โปเกมอนในตำนาน หรือโปเกมอนมายา เป็นอีกหนึ่งสีสันภายในซีรีส์ Pokémon ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ภาคแรก และแน่นอนว่าภายในตัวเกม Pokémon Legends: Arceus ก็ยังคงนำโปเกมอนในตำนานและโปเกมอนมายาใส่เข้ามาในเกม ให้ผู้เล่นได้เลือกจับกันถึง 18 ตัวเลยทีเดียว
ส่วนทั้ง 18 ตัวนั้น จะมีตัวอะไรบ้าง และมีเงื่อนไขในการพบเจออย่างไร บทความนี้มีคำตอบ!
1. Manaphy
ผู้เล่นต้องมีแรงก์ 5 ดาวขึ้นไป และพบได้ในการรับเควสต์ The Seas Legend ที่แปะอยู่บนบอร์ดคำร้องขอภายในห้องทดลองของศาสตราจารย์
Manaphy จะอยู่ในบริเวณพื้นที่ Seaside Hollow ของเขต Cobalt Coastlands
2. Phione
พบเจอได้ในเควสต์ The Seas Legend เช่นเดียวกันกับ Manaphy เพียงแต่ Phione จะสามารถพบเจอได้หลายตัว แต่ Manaphy จะพบเจอได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น
3. Arceus
เป็นโปเกมอนที่จะปรากฎตัวในภารกิจสุดท้ายของเกมเท่านั้น โดยผู้เล่นจะต้องทำการครอบครองโปเกมอนทุกตัวภายในสมุดภาพของเขต Hisui เสียก่อน
Arceus จะอยู่ในพื้นที่ Temple of Sinnoh ของเขต Coronet Highlands
4. Giratina
จะปรากฎตัวในเควสต์ On the Trail of Girantina เท่านั้น ซึ่งสามารถรับเควสต์ได้ที่ Adaman ในหมู่บ้าน Jubilife Village หลังจากที่ผู้เล่นจบเนื้อเรื่องของตัวเกม
Giratina จะอยู่ในพื้นที่ Spring Path ของเขต Cobalt Coastlands
5. Dialga
จะปรากฎตัวในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องหลัก หากผู้เล่นเลือกเข้าฝั่งของ Adaman แทนฝั่งของ Irida ระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity
Dialga จะอยู่ในพื้นที่ Temple of Sinnoh ของเขต Coronet Highlands
6. Palkia
จะปรากฎตัวในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องหลัก หากผู้เล่นเลือกเข้าฝั่งของ Irida แทนฝั่งของ Adaman ระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity
Palkia จะอยู่ในพื้นที่ Temple of Sinnoh ของเขต Coronet Highlands
7. Regigigas
ปรากฎตัวเฉพาะในเควสต์ The Plate of Snowpoint Temple เท่านั้น โดยผู้เล่นจะต้องมี the Iron Plate, the Icicle Plate และ the Stone Plate ก่อน ประตูที่ชั้นใต้ดินของวิหารถึงจะเปิดออก ซึ่งด้านในจะมี Regigigas รอผู้เล่นอยู่
Regigigas จะอยู่ในพื้นที่ Snowpoint Temple ของเขต Alabaster Icelands
8. Shaymin
ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีเซฟไฟล์ของเกม Pokémon Sword หรือ Pokémon Shield เพื่อปลดล็อกเควสต์พิเศษ
โดยหลังจากที่ผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลักแล้ว ผู้เล่นจะสามารถไปรับเควสต์วิจัย Shaymin ได้ที่ Jubilife Village
Shaymin จะอยู่ในพื้นที่ Floaro Gardens ของเขต Obsidian Fieldlands
9. Heatran
พบได้ในเควสต์ The Plate of Firespit Island เท่านั้น ซึ่งผู้เล่นจะสามารถรับเควสต์นี้ได้ภายหลังที่จบเนื้อเรื่องหลัก
Heatran จะอยู่ในพื้นที่ Firespit Island ของเขต Cobalt Coastlands
10. Cresselia
พบได้ในเควสต์ The Plate of Moonbreak Arena เท่านั้น
Cresselia จะอยู่ในพื้นที่ Moonview Arena ของเขต Coronet Highlands
11. Darkrai
ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีเซฟไฟล์ของเกม Pokémon Brilliant Diamond หรือ Shining Pearl เพื่อปลดล็อกเควสต์พิเศษ
โดยหลังจากที่ผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลักแล้ว ผู้เล่นจะสามารถไปรับเควสต์วิจัย Darkrai ได้ที่ Jubilife Village
Darkrai จะอยู่ในพื้นที่ Clamberclaw Cliffs ของเขต Coronet Highliands
12. Landorus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Landorus จะอยู่ในพื้นที่ Ramanas Island ของเขต Obsidian Fieldlands
13. Thundurus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Thundurus จะอยู่ในบนมหาสมุทรระหว่าง Sand's Reach ไปจนถึง Lunker's Lair ของเขต Cobalt Coastlands
14. Tornadus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Tornadus จะอยู่ในพื้นที่ Bonechill Wastelands ของเขต Alabaster Icelands
15. Enamorus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Enamorus จะปรากฎตัวหลังจากที่ผู้เล่นเผชิญหน้ากับ Landorus, Tornadus และ Thundurus เรียบร้อยแล้ว
Enamorus จะอยู่ในพื้นที่ Scarlet Bog ของเขต Crimson Mirelands
16. Uxie
พบเจอเป็นครั้งแรกในระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity แต่ผู้เล่นจะยังไม่สามารถจับ Uxie ได้ ณ เวลานั้น
ทั้งนี้เมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลัก และรับเควสต์ Plates of the Lakes มาแล้ว
ผู้เล่นจะสามารถกลับไปที่ Lake Acuity เพื่อจับ Uxie ได้นั่นเอง
17. Mesprit
พบเจอเป็นครั้งแรกในระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity แต่ผู้เล่นจะยังไม่สามารถจับ Mesprit ได้ ณ เวลานั้น
ทั้งนี้เมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลัก และรับเควสต์ Plates of the Lakes มาแล้ว
ผู้เล่นจะสามารถกลับไปที่ Lake Acuity เพื่อจับ Mesprit ได้นั่นเอง
18. Azelf
พบเจอเป็นครั้งแรกในระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity แต่ผู้เล่นจะยังไม่สามารถจับ Azelf ได้ ณ เวลานั้น
ทั้งนี้เมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลัก และรับเควสต์ Plates of the Lakes มาแล้ว
ผู้เล่นจะสามารถกลับไปที่ Lake Acuity เพื่อจับ Azelf ได้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับข้อมูลพื้นที่ เงื่อนไข และรายชื่อของโปเกมอนในตำนาน หรือโปเกมอนมายาทั้ง 18 ตัว
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการท่องโลกกว้างในเกม Pokémon Legends: Arceus ของคุณผู้อ่านได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ
แหล่งข้อมูล: Rankedboost
โปเกมอนในตำนาน หรือโปเกมอนมายา เป็นอีกหนึ่งสีสันภายในซีรีส์ Pokémon ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ภาคแรก และแน่นอนว่าภายในตัวเกม Pokémon Legends: Arceus ก็ยังคงนำโปเกมอนในตำนานและโปเกมอนมายาใส่เข้ามาในเกม ให้ผู้เล่นได้เลือกจับกันถึง 18 ตัวเลยทีเดียว
ส่วนทั้ง 18 ตัวนั้น จะมีตัวอะไรบ้าง และมีเงื่อนไขในการพบเจออย่างไร บทความนี้มีคำตอบ!
1. Manaphy
ผู้เล่นต้องมีแรงก์ 5 ดาวขึ้นไป และพบได้ในการรับเควสต์ The Seas Legend ที่แปะอยู่บนบอร์ดคำร้องขอภายในห้องทดลองของศาสตราจารย์
Manaphy จะอยู่ในบริเวณพื้นที่ Seaside Hollow ของเขต Cobalt Coastlands
2. Phione
พบเจอได้ในเควสต์ The Seas Legend เช่นเดียวกันกับ Manaphy เพียงแต่ Phione จะสามารถพบเจอได้หลายตัว แต่ Manaphy จะพบเจอได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น
3. Arceus
เป็นโปเกมอนที่จะปรากฎตัวในภารกิจสุดท้ายของเกมเท่านั้น โดยผู้เล่นจะต้องทำการครอบครองโปเกมอนทุกตัวภายในสมุดภาพของเขต Hisui เสียก่อน
Arceus จะอยู่ในพื้นที่ Temple of Sinnoh ของเขต Coronet Highlands
4. Giratina
จะปรากฎตัวในเควสต์ On the Trail of Girantina เท่านั้น ซึ่งสามารถรับเควสต์ได้ที่ Adaman ในหมู่บ้าน Jubilife Village หลังจากที่ผู้เล่นจบเนื้อเรื่องของตัวเกม
Giratina จะอยู่ในพื้นที่ Spring Path ของเขต Cobalt Coastlands
5. Dialga
จะปรากฎตัวในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องหลัก หากผู้เล่นเลือกเข้าฝั่งของ Adaman แทนฝั่งของ Irida ระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity
Dialga จะอยู่ในพื้นที่ Temple of Sinnoh ของเขต Coronet Highlands
6. Palkia
จะปรากฎตัวในช่วงท้ายของเนื้อเรื่องหลัก หากผู้เล่นเลือกเข้าฝั่งของ Irida แทนฝั่งของ Adaman ระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity
Palkia จะอยู่ในพื้นที่ Temple of Sinnoh ของเขต Coronet Highlands
7. Regigigas
ปรากฎตัวเฉพาะในเควสต์ The Plate of Snowpoint Temple เท่านั้น โดยผู้เล่นจะต้องมี the Iron Plate, the Icicle Plate และ the Stone Plate ก่อน ประตูที่ชั้นใต้ดินของวิหารถึงจะเปิดออก ซึ่งด้านในจะมี Regigigas รอผู้เล่นอยู่
Regigigas จะอยู่ในพื้นที่ Snowpoint Temple ของเขต Alabaster Icelands
8. Shaymin
ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีเซฟไฟล์ของเกม Pokémon Sword หรือ Pokémon Shield เพื่อปลดล็อกเควสต์พิเศษ
โดยหลังจากที่ผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลักแล้ว ผู้เล่นจะสามารถไปรับเควสต์วิจัย Shaymin ได้ที่ Jubilife Village
Shaymin จะอยู่ในพื้นที่ Floaro Gardens ของเขต Obsidian Fieldlands
9. Heatran
พบได้ในเควสต์ The Plate of Firespit Island เท่านั้น ซึ่งผู้เล่นจะสามารถรับเควสต์นี้ได้ภายหลังที่จบเนื้อเรื่องหลัก
Heatran จะอยู่ในพื้นที่ Firespit Island ของเขต Cobalt Coastlands
10. Cresselia
พบได้ในเควสต์ The Plate of Moonbreak Arena เท่านั้น
Cresselia จะอยู่ในพื้นที่ Moonview Arena ของเขต Coronet Highlands
11. Darkrai
ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีเซฟไฟล์ของเกม Pokémon Brilliant Diamond หรือ Shining Pearl เพื่อปลดล็อกเควสต์พิเศษ
โดยหลังจากที่ผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลักแล้ว ผู้เล่นจะสามารถไปรับเควสต์วิจัย Darkrai ได้ที่ Jubilife Village
Darkrai จะอยู่ในพื้นที่ Clamberclaw Cliffs ของเขต Coronet Highliands
12. Landorus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Landorus จะอยู่ในพื้นที่ Ramanas Island ของเขต Obsidian Fieldlands
13. Thundurus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Thundurus จะอยู่ในบนมหาสมุทรระหว่าง Sand's Reach ไปจนถึง Lunker's Lair ของเขต Cobalt Coastlands
14. Tornadus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Tornadus จะอยู่ในพื้นที่ Bonechill Wastelands ของเขต Alabaster Icelands
15. Enamorus
พบได้ภายในเควสต์ Incarnate Forces of Hisui ซึ่งรับเควสต์ได้ที่ Cogita ที่อยู่ภายในฐานหลักของ Team Galaxy ภายหลังจบเนื้อเรื่องหลัก
Enamorus จะปรากฎตัวหลังจากที่ผู้เล่นเผชิญหน้ากับ Landorus, Tornadus และ Thundurus เรียบร้อยแล้ว
Enamorus จะอยู่ในพื้นที่ Scarlet Bog ของเขต Crimson Mirelands
16. Uxie
พบเจอเป็นครั้งแรกในระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity แต่ผู้เล่นจะยังไม่สามารถจับ Uxie ได้ ณ เวลานั้น
ทั้งนี้เมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลัก และรับเควสต์ Plates of the Lakes มาแล้ว
ผู้เล่นจะสามารถกลับไปที่ Lake Acuity เพื่อจับ Uxie ได้นั่นเอง
17. Mesprit
พบเจอเป็นครั้งแรกในระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity แต่ผู้เล่นจะยังไม่สามารถจับ Mesprit ได้ ณ เวลานั้น
ทั้งนี้เมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลัก และรับเควสต์ Plates of the Lakes มาแล้ว
ผู้เล่นจะสามารถกลับไปที่ Lake Acuity เพื่อจับ Mesprit ได้นั่นเอง
18. Azelf
พบเจอเป็นครั้งแรกในระหว่างเควสต์ The Trial of Lake Acuity แต่ผู้เล่นจะยังไม่สามารถจับ Azelf ได้ ณ เวลานั้น
ทั้งนี้เมื่อผู้เล่นจบเนื้อเรื่องหลัก และรับเควสต์ Plates of the Lakes มาแล้ว
ผู้เล่นจะสามารถกลับไปที่ Lake Acuity เพื่อจับ Azelf ได้นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับข้อมูลพื้นที่ เงื่อนไข และรายชื่อของโปเกมอนในตำนาน หรือโปเกมอนมายาทั้ง 18 ตัว
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการท่องโลกกว้างในเกม Pokémon Legends: Arceus ของคุณผู้อ่านได้ ไม่มากก็น้อยนะครับ
แหล่งข้อมูล: Rankedboost