GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
พรีวิวโหมด PvE ใหม่เกม Hearthstone: Rise of Shadows กับแผนปล้นมหานครแห่งเวทย์มนตร์!
ลงวันที่ 15/05/2019

สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามการ์ดเกม Hearthstone มาตลอดน่าจะรู้กันดีว่านอกจากการดูเอลการ์ดระหว่างผู้เล่นกันเองแล้ว หนึ่งในโหมดการเล่นที่สำคัญมากๆ อีกครึ่งหนึ่งของเกมก็คือโหมด PvE หรือโหมดต่อสู้กับคอม ที่ถูกเพิ่มเข้าสู่เกมอยู่เรื่อยๆ พร้อมกับชุดเสริมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นโหมด Beast Hunt ที่ให้เรารับบทเป็นฮีโร่พิเศษเพื่อต่อกรกับปีศาจในป่าต้องสาปเป็นต้น

ด้วยการมาถึงของชุดเสริมล่าสุดอย่าง Rise of Shadows ซะอย่าง แน่นอนว่าย่อมต้องมาพร้อมกับโหมด PvE ใหม่ด้วยแน่นอนอยู่แล้ว! โดยสำหรับโหมด PvE ของชุดเสริมนี้จะใช้ชื่อว่า The Dalaran Heist ซึ่งจะให้เรารับบทเป็นหนึ่งในลูกสมุนของเหล่าวายร้ายจากแก๊ง League of E.V.I.L. ที่ประกอบไปด้วยตัวละครบอสจากชุดเสริมที่ผ่านมา (เช่น Hagatha จาก Beast Hunt หรือ Dr. Boom จาก Boomsday Project) เพื่อเข้าปล้นสมบัติบางอย่างจากเมืองแห่งเวทย์มนตร์อันโด่งดังของโลก Warcraft อย่างเมือง Dalaran นั่นเอง!



ทางทีมงาน GameFever เองได้มีโอกาสทดลองเล่นโหมด PvE The Dalaran Heist นี้มาแล้ว ในงาน Preview Event ที่ทาง Blizzard จัดให้กับสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานแข่งขัน HCT 2019 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้มีโอกาสเล่นโหมดใหม่นี้แบบจัดเต็มกันถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว!

ด้วยประการฉะนี้ เราจึงอยากจะนำประสบการณ์การเล่นโหมด The Dalaran Heist มาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน ก่อนที่โหมดจะเปิดให้ผู้เล่นทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้เร็วๆ นี้!

โหมด PvE ที่ออกแบบมาสำหรับทุกคน!

สำหรับสิ่งแรกที่ผู้เล่นจะได้พบเมื่อกดเข้าเล่นโหมด The Dalaran Heist เป็นครั้งแรกนั้นก็คือการเลือกระดับความยาก ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่สองระดับคือ Normal และ Heroic นั่นเอง ซึ่งจะต่างจากโหมด PvE ที่ผ่านๆ มาที่มีให้เล่นอยู่ระดับเดียวเท่านั้นเอง โดยผู้พัฒนาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าความยาก Normal ของโหมด The Dalaran Heist จะมีความยากน้อยกว่าโหมด PvE อื่นๆ ที่ผ่านมาเล็กน้อย เพื่อให้ผู้เล่นส่วนใหญ่สามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องของเกมได้แม้ว่าจะเล่นไม่ค่อยเก่งก็ตาม (แต่โหมด Heroic นี่ยากมหาหินกว่าที่ผ่านๆ มาแน่นอน…)

นอกจากนี้ เมื่อเล่นเนื้อเรื่องจบหมดทั้ง 5 ด่านแล้ว ผู้เล่นจะสามารถปลดล๊อคโหมด Anomaly ที่จะเพิ่มกฏกติกาพิเศษต่างๆ เข้าไปแบบสุ่ม ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนการเล่นใหม่อีกด้วย ทำให้การเล่นโหมด PvE สามารถทำซ้ำๆ ได้หลายครั้ง เพราะจะมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาท้าทายผู้เล่นอยู่เรื่อยๆ ส่วนใครมั่นใจว่าเป็นเทพเกม Hearthstone อยากจะลองเปิดโหมด Anomaly พร้อมกับความยาก Heroic ก็ได้นะ…



จากประสบการณ์การเล่นในระดับความยาก Normal ของผู้เขียน พบว่าโหมด The Dalaran Heist มีความยากค่อนข้างใกล้เคียงกับโหมด Beast Hunt ที่เคยปล่อยออกมาแล้ว โดยในช่วงแรกๆ จะยังค่อนข้างง่าย (แต่ก็ใช่ว่าจะแพ้ไม่ได้เหมือนกันนะ…) แต่พอเล่นไปถึงช่วงหลังๆ แล้วก็ยังท้าทายอยู่เหมือนกัน เกมยังคงมีองค์ประกอบของโชคเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง ในรูปแบบของการืดและสมบัติพิเศษ (รายละเอียดอยู่ด้านล่าง) ที่ขึ้นมาให้เราเลือก ซึ่งในหลายครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หรือให้การ์ด/สมบัติเป็นคนละสายกับที่เราตั้งใจจะปั้นเป็นต้น แต่ก็ยังถือว่าทั้งหมดยังมีความแฟร์อยู่ เพราะเวลาแพ้ส่วนใหญ่ก็ยังรู้ว่าเราพลาดเองตรงไหน แทนที่จะเป็นเรื่องความโกงของ A.I. หรือโชคในการจั่วการ์ด

ตัวเลือกเยอะอย่างกับ RPG...  

เมื่อเราเลือกระดับความยากเรียบร้อยแล้ว ผู้เล่นจะได้เลือกฮีโร่ใหม่ได้ด้วย! โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 9 ตัวตามคลาสหลักภายในเกม ซึ่งนอกจากจะเลือกฮีโร่ได้แล้ว เรายังจะสามารถเลือกพลังพิเศษประจำตัวของฮีโร่และเด๊คการ์ดเริ่มต้นได้อีกต่างหาก ทำให้เราสามารถกำหนดสายที่เราอยากเล่นได้มากกว่าในโหมด PvE ที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะให้เราเลือกได้เพียงคลาสของฮีโร่เท่านั้น

ทั้งนี้ การจะปลดล๊อคพลังประจำตัวอื่นๆ นอกจากอันเริ่มต้นจะต้องทำเควสต่างๆ ซะก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเควสง่ายๆ ที่เราน่าจะทำกันระหว่างเล่นไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว เช่นการจั่วการ์ดให้ครบจำนวน หรือการใช้การ์ดแช่แข็งใส่ศัตรูเป็นต้น



ยกตัวอย่างเช่นฮีโร่คลาสเมจ (Mage) ของโหมดอย่างเจ้าวิญญาณไฟรัคคานิชู (Rakanishu) ซึ่งนอกจากจะมีสกิลลูกไฟปกติของคลาสเมจแล้ว ยังสามารถปลดล๊อคสกิล Burning Wit (ลดค่าร่ายของการ์ดในมือ) หรือ Frostburn (แช่แข็งศัตรู หรือสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่ถูกแช่แข็งอยู่แล้ว) เป็นต้น โดยพลังฮีโร่เหล่านี้ก็สามารรถกำหนดเด๊คการ์ดที่เราจะเล่นได้เช่นกัน เช่นถ้าเลือกสกิล Frostburn มาก็อาจจะจัดเด๊คที่เน้นความสามารถในการแช่แข็ง เพื่อให้ทำคอมโบกับพลังประจำตัวได้นั่นเอง

สำหรับผู้เขียนแล้ว การเพิ่มตัวเลือกใหม่ๆ อย่างพลังประจำตัวของฮีโร่หรือเด๊คเริ่มต้นนั้นทำให้ The Dalaran Heist มีความน่าสนใจและหลากหลายกว่าโหมด PvE ทั้งหมดที่ผ่านๆ มาได้เลย เพราะนอกจากจะเปิดโอกาสให้เราเล่นได้อย่างที่อยากเล่นมากกว่าแล้ว ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นลองผิดลองถูกได้มากกว่าอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้การเล่นโหมด PvE ซ้ำๆ กัน (ไม่ว่าจะเพราะเล่นจบแล้วอยากลองของใหม่ หรือสำหรับคนที่เล่นไม่ผ่านซะที) น่าสนุกมากกว่าอีกด้วย ซึ่งก็ถือเป็นความสำเร็จของทีมพัฒนาด้วย เพราะการทำให้โหมดมีความน่าแปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ ก็เป็นผลดีกับแผนการปล่อยเนื้อเรื่องระยะยาวของค่ายเช่นกัน



สำรวจทุกมุมของนคร Dalaran

เลือกระดับความยากก็แล้ว เลือกฮีโร่ก็แล้ว เลือกเด๊คการ์ดก็แล้ว คราวนี้เรามาเลือกด่านที่เราจะเล่นกันบ้าง! โดยภายในโหมด The Dalaran Heist นี้จะมีด่านต่างๆ อิงจากสถานที่ภายในเมือง Dalaran ให้เราเลือกเล่นถึง 5 ด่านด้วยกัน ซึ่งแต่ละด่านจะมีลูกเล่นพิเศษประจำตัว (หรือที่ผู้พัฒนาเรียกว่า Twist) อีกด้วย โดยทั้ง 5 ด่านประกอบไปด้วย:


  • Chapter 1: Dalaran Bank - ธนาคารเมืองดาลารัน

    • Twist: Coin-filled Coffers - หีบสมบัติที่จะมอบเหรียญมานาให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเมื่อถูกทำลาย



  • Chapter 2: The Violet Hold - ไวโอเล็ตโฮล์ด

    • Twist: Imprisoned Minions - ผู้เล่นทั้งสองจะโดนจับมีเนี่ยนจากเด๊คมาขังไว้หนึ่งตัว ก่อนจะถูกปล่อยหลังจากผ่านไปครบจำนวนเทิร์น



  • Chapter 3: Streets of Dalaran - ถนนของเมืองดาลารัน

    • Twist: Crowded Streets - ซุ้มขายของกินที่ ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายสามารถวางมีเนี่ยนบนกระดานได้เพียง 5 ตัวจาก 7



  • Chapter 4: The Underbelly - ท่อใต้เมือง

    • Twist: Swapped Attack and Health - สลับพลังโจมตีและป้องกันของมีเนี่ยนทุกตัว



  • Chapter 5: Kirin Tor Citadel - ปราการคิรินทอร์

    • Twist: Four Additional Encounters - พบศัตรูเพิ่มอีก 4 คน เป็น 12 คนจาก 8






เมื่อนำลูกเล่นจากด่านต่างๆ มารวมกับตัวเลือกมากมายที่เรามีก่อนหน้านี้ หมายความว่าเราก็จะมีวิธีการปรับแต่งประสบการณ์โหมด The Dalaran Heist ได้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีกขั้น

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ผู้เล่นจะได้พบภายในด่านต่างๆ ของ The Dalaran Heist ก็คือระบบ Tavern หรือโรงเหล้า ที่จะเปิดโอกาสให้เราสามารถปรับแจ่งเด๊คของเราได้อีกระดับนึงก่อนที่จะเล่นต่อ โดยภายในด่านจะมีการพบกับโรงเหล้าเหล่านี้ 2-3 ครั้งต่อด่าน ให้เราสามารถเลือกลดหรือเพิ่มการ์ดเพื่อให้เด๊คออกมาดีที่สุดได้นั่นเอง



ทั้งนี้ ด่านต่างๆ ของโหมดจะถูกปล่อยออกมาทีละด่านตามลำดับ โดยด่านแรก Dalaran Bank นั้นจะถูกปล่อยออกมาให้ผู้เล่นทุกคนฟรีๆ ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ในขณะที่ด่านอื่นๆ จะวางขายแยกกันในราคา $6.99 (ราวด่านละ 200 กว่าบาท) หรือสามารถซื้อรวมกันทั้ง 4 ด่านได้ในราคา $19.99 (ราว 700 บาท)


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
พรีวิวโหมด PvE ใหม่เกม Hearthstone: Rise of Shadows กับแผนปล้นมหานครแห่งเวทย์มนตร์!
15/05/2019

สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามการ์ดเกม Hearthstone มาตลอดน่าจะรู้กันดีว่านอกจากการดูเอลการ์ดระหว่างผู้เล่นกันเองแล้ว หนึ่งในโหมดการเล่นที่สำคัญมากๆ อีกครึ่งหนึ่งของเกมก็คือโหมด PvE หรือโหมดต่อสู้กับคอม ที่ถูกเพิ่มเข้าสู่เกมอยู่เรื่อยๆ พร้อมกับชุดเสริมต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นโหมด Beast Hunt ที่ให้เรารับบทเป็นฮีโร่พิเศษเพื่อต่อกรกับปีศาจในป่าต้องสาปเป็นต้น

ด้วยการมาถึงของชุดเสริมล่าสุดอย่าง Rise of Shadows ซะอย่าง แน่นอนว่าย่อมต้องมาพร้อมกับโหมด PvE ใหม่ด้วยแน่นอนอยู่แล้ว! โดยสำหรับโหมด PvE ของชุดเสริมนี้จะใช้ชื่อว่า The Dalaran Heist ซึ่งจะให้เรารับบทเป็นหนึ่งในลูกสมุนของเหล่าวายร้ายจากแก๊ง League of E.V.I.L. ที่ประกอบไปด้วยตัวละครบอสจากชุดเสริมที่ผ่านมา (เช่น Hagatha จาก Beast Hunt หรือ Dr. Boom จาก Boomsday Project) เพื่อเข้าปล้นสมบัติบางอย่างจากเมืองแห่งเวทย์มนตร์อันโด่งดังของโลก Warcraft อย่างเมือง Dalaran นั่นเอง!



ทางทีมงาน GameFever เองได้มีโอกาสทดลองเล่นโหมด PvE The Dalaran Heist นี้มาแล้ว ในงาน Preview Event ที่ทาง Blizzard จัดให้กับสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานแข่งขัน HCT 2019 เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้มีโอกาสเล่นโหมดใหม่นี้แบบจัดเต็มกันถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว!

ด้วยประการฉะนี้ เราจึงอยากจะนำประสบการณ์การเล่นโหมด The Dalaran Heist มาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน ก่อนที่โหมดจะเปิดให้ผู้เล่นทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้เร็วๆ นี้!

โหมด PvE ที่ออกแบบมาสำหรับทุกคน!

สำหรับสิ่งแรกที่ผู้เล่นจะได้พบเมื่อกดเข้าเล่นโหมด The Dalaran Heist เป็นครั้งแรกนั้นก็คือการเลือกระดับความยาก ซึ่งจะมีให้เลือกอยู่สองระดับคือ Normal และ Heroic นั่นเอง ซึ่งจะต่างจากโหมด PvE ที่ผ่านๆ มาที่มีให้เล่นอยู่ระดับเดียวเท่านั้นเอง โดยผู้พัฒนาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าความยาก Normal ของโหมด The Dalaran Heist จะมีความยากน้อยกว่าโหมด PvE อื่นๆ ที่ผ่านมาเล็กน้อย เพื่อให้ผู้เล่นส่วนใหญ่สามารถเพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องของเกมได้แม้ว่าจะเล่นไม่ค่อยเก่งก็ตาม (แต่โหมด Heroic นี่ยากมหาหินกว่าที่ผ่านๆ มาแน่นอน…)

นอกจากนี้ เมื่อเล่นเนื้อเรื่องจบหมดทั้ง 5 ด่านแล้ว ผู้เล่นจะสามารถปลดล๊อคโหมด Anomaly ที่จะเพิ่มกฏกติกาพิเศษต่างๆ เข้าไปแบบสุ่ม ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนการเล่นใหม่อีกด้วย ทำให้การเล่นโหมด PvE สามารถทำซ้ำๆ ได้หลายครั้ง เพราะจะมีลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาท้าทายผู้เล่นอยู่เรื่อยๆ ส่วนใครมั่นใจว่าเป็นเทพเกม Hearthstone อยากจะลองเปิดโหมด Anomaly พร้อมกับความยาก Heroic ก็ได้นะ…



จากประสบการณ์การเล่นในระดับความยาก Normal ของผู้เขียน พบว่าโหมด The Dalaran Heist มีความยากค่อนข้างใกล้เคียงกับโหมด Beast Hunt ที่เคยปล่อยออกมาแล้ว โดยในช่วงแรกๆ จะยังค่อนข้างง่าย (แต่ก็ใช่ว่าจะแพ้ไม่ได้เหมือนกันนะ…) แต่พอเล่นไปถึงช่วงหลังๆ แล้วก็ยังท้าทายอยู่เหมือนกัน เกมยังคงมีองค์ประกอบของโชคเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง ในรูปแบบของการืดและสมบัติพิเศษ (รายละเอียดอยู่ด้านล่าง) ที่ขึ้นมาให้เราเลือก ซึ่งในหลายครั้งก็ไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ หรือให้การ์ด/สมบัติเป็นคนละสายกับที่เราตั้งใจจะปั้นเป็นต้น แต่ก็ยังถือว่าทั้งหมดยังมีความแฟร์อยู่ เพราะเวลาแพ้ส่วนใหญ่ก็ยังรู้ว่าเราพลาดเองตรงไหน แทนที่จะเป็นเรื่องความโกงของ A.I. หรือโชคในการจั่วการ์ด

ตัวเลือกเยอะอย่างกับ RPG...  

เมื่อเราเลือกระดับความยากเรียบร้อยแล้ว ผู้เล่นจะได้เลือกฮีโร่ใหม่ได้ด้วย! โดยจะมีให้เลือกทั้งหมด 9 ตัวตามคลาสหลักภายในเกม ซึ่งนอกจากจะเลือกฮีโร่ได้แล้ว เรายังจะสามารถเลือกพลังพิเศษประจำตัวของฮีโร่และเด๊คการ์ดเริ่มต้นได้อีกต่างหาก ทำให้เราสามารถกำหนดสายที่เราอยากเล่นได้มากกว่าในโหมด PvE ที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะให้เราเลือกได้เพียงคลาสของฮีโร่เท่านั้น

ทั้งนี้ การจะปลดล๊อคพลังประจำตัวอื่นๆ นอกจากอันเริ่มต้นจะต้องทำเควสต่างๆ ซะก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเควสง่ายๆ ที่เราน่าจะทำกันระหว่างเล่นไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว เช่นการจั่วการ์ดให้ครบจำนวน หรือการใช้การ์ดแช่แข็งใส่ศัตรูเป็นต้น



ยกตัวอย่างเช่นฮีโร่คลาสเมจ (Mage) ของโหมดอย่างเจ้าวิญญาณไฟรัคคานิชู (Rakanishu) ซึ่งนอกจากจะมีสกิลลูกไฟปกติของคลาสเมจแล้ว ยังสามารถปลดล๊อคสกิล Burning Wit (ลดค่าร่ายของการ์ดในมือ) หรือ Frostburn (แช่แข็งศัตรู หรือสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่ถูกแช่แข็งอยู่แล้ว) เป็นต้น โดยพลังฮีโร่เหล่านี้ก็สามารรถกำหนดเด๊คการ์ดที่เราจะเล่นได้เช่นกัน เช่นถ้าเลือกสกิล Frostburn มาก็อาจจะจัดเด๊คที่เน้นความสามารถในการแช่แข็ง เพื่อให้ทำคอมโบกับพลังประจำตัวได้นั่นเอง

สำหรับผู้เขียนแล้ว การเพิ่มตัวเลือกใหม่ๆ อย่างพลังประจำตัวของฮีโร่หรือเด๊คเริ่มต้นนั้นทำให้ The Dalaran Heist มีความน่าสนใจและหลากหลายกว่าโหมด PvE ทั้งหมดที่ผ่านๆ มาได้เลย เพราะนอกจากจะเปิดโอกาสให้เราเล่นได้อย่างที่อยากเล่นมากกว่าแล้ว ยังเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นลองผิดลองถูกได้มากกว่าอีกด้วย ซึ่งก็ทำให้การเล่นโหมด PvE ซ้ำๆ กัน (ไม่ว่าจะเพราะเล่นจบแล้วอยากลองของใหม่ หรือสำหรับคนที่เล่นไม่ผ่านซะที) น่าสนุกมากกว่าอีกด้วย ซึ่งก็ถือเป็นความสำเร็จของทีมพัฒนาด้วย เพราะการทำให้โหมดมีความน่าแปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ ก็เป็นผลดีกับแผนการปล่อยเนื้อเรื่องระยะยาวของค่ายเช่นกัน



สำรวจทุกมุมของนคร Dalaran

เลือกระดับความยากก็แล้ว เลือกฮีโร่ก็แล้ว เลือกเด๊คการ์ดก็แล้ว คราวนี้เรามาเลือกด่านที่เราจะเล่นกันบ้าง! โดยภายในโหมด The Dalaran Heist นี้จะมีด่านต่างๆ อิงจากสถานที่ภายในเมือง Dalaran ให้เราเลือกเล่นถึง 5 ด่านด้วยกัน ซึ่งแต่ละด่านจะมีลูกเล่นพิเศษประจำตัว (หรือที่ผู้พัฒนาเรียกว่า Twist) อีกด้วย โดยทั้ง 5 ด่านประกอบไปด้วย:


  • Chapter 1: Dalaran Bank - ธนาคารเมืองดาลารัน

    • Twist: Coin-filled Coffers - หีบสมบัติที่จะมอบเหรียญมานาให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายเมื่อถูกทำลาย



  • Chapter 2: The Violet Hold - ไวโอเล็ตโฮล์ด

    • Twist: Imprisoned Minions - ผู้เล่นทั้งสองจะโดนจับมีเนี่ยนจากเด๊คมาขังไว้หนึ่งตัว ก่อนจะถูกปล่อยหลังจากผ่านไปครบจำนวนเทิร์น



  • Chapter 3: Streets of Dalaran - ถนนของเมืองดาลารัน

    • Twist: Crowded Streets - ซุ้มขายของกินที่ ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายสามารถวางมีเนี่ยนบนกระดานได้เพียง 5 ตัวจาก 7



  • Chapter 4: The Underbelly - ท่อใต้เมือง

    • Twist: Swapped Attack and Health - สลับพลังโจมตีและป้องกันของมีเนี่ยนทุกตัว



  • Chapter 5: Kirin Tor Citadel - ปราการคิรินทอร์

    • Twist: Four Additional Encounters - พบศัตรูเพิ่มอีก 4 คน เป็น 12 คนจาก 8






เมื่อนำลูกเล่นจากด่านต่างๆ มารวมกับตัวเลือกมากมายที่เรามีก่อนหน้านี้ หมายความว่าเราก็จะมีวิธีการปรับแต่งประสบการณ์โหมด The Dalaran Heist ได้มากกว่าเดิมขึ้นไปอีกขั้น

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ผู้เล่นจะได้พบภายในด่านต่างๆ ของ The Dalaran Heist ก็คือระบบ Tavern หรือโรงเหล้า ที่จะเปิดโอกาสให้เราสามารถปรับแจ่งเด๊คของเราได้อีกระดับนึงก่อนที่จะเล่นต่อ โดยภายในด่านจะมีการพบกับโรงเหล้าเหล่านี้ 2-3 ครั้งต่อด่าน ให้เราสามารถเลือกลดหรือเพิ่มการ์ดเพื่อให้เด๊คออกมาดีที่สุดได้นั่นเอง



ทั้งนี้ ด่านต่างๆ ของโหมดจะถูกปล่อยออกมาทีละด่านตามลำดับ โดยด่านแรก Dalaran Bank นั้นจะถูกปล่อยออกมาให้ผู้เล่นทุกคนฟรีๆ ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ในขณะที่ด่านอื่นๆ จะวางขายแยกกันในราคา $6.99 (ราวด่านละ 200 กว่าบาท) หรือสามารถซื้อรวมกันทั้ง 4 ด่านได้ในราคา $19.99 (ราว 700 บาท)


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header