ณ เวลานี้ คงมีเกมเมอร์ไม่มากนักที่ไม่รู้จักกับเกม "Elden Ring" หนึ่งในเกมตระกูล Soulborne ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ กับความยากมหาหินที่เป็นของขึ้นชื่อของเหล่าผู้พัฒนาจาก FromSoftware ไม่มีวิธีเล่นหรือบิวด์ที่ผิดในเกม Elden  Ring คุณสามารถที่จะใช้อาวุธ,บิวด์ (Build) ,รูปแบบการเล่นในแบบของคุณ เพื่อที่จะผ่านส่วนต่าง ๆ ของเกมไปได้และไปมุ่งหน้าไปสู่บัลลังค์ Elder Lord ของคุณ 

เพื่อเป็นแนวทางในการเล่นให้กับผู้มัวหมองหน้าใหม่หลาย ๆ คนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่แคนมัฌชิมาเป็นครั้งแรก (หรือผู้มัวหมองหน้าเก่าที่อยากหาอะไรใหม่ ๆ เล่น) วันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอมาแนะนำไกด์สอนบิวด์สาย: Scarlet Rot ซึ่งเป็นสายที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ในเกม จากความสามารถในการแผดเผาศัตรูที่รุนแรง ทำให้เรามีเวลามากพอในการออกไปรักษาตัวเองหรือทำอย่างอื่นได้ แถมยังสามารถพลิกแพลงได้หลากหลายตามสถานการณ์หรือตามความชอบของเราเลยก็ได้ ทำให้นอกจากจะมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังเปิดทางให้ผู้เล่นทดลองอะไรใหม่ ๆ หรือทำอะไรตามความชอบของตัวเองได้อีกด้วย

สาย Scarlet Rot คืออะไร

Scarlet Rot เป็นหนึ่งในสถานะผิดปกติในเกม Elden Ring ที่สามารถใช้ได้ทั้งกับศัตรูทั่วไปหรือบอสและรวมถึงผู้มัวหมองด้วยกันเองด้วย โดยสถานะ Scarlet Rot นั้นจะสร้างความเสียหายต่อเนื่องตามพลังชีวิตของเป้าหมาย (DoT) และจะสร้างความเสียหายได้แรงกว่า Poison (ติดพิษ) แต่จะมีระยะเวลาโดยรวมสั้นกว่า การคำนวณความเสียหายจากการติดสถานะ Scarlet Rot นั้นจะคิดจาก (HP สูงสุด * 0.0018) +15 ต่อวินาทีเป็นเวลา 90 วินาที และจะมีบางเวทมนต์ที่มีการคำนวณความเสียหายเป็นของตัวเองด้วย เช่น Rotten Breath,Ekzy's Decay และ Scarlet Aeonia ที่จะมีการคำนวณความเสียหายจาก (HP สูงสุด * 0.0033) +13 ต่อวินาทีเป็นเวลา 90 วินาที

เช่นเดียวกันสถานะผิดปกติอื่น ๆ ในเกม Elden Ring อย่าง Poison (ติดพิษ) หรือ Frostbite (แช่แข็ง) การจะทำให้ศัตรูติดสถานะ Scarlet Rot นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้อาวุธที่มีค่าสถานะนั้นโจมตีศัตรูไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ซึ่งนั้นหมายความว่านอกจากศัตรูจะได้รับความเสียหายจากการติดสถานะ Scarlet Rot แล้วยังมีความเสียหายจากการโจมตีปกติอีกด้วย

Stats ที่คุณควรอัพ

ในส่วนของค่า Stat นั้น น่าจะเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเริ่มเลือกอาชีพตัวละครช่วงต้นเกม โดยแม้ว่าจะสามารถหาไอเทมมารีเซ็ต Stat ได้ในภายหลัง แต่การเริ่มต้นให้ถูกทางย่อมทำให้การเล่นเกมสะดวกสบายมากขึ้น โดยนอกจากค่า Vigor (ที่เพิ่มขนาดหลอดเลือด) และค่า Endurance (เพิ่มหลอดสตามิน่า) ที่ควรค่อย ๆ อัพตลอดการเล่นอยู่แล้ว ค่า Stat ที่สายนี้ควรเน้นอัพประกอบไปด้วย:

• Arcane: สำหรับค่า Arcane นั้นเป็นหัวใจหลักในบิวด์นี้เลย เพราะจะส่งผลต่ออัตราการติดสถานะอะไรก็แล้วแต่ของผู้เล่น รวมไปถึงอัตราการดรอปไอเทมของศัตรูที่เราฆ่า โดยที่สายนี้จะเน้นไปที่การติดสถานะ Scarlet Rot อยู่แล้ว และมันยังทำให้อาวุธหรือเวทมนต์ที่มีค่าสเกลพลังตาม Arcane นั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยคุณจึงควรอัพค่านี้นำก่อนเป็นอันดับแรก
• Faith: แม้ว่าค่า Faith จะไม่สำคัญเท่า Arcane แต่คุณก็จำเป็นต้องอัพค่านี้ไว้ที่ 15 เพื่อให้คุณสามารถใช้เวทมนต์ Rot Breath ได้ซึ่งนี้เป็นหนึ่งในเวทมนต์ที่ดีที่สุดในเกม และเวทมนต์นี้ยังมีสเกลพลังตามค่า Arcane ด้วย

ตัวอย่างของการอัพ Stat ช่วงท้ายเกมสำหรับตัวละครสาย Scarlet Rot

ภาพรวมวิธีเล่น

สายนี้จะเน้นไปที่การทำความเสียหายจาก Scarlet Rot อย่างต่อเนื่องแม้ว่าเราจะไม่ได้โจมตีอยู่ก็ตาม และนี้ก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในสายนี้ แต่นี้ไม่ใช่วิธีเดียวที่เราจะสามารถสร้างความเสียหายได้ ในบิวด์ที่ทางเราแนะนำนี้มีความยืดหยุ่นอย่างมากเพราะสามารถสร้างความเสียหายจากการโจมตีปกติได้ด้วย โดยไม่ต้องมานั่งรอให้ศัตรูค่อย ๆ ตาย

อาวุธแนะนำ

Antspur Rapier

แก่นของบิวด์นี้คือ Antspur Rapier อันที่จริงในเกม Elden Ring มีอาวุธมากมายที่ทำให้ติดสถานะ Scarlet Rot ได้แต่มีเพียงอาวุธเพียงไม่กี่ชิ้นที่จะมีประสิทธิภาพเท่ากับอาวุธชิ้นนี้ มันไม่ได้มีเพียงท่วงท่าที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่มันยังสามารถทำให้ศัตรูติดสถานะ Scarlet Rot ได้รวดเร็วมากขึ้นจากการโจมที่รวดเร็วของดาบเล่มนี้นั้นเอง 

ไม่เพียงเท่านั้นแต่อาวุธอย่าง Anstspur Rapier เป็นหนึ่งในอาวุธของสาย Scarlet Rot เพียงไม่กี่ชิ้นที่สามารถใช้เถ้าสงคราม (Ashes of War) ซึ่งช่วยให้เราเปลี่ยนสเกลพลังของดาบเล่มนี้ได้ มันมีประโยชน์

จากที่กล่าวไปข้างต้น ขอแนะนำให้คุณ Antspur Rapier Occult เพื่อเพิ่มค่า Arcane ของคุณให้สูงที่สุด และนอกจากนี้ คุณสามารถใช้บัฟต่าง ๆ กับเจ้า Antspur Rapier เล่มนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากบิวด์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สามารถหาดาบเล่มนี้ได้จาก NPC ที่ชื่อว่า Maleigh Marais,Shaded Castle Castellan พบได้จากทางตะวันตกของ The Shaded Castle

*ในส่วนของอาวุธชิ้นอื่น ๆ คุณสามารถเลือกใช้อาวุธที่มีค่า Scarlet Rot ได้ตามใจชอบเลย

ตัวอย่างเวทมนต์

แม้ว่าสายนี้จะเน้นไปที่การโจมตีปกตอเพื่อให้ศัตรูติดสถานะ Scarlet Rot แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถใช้ทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับสายนี้ได้ เราให้คุณอัพค่า Faith มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสามารถใช้เวทมนต์อย่าง Rot Breath, Bloodflame Blade, Poison Armament เวทมนต์ทั้ง 3 มีผลกับสายนี้อย่างมาก และการใช้เวทมนต์ทั้ง 3 ในเวลาที่ต่างกัน จะช่วยเพิ่มความเสียหายให้กับคุณได้อย่างมาก โดยเวทมนต์ทั้งหมดนี้จะอยู่ใน Dragon Communion Seal 

• Rot Breath

ในส่วนของ Rot Breath จะช่วยเพิ่มความเสียหายและจะทำให้ศัตรูติดสถานะ Scarlet Rot อย่างรวดเร็ว สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องจัดการกับศัตรูกลุ่มใหญ่ เนื่องจากดาบ Antspur Rapier จะเน้นไปที่การสร้างความเสียหายใส่เป้าหมายเดี่ยวมากกว่า

• Bloodflame Blade 

ในส่วนของ Bloodflame Blade จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอาวุธของคุณด้วย Bloodflame ซึ่งจะทำให้ศัตรูติดสถานะ Blood Loss ด้วย แต่เวทมนต์นี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพและความรุนแรงเท่ากับ Rot Breath แต่เมื่อใช้คู่กันกับเวทมนต์ Poison Armament จะทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

•  Poison Armament

ในส่วนของ Poison Armament จะร่ายเวทมนต์นี้ใส่ตัวดาบของคุณ โดยจะเคลือบดาบในมือขวาของคุณไปด้วยพิษ และเวทมนต์นี้สามารถร่ายได้ในขณะที่เรากำลังเคลื่อนที่ได้ด้วย เมื่อใช้คู่กับ Bloodflame Blade จะทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Talisman

ในส่วนของ Talisman นั้น แต่ละคนก็อาจมีตัวเลือกที่ชอบต่างกันไป แต่ Talisman ที่เราแนะนำว่าเหมาะสมกับสาย Scarlet Rot เป็นอย่างมากก็มีอยู่เพียงชิ้นเดียวคือ Lord Of Blood's Exultation และคุณสามารถเลือใช้ Taliman อันอื่นได้ตามสถานการณ์หรือตามแต่ใจคุณชอบได้เลย

• Lord Of Blood's Exultation

Kindred Of Rot's Exultation เป็น Talisman ที่สำคัญที่สุด เพราะจะช่วยเพิ่มความเสียหายให้กับการโจมตีปกติของเรา ถ้าศัตรูติดสถานะ Scarlet Rot อยู่

• Erdtree's Favour

Erdtree's Faour ช่วยเพิ่ม Maximum ของ HP,Stamina และ Equip load ให้กับคุณ

• Dragoncrest GreatShield Talisman

Dragoncrest GreatShield Talisman จะช่วยลดความเสียหายกายทางกายภาพลงอย่างมาก ช่วยให้คุณมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น

• Pearldrake Talisman

Pearldrake Talisman จะช่วยลดความเสียหายที่ไม่ใช่ความเสียหายทางกายภาพลงอย่างมากให้กับคุณ มันจะช่วยให้คุณมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น

• Green Turtle

Green Turtle จะช่วยเพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูสเตมีน่า (Stamina) ให้กับคุณอย่างมาก Talisman อันนี้ทางเราแนะนำให้ใช้เพราะ Stamina ในเกมนี้ใช้ในเรื่องของการโจมตีและกลิ้งหลบ และมันยังทำให้คุณเล่นได้ดุดันขึ้นอีกด้วย

• Winged Sword Insignia

Talisman ตัวนี้จะเพิ่มพลังโจมตีขึ้นเมื่อเราสามารถโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาวุธสาย Scarlet Rot ส่วนใหญ่ต้องการจะทำความเสียหายหลายครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ อยู่แล้ว จึงเหมาะกับ Talisman ตัวนี้พอดี

ชุดเกราะ

หากจะให้ว่ากันตามตรง เกราะในเกม Elden Ring นั้นส่งผลต่อการเล่นโดยรวมไม่มากนัก โดยคำแนะนำกลาง ๆ ก็คือให้สวมเกราะที่ให้พลังป้องกันมากที่สุดโดยที่ไม่ทำให้น้ำหนักตัวของเราสูงเกินไปจนกลิ้งไม่ได้ จะมีก็เพียงช่องหมวกเท่านั้นที่อยากแนะนำให้ใส่:

• Mushroom Crown

นี้เป็นเกราะเพียงชิ้นเดียวที่จำเป็นในการทำบิวด์นี้และมันก็คือ Mushroom Crown หมวกอันนี้ทำงานคล้าย ๆ กับ Kindred Of Rot's Exultation (มันสามารถสแต็คกันได้) และเพิ่มความเสียหายในการโจมตีของคุณเมื่อศัตรูติดสถานะ Scarlet Rot

วิธีการหาหมวกชิ้นนี้ สามารถหาได้จากศพที่ห้อยลงมากจากซากปรักหักพังของเสาในมุมตะวันออกเฉียงใต้ของ Lake of Rot ปีนไปรอบ ๆ ซากปรักหักพังของเสาเพื่อเก็บมัน

สำหรับชุดเกราะที่เหลือ ให้ใส่ชุดที่ถึกที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ โดยให้ความสามารถในการกลิ้งของคุณอยู่ในระดับกลาง เพื่อให้คุณสามารถใช้ I-Frame ได้บ่อยและช่วยลดความเสียหายเวลาที่คุณพลาดโดนโจมตี คุณต้องเอาตัวรอดให้ได้มากที่สุด เพื่อให้สถานะ Scarlet Rot ของคุณค่อย ๆ ฆ่าศัตรู

Credit: THEGAMER,Elden Ring Wiki