"แม้ว่าพวกเราต้องสกปรกแค่ไหน แต่โลกใบนี้จะต้องสะอาด" Cpt. John Price แห่งหน่วย SAS

หลังจากเกม Call of Duty: Modern Warfare ภาคล่าสุดของทีมงาน Infinity Ward เพิ่งปิดการทดสอบการเล่นโหมด Multiplayer ในรอบ Open Beta ที่ผ่านมา ก็ต้องขอบอกตามตรงเลยว่า "อารมณ์ค้างมากๆ" สามวันที่เปิดให้เล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันสนุกและไม่คิดว่าระบบการเล่นมัลติเพลเยอร์ของภาคนี้จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนน่าตกใจอยู่ไม่น้อย

ถึงจะเปิดให้ทดสอบเพียงสั้นๆ แต่มันก็มากเพียงพอที่จะพูดได้เต็มปากว่ามันต้องเป็นเกมที่ดีที่สุดในบรรดาซีรี่ส์ Call of Duty ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน วันนี้พวกเราทาง GameFever TH จะขอพูดถึง 5 เหตุผลสำคัญว่าทำไมเกม Call of Duty: Modern Warfare นี้ถึงเป็นเกมที่น่าซื้อแห่งปี 2019

ตัวละครทุกตัวมีจุดมุ่งหมายของตัวเอง

จากบทสัมภาษณ์ของทีมงาน Infinity Ward ซึ่งได้มีการพูดถึงในด้านเนื้อเรื่องว่า เราจะไม่ใช่ฮีโร่ที่ลุยคนเดียว ปีนเกลียวทั้งกองทัพเหมือน Modern Warfare ภาคเก่าๆ เราจะเน้นอิงความเป็นจริงและความโหดร้ายของสงครามมากขึ้น ตัวละครทุกตัวล้วนมีจุดมุ่งหมายของตน ไม่ว่า Kyle Garrick ทหารผิวสีหนึ่งในสมาชิกนห่วย SAS สังกกัดทีม Cpt. Price หัวหน้าทีมสุดใจหิน, Alex เจ้าหน้าที่ CIA ที่เข้ามาทำภารกิจร่วมมือกับกลุ่มต่อต้านหรือ Farah หัวหน้ากลุ่มต่อต้านที่ต้องการอิสระภาพจากการกดขี่  ไม่ว่าจะทำให้โลกปลอดภัยจากผู้ก่อการร้ายก็ดี

หรือเพื่อปลดปล่อยประชาชน พวกเขาก็ไม่ใช่ฮีโร่ ไม่ใช่วีรบุรุษหรือวีรสตรี พวกเขาเป็นเพียงแค่คน คนหนึ่งที่ต้องแบกรับความสูญเสียเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สำคัญเลยคือเนื้อเรื่องจะเป็นการสะท้อนความโหดร้ายป่าเถื่อนของสงครามยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ซึ่งในมุมมองของบางคนอาจจะไม่ชอบอะไรแบบนี้เพราะมันอาจจะดู Dark เกินไป แต่สำหรับทีมงานแล้วแล้ว มันคือสิ่งที่สะท้อนหรือแฝงคติเรื่องการตีแผ่ด้านมืดของสงคราม ทำให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นดราม่ามากขึ้น ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ

กราฟิคที่ยกระดับจนแทบเหมือนคนจริงมาแสดง

เกมระดับ AAA จะไม่พูดถึงกราฟิคคงไม่ได้ ซึ่งหลังจากได้ดู Trailer ต่างๆ รวมถึงได้สัมผัสการเล่นในช่วง Beta ที่ผ่านมา ขอบอกเลยว่าหากดูเผินๆ นี่คิดว่าเหมือนคนมาแสดงจริงๆ มากกว่าเสียอีก ต้องยกความดีความชอบให้กับ Engine ตัวใหม่ล่าสุดซึ่งเป็น Engine ที่พัฒนาต่อยอดมาจากซีรี่ส์ภาค Advance Warfare และ Infinite Warfare ทำให้การเคลื่อนไหวและรายละเอียดต่างๆ สมจริงอย่างถึงที่สุด ราวกับเราได้อยู่ในท่ามกลางสนามรบจริงๆ รวมถึงเสียงระเบิด เสียงเอฟเฟคต่างๆ อัดมาจากของจริง ไม่ใช่เสียงปืนกลวงๆ แบบ Modern Warfare ภาคที่แล้วมา โดยเฉพาะระเบิด Claymore หากใครโดนเจ้านี่ไปบอกเลยว่า เสียงดังแสบแก้วหูมากๆ แม้จะหรี่เสียงแล้วก็ตาม แต่นั้นก็ถือเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสียล่ะนะ

ได้อดีตทหารและนักข่าวสงครามและอื่นๆ มาร่วมงานด้วย

ขอบอกเลยว่างานนี้ Infinity Ward ลงทุนอย่างหนักเพื่อให้ได้อดีตหน่วยรบพิเศษสองคนอย่างคุณ Mitch Hall และคุณ Steve Sanders ได้เข้ามาร่วมงาน ถ่ายทอดชีวิตการไปรบในช่วงที่ทำงานให้กับหน่วยรบพิเศษ Navy SEALs ของสหรัฐฯและได้มาเป็นข้อมูลสำคัญในการสร้างเนื้อหาของเกมภาคนี้ให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น อีกทั้งยังได้คุณ Hollie McCay ผู้สื่อข่าวสงครามที่ได้สัมผัสผู้ประสบภัยจากสงครามอย่างใกล้ชิดร่วมกันบอกเล่าประสบการณ์ความโหดร้ายและความไม่ปราณีของสงครามและการสูญเสีย โดยทำให้โหมด Single Player ของเกมนี้เข้มข้นยิ่งกว่ากาแฟ ใครตับไม่แข็งแรงอาจจะมีการสะเทือนใจแน่ๆ

ท่ายิงปืนในเกมมาจากของจริง แสดงโดยครูฝึกจริง

ในด้านเนื้อเรื่องของเกมเราพูดกันไปเยอะแล้ว เรามาพูดในส่วนด้านท่า Animation การถือปืนและท่ายิงต่างๆ นั้น ไม่ใช่เป็นท่าการยิงแบบทั่วไป แต่เป็นการที่คุณ Lucas Botkin เจ้าของบริษัทอุปกรณ์แต่งปืนยี่ห้อ T.Rex Arms และเป็นถึงครูฝึกสอนการใช้ปืนในการป้องกันตัวชื่อดังที่ทาง Infinity Ward ได้ตัวเขามาเพื่อสร้าง Motion Capture โดยตัวคุณ Lucas ก็อาสาที่จะเป็นตัว Motion Capture ให้เอง ทำให้กลายเป็นว่า ท่าการยิงต่างๆ ในเกม, การสไลด์, การเข้าที่กำบังรวมถึงการเปลี่ยนซองกระสุนปืน มันคือท่าที่สามารถใช้ได้จริงทั้งในการรบและการป้องกันตัว ไม่ใช่เป็นการสร้างท่ายิงปืนเท่ๆ แล้วใช้งานจริงไม่ได้ บอกเลยว่างานนี้จัดเต็มทุกท่วงท่าจริงๆ

Multiplayer ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดจนน่าตกใจ

หากนับเฉพาะช่วงที่ให้เปิดทดสอบแบบ Open Beta Test แล้ว มันคือการพัฒนาระบบ Multiplayer อย่างก้าวกระโดด จากที่เราคุ้นเคยกับสไตล์การเล่นเกมเร็วของ Call of Duty ในหลายๆ ภาค แต่ภาคนี้กลายเป็นเกมที่มีสไตล์การเล่นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เน้นความเป็นทีมมากขึ้น, ระบบ Gun Smith ที่สามารถแต่งปืนจากปืนกกลายเป็นปืนอีกกระบอกได้ภายในตัวปืนเดียว ยกตัวอย่างเช่น M4A1 สามารถดัดแปลงลำกล้องสั้นและติดอุปกรณ์เสริมจนกลายเป็น Mk18 Mod 0 หรือปืน AK-47 ติดลำกล้องยาว ใช้พานท้ายหนักและติดขาทราย ก็กลายเป็นปืนกลเบา RPK ไปเลย รวมถึงระบบ Animation Kill จะมีการแสดงท่าการ CQC ฆ่าศัตรูสุดเท่ให้เห็นกันคล้ายคลึงกับ Battlefield

นอกจากนี้ Call of Duty: Modern Warfare ภาคนี้ก็ได้ขยายสเกลด้วยการเพิ่มโหมด Ground War ซึ่งสเกลผู้เล่นจะเป็นแบบ 64 คน พร้อมพื้นที่การรบขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก แม้จะไม่ได้หวือหวาเหมือน Battlefield ที่สามารถระเบิดสิ่งก่อสร้างได้และอุปกรณ์ทางการรบจะเยอะกว่า แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากในหลายๆ จุดเลยทำให้สนุกไม่แพ้กัน

นี่คือทั้งหมดของ 5 เหตุผลว่าทำไม Call of Duty: Modern Warfare ภาคล่าสุดนี้ถึงยกให้เป็นเกมที่น่าซื้อแห่งปี นอกจากเนื้อเรื่องที่ดำดิ่งสู่ความโหดร้ายของสงครามแล้ว ระบบ Multiplayer ก็พัฒนาไม่น้อยหน้าหลายๆ เกมโดยเฉพาะในช่วงที่ได้เล่นตอน Open Beta Test นั้นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของตัวเกมที่ได้สัมผัสเท่านั้น หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้ตัดสินใจง่ายขึ้นว่า เกมนี้แม้จะแพงเกือบสองพันบาท แต่มันก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สายเสพเนื้อเรื่องความเข้มข้นนั้นคู่ควร





ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่