GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
[Preview] พรีวิวเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 ยิงมันส์สะใจเหมือนเดิม แต่อาจเป็นฝันร้ายของแฟนๆ ภาคก่อน!
ลงวันที่ 16/10/2023


Call of Duty: Modern Warfare 3 เป็นเกมภาคใหม่แห่งปี 2023 ที่มีเนื้อหาต่อจากเกมภาควางขายเมื่อปีก่อน โดยที่เกมทำภาคต่อของ Modern Warfare ออกมาเร็วขนาดนี้ ก็เนื่องมาจากตอนแรกค่าย Activision มีแผนจะไม่วางขายเกมภาคใหม่ในปี 2023 แล้วจะทำออกมาเป็น DLC ภาคเสริมของ Modern Warfare 2 แทน แต่ท้ายที่สุดทางนั้นคงรู้สึกว่า "มันไม่น่าจะดีนะ" ก็เลยเปลี่ยนภาคเสริมนี้ให้กลายเป็นเกมภาคใหม่แทน แล้วเกมภาคใหม่นี้ก็ยังไม่ได้ให้ทีมงาน Infinity Ward เจ้าของผลงาน 2 ภาคแรกมาเป็นคนพัฒนา แต่เปลี่ยนให้มาเป็นทีม Sledgehammer เจ้าของเกมภาค Vanguard เป็นคนพัฒนาแทน ทำให้หลายคนก็น่าจะอยากรู้ว่า "แล้วมันจะต่างจากภาค 2 ยังไงบ้างเนี่ย" ทาง GameFever จึงขอพาทุกคนมาชมพรีวิวเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 จากที่ผู้เขียนไปลองเล่นมาในช่วง Open Beta มาดูกันว่าเกมจะดีขึ้นหรือแย่ลง!!!

  • พรีวิวเฉพาะโหมด Multiplayer เท่านั้น เนื่องจากโหมด Single Player กับ Zombie ไม่ได้เปิดให้ลองเล่น


คลิปตัวอย่างโหมโรง


เกมเพลย์ของภาคนี้


เกมภาคนี้ในโหมด Multiplayer จะมีการนำเสนอที่ไม่ต่างจากภาค 2 เลย ไม่ว่าจะเรื่องไอเทมและระบบต่างๆ รวมไปถึงโหมดการเล่น ผู้ที่ได้เล่นจะรู้สึกได้เลยว่านี่มันคือเกมภาค 2 ในรูปแบบ DLC ภาคเสริมจริงๆ (จนบางคนอาจเคืองว่าแล้วเองจะขายเป็นเกมภาคใหม่ในราคาแพงๆ จริงดิ?) โดยใครที่ไม่เคยเล่นภาค 2 จะอธิบายให้เข้าใจแบบสรุปง่ายๆ ตามนี้


  • เกมในโหมด Multiplayer จะเน้นแข่งขันกันแบบ 2 ทีมสู้กัน โดยโหมดฮิตหลักๆ ก็คือ 6vs6 ที่จะมีเป็นทั้งแข่งแบบ Team Deathmatch ยิงแข่งกันแบบตายแล้วเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ แต่ผู้ชนะจะคือทีมที่ทำแต้มได้ตามที่กำหนด แต่เกมก็มีแข่งแบบ Search and Destroy ที่ไม่มีตายแล้วเกิดใหม่ และให้ฝั่งหนึ่งจะต้องเป็นทีมไปวางระเบิด ส่วนอีกทีมต้องกู้ระเบิดเหมือนของเกม Counter-Strike แล้วก็ยังมีแข่งแบบ Ground War ที่ให้สู้กันแบบ 32vs32 อย่างกับเกม Battlefield แล้วก็ยังมีการแข่งขันแบบอื่นๆ อีกเพียบ ทำให้เกมจะไม่น่าเบื่อ


  • เกมเพลย์ของเกมนี้จะเน้นความรวดเร็ว ผู้เล่นจะเคลื่อนที่ตัวละครได้คล่องแคล่วเหนือมนุษย์ อาวุธส่วนใหญ่ในเกมก็จะฆ่าศัตรูได้ว่องไว้เช่นกัน ยกตัวอย่างลูกซองกับปืนสไนเปอร์ที่ยิงนัดเดียวก็ตายได้เลย ถ้าบาดเจ็บก็จะมีรีเจนพลังชีวิตในเวลาแปปเดียว ถ้าจะเปรียบเกมนี้เป็นนินจาถือปืนสู้กันก็ยังได้ แต่ใครที่เป็นสายแคมป์ หรือสายค่อยๆ เดินยิงอย่างใจเย็นเชื่องช้า ก็สามารถสนุกกับเกมนี้ได้เช่นกัน เพราะเกมจะทำมารองรับผู้เล่นทุกคน


  • เกมนี้เวลาฆ่าศัตรูได้เยอะๆ แบบไม่ตายจะทำให้ได้รางวัลพิเศษช่วยสร้างความได้เปรียบ ยกตัวอย่างฆ่าศัตรู 4 ตัวจะได้รางวัล UAV ให้ใช้งานแล้วมีเรดาห์สแกนจุดที่ศัตรูอยู่ หรือถ้าฆ่าศัตรู 8 ตัวจะได้รางวัล S.A.E ให้ใช้เรียกเครื่องบินมาทิ้งระเบิด 3 จุด


  • เริ่มเกมมาจะมีให้ผู้เล่นเลือก loadout ต่างกัน โดยใน loadout จะมีอาวุธหลัก, อาวุธรอง, ระเบิด, อุปกรณ์ และสกิลต่างกันไป แต่พอเล่นไปได้สักพักเราจะสามารถปลดล็อกระบบ Custom loadout ทำให้เราปรับแต่งเองได้ว่าจะเอาอาวุธแบบไหน หรือสกิลแบบไหนได้


  • ทั้งอาวุธหลัก และอาวุธรอง จะมีให้ผู้เล่นปรับแต่งปืนได้หลายส่วนมาก และแต่ละส่วนจะมี Mod หรือ Gun Part ให้เลือกใช้เยอะมาก โดยการปรับแต่งก็ทำให้ปืนนั้นจะมีจุดเด่นต่างกันไป บางการปรับอาจทำให้ยิงไกลได้แรง และนิ่งมากขึ้น หรือปรับแต่งให้เน้นยิงไม่ต้องเล็งได้ดีขึ้น ซึ่งตรงนี้จึงทำให้หลายๆ คนยกให้เกมนี้มีระบบแต่งปืนที่โหดมาก แต่ว่า 1 ปืนปรับใส่ Mod หรือ Gun Part ได้สูงสุด 5 ส่วนเท่านั้น


  • พวกระเบิด และอุปกรณ์ก็จะตามเอกลักษณ์ของเกม Call of Duty ยกตัวอย่างระเบิด Semtex ที่ปาแล้วจะติดแปะกับกำแพงหรือวัตถุได้ ทำให้ถ้าปาใส่ศัตรูก็เป็นอะไรที่เร้าใจมาก หรือระเบิด Drill Charge ที่ถ้าปาใส่กำแพงก็จะเจาะไประเบิดใส่กำแพงอีกฝั่งเป็นต้น


  • ส่วนพวกสกิลก็ช่วยให้การเล่นเกมนี้หลากหลายขึ้นมาก เราอาจจะเน้นพวกสกิลที่ช่วยให้เราซ่อนตัวจากเรดาห์และเน้นวิ่งไว หรือจะเน้นสกิลที่ช่วยกลั้นหายใจยิงสไนเปอร์นิ่งๆ กว่าเดิมได้ แถมถ้าปรับแต่งปืนให้เข้ากับสกิลก็จะทำให้ได้เปรียบศัตรูมาก


ดีกว่าเดิมยังไง?


เกมภาคนี้จะมีการเพิ่มของเล่นใหม่ๆ และการปรับเปลี่ยนเกมเพลย์ให้ต่างจากภาค 2 ไปเยอะอย่างมาก โดยมันจะต่างจากตอน Modern Warfare ภาค 1 กับของภาค 2 เพราะอย่างที่บอกไปว่าภาคนี้เปลี่ยนมาเป็นทีมพัฒนา Sledgehammer แล้วทางทีมพัฒนานี้ก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์การทำเกมแบบของ Infinity Ward เลย ซึ่งมันก็มีข้อดีและข้อเสีย แต่ข้อดีทั้งหมดที่เห็นก็มีดังนี้


  • มีการปรับให้ TTK หรือ "เวลาในการต้องใช้ฆ่าศัตรู" สูงขึ้น ทำให้เวลาเราจะฆ่าศัตรูนั้นไม่ง่ายเหมือนตอนภาค 2 อารมณ์เหมือนตอนภาค 2 ศัตรูจะมีพลังชีวิต 100HP แต่ภาคนี้จะมีพลังชีวิต 150HP โดยตรงนี้อาจไม่ส่งต่อเกมเพลย์เวลาใช้ปืนลูกซองชักหรือสไนเปอร์ เพราะยังไงก็ยิงนัดเดียวตายได้อยู่แล้ว แต่เวลาใช้ปืนไรเฟิลหรือปืนกลสั้น ชัดเลยว่าเวลาจะฆ่าศัตรูใช้จำนวนกระสุนเยอะขึ้นมาก ซึ่งข้อดีคือปืนในเกมนี้จะเกรียนน้อยลง และทำให้ผู้เล่นมีโอกาสหนีตอนโดนโจมตีมากขึ้น เหมาะกับคนที่เล่นไม่เก่ง หรือไม่ชอบที่ภาค 2 มันยิงกันตายไวเกิน


  • การเคลื่อนที่ภาคนี้จะไม่เชื่องช้าสมจริงแบบภาค 2 แล้วเน้นให้เคลื่อนที่ได้ว่องไวมากขึ้น ทำให้การวิ่งยิงในเกมภาคนี้จะสนุกเรียบง่ายต่อการเล่นปืนทุกรูปแบบไม่ว่าจะปรับแต่งแบบไหนก็ตาม แถมภาคนี้เพิ่มระบบ Slide Cancel เข้ามาอีก ทำให้สายวิ่งยิงเวลาเจอศัตรู เราก็สามารถสไลด์หลบกระสุนและรีบตั้งท่าขึ้นมายิงสวนได้ง่ายๆ


  • เอาระบบ Recoil Visual ออก ทำให้เวลายิงแล้วเราจะไม่รู้สึกว่าแรงดีดของปืนมันสมจริง แต่เวลายิงรัวๆ จะดูง่ายมากขึ้น และคุมปืนได้ง่ายมากขึ้นด้วย 


  • เพิ่มระบบ Tactical Aim หรือการเล็งยิงแบบไม่ผ่านลำกล้องของปืนที่ติดลำกล้องได้ โดยข้อดีคือปืนจะยกเล็งได้ไวกว่า และยิงออกมาเป็น hip-fire ที่นิ่งกว่าด้วย ทำให้สายบู๊จะมีลูกเล่นที่โกงขึ้น (แต่งปืนสาย hip-fire แต่ยังยิงสู้ระยะไกลได้เป็นต้น) แต่สายยิงไกลก็น่าใช้ระบบนี้ตอนศัตรูเข้าใกล้



  • เพิ่มระบบ Aftermarket Parts ที่ทำให้เปลี่ยนปืนเป็นปืนอีกชนิดนึงได้ ยกตัวอย่างปืนพกก็เปลี่ยนเป็นปืน SMG ได้ หรือเปลี่ยนปืน LMG ให้เป็น LMG ฉบับวิ่งยิงได้ดีขึ้น



  • มีการปรับแปลงระบบสกิลให้กลายเป็น "อุปกรณ์สวมใส่" ที่ให้ผู้เล่นใส่ไปออกรบแล้วได้ความสามารถต่างกัน โดยอุปกรณ์สวมใส่จะแบ่งเป็น 3 หมวดได้แก่ 1.) ถุงมือ 2.) รองเท้า 3.) อุปกรณ์เสริม ซึ่งถ้าเราเลือก "ถุงมือเบา" ก็จะส่งผลให้สลับปืนได้ไวเป็นต้น ระบบนี้อาจไม่ต่างจากระบบสกิล แต่มันก็จะช่วยทำให้ "เกมจะตัดสกิลเหนือมนุษย์" ออกจากเกมไปได้ ยกตัวอย่างสกิล High Alert ที่ทำให้ผู้เล่นมีจิตสัมผัสรู้ได้ว่าศัตรูจ้องมองเราจากทางไหน อันนี้ก็ตัดออก



  • มีระบบ "เกราะสวมใส่" ให้เลือกแล้วทำให้ loadout ของผู้เล่นพกของได้ต่างกันไปอีก โดยเกราะสวมใส่แต่ละรูปแบบจะมีความสามารถพิเศษให้ต่างกัน แต่บางเกราะก็อาจทำให้ "พกอุปกรณ์เสริมได้ 2 ชิ้น" แต่ก็อาจต้องแลกกับพกระเบิดได้แค่ 1 ชนิดเป็นต้น



  • เพิ่มปืนใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่มาจากของเกมภาค Modern Warfare 1 ไม่ว่าจะ G36 หรือ UMP45 เป็นต้น แต่มันก็ช่วยทำให้เกมมีปืนเยอะขึ้นกว่าเดิมจากของภาค 2 มากๆ เลย เพราะอย่าลืมในภาคนี้ผู้เล่นย้ายปืน และของหลายๆ อย่างจากภาค 2 มาใช้ได้ และปืนที่เพิ่มมาส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ปืนตระกูลเดียวกัน ทำให้มันจะมีปืนน่าลองใช้เรื่อยๆ อยู่ตลอด (ของภาค 2 ส่วนใหญ่เป็นปืนตระกูลเดียวกัน พอมันยิงแทบไม่ต่างกันเลยเบื่อไว)



  • การออกแบบแผนที่ด่านต่างๆ ของทีมพัฒนา Sledgehammer รู้สึกว่ามันมิติที่หลากหลาย และน่าจดจำกว่าของเกมภาค 2 บางแผนที่จะเป็นพื้นที่โล่งใหญ่ๆ เหมาะสำหรับสไนเปอร์ แล้วในพื้นที่บางส่วนก็จะมีบ้านให้ไปยิงกันแบบ CQC ความรู้สึกแผนที่ในภาคนี้จึงดูครบรสกว่า แถมรู้สึกว่าออกแบบมาไม่เกรียนเหมือนของภาค 2 (ภาค 2 บางด่านนี่ถ้าไม่มีจุดแคมป์เยอะ ก็จุด respawn นรกมาก)



  • เพิ่มโหมดใหม่ในชื่อ Cutthroat ที่จะให้ผู้เล่นแบ่ง 3 ทีม ทีมละ 3 คนมาสู้กัน ให้ประสบการณ์แปลกใหม่เหมือนเล่นโหมด Warzone แต่ไม่ต้องฟาร์มของในแผนที่ หรือไม่ต้องใช้เวลาเล่นนาน


ในด้านข้อดี ผู้เขียนรู้สึกว่าตอนเล่นเกมมันเหมาะกับผู้เล่นหลากหลายกลุ่มมากขึ้น และรู้สึกว่ามันไม่ใช่เกมกึ่ง Tactical Shooter ที่เวลาทำอะไรก็ต้องใจเย็นมากๆ หรือต้องชั้นเชิงเยอะเวลาเข้าหาศัตรูอีกแล้ว แถมก็ยังให้อารมณ์กลับไปเล่น Call of Duty: Modern Warfare เวอร์ชั่นแรกสุดนู้นเลย และก็ด้วยที่ภาคนี้มีแมพจากภาคเวอร์ชั่นเก่าเยอะมาก ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันเหมือน "พาย้อนไปวันวาน" แต่ที่รู้สึกว้าวมากที่สุดคือปืนใหม่ๆ ของภาคนี้ มันมี Mod กับ Gun Part ให้ปรับแต่งเยอะกว่ามากจริงๆ ทั้งๆ ที่ตอนภาค 2 ก็รู้สึกว่ามันเยอะมากแล้วนะ สายแต่งปืนจึงได้ฟินกว่าเดิมแน่นอน


แย่กว่าเดิมยังไง?


อย่างที่บอกไปว่าภาคนี้เปลี่ยนทีมพัฒนาเป็น Sledgehammer เพราะงั้นนอกจากมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย โดยข้อเสียทั้งหมดมีดังนี้


  • แม้จะมีการปรับ TTK ให้ดีขึ้น แต่ว่าในช่วง Open Beta ก็ทำให้เห็นความสมดุลของปืนก็มีผลเยอะอยู่ดี บางปืนนั้นก็ยิงตายง่ายๆ แต่บางปืนนี่เสียเปรียบกว่าจะยิงตายก็ต้องเกิน 10 นัด บางทีสิ่งนี้อาจทำให้เกมนั้นแย่กว่าภาค 2 เพราะบางปืนนั้นอาจถึงขั้นไม่น่าใช้เล่นเลยนั่นเอง (ของภาค 2 มัน TTK ไว จะใช้ปืนไหนก็เลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่) ก็หวังว่า Sledgehammer จะทำสมดุลเกมมาให้ดี


  • การเคลื่อนที่ภาคนี้ดูเหนือมนุษย์มาก และมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเท่านั้น เพราะตอนนี้ใครเคลื่อนที่คล่องๆ ก็สไลด์หลบกระสุนฆ่าศัตรูสบายทั้งเกม (แล้วสามารถหลบได้เร็วยิ่งกว่านินจาอีกนะ อีกนิดก็คือ The Flash แล้วมั้ง) ทำให้ถ้าคนเล่นไม่เก่งแล้วมาเจอคนใช้สูตรเล่นแบบนี้คงมีหัวร้อนลบเกมทิ้ง แถมพอผสมกับด้าน TTK ก็ทำให้เกมเพลย์ไม่เหมือนสงครามทหารกึ่ง Tactical  เหมือนตอนภาค 2 จนกลายเป็นคนละเกมแบบไม่ใช่ภาคต่อเลย


  • พอปรับระบบปืนให้ยิงง่ายขึ้นด้วยการถอด Recoil Visual ก็มีผลร้ายคือ gunplay ภาคนี้เวลายิงดูไม่เนียนได้อรรถรส Immersion สมจริงเลย ทำให้ใครเป็นสายบ้าปืนไม่ได้สนใจ gameplay แต่สนใจที่ปืนยิงแล้วได้อรรถรสสมจริง ภาคนี้อาจไม่ตอบโจทย์คุณมาก แม้ปืนจะยังยิงมันส์เหมือนเดิมอยู่ก็ตาม (gunplay ตอนภาค 1 กับ 2 ถือเป็นเอกลักษณ์ของเกมภาค Modern Warfare ของแฟนหลายๆ คน แต่พอเป็นแบบนี้ก็อาจคือฝันร้ายของแฟนๆ มาก)


คลิปเปรียบเทียบ gunplay ภาค 1 กับ 3

(ดููในคลิปอาจไม่ค่อยต่างกัน แต่เวลาเล่นจริงจะรู้สึกว่าภาค 3 ตอนยิงแล้วมีรายละเอียดน้อยกว่า)



  • แม้ Modern Warfare ภาค 1 กับ 2 ก็ไม่ได้มีเสียงปืนสมจริง แต่มันก็ยังยิงแล้วฟินมากๆ แต่มาของภาค 3 กลายเป็นว่าเสียงปืนนี่ทำคนเล่นไม่อินอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงปืนนี่อย่างกับปืนเอเลี่ยน หรือปืนของเล่น ทำให้ปืนภาคนี้ดูแย่ลงไปอีก


  • ภาพสวยเท่ากัน แต่ภาคนี้กินสเปคกว่าเดิมด้วย เหมือนกับเพราะทีมพัฒนาทำแผนที่ให้ซับซ้อนขึ้น แต่ทีมพัฒนาก็ดูทำเวอร์ชั่น PC ไม่ดีเท่าของ Infinity Ward ยกตัวอย่าง DLSS เวลาปรับแล้วดันปรับ Sharpness ไม่ได้เหมือนภาค 2 ซะงั้น


ในด้านข้อเสีย จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มันมาจากเพราะค่าย Sledgehammer กับ Infinity Ward นั้นต้องการทำเกมที่เอกลักษณ์ต่างกัน และเอาจริงๆ ทาง Infinity Ward นั้นก็อาจทำออกมาได้ดีกว่าด้วย เพราะสิ่งที่เป็นข้อเสียจาก Sledgehammer มันก็ทำให้เกมนั้นดู Downgrade ลงไปเลย ยกตัวอย่างเรื่องการยิงปืนกับเสียงปืน (เรื่องเสียงปืนกับอรรถรส Infinity Ward ทำได้ดีกว่าแน่นอน เสียแค่พวกเรื่อง Gameplay มันเกรียน) ฉะนั้นถ้าใครมีรสนิยมชอบเกมของ Infinity Ward มากกว่าก็อาจรู้สึกไม่อยากซื้อภาค 3 แต่ถ้าเป็นแฟนตัวยงรักซีรี่ส์เกม Call of Duty ก็อาจไม่มีปัญหาอะไร เพราะก็คงไม่ใช่แฟนทุกคนที่เล่นเกมนี้เพราะปืนมันยิงมันส์ได้อรรถรสสมจริงนั่นเอง 


ความรู้สึกโดยรวม


เห็นชัดๆ ได้เลยว่าแม้จะใช้ชื่อเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 แต่มันก็ดูไม่ใช่เกมภาค 3 หรือภาค 2.5 เนื่องจากเกมนี้แม้จะมีธีมเหมือนกัน แต่เกมเพลย์หรืออะไรก็ต่างกันไปหมด รวมไปถึงเอกลักษณ์ที่เคยมีจากตอนภาค 2 อีกด้วย สำหรับผู้เขียนตอนนี้ก็รู้สึกอยู่เหมือนกับว่าจะซื้อมาเล่นดีไหม เพราะผู้เขียนชอบ Modern Warfare ทั้ง 2 ภาคอย่างมากจนซื้อเล่น แต่ตอนภาค Black Ops Cold War กับ Vanguard ก็ไม่ได้รู้สึกว้าวจนซื้อมา (เนื่องจากฉันเป็นคนชอบเกมที่มี gunplay มันส์ๆ สมจริง แต่ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ Call of Duty) ในความคิดผู้เขียนตอนนี้จึงคือจะหนีไปเล่นแค่เกม Battlefield 2042 แทนดีกว่าไหมนะ เพราะอันนั้นทำ gunplay ได้ดีกว่า Modern Warfare 3 ซึ่งย้ำอีกครั้งว่าเกมภาค 3 มันก็สนุกมันส์เหมือนเดิมนะ เพียงแต่มันไม่ได้มีรสนิยมที่เป็นจุดเด่นเหมือนของภาค 2 ก็เท่านั้น รวมทั้งอีกสิ่งหนึ่งที่ลืมพูดคือภาคนี้โหมด Ground War พอเปลี่ยนเกมเพลย์แล้วมันสนุกกว่าของภาค 2 ซึ่งน่าจะเพราะ TTK มันช้าเลยทำให้วิ่งหนีการโดนแคมป์ยิงได้บ่อยๆ (ภาค 2 นี่หัวร้อนมากถ้าโดนทีมศัตรูแคมป์กันอย่างสามัคคี) ฉะนั้นขอสรุปสั้นๆ ดังนี้


  • ถ้าคุณเป็นแฟน Call of Duty ผมมองว่าภาคนี้ยังไงก็คุ้มเงิน เพราะทาง Sledgehammer ก็ทำออกมาได้ดี แต่คอนเทนต์ที่เพิ่มเข้ามาอาจไม่ได้เยอะ ขณะที่ถ้าใครไม่เคยซื้อเล่นภาค 2 ก็คือคุ้มเลย


  • ถ้าคุณไม่ใช่แฟน Call of Duty และชอบ Modern Warfare เพราะเอกลักษณ์ที่ทาง Infinity Ward เคยทำไว้ตอน 2 ภาคแรก อันนี้คุณอาจต้องเปิดใจสำหรับเกมภาค 3 เสียหน่อย แต่ถ้ารับไม่ได้จริงๆ ก็อาจรอดูหลังเกมวางขายสัก 1 เดือนก่อนว่าจะยอดเยี่ยมไหม


..............................


พบเกม PC ลดราคาแรงตลอดปีที่ร้าน 2game


ซื้อผ่านลิงก์ https://2game.com?ref=gamefeverth และใส่รหัสคูปอง Gamefever เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม!


7
ข้อดี

สนุกมันส์เหมือนเดิม

ปืนเยอะขึ้น เติมเต็มให้จากภาค 2 มาก

รู้สึกว่าเกมเกรียนน้อยลงในหลายด้าน

เหมาะสำหรับคนเล่นทุกรูปแบบมากขึ้น 

ข้อเสีย

Gunplay ไม่ดีเหมือนภาคก่อน นึกว่าฝันร้าย

ต้องปรับสมดุลให้ดีกว่านี้ ไม่งั้นมีคนเก่งเกินง่ายๆ

นี่มันภาคเสริมของภาค 2 ชัดๆ

ภาพเท่าเดิม แต่กินสเปคกว่าเดิม

8

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Preview] พรีวิวเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 ยิงมันส์สะใจเหมือนเดิม แต่อาจเป็นฝันร้ายของแฟนๆ ภาคก่อน!
16/10/2023


Call of Duty: Modern Warfare 3 เป็นเกมภาคใหม่แห่งปี 2023 ที่มีเนื้อหาต่อจากเกมภาควางขายเมื่อปีก่อน โดยที่เกมทำภาคต่อของ Modern Warfare ออกมาเร็วขนาดนี้ ก็เนื่องมาจากตอนแรกค่าย Activision มีแผนจะไม่วางขายเกมภาคใหม่ในปี 2023 แล้วจะทำออกมาเป็น DLC ภาคเสริมของ Modern Warfare 2 แทน แต่ท้ายที่สุดทางนั้นคงรู้สึกว่า "มันไม่น่าจะดีนะ" ก็เลยเปลี่ยนภาคเสริมนี้ให้กลายเป็นเกมภาคใหม่แทน แล้วเกมภาคใหม่นี้ก็ยังไม่ได้ให้ทีมงาน Infinity Ward เจ้าของผลงาน 2 ภาคแรกมาเป็นคนพัฒนา แต่เปลี่ยนให้มาเป็นทีม Sledgehammer เจ้าของเกมภาค Vanguard เป็นคนพัฒนาแทน ทำให้หลายคนก็น่าจะอยากรู้ว่า "แล้วมันจะต่างจากภาค 2 ยังไงบ้างเนี่ย" ทาง GameFever จึงขอพาทุกคนมาชมพรีวิวเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 จากที่ผู้เขียนไปลองเล่นมาในช่วง Open Beta มาดูกันว่าเกมจะดีขึ้นหรือแย่ลง!!!

  • พรีวิวเฉพาะโหมด Multiplayer เท่านั้น เนื่องจากโหมด Single Player กับ Zombie ไม่ได้เปิดให้ลองเล่น


คลิปตัวอย่างโหมโรง


เกมเพลย์ของภาคนี้


เกมภาคนี้ในโหมด Multiplayer จะมีการนำเสนอที่ไม่ต่างจากภาค 2 เลย ไม่ว่าจะเรื่องไอเทมและระบบต่างๆ รวมไปถึงโหมดการเล่น ผู้ที่ได้เล่นจะรู้สึกได้เลยว่านี่มันคือเกมภาค 2 ในรูปแบบ DLC ภาคเสริมจริงๆ (จนบางคนอาจเคืองว่าแล้วเองจะขายเป็นเกมภาคใหม่ในราคาแพงๆ จริงดิ?) โดยใครที่ไม่เคยเล่นภาค 2 จะอธิบายให้เข้าใจแบบสรุปง่ายๆ ตามนี้


  • เกมในโหมด Multiplayer จะเน้นแข่งขันกันแบบ 2 ทีมสู้กัน โดยโหมดฮิตหลักๆ ก็คือ 6vs6 ที่จะมีเป็นทั้งแข่งแบบ Team Deathmatch ยิงแข่งกันแบบตายแล้วเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ แต่ผู้ชนะจะคือทีมที่ทำแต้มได้ตามที่กำหนด แต่เกมก็มีแข่งแบบ Search and Destroy ที่ไม่มีตายแล้วเกิดใหม่ และให้ฝั่งหนึ่งจะต้องเป็นทีมไปวางระเบิด ส่วนอีกทีมต้องกู้ระเบิดเหมือนของเกม Counter-Strike แล้วก็ยังมีแข่งแบบ Ground War ที่ให้สู้กันแบบ 32vs32 อย่างกับเกม Battlefield แล้วก็ยังมีการแข่งขันแบบอื่นๆ อีกเพียบ ทำให้เกมจะไม่น่าเบื่อ


  • เกมเพลย์ของเกมนี้จะเน้นความรวดเร็ว ผู้เล่นจะเคลื่อนที่ตัวละครได้คล่องแคล่วเหนือมนุษย์ อาวุธส่วนใหญ่ในเกมก็จะฆ่าศัตรูได้ว่องไว้เช่นกัน ยกตัวอย่างลูกซองกับปืนสไนเปอร์ที่ยิงนัดเดียวก็ตายได้เลย ถ้าบาดเจ็บก็จะมีรีเจนพลังชีวิตในเวลาแปปเดียว ถ้าจะเปรียบเกมนี้เป็นนินจาถือปืนสู้กันก็ยังได้ แต่ใครที่เป็นสายแคมป์ หรือสายค่อยๆ เดินยิงอย่างใจเย็นเชื่องช้า ก็สามารถสนุกกับเกมนี้ได้เช่นกัน เพราะเกมจะทำมารองรับผู้เล่นทุกคน


  • เกมนี้เวลาฆ่าศัตรูได้เยอะๆ แบบไม่ตายจะทำให้ได้รางวัลพิเศษช่วยสร้างความได้เปรียบ ยกตัวอย่างฆ่าศัตรู 4 ตัวจะได้รางวัล UAV ให้ใช้งานแล้วมีเรดาห์สแกนจุดที่ศัตรูอยู่ หรือถ้าฆ่าศัตรู 8 ตัวจะได้รางวัล S.A.E ให้ใช้เรียกเครื่องบินมาทิ้งระเบิด 3 จุด


  • เริ่มเกมมาจะมีให้ผู้เล่นเลือก loadout ต่างกัน โดยใน loadout จะมีอาวุธหลัก, อาวุธรอง, ระเบิด, อุปกรณ์ และสกิลต่างกันไป แต่พอเล่นไปได้สักพักเราจะสามารถปลดล็อกระบบ Custom loadout ทำให้เราปรับแต่งเองได้ว่าจะเอาอาวุธแบบไหน หรือสกิลแบบไหนได้


  • ทั้งอาวุธหลัก และอาวุธรอง จะมีให้ผู้เล่นปรับแต่งปืนได้หลายส่วนมาก และแต่ละส่วนจะมี Mod หรือ Gun Part ให้เลือกใช้เยอะมาก โดยการปรับแต่งก็ทำให้ปืนนั้นจะมีจุดเด่นต่างกันไป บางการปรับอาจทำให้ยิงไกลได้แรง และนิ่งมากขึ้น หรือปรับแต่งให้เน้นยิงไม่ต้องเล็งได้ดีขึ้น ซึ่งตรงนี้จึงทำให้หลายๆ คนยกให้เกมนี้มีระบบแต่งปืนที่โหดมาก แต่ว่า 1 ปืนปรับใส่ Mod หรือ Gun Part ได้สูงสุด 5 ส่วนเท่านั้น


  • พวกระเบิด และอุปกรณ์ก็จะตามเอกลักษณ์ของเกม Call of Duty ยกตัวอย่างระเบิด Semtex ที่ปาแล้วจะติดแปะกับกำแพงหรือวัตถุได้ ทำให้ถ้าปาใส่ศัตรูก็เป็นอะไรที่เร้าใจมาก หรือระเบิด Drill Charge ที่ถ้าปาใส่กำแพงก็จะเจาะไประเบิดใส่กำแพงอีกฝั่งเป็นต้น


  • ส่วนพวกสกิลก็ช่วยให้การเล่นเกมนี้หลากหลายขึ้นมาก เราอาจจะเน้นพวกสกิลที่ช่วยให้เราซ่อนตัวจากเรดาห์และเน้นวิ่งไว หรือจะเน้นสกิลที่ช่วยกลั้นหายใจยิงสไนเปอร์นิ่งๆ กว่าเดิมได้ แถมถ้าปรับแต่งปืนให้เข้ากับสกิลก็จะทำให้ได้เปรียบศัตรูมาก


ดีกว่าเดิมยังไง?


เกมภาคนี้จะมีการเพิ่มของเล่นใหม่ๆ และการปรับเปลี่ยนเกมเพลย์ให้ต่างจากภาค 2 ไปเยอะอย่างมาก โดยมันจะต่างจากตอน Modern Warfare ภาค 1 กับของภาค 2 เพราะอย่างที่บอกไปว่าภาคนี้เปลี่ยนมาเป็นทีมพัฒนา Sledgehammer แล้วทางทีมพัฒนานี้ก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์การทำเกมแบบของ Infinity Ward เลย ซึ่งมันก็มีข้อดีและข้อเสีย แต่ข้อดีทั้งหมดที่เห็นก็มีดังนี้


  • มีการปรับให้ TTK หรือ "เวลาในการต้องใช้ฆ่าศัตรู" สูงขึ้น ทำให้เวลาเราจะฆ่าศัตรูนั้นไม่ง่ายเหมือนตอนภาค 2 อารมณ์เหมือนตอนภาค 2 ศัตรูจะมีพลังชีวิต 100HP แต่ภาคนี้จะมีพลังชีวิต 150HP โดยตรงนี้อาจไม่ส่งต่อเกมเพลย์เวลาใช้ปืนลูกซองชักหรือสไนเปอร์ เพราะยังไงก็ยิงนัดเดียวตายได้อยู่แล้ว แต่เวลาใช้ปืนไรเฟิลหรือปืนกลสั้น ชัดเลยว่าเวลาจะฆ่าศัตรูใช้จำนวนกระสุนเยอะขึ้นมาก ซึ่งข้อดีคือปืนในเกมนี้จะเกรียนน้อยลง และทำให้ผู้เล่นมีโอกาสหนีตอนโดนโจมตีมากขึ้น เหมาะกับคนที่เล่นไม่เก่ง หรือไม่ชอบที่ภาค 2 มันยิงกันตายไวเกิน


  • การเคลื่อนที่ภาคนี้จะไม่เชื่องช้าสมจริงแบบภาค 2 แล้วเน้นให้เคลื่อนที่ได้ว่องไวมากขึ้น ทำให้การวิ่งยิงในเกมภาคนี้จะสนุกเรียบง่ายต่อการเล่นปืนทุกรูปแบบไม่ว่าจะปรับแต่งแบบไหนก็ตาม แถมภาคนี้เพิ่มระบบ Slide Cancel เข้ามาอีก ทำให้สายวิ่งยิงเวลาเจอศัตรู เราก็สามารถสไลด์หลบกระสุนและรีบตั้งท่าขึ้นมายิงสวนได้ง่ายๆ


  • เอาระบบ Recoil Visual ออก ทำให้เวลายิงแล้วเราจะไม่รู้สึกว่าแรงดีดของปืนมันสมจริง แต่เวลายิงรัวๆ จะดูง่ายมากขึ้น และคุมปืนได้ง่ายมากขึ้นด้วย 


  • เพิ่มระบบ Tactical Aim หรือการเล็งยิงแบบไม่ผ่านลำกล้องของปืนที่ติดลำกล้องได้ โดยข้อดีคือปืนจะยกเล็งได้ไวกว่า และยิงออกมาเป็น hip-fire ที่นิ่งกว่าด้วย ทำให้สายบู๊จะมีลูกเล่นที่โกงขึ้น (แต่งปืนสาย hip-fire แต่ยังยิงสู้ระยะไกลได้เป็นต้น) แต่สายยิงไกลก็น่าใช้ระบบนี้ตอนศัตรูเข้าใกล้



  • เพิ่มระบบ Aftermarket Parts ที่ทำให้เปลี่ยนปืนเป็นปืนอีกชนิดนึงได้ ยกตัวอย่างปืนพกก็เปลี่ยนเป็นปืน SMG ได้ หรือเปลี่ยนปืน LMG ให้เป็น LMG ฉบับวิ่งยิงได้ดีขึ้น



  • มีการปรับแปลงระบบสกิลให้กลายเป็น "อุปกรณ์สวมใส่" ที่ให้ผู้เล่นใส่ไปออกรบแล้วได้ความสามารถต่างกัน โดยอุปกรณ์สวมใส่จะแบ่งเป็น 3 หมวดได้แก่ 1.) ถุงมือ 2.) รองเท้า 3.) อุปกรณ์เสริม ซึ่งถ้าเราเลือก "ถุงมือเบา" ก็จะส่งผลให้สลับปืนได้ไวเป็นต้น ระบบนี้อาจไม่ต่างจากระบบสกิล แต่มันก็จะช่วยทำให้ "เกมจะตัดสกิลเหนือมนุษย์" ออกจากเกมไปได้ ยกตัวอย่างสกิล High Alert ที่ทำให้ผู้เล่นมีจิตสัมผัสรู้ได้ว่าศัตรูจ้องมองเราจากทางไหน อันนี้ก็ตัดออก



  • มีระบบ "เกราะสวมใส่" ให้เลือกแล้วทำให้ loadout ของผู้เล่นพกของได้ต่างกันไปอีก โดยเกราะสวมใส่แต่ละรูปแบบจะมีความสามารถพิเศษให้ต่างกัน แต่บางเกราะก็อาจทำให้ "พกอุปกรณ์เสริมได้ 2 ชิ้น" แต่ก็อาจต้องแลกกับพกระเบิดได้แค่ 1 ชนิดเป็นต้น



  • เพิ่มปืนใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่มาจากของเกมภาค Modern Warfare 1 ไม่ว่าจะ G36 หรือ UMP45 เป็นต้น แต่มันก็ช่วยทำให้เกมมีปืนเยอะขึ้นกว่าเดิมจากของภาค 2 มากๆ เลย เพราะอย่าลืมในภาคนี้ผู้เล่นย้ายปืน และของหลายๆ อย่างจากภาค 2 มาใช้ได้ และปืนที่เพิ่มมาส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่ปืนตระกูลเดียวกัน ทำให้มันจะมีปืนน่าลองใช้เรื่อยๆ อยู่ตลอด (ของภาค 2 ส่วนใหญ่เป็นปืนตระกูลเดียวกัน พอมันยิงแทบไม่ต่างกันเลยเบื่อไว)



  • การออกแบบแผนที่ด่านต่างๆ ของทีมพัฒนา Sledgehammer รู้สึกว่ามันมิติที่หลากหลาย และน่าจดจำกว่าของเกมภาค 2 บางแผนที่จะเป็นพื้นที่โล่งใหญ่ๆ เหมาะสำหรับสไนเปอร์ แล้วในพื้นที่บางส่วนก็จะมีบ้านให้ไปยิงกันแบบ CQC ความรู้สึกแผนที่ในภาคนี้จึงดูครบรสกว่า แถมรู้สึกว่าออกแบบมาไม่เกรียนเหมือนของภาค 2 (ภาค 2 บางด่านนี่ถ้าไม่มีจุดแคมป์เยอะ ก็จุด respawn นรกมาก)



  • เพิ่มโหมดใหม่ในชื่อ Cutthroat ที่จะให้ผู้เล่นแบ่ง 3 ทีม ทีมละ 3 คนมาสู้กัน ให้ประสบการณ์แปลกใหม่เหมือนเล่นโหมด Warzone แต่ไม่ต้องฟาร์มของในแผนที่ หรือไม่ต้องใช้เวลาเล่นนาน


ในด้านข้อดี ผู้เขียนรู้สึกว่าตอนเล่นเกมมันเหมาะกับผู้เล่นหลากหลายกลุ่มมากขึ้น และรู้สึกว่ามันไม่ใช่เกมกึ่ง Tactical Shooter ที่เวลาทำอะไรก็ต้องใจเย็นมากๆ หรือต้องชั้นเชิงเยอะเวลาเข้าหาศัตรูอีกแล้ว แถมก็ยังให้อารมณ์กลับไปเล่น Call of Duty: Modern Warfare เวอร์ชั่นแรกสุดนู้นเลย และก็ด้วยที่ภาคนี้มีแมพจากภาคเวอร์ชั่นเก่าเยอะมาก ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันเหมือน "พาย้อนไปวันวาน" แต่ที่รู้สึกว้าวมากที่สุดคือปืนใหม่ๆ ของภาคนี้ มันมี Mod กับ Gun Part ให้ปรับแต่งเยอะกว่ามากจริงๆ ทั้งๆ ที่ตอนภาค 2 ก็รู้สึกว่ามันเยอะมากแล้วนะ สายแต่งปืนจึงได้ฟินกว่าเดิมแน่นอน


แย่กว่าเดิมยังไง?


อย่างที่บอกไปว่าภาคนี้เปลี่ยนทีมพัฒนาเป็น Sledgehammer เพราะงั้นนอกจากมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย โดยข้อเสียทั้งหมดมีดังนี้


  • แม้จะมีการปรับ TTK ให้ดีขึ้น แต่ว่าในช่วง Open Beta ก็ทำให้เห็นความสมดุลของปืนก็มีผลเยอะอยู่ดี บางปืนนั้นก็ยิงตายง่ายๆ แต่บางปืนนี่เสียเปรียบกว่าจะยิงตายก็ต้องเกิน 10 นัด บางทีสิ่งนี้อาจทำให้เกมนั้นแย่กว่าภาค 2 เพราะบางปืนนั้นอาจถึงขั้นไม่น่าใช้เล่นเลยนั่นเอง (ของภาค 2 มัน TTK ไว จะใช้ปืนไหนก็เลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่) ก็หวังว่า Sledgehammer จะทำสมดุลเกมมาให้ดี


  • การเคลื่อนที่ภาคนี้ดูเหนือมนุษย์มาก และมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเท่านั้น เพราะตอนนี้ใครเคลื่อนที่คล่องๆ ก็สไลด์หลบกระสุนฆ่าศัตรูสบายทั้งเกม (แล้วสามารถหลบได้เร็วยิ่งกว่านินจาอีกนะ อีกนิดก็คือ The Flash แล้วมั้ง) ทำให้ถ้าคนเล่นไม่เก่งแล้วมาเจอคนใช้สูตรเล่นแบบนี้คงมีหัวร้อนลบเกมทิ้ง แถมพอผสมกับด้าน TTK ก็ทำให้เกมเพลย์ไม่เหมือนสงครามทหารกึ่ง Tactical  เหมือนตอนภาค 2 จนกลายเป็นคนละเกมแบบไม่ใช่ภาคต่อเลย


  • พอปรับระบบปืนให้ยิงง่ายขึ้นด้วยการถอด Recoil Visual ก็มีผลร้ายคือ gunplay ภาคนี้เวลายิงดูไม่เนียนได้อรรถรส Immersion สมจริงเลย ทำให้ใครเป็นสายบ้าปืนไม่ได้สนใจ gameplay แต่สนใจที่ปืนยิงแล้วได้อรรถรสสมจริง ภาคนี้อาจไม่ตอบโจทย์คุณมาก แม้ปืนจะยังยิงมันส์เหมือนเดิมอยู่ก็ตาม (gunplay ตอนภาค 1 กับ 2 ถือเป็นเอกลักษณ์ของเกมภาค Modern Warfare ของแฟนหลายๆ คน แต่พอเป็นแบบนี้ก็อาจคือฝันร้ายของแฟนๆ มาก)


คลิปเปรียบเทียบ gunplay ภาค 1 กับ 3

(ดููในคลิปอาจไม่ค่อยต่างกัน แต่เวลาเล่นจริงจะรู้สึกว่าภาค 3 ตอนยิงแล้วมีรายละเอียดน้อยกว่า)



  • แม้ Modern Warfare ภาค 1 กับ 2 ก็ไม่ได้มีเสียงปืนสมจริง แต่มันก็ยังยิงแล้วฟินมากๆ แต่มาของภาค 3 กลายเป็นว่าเสียงปืนนี่ทำคนเล่นไม่อินอย่างเห็นได้ชัด เพราะเสียงปืนนี่อย่างกับปืนเอเลี่ยน หรือปืนของเล่น ทำให้ปืนภาคนี้ดูแย่ลงไปอีก


  • ภาพสวยเท่ากัน แต่ภาคนี้กินสเปคกว่าเดิมด้วย เหมือนกับเพราะทีมพัฒนาทำแผนที่ให้ซับซ้อนขึ้น แต่ทีมพัฒนาก็ดูทำเวอร์ชั่น PC ไม่ดีเท่าของ Infinity Ward ยกตัวอย่าง DLSS เวลาปรับแล้วดันปรับ Sharpness ไม่ได้เหมือนภาค 2 ซะงั้น


ในด้านข้อเสีย จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่มันมาจากเพราะค่าย Sledgehammer กับ Infinity Ward นั้นต้องการทำเกมที่เอกลักษณ์ต่างกัน และเอาจริงๆ ทาง Infinity Ward นั้นก็อาจทำออกมาได้ดีกว่าด้วย เพราะสิ่งที่เป็นข้อเสียจาก Sledgehammer มันก็ทำให้เกมนั้นดู Downgrade ลงไปเลย ยกตัวอย่างเรื่องการยิงปืนกับเสียงปืน (เรื่องเสียงปืนกับอรรถรส Infinity Ward ทำได้ดีกว่าแน่นอน เสียแค่พวกเรื่อง Gameplay มันเกรียน) ฉะนั้นถ้าใครมีรสนิยมชอบเกมของ Infinity Ward มากกว่าก็อาจรู้สึกไม่อยากซื้อภาค 3 แต่ถ้าเป็นแฟนตัวยงรักซีรี่ส์เกม Call of Duty ก็อาจไม่มีปัญหาอะไร เพราะก็คงไม่ใช่แฟนทุกคนที่เล่นเกมนี้เพราะปืนมันยิงมันส์ได้อรรถรสสมจริงนั่นเอง 


ความรู้สึกโดยรวม


เห็นชัดๆ ได้เลยว่าแม้จะใช้ชื่อเกม Call of Duty: Modern Warfare 3 แต่มันก็ดูไม่ใช่เกมภาค 3 หรือภาค 2.5 เนื่องจากเกมนี้แม้จะมีธีมเหมือนกัน แต่เกมเพลย์หรืออะไรก็ต่างกันไปหมด รวมไปถึงเอกลักษณ์ที่เคยมีจากตอนภาค 2 อีกด้วย สำหรับผู้เขียนตอนนี้ก็รู้สึกอยู่เหมือนกับว่าจะซื้อมาเล่นดีไหม เพราะผู้เขียนชอบ Modern Warfare ทั้ง 2 ภาคอย่างมากจนซื้อเล่น แต่ตอนภาค Black Ops Cold War กับ Vanguard ก็ไม่ได้รู้สึกว้าวจนซื้อมา (เนื่องจากฉันเป็นคนชอบเกมที่มี gunplay มันส์ๆ สมจริง แต่ไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ Call of Duty) ในความคิดผู้เขียนตอนนี้จึงคือจะหนีไปเล่นแค่เกม Battlefield 2042 แทนดีกว่าไหมนะ เพราะอันนั้นทำ gunplay ได้ดีกว่า Modern Warfare 3 ซึ่งย้ำอีกครั้งว่าเกมภาค 3 มันก็สนุกมันส์เหมือนเดิมนะ เพียงแต่มันไม่ได้มีรสนิยมที่เป็นจุดเด่นเหมือนของภาค 2 ก็เท่านั้น รวมทั้งอีกสิ่งหนึ่งที่ลืมพูดคือภาคนี้โหมด Ground War พอเปลี่ยนเกมเพลย์แล้วมันสนุกกว่าของภาค 2 ซึ่งน่าจะเพราะ TTK มันช้าเลยทำให้วิ่งหนีการโดนแคมป์ยิงได้บ่อยๆ (ภาค 2 นี่หัวร้อนมากถ้าโดนทีมศัตรูแคมป์กันอย่างสามัคคี) ฉะนั้นขอสรุปสั้นๆ ดังนี้


  • ถ้าคุณเป็นแฟน Call of Duty ผมมองว่าภาคนี้ยังไงก็คุ้มเงิน เพราะทาง Sledgehammer ก็ทำออกมาได้ดี แต่คอนเทนต์ที่เพิ่มเข้ามาอาจไม่ได้เยอะ ขณะที่ถ้าใครไม่เคยซื้อเล่นภาค 2 ก็คือคุ้มเลย


  • ถ้าคุณไม่ใช่แฟน Call of Duty และชอบ Modern Warfare เพราะเอกลักษณ์ที่ทาง Infinity Ward เคยทำไว้ตอน 2 ภาคแรก อันนี้คุณอาจต้องเปิดใจสำหรับเกมภาค 3 เสียหน่อย แต่ถ้ารับไม่ได้จริงๆ ก็อาจรอดูหลังเกมวางขายสัก 1 เดือนก่อนว่าจะยอดเยี่ยมไหม


..............................


พบเกม PC ลดราคาแรงตลอดปีที่ร้าน 2game


ซื้อผ่านลิงก์ https://2game.com?ref=gamefeverth และใส่รหัสคูปอง Gamefever เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม!



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header