มาเฟีย คือกลุ่มคนที่อิทธิพลที่ใช้อำนาจข่มขู่ผู้อื่นให้เกรงกลัว หรือหาผลประโยชน์ในทางทุจริต ซึ่งแน่นอนว่าถ้าพูดถึงคำนี้ ก็มักจะมีอาชญากรรมมาด้วยเสมอ และแน่อนว่ามีเกมมากมายก็มักจะหยิบเอาธีมมาเฟียหรือกลุ่มผู้มิอิทธิพล มาเป็นเรื่องราวในเกมอยู่เสมอ ดังนั้นวันนี้ทีมงาน GameFever TH จะพาไปดู 5 เกมดังที่อยู่ในโลกแห่งมาเฟียและอาชญากรรม มาดูกันว่ามีเกมไหนที่อยู่ในความคิดของเพื่อนๆบ้าง

Yakuza Series

เกมแรกขอเปิดด้วยซีรีส์เกมมาเฟียของญี่ปุ่นอย่าง “ยากูซ่า” กัน โดยเกมนี้เป็นกมจากค่าย Deep Silver ในปัจจุบันตัวเกมมีภาคหลักทั้งหมด 6 ภาค และภาคเสริมกับรีเมคอีกเยอะมาก โดยทุกภาคจะกล่าวถึง โลกของยากูซ่าซึ่งมีทั้ง สงครามนอกแก๊ง เรื่องทำผิดกฎหมายอย่าง การรีดไถ ค้าประเวณี ไปจนถึงการใช้อำนาจในทางที่ไม่ดี อีกทั้งในภาคหลังๆเกมนี้ได้ใส่รายละเอียดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม บรรยากาศ นอกจากนั้นเกมนี้ยังเป็นเกมที่มีมินิเกมให้เล่นเยอะจนลืมตัวเกมหลักเลยก็ได้

Sleeping Dogs

ยังอยู่กับมาเฟียเอเชียอีก 1 เกม แต่คราวนี้ย้ายมาอยู่ในฮ่องกงแทน เป็นเกมOpen World จากค่าย Square Enix ที่ได้ผู้พัฒนาอย่าง United Front Games มาเป็นคนทำ โดยตัวเอกในเรื่องจะเป็นตำรวจที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อจัดการกับแก๊งมาเฟียนี้จากภายใน โดยในด้านเกมเพลย์จะมีระบบต่อสู้หลักออกเป็น 3 ส่วน แบบแรกคือการต่อสู้มือเปล่า อย่างต่อมาคือต่อสู้ด้วยอาวุธปืนและสุดท้ายคือต่อสู้บนยานพาหนะ ซึ่งถ้าเป็นการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งของรอบตัวมาเป็นอาวุธได้ ส่วนด้านของกราฟิก ถือว่าสวยงามออกมาดูดีไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ สถานที่ หรือผู้คนก็ตาม ถือว่าเป็นอีกเกมหนึ่งที่ควรหามาลองเล่นสักครั้ง

Grand Theft Auto Series

เกมต่อไปขอข้ามมาที่ฝั่งยุโรปกันบ้าง เป็นเกมของค่ายเกมอย่าง Rockstar กับเกมแนว Open World ที่ออกมากี่ภาคก็สร้างรายได้(และดราม่า)อย่าง Grand Theft Auto หรือ GTA ซึ่งแทบจะทุกภาคมีส่วนกับองค์กรมาเฟียแทบหมด เพราะต้องยอมรับว่าตัวหลักในเกมนี้แต่ละคน เป็นโจรมืออาชีพทั้งนั้น ดังนั้นโจรพวกนี้ก็ต้องมีส่วนกับแก๊งน้อยแก๊งใหญ่เป็นประจำ บางภาคอาจจะสังกัดในนั้นเลย บางภาคก็อาจจะมีเหตุต้องไปพัวพันกับองค์กรมาเฟียในละแวกนั้น แต่ไม่ว่าแต่ละภาคจะมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน สุดท้ายตอนจบมักจะฆ่าแกงกันตลอด ถือเป็นการบอกนัยๆว่า “ในวงการนี้ถ้าหมดประโยชน์ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้”



 

Mafia Series

ถ้าพูดถึงโลกมาเฟียการที่จะขาดเกมซีรีส์นี้คงเป็นไปไม่ได้ โดยเป็นเกมของค่าย 2K ที่มีด้วยกันอยู่ 3 ภาค โดยภาคแรกจะเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักอย่าง Tommy Angelo ภาค 2 เป็น Vito Scaletta และภาค 3 คือ Lincoln Clay โดยใน 2 ภาคแรก จะเป็นการเล่าถึงตัวเอก ที่ได้อยู่ในแก๊งมาเฟียตั้งแต่วันแรกจากจนไต่เต้ามาเป็นหัวหน้า แต่ในเนื้อเรื่องในภาค 3 จะเล่าถึงตัวเอกที่เป็นคนผิวสี ที่ต้องการแก้แค้นพวกมาเฟียที่หลอกใช้เขาและสุดท้ายโดนทรยศ ด้วยการร่วมมือกับแก๊งมาเฟียในละแวกนั้นเพื่อเพิ่มกำลัง และกำจัดแก๊งที่หักหลังเขาให้สิ้นซาก ถือว่าทั้ง 3 ภาคเป็นเกมที่มีกลิ่นอายในยุค 1900 ได้ดีทีเดียว และนอกจากนั้นเกมนี้ยังได้นำเพลงเก่าๆสมัยก่อนมาใช้ได้อย่างลงตัวอีกด้วย

The Godfather Series

สำหรับเกมสุดท้ายที่จะกล่าวถึงเป็นเกมจากค่ายดังอย่าง EA เป็นเกมที่มาจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันในปี ค.ศ. 1972 ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 2 ภาค โดยภาคแรกจะเล่าเรื่องราวของ Aldo Trapani ชายกำพร้าที่ถูกรับเลี้ยงต่อโดยตระกูลมาเฟียใหญ่ในอิตาลี ส่วนภาค 2 จะเล่าถึง Dominic ซึ่งความแตกต่างของ 2 ภาค นี้คือ ภาคแรกจะเล่าเรื่องราวที่อิงมาจากหนังแล้วเพิ่มเนื้อหาใหม่เข้าไปแต่ยังคงเค้าโครงเดิมอยู่ ส่วนภาค 2 จะเป็นการคิดเนื้อเรื่องเพิ่มเข้ามาใหม่ นอกจากนั้นในภาคนี้ยังเพิ่มระบบ Don’s View หรือการบริหารพื้นที่แบบมาเฟีย ที่เราสามารถดูว่าเราควบคุมพื้นที่ใดแล้ว และพื้นที่นั้นมีสภานที่อะไรให้เราเก็บค่าเช่าได้บ้าง หรือดูว่ามีศัตรูมาก่อกวนในพื้นที่ที่เราควบคุมอยู่หรือไม่ นอกจากนั้นภาค 2 จะมีลูกน้องติดตามไปทำภารกิจด้วย ซึ่งลูกน้องแต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย เรียกว่าถ้าใครอยากรู้ว่ามาเฟียแท้ๆเป็นยังไง ลองไปหา 2 เกมนี้มาเล่นกันได้



จบไปแล้วกับเกมแห่งโลกมาเฟียที่เราเอามาฝากกัน สำหรับเกมแนวนี้จริงๆยังมีอีกเยอะมาก เพราะบางเกมก็อาจจะมีเกมเพลย์คล้ายๆกัน หรืออาจจะมีบางเกมที่ผู้เขียนไม่รู้จักก็ได้ สำหรับเกมแนวนี้ต้องบอกตรงๆว่าอยู่คู่กับวงการเกมมานานแล้ว และแน่นอนว่าในอนาคตก็จะมีเกมใหม่ๆหรือภาคต่อของซีรีส์แนวนี้ให้พวกเราได้เล่นกันอีก เพราะบางเกมที่กล่าวมาคงยังไม่น่าจะเลิกทำต่อง่ายๆแน่