GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ไกด์เกม
[ไกด์เกม] Ragnarok Origin แนวทางการเล่นอาชีพ Paladin สาย Full Tank สายที่ถึกทน แนวหน้าให้เพื่อน
ลงวันที่ 16/06/2023

สุดยอดซีรี่ส์เกมชื่อดังที่หลายๆคนต้องได้ยินผ่านหูกันมาไม่มากก็น้อยนั่นก็คือซีรี่ย์เกม Ragnarok ซึ่งได้เปิดให้บริการมาอย่างช้านาน และมีให้เราได้เล่นกันหลากหลายภาคกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งภาคล่าสุดนั่นก็คือ Ragnarok Origin ที่ทาง Gravity เป็นผู้เปิดให้บริการนั่นเอง และด้วยหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ผู้คนต่างเป็นแฟนซีรี่เกมนี้กันมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุผลของคนๆนั้นด้วย แต่หนึ่งเหตุผลที่เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องมีในใจอย่างแน่นอนนั่นก็คือ ระบบคลาสที่มีให้เลือกเล่นมากมาย แล้วมีความหลากหลายของแต่ละคลาสเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แล้วหนึ่งในคลาสที่อยู่กับ Ragnarok มานานนั่นก็คือ Paladin และในวันนี้พวกเรา GameFever TH ก็จะมาแนะนำคลาส Paladin สาย Full Tank ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงช่วงท้ายเกม 


จุดเด่นของคลาส Paladin สาย Full Tank 

ถ้าจะให้พูดถึงจุดเด่นของสาย Full Tank ก็ตามชื่อของมันเลย โดยเราจะเน้นไปที่การตั้งรับเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีประโยชน์มากๆเมื่อเล่นกันเป็นทีม นอกจากนี้แล้วคลาส Paladin สาย Full Tank ยังถือว่าเป็นสายที่ถึกที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ ไม่มีสายไหนที่สามารถยืนหยัดรับดาเมจได้เท่ากับสาย Full Tank แล้ว 


แนะนำอาชีพ Crusader อัศวินศักดิ์สิทธิ์จาก Ragnarok online : Playulti.com

สเตตัสที่ควรอัพ


  • VIT - 90+

  • INT - 70+


สเตตัสที่สำคัญที่สุดก็คือค่า VIT ที่คุณต้องเน้นอัพให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะทุกๆค่า VIT ที่คุณอัพจะบวกทั้ง Max HP รวมไปถึงการลดดาเมจต่างๆที่เข้าหาตัวคุณด้วย และมีการลดดาเมจเวทย์ติดมานิดหน่อย อีกหนึ่งสเตตัสที่สำคัญนั่นก็คือ INT ที่คุณอาจจะสงสัยว่าเราจะอัพมาทำไมในเมื่อเราไม่ได้ใช้ดาเมจเวทย์ทำความเสียหายเลย แต่ที่แนะนำให้อัพค่า INT ตามมาด้วยนั่นก็เพราะ ทุกๆค่า INT ที่คุณอัพไปจะเพิ่ม Max HP ให้กับตัวละครของคุณด้วย และอีกหนึ่งประโยชน์เลยก็คือช่วยลดดาเมจเวทย์ที่ตัวละครของคุณได้รับลงค่อนข้างมากเลยทีเดียว 




สกิลที่ควรอัพ 

ตอนเป็น Swordsman (level 10 )


  • Increase Recuperative Power - 10

  • Provoke - 10

  • Endure - 10


สกิลที่สำคัญหลักๆก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สกิลนั่นก็คือ Increase Recuperative Power ที่จะช่วยในเรื่องของการรีพลังชีวิตของคุณได้นั่นเอง และเมื่อใช้โพชั่นต่างๆก็จะเพิ่มได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแทงค์ได้มากยิ่งขึ้น และอีกสกิลที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ Provoke ซึ่งจะช่วยให้ตัวละครของเราสามารถช่วยยั่วยุใส่ศัตรูบริเวณนั้นได้ ทำให้เรามีโอกาสโดนตีมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อสถานการณ์ที่คุณต้องลากมอนสเตอร์ต่างๆให้มารวมกัน 




ตอนเป็น Crusader (Level 40)


  • Faith - 10

  • Auto Guard - 10

  • Heal - 10

  • Smite - 5


สกิลที่สำคัญสำหรับสาย Full Tank ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สกิล โดยเรามาเริ่มด้วยสกิล Faith กันก่อนเลย ซึ่งความสำคัญของสกิลนี้ก็คือ เมื่อคุณอัพสกิลนี้จนเต็มแล้วจะทำให้ Max HP ของคุณเพิ่มขึ้นอีก 3000 หน่วยเลยทีเดียว และยังทำให้ลดดาเมจ Holy ได้อีก 30% สกิลต่อมานั่นก็คือ Auto Guard ซึ่งเป็นสกิลที่สำคัญอย่างมากกับสายฟูแทงค์เพราะจะทำให้ ตัวละครของคุณสามารถป้องกันดาเมจกายภาพได้ถึง 60 วินาทีกันเลยทีเดียว ส่วนสกิลสุดท้ายนั่นก็คือ Heal นั่นเอง ซึ่งที่จำเป็นต้องอัพสกิลนี้ก็เพื่อเอามาฟื้นฟู HP ของเราที่สูญเสียไปเท่านั้นเอง ส่วนสกิล Smite ก็ใช้ได้ดีเมื่อคุณต้องสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถสตั้นผู้เล่นเหล่านั้นได้ด้วยไม่ใช่เพียงแค่ยืนรับดาเมจเท่านั้น 




ตอนเป็น Paladin (Level 70) 


  • Fortitude - 5

  • Defending Aura - 5

  • Battle Chant - 4

  • Devotion - 10


เมื่อตัวละครของคุณสามารถอัพคลาสจนเป็น Paladin ได้แล้ว สกิลทั้ง 4 ที่ทางเราได้แนะนำไปจะสำคัญเป็นอย่างมาก โดยมันเริ่มกันที่สกิลแรกนั่นก็คือ Fortitude ที่จะช่วยเพิ่มค่า Max HP ของคุณให้สูงขึ้นไปอีก 15% ซึ่งถือว่าเยอะเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนสกิลต่อไปนั่นก็คือ Defending Aura โดยสกิลนี้จะช่วยให้ดาเมจระยะไกลที่คุณได้รับเบาลง และยังช่วยให้ดาเมจเวทย์ที่คุณได้รับเบาลงอีกด้วย ส่วนสกิลต่อไปนั่นก็คือ Battle Chant ซึ่งเป็นสกิลที่จะสุ่มบัพให้กับเพื่อนร่วมทีมของคุณ ช่วยได้ดีในการเล่นเป็นทีมมาก แล้วสกิลสุดท้ายนั่นก็คือ Devotion เป็นสกิลที่จะทำให้คุณสามารถรับดาเมจแทนเพื่อนในทีมของคุณได้ 1 คน แต่เพื่อนคนนั้นจะต้องอยู่ไม่ไกลจากตัวคุณ เป็นสกิลที่ช่วยให้โอกาสรอดชีวิตของเพื่อนร่วมทีมของคุณมีมากยิ่งขึ้น 




อาวุธที่ควรใช้ 

ในส่วนของอาวุธที่คุณควรใช้ทางเราขอแนะนำให้เป็น Long Horn ที่มีความสามารถในการรีเลือดของคุณจำนวน 2% ตาม Max HP ในทุกๆ 10 วินาที และยังมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมอีกความสามารถหนึ่งนั่นก็คือ การโจมตีกายภาพของคุณจะมีโอกาส 10% ที่จะทำการร่าย Heal Level 3 ทันที แต่สิ่งที่ทำให้อาวุธชิ้นนี้เป็นอาวุธที่คุณต้องใช้นั่นก็เพราะว่า การร่ายสกิล Heal ถ้าคุณอัพสกิล Heal จนมีเลเวลมากกว่า 3 ได้ อาวุธชิ้นนี้ก็จะร่าย Heal ตามเลเวลนั้นๆด้วย ซึ่งคุณจะต้องอัพสกิล Heal ไว้ที่ level 10 อยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้แล้วเมื่อคุณตีบวกอาวุธจนถึงเลเวลที่กำหนดไว้ก็จะมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมาด้วยดังนี้ 


  • เมื่อตีบวกอาวุธชิ้นนี้ถึงระดับ 6 จะทำให้ตัวละครของเราได้รับผลของการฮิลเพิ่มขึ้นอีก 10% 

  • เมื่อตีบวกกับอาวุธชิ้นนี้ถึงระดับ 10 จะทำการรีเลือดให้กับตัวละครเราทันที 5% จากเลือดที่เสียไปเมื่อตัวละครของเราทำการร่าย Heal

  • เมื่อตีบวกอาวุธชิ้นนี้ถึงระดับ 15 เมื่อตัวละครของเรามีเลือดตั้งแต่ 70% ขึ้นไปจาก Max HP จะทำให้ตัวละครของเราสามารถสร้างความเสียหายกายภาพเพิ่มขึ้นอีก 15% 



ชุดสวมใส่


สำหรับสายนี้จะเน้นหนักไปทางสาย PvP การใส่ชุด Goibne's Cuirass จะช่วยให้เราได้ค่าป้องกันที่มากขึ้น ซึ่ง Effect ของชุดเราจะได้ป้องกันธาตุน้ำ ลม ดิน ไฟ 10% รวมถึงสเตตัสของไอเท็มแต่ละชิ้นก็จะบวกเลือด และป้องกันอื่น ๆ ให้เราด้วย




การ์ด 

ด้วยความที่สาย Full Tank ไม่จำเป็นต้องมีการ์ดที่เน้นดาเมจมากเท่าไหร่ การ์ดส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การทำให้ตัวของเราถึกขึ้น หรือไม่ก็การ์ดที่เน้นทางด้านการ support กับทีม เพื่อช่วยให้ตัวดาเมจสามารถทำดาเมจได้ง่ายขึ้น หรือสามารถเล่นได้ปลอดภัยขึ้นนั่นเอง 


การ์ดหัว 

  • Giearth Card - การ์ดวันนี้จะช่วยให้คุณรับดาเมจ Earth และดาเมจกายภาพได้เบาลง แต่ส่วนที่สำคัญจริงๆของการ์ดใบนี้ก็คือ การตั้งสถานะ Confusion อยู่ที่หลายๆคนจะรู้จักในสถานะ Fear ที่เมื่อตัวละครของเราติดแล้วจะทำให้เดินมั่ว และไม่สามารถใช้ยาใด ๆ ได้เลย เลยจะทำให้ตัวละครของเรานั้นยืนตำแหน่งได้ง่ายยิ่งขึ้น 


ประดับ 

  • Horong Card - ความสามารถหลักๆของการไม่มีก็คือ คุณจะสามารถใช้ Sight Lv.1 ได้นั่นเอง ซึ่งจำเป็นมากๆกับพวกคลาส Assassin ที่มักจะมีสกิลหายตัว หรือสกิลอะไรก็ตามที่ทำให้ทีมของเรามองไม่เห็น ความสามารถของการ์ดใบนี้เลยจะช่วยให้ตัวดาเมจในทีมของคุณสามารถเห็น Assassin ฝั่งตรงข้ามได้ 


  • Muka Card - บวกค่า VIT 3 หน่วย และบวกค่ารี HP อีก 5% ด้วย เมื่อทำการ Awakening แล้ว จะบวกค่า VIT 1 หน่วย บวกค่าแม็ก HP อีก 1% และบวกค่ารี HP อีก 2% ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าบวกเยอะมากๆเลยทีเดียว 


  • Spore Card - บวกค่า VIT 2 เมื่อทำการ Awakening แล้ว จะบวกค่า VIT 1 และเพิ่มความต้านทานต่อดาเมจกายภาพและดาเมจเวทย์อีก 2% ซึ่งจะช่วยให้ตัวละครของเราถึกทนได้นานยิ่งขึ้น 


การ์ดรองเท้า 

  • Sohee - บวกค่า Max HP 4% และบวกค่ารี SP อีก 8% ด้วย เมื่อทำการ Awakening แล้ว จะบวกค่า Max HP โดยรวมแล้ว 4% กันเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นการ์ดที่บวกค่า Max HP เยอะสุดแล้ว 


การ์ดผ้าคลุม 

ในส่วนของการ์ดผ้าคลุม โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเน้นไปที่การใส่ค่าลดทอนดาเมจต่างๆ ซึ่งการ์ดแต่ละใบที่คุณจะใช้ หรือการลดทอนดาเมจแต่ละธาตุก็จะขึ้นอยู่กับมอนสเตอร์ที่คุณจะไปต่อสู้ด้วยนั่นเอง และทางเราจะแนะนำบางการ์ดที่ทำให้คุณเห็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น 


  • Raydric Card - จะช่วยรถดาเมจของ Neutral ได้รวม ๆ กันแล้ว 25% ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว แต่การ์ดใบนี้สำหรับคนที่มีงบเท่านั้นถึงควรหามาใส่ หรือถ้าใครไม่มีงบ อาจจะใช้เป็นการ์ด Orc Baby ก็ได้ ซึ่งจะกันน้อยกว่า 5% แต่ราคาจะถูกกว่ากันเยอะมาก

การ์ดชุดเกราะ 

ในส่วนของการ์ดชุดเกราะ ถ้าคุณมีงบหน่อย คุณสามารถใส่การ์ดที่ทำสถานะต่างๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับมอนสเตอร์ที่คุณไปเจอด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีการ์ดตายตัวสักเท่าไหร่ แต่เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น เราก็จะมีการ์ด 2 แบบ ทั้งที่เป็นแบบสร้างสถานะ และแบบที่ใช้ในการเพิ่มสเตตัสต่างๆของตัวละครเรานั่นเอง 


  • Cornutus Card - บวกค่าสเตตัสทั้งหมดได้ดังนี้ Max HP 6% บวกค่า DEF และ MDEF 5% และมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ทำให้ชุดเกราะของคุณไม่สามารถแตกได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ดีมากๆเลยทีเดียว (หรือจะใช้ Pecopeco ก็ได้)


การ์ดโล่

  • Thara Frog Card - การ์ดใบนี้เป็นการ์ดที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการ์ดโล่ เพราะสามารถลดทอนดาเมจจากมอนสเตอร์ประเภท Demi-Human หรือกึ่งมนุษย์ได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว (ซึ่งนั่นก็รวมการโจมตีของผู้เล่นด้วยกันเองด้วย) โดยรวมแล้วสามารถลดทอนได้ถึง 20% ซึ่งถือว่าสูงเป็นอย่างมาก 

เฟืองที่ควรใช้ 


  • Endure Bosst - เฟืองชิ้นนี้จะทำให้สกิล Endure มีระยะเวลาเพิ่มขึ้นถึง 70% กันเลยทีเดียว และยังสามารถบล็อกความเสียหายสูงสุดได้ถึง 7 ครั้งอีกด้วย 

  • Rage Endure - สกิล Endure จะมีความสามารถในการบล็อก CC ที่ตัวละครของเราได้รับ และยังบล็อกไปอีก 2 วินาทีหลังจากเริ่มทำงานด้วย แต่จะเพิ่มระยะเวลา Cool Down ของสกิล Endure ขึ้นเป็น 15 วินาทีแทน 

  • Physique Boost - เป็นเฟืองที่จะช่วยเพิ่ม Max HP ให้กับตัวละครของเราอีก 350 ตามสกิล Faith ที่คุณอัพไป 

  • Holy Light Sacrifice - เมื่อตัวละครของเราใช้สกิล Devotion ใส่เพื่อนร่วมทีมอยู่ จะทำให้เพื่อนร่วมทีมคนนั้นได้รับดาเมจน้อยลง 12% ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเพื่อนได้รับความเสียหายน้อยลงเราก็จะได้รับความเสียหายน้อยลงด้วยเช่นกัน 



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[ไกด์เกม] Ragnarok Origin แนวทางการเล่นอาชีพ Paladin สาย Full Tank สายที่ถึกทน แนวหน้าให้เพื่อน
16/06/2023

สุดยอดซีรี่ส์เกมชื่อดังที่หลายๆคนต้องได้ยินผ่านหูกันมาไม่มากก็น้อยนั่นก็คือซีรี่ย์เกม Ragnarok ซึ่งได้เปิดให้บริการมาอย่างช้านาน และมีให้เราได้เล่นกันหลากหลายภาคกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งภาคล่าสุดนั่นก็คือ Ragnarok Origin ที่ทาง Gravity เป็นผู้เปิดให้บริการนั่นเอง และด้วยหลากหลายเหตุผลที่ทำให้ผู้คนต่างเป็นแฟนซีรี่เกมนี้กันมากมาย ซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุผลของคนๆนั้นด้วย แต่หนึ่งเหตุผลที่เชื่อว่าหลายๆคนจะต้องมีในใจอย่างแน่นอนนั่นก็คือ ระบบคลาสที่มีให้เลือกเล่นมากมาย แล้วมีความหลากหลายของแต่ละคลาสเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แล้วหนึ่งในคลาสที่อยู่กับ Ragnarok มานานนั่นก็คือ Paladin และในวันนี้พวกเรา GameFever TH ก็จะมาแนะนำคลาส Paladin สาย Full Tank ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงช่วงท้ายเกม 


จุดเด่นของคลาส Paladin สาย Full Tank 

ถ้าจะให้พูดถึงจุดเด่นของสาย Full Tank ก็ตามชื่อของมันเลย โดยเราจะเน้นไปที่การตั้งรับเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะมีประโยชน์มากๆเมื่อเล่นกันเป็นทีม นอกจากนี้แล้วคลาส Paladin สาย Full Tank ยังถือว่าเป็นสายที่ถึกที่สุดในเกมเลยก็ว่าได้ ไม่มีสายไหนที่สามารถยืนหยัดรับดาเมจได้เท่ากับสาย Full Tank แล้ว 


แนะนำอาชีพ Crusader อัศวินศักดิ์สิทธิ์จาก Ragnarok online : Playulti.com

สเตตัสที่ควรอัพ


  • VIT - 90+

  • INT - 70+


สเตตัสที่สำคัญที่สุดก็คือค่า VIT ที่คุณต้องเน้นอัพให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะทุกๆค่า VIT ที่คุณอัพจะบวกทั้ง Max HP รวมไปถึงการลดดาเมจต่างๆที่เข้าหาตัวคุณด้วย และมีการลดดาเมจเวทย์ติดมานิดหน่อย อีกหนึ่งสเตตัสที่สำคัญนั่นก็คือ INT ที่คุณอาจจะสงสัยว่าเราจะอัพมาทำไมในเมื่อเราไม่ได้ใช้ดาเมจเวทย์ทำความเสียหายเลย แต่ที่แนะนำให้อัพค่า INT ตามมาด้วยนั่นก็เพราะ ทุกๆค่า INT ที่คุณอัพไปจะเพิ่ม Max HP ให้กับตัวละครของคุณด้วย และอีกหนึ่งประโยชน์เลยก็คือช่วยลดดาเมจเวทย์ที่ตัวละครของคุณได้รับลงค่อนข้างมากเลยทีเดียว 




สกิลที่ควรอัพ 

ตอนเป็น Swordsman (level 10 )


  • Increase Recuperative Power - 10

  • Provoke - 10

  • Endure - 10


สกิลที่สำคัญหลักๆก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 2 สกิลนั่นก็คือ Increase Recuperative Power ที่จะช่วยในเรื่องของการรีพลังชีวิตของคุณได้นั่นเอง และเมื่อใช้โพชั่นต่างๆก็จะเพิ่มได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถแทงค์ได้มากยิ่งขึ้น และอีกสกิลที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ Provoke ซึ่งจะช่วยให้ตัวละครของเราสามารถช่วยยั่วยุใส่ศัตรูบริเวณนั้นได้ ทำให้เรามีโอกาสโดนตีมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อสถานการณ์ที่คุณต้องลากมอนสเตอร์ต่างๆให้มารวมกัน 




ตอนเป็น Crusader (Level 40)


  • Faith - 10

  • Auto Guard - 10

  • Heal - 10

  • Smite - 5


สกิลที่สำคัญสำหรับสาย Full Tank ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สกิล โดยเรามาเริ่มด้วยสกิล Faith กันก่อนเลย ซึ่งความสำคัญของสกิลนี้ก็คือ เมื่อคุณอัพสกิลนี้จนเต็มแล้วจะทำให้ Max HP ของคุณเพิ่มขึ้นอีก 3000 หน่วยเลยทีเดียว และยังทำให้ลดดาเมจ Holy ได้อีก 30% สกิลต่อมานั่นก็คือ Auto Guard ซึ่งเป็นสกิลที่สำคัญอย่างมากกับสายฟูแทงค์เพราะจะทำให้ ตัวละครของคุณสามารถป้องกันดาเมจกายภาพได้ถึง 60 วินาทีกันเลยทีเดียว ส่วนสกิลสุดท้ายนั่นก็คือ Heal นั่นเอง ซึ่งที่จำเป็นต้องอัพสกิลนี้ก็เพื่อเอามาฟื้นฟู HP ของเราที่สูญเสียไปเท่านั้นเอง ส่วนสกิล Smite ก็ใช้ได้ดีเมื่อคุณต้องสู้กับผู้เล่นคนอื่นๆ เพราะจะช่วยให้คุณสามารถสตั้นผู้เล่นเหล่านั้นได้ด้วยไม่ใช่เพียงแค่ยืนรับดาเมจเท่านั้น 




ตอนเป็น Paladin (Level 70) 


  • Fortitude - 5

  • Defending Aura - 5

  • Battle Chant - 4

  • Devotion - 10


เมื่อตัวละครของคุณสามารถอัพคลาสจนเป็น Paladin ได้แล้ว สกิลทั้ง 4 ที่ทางเราได้แนะนำไปจะสำคัญเป็นอย่างมาก โดยมันเริ่มกันที่สกิลแรกนั่นก็คือ Fortitude ที่จะช่วยเพิ่มค่า Max HP ของคุณให้สูงขึ้นไปอีก 15% ซึ่งถือว่าเยอะเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนสกิลต่อไปนั่นก็คือ Defending Aura โดยสกิลนี้จะช่วยให้ดาเมจระยะไกลที่คุณได้รับเบาลง และยังช่วยให้ดาเมจเวทย์ที่คุณได้รับเบาลงอีกด้วย ส่วนสกิลต่อไปนั่นก็คือ Battle Chant ซึ่งเป็นสกิลที่จะสุ่มบัพให้กับเพื่อนร่วมทีมของคุณ ช่วยได้ดีในการเล่นเป็นทีมมาก แล้วสกิลสุดท้ายนั่นก็คือ Devotion เป็นสกิลที่จะทำให้คุณสามารถรับดาเมจแทนเพื่อนในทีมของคุณได้ 1 คน แต่เพื่อนคนนั้นจะต้องอยู่ไม่ไกลจากตัวคุณ เป็นสกิลที่ช่วยให้โอกาสรอดชีวิตของเพื่อนร่วมทีมของคุณมีมากยิ่งขึ้น 




อาวุธที่ควรใช้ 

ในส่วนของอาวุธที่คุณควรใช้ทางเราขอแนะนำให้เป็น Long Horn ที่มีความสามารถในการรีเลือดของคุณจำนวน 2% ตาม Max HP ในทุกๆ 10 วินาที และยังมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมอีกความสามารถหนึ่งนั่นก็คือ การโจมตีกายภาพของคุณจะมีโอกาส 10% ที่จะทำการร่าย Heal Level 3 ทันที แต่สิ่งที่ทำให้อาวุธชิ้นนี้เป็นอาวุธที่คุณต้องใช้นั่นก็เพราะว่า การร่ายสกิล Heal ถ้าคุณอัพสกิล Heal จนมีเลเวลมากกว่า 3 ได้ อาวุธชิ้นนี้ก็จะร่าย Heal ตามเลเวลนั้นๆด้วย ซึ่งคุณจะต้องอัพสกิล Heal ไว้ที่ level 10 อยู่แล้วนั่นเอง นอกจากนี้แล้วเมื่อคุณตีบวกอาวุธจนถึงเลเวลที่กำหนดไว้ก็จะมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมาด้วยดังนี้ 


  • เมื่อตีบวกอาวุธชิ้นนี้ถึงระดับ 6 จะทำให้ตัวละครของเราได้รับผลของการฮิลเพิ่มขึ้นอีก 10% 

  • เมื่อตีบวกกับอาวุธชิ้นนี้ถึงระดับ 10 จะทำการรีเลือดให้กับตัวละครเราทันที 5% จากเลือดที่เสียไปเมื่อตัวละครของเราทำการร่าย Heal

  • เมื่อตีบวกอาวุธชิ้นนี้ถึงระดับ 15 เมื่อตัวละครของเรามีเลือดตั้งแต่ 70% ขึ้นไปจาก Max HP จะทำให้ตัวละครของเราสามารถสร้างความเสียหายกายภาพเพิ่มขึ้นอีก 15% 



ชุดสวมใส่


สำหรับสายนี้จะเน้นหนักไปทางสาย PvP การใส่ชุด Goibne's Cuirass จะช่วยให้เราได้ค่าป้องกันที่มากขึ้น ซึ่ง Effect ของชุดเราจะได้ป้องกันธาตุน้ำ ลม ดิน ไฟ 10% รวมถึงสเตตัสของไอเท็มแต่ละชิ้นก็จะบวกเลือด และป้องกันอื่น ๆ ให้เราด้วย




การ์ด 

ด้วยความที่สาย Full Tank ไม่จำเป็นต้องมีการ์ดที่เน้นดาเมจมากเท่าไหร่ การ์ดส่วนใหญ่ก็จะเน้นไปที่การทำให้ตัวของเราถึกขึ้น หรือไม่ก็การ์ดที่เน้นทางด้านการ support กับทีม เพื่อช่วยให้ตัวดาเมจสามารถทำดาเมจได้ง่ายขึ้น หรือสามารถเล่นได้ปลอดภัยขึ้นนั่นเอง 


การ์ดหัว 

  • Giearth Card - การ์ดวันนี้จะช่วยให้คุณรับดาเมจ Earth และดาเมจกายภาพได้เบาลง แต่ส่วนที่สำคัญจริงๆของการ์ดใบนี้ก็คือ การตั้งสถานะ Confusion อยู่ที่หลายๆคนจะรู้จักในสถานะ Fear ที่เมื่อตัวละครของเราติดแล้วจะทำให้เดินมั่ว และไม่สามารถใช้ยาใด ๆ ได้เลย เลยจะทำให้ตัวละครของเรานั้นยืนตำแหน่งได้ง่ายยิ่งขึ้น 


ประดับ 

  • Horong Card - ความสามารถหลักๆของการไม่มีก็คือ คุณจะสามารถใช้ Sight Lv.1 ได้นั่นเอง ซึ่งจำเป็นมากๆกับพวกคลาส Assassin ที่มักจะมีสกิลหายตัว หรือสกิลอะไรก็ตามที่ทำให้ทีมของเรามองไม่เห็น ความสามารถของการ์ดใบนี้เลยจะช่วยให้ตัวดาเมจในทีมของคุณสามารถเห็น Assassin ฝั่งตรงข้ามได้ 


  • Muka Card - บวกค่า VIT 3 หน่วย และบวกค่ารี HP อีก 5% ด้วย เมื่อทำการ Awakening แล้ว จะบวกค่า VIT 1 หน่วย บวกค่าแม็ก HP อีก 1% และบวกค่ารี HP อีก 2% ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าบวกเยอะมากๆเลยทีเดียว 


  • Spore Card - บวกค่า VIT 2 เมื่อทำการ Awakening แล้ว จะบวกค่า VIT 1 และเพิ่มความต้านทานต่อดาเมจกายภาพและดาเมจเวทย์อีก 2% ซึ่งจะช่วยให้ตัวละครของเราถึกทนได้นานยิ่งขึ้น 


การ์ดรองเท้า 

  • Sohee - บวกค่า Max HP 4% และบวกค่ารี SP อีก 8% ด้วย เมื่อทำการ Awakening แล้ว จะบวกค่า Max HP โดยรวมแล้ว 4% กันเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นการ์ดที่บวกค่า Max HP เยอะสุดแล้ว 


การ์ดผ้าคลุม 

ในส่วนของการ์ดผ้าคลุม โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเน้นไปที่การใส่ค่าลดทอนดาเมจต่างๆ ซึ่งการ์ดแต่ละใบที่คุณจะใช้ หรือการลดทอนดาเมจแต่ละธาตุก็จะขึ้นอยู่กับมอนสเตอร์ที่คุณจะไปต่อสู้ด้วยนั่นเอง และทางเราจะแนะนำบางการ์ดที่ทำให้คุณเห็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น 


  • Raydric Card - จะช่วยรถดาเมจของ Neutral ได้รวม ๆ กันแล้ว 25% ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว แต่การ์ดใบนี้สำหรับคนที่มีงบเท่านั้นถึงควรหามาใส่ หรือถ้าใครไม่มีงบ อาจจะใช้เป็นการ์ด Orc Baby ก็ได้ ซึ่งจะกันน้อยกว่า 5% แต่ราคาจะถูกกว่ากันเยอะมาก

การ์ดชุดเกราะ 

ในส่วนของการ์ดชุดเกราะ ถ้าคุณมีงบหน่อย คุณสามารถใส่การ์ดที่ทำสถานะต่างๆได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับมอนสเตอร์ที่คุณไปเจอด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีการ์ดตายตัวสักเท่าไหร่ แต่เพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้น เราก็จะมีการ์ด 2 แบบ ทั้งที่เป็นแบบสร้างสถานะ และแบบที่ใช้ในการเพิ่มสเตตัสต่างๆของตัวละครเรานั่นเอง 


  • Cornutus Card - บวกค่าสเตตัสทั้งหมดได้ดังนี้ Max HP 6% บวกค่า DEF และ MDEF 5% และมีความสามารถอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ทำให้ชุดเกราะของคุณไม่สามารถแตกได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ดีมากๆเลยทีเดียว (หรือจะใช้ Pecopeco ก็ได้)


การ์ดโล่

  • Thara Frog Card - การ์ดใบนี้เป็นการ์ดที่ดีที่สุดแล้วสำหรับการ์ดโล่ เพราะสามารถลดทอนดาเมจจากมอนสเตอร์ประเภท Demi-Human หรือกึ่งมนุษย์ได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว (ซึ่งนั่นก็รวมการโจมตีของผู้เล่นด้วยกันเองด้วย) โดยรวมแล้วสามารถลดทอนได้ถึง 20% ซึ่งถือว่าสูงเป็นอย่างมาก 

เฟืองที่ควรใช้ 


  • Endure Bosst - เฟืองชิ้นนี้จะทำให้สกิล Endure มีระยะเวลาเพิ่มขึ้นถึง 70% กันเลยทีเดียว และยังสามารถบล็อกความเสียหายสูงสุดได้ถึง 7 ครั้งอีกด้วย 

  • Rage Endure - สกิล Endure จะมีความสามารถในการบล็อก CC ที่ตัวละครของเราได้รับ และยังบล็อกไปอีก 2 วินาทีหลังจากเริ่มทำงานด้วย แต่จะเพิ่มระยะเวลา Cool Down ของสกิล Endure ขึ้นเป็น 15 วินาทีแทน 

  • Physique Boost - เป็นเฟืองที่จะช่วยเพิ่ม Max HP ให้กับตัวละครของเราอีก 350 ตามสกิล Faith ที่คุณอัพไป 

  • Holy Light Sacrifice - เมื่อตัวละครของเราใช้สกิล Devotion ใส่เพื่อนร่วมทีมอยู่ จะทำให้เพื่อนร่วมทีมคนนั้นได้รับดาเมจน้อยลง 12% ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเพื่อนได้รับความเสียหายน้อยลงเราก็จะได้รับความเสียหายน้อยลงด้วยเช่นกัน 



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header