GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
10 ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Resident Evil Remake ภาค 3 และภาค 2
ลงวันที่ 08/04/2020

เมื่อไม่นานมีนี้ Resident Evil 3 Remake ได้ออกมาโลดแล่นให้บรรดาแฟนๆได้เล่นกันทั่วโลก ซึ่งก็สร้างทั้งเสียงในด้านดี และด้านบวกตั้งแต่ช่วงแรกที่ออกมา บางคนก็นำไปเทียบกับภาคเก่าๆ และถ้าจะนำไปเที่ยบให้เห็นได้ชัดที่สุดก็คงจะไม่พ้น Resident Evil 2 Remake ที่วางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้ว ความแตกต่างของทั้ง 2 ภาคอาจจะเยอะ แต่วันนี้ผมขอนำความแต่งต่าง10 จุดเฉพาะตรงจุดสำคัญๆ มาให้ทุกคนได้ลองเปรียบเทียบดูนะครับ.

1.Mr. X Vs. Nemesis.


Mr. X เป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของภาค 2 Remake เมื่อปีที่แล้ว โดยเขาจะทำการไล่ล่าผู้เล่นอย่างไร้ควมปราณี ไล่ทั่วทั้งสถานีตำรวจ ไล่เหมือนแบบสามีหึงโหด5555 ต่อให้คุณจะยิง Mr. X กี่ครั้งจนต้องคุกเข่าหยุดนิ่ง แต่เขาก็ไม่เคยที่จะยอมแพ้เขาจะไล่ล่าจนกว่าผู้เล่นจะไปยังอีกส่วนหนึ่งของฉาก ส่วนในภาค 3 Remake นี้ คุณ Nemesis ก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรสมชื่อ ถึงจะมีแฟนๆบางคนบอกว่าเขาโผล่มาน้อย แต่ผมคิดว่านักพัฒนาทำให้เขาออกมาได้จังหวะที่กำลังดี ทำให้ตกใจ และเจ็บตัวได้ดีมากๆ555 ส่วนสำคัญที่ผู้เล่นหลายคนสังเกตเห็นคือ ในภาค 2 เราไม่ค่อยอยากที่จะสู้กับMr. X มากนักเพราะต่อให้ล้มเขาได้ก็ไม่มีอะไรให้ แต่ในภาค 3 การยิง Nemesis ก็จะมี"ของดรอป"ลงมา ดังนั้นทำให้เวลามีอาวุธพร้อม เราอยากที่จะหันไปยิงเขา เพื่อลุ้นว่าจะมีของอะไรดรอปไหมเวลาล้ม


2.แคมเปญเดียวเท่านั้น


เมื่อปีก่อนภาค 2 ทาง Capcom ได้ทำให้สามารถเลือกเล่นตัวละครได้ 2 ตัวโดยกล่าวว่าจะมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกัน แต่สิ่งนั้นแทบจะต่างกันน้อยมาก แฟนๆจึงติในส่วนนั้นพอสมควร มาในภาค 3 ต้องขอชมว่าทางค่ายเอาใจใส่ในข้อติชมนี้ จึงเปลี่ยนเป็นการเล่น 2 ตัวละคร แต่จะสลับการเล่าเรื่องในเหตุการณ์นั้นๆ ผมว่ามันดีมาก! การจัดลำดับแบบนี้ทำให้เราอินกับเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่สำหรับแฟนๆซีรีส์คิดเหมือนๆกันอยู่แล้วว่าไม่จำเป็นต้องมีหลายแคมเปญก็ได้ เพราะ Capcom มักใส่แรงจูงใจมากมายที่จะให้เรากลับไปเล่นใหม่อีกครั้ง เช่นการปลดล็อคอาวุธเทพๆตั้งแต่ช่วงเริ่มเกม หรือปลดล็อคระดับความยากแบบพิเศษสำหรับผู้ที่เคลียร์เกมแล้ว และอีกมากมายที่เราเคยสัมผัสกันมา ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของซีรี่ส์เกมนี้เลยครับ


3.การขาดของอวัยวะ


หลังๆมานี้มีผู้เล่นบางกลุ่มบ่นว่า เวลายิงไปยังส่วนนั้นๆของซอมบี้แล้วมันไม่ขาด ไม่กระเด็นเหมือนภาคก่อนๆ มันไม่สะใจ ถ้าคุณสังเหตจะพบว่า หลังๆมานี้เวลายิงไปยังอวัยวะอย่างแขน-ขาของซอมบี้มันไม่ค่อยจะหลุดกระเด็นเหมือนเท่าที่ควรนัก สิ่งที่เห็นมีเพียงเลือดที่พุ่งออกมา แต่ก็เป็นที่เข้าใจสำหรับเกมเมอร์หลายๆคนเพราะมันเป็นเรื่องของขนาดของตัวเกมที่ใหญ่ และเอนจิ้นที่ Capcom ใช้อยู่ ถึงแม้จะไม่สะใจเหมือนเมื่อก่อนแต่ผู้พัฒนาก็พยายามเต็มที่เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมในการเล่นเกม ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่าเวลาคุณยิงซอมบี้ที่ขาพวกมันจะมีอาการสะดุดล้ม หรือถ้าคุณฆ่ามันใกล้ๆมันก็จะล้มใส่คุณและจะเห็นตัวละครพยายามผลักมันออกจากตัว เท่านี้ก็โอเครแล้ว!


4.เน้นแอ็คชั่นมากขึ้น


เมื่อปีที่แล้ว ภาค 2 ถือว่าเป็นการผสมที่ลงตัวของความคลาสสิ่ง ไม่ว่าจะเรื่องของเกมเพลย์ที่มีรูปแบบทันสมัยเข้าถึงง่ายขึ้น โดยอิงตาม Resident Evil 4 ส่วนของการเล็งได้รับการปรับปรุงให้สามารถเคลื่อนไหวขณะเล็งได้อย่างอิสร แต่ก็ยังทำให้มีความลุ้นระทึก ด้วยกระสุนที่ไม่เยอะเกินไป ต้องใช้อย่างจำเป็นเท่านั้น ซึ่งในภาค 3 Remake นี้ ในฉากต่างๆที่คุณได้เห็นคงรู้แล้วว่าภาคนี้ต้องบู๊หนักแน่ๆ ใช่ครับบู๊เยอะระดับนึง แต่ไม่เวอร์แบบภาค 6 นะอันนั้นหนักไปแนวแอ็กชั่นจ๋าจริงๆ555 ทั้งยังง่ายขึ้นมาระดับนึงเพราะกระสุดถือว่าเยอะพอที่จะเคลียร์เกมได้เลย แต่ๆๆๆขอเบรคไว้ก่อนอย่าเพิ่งติอะไรนะครับ เพราะถ้าคุณสามารถเคลียร์เกมได้แล้ว จะมีโหมด " Hardcore " ปลดล็อคมาโดยจะทำให้ทรัพยากรบางอย่างน้อยลงไปมากๆ และการใช้กระสุนทุกนัดจะมีค่ามากขึ้น! เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย และผู้ที่อยากได้รับกลิ่นอายของภาคต้นฉบับที่ภาพสวยขึ้นมากๆ!


5.สั้น!


อันนี้แค่หัวข้อคนที่ซื้อไปแล้วคงจะเข้าใจนะครับ ถ้านำมาเปรียบเทียบ  Resident Evil 2 Remake จะใช้เวลาจบเกมประมาณ 6-8 ชั่วโมง แต่ในภาค 3 นี้ใช้เวลาจวเกมเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น! แต่ก็เข้าใจได้ครับว่าภาคนี้มีสเกลที่ใหญ่กว่าเดิม และใช้เวลาพัฒนาแค่ปีเดียวดังนั้นจึงต้องทำเต็มที่ แต่ถ้าทำให้นานกว่านี้เราอาจจะได้เล่นช้ากว่าเดิม หรืออาจจะเจอพวกบั๊กก็ได้นะครับ เอาเป็นว่าถือเป็นอาหารรองท้อง รอภาค 8 ที่จะออกมาเป็นอาหารจานหลักละกันนะครับ555


6.ง่ายขึ้น( เยอะ )


การให้ทรัพยากรพวกกระสุนหรือยาที่เพียงพอแก่เหล่าผู้เล่นในภาค 3 ดูเหมือนจะมีให้เยอะกว่าภาค 2 อย่างมาก ทั้งสถานที่ต่างๆยังมีความกว้างมากทำให้การหลบหลีกซอมบี้ทำได้ง่ายขึ้น ความท้าทายจึงน้อยลงไปในระดับนึง (ถ้าจำกันได้เวลาเจอตัวลิกเกอร์ในภาค 2 มันชอบโผล่มาทางแคบๆหนีไม่ได้สู้ลูกเดียว555) แต่ก็อย่าลืมว่าคุณสามารถปรับระดับความยากได้นะครับ ผมขอแนะนำละกันใครที่เพิ่งเล่นเกมซีรี่ส์นี้ครั้งแรกลองเลือกที่ระดับง่าย( Easy)ไปก่อน ส่วนแฟนๆซีรี่ส์นี้หรือเกมเมอร์เก่งๆก็แนะนำให้เลือกระดับปกติขึ้นไปได้เลยนะครับ


7.เพิ่มฟังชั่นการพุ่งหลบ


ในภาค2 ไม่ได้มีปุ่มพุ่งหลบ แต่ในภาค3 ทางCapcom ได้นำปุ่มนี้กลับมาอีกครั้ง โดยถ้าคุณกะจังหวะดีๆ จิลล์จะหลบการโจมตีของซอมบี้ และสามารถโจมตีสวนกลับไปได้ แต่การใช้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดโดยคุณต้องกะจังหวะเวลาที่เป๊ะๆ เพราะถ้าพลาดก็จะโดนพวกซอมบี้กัดได้ ถือว่าสร้างความแฟร์แล้วกันนะครับ เพราะขนาดพวกซอมบี้ กับ Nemesis ยังแดชหลบได้เลย เราจะหลบได้ด้วยก็ไม่เห็นจะโกงแฟร์ๆ555


8.ซื่อสัตว์ต่อต้นฉบับ


Resident Evil 3 นั้นมีเนื้อหาและขนาดที่ใหญ่กว่าภาค 2 โดยภาค2จะเล่าไปถึงลีออนและแคลร์ที่สถานีตำรวจ แต่ภาคนี้จะกล่าวถึงการหลบหนีของจิลล์ที่แรคคูนซิตี้ ดังนั้น Capcom อาจจะทำเกมสั้นก็จริง แต่ทุกคนครับพวกเขาพยายามนำฉากสำคัญที่เห็นได้ชัดในภาคต้นฉบับมา Remake เพื่อให้แฟนๆยุคบุกเบิกนั้นได้เสพกลิ่นอายของความเป็นต้นฉบับด้วย ถึงแม้บางฉากจะถูกตัดออกไป แต่ผมเชื่อว่า Resident Evil 3: Nemesis Remake นี้จะเป็น 1 ในภาคที่หลายๆคนรักแน่นอนครับ


9.ปริศนาที่ง่ายขึ้น


ลายเซ็นอีกอย่างที่ทำให้รู้ว่า ฉันคือResident Evil นะ! ก็คือปริศนที่ผู้เล่นต้องมาไขกัน มันมีทุกภาค แต่ภาครีเมคนี้ ถึงจะมีปริศนาให้ไขอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นปริศนาเท่าไหร่นัก มันไม่ค่อยซับซ้อน แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบคงจะรู้นะครับว่าภาคไหนปริศนาท้าทายกว่ากัน เช่น ภาค 2 คุณต้องไปหากุญแจชนิดนั้นๆเพื่อไขประตูที่มีลักษณะตรงกันกับบานประตู ส่วนภาค 3 คุณแค่หากุญแจผีก็สามารถเข้าถึงประตูได้เกือบทุกบานแล้ว.


10.เพิ่ม Resistance มาให้ด้วย!


เป็นครั้งแรกในซีรี่ส์ Resident Evil ที่มีการเล่นแบบ 4VS1 โดยผู้เล่น 4 คนพยายามหนีออกจากพื้นที่ และอีกคนหนึ่งควบคุมสภาพแวดล้อมส่งอุปสรรคต่างๆไปขัดขวางการหลบหนีของทั้ง 4 คน เช่น กับดัก / ซอมบี้ มันเป็นเกมที่ทำมาสำหรับออนไลน์โดยเฉพาะ แต่ก็ยากที่จะบอกว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ต้องค่อยๆดูกันไปก่อนครับ เพราะช่วงแรกที่ออกมาไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น และบ้างก็ว่ารู้สึกมันไม่ใช่ Resident Evill เลยหวังว่าถึงแม้เกมนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่มันอาจจะเป็นก้าวของเกมที่ดีในอนาคตก็ได้นะครับ!


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
10 ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง Resident Evil Remake ภาค 3 และภาค 2
08/04/2020

เมื่อไม่นานมีนี้ Resident Evil 3 Remake ได้ออกมาโลดแล่นให้บรรดาแฟนๆได้เล่นกันทั่วโลก ซึ่งก็สร้างทั้งเสียงในด้านดี และด้านบวกตั้งแต่ช่วงแรกที่ออกมา บางคนก็นำไปเทียบกับภาคเก่าๆ และถ้าจะนำไปเที่ยบให้เห็นได้ชัดที่สุดก็คงจะไม่พ้น Resident Evil 2 Remake ที่วางจำหน่ายเมื่อปีที่แล้ว ความแตกต่างของทั้ง 2 ภาคอาจจะเยอะ แต่วันนี้ผมขอนำความแต่งต่าง10 จุดเฉพาะตรงจุดสำคัญๆ มาให้ทุกคนได้ลองเปรียบเทียบดูนะครับ.

1.Mr. X Vs. Nemesis.


Mr. X เป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของภาค 2 Remake เมื่อปีที่แล้ว โดยเขาจะทำการไล่ล่าผู้เล่นอย่างไร้ควมปราณี ไล่ทั่วทั้งสถานีตำรวจ ไล่เหมือนแบบสามีหึงโหด5555 ต่อให้คุณจะยิง Mr. X กี่ครั้งจนต้องคุกเข่าหยุดนิ่ง แต่เขาก็ไม่เคยที่จะยอมแพ้เขาจะไล่ล่าจนกว่าผู้เล่นจะไปยังอีกส่วนหนึ่งของฉาก ส่วนในภาค 3 Remake นี้ คุณ Nemesis ก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรสมชื่อ ถึงจะมีแฟนๆบางคนบอกว่าเขาโผล่มาน้อย แต่ผมคิดว่านักพัฒนาทำให้เขาออกมาได้จังหวะที่กำลังดี ทำให้ตกใจ และเจ็บตัวได้ดีมากๆ555 ส่วนสำคัญที่ผู้เล่นหลายคนสังเกตเห็นคือ ในภาค 2 เราไม่ค่อยอยากที่จะสู้กับMr. X มากนักเพราะต่อให้ล้มเขาได้ก็ไม่มีอะไรให้ แต่ในภาค 3 การยิง Nemesis ก็จะมี"ของดรอป"ลงมา ดังนั้นทำให้เวลามีอาวุธพร้อม เราอยากที่จะหันไปยิงเขา เพื่อลุ้นว่าจะมีของอะไรดรอปไหมเวลาล้ม


2.แคมเปญเดียวเท่านั้น


เมื่อปีก่อนภาค 2 ทาง Capcom ได้ทำให้สามารถเลือกเล่นตัวละครได้ 2 ตัวโดยกล่าวว่าจะมีเนื้อเรื่องที่แตกต่างกัน แต่สิ่งนั้นแทบจะต่างกันน้อยมาก แฟนๆจึงติในส่วนนั้นพอสมควร มาในภาค 3 ต้องขอชมว่าทางค่ายเอาใจใส่ในข้อติชมนี้ จึงเปลี่ยนเป็นการเล่น 2 ตัวละคร แต่จะสลับการเล่าเรื่องในเหตุการณ์นั้นๆ ผมว่ามันดีมาก! การจัดลำดับแบบนี้ทำให้เราอินกับเนื้อเรื่องมากขึ้น แต่สำหรับแฟนๆซีรีส์คิดเหมือนๆกันอยู่แล้วว่าไม่จำเป็นต้องมีหลายแคมเปญก็ได้ เพราะ Capcom มักใส่แรงจูงใจมากมายที่จะให้เรากลับไปเล่นใหม่อีกครั้ง เช่นการปลดล็อคอาวุธเทพๆตั้งแต่ช่วงเริ่มเกม หรือปลดล็อคระดับความยากแบบพิเศษสำหรับผู้ที่เคลียร์เกมแล้ว และอีกมากมายที่เราเคยสัมผัสกันมา ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของซีรี่ส์เกมนี้เลยครับ


3.การขาดของอวัยวะ


หลังๆมานี้มีผู้เล่นบางกลุ่มบ่นว่า เวลายิงไปยังส่วนนั้นๆของซอมบี้แล้วมันไม่ขาด ไม่กระเด็นเหมือนภาคก่อนๆ มันไม่สะใจ ถ้าคุณสังเหตจะพบว่า หลังๆมานี้เวลายิงไปยังอวัยวะอย่างแขน-ขาของซอมบี้มันไม่ค่อยจะหลุดกระเด็นเหมือนเท่าที่ควรนัก สิ่งที่เห็นมีเพียงเลือดที่พุ่งออกมา แต่ก็เป็นที่เข้าใจสำหรับเกมเมอร์หลายๆคนเพราะมันเป็นเรื่องของขนาดของตัวเกมที่ใหญ่ และเอนจิ้นที่ Capcom ใช้อยู่ ถึงแม้จะไม่สะใจเหมือนเมื่อก่อนแต่ผู้พัฒนาก็พยายามเต็มที่เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมในการเล่นเกม ถ้าคุณสังเกตจะเห็นว่าเวลาคุณยิงซอมบี้ที่ขาพวกมันจะมีอาการสะดุดล้ม หรือถ้าคุณฆ่ามันใกล้ๆมันก็จะล้มใส่คุณและจะเห็นตัวละครพยายามผลักมันออกจากตัว เท่านี้ก็โอเครแล้ว!


4.เน้นแอ็คชั่นมากขึ้น


เมื่อปีที่แล้ว ภาค 2 ถือว่าเป็นการผสมที่ลงตัวของความคลาสสิ่ง ไม่ว่าจะเรื่องของเกมเพลย์ที่มีรูปแบบทันสมัยเข้าถึงง่ายขึ้น โดยอิงตาม Resident Evil 4 ส่วนของการเล็งได้รับการปรับปรุงให้สามารถเคลื่อนไหวขณะเล็งได้อย่างอิสร แต่ก็ยังทำให้มีความลุ้นระทึก ด้วยกระสุนที่ไม่เยอะเกินไป ต้องใช้อย่างจำเป็นเท่านั้น ซึ่งในภาค 3 Remake นี้ ในฉากต่างๆที่คุณได้เห็นคงรู้แล้วว่าภาคนี้ต้องบู๊หนักแน่ๆ ใช่ครับบู๊เยอะระดับนึง แต่ไม่เวอร์แบบภาค 6 นะอันนั้นหนักไปแนวแอ็กชั่นจ๋าจริงๆ555 ทั้งยังง่ายขึ้นมาระดับนึงเพราะกระสุดถือว่าเยอะพอที่จะเคลียร์เกมได้เลย แต่ๆๆๆขอเบรคไว้ก่อนอย่าเพิ่งติอะไรนะครับ เพราะถ้าคุณสามารถเคลียร์เกมได้แล้ว จะมีโหมด " Hardcore " ปลดล็อคมาโดยจะทำให้ทรัพยากรบางอย่างน้อยลงไปมากๆ และการใช้กระสุนทุกนัดจะมีค่ามากขึ้น! เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย และผู้ที่อยากได้รับกลิ่นอายของภาคต้นฉบับที่ภาพสวยขึ้นมากๆ!


5.สั้น!


อันนี้แค่หัวข้อคนที่ซื้อไปแล้วคงจะเข้าใจนะครับ ถ้านำมาเปรียบเทียบ  Resident Evil 2 Remake จะใช้เวลาจบเกมประมาณ 6-8 ชั่วโมง แต่ในภาค 3 นี้ใช้เวลาจวเกมเพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น! แต่ก็เข้าใจได้ครับว่าภาคนี้มีสเกลที่ใหญ่กว่าเดิม และใช้เวลาพัฒนาแค่ปีเดียวดังนั้นจึงต้องทำเต็มที่ แต่ถ้าทำให้นานกว่านี้เราอาจจะได้เล่นช้ากว่าเดิม หรืออาจจะเจอพวกบั๊กก็ได้นะครับ เอาเป็นว่าถือเป็นอาหารรองท้อง รอภาค 8 ที่จะออกมาเป็นอาหารจานหลักละกันนะครับ555


6.ง่ายขึ้น( เยอะ )


การให้ทรัพยากรพวกกระสุนหรือยาที่เพียงพอแก่เหล่าผู้เล่นในภาค 3 ดูเหมือนจะมีให้เยอะกว่าภาค 2 อย่างมาก ทั้งสถานที่ต่างๆยังมีความกว้างมากทำให้การหลบหลีกซอมบี้ทำได้ง่ายขึ้น ความท้าทายจึงน้อยลงไปในระดับนึง (ถ้าจำกันได้เวลาเจอตัวลิกเกอร์ในภาค 2 มันชอบโผล่มาทางแคบๆหนีไม่ได้สู้ลูกเดียว555) แต่ก็อย่าลืมว่าคุณสามารถปรับระดับความยากได้นะครับ ผมขอแนะนำละกันใครที่เพิ่งเล่นเกมซีรี่ส์นี้ครั้งแรกลองเลือกที่ระดับง่าย( Easy)ไปก่อน ส่วนแฟนๆซีรี่ส์นี้หรือเกมเมอร์เก่งๆก็แนะนำให้เลือกระดับปกติขึ้นไปได้เลยนะครับ


7.เพิ่มฟังชั่นการพุ่งหลบ


ในภาค2 ไม่ได้มีปุ่มพุ่งหลบ แต่ในภาค3 ทางCapcom ได้นำปุ่มนี้กลับมาอีกครั้ง โดยถ้าคุณกะจังหวะดีๆ จิลล์จะหลบการโจมตีของซอมบี้ และสามารถโจมตีสวนกลับไปได้ แต่การใช้ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดโดยคุณต้องกะจังหวะเวลาที่เป๊ะๆ เพราะถ้าพลาดก็จะโดนพวกซอมบี้กัดได้ ถือว่าสร้างความแฟร์แล้วกันนะครับ เพราะขนาดพวกซอมบี้ กับ Nemesis ยังแดชหลบได้เลย เราจะหลบได้ด้วยก็ไม่เห็นจะโกงแฟร์ๆ555


8.ซื่อสัตว์ต่อต้นฉบับ


Resident Evil 3 นั้นมีเนื้อหาและขนาดที่ใหญ่กว่าภาค 2 โดยภาค2จะเล่าไปถึงลีออนและแคลร์ที่สถานีตำรวจ แต่ภาคนี้จะกล่าวถึงการหลบหนีของจิลล์ที่แรคคูนซิตี้ ดังนั้น Capcom อาจจะทำเกมสั้นก็จริง แต่ทุกคนครับพวกเขาพยายามนำฉากสำคัญที่เห็นได้ชัดในภาคต้นฉบับมา Remake เพื่อให้แฟนๆยุคบุกเบิกนั้นได้เสพกลิ่นอายของความเป็นต้นฉบับด้วย ถึงแม้บางฉากจะถูกตัดออกไป แต่ผมเชื่อว่า Resident Evil 3: Nemesis Remake นี้จะเป็น 1 ในภาคที่หลายๆคนรักแน่นอนครับ


9.ปริศนาที่ง่ายขึ้น


ลายเซ็นอีกอย่างที่ทำให้รู้ว่า ฉันคือResident Evil นะ! ก็คือปริศนที่ผู้เล่นต้องมาไขกัน มันมีทุกภาค แต่ภาครีเมคนี้ ถึงจะมีปริศนาให้ไขอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นปริศนาเท่าไหร่นัก มันไม่ค่อยซับซ้อน แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบคงจะรู้นะครับว่าภาคไหนปริศนาท้าทายกว่ากัน เช่น ภาค 2 คุณต้องไปหากุญแจชนิดนั้นๆเพื่อไขประตูที่มีลักษณะตรงกันกับบานประตู ส่วนภาค 3 คุณแค่หากุญแจผีก็สามารถเข้าถึงประตูได้เกือบทุกบานแล้ว.


10.เพิ่ม Resistance มาให้ด้วย!


เป็นครั้งแรกในซีรี่ส์ Resident Evil ที่มีการเล่นแบบ 4VS1 โดยผู้เล่น 4 คนพยายามหนีออกจากพื้นที่ และอีกคนหนึ่งควบคุมสภาพแวดล้อมส่งอุปสรรคต่างๆไปขัดขวางการหลบหนีของทั้ง 4 คน เช่น กับดัก / ซอมบี้ มันเป็นเกมที่ทำมาสำหรับออนไลน์โดยเฉพาะ แต่ก็ยากที่จะบอกว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่ต้องค่อยๆดูกันไปก่อนครับ เพราะช่วงแรกที่ออกมาไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่น และบ้างก็ว่ารู้สึกมันไม่ใช่ Resident Evill เลยหวังว่าถึงแม้เกมนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่มันอาจจะเป็นก้าวของเกมที่ดีในอนาคตก็ได้นะครับ!


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header