GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
Cyberpunk 2077 เจาะลึกประวัติ Arasaka บริษัทผู้ทรงอิทธิพลจากแดนตะวันออก
ลงวันที่ 16/07/2020

Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ธีมถูกเซ็ตอยู่โลกยุคอนาคต ผู้คนเริ่มมีการดัดแปลงร่างกายตัวเองจนกลายเป็นไซบอร์ก, รถสามารถวิ่งบนทองฟ้าได้, รวมไปจนถึงมีเทคโนโลยีที่ทำให้คนสามารถเข้าไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ถึงแม้หลายอย่างที่กล่าวมาจะดูไซไฟสุดๆ แต่ในโลกแบบนี้ ก็มีหนึ่งอย่างที่ไม่ได้แตกต่างจากความเป็นจริงเท่าไหร่ นั้นก็คือการที่โลกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยเหล่าบริษัทยักษ์ที่มีเงินมากมายต่างๆ เหมือนเดิม

แน่นอนว่าเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่มากมายในโลกของ Cyberpunk 2077 ไม่ว่าจะเป็น EBM, Militech, IEC, หรือ Arasaka โดยในบทความนี้ตัวผมจะขอพาทุกคนไปเจาะลึกประวัติของ Arasaka หนึ่งบริษัทที่มีบทบาทมากมายในโลก Cyberpunk อย่างน้อยในสงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 พวกเขาก็มีบทบาทไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ!


เกี่ยวกับ Arasaka


Arasaka เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ทำธุรกิจหลักๆ 3 อย่างด้วยกันคือ การรักษาความปลอดภัย, ขายอาวุธ, และให้บริการเก็บรักษาเงิน(ธนาคาร) จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่มูลค่าของบริษัทนี้จะสูงมากๆ แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมายอย่างเดียว หากแต่ใช้ทุกอย่างเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นติดสินบน,  กรรโชกทรัพย์, แม้กระทั้งการแบล็กเมล์ หรือธุรกิจใต้ดินอื่นๆ อย่าง การลอบสังหาร, สำนักงานทนายแก้ต่างคดี รวมไปจนถึงกลุ่มยากูซ่า

แต่ถ้าจะให้ระบุว่าบริษัทนี้ขึ้นชื่อในด้านไหนมากที่สด คงต้องบอกว่าเป็นในด้านการรักษาความปลอดภัย ที่ไม่เป็นสองรองใครในโลกของ Cyberpunk แน่นอนว่าเพื่อที่จะให้บริการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทาง Arasaka จึงมีทั้งกำลังพล และอาวุธในครอบครองจำนวนมาก ส่งผลให้พวกเขาไม่ได้มีอิทธิพลในเชิงธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังมีอำนาจในเชิงการทหารสูงมากด้วย


ยุคก่อตั้ง ปี 1915-2020


บริษัท Arasaka ถูกก่อตั้งครั้งแรกในปี 1915 โดย Sasai Arasaka ที่เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น โดยช่วงแรกพวกเขามุ่งเน้นไปที่การผลิตอาวุธขาย ซึ่งในปี 1937 บริษัทนี้ได้กำไรมหาศาลจากการขายอาวุธในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม Sasai มองเห็นว่าญี่ปุ่นจะแพ้ในสงครามครั้งนี้แน่ๆ และมันจะทำให้บริษัท Arasaka ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาจึงทำการกระจายเงินที่มี ไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ยากต่อการค้นหา และป้องกันไม่ให้ถูกเอาไปโดยผู้ที่ชนะสงคราม

ตอนนั้นเศรษฐกิจของญึ่ปุ่น อยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากๆ เนื่องจากใกล้จะแพ้สงครามอยู่เต็มทน Saburo Arasaka บุตรชายของ Sasai ได้มองว่าญี่ปุ่นยังสามารถกลับมายิ่งใหญ๋ได้อีกครั้ง ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้มันเป็นจริงได้คือผู้นำที่ยอดเยี่ยม และเงินทุนที่มากพอ อย่างไรก็ตาม Sasai ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงสูงเกินไป และตัวเขาต้องการให้บริษัท Arasaka อยู่รอดได้ แม้สงครามจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของญีปุ่นมากกว่า

ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 1945 มหาจักพรรดิ์ของญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ตอนนั้น Saburo กำลังรับใช้ชาติอยู่ในฐานะร้อยโทของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นแล้ว การพ่ายแพ้ในสงครามแบบนี้เป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่าตาย ทำให้ทหารหลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตายมากกว่าจะกลับบ้านไปหาลูกเมีย แน่นอนว่า Saburo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ในวินาทีที่กำลังจะลงมีดตัวเอง เขาได้คิดทบทวนเหตุการที่ผ่านมา และเข้าใจในที่สุดว่าทำไมพ่อของเขาถึงไม่เห็นด้วย กับความคิดของเขาก่อนหน้านี้ ทั้งยังตระหนักได้ว่าตัวเองยังมีบริษัท Arasaka อยู่ พ่อของเขา Sasai Arasaka ก็อายุมากแล้ว สักวันหนึ่งบริษัทนี้ก็ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา คืนนั้น Saburo เลิกคิดที่จะฆ่าตัวตาย และหันมาศึกษา การเมือง, กฎหมาย, กับการตลาด เพื่อเตรียมรับช่วงต่อบริษัทจากพ่อของเขาแทน



ในปี 1960 ผู้ก่อตั้งบริษัท Sasai Arasaka ได้ถึงแก่กรรมด้วยวัย 101 ปี ทำให้ Saburo ที่ตอนนั้นมีอายุ 41 ปี ขึ้นมารับช่วงต่อบริษัท Arasaka แทนต็มตัว ตอนนั้นตัวบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ และยังเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ พวกเขาพยายามก่อร่างสร้างตัวใหม่ด้วยการค้าขายระหว่างประเทศ แน่นอนว่าบริษัท Arasaka เติบโตมากขึ้นทุกวัน แต่เหมือนว่าความทะเยอทะยานของเขา จะมากกว่าการเป็นบริษัทใหญ่ ที่มีเงินไหลเข้ามาเยอะๆ

Saburo เชื่อว่า "ข้อมูล" เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าจะมีอำนาจในโลกยุคใหม่นี้ ดังนั้นเขาจึงได้พยายามทำให้ Arasaka กลายเป็นบริษัทที่สามารถรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในโลกได้ง่าย Saburo ตั้งแผนกใหม่ที่ให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะขึ้นมา โดยการรักษาความปลอกภัยในที่นี้ ไม่ใช้แค่ในเชิงกายภาพอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ด้วย Saburo ใช้เวลาอยู่นานมาก กว่าจะทำให้การรักษาความปลอดภัยของ Arasaka มีชื่อเสียงโดงดังไปทั่วโลกได้จริง จนกระทั้งในช่วงปี 1990 เขาก็ทำสำเร็จ

ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่เขาสะสมมาหลายปี  Saburo สามารถคาดการณ์ได้ว่าโลกจะพบกับ วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 1996 ทำให้บริษัท Arasaka สามารถเตรียมตัวที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ในการขยายอิทธิพลมากขึ้นไปอีก จนทำให้ Arasaka ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกในเวลาต่อมา



จากการที่ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก Saburo ได้เริ่มต้นทำความปรารถนาที่จะเป็นใหญ่ในโลกของเขา Arasaka ได้เริ่มสะสมกำลังพล และอาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดียวกันเขาได้ทำลาย รวมถึงกวาดล้างบริษัทคู่แข่งไปมากมายเช่นกัน แน่นอนว่าบริษัทไหนที่ดูใช้ประโยชน์ได้ เขาก็จะรวบบริษัทเหล่านั้นเข้ากับ Arasaka เพื่อเก็บไว้ใช้งาน

หลังจากนั้นจนถึงปี 2020 บริษัท Arasaka ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะทำธุรกิจมากมาย แต่การรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และ การขายอาวุธยังคงเป็นรายได้หลักอยู่เช่นเดิม ด้วยอายุ 78 ปี Saburo ได้ก่าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัทในปี 1997 และให้ Kei Arasaka ลูกชายของเขาขึ้นรับช่วงต่อแทน โดยตัว Saburo ลดบทบาทตัวเองจนเหลือเพียงแค่เป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องสำคัญๆ เท่านั้น


สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ปี 2022-2027


ในปีช่วงปลายปี 2021 สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ได้อุบัติขึ้น ระหว่าง CINO กับ OTEC ที่เป็นบริษัทขนส่งทางน้ำของยุโรป และอเมริกา โดยจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้ เป็นเพราะ IHAG ที่เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งใต้น้ำยักษ์ใหญ่เกิดล้มละลาย ทำให้ CINO กับ OTEC แข่งกันเข้ายึดทรัพยากรต่างๆ ของ IHAG ในตอนแรกทั้ง 2 ก็สู้กันในตลาดหุ่นดีๆ แต่การต่อสู้ก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปถึงขั้นมีการว่าจ่าง Arasaka กับ Militech ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอาวุธ และการรักษาความปลอดภัย ให้เข้ามามีบทบาทในสงครามครั้งนี้ด้วย

ด้วยความที่ Arasaka กับ Militech ต่างก็เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และการทหารยักษ์ใหญ่เหมือนกัน ทำให้ทั้ง 2 เองก็เป็นคู่แข่งทางการตลาดมานานแล้ว แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างพยายามที่จะกำจัดอีกฝ่ายออกไปมาโดยตลอด ทำให้สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 เป็นข้ออ้างอันดี ที่ทั้ง 2 จะใช้ เพื่อลดอำนาจของอีกฝ่ายลง

ในช่วงเวลานั้น Saburo คิดว่า Donald Lundee ประธานของบริษัท Militech ไม่ต่างอะไรกับตัวแทนของ ผู้คน, ประเทศ, หรือทหารที่ช่วงชิงเกียรติยศของชาวญี่ปุ่นไป ทำให้ตัวเขารู้สึกอยากจะเอาชนะในสงครามครั้งนี้เป็นอย่างมาก ทางด้าน Donald Lundee เอง ก็คิดว่า Arasaka เป็นศัตรูที่เขาต้องรับมือด้วยกำลังทหารเท่านั้นเช่นกัน ส่งผลให้สงครามในครั้งนี้รุนแรงมากๆ



ในปี 2022 ผู้รับหน้าที่ออกคำสังปฏิบัติการประจำวันไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็น Kei Arasaka ผู้เป็นลูกชาย แตกต่างจากพ่อของเขา Kei มองว่าการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง และไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวด้วย แต่เขาเห็นด้วยว่าบริษัทจำเป็นต้องเอาชนะในสงครามครั้งนี้ให้ได้ เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า Arasaka จะชนะในศึกนี้

ต่อมาในปี 2024 ตัวของ Kei ได้ขึ้นมาควบคุมบริษัทนี้แบบ 100% เพราะพ่อของเขาจำเป็นต้องไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโดนลอบสังหาร ไม่ว่าจะเป็นกำลังคน หรืออาวุธ Kei มองว่าทุกอย่างเป็นเพียงหมากชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากว่าสูญเสียไป ก็เพียงแค่หาหมากใหม่มาทดแทนเท่านั้น ส่งผลให้ลูกชายคนเล็กของเขา Yorinobu Arasaka ไม่พอใจการกระทำของพ่อเขามากๆ และคิดที่จะก่อกบฏ จนทำให้บริษัท Arasaka ต้องรับทั้งศึกภายนอก และภายใน

สงครามรครั้งนี้จบลง หลังจากที่ตึกของ Arasaka ในเมือง Night City ถูกระเบิดจนต้องถล่มลงมา สร้างความเสียหายให้กับเมือง Night City เป็นอย่างมาก Kei Arasaka ถูกบังคับให้ต้องฆ่าตัวตาย ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา Kress โทษว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของ Arasaka และตราหน้าบริษัทนี้ว่าไม่ต่างอะไรจากผู้ก่อการร้าย ส่งผลให้ผู้บริหารทั้งหมดของบริษัทถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไปด้วย

ต่อมาในปี 2027 บริษัทถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่าย Bakafu ที่นำโดย Hanako Arasaka ลูกสาวคนโต, ฝ่าย Princess ที่นำโดย Michiko Arasaka ลูกสาวของ Kei ที่หันไปจับมือกับอเมริกา และฝ่าย Rebel ที่นำโดยลูกชายผู้เป็นกบฏของตระกูล Yorinobu Arasaka


Cyberpunk 2077


ในปี 2077 บริษัท Arasaka ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิธิพลอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าบริษัทนี้ยังคงให้บริการรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และค่าอาวุธเช่นเดิม Yorinobu Arasaka ดูเหมือนจะเป็นผู้นำคนปัจจุบันของบริษัทนี้ ที่น่าตกใจคือ Saburo Arasaka ทีมีอายุถึง 158 ปีแล้ว ยังไม่ตายด้วย! ในขณะที่ทาง Hanako Arasaka กับ Michiko Arasaka ยังไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ถ้าหากเราเลือกให้ "V" เคยเป็นคนในบริษัทมาก่อน เนื้อเรื้องจะเริ่มต้นในบริษัท Arasaka ของเมือง Night City ด้วย ต้องรอดูต่อไปว่า Arasaka จะมีบทบาทยังไงในเกมช่วงปลายปีนี้ครับ

New Cyberpunk 2077 Paintings Reveals Watson District and Arasaka ...

Credit: Fandom


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
Cyberpunk 2077 เจาะลึกประวัติ Arasaka บริษัทผู้ทรงอิทธิพลจากแดนตะวันออก
16/07/2020

Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ธีมถูกเซ็ตอยู่โลกยุคอนาคต ผู้คนเริ่มมีการดัดแปลงร่างกายตัวเองจนกลายเป็นไซบอร์ก, รถสามารถวิ่งบนทองฟ้าได้, รวมไปจนถึงมีเทคโนโลยีที่ทำให้คนสามารถเข้าไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ถึงแม้หลายอย่างที่กล่าวมาจะดูไซไฟสุดๆ แต่ในโลกแบบนี้ ก็มีหนึ่งอย่างที่ไม่ได้แตกต่างจากความเป็นจริงเท่าไหร่ นั้นก็คือการที่โลกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยเหล่าบริษัทยักษ์ที่มีเงินมากมายต่างๆ เหมือนเดิม

แน่นอนว่าเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่มากมายในโลกของ Cyberpunk 2077 ไม่ว่าจะเป็น EBM, Militech, IEC, หรือ Arasaka โดยในบทความนี้ตัวผมจะขอพาทุกคนไปเจาะลึกประวัติของ Arasaka หนึ่งบริษัทที่มีบทบาทมากมายในโลก Cyberpunk อย่างน้อยในสงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 พวกเขาก็มีบทบาทไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ!


เกี่ยวกับ Arasaka


Arasaka เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ทำธุรกิจหลักๆ 3 อย่างด้วยกันคือ การรักษาความปลอดภัย, ขายอาวุธ, และให้บริการเก็บรักษาเงิน(ธนาคาร) จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่มูลค่าของบริษัทนี้จะสูงมากๆ แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมายอย่างเดียว หากแต่ใช้ทุกอย่างเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นติดสินบน,  กรรโชกทรัพย์, แม้กระทั้งการแบล็กเมล์ หรือธุรกิจใต้ดินอื่นๆ อย่าง การลอบสังหาร, สำนักงานทนายแก้ต่างคดี รวมไปจนถึงกลุ่มยากูซ่า

แต่ถ้าจะให้ระบุว่าบริษัทนี้ขึ้นชื่อในด้านไหนมากที่สด คงต้องบอกว่าเป็นในด้านการรักษาความปลอดภัย ที่ไม่เป็นสองรองใครในโลกของ Cyberpunk แน่นอนว่าเพื่อที่จะให้บริการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทาง Arasaka จึงมีทั้งกำลังพล และอาวุธในครอบครองจำนวนมาก ส่งผลให้พวกเขาไม่ได้มีอิทธิพลในเชิงธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังมีอำนาจในเชิงการทหารสูงมากด้วย


ยุคก่อตั้ง ปี 1915-2020


บริษัท Arasaka ถูกก่อตั้งครั้งแรกในปี 1915 โดย Sasai Arasaka ที่เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น โดยช่วงแรกพวกเขามุ่งเน้นไปที่การผลิตอาวุธขาย ซึ่งในปี 1937 บริษัทนี้ได้กำไรมหาศาลจากการขายอาวุธในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม Sasai มองเห็นว่าญี่ปุ่นจะแพ้ในสงครามครั้งนี้แน่ๆ และมันจะทำให้บริษัท Arasaka ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาจึงทำการกระจายเงินที่มี ไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ยากต่อการค้นหา และป้องกันไม่ให้ถูกเอาไปโดยผู้ที่ชนะสงคราม

ตอนนั้นเศรษฐกิจของญึ่ปุ่น อยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากๆ เนื่องจากใกล้จะแพ้สงครามอยู่เต็มทน Saburo Arasaka บุตรชายของ Sasai ได้มองว่าญี่ปุ่นยังสามารถกลับมายิ่งใหญ๋ได้อีกครั้ง ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้มันเป็นจริงได้คือผู้นำที่ยอดเยี่ยม และเงินทุนที่มากพอ อย่างไรก็ตาม Sasai ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงสูงเกินไป และตัวเขาต้องการให้บริษัท Arasaka อยู่รอดได้ แม้สงครามจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของญีปุ่นมากกว่า

ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 1945 มหาจักพรรดิ์ของญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ตอนนั้น Saburo กำลังรับใช้ชาติอยู่ในฐานะร้อยโทของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นแล้ว การพ่ายแพ้ในสงครามแบบนี้เป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่าตาย ทำให้ทหารหลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตายมากกว่าจะกลับบ้านไปหาลูกเมีย แน่นอนว่า Saburo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ในวินาทีที่กำลังจะลงมีดตัวเอง เขาได้คิดทบทวนเหตุการที่ผ่านมา และเข้าใจในที่สุดว่าทำไมพ่อของเขาถึงไม่เห็นด้วย กับความคิดของเขาก่อนหน้านี้ ทั้งยังตระหนักได้ว่าตัวเองยังมีบริษัท Arasaka อยู่ พ่อของเขา Sasai Arasaka ก็อายุมากแล้ว สักวันหนึ่งบริษัทนี้ก็ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา คืนนั้น Saburo เลิกคิดที่จะฆ่าตัวตาย และหันมาศึกษา การเมือง, กฎหมาย, กับการตลาด เพื่อเตรียมรับช่วงต่อบริษัทจากพ่อของเขาแทน



ในปี 1960 ผู้ก่อตั้งบริษัท Sasai Arasaka ได้ถึงแก่กรรมด้วยวัย 101 ปี ทำให้ Saburo ที่ตอนนั้นมีอายุ 41 ปี ขึ้นมารับช่วงต่อบริษัท Arasaka แทนต็มตัว ตอนนั้นตัวบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ และยังเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ พวกเขาพยายามก่อร่างสร้างตัวใหม่ด้วยการค้าขายระหว่างประเทศ แน่นอนว่าบริษัท Arasaka เติบโตมากขึ้นทุกวัน แต่เหมือนว่าความทะเยอทะยานของเขา จะมากกว่าการเป็นบริษัทใหญ่ ที่มีเงินไหลเข้ามาเยอะๆ

Saburo เชื่อว่า "ข้อมูล" เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าจะมีอำนาจในโลกยุคใหม่นี้ ดังนั้นเขาจึงได้พยายามทำให้ Arasaka กลายเป็นบริษัทที่สามารถรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในโลกได้ง่าย Saburo ตั้งแผนกใหม่ที่ให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะขึ้นมา โดยการรักษาความปลอกภัยในที่นี้ ไม่ใช้แค่ในเชิงกายภาพอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ด้วย Saburo ใช้เวลาอยู่นานมาก กว่าจะทำให้การรักษาความปลอดภัยของ Arasaka มีชื่อเสียงโดงดังไปทั่วโลกได้จริง จนกระทั้งในช่วงปี 1990 เขาก็ทำสำเร็จ

ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่เขาสะสมมาหลายปี  Saburo สามารถคาดการณ์ได้ว่าโลกจะพบกับ วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 1996 ทำให้บริษัท Arasaka สามารถเตรียมตัวที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ในการขยายอิทธิพลมากขึ้นไปอีก จนทำให้ Arasaka ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกในเวลาต่อมา



จากการที่ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก Saburo ได้เริ่มต้นทำความปรารถนาที่จะเป็นใหญ่ในโลกของเขา Arasaka ได้เริ่มสะสมกำลังพล และอาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดียวกันเขาได้ทำลาย รวมถึงกวาดล้างบริษัทคู่แข่งไปมากมายเช่นกัน แน่นอนว่าบริษัทไหนที่ดูใช้ประโยชน์ได้ เขาก็จะรวบบริษัทเหล่านั้นเข้ากับ Arasaka เพื่อเก็บไว้ใช้งาน

หลังจากนั้นจนถึงปี 2020 บริษัท Arasaka ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะทำธุรกิจมากมาย แต่การรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และ การขายอาวุธยังคงเป็นรายได้หลักอยู่เช่นเดิม ด้วยอายุ 78 ปี Saburo ได้ก่าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัทในปี 1997 และให้ Kei Arasaka ลูกชายของเขาขึ้นรับช่วงต่อแทน โดยตัว Saburo ลดบทบาทตัวเองจนเหลือเพียงแค่เป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องสำคัญๆ เท่านั้น


สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ปี 2022-2027


ในปีช่วงปลายปี 2021 สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ได้อุบัติขึ้น ระหว่าง CINO กับ OTEC ที่เป็นบริษัทขนส่งทางน้ำของยุโรป และอเมริกา โดยจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้ เป็นเพราะ IHAG ที่เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งใต้น้ำยักษ์ใหญ่เกิดล้มละลาย ทำให้ CINO กับ OTEC แข่งกันเข้ายึดทรัพยากรต่างๆ ของ IHAG ในตอนแรกทั้ง 2 ก็สู้กันในตลาดหุ่นดีๆ แต่การต่อสู้ก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปถึงขั้นมีการว่าจ่าง Arasaka กับ Militech ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอาวุธ และการรักษาความปลอดภัย ให้เข้ามามีบทบาทในสงครามครั้งนี้ด้วย

ด้วยความที่ Arasaka กับ Militech ต่างก็เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และการทหารยักษ์ใหญ่เหมือนกัน ทำให้ทั้ง 2 เองก็เป็นคู่แข่งทางการตลาดมานานแล้ว แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างพยายามที่จะกำจัดอีกฝ่ายออกไปมาโดยตลอด ทำให้สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 เป็นข้ออ้างอันดี ที่ทั้ง 2 จะใช้ เพื่อลดอำนาจของอีกฝ่ายลง

ในช่วงเวลานั้น Saburo คิดว่า Donald Lundee ประธานของบริษัท Militech ไม่ต่างอะไรกับตัวแทนของ ผู้คน, ประเทศ, หรือทหารที่ช่วงชิงเกียรติยศของชาวญี่ปุ่นไป ทำให้ตัวเขารู้สึกอยากจะเอาชนะในสงครามครั้งนี้เป็นอย่างมาก ทางด้าน Donald Lundee เอง ก็คิดว่า Arasaka เป็นศัตรูที่เขาต้องรับมือด้วยกำลังทหารเท่านั้นเช่นกัน ส่งผลให้สงครามในครั้งนี้รุนแรงมากๆ



ในปี 2022 ผู้รับหน้าที่ออกคำสังปฏิบัติการประจำวันไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็น Kei Arasaka ผู้เป็นลูกชาย แตกต่างจากพ่อของเขา Kei มองว่าการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง และไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวด้วย แต่เขาเห็นด้วยว่าบริษัทจำเป็นต้องเอาชนะในสงครามครั้งนี้ให้ได้ เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า Arasaka จะชนะในศึกนี้

ต่อมาในปี 2024 ตัวของ Kei ได้ขึ้นมาควบคุมบริษัทนี้แบบ 100% เพราะพ่อของเขาจำเป็นต้องไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโดนลอบสังหาร ไม่ว่าจะเป็นกำลังคน หรืออาวุธ Kei มองว่าทุกอย่างเป็นเพียงหมากชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากว่าสูญเสียไป ก็เพียงแค่หาหมากใหม่มาทดแทนเท่านั้น ส่งผลให้ลูกชายคนเล็กของเขา Yorinobu Arasaka ไม่พอใจการกระทำของพ่อเขามากๆ และคิดที่จะก่อกบฏ จนทำให้บริษัท Arasaka ต้องรับทั้งศึกภายนอก และภายใน

สงครามรครั้งนี้จบลง หลังจากที่ตึกของ Arasaka ในเมือง Night City ถูกระเบิดจนต้องถล่มลงมา สร้างความเสียหายให้กับเมือง Night City เป็นอย่างมาก Kei Arasaka ถูกบังคับให้ต้องฆ่าตัวตาย ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา Kress โทษว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของ Arasaka และตราหน้าบริษัทนี้ว่าไม่ต่างอะไรจากผู้ก่อการร้าย ส่งผลให้ผู้บริหารทั้งหมดของบริษัทถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไปด้วย

ต่อมาในปี 2027 บริษัทถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่าย Bakafu ที่นำโดย Hanako Arasaka ลูกสาวคนโต, ฝ่าย Princess ที่นำโดย Michiko Arasaka ลูกสาวของ Kei ที่หันไปจับมือกับอเมริกา และฝ่าย Rebel ที่นำโดยลูกชายผู้เป็นกบฏของตระกูล Yorinobu Arasaka


Cyberpunk 2077


ในปี 2077 บริษัท Arasaka ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิธิพลอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าบริษัทนี้ยังคงให้บริการรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และค่าอาวุธเช่นเดิม Yorinobu Arasaka ดูเหมือนจะเป็นผู้นำคนปัจจุบันของบริษัทนี้ ที่น่าตกใจคือ Saburo Arasaka ทีมีอายุถึง 158 ปีแล้ว ยังไม่ตายด้วย! ในขณะที่ทาง Hanako Arasaka กับ Michiko Arasaka ยังไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ถ้าหากเราเลือกให้ "V" เคยเป็นคนในบริษัทมาก่อน เนื้อเรื้องจะเริ่มต้นในบริษัท Arasaka ของเมือง Night City ด้วย ต้องรอดูต่อไปว่า Arasaka จะมีบทบาทยังไงในเกมช่วงปลายปีนี้ครับ

New Cyberpunk 2077 Paintings Reveals Watson District and Arasaka ...

Credit: Fandom


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header