GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
บทสัมภาษณ์สุดพิเศษคุณ Bryan Dechart และ Amelia Rose Blaire จาก Detroit: Become Human
ลงวันที่ 21/08/2018

คุณคิดว่าอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของ Detroit: Become Human?

Bryan: ก็เพราะแฟนๆ ชาวไทยนั่นแหละ! (ขำ) เอาจริงๆ ผมคิดว่ามันคือความหลากหลายของเกม ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถนำเนื้อเรื่องของกันและกันมาแลกเปลี่ยนกันได้ว่าประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันแค่ไหน มันเหมือนว่าเกมให้โอกาสผู้เล่นได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง มันอาจจะไม่ใช่สูตรการสร้างเกมที่ใหม่หรือแตกต่างกับเกมหลายๆ เกมที่ผ่านมา แต่มันเหมือนเราเอากล่องของเล่นเทลงบนโต๊ะแล้วเล่นกับทุกอย่างที่เราชอบพร้อมๆ กันในเกมเดียว

 

ด้วยเทคโนโลยี Motion Capture ที่ก้าวหน้าไปมากสามารถทำให้เราบันทึกทั้งเสียงและร่างกายของนักแสดงไปไว้ในเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้น การแสดงในลักษณะนี้าสำหรับการ Motion Capture มีความท้าทายหรือแตกต่างกับการแสดงหนังหรือภาพยนตร์แค่ไหน อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด

Amelia: หนึ่งในความแตกต่างใหญ่ๆ ระหว่างการแสดงสำหรับรายการทีวีหรือภาพยนตร์และการแสดงสำหรับ Motion Capture คือการแสดงสำหรับ Motion Capture จะไม่มีฉาก ไม่มีเสื้อผ้าหน้าผมใดๆ ทำให้นักแสดงต้องใช้จินตนาการสูงมากๆ ในการแสดงออกมาให้สมจริง แต่สิ่งที่ได้คือเราสามารถถ่ายได้หลายฉากมากขึ้นต่อวัน ซึ่งก็เหนื่อยเหมือนกัน

Bryan: ความแตกต่างอีกอย่างคือเรื่องความยืดหยุ่นของเกม เพราะผู้เล่นจะเป็นคนกำหนดว่าตัวละครจะตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างไร ฉะนั้นการถ่ายบทสนทนาซักฉากหนึ่งจะถ่ายทางเลือกทั้งหมดที่สามารถเลือกได้ต่อๆ กัน ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะส่งบทมาให้ผม แล้วผมก็จะตอบตามทางเลือกที่หนึ่งแล้วเว้นว่างซักครู่ แล้วก็ตอบแบบทางเลือกที่สองแล้วก็หยุด แล้วก็ทางเลือกที่สามไปเรื่อยๆ พอครบทุกทางเลือกแล้วคุณจึงค่อยตอบบทผมอีกที ฉะนั้นอาจจะพูดได้ว่าการแสดงหนังหรือทีวีจะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เราเรียกการถ่ายแบบนี้ว่าเป็นวงจร (cycle) คือการตอบบทแบบนึง หยุดพักเพื่อเซ็ตอารมณ์ใหม่ตามทางเลือกอีกทาง แล้วค่อยแสดงต่อ ซึ่งเป็นวิธีการแสดงที่ค่อนข้างแปลกสำหรับนักแสดงทั่วไป



หนึ่งในฉากของคอนเนอร์ที่เป็นขวัญใจคนไทยคือฉากที่คอนเนอร์ตบหน้าแฮงค์เพื่อปลุกเขา ซึ่งได้ข่าวว่าเป็นสิ่งที่คุณคิดขึ้นมาเองสดๆ ในขณะถ่ายทำด้วย เล่าเรื่องตรงนี้ให้ฟังหน่อย

Bryan: ขณะเวลาถ่ายทำ David Cage (ผกก.) บอกผมเสมอว่า เวลาคอนเนอร์จะทำอะไรซักอย่าง เขาจะเลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดเสมอ อย่างการเปิดประตู มนุษย์ทั่วไปอาจจะมีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่าเยอะในการเอื้อมไปจับและบิดกลอนประตู ในที่สำหรับคอนเนอร์จะเลือกขยับอย่างสูญเปล่าน้อยที่สุดเป็นต้น

ทีนี้พอถึงเวลาที่ผมต้องปลุกแฮงค์ ผมก็เลยใช้วิธีที่เร็วและตรงไปตรงมาที่สุดคือตบหน้าเข้าให้ซักที ซึ่งดูจะเป็นสิ่งที่คอนเนอร์จะทำจริงๆ ผมจำได้ว่าคุณ David Cage ก็เคยติงๆ ว่าตบแรงไปหน่อย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคอนเนอร์ตัวจริงก็คงทำแบบเดียวกับผมนี่แหละ

 

คุณเข้ามาร่วมเป้นส่วนหนึ่งของ Detroit: Become Human ได้อย่างไร

Bryan: ผมต้องมาแคสติ้งบทสำหรับ Detroit: Become Human หลายครั้งมาก โดยปกติการแคสติ้งสำหรับหนังหรือทีวีอาจจะทำแค่สองถึงสามรอบ แต่สำหรับ Detroit ผมต้องมาแคสติ้งถึง 5-6 รอบก่อนจะผ่าน โดยการแคสติ้งครั้งแรกผมจำได้ว่าเป็นบทจากตัว Kara Tech Demo ที่ค่ายปล่อยออกมาเพื่อแนะนำ Engine เกมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ค่ายใช้ โดยเนื้อเรื่องของ Tech Demo ตัวนี้ได้กลายมาเป็น Detroit ในภายหลัง ซึ่งบทที่ผมได้รับเป็นบทตอนที่ Kara ถูกปลุกให้ตื่นและต้องอ้อนวอนกับเหล่ามนุษย์ให้เธอได้มีชีวิตต่อไป

 

ได้ข่าวมาว่าบทพูดของเกม Detroit: Become Human มีความยาวรวมกว่า 2000 หน้า คุณมีวิธีอะไรในการเตรียมตัวเพื่อเข้าฉากบ้าง

Bryan: (ถอนหายใจเฮือกใหญ่) ผมรู้มาจากทีมงานว่าบทพูดของคอนเนอร์เป็นบทที่แตกเส้นสายเหตุการณ์ได้หลากหลายที่สุด ผมจึงใช้สัญลักษณ์ของเพลย์สเตชั่น (สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม X O) เพื่อช่วยจำว่าบทนี้ต่อมาจากบทไหน นอกจากนี้ผมยังใช้สีต่างๆ เพื่อจุดประสงค์เดียวกันด้วย เพราะบทของคอนเนอร์มีทางเลือกที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งบทที่เป็นเครื่องจักรเต็มตัวและบทที่เป็น Deviant (หุ่นที่มีความรู้สึก) สิ่งที่ผมทำคือผมสร้างวงล้อสีเหมือนที่เห็นใน Photoshop แล้วไปทาบลงบนตารางชั่ว-ดีของเกม DnD (Dungeons and Dragons หรือเกม RPG กระดาษที่โด่งดัง) เพื่อช่วยตัวเองจำว่ากำลังแสดงเส้นเรื่องไหนอยู่ จะได้คงอารมณ์จากฉากที่แล้วได้ถูก

Amelia: Bryan เป็นคนที่มีวความจำดีมากๆ อีกด้วย การที่เค้าสามารถจำบทพูดทั้งหมดของตัวเองได้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ และฉันเองก็จะช่วยเขาท่องบทผ่านสไกป์ด้วยตอนที่เขาไปถ่ายทำที่กรุงปารีส ในขณะที่ฉันถ่ายทำอยู่ที่ ลอส แองเจลีส แม้บางทีเวลาอาจจะไม่ตรงกัน เช่นเป็นเวลากลางวันของฉันแต่ดลางคืนของเขา แต่เราก็สไกป์กันเป็นประจำ

Bryan: นี่แหละครับโค้ชการแสดงของผม (หัวเราะ)



ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นดาราดังจากทีวีหรือภาพยนตร์เริ่มหันเหมาแสดงในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเราจะเห็นอะไรแบบนี้มากขึ้นจนเป็นปกติไหมในอนาคต

Bryan: ผมมองว่าวีดีโอเกมมันคืออนาคตนะ เทคโนโลยีก็นับวันจะยิ่งเข้าถึงง่ายขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปคนก็จะสามารถใช้การ Motion Capture ได้หมด ไม่ใช่แค่หนังจากค่ายใหญ่ๆ เท่านั้นที่ใช้ได้ แต่ทีวี หรือกระทั่งนักพัฒนารายย่อยและนักเรียนนักศึกษาด้วย ทุกคนจะสามารถใช้เทคโนโลยีที่เราใช้สำหรับ Detroit ได้ และยิ่งมีคนใช้เยอะก็จะยิ่งเกิดการพัฒนาที่เร็วขึ้นด้วย ผมยังเคยเห็นเทคโนโลยีที่สามารถจับการเคลื่อนไหวของคนและใช้ควบคุมหุ่นโมเดล CG ได้แบบ real-time เลย ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะเปิดทางเลือกให้ผู้สร้างและผู้เล่นมากขึ้น ทั้งในด้านการดำเนินเนื้อเรื่องและเกมเพลย์

ถ้าคุณต้องให้คำแนะนำกับเด็กหรือนักเรียน/นักศึกษาที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดง Motion Capture สำหรับเกม คุณจะให้คำแนะนำอะไรบ้าง

Bryan: จงศึกษาให้หนักๆ ในเรื่องการใช้เสียงและการเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะในการถ่ายทำหนังหรือทีวีเรารู้ว่ามันมีความจำกัดของเฟรมกล้อง ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถโฟกัสเฉพาะจุดที่กล้องเห็นได้ ในขณะที่การแสดงสำหรับเกมจะเป็นการอัดทั้งการเคลื่อนไหวของใบหน้าและร่างกายเราจากทุกมุมตลอดเวลาแบบ 360 องศาเลย คล้ายๆ กับการแสดงบนละครเวทีมากกว่า ที่เราต้องรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายตัวเองตลอดเวลาในทุกฉาก

Amelia: ฉันขอเสริมนืดนึงว่าการแสดงสำหรับเกมมีความยากและกดดันกว่าหนังและทีวีมาก เพราะต้องคำนึงถึงทุกส่วนของร่างกายตลอดเวลาเพื่อสื่ออารมณ์ให้ถึงผู้เล่น

ถ้าในอนาคตอันใกล้มีหุ่นแอนดรอยด์แบบเดียวกับใน Detroit ออกวางจำหน่าย คุณจะซื้อมาใช้เองซักตัวไหม

Bryan: (หัวเราะแหยๆ) โอย ตายละ คุณอยากจะรับแทนไหม (ส่งคำถามให้ Amelia)

Amelia: เอิ่ม… (ขำ) มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ เพราะหลังจากที่ได้เล่น Detroit มาสัญชาตญาณแรกของฉันคือการตอบว่า ‘ไม่’ แต่ในขณะเดียวกันก็คงจะดีเนอะถ้าเรามีคนมาช่วยเราล้างจานซักผ้า หรือทำงานบ้านที่เราไม่อยากทำ แต่ฉันคงทนรู้สึกผิดไม่ไหวเหมือนกัน คงยอมปล่อยให้หุ่นไปมีชีวิตของมัน


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทสัมภาษณ์สุดพิเศษคุณ Bryan Dechart และ Amelia Rose Blaire จาก Detroit: Become Human
21/08/2018

คุณคิดว่าอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของ Detroit: Become Human?

Bryan: ก็เพราะแฟนๆ ชาวไทยนั่นแหละ! (ขำ) เอาจริงๆ ผมคิดว่ามันคือความหลากหลายของเกม ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถนำเนื้อเรื่องของกันและกันมาแลกเปลี่ยนกันได้ว่าประสบการณ์ที่ได้รับแตกต่างกันแค่ไหน มันเหมือนว่าเกมให้โอกาสผู้เล่นได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง มันอาจจะไม่ใช่สูตรการสร้างเกมที่ใหม่หรือแตกต่างกับเกมหลายๆ เกมที่ผ่านมา แต่มันเหมือนเราเอากล่องของเล่นเทลงบนโต๊ะแล้วเล่นกับทุกอย่างที่เราชอบพร้อมๆ กันในเกมเดียว

 

ด้วยเทคโนโลยี Motion Capture ที่ก้าวหน้าไปมากสามารถทำให้เราบันทึกทั้งเสียงและร่างกายของนักแสดงไปไว้ในเกมได้อย่างสมจริงมากขึ้น การแสดงในลักษณะนี้าสำหรับการ Motion Capture มีความท้าทายหรือแตกต่างกับการแสดงหนังหรือภาพยนตร์แค่ไหน อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุด

Amelia: หนึ่งในความแตกต่างใหญ่ๆ ระหว่างการแสดงสำหรับรายการทีวีหรือภาพยนตร์และการแสดงสำหรับ Motion Capture คือการแสดงสำหรับ Motion Capture จะไม่มีฉาก ไม่มีเสื้อผ้าหน้าผมใดๆ ทำให้นักแสดงต้องใช้จินตนาการสูงมากๆ ในการแสดงออกมาให้สมจริง แต่สิ่งที่ได้คือเราสามารถถ่ายได้หลายฉากมากขึ้นต่อวัน ซึ่งก็เหนื่อยเหมือนกัน

Bryan: ความแตกต่างอีกอย่างคือเรื่องความยืดหยุ่นของเกม เพราะผู้เล่นจะเป็นคนกำหนดว่าตัวละครจะตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างไร ฉะนั้นการถ่ายบทสนทนาซักฉากหนึ่งจะถ่ายทางเลือกทั้งหมดที่สามารถเลือกได้ต่อๆ กัน ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะส่งบทมาให้ผม แล้วผมก็จะตอบตามทางเลือกที่หนึ่งแล้วเว้นว่างซักครู่ แล้วก็ตอบแบบทางเลือกที่สองแล้วก็หยุด แล้วก็ทางเลือกที่สามไปเรื่อยๆ พอครบทุกทางเลือกแล้วคุณจึงค่อยตอบบทผมอีกที ฉะนั้นอาจจะพูดได้ว่าการแสดงหนังหรือทีวีจะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า เราเรียกการถ่ายแบบนี้ว่าเป็นวงจร (cycle) คือการตอบบทแบบนึง หยุดพักเพื่อเซ็ตอารมณ์ใหม่ตามทางเลือกอีกทาง แล้วค่อยแสดงต่อ ซึ่งเป็นวิธีการแสดงที่ค่อนข้างแปลกสำหรับนักแสดงทั่วไป



หนึ่งในฉากของคอนเนอร์ที่เป็นขวัญใจคนไทยคือฉากที่คอนเนอร์ตบหน้าแฮงค์เพื่อปลุกเขา ซึ่งได้ข่าวว่าเป็นสิ่งที่คุณคิดขึ้นมาเองสดๆ ในขณะถ่ายทำด้วย เล่าเรื่องตรงนี้ให้ฟังหน่อย

Bryan: ขณะเวลาถ่ายทำ David Cage (ผกก.) บอกผมเสมอว่า เวลาคอนเนอร์จะทำอะไรซักอย่าง เขาจะเลือกวิธีที่ตรงไปตรงมาที่สุดเสมอ อย่างการเปิดประตู มนุษย์ทั่วไปอาจจะมีการเคลื่อนไหวที่เสียเปล่าเยอะในการเอื้อมไปจับและบิดกลอนประตู ในที่สำหรับคอนเนอร์จะเลือกขยับอย่างสูญเปล่าน้อยที่สุดเป็นต้น

ทีนี้พอถึงเวลาที่ผมต้องปลุกแฮงค์ ผมก็เลยใช้วิธีที่เร็วและตรงไปตรงมาที่สุดคือตบหน้าเข้าให้ซักที ซึ่งดูจะเป็นสิ่งที่คอนเนอร์จะทำจริงๆ ผมจำได้ว่าคุณ David Cage ก็เคยติงๆ ว่าตบแรงไปหน่อย แต่ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคอนเนอร์ตัวจริงก็คงทำแบบเดียวกับผมนี่แหละ

 

คุณเข้ามาร่วมเป้นส่วนหนึ่งของ Detroit: Become Human ได้อย่างไร

Bryan: ผมต้องมาแคสติ้งบทสำหรับ Detroit: Become Human หลายครั้งมาก โดยปกติการแคสติ้งสำหรับหนังหรือทีวีอาจจะทำแค่สองถึงสามรอบ แต่สำหรับ Detroit ผมต้องมาแคสติ้งถึง 5-6 รอบก่อนจะผ่าน โดยการแคสติ้งครั้งแรกผมจำได้ว่าเป็นบทจากตัว Kara Tech Demo ที่ค่ายปล่อยออกมาเพื่อแนะนำ Engine เกมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ค่ายใช้ โดยเนื้อเรื่องของ Tech Demo ตัวนี้ได้กลายมาเป็น Detroit ในภายหลัง ซึ่งบทที่ผมได้รับเป็นบทตอนที่ Kara ถูกปลุกให้ตื่นและต้องอ้อนวอนกับเหล่ามนุษย์ให้เธอได้มีชีวิตต่อไป

 

ได้ข่าวมาว่าบทพูดของเกม Detroit: Become Human มีความยาวรวมกว่า 2000 หน้า คุณมีวิธีอะไรในการเตรียมตัวเพื่อเข้าฉากบ้าง

Bryan: (ถอนหายใจเฮือกใหญ่) ผมรู้มาจากทีมงานว่าบทพูดของคอนเนอร์เป็นบทที่แตกเส้นสายเหตุการณ์ได้หลากหลายที่สุด ผมจึงใช้สัญลักษณ์ของเพลย์สเตชั่น (สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม X O) เพื่อช่วยจำว่าบทนี้ต่อมาจากบทไหน นอกจากนี้ผมยังใช้สีต่างๆ เพื่อจุดประสงค์เดียวกันด้วย เพราะบทของคอนเนอร์มีทางเลือกที่ต่างกันสุดขั้ว ทั้งบทที่เป็นเครื่องจักรเต็มตัวและบทที่เป็น Deviant (หุ่นที่มีความรู้สึก) สิ่งที่ผมทำคือผมสร้างวงล้อสีเหมือนที่เห็นใน Photoshop แล้วไปทาบลงบนตารางชั่ว-ดีของเกม DnD (Dungeons and Dragons หรือเกม RPG กระดาษที่โด่งดัง) เพื่อช่วยตัวเองจำว่ากำลังแสดงเส้นเรื่องไหนอยู่ จะได้คงอารมณ์จากฉากที่แล้วได้ถูก

Amelia: Bryan เป็นคนที่มีวความจำดีมากๆ อีกด้วย การที่เค้าสามารถจำบทพูดทั้งหมดของตัวเองได้เป็นอะไรที่น่าทึ่งมากๆ และฉันเองก็จะช่วยเขาท่องบทผ่านสไกป์ด้วยตอนที่เขาไปถ่ายทำที่กรุงปารีส ในขณะที่ฉันถ่ายทำอยู่ที่ ลอส แองเจลีส แม้บางทีเวลาอาจจะไม่ตรงกัน เช่นเป็นเวลากลางวันของฉันแต่ดลางคืนของเขา แต่เราก็สไกป์กันเป็นประจำ

Bryan: นี่แหละครับโค้ชการแสดงของผม (หัวเราะ)



ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นดาราดังจากทีวีหรือภาพยนตร์เริ่มหันเหมาแสดงในเกมมากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าเราจะเห็นอะไรแบบนี้มากขึ้นจนเป็นปกติไหมในอนาคต

Bryan: ผมมองว่าวีดีโอเกมมันคืออนาคตนะ เทคโนโลยีก็นับวันจะยิ่งเข้าถึงง่ายขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปคนก็จะสามารถใช้การ Motion Capture ได้หมด ไม่ใช่แค่หนังจากค่ายใหญ่ๆ เท่านั้นที่ใช้ได้ แต่ทีวี หรือกระทั่งนักพัฒนารายย่อยและนักเรียนนักศึกษาด้วย ทุกคนจะสามารถใช้เทคโนโลยีที่เราใช้สำหรับ Detroit ได้ และยิ่งมีคนใช้เยอะก็จะยิ่งเกิดการพัฒนาที่เร็วขึ้นด้วย ผมยังเคยเห็นเทคโนโลยีที่สามารถจับการเคลื่อนไหวของคนและใช้ควบคุมหุ่นโมเดล CG ได้แบบ real-time เลย ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะเปิดทางเลือกให้ผู้สร้างและผู้เล่นมากขึ้น ทั้งในด้านการดำเนินเนื้อเรื่องและเกมเพลย์

ถ้าคุณต้องให้คำแนะนำกับเด็กหรือนักเรียน/นักศึกษาที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักแสดง Motion Capture สำหรับเกม คุณจะให้คำแนะนำอะไรบ้าง

Bryan: จงศึกษาให้หนักๆ ในเรื่องการใช้เสียงและการเคลื่อนไหวร่างกาย เพราะในการถ่ายทำหนังหรือทีวีเรารู้ว่ามันมีความจำกัดของเฟรมกล้อง ซึ่งเปิดโอกาสให้เราสามารถโฟกัสเฉพาะจุดที่กล้องเห็นได้ ในขณะที่การแสดงสำหรับเกมจะเป็นการอัดทั้งการเคลื่อนไหวของใบหน้าและร่างกายเราจากทุกมุมตลอดเวลาแบบ 360 องศาเลย คล้ายๆ กับการแสดงบนละครเวทีมากกว่า ที่เราต้องรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายตัวเองตลอดเวลาในทุกฉาก

Amelia: ฉันขอเสริมนืดนึงว่าการแสดงสำหรับเกมมีความยากและกดดันกว่าหนังและทีวีมาก เพราะต้องคำนึงถึงทุกส่วนของร่างกายตลอดเวลาเพื่อสื่ออารมณ์ให้ถึงผู้เล่น

ถ้าในอนาคตอันใกล้มีหุ่นแอนดรอยด์แบบเดียวกับใน Detroit ออกวางจำหน่าย คุณจะซื้อมาใช้เองซักตัวไหม

Bryan: (หัวเราะแหยๆ) โอย ตายละ คุณอยากจะรับแทนไหม (ส่งคำถามให้ Amelia)

Amelia: เอิ่ม… (ขำ) มันเป็นคำถามที่ตอบยากนะ เพราะหลังจากที่ได้เล่น Detroit มาสัญชาตญาณแรกของฉันคือการตอบว่า ‘ไม่’ แต่ในขณะเดียวกันก็คงจะดีเนอะถ้าเรามีคนมาช่วยเราล้างจานซักผ้า หรือทำงานบ้านที่เราไม่อยากทำ แต่ฉันคงทนรู้สึกผิดไม่ไหวเหมือนกัน คงยอมปล่อยให้หุ่นไปมีชีวิตของมัน


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header