจอมพรานอย่างรพินทร์ ไพรวัลย์และคณะ ก่อนที่จะเริ่มจับปากกาเขียนเรื่องราวของตัวเองอย่างจริงจัง แน่นอนว่าในความสมบูรณ์แบบของนวนิยายเรื่องนี้ตลอดทั้ง 48 เล่ม มันมีรูปแบบการดำเนินเนื้อหาในทฤษฎีหนึ่งอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในทางวรรณกรรมวิจารณ์อย่าง ‘ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษ’ หรือ ‘Hero’s Journey’ ที่ถูกนำมาศึกษา และปรับใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสื่อแขนงต่างๆ และแน่นอน รวมถึงชิ้นงานอย่างวิดีโอเกมก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ถ้ากล่าวโดยสั้นๆ มันคือการศึกษารูปแบบและลักษณะของเรื่องราวปรัมปรา ว่าแม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมและโครงสร้างบางอย่างที่เหมือนกันที่สามารถจัดจำแนกเป็นหมวดหมู่ได้อย่างสรุปเป็นหัวข้อได้ทั้งหมด 8 หลักใหญ่ร่วมกัน (หรือซอยย่อยออกเป็น 17 หัวข้อหลัก) ตามแผนภาพที่นำเสนอด้านล่างนี้ การศึกษาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 1871 โดย เอดเวิร์ด เบอร์เนตต์ ไทเลอร์ ที่ทำการสังเกตว่า เรื่องราวและตำนานต่างๆ ของโลกนั้น มีจุดร่วมกันบางอย่างที่มีแบบแผนและรูปแบบที่ตายตัว ก่อนที่นักวิชาการท่านอื่นๆ จะนำเอาทฤษฎีทางจิตวิเคราะห์ของทั้ง ซิกมันด์ ฟรอยด์ และคาร์ล ยุง เข้ามาใช้ร่วมกัน แต่คนที่นำเอาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษมาใช้อย่างจริงจังนั้น กลับเป็น โจเซฟ แคมป์เบิล ที่นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาใช้อย่างจริงจังในหนังสือ ‘วีรบุรุษพันหน้า (The Hero with a Thousand Faces) และสรุปเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญได้ดังต่อไปนี้ วีรบุรุษออกจากโลกธรรมดาไปสู่ดินแดนที่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่นี้เขาจะได้พบกับสิ่งชักจูงที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ และจะได้รับชัยชนะ จากนั้นเขาจะกลับมาจากการผจญภัยอันลึกลับนี้พร้อมกับพลังที่สามารถช่วยผู้ชายคนอื่นได้ แน่นอนว่าทฤษฎีดังกล่าวนี้ แม้จะมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่พ้นข้อครหาและเสียงวิพากษ์ว่า มันเป็นแนวคิดที่กว้างเกินกว่าที่จะใช้ประโยชน์ได้ในหลักการศึกษาปรัมปราวิทยาเปรียบเทียบ แต่เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันเป็นเสาหลักหรือ Foundation ที่ดีเพียงพอสำหรับการบอกเล่าเรื่องราวในสื่อชนิดต่างๆ ตั้งแต่ตำนานการเดินทางของพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ บัญญัติสิบประการของโมเสส การเดินทางไปทำลายแหวนหนึ่งเดียวของโฟรโด้ใน The Lord of the Rings และรวมถึงการเขียนเรื่องราวในสื่อแขนงใหม่อย่างเช่นภาพยนตร์ และวิดีโอเกม สำหรับสื่อวิดีโอเกมที่เติบโตและต่อยอดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นอีกหนึ่งสื่อบันเทิงแขนงหลักในรอบสี่ทศวรรษนั้น การพัฒนาการบอกเล่าเนื้อหาก็เป็นส่วนสำคัญที่ถูกให้ความใส่ใจ และการใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างความลื่นไหลในจังหวะการเล่น เพราะไม่ว่าจะเป็นการตามหาเจ้าหญิงพีชใน Super Mario Brothers, การผจญภัยข้ามยุคของภาคีมือสังหารในซีรีส์ Assassin’s Creed, การลุยฝ่าขุมนรกของ Doom Slayer ใน Doom Eternal, การผจญภัยของ Cloud Strife และผองเพื่อนใน Final Fantasy 7 Remake ไปจนถึงการเดินทางกอบกู้โลกหลังหายนะของ Aloy ใน Horizon Zero Dawn แต่สื่อวิดีโอเกมนั้นมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้สร้างต้องมีความใส่ใจกับการใช้งานทฤษฎีของวีรบุรุษที่มากกว่าสื่อบันเทิงชนิดอื่นๆ กล่าวคือ มันเป็นสื่อที่ ‘มีการตอบสนอง’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ กับผู้เสพรับอย่างตรงไปตรงมา มันคือการนำพาผู้เล่นไปสวมรับกับบทบาทและควบคุมทุกสิ่งที่เป็นไปผ่านหน้าจอในตลอดระยะเวลาหลักสิบจนถึงหลักร้อยชั่วโมง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเทียบกับสื่อที่มีธรรมชาติในการปฏิสัมพันธ์กับผู้เสพรับในทางเดียวอย่างเช่นภาพยนตร์ เพราะหน้าที่หลักของผู้สร้าง ไม่เพียงแต่จะต้องรังสรรค์โลกพื้นหลังของเกมให้มีความน่าเชื่อถือเป็น Context สำคัญ (ดังเช่นบทความชิ้นก่อนหน้านั้นที่ผู้เขียนได้ยกอ้างกล่าวถึงไปแล้ว) หากแต่ลำดับเรื่องราวและการเดินทางของตัวละครเอง ก็ต้องสมเหตุสมผลภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่กำหนด ไม่นับรวมกับ Content ที่จะต้องให้ความสนุกอย่างเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีส่วนร่วม และเชื่ออย่างสนิทใจว่า ตัวละครที่เขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันนั้น เป็นเวลาคุณภาพที่คุ้มค่ามากพอจนกว่าจะถึงปลายทาง อนึ่ง การใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษในชิ้นงานวิดีโอเกม แม้จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ผู้สร้างใช้ยึดโยงเอาไว้เป็นแก่นสำคัญ แต่ด้วยธรรมชาติของสื่อชนิดนี้เองนั้น เปิดทางให้กับการดัดแปลงและตีความได้อย่างหลากหลายสำหรับการบอกเล่าเนื้อหาและการใช้ทฤษฎีดังกล่าว เพราะมัน ‘อาจจะ’ ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบลงด้วยความผาสุกแบบ Happy Ending เสมอไป การเรียนรู้และเหตุการณ์ของตัวละครอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด การแตกสลาย และการ ‘กลายสภาพ’ ไปสู่ตัวตนใหม่ (ซึ่งก็ตรงกับหลักข้อสุดท้ายของทฤษฎี…) ดังเช่นผลงานเกมเดินหน้ายิงอย่าง Spec Ops: The Line ได้เลือกใช้ (เป็นหนึ่งในผลงานเกมเดินหน้ายิงที่แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่ผู้เขียนขอแนะนำ…) และในทางหนึ่ง ในอนาคตข้างหน้า มันกำลังจะมีผลงานที่ท้าทายทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษอย่าง Watch Dogs : Legion ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครที่ ‘หลากหลาย’ ทั้งพื้นหลัง ความเป็นมา และคุณสมบัติ มันก็น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าทีมสร้างจะสามารถผูกเรื่องราวและใช้ทฤษฎีดังกล่าวอย่างไร ภายใต้สภาพแวดล้อมเปิด และการมีจุดร่วมอย่างกว้างๆ ไม่เจาะจงตายตัว ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับผลงานชิ้นนี้ (ที่เราอาจจะต้องรอนานกว่าที่คิด จากแผนการเลื่อนการวางจำหน่ายเกมของ Ubisoft ที่ถูกผลักออกไปอย่างไม่มีกำหนด…) แต่ในท้ายที่สุดนี้ หากมองในโครงสร้างของทฤษฏีการเดินทางของวีรบุรุษที่ถูกใช้งานมาในตลอดระยะเวลาหลายสิบปีนั้น มันก็สะท้อนถึงความต้องการบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ในความปรารถนาที่จะเป็น ‘ใครสักคน’ ที่มีความสำคัญ ออกเดินทางในการผจญภัยอันไม่ธรรมดา และกลับมาพร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และสื่อวิดีโอเกม ก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดหลักนี้ให้เด่นชัดมากขึ้นโดยธรรมชาติของการปฏิสัมพันธ์และการตอบสนองของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงาน ที่สามารถควบคุม กระทำ และกำหนดทิศทางได้ด้วยตนเอง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันอาจจะเป็นวงจรอันน่าเบื่อหน่ายของการใช้ชีวิตตามกำหนดและรูปแบบที่คุ้นเคยและชินชา โดยเฉพาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ที่วิกฤติโรคร้าย COVID-19 ทำให้ทุกอย่างถูกแช่แข็งและหยุดนิ่งไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ใด และเปลี่ยนโฉมหน้าของการเล่นเกมไปในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน… และการได้สวมบทบาทเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะในรอยเท้าของรพินทร์ ไพรวัลย์กับคณะแห่งเพชรพระอุมา หรือวีรกรรมของ Big Boss (Punished Snake) ในซีรีส์ Metal Gear Solid ก็ตอบรับกับเสียงเรียกที่อยู่ภายในใจของเรา ที่ถูกปลูกฝังผ่านสื่อ เรื่องราว การบอกเล่า มาอย่างยาวนานตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตมาเป็นตัวตนในทุกวันนี้ และ ตัวเอกที่ดี ที่เรามีใจอยากเชียร์ ก็ถูกสะท้อนผ่านแนวคิดของทฤษฎีดังกล่าว ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เสมอมา... ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นการกลับมาที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งในช่วงตอนจบของเกมก็ทำเอาผู้เล่นอยากรู้เลยว่า Part ต่อไปของเกมจะมาเมื่อไหร่ แน่นอนว่ามันคงไม่ใช้เร็วๆ นี้อย่างแน่นอนที่เราจะได้สัมผัสตัวเกม แต่ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นส่วนหนึ่งของอาวุธที่จะมีให้เก็บในเกม Part ต่อไปจาก Final Fantasy 7 Remake Art Book เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ! ภายใน Art Book นั้นมีภาพ Concept Art ของอาวุธมากมาย ซึ่งบางอันเราก็ได้เห็นในเกม Final Fantasy 7 Remake ที่ออกมาแล้ว แต่อาวุธบางชิ้นที่มีอยู่ใน Concept Art นั้นไม่มีอยู่ในเกมด้วย ทำให้คิดว่าเป็นไปได้อาวุธเหล่านั้นอาจจะไปปรากฏในตัวเกม Part ต่อๆ ไป แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่ บางชิ้นอาจจะแค่ไม่ถูกนำมาใช้จริงเฉยๆ เช่นกันครับ ดูรูปต่างๆ ได้ข้างล่างนี้เลย Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 ครับ Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake นั้นวางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้ว ตัวเกมได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ซึ่งในภาคนี้ก็มีตัวละครหลายตัวเลยที่ได้ทำการเปิดตัว Red XIII เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน น่าเสียดายที่มันเป็นช่วงเวลาสั่นๆ เท่านั้นที่เราได้เขามา Guest Character ช่วยต่อสู้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าด้วย Save Editor เราก็สามารถเล่นเป็น Red XIII ในช่วงสั่นๆ ของเกมได้นั้นครับ Save Editor ตัวนี้ถูกสร้าง และพัฒนาโดย Xeeynamo ซึ่งด้วย Save Editor ตัวนี้ผูเล่นสามารถ จัดการช่องเก็บของ รวมไปจนถึง Materia และ Levels ของตัวละครได้ เหนือสิ่งอืนไดคือผู้เล่นจะสามารถควบคุม Red XIII ด้วยตัวเองได้เช่นกัน จริงๆ แล้ว Red XIII นับเป็นตัวละครหลักของเกม FF7 Remake แต่ที่เราไม่สามารถเล่นเป็นเขาได้นั้น จากคำยืนยันของคุณ Naoki Hamaguchi ทำให้ทราบว่า เป็นเพราะเหล่าผู้พัฒนาไม่มีเวลามากที่จะทำให้เขาเป็นตัวละครที่เล่นได้ครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/MP1stLara/status/1253057708976193536 Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เปิดตัวด้วยการขายได้มากกว่า 3.5 ล้านชุดภายในเวลาแค่ 3 วัน ข่าวนี้บอกเราได้เป็นอย่างดีว่ามีผู้เล่นมากมายขนาดไหนที่รอการมาของเกมนี้ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นต้นกำเนิดของเกมเอง ก็มียอดขายที่สูงถึงเกือบ 700,000 ชุดในอาทิตย์แรกเช่นกัน แต่เหมือนว่ากระแสของเกมจะไม่ได้แรงมากมายอะไรขนาดนั้นครับ เพราะในอาทิตย์ที่ 2 ของการวางจำหน่าย กลับเป็น Animal Crossing: New Horizons ที่สามารถทำยอดขายได้สูงกว่าถึง 4 เท่าครับ! Famitsu ได้เผยยอดขายเกมในอาทิตย์ก่อนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นอาทิตย์ที่ 2 ของการวางจำหน่ายเกม Final Fantasy 7 Remake ตัวเกมนั้นมียอดขายเหลือเพียงแค่ 70,652 ชุดเท่านั้นในขณะที่ทาง Animal Crossing: New Horizons กลับมียอดขายสูงถึง 286,586 ทั้งที่ตัวเกมวางจำหน่ายมมานานมากแล้ว ข่าวนี้บงบอกได้เป็นอย่างดีเลยครับว่าตัวเกม Animal Crossing: New Horizons นั้นมาแรงขนาดไหน และทำไมเครื่อง Nintendo Switch จึงขาดตลาดเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นครับ ดูอันดับยอดขายเกมอื่นๆ ได้ข้างล่างนี้ ข้างหน้ายอดขายของอาทิตย์ที่แล้ว ข้างหลังเป็นยอดขายตลอดกาลในประเทศญี่ปุ่น 01. [NSW] Animal Crossing: New Horizons – 286,586 / 3,611,246 02. [PS4] Final Fantasy 7 Remake – 70,652 / 773,505 03. [NSW] Mario Kart 8 Deluxe – 13,313 / 2,882,585 04. [PS4] Resident Evil 3 – 12,247 / 236,435 05. [NSW] Super Smash Bros. Ultimate – 9,034 / 3,655,868 06. [PS4] One Piece: Pirate Warriors 4 – 8,682 / 116,217 07. [NSW] One Piece: Pirate Warriors 4 – 8,080 / 98,912 08. [NSW] Super Mario Party – 8,005 / 1,406,903 09. [NSW] Pokemon Sword / Shield – 7,915 / 3,570,493 10. [NSW] Minecraft – 7,154 / 1,356,230 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากรอคอยมานานหลายปีในที่สุดเหล่าเกมเมอร์ก็มีโอกาสที่จะได้เล่นเกม Final Fantasy 7 Remake แล้ว โดยจากข่าวก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าตัวเกมมียอดผู้เล่นสูงถึง 2.3 ล้านคนในเวลาไม่กี่วัน ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเกมเมอร์รอการมาของเกมนี้มากขนาดไหน และวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวที่ยืนยันสิ่งนั้นครับ ล่าสุดได้มีการประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของ Final Fantasy VII Remake แล้วว่า ตัวเกมนั้นสามารถขายได้สูงถึง 3.5 ล้านชุดโดยใช้เวลาแค่ 3 วันเท่านั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เพราะมีแผ่นหลุดออกมาก่อนในบางพื้นที่รึเปล่า ตัวเกมถึงได้มียอดขายที่สูงมากๆ ขนาดนี้ แต่ผมเชื่อว่าต่อให้ไม่มีแผ่นหลุดออกมาก่อนเลย ตัวเกมก็น่าจะขายได้ประมาณนี้อยู่ดี นอกจากนี้ยอดขาย 3.5 ล้าน ในเวลา 3 วัน ยังเป็นสถิติใหม่ของเกม PlayStation 4 Exclusive ที่ขายได้เยอะที่สุดอีกด้วย (ก่อนหน้านี้เป็นเกม Spider-Man ทำยอดขายได้ 3.3 ล้านชุดในเวลา 3 วัน) เราคงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า FF7 Remake เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1252583111390408706?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1252583111390408706&ref_url=https%3A%2F%2Fgamerant.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-ps4-sales%2F Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil 3 Remake  อาจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จอีกอย่างของค่าย Capcom ที่นำซีรีส์ภาคเก่าๆของ Resident Evil มาปัดฝุ่นใหม่และทำให้ดูไฉไลยิ่งขึ้น ซึ่งถึงจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างแต่โดยรวมภาค 3 Remake นั้นถือว่าประสบความสำเร็จไปด้วยดี แต่ทว่าหากคุณเป็นแฟนคลับเดนตายที่เคยเล่นภาค 3 แบบ Original มาก่อนจะสังเกตได้ทันทีว่ามีบางอย่างขาดหายไปแล้วสิ่งที่หายไปนั้นบางอันดันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญมากซึ่ง Capcom ดันไม่เอามาใช้ในภาค Remake ซะงั้น วันนี้ผมและทาง GameFeverTH เลยจะมาเสนอเกี่ยวกับ 5 สิ่งที่ Capcom ไม่ได้เอาของจากภาคเดิม มาใช้ใน Resident Evil 3 Remake ระบบ Live Selections หนึ่งในระบบที่เรียกว่าเป็นตัวชูโรง ของ Resident Evil 3 เวอร์ชั่นดั้งเดิมเลยก็ว่าได้ โดยที่ระบบนี้จะมีตัวเลือกให้เลือกในช่วงสถานการณ์สำคัญ ซึ่งการเลือกตัวเลือกแต่ละอันของผู้เล่นนั้นจะส่งผลต่อการเล่นในภายหลังไม่ว่าจะเป็น ปริศนาหรือเส้นทางการเเดินทางบางจุดที่ถูกเปลี่ยนใหม่ หรือชะตากรรมของตัวละครบางตัว ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากที่ Capcom ไม่ได้นำระบบนี้มาใช้ในภาค Reamake เพราะด้วยความที่ตัวเกมนั้นค่อนข้างสั้นอยู่แล้วการที่นำระบบที่ทำให้ผู้เล่นอยากกลับมาเล่นโหมดเนื้อเรื่องอีกรอบอย่างระบบ Live Selections บางทีอาจะทำให้ผู้เล่นอยากกลับมาเล่นโหมดเนื้อเรื่องอีกรอบมากกว่า   ระบบผสมกระสุนแบบพิเศษ Resident Evil 3 ถือว่าเป็นอีกภาคนึงที่นำระบบใหม่มาใช้คือระบบการผสมดินปืนทำกระสุนซึ่งเป็นระบบที่ Capcom ทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถควบคุมหรือสร้างกระสุนตามความต้องการที่ผู้เล่นอยากจะใช้ รวมทั้งแก้ปัญหาเรื่องกระสุนที่มีค่อนข้างจำกัดในเกมด้วย แต่สื่งนึงที่ Capcom ลืมเอามานั้นคือ Feature การผสมกระสุนแบบพิเศษ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นผสมกระสุนประเภทเดิมเกิน 7 ครั้งตัวเกมจะมี Option ให้เลือกผสมทำกระสุนแบบพิเศษได้ โดยกระสุนแบบพิเศษนี้จะมารูปแบบกระสุนปืนพกและ กระสุนลูกซอง ที่จะมีความแรงมากกว่ากระสุนแบบปกติ แต่ด้วยเหตุผลบางประการ Capcom ก็ไม่ได้เอาระบบนี้เข้ามาใน Remake เช่นเดียวกัน ปืน Mine Thrower รู้หรือไม่ กระสุน Mine Thrower ที่เราๆเห็นกันในภาค Remake นั้นแต่เดิมมันคือกระสุนจากปืนชื่อเดียวกันนี้นั่นเองซึ่งแยกออกจากปืน Grenade Launcher โดยสิ้นเชิง ซึ่งประสิทธิภาพจะคล้ายๆ กันก็คือสามารถยิงใส่ซอมบี้หรือสัตว์ประหลาดต่าง หรือยิงใส่พื้นเพื่อใข้เป็นเหมือนกับระเบิดได้โดยที่ในภาค 3 ดั้งเดิมนั้น Jill จะได้ปืนนี้จากศพของทหาร U.B.C.S. ในหอนาฬิกาเมือง Racoon City แต่ด้วยปัญหาข้อจำกัดการใช้ช่อง Item ในภาค Remake หรือยังไงก็ไม่ทราบ Capcom ก็ไม่ได้นำเอาอาวุธนี้เข้ามาในภาค Remake แต่กลับเอาตัวกระสุนมาใช้กับปืน Grenade Launcher แทน   สถานที่สำคัญบางจุดที่ถูกตัดออกไป อีกหนึ่งสิ่งที่ Capcom ไม่ได้นำมาจากภาคดั้งเดิมและอาจะเป็นสาเหตุให้ตัวเกมภาค Remake ดูสั้นลงนั้นก็เพราะ Capcom ตัดสถานีบางจุดออกไปนั่นเองซึ่งบางจุดนั้นค่อนข้างสำคัญมากซะด้วยยกตัวอย่างเช่น หอนาฬิกานั้นแต่เดิม Jill จะต่องเข้าไปในหอนาฬิกาและก็ทำ Puzzle ต่างๆ นาๆ ข้างในและสู้กับ Nemesis ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บและได้รับการช่วยเหลือจาก Carlos ก่อนที่เขาจะพาเธอไปพักฟื้นข้างในหอนาฬิกาแล้วถึงออกไปตามหาวัคซีนให้ แต่พอหอนาฬิกามาในภาค Remake ถ้าให้พูดกันตรงๆเลยว่า Capcom ทำให้หอนาฬิกาเหลือแค่เป็นสิ่งก่อสร้างประกอบฉากในขณะที่ Jill สู้กับ Nemesis ตรงหน้าหอนาฬิกาแค่นั้นเรียกได้ว่าแทบโดนตัดออกจนแทบไม่เหลือความสำคัญเลย โหมด Mercenaries อีกเหตุผลนึงที่ผมสงสัยว่าทำไม Capcom ถึงไม่เอาโหมดเสริมที่ไว้เล่นหลังจากจบเนื้อเรื่องอย่างโหมด Mercenaries มาให้เล่น(ทั้งๆ ที่ในภาค 2 Remake ยังเอาโหมด 4th Survivor ซึ่งเป็นโหมดที่มีมาแต่เดิมของภาค 2 อยู่แล้วมาให้เล่นได้เลย) โดยที่โหมดนี้เราจะได้เล่นเป็น สมาชิกหน่วย U.B.C.S. ทั้งสามคนประกอบด้วย Carlos , Mikhail และ Nickolai โดยแต่ละคนจะมีอาวุธและของในตัวต่างกันออกไปซึ่งการเล่นจะเป็นแนวๆแข่งกับเวลาโดยต้องไปถึงจุดหมายตามที่กำหนดซึ่งต้องฝ่าดงซอมบี้และสัตว์ประหลาด(รวมถึง Nemesis)ไปให้ถึงที่หมายให้ได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่า Capcom อาจะเก็บโหมดนี้ไว้ขายเป็น DLC ในอนาคตก็เป็นได้

Resident Evil 3 ฉบับ Remake ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่เป็นกระแสมากในตอนนี้ บางคนเล่นจบไปแล้ว บางคนเล่นจบในระดับ Rank S ทั้งหมดก็มีเช่นกัน สำหรับเพื่อน  ท่านไหนที่คิดว่ายังเล่นไม่คุ้มราคาค่าเกม วันนี้พวกเรา GameFever TH มี Mod เด็ดๆ ที่น่าสนใจมาแนะนำเพื่อนๆ ให้เล่นเกมนี้แบบไม่เบื่อเร็วครับ 1.Mod ภาษาไทย By Noob - Translator สำหรับเกมเมอร์ท่านไหนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง แต่อยากที่จะรู้เรื่องราวในเกม Resident Evil 3 ในตอนนี้ก็มี Mod แปลไทยจากทีมงาน Noob - Translator ที่ได้ทำการแปลเกมนี้แบบสมบูรณ์ทั้งในหน้าเมนูต่าง ๆ รวมถึงไฟล์ต่าง ๆ ด้วย ใครที่อยากเล่นเกมให้เข้าใจยิ่งขึ้นกว่าเดิมแนะนำ Mod นี้เลย ดาวน์โหลด: facebook.com/noobTranslator 2.Ultimate Trainer for Resident Evil 3 Remake By Raz0r หากคุณเป็นเกมเมอร์ที่ฝีมือในการเล่นไม่ค่อยเก่งนักหรืออยากที่จะทดลองอะไรแปลก ๆ ในเกม Resident Evil 3 Remake เราขอแนะนำ Mod นี้ที่ได้รวมเอา Trainer หรือหากเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ คือ "การโกงเกม" นั่นเอง ซึ่ง Mod นี้ได้รวมเอากลโกงหลาย ๆ อย่างมาให้เกมเมอร์ได้ใช้อย่างครบครันไม่ต้องไปโหลดตัวอื่นเพิ่ม ดาวน์โหลด:nexusmods.com/residentevil32020/mods/9 3.True Classic Jill By Crazy Potato ใครที่เล่นเกมมาตั้งแต่ภาคต้นฉบับอาจจะคุ้นเคยกับ Jill ที่ใส่เกาะอกสีฟ้ากระโปรงสั้นพร้อมกับเสื้อกันหนาวคาดเอว แม้ว่าในภาคนี้ทางทีมงานจะเอาชุดเดิมกลับมาหากซื้อในช่วง Pre- Order แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมเสียทีเดียว ผู้เขียนก็แนะนำ Mod ตัวนี้เลย ที่คุณจะได้เล่น Jill พร้อมกับชุดแบบ Classic ให้คุณได้คิดถึงความหลัง ดาวน์โหลด:nexusmods.com/residentevil32020/mods/59 4.Every Enemy is Nemesis by fluffyquack หากคุณคิดว่าการเล่นเกมแบบธรรมดามันง่ายเกินไป ไม่ตื่นเต้นเร้าใจเสียเลย ก็ขอเชิญพบกับ Mod ที่จะเปลี่ยนให้เกมนี้ยากราวกับ Dark Soul ใน Every Enemy is Nemesis หรือศัตรูทุกตัวในเกมนี้จะเป็นเจ้า Nemesis ออกมาไล่ล่าเราอย่างโหดร้าย เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ชอบความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ดาวน์โหลด: fluffyquack.com 5.FPS by Praydog & Kanan ปิดท้ายด้วย Mod ที่ใครหลาย ๆ คนน่าจะชอบอย่างการเปลี่ยนจากมุมมอง TPS มาสู่มุมมองแบบ FPS ซึ่งจะทำให้ประสบการณ์ในการเล่นของเราเปลี่ยนไปอย่างมาก จนในบางครั้งแทบจะเป็นเกมใหม่เลยทีเดียว แม้ว่าการควบคุมและระบบอื่น ๆ จะยังคงเหมือนเดิมก็ตาม ดาวน์โหลด:github.com/praydog/RE2-Mod-Framework

Final Fantasy 7 Remake เป็นเกมที่ใครหลายคนรอคอยอยู่อย่างแน่นอน และตัวเกมก็วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 1 อาทิตย์แล้ว ซังเกตุได้ว่าตอนนี้มีคอนเทนต์มากมายเลยที่เกี่ยวกับเกม FF7R ในโลกอินเตอร์เน็ต แต่เชื่อเถอะครับว่าเกมนี้เป็นที่นิยมมากกว่าที่คิดแน่นอน เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าตัวเกมนั้นมียอดผู้เล่นสูงถึง 2.3 ล้านคน ภายในเวลาแค่ 3 วันเท่านั้นครับ! จากรายงานของ Gamestat บ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าเกมนี้เป็นที่นิยมมากขนาดไหน และไม่ใช้แค่นั้น เพราะ 2.3 ล้านคนในที่นี้ คือนับเฉพาะจำนวนคนที่ Online เท่านั้น ยังไม่นับจำนวนผู้เล่น Offline ที่ไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่อีกด้วย ส่วนว่าเกมนี้มีคนให้ความสนใจจริงๆ เท่าไหร่กันแน่ คิดเดี๋ยวคงจะสามารถดูได้จาก ยอดขายของเกม ที่น่าจะมีการเปิดเผยเร็วๆ นี้ แต่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะมากกว่า 10 ล้านไปแล้วครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake มาถึงมือผู้เล่นแล้วหลังจากที่ต้องรอกันมานาน ซึ่งตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีมากๆ เลยทีเดียว ก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นข่าวชวนอมยิ้มเมื่อ Briana White ผู้ที่เป็นคนให้เสียงพากย์ Aerith ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ถึงกับร้องไห้เมื้อได้ยินเสียงของตัวเธอเอง วันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวชวนเสียน้ำตาอีกแล้ว แต่ไม่ใช้ในทางทีดีครับ เพราะล่าสุดคุณ Keiji Fujiwara ที่เป็นคนให้เสียงตัวละคร Reno ในเกม FF7R ได้เสียชีวิตลงแล้วครับ! เกิดในวันที่ 5 ตุลาคม 1964 โดยคุณ Keiji Fujiwara ได้เริ่มเข้าสู่วงการนักพากย์ในปี 1991 ซึ่งตัวเขาก็ได้มีผลงานพากย์ไม่ว่าจะเป็นทั้งในหนัง การ์ตูน หรือเกมมากมาย โดยเข้าเป็นที่รู้จักในนามคนที่พากย์เสียงเป็น Hiroshi จากเรื่อง Shin-Chan คุณ Keiji ได้เสียชีวิตลงในวัย 55 ปี ในวันที่ 12 เมษายน 2020 ด้วยโรคมะเร็ง ขอให้คุณ Keiji Fujiwara หลับอย่างสงบด้วยครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ เกือบจะ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้คงมีหลายคนที่เล่นเกมนี้จนเคลียร์ไปแล้ว โดยจะสังเกตุได้ว่าในเวอร์ชั่น Remake นี้ เนื้อเรื่องของเกมมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรเลย หนึ่งในสิ่งที่แฟนๆ สงสัยกันมาที่สุดก็คือ "ทำไม Sephiroth ถึงปรากฏตัวออกมาเร็วกว่าภาค Original มากๆ ?" วันนี้จากบทสัมภาษณ์ กับ Co-Director ของเกมคุณ Naoki Hamaguchi และ Producer ของเกมคุณ Yoshinori Kitase ก็ได้ให้คำตอบกัยเราแล้วครับ ซึ่งเหตุผลที่ Sephiroth ปรากฏตัวออกมาเร็วมากๆ ใน FF7R นั้น คุณ Kitase ได้ให้เหตุผลว่า "มันมีเหตุผลอยู่ 2 ข้อ ที่ทำให้ Sephiroth ปรากฏตัวออกมาเร็ว โดยข้อแรก ในเวอร์ชั่น Original เราพยายามทำให้ผู้เล่นสงสัยมากที่สุดว่า Sephiroth คือใคร? ซ่อนเขาเอ้าไว้ คุณอาจจะไม่รู้แต่การปรากฏตัวของเขานั้นได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Jaws ที่นำเสนอเนื้อเรื่องด้วยการไม่เปิดเผยให้คนดูได้รู้ทันทีว่า สิ่งที่กำลังโจมตีเราอยู่คืออะไรกันแน่ แล้วใช้การเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้คนจดจำภาพนั้นเอาไว้" "แต่ในเวอร์ชั่น Remake มันไม่สามารถทำแบบนั้นได้แล้ว เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่า Sephiroth คือใคร และด้วยความที่ตัวตนของ Sephiroth เป็น อะไรที่ทีมี impact ต่อตัวเกม FF7 เป็นอย่างมาก จึงนำมาซึ่งเหตุผลที่ 2 ด้วยความที่ตัวตนของเขาเป็นอะไรที่มี impact ต่อเกมอย่างมาก เราเลยต้องทำให้แน่ใจว่า เขาจะต้องมีบทบาทเลยถึงแม้เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นเพียงแค่ช่วงแรกเท่านั้น" Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy VII ได้กลับมาอีกครั้งแล้วในฉบับ Remake ซึ่งการเป็นเกม RPG ที่อยู่คู่วงการเกมมากว่า 23 ปี ก็มีสิ่งที่เป็นมนต์เสน่ห์ของเกมอยู่ในใจของผู้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่น่าหลงใหล เกมเพลย์ที่สนุกลุ่มลึก และเพลงประกอบที่อยู่ในความทรงจำของเรื่องราวภายในเกม ********** อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 / อ่านตอนที่ 3 ********** “Inside Final Fantasy VII Remake” จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์เหล่านั้นอีกครั้ง จากเบื้องหลังของผู้ที่สรรค์สร้างเกมนี้ขึ้นมา ในจุดเริ่มต้นของ “Project Final Fantasy VII Remake” ตอนที่ 4 ซึ่งว่าด้วยเรื่องของเพลงประกอบภายในเกม โดยจะแสดงให้เห็นถึงการทำงานและความคาดหวังของเหล่าผู้ประพันธ์เพลง ที่ต้องการมอบมนต์ขลังที่ไม่เสื่อมคลายนี้ให้กับผู้เล่นทุกคน - เพลงของ Final Fantasy VII นั้นมีเพลงที่อยู่ในความทรงจำของผู้เล่นมากมาย และเพลงเหล่านั้นก็ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ในฉบับ Remake ให้ไพเราะมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหนึ่งในผู้รับผิดชอบการทำงานด้านเพลงประกอบในภาคนี้อย่างคุณ Keiji Kawamori (Music Supervisor) ก็ได้บอกว่าพวกเขามีการพูดคุยถึงฉากต่างๆ มากมาย ว่าในแต่ละฉากนั้นต้องการเพลงประกอบในอารมร์แบบไหนบ้าง - คุณ Mitsuo Suzuki (Composer) ได้เสริมถึงเพลงที่จะโต้ตอบกับผู้เล่น อย่างเช่นในเพลงประกอบบางฉากก็จะมีอยู่ 3 เวอร์ชั่น ซึ่งถึงแม้จะมีจังหวะและเมโลดี้ที่เหมือนกัน แต่ก็ได้มีการเรียบเรียงที่ต่างกัน จึงทำให้ถึงแม้จะเป็นเพลงเดียวกัน แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันไปในแต่ละฉาก ซึ่งคุณ Mitsuo ก็ได้เปรียบการทำงานในส่วนนี้ว่าเขาเหมือนเป็น DJ ที่ต้องเล่นเพลงให้เข้ากับบรรยากาศในตอนนั้น - คุณ Masashi Hamauzu (Composer) ได้พูดถึงเพลงที่แตกต่างกันในแต่ละฉากว่ามันจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึกในระหว่างการเล่น อย่างเช่นการทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น หรือเพลงที่ทำให้เข้าถึงบรรยากาศในตอนนั้น คุณ Keiji จึงได้ยกตัวอย่างเพลง “Aerith Theme” ซึ่งในต้นฉบับนั้นจะมีแค่เวอร์ชั่นเดียว แต่ในคราวนี้จะมีทั้งเพลงในเวอร์ชั่นต่างๆ อย่างการใช้ในฉากที่สนุกสนาน ฉากที่รู้สึกเศร้า หรือฉากในชีวิตประจำวัน - การทำเพลงประกอบในเกมต้นฉบับนั้น มีข้อจำกัดทางด้าน Hardware ในสมัยนั้นอยู่ แต่ในปัจจุบันนั้นสามารถพัฒนาเพลงประกอบให้เข้ากับคัตซีนของเกมได้มากขึ้นแล้ว และนอกจากเพลงประกอบและคัตซีนที่เคยมีในต้นฉบับจะถูกปรับปรุงใหม่ ในเกมเวอร์ชั่น Remake ก็ยังมี เพลงประกอบใหม่และฉากคัตซีนใหม่ๆ มาควบคู่กันด้วย - สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการบรรเลงเพลงขึ้นมาใหม่ ก็คือส่วนทำนองของเพลง ซึ่งในปัจจุบันนั้นการเล่าเรื่องผ่านคัตซีนมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่มีบทพูดประกอบเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องทำให้ทำนองของเพลงสามารถเข้ากับเหตุการณ์ในฉากนั้นได้เป็นอย่างดีที่สุด และในเวอร์ชั่น Remake นี้ก็ยังได้คุณ Nobuo Uematsu มาช่วยแต่งเพลง Theme Song ของเกมด้วย ทำให้คุณ Keiji รู้สึกดีใจมาก และคิดว่าคุณ Uematsu คือคนที่ขาดไปไม่ได้สำหรับ Final Fantasy VII ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้แต่งเพลงในฉบับดั้งเดิมแล้ว คุณ Uematsu ก็ยังช่วยให้คำแนะนำหลายๆ อย่าง ในการแต่งเพลงฉบับ Remake ด้วย - นอกจากเรื่องของเพลงประกอบแล้ว ส่วนที่ขาดไปไม่ได้ระหว่างการเล่นเกมก็คือเสียงประกอบ ซึ่งในส่วนนี้คุณ Makoto Ise (Soud Director) ก็ได้บอกว่าพวกเขามีการคิดค้นระบบที่เรียกว่า Masts ขึ้นมา ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถใส่เสียงการเคลื่อนไหวให้กับตัวละครหรือเสียงต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งถึงแม้จะฟังดูเป็นระบบที่สะดวกสบาย แต่ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากเหมือนกันในการคิดระบบนี้ขึ้นมา และพวกเขาก็ยังต้องเริ่มจากการบันทึกเสียงประกอบใหม่ทั้งหมด อย่างเช่น เสียงของอาวุธหรือเสียงวัตถุมากมายที่มีอยู่ในเกม - คุณ Masashi ได้เคยร่วมร้อง chorus ในเพลงประกอบของ Sephiroth ของเกมต้นฉบับมาก่อน นั่นจึงทำให้เป็นงานแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมกับคุณ Uematsu ซึ่งจากตอนนั้นมาก็มีเพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันอยู่มากมายจนถึงทุกวันนี้ แต่คุณ Keiji ก็อยากจะแสดงให้แฟนๆ รุ่นใหม่เห็นด้วยว่าเพลงของ Final Fantasy VII นั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน และหวังว่าทุกคนจะสนุกกับเพลงประกอบที่เปลี่ยนไปในฉากต่างๆ โดยที่ยังคงมนตร์สเน่ห์ของ Final Fantasy VII ได้สำหรับคนทุกกลุ่มไม่เสื่อมคลาย

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ 5 วันแล้ว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการกลับมาของสุดยอดเกม JRPG นี้ทำให้เราเหมือนได้ย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งยังมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน แต่จะมีสักกี่คนที่ได้มีโอกาสเป็นผู้ให้เสียงพากย์ของตัวละครหลักในเกมแบบนี้ แล้วยังมีโอกาสได้เล่นเกมดังกล่าวแล้วฟังเสียงพากย์ของตัวเองไปด้วย? อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้เห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นคนให้เสียงพากย์ของตัวละคร Aerith แล้วครับ! Briana White คือชื่อของคนที่เป็นคนให้เสียงพากย์ภาษาอังกฤษของตัวละคร Aerith โดยตัวของเธอเองก็เป็นทั้ง YouTuber และ Twitch streamer ด้วย แน่นอนว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เล่นเกม FF7R ด้วยเช่นกัน ซึ่งพอมาถึงฉากที่ Cloud ได้พบกับ Aerith ครั้งแรก เพียงแค่ได้ยินเสียงที่เธอเป็นคนพากย์เอง Briana ก็ได้ร้องไห้ออกมา รับชมภาพวินาทีสุดประทับใจได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/TheStrangeRebel/status/1249894432976957440?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249894432976957440&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.ign.com%2Farticles%2Ffinal-fantasy-7-remake-watch-aerith-voice-actor-hear-herself-for-the-first-time Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

นี่คือบทที่สามกับการแปลคลิปวิดีโอ Inside ของเกม Final Fantasy VII Remake ที่ในครั้งนี้จะทำการเล่าถึงระบบการเล่นรูปแบบใหม่ของเกมสุดสมบูรณ์แบบที่แตกต่างจากภาคก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังได้นำระบบเก่าอย่าง ATB (Active Time Battle) เข้ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว นี่คือการเล่าจากผู้พัฒนาโดยตรง จะเป็นอย่างไรไปตามพวกเรา GameFever TH มาครับ อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 - ระบบการเล่นแบบดั้งเดิมของ Final Fantasy VII ฉบับดั้งเดิมนั้น เป็นระบบเลือกคำสั่งโจมตีแบบ Turn-Base แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบแอ็คชั่นใน Final Fantasy VII Remake นั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ได้บอกว่าเขาต้องการให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์จากเกมเพลย์ในรูปแบบใหม่ ด้วยระบบการเล่นที่ทำให้รู้สึกถึงความพึงพอใจ และยังคงความเป็น RPG ด้วยระบบ ATB (Active Time Battle) ของตัวเกมต้นฉบับ ในการเลือกคำสั่งการกระทำเอาไว้ - คุณ Tetsuya Nomura (Director & Concept Design) บอกว่าเมื่อคิดถึงเกมที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นมากที่สุด เขาก็พบว่าในปัจจุบันนี้มีผู้เล่นเกมแอ็คชั่นกันเยอะมากขึ้น ซึ่งความสำคัญของเกมแอ็คชั่นนั้นก็อยู่ที่การบังคับตัวละครแบบ Real-Time แต่สำหรับความเป็นเกม Final Fantasy ก็จำเป็นต้องมีเกจการกระทำต่างๆ โดยเฉพาะ Final Fantasy VII แล้วจะขาดเกจ ATB และระบบ Materia ไปไม่ได้เลย พวกเขาจึงได้นำสิ่งที่กล่าวไว้มาผสมกัน และปรับปรุงให้มีความสมดุลย์กับระบบการเล่นของเกมมากที่สุด - คุณ Teruki Endo (Battle Director) และคุณ Naoki Hamaguchi (Co-Director (Game Design Programing)) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดีไซน์เกมเพลย์ ได้กล่าวถึงการนำระบบการเลือกคำสั่งและระบบ ATB มาใช้ในปัจจุบัน ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นมีอยู่ในเกมฉบับดั้งเดิม แต่เมื่อนำมาใช้กับเกมแอ็คชั่น จึงเป็นเป้าหมายแรกของพวกเขาที่ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เข้ากับสไตล์การเล่นของเกม และทำให้มีความทันสมัยโดยที่แฟนเกมรุ่นใหม่กับแฟนเกม RPG รุ่นก่อน สามารถเล่นเกมนี้ไปด้วยกันได้ - พื้นฐานของเกมแอ็คชั่นนั้นจะเห็นได้ว่ามีทั้งเรื่องของการควบคุมตัวละคร การหมุนมุมกล้องได้อย่างอิสระ หรือการกดปุ่มโจมตี แต่จุดที่ลำบากที่สุดนั้นคือการทำต้องกำหนดว่าตัวเกมนั้นจะมีความแอ็คชั่นถึงขนาดไหน และการใช้ ATB แบบไหนถึงจะรู้สึกสนุกที่สุด ซึ่งพวกเขาต้องทดลองสร้างศัตรูขึ้นมาหลายๆ แบบ เพื่อทดลองว่าเกมเพลย์นั้นสามารถเล่นได้กับศัตรูทุกแบบในเกมจริงๆ - คุณ Kitase เสริมว่าภายในเกมเพลย์ของ Final Fantasy VII Remake ที่เป็นเกมแอ็คชั่นนั้น เมื่อทำการเปิดเมนู Command แล้ว จะตัดเข้าสู่ระบบ Tactical Mode ซึ่งตัวเกมจะเข้าสู่ภาพสโลว์โมชั่นระหว่างการต่อสู้ เพื่อให้สามารถมีเวลาคิดและเลือกคำสั่งที่จะทำได้ นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดการเล่นที่ชื่อว่า Classic Mode ที่ตัวละครจะทำแอ็คชั่นโจมตีแล้วให้ผู้เล่นได้เลือกคำสั่งเพิ่มเติม ซึ่งทั้งสองระบบนี้ทำมาเพื่อรองรับผู้ที่เล่นเกมแอ็คชั่นไม่เก่งนั่นเอง - อีกหนึ่งจุดเด่นที่ยังไม่หายไปใน Final Fantasy VII Remake ก็คือระบบ Limit Break หรือระบบท่าไม้ตาย ซึ่งเมื่อตัวละครได้รับความเสียหายที่มากพอจนทำให้เกจ Limit เต็ม ก็จะสามารถใช้ท่าโจมตีพิเศษของแต่ละตัวละครได้ได้ ส่วนระบบ Materia นั้นก็ได้ถูกพัฒนาขึ้น และมันยังได้มีการพูดถึงมากขึ้นในเนื้อเรื่องของเกมด้วย - คุณ Tomotaka Shiroichi และ คุณ Kosuke Sakane (Lead Battle Designer) ได้เล่าถึงจุดเด่นของการต่อสู้กับ Boss ในเวอร์ชั่น Remake ว่ามีอยู่ 2 อย่าง โดยอย่างแรกคือระบบ Phase ซึ่งเมื่อบอสถูกโจมตีจนได้รับความเสียหายไปถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีคัตซีนเปลี่ยนเข้าสู่ Phase 1, 2, 3 ที่จะทำให้บอสเก่งขึ้นตามลำดับและเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ของการต่อสู้ และอีกส่วนที่สำคัญคือการสร้างบอสที่ตัวใหญ่ออกมาให้มีการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกดดันได้มากกว่าตัวเกมต้นฉบับที่เป็น Turn Base RPG และได้เรียนรู้วิธีการต่อสู้จากการเล่นจากการเคลื่อนไหวมากขึ้น - ระบบ Materia ยังมีความจำเป็นในการใช้ต่อสู้กับบอสมากขึ้น โดยมันจะทำให้ผู้เล่นได้ลองผิดลองถูกว่าการใช้ Materia แบบไหน ถึงจะเหมาะสมกับการเล่นและการสู้บอสแต่ละตัว ส่วนระบบ Summon หรือระบบอัญเชิญมนตร์อสูรนั้น คุณ Hidekazu Miyake (Cutscene Director) ก็ต้องคำนึงถึงการปรากฎตัวของมนตร์อสูรที่ออกมาในสถานที่ที่แตกต่างกันไป เพราะในขณะที่ตัวเกมต้นฉบับนั้นจะอัญเชิญมนตร์อสูรออกมาโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ในเวอร์ชั่น Remake มนตร์อสูรจะปรากฎตัวได้ทั้งในฉากที่มีพื้นที่แคบและพื้นที่กว้าง และมาต่อสู้กับบอสร่วมกับผู้เล่นด้วย - นอกจากระบบต่อสู้แล้ว ใน Final Fantasy VII Remake ก็ยังมีส่วนการเล่นอื่นๆ อย่างเช่น Sub-Quest หรือ Mini Game ที่คุณ Naoki ต้องคิดว่าเขาจะใส่ไปตรงส่วนไหนของเนื้อเรื่องโดยไม่ทำให้การดำเนินเนื้อเรื่องของเกมเสียไป ซึ่งมันจะมีช่วงที่ให้ผู้เล่นได้มีเวลาไปทำสิ่งเหล่านั้นอย่างอิสระ และได้พบกับความสนุกในเมือง Midgar ที่เพิ่มมากขึ้น ไม่แพ้จากในตัวเกมต้นฉบับเลย

นิตยสาร Famitsu ของประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer ของเกม Final Fantasy VII Remake คุณ Yoshinori Kitase ซึ่งกล่าวถึงตอนจบของเกม โดยคุณ Kitase ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ทั่วโลกที่ร่วมกันสนับสนุนเกม และยังแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นเต้นต่อท่าทีและความเห็นที่แฟนๆ จะมีต่อตอนจบของเกม และอนาคตของซีรี่ส์ Final Fantasy VII Remake ต่อไปในอนาคต "สำหรับแฟนๆ ที่เฝ้ารอเกมนี้มา 23 ปี ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสทำให้ความหวังของทุกท่านได้เป็นจริง เกม FF7R อาจจะเป็นเกมเต็มตัว ที่สามารถสนุกได้ในตัวของมันเอง แต่มั่นใจได้เลยว่าเรื่องราวของเกมยังไม่จบง่ายๆ แน่นอน สำหรับเกมภาคแรกนี้ เราได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเป็นไปได้อันยิ่งใหญ่ของซีรี่ส์ในอนาคต และเราได้แทรกคำใบ้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะตามมาไว้ในเกมมากมาย ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป ในส่วนตัวผมเองรู้สึกตื่นเต้นมากว่าแฟนๆ จะมีทฤษฏีสนุกๆ อะไรมาถกเถียงกันทางสื่อโซเชี่ยล ผมและทีมงานจะยังคงรับฟังความเห็นของทุกคน เพื่อให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของเกมในอนาคต" ผู้ที่ติดตามเกม Final Fantasy VII ภาคต้นฉบับมาตลอลด อาจจะรู้สึกผิดหวังกันบ้าง ที่เกมภาค Remake จะเปลี่ยนแปลงทิศทางไปจากที่หลายๆ คนคาดหวังเอาไว้ แต่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบทิศทางใหม่ของผู้พัฒนา ก็ปฏิเสธยากว่าอนาคตของเกมภาค Remake นั้นน่าจับตามองเป็นอย่างมาก Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PS4 เท่านั้น สำหรับคนที่สนใจเกม สามารถอ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่ หรืออ่านเคล็ดลับต่างๆ สำหรับการเล่นเกม ที่นี่ Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ซีรีส์เกม Resident Evil กลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเหล่าผู้เล่นมาเป็นเวลา 2 ปีติดกันแล้ว ซึ่งทั้งสองภาค Resident Evil 2 Remake และ Resident Evil 3 Remake ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ล่าสุดก็เพิ่งจะมีข่าวลือว่า ภาคต่อไปที่จะถูกเอามาทำเป็นภาค Remake ก็คือ Resident Evil 4 โดยมีกำหนดจะวางจำหน่ายในปี 2022 ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวลือที่สนับสนุนว่า Resident Evil 4 Remake กำลังถูกพัฒนาอยู่จริงๆ ครับ! AestheticGamer aka Dusk Golem ได้ทำการปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับ Resident Evil 4 Remake ออกมาผ่าน Twitter โดยข้อมูลที่เขาปล่อยออกมามีจุดสำคัญอยู่หลายจุด ผู้เขียนจึงได้ทำการสรุปให้เข้าใจง่ายๆ เอาไว้แล้ว สามารถอ่านได้ข้างล่างนี้เลยครับ Resident Evil 4 Remake กำลังถูกพัฒนาอยู่จริง โดย Capcom พยายามที่จะเอาเกมมาวางจำหน่ายให้ได้ในปี 2022 M-Two เป็นผู้นำในการพัฒนา RE4 Remake จริง และทีมในการพัฒนาตอนนี้ก็ใหญ่กว่าตอน RE3 Remake มาก ภาคต่อไปที่จะวางจำหน่ายคือ Resident Evil 8 อย่างแน่นอน Resident Evil 4 Remake จะเป็นเกมที่วางจำหน่านหลังจากนั้น Shinji Mikami รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับโปรเจคนี้จริง ส่วนเหตุผลที่เขามาเป็นผู้นำในการพัฒนาไม่ได้ เป็นเพราะว่าติดโปรเจค GhostWire อยู่ จนถึงตอนนี้ข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาโดย Dusk Golem เรียกได้ว่าถูกต้องอยู่บ่อยครั้งมากๆ ดังนั้นความนาเชื่อถือของข่าวลือนี้จึงนับว่าสูงพอสมควร แต่อย่างไรมันก็เป็นแค่ข่าวลือ ยังไงคงต้องรอการประกาศจากทาง Official อีกครั้งครับ https://twitter.com/AestheticGamer1/status/1249474868023676934?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249474868023676934&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Fresident-evil-4-remake-has-reportedly-been-in-development-since-2018 https://twitter.com/AestheticGamer1/status/1249475635690364929?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249475635690364929&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Fresident-evil-4-remake-has-reportedly-been-in-development-since-2018 https://twitter.com/AestheticGamer1/status/1249476310335770624?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249476310335770624&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Fresident-evil-4-remake-has-reportedly-been-in-development-since-2018 https://twitter.com/AestheticGamer1/status/1249476838650286080?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249476838650286080&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Fresident-evil-4-remake-has-reportedly-been-in-development-since-2018 Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

‘เมื่อคุณนั่งอยู่กับสาวสวยสองชั่วโมง มันดูผ่านไปรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที แต่เมื่อนั่งบนเตาไฟไม่กี่นาที มันดูยาวนานราวชั่วโมง’ ประโยคนี้ คือคำอธิบายสุดคลาสสิคของทฤษฏีสัมพัทภาพ (Theory of Relativity) อันเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของทฤษฏีฟิสิกส์ดาราศาสตร์ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สุดยอดนักวิทยาศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 ที่ใช้บรรยายเรื่องยากให้สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพได้ภายในประโยคเดียว (ตามวิสัยที่แกเป็นนักวิทยาศาสตร์สุดเฟื่องและขึ้นชื่อในเรื่องอารมณ์ขันอันรุ่มรวยที่ช่วยให้โลกวิทยาศาสตร์ไม่เป็นยาขมไหม้ในลำไส้ไปเสียก่อน...) แน่นอนว่าผู้เขียนไม่ได้จะพาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจในเรื่องของฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (เพราะมันคงกินโควต้าหน้าบทความจนเกินไป รวมถึงไม่มีความเข้าใจในเชิงลึกด้วยสติปัญญาที่แม้แต่ตารางธาตุก็ยังจำไม่ได้...) แต่กำลังจะเกริ่นนำถึงสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว ใช่แล้ว มันไม่ใช่สิ่งอื่นใด หากแต่เป็น ‘วิดีโอเกม’ ที่เรารักและคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เหล่านี้ เป็นประสบการณ์ที่เราต่างพบเจอกับสภาวะเวลาไหลผ่านกันมาแล้วนักต่อนัก ไม่ว่าจะปรากฏการณ์ ‘ขออีกตา’ ในซีรีส์ Civilization ไปจนถึงการทุ่มเทเวลาอย่างสมบุกสมบันในเกมสวมบทบาทอย่าง The Elder Scrolls ในแต่ละภาค (ที่อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำในการจบหนึ่งรอบการเล่น ไม่นับการดัดแปลงด้วย Mod และเนื้อหาเสริมอีกจำนวนมหาศาลให้เลือกเล่น…) นั่นคือคุณสมบัติของวิดีโอเกมที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องเคยผ่านมันมาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย กระนั้นแล้ว ภายใต้สภาวะการไหลผ่านของเวลาที่รวดเร็วโดยไม่รู้ตัวเมื่อพาตนเองจมอยู่กับความสนุกของชิ้นงานเกม มันได้กลายมาเป็นคำถามสำคัญว่า  แท้จริงแล้ว ‘ความยาว’ ที่เกมหนึ่งๆ ควรจะมีนั้น สำคัญมากน้อยแค่ไหนในโลกยุคปัจจุบัน? แน่ล่ะ เราอาจจะอนุมานเอาได้ว่า ยิ่งมากก็ยิ่งดี เมื่อพิจารณาในแง่ของความคุ้มค่าของชิ้นงานต่อราคาที่ผู้เล่นจะต้องจ่ายเพื่อให้ได้ความสนุกที่ว่า (ที่ราคาเกมออกใหม่ก็มักอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในปัจจุบัน…) แต่มันก็ยังคงมีความลักลั่นอยู่ ภายใต้การหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความยาวของเกม กับประสบการณ์ที่ผู้เล่นจะได้รับในชิ้นงานนั้นๆ (เพราะวิดีโอเกม คือสื่อความบันเทิงชนิดหนึ่ง การที่เราจะถือเรื่องจำนวนเป็นประกาศิตราวกับว่าเป็นแพ็คม้วนกระดาษชำระ ห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า หรือยกโหลน้ำยาปรับผ้านุ่มก็คงจะเป็นการเทียบที่ผิดฝาผิดตัวไปสักนิด…) เช่นนั้นแล้ว ความลักลั่นของคำถามเหล่านี้จะไปจบลงที่จุดไหน? และหนทางแบบใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชิ้นงานเกม? ผู้เขียนเองก็มีประสบการณ์การเล่นเกมมาไม่น้อย เคยผ่านเกมที่เล่นอย่างยาวนานซ้ำไปซ้ำมาด้วยจำนวนเวลานับร้อยชั่วโมง หรือประสบการณ์กับเกมอินดี้สัญชาติเบลเยียม ที่มีจำนวนเวลาการเล่นสั้นที่สุดเพียง 5 นาทีจบในสนนราคา 99 บาทไทย (และเป็นสิ่งที่จดจำลืมไม่ลงเพราะไม่เคยเจอชิ้นงานแบบ Experimental เช่นนี้มาก่อนในชีวิต เป็นความเหวอที่ฝังใจไปอีกนาน…) และได้ข้อสรุปกับตนเองเอาไว้อย่างหนึ่งว่า บางที จำนวนเวลาอาจจะไม่ได้สำคัญมากนัก ตราบเท่าที่มันยังมี ‘คุณภาพ’ ของการใช้เวลานั้นๆ ได้อย่างครบถ้วน เพราะไม่ว่าจะเวลานับพันกว่าชั่วโมงในรอบเจ็ดปีที่ผู้เขียนทุ่มเทลงไปในเกมออนไลน์อย่าง Final Fantasy XIV Online หรือเวลาไปกว่าสองร้อยชั่วโมงกับ XCOM2 ผ่านการเล่นซ้ำห้ารอบ ทั้งหมด ถ้าเราได้รับความสนุกจากมัน ถ้ามันเคารพเวลาที่เรามีให้ และเป็นความคุ้มค่าที่ผ่านการ Crafted เป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่ผู้สร้างได้พิจารณาแล้วว่า เป็นจำนวนเวลาที่เหมาะสมสำหรับประสบการณ์การเล่นนั้นๆ เรื่องจำนวนเวลาหรือความยาวเกมอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญที่ต้องเอามาใส่ใจ กระนั้นแล้ว ไม่ใช่ทุกชิ้นงานจะสามารถเข้าถึงสมดุลระหว่างปริมาณและคุณภาพได้อย่างเหมาะสม หลายเกมเลยทีเดียว ที่โฆษณาตนเองเอาไว้ว่ามีจำนวนชั่วโมงการเล่นที่ยาวนานนับร้อยชั่วโมง ก็เป็นเพียงกิจกรรม Sandbox ซ้ำๆ หรือภารกิจที่น่าเบื่อหน่ายที่ถูกวนเวียนมาให้ทำอย่างไม่รู้จบ มีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องที่ถูกใส่เข้ามาอย่างมากมายเพียงเพื่อจะได้เอามาทบเป็นจำนวนชั่วโมงที่ยาวนาน ให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความคุ้มค่าต่อราคาที่ต้องจ่ายไปมากที่สุด ที่กลับกลายมาเป็นความทรมานและไม่หลงเหลือสิ่งใดให้จดจำ หรืออยากจะกลับไปเล่นมันซ้ำอีกครั้ง (หรือที่สำนวนภาษาอังกฤษใช้ว่า wear out of ones welcome หรือนานเกินกว่าความจำเป็น...) แน่ล่ะ เรื่องของสนนราคาเองก็เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาในความคุ้มค่าที่ผู้เล่นจะได้รับจากการจับจ่ายซื้อหามันมาเล่น (ที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้นตามขนาดของอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด) แต่ก็อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ถ้าเกมนั้นมีปริมาณความยาว เพื่อสักแต่ว่าจะยาว แต่เต็มไปด้วยคุณภาพที่ย่ำแย่ ปัญหาทางเทคนิคอย่างมากมาย หรือมีเนื้อหาที่น่าเบื่อหน่ายไม่ชวนให้จดจำ การจะทุ่มเทเล่นมันคงไม่ต่างอะไรกับการบำเพ็ญเพียรทุกกรกิริยาที่ไม่น่าจะพาเราไปถึงการรู้แจ้งอะไรมากมายนัก และเราก็คงรู้สึกเหมือนเอาเงินไปโปรยทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์เสียมากกว่า (และในทางกลับกัน เกมที่สั้นจนเกินงามในสนนราคาที่ไม่เหมาะสมก็ถือเป็นจำเลยในคดีนี้ได้อย่างไม่ต่างกัน...) อนึ่ง ผู้เขียนคงไม่ขอไปชี้ขาดตัดสินในเรื่องของการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพของพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านแต่ละท่านว่าจะเลือกใช้เวลาไปกับชิ้นงานใด หรือเกมไหน ที่มีความคุ้มค่าในจำนวนเวลาที่มันมอบให้ (เพราะมันเป็นเรื่องที่อัตวิสัยความคิดใครความคิดมันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว…) แต่สำหรับผู้สร้างแล้ว พวกเขาทั้งหลายต่างก็มุ่งหมายใจที่จะมอบประสบการณ์อันมีความหมาย ความสนุกสนานที่พร้อมจะมอบให้ และจำนวนเวลา ก็เป็นตัวแปรผันตรงที่ทีมสร้างได้พิจารณาเอาไว้แล้วว่า มัน ‘อาจจะ’ เหมาะสมภายใต้เงื่อนไขและโจทย์ดังกล่าว ซึ่งในบั้นปลายแล้ว ก็ต้องเป็นผู้เล่น ที่จะเป็นคนตัดสินว่า ความยาวที่ชิ้นงานเกมหนึ่งๆ ได้มอบให้ มีความสนุกคุ้มค่ามากแค่ไหน ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมเสริมอย่างราคาและคุณภาพของเกมการเล่น ในตอนนี้ ผู้เขียนพึ่งจบภารกิจของ Persona 5 Royal ด้วยจำนวนเวลา 140 ชั่วโมงไปหมาดๆ ซึ่งแม้ว่ามันจะยาว แต่ก็เป็นความยาวที่คุ้มค่า เป็นงานสร้างที่ผ่านการคิดคัดสรรค์เป็นอย่างดี เป็นงานระดับ ‘Crafted’ ชั้นเยี่ยมที่จะติดตรึงฝังทนในความทรงจำไปอีกนาน และวาดหวังเอาไว้ว่า Final Fantasy VII Remake ที่พึ่งได้แผ่นมา จะมอบประสบการณ์ที่ดีไม่แตกต่างกัน รวมทั้ง Resident Evil 3 Remake ที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตารู้กับมือ ว่ามันจะคุ้มค่าแม้จะถูกครหาเรื่องเวลาการเล่นมากน้อยแค่ไหน เพราะเช่นเดียวกับทฤษฏีสัมพัทภาพของไอน์สไตน์ เราต่างพึงพอใจที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพไปกับสิ่งที่ดี ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม และให้ความบันเทิงเริงใจ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด นั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการเล่นวิดีโอเกม เพราะ ‘ความสนุก’ ก็ยังเป็นสิ่งที่ใช้ชี้ขาดได้ในบั้นปลายท้ายสุด ที่มันควรจะทำให้เรารู้สึกราวกับนั่งคุยกับสาวสวยที่ช่วยให้เวลาไหลผ่านอย่างรวดเร็ว มากกว่าต้องไปนั่งบนเตาไฟอย่างไม่รู้ว่าความทรมานที่แม้เพียงสักนาทีก็ถือว่าเกินกว่าจะทนได้จะจบลงเมื่อใด...  

วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับเกม Final Fantasy VII Remake เกมที่คืนชีพตำนาน JRPG อันเป็นที่รักยิ่งของเกมเมอร์ทั่วโลก ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ด้วยระบบเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่ใหญ่และใหม่กว่าเดิม ให้เหล่าผู้เล่นเก่าได้มีโอกาสหวนคืนสู่นคร Midgar ให้หายคิดถึง และยังเป็นการแนะนำผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ให้รู้จักกับหนึ่งในเกมที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกมยุคใหม่ถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ได้เล่นเกมมาแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่) แม้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะไม่ได้มีระดับความยากมากมายอะไรเป็นพิเศษ (อย่างน้อยก็ในโหมด Normal ที่ผู้เขียนเล่น) แต่ก็มีเคล็ดลับหลายอย่างที่ถ้าผู้เขียนรู้มาก่อนจะเริ่มเล่น ก็คงจะทำให้เล่นเกมง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่เรากำลังทำความเข้าใจกับระบบต่อสู้ของเกม ด้วยประการฉะนี้ ผู้เขียนจึงอยากจะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ ไม่กี่ข้อ ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้เอาไว้ จะได้เล่นเกมอย่างไร้กังวลที่สุดจ้า! อย่าลืมใช้สกิล! อันนี้อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องที่ไม่น่ามาบอกกัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับผู้เขียน ด้วยความที่ระบบต่อสู้มีความเป็นเกมแอคชั่นสูง ทำให้บางครั้งผู้เขียนมัวแต่ง่วนกับการเล่นเกมให้เป็นเกมแอคชั่น เช่นการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีศัตรู หรือการทำคอมโบ ซึ่งส่งผลให้การต่อสู้กับศัตรูบางชนิดที่ควรจะง่ายและรวดเร็ว กลับกลายเป็นใช้เวลาและเลือดเนื้อ/ไอเทมมากกว่าที่จำเป็น ยิ่งในชั่วโมง-สองชั่วโมงแรกของเกมยิ่งต้องระวังไม่ให้ติดเป็นนิสัย เพราะศัตรูส่วนใหญ่จะยังอ่อนแอพอให้ฆ่าด้วยการโจมตีธรรมดาได้ แต่พอพ้นจากนั้นไป จะต้องพึ่งพาสกิลในแทบจะทุกการต่อสู้เลย กันไว้ให้ชิน แม้ว่าการกลิ้งหลบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายไปเลย จะดูเหมือนทางเลือกที่ฉลาดกว่าการยืนกดป้องกันเพื่อลดความเสียหายที่ได้รับเท่านั้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนค้นพบคือการกลิ้งหลบของเกม Final Fantasy VII Remake มี Invincibility Frame ดั่งที่มักจะพบในเกมแอคชั่นส่วนใหญ่อยู่น้อยมากๆ (หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ) ทำให้การกลิ้งหลบการโจมตีที่รวดเร็ว หรือการโจมตีที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำได้ยากกว่าที่หลายคนอาจจะคุ้นชินจากการเล่นเกมแอคชั่นอื่นๆ ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ การยอมยืนกันและรับความเสียหายที่ลดลง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้รับความเสียหายน้อยลงแล้ว ยังทำให้เกจ ATB ของเราเพิ่มเร็วขึ้น และทำให้ตัวละครไม่ล้มลงอีกด้วย แน่นอนว่าการกลิ้งหลบยังคงจำเป็นสำหรับการโจมตีที่ป้องกันไม่ได้ หรือการโจมตีระยะไกลที่เคลื่อนที่ช้า และการโจมตีที่อาจจะทำให้ติดสถานะ เช่นพิษ ใบ้ เป็นต้น จงมี Materia Assess ติดตัวตลอดเวลา เมื่อคุณได้รับ Assess Materia มาจาก NPC ที่ชื่อ Chadley นั้น จงใส่มันลงไปในช่อง Materia ของ Cloud ซักช่องหนึ่ง และเก็บมันไว้ตรงนั้นจนจบเกม เจ้า Materia เม็ดนี้จะมอบความสามารถ Assess ให้กับตัวละครที่ใส่ ทำให้สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูได้ เช่นเงื่อนไขในการเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูแต่ละชนิด ซึ่งทำให้การต่อสู้ในเกมนี้ง่ายขึ้นหลายเท่า เพราะศัตรูเก่งๆ บางตัวอาจจะมีจุดอ่อนแปลกๆ เช่นต้องโจมตีจากด้านหลังเท่านั้น หรือต้องใช้การโจมตีนี้ในจังหวะนี้เท่านั้น ไม่งั้นจะทำความเสียหายไม่ค่อยได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยิ่งเราใช้สกิล Assess ใส่ศัตรูหลายชนิด Chadley ก็จะเริ่มพัฒนา Materia ชนิดใหม่ๆ มาขายให้เราอีกที แถมถ้าทำไปเรื่อยๆ ยังอาจจะปลดล๊อค VR Battle ให้เราลองสู้กับบอส Summon ต่างๆ และเอามันมาเป็นพวกได้ด้วย เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่เกมไม่ได้บอก (หรืออาจจะบอกแล้วผู้เขียนพลาดไป) คือเมื่อคุณลองใช้ Assess ใส่ศัตรูครั้งหนึ่ง คุณจะสามารถเรียกดูหน้าต่างรายละเอียดศัตรูชนิดนั้นได้ทันที ด้วยการกด Touchpad เมื่อพบศัตรูชนิดนั้นๆ ในการต่อสู้ จะได้ไม่เหมือนผู้เขียน ที่เล่นไปครึ่งเกมโดยที่คอยกด Assess ใหม่ทุกครั้งเวลาต้องการอ่านจุดอ่อนศัตรู... เพิ่มเลือดปาร์ตี้อย่างรวดเร็วด้วยปุ่ม L1 ผู้เล่นบางคนอาจจะหงุดหงิด เวลาที่ต้องการจะใช้ไอเทมหลายชิ้น แต่เกมบังคับให้เปิดเมนูใหม่ทุกครั้งที่กดใช้ไอเทมหนึ่งชิ้น แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเปิดเมนูค้างเอาไว้ได้ด้วยการกดปุ่ม L1 ค้างเอาไว้ในตอนที่ใช้ไอเทม เราจะได้กดใช้ไอเทมได้หลายๆ ครั้ง หรือกระทั่งสลับไปยังตัวละครอีกตัวได้เร็วๆ พยายามใช้ตัวละครระยะไกลในการฮีล แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถมอบ Heal Materia ให้กับตัวละครไหนก็ได้ แต่ผู้เขียนพบว่าการมอบ Materia ให้กับตัวละครที่โจมตีระยะไกลอย่าง Barret และ Aerith เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกเขามักจะยืนห่างจากศัตรู และมีโอกาสโดนขัดจังหวะร่ายสกิลน้อยกว่า Cloud หรือ Tifa โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม ที่ศัตรูเริ่มท้าทายและดุดันมากขึ้น นอกจากนี้ ในเวลาฉุกเฉิน ผู้เล่นสามารถสลับมาควบคุมตัวละคร Barret และ/หรือ Aerith ด้วยตัวเองเพิ่มเพิ่มเกจ ATB ของตัวละครจากระยะปลอดภัยได้ด้วย ในจังหวะที่ต้องฮีลเยอะๆ จะได้ทำได้เร็วขึ้น ใช้สกิล Pray บ่อยๆ เมื่อพูดถึงการฮีล ตัวละคร Aerith จะมาพร้อมกับ Materia เม็ดหนึ่งที่มอบความสามารถ (Ability) Pray ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถฮีลเพื่อนทั้งปาร์ตี้พร้อมๆ กันได้โดยไม่เสีย MP โดยผู้เขียนมักจะลืมว่ามีสกิลนี้อยู่ และเพิ่มเลือดโดยใช้ Cure/Cura แทนบ่อยๆ ซึ่งเปลือง MP และ Ether มาก แน่นอนว่าด้วยความเป็น Materia จะใส่ให้ตัวละครไหนก็ได้ แต่ตามที่กล่าวไปข้างบน การฮีลในเกมนี้ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของตัวละครระยะไกลอย่าง Aerith และ Barret อยู่แล้ว การทิ้ง Materia Pray เอาไว้กับ Aerith จึงถือเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด แก้ไข: มีผู้อ่านท่านหนึ่งแก้ไขข้อมูลมาว่า Pray เป็น Materia ไม่ใช่สกิลติดตัวของ Aerith ซึ่งผู้เขียนได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนอาจจะลืมเองเพราะใส่ Materia เอาไว้กับ Aerith ตลอดเวลา ขอขอบคุณสำหรับข้อแก้ไขด้วยครับ เก็บท่า Overcharge ของ Barret ไว้สำหรับเวลาจำเป็น สำหรับผู้เขียน ความสามารถ Overcharge ของ Barret เป็นหนึ่งในความสามารถที่ดีที่สุดในเกมเลย นอกจากจะสร้างความเสียหายได้รุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว การโจมตีนี้ยังทำให้หลอด Stagger ของศัตรูเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด Overcharge ยังทำให้เกจ ATB ของ Barret เพิ่มขึ้นเมื่อใช้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถนี้จึงมีประโยชน์มากในหลายๆ สถานการณ์ เช่นถ้าต้องการฮีลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่มีใครมีเกจ ATB สามารถสลับมาเล่น Barret และเพิ่มเกจตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อฮีลในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ หรือถ้าศัตรูติดสถานะ Stagger การใช้ Overcharge ก็จะทำความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรู ทำให้เกจ Stagger เพิ่มขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยลงแขกได้นานขึ้น และยังทำให้มีเกจ ATB ไว้ให้ Barret ใช้ท่าใหญ่ๆ ซ้ำได้อีกด้วย สกิล Triple Strike ของ Cloud สามารถทำความเสียหายได้มากกว่าหนึ่งครั้งต่อศัตรูหนึ่งตัว เคล็ดลับหนึ่งที่ผู้เขียนชอบใช้เวลาเล่น Cloud คือการรอให้ศัตรูมายืนกระจุกกันเป็นกลุ่ม แล้วใช้สกิล Triple Strike เพื่อโจมตี โดยสำหรับสกิล Triple Strike นั้นจะทำให้ Cloud พุ่งไปฟันศัตรูในบริเวณใกล้ๆ กัน 3 ตัว แต่สิ่งที่เกมไม่ได้บอกคือ ศัตรูหนึ่งตัวสามารถโดนความเสียหายจาก Triple Strike ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ถ้าพวกมันยืนอยู่ใกล้กันมากพอที่จะโดนดาบของ Cloud เมื่อเขาแกว่งฟันตัวแรก และถ้ามันอยู่ใกล้กันมากพอเป็นกลุ่มๆ เราก็จะสามารถสร้างความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรูทั้งกลุ่ม แลกกับเกจ ATB ช่องเดียวเท่านั้น อย่าลืมเปิด Unbridled Strength ให้ Tifa ตัวละคร Tifa จะมาพร้อมกับสกิลติดตัวที่ชื่อว่า Unbridled Strength ซึ่งจะบัฟการโจมตีปกติและเพิ่มความเสียหายเมื่อใช้ Ability ต่างๆ ของเธอ และทำให้ท่าพิเศษ (ปุ่มสามเหลี่ยม) ของเธอเปลี่ยนไปตามจำนวนครั้งที่กด Unbridled Strength (สูงสุดสองครั้ง) โดยหลายคนอาจจะมองข้ามสกิลนี้ไปเพราะเกมไม่ได้บอกชัดเจนว่าทำอะไรได้ แต่ในความเป็นจริง การใช้สกิลนี้ควบคู่กับท่าโจมตีอื่นๆ ของเธอ ทำให้ Tifa เป็นตัวละครที่สามารถทำความเสียหายในขณะที่ศัตรู Stagger อยู่ได้มหาศาล มีประโยชน์มากๆ ในการต่อกรกับเหล่าบอสในเกม ที่ถ้าไม่ได้ Stagger แล้วจะโดนความเสียหายน้อยมาก คอมโบง่ายๆ สำหรับ Tifa คือการใช้สกิล Unbridled Strength เตรียมไว้ก่อนสองครั้ง เมื่อศัตรูติดสถานะ Stagger แล้ว ให้สลับมาควบคุม Tifa และกดใช้ท่าโจมตีสามเหลี่ยมของเธอติดๆ กันสองครั้ง (จะเป็นท่า Rise and Fall และ Omnistrike) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูรวมกัน 45% และทำให้เกจ ATB ของ Tifa กลับมาเต็มสองช่องอีกครั้งด้วย ซึ่งเราสามารถวนคอมโบนี้ได้เรื่อยๆ (กด Unbridled Strength สองครั้งอย่างรวดเร็ว ต่อด้วยท่าสามเหลี่ยมสองครั้ง) จนกว่าศัตรูจะหายจากสถานะ Stagger เลย หรือถ้าใครมีสกิล True Strike จากอาวุธ Purple Pain แล้ว จะใช้ควบคู่กับคอมโบนี้เพื่อเพิ่มหลอด Stagger ก็ได้เช่นกัน ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อาจจะมีบางคนกำลังประสบปัญหาการซื้อเกม Final Fantasy VII Remake ผิดเวอร์ชัน เพราะหน้าร้าน Store ของโซน SEA บ้านเราอาทิ ไทย, สิงค์โปร, อินโดนิเซีย และมาเลเซีย มีการวางจำหน่ายเวอร์ชันตัวเกมหลายภาษาทั้ง จีน/เกาหลี และ อังกฤษ/ญี่ปุ่น มันเลยทำให้หลายๆ คนอาจจะเผลอกดซื้อผิดเวอร์ชันได้ เช่นอยากจะซื้อเวอร์ชั่น อังกฤษ/ญี่ปุ่น แต่บังเอิญซื้อผิดเป็นเวอร์ชัน จีน/เกาหลี เป็นต้น แต่ตอนนี้ทาง Sony ประกาศออกมาแล้วสำหรับใครที่ซื้อผิดเวอร์ชั่นคุณสามารถเรียกร้องขอคืนเงินได้ ถ้าหากคุณซื้อตัวเกมผิดเวอร์ชั่นก่อนวันที่ 8 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งคนที่มีเงื่อนไขครบได้รับการคืนเงินให้เป็น PlayStation Wallet ส่วนคนที่ซื้อเกมผิดหลังจากวันที่กำหนดในบางโซนเช่นฮ่องกงที่มีปัญหา ก็อาจจะสามารถติดต่อ Support ได้แต่จะดูเป็นกรณีไป ที่มา siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากที่มีการวางขาย Resident Evil 2 Remake และ Resident Evil 3 Remake ออกมาแล้ว ก็มีการถามจาก Capcom ว่าแฟนๆ อยากได้ Resident Evil Remake ภาคอื่นๆ อีกรึเปล่า ซึ่งวันนี้ก็มีข่าวลือออกมาแล้วว่า Resident Evil ภาคต่อไปที่จะถูกนำมาทำเป็นภาค Remake ก็คือภาคที่มี Leon s Kennedy เป็นพระเอก และเป็นเหตุการที่เกิดขึ้นหลังจากภาค 2 อีก 6 ปี หรือก็คือ Resident Evil 4 นั้นเองครับ! ข่าวนี้ถูกปล่อยออกมาจากทาง VGC ซึ่ง Resident Evil 4 Remake นั้นจะได้หนึ่งในผู้พัฒนา RE3 Remake อย่าง Studio M-Two มาเป็นผู้นำในการพัฒนา และวางจำหน่ายในปี 2022 โดยในตอนแรกนั้นดูเหมือนจะมีการร้องขอให้คุณ Shinji Mikami ผู้เป็น director ของเกม Resident Evil 4 เวอร์ชั่น Original มาเป็นผู้นำในการพัฒนา แต่เขาได้ทำการปฏิเสธ แล้วเลือกที่จะเป็นเพียงผู่ให้คำแนะนำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เหมือนกับทุกครั้งที่เราได้นำข่าวลือมาบอกให้กับทุกๆ คน เราจะย้ำเหมือนเดิมว่า ยังไงทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้น และเป็นข่าวที่ยังไม่มีการยืนยันจากทาง Official เลย ดังนั้นขอให้อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมดแบบ 100% ครับ Credit: Gamingbolt, VGC , PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil Project Resistance ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมออนไลน์เกมใหม่ล่าสุดจากทาง Capcom ที่มาคู่กับเกมขวัญใจมหาชนในตอนนี้อย่าง Resident Evil 3 ที่นำเอาระบบคล้ายๆ กับเกม Dead by Daylight  แต่ทำในสไตล์ของตัวเอง วันนี้พวกเรา Gamefever จะมาแนะนำตัวละครต่างๆ ที่อยู่ในเกมนี้ ฝั่ง Survival Samuel Jordan - Damage Sam เป็นนักมวยอาชีพทำให้เขามีความสามารถยอดเยี่ยมในการต่อสู้ระยะประชิด ก่อนที่เขาจะพักชกไปเนื่องจากได้รับบาดเจ็บระหว่างการชกครั้งหนึ่ง เขาได้พยายามที่จะกลับมาในสังเวียนการชกอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการพยายามที่จะรักษาด้วยวิธีการต่าง ๆ ก่อนที่ชื่อของเขาจะเลือนหายไปจากนั้น Dash Punch - พุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูงพร้อมกับชกศัตรูที่อยู่ใกล้ที่สุด Fist of Iron - ใช้ทักษะการต่อยมวยกับศัตรูด้วยการชกแบบ One Two January Van Sant - Hacker January เป็น Hacker มากความสามารถสูงมาก โดยเธอสามารถเจาะเข้าไปยังกล้องวงจรปิดเพื่อที่จะขัดขวาง Mastermind ได้ เดิมทีเธอมีหน้าที่ในการสืบสวนการสิ่งผิดกฎหมายระหว่าง Umbrella กับทางสำนักงานตำรวจเมือง Raccoon City ว่ากันว่าเธอไม่เคยทิ้งร่องรอยให้สามารถติดตามตัวได้เลย Overlord - ทำให้กล้องของ Mastermind ไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราว EMP - ทำให้การ์ด Camera ของ Mastermind มีราคาสูงขึ้น Valerie Harmon - Support Valerie คือนักเคมีที่เชี่ยวชาญในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม โดยเธอเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ได้รับการฝึกงานในศูนย์วิจัยของ Umbrella แต่แล้วอยู่ดีๆ เพื่อนร่วมห้องของเธอก็ความทรงจำหายไป เธอจึงพยายามออกสืบค้นหาสาเหตุที่เกิดโรคนี้ก่อนที่จะถูกลักพาตัวไป Survival Instinct - ทำการ Mark ไอเทมและภัยอันตรายต่าง ๆ ให้เพื่อนร่วมทีมสามารถมองเห็นได้ Modified First Aid Spry - สามารถใช้ Spry ในการ Buff หรือช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้ (จำกัดจำนวนครั้ง) Tyrone Henry - Tank Tyrone มีพลังป้องกันที่สูงพร้อมกับความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิด เขาคือพนักงานดับเพลิงประจำเมือง Raccoon City วันหนึ่งเขาได้เข้าไปดับไฟในโรงงานของ Umbrella จากนั้นเขาก็หายตัวไปและสำนักงานดับเพลิงก็ได้ประกาศว่าเขาเสียชีวิตในหน้าที่ Power kick - โจมตีศัตรูที่อยู่ด้านหน้าด้วยลำแข้งอันทรงพลัง Rally - เพิ่มขวัญกำลังใจให้กับเพื่อนรวมทีม ทำให้ได้รับ Damage น้อยลงระยะหนึ่ง Becca Woolett - Damage Becca เธอคือเจ้าหน้าที่อุทยานประจำเมือง Raccoon City มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธปืนที่ดีเยี่ยมทำให้เธอเป็นตัวดาเมจที่ดีประจำทีม เธอถูกจู่โจมโดยสุนัขขนาดใหญ่ทำให้เธอหมดสติไป ก่อนที่เธอจะฟื้นขึ้นมาแล้วว่านี่ไม่ใช่โรงพยาบาลแต่เป็นโรงงานสำหรับการทดสอบอะไรบางอย่าง Sentry Stance -ตั้งท่าในการยิงปืน ทำให้สามารถยิงปืนได้มีขึ้นแต่ก็แลกมากับการเคลื่อนไหวที่ช้าลง Bullet Strom - ในช่วงเวลาหนึ่งเธอสามารถที่จะยิงปืนได้แบบไม่จำกัดกระสุน Martin Sandwich - Support Martin มีความสามารถในการวางกับดักเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมได้เปรียบมากขึ้น เขาเป็นช่างผู้มีความสามารถที่สูงมาก ในฐานะของพนักงานบริษัทเกี่ยวกับการดูแลเครื่องจักรเกี่ยวกับการแพทย์ วันหนึ่งเขาได้ถูกส่งไปยังโรงพยาบาล Spencer Memorial Hospital ก่อนที่ถูกจับเนื่องจากไปเห็นความลับบางอย่าง ก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในการทดลอง ไวรัสอันแสนน่ากลัวอยู่ Makeshift Mine - วางระเบิด Jury - Rig เมื่อศัตรูเข้ามาใกล้จะทำการระเบิดออก Flash Baton - ใช้ระเบิด Flash ในการหยุดศัตรูชั่วคราว ฝั่ง Mastermind Daniel Fabron Daniel Fabron เขาเป็นผู้ช่วยของ Alex Wesker ในการทดลองไวรัสและการทดลองต่าง ๆ ในฐานทดลอง โดยเขาไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ธรรมดา แต่เขายังสามารถที่จะสั่งให้ Zombie โจมตีเหล่า Survival  ได้อีกด้วย เขามีการ์ดที่มีพลังโจมตีสูงแต่ในขณะเดียวกันก็มีค่าร่ายที่สูงเช่นกัน ซึ่งอาวุธเด็ดของเขาสุดยอดอาวุธชีวภาพอย่าง Tyrant Bloodlust - Passive Skill เมื่อสิ่งมีชีวิตของเขาโจมตีสำเร็จจะทำการดูดเลือดกลับคืนมา Puppeteer - Passive Skill ทำให้สิ่งมีชีวิตที่ควบคุมอยู่สร้างดาเมจมากขึ้น Bioweapon: Tyrant - Ultimate Skill เรียกอาวุธชีวภาพ Tyrant ออกมาโจมตี Annette Birkin Annette Birkin เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ร่วมมือกับสามีของเธอ William Birkin ในการสร้าง G-Virus  ในเกม Resident Evil Resistace เธอมาในฐานะของ Mastermind ที่มีความสามารถในการ Buff สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่เธอเรียกออกมาได้รวมถึงเรียกสามีของเธอออกมาโจมตีได้ด้วย Genetic Mutation - Passive Skill เธอจะทำการ Buff สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ผ่านกระสุน Enhancer เมื่อโจมตีจะทำการฟื้นพลังกลับมา Zombie Apocalypse - Passive Skill ทำให้การ์ดสิ่งมีชีวิตมีค่าร่ายลดลง 1 หน่วย Bioweapon:  G-Birkin - Ultimate Skill เรียก G-Birkin ออกมาโจมตีเหล่า Survival Alex Wesker Alex Wesker เธอมีหน้าที่ในการทดลองต่าง ๆ รวมถึงพัฒนาอาวุธชีวภาพให้กับ Spencer เธอมีความสามารถในการวางกับดักเพื่อเพิ่มความสามารถให้กับเหล่าสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่เธอเรียกออกมาได้รวมถึง Yateveo อีกด้วย Biohazard - Passive Skill เพิ่ม Infected Rate มากขึ้น Residence of Evil - Passive Skill ทำให้การ์ดกับดักมีค่าร่ายลดลง 1 หน่วย Bioweapon: Yateveo - Ultimate Skill เรียก Yateveo ออกมาโจมตีเหล่า Survival Ozwell E. Spencer Ozwell E. Spencer หนึ่งในผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Umbrella จากการรายงานของ Alex เขาได้ใช้เชื้อไวรัสบางอย่างยื้อชีวิตของเขาให้หนีจากความตาย และเขาจะมาเป็น Mastermind ในเกม Resident Evil Resistance Umbrella Tech - Passive Skill วาง Decoy อุปกรณ์ไขปริศนาใน Area 1 , ระยะเวลาในการ deactivation กับ Security Device เพิ่มขึ้นใน Area 2 , พลังของ Bio Core เพิ่มขึ้นใน Area 3 Bioactivation - Passive Skill รีชารท์ Bio Energy เมื่อใช้ E.I.S กับสิ่งต่าง ๆ Disintegration Field - Ultimate Skill สร้างพื้นที่พลังงานหาก Survival เดินผ่านจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง Resident Evil Resistance เปิดให้เล่นแล้ววันนี้ สำหรับผู้เล่นที่ซื้อเกม Resident Evil 3 Remake เท่านั้น สามารถหาซื้อได้ทั้งในแพลตฟอร์ม PlayStation 4 , Xbox One และ PC อ้างอิง www.residentevil.com/resistance/us game.capcom.com

Resident Evil Resistance เป็นเกมแนว Horror Survival Multiplayer ใหม่แถมมาด้วยกับเกม Resident Evil 3 Remake ที่ว่างจำหน่ายไปในวันที่ 3 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งจริงๆ แล้วตัวเกมได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดีเท่าไหร่จากเหล่าผู้เล่น แต่ผู้พัฒนาก็ยังคงพยายามปรับสมดุลของเกม และเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ เขามาอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดก็ดูเหมือนว่า Jill Valentine นางเอกจาก Resident Evil 3 Remake ก็กำลังจะสามารถเล่นได้ในเกมเช่นกันครับ! ได้มีการโพสต์ข้อความจากทาง Resident Evil ผ่าน Twitter ว่า ในช่วงเดือน เมษายน - มิถุนายน ที่จะถึงนี้ จะมีคอนเทนต์อะไรบ้างถูกอัปเดตเข้ามาในเกม Resident Evil Resistance ซึ่งสิ่งแรกที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในเกมก็คือตัวละคร Jill Valentine จาก Resident Evil 3 Remake ในวันที่ 17 เมษายน 2020 และในเดือนพฤษภาคม ก็จะมีตัวละครใหมอีกหนึ่งตัวถูกเพิ่มเข้ามาในเกมด้วยเช่นกัน ส่วนในเดือนมิถุนายนที่เขียนว่า "อยู่ระหว่างการก่อสร้าง" คิดว่าน่าจะเป็นด่านใหม่ครับ Resident Evil Resistance และ Resident Evil 3 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC https://twitter.com/RE_Games/status/1248279651077754886 Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil:Resistance คือว่าเป็นเกม Multiplayer ที่แยกมากจากเกม Resident Evil 3 :Remake ที่ได้นำเสนอการเล่นแบบ 4V1 ระหว่าง Survival และ Mastermind ที่ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ หลังจากที่ทางทีมงานได้เตรียมอัปเดต Jill Valentine เข้าสู่เกมในตอนนี้พวกเขาได้เผย Content ต่อไปแล้ว โดยในวันนี้ทาง Twitter ของเกม Resident Evil ได้เปิดเผยแนวทางในการพัฒนาเกมแล้ว ซึ่งนอกจาก Jill แล้วยังมีตัวละครใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในเกมซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะมาเป็นฝ่าย Survival หรือ Mastermind นอกจากนี้เดือนมิถุนายนเป็นปริศนาพวกเขากำลังทำอะไร ไม่แน่อาจจะเป็นอัปเดตใหญ่ของเกมก็เป็นได้ Source:www.dualshockers.com ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy เป็นชื่อของเกม JRPG ที่อยู่คู่กับวงการเกมมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในภาคซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตำนานของซีรีส์อย่าง Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในวันพรุ่งนี้จริงๆ แล้วไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ถ้าเกิดว่าเนื้อเรื่องของแต่ละภาคนั้นจะมีคาวมเกี่ยวข้องกันไม่มากก็น้อย และวันนี้ก็มีคนที่พบอีกหนึ่งหลักฐาน ที่บอกว่า Final Fantasy 7 นั้นจริงๆ เป็นเรื่องราวหลังจาก Final Fantasy 10-2 หลายร้อยปีครับ! ถ้าย้อนกลับไปสักหน่อยในเกม Final Fantasy 10-2 นั้นเคยมีตัวละครหนึ่งที่ชื่อว่า Shinra ได้ค้นพบกับสถานที่หนึ่งซึ่งมาพลังงานชีวิตมหาศาลรั่วไหลออก ซึ่ง Yuna ที่เป็นนางเอกของภาค ก็เคยได้พูดไว้ว่า "แบบนี้เราก็จะสามารถสร้างเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล ขึ้นมาในพื้นที่ดังกล่าวได้ มันสุดยอดไปเลย" รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ ในตอนแรกทุกคนก็มีคิดกันอยู่บ้างเหมือนกันครับ ว่าภาค 10-2 อาจเป็นเรื่องราวก่อนภาค 7 ก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่านี้ทำให้ผู้เล่นคิดว่า "คงเป็นแค่หนึ่งใน Easter Egg ที่ผู้พัฒนาใส่เอาไว้เฉยๆ" แต่ว่าใน Final Fantasy 7 Remake บริเวณภายในของบริษัท Shinra มีคนพบรูปภาพเก่าๆ ที่เหมือนถูกถ่ายเอาไว้เมื่อนานมาก่อนถูกติดไว้บนผนังของบริษัท ซึ่งชายที่นั่งอยู่ตรงกลางของรูปภาพดันไปมีหน้าตาเหมือนกับตัวละคร Shinra ในภาค 10-2 พอดี แถมชื่อของบริษัทก็ดันเป็น Shinra อีก แบบนี้ก็ไม่รู้แล้วเหมือนกันครับว่าสรุป ภาค 7 เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นหลังภาค 10-2 จริงๆ หรือเป็นอีก 1 Easter Egg ที่ผู้พัฒนาใส่มากันแน่ แน่นอนว่าคุณ Nojima ที่เป็นผู้เขียนเนื้อเรื่องไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ถ้าเกิดว่า Final Fantasy 7 เป็นภาคต่อของ Final Fantasy 10-2 จริง ดูจากความเก่าของรูปแล้ว FF7 คงเป็นเหตุการในอีกหลายร้อยปีหลังภาค 10-2 แน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เมื่อไม่นานมีนี้ Resident Evil 3 Remake ได้ออกมาโลดแล่นให้บรรดาแฟนๆได้เล่นกันทั่วโลก ซึ่งก็สร้างทั้งเสียงในด้านดี และด้านบวกตั้งแต่ช่วงแรกที่ออกมา บางคนก็นำไปเทียบกับภาคเก่าๆ และถ้าจะนำไปเที่ยบให้เห็นได้ชัดที่สุดก็คงจะไม่พ้น Resident Evil 2 Remake ที่วางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้ว ความแตกต่างของทั้ง 2 ภาคอาจจะเยอะ แต่วันนี้ผมขอนำความแต่งต่าง10 จุดเฉพาะตรงจุดสำคัญๆ มาให้ทุกคนได้ลองเปรียบเทียบดูนะครับ. 1.Mr. X Vs. Nemesis. Mr. X เป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของภาค 2 Remake เมื่อปีที่แล้ว โดยเขาจะทำการไล่ล่าผู้เล่นอย่างไร้ควมปราณี ไล่ทั่วทั้งสถานีตำรวจ ไล่เหมือนแบบสามีหึงโหด5555 ต่อให้คุณจะยิง Mr. X กี่ครั้งจนต้องคุกเข่าหยุดนิ่ง แต่เขาก็ไม่เคยที่จะยอมแพ้เขาจะไล่ล่าจนกว่าผู้เล่นจะไปยังอีกส่วนหนึ่งของฉาก ส่วนในภาค 3 Remake นี้ คุณ Nemesis ก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรสมชื่อ ถึงจะมีแฟนๆบางคนบอกว่าเขาโผล่มาน้อย แต่ผมคิดว่านักพัฒนาทำให้เขาออกมาได้จังหวะที่กำลังดี ทำให้ตกใจ และเจ็บตัวได้ดีมากๆ555 ส่วนสำคัญที่ผู้เล่นหลายคนสังเกตเห็นคือ ในภาค 2 เราไม่ค่อยอยากที่จะสู้กับMr. X มากนักเพราะต่อให้ล้มเขาได้ก็ไม่มีอะไรให้ แต่ในภาค 3 การยิง Nemesis ก็จะมี"ของดรอป"ลงมา ดังนั้นทำให้เวลามีอาวุธพร้อม เราอยากที่จะหันไปยิงเขา เพื่อลุ้นว่าจะมีของอะไรดรอปไหมเวลาล้ม 2.แคมเปญเดียวเท่านั้น เมื่อปีก่อนภาค 2 ทาง Capcom ได้ทำให้สามารถเลือกเล่นตัวละครได้ 2 ตัวโดยกล่าวว่าจะมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกัน แต่สิ่งนั้นแทบจะต่างกันน้อยมาก แฟนๆจึงติในส่วนนั้นพอสมควร มาในภาค 3 ต้องขอชมว่าทางค่ายเอาใจใส่ในข้อติชมนี้ จึงเปลี่ยนเป็นการเล่น 2 ตัวละคร แต่จะสลับการเล่าเรื่องในเหตุการณ์นั้นๆ ผมว่ามันดีมาก! การจัดลำดับแบบนี้ทำให้เราอินกับเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่สำหรับแฟนๆซีรีส์คิดเหมือนๆกันอยู่แล้วว่าไม่จำเป็นต้องมีหลายแคมเปญก็ได้ เพราะ Capcom มักใส่แรงจูงใจมากมายที่จะให้เรากลับไปเล่นใหม่อีกครั้ง เช่นการปลดล็อคอาวุธเทพๆตั้งแต่ช่วงเริ่มเกม หรือปลดล็อคระดับความยากแบบพิเศษสำหรับผู้ที่เคลียร์เกมแล้ว และอีกมากมายที่เราเคยสัมผัสกันมา ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของซีรี่ส์เกมนี้เลยครับ 3.การขาดของอวัยวะ หลังๆมานี้มีผู้เล่นบางกลุ่มบ่นว่า เวลายิงไปยังส่วนนั้นๆของซอมบี้แล้วมันไม่ขาด ไม่กระเด็นเหมือนภาคก่อนๆ มันไม่สะใจ ถ้าคุณสังเหตจะพบว่า หลังๆมานี้เวลายิงไปยังอวัยวะอย่างแขน-ขาของซอมบี้มันไม่ค่อยจะหลุดกระเด็นเหมือนเท่าที่ควรนัก สิ่งที่เห็นมีเพียงเลือดที่พุ่งออกมา แต่ก็เป็นที่เข้าใจสำหรับเกมเมอร์หลายๆคนเพราะมันเป็นเรื่องของขนาดของตัวเกมที่ใหญ่ และเอนจิ้นที่ Capcom ใช้อยู่ ถึงแม้จะไม่สะใจเหมือนเมื่อก่อนแต่ผู้พัฒนาก็พยายามเต็มที่เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมในการเล่นเกม ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่าเวลาคุณยิงซอมบี้ที่ขาพวกมันจะมีอาการสะดุดล้ม หรือถ้าคุณฆ่ามันใกล้ๆมันก็จะล้มใส่คุณและจะเห็นตัวละครพยายามผลักมันออกจากตัว เท่านี้ก็โอเครแล้ว! 4.เน้นแอ็คชั่นมากขึ้น เมื่อปีที่แล้ว ภาค 2 ถือว่าเป็นการผสมที่ลงตัวของความคลาสสิ่ง ไม่ว่าจะเรื่องของเกมเพลย์ที่มีรูปแบบทันสมัยเข้าถึงง่ายขึ้น โดยอิงตาม Resident Evil 4 ส่วนของการเล็งได้รับการปรับปรุงให้สามารถเคลื่อนไหวขณะเล็งได้อย่างอิสร แต่ก็ยังทำให้มีความลุ้นระทึก ด้วยกระสุนที่ไม่เยอะเกินไป ต้องใช้อย่างจำเป็นเท่านั้น ซึ่งในภาค 3 Remake นี้ ในฉากต่างๆที่คุณได้เห็นคงรู้แล้วว่าภาคนี้ต้องบู๊หนักแน่ๆ ใช่ครับบู๊เยอะระดับนึง แต่ไม่เวอร์แบบภาค 6 นะอันนั้นหนักไปแนวแอ็กชั่นจ๋าจริงๆ555 ทั้งยังง่ายขึ้นมาระดับนึงเพราะกระสุดถือว่าเยอะพอที่จะเคลียร์เกมได้เลย แต่ๆๆๆขอเบรคไว้ก่อนอย่าเพิ่งติอะไรนะครับ เพราะถ้าคุณสามารถเคลียร์เกมได้แล้ว จะมีโหมด " Hardcore " ปลดล็อคมาโดยจะทำให้ทรัพยากรบางอย่างน้อยลงไปมากๆ และการใช้กระสุนทุกนัดจะมีค่ามากขึ้น! เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย และผู้ที่อยากได้รับกลิ่นอายของภาคต้นฉบับที่ภาพสวยขึ้นมากๆ! 5.สั้น! อันนี้แค่หัวข้อคนที่ซื้อไปแล้วคงจะเข้าใจนะครับ ถ้านำมาเปรียบเทียบ  Resident Evil 2 Remake จะใช้เวลาจบเกมประมาณ 6-8 ชั่วโมง แต่ในภาค 3 นี้ใช้เวลาจวเกมเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น! แต่ก็เข้าใจได้ครับว่าภาคนี้มีสเกลที่ใหญ่กว่าเดิม และใช้เวลาพัฒนาแค่ปีเดียวดังนั้นจึงต้องทำเต็มที่ แต่ถ้าทำให้นานกว่านี้เราอาจจะได้เล่นช้ากว่าเดิม หรืออาจจะเจอพวกบั๊กก็ได้นะครับ เอาเป็นว่าถือเป็นอาหารรองท้อง รอภาค 8 ที่จะออกมาเป็นอาหารจานหลักละกันนะครับ555 6.ง่ายขึ้น( เยอะ ) การให้ทรัพยากรพวกกระสุนหรือยาที่เพียงพอแก่เหล่าผู้เล่นในภาค 3 ดูเหมือนจะมีให้เยอะกว่าภาค 2 อย่างมาก ทั้งสถานที่ต่างๆยังมีความกว้างมากทำให้การหลบหลีกซอมบี้ทำได้ง่ายขึ้น ความท้าทายจึงน้อยลงไปในระดับนึง (ถ้าจำกันได้เวลาเจอตัวลิกเกอร์ในภาค 2 มันชอบโผล่มาทางแคบๆหนีไม่ได้สู้ลูกเดียว555) แต่ก็อย่าลืมว่าคุณสามารถปรับระดับความยากได้นะครับ ผมขอแนะนำละกันใครที่เพิ่งเล่นเกมซีรี่ส์นี้ครั้งแรกลองเลือกที่ระดับง่าย( Easy)ไปก่อน ส่วนแฟนๆซีรี่ส์นี้หรือเกมเมอร์เก่งๆก็แนะนำให้เลือกระดับปกติขึ้นไปได้เลยนะครับ 7.เพิ่มฟังชั่นการพุ่งหลบ ในภาค2 ไม่ได้มีปุ่มพุ่งหลบ แต่ในภาค3 ทางCapcom ได้นำปุ่มนี้กลับมาอีกครั้ง โดยถ้าคุณกะจังหวะดีๆ จิลล์จะหลบการโจมตีของซอมบี้ และสามารถโจมตีสวนกลับไปได้ แต่การใช้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดโดยคุณต้องกะจังหวะเวลาที่เป๊ะๆ เพราะถ้าพลาดก็จะโดนพวกซอมบี้กัดได้ ถือว่าสร้างความแฟร์แล้วกันนะครับ เพราะขนาดพวกซอมบี้ กับ Nemesis ยังแดชหลบได้เลย เราจะหลบได้ด้วยก็ไม่เห็นจะโกงแฟร์ๆ555 8.ซื่อสัตว์ต่อต้นฉบับ Resident Evil 3 นั้นมีเนื้อหาและขนาดที่ใหญ่กว่าภาค 2 โดยภาค2จะเล่าไปถึงลีออนและแคลร์ที่สถานีตำรวจ แต่ภาคนี้จะกล่าวถึงการหลบหนีของจิลล์ที่แรคคูนซิตี้ ดังนั้น Capcom อาจจะทำเกมสั้นก็จริง แต่ทุกคนครับพวกเขาพยายามนำฉากสำคัญที่เห็นได้ชัดในภาคต้นฉบับมา Remake เพื่อให้แฟนๆยุคบุกเบิกนั้นได้เสพกลิ่นอายของความเป็นต้นฉบับด้วย ถึงแม้บางฉากจะถูกตัดออกไป แต่ผมเชื่อว่า Resident Evil 3: Nemesis Remake นี้จะเป็น 1 ในภาคที่หลายๆคนรักแน่นอนครับ 9.ปริศนาที่ง่ายขึ้น ลายเซ็นอีกอย่างที่ทำให้รู้ว่า ฉันคือResident Evil นะ! ก็คือปริศนที่ผู้เล่นต้องมาไขกัน มันมีทุกภาค แต่ภาครีเมคนี้ ถึงจะมีปริศนาให้ไขอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นปริศนาเท่าไหร่นัก มันไม่ค่อยซับซ้อน แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบคงจะรู้นะครับว่าภาคไหนปริศนาท้าทายกว่ากัน เช่น ภาค 2 คุณต้องไปหากุญแจชนิดนั้นๆเพื่อไขประตูที่มีลักษณะตรงกันกับบานประตู ส่วนภาค 3 คุณแค่หากุญแจผีก็สามารถเข้าถึงประตูได้เกือบทุกบานแล้ว. 10.เพิ่ม Resistance มาให้ด้วย! เป็นครั้งแรกในซีรี่ส์ Resident Evil ที่มีการเล่นแบบ 4VS1 โดยผู้เล่น 4 คนพยายามหนีออกจากพื้นที่ และอีกคนหนึ่งควบคุมสภาพแวดล้อมส่งอุปสรรคต่างๆไปขัดขวางการหลบหนีของทั้ง 4 คน เช่น กับดัก / ซอมบี้ มันเป็นเกมที่ทำมาสำหรับออนไลน์โดยเฉพาะ แต่ก็ยากที่จะบอกว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ต้องค่อยๆดูกันไปก่อนครับ เพราะช่วงแรกที่ออกมาไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น และบ้างก็ว่ารู้สึกมันไม่ใช่ Resident Evill เลยหวังว่าถึงแม้เกมนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่มันอาจจะเป็นก้าวของเกมที่ดีในอนาคตก็ได้นะครับ!

ช่วงนี้มีกระแสการนำเกมเก่ามาทำการ Remake ให้ภาพมีความทันสมัยขึ้น ให้มีรูปแบบการเล่นที่เข้าถึงง่ายขึ้น ซึ่งในตอนนี้เกมที่ทำภาค Remake ล่าสุดมี 2 เกม คือ Final Fantasy 7 และ Resident Evill 3  แต่ 2 เกมนี้ควรซื้อเกมไหม? เกมไหนน่าซื้อกว่ากัน? วันนี้เราจะมาหาคำตอบด้วย 3 หัวข้อ คือ เนื้อเรื่อง / รูปแบบการเล่น และความคุ้มค่าในการซื้อแต่ละเกม พร้อมแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลย! 1.ด้านเนื้อเรื่อง -Final Fantasy 7 Mako เป็นพลังงานสำคัญที่เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของโลก และเป็นเชื้อเพลิงที่ให้พลังแก่เมืองมิดการ์ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนี้ผ่านเครื่องปฏิกรณ์ Mako จึงทำให้บริษัทไฟฟ้า Shinra มีอำนาจควบคุมโลกทั้งใบ กลุ่ม ragtag ของนักอุดมคตินิยมนามว่า Avalanche เป็นหนึ่งในป้อมปราการสุดท้ายของการต่อต้าน Cloud ทหารรับจ้างฝีมือดีได้เข้าร่วมในปฏิบัติการบุกโจมตี เพื่อทำลายเครื่องปฏิกรณ์ Mako หมายเลข 1 ในเมืองมิดการ์การระเบิดทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน และท่ามกลางความโกลาหลที่รุนแรง Cloud ก็ถูกรบกวนด้วยนิมิตของศัตรูที่ขมขื่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หลังจากภาพหลอนจางหายไป เขาก็พบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังขายดอกไม้ซึ่งได้ยื่นดอกไม้สีเหลือง 1 ดอกแก่เขา ในทันทีนั้นร่างของเงามากมาย ก็หมุนรอบตัวพวกเขา และนั้นจะเป็นอีกครั้งของจุดริ่มต้นเรื่องราวที่จะกำหนดชะตากรรมของโลกทั้งใบ -Resident Evill 3 ในช่วงภัยพิบัติเมือง Raccoon City ที่เป็นเมืองคู่กับซีรี่ส์เกม Resident Evill มาอย่างยาวนาน โดยภาค 3 นี้จะดำเนินเรื่องผ่าน จิล  วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครจากเภาคต้นฉบับ กล่างถึงการกระทำที่โหดร้ายของอัมเบรลล่า ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์การทำลายล้างเมือง และการให้กำเนิดซอมบี้ จิลล์ และผู้เชี่ยวชาญของเธอจากกองกำลังหน่วย STARS ต้องทำงานเพื่อเปิดโปงความลับขององค์กรชั่วนี้ให้โลกได้รับรูป แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจิลและพรรคพสกได้ค้นพบความลับที่น่าตกใจของเมืองแห่งนี้ และพบศัตรูใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าศัตรูตัวไหนๆที่เคยพวกเขาเจอมา มันมีนามว่า Nemesis! -สรุป FF7 เป็นเกมที่มีเนื้อหาแฟนตาซี มีความแอ็คชั่น ความรักดราม่า มีความยาวของเนื้อหาเยอะมากทำให้คุณอินกับตัวละครและตัวเกม RE3 เป็นเกมที่มีเนื้อหาเน้นความน่ากลัว ลึกลับ ซ่อนปริศนา มีความยาวไม่ได้มากเหมือน FF7 แต่ใช้เนื้อหาอย่างคุ้มค่า และตัวละครก็ไม่ได้มีเยอะ แต่มีบทบาทสำคัญในทุกๆฉากที่ปรากฏตัวออกมา สรุป FF7 เหมาะกับผู้ที่ชอบเกมแนวโลกแฟนตาซีและเสพเนื้อเรื่อง/ตัวละคร ส่วนRE3 เหมาสำหรับผู้ที่ชอบเกมแนวสยองขวัญซอมบี้ แต่มีความแอ็คชั่นอยู๋ในตัวด้วย 2.ด้านเกมเพลย์ -Final Fantasy 7 ในภาคต้นฉบับเกมนี้จะเป็นมุมมองจากที่สูงและเป็นการต่อสู้แบบ Turn-Base ซึ่งความสนุกในรูปแบบการเล่นนี้ จะมีน้อยกว่าการต่อสู้แบบ Real-Time ดังนั้นในภาค Remake นี้หลายๆอย่างจะถูกเปลี่ยนแปลงให้ดูน่าติดตามมากชึ้น เช่น มุมมองเปลี่ยนเป็นบุคคลที่ 3 และการต่อสู้จะใช้รูปแบบ Real-Time ซึ่งทำให้มีความสนุก และท้าทายมากขึ้นเหมือน Final Fantasy ภาคใหม่ๆในปัจจุบัน -Resident Evill 3 เช่นเดียวกันเกมนี้ก็ในภาคต้นฉบับจะมีระบบการเล่นที่เข้าถึงยากระดับนึง และใช้มุมกล้องมุมสูง แถมยังล็อคการหมุนของกล้องทำให้แรกๆอาจจะมึนๆกับการหมุนตัวก่อนแล้วค่อยเดิน ผมคิดว่าพวกคุณก็เคยเจอปัญหาเดียวกันนี้แบบผม555 ในภาค Remake นี้ผู้พัฒนาได้เปลี่ยนจากใช้มุมสูง เป็น TPS ( มุมมองบุคคลที่ 3 ) และไม่ล็อคกล้องแล้วทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆง่ายขึ้นทันตาเห็น รวมทั้งระบบการยิงยังง่ายขึ้นเหมือนภาค 2 Remake ที่ทำออกมาเมื่อไม่นานมานี้นั่นเอง -สรุป FF7 เปลี่ยนจากการต่อสู้แบบ Tuse-Base เป็น Action Real-Time และเปลียนภาพมุมกล้องจากมุมสูงไปเป็นมุมมองบุคคลที่3 ปรับให้มีการใช้คอมโบและสกิลมากขึ้น พูดสั้นๆว่าเน้นบู๊แหลก สาดสกิลคอมโบรัวๆครับ RE3 เปลี่ยนจากการใช้กล้องมุมสูงเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 เช่นกัน และไม่มีการล็อคกล้องไว้ตามฉากนั้นๆเหมือนภาคต้นฉบับ เปลี่ยนเป็นให้กล้องติดตามผู้เล่นทำให้การควบคุมตัวละครง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก และระบบการยิงก็ปรับปรุงให้ง่าย แต่สิ่งที่ท้าทายคือ จะมีกระสุนที่จำกัด และศัตรูที่ไล่คุณตลอดทั้งเกม! สรุป FF7 เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเกมแนว ARPG การใช้คอมโบ อัพเกรดสกิล เจอมอนส์เตอร์ตัวใหญ่ๆ ส่วนRE3 เหมาะสำหรับผู้ที่เกมแนว Action/Horror ชอบความท้าทาย ชอบการยิงและการหนีบ้างในบางจังหวะ. 3.ด้านความคุ้มค่า -Final Fantasy 7 ตอนนี้ในเว็บไซต์หลักมีอยู่ 2 ราคา คือ 1.แบบปกติราคา 1,790 บาท 2.แบบ Deluxe Edition ราคาอยู่ที่ 2,390 บาท ทั้ง 2 ราคานี้จะมีของแถมพิเศษในเกม โดยจะเปิดให้โหลดล่วงหน้า 2 วันก่อนเกมจะเปิดให้เล่นได้ในวันที่ 4 เมษายน 2020 นี้ -Resident Evill 3 สิ่งที่คุณจะได้รับคือ ตัวเกมเต็ม และ Resident Evil Resistance โหมดมัลติเพลย์เยอร์ไว้เล่นกับเพื่อนๆ 1 VS 4 โดยสามารถเล่นได้ในวันที่ 3 เมษายนปี 2020 นี้ และนี่คือทั้งหมดที่คุณจะได้รับ ในสตรีมมีราคาอยู่ที่ 1,809 บาท -สรุป ทั้ง 2 เกมมีราคาใกล้เคียงกันมาก และแต่ละเกมจะมีของแถมให้กับผู้ที่ทำการ Pro-Oder อย่าง FF7 ถ้าซื้อไปคุณจะได้ไอเทม และอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถใช้ในตอนเล่นเกมได้ ส่วน RE7 จะแถมเกม Resident Evil Resistance สำหรับเล่นแบบ 1VS4 แนบมาด้วย ดังนั้นทั้ง 2 เกมถือว่าคุ้มค่าทั้งคู่ ตรงจุดนี้ผู้อ่านต้องตัดสินใจให้ดีว่าชอบเกมไหนมากที่สุด แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ซื้อทั้ง 2 เกมมาเลยครับ!555 ใครซื้อมาแล้วก็อย่าลืมมาอวดกันนะครับ.      

สำหรับเกมเมอร์ที่เติบโตมาในยุค 90 สมัยที่เครื่อง PS1 กำลังเฟื่องฟู เชื่อว่าคงเคยได้เห็นหรือได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเกม Final Fantasy VII มาไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะจากเนื้อเรื่องและตัวละครอันเป็นที่รักยิ่งของแฟนๆ มาตลอดระยะเวลาเกือบ 25 ปีนับตั้งแต่ที่เกมวางจำหน่ายในปี 1997 หรือจากอิทธิพลอันใหญ่หลวงมากมายที่เกมมีต่อทั้งแนวเกม RPG และวงการเกมในภาพกว้าง ในฐานะเกมแรกๆ ที่เปลี่ยนจากการใช้ภาพ 2D มาเป็นโมเดลโพลิก้อนแบบ 3D ในยุคนั้น และเป็นเกมแรกที่ใช้สไตล์การออกแบบศิลป์ที่ผสมผสานความเป็นแฟนตาซีและไซไฟเข้าด้วยกัน อันกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของเกม Final Fantasy แทบทุกภาคตั้งแต่นั้นมา จึงไม่น่าแปลกใจที่วงการเกมโดยรวมจะยกย่องเกมในฐานะ "ตำนาน" ที่ยังคงมีคนติดตามอย่างเหนียวแน่นตลอดมา ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวไป ทำให้การมาถึงของเกม Final Fantasy VII Remake เปรียบเสมือนฝันที่เป็นจริงของเกมเมอร์หลายๆ คนทั่วโลก ที่ถวิลหาโอกาสที่จะกลับไปผจญภัยในดินแดน Midgar อีกครั้ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยกระดับขึ้นมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นของเกมยุคปัจจุบัน และร่วมเดินทางกับเหล่าตัวละครผองเพื่อนที่ไม่ได้พบเจอกันมากว่า 20 ปี ในฝั่งของผู้เขียนเอง แม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรนักจากเกมนี้ แต่ก็สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเกม Final Fantasy VII Remake ถือเป็น JRPG ที่ยอดเยี่ยมเกมหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยเกมเพลย์สไตล์แอคชั่นที่ดุเดือด ท้าทาย และแพรวพราว กับกราฟฟิคและการออกแบบโลกของเกม ที่ทำออกมาได้น่าสนใจและน่าค้นหา รวมไปถึงตัวละครหลักทุกตัว ที่ล้วนมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดที่ดูจะได้รับอนิสงค์จากกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็คงปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่า Final Fantasy VII Remake คงไม่ใช่เกมที่หลายๆ คนคาดหวังเอาไว้เช่นกัน ด้วยรูปแบบของเกมที่ดำเนินไปค่อนข้างเป็นเส้นตรง ไม่ค่อยเปิดโอกาสใหผู้เล่นได้สำรวจเมือง Midgar เท่าไหร่นัก แถมนอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว เกมมีอะไรให้ทำน้อยมากเมื่อเทียบกับเกม RPG ฟอร์มใหญ่ๆ ที่วางจำหน่ายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเมื่อเล่นจบแล้ว แทบจะไม่เหลือเหตุผลให้กลับไปเล่นต่อเลย ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับแฟนๆ ตัวยงของเกม แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ หรือผู้ที่คาดหวังจะได้รับประสบการณ์เกม RPG แบบเน้นๆ อาจจะต้องปรับความคาดหวังกันซักเล็กน้อย ◊ เนื้อเรื่อง ◊ สำหรับคนที่อาจจะไม่เคยติดตามเนื้อเรื่องของเกม FF7 มาก่อนจริงๆ เนื้อเรื่องของเกม Remake จะดัดแปลงมาจากช่วงแรกสุดของเกมภาคต้นฉบับ โดยจะติดตามตัวละครเอก Cloud Strife อดีตสมาชิกหน่วยทหารพิเศษ SOLDIER และผองเพื่อนในกลุ่ม Avalanche ในการต่อกรกับองค์กรพลังงาน Shinra ผู้ซึ่งผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยการดูดเอา Mako หรือพลังชีวิตของโลกมาใช้ คนที่เคยเล่นเกม FF7 ต้นฉบับมาก่อน น่าจะรู้ดีว่าเนื้อเรื่องที่แท้จริงของเกมมันยิ่งใหญ่กว่าแค่การต่อกรกับองค์กรชั่วร้ายอย่าง Shinra มาก แต่สำหรับเกม Final Fantasy VII Remake ผู้เขียนพบว่าเนื้อเรื่องส่วนที่ชอบมากที่สุด กลับเป็นช่วงเวลาเล็กๆ ที่เน้นการพัฒนาตัวละคร เช่นฉากที่ Tifa พยายามช่วย Cloud หาห้องพัก หรือฉากการสนทนาระหว่าง Cloud และ Aerith ระหว่างเดินทางหลบหนีทหาร Shinra มากกว่าเหตุการณ์ใหญ่ๆ ในเนื้อเรื่องหลักเสียอีก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น บวกกับการพากย์เสียงที่ยอดเยี่ยมของเกมด้วย ทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีชีวิตชีวา ทั้งในด้านอากัปกิริยาและเสียงพากย์ ที่ช่วยสื่อตัวตนที่แตกต่างกันของตัวละครแต่ละตัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในฉากเงียบๆ ที่เกมมีเวลาให้ใกล้ชิดตัวละครมากกว่า หรือฉากที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวเมือง Midgar ที่ช่วยเสริมบรรยากาศและความรู้สึกกว้างขวางของนคร Midgar ได้อย่างน่าทึ่ง แม้ว่าเกมเองจะไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจเมือง Midgar มากเท่าไหร่ อาจจะด้วยความที่เกมจำเป็นต้องยึดอยู่กับโครงเรื่องเดิมของต้นฉบับ แต่เกม FF7R เป็นเกมที่มีความเป็นเส้นตรงค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ RPG ใหญ่ๆ หลายเกมในปัจจุบัน ผู้เล่นจะไม่สามารถเดินทางไปมาระหว่างเขตต่างๆ ของเมือง Midgar ได้ หรือกระทั่งการกลับไปยังพื้นที่เก่าที่เคยผ่านมาแล้ว ก็ยังทำไม่ได้เช่นกัน เพราะพื้นที่ที่ผู้เล่นจะสำรวจได้จะขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องของเกมเท่านั้น (เช่น Chapter 3 จะอยู่ในเขตหนึ่ง แต่พอไป Chapter 4 แล้วก็กลับไปไม่ได้อีก) หมายความว่าถ้าพลาดความลับหรือเควสย่อยไป จะต้องเล่นต่อไปจนจบเกมก่อนเพื่อปลดล๊อคระบบ Chapter Select จึงจะกลับไปเล่นต่อได้ และถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าเราจะมีอิสระ เพราะเมื่อเริ่มเล่น Chapter หนึ่งแล้ว จะต้องเล่นต่อจนจบ Chapter เกมจึงจะถือว่าเราเล่นเนื้อหาเหล่านั้นผ่านแล้วจริงๆ นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว เกมยังมีเควสย่อยให้ทำอยู่ประปรายตามทางด้วย โดยต้องบอกตามตรงว่าเควสย่อยของเกม FF7R ยังทำออกมาได้ไม่ดีนัก แม้ว่าเนื้อเรื่องในเควสย่อยหลายเรื่องจะเปิดโอกาสให้พัฒนาตัวละคร และบางเควสถึงกับส่งผลต่อเหตุการณ์เล็กๆ ในเนื้อเรื่องหลักด้วย แต่ภารกิจที่เราต้องทำส่วนใหญ่จะเน้นการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ฆ่ามอนส์เตอร์ แล้วกลับมาส่งเควส การทำเควสเสริมส่วนใหญ่จึงไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ มีเพียงบางเควสจริงๆ ที่ทำแล้วได้ของรางวัลที่คุ้มค่า แต่เควสในเกมก็ไม่ได้มีเยอะแยะมาก (ราวๆ 20 กว่าเควส) การจะทำทั้งหมดจึงไม่ได้ใช้เวลามากมายเช่นกัน เหมือนเป็นของแถมให้ผู้เล่นได้มีเหตุผลในการใช้เวลากับเกมและโลกของเกมมากขึ้นเท่านั้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่ได้จะบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม FF7R ไม่ดี หรือเป็นปัญหาสำหรับการเล่นเกม แต่เรียกว่ามันรู้สึก "ธรรมดาๆ" มากกว่า คนที่คาดหวังว่าเกมจะมีความอิสระหรือเปิดกว้างเหมือนเกม RPG หลา่ยๆ เกมในตลาดอาจจะผิดหวังกันได้ และอาจจะด้วยความที่รู้อยู่แล้วด้วยว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดของเกมเป็นเพียงส่วนที่เล็กมากๆ เมื่อนำไปเทียบกับเนื้อเรื่องดั้งเดิมของต้นฉบับ มันเลยอดรู้สึกไม่ได้ว่าเหตุการณ์หลายอย่างที่เห็นอยู่นี้ ไม่ได้มีความหมายขนาดนั้นในภาพใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อไปถึงช่วงท้ายเกม ที่ผู้พัฒนาเริ่มจะแย้มๆ ถึงศัตรูที่แท้จริงของเนื้อเรื่อง และทิศทางในอนาคตของซีรี่ส์ FF7R ต่อไป ซึ่งบอกได้สั้นๆ แบบไม่สปอยว่า "เหนือทุกความคาดหมาย" ของทุกคนแน่นอน ◊ เกมเพลย์ ◊ อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ขาดไปไม่ได้คือเรื่องระบบต่อสู้ ที่เปลี่ยนจากระบบแบบ Turn-based เหมือนภาคดั้งเดิม มาสู้ระบบที่เน้นแอคชั่นแบบ Real-time ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นดั้งเดิมหลายคนกังวลใจอยู่มากที่สุดเกี่ยวกับเกมภาคใหม่ แต่ถ้าวัดด้วยตัวของมันเอง (คือไม่เอาระบบดั้งเดิมเป็นมาตรวัด) ระบบต่อสู้ของ FF7R ถือว่าทำออกมาได้สนุกมาก และสามารถรักษาสมดุลระหว่างการเล่นเกมแอคชั่นเต็มตัว และการต่อสู้ผ่านเมนูของเกม RPG คลาสสิคได้อย่างกลมกล่อม ในการต่อสู้นั้น ผู้เล่นจะต้องใช้การโจมตีธรรมดาไปพลาง ระหว่างรอให้เกจ ATB ของตัวละครเพิ่มจนเต็ม จึงจะสามารถใช้ความสามารถพิเศษหรือเวทย์มนตร์ของตัวละครนั้นๆ ได้ การสร้างหรือรับความเสียหายจะช่วยให้เกจ ATB เพิ่มเร็วขึ้นด้วย ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่มเพื่อชะลอการเคลื่อนที่ทั้งหมด และเรียกเมนูคำสั่งขึ้นมาเพื่อเลือกใช้สกิล ผู้เขียนยอมรับว่าในช่วงชั่วโมงแรกๆ ของเกม ผู้เขียนรู้สึกติดขัดกับระบบนี้พอสมควร เพราะรู้สึกเหมือนโดนขัดจังหวะตอนบู๊ จึงพยายามใช้ปุ่มลัดในการกดสกิลเป็นหลัก แต่เมื่อเล่นไปซักพัก เริ่มทำความรู้จักระบบ Stagger ของเกม (คล้ายกับระบบใน FF13/15 ที่เมื่อโจมตีจุดอ่อนศัตรูไปเรื่อยๆ จะทำให้ศัตรูล้มลง และโดนความเสียหายมากขึ้นชั่วขณะ) และเจอศัตรูหลากหลายชนิด ที่ล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อนและเงื่อนไขในการ Stagger ไม่เหมือนกัน เช่นศัตรูตัวหนึ่ง จะต้องโจมตีสวนในจังหวะที่มันกำลังจะโจมตีเท่านั้น จึงจะทำให้ติด Stagger ได้ หรืออีกตัวที่ต้องใช้เวทย์มนตร์เท่านั้นเป็นต้น หรือกระทั่งศัตรูระดับบอส ที่มักจะมีชิ้นส่วนให้เราโจมตีได้หลายชิ้นเพื่อจำกัดการโจมตี ทำให้ผู้เขียนจำเป็นต้องปรับตัวและวางแผนมากขึ้น จนทำให้รู้สึกชอบระบบนี้ขึ้นมาในที่สุด เพราะระบบเปิดโอกาสให้ผู้เขียนสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์และวางแผนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสำคัญมากในช่วงท้ายๆ ที่เกมเริ่มมีศัตรูหลายชนิดให้เราต้องรับมือพร้อมกัน แม้เกมจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่เป็นแอคชั่นมากขึ้น แต่รับประกันได้ว่าการใช้ความคิดและการวางแผนแบบ RPG ยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยมแน่นอน ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการควบคุมตัวละครเพื่อนร่วมปาร์ตี้ เพราะผู้เล่นจะสามารถควบคุมตัวละครโดยตรงได้แค่ทีละตัว ในขณะที่ตัวละครตัวอื่นๆ มักจะเดินไปเดินมา หรือยืนป้องกันเฉยๆ เพราะ A.I. ของเพื่อนร่วมปาร์ตี้ก็ไม่ได้ดีนัก การหยุดเวลาจึงทำให้เราสามารถสั่งการเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำในเวลาที่จำเป็น เช่นการสั่งให้ใช้เวทย์ป้องกัน หรือใช้สกิลใส่ศัตรูที่ Stagger อยู่เป็นต้น นอกเหนือไปจากการหยุดเวลาเพื่อออกคำสั่ง เกมยังเปิดให้ผู้เล่นสลับไปควบคุมตัวละครอื่นๆ ในปาร์ตี้ได้อย่างอิสระอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้เขียนชอบมากๆ เพราะแต่ละตัวจะมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันไปหมด เช่น Tifa จะเน้นการโจมตีเป็นคอมโบที่รวดเร็ว และมีการเคลื่อนที่ที่ว่องไวคล่องตัวเป็นพิเศษ ในขณะที่ Barret จะเน้นการโจมตีระยะไกลด้วยแขนปืน แต่จะเคลื่อนไหวช้า และกลิ้งหลบได้ระยะสั้นกว่าคนอื่น ซึ่งรายละเอียดที่ต่างกันเล็กน้อยเหล่านี้ล้วนช่วยเพิ่มมิติในการเล่นเกมขึ้นไปอีกขั้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา เพราะ A.I. ของเพื่อนร่วมปาร์ตี้บางครั้งก็ไม่ฉลาดเอาซะเลย อย่างในการสู้กับบอสครั้งหนึ่ง ที่ตัวละคร Barret ของผู้เขียนดึงดันจะวิ่งไปยืนสาดกระสุนอยู่หน้าบอสให้ได้ แทนที่จะยืนยิงห่างๆ ในที่ปลอดภัย จนผู้เขียนรู้สึกเหมือนโดนบังคับให้ต้องควบคุมตัวเขาตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เขาวิ่งเข้าไปตายอย่างไร้ค่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากการต่อสู้ เกมมีระบบเกมเพลย์อันเป็นแก่นอยู่อีกอย่าง ก็คือการพัฒนาความสามารถของตัวละคร ซึ่งมีหลักๆ อยู่สองอย่าง นั่นก็คือระบบการอัพเกรดอาวุธ และระบบ Materia อันเป็นเอกลักษณ์ของ Final Fantasy VII ภาคดั้งเดิมนั่นเอง ระบบอาวุธของเกม FF7R จะค่อนข้างแตกต่างจากอาวุธในเกม RPG ส่วนใหญ่ แต่จะมีความใกล้เคียงกับระบบ Job Class มากกว่า โดยตัวละครแต่ละตัวจะได้รับอาวุธตัวละครประมาณ 4-6 ชนิด (เท่าที่ผู้เขียนหาได้) อาวุธแต่ละชนิดจะสามารถใช้แต้ม SP เพื่ออัพเกรดความสามารถไปได้เรื่อยๆ จนจบเกม ซึ่งแต่ละชิ้นมักจะอัพเกรดไปในทิศทางที่กำหนดแนวทางการเล่นของตัวละครนั้นๆ ไปเลย เช่นอาวุธชิ้นหนึ่งอาจจะสามารถเพิ่มพลังโจมตีกายภาพได้เยอะ ในขณะที่อาวุธอีกชิ้นหนึ่งจะเพิ่มพลังเวทย์และความเสียหายธาตุต่างๆ เป็นต้น แต่ละตัวละครจะได้รับอาวุธที่กำหนดแนวทางเหล่านี้เหมือนกัน (ทุกตัวจะมีอาวุธที่เน้นเวทย์ เน้นป้องกัน เน้นโจมตี เหมือนกัน) แม้ตัวละครแต่ละตัวอาจจะมีแนวทางที่เข้ากับความสามารถเฉพาะตัวมากกว่า เช่น Aerith ที่ไม่ว่ายังไงก็จะต้องเป็นตัวละครสายเวทย์มนตร์ หรือ Barret ที่มีความสามารถพิเศษที่เหมาะกับการใช้แทงค์ (แต่เอ็งใช้ปืนนะ?!) แต่ระบบก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถทดลองกับการจัดปาร์ตี้เพื่อให้เข้ากับความชอบหรือสถานการณ์ได้พอสมควร ระบบการอัพเกรดอาวุธก็จะทำงานควบคู่ไปกับระบบ Materia ที่เปรียบเสมือนสกิลที่เราสามารถสวมใส่ให้ตัวละคร โดย Materia ทุกชนิดในเกมสามารถใส่ให้กับตัวละครทุกตัว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกำหนดหน้าที่ของตัวละครแต่ละตัว เช่นตัวหนึ่งอาจจะมี Materia เวทย์หลายธาตุ ในขณะที่อีกตัวมี Materia ที่เพิ่ม Max HP เยอะๆ เอาไว้แทงค์ ซึ่งทั้งหมดนี้เองคือสิ่งที่เสริมมิติควมเป็น RPG ให้กับเกม เอาไว้ถ่วงดุลความแอคชั่นของการต่อสู้ สำหรับการเล่นในโหมด Classic ซึ่งจะทำให้เกมควบคุมส่วนแอคชั่นของเกมโดยอัตโนมัติ และให้ผู้เล่นควบคุมเพียงการกดเมนูเพื่อใช้สกิลเมื่อเกจ ATB เต็ม ผู้เขียนรู้สึกว่ามันทำให้เกม "ง่าย" ไปซะหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะเกมจะปรับระดับความยากให้เทียบเท่ากับระดับ Easy โดยอัตโนมัติเมื่อเราเลือกเล่นในโหมดนี้ ทำให้ความรู้สึกดุเดือดเลือดพล่านของเกมหดหายไปอย่างมาก เพราะเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องการป้องกันหรือหลบหลีกการโจมตีอีกต่อไป นอกจากการต่อสู้และพัฒนาตัวละคร เกมยังมี Minigame ต่างๆ ให้เล่นกัน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเกมคลาสสิคจากภาคเก่าด้วย เช่นการขี่มอเตอร์ไซค์ หรือการเต้นใน Honeybee Bee Inn ซึ่งก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ เล็กน้อยให้ผู้เล่นได้ทำเพื่อเพิ่มมิติให้กับเกมเพลย์ จะได้ไม่ซ้ำซากเกินไป แฟนๆ ของเกมภาคดั้งเดิมอาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับมินิเกมฉบับปรับปรุงใหม่เหล่านี้เป็นพิเศษ ถ้าจะพูดถึงจุดอ่อนของเกมเพลย์ คงเป็นเรื่องที่เกมไม่ค่อยมีความลับหรือเนื้อหาแบบ Endgame ให้ทำหลังเล่นจบเนื้อเรื่องเลย โดยนอกจากระบบ Chapter Select ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ การเล่นจบเนื้อเรื่องจะปลดล๊อคระดับความยาก Hard ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถตามหา Summon Materia เพื่อเรียกสัตว์อสูรที่หาได้เฉพาะในระดับ Hard เท่านั้น แต่ในเมื่อผู้เล่นเล่นเนื้อเรื่องจบแล้ว และเกมก็ไม่ได้มีบอสหรือดันเจี้ยนลับให้พิชิตหลังจบเกม ของรางวัลต่างๆ ที่ปลดล๊อคในระดับ Hard จึงรู้สึกไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่สำหรับผู้เขียน นอกจากเป็นของเอาใจแฟนเกม ด้วยการอวด Summon เท่ๆ มากกว่า ◊ กราฟฟิค/การนำเสนอ ◊ แม้ว่าเกม FF7R จะไม่ได้เปิดให้ผู้เล่นสำรวจมหานคร Midgar อย่างลึกซึ้งเท่าที่ผู้เขียนคาดหวังไว้ แต่ต้องกล่าวชมจริงๆ ว่าพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ในเกมนั้นทำออกมาได้ละเอียดละเมียดละไมเป็นอย่างยิ่ง แต่ละพื้นที่ของเกมมีกลิ่นไอที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่สื่อถึงความเป็นอยู่และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของชาวเมือง Midgar เขตต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความซอมซ่อแต่มีชีวิตชีวาของสลัมเขต 7 (Sector 7 Slums) ไปจนถึงแสงสีที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ของ Wallmarket เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ช่วงเวลาเล็กๆ ที่เกมใช้ในพื้นที่เหล่านี้ ซึ่งมักเป็นสถานที่ที่ผู้เล่นจะได้เห็นการปฏิสัมพันธ์น่ารักๆ ระหว่างตัวละคร น่าจดจำกว่าเหตุการณ์ใหญ่ๆ ของเนื้อเรื่อง ที่มักจะเกิดขึ้นในโรงงานหรือดันเจี้ยนมืดๆ แคบๆ นอกจากนี้ เกมมีปัญหาเรื่องกราฟฟิคพื้นผิว ที่โหลดตามเกมไม่ทันบ้างบางครั้ง (เช่นเวลาหันกล้องเร็วๆ) แต่ก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่โตอะไร และแทบดูไม่ออกเลยในดันเจี้ยน อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้กับเกมได้เป็นอย่างดี คือเรื่องเสียงพากย์และสีหน้าท่าทางของตัวละคร ซึ่งถือว่าท๊อปฟอร์มเลยสำหรับเกมของ Square Enix ในช่วงหลายปีมานี้ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการขยับปากของตัวละคร ที่ดูแปลกๆ ไม่ตรงคำพูดอยู่บ่อยครั้ง หรือท่าทีกิริยาของตัวละครบางตัว ที่มีความเป็นอนิเมะสูงมาก จนบางทีก็ทำให้อารมณ์หลุดจากเกมเหมือนกัน (ไม่รู้ว่าถ้าเล่นเสียงญี่ปุ่นจะมีปัญหาพวกนี้ไหม) แต่โดยรวมๆ แล้วตัวละครทุกตัวของเกม FF7R ก็ถือเป็นสีสันหลักของเกมอย่างแน่นอน ในเรื่องของเพลงประกอบ ต้องบอกว่าเกมทำออกมาได้ค่อนข้างดี แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะแอบชอบเพลงแบบต้นฉบับมากกว่า แต่เพลงเวอร์ชั่นรีมิกซ์ต่างๆ ของภาคใหม่ก็ช่วยเสริมบรรยากาศของเกมได้ดี แม้ว่าจะมีปัญหาเล็กน้อยที่ความดัง เพราะในหลายฉากผู้เขียนรู้สึกว่าเกมเร่งเสียงเพลงขึ้นมาดังมาก จนแทบจะฟังเสียงพูดของตัวละครไม่รู้เรื่องเลย โดยเฉพาะในฉากต่อสู้ นอกจากนี้ เกมยังมีบั๊คในระบบการคำนวนตำแหน่งเสียง ที่ทำให้เสียงพูดของตัวละครบางครั้งฟังดูแผ่วๆ เหมือนพูดมาจากระยะไกล ทั้งที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน หรือบางทีก็ตัดเข้าออกระหว่างระยะใกล้-ไกลกลางประโยคเลยก็มี ซึ่งจุดนี้ทำให้ฟังบทสนทนาไม่ออกบ่อยๆ (ยังดีอ่านซับได้) และทำให้อรรถรสของเกมเสียไปเล็กน้อยเวลาที่เกิดขึ้น ◊ สรุป ◊ แม้จะไม่ใช่เกมที่หลายคนคาดหวังจะได้เห็น แต่ในฐานะคนที่ไม่ได้มีความผูกพันลึกซึ้งกับเกมต้นฉบับ ผู้เขียนก็พูดได้เต็มปากว่า FF7R เป็นเกม JRPG ที่สนุกเกมหนึ่ง ด้วยระบบการต่อสู้และพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ รวมไปถึงเหล่าตัวละครเอก ซึ่งล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เหมือนเป็นการตอกย้ำตัวเองว่าทำไมเกม Final Fantasy VII จึงเป็นที่รักของเกมเมอร์ได้ขนาดนี้ ถึงเกมจะมีข้อบกพร่องพอสมควรในหลายๆ ด้าน ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นเหตุมาจากการที่เกมไม่สามารถฉีกไปจากเนื้อเรื่องเดิมได้ก็ตาม สิ่งที่ไม่ได้พูดถึงมากนักในรีวิวนี้คือช่วงตอนจบของเกม ที่ไม่อยากสปอยมาก เพราะเชื่อว่าน่าจะเหนือความคาดหมายของทุกคน และทำให้อนาคตของซีรี่ส์ Final Fantasy VII Remake น่าตื่นเต้นขึ้นอย่างมหาศาลเลยทีเดียว แล้วรออ่านบทวิเคราะห์ตอนจบของเกมได้ทาง GameFever ต่อไปจ้าาาา! [penci_review id="49621"]

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายเกม Final Fantasy 7 Remake โดยตัวผู้เขียนเองก็มีคิดอยู่บ้างว่า ในช่วงที่เกมดังขนาดนี้วางจำหน่าย น่าจะมีหลายเกมเลยที่มีการจัดกิจกรรมร่วมกัน แต่เหมือนว่าจะมาเร็วกว่าที่คิดครับ เพราะล่าสุดผู้เล่นก็สามารถหาเสือผ้าของตัวละครจาก FF7 Remake มาใส่ให้กับตัวละครในเกม Animal Croosing ได้แล้ว แถมไม่ได้มาแค่ชุดของ Cloud Strife ที่เป็นพระเอกของเกม แต่ยกชุดของตัวละครหลักมาทั้งหมดเลยครับ! โดยการที่จะใส่สกินเหล่านี้ได้ผู้เล่นจะเป็นต้องมี Able Sisters ซะก่อน ซึ่งสกินที่สามารถหาใส่ได้มีของตัวละค 5 ตัวด้วยกันคือ Cloud, Aerith, Tifa, Sephiroth, และ Barret บางตัวละครก็มีชุดให้เลือกใส่ถึง 3 แบบเลยด้วย ถ้าสนใจสามารถดูหน้าตาของสกินต่างๆ พร้อม Creator Code ได้ข้างล่างนี้เลยครับ ซึ่งวิธีการใช้ Code ดังกล่าว สามารถทำได้โดยการไปคุยกับ Computer Kiosk ในร้านขายเสื้อผ้าครับ Cloud Aerith Tifa Barret Sephiroth Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

เปิดมาอย่างเซอร์ไพรส์เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วสำหรับ Resident Evil 3 Remake ทำให้หลายๆ คนเฝ้ารอกันเป็นอย่างมาก เพราะหนึ่งในศัตรูที่น่าจดจำที่สุดของซีรีส์นี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้าอาวุธชีวภาพอย่าง Nemesis ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดในการไล่ล่าตัวละครหลักทั้งเกม บวกกับคอสตูมเกาะอกฟ้าของตัวเอกอย่าง Jill Valentine (จิล) ที่กระแทกใจหนุ่มๆ สมัยนั้นมาแล้ว และจากประสบการณ์ในวัยเด็ก Resident Evil ภาคนี้น่าจะเป็นภาคที่ทำให้ชาวไทยได้รู้จักซีรีส์นี้กันแบบเต็มตัวอีกด้วย ซึ่งหลังจากที่เกมวางจำหน่ายมาเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2020 ทางเรา GameFever TH ได้ไปเล่นเกมนี้มาแล้วครับและจะมารีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกันว่ามันยังจะเป็นเกม Remake ยอดเยี่ยมเหมือนที่เคยทำไว้ใน Resident Evil 2 Remake หรือไม่ ไปชมกันเลยครับ เนื้อเรื่อง อย่างที่ทราบว่าในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของ Resident Evil 1 อย่าง Jill Valentine (จิล) โดยภาคนี้ดำเนินเรื่องราว 3 เดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์ในภาคแรก ตัวเธอก็ยังใช้ชีวิตเป็นตำรวจหน่วย S.T.A.R.S ของเมือง Raccoon City เช่นเดิม และสืบหาความจริงของบริษัท Umbralla ต่อไป และในตอนนี้ตัวเมืองเองก็เกิดเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดเสียแล้ว ซึ่งจิลเองก็ได้วางแผนที่อยากจะหนีออกจากเมืองนี้ไปให้ได้ แต่ทันใดนั้นก็มีอาวุธชีวภาพอย่าง Nemesis เข้ามาทำร้ายเธอที่ห้องพัก และเหตุการณ์ต่างๆ ก็เริ่มขึ้น !! ซึ่งใน Resident Evil 3 Remake เนื้อเรื่องของเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีโครงเรื่องที่เหมือนกันกับเวอร์ชั่นปี 1999 อยู่ เพียงแต่การนำเสนอ หรือการดำเนินเรื่องราวอาจจะมีความแตกต่างกันอยู่มากพอสมควร แต่โดยรวมนั้นก็ยังเป็นเนื้อเรื่องเส้นเดียวกันอยู่ดี และใครที่เคยเล่นภาคเก่ามาท่านก็น่าจะทราบว่าเนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ มันเหมือนเป็นการขยายโครงเนื้อเรื่องหลักในภาคสอง และเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมที่ทำให้เราเห็นบทสรุปความพินาศของเมืองนี้เยอะขึ้นเสียมากกว่า ตัวเนื้อเรื่องต้องยอมรับว่ามันก็ไม่ได้ลึกซึ้งมากมายมีดราม่าเท่ากับ Resident Evil 2 เท่าไร ตัวเกมภาคนี้จะเป็นการดำเนินเรื่องในการพยายามหนีออกจากเมืองของจิลอย่างเดียว แต่มันก็ยังมีสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้ว้าวอยู่บ้างอาทิเช่นการใส่ Easter Egg เชื่อมโยงบางอย่างระหว่าง Resident Evil 2 Remake ภาคที่แล้ว ถึงอย่างนั้นอะไรแบบนี้มันก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไรภายในเกม กราฟิก / การนำเสนอ ตัวกราฟิกของเกมนี้ก็ยังใช้ RE Engine ที่ใช้มาตั้งแต่ Resident Evil 7 และการบังคับแบบเดียวกันกับ Resident Evil 2 Remake ซึ่งเราก็คงไม่ต้องไปกังขาอะไรสำหรับความยอดเยี่ยมของมันเลย และดีมากยิ่งขึ้นสำหรับการ Optimize ที่ทำให้ตัวเกมมีความลื่นไหลมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งส่วนตัวใช้คอมพิวเตอร์ระดับกลางๆ I5 Gen 8 กับการ์จอ GTX 1060 ก็สามารถเล่นเกมนี้แบบ High ได้เกิน 60 FPS โมเดลตัวละครเองก็อาจจะเอาซอมบี้แบบเดิมมาเปลี่ยนแปลงชุดหน่อย หรือเอาโมเดลคล้ายๆ กันมาดัดแปลงอัพเกรดมากขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเลยสำหรับ Mr.X และ Nemesis ที่แอนิเมชั่นเหมือนกันเป๊ะๆ พร้อมทั้งสคริปของซอมบี้บ้างอย่างเองก็อาจจะซ้ำๆ กันในภาคที่แล้วดูเป็นงานเผาๆ บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่จุดสำคัญอะไร ส่วนในเรื่องของการนำเสนอ กลื่นอายของเกมในภาคนี้จะมีความแตกต่างจากภาคก่อนหน้าอย่าง Resident Evil 2 Remake สิ้นเชิง โดยภาคที่แล้วจะเน้นการเล่าเรื่องเชิงลึกลับและสยองขวัญมากๆ สิ่งต่างๆ ที่เราเจอจะเป็นสิ่งใหม่ที่เราไม่คาดคิดตลอดเวลา ไหนจะเป็นเรื่องของปริศนาของสถานที่อย่างสถานีตํารวจ ที่มีความลับมากมายให้เราได้ค้นหาการเล่นกับความมึดและความเก่าที่ทำได้อย่างดีงาม แต่ในภาคล่าสุดนี้ !! เนื่องจากตัวเนื้อเรื่องที่ตัวเอกค่อนข้างช่ำชองพวกซอมบี้แล้ว รวมถึงโลเคชั่นภายในเกมเองส่วนใหญ่อยู่แต่บนถนน ทำให้ความน่ากลัวนั้นน้อยลงไปเยอะ การเล่นกับความมึดก็ทำได้ไม่เท่าเดิมเนื่องจากข้อจำกัดของสถานที่ มันเลยทำให้เกมภาคนี้จึงไปเน้นอารมณ์อย่างอื่นเข้ามาทดแทน นั่นคือความ ชุลมุน ของเหตุการณ์อันวุ่นวายภายในเมือง ความสมเหตุสมผลของโลเคชั่นที่มันไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในสถานีตํารวจ ทำให้ฝูงซอมบี้เองก็มีมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความโกลาหลมากขึ้นอีก ไหนจะเป็นการไล่ล่าของ Nemesis ที่เราจะต้องซัดกับมันทั้งเกม ในภาคนี้จะเป็นเกมสยองขวัญที่จะกลิ่นอายความเป็นแอคชั่นที่มากขึ้นกว่าเดิม โดยหลายๆ คนก็อาจจะคิดว่าภาคนี้มันไม่ค่อยน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากับภาคก่อนหน้าเลย ส่วนตัวผมนั้นสามารถหาข้อแก้ต่างให้กับผู้พัฒนาได้นะ ก็เพราะว่า Resident Evil ในสมัยก่อนนั้นภาพของเกมก็ยังไม่ได้มีการเล่นเฉดเงา และความมึดเหมือนดั่งภาคสมัยนี้ ความน่ากลัวของเกมมันเลยเน้นไปที่เหล่าซอมบี้สุดโหดพื้น, บรรยากาศความเงียบ และพื้นที่แคบๆ เสียมากกว่า และเรื่องของมุมกล้องเองที่เปลี่ยนมาเป็นมุมมองบุคคลที่สาม มันเลยทำให้เรารู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ บวกกับในภาคสองที่ทางเดินมันจะเป็นทางแคบๆ ชวนรู้สึกน่าอึดอัดมากกว่าภาคสามที่ต่อให้ทางเดินจะกว้างพอๆ กัน แต่มันกลับมีวิวทิวทัศน์ที่ค่อนข้างมองให้เห็นไกลกว่ามาก !! "ถ้าคุณจะต้องเจอผีซักตัว คุณว่าเจอบนกลางถนน หรือเจอในห้อง อะไรน่ากลัวกว่ากันล่ะ" เกมเพลย์ การบังคับต่างๆ ของเกมภาคนี้ มันก็จะเหมือนกับภาคที่แล้วเกือบทั้งหมด จังหวะการยิงหรือแม้กระทั่งการผสมของที่ก็ยังเอาระบบจากภาคที่แล้วมาใช้ แต่อย่างที่พูดไปก่อนหน้าว่าอารมณ์ของเกมภาคนี้จะมีความแอคชั่น และมีความชุลมุนมากขึ้น ทำให้ภายในเกมภาคนี้เราจะได้ประทะและพบเจอกับเหล่าซอมบี้บ่อยกว่าแต่ก่อน ซอมบี้จะมาโจมตีเราจากทุกที่ทุกทางด้วยจำนวนที่มากขึ้น ผู้พัฒนาจึงได้ทำการใส่จุดดรอปกระสุนให้เรามากกว่าเดิมพอสมควรเพื่อรองรับในการต่อสู้ พร้อมทั้งยังใส่เครื่องทุนแรงมาประหยัดกระสุนอย่างมีดที่ภายในภาคนี้จะสามารถใช้ฟันศัตรูได้อย่างไม่จำกัด ผิดจากภาคที่แล้วเป็นเพียงแค่เอาไว้ป้องกันศัตรูจากการโจมตีอย่างเดียว และไอ้ระบบมีดที่เปลี่ยนใหม่นี่แหละมันกลับทำให้เราประหยัดกระสุนมากขึ้น เพราะในภาคที่แล้วเวลาเรายิงซอมบี้ล้มเราจะต้องยิงใส่มันเพื่อเช็คอีกครั้งว่าตายหรือไม่ ซึ่งมันค่อนข้างเปลืองกระสุนมาก แต่ในภาคนี้เวลายิงศัตรูล้อมคุณก็อาจจะเอามีดไปฟันมันตอนล้มได้ไม่เปลืองกระสุน ไหนจะเป็นการทุ่นแรง ที่ตามแผนที่มักจะมีระเบิดให้เก็บบ่อย หรือถังน้ำมันที่สามารถเอาไว้ยิงให้มันระเบิดใส่ซอมบี้ก็ได้ รวมถึงระบบ Dodge ที่ถ้าหากว่าคุณกดให้ตรงจังหวะ มันจะทำให้เราสามารถหลบการโจมตีของศัตรูได้ทันที ซึ่งระบบนี้สามารถกดได้แบบไม่มีหลอด Stamina มากวนใจเหมือนเกมอื่นๆ จึงสามารถใช้ได้ไม่จำกัดเลยทีเดียว ใครที่ชำนาญมันจะทำให้เราค่อนข้าง Over Power มากๆ หลบได้แม้กระทั่ง Nemesis เลยทีเดียว มาพูดถึงเจ้าตัว Nemesis กันหน่อยดิกว่า ซึ่งส่วนตัวได้เคยลองเล่นใน Demo มาแล้วรู้สึกประทับใจกับมันมากพอสมควร เพราะอย่างไปกล่าวไปว่าเกมนี้ค่อนข้างทำให้ตัวเรามีความสามารถมากไปหน่อย ทั้งการหลบหลีก กระสุนมีให้เก็บเยอะ ปืนดีๆ ก็หาง่ายในช่วงต้นเกม การมีเจ้า Nemesis เข้ามามันช่วยลดทอนความเก่งกาจของเราได้ดีนักเชียว เพราะมันวิ่งเร็ว, กระโดดดักหน้า, ดึงให้ล้ม และ มาแบบไม่พัก ต่อให้คุณสำรองเลือดยังไงก็จะหมดไปกับมันแน่นอน แต่พอได้เล่นตัวเกมเต็ม ส่วนตัวกลับรู้สึกผิดหวังเข้าขั้นรุนแรงเลยทีเดียว โอเคว่าความสามารถของ Nemesis ที่เราเจอจะเก่งมากโดยเถียงไม่ได้ แต่การปรากฏของศัตรูตัวนี้ในแต่ละครั้งจะเป็นสคริปแทบทั้งหมด ไม่มีการสุ่มปรากฏเหมือนที่เคยเจอกับ Mr.X เลยซักนิด ใครที่เล่นเกมนี้จบเพียงครั้งเดียวท่านก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเจ้าอาวุธชีวภาพตัวนี้จะออกมาเมื่อไร ซึ่งมันค่อนข้างหน้าผิดหวังนะ เพราะมันทำให้ความตื่นเต้นและความรู้สึกกลัวเจ้าศัตรูตัวนี้ลดลงไปแทบทั้งหมด ถึงแม้ว่าเราจะพยายามชาเลนซ์ตัวเองฆ่ามันให้ได้ (ในด่านแรกๆ ) แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหล่ะ เพราะมันก็จะไม่เกิดมาใหม่อีกแล้วจนกว่าจะเข้าสคริปต่อไป ไม่เหมือน Mr. X ที่พอฆ่ามันเสร็จ เดี๋ยวอีกซักพักมันก็กลับมาได้ มันน่าตื่นเต้นตรงไหน และการที่เกมนี้มันมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับตัวละครเยอะจนเกินไป มันก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อเหมือนกันนะ ถ้าคุณเล่นไปซักพักคุณจะรู้ได้เลยว่ากระสุนต่างๆ ของเกม จะมีเพียงพอสำหรับซอมบี้และอสูรกายทุกตัวเสมอ ถ้าคุณบังเอิญไปเจอกระสุนให้เก็บเยอะก็เดาได้เลยว่าเหตุการณ์ข้างหน้าอีกไม่ไกล คุณจะเจอกับฝูงซอมบี้, ซอมบี้ตัวใหม่ ไม่ก็บอสแน่นอน บางทีมีไอเท็มและปืนที่ใช้ปราบศัตรูตัวนั้นก่อนที่จะเจอมันไม่ถึง 1 นาทีก็มี รวมถึงกระสุนที่มีให้พร้อมยิงตายแน่นอนไม่ต้องหนีขอแค่ยิงให้โดนนะ รวมถึงปริศนาภายในเกมที่ทำออกมาได้น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ปริศนาของเกมนี้จะไม่ใช่การไขกลไกต่างๆ เหมือนภาคก่อนหน้าแล้ว แต่จะเป็นการหาไอเท็มมาเพื่อใช้ในสิ่งๆ หนึ่งเท่านั้น มันเลยไม่ทำให้เราต้องคิด วิเคราะห์ใดๆ ทั้งนั้น เพียงแค่คุณหาไอเท็มให้เจอและก็ไปปลดล็อคมันซะ ซึ่งถ้าให้พูดเชิงความสมเหตุสมผลมันก็พอแก้ตัวได้บ้างเพราะในภาคนี้เราจะได้อยู่นอกอาคารไม่เหมือนกับภาคก่อนหน้าที่เขาปูมาเลยว่าสถานีตํารวจเป็นพิพิธภัณฑ์เก่า เลยทำให้กลไกมันเยอะ แต่มันก็มีฉากที่อยู่ในห้องแลปเหมือนกัน แต่ทำไมไอเดียปริศนาของภาคที่แล้วกลับดูเจ๋งกว่าหลายเท่าตัว ยกตัวอย่างไอเดียปริศนาเปิดสวิชไฟด้วยชนวนหมากรุกที่เราจะต้องไขปริศนาจากคำใบ้ หรือแม้กระทั่งการหาคลื่นเสียงเพื่อเปิดไฟ ซึ่งภาคก่อนหน้าทำได้ดีมาก แต่ในภาคนี้ทำเพียงแค่การหาของให้ครบภายในอาคารและก็เอาไปปลดล็อคแค่นั้น ในประเด็นนี้ผิดหวังอย่างแรง !! สรุป Resident Evil 3 Remake เป็นเกมที่พยายามทำให้มันมีความแตกต่างกับเกมภาคก่อนหน้าอย่าง Resident Evil 2 Remake อย่างสิ้นเชิงถึงแม้ว่าจะมีเกมการเล่นที่คล้ายกัน โดยกลิ่นอายในภาคนี้จะมีความสยองขวัญที่ดูมีความชุลมุนมากขึ้นในเรื่องของจำนวนซอมบี้ และความเก่งกาจของเจ้า Nemesis แต่มันก็แลกมาด้วยความเก่งกาจของตัวละครเราที่ Over Power เป็นอย่างมาก และมีเครื่องทุ่นแรงจากสิ่งต่างๆ มาช่วยเหลือที่ส่วนตัวคิดว่ามันมากเกินไป Nemesis เองก็ไม่ได้ทำให้เรามีความรู้สึกกลัวมันเลยแม้แต่ครั้งเดียวสำหรับผู้เขียน เพราะเรารู้แน่นอนว่ามันจะมาตอนไหนซีนไหน ทำให้คุณมีเวลาฟาร์มของหาปริศนาปลดล็อคสิ่งเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ต้องกลัวอะไรเลย ผิดกับ Mr. X ในภาคก่อนหน้าที่เราแค่ได้ยินเสียงฝีเท้ามันก็ขนลุกไปทั้งตัวแล้ว ส่วนการลดทอนระบบปริศนาให้มันง่ายกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะพวกเขาอยากให้คนรุ่นใหม่สามารถจับต้องมันมากขึ้นก็ได้ ส่วนตัวเองไม่ค่อยชอบในเรื่องนี้เสียเท่าไร เพราะปริศนาใน Resident Evil 2 Remake ค่อนข้างทำได้กลมกล่อมแล้ว ถึงอย่างนั้นผู้เขียนเองก็เข้าใจในประเด็นนี้นะ เพราะมันก็มีผู้เล่นหลายๆ คนเองก็ไม่ชอบปริศนายากๆ อยู่จำนวนหนึ่งเหมือนกัน และการนำเสนอที่แตกต่างจากภาคที่แล้วเองก็เป็นไอเดียที่ค่อนข้างดี แต่เอาจริงๆ มันยังขาดการขัดเกลาที่มากกว่านี้ เพราะภาคก่อนหน้าทำไว้ดีมากๆ ภาคนี้มันจึงถูกเปรียบเทียบเป็นธรรมดา แต่ถึงแม้ว่าเกมภาคนี้จะมีหลายๆ สิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบค่อนข้างเยอะ โดยรวม Resident Evil 3 เองก็ถือว่ามันเป็นเกมที่สนุกมากๆ เกมหนึ่ง ยังไงซะการเล่นครั้งแรกความตื่นเต้นต่างๆ มันมาเต็มอยู่แล้ว คุณสามารถสนุกกับมันแบบเล่นรวดเดียวจบได้ทันที แต่ถึงอย่างนั้นเนื่องจากการที่ซีรีส์ Resident Evil ช่วงสามสี่ปีมานี้ มันเป็นเกมที่มีคนกลับมาคาดหวังอีกครั้ง เนื่องจากการปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ ให้มัน Hardcore เพื่อรองรับผู้เล่นดั้งเดิมมากขึ้น แต่พอภาคนี้มันเบาลง เลยทำให้ผิดหวังอยู่หน่อยๆ [penci_review id="49508"]

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายภาค Remake ของเกม RPG ในตำนานอย่าง Final Fantasy VII Remake ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดตัวไปเมื่อหลายปีก่อน ในที่สุดอีกไม่ถึง 3 วันเราก็จะได้สัมผัสเกมนี้กันแล้ว แต่ว่าการกลับมาในครั้งนี้ ก็ได้ทำการเปลี่ยนระบบการเล่นของเกมไปมากพอสมควรเลย รวมไปจนถึงเนื้อเรื่องของเกมที่มีการดัดแปลงไปบ้างเช่นกัน จนแฟนๆ ซีรีส์นี้บางคนเริ่มไม่แน่ใจแล่วว่า ควรจะซื้อเกมภาค Remake นี้มาเล่นดีรึเปล่า แน่นอนว่าในเมื่อเป็นเกมที่ใครหลายคนต่างเฝ้ารอแบบนี้ มันก็ต้องถูกส่งให้กับทางสื่อต่างๆ ได้ทำการเล่นก่อน เพื่อที่จะได้สามารถเขียนรีวิวได้อยู่แล้ว เพื่อให้ง่ายขึ้นต่อการตัดสินใจสำหรับแฟนๆ หรือผู้เล่นหน้าใหม่สำหรับซีรีส์นี้ ว่าจะซื้อ FFVII Remake มาเล่นดีรึเปล่า ทางเราจึงได้ทำการรวบรวมคะแนนรีวิว ของสื่อต่างประเทศมาให้ได้ดูกัน โดยคะแนนดังกล่าวก็ได้มากจากเว็บไซต์ Metacritic เจ้าเดิม และเกมนี้ก็ได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 87 เลยด้วยครับ PlayStation Universe  90/100 GamesRadar+  90/100 DualShockers 85/100 IGN 80/100 Push Square 80/100 VG247 80/100 USgamer 70/100 จากเท่าที่เห็นจากคะแนนรีวิวทั้งหมดแล้ว สื่อต่างๆ ให้คะแนนเกมนี้อยู่ในช่วง 80-90 ซะส่วนใหญ่ มีน้อยมากๆ ที่จะให้คะแนนเกมนี้ตำกว่า 80 โดยไม่ว่าจะเป็นค่ายที่ให้คะแนนเยอะ หรือว่าน้อย มีหนึ่งเรื่องที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน นั้นก็คือระบบต่อสู้แบบ Real Time Action ของเกม มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถที่แตกต่างกัน ซึ่งการสลับควบคุมแต่ละตัว เพื่อต่อสู้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ต้องยอมรับเลยว่าผู้พัฒนา ทำระบบนี้ออกมาได้ดีจริง ทาง VG247 ถึงขนาดบอกว่า "นี้คือเกมที่ที่ทำ Combat System ในเกมรูปแบบ 3D ของซีรีส์ Final ได้ดีที่สุด" เลยด้วยครับ อีกเรื่องที่หลายๆ สื่อชื่นชมเกมนี้ก็คือในเรื่องขององค์ประกอบเกมที่ทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงาม, เพลงประกอบที่ไพเราะ, หรือรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ถ้าเอาแค่เรื่องเกมเพลย์ กับภาพ แล้วละก็ Final Fantasy VII Remake นับเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยก็ว่าได้ ทางด้านข้อเสียหลายสื่อก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน นั้นก็คือตัว Side Quests ของเกมที่ทำออกมาได้น่าเบื่อมากๆ คือมันไม่สมเหตุสมผลเลย กับการที่ทหารรับจ้างอย่าง Cloud ถูกขอให้ไปตามหาเด็กที่หลงทาง, จัดการกับหนูท่อ, หรือตามหาไอเทมอะไรก็ไม่รู้ แถม Side Quests ต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเนื้อเรื่องเลย มันเหมือนกับเล่นเกม MMORPG ที่ไปต้องเดินไปคุยกับ NPC รับเควส ทำ แล้วก็ส่ง แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่มัน Offline เท่านั้น หลังจากที่ได้อ่านรีวิวไปแล้วก็บอกได้เลยว่าเกมนี้มีดีเยอะมากๆ คือถ้าเอาแค่เกมเพลย์อย่างเดียวรับรองว่าดีมากๆ แน่นอน แต่ยังไงคนที่จะตัดสินว่าเกมนี้สนุกรึเปล่าก็คือตัวผู้เล่นเองครับ แล้วรออ่านรีวิวจาก GameFever ได้เร็วๆ นี้จ้า! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Resident Evil 3 Remake มาถึงมือเหล่าแฟนๆ แล้วหลังจากที่รอมานานกว่า 1 ปี ซึ่งตัวเกมภาคนี้ก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสนุกเลยทีเดียว แน่นอนว่าในเมื่อตัวเกมได้รับเสียงตอบรับที่ดีขนาดนี้ ก็ต้องมีภาคต่อของเกมถูกปล่อยออกมาในปีต่อๆ ไปอย่างแน่นอน โดยภาคต่อดังกล่าวอาจเป็น Resident Evil 8 หรือเป็นอีกหนึ่งภาค Remake ของซีรีส์ ก็เป็นได้เช่นกันครับ Capcom ได้ทำการปล่อยแบบสอบถามตัวใหม่ออกมา ในนั้นมีอยู่หนึ่งข้อที่ถามว่า "ถ้าหากมี Resident Evil Remake ภาคใหม่ถูกวางจำหน่ายออกมา คุณจะซื้อรึเปล่า?" โดยผู้เขียนคิดว่าทาง Capcom เองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรทำภาค Remake ออกมาอีกรึเปล่า ดังนั้นจึงได้มีการปล่อยแบบสอบถามนี้ออกมา ซึ่งคิดว่า ถ้าหากมีเสียงบอกว่าให้ทำภาค Remake ใหม่มากพอ เราก็น่าจะได้เห็น Resident Evil Remake ภาคอื่นๆ ออกตามมาในปีอันใกล้นี้ครับ Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายของเกม Final Fantasy 7 Remake ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ตัวเกมนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกของเกม หรือ ระบบแบทเทิล วันนี้ก็ได้มีการปล่อยรูปภาพมากมายโชว์ ตัวละครเก่าๆ ในลุคใหม่ออกมามากมายเลยด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าตัวละครต่างๆ มีความ สวยหล่อขึ้นอย่างมากเลยทีเดียวครับ ในรูปภาพชุดใหม่ที่ปล่อยออกมานั้น เป็นการโชว์ตัวละครต่างๆ จากทางฝั่ง Shinra ไม่ว่าจะเป็น Rufus ที่เป็นรองประธานของบริษัท, Reeve  หนึ่งในผู้บริหารของบริษัท และเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญประจำซีรีส์, Scarlet ผู้อำนวยการด่านอาวุธของ Shinra, ไอ้อ้วน Palmer และ Kyrie สาวน้อยจอมโกงประจำ Sector 5 เรียกได้ว่าแต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ โดยเฉพาะ Scarlet กับ Kyrie รับชมรูปต่างๆ ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Rufus Reeve Scarlet Palmer Kyrie Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอกันแทบจะข้ามยุคคอนโซล ในที่สุดเกมเมอร์ทั่วโลกก็ใกล้จะได้สัมผัสกับเกม Final Fantasy VII Remake เต็มทีแล้ว ด้วยวันวางจำหน่ายของเกม ที่อยู่ห่างออกไปอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น (แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะได้แผ่นหลุดกันมาบ้างแล้วอ่านะ...) ล่าสุด เพื่อเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ครั้งสุดท้ายก่อนเกมวางจำหน่าย ทางผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอตัวอย่างใหม่ล่าสุดของเกมออกมาให้ชมกัน ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเกมเพลย์และฉากคัตซีนใหม่ๆ ที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน ให้ดูกันเพลินๆ ถึง 4 นาทีกว่าไปเลย สำหรับแฟนๆ ที่เคยเล่นเกมภาคดั้งเดิมมาแล้ว น่าจะมีอะไรให้คิดถึงกันพอสมควรเลย ส่วนคนที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน ตัวอย่างนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นภาพโลกของเกม รวมไปถึงเหล่าตัวละครหลักที่เราจะพบในเกมได้เป็นอย่างดี (คำเตือน: อาจจะมีรายละเอียดเนื้อเรื่องหลายอย่าง ที่เกมเมอร์อาจจะรู้สึกเป็นการสปอย) ยิ่งเห็นอย่างนี้แล้ว ยิ่งแทบจะอดใจรอไม่ไหวเลย ขอหลับแล้วตื่นมาเล่นเกมอาทิตย์หน้าเลยได้ไหมนะ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งในเกมที่ผู้เล่นทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ และด้วยความที่ตัวเกมนั้นถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ เร็วขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นทุกคนจะได้สัมผัสเกมนี้อย่างแน่นอนในวันที่วางจำหน่าน ก็เลยทำให้เกิดเหตุการแผ่นหลุดมากมายอย่างที่เห็นก่อนหน้านี้ แต่ถึงแม้ว่าตัวแผ่นของเกมจะหลุดออกมาในตลาดจนถึงขนาดว่ามีคนสามารถเล่นเกมนี้ได้แล้วในตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่าตัว Digital จะไม่มีการวางจำหน่ายก่อนกำหนดอย่างแน่นอนครับ! Square Enix ได้ออกมาบอกอย่างเป็นทางการว่า "เราทราบดีว่าการส่งแผ่นให้กับร้านค้าต่างๆ ก่อน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมไม่ให้มีแผ่นหลุดออกมาเลยได้ แต่ไม่ว่ายังไงทางเราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 ดังนั้นผู้เล่นจะสามารถเล่นเกมผ่านระบบ Digital ได้ในวันที่ 10 เมษายน 2020 เท่านั้น" แต่ในบ้านเราผู้เขียนยังไม่เห็นข่าวว่ามีแผ่นหลุดออกมาเลย ดังนั้นถ้าผู้พัฒนาเขาว่าวันที่ 10 ก็คงต้องเป็นไปตามนั้นครับ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เช่นเดียวกับเกมฟอร์มยักษ์หลายๆ เกมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เกม Final Fantasy VII Remake จะต้องใช้พื้นที่ในการโหลดเกมกว่า 100GB เลยทีเดียว แม้ว่ามองเผินๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลก แต่ต้องไม่ลืมว่าส่วนใหญ่เกมที่ใช้พื้นที่มากขนาดนั้น มักจะเป็นเกมโลกเปิดที่มีเนื้อหาเยอะมากๆ อย่าง Red Dead Redemption 2 หรือ Assassins Creed: Odyssey ซึ่งเกม Final Fantasy VII Remake ไม่น่าจะเปิดกว้างเท่าเกมเหล่านั้นแน่ๆ หนำซ้ำเกมยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมดของ Final Fantasy VII อีกต่างหาก จึงน่าสงสัยว่าเหตุใดเกมจึงต้องใช้เนื้อที่มากขนาดนั้น ล่าสุด ผู้พัฒนาเกมได้ตอบคำถามนี้แล้วในบทสัมภาษณ์ระหว่างคุณ Naoki Hamaguchi (ผู้กำกับร่วม) กับสื่อ USgamer โดยคุณ Naoki เปิดเผยว่า เหตุผลที่เกมมีขนาดไฟล์ใหญ่ขนาดนั้น เป็นเพราะผู้พัฒนาต้องการจะสร้าง Asset เฉพาะสำหรับพื้นที่ต่างๆ ของเกมนั่นเอง สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ คำว่า Asset หมายถึงโมเดลสิ่งของต่างๆ ในเกม เช่นก้อนหิน ต้นไม้ ถังขยะ เสาไฟ หรือกระทั่งหน้าตาของ NPC ที่ผู้เล่นจะสามารถมองเห็นได้ ซึ่งเกมส่วนใหญ่มักจะนำ Asset เหล่านี้มาใช้ซ้ำกันหลายครั้งในเกมเพื่อประหยัดเนื้อที่ และเพื่อให้ผู้พัฒนาไม่ต้องนั่งสร้างสิ่งของประกอบฉากขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่จำเป็นต้องใช้ อย่างในกรณีของ Final Fantasy VII Remake คุณ Naoki กล่าวว่าผู้พัฒนาได้สร้างชุด Asset ใหม่ขึ้นสำหรับทุกพื้นที่ต่างๆ ในเกมโดยเฉพาะ เช่น NPC ที่เห็นในเขตหนึ่งของ Midgar ก็จะไม่เหมือนกับ NPC ในอีกเขตหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้ผู้พัฒนาสามารถแสดงออกถึงความแตกต่างระหว่างพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างชัดเจน "เราเลือกใช้ฉากหลัง เพลงประกอบฉาก และตัวละครประกอบฉากที่แตกต่างกันทั้งหมดในแต่ละสถานที่ ซึ่งให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งสำหรับผู้เล่นและผู้พัฒนา" ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่ทำให้เกม Final Fantasy VII Remake มีขนาดไฟล์ใหญ่เป็น 100GB นั่นเอง คงต้องรอดูตอนเกมวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนนี้ว่าจะสมราคาคุยของผู้พัฒนาหรือไม่! Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่พูดถึงเนื้อเรื่อง ตัวละคร และแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบเกมไปแล้วในสองตอนที่ผ่านมา (อ่านบทสรุปภาษาไทยตอนที่ 1 และ 2) ล่าสุดทางผู้พัฒนา Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดี Inside Final Fantasy VII Remake ตอนใหม่ออกมาแล้ว โดยในตอนล่าสุดนี้จะเน้นไปที่การอธิบายระบบเกมเพลย์ทั้งหมดในเกม ภายในคลิปวีดีโอจะมีบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาระดับสูงมากมาย ที่จะพูดถึงการเล่นเกมในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบต่อสู้แบบใหม่ ที่พยายามจะผสมผสานเสน่ห์ของเกมแอคชั่น เข้ากับระบบ ATB อันเป็นเอกลักษณ์ของเกมภาคต้นฉบับ ไปจนถึงระบบการพัฒนาตัวละครด้วย Materia และระบบเควสเสริมใหม่ของเกม คลิปเปิดมาด้วยบทสัมภาษณ์ของคุณ Tetsuya Nomura (Director) ผู้อธิบายถึงเหตุผลในการเลือกใช้ระบบต่อสู้ที่เน้นแอคชั่นมากขึ้น โดยเขาอธิบายว่าค่ายเห็นว่าการควบคุมแบบแอคชั่นดูจะเป็นมาตรฐานหนึ่งของเกมสมัยใหม่ นอกจากนี้ ทางทีมพัฒนายังต้องการที่จะทำให้การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น และทำให้ประสบการณ์ของผู้เล่นไม่โดนขัดจังหวะ เช่นเวลาต้องเปลี่ยนฉากเข้า-ออกการต่อสู้เหมือนในเกมต้นฉบับ ทำให้การควบคุมแบบแอคชั่นตอนโจทย์ความต้องการนี้ ในขณะเดียวกัน ทีมพัฒนาก็ต้องการจะรักษาเอกลักษณ์ความเป็น RPG ของ Final Fantasy เอาไว้ รวมทั้งระบบ ATB อันเป็นเอกชักษณ์ของภาค 7 โดยเฉพาะอีกด้วย ทีมจึงต้องพยายามอย่างมากในการหาจุดตรงกลางระหว่างความคลาสสิคนั้น และความเป็นเกมแอคชั่นสมัยใหม่ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือระบบต่อสู้ที่ให้ผู้เล่นสามารถเลือกสมดุลระหว่างความเป็นแอคชั่นและ Turn-based ได้เอง โดยผู้ที่ชอบการเล่นแบบแอคชั่นมากหน่อยก็สามารถใช้ระบบคีย์ลัดในการใช้สกิลได้ ในขณะที่คนที่คิดถึงระบบ Turn-based แบบเดิมสามารถใช้การควบคุมแบบ Classic Mode ได้ หรือบางคนอาจจะชอบทั้งสองอย่าง ก็สามารถเล่นแบบปกติสลับกับเปิด Action Menu ก็ได้เช่นกัน Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ ทว่าเนื่องจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ทำให้ Square Enix จำเป็นต้องจัดส่งแผ่นเกมก่อนล่วงหน้าในบางพื้นที่ เช่นประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้ผู้เล่นในพื้นที่เหล่านั้นมีโอกาสได้เล่นเกมก่อนใครเพื่อน ใครเข้า Youtube ช่วงนี้ก็ระวังสปอยกันด้วยนะจ๊ะ! Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ต้องรอภาคต่อมาเป็นเวลา 1 ปีเต็ม ในที่สุดวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ เราก็จะได้สัมผัส Resident Evil 3 Remake กันแล้ว ซึ่งเท่าที่ได้ลองเล่นในตัว Demo ที่ปล่อยออกมานั้น ก็พูดได้คำเดียวเลยว่า ตัวเกมมันดูน่าสนใจขึ้นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นระบบหลบ หรือการที่โดน Nemesis ตามล่า ก็ล่วนแล้วแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างมากจริงๆ ได้ชื่อว่าเป็นเกมฟอร์มยักษ์ แน่นอนว่าต้องมีการส่งให้กับสื่อต่างประเทศบางเจ้าได้เล่นก่อนอยู่แล้ว ซึ่งคะแนนรีวิวของเกมนี้ก็เรียกได้ว่ามีคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 80 เลยทีเดียว เพื่อให้เพื่อนๆ เห็นภาพมากขึ้นว่าสื่อเกมหลายสำนักมีความเห็นต่อเกมอย่างไร เราจึงรวบรวมคะแนนรีวิวและความเห็นจากสื่อมาสรุปให้อ่านกันคร่าวๆ ก่อน ในระหว่างที่เรากำลังรีวิวเกมด้วยตัวเองอยู่ครับ บนเว็บไซต์ Metacritic ได้มีการรวบรวมคะแนนรีวิวจากสำนักต่างๆ ถึง 67 สำนักด้วยกัน และอย่างที่บอกไปข่างต้นว่าเกมนี้มีคะแนนอยู่ที่ 80 เลยทีเดียว โดยมีสำนักสื่อเด่นๆ ให้คะแนนกันดังนี้: IGN 90/100 PlayStation LifeStyle  85/100 DualShockers  85/100 PlayStation Universe  80/100 GamesRadar+  80/100 Push Square 70/100 USgamer 70/100 VG247 60/100 เท่าดูคร่าวๆแล้ว จะสังเกตุได้ว่า คะแนนรีวิวของเกมภาคนี้ค่อนข้างจะแกว่งพอสมควร โดยเท่าที่ที่ได้อ่านรีวิวคร่าวๆ มาแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่แทบทุกสำนักพูดเหมือนกัน คือ "เป็นภาคที่ทำเกมเพลย์ออกมาดีมากๆ " และส่วนใหญ่ก็คิดว่าเกมนี้อยู่ในระดับที่ดี คือสมควรได้รับคะแนนมากกว่า 80 จริง แต่แทบทุกสำนักจะมีการตำหนิเกมนี้ในจุดที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ว่า Nemesis นั้นทำออกมาได้น่ารำคาญมากกว่าน่ากลัว, บ้างก็บอกว่าเกมมันน่าจะสามารถทำให้น่ากลัวได้มากกว่านี้, บ้างก็ว่ารู้สึกผิดหวังนิดหน่อย, บ้างก็บอกว่า Resident Evil Resistance นั้นแหละคือจุดอ่อนของเกมนี้ โดนเฉพาะ VG247 ที่ให้คะแนนเกมนี้อยู่ที่ 60/100 เท่านั้น โดยเท่าที่ได้อ่าน สำนักนี้มองว่าเกมนี้เป็นเหมือนการก่าวถอยหลังของ Capcom มากกว่าไปข้างหน้า ส่วน USgamer ที่ให้ 70/100 นั้นบอกว่าตัวเกม RE3 เองทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ตัว Resident Evil Resistance นั้นแหละที่ทำให้เกมนี้ไม่ดีเท่าที่ควร ในขณะที่ทางด้าน Push Square ที่ให้ 70/100 เช่นกัน ออกความเห็นอย่างชัดเจนเลยว่า เกมนี้น่าจะยังสามารถทำให้น่าสนใจได้มากกว่านี้อีก ดังนั้นอาจสรุปได้ว่า ถ้าเอาแค่เรื่องเกมเพลย์อย่างเดียว Resident Evil 3 Remake เรียกว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แต่ในเรื่ององค์ประกอบอื่นๆ อาจจะยังทำออกมาได้ไม่ดีมากเท่าที่ควร และ Resident Evil Resistance นั้นอาจจะทำออกมาได้ไม่ดีจริง เพราะเท่าที่ผู้เขียนอ่านมามีเยอะมากๆ เหมือนกันที่ตำหนิว่า Resident Evil Resistance อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นสำนักต่างๆ สุดท้ายแล้วเกมนี้จะสนุกรึเปล่าก็เป็นตัวผู้เล่นที่เป็นคนตัดสินครับ แล้วรออ่านรีวิวจาก GameFever ได้เร็วๆ นี้จ้า! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ด้วยปัญหาด้านการขนส่ง อันเนื่องมาจากมาตรการรับมือไวรัส COVID-19 ในหลายพื้นที่ ทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Square Enix ต้องออกมาแถลงมาตรการรองรับ เพื่อให้แฟนๆ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกสามารถรับแผ่นเกม และเริ่มเล่นเกมพร้อมกับคนอื่นได้ทันวันวางจำหน่าย วันที่ 10 เมษายนนี้ ล่าสุด ดูเหมือนว่ามาตรการรองรับของ Square Enix จะไม่ได้เจาะจงเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อเกมแบบแผ่นอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงผู้ที่สั่งซื้อเกมแบบดิจิตอลทางร้านค้า PS Store อีกด้วย เมื่อล่าสุดมีผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera และ Reddit หลายคนรายงานว่า เวลา Pre-load (การดาวน์โหลดเกมล่วงหน้า) ของเกม Final Fantasy VII Remake ได้ถูกเลื่อนขึ้นมาให้เป็นวันที่ 3 หรือ 4 เมษายนนี้ (ตามโซนของแต่ละคน) แทนที่จะเปิดให้โหลดก่อนหน้าวันวางจำหน่ายเพียง 1-2 วันตามปกติ [caption id="attachment_48721" align="aligncenter" width="1920"] ภาพจากผู้ใช้เว็บ Resetera[/caption] สำหรับเหตุผลในการเลื่อนวัน Pre-load ให้เร็วขึ้น น่าจะมาจากการที่ Sony ประกาศจะจำกัดความเร็วการดาวน์โหลดของ PSN เพื่อลดภาระการใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากขนาดของไฟล์เกมที่ใหญ่กว่า 100GB อาจจะทำให้หลายๆ คนต้องใช้เวลาโหลดเกมนานกว่าปกตินั่นเอง ทั้งนี้ เนื่องจากการตัดสินใจขนส่งแผ่นเกมล่วงหน้าไปให้หลายประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือสถานการณ์ของ Square Enix เอง ทำให้ในขณะนี้มีแผ่นเกมหลุดออกมาในตลาดบ้างแล้วประมาณหนึ่ง และแน่นอนว่าย่อมมีวีดีโอและรูปภาพที่อาจจะสปอยเนื้อหาของเกมหลุดออกมาด้วยเช่นกัน ใครที่กลัวโดนสปอยอาจจะต้องระวังกันหน่อยนะจ๊ะ (หรือจะหาแผ่นหลุดมาเล่นซะเองก็ไม่ว่ากัน...) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ค่ายพัฒนาและผู้จัดจำหน่ายเกม Square Enix ได้เปิดเผยโฉมหน้าของชุดเพลงประกอบหรือ Soundtrack ของเกม Final Fantasy VII Remake ออกมาแล้ว โดยภายในชุดจะประกอบไปด้วยแผ่นซีดีเพลง 7 แผ่น รวมกันทั้งหมด 156 เพลง และจะมีแผ่น Bonus Track แยกอีก 1 เพลง (แผ่นแยก) พิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อชุดแรกๆ จะได้รับเซ็ต “Special Edit Version” ซึ่งจะมากล่องลายพิเศษที่ออกแบบมาจากดาบ Buster Sword ของตัวเอก Cloud Strife นั่นเอง ชุด Soundtrack นี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ในราคา $77.77 (ราว 2,556 บาท) ผู้ที่อยากรีบจับจองก่อนเพื่อจะได้รับชุด “Special Edit Version” สามารถเข้าไปสั่งล่วงหน้าและดูรายชื่อเพลง (Track List) ได้ ที่นี่ เกม Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ถ้าใครมีเพื่อนที่เล่น Nintendo Switch ในช่วงนี้ เชื่อว่าคงจะได้เห็นเกม Animal Crossing: New Horizons ผ่านตามาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเพื่อนคุณเล่นซะเอง หรือเพราะเขาแชร์มุกหรือมีมตลกอะไรบางอย่างมา แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกมจำลองชีวิจลูกหนี้คุณทานูกิเกมนี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มากซะจนขนาดตัวละครสุดแบ๊วจากเกมอย่างน้อง Isabelle ได้ไปเป็นแขกรับเชิญให้กับเกมอื่นๆ มากมายในจินตนาการของเหล่าผู้เล่น ซึ่งที่เห็นกันได้บ่อยที่สุดคงหนีไม่พ้นเกมบู๊แหลกแหกนรก Doom Eternal นั่นเอง แต่นรกดูจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งเดียวที่น้อง Isabelle จะได้ไปเยือนอีกต่อไป เมื่อล่าสุดสังคมนัก Mod เกมสุดขยัน ได้ปล่อย Mod สำหรับเกม Resident Evil 3 Remake ออกมาแล้ว ซึ่งจะพาน้อง Isabelle ไปเยือนถนนอันมากไปด้วยแสงสีของเมือง Raccon City ในฐานะหน้ากากที่ Jill ใส่ ด้านคนทำ Mod คุณ Crazy Potato ได้ให้คำอธิบาย Mod นี้แบบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความว่า "Jill เป็นแฟนน่ะ" ซึ่งต้องบอกว่าภาพคุณ Jill นั่งเล่นเกม Animal Crossing เป็นภาพที่น่ารักแปลกๆ เหมือนกันนะ 5555 Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC เพื่อนๆ ที่อยากเผชิญหน้า Nemesis ในฐานะมาสคอตผู้สดใสแห่งเกม Animal Crossing สามารถไปหาโหลด Mod มาเตรียมเอาไว้ได้จากเว็บ Nexus Mod จ้า Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนเกมฝั่งตะวันตกเหงื่อตกกันอยู่ซักพัก จากข่าวการขาดตลาดของแผ่นเกม Final Fantasy VII Remake อันเนื่องจากปัญหาด้านการขนส่ง อันเป็นเหตุมาจากมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 ของหลายๆ ประเทศ ล่าสุดทาง Square Enix ได้ออกมาประกาศแล้วว่าค่ายได้ตัดสินใจแก้ปัญฆาดังกล่าว ด้วยการจัดส่งแผ่นเกมไปให้ร้านค้าในภูมิภาคยุโรป (EU) และออสเตรเลีย (AU) เร็วกว่ากำหนด ทำให้ผู้เล่นในพื้นที่ดังกล่าวอาจจะมีโอกาสได้เล่นเกมก่อนใครเพื่อน เนื่องจากมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป ทำให้ทาง Square Enix ไม่สามารถรับปากได้ว่าแผ่นจะไปถึงก่อนหรือหลังวันวางจำหน่าย แต่ค่ายก็หวังเพียงว่าผู้ที่ได้แผ่นเกมไปก่อน จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อหาในเกมต่อผู้เล่นคนอื่น สำหรับโซนอเมรีกา จะทำการจัดส่งแผ่นเกมตามกำหนดการเดิมภายในสัปดาห์นี้ โดย Square Enix ค่อนข้างมั่นใจว่าจะถึงมือผู้เล่นทันกำหนดการวางจำหน่ายแน่นอน ทั้งนี้ ในคำประกาศของค่ายไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าในโซนเอเซีย แต่การที่หลายๆ ร้านในพื้นที่ต่างๆ จะได้แผ่นเกมล่วงหน้า ก็เพิ่มโอกาสที่จะมีร้านที่เอาแผ่นเกมออกมาขายช่วงหน้าเช่นกัน ใครที่ทรไม่ไหวอยากลองเล่นเกมก่อนใคร ลองไปสืบกันได้ เผื่อบางร้านบ้านเราจะมีแผ่นหิ้วเหลือๆ ให้สอยกับเขาบ้าง... Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ด้วยการมาถึงของเกม Resident Evil 3 Remake ในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับเกม Spin-off แนว Multiplayer อย่าง Resident Evil Resistance อีก ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับแฟนๆ ของซีรี่ส์สยองขวัญสุดคลาสสิคของผู้พัฒนา Capcom ยิ่งเมื่อคำนึงถึงข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับอนาคตของซีรี่ส์ ที่จะได้รับเกมใหม่เพิ่มทุกปี ตามที่ผู้พัฒนาเคยประกาศออกมาด้วยแล้ว ทำให้แฟนๆ ยิ่งมีความหวังกับอนาคตของซีรี่ส์ หลังจากที่ดูจะหลงทางไปพักใหญ่กับเกมภาค 5, 6, 7 ที่แม้จะมีคนชื่นชอบไม่น้อย แต่ก็ละทิ้งตัวตนความเป็นเกมสยองขวัญอันเป็นจิตวิญญาณดั้งเดิมของเกมไปซะเยอะ จนแทบจะไม่เหมือนเกม Resident Evil ในความทรงจำไปซะแล้ว ล่าสุด มีข่าวลือชุดใหม่เกี่ยวกับเกม Resident Evil ภาคต่อไปออกมาอีกแล้ว โดยคราวนี้เป็นข้อมูลจากแหล่งข่าววงในผู้โด่งดัง AestheticGamer (หรืออีกนาม Dusk Golem) ผู้ซึ่งเคยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเกม Resident Evil ที่กลายเป็นความจริงมาแล้วหลายครั้ง โดยล่าสุดคุณ AestheticGamer ได้ออกมาเปิดเผยว่า Capcom มีกำหนดการจะวางจำหน่ายเกม Resident Evil ภาคใหม่ในปี 2021 นี้ ซึ่งเขาบอกว่าจะเป็นภาคที่ ฉีกออกไปจากแนวทางเดิมของซีรี่ส์ มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา มากขนาดเขาเองยังเชื่อว่าแฟนๆ หลายคนจะต้องไม่พอใจแน่นอนเมื่อเกมเปิดตัว for about for about 3-3.5 years). Its development is very similar to the original Resident Evil 3, not the remake, but I wont expand on what I mean by that until later. The announcement for it will be really soon, and its by far the biggest departure the series has ever taken, — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) March 30, 2020 ได้ยินแบบนี้แล้ว อาจจะทำให้หลายคนเป็นกังวลกับทิศทางขอซีรี่ส์อีกครั้ง ว่าจะกลับไปซ้ำรอยเกมภาค 5, 6, 7 อีกหรือไม่ โดยคุณ AestheticGamer บอกว่าเกมได้รับเสียงตอบรับดีมากๆ ในการทดลองเล่นภายใน และเขาขอให้เกมเมอร์ทุกคนเปิดใจให้กว้างเมื่อถึงเวลาเปิดตัวเกม นอกจากนี้ คุณ AestheticGamer ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่าเกมภาคดังกล่าวได้พัฒนามาแล้วประมาณ 3-3.5 ปี มีกำหนดวางจำหน่ายให้กับทั้งคอนโซลปัจจุบันและ Next-Gen โดยเขาจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากที่เกม Resident Evil 3 Remake วางจำหน่าย แน่นอนว่าเมื่อขึ้นชื่อเป็นข่าวลือ เราย่อมต้องฟังหูไว้หูเอาไว้ก่อน เพราะแม้ว่าคุณ AestheticGamer  จะเคยให้ข้อมูลที่ถูกต้องมาแล้วหลายครั้ง แต่เขาก็เคยให้ข้อมูลที่ผู้พัฒนาออกมาปฏิเสธภายหลังเช่นกัน Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้ สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยจะมาพร้อมกับเกม Resident Evil Resistance ด้วย Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ด้วยสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้พัฒนาเกมหลายค่ายประสบปัญหาเรื่องการจัดส่งแผ่นเกมไปยังร้านค้าในประเทศต่างๆ ที่อาจจะมีมาตรการรับมือโรคระบาดที่เข้มข้นเป็นพิเศษ หรืออาจจะถึงขั้นปิดประเทศ ส่งผลให้แผ่นเกมที่จะวางจำหน่ายในช่วงนี้หลายเกม จำเป็นต้องเผชิญสภาพขาดตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุด หลังจากที่บอกให้แฟนๆ ทำใจกันมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุด Square Enix ก็ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าเกมเมอร์ฝั่งตะวันตก (โซน US และ EU) ควรจะต้องทำใจว่าแผ่นเกม Final Fantasy VII Remake จะขาดตลาดในพื้นที่เหล่านั้นแน่นอน อย่างน้อยก็ในอนาคตอันสั้นนี้ โดยแม้ค่ายจะยืนยันว่าจำนวนแผ่นเกมมีเพียงพอสำหรับความต้องการของผู้เล่นแน่นอน แต่ด้วยปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ค่ายไม่สามารถรับปากได้ว่าสินค้าจะไปถึงพื้นที่ต่างๆ ได้เมื่อไหร่ ในขณะนี้ หลายประเทศทั่วได้ออกมาตรการห้ามการเข้า-ออกประเทศ และจำกัดการขนส่งสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อร้านค้าปลีก เพื่อเร่งรัดให้สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตสามารถกระจายไปสู่ประชาชนได้อย่างรวดเร็วที่สุด จึงถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เกมจะถูกให้ความสำคัญน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าอย่างอาหารหรือยานั่นเอง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนาได้เปิดเผยเช่นกันว่ามีร้านค้าในบางพื้นที่ ที่ได้รับแผ่นเกมไปเก็บไว้เพื่อรอวันวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว และมีหลายร้านที่เริ่มนำแผ่นเกมออกมาวางจำหน่ายล่วงหน้า ซึ่งค่ายยอมรับว่าคงไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ใครมีเพื่อน พี่ น้อง เปิดร้านเกม ลองโทรไปถามดูนะจ๊ะว่าได้แผ่นเกมมาแล้วหรือยัง (แล้วทักมาบอกผู้เขียนด้วย...) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Inside Final Fantasy VII Remake” เป็นบทสัมภาษณ์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน ที่จะพาคุณไปพบกับเบื้องหลังของแนวคิดและจุดเริ่มต้นของ “Project Final Fantasy VII Remake” และใน EP.2 นี้จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวของเนื้อเรื่องของเกมและตัวละคร และเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลย !! ********** อ่าน EP.1 ********** - เรื่องราวของ Final Fantasy VII ได้เริ่มต้นขึ้นในเมือง Mindgar เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่บริษัท Shinra Company ได้ก่อร่างสร้างขึ้นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ด้วยการนำพลังงานมาโคมาใช้ในการเป็นพลังงานของเมือง ทำให้ประชาชนในเมืองได้อาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของบริษัท Shinra มาอย่างยาวนาน ทว่า กลุ่มต่อต้านที่มีชื่อว่า Avalanche ได้ลุกขึ้นต่อสู้กับบริษัท Shinra ที่นำพลังของโลกมาใช้เป็นพลังงานมาโค และทำให้โลกใบนี้กำลังค่อย ๆ เสื่อมสลายลงอย่างช้า ๆ  โดยมีภารกิจในการระเบิดเตาพลังงานมาโคเป็นเป้าหมาย ทำให้อดีต Soldier ฝีมือดีอย่าง Cloud Stife ได้มาเข้าร่วมภารกิจ และเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดของเกม - เนื่องจาก Final Fantasy VII ได้วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง PlayStation มานานถึง 23 ปี แล้ว ทำให้คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ยอมรับว่าเขาเองก็ส่วนที่ลืมรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมไปบ้างแล้วเหมือนกัน แต่เขายังจำแก่นหลักของเรื่องที่มี Cloud เป็นตัวเอก และส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นอย่าง Aerith และ Tifa รวมถึงคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Sephiroth ได้ดี ซึ่งพอตัวละครเหล่านี้ได้กลับมารวมตัวกัน เขาจึงต้องกลับหวนรำลึกทบทวนใหม่ถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง - ก่อนเริ่มทำ Project Remake คุณ Kitase ได้กลับไปลองเล่นตัวเกมต้นฉบับอีกครั้ง และเขาพบว่าเนื้อเรื่องใน Midgar นั้นค่อนข้างสั้นจนน่าตกใจมากทีเดียว ซึ่งมันสามารถใช้เวลาเพียง 7-8 ชั่วโมง ก็สามารถจบเนื้อเรื่องถึงตอนที่ออกจากเมืองมิดการ์ได้แล้ว ในฉบับรีเมคเขาจึงอยากให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่มากขึ้น และได้คิดภาพของเมืองที่กว้างใหญ่เอาไว้ - ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบในการเขียนเนื้อเรื่องและบทของตัวละครแล้ว คุณ Kazushige Nojima (Story & Scenario) และ คุณ Motomu Toriyama (Co-Director (Scenario Design)) จึงได้พูดถึง Cloud ว่าเขาเป็นตัวเอกที่เท่ และยังมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นมากมาย และได้ไปปรากฎตัวในเกมอื่นอีกหลาย ๆ เกม - บทบาทของ Cloud นั้นถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเขาเป็นเด็กธรรมดาที่อยากจะเป็นคนเก่งเหมือนกับคนอื่น ๆ เขาจึงได้ใฝ่ฝันที่จะออกจากหมู่บ้านไปเป็น Soldier ผู้เก่งกาจของบริษัท Shinra Company แต่เมื่อเกิดเหตุที่ทำให้เขาได้เลิกเป็น Soldier เขาก็ได้กลับมาพบเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง - ในเกมต้นฉบับนั้น Cloud ได้มีการเขียนบทเอาไว้ให้เป็นตัวละครที่เท่และมีความสุขุม ซึ่ง Cloud จะไม่ใช่คนที่มีความสดใสหรือมีอัธยาศัยที่ดีเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องที่คิดอยู่ในใจตลอดเวลา ส่วนในฉบับ Remake คุณ Nojima ก็อยากจะแสดงด้านที่ดู “ไม่เท่” ของ Cloud ให้เห็นมากขึ้นด้วย เพราะความจริงแล้ว Cloud เป็นคนที่อยากได้รับการยอมรับจากคนอื่น แต่เรื่องไหนที่เขาไม่รู้หรือไม่อยากทำความเข้าใจ เขาก็จะชอบพูดว่า “ไม่สนใจ” ออกมาเป็นประจำ ซึ่งการที่ไม่สนใจอะไรเลยนี้บางทีก็ทำให้แสดงด้านที่ดูไม่เท่เลยออกมา และเป็นความท้าทายของคุณ Nojima ในการที่เขาจะสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้สมจริงอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ - ทางด้านตัวละครเอกหญิงอย่าง Tifa Lockhart เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของคลาวด์ ซึ่งในอดีตนั้นเคยเกิดเหตุการณ์ที่พ่อของเธอถูกฆ่าและหมู่บ้านถูกทำลาย เธอจึงเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เหมือนจะมีชีวิตอยู่ด้วยการแก้แค้น แต่อีกด้านหนึ่งนั้นเธอก็เป็นคนที่อ่อนโยนและมีความลังเลได้ง่าย ซึ่ง Tifa จะมีความรู้สึกที่สับสนไม่แน่ใจว่าการทำเรื่องที่รุนแรงแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ดีแล้วจริง ๆ รึเปล่า ซึ่งเนื้อเรื่องภายในเกมจะได้เห็นช่วงที่เธอพูดคุยกับ Cloud และเผยเรื่องราวของการเป็นเพื่อนสมัยเด็กให้เห็นมากขึ้น - อีกหนึ่งในตัวละครหลักของเกมอย่าง Barret Wallace เขาเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมามาก ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่ม Avalanche และมีหัวใจที่เร่าร้อนพร้อมมีคำพูดที่จะปลุกใจในการทำเป้าหมายได้ดีอยู่เสมอ จึงทำให้สมาชิกในกลุ่มต่อต้านอยากคอยติดตามสนับสนุนเขาไปด้วย - ทางด้าน Aerith Gainsborough พวกคุณ Nojima ก็บอกว่ามีเรื่องที่ยังไม่สามารถพูดถึงได้อยู่ในตอนนี้อยู่อีกมาก ซึ่ง Aerith นั้นมีอดีตที่ลึกลับ ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเธอส่วนใหญ่นั้นจะอยู่กับการที่ถูกขังอยู่ในห้อง แต่เธอก็เป็นคนที่ดูมีความอิสระ ทำอะไรตามใจ และยังมีจิตใจดีต่อผู้อื่น เรียกได้ว่า Aerith เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับชีวิตมากทีเดียว แต่เนื่องจากเธอมีพลังพิเศษบางอย่างอยู่ จึงทำให้เธอคอยถูกตามล่าตัวจาก Shinra Company - นอกจากเหล่าบรรดาตัวละครหลักแล้ว ก็ยังมีตัวละครอื่น ๆ ที่มีบทบาทมากขึ้นในตัวเกมฉบับ Remake อย่างสมาชิก Avalanche ทั้ง 3 คนอย่าง Biggs, Wedge, และ Jessie โดยพวกเขาจะมีบทบาทกับ Cloud และช่วยทำให้เรื่องราวใน Midgar มีความสดใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมากขึ้น - ส่วนตัวร้ายประจำภาคอย่าง Sephiroth เขาเป็น Soldier ที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษในตำนาน และเป็นคนที่ Cloud ใฝ่ฝันอยากจะเป็น แต่เมื่อเกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นเขาก็ได้หายตัวไป ซึ่งบทบาทในฉบับ Remake ของเขาจะเป็นยังไงนั้น คงต้องให้ผู้เล่นได้ติดตามกันในเกมด้วยตัวเอง - Final Fantasy VII Remake นั้นมาพร้อมกับกราฟฟิคและเสียงพากย์เต็มรูปแบบ ซึ่งในตัวเกมต้นฉบับนั้นไม่เคยมีเสียงพากย์มาก่อน ทำให้คุณ Nojima อยากจะแก้ไขปรับเปลี่ยนบทพูดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ตัวละครได้มีการแสดงออกที่สมจริงมากขึ้น แต่ก็ยังคงความเป็นตัวละคนที่มีเสน่ห์เหมือนกับต้นฉบับเอาไว้ - คุณ Toriyama ได้เสริมว่าตัวเกมในสมัยก่อนนั้นจะไม่มีเรื่องของการใช้มุมกล้อง หรือการแสดงออกทางสีหน้าในการเล่าเรื่องเหมือนกับสมัยนี้ ในคราวนี้ที่มีการใส่เสียงพากย์ให้ตัวละครมีชีวิตและมีความสมจริงมากขึ้น จึงมีความแตกต่างกับเกมสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นฉากหน้าจอดำที่มีแต่บทพูดเพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากไม่ใส่ชื่อเอาไว้ก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่เมื่อมีเสียงพากย์แล้วก็จะรู้ได้ในทันที เขาจึงต้องพยายามหาทางเล่าเรื่องในส่วนนี้ให้มีเสน่ห์เหมือนกับต้นฉบับด้วย - เนื้อเรื่องหลักของเกมในฉบับ Remake จะยังคงดำเนินเรื่องเหมือนกับต้นฉบับ แต่จะมีการเพิ่มฉากใหม่ ๆ หรือส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของ Cloud กับตัวละครอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามา และอยากให้ผู้เล่นได้ติดตามกัน - ในการทำงานนั้น มี Staff หลายคนที่เข้ามาทำงาน เพราะประทับใจจากการที่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน แต่พวกคุณ Nojima ก็คิดว่าต่อให้เป็นผู้เล่นที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะระบบการเล่นของเกมก็เป็นระบบแบบใหม่แทบทั้งหมด เนื้อเรื่องเองก็สามารถติดตามทำความเข้าใจได้ง่าย ส่วนแฟน ๆ ที่เคยติดตามเกมต้นฉบับมาก่อน เขาก็รู้สึกดีใจมากที่ยังมีผู้เล่นบอกว่าชื่นชอบเรื่องราวที่เขาเคยเขียนเอาไว้เมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงทุกวันนี้ คุณ Nojima จึงรู้สึกตื่นเต้นและให้ความสำคัญกับความรู้สึกแฟน ๆ ในการเขียนเรื่องราว Remake มากเช่นกัน - คุณ Kitase ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ  จากการ Remake และได้พบเรื่องราวที่น่าตกใจจากความเป็น Final Fantasy VII แบบดั้งเดิม ซึ่งมันมีความสนุกอยู่มากมาย ทั้งการได้รับรู้ความรู้สึกของพวก Cloud การได้ผจญภัยในโลกของ Midgar และการต่อสู้กับ Shinra ส่วนคนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วก็จะได้สนุกกับเนื้อเรื่องฉบับดั้งเดิม ที่ได้ถูกนำมาเล่าในแบบใหม่อีกครั้ง และได้พบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา คุณ Kitase จึงคาดหวังว่าผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับความสนุกที่แตกต่างกันไป ซึ่งอยู่ใน Final Fantasy VII Remake นี้

โคโรน่าไวรัสทำผิดอย่างรุนแรงต่อทุกฝ่ายจริงๆ แม้แต่วงการเกมเองก็ไม่ใช้ข้อยกเว้น ซึ่งเราก็ได้เห็นงานเกมต้องถูกยกเลิกเพราะการระบาดครั้งนี้ไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น E3, GDC, หรือ Taipei Games Show ล่าสุดอีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์ที่มีธีมของเกมเกี่ยวกับเชื้อไวรัส Resident Evil 3 Remake ก็ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้เช่นกันครับ! Official Twitter ของ Capcom UK  ได้ปล่อยรูปภาพพร้อมข้อความที่บอกว่า "เนื่องจากผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโคโรน่าไวรัส ทำให้อาจมีบางพื้นที่ในยุโรป ที่ได้รับแผ่นเกม Resident Evil 3 Remake ช้ากว่ากำหนด" ซึ่งจากข่าวนี้ก็ทำให้มีความเป็นไปได้ ที่ในบ้านเราเองก็อาจจะมีความล่าช้าเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศออกมาจากทาง Capcom หรือ Sony แต่ผู้เขียนคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงมากครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC https://twitter.com/Capcom_UK/status/1243130637617373184?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1243130637617373184&ref_url=https%3A%2F%2Fgamerant.com%2Fresident-evil-3-delay-coronavirus%2F Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเกมฟอร์มยักษ์ที่จะมาพร้อมกับสินค้า เกี่ยวกับเกมนั้นมากมาย ยิ่งเกมที่มีคนให้ความสนใจมากๆ ทั้งยังเป็นเกมที่มีฐานแฟนคลับหนาแน่นอย่าง Final Fantasy 7 Remake ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร โดยก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นสินค้าของ FF7 Remake ไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา, สร้อยคอ, กระเป๋า หรือว่า แผ่นฝาของเครื่อง PS4 วันนี้ Square Enix ก็ได้ทำการเปิดตัวสินค้าอีก 1 ตัว นั้นก็คือชุดแผ่น CDs รวมเพลง Soundtrack ของเกมในราคา $77.77 ครับ ชุดแผ่นเพลง Soundtrack ดังกล่าวมีด้วยกันทั้งหมด 7 แผ่น ซึ่งตอนนี้หน้าเว็บไซต์ Square Enix Store ก็ได้มีการวางสินค้าแล้วในราคา $77.77 (ราคา 7,777 Yen ในประเทศญี่ปุ่น) ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่เกมฟอร์มยักษ์อย่าง FF7 Remake ที่จะมีเพลง Soundtrack ของเกมเยอะมากๆ จนถึงขนาดต้องใช้แผ่น CDs ถึง 7 แผ่น โดยตัวผู้เขียนเองก็คิดว่าเพลงต่างๆ ในเกมภาคนี้ต้องมีความไพเราะมากอย่างแน่นอน เพราะเพลงประกอบใน Theme Song Trailer นั้นมันฟังแล้วสบายหูมากๆ เลยครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil 3 Remake เป็นเกมที่ถือว่าเก็บรายละเอียดของตัวละครและเปลี่ยนดีไซน์มากพอสมควร ซึ่งทาง Capcom เองได้เผยว่าพวกเขานั้นได้ปรับแต่ง RE Engine ของพวกเขาให้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกเพื่อนำเสนอภาพที่ยอดเยี่ยมมากขึ้น และล่าสุดทางผู้พัฒนาเองได้เปิดเผยภาพ Screenshot ของเกมมากขึ้นบนเว็บไซต์ Gameinformer ซึ่งเราจะได้เห็นโมเดลตัวละครภายในเกมแบบชัดๆ รวมถึงยังมีจุดสังเกตุคือโรงพยาบาลในเกมภาคนี้ชื่อเดิมคือ Raccoon General Hospital ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Spencer Memorial Hospital ซึ่งคำว่า Spencer อาจจะมาจากชื่อ Oswell E. Spencer ผู้ผลิตเชื้อไวรัสและเจ้าขององค์กร Umbralla ก็ได้ (หรือไม่ก็อ้างอิงมาจาก Spencer Hospital ที่มีจริงในประเทศอเมริกาก็ได้ 5555 ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในอีกประมาณ 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ แน่นอนว่าการมาของ FF7 Remake ในครั้งนี้ทำให้เหล่าแฟนเกมเก่าๆ รวมไปจนถึงผู้เล่นหน้าใหม่ ตื่นเต้นไปตามๆ กัน แต่ก็คงจะมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเครื่อง PS4 เลย ทาง Sony เองก็เหมือนจะรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน ล่าสุดจึงได้มีการประกาศเปิดตัวแพ็คตัวเครื่อง PS4 พร้อมกับแผ่นเกม! โดยแพ็คเกจดังกล่าวนั้นมีให้เลื่อกซื้อทั้งแบบเครื่อง PS4 ธรรมดา (HDD 500 GB) สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงิน และแบบเครื่อง PS4 Pro (HDD 1 TB) สำหรับคนที่ต้องการเครื่องซึ่งมีศักยภาพสูงสุด โดยทั้ง 2 แพ็คเกจนั้นเปิดตัวในราคา 29,980 Yen และ 39,980 Yen ตามลำดับ (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษี) นอกจากนี้แพ็คเกจทั้งสอง ยังแถม Dynamic Theme ของ Cloud มาด้วย คิดว่าแพ็คเกจดังกล่าวคงจะมีให้ซื้อในไทยด้วยเช่นกัน ท่าใครสนใจก็ลองติดต่อร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านดูครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เปิดให้เล่นกันอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Demo เกมขวัญใจมหาชนอย่าง Resident Evil 3 Remake โดยหนึ่งในลูกเล่นสำคัญที่ทาง Capcom ได้เพิ่มเข้ามาในเกม Demo นี้คือ Easter Egg แบบจัดเต็ม ทำให้เกมเมอร์หลาย ๆ ท่านต้องอมยิ้มไปตาม ๆ กันวันนี้เราจะพาไปดูว่ามี Easter Egg อะไรที่น่าสนใจบ้าง วันวางจำหน่ายของเกม โปสเตอร์แรกที่เหล่าเกมเมอร์มักจะได้เห็นหลังจากที่ออกจากโบกี้รถไฟคือวันวางจำหน่ายของเกม Resident Evil 3 Remake ในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้อย่าลืมไปหาซื้อกันมา Dr. Light and Dr. Wily Cameo สำหรับสาวกของ Megaman น่าจะรู้จักชื่อของสองนักวิทยาศาสตร์ในเกมอย่าง Dr. Thomas Light ผู้ให้กำเนิด X และ Dr . Albert W. Wily ตัวร้ายประจำเกมที่สร้างหุ่นยนต์ขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ จนทำให้พระเอกอย่าง X ต้องตามไปจัดการเรื่อยมา คอนเสิร์ต BIG-E สำหรับ Easter Egg นี้อ้างอิงมาจากตัวเกมเวอร์ชัน Original ว่าด้วยเรื่องราวของวงดนตรี BIG - E ที่ได้มีงานแสดงในเมือง Raccoon City วันที่ 30 กันยายน 1998 แต่น่าเสียดายที่เชื้อ T-Virus ได้ระบาดเสียก่อนหน้าวันงานเพียง 2 วัน เรียกได้ว่าน่าสงสารมาก ๆ สำหรับวงดนตรีนี้ Alien เหมือนว่าทีมงาน Resident Evil จะชอบการดูภาพยนตร์เป็นพิเศษและเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องโปรดของพวกเขากับ Alien ภาพยนตร์ Sci-Fi ชื่อดังที่มาเป็นโปสเตอร์ในเกมว่า Hell Squid O และ Tyrant of The Deep แซวเกมเก่า Resident Evil 6 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่แฟน ๆ หลายคนผิดหวัง ซึ่งเรื่องนี้ทางทีมงานเองก็รับรู้เองจึงได้แซวเกมตัวเองกลับในโปสเตอร์หนังเรื่อง Disaster ที่คล้ายกับภาพหน้าปกของเกม Resident Evil 6 เรียกได้ว่าเป็นแผลในใจของทีมพัฒนาเกมไปอีกนาน Air Combat 1942 สำหรับโปสเตอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ดูก็รู้ว่ามาจากเรื่อง Topgun ในปี 1986 ที่นำแสดงโดย Tom Cruise ในบทของ Maverick นักบินหนุ่มชื่อดัง ซึ่งทีมงาน Capcom ได้นำเอามาทำใหม่ในชื่อ Air Combat 1942 ปริศนาจากภาค Original แฟน ๆ Resident Evil ที่เคยเล่นภาค Original ย่อมที่จะรู้จักปริศนาของ Raccoon City Hall ซึ่งในเกมนี้ทางทีมงานได้นำเอามาไว้ระหว่างทางขึ้นสถานีรถไฟให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง ปั๊มน้ำมันในตำนาน Stagla ถือว่าเป็นหนึ่งในปั๊มน้ำมันของภาคหลักที่เราจะต้องใช้เป็นทางผ่านและเข้าไปสำรวจ โดยใน Demo นี้ทางทีมงานได้ใส่เข้ามาในเกม ทำให้เราเริ่มสงสัยว่าจะได้เห็นฉากปั๊มน้ำมันในตำนานในแบบฉบับ Remake หรือเปล่า Monster Shooter หลังจากแซวเกมของตัวเองผ่านโปสเตอร์หนังในสถานีรถไฟแล้ว ทางทีมงานก็ทำการแซวข้ามเกมไปยังเกมในเครืออย่าง Monster Hunter ที่มาในชื่อของ Monster Shooter Mega Man นอกจากจะแซวผ่านโปสเตอร์ในสถานีรถไฟแล้ว ทางทีมงานยังได้แซวผ่านของเล่นในเกมอีกต่างหากในชื่อ Mega Man ซึ่งโปสเตอร์โปรโมทนี้อ้างอิงมาจากปกตัวเกมเวอร์ชันแรก ๆ เลยทีเดียว Aqua Cure สำหรับโปสเตอร์นี้แฟน ๆ ที่เล่นภาค Original มาน่าจะร้องอ๋อ เพราะว่ารูปนี้คือคำใบ้ปริศนาในเกมเพื่อเปิดเอาไอเทมสำคัญใน Umbrella Office แต่ว่าใน Demo คำใบ้นี้ใช้เปิดเอาของแต่งปืนพกที่จะทำให้เรายิงแม่นขึ้น ปืนฉีดน้ำ ปืนฉีดน้ำใน Demo ของเกม Resident Evil 3 Remake ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเทศกาลสงกรานต์ในไทยแต่อย่างไร แต่เป็นการอ้างอิงปืนฉีดน้ำในเกม Dead Rising ที่เราสามารถหยิบมาใช้สู้กับซอมบี้ได้ Wolf of the Battlefield Wolf of The Battle คือโปสเตอร์หนังที่อ้างอิงมาจากเกม Commando : Wolf of Battlefield เกมแนว Run and Gun จากทาง Capcom ที่วางจำหน่ายไปเมื่อหลายปีก่อน โดยภาคสุดท้ายวางจำหน่ายในปี 2008 Umbrella Corperation หากพูดถึงวายร้ายประจำเกม Resident Evil คงหนีไม่พ้นองค์กรต้นเรื่องอย่าง Umbrella ที่ได้คิดค้นไวรัสก่อนที่จะระบาดกลายเป็นมหกรรมฆ่าล้าง Zombie 20 กว่าปีของหน่วย S.T.A.R.S และทำให้เมือง Raccoon City หายไปจากแผนที่โลกตลอดกาล Skull Stalker Skull Stalker คือโปสเตอร์โปรโมทภาพยนตร์ที่เรามักจะเห็นในช่วงออกมาจากโบกี้รถไฟ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้อ้างอิงมาจาก Terminator หรือคนเหล็กหนังดังยุค 1990s

สวัสดีแฟนๆ Final Fantasy VII ทุกท่าน เตรียมตัวกันพร้อมหรือยังสำหรับการสัมผัสความสนุกอีกครั้งในฉบับ Remake แน่นอนว่าความท้าทายอย่างแรกที่ต้องเจอในเกมเลยก็คือการต่อสู้กับบอสตัวแรก! ซึ่งหากคุณกำลังเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังประสบปัญหา พบว่าการต่อสู้กับบอสแมงป่อง Scorpion Sentinel นั้นยากเกินฝีมือไป ไกด์ฉบับนี้จะมาแนะนำวิธีต่อสู้ทั้งลักษณะการโจมตีของบอส รวมถึงวิธีหลบหลีก ซึ่งเชื่อว่าหากทุกคนได้ลองศึกษาดูแล้ว จะต้องกลับไปฝึกฝนและชนะกันได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ว่าแล้วเราก็ลองไปดูวิธีต่อสู้กับเจ้าบอสแมงป่องนักษ์นี้กันเลย! < สิ่งที่ควรรู้ในการสู้กับ Scorpion Sentinel > Scorpion Sentinel เป็นเครื่องจักรสังหารที่บริษัท Shinra สร้างเอาไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยของเตาพลังงานมาโค โดยการต่อสู้กับมันนั้นจะมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 Stage ซึ่งแต่ละสเตจก็จะมีท่าโจมตีที่เป็นอุปสรรคอยู่ สิ่งจำเป็นคือการเก็บเกจ ATB เพื่อใช้เวทมนตร์จะเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือได้มาก วิธีจัดการคือการหาโอกาสใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้มันล้มลงได้ง่ายขึ้น และรู้จักวิธีหลบท่าโจมตี แล้วหาจังหวะสร้างความเสียหายเพื่อให้มันเปลี่ยนไปยังสเตจต่อไปให้เร็วที่สุด แต่จะทำได้อย่างไรนั้น เราลองมาศึกษาดูวิธีกันไปทีละส่วนเลยครับ < ท่าโจมตีของ Scorpion Sentinel > Electrostomp ท่ากระทืบเท้าที่จะปล่อยไฟฟ้าออกมา สามารถป้องกันด้วยการกลิ้งหลบออกมานอกระยะ หรือเคาเตอร์กลับด้วยการใช้ Punisher Mode แต่จะแลกกับการที่ทำให้เราโดนความเสียหายไปด้วยเช่นกัน Target Scanner ทำแสกนศัตรูเพื่อล็อคเป้าหมาย หากโดนล็อคเป้าแล้วจะทำให้โดนโจมตีด้วยท่ายิงมิซไซล์ Mark 99 Launchers อย่างแม่นยำ หากโดนล็อคเป้าเอาไว้แล้วควรรีบโจมตีเพื่อให้การล็อคเป้าหายไป Mark 99 Launchers ท่ายิงไซล์ออกมาเป็นวงกว้าง ถ้าหากโดน Target Scanner ล็อคเป้าหมายเอาไว้ จะทำให้มีโอกาสหลบได้ยาก แต่วิธีหลบจริงๆ นั้นสามารถทำได้ โดยสามารถถอยออกมาให้พ้นระยะหรืออยู่ในพื้นที่โล่ง แล้วกลิ้งตัวหรือพุ่งเข้าไปหามันในตอนที่ปล่อยมิซไซล์ออกมาก่อนถึงตัว หากทำถูกจังหวะจะสามารถทำให้หลบการโจมตีได้ แต่การใช้วิธีหลบแบบนี้ต้องอาศัยเทคนิคการจับจังหวะให้ถูกต้องอยู่พอสมควร การโจมตีอีกรูปแบบหนึ่งในท่านี้ คือการที่มันจะกระโดดไปเกาะกำแพงและยิงมิซไซล์ออกมา วิธีแก้ง่ายๆ คือให้ดูจังหวะตอนที่มันเกาะถึงกำแพงแล้ว ให้กดใช้เวทยมนตร์โจมตีก่อนที่มันจะใช้ท่า จะทำให้เป็นการแคนเซิลการใช้ท่านี้ได้ทันที EM Field ท่าชาร์จพลังและปล่อยคลื่นไฟฟ้าออกมารอบตัว เมื่อใช้ท่านี้จะมีกระแสไฟฟ้าขึ้นที่พื้น ให้รีบถอยออกมาอยู่นอกระยะโดยเร็วที่สุด Mark 98 Cannons ท่ายิงปืนกลที่แขนทั้งสองข้าง มีระยะการโจมตีอยู่ที่ด้านหน้าและด้านข้าง หากหลบอ้อมไปด้านหลังจะสามารถรอดจากการโจมตีได้ Stinger Salvo ท่ากระทืบเท้าและโจมตีด้วยลำแสงที่หาง หากหลบไปด้านข้างหรือด้านหลังจะทำให้ไม่โดนการโจมตี Death Grip เมื่อใช้ท่านี้ มันจะจับตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในทีมเอาไว้ ให้รีบใช้ตัวละครอีกตัวโจมตีก่อนที่มันจะทำการโจมตีออกมา Tail Laser ท่ายิงเลเซอร์ออกจากหาง เมื่อใช้ท่านี้มันจะทำการชาร์จพลังโดยมีกระแสไฟฟ้าป้องกันรอบตัว และมีเศษเหล็กหล่นลงมา 2 จุด หากเราอยู่ในระยะใกล้เกินไป จะทำให้โดนการโจมตีและกระเด็นออกมาโดยอัตโนมัติ สิ่งที่ทำได้ในท่านี้มีเพียงหลบอยู่หลังเศษเหล็กที่หล่นลงมา แล้วคอยเตรียมตัวให้พร้อมหลังจากมันโจมตีเสร็จเท่านั้น < วิธีต่อสู้กับ Scorpion Sentinel > Stage 1 ในสเตจแรกนี้มันจะเริ่มด้วยการใช้ท่า Electrostomp ให้เรากลิ้งหลบออกมาด้านหลัง หรือด้านข้าง และพยายามทำคอมโบของ “Operator Mode” และ “Punisher Mode” อย่างต่อเนื่องให้ครบทั้ง 2 ชุด จากนั้นให้ใช้ Abilities หรือ เวทมนตร์ จะสามารถทำให้มันล้มลงได้ ซึ่งถ้าหากเรามีเกจ ATB เพียงพอ สามารถโจมตีสลับกับการใช้ท่า Focused Thrust หรือใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้มันเกิดการ Staggered และต่อคอมโบชุดใหญ่อีกได้ หากทำความเสียหายอย่างต่อเนื่องได้มาก ก็สามารถทำให้มันเปลี่ยนไปสู่สเตจต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ต้องไม่ต้องกลัวท่าโจมตีอื่นเลย แต่ถ้าหากไม่สามารถทำความเสียหายได้มากพอในทีเดียว มันจะกระโดดไปเกาะกำแพง และยิงมิซไซล์ด้วยท่า Mark 99 Launchers และกลับมาใช้ท่าโจมตีอื่น ให้คอยสังเกตุและคอยหลบให้ดี Stage 2 เมื่อเริ่มสเตจนี้ มันจะอยู่ในระยะห่างกับเราพอสมควร ถ้าหากวิ่งเข้าไปหามันจะสามารถใช้ท่า Mark 99 Launchers ยิงมิซไซล์โดนใส่เราได้ แต่ถ้าเราใช้ Cloud ล็อคเป้าเอาไว้และกดสี่เหลี่ยม จะทำให้สามารถพุ่งเข้าไปประชิดตัวได้อย่างรวดเร็ว และทำให้มันไม่ยิงมิซไซล์ออกมา ในเวฟนี้มันจะใช้บาเรียป้องกันการโจมตีของเรา ทำให้ไม่สามารถโจมตีด้วยท่ากายภาพได้ โดยปกติแล้วต้องทำการโจมตี Field Generator ที่อยู่ใต้ท้อง แต่หากอ้อมไปด้านหลัง แล้วโจมตีด้วยเวทมนตร์ จะทำให้มีโอกาสทำให้บาเรียหายไปได้ในครั้งเดียว หลังจากบาเรียหายไปแล้วมันจะกระโดดไปใช้ท่า Mark 99 Launchers อีกครั้ง และเมื่อมันกลับมาจะเป็นการโจมตีสลับกับการกระโดดไปมา ถ้าหากคอยสร้างความเสียหาบแล้วระวังการโจมตีไปด้วย ก็จะไปสู่สเตจต่อได้โดยที่ไม่มีอะไรต้องกังวล Stage 3 เริ่มต้นสเตจนี้มันจะใช้ท่า Tail Laser โดยอัตโนมัติทันที ให้หลบอยู่หลังเศษเหล็กที่หล่นลงมาแล้วเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อมันโจมตีเสร็จแล้วจะเริ่มใช้ท่าโจมตีสลับกันไประหว่าง Mark 99 Launchers , Mark 98 Cannons , EM Field และสลับกับการกระโดดไปมาอยู่กับที่เพื่อหามุมโจมตีเรา ให้คอยเข้าไปโจมตีทีละ 2-3 ครั้ง แล้วถอยหลบออกมาเพื่อระวังการโจมตี  เมื่อสร้างความเสียหายถึงจุดหนึ่งมันจะใช้ท่า Stinger Salvo เป็นการบอกให้รู้ว่าใกล้จะทำการเปลี่ยนไปสเตจต่อไปแล้ว Stage 4 มาถึงสเตจนี้ได้ก็ไม่มีอะไรยากแล้ว โดยหากใช้เวทยมนตร์หรือโจมตีขาหน้าทั้งสองข้างให้มันล้มได้อย่างรวดเร็ว ที่เหลือก็สามารถโจมตีปิดฉากรับชัยชนะมาอย่างง่ายดาย และขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณสามารถปราบบอสตัวแรกของเกมได้แล้ว ปัจจัยสุดท้ายของการต่อสู้นั้นคือฝีมือและเทคนิคการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนเอง ซึ่งไกด์การต่อสู้ฉบับนี้ เป็นเพียงการแนะนำวิธีการต่อสู้โดยรวมเท่านั้น หวังว่าใครที่ได้ลองศึกษาดูแล้ว จะนำเทคนิคบางอย่างไปใช้ และสนุกกับเกมกันได้มากขึ้นครับ

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหนายของเกม Resident Evil 3 Remake ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ ได้มากพอสมควรเลย ถ้าหากว่าใครที่รอไม่ไหวแล้ว ก็สามารถเข้าไปทดลองเล่นตัว Demo ของเกมได้ก่อนในตอนนี้ครับ พอพูดถึงตัว Demo ของเกมแล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวว่ามีคนที่นำไฟล์ของเกมไปแกะดู แล้วพบความลับมากมายของตัวเกม แต่นั้นเหมือนจะยังไม่ใช้ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการ Datamining ครับ! Twitter Nibel ได้ทำการโพสต์รูปภาพใหม่เป็นรูป Nemesis ปีศาจประจำภาคที่กำลังถือเครื่อง Nintendo Switch อยู่ พร้อมกับปล่อยข้อความที่มีใจความว่า "มีไฟล์หนึ่งในตัวเกม Demo ที่บ่งชี้ว่าเกมนี้จะลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch ด้วย" นี้นับเป็นข่าวที่ดีมาก เพราะถ้าเกิดว่าตัวเกม RE3 Remake ได้ลง Nintendo Switch จริง ก็มีความเป็นได้ที่ RE2 Remake จะลงให้กับ Switch ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าทาง Capcom ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงทีเดียวครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ครับ https://twitter.com/Nibellion/status/1242393720030474240 Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เพื่อต้อนรับการมาถึงของเกมลูกแรกแห่งค่าย Capcom อย่าง Resident Evil 3 Remake ที่กำลังจะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ ทางร้านอาหาร Capcom Café ประเทศญี่ปุ่นก็ได้ทำการเปิดตัวเมนูอาหารพิเศษใหม่ล่าสุด ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกม และยังมีของแถมที่ระลึกให้ผู้เข้าใช้บริการได้สะสมอีกเพียบ! สำหรับอาหารที่มีให้เลือกในเมนูประกอบไปด้วย: ชุดข้าวหน้าแฮมเบิร์กลาย Nemesis (1) แซนด์วิชจิล (2) ไอติม Nemesis Rocket Launcher (3) หลอดฉีด T-Virus (คาดว่าเป็นเครื่องดื่ม) (4) คาดว่าน่าจะเป็นเบียร์ยี่ห้อ Umbrella (5) ...และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ที่สั่งอาหารจากเมนูพิเศษนี้ จะได้รับแผ่นรองจานแสนน่ารัก และผู้ที่สั่งเครื่องดื่มจะได้รับแผ่นรองแก้วแบบสุ่ม 1 ชิ้น (มีทั้งหมด 10 ลาย) [caption id="attachment_47468" align="aligncenter" width="1024"] แผ่นรองจาน (ซ้าย) และที่รองแก้ว 10 ลาย (ขวา)[/caption] นอกจากนี้ ถ้าสั่งอาหารถึง 3,000 เยน จะได้รับโปสการ์ดลายพิเศษแบบสุ่มอีกหนึ่งใบ โดยมีทั้งหมด 10 ใบให้สะสม เมนูอาหาร Resident Evil 3 Remake ทั้งหมดนี้จะเปิดให้สั่งกันได้ในระยะเวลาจำกัดเท่านั้น (9 เมษายน - 13 พฤษภาคม 2020) ที่ Capcom Café (เขต Ikebukuro ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น) หวังว่าวิกฤติไวรัสระบาดจะดีขึ้นทันช่วงนั้นนะ! Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

แม้จะเป็นเกมที่มีผู้คนเฝ้ารอจะได้เล่นมากที่สุดในโลกเกมหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนๆ ของเกม Final Fantasy VII Remake ไม่ค่อยพอใจ และตั้งคำถามมาตลอด คือการที่ผู้พัฒนาตัดสินใจตัดแบ่งเกมเป็นหลายๆ ตอน แทนที่จะปล่อยออกมาเป็นเกมเต็มๆ เกมเดียว และจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่น่าพอใจออกมาจากผู้พัฒนาเสียที ล่าสุด ดูเหมือนว่าเราอาจจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer ของเกมคุณ Yoshinori Kitase ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่บนเว็บหลักของ Square Enix เอง โดยเขากล่าวว่า ในช่วงก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเกม FF7R นั้น ทีมพัฒนาได้วางแนวทางที่เป็นไปได้สองทาง นั่นก็คือการขยายทุกอย่างให้ใหญ่และละเอียดมากขึ้น ในคุณภาพกราฟิคสมัยใหม่ระดับสูงสุด แต่ต้องแบ่งเกมออกเป็นหลายตอนเพื่อให้รักษาเนื้อหาทั้งหมดของภาคต้นฉบับเอาไว้ หรือจะเล่าเนื้อเรื่องให้จบในเกมเดียว แต่ต้องตัดทิ้งหรือปรับเนื้อหาบางส่วนไป โดยแน่นอนว่าผู้พัฒนาเลือกทางเลือกแรก ทำให้เกมภาคแรกนี้ครอบคลุมเพียงเหตุการณ์ในนคร Midgard เท่านั้น "จนแล้วจนรอด เราก็เลือกที่จะทำให้เกมมีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ พร้อมกับขยายขอบเขตของเนื้อเรื่องให้กว้างและลึกขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งการแบ่งเกมออกเป็นหลายๆ ภาค ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเกมจะใหญ่เกินไป เราจึงสามารถรักษาทุกสิ่งทุกอย่างที่แฟนๆ เคยรักเอาไว้ และทำมันให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก แถม Midgar ยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่น่าจดจำของทุกคนด้วย เราจึงรู้สึกว่าเมืองเหมาะจะเป็นที่ตั้งเกมภาคแรก" คำตอบของคุณ Yoshinori Kitase น่าจะตอบคำถามคาใจของหลายๆ คนไปได้ไม่มากก็น้อย แต่คำถามที่น่าถามต่อไปคือเกม Final Fantasy VII Remake จะดำเนินไปกี่ภาคกันแน่ หวังว่าภาคต่อๆ ไปจะไม่ต้องรอนานเท่าภาคนี้นะ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้ สำหรับ PS4  Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดี Inside Final Fantasy VII Remake ตอนแรกออกมา ที่พูดถึงความรู้สึกของผู้พัฒนาต่อการสร้างเกมภาคใหม่นี้ (อ่านบทสรุปสารคดีตอนแรกแบบละเอียด ที่นี่) ล่าสุด Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดีตอนที่สองออกมาแล้ว ซึ่งเน้นพูดถึงเนื้อเรื่องของเกม และยังพูดถึงตัวละครหลักอย่าง Cloud, Tifa, และ Aerith อีกด้วย วีดีโอเปิดมาด้วยบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแห่นง Producer คุณ Yoshinori Kitase ผู้ซึ่งกล่าวว่าเขาได้ลืมรายละเอียดของเกมภาคดั้งเดิมไปเกือบหมดแล้วก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเกมภาคใหม่ เขาจึงกลับไปเล่นภาคดั้งเดิมเพื่อฟื้นความจำ และพบว่าผู้เล่นใช้เวลาในนคร Midgar จริงๆ น้อยมาก ต่างจากที่เขาจำได้ เขาจึงมีความต้องการที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับนคร Midgar ในความทรงจำของเขา ต่อจากนั้น นักเขียนเนื้อเรื่องเกมคุณ Kazushige Nojima ก็เล่าถึงตัวละครของ Cloud โดยเขาเปิดเผยว่าในเกมภาคดั้งเดิมนั้น เขาออกแบบ Cloud ให้เป็นตัวละครพระเอกสุดเท่ในอุดมคติ แต่ในเกม Remake เขาได้ลงลึกไปถึงจิดวิทยาของตัวละคร ในฐานะผู้ที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เขาต้องพยายามวางมาดเข้มตลอดเวลา โดยผู้เล่นจะมีโอกาสเห็นด้านอื่นๆ ของ Cloud มากขึ้น รวมไปถึงด้านที่อ่อนไหวของเขา คุณนักเขียนกล่าวต่อว่า เขาก็มีความกังวลเล็กๆ ว่าผู้เล่นเก่าจะรู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร Cloud แต่เขาก็ย้ำว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น เพราะเกมมีความสมจริงมากขึ้น ทำให้ทุกอย่างต้องใช้ความสมจริงมากขึ้นตาม นอกจากนี้ เขายังพูดถึงความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนวัยเด็กระหว่าง Cloud และ Tifa ที่จะถูกเล่าอย่างลึกซึ้งมากขึ้นในภาคใหม่ โดยเขายกตัวอย่างสถานการณ์ที่ Tifa ช่วย Cloud หาห้องพักในตึกเดียวกับเธอ ซึ่งเขาเล่าว่าเป็นฉากที่น่ารักมากๆ และหวังว่าผู้เล่นจะรู้สึกดีเมื่อได้สัมผัสกับฉากใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไปนี้ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสในปัจจุบัน ทำให้แผ่นเกมอาจจะขาดตลาดในบางพื้นที่ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) เพื่อนๆ สามารถอ่านความเห็นของเราจากการเล่นเดโมเกมตัวล่าสุดได้ ที่นี่ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil ถือว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่มีการออกแบบศัตรูในเกมได้น่ากลัวมาก อีกทั้งยังน่าจดจำเอามาก ๆ จนบางครั้งทำให้เราหลอนทุกครั้งที่เล่นเกมเลยก็มี เพื่อเป็นการต้อนรับการมาถึงของเกม Resident Evil 3 Remake พวกเรา GameFever TH จึงขอนำเสนอ 10 ศัตรูสุดโหดประจำเกม Resident Evil 10.Hunters Hunter หรือที่แฟน ๆ ของเกม Resident Evil เรียกว่านักตัดหัว โดยศัตรูตัวนี้มีความสามารถในการ 1 Hit Kill หรือตีทีเดียวตาย ทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างกลัวที่จะเจอเจ้าตัวนี้ รวมถึงต้องมีสติทุกครั้งที่ต้องเจอมิฉะนั้นอาจจะต้องกลับไปห้องเซฟก็เป็นได้ 9.Lake Monster (Resident Evil 4) Lake Monster หรือว่าน้องปลายักษ์แห่งหนองน้ำประจำเกม Resident Evil 4 ที่เราจะต้องสู้ในฐานะบอสประจำเกม โดยใช้ฉมวกในการเอาชนะ ซึ่งปลาตัวนี้โหดมาก ๆ มีความว่องไว อีกทั้งยังสามารถทนทานดาเมจได้สูง แต่ก็ไม่อาจจะเอาชนะพระเอกอย่าง Leon ได้อยู่ดี 8.Cerberus Cerberus หรือ Zombie Dog น้องหมาในเกม Resident Evil ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเร็วที่สูง อีกทั้งยังมีขนาดเล็กทำให้ทำการเล็งยิงได้ยาก นอกจากนี้หากมันโจมตีพร้อมกันทั้งสองตัวเรียกได้ว่ารอดยากมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งในศัตรูที่เมื่อได้ยินเสียก็กลัวแล้ว 7.Crimson Head zombies (Resident Evil remake) Resident Evil Remake ได้มีการเพิ่ม Zombie ชนิดใหม่เข้ามาในชื่อ Crimson Head Zombie หรือ Zombie ฉบับอัปเกรดเมื่อตายไปแล้วหนึ่งครั้ง โดยศัตรูตัวนี้มีความเร็วที่สูงมาก มีพลังโจมตีที่รุนแรงและมีเสียงร้องที่น่ากลัว ทำให้ในภาคนี้หลาย ๆ คนเลี่ยงที่จะฆ่า Zombie หรือหากจำเป็นต้องฆ่าก็ต้องหาไฟมาเผาศพ ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอ Jackpot ได้ 6.U-3 (Resident Evil 4) U-3 หรือมนุษย์ตะขาบในเกม Resident Evil 4 ที่มาในฐานะของ Boss ให้เราต่อสู้จุดเด่นของ U-3 นอกจากรูปร่างที่น่ากลัวแล้ว ศัตรูตัวนี้ยังมีท่าโจมตีที่รุนแรงมากโดยมือขวาของมันสามารถหักคอ Leon ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งตัวมันเองยังมีร่างที่สองที่จะมีใบมีดแหลมคมคอยโจมตีผู้เล่นซึ่งหากโดนจับแล้วกด Quick Time Event ไม่ทันก็เตรียมตัวเจอภาพ Leon ร่างกายขาดสองท่อนได้แล้ว นอกจากนี้ยังสามารถที่จะมุดดินได้อีกด้วยเรียกได้ว่าน่ากลัวสุด ๆ 5.Chainsaw Man (Resident Evil 4-5) สำหรับศัตรูตัวนี้น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับ Chainsaw Man หรือ Dr Salvador มนุษย์เลื่อยยนต์สุดโหด ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต้องหัวหลุดออกจากบ่ามาแล้ว โดยศัตรูตัวนี้จะมาพร้อมกับเสียเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เราต้องหวาดระแวง ซึ่งแม้ว่าจะเล่นจบหลายรอบก็ยังคงกลัวศัตรูตัวนี้ 4.Mr. X (Resident Evil 2) Mr. X หรือ Tyrant - 00 ถือว่าเป็นหนึ่งศัตรูสุดโหดประจำเกม Resident Evil 2 ที่จะออกตามล่าเราไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ลำตัวขนาดใหญ่ทีน่าหวั่นเกรงและการโจมตีที่หนักหน่วง ทำให้เราไม่อยากที่จะปะทะกับศัตรูตัวนี้ นอกจากนี้ศัตรูตัวนี้ยังกลายเป็น Boss สุดโหดให้เราได้ต่อสู้ในตอนท้ายอีกด้วย 3.Nemesis (Resident Evil 3) Nemesis ถือว่าเป็นหนึ่งใน Boss ของเกม Resident Evil ที่แฟน ๆ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโหด ด้วยลำตัวขนาดใหญ่ ความเร็วในการเคลื่อนที่สูง เสียงคำรามอันน่ากลัวและการตามล่าเราอย่างไม่ลดละ ทำให้ Boss ตัวนี้เป็นหนึ่งในดวงใจของใครหลาย ๆ คน ยิ่งตัวเกมภาคนี้ได้รับการ Remake ใหม่ ทำให้เราจินตนาการไม่ออกว่า Nemesis เวอร์ชันนี้จะแกร่งขนาดไหน 2.Lickers (Resident Evil 2 Remake) หากพูดถึงศัตรูธรรมดาที่แกร่งไม่แพ้บอส Lickers ใน Resident Evil 2 ฉบับ Remake ถือว่าตอบโจทย์มาก แม้ว่าศัตรูตัวนี้จะตาบอดแต่ก็มีกรงเล็บที่แหลมคม ความเร็วที่ว่องไวและประสาทสัมผัสที่ดีเยี่ยม ทำให้เราไม่อยากที่จะปะทะกับสิ่งนี้ตรง ๆ ยิ่งคุณเล่นในโหมด Hardcore ศัตรูตัวนี้จะโหดจนคุณต้องร้อง 1.Regeneradores (Resident Evil 4) ปิดท้ายกันด้วยศัตรูสุดน่ากลัวของซีรีส์ Resident Evil กับ Regeneradores ศัตรูสุดแกร่งประจำเกม Resident Evil 4 ที่แม้ว่ามันจะเดินช้า แต่ยิงเท่าไหร่ก็ไม่ตาย ยิงส่วนไหนก็งอกได้ แถมทนทานกับลูกกระสุนอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันอัปเกรดที่มีหนามเต็มตัว ยิ่งเพิ่มความโหดให้กับศัตรูตัวนี้ไปอีก ทางเดียวที่จะชนะมันได้คือการใส่กล้อง Infrared แล้วยิงปรสิตในตัวของมันจึงจะชนะอย่างง่ายดาย นอกจาก 10 ศัตรูนี้แล้วเพื่อน ๆ คิดว่ามีศัตรูตัวไหนที่น่ากลัวบ้างลองบอกกันมาได้เลย

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายของ Resident Evil 3 Remake แต่ถ้าหากว่าใครที่รู้สึกว่ารอไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ตัว Demo ของเกมก็เปิดให้สามารถโหลดมาเล่นได้แล้ว ตัวเกมภาคนี้มีหลายระบบที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อทำให้เกมมันสนุกมากขึ้น โดยหนึ่งในระบบซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ คือระบบการหลบแบบตรงจังหวะ โดยการทำแบบนี้จะสามารถสร้างจังหวะให้ผู้เล่นสามารถใช้มีดฟันใส่ซอมบี้กลับได้ด้วย และล่าสุด Producer ของเกมคุณ Peter Fabiano ก็ได้บอกหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับระบบนี้ครับ! เว็บไซต์ Game Informer ได้ปล่อยบทสัมภาษณ์ตัวใหม่กับคุณ Peter Fabiano ว่าด้วยเรื่อง Knife-only Runs ออกมาซึ่งเขาก็ได้บอกเอาไว้ว่า "ได้มีการทดลองเล่นภายในบริษัทแล้ว ซึ่งผมจะยืนยันว่าการใช้มีดเพียงเล่มเดียวในการเล่นทั้งเกมนั้นเป็นไปได้ เพราะยังไงตอนนี้มีด 1 เล่มก็สามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัดแล้ว" หลายๆ คนคงจะมีคำถามว่า "แล้วเราจะใช้มีดสู้กับ Nemesis ได้อย่างไร?" ในส่วนของคำถามนี้คุณ Peter Fabiano ก็ได้ให้คำตอบไว้ในบทสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ Gaming Bolt แล้วเช่นกันครับโดยเขาได้ตอบว่า "จริงอยู่ที่ Nemesis น่ากลัวมากๆ แต่ไม่ใช้ว่าจะไม่สามารถผ่านไปได้เลย ผู้พัฒนาได้พยายามสร้าง Balance ในการหนี Nemesis ไว้ในเกมอยู่แล้ว ไม่ใช้ว่าเจ้าปีศาจตัวนี้จะไล่ผู้เล่นอยู่ตลอดเวลาจนไม่มีเวลาพักหายใจเลย" และได้กล่าวปิดท่ายด้วยว่า "ถึง Nemesis จะเข้มแข็งขนาดไหน แต่ก็ไม่ใช้ว่าจะฆ่าเขาไม่ได้เลย ยิ่งเป็นคนที่มีความสามารถรอบด้านแบบ Jill ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ใช้เรื่องยาก" อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีระบบหลบ กับมีดที่ใช้เท่าไหร่ก็ได้ในเกม และได้รับการยืนยันจาก Producer ของเกมแล้ว มันก็ใช้ว่าจะสามารถเล่นเกมนี้โดยใช้แค่มีดอย่างเดียวได้ง่ายๆ อยู่ดี จึงอาจะพูดได้ว่านี้เป็นหนึ่งใน Challenge ที่ผู้พัฒนากำลังท้าทายผู้เล่นอยู่ก็เป็นได้ครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: Gaming Bolt ,  Game Informer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil 3 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน ที่กำลังจะถึงนี้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าคงจะมีหลายคนเลยที่ตื่นเต้นกับการมาในครั้งนี้ แต่ถ้าเกิดว่าทนไม่ไหวจริงๆ ตอนนี้ Capcom ก็ได้ปล่อยตัว Demo ของเกมให้เล่นอยู่ในขณะนี้ และกำลังจะปล่อย Demo ของ Resident Evil Resistance ภายในอาทิตย์นี้ด้วย แต่เรื่องไม่คาดฝั่นก็เกิดขึ้น เมื่อมีตัว Opening Cutscene ของตัวเกมหลุดออกมาในโลกอินเตอร์เน็ตก่อนหน้านี้ครับ! เว็บไซต์ GameRant ได้รายงานว่า User ที่ใช้ชื่อ AestheticGamer บน Twitter ได้ทำการลบข้อความ และลิงก์ไปยังเว็บไซต์ DailyMotion ที่มี Opening Cutscene ของเกม Resident Evil 3 Remake และตัววิดีโอบนเว็บไซต์ DailyMotion เองก็ถูกลบไปแล้วด้วยเช่นกัน ผู้เขียนคาดว่าที่มาของวิดีโอดังกล่าว ดูเหมือนว่าอาจจะมาจากการที่แผ่นเกม RE3 Remake หลุดที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งกำลังเป็นข่าวอยู่ในตอนนี้ครับ แต่ก็มีคนที่สามารถดูได้ทัน พร้อมออกมาเขียนอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างอยู่ดี ซึ่งถ้าหาดใครสนใจสามารถลงไปอ่านต่อได้ข้างล่างนี้ แต่ถ้าไม่อยากถูกสปอยก็สามารถข้ามไปได้เลยครับ ......................................Spoiler Alert......................................   เนื้อเรื่องจะเริ่มต้นด้วยการที่มี รายงานข่าวว่าด้วยเรื่องที่กำลังมีการระบาดของ T-Virus ใน Raccoon City อยู่ จากนั้นภาพจะตัดไปที่ นักวิทยาศาสตร์ของ Umbrella ที่กำลังเตรียมพร้อมปล่อยอาวุธชีวภาพ Nemesis อยู่ หลังจากนั้นภาพจะถูกตัดมาที่ Jill Valentine ซึ่งกำลังอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง ตรงนี้จะเป็นมุมมองแบบ FPS โดยผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครเพื่อสำรวจสิ่งต่างๆ ในห้องได้ ตัวเกมจะบังคับให้เราเดินไปที่ห้องน้ำ จากนั้น Jill จะมองเข้าไปในกระจกก่อนที่จะเห็นตัวเธอเอง เริ่มเปลี่ยนเป็นซอมบี้ เธอจะหยิบปืนขึ้นมาจ่อที่หัวตัวเองก่อนที่จะยิง และเธอก็ตื่นขึ้นมาบนเตียง ดังนั้นสรุปได้ว่า ฉากที่เราเคยเห็นใน Trailer ตัวแรกนั้น เป็นเพียงความฝันของ Jill เอง ตัวเธอไม่ได้กำลังเปลี่ยนเป็นซอมบี้จริงๆ ครับ Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

บัญชีทวิตเตอร์ Square Enix Manga & Books ได้เปิดเผยเร็วๆ นี้ว่า แฟนๆ ของเกม Final Fantasy VII Remake จะสามมารถพบกับหนังสือ Final Fantasy VII Remake: World Preview ฉบับแปลภาษาอังกฤษได้ในวันที่ 8 กันยายน 2020 นี้ New title announcement! FINAL FANTASY VII Remake: World Preview will release in September 2020! A full-color jacketed hardcover featuring art and info on characters, settings, gameplay, and more! Pre-orders to come soon! https://t.co/IpkuBRVOkj pic.twitter.com/zE84MDQfXX — Square Enix Manga & Books (@SquareEnixBooks) March 22, 2020 หนังสือ Final Fantasy VII Remake: World Preview จะรวบรวมข้อมูลมากมายจากจักรวาลของเกม FF7 เอาไว้ ตั้งแต่ประวัติของตัวละครหลักอย่าง Cloud, Tifa, และ Aerith ไปจนถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการออกแบบสถานที่ต่างๆ ในเกม และจะมีเรื่องสั้นจากเกมที่เขียนโดยคุณ Kazushige Nojima ผู้ซึ่งเคยเขียนเรื่องสั้นจาก FF7 รวมเล่มเป็นหนังสือ On the Way to a Smile: Final Fantasy VII (ปี 2014) และปัจจุบันรับหน้าที่เขียนบทให้กับเกมภาค Remake อีกด้วย หนังสือจะวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบหนังสือปกแข็งและแบบดิจิตอล (E-book) ความยาว 128 หน้า โดยแบบปกแข็งจะวางจำหน่ายในราคา $24.99 (ราว 825 บาท) ส่วนแบบดิจิตอลจะมีราคา $16.99 (ราว 560 บาท) สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ทางเว็บร้านค้าของ Square Enix (ลิงค์) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 แต่ด้วยวิกฤติไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ ทำให้แผ่นเกมอาจจะขาดตลาดในบางพื้นที่ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident 3 Remake ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงาม ระบบการเล่นที่ท้าทายและ Nemesis สุดโหดที่พร้อมจะสังหารเราทุกเมื่อ สำหรับใครที่อารมณ์ค้างและอยากจะหาเกมที่ให้อารมณ์คล้ายกันในช่วงที่รอตัวเกมวางจำหน่ายพวกเรา GameFever TH ก็มีเกมมาแนะนำ Resident Evil 2 (Remake) หนึ่งในเกมที่ใกล้เคียงกับ Resident Evil 3 มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเกม Resident Evil 2 ที่มีเนื้อเรื่องคู่ขนานกัน โดยเกมนี้จะเป็นเกมแนว Action - Survival Horror ที่เราจะต้องรับบทเป็นหนึ่งในสองตัวละครคือ Leon ตำรวจจบใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานวันแรก และ Claire สาวแกร่งที่ต้องมาตามหาพี่ชาย ในเมืองที่เชื้อ G-Virus ได้แพร่ระบาดและเปลี่ยนประชากรในเมืองให้กลายเป็นซอมบี้ พวกเขาจะรอดหรือไม่อยู่ที่คุณ The Evil within 2 หาก Resident Evil 2 ยังทำให้คุณหลอนไม่พอผู้เขียนก็ขอแนะนำเกมนี้เลย Evil within 2 ที่จะเปลี่ยนจากซอมบี้สุดน่ากลัวเป็นสิ่งมีชีวิตสุดประหลาดพร้อมกับความจิตตกแบบเต็มที่ โดยในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็นสายสืบ Sebastian Castellanos ที่ต้องเข้าสู้เครื่อง Stem อีกครั้งในการตามหาลูกสาวของเขาที่จะทำให้เขาหลอนไปอีกนาน ตัวเกมทำออกมาได้ดี กราฟิกที่สวยงามและระบบการเล่นสนุกมาก ลองหามาเล่นกันดู Dead Space เปลี่ยนจากการต่อสู้กับซอมบี้บนดินมาเป็นการต่อสู้กับ necromorph ซอมบี้อวกาศสุดแกร่งในเกม Dead Space ที่ตัวเกมจัดเต็มในเรื่องของความสยอง ความหลอนและความโหด ที่หากคุณใจไม่แข็งพออาจจะเล่นเกมนี้ไม่จบได้ โดยเกมนี้แม้จะเก่าแล้วแต่หากคุณได้ลองสัมผัสรับรองว่าลืมไม่ลง The Last Of Us หนึ่งในเกมระดับ Masterpiece ที่หลาย ๆ คนยกให้เป็นเกมที่ดีที่สุดในยุคนี้กับ Last of US เกมที่ว่าด้วยเรื่องของสังคมมนุษย์ที่เกิดเหตุการณ์เชื้อรา Cordyceps ระบาดทำให้มนุษย์เกินกว่าครึ่งกลายเป็นสิ่งมีชีวิตประหลาดที่พร้อมจะไล่ล่าคนอื่น เราจะได้รับบทเป็น Joel ที่ต้องร่วมมือกับ ellie ในการเอาชีวิตรอดจากเหล่าเชื้อราและมนุษย์ที่แสนโหดร้าย พร้อมเนื้อเรื่องสุดแสนประทับใจที่จะทำให้คุณอยากเล่นเกมภาคใหม่เร็ว ๆ Dying Light ปิดท้ายกันด้วยเกมซอมบี้ขวัญใจมหาชนอย่าง Dying Light เกมแนว FPS - Action / Open World ที่ให้เราสวมจิตวิญญาณของ Free Running ในการต่อสู้กับเหล่าซอมบี้ ตัวเกมมีกราฟิกที่สวยงาม โลกในเกมอันแสนกว้างใหญ่ ระบบการเล่นสุดมันส์ พร้อมทั้งภาษาไทยที่จะทำให้คุณเล่นเพลินไปยาว ๆ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 ใน PC , Xbox , PlayStation 4

อีกประมาณ 11 วัน เราก็จะได้สัมผัสเกม Resident Evil 3 Remake กันแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการปล่อยตัวเกมเวอร์ชั่น Demo ให้สามารถโหลดมาทดลองเล่นได้อยู่ในตอนนี้ โดยต้องบอกว่าตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ทำ Nemesis ออกมาได้น่ากลัวมากจริงๆ ครับ (สามารถเข้าไปดูรีวิวของพวกเราได้ที่นี้) แน่นอนว่าพอมีการปล่อยตัวเกม Demo ออกมาแบบนี้ ก็คงมีมือดีที่พยายามจะล้วงความลับของเกมจากไฟล์ที่ได้มาอยู่แล้ว RE3 Remake เองก็ไม่ใช้ข้อยกเว้นครับ! ซึ่งคนที่แกะไฟล์เกมในครั้งนี้ก็ไม่ใช้ใครที่ไหน Dusk Golem จอมสปอยเจ้าเดิมนั้นแหละ โดยเขาได้โพสต์รายละเอียดที่ได้มาจากการแกะไฟล์เกมไว้บนเว็บไซต์ ResetEra ซึ่งบอกอะไรเราเยอะพอสมควรเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นโหมดความยากทั้งหมดที่เล่นได้ในเกม, ชุดคอมตูมของ Jill ที่จะมีให้เก็บถึง 4 ชุด ส่วน Carlos ก็มี 2 ชุดเช่นกัน, ตัวเกมจะมี New Game+ ด้วย ซึ่งถ้าเกิดว่าสามารถเล่นจนจบได้อีกรอบ ก็จะมีฉากจบเพิ่มเติมให้อีกต่างหาก (เหมือน RE2 Remake) แน่นอนว่ามีการสปอยเนื้อเรื่องเล็กน้อยด้วย ถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์ข้างบนนี้เลยครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

ปี 2020 ถือว่าเป็นหนึ่งในปีที่หนักหนาสาหัสของมวลมนุษยชาติ ทั้งเรื่องของความตึงเครียดระหว่างหลายประเทศ ภาวะไฟป่าครั้งใหญ่ระดับโลกรวมถึงไวรัส Covip-19 ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับชีวิตมนุษย์อย่างมาก แต่ในวันนี้เราจะข้ามจากเรื่องราวโหด ๆ มายังโลกของวิดีโอเกมที่ยังคงมีเกมดี ๆ ออกมาให้เราได้เล่นไม่ขาดสาย และนี่คือ 10 เกมที่เราแนะนำให้ทุกท่าน 1.Resident Evil 3 - 3 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC, Xbox One , PlayStation 4 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยมากที่สุดประจำปีนี้กับเกม Resident Evil 3 ฉบับ Remake ที่เล่าเรื่องราวคู่ขนาดกับภาคที่ 2 โดยในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็น Jill Valentine ตำรวจฝีมือดีจาก Raccoon City ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่เมืองกำลังถูกเชื้อไวรัสระบาด พร้อมกับศัตรูที่แกร่งกว่าซอมบี้อย่าง Nemesis เธอจะผ่านคืนวันอันโหดร้ายเหล่านี้ไปได้หรือไม่ต้องไปลุ้นกันในเกม 2.Disaster Report 4 - 7 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC, Nintendo Switch, PlayStation 4 หลังจากปล่อยให้เล่นในโซนแดนปลาดิบมาเกือบ ๆ สองปี ในที่สุดเกมเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติก็ได้ออกมาสู่เกมเมอร์ทั่วโลกแล้ว disaster report 4 จะว่าด้วยเรื่องราวของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมืองที่เราจะต้องเอาชีวิตรอดออกมาให้ได้ พร้อมกับช่วยเหลือผู้คนอย่างเต็มความสามารถ หากใครอยากจะลองฝึกรับมือกับภัยแผ่นดินไหวเกมนี้ถือว่าน่าลอง 3.Final Fantasy 7 Remake - 10 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PlayStation 4 ในที่สุดหลังจากเปิดตัวในงาน E3 ปี 2015 ก็ถึงฤกษ์ยามที่เหล่าเกมเมอร์เฝ้ารอคอยกับเกม Final Fantasy 7 ฉบับ Remake ที่ได้มีการปรับปรุงหลาย ๆ ส่วนทั้งกราฟิก ระบบการเล่นและอื่น ๆ อีกมากมาย โดยตัวเกมจะเปิดให้เล่นในเครื่อง PlayStation 4 สำหรับเกมเมอร์ชาว PC รอไปอีกยาว ๆ 4.Someday You’ll Return - 10 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC เอาใจเกมเมอร์สายสยองขวัญกันบ้างกับเกม Someday You’ll Return  ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ Danielคุณพ่อที่ต้องออกตามหา Stela ลูกสาวในป่าลึกลับ ทำให้เราต้องไปเจอกับเหตุการณ์ประหลาดมากมายที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความโหดร้าย ในขณะเดียวกันนี่ก็คือเบาะแสสุดท้ายเกี่ยวกับลูกสาวของเขา เหตุการณ์ดังกล่าวจะสยดสยองแค่ไหนติดตามได้ในเกมเลย 5.Cloudpunk - 23 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC หลาย ๆ คนอาจจะกำลังคิดถึงเกม Cyberpunk ที่กำลังจะวางจำหน่ายในปลายปีนี้ แต่หากคุณทนความคิดถึงไม่ไหวเราก็มีเกมมาแนะนำให้กับทุกท่านได้หามาเล่น Cloudpunk จะว่าด้วยเรื่องราวของราเนีย (Rania) ที่ได้มาทำงานกับ Cloudpunk บริษัทส่งของแบบกึ่งถูกกฎหมายในเมือง Nivalis โดยเราจะต้องนำเอาสิ่งของไปส่งพร้อมกับเลือกตอบแสดงความคิดเห็นที่อาจจะเปลี่ยนวิถีของเมืองไปตลอดกาล ธีม Cyberpunk ถือว่ามีน้อยเกมมาก ๆ ที่จะทำให้เราได้เห็นหนึ่งในนั้นคือเกมนี้และถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ดีในการทำความเข้าใจกับธีม Cyberpunk อีกด้วย 6.Trials of Mana - 24 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC, Nintendo Switch, PlayStation 4 Trials of Mana คือการ Remake หนึ่งในเกม Classic ตลอดการของแฟน ๆ JRPG อย่าง Seiken Densetsu 3 มาในรูปแบบใหม่พร้อมกับระบบกราฟิกที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบ 3 มิติ ระบบการพัฒนาตัวละครแบบใหม่ การจัดปาร์ตี้อย่างลื่นไหลและเสียงดนตรีที่สดใหม่ ใครที่อยากจะรื้อฟื้นความทรงจำเก่า ๆ ก็หามาเล่นกันได้ 7.Predator: Hunting Grounds - 24 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4 ศึกยอดนักล่าแห่งจักรวาลกับเหล่ามนุษย์อุบัติอีกครั้งในเกม Predator: Hunting Grounds ที่จะให้เราเลือกรับบทเป็น Predator นักฆ่าสุดแกร่งที่พร้อมกับลูกเล่นอันหลากหลายพร้อมความเก่งระดับยอดนักล่า และมนุษย์ที่แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าในด้านต่าง ๆ แต่พวกเขาก็เป็นถึงนาวิกโยธินของกองทัพ ที่มาพร้อมกับพลังทีมเวิร์กและการวางแผนที่ดี ใครชอบแบบไหนก็สามารถเลือกเล่นได้ตามใจชอบเลย 8.Gears Tactics - 28 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC หลังจาก Gears 5 ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทาง Microsoft ก็ได้ส่งเกมใหม่อย่าง Gears Tactics มาให้กับเหล่าเกมเมอร์ชาว PC ทันที โดยในเกมนี้จะมีเนื้อเรื่อง 12 ปีก่อนสงคราม Gear Wars ครั้งแรก ตัวเกมมาพร้อมกับระบบ RPG - Turnbase ที่ให้เราได้จัดทีมออกไปตะลุยกับเหล่า Monster และ Boss สุดโหดที่ยังคงมันส์ สะใจตามสไตล์ของซีรีส์ Gears 9.Moving Out- 28 เมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC, Nintendo Switch, PlayStation 4 , Xbox One หากคุณอยากได้เกมในงาน Party ที่สร้างความสนุกระดับ Overcooked ขอแนะนำเกมนี้เลย Moving Out ว่าด้วยเรื่องราวของทีมงานย้ายเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องขนของจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยตัวเกมจะเป็นเกม Co-op ที่จะให้เราร่วมมือกับเพื่อน ๆ ในการขนย้ายสิ่งของต่าง ๆ ให้สำเร็จ ซึ่งต้องใช้ทั้งการวางแผนและความสามัคคีกันเพื่อที่จะผ่านไปให้ได้ ที่สำคัญอย่าทะเลาะกันเสียก่อน 10.Minecraft: Dungeons - ภายในเดือนเมษายน 2020 แพลตฟอร์ม PC, Nintendo Switch, PlayStation 4 , Xbox One Minecraft: Dungeons คือเกมที่นำเอาจักรวาลของ Minecraft มาทำใหม่ในรูปแบบของ Action - RPG ลุยดันเจี้ยน โดยวายร้ายของภาคนี้คือ Arch-Illager ที่เหล่าต้องเอาชนะเขาให้ได้ แม้ว่าในเกมนี้จะไม่มีระบบการสร้างเหมือนกับภาคแรกแต่ก็ชดเชยด้วยระบบ Dungeon แสนสนุก พร้อมกราฟิกที่เหมาะสมสำหรับทุกเพศทุกวัย หากคุณไม่รู้จะซื้อเกมไหนดี เกมนี้ถือว่าน่าลอง

เปิดให้เล่น DEMO กันสดๆ ร้อนๆ สำหรับ Resident Evil 3 Remake เกมสยองขวัญที่ทุกคนกำลังจับตามองในตอนนี้ กับตัวเกมที่จะพาเราไปพบกับความสยองทั่วเมือง Raccoon City กับตัวเอกแม่สาวเกาะอกฟ้าอย่าง Jill Valentine พร้อมกับศัตรูตัวฉกรรจ์อย่างเจ้า Nemesie ซึ่งทางเรา GameFever TH เองได้เข้าไปลองเล่นมาแล้วครับ และจะมาอธิบายถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้เล่นมา มันจะมีความแตกต่างจากเกม Resident Evil 2 Remake ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้วมากขนาดไหน !! ไปชมเลย !! ******************** เริ่มต้นจากตัวกราฟิกของเกม ซึ่งพวกเราเองก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเกมนั้นได้ใช้ RE Engine ตัวเดียวกับเกม Resident Evil 7: Biohazard เฉกเช่นเดียวกับเกม Resident Evil 2 Remake ซึ่งตัวกราฟิกเองถ้าให้เทียบกันช็อตต่อช็อตก็แทบจะเหมือนกันเป๊ะๆ ทั้งแสงเงา โมเดลต่างๆ ก็จะมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งมันก็เข้าใจได้ในระดับหนึ่งเพราะว่าตัวเกมอยู่ในไทม์ไลน์เดียวกัน และในภาคนี้ตัวผู้เขียนนั้นเล่นในเวอร์ชั่น PC จากที่ได้สัมผัสมารู้สึกว่าภาพในเวอร์ชั่น PS4 จะทำเงาได้สมจริงและค่อนข้างสวยกว่าเวอร์ชั่น PC อยู่เล็กน้อย (แต่ PC จะมีความคมชัดในระยะไกลมากกว่า) แต่ถึงอย่างนั้นส่วนตัวกลับรู้สึกว่าตัวเกมเวอร์ชั่น PC ภาคนี้ Optimize มาได้ดีมากและก็เล่นได้ลื่นไม่เกิดอาการกระตุกแต่อย่างใด (ในภาคที่แล้วมีคนบ่นบ้างเล็กน้อยสำหรับเวอร์ชั่น PC) ส่วนในเรื่องเกมเพลย์นั้นถึงแม้ว่าตัวเกมจะมีเกมการเล่นที่เหมือนกันกับภาคก่อนหน้า Inventory ก็มี 8 ช่องเหมือนกัน การผสมของหรือสมุนไพรก็เหมือนกัน แต่ก็ต้องบอกว่าอารมณ์ของเกมมันกลับค่อนข้างแตกต่างจาก Resident Evil 2 Remake อยู่พอสมควร เพราะว่าซอมบี้ภายในเกมนี้ค่อนข้างที่จะมีเยอะและเจอบ่อยกว่ามาก จากที่ได้เล่น DEMO ความยาวประมาณ 20 นาทีไป ผู้เขียนต้องไฝว่กับซอมบี้เกือบทุกจุดของการเดินแทบจะไม่ได้หยุดพักเลยก็ว่าได้ แต่เพราะเมื่อเหล่าซอมบี้มันมีมากขึ้น เหล่าซอมบี้เองก็โดนยิงตายง่ายขึ้นมาทดแทนเช่นกัน ซึ่งในภาคที่แล้วการฆ่าซอมบี้ตัวหนึ่งอาจจะใช้กระสุนราวๆ 5-10 นัด แต่ภายในเกมนี้บางตัวยิงแค่ 3 นัดก็ลงไปนอนแล้ว พร้อมทั้งกระสุนต่างๆ เองก็มีให้เก็บให้ผสมอยู่มากพอสมควร แต่ก็ใช่ว่าเราจะสามารถยิงพร่ำเพรื่อได้ การเก็บกระสุนเก็บยาเอาไว้ใช้ยามจำเป็น มันก็ยังเป็นไอเดียที่ควรทำอยู่ รวมถึงระบบมีดของเกมนี้จะเปลียนไป เป็นมีดที่เอาไว้ใช้ในการฟันกล่องต่างๆ แทนที่มันจะเอาไว้ช่วยจากการโดนซอมบี้กัด รวมถึงตัวเกมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้เราใช้ฆ่าผีได้มากขึ้น อาทิเช่นถังน้ำมันที่เราจะเอาไว้ยิงให้มันระเบิดโดนผีเป็นกลุ่มๆ เพื่อประหยัดกระสุน หรือจะเป็นปุ่มหลบที่สามารถกดได้ตลอดเพื่อเอาไว้หลบจังหวะที่เหล่าซอมบี้นั้นกำลังกระโจนใส่เรา เกมภาคนี้จึงมีความคล่องตัวค่อนข้างสูงมากกว่าภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เอาจริงๆ จากที่เล่นมารู้สึกว่าพวกเหล่าซอมบี้ดูน่ากลัวน้อยลงไปเยอะ เพราะเรายิงมันตายง่าย ตัวช่วยก็เยอะ ระเบิดก็มี แต่สิ่งที่พูดมาทั้งหมดจะยากขึ้น ถ้าคุณเจอมัน !! . . . . . . เจ้า Nemesis มันคืออสูรกายที่ต้องบอกเลยว่ามันคือ Mr.X อัพเกรดเลยชัดๆ ตัวมันจะวิ่งเร็วกว่าเรา ต่อยเราทีเดียวล้ม (และต่อยไม่กี่ทีก็ลงไปนอนกับรากมะม่วงแล้ว) ไหนจะมีกระโดดดักหน้าหรือมีพลังดึงเราไม่ให้หนีอีกด้วย อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้าว่าเกมนี้มันทำให้เรานั้นมีความเก่งขึ้นมากกว่าภาคที่แล้ว มีกระสุนเยอะขึ้น มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้น แต่มันก็แลกมากับระบบมีดที่เอาไว้ช่วยป้องกันตัวเองไม่ได้แล้ว บวกกับเจ้า Nemesis ที่มันจะไล่ล่าคุณถึงที่สุดตลอดทั้งเกม ต่อให้คุณจะเซฟสมุนไพร หรือเซฟกระสุนยังไง คุณก็จะต้องหมดไปกับเจ้าตัวอสูรกายนี้อยู่ดี สรุปได้ว่า Resident Evil 3 Remake ที่น่าสนใจ ระบบคล้ายคลึงกับภาคก่อนหน้า แต่ให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน จะพูดว่ามันแอ็คชั่นขึ้นก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะตัวเกมมีความยากและความท้าทายกันคนละแบบ อาจจะเปรียบได้ว่ามันคือเกมสยองขวัญที่มีรสชาติที่เปรี้ยวเพิ่มขึ้นมาหน่อยแทนที่จะเผ็ดและออกเค็มอย่างเดียว ก็อยู่ที่ว่าท่านเองจะชอบรสชาติแบบนี้หรือไม่ก็แค่นั้น แต่ส่วนตัวคิดว่าความสนุกของเกมนี้ก็ยังไม่ได้ลดละไปจากเดิมเลย โดย Resident Evil 3 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงยังได้รับโหมดเสริมอย่าง Resident Evil Resistance ที่จะเป็นโหมด Multiplayer 4v1 ด้วย

ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ไม่แน่นอน ทำให้แม้กระทั่งบริษัทพัฒนาเกมหลายแห่งจำเป็นต้องอนุญาติให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส และบริษัทล่าสุดที่ประกาศให้พนักงานทำงานจากบ้านอย่างเต็มรูปแบบก็คือ Square Enix นั่นเอง CEO ของบริษัท Square Enix สาขาอเมรีกาและยุโรป คุณ Phil Rogers ได้ปล่อยแถลงการณ์ใหม่ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท เกี่ยวกับมาตรการรับมือไวรัสของบริษัท Square Enix ทั่วโลก โดยคุณ Phil ยืนยันว่าเกมจำพวก Live-Service อย่าง Final Fantasy XIV จะได้รับการสนับสนุนต่อไป และเกมที่อยู่ระหว่างพัฒนาทั้งหมดจะยังคงได้รับการพัฒนาต่อไปเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คุณ Phil Rogers ยังยืนยันว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะยังวางจำหน่ายตามกำหนดการเดิม คือวันที่ 10 เมษายนนี้ แต่ก็ยอมรับว่าแผ่นเกมอาจจะขาดตลาดได้ในบางพื้นที่ จากปัญหาด้านการขนส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดด้านจำนวนแผ่นในแต่ละพื้นที่อีกครั้งในอนาคต สุดท้ายนี้ บริษัทจะทำการโชว์เกมทางออนไลน์ด้วยตัวเอง ทดแทนงานเกมต่างๆ ที่ต้องยกเลิกไปในปีนี้ ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กิจการหลายชนิดจะถูกจำกัดจากมาตรการป้องกันโรคระบาดของหลากหลายประเทศ หวังว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายโดยเร็ว เราจะได้กลับมาสนุกกับเกมที่เรารักได้อย่างเต็มที่! อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ) ที่นี่ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในขณะที่ทั้งโลกกำลังประสบกับปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อยู่ในตอนนี้ อีกประมาณ 2 อาทิตย์เราก็จะได้เข้าไปเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสในเกม Resident Evil 3 Remake เช่นกัน และในวันนี้ตัว Demo ของเกมก็เปิดให้สามารถเข้าไปโหลดมาทดลองเล่นได้แล้วเช่นกัน ยังไม่หมดแค่นั้นวันนี้ก็มีข่าวออกมาอีกด้วยว่า ในตัวเกมภาคนี้เราจะได้เล่นเป็น Carlos นานกว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Original ด้วยครับ! เว็บไซต์ Gaming bolt ได้รายงานว่า "ในตัวเกมเวอร์ชั่น Remake นั้น ช่วงที่เราจะได้เล่นเป็น Carlos จะมี Puzzle ให้แก้มากกว่า และพื้นที่ให้สำรวจที่ใหญ่กว่ามาก เมื่อเทียบกับตัวเกม Original อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เล่น Carlos มากกว่า 1 ฉากอีกด้วย"  ถ้ามาคิดดูจริงๆ แล้ว ตัว Carlos ก็เรียกได้ว่ามีบทบาทที่น้อยมากๆ ในตัวเกมเวอร์ชั่น Original (ทั้งที่เป็นพระเอกของภาคนี้) ก็คงนับเป็นข่าวดีที่เราจะได้เล่นเป็น Carlos มากขึ้นในตัวเกม Resident Evil 3 Remake ครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในอีก 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ ซึ่งเพื่อเป็นการโหนกระแสอย่างต่อเนื่อง ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยรูปภาพ Screenshots ของเกมออกมามากมาย และตอนนี้เองตัวเกมก็อยู่ในสถานะ Gone Gold เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั้นจึงหมายความว่าจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายของเกมออกไปอีกแล้ว แต่ในข่าวดีทั้งหมดนั้นก็ดูเหมือนจะมีข่าวร้ายอยู่เช่นกันครับ ล่าสุดก็มีประกาศออกมาจากผู้พัฒนาว่า "ในวันที่เกมวางจำหน่าย แผ่น Final Fantasy 7 Remake อาจจะขาดตลอดได้" Official Twitter ของ Final Fantasy 7 Remake ได้ทำการปล่อยข้อความใหม่พร้อมรูปภาพที่บอกว่า "เนื่องด้วยปัญหาการระบาดของ COVID-19 ทำให้พวกเราไม่สามารถผลิตแผ่นเกม FF7 Reamke เป็นจำนวนมากได้ในตอนนี้ สำหรับคนที่ซื้อเกมในรูป Digital นั้นไม่ต้องกังวลไป ส่วนสำหรับคนที่สั่งซื้อแบบ Physical Edition เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสเกมนี้อย่างแน่นอน" มาถึงจุดนี้คงต้องยอมรับว่า COVID-19 ทำเอาปั่นป่วนทั้งวงการจริงๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บน PS4 เท่านั้น Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เพื่อต้อนรับการมาถึงของเกม Resident Evil 3 Remake ในไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ ผู้พัฒนา Capcom ได้ปล่อยคลิปวีดีโอ "Raccoon City Incident Report" ที่จะทวนเนื้อเรื่องของซีรี่ส์ Resident Evil ในเวลาราวๆ 5 นาทีออกมา เพื่อให้ผู้เล่นเก่าได้ทบทวนความจำ และให้ผู้เล่นใหม่ได้ทำความรู้จักกับที่มาที่ไปเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆ ในเกมภาค 3 นั่นเอง ภายในคลิปจะเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญของเกม Resident Evil, Resident Evil 0, และ Resident Evil 2 (ใครไม่อยากโดนสปอยก็ระวังหน่อยนะจ๊ะ) Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยผู้เล่นจะสามารถเข้าไปทดลองเดโมของเกมล่วงหน้าได้ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ (ทุกแพลตฟอร์ม) และจะสามารถทดลองเกม Spin-off ที่มาพร้อมกันอย่าง Resident Evil Resistance ได้ในวันที่ 27 มีนาคมนี้ Credit: Gematsu ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

อีกไม่ถึง 3 อาทิตย์แล้วก่อนที่เกม RPG ระดับตำนานเวอร์ชั่น Remake อย่าง Final Fantasy 7 จะวางจำหน่าย คิดว่าตอนนี้หลาย ๆ คนคงตื่นเต้นขนาดกาปฏิทินรอกันแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าตอนแรกก็ตื่นเต้นมากๆ อยู่แล้ว ยิ่งทางผู้พัฒนาทำการปล่อยทั้งวิดีโอ ทั้งภาพ ทั้งข้อมูล ออกมามากมายขนาดนี้ ก็ยิ่งทำให้เราอยากเล่นเกมนี้มากขึ้นไปอีก และวันนี้การยั่วเหล่านั้นก็ยังไม่จบครับ เพราะล่าสุดก็มีการปล่อยภาพ Screenshots ของเกมออกมาอีกแล้ว แถมยังมาเป็นชุดใหญ่เลยด้วย! รูปภาพทั้งหมดนั้นถูกปล่อยออกมาจากเว็บไซต์ Official ของ Final Fantasy เองเลย ซึ่งภาพชุดใหญ่ที่ปล่อยออกมานี้ มีทั้งภาพของตัวละครเก่า และใหม่ที่มีอยู่ในเกม ภาพของสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Wall Market, Corneo Colosseum, The Honeybee Inn หรือ Beginner’s Hall อีกทั้งยังมีการเปิดเผยระบบใหม่ Jukebox กับ มนต์อสูร Leviathan สามารถดูรูปต่าง ๆ ได้ข้างล่างนี้เลยครับ Tseng Tseng เป็นหัวหน้าของหน่วย The Turks ที่เป็นเหมือนกับหน่วยลับของบริษัท Shinra หน่วยนี้มีหน้าที่ทำทุกอย่างตามที่บริษัทต้องการ ตั้งแต่สอดแนม หาข้อมูล หรือลอบสังหาร Don Corneo ผู้ปกครองเขต Wall Market เป็นตัวละครที่บ้าผู้หญิงมาก ทั้งยังเป็นคนที่ทำธุรกิจผิดกฏหมายมากมายอีกด้วย Andrea Rhodea ผู้เป็นทั้งเจ้าของ และนักเต้นที่ The Honeybee Inn มีนิสัยแบบ Perfectionism ทั้งยังเป็นคนที่จับ Cloud แต่งหญิงอีกด้วย Leslie Kyle ลูกขุนของ Don Corneo ด้วยนิสัยที่ไม่เย็นชา และดวงตาที่สุขุมเยือกเย็นทำให้เขา เป็นลูกน้องคนโปรดของ Don Corneo Madam M เจ้าของกิจการร้านนวดมือใน Wall Market เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลภายในเขต เป็นคนมีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง Chocobo Sam ตามชื่อเลยครับ เขาก็คือนักฝึก Chocobo ในเขต Wall Market ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการ Sams Delivery อีกด้วย Barret in Battle ภาพต่อจากนี้ จะเป็นการโชว์ฉากการต่อสู้ รวมไปจนถึงสกิลต่าง ๆ ของ Barret ซึ่งเขามาท่าโจมตีระยะไกลที่รุนแรงมาก ๆ ชื่อว่า “Overcharge” อยู่ แต่ก็ต้องแลกมากับ Cooldown ของสกิลที่นาน ซึ่งผู้เล่นสามารถยนระยะเวลาได้ด้วยการกดปุ่มสามเหลี่ยมครับ เขต Wall Market Corneo Colosseum The Honeybee Inn Tifa และ Aerith ในชุดราตรี Beginner’s Hall Jukebox เป็น Feature ใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ บริเวณต่าง ๆ ในเมืองจะมีเพลงพิเศษของแต่ละพื้นที่อยู่ ผู้เล่นสามารถหาซื้อแผ่นเพลงเหล่านั้นได้ตามจุดต่าง ๆ ในเมือง และเอามาเปิดฟังได้ที่ Junkbox มนต์อสูร Leviathan ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งมนอสูรที่มีให้เห็นแทบทุกภาคของ Final Fantasy ต้องรอดูว่าภาคนี้จะต้องทำยังไงถึงจะได้มาครับ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil 3 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับ Demo ของเกมว่าจะเปิดให้โหลดมาทดลองเล่นได้ภายในอาทิตย์นี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ เป็นอย่างมาก และวันนี้ก็มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่า ตัว Demo ของเกม Resident Evil 3 Remake จะปล่อยให้สามารถโหลดมาทดลองเล่นได้ในวันที่ 19 มีนาคม 2020 นี้ครับ! เพิ่งจะมีการปล่อย Video ใหม่จากทาง Resident Evil ที่บอกว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Demo จะเปิดให้โหลดมาทดลองเล่นได้ในวันที่ 19 มีนาคม 2020 นี้ และอย่างที่รู้กันว่าตัวเกมภาคนี้จะมาพร้อมกับ Resident Evil Resistance ซึ่งตัวเกมดังกล่าวเองก็จะเปิด Open Beta ให้เข้าไปทดลองเล่นได้ในวันที่ 27 มีนาคม 2020 ด้วยเช่นกัน งานนี้บอกได้คำเดียวว่าแฟน ๆ Resident Evil ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือน เมษายน ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้จะทำให้เรารู้ว่ามีการเพิ่มคอนเทนต์เข้ามาในเกมภาคนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ช่วงของเนื้อเรื่องเพียงไม่กี่ % ในเกม Original กลายเป็นตัวเกมเต็ม ๆ ได้ วันนี้ก็ได้มีการเปิดเผย Mini-Game ใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในเกมช่วงเนื้อเรื่องของ Don Corneo Mansion ด้วย ซึ่งมินิเกมดังกล่าวมีชื่อว่า Corneo Colosseum ครับ! Don Corneo คือชื่อของชายที่เป็นผู้คุม Sector 6 ในเขต Midgar Slums ทั้งยังเป็นตัวละครที่บ้าผู้หญิงมาก ๆ โดยตามเนื้อเรื่องแล้ว Cloud จะต้องแต่งหญิงเพื่อที่จะได้พบเขานั้นเอง คิดว่า Mini-Game น่าจะถูกแนะนำให้ผู้เล่นรู้จักในช่วง Main Story แล้วก็ทิ้งไว้เป็น Optional ที่จะกลับมาหรือไม่กลับมาเล่นก็ได้ ภายใน Corneo Colosseum จะมีศัตรูมากมายหลายประเภทถูกโยนเข้ามาให้เราต่อสู้ เมื่อเอาชนะได้ก็จะได้ของรางวัลเป็นการตอบแทน โดยคิดว่าน่าจะมีระดับความยากให้เลือกก่อนเริ่มเล่นด้วย และผู้เล่นจะได้รับของรางวัลที่ดีมากขึ้นตามความยากที่เลือกไปครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เมื่อเร็วๆ นี้ในเว็บทวิตเตอร์ ได้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งที่ชื่อว่า "AestheticGamer aka Dusk Golem" ซึ่งมีชื่อในด้านการเปิดเผยข้อมูลวงในเกี่ยวกับเกมในซีรี่ส์ Resident Evil ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลชุดใหญ่เกี่ยวกับเกม Resident Evil 3 Remake ที่อ้างว่าเป็นข่าววงในจากทางผู้พัฒนา สำหรับข้อมูลที่หลุดออกมานั้น สามารถสรุปประเด็นที่น่าสนใจได้สองข้อ อย่างแรกคือการที่ Capcom ดูจะมีแผนในการวางจำหน่ายเกม Resident Evil ภาคใหม่ทุกปี (คล้ายกับที่ Ubisoft เคยทำสำหรับ Assassins Creed) ด้วยการมอบหมายให้ค่ายพัฒนาย่อยในเครือ M-Two เป็นผู้รับผิดชอบ และอย่างที่สองนั้น เกี่ยวข้องกับเดโมของเกม Resident Evil 3 Remake ที่ผู้พัฒนาเคยบอกว่าจะปล่อยออกมาให้เล่นกัน โดยนาย Dusk Golem ได้เปิดเผยว่าเดโมดังกล่าวจะเปิดให้โหลดกันในวันที่ 20 มีนาคม หรือก็คือวันศุกร์นี้แล้ว! March 20th. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) March 13, 2020 ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้เปิดเผยถึงเนื้อหาของเดโม ว่าจะได้ลองเล่นช่วงไหนของเกม และแม้ว่าคุณ Dusk Golem จะมีสถิติที่น่าเชื่อถือในเรื่องข้อมูลวงในของ Resident Evil แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการประกาศอะไรจากผู้พัฒนาเอง ก็ยังคงต้องฟังหูไว้หูกันไปก่อนนะจ๊ะ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยจะมาพร้อมกับเกม Resident Evil Resistance ด้วย ชมเกมเพลย์ Resident Evil 3 Remake ที่นี่ อ่านความรู้สึกหลังจากลองเล่นเดโม Resident Evil Resistance ที่นี่  Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกไม่กี่อึดใจแล้วจริงๆ กับการมาถึงของเกม Final Fantasy 7 Remake เกมที่ผู้เล่นหลายคนเฝ้ารอคอยที่จะได้สัมผัส ที่มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนที่กำลังจะถึงนี้ หลังจากที่ปล่อยเดโมเกมสั้นๆ ออกมาให้ชาว PS4 ได้ทดลองระบบต่อสู้ของเกมไปเมื่อเร็วๆ นี้ (อ่านความรู้สึกจากการเล่นเดโม ที่นี่) ล่าสุดทางผู้พัฒนา Square Enix ก็ได้ปล่อยวีดีโอสารคดีตัวใหม่ "Inside Final Fantasy 7 Remake"  ที่จะพาผู้ชมไปสู่เบื้องหลังของการสร้างเกม โดยในตอนแรกสุดนี้ (ความยาวราว 20 นาที) จะเน้นไปที่การแนะนำเหล่าผู้พัฒนามากฝีมือของ Square Enix ที่ร่วมกันสร้างเกมนี้ขึ้นมา รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการทำงานของพวกเขา และแน่นอนว่ายังมีการแสดงเกมเพลย์ทั้งเก่าและใหม่ได้รับชมกันอีกด้วย Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลด DEMO กันไปหมาด ๆ บน PlayStation 4 กับเกมที่หลายท่านรอคอย Final Fantasy VII Remake เกมเก่ายุคคลาสสิคที่กลับมาใหม่ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ทั้งกราฟิกที่ปรับเปลี่ยนจากยุค Polygon เป็น 3D เต็มตัว สานต่อภาพจำสมัยวัยเยาว์ให้สมจริงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Final Fantasy VII Remake ไม่ใช่แค่เกมเดียวที่ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน และกลับมาใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่ทว่าในปีนี้มีอีกหลายไตเติลดัง ที่ได้กลับมาให้หายคิดถึงอีกครั้ง อาทิเช่น Resident Evil 3 Remake, Seiken 3 (Trials of Mana), Pokemon Mystery Dungeon กระแสเกมเก่าถูกกลับมา Remake หรือ Remaster ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แม้อาจจะดูหนักหน่วงในช่วงหลัง ๆ จนกลายเป็นคำถามคาใจว่าเหตุไฉน เกมยุคเก่าทั้งหลายถึงต้องถูกนำกลับมาใหม่ในยุคปัจจุบัน ความโหยหาอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ความโหยหาอดีตของเหล่าเกมเมอร์ยุคปัจจุบันครับ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงวัย 20 ต้น ๆ ไปจนถึง 30 ตอนปลาย ที่เติบโตมากับเครื่องเกม NES , Gameboy , GameCube  , หรือ PlayStation ซึ่งในช่วงนั้นหลายคนน่าจะยังอยู่ในอายุหลักหน่วยไปจนถึงหลักสิบต้น ๆ หลายเกมคือภาพทรงจำในอดีตที่เคยเป็นเกมแรกซึ่งเก็บเงินซื้อเอง , แม่ซื้อให้เป็นของขวัญตอนสอบได้ที่ 1 , หรืออาจจะเป็นเกมที่เพื่อนเคยยืมแล้วสูญหายไป แต่บรรยากาศยามที่เราสัมผัสปุ่มยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่ทว่าการจะกลับไปเล่นเกมเก่า ๆ เหล่านั้นไม่สามารถจะทำได้ง่าย ๆ ทั้งแผ่นเกมเก่าที่กลายเป็นสิ่งหายาก หรือเครื่องเกมที่มูลค่าสูง การ Remaster หรือ Remake อาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่า การพัฒนาของยุคสมัยใหม่ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ใครหลายคนอยากเห็นการ Remake ของเกมโปรด ในสมัยเกมเก่าที่เราชื่นชอบอาจจะยังเป็นภาพรูปแบบ 8Bits 16Bits หรือภาพโพลิกอนแข็งๆ แต่ด้วยกาลเวลาร่วม 20 - 30 จะเห็นได้ว่าปัจจุบันกราฟิกไปได้ไกลขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งทำให้แฟนเกมเก่าที่เคยมองภาพตัวละครรักหรือบรรยากาศในเกมที่ถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้น อยากเห็นภาพที่สวยสมจริงตามยุคสมัย เห็นได้ชัดอย่าง Cloud และเมือง Midgar ในเกม Final Fantasy VII สมัยที่ลงเครื่อง PlayStation และปัจจุบันได้ถูกนำมา Remake โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีสมัยปัจจุบัน ทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นบวกกับเข้าใจโลกของเกมได้มากขึ้นจากกาเนรมิตเมือง Midgar แบบสมจริง เพื่อสานต่อตำนานและให้ถูกเล่าขานสืบไป การ Remake ไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองให้แฟนรุ่นเก่าได้เบิกบานทางจิตใจ แต่อาจนำไปสู่การสร้างฐานแฟนคลับรุ่นใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสเกมเหล่านั้นมาก่อนด้วย ทั้งยังทำให้เข้าใจความยอดเยี่ยม หรือความคลาสสิคของเกมที่คนรุ่นเก่าเคยกล่าวไว้ การกลับมาอีกครั้งของเกมระดับตำนานทั้งหลายจะช่วยตอกย้ำความสำเร็จไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลาอีกด้วย ความคุ้มค่าต่อการ Remake เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นอาจเป็นเหตุผลด้านความรู้สึกของผู้เล่นเสียมากกว่า แต่สำหรับผู้ผลิตเองก็พอจะมีเหตุผลสำคัญที่ทำให้อยากนำเกมเก่าของตนเองกลับมา Remake พอสมควร หากดูยอดขายของเกม Remake หลายเกมที่ผ่านมา เช่น Resident Evil 2 Remake สามารถทำยอดทะลุมากกว่า 5 ล้านก็อปปี้ ซึ่งมากกว่าต้นฉบับ หรือ The Legend of Zelda: Links Awakening Remake ที่สามารถทำยอดขายมากกว่า 4 ล้านก๊อปปี้ในปี 2019 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่นี่พอใจสำหรับเกม Remake และมากกว่าเกมไตเติลใหม่หลาย ๆ เกมเสียด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่หลายนักพัฒนาอยากนำเกมเก่าของตนมา Remake ใหม่มากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม  ผู้เล่นหลายๆ ท่านจะได้พบกับเกม Remake อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2020 อย่างแน่นอน และรวมไปถึงในปีถัด ๆ ไป ก็อาจจะเยอะขึ้นกว่าเดิมอีก มารอลุ้นดูว่าในอนาคต เกมรักเกมโปรดของคุณในอดีตอาจกลับมาอีกครั้ง หากผู้อ่านมีเกมโปรดเกมใดที่อยากให้ Remake ลองนำเสนอกันมาได้นะครับ

คุณเคยมีเพื่อนที่สร้างความประทับใจให้ไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะผ่านเวลามานานขนาดไหนหรือเปล่า? สำหรับผู้เขียน … ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 1997 ด้วยวัย 12 ขวบ ที่ยอมลาเรียน รบเร้าคุณพ่อให้พาไปต่อคิวหน้าศูนย์โซนีสาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน อันช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิต มันเป็นวินาทีที่พิเศษที่สุด ที่ผลจากความพยายามเก็บเงินข้ามปี จำนวน 2180 บาท กำลังจะออกดอกผล เป็นแพ็คเกจแผ่นเกมเครื่องเล่น Playstation ใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า …. Final Fantasy VII จากวันที่ได้รับแผ่น ผู้เขียนเล่นมันอย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรทัศน์แม้แต่ตัวเดียว เฝ้าเสาะแสวงหาบทสรุปของสำนักพิมพ์ต่างๆ มาประกอบการเล่น เล่นจบแล้วก็เล่นซ้ำไปมา เป็นห้วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ที่ได้ใช้ร่วมกันกับ ‘เพื่อน’ ผู้นี้ และเป็นสิ่งที่กำหนดตัวตน และความเป็น ‘คนเล่นเกม’ ของผู้เขียนมานับตั้งแต่นั้น…. เวลาผ่านไป 23 ปีมาจนถึงปัจจุบัน ที่ผู้เขียนเป็นชายวัยเกือบกลางคน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายพรรษา ผ่านชิ้นงานเกมหลากหลายแนวมานับไม่ถ้วน ได้เห็นวัฏจักรการเกิดดับของแต่ละ Cycle ของแวดวง และได้รับทราบถึง ‘การกลับมา’ ของเพื่อนคนเก่า ที่มาในรูปโฉมใหม่ มันอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ มันเป็นความตื่นเต้น อันเกิดจากความอยากรู้อยากเห็น ว่าเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านไป ‘เพื่อน’ คนนี้ จะยังคงน่าสนใจแค่ไหน และมีเรื่องราวใดที่จะมาบอกกล่าวกันกับผู้เขียน เรานัดเจอกันในเย็นย่ำวันธรรมดาหลังเลิกงาน เฝ้ารอให้เพื่อนเดินทางมาสถิตอยู่ในเครื่อง Playstation 4 Pro ใช้เวลาเพียงไม่นาน ‘เพื่อนเก่า’ ใน ‘โฉมใหม่’ ก็ได้มาอยู่ต่อหน้า พร้อมสำหรับการพูดคุยสนทนาวิสาสะกัน และนี่ คือการสนทนาของผู้เขียน กับ ‘เพื่อน’ คนนี้ … รูปลักษณ์ สุ้มเสียง สำเนียงที่เปลี่ยนไป ในเรื่องราวเก่าแก่ที่บอกกล่าวกันใหม่ตามช่วงเวลา เราเริ่มต้นทักทายกันด้วยความทรงจำและเรื่องราวเก่าเป็นบทเปิดโหมโรงพอเป็นพิธี แต่ก็สัมผัสได้ทันที ว่าเพื่อนผู้นี้ มีกลวิธีที่แตกต่างออกไปจากเดิม มันมีเสน่ห์มากขึ้นตามยุคสมัย แต่สามารถลงลึกถึงรายละเอียดเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนได้อย่างแม่นยำ ฉากที่เป็น Signature หลายช่วงถูกนำเสนอออกมาในรายละเอียดที่มากขึ้น ที่แม้แต่ผู้เขียนก็คาดไม่ถึง ว่าเรื่องราวในครั้งนั้น จะมีสิ่งละอันพันละน้อยปลีกย่อยที่น่าสนใจได้ถึงขนาดนี้ มันช่วยเติมรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ก็ยังมีความชวนให้หวนอาลัยต่อความทรงจำที่เคยได้รับมาในสถานการณ์เดียวกัน ดวงตาของผู้เขียนเป็นประกายราวกับเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ เหมือนได้ย้อนกลับไปยังวันเวลาเก่าก่อนอีกครั้ง ‘เพื่อน’ ไม่รอช้า เข้าสู่บทโหมโรงของเรื่องราวแห่ง Cloud Strife ทหารรับจ้าง กับภารกิจร่วมกับกลุ่ม Avalanche ในการทำลายเตาปฏิกรณ์ Mako ของบรรษัทยักษ์ใหญ่ Shinra Company แน่นอนว่านี่ เป็นเรื่องเก่า แต่ก็เป็นเรื่องเก่าที่น่าคิดถึง และยิ่งมาในรูปโฉมใหม่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความน่าสนใจในการสนทนาครั้งนี้ เพิ่มสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ตัวละครประกอบอย่างแก๊งส์ร่วมขบวนการอย่าง Biggs, Wedge และ Jessie ถูกขับเน้นให้มีตัวตน มีบุคลิก และ ‘มีความสำคัญ’ ดังที่เพื่อนได้กล่าวกับผู้เขียนว่า เรื่องราวถัดจากนั้น จะยิ่งเข้มข้นและลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น (และอาจจะดึงดราม่าเรียกน้ำตากันได้ง่ายๆ...) ผู้เขียนพอจะทราบมาบ้างแล้วว่า เพื่อนผู้นี้มีความพยายามที่จะตามยุคสมัยและเวลาที่เปลี่ยนไปให้ทัน นั่นทำให้สิ่งรกรุงรังอย่างการผลัดกันตีผลัดกันเดิน ถูกทดแทนด้วยบทแอ็คชันประยุกต์ผสมผสานโหมด Active Time Bar (ATB) แบบฉบับดั้งเดิมให้เป็นในส่วนของคอมมานด์ที่สามารถกดใช้ได้แทบจะทันที หรือจะกดใช้แบบกึ่งชะลอจังหวะการเล่นเพื่อดูภาพรวมของสมรภูมิก็สามารถทำได้ ทำให้การออกท่วงท่าต่างๆ เป็นไปอย่างเรียบเนียนไร้รอยสะดุด ช่วยให้การเล่นนั้นรวดเร็ว คมกริบ และง่ายต่อการเรียนรู้ เพียงแค่สองการปะทะ ผู้เขียนก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วโดยแทบไม่ต้องมองจอยแพดที่อยู่ในมือ เขาบอกว่าเอาตัวอย่างบางส่วนมาจากภาค 15 เข้ามาปรับปรุง แต่ก็ยังเหลือเผื่อจังหวะให้ช้าลงเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นการประนีประนอมที่เข้าท่ามากๆ เพราะมันได้ทั้งความเร็ว และมิติทางการวางแผน อันเป็นมรดกสืบทอดจากช่วงเวลาอันแสนน่าคิดถึงเหล่านั้น ความรวดเร็วในการดำเนินเรื่องราวของเพื่อนยังคงไว้ซึ่งจังหวะอย่างต่อเนื่อง คลอไปด้วยดนตรีที่คุ้นเคย ไม่มีอีกแล้วกับการเดินในพื้นที่แล้วสู้กับศัตรูแบบสุ่ม ทุกอย่างถูกวางสคริปต์เอาไว้อย่างเหมาะเจาะ ทุกการปะทะถูกเตรียมพร้อมเอาไว้โดยมีเป้าประสงค์ที่ชัดเจน และเข้าถึงประเด็นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาสาธยายความ แต่ไม่ละเลยซึ่งส่วนปลีกย่อยที่เล็กน้อยที่สุดอย่างการแสดงออกทางสีหน้าตัวละคร ท่วงท่าภาษากาย บทสนทนาตอบโต้ระหว่างกัน เป็นการบอกบุคลิกที่แตกต่างระหว่าง Cloud Strife และ Barret Wallace ในภารกิจทำลายเตาปฏิกรณ์ มันชัดเจน และขับเน้นตัวละครได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ บ่งบอกถึงการคิดมาอย่างดี พ่วงด้วยประสบการณ์ที่สะสมตามเวลามานานปี ที่ผู้เขียนมั่นใจ ว่าจะสามารถจับหัวใจได้ทั้งเพื่อนเก่าแก่ท่านอื่น และผู้ที่รู้จักกับเขาเพียงครั้งแรก ดังเช่นที่ผู้เขียนได้เพลิดเพลินกับการปรับโฉมในรอบนี้ เรื่องราวการผจญภัยมาถึงปลายทาง ผ่านบทต่อสู้กับบอสประจำพื้นที่อย่างหุ่นยนต์ Scorpion Sentry หน้าเก่า ที่กลับมาอย่างเร้าใจ มันมีลูกเล่นที่มากมาย และซุกซ่อนกลเม็ดเด็ดพรายที่ทำให้การต่อสู้นั้นท้าทายและเป็นมากกว่าการเดินเข้าตีอย่างดาดๆ มันต้องใช้ความคิดที่มากขึ้น ใช้ทักษะที่มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ มันค่อนข้างจะเป็นการต่อสู้ที่ ‘ยาก’ เอาเรื่อง หลายครั้งที่ผู้เขียนเกือบจะพลาดพลั้งเสียที จนต้องเรียนรู้รูปแบบการโจมตีและท่วงท่าของมัน และเลือกใช้ความสามารถของสองตัวละครที่สลับผลัดเปลี่ยนในช่วงที่เหมาะสม จึงสามารถคว้าชัยชนะในการปะทะครั้งนี้ลงไปได้ ทั้งหมดนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า คือสิ่งที่เพื่อนอยากจะบอกกล่าวตั้งแต่กาลก่อน แต่ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยี หรือด้วยวัยที่ยังใหม่ต่อโลกกว้าง ที่วงการยังอยู่ในระยะตั้งไข่ก้าวเดินออกไปได้ไม่นานก็ตาม จุดสะดุดในเรื่องเล่า แต่ก็เช่นเดียวกับเรื่องเล่าในทุกเรื่อง การบอกเล่าของเพื่อนยังไม่ได้สมบูรณ์แบบจนถึงที่สุด ยังมีจุดที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อยที่ยังรอคอยคำตอบ ไม่ว่าจะด้วยมุมกล้องที่ใช้งานได้ไม่สะดวกมากนัก ไปจนถึงระดับความยากของการเล่นที่ค่อนข้างสวิงไม่คงที่ แต่นั่นก็เป็นเพียงความไม่สะดวกเพียงเล็กน้อย ที่ไม่ได้ขัดขวางซึ่งความสนุกที่พึงได้รับแต่ประการใด รูปแบบการบอกเล่า (การเล่น) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนผู้นี้กังวล อาจจะเพราะด้วยความที่เขามีคนที่รักอยู่มากมาย การเปลี่ยนแปลงสไตล์จากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์ได้ทั้งทางบวกและทางลบ แต่ก็เป็นความกังวลที่แฝงไปด้วยความมั่นใจในน้ำเสียงอยู่ไม่น้อย ว่าจะสามารถมัดใจผู้ที่เข้ามาพูดคุยได้อย่างอยู่หมัด มันบ่งบอกชัดผ่านการนำเสนอที่ทั้งนอบน้อมต่อความทรงจำเก่าของเรา และความพยายามที่ก้าวสู่อาณาเขตของความร่วมสมัยที่สามารถสัมผัสได้แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม อีกทั้งเพื่อนผู้นี้ออกตัวกับผู้เขียนเอาไว้แต่เนิ่นๆ ด้วยว่า เขาอาจจะไม่ได้มีความพร้อมที่จะบอกเล่าทุกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบไปถึงปลายทางดังที่เคยเป็น อาจจะเพราะมีหลายสิ่งที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามา หลายอย่างที่ช่วงเวลาได้บ่งเพาะให้มีความละเมียดละไม และหลายจุดที่ไม่สามารถละสายตาไปได้ แต่นั่นไม่ใช่สาระเท่าใดในความรู้สึกของผู้เขียน มันออกจะเป็นความน่าลุ้นเสียด้วยซ้ำว่าด้วยพรรษาที่ผ่านไป เขาจะเพิ่มเติมส่วนประกอบอันใดเข้าไว้ในเรื่องราวแต่หนก่อน ให้มีเสน่ห์และรสชาติที่น่าลิ้มลองอีกครั้ง การเฝ้าคอย และนับถอยหลังสู่การพูดคุยครั้งสำคัญ ผู้เขียนและเพื่อนใช้เวลาร่วมกันในการสนทนาครั้งนี้ที่ 45 นาที เป็นเวลาที่ดูเหมือนจะนาน แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าใจคิด อดที่จะรู้สึกเสียดายไปไม่ได้ ที่การพบปะกันหลังเวลาผ่านไปกว่าสองทศวรรษจะต้องปิดฉากลงไปก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะมันเป็นการพบกันที่น่าอภิรมย์ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ทำให้เห็นว่า เพื่อนผู้นี้ มีดีมากกว่าที่คิด และมีดีมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่มรู้จัก แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยิ่งเปล่งประกายเมื่อได้รับการขัดด้วยกาลเวลา ก่อนจากกัน เราให้สัญญานัดแนะอย่างเป็นมั่นเหมาะ ว่าจะพบกันเพื่อพูดคุยอีกครั้ง ในวันที่ 10 เมษายน ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจนี้  แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็อดใจแทบไม่ไหว ที่จะได้เปิดวงสนทนากับเพื่อนผู้นี้กันให้อย่างเต็มอิ่มชุ่มปอด สวมกอดด้วยมิตรภาพที่มีให้มาอย่างยาวนานนับแรมปี และมันคงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ย้อนระลึกถึงความเป็นเด็กวัย 12 อีกครั้ง ในวันที่ได้พบเจอกัน เพราะช่วงเวลาที่แสนสุข และยอดเยี่ยม มันไม่เคยเกี่ยง ว่าจะกลับมาในรูปโฉมไหน หรือออกมาในรูปแบบใด แล้วคุณล่ะ มีเพื่อนแบบนี้อยู่ในความทรงจำบ้างหรือเปล่า?

สวัสดีมิตรรักแฟน Final Fantasy ทุกท่าน ตอนนี้หลายคนก็น่าจะได้สัมผัสกับ Demo ของเกม Final Fantasy VII Remake ที่รอคอยกันไปแล้ว แต่ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวเกมกันแบบเต็ม ๆ ในวันที่ 10 เมษายนนี้ เชื่อว่าหลายคนก็ยังต้องปรับตัวกับรูปแบบการเล่น ที่เปลี่ยนจากการเล่นแบบ Turn Base มาเป็นแบบ Action ในภาคนี้แทน เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเล่นเพื่อให้ทุกคนสามารถฝึกฝนและสนุกกับเกมได้มากขึ้น โดยเริ่มจากเรียนรู้วิธีการเล่น Cloud Strife พระเอกหัวโจโคโบะสุดหล่อของเรา ที่จะได้บังคับเป็นตัวหลักตลอดทั้งเกมกันครับ ว่าแล้วก็ลองไปดูวิธีการเล่นของพี่คลาวด์กันเลย! < การควบคุมพื้นฐาน > สี่เหลี่ยม - ท่าโจมตีพื้นฐาน สามเหลี่ยม - เปลี่ยนรูปแบบ Mode การโจมตี วงกลม - เปิด Command Menu กากบาท - กลิ้งหลบ R1 - ป้องกัน / เคาเตอร์ R3 - ล็อคเป้าหมาย L1 + ปุ่มอะไรก็ได้ - Command Shortcuts ท่าโจมตีที่ตั้งไว้ Touchpad - ตรวจดูสถานะของศัตรู < เทคนิคและสิ่งที่ควรรู้ในการเล่น Cloud Strife > 1. รู้จัก Style การเล่นทั้ง 2 แบบ ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ควรเรียนรู้นอกจากการรัวปุ่มโจมตีพื้นฐาน คือการรู้จักวิธีการเล่นของคลาวด์ที่มี Style ต่างกันให้เป็นซะก่อน โดยปกติแล้วคลาวด์จะอยู่ในโหมด “Operator Mode” ซึ่งในโหมดนี้ คลาวด์จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้อย่างรวดเร็ว แต่มีพลังการโจมตีที่ค่อนข้างต่ำ สามารถป้องกันการโจมตีได้ด้วยการกดปุ่ม R1 และสามารถกระโดดโจมตีศัตรูที่บินอยู่ได้ (แต่ไม่สามารถโจมตีศัตรูประเภทป้อมปืนที่อยู่สูงกว่าได้) จาก Operator Mode เมื่อกดปุ่มสามเหลี่ยมแล้ว คลาวด์จะเปลี่ยนเป็น “Punisher Mode” ในโหมดนี้คลาวด์จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้ช้า แต่มีพลังโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วงเป็นวงกว้าง และช่วยเพิ่มเกจ ATB ได้เป็นอย่างดี ทว่าในโหมดนี้คลาวด์จะไม่สามารถโจมตีศัตรูที่บินอยู่ได้ หากแต่มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ท่าเคาเตอร์การโจมตี โดยเมื่อเรากดปุ่ม R1 ค้างเอาไว้ หรือเปลี่ยนโหมดในจังหวะที่ศัตรูกำลังจะโจมตีมาถึงตัว คลาวด์ก็จะโจมตีกลับไปเพื่อทำคอมโบต่อได้ในทันที ซึ่งการเคาเตอร์นี้จะใช้ได้กับท่าโจมตีทางกายภาพ ไม่สามารถใช้กับท่าที่เป็นธาตุหรือเวทมนตร์ได้ แต่หากใช้ให้ดีใช้ให้เป็น ก็จะมีประโยชน์ในการพลิกเกมกลับได้มากทีเดียว 2. วิธีการต่อท่าปิดคอมโบ จาก Style การเล่นทั้ง 2 โหมดข้างต้น ในการโจมตีนั้นคลาวด์สามารถใช้ท่า “ปิดคอมโบ” เพื่อ “ต่อคอมโบ” ได้ด้วย โดยในระหว่างที่กำลังใช้ท่าโจมตีพื้นฐาน สามารถกดปุ่มสี่เหลี่ยมค้างเอาไว้ในจังหวะสุดท้ายหรือตอนไหนก็ได้ ซึ่งหากกดใน “Operator Mode” คลาวด์จะหมุนตัวโจมตีเป็นวงกว้าง ส่วนใน  “Punisher Mode” จะเป็นท่าแทงดาบลงพื้นที่มีระยะการโจมตีสั้นแต่รุนแรง และเมื่อกดปุ่มสามเหลี่ยมหลังจากที่ใช้ท่าปิดคอมโบ คลาวด์ก็จะสามารถโจมตีเป็นคอมโบต่อด้วยอีกโหมดหนึ่งได้ทันที การทำคอมโบแบบนี้นี้ให้ได้นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากโดยเฉพาะการต่อสู้กับบอส เพราะหากสามารถทำคอมโบต่อเนื่องได้จนจบครบชุดทั้งสองโหมด ก็จะมีโอกาสทำให้ศัตรูล้มลงและเพิ่มโอกาสโจมตีต่อได้อีกมากเลย 3. โจมตีด้วยสกิลอย่างมีประสิทธิภาพ คลาวด์เป็นตัวละครที่ทำให้ศัตรูล้มลงได้ง่าย ไม่ว่าจะจากการใช้คอมโบต่อเนื่องหรือการใช้สกิลที่มี โดยในเบื้องต้นนั้นคลาวด์จะมี Abilities อยู่ 2 ท่า คือ “Braver” และ “Focused Trust” โดย Braver จะเป็นท่ากระโดดฟันที่หนักหน่วง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อศัตรูล้มลง จะสามารถสร้างความเสียหายได้เป็นเท่าตัว ส่วน “Focused Trust” จะเป็นท่าพุ่งแทง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อศัตรูขึ้นสถานะ “Pressured” จะทำให้เกจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้ศัตรูติดสถานะ “Staggered” ล้มลงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ “Spells” หรือเวทมนตร์ในการโจมตี ซึ่งสามารถใช้หยุดการโจมตีของศัตรูประเภทเครื่องจักร หรือใช้เป็นท่าโจมตีศัตรูที่อยู่ในระยะไกลได้ด้วย อีกทั้งท่าไม้ตาย Limit Break ก็ยังมีพลังโจมตีหลายเท่าตัวมากขึ้นในตอนที่ศัตรูอยู่ในสถานะ “Staggered” ด้วย โดยในตัวเกมเต็มนั้นคลาวด์จะมีท่าโจมตีอื่นๆ ที่สามารถปลดล็อคได้ในระหว่างการเล่นอีกมากมาย จึงทำให้สามารถผสมผสานกันเล่นได้มากขึ้นด้วย 4. การใช้ Command Shortcuts ให้คล่องแคล่ว ในขณะที่รูปแบบของเกมได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ Action แต่ก็ยังมีการผสมผสานความเป็น RPG และใช้ Tactics ในการเล่น ด้วยการเลือกคำสั่งสกิลสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเกม Action อยู่ด้วย แต่สำหรับผู้ที่อยากเล่นแบบระดับเซียนจริงๆ ก็สามารถตั้งค่าปุ่มสกิลโจมตีได้ที่เมนู Battle Setting และฝึกการใช้ปุ่มลัดต่อเนื่องกับท่าคอมโบต่างๆ ก็จะทำให้เล่นแบบต่อเนื่อง และสนุกกับการดจมตีได้โดยไม่มีสะดุดเลย 5. เรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม ลักษณะการเล่นของคลาวด์นั้นจะใช้ดาบในการโจมตี ซึ่งมีระยะการโจมตีอยู่ที่ระดับกลาง แต่มีความคล่องแคล่วและการเข้าถึงตัวศัตรูได้อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งถ้าหากกด Locked On เป้าหมายไว้ด้วยปุ่ม R3 ต่อให้อยู่ในระยะที่ห่างจากศัตรูพอสมควร คลาวด์ก็จะสามารถพุ่งเข้าไปโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะใช้ท่าโจมตีด้วยดาบแล้ว ก็ยังใช้เวทมนตร์เป็นการปิดคอมโบต่อในกรณีที่ศัตรูอยู่ห่างออกไปได้ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วถือว่าคลาวด์เป็นตัวละครที่สามารถผสมผสานการโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลายในการทำคอมโบตามแต่ลักษณะการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนต่างกันไป เป็นอย่างไรกันบ้างกับเทคนิคการเล่นของ Cloud Strife พระเอกขวัญใจของ Final Fantasy VII หวังว่าทุกท่านจะได้เรียนรู้เข้าถึงวิธีการเล่นของคลาวด์มากขึ้น และฝึกฝนการเล่นให้คล่องแคล่วเพื่อที่จะได้สมกับฐานะ Soldier 1st Class กันจริงๆ แต่นอกจากคลาวด์แล้วก็ยังมีตัวละครอื่นๆอย่าง Barret, Tifa, Aerith ซึ่งมีความสนุกและรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันไปอีก ไว้โอกาสหน้าเราจะมาแนะนำวิธีการเล่นแบบเจาะลึกกันให้ครบทุกคนไปเลยครับ!

ต้องยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจริง ๆ กับเกม Resident Evil 3 Remake ซึ่งนี้ก็นับได้ 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่ตัวเกม Original วางจำหน่ายครั้งแรก โดยจากที่ได้เห็นจากวิดีโอเกมเพลย์ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ก็ทำให้รู้เลยว่า 20 ปีที่ผ่านมา กราฟิกในเกมมันสวยงามขึ้นมากขนาดไหน และวันนี้เพื่อที่จะได้เห็นความแตกต่างนั้นอย่างชัดเจนทาง Playstation จึงได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตัวเกม Original และ Remake ครับ! ในวิดีโอที่ปล่อยออกมานั้นมีความย่าวประมาณ 16 นาที ซึ่งอย่างแรกเลยที่เราจะรู้สึกแตกต่างกันเป็นอย่างมากก็คือ กราฟิกของเกมที่สวยงามสมจริงมากขึ้น และเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องโหลดฉากทุกครั้งที่วิ่งผ่านจุด ๆ หนึ่งอีกแล้ว ทั้ง 2 อย่างทำให้การเล่นดูมีความลื่นไหล และต่อเนื่องมากขึ้นซึ่งช่วยสร้างอรรถรสที่มากกว่าได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายด้วยความน่ากลัวของ Nemesis กับความหล่อของ Carlos ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างชัดเจนครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil 3 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในอีกไม่ถึง 1 เดือนนี้แล้ว ซึ่งนี่ก็นับเป็นภาค 2 ของซีรีส์แล้วที่ได้ทำเป็นเวอร์ชั่น Remake โดยเนื้อเรื่องในภาคนี้จะเป็นเหตุการที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับ Resident Evil 2 Remake ซึ่งในภาคก่อนเราได้เห็น Tyrant สุดหฤโหดกันไปแล้ว แต่ภาคนี้เราจะได้เจอกับตัวที่น่ากลัวยิ่งกว่าอย่าง Nemesis แทน ยิ่งกว่านั้นในตอนแรกก็มีข่าวออกมาว่า Nemesis จะสามารถตามผู้เล่นเข้าไปในห้อง Safe Room ได้อีก ข่าวนี้ทำเอาเหล่าเกมเมอร์ขวัญผวาไปตาม ๆ กัน แต่นั้นเหมือนจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ Capcom ได้ออกมายืนยันว่า "ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง Nemesis ไม่สามารถตามผู้เล่นเข้าไปในห้อง Safe Room ได้! ส่วนที่ได้เห็นใน Official Xbox Magazine ว่า Nemesis สามารถเข้ามาโจมตี Jill ได้ในห้องที่มีจุดเซฟอยู่ เป็นเพราะว่าในภาคนี้จะมีจุดเซฟบางจุดที่ไม่ได้อยู่ในห้อง Safe Room ด้วย" หรือก็คือในนิตยสาร Jill นั้นอยู่ในห้องที่ไม่ใช้ Safe Room แต่เป็นห้องที่มีจุดเซฟอยู่ ทำให้ Nemesis สามารถเข้าห้องมาโจมตีได้นั้นเอง ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ ถ้าห้องที่เราเข้าไปคือ Safe Room จริง ๆ Nemesis จะไม่สามารถทำอะไรเราได้แน่นอน Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 บนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ หรือก็คืออีก 1 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้มันทำให้เราได้รู้ว่าเนื้อเรื่องของ FF7 Remake นั้นจะเป็นเนื้อเรื่องแค่ภายใน Midgar เท่านั้น โดยถ้าพูดจริง ๆ เนื้อเรื่องใน Midgar นั้นมันมันใช้เวลาเล่นเพียงแค่ 1-3 ชั่วโมงในตัวเกม Original เท่านั้น ทำให้เกิดคำถามว่า "เกมนี้จะมี Side Quest ให้ทำมากมายเลยรึเปล่า?" วันนี้คำถามนั้นก็ได้รับคำตอบแล้วครับ! เว็บไซต์ IGN ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์กับคุณ Tetsuya Nomura ที่เป็น Director ของเกมโดยเขาได้บอกว่า "Sub-Quests ของเกม FF7 Remake จะมีคุณภาพเทียบเท่า Main Quest ของเกมเลย จริง ๆ แล้วพวกเรามีไอเดียมากมายที่อยากเอามาทำเป็นคอนเทนต์ในเกม แต่มันไม่สามารถเอามาใส่ทั้งหมดได้ เพราะยังไงก็ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของงานด้วย" ทาง IGN จึงถามคุณ Nomura ว่า "แปลว่า Side Quest ของเกมจะมีคุณภาพดีมาก ๆ เลยใช้รึเปล่า" คุณ Nomura ก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "ใช้" อย่างที่รู้กันว่า FF7 นั้นเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องยาวมาก ๆ และก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมาว่า FF7 Remake นั้นจะมีเนื้อเรื่องที่ไม่มีในตัวเกม Original ด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเนื้อเรื่องนั้นถูกเพิ่มมาเยอะขนาดไหน ถึงทำให้เนื้อเรื่องใน Midgar อย่างเดียวกลายเป็นเกมเต็ม ๆ ได้ถึง 1 เกม คงต้องไปรอดูตอนเกมออกแล้วหละครับ Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

การกลับมาของเกมของเกม Horror ในตำนานอย่าง Resident Evil 3 Remake กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้ เพราะอีกไม่ถึง 1 เดือน ตัวเกมก็จะถูกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว ล่าสุดก็มีการเปิดเผยเกมเพลย์กว่า 5 นาทีออกมาทาง PlayStation Access และยังมีการประกาศว่าจะมีไลฟ์สตรีมสดโชว์เกมเพลย์ในคืนที่ผ่านมาอีกด้วย และการไลฟ์สตรีมดังกล่าว ก็เป็นการโชว์เกมเพลย์ของ RE3 Remake ถึง 13 นาทีครับ! ไลฟ์สตรีมที่ถูกถ่ายทอดสดเมื่อคืนนั้น จริง ๆ มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง แต่เนื่องด้วยเป็นรายการของ Capcom ไม่ใช้ของ RE โดยตรง ทำให้ในครึ่งหลังเป็นการโชว์เกมเพลย์ของ Megaman และ  คอนเทนต์ใหม่ ๆ ใน Monster Hunter World แทน แต่ยังไงเกมเพลย์ของ RE3 Remake ที่ถูกปล่อยออกมานั้นก็มีความยาวถึง 13 นาที และยังช่วยทำให้เราเห็น Footage ของเกมมาขึ้นอีกนิดด้วย  สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นเรื่องปกติสำหรับเกมฟอร์มยักษ์ ที่มักจะมีสินค้าเกี่ยวกับเกมนั้น ๆ ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับเกมด้วย แน่นอนว่าสุดยอดการกลับมาของ เกม RPG ในตำนานอย่าง Final Fantasy VII Remake ก็เช่นกัน อย่างก่อนหน้านี้ Square Enix ก็ได้มีการวางขายนาฬิกาข้อมือ , กระเป๋าต่าง ๆ , รวมไปจนถึงสร้อนคอไปแล้ว และวันนี้ก็ยังมีการเปิดตัว Top Cover ของเครื่อง PS4 และ Wearable Speaker ที่เป็น Final Fantasy VII Remake Edition ด้วยครับ! หน้าเว็บไซต์ Japanese Sony Store ได้มีการวางขายสินค้าเกี่ยวกับ Final Fantasy VII Remake อีก 2 อย่าง คือ 1. Top Cover ของเครื่อง PS4 ในราคา 4,000 เยน (Top Cover นี้สามารถใช้ได้กับ PS4 เครื่อง Standard เท่านั้น) และ 2. Wearable Speaker ในราคา 29,800 เยน ที่จะมาพร้อมกับกล่องที่มีลวดลายของ Final Fantasy VII Remake อย่างชัดเจน ถ้าหากใครสนใจก็เข้าไปช้อปกันได้เลยครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น   Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Resident Evil 3 Remake เป็นอีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์ที่หลาย ๆ คน กำลังรอคอยที่จะได้สัมผัสอยู่ในตอนนี้ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีการปล่อย วิดีโอโชว์เกมเพลย์กว่า 5 นาทีของเกมออกมาโดย PlayStation Access ซึ่งก็พอจะทำให้เราเห็นเกมเพลย์ของภาคนี้ไปพอสมควรแล้วว่าจะเป็นแบบไหน แต่ถ้าใครที่ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มละก็ ดูเหมือนว่าคืนนี้เวลา 2.00 AM จะมีไลฟ์สตรีมสดโชว์เกมเพลย์ด้วยครับ! Twitter ของ Resident Evil ได้โพสต์ข้อความว่า "ในวันพุธนี้ เวลา 7PM GMT จะมีการไลฟ์สตรีมสดโชว์เกมเพลย์ของ Resident Evil 3 Remake" ถ้าเอาเวลาดังกล่าวมาแปลงเป็นเวลาบ้านเราแล้วจะเท่ากับ 2.00 AM วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2020 หรือก็คือ คืนนี้เวลาตี 2 นั้นเอง! เว็บไซต์ Siliconera ยังกล่าวอีกด้วยว่าการสตรีมสดครั้งนี้จะมีความยาวมากกว่า 1 ชั่วโมงเต็ม งานนี้รับรองว่าได้เห็นเกมเพลย์แบบเต็มอิ่มแน่นอนครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC https://twitter.com/RE_Games/status/1234871708110270464 Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกประมาณ 1 เดือนพวกเราทุกคนก็จะได้สัมผัสกับเกม Final Fantasy 7 Remake สุดยอดเกม RPG ระดับตำนานที่กลับมาให้เล่นอีกครั้งบนเครื่อง PS4 พร้อมภาพกราฟิกที่สวยงามกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และตอนนี้ตัวเกมก็พัฒนาเสร็จ แถมปล่อยตัว Demo ของเกมให้ทดลองเล่นได้ฟรีบน PS Store แล้วด้วย แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่มีเครื่อง PS4 หรือยังไม่มีโอกาสสัมผัสกับเกมนี้เลย วันนี้ก็มีวิดีโอใหม่ถูกปล่อยออกมาถึง 4 ตัว ที่จะทำให้รู้ว่าเกมเพลย์จริง ๆ ของเกมนี้จะเป็นยังไงครับ ในวิดีโอตัวแรกจะเป็นเกมเพลย์ของ Cloud กับ Barret ซึ่งเท่าที่ดู เหมือนว่า Barret จะไม่มีท่าโจมตีระยะประชิดครับ ต่อมาในวิดีโอที่สองจะเป็นการโชว์ภายในเมือง Midgar ที่เหมือนจะโดนทำลายจากอะไรบางอย่าง ส่วนวิดีโอที่สามจะเป็นเกมเพลย์ฉากที่เหมือนโรงงานผลิตหุ่นยนต์ โดยในวิดีโอตัวนี้จะมีเกมเพลย์ของ Tifa ให้ชมด้วย ปิดท้ายด้วยวิดีโอที่เหมือนจะเป็นการสู้กับบอส ในวิดีโอตัวนี้จะได้เห็นเกมเพลย์ของ Aerith และการเรียกใช้มนต์อสูร Ifrit ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 เกม RPG ระดับตำนานกลับมาอีกครั้งบนเครื่อง PS4 ในชื่อ Final Fantasy 7 Remake ซึ่งผู้พัฒนาก็ได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเป็นแบบ Action RPG ด้วย ล่าสุดก็เพิ่งจะมีการปล่อย Demo ของตัวเกมออกมาให้เล่นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2020 และล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าตัวเกม Final Fantasy 7 Remake นั้นได้อยู่ในสถานะ Gone Gold หรือพัฒนาเสร็จเตรียมพร้อมผลิตแล้วนั้นเอง! ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจาก Director คุณ Tetsuya Nomura ที่ได้ออกมายืนยันผ่านทางบทสัมภาษณ์ที่เปิดเผยผ่านทาง 4Gamer ว่า "ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมออกไปอีก" แปลว่าในอีก 1 เดือน เราจะได้สัมผัสเกมนี้แบบ เต็มอิ่มอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์แทบทุกคนอยากจะเข้าไปสัมผัสอย่างแน่นอน และในช่วงที่เกมใกล้จะวางจำหน่ายแล้วแบบนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะมีการปล่อย Demo ของตัวเกมให้โหลดมาทดลองเล่นแล้วตอนนี้ครับ แถมตัว Demo ที่ว่านี้ก็ไม่ใช้เวอร์ชั่นที่มีแค่ภาษาญี่ปุ่น แต่เป็นเวอร์ชั่นทีมีภาษาอังกฤษในเกมด้วย งานนี้กลับบ้านไปอย่าลืมไปกดโหลดกันด้วยครับ! เว็บไซต์ Play Station Store ได้ทำการเปิดหน้า Final Fantasy 7 Remake Demo (English/Japanese Ver.) แล้วในวันที่ 2 มีนาคม 2020 ซึ่งในตัว Demo ที่ปล่อยให้เล่นนี้ดูเหมือนจะมีความยาวของเนื้อเรื่องถึง 1 Chapter เลยด้วย และถ้าหากได้ทำการดาวโหลดเกมเวอร์ชั่น Demo ในวันนี้ หลังจากวันที่ 10 เมษายน 2020 จะสามารถดาวโหลด Exclusive Theme สำหรับเครื่อง PS4 ได้ด้วย งานนี้แฟนพันธุ์แท้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นหนึ่งในเกม RPG ฟอร์มยักษ์ที่หลายคนรอคอยมานานกว่า 4 ปี ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ตัวเกมต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก 1 เดือน โดยการเลื่อนวันวางจำหน่ายครั้งนี้ก็ส่งผลให้ช่วงเวลาที่ตัวเกมจะ Exclusive บนเครื่อง PS4 มันยาวนานขึ้นตามไปด้วย แต่ดูเหมือนว่าการที่ FF7 Remake ดีเลย์ไป 1 เดือนนั้น มันไม่ได้ส่งผลให้ Part 2 ของตัวเกมดีเลย์ตามไปด้วยครับ! อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเนื้อเรื่องเต็ม ๆ ของเกม Final Fantasy 7 มันยาวมาก ๆ ในช่วงที่เกมออกครั้งแรกในปี 1997 ก็ต้องใช้ซีดีถึง 3 แผ่นในการเล่นเลยทีเดียว ส่งผลให้ในตัวเกม Final Fantasy 7 Remake ที่กำลังจะวางจำหน่ายนี้ เนื้อเรื่องของเกมจะสิ้นสุดลงที่จบเหตุการในเมือง Midgar เท่านั้น แน่นอนว่า Square Enix คงไม่ทำเกม Remake ออกมาแค่ 1 ใน 3 ของเนื้อเรื่องเต็มอยู่แล้ว จะต้องมีการออก FF7 Remake Part 2 และ 3 ตามมาด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งในระหว่างช่วง Q&A ของนักลงทุน มีคนถามคุณ Yosuke Matsuda ประธานบริษัท Square Enix ว่า "การที่ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake ต้องดีเลย์ในการวางจำหน่าย จะส่งผลให้ Part 2 ของตัวเกมมาช้าตามไปด้วยรึเปล่า" ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "ไม่เลย" น่าเสียดายที่ตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับ Part 2 ของตัวเกมออกมาเลย แต่คิดว่าคงจะมีการประกาศหลังจากตัวเกม Part 1 วางจำหน่ายได้ไม่นานอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากได้อ่านรีวิวของทาง PlayStation Team และดูวิดีโอตัวใหม่จากทาง PlayStation Access ไปแล้ว ก็คงจะทำให้แฟน ๆ ของเกม Residnet Evil 3 Remake รู้สึกตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน เรียกได้ว่ารอการมาของตัวเกมแถบจะไม่ไหวแล้ว ล่าสุดทาง Capcom ก็มีการประกาศออกมาผ่านทาง Official Twitter แล้วว่า "ตัว Demo ของเกม Resident Evil 3 Remake จะถูกปล่อยออกมาให้ทดลองเล่นอย่างแน่นอนเร็ว ๆ นี้!" ด้วยความที่ก่อนหน้านี้เองก็มี Screenshot ชุดใหญ่ของตัวเกมถูกปล่อยออกมา ไหนจะวิดีโอเกมเพลย์จากทาง PlayStation Access อีก จริง ๆ ก็พอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าน่าจะมีการปล่อย Demo ออกมาให้ทดลองเล่นเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน และคิดว่า Demo ที่เราจะได้ทดลองเล่นน่าจะเป็น Demo ตัวเดียวกับที่ PlayStation Team ได้ไปทดลองเล่นมา นั่นจึงหมายความว่า Demo ของเกมน่าจะทำเสร็จแล้ว เหลือแค่ระบุวันที่จะปล่อยให้ทดลองเล่นเท่านั้น และบอสตัวสุดท้ายของเวอร์ชั่น Demo นี้ ก็น่าจะเป็น Nemesis ที่ถือปืนไฟเช่นกันครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC https://twitter.com/RE_Games/status/1232334712275861508?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1232334712275861508&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Fresident-evil-3-demo-is-on-the-way-capcom-confirms Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกประมาณ 1 เดือน เราก็จะได้สัมผัสกับเกม Resident Evil 3 Remake แล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่านี้คือหนึ่งในเกมที่เหล่าเกมเมอร์ตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุดในปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นานก็มีภาพ Screenshot ชุดใหญ่ของเกมหลุดออกมา เล่นเอาอยากรู้เลยว่าเกมเพลย์จริง ๆ จะเป็นยังไง? ไม่นานเกินรอครับ เพราะล่าสุด PlayStation Access เพิ่งจะได้ทำการปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์เกมเพลย์ของ Resident Evil 3 Remake ออกมา! พูดได้คำเดียวว่า Nemesis น่ากลัวมาก ๆ ภายในวิดีโออัดแน่นไปด้วยเกมเพลย์ Footage กว่า 4 นาทีเต็ม ซึ่งนอกจาก Footage แล้วยังมีการพูดถึง 5 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเกม Resident Evil ภาคนี้ด้วย โดยเรื่องแรกจะเป็นการบรรยายความโหด ดิบ เถื่อน ของ Nemesis ในภาคนี้ ต่อด้วยซอมบีอื่น ๆ ที่เราจะได้เห็นในภาคนี้ และปิดท้ายด้วยแมคคานิคอีกเล็กในการเล่น ขอออกตัวก่อนเลยว่าภาคนี้ดูจะบู๊หนักหว่า Resident Evil 2 Remake อยู่มากจริง ๆ รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลย Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ บน PS4 , Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ถ้าพูดถึงเกมที่เหล่าเกมเมอร์ต่างเฝ้ารอจะได้เล่นในช่วงนี้ เชื่อว่าคำตอยของหลายๆ คนคงหนีไม่พ้นเกม Resident Evil 3 Remake ที่เตรียมจะคืนชีพอีกครั้งในวันที่ 3 เมษายนนี้ ล่าสุด ดูเหมือนว่าจะมีภาพสกรีนช๊อตและคอนเซปอาร์ตจากเกมหลุดออกมาให้ชมกันชุดใหญ่ เมื่อผู้ใช้เว็บบอร์ด ResetEra ได้ทำการโพสต์ชุดภาพจากเกม ที่มีลายน้ำของเว็บข่าวเกมสัญชาติฝรั่งเศษ GamerGen อยู่ด้วย โดยนอกจากจะแสดงให้เห็นฉากเกมเพลย์เพิ่มเติมแล้ว ยังมีการเปิดเผยหน้าตาของศัตรูผู้ติดเชื้อที่เราจะได้พบในเกมอีกด้วย [gallery ids="43513,43514,43515,43516,43517,43518,43519,43520,43521,43522,43523,43524,43525,43526,43527,43528,43529,43530,43531,43532,43533,43534,43535"] สำหรับเหล่าศัตรูที่ได้เห็นแน่นอนว่าจะขาด Nemesis ไปไม่ได้แน่ๆ โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปหลักๆ น่าจะเป็นชุดที่มันใส่ จากที่เป็นเสื้อคลุมยาวสีดำ กลายเป็นชุดที่ดูจะสร้างขึ้นจากเศษผ้าที่พันรวมกันซะมากกว่า สื่อให้เห็นถึงความป่าเถื่อนของ Nemesis ได้ดีกว่าเดิม และยังมีศัตรูที่ดูเหมือนจะเป็นบอส Grave Digger และ Brain Sucker จากภาคดั้งเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีภาพสกรีนช๊อตจากเกม Spin-off ที่จะวางจำหน่ายพร้อมกันอย่าง Resident Evil Resistance อีกด้วย [gallery ids="43544,43545,43546,43547,43548,43549,43550,43551,43552"] Resident Evil 3 Remake และ Resident Evil Resistance จะวางจำหน่ายสำหรับ PS4, Xbox One, PC ในวันที่ 3 เมษายนนี้ Credit: ResetEra ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Final Fantasy 7 Remake กลายเป็นหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ และรอที่จะได้สัมผัสจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นวิดีโอเกมเพลย์ของภาคนี้ไปแล้วมากมาย แน่นอนว่าหนึ่งในระบบที่แฟน ๆ ชอบมากของเกมในซีรีส์นี้ก็คือระบบ "มนต์อสูร" วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อยวิดีโอโชว์การเรียกใช้ 3 มนต์อสูรสุดน่ารัก Chocobo Chick, Carbuncle และ Cactuar ออกมาด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! วิดีโอการเรียกใช้มนต์อสูรแต่ละตัวถูกปล่อยออกมาแบบแยกกัน ซึ่ง Chocobo Chick นั้นจะใช้ท่าโจมตีเป็นการร่ายเวทมนต์ธาตุต่าง ๆ , ส่วน Carbuncle จะเป็นมนต์อสูรสายซับ ใช้สกิลบัฟต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ Cactuar จะโจมตีด้วยการยิงเข็มใส่ศัตรู และมีท่าไม้ต้ายสุดยอดเป็นการสลัดเข็มวงกว้าง มนต์อสูรทั้ง 3 ตัว จะแถมมากับตัวเกมสำหรับคนที่ Pre-Order ทุกคน ถ้าหากใครอยากได้มนต์อสูรสุดน่ารักทั้ง 3 ตัว ก็อย่าลืม Pre-Order กันด้วยนะครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1230069657324879872?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1230069657324879872&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-chocobo-chick-carbuncle-and-cactuar-revealed-in-new-gameplay-clips https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1230069823918497792?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1230069823918497792&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-chocobo-chick-carbuncle-and-cactuar-revealed-in-new-gameplay-clips Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คงเป็นอีกหนึ่งเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยกันอยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนแล้ว ก่อนที่ตัวเกมจะวางจำหน่าย ในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ก็ได้รับการอัพเกรดกราฟิกให้สวยขึ้นเป็นอย่างมาก จนทำเอาหลาย ๆ คนสงสัยว่า "แล้วตัวเกมมันจะใช่พื้นที่เท่าไหร่ในเครื่อง?" วันนี้ก็มีการเปิดเผยแล้วว่าตัวเกมจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 GB บนเครื่อง PS4 ครับ! เว็บไซต์ Pushsquare ได้รายงานว่า บริเวณปกด้านหลังของกล่องเกมเวอร์ชั่นเกาหลี มีข้อความที่เขียนว่าตัวเกมจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 GB ซึ่ง Pushsquare ไม่ได้บอกว่า 100 GB ในที่นี้ รวมตัวติดตั้งเข้าไปด้วยรึเปล่า แต่คิดว่าน่าจะไม่ได้รวมครับ เพราะจาก Opening ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้เรารู้ว่าตัวเกมจะมี Cinematic ที่สวยมาก ๆ ผู้เขียนจึงคิดว่าไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ตัวเกมจะมีขนาดถึง 100 GB ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ Credit : Pushsquare ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หากใครเคยเล่นเกมตระกูล Resident Evil มาย่อมจะรู้ว่าเกม Resident Evil จะขนาด 2 อย่างไม่ได้คือเชื้อไวรัสและ Rocket Launcher ที่ต้องมีในเกือบทุก ๆ ภาคจนขาดไม่ได้ในเกม Resident Evil ทำไมของสิ่งนี้ถึงขาดไม่ได้ละ เรา GameFever TH จะพามาหาคำตอบกัน มีมาตั้งแต่ภาคแรก [caption id="attachment_42700" align="aligncenter" width="1024"] รูปภาพจาก YouTube ช่องKeyranSolo[/caption] Rocket Launcher มีมาตั้งแต่เกม Resident Evil ภาคแรกในปี 1996 โดยเป็นอาวุธในการอาวุธพิฆาต Tyrant บอสตัวสุดท้ายของเกม จากนั้นในเกมภาคที่ 2 Rocket Launcher ก็นำมาใช้ในการปราบ Mr. X ทำให้ปืนนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเกม Resident Evil เรี่อยมา น่าเสียดายในเกม Resident Evil 2 ฉบับ Remake ผู้พัฒนาเกมดันเปลี่ยนชื่อเป็นปืน Anti-Tank Rocket แทน ส่วนอีกกระบอกก็ใช้ชื่อว่า ATM-4 (ได้จากจบ Leon แบบ Hardcore ในแรงก์ S+) อนุภาครุนแรง [caption id="attachment_42701" align="aligncenter" width="720"] รูปจากเว็บไซต์ Naguide[/caption] ในเกม Resident Evil ปืน Rocket Launcher เป็นปืนที่ไม่สามารถหามาได้ง่าย ๆ แต่จะต้องใกล้ถึงช่วงจบเกมหรือเล่นเกมจบไปแล้วหนึ่งรอบถึงจะได้มา (ยกเว้นภาค 4 ที่หากมีเงินสามารถจะซื้อจากพ่อค้ามาได้เลยในราคา 30,000 Pts) โดยสิ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนจดจำได้คืออนุภาคที่รุนแรงชนิดที่ว่าเป่านัดเดียวบอสใหญ่ร่วง ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเหล่าซอมบี้ที่เราต้องเจอตลอดทั้งเกม โดนปืนนี้ไม่เหลือซากอย่างแน่นอน ยิ่งใครที่เล่นจนสามารถปลดล็อกปืนนี้ได้แบบกระสุนไม่จำกัด (Infinite) เกมนี้จะง่ายขึ้นทันที เท่ สำหรับเหตุผลนี้สั้น ๆ เลยคือ "เท่" เวลาที่เราเห็นตัวละครในเกม Resident Evil ถือปืนนี้ความเท่จะเพิ่มขึ้นอีก 200% ไม่ว่าจะเป็น Leon , Christ Redfield, Jill Valentine ต่างก็ดูเท่ขึ้นมาทันทีที่ถือ Rocket Launcher นอกจากบรรดาเหล่าตัวร้ายอย่าง Nemesis ต่างก็ดูน่าเกรงขามขึ้นและอันตรายขึ้นเวลาแบกปืนนี้ เป็นลายเซ็นของ Shinji Mikami [caption id="attachment_42705" align="aligncenter" width="1024"] รูปภาพจาก steamcommunity[/caption] Shinji Mikami ถือว่าเป็นหนึ่งในนักพัฒนาเกมชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น โดยเขาได้รับมอบหมายในการพัฒนาเกมหลาย ๆ เกมเช่น Resident Evil, Dino Crisis, The Evil Within เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในเอกลักษณ์ของเขาที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีกับการที่จะต้องมีตัวละครสักตัวถือปืน Rocket Launcher แม้กระทั่งในเกมล่าสุดอย่าง The Evil Within ที่เขารับตำแหน่ง Executive producer กับ supervisor นั้นยังมี Easter Egg เกี่ยวกับปืนนี้ แม้ว่าปัจจุบัน Shinji Mikami จะลาออกจาก Capcom ไปแล้วแต่ลายเซ็นที่เขาสร้างไว้จะคงอยู่กับ Resident Evil ไปอีกนาน จะเห็นได้ว่า Rocket Launcher เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของเกมตระกูล Resident Evil ที่หากขาดไปเหมือนกับอะไรบางอย่างได้หายไปจากเกม แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคิดว่าอะไรบ้างที่ขาดไม่ได้สำหรับเกม Resident Evil บอกกันมาได้เลย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับเกมที่หลายคนรอคอยอย่าง Final Fantasy 7 Remake จากค่ายเหลี่ยม Square Enix ที่มีกำหนดจะวางจำหน่ายในเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้านี้แล้ว ล่าสุด ทางผู้พัฒนาเกมก็ได้ปล่อยวีดีโอเปิด หรือ Opening Movie ของเกมออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดยแม้ว่าจะไม่ได้มีเกมเพลย์หรือรายละเอียดใหม่ๆ เท่าไหร่นัก เพราะฉากหลายฉากในวีดีโอ ได้เคยถูกใช้ไปแล้ว ในตัวอย่างเกมหลายๆ ตัวที่ผ่านมา แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นจะได้เห็นฉากเปิดนี้แบบเต็มๆ สำหรับช่วงต้นๆ ของวีดีโอ จะแสดงให้เราเห็นถึงส่วนต่างๆ ของดินแดน Midgar อันเป็นที่ตั้งของเกม รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้นด้วย ในขณะที่ครึ่งหลังของคลิป แทบจะเป็นการนำฉากเปิดเกมฉบับดั้งเดิมมาทำใหม่ทั้งหมด โดยยังคงเน้นไปที่ตัวละคร Aerith เหมือนเดิม และก็จบที่ฉาก Cloud เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ ซึ่งคนที่เคยเล่นภาคดั้งเดิมมา (หรือเคยได้เล่นเดโมเกม) น่าจะทราบดีว่าคือฉากแรกสุดของเกมนั่นเอง สำหรับแฟนๆ ที่อดใจรอให้ถึงวันวางจำหน่ายเกมวันที่ 10 เมษายนนี้ไม่ไหว ทางผู้พัฒนา Square Enix ได้เคยออกมายืนยันแล้วว่าเกม Final Fantasy 7 Remake จะมีเดโมให้ชาว PS4 ลองโหลดมาเล่นกันก่อนแน่นอน แต่จะมาเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอประกาศอีกทีจ้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

นับเป็นปีที่ดีสำหรับแฟน ๆ Resident Evil ที่จะได้สัมผัสกับเกมใหม่ในซีรีส์นี้ถึง 2 ภาคพร้อมกันในปีเดียว นั้นก็คือ Resident Evil 3 Remake และ Resident Evil Resistance ที่จะถูกแถมมาด้วย จนถึงตอนนี้เราก็รู้แค่เพียงว่าตัวเกม Resistance นั้นจะมีรูปแบบการเล่นคล้าย ๆ กับเกม Dead by Daylight ที่ Suvivor 4 คนต้องพยายามหาทางออก และหนีออกไปจากพื้นที่ให้ได้ โดยผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่น Survivor ตัวไหน เพราะแต่ละตัวก็จะมีความสามารถที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งดูเหมือนว่านอกจากจะมี Survivor ให้เลือกเล่นหลายตัวแล้ว ทางฝั่งคนที่เล่น Mastermind ก็มีตัวละครหลายตัวให้เลือกเล่นเช่นกันครับ! เว็บไซต์ PCGamer ได้รายงานว่าเราจะสามารถเลือกเล่น Mastermind เป็น Alex Wesker หรือ Ozwell E. Spencer ที่เป็นตัวร้ายหลักจากภาคก่อน ๆ ได้ด้วย โดยทั้ง 2 ตัวก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป อย่าง Alex จะสามารถเรียกปีศาจพืชยักษ์ออกมาโจมตีได้ ในขณะที่ Ozwell จะสามารถสร้าง Disintegration Fields เพื่อดูดเลือด Survivor ที่เดินผ่านได้ นอกจากนี้ยังมีการยืนยันว่า ตัวเกมจะมีด่าน Casino และ Abandoned Park ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย งานนี้อาจจะสนุกกว่าที่คิดก็ได้ครับ Resident Evil Resistance จะมาพร้อมกับ Resident Evil 3 Remake ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ทั้งบนเครื่อง PS4 , Xbox X และ PC Credit : PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

อีกไม่ถึง 2 เดือนแล้วที่เราจะได้สัมผัสกับ Final Fantasy 7 Remake ซึ่งจนถึงตอนนี้ Sqaure- Enix ก็ได้ปล่อยทั้งภาพ , Trailer รวมไปจนถึงวิดีโอเกมเพลย์ออกมามากมาย จนตอนนี้คิดว่าทุกคนคงเห็นภาพกันเป็นอย่างดีแล้วว่า เกมนี้จะออกมาแบบไหนกันแน่ แต่เหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้มันยังไม่ใช้ทั้งหมดครับ เพราะล่าสุดที่ Tokyo Skytree ก็ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ออกมาอีกแล้ว! Channel Youtuve ที่ใช้ชือว่า 冷凍みかん ได้อัพวิดีโอใหม่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายในวิดีโอจะเป็นการโชว์วิดีโอตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake บนกระจกของ Tokyo Skytree ถึงแม้จะมีภาพบางส่วนที่นำ Footage ของวิดีโอตัวเก่า ๆ มาใช้อยู่บ้าง แต่วิดีโอที่ปล่อยออกมานี้เป็นตัวใหม่อย่างแน่นอน นอกจากนี้บน Twitter ก็มีการแชร์ภาพ Artwork ของตัวละครต่าง ๆ อีกเพียบเลยด้วย รับชมทั้งวิดีโอ และภาพดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/kazuyuki_shindo/status/1226114131943555072?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1226114131943555072&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-gets-new-video-and-artwork-during-tokyo-exhibition https://twitter.com/kazuyuki_shindo/status/1226114029610921984?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1226114029610921984&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-gets-new-video-and-artwork-during-tokyo-exhibition https://twitter.com/Rain_LePoer/status/1225409462296399873?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1225409462296399873&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-gets-new-video-and-artwork-during-tokyo-exhibition https://twitter.com/hikaru888888888/status/1225380805519671298?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1225380805519671298&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-gets-new-video-and-artwork-during-tokyo-exhibition https://twitter.com/GOMAGOM77517795/status/1226431159782924288?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1226431159782924288&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-gets-new-video-and-artwork-during-tokyo-exhibition https://twitter.com/GOMAGOM77517795/status/1226807146169290757?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1226807146169290757&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-gets-new-video-and-artwork-during-tokyo-exhibition Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นเรื่องนาเสียดายที่สุดท้ายเกม Final Fantasy 7 Remake ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไป 1 เดือน แต่ถือว่ายังดีที่เลื่อนออกไปเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น เพราะเกมฟอร์มยักษ์อื่น ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 หรือ Marvels Avenger ต้องเลื่อนออกไปมากกว่า 3 เดือนเลยทีเดียว แต่เหมือนว่าจะไม่ใช้แค่วันวางจำหน่ายเกมอย่างเดียวที่ถูกเลื่อนออกไปครับ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า ช่วงเวลาที่ FF7 Remake จะ Exclusive บนเครื่อง PS4 นั้น ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 4 เมษายน 2021 เช่นกันครับ! แต่เดิมตัวเกมมีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 และจะ Exclusive บนเครื่อง PS4 ไปจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2021 หรือ 1 ปี แต่จากข่าวที่วันวางจำหน่ายเกมถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 10 เมษายน 2020 แทน ก็เลยทำให้ ช่วงเวลา Exclusive ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2021 ด้วยเช่นกัน งานนี้ใครที่อยากเล่นบนเครื่อง PC ก็คงต้องรอกันไปยาว ๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil ถือว่าเป็นหนึ่งในแฟรนไชน์เกมที่มีอายุยาวนานเกือบ ๆ 25 ปีแล้ว มีเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ทำให้เกมเมอร์อายุ 25+ หลาย ๆ คนต่างคิดถึง โดยเฉพาะ Quotes หรือคำพูดจากเหล่าตัวละครต่าง ๆ ที่ในทุกวันนี้ยังคงติดหูของใครหลาย ๆ คนและนี่ถือ คำพูดที่น่าจดจำประจำเกม Resident Evil 1.“STAAAAAARS…” Nemesis Resident Evil 3 Nemesis นับว่าเป็นหนึ่งในศัตรูสุดโหดประจำเกม Resident Evil 3 ที่แฟน ๆ น่าจะจดจำกันได้ดี โดยเอกลักษณ์นอกจากความโหดก็คือประโยคที่ออกจากปากของอสุรกายตัวนี้เพียงคำเดียวคือ "“STAAAAAARS…” อันเป็นเป้าหมายสูงสุดที่มันต้องการจะกำจัด ทำให้คำพูดนี้กลายเป็นคำพูดที่ใครหลาย ๆ คนต่างคิดถึง 2.“What Are You Buying?” พ่อค้า Resident Evil 4 Resident Evil 4 ถือว่าเป็นการปฎิวัติซีรีส์ Resident Evil ไปตลอดกาล ด้วยการเพิ่มมุมมองแบบข้ามหัวไหล่ Quick Time Event รวมถึงเพิ่มในส่วนของพ่อค้าเข้าในเกม ซึ่งประโยคคลาสิคที่หลาย ๆ คนต้องได้ยินเวลาซื้อของคือ “What Are You Buying?” และกลายเป็นประโยคขวัญใจของใครหลาย ๆ คน แต่เป็นที่น่าเสียที่พ่อค้าคนนี้มีตัวตนอยู่เฉพาะในเกมภาคที่ 4 เท่านั้น 3. "Welcome to the family son" Jack Baker Resident Evil 7 นอกจากเกม Resident Evil 4 ที่ได้เปลี่ยนแปลงแนวทางในการพัฒนาเกมของซีรีส์แล้ว หนึ่งในภาคที่ทาง Capcom ได้ลองเปลี่ยนแนวทางคือ Resident Evil 7 จากมุมกล้องแบบมองข้ามหัวไหล่สู่มุมกล้องแบบ FPS พร้อมกับเพิ่มความสยดสยองอย่างเต็มพิกัด และหนึ่งในประโยคที่ได้เป็นตำนานของเกมนี้คือ "Welcome to the family Son"  จากหนึ่งในตัวร้ายของเกมอย่าง Jack Baker ที่ทำเอาใครหลายคนต้องเหวอไปตาม ๆ กันและเป็นประโยคในการเปิดเข้าสู่ตัวเกมอย่างเป็นทางการ 4." Wow what A mansion" Albert Wesker Resident Evil 1 หากพูดถึงประโยคคลาสิคและน่าจดจำสำหรับใครหลาย ๆ คนอาจจะต้องย้อนไปไกลในสมัยภาคแรก ปี 1996 ณ จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดในคฤหาสน์ spencer เมื่อเราหนีจากฝูงหมาเข้ามาแล้วคฤหาส์นแล้ว Barry ก็อุทานว่านี่คือสถานที่อะไร แล้ว Wesker ก็ตีเนียนว่า "ว้าวนี่คือคฤหาสน์อะไรเนี่ย" ซึ่งบทพูดภาษาอังกฤษนี้กลายเป็นตำนานและเอกลักษณ์ของภาคนี้ แต่เป็นที่น่าเสียดายเมื่อ Capcom ทำการ Remaster เกม Resident Evil 1 คำพูดในตำนานนี้ก็ถูกเปลี่ยน 5."Take care you self Leon" ADA Wong :Resident Evil 2 Remake ปิดท้ายกันด้วยประโยคจากตัวเกมภาคล่าสุดบ้าง โดยหนึ่งประโยคที่น่าจะสะเทือนใจของใครหลาย ๆ คนคงหนีไม่พ้น ในช่วงฉากสุดท้ายที่ Ada และ Leon ต่างแย่ง G-Virus ระหว่างที่ Lab ของ Umbrella กำลังจะถล่มทั้งสองกำลังจะปรับความเข้าใจกัน Annette Birkin ก็หันมายิงปืนใส่ Ada ทำให้เธอร่วงลงไป ซึ่งประโยคสุดท้ายที่เธอได้กล่าวกับ Leon คือ "ดูแลตัวเองดี ๆ นะ Leon" หลังจากกล่าวเสร็จเธอก็ร่วงลงไป ทำเอาแฟนเกมรู้สึกเศร้าไปตาม ๆ กัน ก่อนที่เธอจะโผล่มาโยน Rocket Launcher ให้เราอีกครั้ง Resident Evil ยังมีประโยคเด็ด ๆ และคำพูดคม ๆ อีกมากมายให้เหล่าเกมเมอร์ได้จดจำ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเกมมาจนถึงทุกวันนี้แล้วเพื่อน ๆ คิดว่ามีคำพูดไหนที่เด็ด ๆ บ้างบอกกันมาได้เลย ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy Vll Reamke กำลังจะมาถึงมือผู้เล่นในอีกไม่ถึง 3 เดือนต่อจากนี้ การกลับมาของเกม RPG ระดับตำนานนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งแฟน ๆ และเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก โดยทาง Square-Enix ก็ไม่ได้ปล่อยกระแสนี้สูญเปล่า  ทำการเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวข้องตัวเกมออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตัง , กระเป๋ากุญแจ , กำไลข้อมือ หรือ สร้อยคอ และล่าสุด ก็ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือแบบ Chronograph ในราคา $2,499.99 ด้วยครับ! Square-Enix ภาคภูมิใจนำเสนอ นาฬิกาแบบ Chronograph ที่ใช้ระบบ Automatic Movement ของ Seiko โดยตัวนาฬิกานั้นจะมี 2 แบบคือ Cloud Strife Edition ที่มากับบอดี้สีเงิน และ Sephiroth Edition ที่มากับบอดี้สีดำ ในราคา $2499.99 (ประมาณ 78,000 บาท) ซึ่งจะเป็นรุ่น Limited Edition ที่มีเพียง 77 เรือนต่อภูมิภาคเท่านั้น ถ้าใครสนใจนาฬิกาตัวนี้ หรือสินค้าอื่น ๆ ของ Final Fantasy Vll ก็เข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของ Square-Enix ผ่านลิงก์นี้ได้เลยครับ Credit : Nintendolife ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งในเกมฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปีนี้ และมีเกมเมอร์ให้ความสนใจทั่วโลกอย่างแน่นอน ถึงจะน่าเสียดายที่ตัวเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก 1 เดือน แต่ก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าตัวเกมที่ถูกเอาออกมาวางจำหน่ายนั้น จะมีความสมบูรณ์พร้อมอย่างแน่นอน และวันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อย Trailer ตัวใหม่ของเกมออกมาแล้ว เรื่องพีคที่สุดคือเราจะได้เห็น Cloud แต่งหญิงด้วยครับ! Trailer ตัวใหม่นั้นมีความยาวเกือบ 4 นาที โดยตัววิดีโอที่ปล่อยออกมานั้น ทำให้เราได้เห็น Footage รวมไปจนถึงฉากต่าง ๆ ในเนื้อเรื่องของเกมมากขึ้น , ได้เห็นตัวละคร Barret Wallace ต่อสู้ในแบบเกมเพลย์จริง ๆ ครั้งแรก , รวมไปจนถึงฉากโจมตีของมนต์อสูรอื่น ๆ อย่าง Leviathan หรือ Mog ขี่ Chocobo เอง ก็มีให้ดูใน Trailer ตัวใหม่นี้ด้วย รับชม Trailer ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ส่วนใหญ่แล้วการวางจำหน่ายเกม 1 ครั้ง มักจะมีหลายราคา , หลาย Edition ให้เราเลือกซื้อ ซึ่งเกม Resident Evil 3 Remake ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้ เองก็เช่นกัน แต่ในตอนแรกนั้นดูเหมือนว่าตัว Collectors Edition ที่มาพร้อมกับ Figure ของ Jill Valentine ขนาด 11 นิ้วจะซื้อได้กับร้าน GameStop เท่านั้น (ซึ้งเข้าหน้าเว็บไม่ได้บน Server ฝั่งเรา) ทำให้สายสะสมอที่ยู่นอกอเมริกาผิดหวังไปตาม ๆ กัน แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ใช้แบบนั้นแล้วครับ! Official Twitter ของ Resident Evil ได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า "พวกคุณอยากได้ Stars ใช้ไม? งั้นเราจะมอบ Stars ให้ ใน EU คุณสามารถ Pre-Order ตัว Collectors Edition ได้แล้ววันนี้ โปรดเช็คกับร้านค้าในประเทศของคุณ" นับเป็นสัญญาณอันดีครับ เพราะไม่แน่ว่า ตัว Collectors Edition นี้อาจจะสามารถซื้อได้ในประเทศไทยเช่นกันนั้นเอง https://twitter.com/RE_Games/status/1220013497716748288 Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่เกม Resident Evil 2 ฉบับ Remake ประสบความสำเร็จอย่างสูงทำให้หนึ่งปีต่อมาทาง Capcom ตัดสินใจนำเอาเกม Resident Evil 3 ฉบับ Remake มาให้เหล่าเกมเมอร์ได้เล่นต่อทันที โดยจุดเด่นของภาคนี้คงจะหนีไม่พ้นเจ้า Nemesis สุดยอดอาวุธชีวภาพของทาง Umbrella ที่ทำให้ Jill Valentine เกือบต้องพลาดท่าหลายครั้ง วันนี้เรา GameFever TH จะมาทำความรู้จักกับอาวุธชีวภาพชิ้นนี้ให้มากขึ้น ข้อมูลเบื้องต้นของ Nemesis Nemesis คืออาวุธชีวภาพจากทาง Umbrella ที่ได้รับการพัฒนาโดยห้องแล็บหมายเลข 6 ของ Umbrella สาขายุโรป โดยมีชื่อโปรเจกต์ เต็ม ๆ ว่า Nemesis-T Types ที่เป็นการผสมกันระหว่างปรสิต NE-α กับอาวุธชีวภาพ Tyrant (T-103 Model) เพื่อขยายความสามารถของ Tyrant ให้สูงขึ้นและทรงพลังมากขึ้น พร้อมทั้งติดอาวุธหนักทำให้สามารถต่อกรกับศัตรูได้อย่างดี นอกจากนี้การที่ได้ปรสิต NE-α อยู่ในร่างกายทำให้ยิ่งได้รับความเสียหายมากเท่าไหร่ Nemesis จะยิ่งเก่งขึ้นเรื่อย ๆ อีกต่างหาก เดิมทีโปรเจกต์นี้ทาง Umbrella ต้องการที่จะพัฒนาอาวุธเพื่อขายให้กับทางกองทัพของสหรัฐอเมริกา แต่เนื่องจากว่าปรสิต NE-α นั้นไม่สามารถที่จะเข้าได้กับร่าง Tyrant ได้ทำให้พวกเขาต้องทดลองนานถึง 10 ปีจึงสามารถที่จะทำให้ปรสิตนี้สามารถเข้ากับร่างทดลองได้ แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดีของมวลมนุษยชาติที่ทางบริษัทสามารถผลิตได้เพียงหนึ่งตัวเท่านั้น Nemesis ศัตรูสุดโหดในเกม Resident Evil 3 หลังจากที่ทางบริษัทสามารถที่จะสร้าง Nemesis ได้สำเร็จแล้ว พวกเขาจึงเริ่มทดสอบประสิทธิภาพของอาวุธชิ้นนี้โดยส่งพวกเขาไปยังเมือง Raccoon City ทำกำลังเกิดการระบาดของเชื้อ T-Virus โดยพวกเขาได้ส่ง Tyrant รุ่น T-103 จำนวนถึง 6 ตัวเข้ามาในเมืองนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Mr.X ในเกม Resident Evil 2 ที่เกมเมอร์หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี โดย Nemesis มาพร้อมกับคำสั่งเดียวในหัวคือการจัดการกับสมาชิกของหน่วย S.T.A.R  ซึ่งเหยื่อรายแรกของอาวุธชิ้นนี้คือ Vickers Brad ก่อนที่จะเปลี่ยนเป้าหมายมายัง Jill Valentine โดยอาวุธชีวภาพชิ้นนี้ได้ตามเธออย่างไม่ลดละ อีกทั้งยังทำให้เธอติดเชื้อ T-Virus อีกด้วย โชคดีที่ได้ Carlos Oliveira มาช่วยไว้ได้ทัน จุดจบของเจ้า Nemesis นั้นเกิดขึ้นในโรงงานทิ้งขยะชีวภาพทางตอนเหนือของ Raccoon City โดยในร่างสุดท้ายนั้น ปรสิต NE-α ได้กลายร่างเป็นสภาพของตัวประหลาดขนาดยักษ์ ทำให้ Jill ต้องใช้ Demon Sword of Paracelsus ปืนใหญ่แม่เหล็กไฟฟ้าของกองทัพสหรัฐอเมริกาในการจัดการกับสิ่งนี้ พร้อมกับประโยคในตำนานว่า เอ็งอยากได้ S.T.A.R เดี๋ยวจะจัดให้ถึงดวงดาว (Stars)! เลย Nemesis ฉบับ Resident Evil 3 Remake สำหรับ Nemesis ฉบับ Resident Evil 3 Remake ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบหลาย ๆ อย่าง โดยใน Trailer เราจะเห็นได้ว่าอาวุธของ Nemesis จะไม่ใช่จรวด Missile อย่างเดียวเหมือนกับต้นฉบับแต่จะเป็นปืนไฟเข้ามาเสริมด้วย นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยน Design ของหัวใจให้อยู่ด้านหน้าของร่างกายแทน ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดอ่อนที่สำคัญก็เป็นได้ Nemesis นอกเหนือจากเกม Resident Evil 3 เนื่องจากเกม Resident Evil 3 ประสบความสำเร็จอย่างสูง ทำให้ Nemesis ก็โด่งดังด้วยเช่นกัน โดยตัวละครนี้ได้ไปโผล่ในเกมอื่น ๆ เช่น Ultimate Marvel vs. Capcom 3 , Marvel vs. Capcom: Infinite , Project X Zone 2 ที่เราสามารถเล่นเป็นตัวละครนี้ได้ Nemesis ถือว่าเป็นศัตรูสุดโหดและน่าจดจำประจำซีรีส์ Resident Evil โดยตัวละครนี้จะโผล่มาให้เราสัมผัสในวันที่ 3 เมษายน 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ อ้างอิงจาก: residentevil.fandom.com ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เกมผีชีวะ Resident Evil ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมซอมบี้แถวหน้าที่มีประวัติมาเกือบ 20 ปี และเหล่าซอมบี้ไปจนถึงสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ก็เป็นหนึ่งในความโดดเด่นของซีรีย์ ที่หลายตัวกลายเป็นตำนานหรือเป็นที่รู้จักมากกว่าตัวละครหลักที่เป็นคนเสียอีกและในวันนี้ก็มาถึงภาคต่อสุดมันส์อย่าง Resident Evil 2 Remake ที่ทางค่ายนั้นเอาใจแฟนๆรุ่นเก่าที่ได้รับการพัฒนาด้านกราฟฟิกที่ดียิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนรวมถึงยังเป็นเกมม้ามืดแห่งปี 2019 ที่ผ่านมาอีกด้วยและในวันนี้ทางเรา GameFever TH จะมาบอกถึงซอมบี้หรือสัตว์ประหลาดที่ไม่ได้มาปรากฎในเกมภาค Resident Evil 2 Remakeนั้นจะมีตัวอะไรกันบ้างเชิญรับชมได้เลยครับ CROWS อีกาพยายม อีกา พยายม ที่เราเห็นกัน อยู่บ่อยๆ ในหนัง ถูกนำมาเพิ่ม เติมความน่ากลัวใน Biohazard ในภาคต่างๆโดยปรกติก็ อย่างที่เราๆรู้กันนั้น คือ เป้นอีกา ปรกติ นั่นแหละ แต่เมื่อมี ศพ มีการ ตายเกิดขึ้น อีกาเป็นของคู่กับศพเมื่อมันได้กลิ่นศพ ที่เป็นซอมบี้ มันก็เลยมากิน ซากศพเหล่านั้น ส่งผลทำให้กลายเป็นอีกา ซอมบี้หรือแถวๆบ้านผมเรียกอีกาผี เหมือนอย่างในหนังเรื่อง The Crow อีกาพยายมแต่ในเกม Remake นั้นทางผู้สร้างเองยังไม่ได้มีการใส่เข้ามาแต่อย่างใด   Giant Spider แมงมุมยักษ์ ถ้าเอ่ยถึงแมงมุมเชื่อแน่ว่าน้อยคนนักที่จะบอกว่าชอบสำหรับแมงมุมใน BioHazard นั้นก็เช่นเดียวกัน แมงมุมนั้นสามารถได้รับพาหะแพร่เชื้อ ได้ง่ายและรวดเร็วกว่า มอสเตอร์ชนิดอื่นๆทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะว่า ที่อยู่อาศัยของแมงมุมนั้น อาศัยอยู่ในที่ ๆ อับ และง่ายต่อการติดเชื้อได้ง่ายกว่ามอนเตอร์ประเภทอื่นๆมาก ทำให้พวกมันสามารถแพร่กระจาย ขยายตัวได้อย่างทวีคูณแมงมุม ในเกมส์ นั้นจำแนกออกได้ 3 ประเภทด้วยกัน คือ Giant Spider ตัวนี้ข้อมูลที่ได้มาอันน้อยนิด บอกไว้ว่าได้รับพาหะจากหนู และเศษอาหารที่ ติดไวรัส ไปเลยทำให้มันกลายพันธ์เป็น แมงมุมยักษ์ ที่มีขนาดตัวใหญ่กว่า คนเราเสียอีก   Giant Moth ผีเสื้อไซส์ยักษ์ Giant Moth หรือผีเสื้อยักษ์นั้น ต่างกับสัตว์ตัวอื่นๆที่เราแนะนำมา เพราะเจ้า Giant Moth นั้นเกิดจากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ต่างกับแมงมุมแมลงสาปหรือจะเข้ที่ได้รับเชื้อ T-virus โดยเจ้า Giant Moth นั้นสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแถมอึดถึก และยังแพร่พันธุ์เพื่อยึดสถานที่เป้าหมายได้ด้วย โดยมันสามารถกัดและปล่อยพิษใส่เหยื่อได้ จึงจัดเป็นอาวุธชีวภาพที่น่ากลัวตัวหนึ่งเลยทีเดียว   Plant 43 Plant 43 เป็นพืชขนาดใหญ่ที่ได้รับการฉีด T-Virus เข้าไป โครงการพัฒนาอาวุธชีวภาพชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งจากการทดลองกับพืชตัวอย่างของนักวิจัยที่ชื่อ Henry Sarton ซึ่ง Plant 43 นี้มีรูปลักษณ์ภายนอกเป็นดอกไม้ขนาดยักษ์ที่มีกลีบดอกรูปร่างประหลาดห่อหุ้มอยู่ และมีกิ่งก้านขนาดใหญ่ เคลื่อนไหวได้เหมือนหนวดปลาหมึก Plant 43 ได้เติบโตแผ่กิ่งก้านไปทั่วโซนResidence ( ในเวอร์ชั่น PS1 โซนดังกล่าวเคยใช้ชื่อว่า Guard House )มันได้ใช้กิ่งแขนงของมันดูดรับน้ำจาก Aqua Ring ที่อยู่ชั้นใต้ดินของ Residence ( Aqua Ring คือบ่อเพาะเลี้ยงเจ้าฉลามยักษ์ Neptune นั่นเองครับ )   Neptune ฉลามขาวยักษ์ ในสถานีวิจัยของศูนย์เพาะเลี้ยงของ เนปจูนนั้นอยู่ในขั้นทดลองซึ่งในเกมส์ BioHazard นั้นเราจะสามารถพบเจ้านี่ได้ ในชั้นใต้ดิน โซน Guard House (Ps.1) ทั้งนี้นั้นยังอยุ่ในช่วงของการทดลอง ครับ ซึ่งการพบกับมันในครั้งแรกนั้น ค่อนข้างที่จะลำบากในทีเดียว เพราะเสียเปรียบ เปนอย่างมากในการต่อสู้ในนํา ถ้าไม่มีกุญแจเข้าห้อง ลดปริมาณนํา Neptune อาจสร้างปัญหาให้แก่คุณได้การต่อสู้กับ Neptune ในนํานั้น ไม่เป้นเรื่องที่ฉลาดเลย ตรงกันข้ามคุณ อาจะพลาด เสียชีวิตได้เช่นกัน การโจมตีเนปจูน จะใช้วิธีการขยําเหยื่อ แล้วบิดด้วยคมเชี้ยวที่แหลมคม ประกอบกับ ไวรัส ซึ่งทำให้มันดุร้ายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคุณต้องพกกุญแจเข้าห้องลด ปริมาณนํา มาก่อนแล้ว การกำจัดมัน จะเป้นเรื่องที่ง่ายกว่าขนมเสียอีก (Ps 1)   Hunter นักล่าของจริง Hunter เป็นอาวุธชีวภาพมีรูปร่างคล้ายมนุษย์รวมกับสัตว์เลื้อยคลานที่สามารถเดินด้วยสองเท้า มีอาวุธคือกรงเล็บอันแหลมคมที่มือทั้งสองข้าง เอกลักษณ์ที่คนเล่นเกม Biohazard จำกันได้ดีคือเสียงกรีดร้องประจำตัวของมันพวกมันเป็นอาวุธชีวภาพที่บริษัท Umbrella สร้างขึ้นโดยนำ DNA ของสัตว์เลื้อยคลานมาฉีดผสมเข้าไปในไข่ของมนุษย์เพศหญิงที่จัดเตรียมไว้ แล้วเพาะแยกในหลอดทดลองที่มีการแพร่ T-Virus เข้าไปด้วยตลอดจนเป็นตัวสมบูรณ์ครั้งแรกที่มันปรากฎตัวให้เราเห็น มันจะแสดงความสามารถให้เห็นถึงความคล่องแคล่วว่องไว และความทนทานต่อกระสุนปืนที่มีมากกว่าซอมบี้หนำซ้ำ Hunter ยังมีการโจมตีที่สามารถปลิดชีวิตของผู้เล่นได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั่นคือการใช้กรงเล็บตะปบศีรษะของผู้เล่นจนหลุดกระเด็น ด้วยเหตุนี้ Hunter จึงกลายเป็นมอนสเตอร์ที่ผู้เล่นเกม Biohazard ต่างเข็ดขยาดกันมากที่สุดของเกมซีรี่ส์นี้อย่างช่วยไม่ได้

ในตอนนี้หนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนเฝ้ารอคอยมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเกม Resident Evil 3 ฉบับ Remake ของทาง Capcom ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในภาคที่มีตัวร้ายน่าจดจำมากที่สุดตัวหนึ่งในซีรีส์ แต่วันนี้เรา GameFever TH จะพามาทำความรู้จักกับหนึ่งในตัวละครเอกของซีรีส์ที่ใคร ๆ ต่างหลงรักอย่าง Jill Valentine ประวัติเบื้องต้น Jill Valentine เกิดเมื่อปี 1974 เธอเป็นคนสัญชาติอเมริกันและเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส - ญี่ปุ่น กรุ๊ปเลือด B โดยภูมิหลังของเธอไม่มีข้อมูลอื่น ๆ ที่แน่ชัด นอกจากระบุไว้ว่าช่วงทศวรรษที่ 1990s เธอได้เข้าร่วมกันกองทัพบกสหรัฐในหน่วยของ Delta Force ที่เธอได้ฝึกฝนโปรแกรมต่าง ๆ ของทางกองทัพ ก่อนที่ในปี 1996 - 1998 ทาง Albert Wesker จะเห็นในแววของเธอจึงได้คัดเลือกเข้ามาอยู่ในหน่วย Special Tactics and Rescue Service (S.T.A.R.S.) ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษสังกัดกรมตำรวจเมือง Raccoon City Resident Evil: 1 ช่วงต้นฤดูร้อนปี 1998 ได้เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมสยองขวัญขึ้นในคฤหาสน์ Spencer ทำให้ทางกรมตำรวจ Raccoon City ได้ส่งหน่วย S.T.A.R.S. ทีม Bravo เข้าไปยังที่เกิดเหตุแต่ทีมก็ขาดการติดต่อเป็นเวลาถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ทางกรมตำรวจต้องส่งอีกหน่วยเข้าไปคือทีม Alpha เข้าไปสำรวจยังที่เกิดเหตุซึ่งประกอบไปด้วย Barry Burton , Joseph Frost, Chris Redfield, Jill Valentine, Vickers Brad , และ Albert Wesker ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล โดยในตอนแรกเธอคิดว่าเหตุการณ์นี้คือการฆาตกรรมปกติ แต่นี่คือครั้งแรกที่เธอได้เจอกับอาวุธชีวภาพของทาง Umbrella Cooperation จนเธอเกือบเอาชีวิตไม่รอดก่อนที่จะรู้ในภายหลังว่านี่คือฝีมือของ Albert Wesker ที่ต้องการทดสอบอาวุธชีวภาพของเขาและในที่สุดเธอจึงหนีรอดออกมาจากคฤหาสน์หลังนี้ได้ Resident Evil: 3 หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกได้มีการขอให้ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ Spencer โดยละเอียด พร้อมทั้งตรวจสอบบริษัท Umbrella Cooperation ที่ผลิตอาวุธชีวภาพแต่ก็ไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางหัวหน้าของพวกเขาและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาทำให้หน่วย S.T.A.R.S. ต้องทำการสืบสวนเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเอง โดย Jill ตัดสินใจที่จะอยู่ในเมือง Raccoon City เพื่อทำการสืบสวนเรื่องราวเกี่ยวกับห้องทดลองใต้ดินของบริษัทในเมืองนี้อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ได้เริ่มต้นการสืบสวนเมื่อเชื้อ T-Virus ได้ระบาดมาในท่อระบายน้ำของเมือง ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้ นอกจากนี้ทาง Umbrella เองก็ได้ถือโอกาสนี้ในการทดสอบประสิทธิภาพของอาวุธชีวภาพโดยการส่ง Nemesis-T Type พร้อมกับเป้าหมายในการสังหารหน่วย S.T.A.R.S. ให้หมด หลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้เธอติดอยู่ในอะพาร์ตเมนต์จนถึงวันที่ 27 กันยายน 1998 เธอจึงตัดสินใจที่จะหนีออกจากที่พักไปหลบอยู่ในโกดังกับ Dario Rosso ก่อนที่เธอจะตัดสินใจในการออกไปยังสถานีตำรวจเมือง Raccoon City เนื่องจากคิดว่าสถานที่นี้ปลอดภัยแต่เมื่อเธอไปถึงเธอก็พบว่าไม่มีสถานที่ไหนปลอดภัยอีกแล้วในเมืองนี้ ก่อนที่เธอจะได้รับสัญญาณวิทยุจาก Carlos Oliveira แห่งหน่วย U.B.C.S. (Umbrella Biohazard Countermeasure Service) นั่นทำให้เธอต้องร่วมมือกับสมาชิกของหน่วย U.B.C.S. ในการเอาตัวรอดออกจากเมืองแห่งนี้ให้ได้ แต่การหลบหนีออกจากเมืองนี้ก็แสนยากลำบากเพราะ Nemesis พยายามที่จะขัดขวางเธอตลอดจนทำให้เธอติดเชื้อ T-Virus จนเธอสลบไปถึงสองวันแต่ก็ได้ Carlos มาช่วยเหลือไว้ทำให้เธอยังปลอดภัยและรู้ภายหลังว่าทางรัฐบาลกำลังจะสั่งยิงนิวเคลียร์ใส่เมืองนี้เพื่อกวาดล้างพื้นที่ โดยทางรอดเดียวของเธอคือการหนีไปยังโรงงานขยะชีวิภาพด้านเหนือของเมืองหลังจากที่ผ่านฟันอุปสรรคต่าง ๆ จนสามารถหนีรอดออกมาจากเมืองได้เธอจึงตัดสินใจที่ต่อสู้กับ Umbrella Cooperation แบบเต็มตัวในนามของ Private Anti-Biohazard Service จาก Private Anti-Biohazard Service สู่ BSAA หลังจากที่ Jill ได้เข้าร่วมกลุ่ม Private Anti-Biohazard Service ร่วมกับ Chirs ในการออกสำรวจและตรวจสอบการมีอยู่ของอาวุธชีวภาพ โดยพวกเขาสืบทราบว่าทางตอนเหนือของทวีปยุโรปได้มีห้องแล็บของ Umbrella ภายใต้การดูแลของอดีตผู้นำUmberlla ที่มีชื่อว่า Sergei Vladimir ก่อนที ทำให้พวกเขาบุกไปยังฐานทัพแห่งนั้นและได้ต่อสู้กับ T-A.L.O.S. (Tyrant-Armored Lethal Organic System) สุดยอดอาวุธของชีวภาพของ Umbrella ก่อนที่พวกเขาจะเอาชนะได้และทางบริษัทก็เริ่มล่มสลาย หลังจากการบุกทำลายฐานทัพครั้งนั้นทำให้ทางบริษัทเริ่มที่จะล้มละลาย ส่งผลอาวุธชีวภาพของ Umbrella ถูกวางจำหน่ายในตลาดมืดจึงต้องมีการตั้งหน่วย BSAA (Bioterrorism Security Assessment Alliance) ขึ้นมาเพื่อต่อต้านอาวุธชีวภาพเหล่านี้ ซึ่งเธอก็ได้เข้าร่วมเช่นกัน Resident Evil : Revalation 1 ในปี 2004 ได้เกิดเหตุการณ์ Terragrigia Panic หรือเหตุการณ์ที่เมือง Terragrigia ถูกทำลายด้วยอาวุธชีวภาพ ทำให้ทาง Federal Bioterrorism Commission จึงได้มอบหมายให้หน่วย BSAA ทำการสืบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ก็พบว่าเรื่องราวเหล่านี้มีที่มาไม่ชอบมาพากล โดยในปี 2005 Jill และคู่หูใหม่อย่าง Parker Luciani ได้ออกไปสืบสวนเหตุการณ์ประหลาดในชายฝั่งประเทศอิตาลีก่อนที่จะพบว่านี่คือไวรัสตัวใหม่นามว่า t-Abyss Virus ในขณะนั้นเองทั้งคู่ได้รับคำสั่งมาว่า Chirs และ Rachel ขาดการติดต่อหลังจากออกปฏิบัติภารกิจทางทะเลทำให้ทั้งคู่รีบมุ่งหน้าไปทันที โดยหลังจากแกะรอยสัญญาณพบว่ามาจากเรือ Queen Zenobia แต่เมื่อพวกเขาขึ้นไปบนเรือก็พบว่านี่คือกับดักและย้ายไปยังเรือ Queen Semiramis ที่นั่นทำให้พวกเขารู้ว่า FBC มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับเชื้อไวรัส t-Abyss Virus เธอเองก็เอาชีวิตไม่รอดแต่ก็ได้ Chris และ Rachel เข้ามาช่วยไว้ได้ทันก่อนจะรู้ว่า Morgan Lansdale อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ทั้งหมด Resident Evil 5 หลังจากเหตุการณ์เรือ Queen Zenobia ทาง Chris และ Jill ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่อยู่ของ Dr. Oswell E. Spencer ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Umbrella Pharmaceuticals ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะบุกไปยังคฤหาสน์ของ Osewll ทันแต่พวกเขาก็ไปช้าเกินไปเพราะ Wesker ได้ไปถึงก่อนและทั้งสามคนได้ต่อสู้กันก่อนที่ Jill จะเสียสละตัวเองผลัก Wesker ตกหน้าผาไปพร้อมกัน Chris ได้คิดว่าเธอตายแล้ว แต่ในความเป็นจริงเธอยังไม่ตายและถูก Wesker ควบคุมให้ทำเรื่องต่าง ๆ โดยเธอจะสวมหน้ากาก(Lady Bird) และปฏิบัติการอยู่ในประเทศแถบแอฟริกา ซึ่งเธอคือคนที่นำเอาไวรัส Plaga Type 2 ไปแพร่ระบาดยังบริเวณ  Kijuju Autonomous Zone ทำให้ Chris และ Shiva เจ้าหน้าที่ BSAA ต้องเข้ามาตรวจสอบ หลังจากที่สืบจนรู้ความจริง Chris ก็สามารถที่จะช่วย Jill ให้หลุดจากการควบคุมของทาง Wesker ได้และได้ร่วมมือกับ Josh ในการหนีออกจากห้องทดลองของ TRICELL ก่อนที่เธอจะรู้ว่าไวรัสที่ทาง Wesker ได้รับมาไม่เสถียรและต้องการมีการฉีดเซรุ่ม ทำให้เธอบอกเรื่องนี้กับ Chris จนเขาและ Shiva สามารถต่อกรกับ Wesker ได้สำเร็จ หลังจากเหตุการณ์จบลงเธอได้เข้าไปอยู่ในห้องแล็บของทาง BSAA เพื่อที่จะตรวจสอบร่างกายเธออย่างละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างรวมถึงเชื้อไวรัสที่อยู่ในตัวเธอ ถึงกระนั้นเธอยังคงที่จะเตรียมตัวในการออกไปต่อสู้กับเหล่าอาวุธชีวภาพเสมอ จะเห็นได้ว่า Jill Valentine ถือว่าเป็นหนึ่งในหญิงแกร่งจากเกม Resident Evil ที่ต่อให้ต้องเจอกับอาวุธชีวิภาพที่ร้ายแรงขนาดไหนเธอก็ไม่เคยที่จะกลัว การที่เกม Resident Evil 3 ฉบับ Remake ได้ออกมาให้เราเล่นในครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการดีที่เราจะได้ลองดูมุมมองใหม่ ๆ ของเธอ อ้างอิงจาก:residentevil.fandom.com

อีกไม่กี่เดือนเราก็จะได้เล่นกันแล้วสำหรับ Resident Evil 3 Remake ซึ่งในภาคนี้ผู้พัฒนาเองก็ได้ปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมอะไรหลายๆ อย่างในภาคนี้ ล่าสุดทางโปรดิวเซอร์ของเกมนี้อย่างคุณ Peter Fabiano ยืนยันแล้วว่าในเกมภาคนี้เมือง Raccoon City จะมีความใหญ่ขึ้น และมีอะไรให้สำรวจมากขึ้นกว่าเกมเวอร์ชั่น 1999 เสียอีก แต่แม้ว่าตัวเกมจะมีขนาดใหญ่ขึ้น แต่ผู้พัฒนายืนยันเองว่าตัวเกมก็ยังไม่ถึงขนาด Openworld แน่นอน และผู้เล่นก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปในทุกอาคารของเมืองได้ แต่จะมีอิสระมากมายให้สำรวจ "คุณจะพบว่าคุณสามารถเดินไปยังพื้นที่ต่างๆ และสำรวจอะไรได้มากกว่าเวอร์ชั่นที่แล้ว แต่ก็ระวังไว้นะเพราะคุณไม่รู้เลยว่าอะไรหลบอยู่ตามมุมบ้าง" ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติที่ในภาคนี้น่าจะมีอะไรให้ทำมากขึ้น เพราะว่าในเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิมนั้นมันก็ได้ถูกจำกัดในเรื่องของ Hardware ที่สมัยนั้นลงให้กับเครื่อง PS1 นั่นเอง โดยเกม Resident Evil 3 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One รวมถึงถ้าซื้อเกมนี้คุณจะได้รับเกม Resident Evil Project Resistant ที่เป็นเกมแนว Multiplayer อีกด้วย อ้างอิงโดย: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เมื่อพูดถึงเกมที่มีคนเฝ้ารออยู่ในปี 2020 นี้ เชื่อว่าเกม Resident Evil 3 Remake น่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่ถูกจับตามองอยู่มากที่สุดเกมหนึ่ง หลังจากที่ Capcom ได้โชว์ฝีมือในการนำเกมมาสร้างใหม่ ดังที่ได้เห็นในเกมภาค 2 Remake ที่วางจำหน่ายไปเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา แม้ว่าเหล่าเกมเมอร์ที่สนใจจะต้องรอกันไปอีกซักพักกว่าจะได้เล่น (เกมมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 3 เมษายน) แต่ดูเหมือนว่าตัวเกมเองอาจจะพัฒนาเสร็จก่อนวันวางจำหน่ายซักพักใหญ่ๆ เลย เมื่อล่าสุดผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer ของเกมคุณ Masao Kawada ได้เปิดเผยต่อนิตยสาร Famitsu ว่าเกมได้พัฒนาไปแล้วกว่า 90% โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเก็บรายละเอียดครั้งสุดท้าย ก่อนที่เกมจะ Gone Gold อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ในบทสัมภาษณ์ของ Famitsu ยังมีข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับเกมอีกมากมายเกี่ยวกับเกม ซึ่งสามารถสรุปออกมาได้ดังนี้: คอนเซปต์ของเกมภาคใหม่ที่เราต้องการจะสื่อคือ "ความน่ากลัวของการถูกไล่ล่า" โดยเล่าผ่านการหลบหนีออกจากฐานลับของตัวละคร Jill รวมไปถึงความขัดแย้งกันระหว่างความสวยงามของ Jill และความอัปลักษณ์ของ Nemesis หรืออีกชื่อคือ Pursuer (นักไล่ล่า) เกม Resident Evil Resistance (หรือ Project Resistance) เองก็เป็นเกมที่พัฒนามาจากคอนเซปต์ของ การหลบหนี เช่นเดียวกัน แต่ถึงกระนั้น เกม Resident Evil 3 Remake และ Resident Evil Resistance จะเป็นเกมที่แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง Resident Evil 3 จะมีเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงไปจากฉบับดั้งเดิมมากกว่า Resident Evil 2. Capcom ได้ปรับแต่งตัว B.O.W. Nemesis ในฐานะอาวุธใหม่ ตัวไฟล์หลักของเกม (ROM) พัฒนาเสร็จแล้ว จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เลื่อนวันวางจำหน่ายแน่นอน โดยเกมพัฒนาไปแล้วกว่า 90% เหลือเพียงแค่การเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้ายเท่านั้น ในส่วนของเนื้อเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ต่างจากเกมต้นฉบับนัก แต่รายละเอียดและการจัดเรียงเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องใหม่ จะทำให้แฟนๆ ของเกมดั้งเดิมสามารถรับประสบการณ์ที่สดใหม่ได้อีกครั้ง Jill ถือเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในซีรี่ส์ Resident Evil ผู้พัฒนาจึงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการออกแบบรูปลักษณ์ใหม่ของเธอ เพื่อให้คงความรู้สึกของภาคดั้งเดิมเอาไว้ แต่ปรับให้ดูแล้วคล่องตัวมากขึ้น เพราะเกมภาค 3 จะมีฉากแอคชั่นมากกว่าภาค 2 พอสมควร ผู้พัฒนาจึงอยากให้ชุดของ Jill สะท้อนจุดนี้ Capcom ได้ปรับทั้งรูปลักษณ์และอุปนิสัยของตัวละคร Carlos ใหม่สำหรับเกมนี้ แม้ว่าตัวละครจะมีความยียวนกวนประสาทอยู่บ้าง แต่ลึกๆ แล้วก็ยังเป็นคนจิตใจดีเหมือนเดิม โดยเขาได้พบกับ Jill ผ่านการทำงานในองค์กร U.B.C.S. และเป็นคนที่มีความเอื้อเฟื้อและห่วงใยเพื่อนร่วมทีมมากๆ ในส่วนของตัวละคร Brad Vickers นั้น ผู้พัฒนายังคงอยากจะให้ผู้เล่นได้มีโอกาสพบกับเขาในเกม แต่เหตุการณ์รายรอบอาจจะเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อย โดย Brad จะเป็นส่วนหนึ่งของผู็รอดชีวิตจากหน่วย S.T.A.R.S. Resident Evil 2 Remake นั้นพยายามจะสื่อถึงความน่ากลัวของซอมบี้ แต่สำหรับ Resident Evil 3 Remake จะเน้นแอคชั่นมากกว่า แต่ก็จะยังมีองค์ประกอบของเกม Resident Evil อยู่ครบถ้วน Resident Evil 3 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 สำหรับ PS4, Xbox One, PC โดยผู้ที่ซื้อเกมจะได้รับเกม Resident Evil Resistance พ่วงมาด้วยแบบฟรีๆ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโลโกของเครื่อง PlayStation 5 เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมทั้งกำหนดการว่าจะวางจำหน่ายในปลายปี 2020 แต่เครื่อง PlayStation 4 ยังคงสามารถเล่นเกมไปได้อีกหลายปี รวมถึงมีเกมต่าง ๆ ทยอยลงให้อย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยเฉพาะเกม Exclsuive ที่ไม่สามารถหาเล่นได้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ วันนี้พวกเรา Gamefever จึงขอนำเสนอ 5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020 1. Last of Us Part II Last of Us ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ จากทีมงาน Naughty Dog ที่เน้นการเล่าเรื่องที่ถึงอารมณ์และการเล่าเรื่องที่เข้มข้นถึงใจ พร้อมทั้งกวาดรางวัลไปมากกว่า 200 รายการ ทำให้เกม Last of Us Part II กลายเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนจับตามอง ตัวเกมยังคงนำเสนอในแนวทางของภาคแรกแต่ได้มีการยกระดับทุกอย่างให้ดีขึ้น ทั้งการเล่าเรื่องที่ดิบกว่าเดิม ความโหดร้ายของโลกในเกมและกราฟิกที่ดึงเอาศักยภาพของเครื่อง PlayStation 4 มาอย่างเต็มความสามารถทำให้เกมนี้แฟน ๆ ของ Sony พลาดไม่ได้วันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้ลางานรอได้เลย 2.Final Fantasy 7 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างความฮือฮาอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน E3 ปี 2015 ปัจจุบันผ่านไป 5 ปีก็ถึงคราวที่เกมนี้จะได้ส่งมาถึงมือของแฟน ๆ เสียที เกม Final Fantasy 7 ฉบับ Remake ได้มีการปรับปรุงระบบเกมการเล่นใหม่ ที่เป็นการผสมระหว่างความเป็น Action และ Turn Base ที่ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้กราฟิกในเกมยังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหากอยากเล่นในปีนี้ต้องซื้อบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น สำหรับเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 3.Ghost of Tsushima แม้ว่าทีมงาน Sucker Punch Productions ยังไม่ยืนยันวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการ แต่ว่าปีนี้มาแน่นอนสำหรับเกม Ghost of Tsushima ที่เล่าเรื่องราวฉากหลังของประเทศญี่ปุ่นในช่วงการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - Adventurer - Stealth ที่จะให้เราสวมบทเป็น Jin Sakai ซามูไรคนสุดท้ายในเกาะ Tsushima ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการต่อต้านกับกองทัพมองโกลด้วยวิธีการแบบ Ghost 4.Predator: Hunting Grounds Predator: Hunting Grounds ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมแนว Co-op PvP ที่น่าสนใจมากสำหรับเครื่อง PlayStation 4 โดยตัวเกมจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายมนุษย์ที่จะต้องร่วมมือกันในการทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จและฝ่ายของ Predator ที่ต้องสังหารมนุษย์ไม่ให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ทำให้อารมณ์ของเกมนี้จะคล้ายกับ Dead by Daylight ฉบับ Predator ซึ่งหากคุณชอบเกมแนวดังกล่าวเกมนี้ถือว่าตอบโจทย์ ตัวเกมจะวางจำหน่ายในปีนี้อย่างแน่นอน 5.Nioh 2 ปิดท้ายกันด้วยเกมยากระดับปาจอยทิ้งที่สาวก PlayStation 4 ควรหามาเล่นกับเกม Nioh 2 ที่ได้นำเอาตำนานและเรื่องราวลึกลับของประเทศญี่ปุ่นมาทำใหม่ในรูปแบบของ Dark Fantasy ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจมาก ๆ นอกจากนี้สำหรับภาคใหม่ตัวเกมได้มีการเพิ่ม Feature ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่ตัวละครไปจนถึงแนวทางที่เล่น โดยเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 มีนาคม จะเห็นได้ว่าในปีนี้เกม Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ยังคงน่าเล่นเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของทีมงานต่าง ๆ ที่สามารถทำเกมยอดเยี่ยมมากมายลงในเครื่อง Console ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีได้อย่างลื่นไหล ขอให้เกมเมอร์ทุกท่านมีความสุขในการเล่นเกมครับผม

ถ้าพูดถึงเกมที่กำลังเป็นที่จับตามอง และกำลังจะเปิดให้เข้าไปเล่นได้เร็ว ๆ นี้ ก็คงจะไม่พ้นเกม Resident Evil 3 Remake ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้ ซึ่งทาง Capcom เองก็ได้ออกมาบอกว่าตัวเกมนั้นก็ใกล้ที่จะพัฒนาเสร็จแล้วด้วยเหมือนกัน วันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวน่าสนใจจากทาง Microsoft ว่าตัวเกมภาคนี้นั้นจะมีขนาดไฟล์ประมาณ 43 GB บน Xbox One ครับ! อย่างที่ทราบกันว่าตัวเกมภาคนี้จะมาพร้อมกับเกม Resident Evil Resistance ที่เป็นเกม Multiplayer ด้วย แต่ดูเหมือนว่าทั้ง 2 เกมนั้นจะต้องทำการดาวโหลดแยกกันครับ โดยตัวเกม Resident Evil 3 Remake หรือตัวเกมที่เป็นโหมดเนื้อเรื่องนั้นจะมีขนาดไฟล์เกมอยู่ที่ 21.93 GB (ใกล้เคียงกับตัว RE2 Remake ที่ออกช่วงต้นปีที่แล้ว) ส่วน Resident Evil Resistance นั้นจะมีขนาดไฟล์เกมอยู่ที่ 20.47 GB รวม ๆ แล้ว ก็คือประมาณ 43 GB นั้นเอง ซึ่งคาดว่าในเครือง PS4 กับ PC เองก็น่าจะมีขนาดไฟล์เกมที่ใกล้เคียงกันครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายนนี้ ทั้งบน PS4 , Xbox One และ PC Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

Final Fantasy VII Remake ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยมาก เนื่องจากเป็นการรีเมคเกมคลาสสิคสมัยเครื่อง PlayStation 1 ให้มาอยู่ในรูปแบบเกมการเล่นปัจจุบัน พร้อมกราฟิกที่สวยงามตามสไตล์ Square Enix ล่าสุด Demo ของเกมนี้อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เว็บไซต์ gamstat.com เว็บไซต์สำหรับการติดตามข้อมูลทุกอย่างของ PlayStation ได้อัปโหลดรูปของเกม Fantasy VII Remake และเกม Patapon 2 remaster ในรูปแบบทดลองเล่น  ทำให้มีแนวโน้มสูงว่าทางผู้พัฒนาเกมอาจจะเปิดให้เราได้ทดลองเล่นเกมเร็ว ๆ นี้ เพราะเว็บไซต์นี้ดึงข้อมูลมาจากผู้เล่นทุกคนและตัวเซิร์ฟเวอร์ https://twitter.com/Renka_schedule/status/1209637400583884800?s=20 เรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะเกมอย่าง Patapon 2 Remaster ที่เคยประกาศว่าจะลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เมื่อปลายปี 2017 แล้วก็เงียบหายไปเลย การที่ชื่อของเกมนี้โผล่ออกมาก็แสดงให้เห็นถึงว่าตัวเกมมีแนวโน้มจะได้เล่นสูง Final Fantasy VII Remake มีกำหนดการให้เล่นในเดือนมีนาคม 2020 แฟน ๆ ของซีรีส์นี้ไม่ควรพลาด อ้างอิง:gematsu.com

Steam ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มขายเกมชื่อดังของโลก ที่มีเกมให้เราเลือกเล่นอย่างมากมายพร้อมกับ Feature ในการสนับสนุนเกมเมอร์อย่างเต็มที่และสิ่งที่ทำให้ Steam ครองใจเกมเมอร์อย่างมากคือ Steam Sale ที่ลดกระหน่ำจนทำให้หลาย ๆ คนหมดเงินกันเป็นว่าเล่น ในตอนนี้เทศกาล Steam Winter Sale 2019 ก็ได้เริ่มหากใครยังไม่รู้ว่าจะซื้อเกมไหนดี วันนี้เรามีดีลสุดคุ้มสำหรับเทศกาลนี้มาแนะนำ 1.RESIDENT EVIL 2 / BIOHAZARD RE:2 (395.67 บาท) ถือว่าลดราคาเร็วมาก ๆ สำหรับเกมระดับ AAA จากทาง Capcom อย่าง Resident Evil 2 ฉบับ Remake เกม Survival Horror สุดตื่นเต้นที่ถูกใจเกมเมอร์ทั่วโลก ที่จะใช้เรารับบทเป็น Leon และ Claire ในการเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ในเมือง Raccoon City  โดยมาให้เกมเมอร์จับจองในราคาไม่ถึง 400 บาทจากราคา 1,199 บาท ซื้อได้ที่นี่ 2.DARK SOULS III (375 บาท) From Software คือทีมงานเจ้าจองรางวัล Game of The Years ล่าสุดจากผลงานอย่าง Sekiro:Shadow Die Twice แต่หากคุณอยากจะสัมผัสเกมที่เป็นต้นแบบของความยากระดับที่ปาจอยทิ้ง ก็ต้องลองเกม Darksoul 3 เกมแนว Action - Adventurer ที่มีจุดเด่นในเรื่องของกราฟิกที่สวยงามและความยากระดับที่เกมอื่น ๆ ก็มอบให้ไม่ได้ ซึ่งหากคุณยังไม่เคยเล่นก็ควรหามาลอง ซื้อได้ที่นี่ 3.Batman: Arkham Knight Premium Edition (182.25 บาท) หนึ่งในเกม Super Heroes ที่ดีที่สุดผลงานจากทีม Rocksteady Studios กับเกม Batman: Arkham Knight เกมแนว Action Adventurer ที่ให้เราสวมบทเป็น Batman ออกต่อกรกับเหล่าร้ายในเมือง Arkham ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและปิดตำนานของซีรีส์ Arkham ได้อย่างงดงาม ซื้อได้ที่นี่ 4.The Witcher 3: Wild Hunt - Game of the Year Edition (389.70 บาท) สำหรับใครที่กำลังอินกับซีรีส์ The Witcher ฉบับ Netflix อยู่ในตอนนี้เชิญมาสานต่ออารมณ์ได้ในเกม The Witcher 3: Wild Hunt ที่เราจะได้รับบทเป็น Geralt ในการตามหา Ciri ในโลกที่แสนกว้างใหญ่ พร้อมกับเนื้อเรื่องสุดเข้มข้นที่จะทำให้คุณนั่งเล่นเกมนี้ได้ทั้งวัน พร้อมกับ DLC ของตัวเกมอีก 2 ในราคาเพียง 389 บาท ซื้อได้ที่นี่ 5.Far Cry 5 - Standard Edition (400 บาท) เปลี่ยนจากเกมแนว Action - Adventurer มาเป็นเกมแนว FPS - Open World กันบ้างกับเกม Far Cry 5 ที่จะให้เรารับบทนายอำเภอมือใหม่ในการรับมือกับลัทธินอกรีต นำโดยหลวงพ่อ Josep Seed ที่พร้อมจะให้กำลังและความโหดร้ายต่อผู้ที่ขัดศรัทธา ซึ่งตัวเกมถือว่าสนุกและเล่นได้ยาว ๆ ซื้อได้ที่นี่ 6.Middle-earth: Shadow of War Definitive Edition (250 บาท) หากจะพูดถึงเกมจากจักรวาล The Lord of The Ring แล้ว Middle-earth: Shadow of War ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมจากจักรวาลนี้ที่ทำออกมาได้ดีมาก ตัวเกมมีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีระบบการเล่นที่ชวนให้ติดหนึบ ซึ่งในตอนนี้ตัวเกมได้อัปเกรดเป็นแบบ Definitive Edition ที่รวม DLC มากมายให้เหล่าเกมเมอร์เล่นเกมนี้ได้ยาว ๆ ซื้อได้ที่นี่ 7.Monster Hunter: World (479.60 บาท) เกมเมอร์หลาย ๆ ท่านอาจจะอยากได้เกมที่เล่นได้ยาวถึงยาวมาก ๆ คงไม่มีเกมไหนจะดีไปกว่าเกมนี้แล้ว Monster Hunter: World เกมที่ให้เรารับบทเป็น Hunter ในการออกล่ามอนสเตอร์สุดโหด โดยรูปแบบของเกมการเล่นนั้นอาจจะใช้เวลาในการศึกษาเล็กน้อย แต่เมื่อเล่นเป็นแล้วคุณจะอยู่กับเกมนี้ยาว ๆ ทั้งวันทั้งคืนเลยทีเดียว ซื้อได้ที่นี่ 8.PLAYERUNKNOWNS BATTLEGROUNDS (279.50 บาท) แม้ว่าในสมัยนี้เกมแนว Battle Royale จะมีให้เราได้เล่นกันอย่างมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมที่ทำให้กระแส Battle Royale โด่งคือเกม PLAYERUNKNOWNS BATTLEGROUNDS หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า PUBG โดยตัวเกมมีกฎที่ง่าย ๆ คือทำอย่างไรก็ได้ให้รอดจากสมรภูมิเดือนแห่งนี้ สำหรับเวอร์ชั่น Steam จะถือว่าเป็นเวอร์ชัน Original ของทีมงานที่มาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามและการแข่งขันแบบ Esports ที่มีอย่างต่อเนื่อง หากคุณไม่เคยลองเกมนี้ Steam Winter Sale คือโอกาส ซื้อได้ที่นี่ 9.Grand Theft Auto V: Premium Online Edition (471.60 บาท) Grand Theft Auto V แม้ว่าตัวเกมจะมีอายุหลายปีแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยตัวเกมจะแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ ๆ คือ Story Mode ที่จะให้เรารับบท 3 หนุ่มโฉดที่มีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาต้องร่วมมือกันในการก่ออาชญากรรมต่าง ๆ และโหมด Online ที่จะให้เราสร้างตัวละครของเราออกไปลุยกับโลกอาชญากรรม ซึ่งหากคุณซื้อเกมนี้ไปการันตีไว้เลยว่าขั้นต่ำ 50 ชั่วโมง ซื้อได้ที่นี่ 10. Cities: Skylines - New Player Bundle (442.12 บาท) Cities: Skylines คือหนึ่งในเกมสร้างเมืองที่ดีที่สุดในตอนนี้ ตัวเกมมีฟังก์ชันในการออกแบบที่หลากหลายตามสไตล์ของผู้เล่น รวมถึงการออกนโยบายประจำเขตที่ทำให้เราจัดโซนของเมืองได้ง่ายขึ้น โดยใน New Player Bundle จะแถม DLC -After Dark และ Mass Transit ที่จะทำให้เมืองของเรามีมิติในการพัฒนามากขึ้น ซึ่งหากคุณไม่เคยสัมผัสเกมนี้เราขอแนะนำให้คุณลองสักครั้งแล้วจะติดใจ ซื้อได้ที่นี่ Steam Winter Sale 2019 เริ่มแล้ววันนี้ถึงวันที่ 3 มกราคม 2021 ดังนั้นชอบเกมไหนรีบซื้อเลยเพราะโอกาสที่เกมจะลดราคาโหดแบบนี้มีไม่บ่อย

Resident Evil 3 Remake อีกหนึ่งเกมยิงผีจากทาง Capcom ที่หลังจากเปิดตัวใน State of Play ครั้งล่าสุดไปแล้ว  ตัวเกมก็ได้เปิดให้สามารถ Pre-Order ได้แล้วในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก แต่เหมือนว่าตอนนี้ตัวราคาของเกมในเวอร์ชั่น PC ตอนนี้ยังมีปัญหาอยู่ครับ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า ราคาของเกมในบางประเทศนั้นแพงกว่าราคาจริงอยู่เกือบ 40% เลยทีเดียว! ในรูปด้านล่างจะสังเกตได้ว่า ราคาของเกมในหลาย ๆ ประเทศอย่าง อังกฤษ , นิวซีแลนด์ , หรือประเทศต้นกำเนิดเกมอย่างญี่ปุ่น นั้นแพงกว่าปกติอย่างมาก แต่ในบางประเทศอย่าง รัสเซีย , เกาหลี หรือ เวียดนาม ตัวเกมกลับมีราคาที่ถูกกว่าราคาต้นถึงเกือบ 50% ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมราคาของเกมถึงแตกต่างกันได้มากขนาดนี้ แต่คิดว่าทาง Capcom คงจะมีการแก้ไขราคาให้ถูกต้องเร็ว ๆ นี้ครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ ทั้งบน PS4 , Xbox One และ PC Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy Vll Remake นั้นกำลังจะวางจำหน่ายในช่วงเดือน 3 ปี 2020 นี้ ล่าสุดทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยรูปภาพ Screenshot เซ็ตใหม่ออกมายั่วแฟน ๆ ซึ่งในบรรดาภาพเหล่านั้น จะมีอยู่ภาพหนึ่งที่เป็นรูปของ ชายหนุ่มผมทอง ที่ดูเหมือนกำลังจะใช้ดาบโจมตี อะไรบางอย่างอยู่ โดยเขาไม่เคยมีบทบาทในตัวเกมเวอร์ชั่น Original มาก่อนเลย สร้างความสงสัยว่า "เขาคือใคร" ในหมู่แฟน ๆ เป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนวันนี้เราจะได้รู้แล้วครับว่าเป็นใคร! Roche คือชื่อของชายหนุ่มปริศนาคนนี้ โดยเขาเป็น 3-C SOLDIER หรือก็คือทหารชั้น Elite ของบริษัท Shinra แบบเดียวกับ Cloud, Zack, หรือ Sephiroth ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเกมเวอร์ชั่น Remake นั้นเอง ทาง Square Enix ได้ทำการปล่อยภาพของชายคนนี้ออกมาอีกภาพหนึ่ง โดยในภาพนั้นจะเป็นตัวของ Roche ที่ยืนพิงรถมอเตอร์ไซค์สีแดงอยู่ ถ้าอ่างอิงจากข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ในเวอร์ชั่น Remake จะมีบอสใหม่ ๆ ในเกมด้วย ทำให้คิดว่า เขาอาจจะเป็นบอสตัวใหม่ที่โผล่มาในฉากที่ Cloud ต้องขี่มอเตอร์ไซค์หนีการไล่ล่าจากทหารของ Shinra ด้วยก็เป็นได้ครับ อย่างที่รู้กันว่าภาค Remake ที่กำลังจะออกในปีหน้านั้น จะยังมีเนื้อเรื่องไม่ครบถ้วน เท่าเวอร์ชั้น Original (เนื้อเรื่องจะมีแค่ช่วงที่อยู่ใน Midgar เท่านั้น) ซึ่งเนื้อเรื่องใน Midgar เอาจริง ๆ แล้วไม่น่าจะยาวมากพอขนาดต้องทำออกมาเป็นแยกภาคแบบนี้ ดังนั้นดูแล้วเนื้อเรื่องของเกมน่าจะเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า Roche นั้นจะเป็นตัวละครที่มีความสำคัญจน อยู่ไปถึงเนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายเลยรึเปล่าครับ Final Fantasy Vll Remake จะวางตำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 ครับ Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ Resident Evil 3 Remake ซึ่งเป็นภาคต่อของ Resident Evil 2 Remake ประกาศว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ ก็สร้างความตื่นเต้นให้กัยเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก ไม่ใช้แค่เพราะเป็นภาคที่คนชื่นชอบมากที่สุด แต่เพราะ Capcom สามารถพัฒนาภาคต่อออกมาได้เร็วมาก ๆ ด้วย ตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PS4 , Xbox One และ PC เลยในวันที่วางจำหน่าย เชื่อว่ามีผู้เล่นไม่น้อยแน่นอนที่รอเล่นเกมนี้บนเครื่อง PC อยู่ วันนี้เราก็ได้รู้สเปคขั้นพื้นฐานเพื่อใช้ในการเล่นแล้วครับ โดยมีสเปคดังนี้! Requires a 64-bit processor and operating system OS: WINDOWS® 7, 8.1, 10 (64-BIT Required) Processor: Intel® Core™ i5-4460 or AMD FX™-6300 or better Memory: 8 GB RAM Graphics: NVIDIA® GeForce® GTX 760 or AMD Radeon™ R7 260x with 2GB Video RAM DirectX: Version 11 อาจจะเพราะว่าใช้ Engine ตัวเดียวกันในการพัฒนา ทำให้สเปคที่ Resident Evil 3 Remake ต้องการแทบไม่ต่างจากภาค Resident Evil 2 Remake เลยครับ และอาจจะด้วยเหตุผลเดียวกันที่ทำให้เกมภาคต่อนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้นก็สามารถวางจำหน่ายได้แล้วเช่นกัน ดังนั้น PC ใครที่เล่น RE2 ได้ น่าจะสามารถเล่น RE3 ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้บน PS4 , Xbox One และ PC Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

Final Fantasy 7 Remake เกมเก่าจากยุคสมัยเครื่อง PlayStation 1 จากทาง Square Enix ที่กำลังจะกลับมาให้สัมผัสอีกครั้งในปี 2020 นี้ ตัวเกมได้มีการปรับปรุงกราฟิกให้สวยทันสมัย ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนระบบเกมเพลย์ ให้ดูมีความ Action มากขึ้น ซึ่งวันนี้ทางผู้พัฒนา ก็ได้มีการปล่อยภาพ ScreenShot เซ็ตใหญ่ออกมายั่วแฟน ๆ ด้วยครับ! ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนา ก็ได้มีการปล่อย Trailer , เกมเพลย์ , รูปภาพมากมาย ออกมาให้เหล่าแฟน ๆ ได้ดูกัน แต่นั้นดูเหมือนจะยังไม่ใช้ทั้งหมดครับ เพราะวันนี้ก็มีรูปภาพอีกกว่า 20 ภาพถูกปล่อยออกมาด้วย ในเซ็ตรูปภาพดังกล่าวนั้น เป็นภาพของตัวละครต่าง ๆ จากมุมมองที่แตกต่างกันไป สามรถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ เซ็ตภาพดังกล่าวนั้นเปิดตัวด้วย ภาพของ Key Arts จากเนื้อเรื่องของเกม ที่ถูกวาดใหม่ให้สวยงาม โดยภาพเซ็ตแรกเป็นของ Tifa ที่นั่งมองท้องฟ้ายามราตรี กับ ภาพของ Sephiroth ที่ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ และในบริษัท Shinra ครับ ต่อมาเป็นรูปภาพของ มุมมองต่าง ๆ ในบริษัท Shinra ซึ่งตัวละครสำคัญที่อยู่ฝั่งบริษัท Shinra เองก็ดูเหมือนจะได้รับการออกแบบใหม่ด้วยครับ สถานที่ต่อมาที่มีภาพถูกปล่อยออกมาก็คือ Train Graveyard ซึ่งในเวอร์ชั่น Original สถานที่แห่งนี้จะไม่ได้มีเหตุการสำคัญอะไรเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าในเวอร์ชั่น Remake นั้น จะมีการเพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามาด้วยในฉากนี้ ต้องรอลุ้นตอนเกมออก ว่าเนื้อเรื่องในช่วงนี้ที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะเป็นยังไงครับ จากนั้นจึงเป็นรูปภาพ ที่โชว์การเล่น ใช้สกิล และต่อสู้ของตัวละคร Aerith ซึ่งเราก็ได้เห็นเกมเพลย์ของเธอเล็กน้อยในคลิปที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้เธอดูจะทำอะไรได้มากกว่าในเวอร์ชั่น Original ครับ ปิดท้ายด้วยภาพของมนตร์อสูร Shiva ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมนตร์อสูร ที่มีให้เห็นใน Final Fantasy แทบทุกภาค โดยจากเกมเพลย์ของมนตร์อสูร ifrit ที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ก็น่าลุ้น อยู่เหมือนกันว่า การโจมตีของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่มีท่าโจมตีน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้า แน่ ๆ แล้ว 1 ท่าครับ Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Resident Evil 2 Remake นั้นนับว่าเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จมาก เพราะนอกจากจะได้รับคะแนนรีวิวที่ดีมากจากทั้งผู้เล่น และสื้อต่าง ๆ แล้ว ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าตัวเกมนั้นจะสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 5 ล้านชุด แซงหน้ายอดขายของตัวเกมเวอร์ชั่น Original ที่ขายได้ 4.94 ล้านชุดไปแล้ว ดังนั้นถ้านับรวม ๆ กัน แปลว่ายอดขายในชื่อของ Resident Evil 2 ทะลุ 10 ล้านไปแล้วครับ! ด้วยยอดขายที่ดีมากขนาดนี้ จึงอาจจะเป็นเหตุผลให้ Capcom ตัดสินใจที่จะทำเกม Resident Evil 3 Remake ออกมา และประกาศวันวางจำหน่ายเป็น 3 เมษายน 2020 ซึ่งพูดได้ว่าเร็วมาก ๆ แต่อาจจะด้วยความที่เนื้อเรื่องของทั้ง 2 ภาคมีช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันมาก การออก RE3 Remake มาให้เร็วที่สุด เพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความต่อเนื่องในการเล่นนั้น อาจจะสามารถช่วยกระตุ่นยอดขายทั้ง 2 ภาคไปในตัวด้วยนั้นเองครับ Resident Evil 2 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 , Xbox One และ PC Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Resident Evil 3 Remake เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อว่านนี้ และมีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 งานนี้เล่นเอาแฟน ๆ ไฮป์ไปตาม ๆ กัน ทาง Capcom เองก็ไม่ได้ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปเฉย ๆ ทำการปล่อยภาพต่าง ๆ ของ Jill Valentine นางเอกภาคนี้ กับสถานที่ในเมือง Racoon City ออกมากว่า 10 ภาพเลยด้วย! สามารถดูรูปดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ โดยในภาพที่ปล่อยออกมามากมายนั้น เราจะได้เห็นเมือง Racoon City ในมุมมองต่าง ๆ กับภาพของจิลในอิริยาบถต่าง ๆ ด้วย น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะเป็น วิดีโอที่ปล่อยออกมาหรือภาพชุดนี้ ก็แทบจะไม่มีรูปของ Carlos Oliveira หรือ Nemsis ที่เป็นเหมือนมาสคอตของ Resident Evil ภาคนี้อยู่เลย แต่คิดว่าอีกไม่นานเราจะได้เห็น Trailer แนะนำตัวละครทั้งสองอย่างแน่นอนครับ Resident Evil 3 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ต้องบอกว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริง ๆ ครับกับเกม Resident Evil 3 Remake หลังจากมีข่าวลือว่า ตัวเกมจะเปิดตัวในวันนี้  และข่าวลือนั้นก็เป็นความจริงครับ ล่าสุดใน State of Play วันที่ 10 ธันวาคม เวลา 21.17 p.m. ตัวเกมก็ได้เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ พร้อมกับประกาศวันวางจำหน่ายเลยด้วย โดยวันที่เกมนี้จะวางจำหน่ายก็คือ 3 เมษายน 2020 นั้นเอง สามารถรับชม Reveal Trailer ได้ข้างล่างนี้เลยครับ! โดยฉากเปิดตัวนั้นเป็นฉากตัวละครหนึ่งกำลังวิงหนีอะไรสักอย่าง ซึ่งนั้นก็คือ Jill Valentine ที่ดูเหมือนกำลังหนีจากเจ้า Nemesis มาสคอตประจำ Resident Evil ภาคนี้อยู่นั้นเอง! ภายใน Trailer ยังมี Game Play Footage อีกนิดหน่อยให้ดูด้วย น่าเสียดายที่เราได้เห็น Carlos Oliveira เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามการที่ได้รู้ว่า Capcom จะวางจำหน่ายเกมนี้วันไหน ก็เป็นเรื่องที่ทำให้แฟน ๆ ไฮป์ไปตาม ๆ กันแล้วครับ Resident Evil 3 Remake มีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 เมษายน 2020 นี้ครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy VII กำลังจะกลับมาอีกครั้งในชื่อ Remake ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหลัง ๆ มานี้ เราก็ได้เห็น Footage ในเกมถูกปล่อยออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นท้างด้านวิดีโอเกมเพลย์ หรือในแบบรูปภาพ แต่นี้อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่ไม่มีเครื่อง PS4 ครับ เมื่อล่าสุด Square Enix ออกมาประกาศแล้วว่า "Final Fantasy VII Remake จะเป็น Exclusive PS4 เป็นเวลา 1 ปี" ครับ! ข่าวนี้ได้มาจากรูปภาพที่ดูเหมือนจะเป็นหน้าปกของกล่องใส่แผ่นเกม โดยสังเกตุได้ที่มุมขว่าล่างของภาพ จะสังเกตุเห็นข้อความที่เขียนไว้ว่า "ตัวเกมนั้นจะ Exclusive สำหรับเครื่อง PS4 จนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2021" ซึ่งนับเป็นเวลา 1 ปี หลังจากตัวเกมวางจำหน่ายพอดี จริง ๆ แล้วไม่ใช้เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะคิดว่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ก็คงคาดการณ์เอาไว้แบบนี้อยู่แล้วครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ส่วนเครื่อง ๆ อื่น ก็คงต้องรอกันไปอีก 1 ปี ครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า Resident Evil 3 Remake กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา และมีกำหนดการจะวางจำหน่ายในปี 2020 นี้ ถึงแม้ว่าทาง Capcom จะยังไม่ได้ออกมาประกาศอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่วันนี้ก็มีหลักฐานอีกหนึ่งชิ้นที่สนับสนุนว่าเกม Resident Evil 3 Remake อาจจะวางขายในปี 2020 จริง นั้นคือรูปภาพหน้าปกของเกมที่หลุดออกมาทาง PSN ทั้งเวอร์ชั่น Z และเวอร์ชั่นธรรมดา รับชมรูปดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ! Gamstat ค้นพบรูปภาพจาก PSN ที่หน้าปกมีคำว่า "BIOHAZARD RE:3" เขียนไว้อย่างชัดเจน โดยมีทั้งรูปหน้าปกเวอร์ชั่นธรรมดา และเวอร์ชั่น Z เลย (ในประเทศญี่ปุ่น เวอรฺ์ชั่น Z คือตัวเกมที่จะไม่มีการ Censored ครับ) หน้าปกที่หลุดออกมานั้น ยังทำให้เราได้เห็น Jill, Carlos กับ Nemesis ของตัวเกมเวอร์ชั่นใหม่ด้วย Jill ยังดูคล้าย ๆ กับเวอร์ชั่น Original อยู่พอสมควร แต่ Carlos กับ Nemesis นั้นดูเหมือนจะได้รับการออกแบบหน้าตามาใหม่ครับ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากที่ปล่อยวิดีโอส่วนอื่น ๆ ของเกมอยู่นาน ในที่สุดพระเอกของเรา Cloud Strife! ก็ได้เปิดตัวกับเขาสักที่ ทั้งที่เป็นตัวละครที่เหมือนกับสัญลักษณ์ของ Final Fantasy 7 Remake แท้ๆ คิดว่าทางผู้พัฒนาอย่าง Square Enix นั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าพระเอกของเราเป็นที่รักของผู้เล่นขนาดไหน Trailer ตัวใหม่นี้ จึงมีแค่ Cloud แค่คนเดียวทั้งวิดีโอเลยครับ! มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากที่พระเอกของ FF7 ที่เหล่าแฟน ๆ ต่างรักมาก ได้วิวัฒนาการจากตัวเหลี่ยม ๆ ในเวอร์ชั่น Original บนเครื่อง PS1 มาเป็น ตัวละคร 3D โคตรเท่ในเวอร์ชั่น Remake บนเครื่อง PS4 นี้ ตัววิดีโอนี้มีความยาว 26 วินาที รับรองเลยว่าเป็น 26 วินาทีที่ได้เห็นความเท่ของพระเอกเราแบบเต็มอิ่มแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1200451856373186560 Credit : VG24/7 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy VII Remake ซึ่งเป็นการกลับมาของเกม RPG ระดับตำนานจากทาง Square-Enix และมีกำหนดจะวางขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 ซึ่งตัวเกมนั้นก็จะลงให้กับเครื่อง PS4 เท่านั้น ไหนๆ ตัวเกมมันก็ Exclusive อยู่แล้ว ก็ทำให้มันพิเศษขึ้นไปอีกนิดแล้วกัน ล่าสุดทาง Official Twitter ของเกม ก็ได้ออกมาบอกว่า ตัวหน้าปกของกล่องใส่แผน จะสามารถกลับด้านได้ นอกจากนี้ถ้าหากว่า Pre-Order ก็จะได้รับ Chocobo Chick Summon Materia DLC ไปเลยฟรีๆ ด้วยครับ! เอาจริงๆ แล้วเราก็ไม่ค้อยได้เห็นเกมที่สามารถกลับด้านของปกได้เท่าไหร่นัก โดยปกด้านปกติของเกมเวอร์ชั่นนี้ จะเป็นรูปของ Cloud ที่ยืนมองบริษัทชินระอยู่ แต่ถ้าชอบปกเรียบๆ แบบสีดำล้วนแล้วมีโลโก้ของเกมสวยเด่นเพียงอย่างเดียวเหมือนกับที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถกลับด้านของปกออกมาโชว์แค่นั้นได้เหมือนกันครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199735127519182848 Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เรียกได้ว่าช่วงนี้ปล่อยของกับแบบไม่มีหยุดจริงๆ กับเกม Final Fantasy 7 Remake เพราะนอกจากจะปล่อยภาพ Artwork ทั้งสถานที่หรือตัวตัวละคม ออกมายั่วแฟนๆ มากมายแล้ว ยังมีการปล่อยเกมเพลย์ของตัวละครต่างๆ พร้อมกับเปิดเผยระบบการเล่นที่เป็นแบบ Realtime Battle System อีกด้วย ล่าสุดก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์ใช้สกิล Tempest ของ Aerith เช่นกัน โดยสกิลนี้ ตัว Aerith จะทำการปล่อยคริสตัล ออกไปยังพื้นที่เป้าหมาย จากนั้นจะเกิดการระเบิดขึ้นรอบๆ คริสตัลที่ปล่อยออกไป สร้างความเสียหายเป็นวงกว่าง นั้นจึงหมายความว่าสกิลนี้คือสกิลโจมตีหมู่จากระยะไกลนั้นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีรึเปล่า เพราะดูเหมือนว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Remake นี้ Aerith ดูจะมีความสามารถใรการต่อสู้ มากกว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Original ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199659383518420992?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1199659383518420992&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-vii-remakes-newest-video-shows-off-aeriths-tempest-attack Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งนเกมที่เหล้าผู้เล่นต่างรอค้อยกันมาอย่างยาวนาน และใน่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็น Footage รวมถึงฉากต่างๆ ในเกมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเกมเพลย์ หรือว่าภาพ Artwork ที่เอาของฉากเก่าๆ มาวาดใหม่ได้อย่างสวยงาม และล่าสุดก็มีการปล่อยภาพของสถานที่ต่างๆ ออกมาอีกด้วย! ครั้งนี้มีภาพของสถานที่ต่างๆ ภายในเกม ก็ถูกปล่อยออกมาด้วยกัน 3 ภาพ โดยทั้งหมดเป็นภาพจาก Sector 5 ประกอบไปด้วย โบสถ์ของ Aerith , บ้านของเธอทั้งมุมมองจากภายนอก และภายใน ซึ่งบอกเลยว่า ภาพสถานที่ต่างๆ นั้นถ้าไม่บอกว่าอยู่ใน Sector 5 ก็คงไม่รู้ว่า สถานที่เหล่านี้มันอยู่ในเขตที่เป็นสลัม! เพราะมันดูสวยงามเกินกว่าจะไปอยู่ในสลัมได้จริงๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199327194608283648 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Game of The Year ถือว่าเป็นหนึ่งในรางวัลสุดยอดของคนสร้างเกม ที่ในหนึ่งปีจะมีผู้ที่ได้รับรางวัลนี้เพียงเกมเดียวเท่านั้น ซึ่งในเวทีการประกวดเกมจะมอบให้กับเกมที่ดีที่สุดของปีนั้น ๆ ทำให้รางวัลนี้กลายเป็นรางวัลที่ทุกค่ายเกมหมายปองและในปี 2019 นี้เองก็มีเกมเทพ ๆ ออกมาให้เราได้เล่นกันตลอดทั้งปีปัจจุบันรางวัล Game of The Year จะขึ้นอยู่กับเวทีการประกวดต่าง ๆ โดยเวทีที่ได้รับความนิยมได้แก่ Golden Joystick Awards งานมอบรางวัลเกมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ปัจจุบันมีอายุเกือบ 37 ปีแล้ว ซึ่งใช้ผลโวทจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก The Game Awards งานมอบรางวัลเกมของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่จะใช้ผลโวทจากตัวแทนของบริษัทเกมและ Influence ในวงการเกมในการคัดเลือก Game of The Year British Academy Games Awards งานประกาศผลรางวัล Game of The Year ของประเทศอังกฤษ โดยมี British Academy of Film and Television Arts เป็นคนควบคุมงาน นอกจากนี้รางวัล Game of The Year สื่อสำนักต่าง ๆ รวมถึงเว็บไซต์เกี่ยวกับเรื่องเกมทั่วโลกสามารถที่จะมอบรางวัลนี้ได้ เพียงแต่ว่าจะได้รับความนิยมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของแต่ละคน ซึ่งค่ายเกมต่าง ๆ ส่วนมากจะอยากได้รางวัลนี้เพราะนอกจากจะได้ชื่อเสียงแล้ว ยังมีผลต่อยอดขายอีกด้วยและในปีนี้พวกเราพวกเรา Gamefever จึงขอแนะนำเกมที่มีโอกาสได้รางวัล Game of The Year จากสำนักต่าง ๆ มากที่สุดมานำเสนอให้กับเพื่อน ๆ กัน 1.Super Smash Bros. Ultimate สุดยอดเกมแนว Fighting จากฝั่งของ Nintendo ที่นำเอาตัวละครจากเกมต่าง ๆ ลงมาต่อสู้กันในเวมีขนาดย่อม ที่ทำให้ออกมาได้สนุกและเร้าใจมาก ๆ โดยจุดเด่นที่จะทำให้เกมนี้ได้รางวัล Game of the Year คือความบันเทิงที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพื่อความสนุก ระบบ Community ไปจนถึงการแข่งขัน Esports ทำให้เกมนี้เป็นตัวเต็งมาก ๆ ที่จะได้รางวัลนี้ไปครอบครอง 2.Sekiro: Shadows Die Twice หากพูดถึงเกมที่เป็นกระแสในช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมาคงไม่มีเกมไหนหนีเกมนี้ไปได้ Sekiro: Shadows Die Twice เกมแนว Action - Adventurer ที่เน้นการต่อสู้ที่เร้าใจ ท้าทายและตื่นเต้น พร้อมกับภาพกราฟิกที่สวยงาม ทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมมากในช่วงต้นปี ซึ่งปีนี้ยังไง Sekiro ต้องมีรางวัลติดไม้ติดมือไปอย่างน้อยหนึ่งรางวัลอย่างแน่นอน 3.Death Stranding หนึ่งในเกมที่เป็นประเด็นร้อนกันมากที่สุดในช่วงนี้ คงหนีไม้พ้นเกม Death Stranding ที่ได้สร้างนิยามของเกมขึ้นมาใหม่ ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีตามสไตล์ของ Hideo Kojima ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้อเรื่องและเกมการเล่นที่ทำออกมาได้ดีมาก ในขณะเดียวกันหลาย ๆ คนก็อาจจะไม่ชอบเกมแนวนี้เช่นกัน ทำให้ตัวเกมอยู่ในภาวะที่ว่า "หากไม่ชอบก็จะเกลียดเกมนี้ไปเลย" แต่หากมองข้ามจุดนี้ไปตัวเกมก็คู่ควรกับรางวัล Game of The Year เช่นกัน 4.Star Wars Jedi: Fallen Order กลายเป็นหนึ่งในเกม Star War ที่ดีที่สุดไปอีกเกมแล้วสำหรับ Star Wars Jedi: Fallen Order ที่ได้ออกมาสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในแง่ของระบบการเล่นที่สนุกเร้าใจและเนื้อเรื่องของเกมที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เกมนี้ได้เข้าชิงรางวัล Game of The Years จากหลาย ๆ เวที ซึ่งแฟน ๆ ของซีรีส์ Star Wars เองต่างก็หวังให้เกมนี้ได้เช่นกัน 5.Resident Evil 2 (Remake) ถือว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Capcom กับการนำเอาเกมในตำนานมา Remake ใหม่กับเกม Resident Evil 2 ที่ตัวเกมนำเสนอความเป็น Survival Horror ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแฟนเกม Resident Evil หรือว่าคอเกม Action ต่างก็ถูกใจเกมนี้ ซึ่งเราต้องติดตามกันต่อไปว่า Leon และ Claire จะแบกรางวัล Game of The Year ปีนี้ได้หรือไม่ 6.Kingdom Hearts III Kingdom Hearts III คือเกมแนว Action - RPG ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการนำเอาตัวละครจาก Disney มาผสมกับการทำเกมอย่าง Square Enix ทำให้ได้รับความนิยมมากจากแฟน ๆ ของทั้งสองค่าย สำหรับตัวเกมภาคล่าสุดถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งในเรื่องกราฟิก ระบบการเล่นและเนื้อเรื่องที่เป็นจุดขายของตัวเกมทุก ๆ ภาค หากปีนี้ตัวเกมได้รางวัล Game of The Year ก็ถือว่าสมเหตุสมผลเช่นกัน 7.Fire Emblem: Three Houses หนึ่งในเกมจากเครื่อง Nintendo Switch ที่ต้องหามาเล่นให้ได้ Fire Emblem: Three Houses นำเสนอเรื่องราวการต่อสู้กันของสามประเทศที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมและระบบการเล่นที่น่าหลงใหล ทำให้เราสามารถเล่นเกมนี้ทั้งวันทั้งคืน โดยเกมนี้เกมเมอร์หลาย ๆ คนต่างยกให้เป็นเกมจากเครื่อง Nintendo Switch ที่ดีที่สุดของปี 2019 เคียงคู่กับ Smash Bros. เลยทีเดียว 8.The Outer Worlds เกมนี้ในประเทศไทยอาจจะไม่ค่อยมีข่าวเท่าไหร่ แต่สำหรับต่างประเทศโดยเฉพาะทางยุโรปและสหรัฐอเมริกาเกมนี้ถือว่าได้รับความนิยมมาก โดยจุดเด่นที่แข็งแกร่งที่สุดของเกมนี้คือแนวทางในการดำเนินเรื่องที่หลากหลาย ตามสไตล์การเล่นของผู้เล่น ซึ่งตัวเกมทำออกมาได้อิสระมาก ๆ จนยากที่เกมไหนจะเลียนแบบได้และเกมเมอร์หลาย ๆ คนต่างเสนอเกมนี้เข้าชิงรางวัล Game of The Year อย่างไม่ขาดสาย 9.Control Control เกมแนว Action - Adventurer จากทีมงาน Remedy Entertainment ที่มีจุดขายในเรื่องงานภาพและเนื้อเรื่องของเกมที่ไม่เหมือนใคร ในเมืองไทยกระแสของเกมนี้อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ต่างประเทศตัวเกมได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากจนสามารถเข้าชิงตำแหน่ง Game of The Year ได้อย่างไม่ยากเย็น 10.Call of Duty: Modern Warfare Call of Duty: Modern Warfare ถือว่าเป็นเกมรายปีที่เหล่าเกมเมอร์มักจะได้เล่นกันเป็นประจำ แต่ว่าตัวเกม Call of Duty: Modern Warfare ฉบับ Soft Reboot ครั้งนี้ถือว่าทำออกมาได้เกินมาตรฐานอย่างมาก ทั้งในเรื่องของเนื้อเรื่องที่กระชับ รวดเร็วและถึงอารมณ์ เกมการเล่นที่พัฒนามากขึ้นจากตัวเกมภาคก่อน ๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์เดิม ยังไงก็เกมนี้ต้องติดอยู่ในชื่อผู้เข้าชิงรางวัล Game of The Year อย่างแน่นอน แม้ว่าทุกเกมที่กล่าวมาล้วนจะทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง แต่น่าเสียดายที่รางวัล Game of The Years มีให้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากเกมที่เราเชียร์ไม่ได้รางวัล Game of The Year ก็อย่าเสียใจไป

หลังจากที่ปล่อยภาพเวอร์ชั่น Remake ต่างๆ ของเกมออกมาแล้ว ทางผู้พัฒนาก็ยังออกมาบอกถึงสิ่งใหม่ๆ ที่ผู้เล่นจะได้เจอในเกมเวอร์ชั่น Remake นี้อีกด้วย โดยเรื่องนี้ได้รับการยืนยันจากคุณ Tetsuya Nomura ซึ่งเป็น Director เองผ่านทาง Blog Post ว่า "จะมีบอสใหม่ในเนื้อเรื่องของเกมภาคนี้ด้วย!" คุณ Tetsuya Nomura ได้พูดออกมาผ่านทาง Official Square Enix Blog ว่า "ถ้าพูดถึงบอสตัวสุดท้ายของ Midgar ทุกคนน่าจะคิดถึง M.O.T.O.R แต่ในเวอร์ชั่น Remake จะมีบอสตัวใหม่ปรากฎตัวขึ้นมาแทน และมันจะสร้างความตื่นเต้นอย่างมากให้กับผู้เล่นแน่นอน" และยังพูดอีกด้วยว่า "เรากำลังทำบอสใหม่ตัวต่อไป อยู่ด้วยตอนนี้" หมายความว่า เราจะมีบอสใหม่ในภาค Remake อีกอย่างน้อย 2 ตัวเลยทีเดียวครับ Final Fantassy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

Square Enix ได้ทำการปล่อย Footage ต่างๆ ของเกม Final Fantasy 7 Remake ออกมามากมาย ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Limited Break ของ Tifa หรือการเรียกใช้ Summon Ifrit ให้ออกมาช่วยต่อสู้ วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยภาพใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย โดยภาพเหล่านี้ก็คือฉากในวันวานของเกม Final Fantasy 7 Original นั้นเอง! ภาพที่ปล่อยออกมานั้นเป็นภาพในฉากของ Aerith กับ Barrett โดยฉากของของ Aerith นั้นเป็นภาพที่เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าบนสถานที่ซึ่งน่าจะเป็นลานจอดเครื่องบิน สวนทาง Barrett นั้นเป็นฉากที่ยืนมองหย่อมดอกไม้ ที่ขึ้นอยู่ในโบส Midgar กับ Marlene โดยสามารถดูภาพ Original และเวอร์ชั่น Remake ได้ข้างล่างนี้เลยครับ  Aerith : Original  Aerith : Remake Barrett & Marlene : Original Barrett & Marlene : Remake นอกจากนี้ Official Twitter ก็ยังมีการโพสต์รูปของ Reno กับ Rude ในเวอร์ชั่น Remake พร้อมกับ อธิบายถึงความสามารถของทั้งสองคนด้วย โดยได้เขียนเอาไว้แบบนี้ "Reno เป็นคนในหน่วย Investigation ของ Shinra มีจุดเด่นคือเรื่องความเร็ว กับความชำนาญในการใช้อาวุธ" และ "Rude ไม่ใช้อาวุธ และเป็นคนไม่ค้อยพูด" นอกจากนี้ก็ยังมีภาพของ Moggle & Chocobo ที่เป็น Summon ตัวใหม่อีกด้วย https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199041389314682880 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199010105301196801 Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake สัญญาไว้ว่าจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า วันที่ 3 มีนาคม 2020 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ค้อยมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาเกมออกมาแต่อย่างใด แต่ทางผู้พัมนาก็ได้ทำกหารปล่อย Gameplay Footage ออกมามากมายแทน ก่อนหน้านี้ก็มีโชว์ใช้สกิล Limit Break ของ Tifa ไป คราวนี้ก็ปล่อยวิดีโอตัวใหม่โชว์การเรียกใช้ Summon อีกด้วย! โดยภายในวิดีโอที่ปล่อยออกมานั้น เป็นการเรียก Ifrit ออกมาช่วยสู้ คือออกมาเดินเป็นเพื่อนเราช่วยต่อยบอสจริงๆ ซึ่งจะต่างจากตัวเกมเวอร์ชั่น Original ที่เมื้อกดเรียกแล้วจะออกมาโจมตีครั้งเดียวแล้วหายไป แน่นอนว่า Ifrit ก็ไม่ได้อยู่ช่วยเราไปตลอดกาล หลักจากเรียกออกมาแล้วจะมีหลอดสีม่วงที่แสดงให้เห็นว่าซัมม่อนของเราจะหายไปเมื่อไหร่ และเมื่อหลอดดังหล่าวหมดไป ซัมม่อนที่เรียกออกมา จะทำการโจมตีครั้งใหญ่ก่อนจากไปด้วยนั้นเอง เรียกได้ว่าสร้างความตื่นเต้นให้เหล่าแฟนๆ ไปตามๆ กัน เกม Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1192804213362954240 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกม RPG ระดับตำนานอย่าง Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่จะถึงนี้ ซึ่งตัวเกมก็ได้เปิดให้สามารถทดลองเล่นได้ในงาน Tokyo Game Show และ Thailand Game Show ที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็น Gameplay Footage กันไปมากมายแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสเกมด้วยตัวเอง ทาง Official ก็ได้ปล่อยวีดีโอต่างๆ ออกมาเพื่อเอาใจแทน ก่อนหน้านี้ก็มีวิดีโอที่แสดงการใช้ระบบ Tactical ในการต่อสู้ไปแล้ว ล่าสุดเองก็มีการปล่อยออกมาอีกหนึ่งวิดีโอ โดยเป็นการโชว์ใช้สกิล Limit Break ภายในเกมให้ดู ซึ่งครั้งนี้ใช้ตัวละคร Tifa ในการโชว์! Limit Break เป็นระบบที่มักจะเห็นใน Final Fantasy หลายภาค โดยเป็นเหมือนสกิลท่าไม้ตายนั้นเอง การที่จะสามารถใช้สกิลนี้ได้ผู้เล่นจำเป็นต้องเก็บ Limit Gauge ของตัวละครนั้นให้เต็มก่อน ส่วนตัว Limit Gauge เองนั้นจะได้รับเวลาโดนดาเมจจาก Abilities ของศัตรู ถ้าสงสัยว่า "ท่าโจมตี Limit Break ของ Tifa เป็นยังไง?"แล้วละก็ รับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1190207100078571520 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหล่าเพลเยอร์รอคอยการกลับมาของสุดยอดตำนาน RPG อย่าง Final Fantasy 7 Remake ซึ่งในงาน Thailand Game Show 2019 ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดให้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ได้ฟรีด้วย(แถวยาวมากเวอร์) หลังจากที่เราได้เห็นเกมเพลย์และกราฟิกของเกมกันไปแล้ว ล่าสุดทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมากล่าวด้วยอีกว่าในภาคนี้จะมี Squats Minigame เหมือนกับเวอร์ชั่นคลาสสิคให้เล่นด้วย! official Twitter ได้โพสวิดีโอที่สัมภาษณ์คุณ Yoshinori Kitase ตำแหน่ง Producer ของเกม FF7 Remake ว่า "ทำไมถึงได้ใส่ Squats Minigame เข้ามาด้วย?" โดยเขาก็ได้ตอบว่า "เรารู้ว่าแฟนๆ รักทุกอย่างที่เป็น Final Fantasy 7 เราจึงอยากจะทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เกมนี้เหมือนกับเวอร์ชั่นคลาสสิคที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมินิเกมที่เล็กแค่ไหนก็ตาม" นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะแม้ว่าจะเป็นตัวเกมเวอร์ชั่น Remake แต่เราคงจะได้เห็นฉากในวันวานที่แสนคิดถึงในเกมภาคนี้ด้วยอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1188470658046414848 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ฏิเสธไม่ได้ว่าปี 2019 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับค่ายพัฒนาเกมรุ่นเก๋าอย่าง Capcom ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายจากการคืนชีพซีรี่ส์เกมยอดนิยมของค่ายอย่าง Resident Evil 2 Remake และ Devil May Cry 5 จนสามารถทำยอดขายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของค่ายในปีนี้ ล่าสุด ดูเหมือนว่าเหล่าแฟนๆ เกมซีรี่ส์เก่าๆ ของ Capcom อาจจะมีเรื่องให้ยินดีกันแล้ว เมื่อ Capcom ประกาศว่าค่ายจะนำ "ซีรี่ส์เกมที่หยุดนิ่ง" ของค่ายมาทำใหม่มากขึ้น โดยอิงความสำเร็จของทั้ง Resident Evil 2 Remake และ Devil May Cry 5 เป็นเหตุผลหลักในการกำหนดทิศทางใหม่ครั้งนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลว่าซีรี่ส์ที่ค่ายเล็งๆ จะเอามาคืนชีพใหม่มีอะไรบ้าง แต่ Capcom เองก็เป็นค่ายพัฒนาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีซีรี่ส์เกมดังๆ ในมืออยู่หลายเกมไม่ว่าจะเป็น Dino Crisis หรือ Darkstalkers ซึ่งต่างก็ไม่ได้ออกเกมภาคใหม่มานับสิบปีแล้วทั้งคู่ ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นเกมเหล่านี้ในฉบับปรุบปรุงใหม่ในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ก็ได้นะ! แหล่งข่าว: PCGamesN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์ที่จะออกในช่วงต้นปีหน้าอย่าง Final Fantasy 7 Remake ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่ เหล่าเกมเมอร์ติดตามข่าวสารและรอคอยกันอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าทาง Square Enix ก็ได้มีกการปล่อยตัวอย่างกับรูปออกมายั่วเรื่อยๆ ล่าสุด Official Twitter ก็ได้ปล่อยวีดีโอเกมเพลย์โชว์การใช้ระบบ Tactical ในการต่อสู้จริง! ในระหว่างการต่อสู้ภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่ม "X" เพื่อเอาสู่ Tactical Mode ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพโดยรอบถูกทำให้สโลว์ลงอย่างมาก เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกการกระทำต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยหลบการโจมที่รุนแรง หรือใช้ต่อคอมโบก็ได้เช่นกัน เหมือนในตัวอย่างที่มีการใช้ Tactical เพื่อสโลว์เปิดโอกาสให้ Cloud เลือกใช้สกิล Braver ในการฟันปิดฉากได้นั้นเอง ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1182235632334200834 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในปัจจุบันเรามักจะเห็นการจัด Collaboration ระหว่างเกมด้วยกัน หรือ ระหว่างเกมกับหนังดังบ่อยๆ ซึ่งการจัดกิจกรรมภายในเกมแบบนี้ มันก็มักจะเป็นการสร้างสีสันให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดี ล่าสุดเกมล่าแย้อย่าง Monster Hunter World: Iceborne ประกาศจะจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นอีกครั้งและเกมที่ถูกนำมา Collaboration ด้วย รอนี้ดันเป็น Resident Evil 2! ที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย อีเว้นท์นี้จะเริ่มในช่วงเดือน พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ ส่วนตัวที่จะเป็นตัวหลักให้เราได้ล่ากันก็คงไม่พ้น Vaal Hazak มังกรเชื้อโรคนั้นแหละ แน่นอนว่าการจัด Collaboration แบบนี้ มันก็ต้องมาพร้อมกับ"ชุดเกราะพิเศษ"ที่หาได้ในอีเว้นเท่านั้น ทั้งยังมีเครื่องประดับอาวุธเป็น Tofu หรือเจ้าเต้าหู่ประจำซีรีส์ RE2 ให้เก็บสะสมกัน นอกจากนี้จะมีสกิล Mr.X ให้น้อง Handler ใส่ในช่วงอีเว้นท์อีกด้วย งานนี้ไม่รู้จะเอาฮาไปถึงไหน! Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

MediEvil เกม RPG ที่ให้เราเล่นเป็นกระดูกตาเดียวออกผจญภัย ในดินแดนต่างๆ ซึ่งออกมาครั้งแรกในยุคเครื่อง PlayStation 1 เชื่อว่าเกมนี้คงจะยังอยู่ในใจหลายๆ คนแน่นอน ล่าสุดเกมนี้ก็ได้ทำการพอร์ตมาลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 ในชื่อ MediEvil Remake ด้วย ถ้าใครไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนหรือว่าจำไม่ได้แล้วว่าเกมมันเป็นยังไง สามารถไปโหลดตัว Demo มาเล่นได้ฟรีตอนนี้ครับ เพื่อเป็นการเอาใจแฟนๆ ไม่ว่าใครก็ตามที่เข้าไปทดลองเล่นตัว Demo หากซื้อเกมมาเล่นต่อด้วยแล้ว ก็จะได้รับหมวกในเกมไปใช้ฟรีๆ อีกด้วย ส่วนตัวเกมนั้นจะวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ถ้าใครคิดถึงเกม RPG สนุกๆ แบบวันวาน คิดว่าเกมนี้ก็ไม่ควรพลาดครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อย่างที่ทราบว่า Final Fantasy 7 Remake ได้ปรับเปลี่ยนระบบการต่อสู้ให้เป็นเกมแนวแอ็คชั่นแทนที่จะเป็นแนวเทิร์นเบส แต่สำหรับแฟนยุคเก่าๆ ของเกมนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่า อายุอานามเองก็ไม่ใช่น้อยๆ เล่นเกมแอ็คชั่นมากๆ ก็จะต้องมีเวียนหัวกันบ้าง แต่ว่าตัวเกมนี้ก็จะมี Classic Mode เอาใจผู้เล่นหน้าเก่าเช่นกัน ที่จะเป็นการผสมผสานระหว่างการโจมตีแบบแอ็คชั่นและการเล่นแบบสไตล์ RPG เก่าๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยโปรดิวเซอร์ของเกมนี้อย่างคุณ Yoshinori Kitase ได้ Live Stream สดภายในงาน Tokyo Game Show 2019 และอธิบายถึงระบบ Classic Mode นี้ว่าเวลาต่อสู้ตัวเกมจะทำการโจมตีและหลบหลีกให้อัตโนมัติ แต่ถ้าเวลาเราโจมตีไปเรื่อยๆ และจนทำให้เกจ ATB ด้านล่างของเลือดตัวละครเต็ม เราจะสามารถกดหลังเพื่อเข้าสู่ Wait Mode จะทำการสโลว์โมชั่นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ไอเท็ม, สกิลต่างๆ ได้นั่นเอง (ดูคลิปวิดีโอได้ทางด้านล่าง) https://www.youtube.com/watch?v=0x1AGz8DwtY Final Fantasy 7 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ปล่อยของกันออกมาเพียบสำหรับ Final Fantasy 7 Remake ภายในงาน Tokyo Game Show 2019 ที่ผ่านมา ร่วมถึงล่าสุดผู้พัฒนาก็ได้เผยคลิป Demo การต่อสู้ระหว่าง Cloud, Tifa และ Aerith ที่กำลังต่อสู้กับบอสสุดโหดอย่าง Aps ภายในท่อระบายน้ำ Midgar ซึ่งจากภายในคลิปวิดีโอเราจะได้เห็นการสลับตัวเล่นแต่ละตัวละครอย่างลื่นไหล รวมถึงยังได้เห็นการโจมตีต่างๆ ของแต่ละตัวละครพร้อมทั้งการ Summon อสูรอย่าง Ifrit มาช่วยโจมตีอีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=1tjwcrIv3Co&t=235s โดยระบบการต่อสู้ของเกม Final Fantasy 7 Remake จะผสมผสานการโจมตีแบบแอ็คชั่นสมัยใหม่ และระบบ RPG สมัยเก่าที่เวลาจะเลือกใช้สกิลหรือไอเท็มตัวเกมจะหยุดทั้งหมดนั่นเอง โดยเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ให้สาธยายกันสามวันสี่คืนก็ไม่จบจริงๆ กับอิทธิพลอันใหญ่หลวงที่เกม Final Fantasy VII มี ทั้งต่อเหล่าเกมเมอร์ที่เติบโตขึ้นในยุคค.ศ. 90 ตอนปลาย ไปจนถึงแนวเกม RPG และวงการเกมในภาพกว้าง ตั้งแต่การใช้กราฟฟิคแบบโพลิกอน 3D ทั้งเกมเป็นเกมแรกๆ ของยุค แนวทางการออกแบบศิล์ปที่ผสมผสานเทคโนโลยีไฮเทคเข้ากับความเป็นแฟนตาซีที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ Final Fantasy จวบจนทุกวันนี้ แถมยังเป็นเกมที่ยกระดับให้ค่ายเกมญี่ปุ่น Square Soft กลายเป็นค่ายเกมแนวหน้าที่รู้จักกันไปทั่วโลกแม้กระทั่งในตลาดตะวันตก แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 20 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่เกมวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1997 แต่เกม Final Fantasy VII ก็ยังคงเป็นเกม JRPG โปรดของผู้เล่นเกมหลายๆ คน ที่ยังคงยกให้เกมเป็นหนึ่งใน JRPG ที่ดีที่สุดที่เคยสร้างมาเลยทีเดียว ด้วยประการต่างๆ ที่ว่าไปข้างต้น ทำให้การมาถึงของเกม Final Fantasy VII Remake สร้างความตื่นเต้นและกังวลให้กับเหล่าแฟนเกมทั่วโลกไปพร้อมๆ กัน ในแง่หนึ่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่เหล่าแฟนเกมรุ่นใหญ่จะได้หวนคืนสู่โลก Gaia และเหล่าตัวละครอันเป็นที่รักที่ถูกสร้างใหม่ด้วยกราฟฟิคอันสวยงามของเกมยุคปัจจุบัน แถมยังเป็นโอกาสอันดีที่เหล่าเกมเมอร์รุ่นเด็กๆ จะได้สัมผัสกับเกม RPG ระดับตำนานนี้เป็นครั้งแรกในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายกว่าการหาเกมยุค PS1 กลับมาเล่นอีกด้วย แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเกม Final Fantasy VII Remake ที่ผู้พัฒนาประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นอันเป็นหัวใจหลักไปอย่างสิ้นเชิง อาจจะทำให้แฟนๆ เกมที่ยังคงรักเกมภาคเก่าหัวปักหัวปำรู้สึกไม่ถูกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเกมในดวงใจ และอาจจะแอบผิดหวังเล็กๆ กับระบบการเล่นใหม่ที่จะเข้ามาทดแทนการเล่นแบบคลาสสิคที่โหยหาจะได้สัมผัสอีกครั้ง ผู้เขียนได้มีโอกาสลองเล่นเกม Final Fantasy VII Remake ในงาน Tokyo Game Show 2019 ที่ผ่านมา (ขอขอบคุณ Square Enix และ PlayStation ที่จัดช่องเวลาเอาไว้ให้) โดยเดโมที่ได้ลองเล่นคือฉากการวางระเบิดเตาปฏิกรณ์ Mako ซึ่งมีคนบอกมาว่าคือฉากเปิดเกมภาคดั้งเดิม โดยเราจะสามารถควบคุมตัวละครได้สองตัวคือตัวเอก Cloud Strife และ Barret Wallace สลับไปมาระหว่างตัวละครทั้งสองได้ตลอดเวลา สิ่งแรกที่ผู้เล่นทุกคนน่าจะสังเกตคือภาพกราฟฟิคของเกม ที่ทำออกมาได้สมจริงคมชัดยิ่งกว่าเกมของ Square Enix หลายๆ เกมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ตั้งแต่กราฟฟิคส่วนพื้นผิวของสิ่งของ ไปจนถึง Particle Effect แสงสีระยิบระยับตามฉาก ที่ทำออกมาได้อย่างปราณีต เปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่ยิ่งสังเกต ลงไปก็ยิ่งเห็นมากขึ้น เช่นเดียวกับอนิเมชั่นและสีหน้าของตัวละครต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Motion-Capture ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายและใบหน้าของตัวละครมีความลื่นไหลสมจริงมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบที่สามารถเสริมอรรถรสในส่วนของเนื้อเรื่องเกมได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนมาใช้มุมมองแบบบุคคลที่สามก็ช่วยในการสร้างบรรยากาศของเกมได้อีกเช่นกัน เพราะผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครให้สำรวจตามฉากเพื่อหาไอเทมได้อย่างอิสระ โดยมุมมองที่เปลี่ยนไปยังทำให้สถานที่ในฉากที่เคยเป็นเพียงภาพแบนๆ มีมิติขึ้นมา ช่วยสื่อถึงขนาดและ/หรือความตื้นลึกหนาบางของแต่ละสถานที่ได้ดีกว่าเดิม ทำให้ฉากที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนมีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน [caption id="attachment_28612" align="aligncenter" width="1024"] ภาพเก่าเอามาเล่าใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม[/caption] ในส่วนของเกมเพลย์นั้น ระบบการเล่นของเกม Final Fantasy VII Remake จะผสมผสานการควบคุมแบบแอคชั่นเต็มรูปแบบเข้ากับระบบ ATB ที่พบเห็นได้ในเกม Final Fantasy หลายๆ ภาคที่ผ่านมา โดยการต่อสู้จะเน้นใช้การโจมตีธรรมดาเป็นคอมโบเพื่อเก็บเกจ ATB ของตัวละคร ซึ่งจะกลายมาเป็นทรัพยากรสำหรับใช้ท่า Ability ต่างๆ ของตัวละครอีกที ตัวแทนจาก Square Enix ได้อธิบายว่าเกมถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นใช้การโจมตีธรรมดา (ปุ่มสี่เหลี่ยม) เพื่อเพิ่มเกจ ATB เป็นหลักมากกว่าเพื่อสร้างความเสียหาย และใช้ความสามารถพิเศษต่างๆ เพื่อปลิดชีพศัตรูอีกที ถ้าจะให้เปรียบความแอคชั่นของเกมกับเกมอื่นๆ ของผู้พัฒนา Square Enix อย่าง Final Fantasy XV หรือ Kingdom Hearts ผู้เขียนรู้สึกว่า FFVIIR (Final Fantasy VII Remake) น่าจะใกล้เคียงกับ Final Fantasy XV มากกว่า เพราะผู้เล่นก็ยังมีความสามารถในการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีของศัตรูไม่ต่างกัน แต่ในขณะเดียวกัน FFVIIR ก็ยังมีความลื่นไหลมากกว่า Final Fantasy XV อยู่หน่อยจากอนิเมชั่นการโจมตีที่รวบรัดกว่า [caption id="attachment_28613" align="aligncenter" width="1024"] การต่อสู้แบบแอคชั่นที่ดุเดือดรวดเร็ว[/caption] นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถสลับไปมาระหว่างตัวละครเพื่อใช้ความสามารถเฉพาะตัวของตัวละครนั้นๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนเป็น Barret เพื่อใช้แขนปืนกลของเขากำจัดศัตรูที่อยู่ที่สูงที่ Cloud ใช้ดาบฟันไม่ถึงนั่นเอง น่าสนใจว่าตัวละครร่วมทีมอื่นๆ จะมีความสามารถเฉพาะตัวแตกต่างกันแค่ไหน แต่อาจจะด้วยความที่เดโมถูกปรับให้ง่าย หรืออาจจะเพราะเป็นส่วนเริ่มต้นของเกมก็ดี ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าแทบไม่ได้จำเป็นต้องใช้ท่าพิเศษหรือใช้การวางแผนใดๆ ก็สามารถกำจัดศัตรูธรรมดาๆ อย่างทหารชินระหรือหุ่นโดรนตัวเล็กๆ ตามฉาก ได้แบบไม่มีปัญหาด้วยการกดปุ่มโจมตีซ้ำๆ เฉยๆ ทำให้ยังไม่ค่อยเห็นภาพนักว่าถ้าเกมเริ่มเพิ่มลูกเล่นต่างๆ มากขึ้น (เช่นมนต์ซัมม่อน หรือแค่เพียงเพิ่มตัวละครในปาร์ตี้อีกซักตัวสองตัว) จะทำให้เกมเพลย์ท้าทายมากกว่านี้แค่ไหน แต่โดยเบื้องต้นนั้นถือว่าเกมเพลย์ของ FFVIIR สอบผ่านในแง่ของความรู้สึกอันลื่นไหลเป็นธรรมชาติ แม้ว่าจะยังไม่ได้ต้องใช้ความคิดหรือฝีมือนักในเดโม นอกจากนี้ เกมยังมีระบบการ Stagger คล้ายๆ กับในเกม Final Fantasy XV ที่เมื่อโจมตีศัตรูจนล้ม (สังเกตได้จากหลอดสีส้มๆ ใต้หลอดเลือด) จะทำให้ศัตรูติดสถานะ Stagger ส่งผลให้โดนความเสียหายแรงขึ้น ซึ่งการเล่นในส่วนหลังๆ น่าจะมีความสำคัญขึ้นมา แต่ในเดโมที่ผู้เขียนเล่นยังไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่นัก [caption id="attachment_28617" align="aligncenter" width="1024"] ท่า Triple Slash สุดคลาสสิค[/caption] ส่วนเดียวของเดโมที่ทำให้ผู้เขียนต้องใช้การวางแผนซักหน่อยก็คือส่วนของบอสหุ่นยนต์แมลงป่องช่วงท้ายเดโม ที่จะคอยยิงจรวดติดตามใส่เราตลอดเวลาทำให้ต้องคอยหยุดโจมตีและหันมาป้องกันหรือกลิ้งหลบบ้าง และยังสามารถเปิดเกราะบาเรียที่ต้องใช้เวทย์สายฟ้า Thunder ของ Barret ใส่เพื่อลบออกก่อนจะโจมตีได้ แถมพอเลือดเหลือน้อยยังสามารถยิงปืนใหญ่เลเซอร์ใส่เราได้อีก ทำให้ผู้เล่นต้องวิ่งไปหลบหลังสิ่งกีดขวางตามฉากเพื่อไม่ให้โดนเลเซอร์ ซึ่งในจุดนี้ก็ทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่าระบบต่อสู้ของเกมจะท้าทายผู้เล่นอย่างไรบ้าง [caption id="attachment_28618" align="aligncenter" width="768"] ลุง Barret หล่อกว่าเดิมเยอะเลย[/caption] อีกหนึ่งองค์ประกอบของระบบต่อสู้ที่น่าพูดถึงคือระบบ Tactical Mode ที่จะชะลอการเคลื่อนไหวทั้งหมดในจอเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ไอเทม สกิล หรือกระทั่งท่าสุดยอดอย่าง Limit Break จากเมนูเหมือนเกม RPG ทั่วไปได้ และสามารถใช้สั่งเพื่อนร่วมทีม A.I. ให้ทำนู่นทำนี่ได้ด้วย (ลองนึกภาพเกมเพลย์ของ Dragon Age: Inquisition แต่ไม่ลึกเท่า) ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนยังไม่รู้สึกถึงความจำเป็นในการใช้ระบบนี้เท่าไหร่นักในเดโมเพราะทุกอย่างรวมถึงบอสสามารถรับมือได้ด้วยการโจมตีธรรมดาๆ หรือการใช้ปุ่มลัดโดยการกด L1 ค้างและกดปุ่มสัญลักษณ์เพื่อใช้สกิลเหมือนเกมแอคชั่น แต่ก็พอจินตนาการได้ว่าถ้าเริ่มเจอศัตรูระดับสูงที่มีจุดอ่อนที่ซับซ้อนกว่านี้ ก็อาจจะกลายเป็นระบบที่จำเป็นมากก็ได้เช่นกัน [caption id="attachment_28619" align="aligncenter" width="768"] เมื่อเข้า Tactical Mode จะทำให้ทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง และจะมีเมนูขึ้นมาตรงมุมซ้ายล่าง[/caption] ต้องยอมรับตรงๆ ว่าผู้เขียนไม่ใช่คนที่ตื่นเต้นกับเกม Final Fantasy VII Remake มากเท่ากับคนอื่นๆ ที่เป็นแฟนตัวยงของเกม แต่เสี้ยวเดโมที่ได้เล่นก็สนุกและน่าสนใจมากพอที่จะทำให้ผู้เขียนอยากจะเล่นและสำรวจเกมๆ นี้ต่อไปอีกยาวๆ เลยทีเดียว Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม 2020 สำหรับเครื่อง PS4 โดยเฉพาะ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ปล่อยออกมาแล้วสำหรับตัวละครจากองค์กรชินระภายในเกม Final Fantasy VII Remake โดยตัวอย่างนี้เราจะได้เห็นตัวละครอย่าง Rude, Tseng และ Reno รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่เราจะได้เห็นบริบทภายในเกมมากขึ้นอย่าง Cid Highwind, Aerith, Tifa, Barret Wallace และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงยังมีการเปิดเผยเกมเพลย์บางส่วนของตัวละครอื่นๆ อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=9ZIpdx-3QCc Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 เฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้น

อีกหนึ่งเกมที่ใครๆ หลายคนรอคอยมาอย่างยาวนานอย่าง Final Fantasy 7 Remake และงาน Tokyo Game Show ที่จะถึงนี้เราก็น่าจะได้เห็น ได้สัมผัส ทั้ง Gameplay และ Footage ที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เหล่าแฟนๆ ยิ่งคลั่งกันขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่างานจะจัดภายในอาทิตย์นี้แต่เหมือนค้ายเหลี่ยมจะทนไม่ไหวปล่อยภาพออกมายั่วแฟนๆ ก่อน โดยภาพที่ปล่อยออกมานี้เป็นภาพที่ใช้เป็น Key Art ของ Final Fantasy 7 เวอร์ชั่นออริจินอลหรือก็คือ ภาพของ Cloud ยืนมองดูบริษัทชินระ พร้อมสะพายดาบเล่มยักษ์ไว้บนหลังนั้นเอง ส่วนตัวเกมจะวางจำหน่าย วันที่ 3 เดือน 3 ปีหน้า นั้นเองแฟนๆ FF7 ห้ามพลาด https://twitter.com/FFVIIR_CLOUD/status/1170185081526206464 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ชินระคือองค์กรในเกม Final Fantasy VII ที่มีบทบาทสำคัญของเกมเป็นอย่างมาก แต่ภายในเกมภาค Remake นี้เราก็ยังไม่ได้เห็นการเปิดตัวของสมาชิกในองค์กรนี้เลย ล่าสุดทางผู้กำกับของเกมนี้อย่างคุณ Tetsuya Nomura ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อดังญี่ปุ่น Famitsu ว่าจะมีการเปิดเผยเหล่าสมาชิกในองค์กรนี้ภายในงาน Tokyo Game Show แน่นอน รวมถึงภายในงานนั้นจะมีการโชว์โมเดลดาบ Buster Sword ขนาดไซส์จริงอีกด้วย รวมถึงยังมีรายละเอียดเวอร์ชั่น PC เล็กๆ น้อยๆ https://www.youtube.com/watch?v=Z3xSGv3Hfio โดย Final Fantasy 7 Remake เป็นเกมที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนี้ตัวเกมใกล้จะวางจำหน่ายให้เราได้เล่นกันแล้วนั่นคือวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PlayStation 4 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/

ช่วงนี้มันอยู่ยุคทองของ Capcom จริงๆ เพราะล่าสุดทางผู้พัฒนาได้เผยผลประกอบการ 3 เดือนแรกของปี 2019 (เดือนเมษายน - มิถุนายน) ซึ่งจากความสำเร็จของเกม Monster Hunter: World, Resident Evil 2 Remake และ Devil May Cry V ทำให้พวกเขาสามารถขายเกมได้มากถึง 17,938 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ 5,212 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วถึง 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี และผลกำไรทำได้ราวๆ 7,703 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ 2,238 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง เพิ่มขึ้น 50.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างที่กล่าวข้าวต้นทาง Capcom เปิดเผยว่า ธุรกิจ Digital Contents มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นของเกม Resident Evil 2 Remake และ Devil May Cry V ในขณะที่ Monster Hunter: World ยังคงสามารถขายได้ ซึ่งยอดขายรูปแบบ Digital เป็นยอดขายที่ทำกำไรได้สูง เป็นผลทำให้มีรายได้มากขึ้นอย่างมากในปีนี้ รวมถึงทาง Capcom เองยังได้รับค่าลิขสิทธิ์จาก IPs หนึ่งเป็นมูลค่าถึง 2 พันล้านเยน แต่ว่าผู้พัฒนาก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เนื่องจากการรักษาความลับของบริษัท ที่มา

อาจจะเป็นสตรีมสั้นๆ ง่ายๆ แค่เพียง 10 นาที แต่การสตรีมเปิดตัวเกมใหม่ของโซนี่อย่าง State of Play ครั้งที่ 2 นี้เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยคุณภาพคับคั่ง ด้วยการเปิดตัวอย่างเกมน่าเล่นและและอัพเดทใหม่ๆ เพียบ! เพื่อให้ทุกคนสามารถติดตามทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แบบง่ายๆ เราจึงรวบรวมข่าวทั้งหมดจากสตรีม State of Play ครั้งล่าสุดนี้มาไว้ให้คุณในที่เดียวกันไปเลย! ทั้งตัวอย่างใหม่จาก Final Fantasy VII Remake (มีเกมเพลย์ด้วยนะ!) เดโมเกมเพลย์เปิดตัวเกม Ghost Recon Breakpoint และตัวอย่างภาคเสริม Monster Hunter World: Iceborne บอกได้เลยว่าช่วงครึ่งปีหลังนี่มีอะไรให้เหล่าเกมเมอร์ได้ตื่นเต้นกันอีกเยอะแน่นอน! Final Fantasy VII Remake เริ่มจากข่าวที่หลายคนน่าจะรอกันอยู่มากที่สุดกับตัวอย่างใหม่ของ Final Fantasy VII Remake! https://www.youtube.com/watch?v=Df0YG3qfZ8E ในขณะนี้ยังไม่ม่รายละเอียดเกี่ยวกับเกมเพลย์ออกมาแน่ชัด แต่เท่าที่เห็นจากในเทรลเลอร์ เชื่อว่าเกมเพลย์น่าจะมีความเป็นแอคชั่นมากกว่าจะเป็นแนว Turn-based แบบภาคดั้งเดิม เป็นไปได้มากว่าเกมเพลย์น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกม Crisis Core: Final Fantasy VII ที่เคยวางจำหน่ายในเครื่อง PSP ในปี 2008 นอกจากนี้ ในเทรลเลอร์ยังได้เปิดเผยหน้าตาตัวละครสำคัญอย่าง Aerith เป็นครั้งแรก แถมยังมีการแย้มๆ ตัวละครวายร้ายสุดอมตะอย่าง Sephiroth อีกด้วย ทางผู้พัฒนา Square Enix ยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ (ทันงาน E3 2019 พอดีเลย...) Ghost Recon Breakpoint ถือเป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดีที่เดียวกับการเปิดตัวเกม Ghost Recon ภาคใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ Breakpoint ซึ่งดูเหมือนจะเป็นภาคต่อจากเกมยอดนิยมอย่าง Ghost Recon: Wildlands อีกด้วย! https://www.youtube.com/watch?v=BLWt9MQLVgU จากเทรลเลอร์เนื้อเรื่อง จุดเชื่อมที่ชัดเจนที่สุดระหว่างเกมภาคใหม่และภาค Wildlands ก่อนหน้านี้ดูจะเป็นตัวละคร Cole D. Walker (รับบทโดยนักแสดง Jon Bernthal จากซีรี่ย์ The Punisher) ซึ่งเพิ่งจะโผล่มาเป็นแขกรับเชิญในเนื้อเรื่องเสริม Operation Oracle ของเกม Wildlands ที่วางจำหน่ายไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะได้รับเทรลเลอร์เปิดตัวสุดอลังการแล้ว ยังมีเดโมเกมเพลย์ (Alpha) ความยาวกว่า 13 นาที ที่แสดงให้เห็นถึงมุมกล้องและระบบการเล่นที่ซับซ้อนมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้เครื่องมือและลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับการซ่อนตัวจากศัตรู เช่นการใช้โคลนมาทาหน้าทาตัวเพื่อหลบซ่อนเป็นต้น ซึ่งน่าจะทำให้เกมต้องใช้การวางแผนและทีมเวิร์คที่มากกว่าเกมภาคก่อนหลายเท่าด้วย https://www.youtube.com/watch?v=XvHGqvV0qRg จากข้อมูลที่เปิดเผยออกมานั้น ดูเหมือนว่าเกม Ghost Recon Breakpoint จะเป็นเกมแนวกึ่งออนไลน์ในลักษณะเดียวกับ The Division หรือ Destiny โดยจะเปิดให้ผู้เล่นถึง 4 คนสามารถร่วมมือกันเพื่อผ่านภารกิจต่างๆ ได้ โดยผู้พัฒนาได้เปิดเผยออกมาว่าเกมจะมีระบบคลาสอาชีพที่ ลึกซึ้ง และจะได้รับการอัพเดทเนื้อเรื่อง ภารกิจ และคลาสอาชีพตัวละครอย่างต่อเนื่อง แถมผู้พัฒนายังเปิดเผยแล้วด้วยว่าเกมจะได้รับอัพเดทภารกิจประเภท Raid (ภารกิจระดับสูงช่วงท้ายเกม) เข้าไปหลังจากที่วางจำหน่ายแล้วด้วย ทั้งนี้ แม้ว่ารายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเกมยังไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างน้อยก็อาจจะไม่ต้องรอนานกว่าที่ผู้พํฒนาจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มอีกในงาน E3 ที่จะถึงนี้ เพราะเกมมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่  4 ตุลาคมปีนี้แล้ว! Monster Hunter World: Iceborne เงียบหายไปซักพักใหญ่ๆ กับเกมล่าแย้ในตำนานของค่าย Capcom อย่าง Monster Hunter World ที่ล่าสุดได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่วำหรับภาคเสริมใหญ่ Iceborne ออกมาให้ชมกันแล้ว! https://www.youtube.com/watch?v=KUuaty581D4 สำหรับสิ่งแรกที่หลายคนน่าจะตื่นเต้นกันคือการเปิดตัวเหล่าแย้หน้าเก่าและใหม่หลายๆ ตัว (มีตัวที่เหมือนทีเร๊กซ์หัวแพะด้วย...) รวมไปถึงมังกร Elder Dragon ตัวใหม่อย่าง Velkhana อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงระบบการเล่นใหม่ๆ อย่างอุปกรณ์เสริมสำหรับเจ้า Slinger ของเราที่ทำให้เราสามารถกระโดดเกาะตัวแย้ได้เลยทันที รวมไปถึงท่าโจมตีใหม่ๆ สำหรับอาวุธต่างๆ อีกด้วย สำหรับภาคเสริมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายนในราคา $40 (ราว 1300 บาท) สำหรับคนที่มีเกมตัวต้นอยู่แล้ว ในขณะที่คนที่ยังไม่เคยเล่นจะสามารถซื้อแพ๊คพิเศษ Monster Hunter World: Iceborne Master Edition ซึ่งจะมาพร้อมตัวเกมภาคดั้งเดิมด้วยในราคา $60 (ราว 1700-1900 บาท) ...และอื่นๆ อีกเพียบ! นอกจากสามเกมหลักที่น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้เล่นทุกคนแล้ว ภายในสตรีมยังมีการพูดถึงเกมอื่นๆ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งที่เป็นเกมระดับ AAA และเกมอินดี้นั่นเอง MediEvil https://www.youtube.com/watch?v=4-S93BigurA สำหรับแฟนเกมมีอายุสมัย PS1 อาจจะพอจำกันได้กับเกม MediEvil เกมซีรี่ย์ตะลุยด่านอันโด่งดังที่เคยวางจำหน่ายไปตั้งแต่ปี 1998 โดยเกมจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remastered ใหม่แบบยกเครื่องตั้งแต่กราฟิคไปถึงระบบเกมเพลย์ (ลักษณะเดียวกับเกม Crash Bandicoot N-Sane Trilogy) เอาใจเกมเมอร์รุ่นใหญ่กันไปเลย Predator: Hunting Grounds อีกหนึ่งโปรเจ๊คที่น่าสนใจกับเกม Predator: Hunting Grounds เกม PS4 Exclusive เกมใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปีหน้า โดยตัวเกมจะมีลักษณะเป็นแนว Asymmetric Multiplayer (เกมมัลติเพลย์เยอร์แบบสองข้างไม่เสมอกัน) แนวเดียวกับเกมอย่าง Dead by Daylight หรือ Evolve นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=wiSmINxtLC8 แม้ในคลิปตัวอย่างจะไม่มีรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเกม แต่บทความในเว็บ PlayStation Blog ได้เปิดเผยว่าเกมจะเป็นแนว Third-Person Shooter ที่จะให้ผู้เล่นฝั่งหนึ่งรับบทเป็นเหล่าทหารมนุษย์ที่จะต้องทำภารกิจต่างๆ ตามด่าน ไปพร้อมๆ กับการเอาตัวรอดจากนักล่า Predator ที่จะมีผู้เล่นอีกคนเป็นคนควบคุมเช่นกัน Away: The Survival Series เกมแนว Survival สุดแหวกแนว ที่ให้เรารับบทเป็นตัวจิงโจ้บิน (หรือ Sugar Glider) ที่ต้องเอาตัวรอดในธรรมชาติอันโหดร้ายและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากมลพิษ เกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากสารคดีสัตว์โลกต่างๆ ทางทีวี ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจไม่น้อยเลย https://www.youtube.com/watch?v=lIjGxIxQ8ok Riverbond สำหรับเกมสุดท้ายนั้นทีชื่อว่าเกม Riverbond ซึ่งดูแล้วจะเป็นเกมอินดี้แนวตะลุยด่านกราฟิคแนวพิกเซลสามมิติ ที่จะสนับสนุนการเล่นแบบ Local Co-op (เล่นจอเดียว) ถึง 4 คน เหมาะกับเอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว แต่นอกจากนั้นก็ยังไม่เห็นอะไรพิเศษขนาดนั้น https://www.youtube.com/watch?v=CsASJ1r-DLk การกลับมาของโปรโมชั่น Days of Play และเครื่อง PS4 Slim ลายพิเศษ! แฟนๆ ชาว PlayStation อาจจะจำกันได้กับโปรโมชั่นลดราคาครั้งใหญ่ของ PlayStation อย่าง Days of Play ที่นำเกมน้อยใหญ่บนร้านค้า PlayStation Store มาลดราคากันกระหน่ำยาวเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โปรโมชั่น Days of Play ครั้งนี้ก็จะมาพร้อมกับเครื่อง PS4 Slim 1TB รุ่นพิเศษ ซึ่งคราวนี้มาในสีดำเงาแบบคลาสสิค โดยตัวเครื่องจะวางจำหน่ายพร้อมๆ กับโปรโมชั่นช่วงสิ้นปีนี้ https://www.youtube.com/watch?v=yg0X7d0GKUA

เป็นยอดที่ทำได้อย่างหน้าภูมิใจสำหรับ Resident Evil 2 Remake ที่ล่าสุดทางผู้พัฒนา Capcom ประกาศว่าตัวเกมภาคนี้ในเวลา 1 เดือนสามารถขายไปได้มากกว่า 4 ล้านชุดทั่วโลกเลยทีเดียวสำหรับทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งมันเป็นยอดขายที่น่าประทับใจพอตัว เพราะ Resident Evil 2 เวอร์ชั่น Original เองก็สามารถขายได้ประมาณ 4.93 ล้านชุด ในตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา รวมถึงยอดขายเองก็ใกล้ที่จะเทียบเท่า Resident Evil 7 ที่ขายได้ 6 ล้านชุด โดย Resident Evil 2 Remake ก็ได้รับคำชมมากๆ จากนักวิจารณ์ กับความสนุกที่ครบรส และคงความคลาสสิคไว้ ซึ่งเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าในอนาคตเกมภาคนี้จะทุบสถิติ Resident Evil 5 ที่ขายได้ 11 ล้านชุดหรือไม่ รวมถึงทาง Capcom ก็ยังเปิดเผยอีกว่า ตัวเกม Resident Evil นับตั้งแต่วางจำหน่ายภาคแรกในปี 1996 จนถึงตอนนี้ ตัวเกมทุกภาคสามารถขายได้รวมกันกว่า 90 ล้านชุดเลยทีเดียว โดยเกม Resident Evil 2 Remake วางจำหน่ายแล้วตอนนี้บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ที่มา

สิ้นสุดการรอคอยกับโปรเจกต์ PUBG Mobile x RE2 ที่หลายๆ คนรอคอย ตอนนี้ใครที่อยากสัมผัสกับซอมบี้ในเกม PUBG  ก็สามารถอัปเดตเกมแล้วเข้าเล่นได้เลย โหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามามีชื่อว่า Survive Till Dawn (รอดจนฟ้าสาง) เป็นอีเวนต์ที่เปิดให้เล่นในระยะเวลาจำกัด มีเฉพาะแค่แผนที่ Erangle เท่านั้น โดยนอกเหนือจากที่เหล่าผู้เล่นจะต้องห้ำหั่นกัน พยายามเอาชีวิตรอดและเหลือรอดเป็นคนสุดท้ายแล้ว ยังต้องต่อสู้กับฝูงซอมบี้และบอสจาก Resident Evil 2 ที่จะเกิดอยู่ตามจุดต่างๆ ของแผนที่อีกด้วย ซึ่งซอมบี้เหล่านี้จะดรอปอาวุธยุทโธปกรณ์ หมายความว่ายิ่งเราฆ่าซอมบี้เยอะเท่าไหร่ เราก็จะมีของให้ฟาร์มเยอะขึ้นมากนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อตกกลางคืนซอมบี้เหล่านี้ก็จะเข้าสู่โหมดบ้าคลั่ง พากันวิ่งเข้ามาหาเราอย่างกับไม่ได้กินข้าวมาหลายวัน หากเราเอาชีวิตรอดจนถึงเช้าได้เจ้าซอมบี้พวกนี้ก็จะสงบลง เปิดโอกาสให้เราห้ำหั่นกับผู้เล่นกันแบบชิลๆ ต่อ และเมื่อตกกลางคืนซอมบี้ก็จะโผล่มากันอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายสไตล์เกม PUBG https://www.youtube.com/watch?time_continue=30&v=2CzVfalfFAo นอกจากโหมดใหม่แล้ว ในการอัปเดต 0.11.0 ยังมีสิ่งที่เพิ่มเข้ามาอีกหลายอย่างดังนี้ รายละเอียดการอัปเดต 1. โหมดใหม่: ซอมบี้ - รอดจนฟ้าสาง ผู้เล่นจะพบการจู่โจมจากซอมบี้และบอสในแผนที่ Erangel เมื่อฆ่าจะได้รับไอเทมในการต่อสู้ ในโหมดนี้ นอกจากจะได้สัมผัสความมันส์จากการไล่ล่าซอมบี้แล้ว ยังต้องเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของผู้เล่นอื่นอีกด้วย 2. สภาพอากาศใหม่: แสงจันทร์ พบได้ในแผนที่ Vikendi เท่านั้น 3. เพิ่มกิจกรรมสมบัติ Resident Evil 2: รางวัลที่ได้รับจะไม่ซ้ำกันอย่างแน่นอน มาพร้อมชุดแฟชั่นสุดพิเศษ 4. เพิ่มกิจกรรมสมบัติฉลองหนึ่งปี: สกินอาวุธปืนหายากมากมายรอคุณอยู่! 5. เพิ่มล็อบบี้และเสียงดนตรีประกอบธีมซอมบี้ 6. เพิ่มไอเทมพิเศษจำนวนจำกัด จำหน่ายเฉพาะช่วงเฉลิมฉลองเท่านั้น! 7. เพิ่มอีโมชันพิเศษเฉพาะช่วงฉลองหนึ่งปี มาพร้อมอวาตาร์และกรอบรูปสุดพิเศษ 8. เพิ่มแผนที่ Sanhok ในโหมดสนามรบด่วน (อาเขต) 9. เพิ่มการดูรูปลักษณ์ตัวละครและความสัมพันธ์ผ่านหน้าข้อมูลส่วนตัว 10. เพิ่มฉายาถาวร "นัมบาวัน" และฉายาจำกัดเวลา "ผู้อยู่รอด" การปรับปรุงอื่นๆ 1. สามารถเลือกปิดเงา เพื่อลดความร้อนและการใช้แบตเตอรี่ได้ที่หน้าตั้งค่า 2. ปรับปรุงการแสดงผลภาพสิ่งก่อสร้างบางส่วนในแผนที่ Vikendi 3. เมื่อใช้ปืนกลมือ ปืนไรเฟิลจู่โจมในโหมดสงคราม จำนวนกระสุนเริ่มต้นในปืนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า 4. ข้อมูลบันทึกผลงานสามารถเก็บได้สูงสุด 1 เดือน ส่วนข้อมูลที่มีอายุมากกว่า 1 เดือน จะถูกลบทิ้ง 5. แก้ไขการแสดงผลภูมิประเทศผิดพลาดในอุปกรณ์สเปกต่ำบางรุ่น

ใครที่เคยเล่น Resident Evil 2 Remake มาก็น่าจะทราบความน่ากลัว Mr.X อาวุธชีวภาพตนหนึ่งที่คอยไล่ล่าเราทั้งเกมตั้งแต่ต้นยันจบ ซึ่งเอาตรงๆ แค่ตัวเดียวมันก็ทำให้เราผวาทั้งเกมแล้ว แต่ถ้าบังเอิญคุณเจอมันถึง 2 ตัวล่ะ?? ล่าสุดเกมเมอร์สาย Speed Run ท่านหนึ่งใช้ชื่อ Youtube ว่า BeastGamingHD ที่กำลังทำชาเลนซ์เล่นเกม Resident Evil 2 Remake โหมดยากสุดแบบไม่เซฟ โดยในขณะที่กำลังเล่นอยู่นั้นบังเอิญตัวเขาดันไปพบ Bug ของเกมที่ทำให้ Mr.X ปรากฏขึ้นมาถึง 2 ตัว โดยตัว Bug นี้เกิดขึ้นเพราะเขานั้นทำเวลาได้เร็วมากเกินไป ซึ่งพอเล่นจบเกมเมอร์คนนี้สามารถทำเวลาได้เร็วถึง 70 นาที และที่เขาคาดหวังไว้คือ 50 นาที เพื่อต้องการทำลายสถิติอันดับที่หนึ่งที่ทำได้ 54 นาทีนั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นเกมเมอร์คนก็รู้สึกแฮปปี้ที่ได้พบ Bug นี้เพราะมันคือความท้าทายใหม่ที่เขาได้พบ https://www.youtube.com/watch?v=BVO_95DfSrw โดย Resident Evil 2 Remake วางจำหน่ายแล้วตอนนี้บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One

อาจจะเป็นข่าวดีอย่างต่อเนื่องสำหรับแฟน Resident Evil ที่ล่าสุดมีข่าวรั่วว่า Capcom กำลังพัฒนาเกม Resident Evil 8 อยู่ และจากความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อของ Resident Evil 2 Remake ที่ได้ทำเกมเป็นแนวมุมมองบุคคลที่สาม ทาง Capcom อาจจะเอาแบบพิมนี้มาใช้ใน Resident Evil 8 แทนที่จะเป็นแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่างในเกม Resident Evil 7 รวมถึงตัวเกมภาคใหม่นี้ทางผู้พัฒนาอาจจะเอาองค์ประกอบของ Resident Evil 3.5 ที่เคยยกเลิกพัฒนาไปมาใช้อย่างเช่นศัตรูที่ชื่อว่า Hook-Man และตัวเกมจะเล่นกับประสาทหลอนที่เราไม่แน่ใจว่านี่คือศัตรูตัวไหนคือของจริง พร้อมทั้งข่าวดีอีกตัวก็คือหลังจากที่แฟนๆ เรียกร้องให้สร้างเกม Resident Evil 3: Nemesis แบบ Remake ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ทาง Capcom เองก็กำลังสนใจที่จะสร้างอยู่เช่นกัน และกำลังพูดคุยถึงการพัฒนาแล้ว เพราะเอาตามตรงบอสอย่าง Nemesis ก็เป็นตัวละครที่หลายๆ คนจดจำตัวหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีรายงานว่าทาง Capcom คิดจะสร้างเกม หรือ Remake เกมภาคอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ อย่างเช่น Resident Evil: Code Veronica แต่ตามรายงานทางผู้พัฒนายังไม่สนใจที่จะ Remake เกมภาค 4-5-6 ที่มา

ย้อนกลับมาเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วทางทีมงาน Invader Studios ได้ปล่อยตัวอย่างเกม Resident Evil 2 แบบฉบับ Fan Made ออกมา ซึ่งตัวเกมเปลี่ยนจากมุมมองแบบมุมสูงให้กลายเป็นแนว 3rd Person แบบเต็มตัวและมันก็ทำให้แฟนเกมหลายๆ คนต่าง Hype และพูดถึงโปรเจคนี้กันยกใหญ่ แต่เวลาต่อมาทาง Capcom เองก็ได้มาสั่งยกเลิกโปรเจคนี้ พร้อมกับอธิบายว่าพวกเขานั้นจะสร้างเกมนี้ขึ้นมาเอง และเชิฐให้ทาง Invader Studios เป็นผู้ร่วมออกไอเดียเกมนี้ จนในเดือนมกราคม ปี 2019 !! ตัวเกม Resident Evil 2 Remake ก็ปล่อยออกมาให้แฟนๆ เล่นกันแล้ว !! กับความสยอง ความน่ากลัวแบบจัดเต็ม !! ที่จะทำให้คุณขนลุกชูชันราวกับปวดท้องเข้าห้องน้ำ !! และในบทความนี้ผมจะมารีวิวเกมนี้แบบละเอียดทุกซอกทุกมุมให้ทุกท่านได้ทราบ กับประสบการณ์ที่ผมได้รับหลังจากไปเล่นเกมนี้มา แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองนั้นก็ไม่ใช่แฟนเกมซีรีส์นี้โดยตรงเท่าไร ด้วยอายุอานามก็ยังไม่โตพอที่จะเล่น Resident Evil 2 ในสมัย PS1 แบบลึกถึงแก่นแก้ แต่ส่วนตัวก็เคยเล่นเกม Resident Evil 7 มาบ้าง จึงทำให้การรีวิวในบทความนี้เป็นความเห็นของเกมเมอร์หน้าใหม่ที่พึ่งเข้าวงการไม่นานนั่นเอง   Story โดยในเกมภาคนี้เราจะดำเนินอยู่ในช่วงปี 1998 เราได้รับบทเป็นสองตัวละครนั่นคือ Leon S Kennedy ตำรวจหน้าใหม่ที่พึ่งจะได้รับหน้าที่ให้มาประจำการเมือง Raccoon City วันแรก และ Claire Redfield น้องสาวของ Chris Redfield เจ้าหน้าที่หน่วย S.T.A.R ตัวเอกจากภาคแรก โดยเธอนั้นมาตามหาพี่ชายที่ประจำการอยู่เมืองนี้เนื่องจากขาดการติดต่อไป และในความซวยนั่นเอง พวกเขาทั้งสองเดินทางมาในเมือง Raccoon City ในช่วงเวลาที่เมืองเกิดวิกฤติซอมบี้ระบาดพอดี ซึ่งในตอนเริ่มเราจะสามารถเลือกเล่นตัวละครใดตัวละครหนึ่งก่อนได้ โดยจะแบ่งเป็นเนื้อเรื่อง A และ B ซึ่งเราจะสามารถเล่นเนื้อเรื่อง Leon แบบ A และ Claire แบบ B Clare แบบ A และ Leon แบบ B รวมๆ แล้วเราสามารถเล่นเกมนี้ได้ถึง 4 รอบเลยทีเดียว ซึ่งระบบนี้ก็มีมาตั้งสมัยเกมเวอร์ชั่น PS1 แล้ว [caption id="attachment_18258" align="aligncenter" width="1500"] ส่วนตัวเล่น Claire แบบ A เนื้อเรื่องจะพาเราเข้าสถานีตำรวจทางด้านหน้า และวิธีการเล่นจะคล้ายกับตัว Demo[/caption] [caption id="attachment_18259" align="aligncenter" width="1500"] เล่น Leon เวอร์ชั่น B จะเข้าสถานีตำรวจอีกทางทำให้เกมเพลย์แตกต่างจากพาร์ทแรก[/caption] ตัวเนื้อเรื่องของทั้งสองจะมีเส้นเรื่องที่ต่างกันออกไปประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ อย่างเช่นการเล่าเรื่องของ Leon จะพาให้เราไปเจอกับ FBI สาวชาวจีนอย่าง Ada Wong แต่ตัว Claire นั้นจะไปพบเจอกับเด็กสาวที่ชื่อว่า Sherry Birkin นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่ผมเล่นจบมาทั้งสองแบบแล้ว ตัวมอนสเตอร์หรือบอสต่างๆของทั้งสองตัวละครที่เจอ ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่อาจจะมีบอสบางตัวที่ทาง Claire เจอแต่ Leon ไม่เจอ....หรือ.... Leon เจอแต่ Claire ไม่เจอ ความแตกต่างที่เห็นชัดเจนมากๆ ก็คือในช่วงกลางเกม ที่เราจะได้มีโอกาสบังคับตัวละครรอง ซึ่งถ้าหากคุณเล่นเนื้อเรื่อง Leon มันจะมีช่วงที่ให้คุณบังคับ Ada แต่ถ้าคุณเล่นเนื้อเรื่อง Claire มันก็จะมีช่วงที่ให้คุณบังคับ Sherry ซึ่งการเล่าเรื่องจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่สุดท้ายเส้นเรื่องต่างๆ ช่วงบั้นปลายมันก็จะไปประจบในจุดเดียวกัน [caption id="attachment_18261" align="aligncenter" width="1500"] เกมเพลย์ของ Ada Wong ในเนื้อเรื่องของ Leon[/caption] [caption id="attachment_18262" align="aligncenter" width="1024"] เกมเพลย์ของ Sherry Birkin ในเนื้อเรื่องของ Claire[/caption] ถึงแม้เนื้อเรื่องจะบรรจบคล้ายๆ กัน แต่มันก็จะมีแรงจูงใจที่จะให้เราเข้าไปเล่นใหม่อีกรอบอยู่ดี !! เพราะมันจะทำให้คุณได้ทราบถึงอีกหนึ่งมุมมอง เนื้อเรื่องด้านใหม่ๆ ที่ถ้าหากว่าคุณเล่นไม่ครบทั้งสองตัวละครมันจะเกิด Plot Hole ที่จะทำให้คุณไม่เข้าใจ หรือความเป็นมาบางอย่างที่เล่าไม่หมดในแต่ละเนื้อเรื่อง ถึงแม้ว่าตอนจบมันจะพาให้เราไปเจอบอสตัวเดียวกันก็เหอะ แต่อย่างน้อยมันก็คุ้มค่า รวมถึงพวกบทสนทนาของตัวละครบางตัวที่อาจจะพูดแตกต่างกันถ้าหากเราเล่นเนื้อเรื่องคนไหนอีกด้วย ซึ่งนี่มันก็คือหนึ่งในเสน่ห์หลักของเกมนี้เลย กราฟิก ซึ่งเกมภาคนี้ก็ยังใช้ RE Engine ที่เคยสร้าง Resident Evil 7 มาก่อน หน้า Interface, HUD และ Inventery ต่างๆ ก็จะเหมือนเดิมเกือบหมด แต่ในเรื่องเงาต่างๆ ของเกมนี้ก็ต้องบอกเลยว่ามันทำได้ดีกว่าภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งถ้าหากว่าคุณคิดว่า Resident Evil 7 ภาพสวยแล้ว ผมว่าภาคนี้ต่อให้โมเดลจะทรงเดิม แต่ภาพมันสวยขึ้นและสมจริงมากขึ้นอีกนะ [caption id="attachment_18276" align="aligncenter" width="1024"] หน้า Inventory และ HUD จะคล้ายกับทาง Resident Evil 7[/caption] และทางผู้พัฒนาได้เปลี่ยนแปลงเกมนี้ให้กลายมาเป็นเกมแนว 3rd Person ซึ่งมันทำให้ความระทึกมันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะในเกมเวอร์ชั่นเก่าเราก็จะรู้สึกว่ามอนสเตอร์หรือบอสต่างๆ มันกำลังไล่ฆ่าตัวละครในเกม แต่การที่มันเป็นมุมมองนี้ มันจะทำให้เรารู้สึกว่ามันกำลังไล่ล่าเราอยู่จริงๆ เพราะเราจะจ้องหน้ากับมันอย่างชัดเจน บรรยากาศที่เน้นความมึด ความน่ากลัวที่ให้อารมณ์ต่างจากภาคก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงที่จะเป็นความน่ากลัวแบบจิตๆ หลอนประสาท แต่ในภาคจะน่ากลัวในเชิงสัตว์ประหลาดชีวภาพที่จะคอยไล่ฆ่าเรา เกมเพลย์ ต้องบอกว่าด้านเกมเพลย์นั้น Resident Evil 2 Remake ยังคงความเป็นเกมฉบับคลาสสิคไว้อย่างเต็มร้อย ดั่งที่เกม Resident Evil 7 เคยทำมาเมื่อก่อนหน้า โดยตัวเกมจะเน้นการเล่นแบบ Survival จริงๆ ที่ไม่มีความรู้สึกถึงการเป็นเกม Action ดั่งในภาค 5-6 เลย ซึ่งหลักๆ ของเกมจะมีการแก้ไขปริศนาต่างๆ เพื่อหาทางออก รวมถึงตัวแผนที่ของเกมนี้ก็จะถอดแบบมาจากเวอร์ชั่นเก่าเป๊ะ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนในส่วนรายละเอียด หรือเปลี่ยนแปลงบางจุดเล็กน้อยตามยุคตามสมัยไป [caption id="attachment_18303" align="aligncenter" width="1024"] ห้อง Library หนึ่งในห้องที่มีอยู่ในเวอร์ชั่นเก่า ถอดแบบมาเป๊ะๆ[/caption] [caption id="attachment_18304" align="aligncenter" width="1500"] ห้องของหน่วย S.T.A.R หรือห้องทำงานของ Chris Redfield พี่ชายของ Claire Redfield ตัวเอก แต่ว่าในภาคนี้เราจะไม่ได้มาพบกับ Leon เหมือนในเวอร์ชั่นเก่าแล้ว[/caption] โดยตัวปริศนาในภาค Remake นี้มีความคล้ายคลึงกับทางเวอร์ชั่นแรกบางส่วน แต่ก็จะมีบางอย่างที่เพิ่มขึ้นมาหรือแตกต่างกันไป หรือไอเท็มบางอันในภาคเก่าหาจุดนี้ แต่ในภาคใหม่หาอีกจุด รวมถึงในบางปริศนาหน้าตาคล้ายกัน แต่มันอาจจะมีจุดประสงค์ที่ไม่เหมือนกันเป็นต้น รวมถึงการเปิดพื้นที่ใหม่ๆ หรือช่องทางใหม่ๆ ที่เนื้อเรื่องแบบแรกไม่ได้เข้าไปอีกด้วย และในส่วนของเนื้อเรื่อง A และ B ตัวปริศนาจะและเกมเพลย์มีความแตกต่างกัน ถึงแม้ว่ารวมๆ แล้วจะคล้ายกัน แต่การแก้ไขปริศนาจะเปลี่ยนแปลงไปคนละแบบ ซึ่งนี่มันถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ถึงแม้โดยรวมมันยังเหมือนเดิม (คำใบ้ปริศนาของเนื้อเรื่อง A และ B จะแตกต่างกัน ดูได้จากรูปด้านล่าง) และในเกมนี้อย่างที่บอกเกมเพลย์มันกลับไปเป็นรูปแบบคลาสสิคที่มีความ Survival อยู่เต็มเปี่ยม !! ทรัพยากรต่างๆ พวกกระสุนยา มันก็จะมีให้เราจำกัด รวมถึงพวกซอมบี้ในเกมนี้มันถึกมากๆ ถึกว่าหลายภาคที่ผ่านมาเลยทีเดียว บางตัวถ้าหากคุณบังเอิญยิงติดคริติคอลแล้วมันตายเลยก็โชคดีไป แต่ในความเป็นจริงการยิงแล้วติดครินี่เป็นเรื่องยากมากๆ อาศัยดวงล้วนๆ ซึ่งปกตินี่ยิงซอมบี้ตัวนึงต้องใช้กระสุนเป็น 10 นัดกว่าจะตาย ซึ่งคุณไม่มีทางที่จะสามารถฆ่าศัตรูทุกตัวแล้วยังมีกระสุนเพียงพอให้ใช้แน่ ถึงแม้ต่อให้คุณจะเล่นเกมนี้ในโหมดง่าย กระสุนที่มีให้เก็บเพิ่มมันก็ไม่พออยู่ดีถ้าไม่ประหยัด ซึ่งบังเอิญถ้าหากคุณตะบี้ตะบันยิงเล่นจนกระสุนหมด และบังเอิ๊ญอีก !! ไปจ๊ะเอ๋กับบอสพอดีในฉากหน้า !! ส่วนตัวก็ต้องบอกว่า กู๊ด ลั๊ค แฮ๊ป ฟัน ! นะจ๊ะ ! อิอิ ซึ่งมันทำให้คุณต้องคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะเอายังไงดี เลือกที่จะฆ่าให้หมดเพราะจุดนี้เราต้องมาบ่อย หรือเลือกที่จะวิ่งหลบเอาเพราะประหยัดกระสุนเป็นต้น รวมถึงพวกระเบิดแฟลช ระเบิดมือ หรือมีด ที่นอกจากจะใช้ปาใส่ศัตรู ใช้ฟันแล้วนั้น ข้อดีของมันคือเอาไว้เคาน์เตอร์มอนสเตอร์ที่มากระโดดงับเราด้านหน้าได้อีกด้วย [caption id="attachment_18301" align="aligncenter" width="1500"] จุดนี้เราต้องวิ่งมาบ่อย เลยต้องฆ่าศัตรูให้หมด[/caption] [caption id="attachment_18307" align="aligncenter" width="1024"] บางทีเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเพื่อประหยัดกระสุน[/caption] [caption id="attachment_18308" align="aligncenter" width="1024"] มีการเคาน์เตอร์ศัตรู เมิ้อถูกศัตรูเล่นงานจากด้านหน้า[/caption] รวมถึงตัว Leon และ Claire นั้นจะมีอาวุธที่แตกต่างกัน ซึ่งตัว Leon จะมีปืนพกตำรวจ อาวุธพิเศษจะเป็นลูกซอง, แม็กนั่ม, ปืนไฟ ส่วนของ Claire จะเป็นปืนลูกโม่, M79 และ ปืนช็อตไฟฟ้า ซึ่งทั้งสองจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน อย่างเช่นตัวปืนพกของ Leon จะมีกระสุนเยอะมากถ้าหากแต่งครบ ซึ่งมันจะทำให้เคลียร์ซอมบี้ได้ง่ายไม่ต้องกังวลเปลี่ยนแม็คบ่อย ต่างกับ Claire ที่ลูกโม่ใส่กระสุนได้ 5 นัดเท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่าปืนมันแรงกว่าและยิงศัตรูกระเด็นได้ดีกว่า [caption id="attachment_18309" align="aligncenter" width="1500"] แคลร์จะมีปืน M79 ให้ใช้[/caption] [caption id="attachment_18310" align="aligncenter" width="1500"] Leon จะมีปืนลูกซอง[/caption] และรายละเอียดต่างๆ ของเกมที่จะทำมันสนุกมากขึ้นอย่างเช่นการอัพเกรดอาวุธปืนที่เราจะต้องไปหาคำใบ้หรือปลดล็อคสิ่งต่างๆ ตามฉาก รวมถึงในบางครั้งมันก็จะมีพวกซอมบี้ทะลุกำแพงมาจากทางหน้าต่าง ซึ่งตัวเกมมันก็จะมีระบบรองรับอย่างการเอาไม้ไปปิดเพื่อไม่ให้ศัตรูเข้ามา การคราฟกระสุนหรือยา ที่เราจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่า ตรูจะคราฟอะไรดีฟ๊ะเพื่อประโยชน์ที่สุดนั่นเอง รวมถึงความลับต่างๆ ตามเอกสารที่จะทำให้เรารู้เนื้อเรื่องความเป็นมาของเกมมากขึ้น รวมถึงมันอาจจะมีคำใบ้เกี่ยวกับการแก้ไขปริศนาบางอย่างด้วย   [caption id="attachment_18311" align="aligncenter" width="1500"] มีการคราฟกระสุนหรือยา ที่เหมือนกับภาคที่แล้ว[/caption] [caption id="attachment_18312" align="aligncenter" width="1500"] มีการเอาไม้มาตอกกั้นหน้าต่าง กันผีทะลุออกมาในจุดที่เราต้องวิ่งมาประจำ[/caption] ซึ่งบรรยากาศภายในเกมนั้นก็ต้องบอกเลยว่ามันมีความมึด, ความระทึกกับเหล่าซอมบี้หรือ Licker ที่จะมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แต่ความระทึกของคุณจะเข้าถึงขั้นขีดสุดก็ต่อเมื่อคุณเจอกับมัน !! เจ้า Mr.X ที่มันจะคอยเดินตามหลอกหลอนฆ่าเราทุกที และที่ระทึกไปกว่านั้นคือ เราฆ่ามันไม่ตาย !! อาจจะมียิงให้มันล้มบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จะกลับมาใหม่ทุกที มันเหมือนเป็นปลิงที่คอยหลอกหลอนเราเวลาที่เรากำลังวิ่งแก้ไข้ปริศนา ซึ่งใครที่เคยเล่น Resident Evil 7 มันก็จะคล้ายๆ กับที่คุณวิ่งหนีไอ้ลุง Baker นั่นแหละ บอกเลยว่าระทึกมาก !! เครียดมาก !! คนที่กลัวเกมสยองขวัญที่แทบจะปิดเกมทิ้งเพราะไม่กล้าเผชิญหน้ากับไอ้เจ้าลุงโล้นนี่เลย และถ้าบังเอิ๊ญญญ เราไปเจ๊อะกับ Mr.X ที่ต้องวิ่งหนี อยู่กับเจ้า Licker ที่จะต้องเดินนิ่งๆ ห้ามส่งเสียง นั่นแหละครับคำว่านรกบังเกิดมีจริง 55555555555555+ [caption id="attachment_18313" align="aligncenter" width="1500"] เจอ Licker เจอ Boss ว่าระทึกแล้ว !! แต่มันน้อยนิดมากถ้าหากคุณได้เจอกับ Mr.X !![/caption] ความรู้สึก บอกเลยว่า Resident Evil 2 Remake มันเป็นเกมที่ทำออกมาให้ตอบโจทแฟนๆ มากเลยทีเดียว และต้องบอกเลยว่าในภาคนี้มันเพิ่มสเกลความระทึกและความยากมากกว่า Resident Evil 7 เสียอีก ถึงแม้ว่าความน่ากลัวของภาคนี้ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เน้น Jump Scare แบบภาคที่แล้วให้เรากลัว แต่เนื่องการจำกัดของทรัพยากรที่มีให้น้อย บวกกับความระทึกของมอนสเตอร์ที่ไล่ล่าเราไม่หยุด บวกไปกับบรรยากาศเลือด เศษซากศพ ความเหวอะหวะ ความมึดวังเวงที่ทำออกมาได้ดีมากๆ จึงทำให้ภาพรวมของมันกลายเป็นเกมที่่น่ากลัวไม่แพ้ใครเลยทีเดียว รวมถึงความยากของเกมนี้อยู่ในขั้นพอดี ที่มันไม่ยากมากจนเกินเหตุ แต่ก็ไม่ง่ายจนเกินไป คนที่ไม่ใช่แฟนเกมแนวนี้ก็เล่นได้โดยไม่รู้สึกยากอะไร แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าความยากระดับนี้มันจะถูกใจแฟนๆ สายฮาร์ดคอร์ของเกมนี้หรือไม่ ซึ่งถ้าให้พูดถึงความรู้สึกส่วนตัวต้องบอกเลยว่า เกมนี้ไม่มีที่ติในเกือบทุกด้าน ถึงแม้ว่าตัวเนื้อเรื่องผมอาจจะตะขิดตะขวงใจหน่อยๆ เกี่ยวกับ Plot Hole ที่ยังรู้สึกมีให้เห็นอยู่บ้าง แต่ในเรื่องเกมเพลย์ที่ระลึก ความสยดสยองมันแทบจะทำให้ลืมข้อเสียของเกมนี้ไปโดยปริยาย และเคยมีสื่อต่างประเทศได้รีวิวเกมนี้ไว้ว่า Capcom ปล่อยว่าที่ Game of the Year มาตั้งแต่ต้นปีเลยหรอ ซึ่งผมต้องบอกเลยว่าคำๆ นี้ที่สื่อต่างประเทศเขากล่าวมา.....มันไม่ได้เวอร์วังเกินไปเลย [penci_review id="18155"]  

อย่างที่รู้ว่าเกมภาค Original ของ Resident Evil 2 นั้นออกมากว่า 20 ปีที่แล้วตั้งแต่สมัย PS1 ซึ่งในเกมภาคใหม่อย่าง Resident Evil 2 Remake นี้ตัวเกมก็ได้ปรับเปลี่ยนกราฟิกในสวยงามตามยุคสมัยมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่าทางผู้พัฒนาจะทิ้ง Easter Egg ไว้เล็กน้อยเกี่ยวกับกราฟิกที่จะให้เราหวนไปรำลึกถึงวานๆ ได้ โดยในเวอร์ชั่น PC ของเกม Resident Evil 2 Remake ถ้าหากว่าคุณปรับกราฟิกให้ต่ำที่สุด โดยลดความลำเอียดเราให้เหลือ 640 × 480 หรือไม่ก็ลด Resolution Scaling ให้ต่ำกว่า 50% และเพิ่มรายละเอียดไป 1920×1440 ซึ่งมันจะทำให้ภาพของตัวเกมเป็นภาพสไตล์ Retro สมัย PS1 หรืออาจจะดูแย่กว่าในเวอร์ชั่นหลักด้วยซ้ำ 5555+ ซึ่งอันนี้เหมือนจะเป็นเรื่องขำขันซะมากกว่า เพราะเนื่องจากที่เกมเป็นแนวมุมมองข้ามหัวไหล่ การเล่นมันดูน่าจะปวดหัวมากถ้าหากจะเล่นในสเกลนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วการลดสเกลขนาดนี้ทำมาเพื่อรองรับคอมพิวเตอร์หลายเกรดให้สามารถเล่นได้ซะมากกว่า แต่มันก็เป็นผลพลอยได้ที่ทำให้เราย้อนกลับไปสมัยเก่าได้ด้วยเช่นกัน โดยเกม Resident Evil 2 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One ที่มา

ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ สำหรับ Resident Evil 2 Remake ที่พึ่งปล่อย Demo 1-Shot ออกมาให้เราได้ทดลองเล่น ซึ่งทาง Capcom ได้สรุปสถิติไว้ทาง เว็บไซต์ เกี่ยวกับยอดในการเล่น โดยภายในเวลาแค่ 3 วันตัวเกมมีคนเข้าไปทดลองมากถึง 1.3 ล้านคนเลยทีเดียว ในทุกแพลตฟอร์ม แต่สิ่งที่น่าสนใจคือคนที่เล่น Demo จบมีเพียงแค่ 28% เท่านั้น เพราะว่าทางตัวเกมได้ให้ผู้เล่นมีเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งถ้าหากใครเล่นจนครบเวลา ตัวเกมก็จะตัดเข้าสู่ฉาก Trailer และหยุดเกมในทันทีแถมเราก็ไม่สามารถที่จะกลับเข้าไปเล่นใหม่ นอกจากที่คุณจะสร้างไอดีใหม่เข้าไปเล่นแทน https://www.youtube.com/watch?v=sVB_XudMgoA โดยเกม Resident Evil 2 Remake จะมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One

เตรียมตัวกันได้เลยสำหรับแฟน Resident Evil 2 Remake ที่ล่าสุดทาง Capcom ได้ออกมาประกาศแล้วสำหรับ Demo 1 Shot ทั้งเวอร์ชั่น PC, PS4 และ Xbox One โดยตัวทดลองนี้จะเปิดในวันที่ 11 มกราคม ถึงวันที่ 31 มกราคม 2019 โดยตัวเนื้อหาจะมีแค่มิชชั่นแรกและจำกัดเวลาแค่ 30 นาที รวมถึงเราก็จะไม่สามารถที่จะรีสตาร์ทมิชชั่นได้ แต่มันก็จะมีเวลามากพอถ้าหากว่าคุณรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ https://www.youtube.com/watch?v=a-lEnz5QKuM พร้อมทั้งมีการประกาศออกมาว่าในเกมเวอร์ชั่น Remake นี้จะสามารถรันเกมได้ถึง 4K ในแบบ 30 FPS และรันเกมได้ถึง 60 FPS ในแบบ 1080p รวมถึงยังจัดเต็มเรื่องบรรยากาศและองค์ประกอบเช่นเลือด, ความเหวอะ แบบจัดเต็ม และสเปคที่ใช้เล่นเกมในเวอร์ชั่น PC มีดังนั้น ขั้นต่ำ OS: Windows 7, 8, 8.1, 10 (64-bit required) Processor: Intel Core i5-4460, 2.70GHz or AMD FX -6300 หรือมากกว่า Memory: 8 GB RAM Graphics: Nvidia GeForce GTX 760 or AMD Radeon R7 260x with 2GB Video RAM DirectX: Version 11 ขั้นแนะนำ OS: Windows 7, 8, 8.1, 10 (64-bit required) Processor: Intel Core i7-3770 or AMD FX -9590 หรือมากกว่า Memory: 8 GB RAM Graphics: Nvidia GeForce GTX 1060 or AMD Radeon RX 480 with 3GB VRAM DirectX: Version 11 โดยเกม Resident Evil 2 Remake วางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 [ Link ]

อย่างที่รู้ว่า Denuvo โปรแกรม DRM ป้องกันการเจาะเล่นเถื่อนสุดฮิตในตอนนี้ มันก็ไม่ค่อยเป็นที่ประทับใจมากนักสำหรับชาว PC เพราะมันทำให้ประสิทธิภาพในการรันเกมนั้นลดลงไปมาก อย่างเช่นก่อนหน้านี้ในเกม Final Fantasy XV ที่มีคนเปรียบเทียบว่าตัวเกมที่รันโดยไม่มี Denuvo จะได้เฟรมเรทสูงกว่าเวอร์ชั่นที่มีนั่นเอง แต่ทั้งนั้นหลายๆ เกมเองก็ยังเลือกใช้โปรแกรมนี้เพราะมันสามารถป้องกันการเล่นเถื่อนได้มากเลยทีเดียว ซึ่งทางผู้พัฒนาอย่าง Capcom เองก็เลือกใช้โปรแกรมตัวนี้ในเกมตัวเองเช่นกันอย่าง Monster Hunter World, Mega Man 11 รวมถึงเกมใหม่ล่าสุดที่จะออกอย่าง Resident Evil 2 Remake ด้วย เพราะในหน้า Steam Page ได้เขียนเอาไว้ว่าเกมนี้จะใช้โปรแกรมนี้แน่นอน แต่ก็เป็นไปได้ที่ทางผู้พัฒนาจะลบออกไปหลังจากนี้อย่างที่เคยทำมาในเกม Mega Man 11 โดยเกม Resident Evil 2 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One และมีข่าวหลุดออกมาว่าตัว Demo เราจะได้เล่นกันในเร็วๆ นี้อีกด้วย ที่มา Gamingbolt

25 มกราคม 2019 นี้พวกเราก็จะได้เล่นกันแล้วสำหรับ Resident Evil 2 Remake ที่ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างเกมจากเวอร์ชั่น 1998 กลายมาเป็นรูปแบบ 3rd Shooting ที่น่ากลัว และหลอนมากกว่าเดิม เราจะได้บังคับตัวละครหลักอย่าง Leon S Kenedy และ Claire Redfield ในตอนที่พวกเขายังเป็นมือใหม่ ไม่ใช่คนเหนือมนุษย์อย่างในทุกวันนี้ แต่ถ้าหากใครที่รอไม่ไหวและอยากจะเล่นแล้วเดี๋ยวนี้ กระผมเองก็อยากจะแนะนำเกมที่จะเอาไว้เล่นแก้ขัดก่อน Resident Evil 2 Remake จะมา ซึ่งเกมที่เลือกมานั้นมาจากความคิดเห็นส่วนตัวที่คิดว่าตัวเกมมีกลิ่นกลายที่คล้ายกัน หรือความกดดันที่คล้ายกันเป็นต้น ซึ่งถ้าหากว่าผิดพลาดหรือไม่ถูกใจใครกระผมก็ฝากขออภัยด้วยครับ และเกมที่ว่าจะมีอะไรบ้าง เราไปชมกันเลย The Evil Within เกมที่ถูกสร้างโดยคุณ Shinji Mikami ไดเร็กเตอร์ผู้ที่ให้กำเนิดเกม Resident Evil นี่แหละ โดยเกมนี้ก็ได้นำกลิ่นอายของ RE ที่เรารู้จักเข้ามาผสมผสานกับการเล่นยุคใหม่ให้เข้าถึงง่ายกว่าเดิม ระบบการเล่นบางอย่างก็นำมาจากเกม RE ภาคแรกๆ และที่สำคัญเลยคือการน่ากลัวของมันที่กลมกล่อมอย่างลงตัว อยู่ขั้นกลางระหว่าง Hardcore Gamer และคนทุกเพศทุกวัย เข้าถึงได้ง่ายคล้าย RE4 และที่เพิ่มเติมขึ้นมาก็คือความเหวอะ เลือดสาดกระจายที่จะสร้างความหลอนให้คุณนั่นเอง โดยเกมนี้ออกมา 2 ภาคแล้วและได้รับคำวิจารณ์ที่ดีทั้งสองภาคเลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=H2qITQHud2I Resident Evil ภาคเก่า ถ้าจะเล่น Resident Evil ทั้งที การย้อนกลับไปเล่นภาคเก่าๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ อย่างเช่นเกม RE2 ภาค PS1 เราก็สามารถไปทำความรู้จักบรรยากาศและสถานที่ภายใน หรือเตรียมพร้อมรบกับศัตรูที่เราจะต้องเจอในวันที่เล่นภาค Remake ก็ได้ หรือถ้าจะให้ใหม่ขึ้นมาหน่อยก็อาจจะไปเล่น RE4 ที่จะเป็นแนว Third Person เหมือนกันและยังคงความน่ากลัวอยู่ ไม่ก็อาจจะไปเล่นเกม RE7 ที่ใช้ Engine เดียวกัน วิธีการยิงต่างๆ เราสามารถฝึกจากเกมนี้ได้ และบอกเลยว่าความน่ากลัวของ RE7 ไม่น่าแพ้ภาค Remake แน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=9YetHMnhnhM Dead Space เป็นเกม Action Horror ที่ทำออกมาได้น่ากลัวเลยทีเดียว กับมอนสเตอร์สุดโหด และบรรยากาศสุดหลอน ในห้วงอวกาศ และที่สำคัญคือเกมนี้ใช้มุมมองเดียวกับ RE2 Remake ซึ่งตองบอกเลยว่าต่อให้ Dead Space อาจจะเข้าถึงง่ายกว่า แต่ถ้าให้ดูเรื่องความโหดของมอนสเตอร์ ฉาก Jump Scare แบบจัดเต็ม บอกเลยว่าเอาไว้เล่นรอได้สบายๆ เพราะ RE2 น่าจะฟิลไม่ต่างกัน และถ้าอยากให้เข้าถึงความน่ากลัวจริงๆ ผมแนะนำภาค 1 ครับ เพราะภาคหลังๆ จะเน้นมันซะมากกว่าแล้ว https://www.youtube.com/watch?v=LAiHfqnbGYo Metro เกมที่ถูกกลับมา Remake ใม่เริ่มตั้งแต่ปี 2014 และจะมีภาคใหม่ในปี 2019 นี้ ซึ่งเกม Metro จะพาเราเข้าสู่โลกแห่ง Post-Apocalypse และปัจจัยสำคัญที่ท่านควรเล่นเกมนี้ก็คือการที่ตัวเกมมีทั้งความกดดัน ความหลอนที่เราจะต้องเจอเหล่าสัตว์ประหลาดในที่มืด มอนสเตอร์สุดโหดที่พร้อมจะกระชากคุณออกเป็นเสียงๆ พร้อมทั้งตัวเราเองที่มีทรัพยากรจำกัด ซึ่งเราจะต้องเอาตัวรอดให้ได้นั่นเอง ซึ่งนี่แหละมันแบบฉบับ RE ชัดๆ https://www.youtube.com/watch?v=Xc2hhef-Nzo How to Survive 3rd Person Standalone เกมอินดี้แนว Survival ที่ตอนแรกออกมาเป็นเกมมุมมองแบบ Bird Eye View และต่อมาก็ได้ออกเวอร์ชั่นใหม่เป็นเกมมุมมองแบบ 3rd Person มันเลยทำให้เวอร์ชั่นนี้ทวีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง เพราะมุมกล้องต่างๆ ศัตรูมันจะอยู่ใกล้เรามากขึ้น รวมถึงบรรยากาศความมืดของตัวเกมมันก็ทำให้เรารู้สึกวังเวงและหลอนมากขึ้นไปกว่าเดิมหลายเท่า เพราะเหล่าซอมบี้ต่างๆ มันจะคอยไล่ล่าเราจากทุกสารทิศ รวมถึงตัวเกมนี้มีระบบการคราฟที่น่าสนใจทำให้เราสามารถจมอยู่กับมันได้หลายสิบชั่วโมงเลยทีเดีวว https://www.youtube.com/watch?v=dyRQDoBN4n0 Alan wake อาจจะเป็นเกมที่น่ากลัวน้อยที่สุดจากทั้ง 7 เกม แต่ก็ต้องพูดได้ว่าบรรยากาศต่างๆ หรือการเล่นเราก็สามารถเล่นแก้ขัดเพื่อรอ RE2 Remake ได้ เพราะบรรยากาศของเกมนี้เราจะได้อยู่ในที่มืดวังเวง และต้องคอยต่อสู้กับเหล่าสิ่งชั่วร้ายที่คอยจะฆ่าเรา โดยเกมนี้อาจจะเหมาะสำหรับคนที่กลัวเกมผี แต่อยากลองที่เริ่มเล่น เพราะอย่างที่บอกคือความน่ากลัวของเกมนี้อาจจะไม่ได้มาก Jump Scare ไม่เยอะ แต่เรื่องบรรยากาศของเกมมันก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน พร้อมทั้งเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็ทำออกมาได้ดีจนหลายๆ คนต่างพาชมเลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=sSB4QcQMm6E The Last of US ถึงแม้ว่าบรรยากาศของเกมนี้อาจจะไม่ได้วังเวงหรือทำให้เรารู้สึกน่ากลัวเท่าไร เพียงแต่เกมการเล่นของมัน ต้องบอกว่าท้าทายไม่แพ้เกมอื่นๆ เพราะตัวเกมมีความยาก ความกดดันที่เราจะต้องค่อยๆ ลอบเข้าไปโจมตีศัตรูนั่นเอง และสิ่งสำคัญที่คุณห้ามพลาดคือเนื้อเรื่องของเกมนี้ จัดได้เลยว่ามันเป็นหนึ่งในเกมที่เนื้อเรื่องดีที่สุด และกินใจมากๆ จนนักรีวิวหลายๆ สำนักต่างพากันให้เกม The Last of US ได้คะแนน 10/10 เลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=OQpdSVF_k_w จบกันไปแล้วครับสำหรับ 7 เกมที่พูดไป (หรืออาจจะมากกว่านั้น 5555+) ซึ่งทุกท่านสามารถหามาเล่นได้และก็ต้องบอกเลยว่าราคาตัวเกมก็ไม่ได้แพงแล้ว เพราะแต่ละเกมส่ว่นใหญ่เป็นเกมเก่า แต่ความสนุกนี่ไม่แพ้เกมอื่นๆ เลยทีเดียว รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วน Resident Evil 2 Remake ทางผู้พัฒนาเองก็จะปรับเปลี่ยนเกมการเล่นให้แปลกใหม่กว่าเดิมด้วย บอกเลยว่าเหล่าแฟนๆ นี่คันไม้คันมือกันเลยทีเดียว โดยตัวเกมจะลงให้ทั้งเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,199 บาท LINK

เดือนเดียวเท่านั้นเราก็จะได้เล่น Resident Evil 2 Remake กันแล้ว ซึ่งเหล่าแฟนๆ ก็ต่างเฝ้ารอกันอย่างใจจดใจจ่อ นับวันรอคอยกันเลยทีเดียว แต่เหล่าแฟนๆ ต้องเฮได้เลยเพราะล่าสุดได้มีรายงานว่าเราอาจจะได้เล่นเกมเวอร์ชั่น Demo กันในวันที่ 11 มกราคม 2019 นี้ โดยทางเว็บไซต์ True Achievements ได้พบเห็นบน Xbox Store นั่นเอง โดยตัว Demo จะเรียกว่า 1-Shot โดยเราจะได้อยู่ในสถาณีตำรวจเมือง Raccoon City ในตอนเริ่ม ซึ่งตัว Demo จะเปิดให้เล่นถึงวันที่ 31 มกราคม 2018 นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=5emAC-XRIT0 แต่ว่าข้อมูลนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทาง Capcom แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะว่าในเกมภาคก่อนอย่าง Resident Evil 7: Biohazard เองก็เคยปล่อย Demo มาให้ทดลองเล่นก่อนเกมเปิดเช่นเดียวกัน โดย Resident Evil 2 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 29 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,199 บาท LINK ที่มา Gamingbolt

ตามธรรมเนียมที่ทำมาตลอดหลายปี นิตยสารเกม Famitsu ของญี่ปุ่นได้ทำการเผยแพร่บทความพิเศษสำหรับช่วงปีใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นการรวมบทสัมภาษณ์สั้นๆ จากผู้พัฒนาหลายๆ คน โดยในปีนี้หัวข้อของบทความได้ให้ผู้พัฒนาบรรยายปี 2019 ที่จะถึงนี้ในคำเดียว พร้อมกับแบ่งปันความคิดหรือความรู้สึกที่มีต่อวงการเกมในปีหน้า คำตอบของบรรดาผู้พัฒนาที่ได้ร่วมให้สัมภาษณ์นั้นมีคนที่น่าสนใจเป็นพิเศษอยู่สองคนคือคุณ Tetsuya Nomura และคุณ Yoshinori Kitase ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระดับสูงของเกม Final Fantasy VII Remake ทั้งคู่ โดยคุณ Nomura เลือกบรรยายปี 2019 เพียงคำเดียวสั้นๆ ว่า 7 และแบ่งปันข้อความสั้นๆ เพียงว่า จะมีการประกาศข้อมูลใหม่มากมาย ในขณะเดียวกัน คุณ Kitase ได้บรรยายปี 2019 ด้วยคำว่า ความคาดหวังสูง และกล่าวในข้อความว่า การพัฒนา Final Fantasy VII Remake กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี โดยเขาและทีมงานต่างพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้แฟนๆ ผิดหวัง เมื่อเอาข้อมูลจากข้อความของผู้พัฒนาทั้งสองมารวมกัน ก็น่าจะตีความได้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake น่าจะได้รับการแถลงข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญในปีหน้า ซึ่งน่าจะหนีไม่พ้นเทรลเลอร์ใหม่ เผลอๆ อาจจะได้รู้วันวางจำหน่ายเกมกันซะทีด้วยนะ แต่จะเป็นอะไรกันแน่ คงได้แต่รอจนกว่าผู้พัฒนาจะออกมาเฉลยด้วยตัวเองจ้า! (ขอบคุณข้อมูลจาก Dual Shockers)

เดือนหน้าพวกเราก็จะได้เล่นกันแล้วสำหรับ Resident Evil 2 Remake แต่ถ้าใครอยากจะชมเกมเพลย์เล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องดูนี่เลย สำหรับ เกมเพลย์ 20 นาที แบบจัดเต็มที่ทาง Arekkz Gaming ได้ปล่อยออกมา โดยเราจะได้เห็นรูปแบบการเล่น วิธีการยิง การแก้ไขปริศนา พร้อมทั้งได้เห็นการบังคับของทั้งสามตัวละครอย่าง Leon, Claire Redfield และ Ada Wong https://www.youtube.com/watch?v=KyOuqb6EYWw ซึ่งจากที่ดูแล้วเหมือนเป็นการเอาแบบพิมพ์ของเกม Resident Evil 7 มาใช้ เพียงปรับเปลี่ยนสกีนตัวละคร และเปลี่ยนจากมุมมองบุคคลที่หนึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยจากที่ดูแล้วถือว่าทำได้ไม่เลวถึงแม้ว่าจะลอกแบบพิมพ์มาเป๊ะ แต่ก็ได้อัพเกรดปรุงปรุงบางอย่างออกมาให้ดีขึ้น รวมถึงมอนสเตอร์ไม่มีแต่ไอ้ปีศาจต้นไทรเหมือนในภาค 7 แล้ว (ฮา) รวมถึงทาง Capcom ก็ได้ปล่อยตัวอย่างแนะนำตัวละครหลักอย่าง Leon และ Claire Redfield อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=T78HIXVAkTo https://www.youtube.com/watch?v=rMo8LNXN_ss โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคา 1,199 บาท LINK ที่มา VG247 Gematsu

ถือว่าเป็นมิตรสำหรับใครหลายๆ คนกับเกม Resident Evil 2 Remake ที่ล่าสุดมีรายงานว่าไฟล์ตัวเกมนี้มี ขนาดเพียงแค่ 21 GB เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากๆ ถ้าให้เทียบกับเกม AAA เกมอื่นๆ อย่าง GTA V ที่มีเนื้อที่อยู่ราวๆ 70 GB เลยทีเดียว รวมถึงก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่าผู้พัฒนาที่ช่วยกันสร้างเกมนี้มีถึง 800 คนเลยทีเดียว มากกว่าเกม RE6 ถึง 4 เท่า https://www.youtube.com/watch?v=a-lEnz5QKuM โดยเกม Resident Evil 2 Remake จะเป็นภาคนำเกม Resident Evil 2 ปี 1998 มาทำใหม่ ยกเครื่องกราฟิกทั้งหมดด้วย RE Engine พร้อมทั้งยังปรับเปลี่ยนตัวเกมจากมุมมองมุมสูงให้กลายเป็น มุมมองบุคคลที่สามแทน โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,199 บาท LINK

เมื่อพูดถึงตัวละครที่น่าจดจำในเกม Resident Evil 2 Remake นั้น นอกจากตัวละครหลักทั้งสอง Leon และ Claire แล้ว ตัวละครที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คงจะเป็นสายลับแสนสวย Ada Wong และชุดราตรีวันพีซสีแดงของเธอ ที่ติดตาตรึงใจเกมเมอร์ทั้งหลายมาตั้งแต่ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในยุค PS1 ผู้เล่นหลายคนก็แสดงออกถึงความผิดหวังเมื่อผู้พัฒนาเปิดตัว Ada โฉมใหม่ออกมาครั้งแรกเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมาในชุดคลุมสีน้ำตาลและแว่นกันแดดแตกต่างจากภาพที่หลายคนจำได้อย่างสิ้นเชิง แต่ล่าสุด ได้มีสกรีนช๊อตชุดใหม่หลุดออกมาทางเว็บบอร์ด Resetera ซึ่งแสดงให้เห็นถึง Ada ในชุดวันพีซแดงที่ทุกคนคิดถึงกัน (ดูเหมือนว่าเราจะได้เล่นเป็น Ada ด้วย) แถมยังมีภาพของบอสอย่าง Tyrant T-00 ด้วย! [gallery ids="14135,14124,14132,14148,14120,14121,14123,14125,14126,14127,14128,14129,14130,14131,14133,14134,14136,14137,14138,14139,14140,14141,14142,14143,14144,14145,14146,14147,14149"] Resident Evil 2 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC

เป็นหนึ่งในเกมที่มีผู้เล่นเฝ้ารออย่างเหนียวแน่นที่สุดแล้วกับ Resident Evil 2 Remake เกมเก่าเล่าใหม่ที่นำเกมสุดคลาสสิคมาเนรมิตใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่แม้ว่าจะมีวีดีโอเกมเพลย์ออกมาให้ดูกันแล้วมากมาย ผู้เล่นที่รอเกมอยู่ก็ยังอดลุ้นไม่ได้ว่าเกมจะปล่อยเดโมออกมาให้ได้ลองมือกันก่อนวันวางจำหน่ายปีหน้าหรือเปล่า ล่าสุด ดูเหมือนว่าเดโมเกม Resident Evil 2 Remake อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องมโนอีกต่อไป เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ Anthony_Robert ได้เผยแพร่ภาพที่ดูเหมือนหน้าจอเลือกตัวละครในเดโมเกม Resident Evil 2 Remake! จากในภาพจะเห็นได้ว่าเมนูดังกล่าวจะเปิดให้เลือกเล่นทั้ง Leon Demo และ Claire Demo เลย ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นเดโมสถานีตำรวจ (Leon) และทางระบายน้ำใต้ดิน (Claire) ที่เราเคยดูกันไปแล้วนั่นแหละ โดยคุณ Anthony_Robert เผยว่าเดโมดังกล่าวจะเปิดให้โหลดกันในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ทั้งนี้ ยังไม่มีการยืนยันใดๆ จากผู้พัฒนา Capcom แถมคุณ Anthony_Robert ก็ลบข้อความดังกล่าวและตั้งบัญชีให้เป็นส่วนตัวไปแล้วในขณะนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงเช่นกันว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องที่กุขึ้นมาเอง แต่สำหรับแฟนๆ ที่รอให้เกมปล่อยเดโมจริงๆ ก็ถือเป็นความหวังเล็กๆ ไว้ให้ชื่นใจกันนะจ๊ะ! Resident Evil 2 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC (ขอบคุณข้อมูลจาก GamerBraves)

บอกเลยว่านี่อาจจะเป็นเกมที่มีผู้พัฒนาเยอะมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียวกับ Resident Evil 2 Remake ที่ล่าสุด Capcom NHK Broadcast ที่ออกอากาศในญี่ปุ่นได้เปิดเผยทีมพัฒนาเกมนี้ว่ามีถึง 800 คนเลยทีเดียว ซึ่งจัดว่าเยอะมากๆ ถึงแม้ว่านี่คือสเกลงานของเกม AAA ก็ตาม เพราะว่าขนาดเกม The Legend of Zelda: Breath of the Wild ที่ได้รับรางวัล Game of the Year ปี 2017 ยังมีทีมพัฒนาเพียงแค่ 500 คนเท่านั้น และยังมากกว่าการพัฒนาเกม Resident Evil 6 ที่มีทีมงานแค่ 200 คน The most notable tidbit from last week’s Capcom NHK broadcast is that there were a whopping 800 (eight-hundred) people on #RE2 remake’s development. That includes programmers, photogrammetry models, mo-cap, etc. That’s more than the roughly 600 who worked on RE6. pic.twitter.com/zsmIUvGvLv — Alex Aniel (@cvxfreak) 19 พฤศจิกายน 2561 โดยเกม Resident Evil 2 Remake เป็นเกมที่ได้ปรับเปลี่ยนกราฟิกจากมุมมองแบบมุมสูง ให้กลายเป็นแนว 3rd Person เต็มตัว แต่ได้เพิ่มรายละเอียดให้เกมดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้น พร้อมกราฟิกที่สยองขวัญขึ้นกว่าภาค Original หลายเท่าตัว โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,199 บาท LINK ขอบคุณข้อมูลจาก Gamingbolt  

อย่างที่รู้ว่า Licker เป็นศัตรูตัวสำคัญที่สุดในเกม Resident Evil 2 และพอมาถึงภาค Remake สัตว์ประหลาดตัวนี้เองก็ได้อัพเกรดกราฟิกให้สวยและดูสยองขวัญมากยิ่งขึ้น ล่าสุดทาง PlayStation ได้เปิดเผย Gameplay 15 นาที กับการบังคับ Claire Redfield ที่ต้องเข้าไปอยู่ในสถานีร้างและต้องเจอกับเจ้า Licker ที่มาคอยไล่ล่าเรา https://www.youtube.com/watch?v=WWTdCFmA0j8 โดยเกม Resident Evils 2 Remake เป็นเกม Suvival Horror ที่เราจะได้รับบทเป็น Leon F Kennedy ตำรวจมือใหม่ และ Claire Redfield  น้องสาวตัวเอกภาคแรกที่ได้เข้ามาในเมือง Raccoon City และต้องเผชิญกับเหตุการณ์ซอมบี้ระบาดแบบไม่คาดฝัน โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2018 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One

ออกมายั่วกันตลอดกับเกม Resident Evil 2 Remake เพราะล่าสุดก็เอาใจคนยุคเก่าเผยคอสตูมเวอร์ชั่นคลาสสิตของทั้งสองตัวละคร Leon Kennedy และ Claire Redfield ที่เราจะสามารถปลดล็อคได้ภายในเกม สามารถดูได้ด้านล่าง https://www.youtube.com/watch?time_continue=27&v=30BQjlXXamY เอาตามตรงตัวคอสตูมของ Leon นั้นแทบจะเหมือนกับแบบฉับเป๊ะๆ แต่ทางคอสตูมของ Claire เองก็จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยให้ไม่มีเสื้อดำข้างในแต่สีหรือองค์ประกอบหลายๆ อย่างก็จะเหมือนเวอร์ชั่นแรกเกือบหมดเช่ยลายเสื้อด้านล่าง โดยเกม Resident Evils 2 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคา 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One สนนราคาราวๆ 1,199 บาท ดูรายละเอียด คลิ๊กที่นี ขอบคุณข้อมูลจาก Gamingbolt

ใครที่เคยเล่นเกม Resident Evil 2 มาก่อนก็น่าจะรู้ว่าเจ้าตัว Licker นั้นเป็นศัตรูที่น่ากลัวและเป็นเอกลักษณ์ของเกมภาคนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งล่าสุดในเกม Resident Evil 2: Remake ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อยตัวอย่างเกมเพลย์สั้นๆ ของตัวเอกในฝั่ง Claire Redfield ที่จะต้องเจอกับเจ้า Licker ไล่ตามตัวเป็นๆ บอกเลยว่าสยอง (ดูคลิปจากทางด้านล่าง) https://www.youtube.com/watch?v=Qrm3j05YGKM บอกเลยว่าดีไซน์ของตัว Licker นี้ดูท่ากลัวและบึกบึนมากกว่าเดิมเยอะเลย พร้อมทั้งภายในเกมเพลย์เราจะต้องเจอกับมันในสถานที่มึดๆ ทางหลบก็ไม่เยอะ ไม่อยาจะคิดเลยว่าขนหัวลุกขนาดไหน โดยเกม Resident Evil 2: Remake เป็นภาคที่ปรับเปลี่ยนระบบการเล่นอย่างสิ้นเชิงจากภาคที่เคยออกมาในปี 1998 จาก Capcom โดยเกมภาคนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 บนเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One [ LINK ] ขอบคุณข้อมูลจาก Gamingbolt  

คนที่ติดตามข่าวคราวของเกม Resident Evil 2 Remake อาจจะได้เห็น (หรือลอง) เกมเพลย์ของลีออนกันมาเยอะแล้ว แต่ในส่วนของสาวน้อย Claire Redfield ยังอาจจะไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ ผู้พัฒนา Capcom จึงเอาใจแฟนๆ ด้วยการปล่อยเกมเพลย์วีดีโอใหม่ความยาวกว่า 35 นาที ซึ่งแสดงให้เห็นเกมเพลย์ทั้งหมดจากเดโม Claire ที่เปิดให้เล่นในงาน Tokyo Game Show 2018 ที่ผ่านมา (GameFever ได้ไปเล่นมาด้วย! อ่านพรีวิว) https://www.youtube.com/watch?v=pvRjJKd2XL4 Resident Evil 2 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC

แม้ว่าเครื่อง Nintendo Switch จะเริ่มปล่อยเกมแบบเดียวกับ PS4, Xbox One ออกมาให้เล่นกันบ้างแล้ว (อย่าง Wolfenstein, Doom เป็นต้น) แต่ก็ยังมีอีกหลายเกมที่ออกมาแล้วไม่สามารถทำลงเครื่องของปู่นินได้เพราะเรื่องของฮาร์ดแวร์ ที่ไม่ทรงพลังพอจะมอบประสบการณ์เกมทีดีให้ผู้เล่นได้ แต่ก็มีผู้พัฒนาหลายคนเลือกจะแก้ปัญหานี้ด้วยการใช้เทคโนโลยี Streaming ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเร็วๆ นี้อาจจะเป็น Assassins Creed Odyssey ของ Ubisoft หรืออย่าง Resident Evil 7 ที่ Capcom ประเดิมปล่อยแบบ Cloud Version ในญี่ปุ่นด้วย ล่าสุด ดูเหมือนว่า Capcom เองก็มีแผนจะเดินหน้ากับเทคโนโลยีนี้มากขึ้น เมื่อค่ายเปิดเผยต่อเว็บ The Wall Street Journal ว่าค่ายกำลังพิจารณาเรื่องการสร้างเกมแบบ Cloud Version สำหรับเครื่อง Nintendo Switch มากขึ้นในอนาคต โดยจะอิงจากตัวเลขยอดขายของ Resident Evil 7 ในการตัดสินใจ โดยปัจจุบันค่ายได้ปล่อยเกมให้เช่าในญี่ปุ่นในราคาราวๆ $18 (เกือบ 600 บาท) ต่อเวลาเล่น 180 วัน ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับผู้เล่น Nintendo Switch ทั่วโลก ที่ในอนาคตอาจจะสามารถเล่นเกมอย่าง Resident Evil 2 Remake หรือกระทั่ง Devil May Cry 5 ได้แบบพกพา แต่ก็ยังน่าลุ้นว่าเน็ตไทยแลนด์เราจะสามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่นี้ได้แค่ไหน

ตั้งแต่สมัยยังละอ่อน ผู้เขียนก็เป็นเกมเมอร์เด็กขี้กลัวที่ไม่ค่อยถนัดเกมแนว Survival Horror เลยเพราะกลัวเกินกว่าจะสนุกกับมันได้ ในขณะที่เพื่อนๆ ของผู้เขียนต่างก็สนุกสนานกับเกม Resident Evil 2 (สมัยนั้นยังเรียก Biohazard กันอยู่เลย) ผู้เขียนก็มักจะปลีกตัวไปเล่นเกมอื่นคนเดียวแทน ผ่านเวลามากว่า 20 ปี ในตอนนี้ผู้เขียนเองก็มีภูมิต้านทานต่อเกมน่ากลัวมากขึ้นพอสมควร พอได้มีโอกาสมาถึงงาน Tokyo Game Show 2018 ทั้งที จะไม่ลองเล่นเกมยอดนิยมอย่าง Resident Evil 2 Remake ก็กระไรอยู่ แถมยังได้ข่าวมาว่าในงานจะเปิดให้ลองเกมเพลย์ฝั่ง Claire Redfield เป็นครั้งแรกอีกด้วย ผู้เขียนก็เลยกัดฟันเดินตรงเข้าไปในบูธเดโมของ Capcom ที่สร้างขึ้นมาให้เหมือนกับสถานีตำรวจ R.P.D. ในเกมนั่นเอง ทันทีที่เดินผ่านประตูสถานีตำรวจที่เต็มไปด้วยถุงเก็บศพ ก็มีทีมงานประจำบูธแต่งตัวชุด Claire เดินมาต้อนรับ พร้อมกับอธิบายว่าผู้เขียนมีเวลาเล่นเกมเพียงห้านาทีเท่านั้น! และถ้าตายก่อนหมดเวลาจะถือว่าหมดสิทธิ์เล่นต่อทันที! (เข้าใจแหละเพราะผู้เขียนเองก็ต้องเข้าแถวเป็นชม.อยู่กว่าจะได้เข้าไปเล่น...) เดโมในงานเปิดให้ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นฝั่ง Claire หรือ Leon โดยเดโมของ Leon นั้นจะเป็นตัวเดียวกับที่เปิดให้เล่นในงาน PSX 2018 ที่เมืองไทย (อ่านพรีวิว ที่นี่) ในส่วนของเดโม Claire นั้น ผู้เขียนได้รับทราบก่อนจะเลือกว่าจะไม่มีศัตรูที่เป็นซอมบี้ธรรมดาให้สู้ แต่จะมีเพียงบอส William Birkin ให้สู้เพียงตัวเดียว ได้ยินแล้วก็แอบใจแป้วนิดๆ เพราะบอสตัวนี้คือตัวการที่ทำให้ผูัเขียนขยาดเกม Horror ไปเลยตอนเป็นเด็ก... อย่างที่เคยเห็นในภาพข่าวที่ผู้พัฒนาปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ เดโมของฝั่ง Claire จะให้ผู้เล่นได้ต่อสู้กับบอส Birkin ในฉากทางระบายน้ำใต้ดิน ซึ่งต้องขอชมผู้พัฒนาที่แปลงฉากใต้ดินจากเกมดั้งเดิมออกมาได้น่ากลัวไม่แพ้สมัยผู้เขียนเป็นเด็กเลย หลังจากที่เดินสำรวจได้ซักพัก แอบมีสะดุ้งบ้างในจังหวะที่ท่อน้ำตามฉากพ่นไอน้ำออกมา ผู้เขียนก็พบกับคัตซีนสั้นๆ (ซึ่งทีมงานบูธบอกให้กดข้ามเพื่อรักษาเวลา) ก่อนที่จะถูกส่งเข้าไปเผชิญกับ Birkin ทันที ด่านของบอส Birkin ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเดินแคบๆ ที่มีทางแยกออกไปประปรายตามทาง บางทีก็เป็นทางตัน แต่บางทีก็มีไอเทมอย่างกระสุนหรือยาเขียวให้เก็บบ้าง ซึ่งคนที่เคยเล่นเกมภาคดั้งเดิมอาจจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่สำหรับผู้เขียนที่เคยเห็นฉากนี้ผ่านๆ แค่ประปราย ถือว่าฉากช่วยขับอารมณ์ความสิ้นหวังและกดดันได้ดีมากๆ ประมาณว่าเราไม่มีที่ไหนให้หนีได้จริงๆ ผู้เขียนรีบชักปืนยิงระเบิด Grenade Launcher ออกมาก่อนเป็นอย่างแรก (ในเดโม Claire จะได้รับปืนระเบิด ปืนกลสั้น และปืนลูกโม่) และบรรจงอัดระเบิดใส่หน้า Birkin รัวๆ จนหมดตัวเลย ซึ่งดูเหมือนจะพอสร้างความเสียหายได้บ้าง แต่ก็ยังไม่พอจะล้มบอส ที่ยังคงค่อยๆ เดินเข้ามาหาผู้เขียนทีละนิดๆ หลังจากที่ชักปืนกลออกมายิงไปได้ซักพัก ลูกตาลูกใหญ่ตรงไหล่ของบอสก็เปิดขึ้น ผู้เขียนไม่รอช้ารีบชักปืนลูกโม่ออกมาเล็งลูกตสทันที ในส่วนของเกมเพลย์การยิงปืนไม่ได้ต่างจากของ Leon โดยผู้เล่นจะต้องกด L2 ค้างไว้ซักพักก่อนที่เป้าเล็งจะหดตัวลงมาแคบพอที่ผู้เขียนจะยิงปืนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้เกมยังคงความกดดันจากภาคดั้งเดิมไว้ได้แม้จะเปลี่ยนมาเป็นระบบการยิงแบบ Third-person (มุมมองบุคคลที่ 3) หลังจากที่เล่นวิ่งไล่จับไปได้อีกแปบนึง (และอัดกระสุนลูกโม่เข้าตาบอสจนหมดตัว) ในที่สุดผู้เขียนก็สามารถพิชิตบอส Birkin ลงได้ทันกำหนดเวลา จนพนักงานบูธถึงกับเอ่ยปากชมฝีมือเลยทีเดียว (ไม่ได้โม้นะจะบอกให้) ก่อนจะนำผู้เขียนออกไปนอกบูธ โดยรวมแล้วประสบการณ์การสู้บอส Birkin ครั้งนี้ถือว่าดีกว่าครั้งแรกที่ผู้เขียนเจอเมื่อ 20 ปีที่แล้วแน่นอน ถ้าถามว่ายังน่ากลัวอยู่ไหมก็คงต้องตอบว่าน่ากลัวจริงๆ ด้วยองค์ประกอบตามฉากและระบบเกมเพลย์ที่เพิ่มความกดดันให้ผู้เล่นตลอดเวลา แม้ว่าสุดท้ายการสู้บอสจะค่อยข้างเรียบง่ายไปซักนิด อาจเพราะอาวุธครบมือ (ไม่รู้ว่าในเกมจริงจะมีปืนระเบิดให้ใช้แบบนี้ไหม) และการโจมตีของบอสที่ค่อนข้างช้า เมื่อรวมกับวิธีการควบคุมตัวละครแบบใหม่ ทำให้การวิ่งหนีออกมาตั้งหลักเพื่อยิงจุดอ่อนง่ายกว่าในภาคดั้งเดิมพอสมควร แต่ด้วยการออกแบบบอสที่มีความน่ากลัวน่าขยะแขยงก็ช่วยให้เรายังคงรู้สึกกดดันทุกครั้งที่ต้องมองบอสค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาช้าๆ ในระหว่างที่รอให้เป้าเล็งค่อยๆ หดลงมา ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจทีเดียวกับเดโมเกมเพลย์ครั้งนี้ ซึ่งกลบจุดอ่อนของบอสเกม Resident Evil ภาคหลังๆ (ยกเว้นภาค 7) ที่เอาความน่ากลัวแลกกับฉากแอคชั่นเท่ๆ ซะมากกว่า แถมยังเพิ่มความมั่นใจให้ผู้เขียนประมาณนึง จนตอนนี้พูดได้เต็มปากเลยว่า Day One แน่นอนเกมนี้! Resident Evil 2 Remake จะวางจำหน่ายวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC อ่านพรีวิวเกมอื่นๆ จาก Tokyo Game Show 2018 ได้ ที่นี่

วันนี้ในงาน Tokyo Game Show 2018 ค่ายพัฒนา Capcom ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่ล่าสุดสำหรับเกม Resident Evil 2 Remake ซึ่งเปิดเผยตัวละครยอดนิยมอย่าง Ada Wong เป็นครั้งแรก! https://www.youtube.com/watch?v=KyGk4KTJu5w เห็นได้ชัดเจนว่าตัวละครเปลี่ยนไปมากจากเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่ใส่ชุดราตรีสีแดงสุดเร่าร้อน เปลี่ยนมาเป็นการใส่เสื้อคลุมยาวมิดชิดพร้อมกับแว่นกันแดดปิดหน้าปิดตา โดยผู้พัฒนาเผยว่าต้องการจะให้ตัวละครดูสมจริงเข้ากับกราฟิคของเกมภาค Remake นั่นเอง โดยคุณ Kazunori Kadoi (ผกก. เกม) เปิดเผยกับเว็บ Eurogamer ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่าชุดราตรีสีแดงคงจะขัดกับความสมจริงที่ผู้พัฒนาต้องการจะสร้างในเกมภาคนี้ ซึ่งชุดคลุมยาวในเวอร์ชั่นใหม่ยังสื่อถึงความเป็นสายลับของเธอได้ดีกว่าด้วย Resident Evil 2 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC

จนถึงตอนนี้เกม Resident Evil 2 ภาคใหม่ก็ปล่อยวีดีโดเกมเพลย์ออกมาให้ดูกันมากมายไปหมด แต่ดูเหมือน Capcom จะยังไม่หมดมุข เมื่อล่าสุดค่ายปล่อยวีดีโอเกมเพลย์เกมเพลย์ใหม่ออกมาอีกสองตัว ซึ่งแสดงเกมเพลย์จากเดโมสถานีตำรวจที่โชว์ในงาน PSX 2018 ที่ผ่านมาแบบเจาะลึกกันเลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?list=PLLfhkR8m8wYsaVEw56sgZQWKAAymFp4KG&amp;v=RNTbWwqrpRM คนที่ยังไม่ได้ลองเล่นเดโมด้วยตัวเองสามารถดูการแก้ปริศนาและความลับต่างๆ ในเดโมได้ในวีดีโอนี้จ้า Resident Evil 2 จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC  

แฟนๆ ซีรี่ย์ Resident Evil รุ่นดั้งเดิมทั้งหลายน่าจะจำกันได้กับเกม Resident Evil 1 Remake (หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า REmake) ที่เคยปล่อยออกมาในปี 2002 สำหรับเครื่อง GameCube ล่าสุดผู้พัฒนาเหมือนจะส่งสัญญาณว่าเราอาจจะได้เห็นเกมนี้กลับมาอีกครั้งแบบเดียวกับ Resident Evil 2! เว็บ GameInformer ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ระหว่างเว็บและคุณ Kazunori Kadoi ผู้กำกับเกม Resident Evil 2 (ภาครีเมค) โดยผู้สื่อข่าวได้ถามคุณ Kadoi ถึงการรีเมคเกมภาคอื่นๆ ในซีรี่ย์เหมือนภาค 2 รวมไปถึงเกมภาคแรกที่เคยรีเมคไปเมื่อเกิน 15 ปีมาแล้ว โดยคุณ Kadoi ตอบว่าคงจะไม่ใข่เรื่องตลกถ้าค่ายจะทำการรีเมคเกมภาคแรกอีกครั้งจริงๆ ผมว่ามันก็ผ่านมานานพอที่ถ้าเราทำแบบนั้นจริงๆ มันก็คงจะไม่ดูตลกแล้วล่ะ โดยส่วนตัวผมก็สนใจที่จะทำนะ คุณ Kadoi กล่าว นอกจากนี้ คุณ Kadoi ยังพูดถึงการรีเมคเกมภาคอื่นๆ ในซีรี่ย์ว่าเป็นไปได้แน่นอน แค่ค่ายคงจะยังไม่ยืนยันอะไรในขณะนี้ เกม Resident Evil 2 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับเครื่อง PS4, Xbox One, PC อ่านข่าวและชมคลิปเกมเพลย์ใหม่จากงาน Gamescom 2018 ได้ ที่นี่  

น่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่ไฮป์กันที่สุดแล้วในปีนี้กับ Resident Evil 2 Remake ล่าสุด สื่อต่างชาติหลายสำนักเริ่มทยอยปล่อยคลิปเกมเพลย์เดโมจากงานกันแล้ว โดยนอกจากจะมีเกมเพลย์ใหม่สำหรับ Leon ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ยังมีเกมเพลย์จากแม่สาวชุดแดง Claire Redfield อีกด้วย! CLAIRE (ขอบคุณคลิปจาก Dengeki) https://www.youtube.com/watch?v=6sJ3kWv94ac LEON (ขอบคุณคลิปจาก IGN) https://www.youtube.com/watch?v=ugbWHaKkLoA Resident Evil 2 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 25 มกราคม 2019 สำหรับ PS4, Xbox One, PC

ดูเหมือนว่าเกม Final Fantasy VII Remake อาจจะได้รับการเปลี่ยนแนวไปจากเกมดั้งเดิมซะแล้ว เมื่อเว็บ Siliconera รายงานถึงคำประกาศรับสมัครงานของค่าย Square Enix ที่บรรยายเกม Final Fantasy VII Remake ว่าเป็นเกมแอคชั่น! จากข้อมูลที่อยู่ในช่องสีแดงด้านบนบอกว่าผู้ที่รับตำแหน่งจะได้ร่วมออกแบบ CG สำหรับเกม Final Fantasy VII ที่จะ Remake เป็นเกมแอคชั่น (แปลจากคำรับสมัครภาษาญี่ปุ่นด้วย Google Translate) ทำให้คิดว่าเกมอาจจะอิงระบบการต่อสู้ของเกม Final Fantasy VII: Crisis Core หรือเปล่า หรืออาจจะออกมาคล้ายๆ Final Fantasy XV กับ Kingdom Hearts ก็ยังได้ ทั้งนี้ เกม Final Fantasy VII Remake นั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะได้วางจำหน่ายเร็วๆ นี้แน่นอน แต่อย่างน้อยๆ ก็พอจะมั่นใจได้ว่าเกมยังคงได้รับการพัฒนาอยู่ในขณะนี้ แต่จะออกมาหน้าตาเป็นยังไงคงต้องรอดูกันไปยาวๆ จ้า

ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Capcom เปิดเผยรายละเอียดของ Resident Evil 2 Remake ในงาน Comic-Con 2018 รวมถึงเผยโฉม Collectors edition สำหรับโซนอเมริกาเหนืออีกด้วย Collectors Edition สนนราคาอยู่ที่ 199.99 ดอลลาร์สหรัฐ มีรายละเอียดดังนี้: ตัวเกม Resident Evil 2 remake ฉบับเต็ม หุ่นจำลองของ Leon S. Kennedy (เวอร์ชัน R.P.D): ความสูง 12 นิ้ว มาในชุดที่เขาได้ทำงานเป็นตำรวจวันแรก หนังสือ Art Book "Bens File": จำนวน 32 หน้า ซึ่งตามเนื้อเรื่องแล้วเป็นหนังสือของนักข่าว Ben Bertolucci ที่ได้ปรากฎตัวออกมาใน Resident Evil 2 ซึ่งแฟ้มดังกล่าวมีทั้งรูปภาพ และเอกสารของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Raccoon City ซึ่งเป็นแฟ้มลับสุดยอดที่ยังไม่เคยมีใครเห็น จนกระทั่งมี Collectors Edition ออกมา Digital Soundtrack ที่จะมาเป็นรหัส Voucher ซึ่งเป็นเพลงใหม่ของเกมเวอร์ชัน Remake นี้ รวมถึงมีเพลงของเวอร์ชันออริจินอลรวมมาเป็นอัลบัม มีทั้งหมด 25 เพลงด้วยกัน โปสเตอร์ "R.P.D" แผนผังของพิพิธภัณฑ์ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของตึกที่ได้กลายเป็นสถานีตำรวจ Extra DLC Pack Card: ชุดพิเศษของ Leon จำนวน 2 ชุด (Arklay Sheriff และ Noir) ชุดพิเศษของ Claire จำนวน 3 ชุด (Military, Noir และ Elza Walker) อาวุธพิเศษ: Samurai Edge - Albert Model Soundtrack "Original" นอกจาก Collectors Edition แล้วทาง PlayStaion ได้ให้รายละเอียดตัวละครหลักของเกมด้วยว่า สำหรับตัวละคร Leon จะดูเด็กลงมาก ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้ความรู้สึกและประสบการณ์ที่แตกต่างระหว่าง Leon ในช่วงเริ่มแรกและในช่วงหลังจากที่เขาได้กลายเป็น Hero แล้ว ส่วนตัวละคร Claire หญิงสาวเดินทางมาที่เมือง Raccoon City เพื่อออกตามหาพี่ชาย ก็ได้ยกระดับเครื่องแต่งกายด้วยเทคโนโลยีที่ใช้การสแกนเสื้อผ้าจริงเพื่อให้เห็นทุกรายละเอียดของตัวเสื้อ ทางทีมงานยังคุยกันละเอียดถึงขนาดที่ว่าจะยังคงความเป็น Claire ในเกมเวอร์ชันออริจินัล Resident Evil 2 เอาไว้แค่ไหน ซึ่งก็ได้ข้อสรุปออกมาเป็นการดีไซน์ Claire ให้มาพร้อมกับการขี่มอเตอร์ไซค์สุดเท่ ในส่วนของเมือง Raccoon City ซึ่งถือเป็นฉากหลักของเกม ทางผู้พัฒนาอยากให้เมืองให้ความรู้สึกถึงความเปียกชื้น และความน่ากลัวของความมืด ส่วนซอมบี้คุณ Hirabayashi โปรดิวเซอร์ของ Capcom ได้ปรึกษากับทางทีมว่าจะสร้างซอมบี้ที่ดุดันขึ้นมา สร้างความรู้สึกให้ผู้เล่นว่ายังไงก็ไม่อยากจะโดนซอมบี้เหล่านี้กัดอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ Resident Evil 2 เวอร์ชัน Remake นี้จะจัดจำหน่ายใน PlayStation 4, Xbox One และ PC ในวันที่ 25 มกราคม 2019 ส่วนการ Pre-order นั้นยังสงวนไว้แค่ในโซนอเมริกาเหนือเท่านั้น

เว็บ Gamingbolt ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่ง Brand Manager จาก Capcom ในเรื่องเกม Resident Evil 2 เกี่ยวกับเกมภาคใหม่ และความแตกต่างระหว่างเกมภาคใหม่และภาคดั้งเดิม ไปอ่านกันได้เลยจ้า! อะไรคือเหตุผลที่คุณตัดสินใจสร้างเกมในมุมมองแบบข้ามหัวใหล่แทนที่จะเป็นมุมกล้องแบบล๊อคไว้แบบดั้งเดิม อย่างที่เคยพูดไปแล้วว่าเกมภาคนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เกม Remake แน่นอนว่าเราใช้เนื้อหาจากเกมดั้งเดิมเป็นโครงของเกมนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเกมใหม่ในตัวเองที่มีเซอร์ไพรส์ให้กับผู้เล่นที่คุ้นเคยกับภาคดั้งเดิมด้วย เราจะเปลี่ยนตำแหน่งของปริศนา เปลี่ยนจุดเกิดศัตรู มันจึงรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าที่จะเปลี่ยนมุมกล้องไปซะด้วยเลย ด้วยความที่สร้างเกมขึ้นมาด้วยเครื่องมือใหม่อย่าง RE Engine เราจึงอยากจะลองอะไรใหม่ๆ กันดูบ้าง แน่นอนว่าในยุค Playstation 1 นั้นมีข้อจำกัดทางเทคนิคมากมายซึ่งบังคับให้เราต้องใช้มุมกล้องนิ่งๆ ในเกมภาคเก่าซึ่งกลายเป็นจุดเด่นของซีรี่ย์ไปซะแล้ว แต่สำหรับภาคใหม่นี้เรารู้สึกว่ามุมกล้องใหม่มันเข้ากับภาพที่เราจินตนาการไว้ในหัวมากกว่า มุมกล้องที่เปลี่ยนไปจะส่งผลต่อระบบการเล่นด้วยไหม ผู้เล่นสามารถคาดหวังระบบใหม่ๆ ที่ไม่มีในภาคเก่า หรือมีเนื้อหาจากภาคเก่าที่โดนตัดไปจากภาคใหม่เพราะเปลี่ยนมุมกล้องบ้างไหม ส่งผลกันแน่นอนครับ เกม RE2 ยังคงเป็นเกม survival-horror อยู่วันยังค่ำ เกมเมอร์หลายๆ คนชอบคิดว่าการเปลี่ยนไปใช้มุมกล้องแบบข้ามหัวไหล่จะทำให้เกมกลายเป็นเกมแนว Gears of War ไป แต่ในเกมของเราคุณจะยังต้องระมัดระวังในการใช้กระสุนปืน คุณยังต้องคราฟไอเทม ซึ่งเราเพิ่มระบบใหม่ให้ใกล้เคียงกับ Resident Evil 7 ฉะนั้นคุณจะยังสร้างกระสุนและยาเพิ่มได้ แต่ผลที่ตามมาคือระบบนี้ช่วยเสริมความสมจริงให้ผู้เล่น ยกตัวอย่างเช่นในมุมมองข้ามหัวไหล่ เมื่อคุณโดนซอมบี้จับเข้า กล้องจะสามารถซูมเข้าหาตัวละครเพื่อสร้างความรู้สึกเหมือนเราโดนกัดเข้าจริงๆ ทำให้ผู้เล่นเหมือนไปอยู่ตรงนั้นด้วยตัวเองเลย แทนที่จะแค่เห็นลีออนกำลังปล้ำกับซอมบี้อยู่ตรงมุมจอ เราชอบมุมมองข้ามหัวไหล่ในภาคใหม่มาก ไหนๆ ก็คุยกันเรื่องมุมมองแล้ว ดูจากความสำเร็จของเกม Resident Evil 7 ที่ใช้มุมมองแบบ FPS แล้ว คุณเคยพิจารณาการนำมุมมองแบบเดียวกันมาใช้ในเกมภาคใหม่บ้างไหม ผมเชื่อว่ามันก็คงเป็นไอเดียที่ทีมพัฒนาได้ถกกัน เพราะเกมสร้างจาก Engine เดียวกับภาค 7 ด้วย แต่เราตั้งใจสร้างเกมนี้ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ต้น แต่ผมรู้สึกว่ามันไม่เคยเป็นทางเลือกแรกของทีม พวกเราตัดสินใจกันอยู่พักใหญ่ว่าจะใช้มุมกล้องแบบไหน จะข้ามหัวไหล่ หรือจะเป็นมุมกล้องนิ่งๆ จากภาคเก่า แต่สุดท้ายเราเลือกมุมกล้องข้ามหัวไหล่เพราะมันรู้สึกเข้ากับเกมที่เราคิดกันไว้มากที่สุด RE2 2019 จะอิงภาคเก่ามากขนาดไหน จะเป็นการนำฉากเก่าๆ มาทำใหม่แบบ 1 ต่อ 1 เลยไหม หรือจะเป็นการนำเรื่องเก่าๆ มาเล่าด้วยวิธีใหม่ไปเลย ผมคงไม่พูดว่ามันจะเป็นการแปลงภาคเก่ามาแบบ 1 ต่อ 1 คนที่เคยเล่นเกมภาคดั้งเดิมบางคนอาจจะเล่นจบครั้งเดียว ในขณะที่บางคนเล่นจบไปแล้วเป็นร้อยๆ รอบเพราะรักเกม เราอยากให้เกมภาคใหม่นี้น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่เล่นมาแล้วหลายรอบด้วย เป็นเหตุผลที่เราไม่เรียกเกมนี้ว่า Resident Evil 2 Remake เพราะมันเป็นเกมใหม่ที่สร้างอยู่บนรากฐานของเกมเก่า ยกตัวอย่างเช่นฉากหนึ่งที่คุณเดินผ่านกระจกในสถานีตำรวจแล้วมีตัว Lurker เดินผ่านกระจกอีกฝั่ง ในเกมภาคดั้งเดิมเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นแบบเดียวกันทุกครั้ง แต่ในภาคใหม่จะไม่มีฉากนี้ เราไม่ได้อยากจะแค่หลอกผู้เล่นให้สะดุ้ง เราต้องการให้ผู้เล่นรู้สึกกดดันเมื่อเจอกับปริศนายากๆ เราอยากให้ผู้เล่นรู้สึกกลัวจริงๆ หลายๆ องค์ประกอบจากภาคเก่าจึงต้องถูกตีความใหม่อีกครั้ง เพราะเราไม่ต้องการให้ผู้เล่นรู้คำตอบของปริศนาล่วงหน้า เราไม่ต้องการให้คุณรู้ล่วงหน้าว่าศัตรูจะโผล่มาจากทางไหนบ้าง เราจึงเปลี่ยนรายละเอียดบางอย่างไป แต่ในภาพรวมหรือแกนหลักของเนื้อเรื่องยังคงใกล้เคียงภาคเก่ามากๆ เกมจะมีระบบ Co-op หรือระบบการเล่นกับคนอื่น (Multiplayer) บ้างไหม หรือจะเป็นเกมเล่นคนเดียว เล่นคนเดียวครับผม เหมือนภาคเก่าเลย ค่ายเคยบอกว่าจะพยายามเน้นการเล่าเรื่องในเกมมากขึ้นสำหรับ RE2 2019 คำพูดนี้หมายถึงแค่การที่เนื้อเรื่องถูกเสริมโดยกราฟิคใหม่เฉยๆ หรือว่าค่ายมีการปรับเปลี่ยนหรือแก้เนื้อเรื่องในเกมให้เข้มข้นขึ้นไหม? ทั้งสองอย่างเลยครับ อย่างในเกมภาคเก่าอาจจะมีสถานที่ที่คุณแค่เดินหรือขับรถผ่านไปเฉยๆ หรือคนที่คุณเคยได้สนทนาด้วยแบบผิวเผิน คุณจะมีโอกาสได้ลงไปสัมผัสองค์ประกอบย่อยๆ เหล่านี้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งบางทีคุณอาจจะสามารถใช้เวลาสำรวจเป็นเวลานานๆ เลยก็ได้ คุณอาจจะได้ติดตามเนื้อเรื่องของตัวละครต่างๆ ลึกขึ้น ผมคงไม่สามารถยกตัวอย่างแบบเจาะจงได้ แต่ตัวละครหลายๆ ตัวจะมีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เพลงและการออกแบบเสียงประกอบของภาคเก่าได้รับคำชมอย่างมาก และทุกคนที่เคยเล่นเกมต่างก็รู้ว่าเสียงมีผลในการสร้างบรรยากาศสุดหลอนของเกมด้วย คุณมีวิธีการออกแบบเสียงและดนตรีอย่างไรบ้างในเกมภาคใหม่ จะนำเพลงเก่าๆ มาทำใหม่ หรือจะแต่งเพลงใหม่ไปเลย  ผมขอย้ำอีกครั้งว่าพวกเราตั้งใจสร้างเกมนี้ให้ใกล้เคียงกับภาคเก่าให้ได้มากที่สุด แต่ก็ยังคงอยากจะมีอะไรใหม่ๆ มาท้าทายผู้เล่นเช่นกัน อย่างดนตรีในห้องเซฟก็จะสบายๆ ให้ความรู้สึกปลอดภัย โดยภาคนี้จะเป็นการ Remix เพลงเก่า แต่ก็ไม่ใช่ทุกเพลงที่จะได้รับการแปลงแบบนี้ และมีเพลงและเสียงประกอบใหม่ๆ อีกมากมาย แต่เราก็ยังคงอยากจะคงไว้ซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจเมื่อผู้เล่นถูกฝูงซอมบี้จู่โจมเช่นกัน ค่ายได้ประกาศมาแล้วว่าเกมจะมีการปรับปรุงพิเศษสำหรับ Xbox One X โดยเฉพาะ แล้วผู้เล่นที่ไม่ได้เล่นในเครื่อง Xbox One X จะคาดหวังอะไรได้บ้าง 4K/60FPS เป็นไปได้แค่ไหน ผู้เล่นจะสามารถเล่นเกมด้วยความชัด 4K ได้ทั้งใน PS4 Pro และ Xbox One X แต่ถ้าคุณเล่นในโหมด 4K คุณจะปรับได้แค่ 30 FPS เท่านั้น ในด้านกราฟิคและเฟรมเรต เครื่อง PS4 และ Xbox One ธรรมดาจะสามารถเล่นเกมนี้ได้ดีแค่ไหน ในขณะนี้คงไม่สามารถบอกตัวเลขแน่ชัดได้ แต่เราเล็งค่าเฟรมเรตเอาไว้ค่อนข้างสูงเหมือนกัน คุณมีแผนจะวางจำหน่ายเกมสำหรับเครื่อง Nintendo Switch บ้างไหม คงไม่ใช่ในตอนนี้ครับ เราอยากจะมุ่งพัฒนาเกมสำหรับ PS4, Xbox One และ PC ซะก่อน  

วันนี้ Capcom ได้ปล่อยเดโมเกมเพลย์ใหม่ของ Resident Evil 2 Remake ซึ่งเป็นฉากที่แฟนๆ น่าจะจำกันได้ดีกัยสถานีตำรวจ Raccoon City (R.P.D.) ดูกี่ครั้งก็ยังน่าทึ่งที่ Capcom สามารถยกฉากเก่าๆ มาสร้างใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้นขนาดนี้ แต่ก็ยังคงบรรยากาศเดิมๆ ไว้ได้เหลือเฟือ ได้แต่หวังว่าจะปล่อยเดโมออกมาให้ได้ลองเล่นเองกันก่อนเกมวางจำหน่ายวันที่ 25 มกราคม 2019

ทำเอาเกมเมอร์หลายๆ คนหวนรำลึกไปถึงวัยเด็กกันเลยเมื่อ Capcom ประกาศเปิดตัวเกมคลาสสิคอย่าง Resident Evil 2 Remake ที่กลับมาพร้อมกับระบบการเล่นที่อัพเดทใหม่ และกราฟิคระเดับเทพที่ช่วยเสริมบรรยากาศเกมให้กลับมาน่ากลัวอีกครั้งเหมือนตอนที่ได้เล่นเกมครั้งแรกสมัยเด็กๆ เลย! ใครที่ไม่กล้าเล่นตอนเด็กๆ ติดจระเข้ซอมบี้ ถึงเวลามาแก้ปมในใจตอนเด็กกันแล้ว!