เมื่อสิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์ทำสงครามกันจนผู้คนลืมคำว่าสงบสุข พ่อมดผู้หนึ่งได้คิดค้นเวทมนตร์ที่สามารถทำลายเมืองเล็ก ๆ ได้ด้วยการร่ายเพียงครั้งเดียว ไม่นานเวทมนตร์บทนั้นก็ถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ไม่นานนักก็ไม่มีเสียงระเบิดอีกต่อไป ไม่มีแม้กระทั่งสงคราม เหลือเพียงแต่กลิ่นของความตายและเปลวไฟสีม่วงของเวทย์ที่ยังคงลุกลามและเกิดเป็นหมอกปกคลุมไปทั่วทุกที่ ปีศาจออกล่าผู้คนยามค่ำคืน ความหวังที่เหลือของผู้รอดชีวิตคือคุณ ผู้บัญชาการผู้ที่จะเป็นแกนนำในการปกป้องเมืองและคุ้มครองเหล่าพ่อมดที่คิดค้นเวทมนตร์ที่จะลบล้างเวทมนตร์ทั้งหมดชื่อของมันคือ The Last Spell

The Last Spell เป็นเกมแนว Strategy Turn-Base จากค่าย Ishtar Games ที่เคยฝากผลงาน Dead in Bermuda และ Dead in Vinland ซึ่งเป็นแนวเดียวกันทว่าผลงานครั้งนี้ของพวกเขาจะแตกต่างและยกระดับจากผลงานเดิมหรือไม่ คุ้มค่าไหมที่จะซื้อในช่วง Early Access ลองมาติดตามกันครับ

Gameplay

Core - Gameplay ของ Last Spell คือ Roguelike Strategy Turn-Base ผู้เล่นได้รับหน้าที่บัญชาการทหารและบริหารจัดการทรัพยากรในเมือง ผู้เล่นต้องปกป้องเมืองจากปีศาจเป็นเวลา 12 คืนเพื่อให้พ่อมดร่ายเวทมนตร์สำเร็จ จะแพ้ก็ต่อเมื่อพ่อมดที่อยู่กลางเมืองถูกฆ่า หรือตัวละครของผู้เล่นทั้งหมดตายลง ซึ่งคุณจะแพ้ บ่อย มาก เพราะเกมนี้ถูกออกแบบมาชนะในรอบแรก ๆ ไม่ได้แน่นอน ต้องอาศัยการปลดล็อกไอเทมหรือสิ่งปลูกสร้างหลาย ๆ อย่างเพื่อให้การเล่นในรอบต่อ ๆ ไปง่ายขึ้น ซึ่งนอกจากเกมที่ออกแบบมาให้ยากแล้ว ระบบ RNG หรือระบบสุ่มก็ยิ่งทำให้เกมยากขึ้นไปอีก เราจะมาพูดกันในหัวข้อต่อ ๆ ไปครับ

นักสู้พันธุ์สุ่ม ฮีโร่! ฮีโร่!

ฮีโร่คือตัวละครที่ผู้เล่นจะได้ควบคุมเพื่อป้องกันเมืองจากเหล่าปีศาจ เมื่อเริ่มเกมมาเราจะมีฮีโร่เริ่มต้น 3 คนที่ใช้อาวุธต่างชนิดกัน มีอุปนิสัยที่ส่งผลต่อค่าสถานะแตกต่างกัน บ้างก็มีแต่ข้อดี บ้างก็มีแต่ข้อเสีย หรือแบบที่ผสมกันก็มี การสุ่มแบบนี้ทำให้ผู้เล่นก็ต้องเปลี่ยนอาวุธให้เหมาะกับตัวละคร เพราะบางครั้งคนที่ถือธนูได้รับนิสัยที่เหมาะกับการไปยืนแนวหน้ามากกว่า และเมื่อฮีโร่เลเวลอัพ ผู้เล่นจะได้เลือกความสามารถ (Perk) 1 อย่างให้ฮีโร่แบบไม่ต้องสุ่ม แต่เราจะได้สุ่มค่าสถานะของฮีโร่แทน เช่น นาย A เลเวลอัพ เกมก็จะสุ่มว่าคุณจะได้รับค่าสถานะใดบ้างโดยให้เลือกจาก 1 ใน 5 โดยแต่ละอันก็มีระดับความแรร์ของมันอีก ทำให้บางครั้งเราอยากเพิ่มพลังโจมตีก็ไม่ได้เพิ่มสักที เพราะมีแต่ค่าสถานะที่เราไม่ได้ใช้ แต่นี่ก็เป็นการดีที่เราจะปั้นตัวละครให้หลากหลาย หรือไม่ก็ให้โชคชะตานำพาตัวละครเราไป ไปลงห้วยลงเหวลงไปไหนก็ไป๊!

การต่อสู้แนว Horde

หากคุณผู้อ่านรู้จักเกม Days Gone หรือเกมแนวซอมบี้หลาย ๆ เกมคงคุ้นเคยกับการต่อสู้แนว Horde กันดี มันคือการต่อสู้กับศัตรูนับร้อยที่โถมเข้าใส่เราไม่หยุด แม้ Last Spell จะเป็นเกม Turn-Base ก็ออกแบบการต่อสู้กับฝูงศัตรูได้ดีมากครับ ศัตรูที่มีมากมายหลายแบบ บ้างมีเกราะ บ้างเดินเร็ว บ้างระเบิดตัวเองตอนตาย ถูกอัดใส่ในฝูงเดียวกันแล้วยาตราทัพเข้าเผชิญหน้ากับเรา ทำให้การต่อสู้ต่อละครั้งต้องวางแผนอย่างรัดกุม อาวุธประชิดตีเกราะแรงนะ เวทมนตร์ไม่คิดพลังป้องกันนะ ธนูยาวยิงศัตรูที่ยืนอยู่ตัวเดียวแรงขึ้น 2 เท่านะ ความสามารถพิเศษที่หลากหลายของอาวุธและจำเพาะของศัตรูทำให้ Last Spell ไม่ใช่แค่เกมหลับหูหลับตาสาดสกิลธรรมดา ๆ เลย

Production Phase และ Battle Phase สร้างกลางวัน พังกลางคืน

ในการเล่นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือช่วงบริหารเมือง(Production Phase) และช่วงต่อสู้(Battle Phase)

• Production Phase

ในช่วงเช้าเป็นโอกาสที่ผู้เล่นจะได้บริหารเมือง ซ่อมแซมความเสียหาย ใช้เงินในการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เช่น เหมืองทอง โรงแรม หรือใช้ในการซื้ออาวุธ ชุดเกราะ เครื่องประดับ และใช้วัตถุดิบในการสร้างสิ่งป้องกันเมือง เช่นกำแพง เครื่องยิงธนู เครื่องยิงหิน ทรัพยากรที่สำคัญอีกอย่างคือคนงาน ที่เราสามารถใช้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ทั้งการจัดการซากสิ่งก่อสร้างเพื่อเพิ่มที่ว่างในเมือง ใช้ไปวัยรุ่นไปทำอุปกรณ์เช่น ปุ้น เอ๊ย! ดาบ ธนู เกราะ โดยในส่วนการบริหารเมืองนี้ก็สำคัญไม่พอการต่อสู้เลย เพราะทุกคืนศัตรูจะมามากขึ้น หลากทิศมากขึ้น แถมหมอกก็จะกินพื้นที่เข้ามาเรื่อย ๆ การวางแผนใช้เงินและสิ่งป้องกันเมืองจึงต้องรอบคอบให้มากที่สุด เพราะหากคุณจัดเต็มแล้วรอดคืนนี้ไปได้ คืนต่อไปหากทรัพยากรหมด คุณอาจไม่โชคดีอย่างที่เคยก็ได้

• Battle Phase

ในแต่ละคืนเกมจะบอกเราอย่างชัดเจนว่าศัตรูจะบุกมาทิศไหน เปิดโอกาสให้เราป้องกันทิศนั้นได้อย่างเต็มที่ ฮีโร่ของเรามี Action Point สำหรับใช้ทักษะ และมี Move Point สำหรับเคลื่อนที่ให้ใช้อย่างจำกัดแต่กลับมาเต็มในทุกเทิร์น ทัพศัตรูจะค่อย ๆ กรูกันออกมาจากหมอกโดยใช้เวลาประมาณ 4-5 เทิร์นจึงจะออกมาหมด ระหว่างนั้นเราสามารถจัดการพวกที่ออกมาก่อนได้ หากมีปีศาจหลุดเข้ามาในเมือง คุณก็มีโอกาส 1 เทิร์นที่จะกำจัดมันก่อนเกจ Panic จะเพิ่ม แต่หากสิ่งปลูกสร้างในเมืองถูกโจมตี เกจ Panic จะเพิ่มขึ้นทันที โดยค่า Panic นี้ส่งผลต่อเงินและวัตถุดิบที่เราได้รับเมื่อจบวัน ยิ่ง Panic น้อยของรางวัลก็ยิ่งมาก

RNG สุดโหดร้าย

อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้าที่ว่าการเติบโตของตัวละครนั้นอาศัยดวงเข้ามาส่วนหนึ่ง การซื้อการสร้างอาวุธและชุดเกราะก็ไม่ต่างกัน เพราะมันจะสุ่มทั้งชนิด ความแรร์ เลเวล และค่าสเตตัสของอาวุธ หลาย ๆ ครั้งที่อาวุธที่เราได้มากลับไม่ตรงกับสายของตัวละครที่เราปั้นมาตลอด จะเลือกใช้อาวุธเดิมก็ไม่ได้เพราะสร้างความเสียหายไม่พอ ระบบ RPG กับ Roguelike ที่เปรียบเสมือนขาทำให้เกิดก้าวไปข้างหน้า กลายเป็นขาซ้าย 2 ข้างที่ขัดกันไปกันมาเสียเอง ความแม่นยำในการโจมตีก็เหมือนไม่เป็นแบบที่ตาเห็น 99% แต่โจมตีไม่โดนแบบ Xcom ก็โดนมาแล้ว

Game Progression

เมื่อเป็นเกมแนว Roguelike นอกจาก In-game Progression (ความก้าวหน้าในเกม) แล้วก็ต้องมี Between Runs Progression (ความก้าวหน้าที่เก็บสะสมไว้ใช้รอบต่อ ๆ ไปได้) ด้วยครับ ซึ่งตรงนี้ The Last Spell ก็ทำออกมาได้ดีและน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะมีให้ผู้เล่นได้ปลดล็อกไอเทมและระบบใหม่ ๆ ถึง 2 แบบ

• Tainted Essence

หรือก็คือค่าเงินที่ได้จากการสังหารศัตรูในเกม ค่าเงินนี้สามารถใช้จ่ายกับเทพแห่งความมืด ซื้ออาวุธชุดเกราะ อัปเกรดตัวละคร ปลดล็อกสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ เพื่อไปใช้ในเกมต่อ ๆ ไปได้ ขอแค่ขยันเล่น ทำผลงานในแต่ละคืนให้ดีก็จะยิ่งได้ Tainted Essence มาก จึงไม่ต้องกลัวว่าผู้เล่นจะเล่นเกมไม่ผ่านเพราะคุณสามารถใช้เงินพัฒนาตัวเองได้ ทุนนิยมนี่มันดีย์จริง ๆ

• Favors

นอกจากการซื้ออัปเกรดแล้ว ยังมีระบบ Favors หรือ Challenge จากเทพแห่งแสง ที่จะปลดล็อกอาวุธ ชุดเกราะ และสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ ได้เช่นเดียวกัน แต่คราวนี้คุณไม่ต้องเก็บเล็กผสมน้อย เพราะเพียงแค่ทำตามเงื่อนไขที่เกมกำหนดได้ก็สามารถปลดล็อก Favors นั้นได้ทันที แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า Favors แต่ละอันนั้นโหดไม่ใช่น้อยเลย เช่น เล่นให้ค่า Panic ต่ำกว่า 1 5 วันติด เคลียร์ศัตรูให้หมดผ่านใน 5 เทิร์น

แม้ในตอนนี้ The Last Spell จะยังอยู่ในช่วง Early Access ทำให้ระบบต่าง ๆ ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไปบ้าง สมดุลเกมก็ยังไม่เสถียร แต่นี่ก็เป็นเกมที่ Content แน่นมาก สามารถเล่นได้ไม่ต่ำกว่า 30 ชั่วโมง การเล่นแต่ละรอบให้ประสบการณ์ไม่ซ้ำกัน (เพราะ RNG โหด) หากใครที่หาเกมวางแผนแบบจริงจังมาเล่นฆ่าเวลา The Last Spell คือคำตอบของคุณครับ (สามารถเยี่ยมชมหน้าร้านค้าได้ ที่นี่)