ซีรีส์หรือภาพยนตร์คนแสดง ที่มีเนื้อเรื่องอ้างอิงต้นฉบับมาจากเกมที่กำลังเป็นที่พูดถึงกัน ณ ตอนนี้คงหนีไม่พ้น The Last of Us ที่ได้เฉิดฉายและรับเสียงวิจารณ์ไปในเชิงบวกแบบล้นหลาม (ต้องขอแสดงความยินดีกบแฟนเกมด้วย) ลบรอยคำสาปที่อยู่คู่วงการนี้มานักต่อนักว่า 'การเอาเกมมาสานต่อเป็นซีรีส์หรือภาพยนตร์ มักล่มไม่เป็นท่า' ไปบ้าง แต่ถ้าให้กล่าวถึง มันก็มีอยู่ไม่น้อยเลยที่เป็นไปดั่งคำกล่าวนั้น ดังเช่น ภาพยนตร์ดัดแปลงจากวิดีโอเกมบนจอแก้วเรื่องแรกของโลกและห่วยแตกถึงขนาดไม่มีใครอยากพูดถึง Super Mario Bros. The Movie (1993) นั่นเอง!

ตัว Super Mario Bros. The Movie นั้น เป็นภาพยนตร์ผจญภัย-แฟนตาซี ที่ได้รับการอนุมัติจากค่ายเกม Nintendo และค่ายหนังดัง Hollywood Pictures ก่อนวางฉายในปี 1993 โดยมีเนื้อเรื่อง (เกือบ) อิงจากเกมกล่าวว่าพี่น้อง Mario และ Luigi ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติให้ไปช่วยเหลือเจ้าหญิง Daisy ในจักรวาลคู่ขนานอันถดถอยของ King Koopa นั่นเอง

ถึงแม้ตัวบทที่กล่าวมามันอาจจะฟังดูดีไม่น้อยหากเราเป็นแฟนเกมในสมัยนั้น แต่! ตัวภาพยนตร์กลับทำรายได้ทั่วโลกไปเพียงแค่ 38.9 ล้านดอลลาร์ จากทุนมากถึง 48 ล้านดอลลาร์ทีเดียวเชียว เท่านั้นยังไม่พอ! เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังตกต่ำแบบสุดกู่กู้ไม่ขึ้นจนติดอันดับหนังห่วยตลอดกาล สาเหตุมาจากอะไรบ้าง? เรามาดูกัน!

Nintendo ก็แค่อยากได้ภาพยนตร์ในชื่อตนเองบ้าง

ในอดีตก็ไม่ต่างอะไรจากปัจจุบัน ที่ผู้ปกครองยังมองว่าวิดีโอเกมเป็นสื่อที่เกินความจำเป็นในชีวิตประจำวัน นั่นทำให้ Nintendo ต้องคิดแผนที่จะขยับขยายตีกำแพงธุรกิจให้กว้างขึ้น ผนวกกับก่อนหน้าที่พวกเขาเพิ่งขายลิขสิทธิ์เนื้อหา The Wizzard ให้กับ Universal ในปี 1990 ราคากว่า 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งถึงแม้พวกเขาจะได้กำไรก็จริง แต่ก็ไม่ได้คุ้มค่าขนาดนั้น พวกเขาจึงคิดว่าหาทำเอาเองเลยยังจะดีกว่า ก่อนริเริ่มเสนอขายลิขสิทธิ์ให้ทีมโปรดักชัน หวังให้ใครมาสร้างภาพยนตร์ให้พวกเขา กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้สนใจเม็ดเงินด้วยซ้ำ

พวกเขาจึงได้ไปจ้าง Jake Eberts และ Roland Joffe คู่หูโปรดิวเซอร์ ซึ่งต้องการอยากให้เนื้อหา Mario ที่พวกเขากำลังยุ่มย่ามนั้นเอียงไปทาง 'ผู้ใหญ่' มากกว่าวัยรุ่น รวมไปถึงหนึ่งในสองคนนี้ยังไม่เคยแตะเครื่องเล่นวิดีโอเกมมาก่อนเลยสักครั้งในชีวิต! ยังไม่จบแค่นั้น หลังจากนำเสนอบอร์ดผู้บริหารจนได้ลิขสิทธิ์มาถ่ายทำ พวกเขาก็ได้ไปจ้างทีมผู้กำกับสองสามีภรรยา Rocky Morton และ Annabel Jankel ที่วางแปลนให้เนื้อเรื่องมีความน่ากลัวและมืดหม่นมากกว่าเดิมอีกขั้น

เขียนบทไม่ลงรอย คนคอยจะตีกัน

แค่จะทำเนื้อหาให้ตัวเกมสดใส ๆ ดำมืดแล้ว พวกเขายังไม่เลิกหาเรื่องให้การถ่ายทำในส่วนบทวุ่นวายกว่าเดิมอีกด้วยการจ้างคนเขียนบทภาพยนตร์มากถึง 9 คน พอต่างคน ก็ต่างวาระและความคิด กลายเป็นเนื้อหาเก้าส่วนยัดรวมเป็นก้อนเดียวโดยทั้งผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และคนดูแลจากฝั่ง Nintendo เอง ไม่ได้เห็นชอบร่วมกันทั้งหมดในแต่ละส่วน

คนเขียนบทบางคนก็อยากให้เนื้อเรื่องคล้าย Ghostbusters บางคนก็ Die Hard หรือจะมีการกระทบกระทั่งเพราะไม่ชอบขี้หน้านักแสดงหลักก็เลยเลิกเขียนบทกลางคันบ้าง จนสุดท้ายผ่านวิบากกรรมได้บทมาสองแบบที่ทุกคนคิดว่ามันโอเคสำหรับพวกเขาแล้ว 

จากที่กล่าวมามันก็เหมือนเกือบจะดีแล้ว ทว่า ในสองเดือนก่อนการออกกองถ่ายทำ Jake Eberts และ Roland Joffe กลับรู้สึกว่าตัวบทมีความมืดหม่นเกินควร ทั้งคู่ตราหน้าโบ้ยความผิดให้ Rocky Morton และ Annabel Jankel พร้อมตัดสินใจรื้อบทภาพยนตร์และเร่งทำให้ทันกำหนดการ โดยไปจ้างคนเขียนบทใหม่อีกสองคน หวังให้ตัวเนื้อเรื่องมันเบาสมองลงมาบ้าง นั่นทำให้บทเกิดความไม่สมเหตุสมผลจนเละไม่เป็นท่า

กองถ่ายอลหม่าน ทีมงานอลเวง

เป็นเรื่องปกติที่การค้นหาตัวนักแสดงมารับบทต้องเปิดเผยเนื้อหาและตกลงกันว่าคุณจะได้รับบทให้เล่นเป็นอะไร ทำอะไร มีหน้าที่อะไร แต่จากก่อนหน้านี้ที่จู่ ๆ เจ้าโปรดิวเซอร์ตัวดีแก้บทแบบไม่มีปี่ขลุ่ย นักแสดงที่ตกลงทำสัญญาไว้เรียบร้อยแล้วก็ต้องมางงเป็นไก่ตาแตกว่า 'อ้าวเห้ย! นี่ไม่ใช่ที่เราตกลงกันไว้นี่นา' กับ 'อ้าวเห้ย! บทนี่ไม่เหมือนที่ฉันอ่านในตอนแรกแม้แต่น้อย' ส่งผลให้นักแสดงเริ่มคิดจะโบกมือลาไม่เอาด้วยแล้ว

พวกเขาจึงหันหัวเรือกลับไปจ้างคนเขียนบทช่วงก่อนจะรื้อบทในอดีตอีกครั้ง โดยที่ Nintendo เองไม่ได้รับการแจ้งข่าวอะไรเลย ตัวบทจึงถูกแก้ใหม่อีกครั้งด้วยความเร็วดุจจรวด และนักแสดงก็ไม่ต้องจำมันอีกด้วย เพราะจะจำไปทำไมล่ะพ่อคุณ ในเมื่อผู้กำกับแกเล่นสั่งให้เล่นตามปากเปล่า ก่อนตะโกนแอ็กชันอยู่แล้ว!

Bob Hoskins และ John Leguizamo นักแสดงหลักและนักแสดงแทนที่รับบทเป็น Mario และ Luigi ยังยอมรับออกมาตามตรงด้วยซ้ำว่าพวกเขาเกลียดงานนี้มากถึงขนาดที่ต้องดื่มเหล้าย้อมใจในทุกช่วงการถ่ายทำ นั่นทำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้นิ้วหักกันระหว่างถ่ายฉากบู๊ ถึงแม้มันจะดูแย่ แต่บอกเลยว่าในส่วนของการแสดงของนักแสดงคนอื่นอยู่ในจุดที่แย่ยิ่งกว่า

หลังการถ่ายทำที่ล่วงเลยกำหนดการถึงสิบห้าสัปดาห์ก่องบกองถ่ายเกินที่วางไว้มาก เรื่องก็ยังไม่จบเพราะตัวโปรดิวเซอร์เองก็ไม่ลงรอยกับผู้กำกับมากกว่าเดิม เนื่องจากผู้กำกับไม่ยอมให้ Mario และ Luigi ใส่ชุดสีแดงและเขียวเป็นเอกลักษณ์มาลงแสดงด้วยเหตุผลบางอย่างจนกว่าจะโดนบังคับ ทำให้สุดท้าย ทั้ง Rocky Morton และ Annabel Jankel ถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปกำกับในฉากบู๊เพิ่มเติมที่ขาดไป รวมถึงในช่วงการตัดต่อภาพยนตร์อีกด้วย 

ระเบิดเสียงวิจารณ์กับความแย่บนหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกถ่ายทำออกมาได้สำเร็จ ด้วยภาพและเนื้อหาสุดอนาถที่มีความยาว 90 นาที วางฉายครั้งแรกในวันที่ 28 พฤษภาคม 1993 ก็โดนรุมทึ้งจากแฟนเกม นักวิจารณ์ภาพยนตร์และทุกคนที่ได้เข้าไปเสียเวลาชีวิตกับมัน เด็กบางคนยังงงว่ามันใช่ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเกมที่เขาเคยเล่นตรงไหน

*ตัวภาพยนตร์ได้คะแนน IMDb 4.1/10, Rotten Tomatoes 29%*

ความป่นปี้ของ Super Mario Bros The Movie 1993 กลายเป็นตราบาปและความรู้สึกผิดที่ผลิตมันออกมาของ Bob Hoskins และ Dennis Hopper เลยทีเดียว ยังไม่รวมกับการเบือนหน้าหนีของ Nintendo ที่พยายามไม่พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ออกสื่ออีกด้วย

 หวนกลับมาสู่ปัจจุบันที่ Nintendo ได้ก้าวขาออกมาจากความผิดพลาด และเริ่มสร้างแอนิเมชันเรื่องใหม่ในชื่อ The Super Mario Bros. Movie เตรียมลงฉายจอแก้วในบ้านเรา 6 เมษายน 2023 นี้ ด้วยความร่วมมือของ Universal Studio และ ILLUMINATION ที่ฝากผลงานเลื่องชื่ออย่าง DESPICABLE ME และ MINIONS ก็พอพูดได้และมั่นใจเปลาะหนึ่งว่า เกม Mario & Luigi ที่หลายคนรักคงได้ผาดโผนตราตรึงด้วยความจำดี ๆ แน่ ๆ 

สำหรับตัวอย่างภาพยนตร์สามารถรับชมข้างล่างนี้ได้เลย!