Honkai Star Rail เป็นเกมอีกหนึ่งจักรวาลของเกม Honkai Impact 3 โดยเกมนี้เป็นเกมแนว Turn Base จากค่ายผู้พัฒนาเกมมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Hoyoverse ที่มีผลงานการันตีความยอดเยี่ยมจากเกม Genshin Impact แนวคิดในการสร้างเกม "จากผู้เล่นถึงผู้เล่น" และคติ "Tech Otakus save the world (โอตาคุสายเทคโนโลยีกู้โลก)" ทำให้เราสามารถคาดหวังเกมจากค่ายนี้ได้มากเลย โดยเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิด CBT (Close Beta) รอบแรกไปแล้ว และตอนนี้กำลังเปิด CBT รอบที่ 2 ให้เราสามารถลงระเทียนขอเข้าเซิฟเทสได้ ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำตัวละครทั้ง 15 ตัวที่มีอยู่ในเกม Honkai Star Rail
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา เราขอแนะนำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อจะได้ไม่งงในการทำความเข้าใจตัวละคร สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนว Trun Base มาก่อนเลย ตัวละครทุกตัวในเกมนี้จะมีสกิลอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 สกิล แบ่งเป็นสกิลกดใช้ (Active Skill) 3 สกิล และสกิลติดตัว (Passive Skill) 1 สกิล ในส่วนของเทคนิคสกิล (Techniqce Skill) จะเป็นสกิลที่ต้องกดใช้ก่อนเข้าการต่อสู้ ในส่วนเทิร์นของตัวละครเราจะเรียกกันว่า Action โดยใน 1 Action เราสามารถเลือกที่จะกดสกิลอะไรก็ได้แล้วแต่ตัวเรา
Welt Yang เป็นตัวละครธาตุจิตภาพ (Imaginary) และเป็นสาย Nihility (ดีบัฟ)
Welt Normal Attack: สร้างความเสียหาย Imaginary ใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Welt Yang
Welt Skill: ฟันใส่ศัตรู 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งที่ฟันจะสุ่มเป้าหมายและจะทำความเสียงหาย 30% จากพลังโจมตีของ Welt Yang คิดเป็นความเสียหายแบบ Imaginary และนอกจากนี้ ศัตรูที่ถูกฟันมีโอกาส 50% ที่จะโดนลดความเร็ว (Speed) ลง 20 เป็นเวลา 2 เทิร์น
Welt Ultimate: สร้างความเสียหาย 48% จากพลังโจมตีของ Welt Yang ใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายแบบ Imaginary และจะมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูที่โดนโจมตีด้วยสกิลนี้ติดดีบัฟ (Debuff) Imprisonment โดยตัวละครที่ติดดีบัฟนี้ จะทำให้เทิร์นของตัวละลรนั้น (Action) มาช้าลง 30% และโดนความเสียหายแรงขึ้นอีก 20%
Welt Talent: ถ้าโจมตีศัตรูที่ติดดีบัฟที่มีผลทำให้ศัตรูเชื่องช้า (Slow) จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 30% คิดจากพลังโจม (ATK) ของ Welt Yang
Welt Technique: หลังจากใช้แล้ว Welt Yang จะสร้างหลุมดำ (Black Hole) ขึ้นมาเป็นเวลา 15 วินาที ศัตรูที่โดนจะถูกลด Speed ลง 50% และเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ ศัตรูจะมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟ Imprisonment โดนความเสียหายแรงขึ้นและ Action จะมาช้าลง 20%
Denheng เป็นตัวละครธาตุลม (Wind) และเป็นสายสร้างความเสียหายเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรง (Hunt)
Denheng Normal Attack: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Denheng
Denheng Skill: สร้างความเสียหาย 120% จากพลังโจมตีของ Denheng ใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายแบบ Wind ถ้าโจมตีติดคริติคอล (Critical) จะมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูที่โดนโจมตีด้วยสกิลนี้ติดดีบัฟลด Speed ลง 20 เป็นเวลา 2 เทิร์น
Denheng Ultimate: สร้างความเสียหาย 216% จากพลังโจมตีของ Denheng ใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายแบบ Wind และถ้าศัตรูตัวนั้นติดดีบัฟเชื่องช้า (Slow) จะเพิ่มความเสียหายของสกิลนี้อีก 72%
Denheng Talent: ถ้าศัตรูมีเลือดมากกว่า 50% ขึ้นไป อัตราคริติคอล (Crit Rate) ของ Denheng จะเพิ่มขึ้น 15% และเมื่อ Denheng เป็นเป้าหมายของการใช้สกิลจากฝั่งเดียวกันหรือได้รับบัฟ การโจมตีครั้งถัดไปของ Denheng จะลดความต้านทานธาตุลมของศัตรูลง 15 % และสกิลนี้จะสามารถทำงานได้อีกครั้งเมื่อ Action ของ Denheng ผ่านไปแล้ว 2 เทร์น
Denheng Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ Denheng จะเพิ่มพลังโจมตีของตัวเอง 40% เป็นเวลา 3 เทิร์น ในการต่อสู้ครั้งต่อไป
Gepard เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็ง (Ice) และเป็นสายสร้างโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม (Perservation)
สกิลของ Gepard
Gepard Normal Attack: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Gepard
Gepard Skill: สร้างความเสียหาย 75% จากพลังโจมตีของ Gepard และคิดเป็นความเสียหายแบบ Ice ใส่ศัตรู 1 ตัว และมีโอกาส 65% ที่จะทำให้ศัตรูติด Freeze (แช่แข็ง) 1 เทิร์น ถ้าศัตรูติดแช่แข็ง จะโดนความเสียหาย 25% จากพลังโจมตีของ Gepard คิดเป็นความเสียหาย Ice ทุก ๆ เทิร์น
Gepard Ultimate: หลังจากใช้ จะสร้างโล่ป้องกันความเสียหายให้เพื่อนทั้งทีม โดยคิดจาก 36% ของพลังป้องกัน (DEF) ของ Gepard +90 เป็นเวลา 3 เทิร์น
Gepard Talent: เมื่อมีความเสียหายที่ถึงตายเข้าใส่ Gepard หรือพลังชีวิตหมด จะทำการฟื้นฟูพลังชีวิตขึ้นมา 25% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Gepard แทน สกิลนี้สามารถใช้ได้ 1 ครั้งต่อ 1 เกมเท่านั้น
Gepard Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ Gepard จะมอบพลังป้องกันให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยคิดจาก 25% จากพลังป้องกันของ Gepard เป็นเวลา 2 เทิร์น
Clara เป็นตัวละครไร้ธาตุหรือกายภาพ (Physical) และเป็นสายกึ่งแท็งกึ่งดาเมจ (Destruction)
สกิลของ Clara
Clara Normal Attack: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของตัว Clara
Clara Skill: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรูทั้งหมดที่มีเครื่องหมาย Svarog's Mark of Retaliation ติดอยู่กับตัวมัน โดยคิดความเสียหายจาก 150% + (จำนวนของศัตรูที่ติดเครื่องหมาย โดยแต่ละตัวจะเพิ่มความเสียหาย 90%) ของพลังโจมตีของตัว Clara โดยหลังจากใช้สกิลนี้เสร็จ จะทำการลบเครื่องหมายออกจากตัวของศัตรูทั้งหมดทันที และไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้หากไม่มีศัตรูติดเครื่องหมายอยู๋เลย
Clara Ultimate: หลังจากใช้ Svarog จะเข้าสู่โหลด Brust และตัว Clara จะเพิ่มโอกาสที่จะโดนศัตรูโจมตีใส่แลtลดความเสียหายที่ตัว Clara โดนลง 15% นอกจากนี้เมื่อ Clara โดนโจมตี Svarog จะทำการโจมตีสวนกลับทันที และเพิ่มความเสียอีก 25% ของความเสียหายที่ตัว Clara โดน โดยระยะเวลาของสกิลนี้อยู่ได้นาน 2 เทิร์น
Clara Talent: ภายใต้การป้องกันของ Svarog ความเสียหายที่ตัว Clara โดนจะถูกลดลง 15% ทันที จะติดเครื่องหมาย Svarog's Mark of Retaliation ใส่ศัตรูที่โจมตีใส่ Clara และมีโอกาส 40% ที่จะทำการโจมตีสวนกลับทันที เป็นการโจมตีกายภาพโดยคิดความเสียหายจาก 40% ของพลังโจมตีของตัว Clara และ Svarog สามารถโจมตีสวนกลับได้มากสุด 3 ครั้งเท่านั้น
Clara Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะเพิ่มโอกาสที่ Clara จะโดนโจมตี เป็นระยะเวลา 2 เทิร์น
Hook เป็นตัวละครธาตุไฟ (Fire) และเป็นสายกึ่งแท็งกึ่งดาเมจ (Destruction)
สกิลของ Hook
Hook Normal Attack: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Hook
Hook Skill: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 120% ของพลังโจมตีของ Hook และนอกจากนี้ยังมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูติดเผาไหม้ (Burn) เป็นเวลา 2 เทิร์น ศัตรูที่ติด Burn จะโดนความเสียหายไฟในตอนเริ่มเทิร์น โดยคิดความเสียหายจาก 25% ของพลังโจมตีของ Hook
Hook Ultimate: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัวและจะสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงด้วย โดยคิดความเสียหายจาก 240% ของพลังโจมตีของ Hook
Hook Talent: เมื่อ Hook ทำการโจมตีใส่ศัตรูที่ติด Burn อยู่ Hook จะสร้างความเสียหายไฟเพิ่มขึ้นอีก 50% จากพลังโจมตีของ Hook และจะทำการฟื้นฟูพลังงาน (Energy) ขึ้นมา 5 หน่วย
Hook Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะมีโอกาส 100 % ที่ศัตรูทั้งหมดจะติดสถานะ Burn เป็นเวลา 3 เทิร์น เมื่อศัตรูติด Burn ในตอนเริ่มเทร์น มันจะโดนความเสียหายไฟ โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Hook
Bronya เป็นตัวละครธาตุลม (Wind) และเป็นสายบัฟ (Concord)
สกิลของ Bronya
Bronya Normal Attack: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Bronya
Bronya Skill: ทำการลบดีบัฟออกจากเพื่อนร่วมทีมที่เลือก 1 ตัว ทำการเร่ง Action ของตัวละครที่เลือกให้ข้าม Action ของตัวละครทุกตัวในเกมและเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ให้กับตัวละครที่เลือกอีก 25% เป็นเวลา 1 เทิร์น นอกจากนี้ตัวละครที่เลือกทำการ Take Action แล้ว จะเพิ่ม Speed ให้กับตัวละครนั้นอีก 25 เป็นเวลา 1 เทิร์น
Bronya Ultimate: หลังจากใช้สกิลนี้แล้ว จะเพิ่มความเสียที่ทำได้ของเพื่อนร่วมทีมขึ้น 30% และเพิ่มความเหียหายคริติคอล (Crit Damage) ให้อีก 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Bronya Talent: หลังจาก Bronya ทำการโจมตีปกติ จะเพิ่มความเร็วของ Action ต่อไป 15%
Bronya Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ของเพื่อนร่วมทีมขึ้น 15% เป็นเวลา 2 เทิร์น
MC เป็นตัวละครไร้ธาตุหรือกายภาพ (Physical) และเป็นสายกึ่งแท็งกึ่งดาเมจ (Destruction)
สกิลของ MC
MC Normal Attack: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของตัว MC
MC Skill: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัวและมันจะสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงด้วย โดยคิดความเสียหายจาก 63% ของพลังโจมตีของ MC
MC Ultimate: จะทำการเพิ่มความเร็วของ Action ต่อไป 100% และ MC จะเข้าสู๋โหลด Burst โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีของตัวเอง และเพิ่มความเสียหายที่สร้างได้ทั้งหมด 60% เป็นเวลา 2 เทิร์น
MC Talent: หลังจากที่ทำการหยุดการติดดีบัฟของศัตรู MC จะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ขึ้น 12% และสามารถสแต็คได้มากสุด 2 ครั้ง
MC Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะทำกานฟื้นฟูพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 10% ทันที
Natasha เป็นตัวละครไร้ธาตุหรือกายภาพ (Physical) และเป็นสายฮีล (Fertility)
สกิลของ Natasha
Natasha Normal Attack: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของตัว Natasha
Natasha Skill: ฮีลพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีม 1 ตัว โดยคิดจาก (12% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Natasha + 60) และในตอนเริ่มเทิร์นจะฮีลพลังชีวิตให้กับเพื่อนร่วมทีมที่ถูกเลือกเป็นเป้าหมายอีก โดยคิดจาก (9% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Natasha + 45) อีก 2 เทิร์น
Natasha Ultimate: ฮีลพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยคิดจาก (15% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Natasha + 75)
Natasha Talent: เพิ่มความสามารถในการฮีลพลังชีวิตขึ้น 25% ให้กับเพื่อนร่วมทีมที่มีพลังชีวิตต่ำกว่า 30%
Natasha Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูทั้งหมดติดดีบัฟอ่อนแอ (Weaken) โดยดีบัฟตัวนี้จะทำให้ศัตรูสร้างความเสียหายได้เบาลง 30% เป็นเวลา 1 เทิร์น
Pela เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็ง (Ice) และเป็นสาย Nihility (ดีบัฟ)
Pela Normal Attack: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Pela
Pela Skill: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 100% ของพลังโจมตีของ Pela และศัตรูจะมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟอ่อนแอ (Weaken) โดยศัตรูที่ติดสถานะอ่อนแอ จะลดความเสียหายที่ทำได้ลง 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Pela Ultimate: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 48% ของพลังโจมตีของ Pela และศัตรูทั้งหมดมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟ โดยดีบัฟนี้จะทำการลดพลังป้องกัยของศัตรูลง 30% และความเสียหายที่ทำต่อโล่ของศัตรูแรงขึ้น 30% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Pela Talent: หลังจากที่ Pela โจมตีใส่ศัตรูที่ติดดีบัฟอยู่ จะทำการฟื้นฟูพลังงาน (Energy) 5 หน่วย
Pela Techniqce: หลังจากที่ใช้สกิลนี้ ศัตรูทั้งหมดมีโอกาส 100% ที่จะถูกพลังป้องกันลง 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
March 7th เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็ง (Ice) และเป็นสายสร้างโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม (Perservation)
March 7th Normal Attack: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ March 7th
March 7th Skill: มอบโล่ป้องกันความเสียหายให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยคิดจาก (60% ของค่าพลังป้องกันของ March 7th + 150 sirigle ATK) และทำความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ March 7th นอกจากนี้ ตลอด 3 เทิร์น เพื่อนร่วมทีมที่ได้รับโล่จากสกิลนี้ จะมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากศัตรูมากขึ้น
March 7th Ultimate: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 90% ของพลังโจมตีของ March 7th และศัตรูแต่ละตัวที่โดนสกิลนี้ จะมีโอกาส 60% ที่จะถูกแช่แข็ง (Frozen) เป็นเวลา 1 เทิร์น ซึ่งศัตรูที่ติดสถานะแช่แข็งจะไม่สามารถขยับร่างกายได้หรือ Take Action ได้ และเมื่อเริ่มเทิร์น จะโดนความเสียหายน้ำแข็ง โดยคิดความเสียหายจาก 30% ของพลังโจมตีของ March 7th
March 7th Talent: เพิ่มค่าป้องกันธาตุน้ำแข็งให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 10%
March 7th Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะสุ่มตัวละครของศัตรู 1 ตัวที่จะโดนแช่แข็ง และศัตรูที่ถูกแช่แข็งจะไม่สามารถขยับร่างกายหรือ Take Action ได้ นอกจากนี้เมื่อเริ่มเทิร์นจะโดยความเสียหายน้ำแข็ง โดยคิดจาก 50% ของพลังโจมตีของ March 7th
Sampo เป็นตัวละครธาตุลม (Wind) และเป็นสาย Nihility (ดีบัฟ)
Sampo Normal Attack: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Sampo
Sampo Skill: โยนมีดออกไปสร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 15% ของพลังโจมตีของ Sampo มีดที่ขว้างออกไปจะชิ่งไปมา 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งความเสียหายจะแรงขึ้น 15% และแต่ละครั้งที่มีดชิ่งไปมา จะมีโอกาส 50% ที่จะทำให้ Action ของศัตรูมาช้าลง 5%
Sampo Ultimate: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 96% ของพลังโจมตีของ Sampo และมีโอกาส 100% ที่จะทำให้พลังป้องกันของศัตรูลดลง 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Sampo Talent: การโจมตีของ Sampo จะมีโอกาส 65% ที่จะทำให้ศัตรูติดดีบัฟ Wind Shear เป็นเวลา 3 เทิร์น ซึ่งศัตรูที่ติดดีบัฟนี้ เมื่อเริ่มเทิร์นจะโดนความเสียหายลม 25% โดยคิดจากพลังโจมตีของ Sampo และสามารถสแต็ค Wind Shrea ได้มากสุด 5 ครั้ง
Sampo Techniqce: โยนระเบิดแฟลชใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูตาบอดเป็นเวลา 10 วินาที สถานะ "ตาบอด" จะทำให้ศัตรูไม่สามารถตรวจจับเราได้หรือไม่สามารถดึงเราเข้าการต่อสู้ได้
Seele เป็นตัวละครธาตุควอนตัม (Quantum) และเป็นสายสร้างความเสียหายเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรง (Hunt)
Seele Normal Attack: สร้างความเสียหายควอนตัมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Seele
Seele Skill: สร้างความเสียหายควอนตัมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 100% ของพลังโจมตีของ Seele และลด Speed ของศัตรูลง 35 เป็นเวลา 2 เทิร์น
Seele Ultimate: สร้างความเสียหายควอนตัมใส่ศํตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 240% ของพลังโจมตีของ Seele และขโมยบัฟของศัตรูมาให้กับ Seele ด้วย
Seele Talent: จะได้รับบัฟนี้เมื่อฆ่าศัตรูได้ จะได้รับ Action พิเศษทันที และได้รับบัฟเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 40% เป็นเวลา 1 เทิร์น ศัตรูทุกถูกฆ่าใน Action พิเศษนี้ บัฟอะไรก็ตามที่ทำให้ไม่ตาย จะไร้ผลทันที และสกิลนี้จะไม่สามารถทำงานได้อีก
Seele Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้แล้ว Seele จะได้รับบัฟล่องหน (Stealth) เป็นเวลา 20 วินาที ศัตรูไจะไม่สามารถตรวจจับ Seele ได้ และถ้าเริ่มต่อสู้กัน ทีมเราจะได้เป็นฝ่ายเริ่มเกมก่อน
Serval เป็นตัวละครธาตุสายฟ้า (Thunder) และเป็นสายสร้างความเสียหายหมู่ (Nous)
Serval Normal Attack: สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Serval
Serval Skill: สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 60% ของพลังโจมตีของ Serval และสร้างความเสียหายสายฟ้า 30% ให้กับศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงกับตัวเป้าหมายหลัก มีโอกาส 80% ที่จะทำให้ศัตรูติดดีบัฟช็อค (Shock) เป็นเวลา 3 เทิร์น ศัตรูที่ติดดีบัฟช็อค เมื่อเริ่มเทิร์น จะได้รับความเสียหายสายฟ้า โดยคิดความเสียหายจาก 40% ของพลังโจมตีของ Serval
Serval Ultimate: สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียจาก 108% ของพลังโจมตีของ Serval และถ้าศัตรูติดดีบัฟช็อคอยู่ เพิ่มเทิร์นของการติดดีบัฟช็อคไปอีก 2 เทิร์น
Serval Talent: หลังจากโจมตี สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรูทั้งหมดที่ติดดีบัฟช็อคอยู่ โดยคิดความเสียหายจาก 25% ของพลังโจมตีของ Serval
Serval Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะทำให้ศัตรูทั้งหมดมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟช็อค เป็นเวลา 3 เทิร์น โดยศัตรูที่ติดดีบัฟช็อค เมื่อเริ่มเทิร์นจะได้รับความเสียหายสายฟ้า โดยคิดจาก 50% ของพลังโจมตีของ Serval
Asta เป็นตัวละครธาตุไฟ (Fire) และเป็นสายบัฟ (Concord)
Asta Normal Attack: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Asta
Asta Skill: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 25% ของพลังโจมตีของ Asta และหลังจากนั้นจะทำการทิ้งระเบิดแบบสุ่มใส่ศัตรู 4 ครั้ง โดยแต่ครั้งจะสร้างความเสียหายไฟ โดยคิดจาก 25% ของพลังโจมตีของ Asta
Asta Ultimate: เพิ่มความเร็ว Action ต่อไปของทั้งทีม 25% และหลังจากนั้นจะมอบบัฟจากสกิล Asta Talent ให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 2 เทิร์น
Asta Talent: ได้รับบัฟเพิ่มพลังโจมตีที่สามารถสแต็คได้ โดยการได้รับนั้นจะได้จากการโจมตีใส่ศัตรูที่แตกต่างกันและได้รับจากการที่ศัตรูที่ดีบัฟ อ่อนแอต่อไฟ (Fire Weakness) สแต็คแต่อันจะเพิ่มพลังโจมตี 6% และสามารถสแต็คได้มากสุด 6 สแต็ค
Asta Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะสร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Asta
Himeko ป็นตัวละครธาตุไฟ (Fire) และเป็นสายสร้างความเสียหายหมู่ (Nous)
Himeko Normal Attack: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Himeko
Himeko Skill: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 100% ของพลังโจมตีของ Himeko และสร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายหลัก โดยคิดความเสียหายจาก 40% ของพลังโจมตีของ Himeko
Himeko Ultimate: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรูทั้ง โดยคิดจาก 120% ของพลังโจมตีของ Himeko และจะฟื้นฟูพลังงาน (Energy) 10 หน่วย ตามศัตรูที่ฆ่าได้
Himeko Talent: เมื่อศัตรูทั้งหมดติดดีบัฟหยุดชะงัก (Break) จะปล่อยการโจมตีด้วยความเสียหายไฟใส่ศัตรูทั้งหมดทันที โดยคิดความเสียหายจาก 55% ของพลังโจมตีของ Himeko สกิลนี้สามารถทำงานได้อีกครั้งหลักจาก Action ของ Himeko ผ่านไปแล้ว 2 เทิร์น
Himeko Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะยิงลำแสงออกมาจากดาวเทียมและสร้าง Burning Zone เป็นเวลา 15 วินาที และเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ในระหว่างนั้นจะมีโอกาส 100% ที่จำให้ศัตรูติดดีบัฟอ่อนแอต่อไฟ (Fire Weakness) ทำให้ศัตรูทั้งหมดโดนความเสียหายไฟแรงขึ้น 10% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Credit: Honkailab
Honkai Star Rail เป็นเกมอีกหนึ่งจักรวาลของเกม Honkai Impact 3 โดยเกมนี้เป็นเกมแนว Turn Base จากค่ายผู้พัฒนาเกมมือถือยักษ์ใหญ่อย่าง Hoyoverse ที่มีผลงานการันตีความยอดเยี่ยมจากเกม Genshin Impact แนวคิดในการสร้างเกม "จากผู้เล่นถึงผู้เล่น" และคติ "Tech Otakus save the world (โอตาคุสายเทคโนโลยีกู้โลก)" ทำให้เราสามารถคาดหวังเกมจากค่ายนี้ได้มากเลย โดยเมื่อไม่นานมานี้มีการเปิด CBT (Close Beta) รอบแรกไปแล้ว และตอนนี้กำลังเปิด CBT รอบที่ 2 ให้เราสามารถลงระเทียนขอเข้าเซิฟเทสได้ ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาแนะนำตัวละครทั้ง 15 ตัวที่มีอยู่ในเกม Honkai Star Rail
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา เราขอแนะนำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อจะได้ไม่งงในการทำความเข้าใจตัวละคร สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมแนว Trun Base มาก่อนเลย ตัวละครทุกตัวในเกมนี้จะมีสกิลอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 สกิล แบ่งเป็นสกิลกดใช้ (Active Skill) 3 สกิล และสกิลติดตัว (Passive Skill) 1 สกิล ในส่วนของเทคนิคสกิล (Techniqce Skill) จะเป็นสกิลที่ต้องกดใช้ก่อนเข้าการต่อสู้ ในส่วนเทิร์นของตัวละครเราจะเรียกกันว่า Action โดยใน 1 Action เราสามารถเลือกที่จะกดสกิลอะไรก็ได้แล้วแต่ตัวเรา
Welt Yang เป็นตัวละครธาตุจิตภาพ (Imaginary) และเป็นสาย Nihility (ดีบัฟ)
Welt Normal Attack: สร้างความเสียหาย Imaginary ใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Welt Yang
Welt Skill: ฟันใส่ศัตรู 3 ครั้ง โดยแต่ละครั้งที่ฟันจะสุ่มเป้าหมายและจะทำความเสียงหาย 30% จากพลังโจมตีของ Welt Yang คิดเป็นความเสียหายแบบ Imaginary และนอกจากนี้ ศัตรูที่ถูกฟันมีโอกาส 50% ที่จะโดนลดความเร็ว (Speed) ลง 20 เป็นเวลา 2 เทิร์น
Welt Ultimate: สร้างความเสียหาย 48% จากพลังโจมตีของ Welt Yang ใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายแบบ Imaginary และจะมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูที่โดนโจมตีด้วยสกิลนี้ติดดีบัฟ (Debuff) Imprisonment โดยตัวละครที่ติดดีบัฟนี้ จะทำให้เทิร์นของตัวละลรนั้น (Action) มาช้าลง 30% และโดนความเสียหายแรงขึ้นอีก 20%
Welt Talent: ถ้าโจมตีศัตรูที่ติดดีบัฟที่มีผลทำให้ศัตรูเชื่องช้า (Slow) จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 30% คิดจากพลังโจม (ATK) ของ Welt Yang
Welt Technique: หลังจากใช้แล้ว Welt Yang จะสร้างหลุมดำ (Black Hole) ขึ้นมาเป็นเวลา 15 วินาที ศัตรูที่โดนจะถูกลด Speed ลง 50% และเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ ศัตรูจะมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟ Imprisonment โดนความเสียหายแรงขึ้นและ Action จะมาช้าลง 20%
Denheng เป็นตัวละครธาตุลม (Wind) และเป็นสายสร้างความเสียหายเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรง (Hunt)
Denheng Normal Attack: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Denheng
Denheng Skill: สร้างความเสียหาย 120% จากพลังโจมตีของ Denheng ใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายแบบ Wind ถ้าโจมตีติดคริติคอล (Critical) จะมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูที่โดนโจมตีด้วยสกิลนี้ติดดีบัฟลด Speed ลง 20 เป็นเวลา 2 เทิร์น
Denheng Ultimate: สร้างความเสียหาย 216% จากพลังโจมตีของ Denheng ใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายแบบ Wind และถ้าศัตรูตัวนั้นติดดีบัฟเชื่องช้า (Slow) จะเพิ่มความเสียหายของสกิลนี้อีก 72%
Denheng Talent: ถ้าศัตรูมีเลือดมากกว่า 50% ขึ้นไป อัตราคริติคอล (Crit Rate) ของ Denheng จะเพิ่มขึ้น 15% และเมื่อ Denheng เป็นเป้าหมายของการใช้สกิลจากฝั่งเดียวกันหรือได้รับบัฟ การโจมตีครั้งถัดไปของ Denheng จะลดความต้านทานธาตุลมของศัตรูลง 15 % และสกิลนี้จะสามารถทำงานได้อีกครั้งเมื่อ Action ของ Denheng ผ่านไปแล้ว 2 เทร์น
Denheng Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ Denheng จะเพิ่มพลังโจมตีของตัวเอง 40% เป็นเวลา 3 เทิร์น ในการต่อสู้ครั้งต่อไป
Gepard เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็ง (Ice) และเป็นสายสร้างโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม (Perservation)
สกิลของ Gepard
Gepard Normal Attack: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Gepard
Gepard Skill: สร้างความเสียหาย 75% จากพลังโจมตีของ Gepard และคิดเป็นความเสียหายแบบ Ice ใส่ศัตรู 1 ตัว และมีโอกาส 65% ที่จะทำให้ศัตรูติด Freeze (แช่แข็ง) 1 เทิร์น ถ้าศัตรูติดแช่แข็ง จะโดนความเสียหาย 25% จากพลังโจมตีของ Gepard คิดเป็นความเสียหาย Ice ทุก ๆ เทิร์น
Gepard Ultimate: หลังจากใช้ จะสร้างโล่ป้องกันความเสียหายให้เพื่อนทั้งทีม โดยคิดจาก 36% ของพลังป้องกัน (DEF) ของ Gepard +90 เป็นเวลา 3 เทิร์น
Gepard Talent: เมื่อมีความเสียหายที่ถึงตายเข้าใส่ Gepard หรือพลังชีวิตหมด จะทำการฟื้นฟูพลังชีวิตขึ้นมา 25% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Gepard แทน สกิลนี้สามารถใช้ได้ 1 ครั้งต่อ 1 เกมเท่านั้น
Gepard Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ Gepard จะมอบพลังป้องกันให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยคิดจาก 25% จากพลังป้องกันของ Gepard เป็นเวลา 2 เทิร์น
Clara เป็นตัวละครไร้ธาตุหรือกายภาพ (Physical) และเป็นสายกึ่งแท็งกึ่งดาเมจ (Destruction)
สกิลของ Clara
Clara Normal Attack: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของตัว Clara
Clara Skill: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรูทั้งหมดที่มีเครื่องหมาย Svarog's Mark of Retaliation ติดอยู่กับตัวมัน โดยคิดความเสียหายจาก 150% + (จำนวนของศัตรูที่ติดเครื่องหมาย โดยแต่ละตัวจะเพิ่มความเสียหาย 90%) ของพลังโจมตีของตัว Clara โดยหลังจากใช้สกิลนี้เสร็จ จะทำการลบเครื่องหมายออกจากตัวของศัตรูทั้งหมดทันที และไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้หากไม่มีศัตรูติดเครื่องหมายอยู๋เลย
Clara Ultimate: หลังจากใช้ Svarog จะเข้าสู่โหลด Brust และตัว Clara จะเพิ่มโอกาสที่จะโดนศัตรูโจมตีใส่แลtลดความเสียหายที่ตัว Clara โดนลง 15% นอกจากนี้เมื่อ Clara โดนโจมตี Svarog จะทำการโจมตีสวนกลับทันที และเพิ่มความเสียอีก 25% ของความเสียหายที่ตัว Clara โดน โดยระยะเวลาของสกิลนี้อยู่ได้นาน 2 เทิร์น
Clara Talent: ภายใต้การป้องกันของ Svarog ความเสียหายที่ตัว Clara โดนจะถูกลดลง 15% ทันที จะติดเครื่องหมาย Svarog's Mark of Retaliation ใส่ศัตรูที่โจมตีใส่ Clara และมีโอกาส 40% ที่จะทำการโจมตีสวนกลับทันที เป็นการโจมตีกายภาพโดยคิดความเสียหายจาก 40% ของพลังโจมตีของตัว Clara และ Svarog สามารถโจมตีสวนกลับได้มากสุด 3 ครั้งเท่านั้น
Clara Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะเพิ่มโอกาสที่ Clara จะโดนโจมตี เป็นระยะเวลา 2 เทิร์น
Hook เป็นตัวละครธาตุไฟ (Fire) และเป็นสายกึ่งแท็งกึ่งดาเมจ (Destruction)
สกิลของ Hook
Hook Normal Attack: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Hook
Hook Skill: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 120% ของพลังโจมตีของ Hook และนอกจากนี้ยังมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูติดเผาไหม้ (Burn) เป็นเวลา 2 เทิร์น ศัตรูที่ติด Burn จะโดนความเสียหายไฟในตอนเริ่มเทิร์น โดยคิดความเสียหายจาก 25% ของพลังโจมตีของ Hook
Hook Ultimate: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัวและจะสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงด้วย โดยคิดความเสียหายจาก 240% ของพลังโจมตีของ Hook
Hook Talent: เมื่อ Hook ทำการโจมตีใส่ศัตรูที่ติด Burn อยู่ Hook จะสร้างความเสียหายไฟเพิ่มขึ้นอีก 50% จากพลังโจมตีของ Hook และจะทำการฟื้นฟูพลังงาน (Energy) ขึ้นมา 5 หน่วย
Hook Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะมีโอกาส 100 % ที่ศัตรูทั้งหมดจะติดสถานะ Burn เป็นเวลา 3 เทิร์น เมื่อศัตรูติด Burn ในตอนเริ่มเทร์น มันจะโดนความเสียหายไฟ โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Hook
Bronya เป็นตัวละครธาตุลม (Wind) และเป็นสายบัฟ (Concord)
สกิลของ Bronya
Bronya Normal Attack: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Bronya
Bronya Skill: ทำการลบดีบัฟออกจากเพื่อนร่วมทีมที่เลือก 1 ตัว ทำการเร่ง Action ของตัวละครที่เลือกให้ข้าม Action ของตัวละครทุกตัวในเกมและเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ให้กับตัวละครที่เลือกอีก 25% เป็นเวลา 1 เทิร์น นอกจากนี้ตัวละครที่เลือกทำการ Take Action แล้ว จะเพิ่ม Speed ให้กับตัวละครนั้นอีก 25 เป็นเวลา 1 เทิร์น
Bronya Ultimate: หลังจากใช้สกิลนี้แล้ว จะเพิ่มความเสียที่ทำได้ของเพื่อนร่วมทีมขึ้น 30% และเพิ่มความเหียหายคริติคอล (Crit Damage) ให้อีก 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Bronya Talent: หลังจาก Bronya ทำการโจมตีปกติ จะเพิ่มความเร็วของ Action ต่อไป 15%
Bronya Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ของเพื่อนร่วมทีมขึ้น 15% เป็นเวลา 2 เทิร์น
MC เป็นตัวละครไร้ธาตุหรือกายภาพ (Physical) และเป็นสายกึ่งแท็งกึ่งดาเมจ (Destruction)
สกิลของ MC
MC Normal Attack: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของตัว MC
MC Skill: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัวและมันจะสร้างความเสียหายใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงด้วย โดยคิดความเสียหายจาก 63% ของพลังโจมตีของ MC
MC Ultimate: จะทำการเพิ่มความเร็วของ Action ต่อไป 100% และ MC จะเข้าสู๋โหลด Burst โดยจะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีของตัวเอง และเพิ่มความเสียหายที่สร้างได้ทั้งหมด 60% เป็นเวลา 2 เทิร์น
MC Talent: หลังจากที่ทำการหยุดการติดดีบัฟของศัตรู MC จะเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ขึ้น 12% และสามารถสแต็คได้มากสุด 2 ครั้ง
MC Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะทำกานฟื้นฟูพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 10% ทันที
Natasha เป็นตัวละครไร้ธาตุหรือกายภาพ (Physical) และเป็นสายฮีล (Fertility)
สกิลของ Natasha
Natasha Normal Attack: สร้างความเสียหายกายภาพใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของตัว Natasha
Natasha Skill: ฮีลพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีม 1 ตัว โดยคิดจาก (12% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Natasha + 60) และในตอนเริ่มเทิร์นจะฮีลพลังชีวิตให้กับเพื่อนร่วมทีมที่ถูกเลือกเป็นเป้าหมายอีก โดยคิดจาก (9% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Natasha + 45) อีก 2 เทิร์น
Natasha Ultimate: ฮีลพลังชีวิตของเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยคิดจาก (15% ของพลังชีวิตสูงสุดของ Natasha + 75)
Natasha Talent: เพิ่มความสามารถในการฮีลพลังชีวิตขึ้น 25% ให้กับเพื่อนร่วมทีมที่มีพลังชีวิตต่ำกว่า 30%
Natasha Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะมีโอกาส 100% ที่จะทำให้ศัตรูทั้งหมดติดดีบัฟอ่อนแอ (Weaken) โดยดีบัฟตัวนี้จะทำให้ศัตรูสร้างความเสียหายได้เบาลง 30% เป็นเวลา 1 เทิร์น
Pela เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็ง (Ice) และเป็นสาย Nihility (ดีบัฟ)
Pela Normal Attack: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Pela
Pela Skill: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 100% ของพลังโจมตีของ Pela และศัตรูจะมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟอ่อนแอ (Weaken) โดยศัตรูที่ติดสถานะอ่อนแอ จะลดความเสียหายที่ทำได้ลง 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Pela Ultimate: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 48% ของพลังโจมตีของ Pela และศัตรูทั้งหมดมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟ โดยดีบัฟนี้จะทำการลดพลังป้องกัยของศัตรูลง 30% และความเสียหายที่ทำต่อโล่ของศัตรูแรงขึ้น 30% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Pela Talent: หลังจากที่ Pela โจมตีใส่ศัตรูที่ติดดีบัฟอยู่ จะทำการฟื้นฟูพลังงาน (Energy) 5 หน่วย
Pela Techniqce: หลังจากที่ใช้สกิลนี้ ศัตรูทั้งหมดมีโอกาส 100% ที่จะถูกพลังป้องกันลง 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
March 7th เป็นตัวละครธาตุน้ำแข็ง (Ice) และเป็นสายสร้างโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีม (Perservation)
March 7th Normal Attack: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ March 7th
March 7th Skill: มอบโล่ป้องกันความเสียหายให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด โดยคิดจาก (60% ของค่าพลังป้องกันของ March 7th + 150 sirigle ATK) และทำความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ March 7th นอกจากนี้ ตลอด 3 เทิร์น เพื่อนร่วมทีมที่ได้รับโล่จากสกิลนี้ จะมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากศัตรูมากขึ้น
March 7th Ultimate: สร้างความเสียหายน้ำแข็งใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 90% ของพลังโจมตีของ March 7th และศัตรูแต่ละตัวที่โดนสกิลนี้ จะมีโอกาส 60% ที่จะถูกแช่แข็ง (Frozen) เป็นเวลา 1 เทิร์น ซึ่งศัตรูที่ติดสถานะแช่แข็งจะไม่สามารถขยับร่างกายได้หรือ Take Action ได้ และเมื่อเริ่มเทิร์น จะโดนความเสียหายน้ำแข็ง โดยคิดความเสียหายจาก 30% ของพลังโจมตีของ March 7th
March 7th Talent: เพิ่มค่าป้องกันธาตุน้ำแข็งให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 10%
March 7th Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะสุ่มตัวละครของศัตรู 1 ตัวที่จะโดนแช่แข็ง และศัตรูที่ถูกแช่แข็งจะไม่สามารถขยับร่างกายหรือ Take Action ได้ นอกจากนี้เมื่อเริ่มเทิร์นจะโดยความเสียหายน้ำแข็ง โดยคิดจาก 50% ของพลังโจมตีของ March 7th
Sampo เป็นตัวละครธาตุลม (Wind) และเป็นสาย Nihility (ดีบัฟ)
Sampo Normal Attack: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Sampo
Sampo Skill: โยนมีดออกไปสร้างความเสียหายลมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 15% ของพลังโจมตีของ Sampo มีดที่ขว้างออกไปจะชิ่งไปมา 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งความเสียหายจะแรงขึ้น 15% และแต่ละครั้งที่มีดชิ่งไปมา จะมีโอกาส 50% ที่จะทำให้ Action ของศัตรูมาช้าลง 5%
Sampo Ultimate: สร้างความเสียหายลมใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 96% ของพลังโจมตีของ Sampo และมีโอกาส 100% ที่จะทำให้พลังป้องกันของศัตรูลดลง 20% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Sampo Talent: การโจมตีของ Sampo จะมีโอกาส 65% ที่จะทำให้ศัตรูติดดีบัฟ Wind Shear เป็นเวลา 3 เทิร์น ซึ่งศัตรูที่ติดดีบัฟนี้ เมื่อเริ่มเทิร์นจะโดนความเสียหายลม 25% โดยคิดจากพลังโจมตีของ Sampo และสามารถสแต็ค Wind Shrea ได้มากสุด 5 ครั้ง
Sampo Techniqce: โยนระเบิดแฟลชใส่ศัตรู ทำให้ศัตรูตาบอดเป็นเวลา 10 วินาที สถานะ "ตาบอด" จะทำให้ศัตรูไม่สามารถตรวจจับเราได้หรือไม่สามารถดึงเราเข้าการต่อสู้ได้
Seele เป็นตัวละครธาตุควอนตัม (Quantum) และเป็นสายสร้างความเสียหายเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรง (Hunt)
Seele Normal Attack: สร้างความเสียหายควอนตัมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Seele
Seele Skill: สร้างความเสียหายควอนตัมใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 100% ของพลังโจมตีของ Seele และลด Speed ของศัตรูลง 35 เป็นเวลา 2 เทิร์น
Seele Ultimate: สร้างความเสียหายควอนตัมใส่ศํตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 240% ของพลังโจมตีของ Seele และขโมยบัฟของศัตรูมาให้กับ Seele ด้วย
Seele Talent: จะได้รับบัฟนี้เมื่อฆ่าศัตรูได้ จะได้รับ Action พิเศษทันที และได้รับบัฟเพิ่มความเสียหายที่ทำได้ 40% เป็นเวลา 1 เทิร์น ศัตรูทุกถูกฆ่าใน Action พิเศษนี้ บัฟอะไรก็ตามที่ทำให้ไม่ตาย จะไร้ผลทันที และสกิลนี้จะไม่สามารถทำงานได้อีก
Seele Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้แล้ว Seele จะได้รับบัฟล่องหน (Stealth) เป็นเวลา 20 วินาที ศัตรูไจะไม่สามารถตรวจจับ Seele ได้ และถ้าเริ่มต่อสู้กัน ทีมเราจะได้เป็นฝ่ายเริ่มเกมก่อน
Serval เป็นตัวละครธาตุสายฟ้า (Thunder) และเป็นสายสร้างความเสียหายหมู่ (Nous)
Serval Normal Attack: สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Serval
Serval Skill: สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 60% ของพลังโจมตีของ Serval และสร้างความเสียหายสายฟ้า 30% ให้กับศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงกับตัวเป้าหมายหลัก มีโอกาส 80% ที่จะทำให้ศัตรูติดดีบัฟช็อค (Shock) เป็นเวลา 3 เทิร์น ศัตรูที่ติดดีบัฟช็อค เมื่อเริ่มเทิร์น จะได้รับความเสียหายสายฟ้า โดยคิดความเสียหายจาก 40% ของพลังโจมตีของ Serval
Serval Ultimate: สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียจาก 108% ของพลังโจมตีของ Serval และถ้าศัตรูติดดีบัฟช็อคอยู่ เพิ่มเทิร์นของการติดดีบัฟช็อคไปอีก 2 เทิร์น
Serval Talent: หลังจากโจมตี สร้างความเสียหายสายฟ้าใส่ศัตรูทั้งหมดที่ติดดีบัฟช็อคอยู่ โดยคิดความเสียหายจาก 25% ของพลังโจมตีของ Serval
Serval Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะทำให้ศัตรูทั้งหมดมีโอกาส 100% ที่จะติดดีบัฟช็อค เป็นเวลา 3 เทิร์น โดยศัตรูที่ติดดีบัฟช็อค เมื่อเริ่มเทิร์นจะได้รับความเสียหายสายฟ้า โดยคิดจาก 50% ของพลังโจมตีของ Serval
Asta เป็นตัวละครธาตุไฟ (Fire) และเป็นสายบัฟ (Concord)
Asta Normal Attack: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Asta
Asta Skill: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 25% ของพลังโจมตีของ Asta และหลังจากนั้นจะทำการทิ้งระเบิดแบบสุ่มใส่ศัตรู 4 ครั้ง โดยแต่ครั้งจะสร้างความเสียหายไฟ โดยคิดจาก 25% ของพลังโจมตีของ Asta
Asta Ultimate: เพิ่มความเร็ว Action ต่อไปของทั้งทีม 25% และหลังจากนั้นจะมอบบัฟจากสกิล Asta Talent ให้กับเพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 2 เทิร์น
Asta Talent: ได้รับบัฟเพิ่มพลังโจมตีที่สามารถสแต็คได้ โดยการได้รับนั้นจะได้จากการโจมตีใส่ศัตรูที่แตกต่างกันและได้รับจากการที่ศัตรูที่ดีบัฟ อ่อนแอต่อไฟ (Fire Weakness) สแต็คแต่อันจะเพิ่มพลังโจมตี 6% และสามารถสแต็คได้มากสุด 6 สแต็ค
Asta Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะสร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรูทั้งหมด โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Asta
Himeko ป็นตัวละครธาตุไฟ (Fire) และเป็นสายสร้างความเสียหายหมู่ (Nous)
Himeko Normal Attack: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 50% ของพลังโจมตีของ Himeko
Himeko Skill: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรู 1 ตัว โดยคิดความเสียหายจาก 100% ของพลังโจมตีของ Himeko และสร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรูที่อยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายหลัก โดยคิดความเสียหายจาก 40% ของพลังโจมตีของ Himeko
Himeko Ultimate: สร้างความเสียหายไฟใส่ศัตรูทั้ง โดยคิดจาก 120% ของพลังโจมตีของ Himeko และจะฟื้นฟูพลังงาน (Energy) 10 หน่วย ตามศัตรูที่ฆ่าได้
Himeko Talent: เมื่อศัตรูทั้งหมดติดดีบัฟหยุดชะงัก (Break) จะปล่อยการโจมตีด้วยความเสียหายไฟใส่ศัตรูทั้งหมดทันที โดยคิดความเสียหายจาก 55% ของพลังโจมตีของ Himeko สกิลนี้สามารถทำงานได้อีกครั้งหลักจาก Action ของ Himeko ผ่านไปแล้ว 2 เทิร์น
Himeko Techniqce: หลังจากใช้สกิลนี้ จะยิงลำแสงออกมาจากดาวเทียมและสร้าง Burning Zone เป็นเวลา 15 วินาที และเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ในระหว่างนั้นจะมีโอกาส 100% ที่จำให้ศัตรูติดดีบัฟอ่อนแอต่อไฟ (Fire Weakness) ทำให้ศัตรูทั้งหมดโดนความเสียหายไฟแรงขึ้น 10% เป็นเวลา 2 เทิร์น
Credit: Honkailab