GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
สรุปเนื้อเรื่อง Dark Souls กับตำนานบทที่ 2
ลงวันที่ 06/11/2019

สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเเล้วกับบทที่สองของ Lore และตำนานภายในเกม Dark Souls ที่ผมได้ทำการเรียบเรียงและสรุปเนื้อหาที่สำคัญๆมาไว้ในบทความนี้เเล้ว ในครั้งก่อนเราได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของตำนานในเกมไปส่วนหนึ่ง แต่หากมีใครเข้ามาอ่านบทความนี้เป็นครั้งแรกล่ะก็ ผมเเนะนำให้ลองอ่านบทที่ 1 “ การเริ่มต้นของปฐมเพลิงและมหาสงครามมังกร” กันเสียก่อน รับรองได้เลยว่าท่านผู้ชมจะเข้าใจบทความอย่างไม่ติดขัดแน่นอน เมื่อรับทราบพร้อมกันแล้ว พวกเราก็ไปลุยกันเลยกับบทที่สอง “อำนาจของเหล่าทวยเทพและยุคแห่งเพลิง”

สุสานแห่งความสงบ


หลังการสิ้นสุดลงของมหาสงครามมังกร โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งเพลิงซึ่งแน่นอนว่าบรรดา Lord ทั้งสามที่ชนะสงครามต่างกลายเป็นมหาอำนาจเเห่งโลกใบใหม่ โดย Lord ตนแรก Nito จ้าวแห่งความตายที่แม้จะเป็นผู้ชนะในสงครามก็ตาม แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวโลก



Nito ได้เดินทางกลับไปยังใต้พื้นดินที่ทั้งมืดมิด,ทั้งหนาวเหน็บ ซึ่งเป็นสถานที่ๆบุคคลผู้ล่วงลับไปเเล้วจะได้พบกับความสงบสุขและหลุดพ้นจากความวุ่นวายในครั้งที่ยังมีชีวิต เเละคนไม่น้อยเชื่อว่าหากได้นำศพไปฝังใกล้กับที่อยู่ของ Nito วิญญาณเหล่านั้นก็จะได้ไปสู่สุขคติ เมื่อนานวันเข้าศพที่ถูกฝังไว้ ก็เพิ่มพูนมากขึ้นจนบริเวณโดยรอบ กลายสภาพเป็นสุสานเรียกว่า The Catacombs แหล่งพักผ่อนของชีวิตหลังความตาย



แต่ดูเหมือนว่าเหล่าสิ่งมีชีวิตจะไม่ยอมให้ Nito ได้พักผ่อนง่ายๆเสียแล้ว เพราะมีมนุษย์บางคนที่เต็มไปความกล้าบวกกับความบ้า ! ออกเดินทางฝ่าสุสานที่น่าขนพองสยองเกล้า เพื่อไปหา Nito  และขอฝากตัวเป็นข้ารับใช้โดยแลกกับการที่ได้เรียนรู้ศาสตร์ที่จะมอบอำนาจเหนือความตายให้ แต่พวกข้ารับใช้เหล่านี้ก็มักจะนำเอาความรู้ไปใช้ทำอะไรที่มันพิเรนๆ จนเวทมนต์ดำย้อนกลับเข้าตัวเอง


นครแห่งเพลิง


หลังสงครามมังกรจบลง แม่มดแห่ง Izalith ก็ได้แยกตัวไปสถาปนาอาณาจักรของตน นามว่านคร Izalith ขึ้นมาซึ่งตั้งอยู่ใต้ดินลึกลงไป โดยมันลึกเสียยิ่งกว่าสุสานของ Nito เสียอีก และยิ่งไปกว่านั้นตัวเมืองยังมีลำธานลาวาเดือดอยู่ล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นปราการป้องกันนคร Izalith จากภัยอันตรายภายนอก



ส่วนสิ่งก่อสร้างก็มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกได้ถึงความเจริญของมหานครแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี



การปรากฏขึ้นของ The Frist Flame และการเข้าสู่ยุคแห่งเพลิง มันส่งผลดีต่อ Gwyn ที่เป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่างรวมไปถึงบรรดาลูกหลานทั้งหลาย ทำให้มีอิทธิฤทธิ์เหนือบรรดา Lord ตนอื่นอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่า Nito จะไม่สนใจในเรื่องนี้แต่สำหรับตัวแม่มดแห่ง Izalith นางมีความคิดทะเยอทะยานอยากจะสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่  แม้ว่าจะเริ่มต้นช้ากว่า Gwyn เเต่นางก็ได้ลงมือทำหลายอย่างไปพร้อมๆกันเพื่อให้อาณาจักรเข้มแข็งขึ้นอย่างเร็วที่สุด ทั้งใช้ให้บรรดาลูกสาว Daughters of Chaos ของนางเผยแพร่ศาสตร์แห่งการใช้ไฟแก่บุคคลคนที่มีคุณสมบัติคู่ควร และวางตัวคนพวกนั้นไว้ในตำแหน่งสำคัญในนคร Izalith หรือจะเป็นการพยายามสร้างมังกรที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วในอดีต ให้กลับมาซึ่งมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า



เเต่ถึงจะทดลองล้มเหลว เเม่มดเเห่ง Izalith ก็ไม่ได้กำจัดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทิ้งไปแต่อย่างใด มิหนำซ้ำมันกลับถูกเก็บไว้ใกล้กับใจกลางตัวเมือง สร้างความกระอักกระอวนใจให้กับผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก แต่การกระทำที่ว่ามาข้างต้น ก็หาได้เทียบเคียงกับผลงานชิ้นโบว์แดงของนางไม่ ซึ่งก็คือการสร้าง Chaos Flame !



หาก The Frist Flame เป็นขุมพลังของ Gwyn แล้วละก็  Chaos Flame ก็ย่อมเป็นขุมพลังของแม่มดแห่ง Izalith เช่นกัน ต่างกันตรงที่  Chaos Flame ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่ตัวมันถูกสร้างมาจากเศษเสี้ยว Lord Soul จากตัวของแม่มดแห่ง Izalith นอกจากนี้ Chaos Flame มันยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้คนที่สัมผัสมันมีอารมณ์รุนเเรงเเละแปรปรวน ด้วยเหตุนี้พระสวามีของเเม่มดเเห่ง Izalith นาม King Jeremiah และบรรดาลูกๆบางคนเริ่มสะกิดใจในพลังของ Chaos Flame

แต่ถึงอย่างนั้นแม่มดแห่ง Izalith ก็ยังคงทุ่มเทให้กับการทดลอง Chaos Flame อย่างบ้าคลั่ง แม้แต่ตอนที่นางตั้งครรภ์อยู่ก็ไม่เว้น ทำให้ส่งผลต่อลูกที่อยู่ในครรภ์ของนาง โดยเมื่อถึงคราวคลอดออกมา นางได้ให้กำเนิดทารกเพศชายที่มีรูปร่างประหลาด มีลาวาไหลออกมาจากตัวตลอดเวลา มันสร้างความเจ็บปวดให้กับทารกเป็นอย่างมาก และทำให้เขาถูกเรียกว่า Ceaseless Discharge เเต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรังเกียจ Ceaseless Discharge มีพี่สาวของเขาคนหนึ่งที่คอยปลอบประโลมเเละมอบแหวนซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ แต่เด็กก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ โดยวันหนึ่งที่ Ceaseless Discharge กำลังวิ่งเล่นอยู่ริมหน้าผา เขาก็ได้เผลอทำแหวนตกหล่นหายไป ทำให้หลังจากนั้นเขาต้องทนเติบโตมากับความเจ็บปวดไปจนตาย


ความพังพินาศของ Izalith


การเกิดขึ้นมาของ Ceaseless Discharge สร้างข้อกังขาให้กับการทดลอง Chaos Flame เป็นอย่างมากโดยเพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ลง แม่มดแห่ง Izalith ได้แสดงผลของการทดลองด้วยการสร้างเวทมนต์ Chaos ขึ้นมา



เวทมนต์ Chaos นั้นทรงพลังยิ่งกว่าศาสตร์เเห่งการใช้ไฟทั่วๆไป แต่ในทางกลับกัน มันก็คือการหยิบยื่นพลังของ  Chaos Flame ที่ยังไม่เสถียรเเละไม่เสร็จสมบูรณ์ ไปยังเหล่าประชากรในนคร Izalith เเละหลังจากเหตุการณ์นี้จบลงไปได้ไม่นานก็เกิดเรื่องพิลึกพิลั่นที่น่าตกใจขึ้น นั้นก็คือมีประชากรบางส่วนกลายร่างเป็น Demon หรืออสูรกาย คนที่กลายร่างนั้นจะมีขนาดและพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น โดยคนแรกที่ได้รับผลกระทบก็คือหนูน้อย Ceaseless Discharge นี่เอง ทำให้ร่างกายที่ผิดปกติอยู่เเล้วของเขา กลับยิ่งมีสภาพที่บิดเบี้ยวและอัปลักษณ์เป็นทวีคูณ


( ภาพประกอบด้านซ้าย : หนูน้อย Ceaseless Discharge คือคนเเรกที่กลายเป็นอสูร )


( ภาพประกอบด้านขวา : หนึ่งในประชากรระดับสูงของนคร Izalith ที่กลายเป็นอสูร )


แต่ทว่าคนที่กลายร่างเป็นอสูรกายเหล่านี้ไม่ได้สูญเสียสติปัญญาแต่อย่างใด อสูรกายหลายตนยังมีความทรงจำครั้งยังเป็นมนุษย์เหลืออยู่ครบถ้วน ซึ่งเรื่องพิสดารเหล่านี้มันเกิดขึ้นเพราะการทดลอง  Chaos Flame ได้เสร็จสมบูรณ์ลงแล้ว เเต่แม่มดแห่ง Izalith ยังไม่สามารถที่จะควบคุมพลังของมันได้ และเนื่องจาก Chaos Flame ถูกสร้างให้มีความคล้ายกับ The First Flame ทำให้มีพลังในการมอบชีวิตเหมือนกัน เช่น The First Flame ที่เปลี่ยนจากสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์ยักษาและมนุษย์ แต่กรณีของ Chaos Flame คือการเปลี่ยนเเปลงให้กลายเป็นอสูรกาย

นคร Izalith ในตอนนี้เกิดความขัดแย้งภายในอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายที่มองว่า Chaos Flame เป็นพลังที่ชั่วร้ายและต้องถูกทำลายนำโดย King Jeremiah  ส่วนอีกฝ่ายสนับสนุนแม่มดแห่ง Izalith เพราะเชื่อว่าการกลายสภาพเป็นอสูรกายไม่ได้ทำให้อ่อนแอ แต่มันคือการยกระดับวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ให้สูงขึ้น    สูงยิ่งกว่าเหล่าทวยเทพอย่าง Gwyn ซึ่งฝ่ายที่สนับสนุนนั้นมีมากกว่า ทำให้ King Jeremiah ถูกขับไล่ออกจากนคร Izalith ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยก็ต่างลี้ภัยขึ้นไปอยู่บนพื้นผิวโลก แต่คนที่เคยใกล้ชิดกับเวทมนต์ Chaos ไปแล้ว ไม่ว่าจะหนีไปไหนก็ไม่อาจเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องกลายสภาพเป็นอสูรกายอย่างช้าๆไปได้


 ( ภาพประกอบด้านซ้าย : อสูร ParasiticWall Hugger ซึ่งในตัวเกมมี Codename ว่า “PrinceIzalis” )


 ( ภาพประกอบด้านขวา : Xanthous King, Jeremiah หมวกรูปทรงประหลาดที่มีไว้เพื่อปกปิดศรีษะที่กำลังกลายสภาพ )


แต่มีหญิงคนหนึ่งที่ไม่กลายร่าง และเธอยังเป็นลูกสาวคนหนึ่งของแม่มดแห่ง Izalith อีกด้วย นามของเธอคือ Quelana ตัวเธอไม่อาจรับสภาพการกลายร่างเป็นอสูรได้ จึงวางเเผนทำทีว่าตนเสียชีวิตเเละหนีขึ้นไปยังพื้นพิภพ  และก็เป็น Quelana นี่เองที่นำเอาศาสตร์แห่งการใช้ไฟแบบดั่งเดิมมาถ่ายทอดสู่มนุษย์บนพื้นผิวโลก



ปราการลาวาที่ครั้งหนึงเคยปกป้องเมืองมาตอนนี้มันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะสิ่งที่บ่อนทำลายนคร Izalith จริงๆ มาจากน้ำมือของผู้สถาปนานครนี้เสียเอง ตอนนี้นคร Izalith ได้กลายเป็นเเค่เศษซากไปแล้ว เเต่ไม่ว่า Chaos Flame มันจะสร้างปัญหาเพียงใดก็ตาม พลังของมันก็มีมากมายมหาศาลเกินกว่าที่เเม่มดเเห่ง Izalith จะปล่อยให้หลุดมือไป ( มาถึงจุดนี้ก็ให้คิดซะว่า Chaos Flame ก็เหมือนกับพลังงานนิวเคลียร์ในโลกความจริงของเรานี่เอง ที่มีทั้งผลดีเเละผลเสียอยู่ที่ว่าใครจะใช้เพื่อจุดประสงค์อะไร )



เพื่อที่จะควบคุม Chaos Flame แม่มดแห่ง Izalith และลูกสาวอีกสองคนยอมถูก Chaos Flame กลืนกินจนกลายสภาพเป็นอสูรอย่างเต็มตัว เเละได้สร้าง Bed of Chaos ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับรากต้นไม้ ชอนไชไปตามซากมหานครที่ว่างเปล่าซึ่งเคยเป็นมหานครอันรุ่งเรือง แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงสถานที่ในความทรงจำไปเสียเเล้วและถูกเรียกขานต่อๆกันมาว่า Lost Izalith แต่ทว่าบนเศษซากเหล่านั้นก็ได้ถือกำเนิดอารยธรรมใหม่ อารยธรรมของเหล่าอสูรแห่ง Izalith  ที่ต่อมาจะเข้าต่อสู้ห้ำหั่นกับเหล่าทวยเทพไปจนถึงจนวาระสุดท้ายของโลกใบนี้



 

คุยกันหลังเรื่องเล่า


ก็จบลงไปแล้วนะครับกับบทที่สอง “อำนาจของเหล่าทวยเทพและยุคแห่งเพลิง” อันที่จริงเรื่องราวของเกม Dark Souls นี่มันสามารถจะเป็นบทเรียนสอนคนได้เลย เพราะมันมีข้อคิดที่แฝงอยู่ในการกระทำต่างๆของตัวละครเยอะมาก แล้วท่านผู้ชมละครับรู้สึกยังไงบ้าง ตัวผมบอกตรงๆเลยว่ากว่าจะเขียนบทนี้จบได้เล่นเอาปวดหัวอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องราวของแม่มดแห่ง Izalith ที่มีทฤษฎีให้คิดอยู่เต็มไปหมด ส่วนในเรื่องของ Nito เเม้จะมีอยู่เพียงนิดเดียวก็ตาม เเต่ผมก็อยากให้ท่านผู้ชมลองไปเล่นเองในตัวเกม Dark Souls ภาคเเรกเพื่อสัมพัทธ์ความน่ากลัวของมัน

เเละอย่าเพิ่งเบื่อหน้ากันนะครับ เพราะผมมีเรื่องของเกม Dark Souls ให้เล่าต่อยาวเป็นหางว่าวเลย แต่ตอนนี้คงต้องขอตัวไปก่อน เจอกันในบทที่สามซึ่งเราจะมาพูดถึงความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า!


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
สรุปเนื้อเรื่อง Dark Souls กับตำนานบทที่ 2
06/11/2019

สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาพบกันอีกเเล้วกับบทที่สองของ Lore และตำนานภายในเกม Dark Souls ที่ผมได้ทำการเรียบเรียงและสรุปเนื้อหาที่สำคัญๆมาไว้ในบทความนี้เเล้ว ในครั้งก่อนเราได้พูดถึงจุดเริ่มต้นของตำนานในเกมไปส่วนหนึ่ง แต่หากมีใครเข้ามาอ่านบทความนี้เป็นครั้งแรกล่ะก็ ผมเเนะนำให้ลองอ่านบทที่ 1 “ การเริ่มต้นของปฐมเพลิงและมหาสงครามมังกร” กันเสียก่อน รับรองได้เลยว่าท่านผู้ชมจะเข้าใจบทความอย่างไม่ติดขัดแน่นอน เมื่อรับทราบพร้อมกันแล้ว พวกเราก็ไปลุยกันเลยกับบทที่สอง “อำนาจของเหล่าทวยเทพและยุคแห่งเพลิง”

สุสานแห่งความสงบ


หลังการสิ้นสุดลงของมหาสงครามมังกร โลกได้เข้าสู่ยุคแห่งเพลิงซึ่งแน่นอนว่าบรรดา Lord ทั้งสามที่ชนะสงครามต่างกลายเป็นมหาอำนาจเเห่งโลกใบใหม่ โดย Lord ตนแรก Nito จ้าวแห่งความตายที่แม้จะเป็นผู้ชนะในสงครามก็ตาม แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวโลก



Nito ได้เดินทางกลับไปยังใต้พื้นดินที่ทั้งมืดมิด,ทั้งหนาวเหน็บ ซึ่งเป็นสถานที่ๆบุคคลผู้ล่วงลับไปเเล้วจะได้พบกับความสงบสุขและหลุดพ้นจากความวุ่นวายในครั้งที่ยังมีชีวิต เเละคนไม่น้อยเชื่อว่าหากได้นำศพไปฝังใกล้กับที่อยู่ของ Nito วิญญาณเหล่านั้นก็จะได้ไปสู่สุขคติ เมื่อนานวันเข้าศพที่ถูกฝังไว้ ก็เพิ่มพูนมากขึ้นจนบริเวณโดยรอบ กลายสภาพเป็นสุสานเรียกว่า The Catacombs แหล่งพักผ่อนของชีวิตหลังความตาย



แต่ดูเหมือนว่าเหล่าสิ่งมีชีวิตจะไม่ยอมให้ Nito ได้พักผ่อนง่ายๆเสียแล้ว เพราะมีมนุษย์บางคนที่เต็มไปความกล้าบวกกับความบ้า ! ออกเดินทางฝ่าสุสานที่น่าขนพองสยองเกล้า เพื่อไปหา Nito  และขอฝากตัวเป็นข้ารับใช้โดยแลกกับการที่ได้เรียนรู้ศาสตร์ที่จะมอบอำนาจเหนือความตายให้ แต่พวกข้ารับใช้เหล่านี้ก็มักจะนำเอาความรู้ไปใช้ทำอะไรที่มันพิเรนๆ จนเวทมนต์ดำย้อนกลับเข้าตัวเอง


นครแห่งเพลิง


หลังสงครามมังกรจบลง แม่มดแห่ง Izalith ก็ได้แยกตัวไปสถาปนาอาณาจักรของตน นามว่านคร Izalith ขึ้นมาซึ่งตั้งอยู่ใต้ดินลึกลงไป โดยมันลึกเสียยิ่งกว่าสุสานของ Nito เสียอีก และยิ่งไปกว่านั้นตัวเมืองยังมีลำธานลาวาเดือดอยู่ล้อมหน้าล้อมหลัง เป็นปราการป้องกันนคร Izalith จากภัยอันตรายภายนอก



ส่วนสิ่งก่อสร้างก็มีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกได้ถึงความเจริญของมหานครแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี



การปรากฏขึ้นของ The Frist Flame และการเข้าสู่ยุคแห่งเพลิง มันส่งผลดีต่อ Gwyn ที่เป็นเทพเจ้าแห่งแสงสว่างรวมไปถึงบรรดาลูกหลานทั้งหลาย ทำให้มีอิทธิฤทธิ์เหนือบรรดา Lord ตนอื่นอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่า Nito จะไม่สนใจในเรื่องนี้แต่สำหรับตัวแม่มดแห่ง Izalith นางมีความคิดทะเยอทะยานอยากจะสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่  แม้ว่าจะเริ่มต้นช้ากว่า Gwyn เเต่นางก็ได้ลงมือทำหลายอย่างไปพร้อมๆกันเพื่อให้อาณาจักรเข้มแข็งขึ้นอย่างเร็วที่สุด ทั้งใช้ให้บรรดาลูกสาว Daughters of Chaos ของนางเผยแพร่ศาสตร์แห่งการใช้ไฟแก่บุคคลคนที่มีคุณสมบัติคู่ควร และวางตัวคนพวกนั้นไว้ในตำแหน่งสำคัญในนคร Izalith หรือจะเป็นการพยายามสร้างมังกรที่เคยสูญพันธุ์ไปแล้วในอดีต ให้กลับมาซึ่งมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า



เเต่ถึงจะทดลองล้มเหลว เเม่มดเเห่ง Izalith ก็ไม่ได้กำจัดสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทิ้งไปแต่อย่างใด มิหนำซ้ำมันกลับถูกเก็บไว้ใกล้กับใจกลางตัวเมือง สร้างความกระอักกระอวนใจให้กับผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก แต่การกระทำที่ว่ามาข้างต้น ก็หาได้เทียบเคียงกับผลงานชิ้นโบว์แดงของนางไม่ ซึ่งก็คือการสร้าง Chaos Flame !



หาก The Frist Flame เป็นขุมพลังของ Gwyn แล้วละก็  Chaos Flame ก็ย่อมเป็นขุมพลังของแม่มดแห่ง Izalith เช่นกัน ต่างกันตรงที่  Chaos Flame ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง แต่ตัวมันถูกสร้างมาจากเศษเสี้ยว Lord Soul จากตัวของแม่มดแห่ง Izalith นอกจากนี้ Chaos Flame มันยังมีผลข้างเคียงที่ทำให้คนที่สัมผัสมันมีอารมณ์รุนเเรงเเละแปรปรวน ด้วยเหตุนี้พระสวามีของเเม่มดเเห่ง Izalith นาม King Jeremiah และบรรดาลูกๆบางคนเริ่มสะกิดใจในพลังของ Chaos Flame

แต่ถึงอย่างนั้นแม่มดแห่ง Izalith ก็ยังคงทุ่มเทให้กับการทดลอง Chaos Flame อย่างบ้าคลั่ง แม้แต่ตอนที่นางตั้งครรภ์อยู่ก็ไม่เว้น ทำให้ส่งผลต่อลูกที่อยู่ในครรภ์ของนาง โดยเมื่อถึงคราวคลอดออกมา นางได้ให้กำเนิดทารกเพศชายที่มีรูปร่างประหลาด มีลาวาไหลออกมาจากตัวตลอดเวลา มันสร้างความเจ็บปวดให้กับทารกเป็นอย่างมาก และทำให้เขาถูกเรียกว่า Ceaseless Discharge เเต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะรังเกียจ Ceaseless Discharge มีพี่สาวของเขาคนหนึ่งที่คอยปลอบประโลมเเละมอบแหวนซึ่งจะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้ แต่เด็กก็เป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ โดยวันหนึ่งที่ Ceaseless Discharge กำลังวิ่งเล่นอยู่ริมหน้าผา เขาก็ได้เผลอทำแหวนตกหล่นหายไป ทำให้หลังจากนั้นเขาต้องทนเติบโตมากับความเจ็บปวดไปจนตาย


ความพังพินาศของ Izalith


การเกิดขึ้นมาของ Ceaseless Discharge สร้างข้อกังขาให้กับการทดลอง Chaos Flame เป็นอย่างมากโดยเพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ลง แม่มดแห่ง Izalith ได้แสดงผลของการทดลองด้วยการสร้างเวทมนต์ Chaos ขึ้นมา



เวทมนต์ Chaos นั้นทรงพลังยิ่งกว่าศาสตร์เเห่งการใช้ไฟทั่วๆไป แต่ในทางกลับกัน มันก็คือการหยิบยื่นพลังของ  Chaos Flame ที่ยังไม่เสถียรเเละไม่เสร็จสมบูรณ์ ไปยังเหล่าประชากรในนคร Izalith เเละหลังจากเหตุการณ์นี้จบลงไปได้ไม่นานก็เกิดเรื่องพิลึกพิลั่นที่น่าตกใจขึ้น นั้นก็คือมีประชากรบางส่วนกลายร่างเป็น Demon หรืออสูรกาย คนที่กลายร่างนั้นจะมีขนาดและพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น โดยคนแรกที่ได้รับผลกระทบก็คือหนูน้อย Ceaseless Discharge นี่เอง ทำให้ร่างกายที่ผิดปกติอยู่เเล้วของเขา กลับยิ่งมีสภาพที่บิดเบี้ยวและอัปลักษณ์เป็นทวีคูณ


( ภาพประกอบด้านซ้าย : หนูน้อย Ceaseless Discharge คือคนเเรกที่กลายเป็นอสูร )


( ภาพประกอบด้านขวา : หนึ่งในประชากรระดับสูงของนคร Izalith ที่กลายเป็นอสูร )


แต่ทว่าคนที่กลายร่างเป็นอสูรกายเหล่านี้ไม่ได้สูญเสียสติปัญญาแต่อย่างใด อสูรกายหลายตนยังมีความทรงจำครั้งยังเป็นมนุษย์เหลืออยู่ครบถ้วน ซึ่งเรื่องพิสดารเหล่านี้มันเกิดขึ้นเพราะการทดลอง  Chaos Flame ได้เสร็จสมบูรณ์ลงแล้ว เเต่แม่มดแห่ง Izalith ยังไม่สามารถที่จะควบคุมพลังของมันได้ และเนื่องจาก Chaos Flame ถูกสร้างให้มีความคล้ายกับ The First Flame ทำให้มีพลังในการมอบชีวิตเหมือนกัน เช่น The First Flame ที่เปลี่ยนจากสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์ยักษาและมนุษย์ แต่กรณีของ Chaos Flame คือการเปลี่ยนเเปลงให้กลายเป็นอสูรกาย

นคร Izalith ในตอนนี้เกิดความขัดแย้งภายในอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายที่มองว่า Chaos Flame เป็นพลังที่ชั่วร้ายและต้องถูกทำลายนำโดย King Jeremiah  ส่วนอีกฝ่ายสนับสนุนแม่มดแห่ง Izalith เพราะเชื่อว่าการกลายสภาพเป็นอสูรกายไม่ได้ทำให้อ่อนแอ แต่มันคือการยกระดับวิวัฒนาการของเผ่าพันธุ์ให้สูงขึ้น    สูงยิ่งกว่าเหล่าทวยเทพอย่าง Gwyn ซึ่งฝ่ายที่สนับสนุนนั้นมีมากกว่า ทำให้ King Jeremiah ถูกขับไล่ออกจากนคร Izalith ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยก็ต่างลี้ภัยขึ้นไปอยู่บนพื้นผิวโลก แต่คนที่เคยใกล้ชิดกับเวทมนต์ Chaos ไปแล้ว ไม่ว่าจะหนีไปไหนก็ไม่อาจเลี่ยงชะตากรรมที่ต้องกลายสภาพเป็นอสูรกายอย่างช้าๆไปได้


 ( ภาพประกอบด้านซ้าย : อสูร ParasiticWall Hugger ซึ่งในตัวเกมมี Codename ว่า “PrinceIzalis” )


 ( ภาพประกอบด้านขวา : Xanthous King, Jeremiah หมวกรูปทรงประหลาดที่มีไว้เพื่อปกปิดศรีษะที่กำลังกลายสภาพ )


แต่มีหญิงคนหนึ่งที่ไม่กลายร่าง และเธอยังเป็นลูกสาวคนหนึ่งของแม่มดแห่ง Izalith อีกด้วย นามของเธอคือ Quelana ตัวเธอไม่อาจรับสภาพการกลายร่างเป็นอสูรได้ จึงวางเเผนทำทีว่าตนเสียชีวิตเเละหนีขึ้นไปยังพื้นพิภพ  และก็เป็น Quelana นี่เองที่นำเอาศาสตร์แห่งการใช้ไฟแบบดั่งเดิมมาถ่ายทอดสู่มนุษย์บนพื้นผิวโลก



ปราการลาวาที่ครั้งหนึงเคยปกป้องเมืองมาตอนนี้มันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะสิ่งที่บ่อนทำลายนคร Izalith จริงๆ มาจากน้ำมือของผู้สถาปนานครนี้เสียเอง ตอนนี้นคร Izalith ได้กลายเป็นเเค่เศษซากไปแล้ว เเต่ไม่ว่า Chaos Flame มันจะสร้างปัญหาเพียงใดก็ตาม พลังของมันก็มีมากมายมหาศาลเกินกว่าที่เเม่มดเเห่ง Izalith จะปล่อยให้หลุดมือไป ( มาถึงจุดนี้ก็ให้คิดซะว่า Chaos Flame ก็เหมือนกับพลังงานนิวเคลียร์ในโลกความจริงของเรานี่เอง ที่มีทั้งผลดีเเละผลเสียอยู่ที่ว่าใครจะใช้เพื่อจุดประสงค์อะไร )



เพื่อที่จะควบคุม Chaos Flame แม่มดแห่ง Izalith และลูกสาวอีกสองคนยอมถูก Chaos Flame กลืนกินจนกลายสภาพเป็นอสูรอย่างเต็มตัว เเละได้สร้าง Bed of Chaos ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับรากต้นไม้ ชอนไชไปตามซากมหานครที่ว่างเปล่าซึ่งเคยเป็นมหานครอันรุ่งเรือง แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงสถานที่ในความทรงจำไปเสียเเล้วและถูกเรียกขานต่อๆกันมาว่า Lost Izalith แต่ทว่าบนเศษซากเหล่านั้นก็ได้ถือกำเนิดอารยธรรมใหม่ อารยธรรมของเหล่าอสูรแห่ง Izalith  ที่ต่อมาจะเข้าต่อสู้ห้ำหั่นกับเหล่าทวยเทพไปจนถึงจนวาระสุดท้ายของโลกใบนี้



 

คุยกันหลังเรื่องเล่า


ก็จบลงไปแล้วนะครับกับบทที่สอง “อำนาจของเหล่าทวยเทพและยุคแห่งเพลิง” อันที่จริงเรื่องราวของเกม Dark Souls นี่มันสามารถจะเป็นบทเรียนสอนคนได้เลย เพราะมันมีข้อคิดที่แฝงอยู่ในการกระทำต่างๆของตัวละครเยอะมาก แล้วท่านผู้ชมละครับรู้สึกยังไงบ้าง ตัวผมบอกตรงๆเลยว่ากว่าจะเขียนบทนี้จบได้เล่นเอาปวดหัวอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องราวของแม่มดแห่ง Izalith ที่มีทฤษฎีให้คิดอยู่เต็มไปหมด ส่วนในเรื่องของ Nito เเม้จะมีอยู่เพียงนิดเดียวก็ตาม เเต่ผมก็อยากให้ท่านผู้ชมลองไปเล่นเองในตัวเกม Dark Souls ภาคเเรกเพื่อสัมพัทธ์ความน่ากลัวของมัน

เเละอย่าเพิ่งเบื่อหน้ากันนะครับ เพราะผมมีเรื่องของเกม Dark Souls ให้เล่าต่อยาวเป็นหางว่าวเลย แต่ตอนนี้คงต้องขอตัวไปก่อน เจอกันในบทที่สามซึ่งเราจะมาพูดถึงความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า!


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header