GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Lies of P จักรกลผจญเมืองคลั่ง เกมโซลแต่เปี่ยมไปด้วยความเป็นตัวเองที่สนุกไม่แพ้กัน
ลงวันที่ 22/09/2023

หลังจากรอคอยกันมาอย่างยาวนาน เกม Souls-like ที่มีตัวเอกหน้าหล่อ แถมยังเป็นการหยิบเอาเรื่องราวของพินอคคิโอมาตีความใหม่แบบเข้มข้นขึ้นอย่าง Lies of P ก็ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเกมนี้จะเป็นยังไง คุ้มค่ากับการรอคอยหรือไม่ มาดูกันได้ในรีวิวของเรา 

ภารกิจผจญเมืองคลั่ง


ปกติแล้วเกมสไตล์โซลแบบนี้ มักจะมีเนื้อเรื่องแบบดารค์แฟนตาซียุคกลาง แต่ Lies of P ขอแหวกด้วยการหยิบยืมเอานวนิยายชื่อดังของโลกอย่าง The Adventures of Pinocchio ที่เล่าเรื่องราวของ Pinocchio หุ่นเชิดที่แตกต่างจากหุ่นเชิดตัวอื่น ๆ 

ในเกมนี้ เหล่าหุ่นเชิดถูกประดิษฐ์ขึ้นในเมือง Krat เมืองนี้ได้ค้นพบแหล่งพลังงานที่เรียกว่า Ergo และหุ่นเชิดก็ถูกใช้เป็นแรงงานเยี่ยงทาสเพื่อให้ทำงานให้กับมนุษย์ และเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิด Geppetto จึงคอยสั่งสอนและโปรแกรมเหล่าหุ่นเชิด เพื่อไม่ให้โกหกหรือโจมตีพวกมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดเหล่าหุ่นเชิดก็ก่อกบฎ เมือง Krat กลายเป็นนรกบนดิน ซ้ำร้ายยังเกิดโรคระบาดปริศนา ที่คนจะค่อย ๆ ตาบอด และกลายเป็นหิน แถมบางทีก็ทำให้กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดสุดสะพรึงได้

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Pinocchio ที่ตื่นมาบนขบวนรถไฟร้าง ตอนนี้ในเมือง Krat โดนพวกหุ่นเชิดก่อกบฎและยึดเมืองนี้เอาไว้แล้ว เราจะได้เดินทางไปถึงโรงแรม Krat และเจอกับหญิงสาวชื่อ Sophia และเราจะได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งนี้ หลัก ๆ เลยคือการตามหาผู้สร้างของเราอย่าง Geppetto และหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อกบฎในครั้งนี้


หากเทียบกับเกม Souls เกมอื่น ๆ หรือโดยเฉพาะกับต้นฉบับอย่าง FromSoftware นั้น Lies of P ถือว่าเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องชัดเจนและเป็นรูปเป็นร่างกว่ามาก แต่เราอาจจะต้องใช้เวลาในการตามหาเอกสาร อ่านบทสนทนา หรือพยายามออกสำรวจมุมเล็ก ๆ ต่าง ๆ ของเมือง จะมีไฟล์เอกสาร และข้อมูลต่าง ๆ ที่ช่วยบอกเล่าและขยายสถานการณ์ของตัวเกมและโลกในเกมเข้าไปให้ ดังนั้นขอแค่ผู้เล่นสำรวจ และอ่านให้เยอะ ยังไงก็รับรู้เรื่องราวของเกมแน่นอน ไม่ได้เหมือนเกมตระกูลโซลที่หลายอย่างจะปิดไว้ให้ผู้เล่นไปสำรวจ หรือตีความต่อเอาเอง และจังหวะการเล่าเรื่องของเกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี มีความสับสนน้อยกว่าเกมอื่น ๆ และเล่าเรื่องแบบเส้นตรงซะเป็นส่วนใหญ่ 


อย่างไรก็ตาม การจะเล่นเกมนี้ให้ครบจบสมบูรณ์นั้น จำเป็นจะต้องเล่นไม่ต่ำกว่า 3 รอบด้วยกัน และแต่ละรอบ การตัดสินใจสำคัญ ๆ จะมีส่วนที่ส่งผลกับตอนจบ ซึ่งการตัดสินใจสำคัญ ๆ นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือความรากเลือดของเกมนี้ที่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน และนี่แหละคือระบบเกมเพลย์ของเกมนี้

มนตร์เสน่ห์แห่งเมืองคลั่งที่ผสมความหลอนเอาไว้ได้อย่างลงตัว


ก่อนจะเข้าไปในเรื่องเกมเพลย์นั้น มีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือเรื่องของบรรยากาศและการนำเสนอของเกมนี้ นับตั้งแต่เกมเปิดตัว หลายคนก็นำเกมนี้ไปเทียบกับสุดยอดเกม Souls-like ในตำนาน ที่อายุอานามใกล้ 10 ปีเข้าไปแล้ว อย่าง Bloodborne เพราะความเป็น Dark Fantasy หรือ Gothic มืด ๆ หม่น ๆ เหมือนกัน จนกระทั่งเกมเต็มออกวางจำหน่าย เราก็รู้สึกว่า เกมนี้มีหลายอย่างที่ได้ Bloodborne เป็นแรงบันดาลใจจริง ๆ นับตั้งแต่บรรยากาศไปจนถึง NPC บางตัว

เมือง Krat ที่เป็นเมืองสมมติขึ้นมา แต่ดูแล้วก็น่าจะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากยุควิคตอเรียนของอังกฤษ ทั้งสถาปัตยกรรมรูปแบบต่าง ๆ สิ่งของ ตึก อาคาร เหมือนเราได้ย้อนไปเที่ยวอังกฤษยุคเก่ากันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ใครชอบเกมที่มีการดีไซน์ฉากหรือเมืองสวย ๆ รับรองว่าชอบเกมนี้ นอกจากนั้น แม้เกมนี้จะไม่มีระบบกลางวัน กลางคืนแบบ Fix แต่การไปในแต่ละสถานที่ อาจจะเกิดช่วงเวลาขึ้นแบบสุ่ม เช่นเป็นช่วงกลางคืนแบบเต็มตัว เป็นช่วงเย็นที่แสงอาทิตย์กำลังโพล้เพล้ หรือเป็นช่วงกลางวันที่เมฆหมอกหนา ระบบนี้ทำให้การเล่นเกมของเรามีอรรถรสมากยิ่งขึ้น หรือเปลี่ยน Mood ของเกมกันไปเลย อย่างเช่นการไปเจอศัตรูสุดสยองในช่วงเวลากลางคืนก็แทบจะเปลี่ยนให้เกมกลายไปเป็นเกม Horror เลยก็ว่าได้ หรือถ้าไปเจอฝูงศัตรูหุ่นยนต์ตอนกลางวัน ก็อาจจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเกมแอ็คชั่นทั่วไป ระบบนี้ถือว่าเวิร์คมาก และอาจจะมีค่ายอื่น ๆ หยิบไปสานต่อเพิ่มในภายหลังได้ 


การออกแบบและดีไซน์แผนที่ ใครที่เคยเล่นพวกเกมตระกูล Souls ก็น่าจะเข้าใจได้ดี มันจะเป็นทางเดียวไปต่อเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะไปเจอบอสหรือศัตรูระดับ Elite ซึ่งถ้าเราจัดการมันลงได้ อาจจะเป็นการปลดล็อค Shortcut หรือทางลัดให้เส้นทางเชื่อมต่อกันอย่างง่าย ๆ ตามสไตล์ของเกมแนว Souls-like และนอกจากนั้น บางฉากยังดีไซน์ฉากแบบแนวดิ่ง ผสมแพลตฟอร์ม คือผู้เล่นจะต้องค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นที่สูงไปเรื่อย ๆ เพื่อไปต่อ และมีอุปสรรคเป็นฉาก รวมไปถึงศัตรู บางทีขึ้นไปสูงมาก แต่โดนสกัดตกลงมาตาย หรือร่วงลงมาที่แรก ก็แทบจะกลายเป็นความพยายามอันไร้ค่า นอกเสียจากการเรียนรู้ ทำให้เกมนี้ หัวอุ่นกับศัตรูไม่พอ ยังต้องมาหัวอุ่นกับฉากอีกด้วย และเกมนี้ค่อนข้างจะท้าทายฝีมือผู้เล่นอยู่พอสมควร เพราะจุด Stargazer ที่เปรียบเสมือนกับ Bonfire หรือ Checkpoint นั้น จะค่อนข้างอยู๋ไกลจากจุดไปต่อมากพอสมควร ดังนั้นในเรื่องความยากและความท้าทายนั้น Lies of P ไม่เป็นสองรองใครเลยจริง ๆ 


และใครที่หลงทางง่าย อาจจะมีปัญหากับระบบแผนที่ในเกมนี้กันซะหน่อย นอกจากเกมนี้จะไม่มีแผนที่เพราะเป็นปกติของเกมแนวนี้อยู่แล้ว แต่ในช่วงกลางเกมขึ้นไป แผนที่จะค่อนข้างมีความซับซ้อนมาก เราจำเป็นจะต้องอาศัยความจำของตัวเอง เท่านั้นยังไม่พอ อุปสรรคระหว่างฉากก็ไม่ได้มีแค่ศัตรู เราอาจจะเจอกับดัก เจอบ่อพิษ เจอศัตรูปาระเบิดไฟใส่จนติดสถานะต่าง ๆ เรียกได้ว่า กว่าจะฝ่าจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งได้ อาจรีดเอาพลังงานคนเล่นมาใช้จนหมดเลยทีเดียว

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถือว่า Lies of P นั้น ออกแบบเกมมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในส่วนของบรรยากาศตัวเมือง และระบบการเล่น และส่วนต่อไปคือ Gameplay ที่ต้องบอกว่า ยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย

แรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม แต่ก็ใส่ความเป็นตัวเองเอาไว้อย่างเต็มที่


ปกติแล้ว เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตระกูล Souls ส่วนมากจะหนีไม่พ้นเรื่องของความยากเป็นทุนเดิม และไม่ค่อยต่อยอดอะไรใหม่ ๆ เข้าไปมากนัก แต่ Lies of P สรรหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะทำให้การเล่นของผู้เล่นสนุกขึ้น แต่ยังคงไว้ลายซึ่งความยากชนิดปาจอยทิ้งและชวนถอดใจอย่างมาก อย่างแรกที่ต้องเรียนรู้กันก่อนเลยก็คือ ระบบการป้องกันและการ Parry ของเกมนี้ ที่วัดฝีมือผู้เล่นอย่างมาก การกดป้องกันอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้ผู้เล่นรอดจากการโดนดาเมจ เพราะพลังชีวิตของเราจะลดลง และหลอดเลือดจะขึ้นเป็นสีเทา ๆ อยู่ ระบบนี้จะคล้าย ๆ กับ Bloodborne โดยหากเรารีบเข้าไปโจมตีคืนในช่วงที่หลอดพลังชีวิตเป็นสีเทา ๆ อยู่นั้น เราจะมีโอกาสได้พลังชีวิตคืน ดังนั้นหากคุณ Perfect Parry ไม่เก่ง หากโดนโจมตีแล้วก็ต้องรีบสวนคืนเพื่อชิงเอาพลังชีวิตคืนมา

ส่วนอีกแบบหนึ่งคือระบบ Perfect Parry การจะกดป้องกันด้วยระบบนี้ คือผู้เล่นจะต้องกดป้องกันในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ศัตรูโจมตีเข้ามาแบบเป๊ะ ๆ 100% ห้ามช้ากว่าหรือเร็วกว่า เสี้ยววินาทีก็ไม่ได้ หาก Perfect Parry ติดจะเกิดเป็นแสงและเสียงสีแดงที่เห็นได้ชัดเจนมาก การป้องกันประเภทนี้ผู้เล่นจะไม่ได้รับดาเมจใด ๆ เลย และมีโอกาสที่จะเป็นการทำลายอาวุธของศัตรูอีกด้วย แต่การ Perfect Parry นี้ก็ถือว่าทำได้ยากเอาเรื่อง สำหรับคนที่เป็นมือใหม่เกมตระกูลนี้ อาจจะต้องฝึกและเรียนรู้กันพอสมควร 


และเกมนี้ยังมีระบบหลากหลายอย่างที่เกมโซลเกมอื่นไม่มี ยกตัวอย่างเช่นระบบผสมอาวุธ โดยระหว่างการผจญภัย หากเราออกสำรวจหรือสังหารบอสลงได้ ก็มีโอกาสที่จะได้รับอาวุธเป็นเซ็ต โดยจะแบ่งเป็นส่วนของหัวอาวุธและด้ามอาวุธ เราสามารถสลับส่วนหัวและด้ามไปให้กับอาวุธชิ้นใดก็ได้แล้วแต่ความสะดวก แต่ก็ต้องดูเรื่องของการคำนวณค่าสเตตัสว่าเมื่อผสมอาวุธกันไปแล้ว จะยังสามารถใส่เพื่อใช้งานได้หรือไม่ ระบบนี้ทำให้เกิดความหลากหลายในการเล่นเป็นอย่างมาก โดยอาวุธก็จะมีหลายแบบ ทั้งแบบคม แบบทื่อ แบบใหญ่ แบบเล็ก การใช้อาวุธที่ต่างกันจะส่งผลต่อน้ำหนักตัวละคร รวมไปถึงการใช้ Stamina ในแต่ละครั้งที่เราโจมตีด้วย นอกเหนือไปจากนั้นเราสามารถพกของใน Extra Bag ไปได้อีก 4 ชิ้น โดยจะเป็นทั้งของขว้างระยะไกลที่จะช่วยให้เรากำจัดศัตรูที่เกินระยะการโจมตี หรือจะเป็นไอเทมน้ำยาบัฟ หรือลบล้างสถานะต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นจะบริหารจัดการอย่างไร

และเกมนี้เราจำเป็นจะต้องคอยซ่อมแซมอาวุธของตัวเองตลอดเวลา อย่าตีเพลินจนลืมดู เพราะถ้าอาวุธพังจนหลอดแดง เราจะไม่สามารถใช้เลื่อยยนต์ที่ติดตัวอยู่ซ่อมอาวุธได้ ต้องกลับไปซ่อมที่ Stargazer เท่านั้น แต่เราสามารถพกอาวุธติดตัวเอาไว้ได้ 2 ชิ้น และกดสลับได้ง่าย ๆ จากหน้าเมนูตัวละคร แต่ทางที่ดีอาวุธไหนใช้เป็นหลักก็พยายามอย่าให้มันพังระหว่างทางจะเล่นได้ง่ายกว่า 


และอีกทีเด็ดของเกมนี้คือระบบ Legion Arm หรืออาวุธแขนกลที่ติดอยู่ที่มือซ้ายของตัว Pinocchio โดย Legion Arm นี้จะมีหลายแบบให้เราได้เลือกใช้งาน และมันจะมีความสามารถที่ต่างกันออกไปด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ Arm ไหน โดย Arm แต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติในการใช้งานไม่เหมือนกัน บางประเภทเน้นทำดาเมจ บางประเภทเน้นขัดจังหวะศัตรูและสร้างสถานะพิเศษ ดังนั้นการคอมโบระหว่างอาวุธที่เหมาะสมกับ Arm ที่ดี อาจจะทำให้เกมนี้เล่นได้สะดวกสบายมากขึ้น และแน่นอนว่าทั้งอาวุธและ Legion Arm และทั้งอาวุธและ Legion Arm นั้น สามารถเก็บ Ergo หน่วยเงินของเกมนี้มาอัปเกรดได้ทั้งหมด

สิ่งแรกที่เราแนะนำในการเข้ามาเหยียบเกมนี้เลยคือ พยายามเรียนรู้ที่จะใช้ Perfect Parry หรือการตั้งการ์ดก่อน เพราะเกมนี้จะมีระบบที่ต่างไปจากเกมโซลเกมอื่น ๆ หากเราเอาหน้าไถโดยไม่รู้อะไรเลย รับรองว่ายังไงก็ไม่รอด บอสไฟท์แต่ละตัวยังมาพร้อมกับมหึมายิ่งใหญ่ตามสไตล์เกมประเภทนี้ แต่เกมก็ไม่ได้ใจร้าย การ Perfect Parry นั้น ถือว่าปรับปรุงมาได้ดีจากช่วง Demo รวมไปถึงมีจังหวะ i-Frame ให้ได้พักหายใจหายคอกันได้เยอะขึ้น แต่ยังคงต้องระวังค่าสถานะพิเศษที่มาจากแหล่งต่าง ๆ อย่างเช่นการ Overheat ที่มาจากการติดไฟ ที่จะลดพลังชีวิตเราไปเรื่อย ๆ หรือแสบมาก ๆ อย่าง Decay ที่เมื่อโดนจนเต็มหลอด มันจะกัดกร่อนความคงทนของอาวุธเราไปเรื่อย ๆ ดังนั้นก่อนออกรบจากจุด Checkpoint ที่ต้องเตรียมเลยคือพวกน้ำยาลบล้างสถานะต่าง ๆ เพราะถ้าโดนขึ้นมาแล้วไม่มียาแก้ เกมจะเล่นยากขึ้นอีกหลายเท่า


ลูกเล่นอื่น ๆ ที่ช่วยให้เราต่อสู้ได้ก็ยังมีทั้งการเคลือบธาตุอาวุธ โดยใช้ไอเทมพิเศษ ที่จะช่วยทำให้อาวุธของเราสามารถสร้างดีบัฟเอฟเฟกต์ให้กับศัตรูได้ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นช็อตไฟฟ้า หรือเผาศัตรู ซึ่งสถานะส่วนมากก็จะเป็นแบบเดียวกับที่ศัตรูทำใส่เราได้ เพียงแต่พอเราทำใส่ศัตรูบ้าง ก็เหมือนโดนเนิร์ฟลงซะอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ระบบนี้เป็นการบอกเราว่า หนทางชนะไม่ได้มีแค่การเอาหน้าเข้าไปไถ ปะทะกับศัตรูโดยตรง เราสามารถใช้ทริค เทคนิค Legion Arm และสกิลต่าง ๆ ผสมผสานกันเป็นสุดยอดการโจมตีที่หลากหลายได้

ส่วนระบบการอัปเกรดตัวละครนั้น ก็จะยังคงใช้แบบเดียวกันกับเกมโซล นั่นคือการเก็บสะสม Ergo หรือแต้มเงินประจำเกมนี้ เจ้า Ergo นี้ได้จากการต่อสู้กบัมอนสเตอร์ทุกระดับ ทุกประเภท และยังมีโอกาสได้มาในรูปแบบของก้อนพลังให้กดใช้แล้วจะได้ทีละจำนวนมาก ๆ โดยเราสามารถกลับมาที่โรงแรม Krat ที่เป็นเหมือนกับ HUB ของเกมนี้ เราจะได้เจอกับ NPC สำคัญ ๆ อย่างเช่น Sophia ที่เอาไว้อัปเลเวลตัวละคร และแบ่งค่าสเตตัสที่เราเลือกได้ว่าจะเล่นสายใด ตีแรง แบกของเยอะ พลังชีวิตเยอะ หรือหลอดท่าพิเศษเยอะขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้ Pinocchio ของเรานั้น โดดเด่นในด้านใด และนอกเหนือไปจากนี้ ใครที่ผ่านประสบการณ์เกมโซลมาเยอะ ๆ ก็น่าจะรู้วิธีสู้ วิธีเอาชนะกันหมดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของผู้เล่นแต่ละคน ว่าจะยอมโดนเกมนี้นวดอีกกี่ยกถึงจะเข้ามือ


Lies of P ถือเป็นเกมที่ค่อนข้างผิดคาด จากที่หลายคนแอบเผื่อใจไว้ว่ามันจะแป้ก แต่ท้ายที่สุดมันก็ทำออกมาได้ดีในทุกแง่มุม ยิ่งดูเครดิตรายชื่อผู้สร้าง จะเห็นว่านี่คือผลงานของสตูดิโอชาวเกาหลีล้วน ยิ่งทำให้เห็นว่า อีกไม่นาน เกาหลีอาจจะผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์ต้น ๆ ในวงการเกม เพราะเขารู้แล้วว่าอะไรคือจุดแข็ง อะไรคือจุดอ่อน และจะปรับยังไงให้มันสนุก และสมดุล งานนี้รอดูกันในอนาคตเลยว่า ทีมทำเกมจากเกาหลี หรือทีมนี้นี่แหละ จะมีงานอะไรเด่น ๆ ออกมาให้เราได้ว้าวกันอีกบ้าง

7
ข้อดี

- กราฟิกและงานศิลป์ของเกม สวยงามมาก แต่ไม่กินสเปค

- เนื้อเรื่องแม้จะไม่ค่อยซับซ้อน แต่ก็มีเสน่ห์น่าติดตามชวนให้เล่นต่อ

- ระบบต่อสู้ท้าทายถึงใจ และมีทางเลือกที่หลากหลาย

- คุณค่าการเล่นซ้ำเยอะ

ข้อเสีย

- มันอาจจะยากและไม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้ 

9
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Lies of P จักรกลผจญเมืองคลั่ง เกมโซลแต่เปี่ยมไปด้วยความเป็นตัวเองที่สนุกไม่แพ้กัน
22/09/2023

หลังจากรอคอยกันมาอย่างยาวนาน เกม Souls-like ที่มีตัวเอกหน้าหล่อ แถมยังเป็นการหยิบเอาเรื่องราวของพินอคคิโอมาตีความใหม่แบบเข้มข้นขึ้นอย่าง Lies of P ก็ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเกมนี้จะเป็นยังไง คุ้มค่ากับการรอคอยหรือไม่ มาดูกันได้ในรีวิวของเรา 

ภารกิจผจญเมืองคลั่ง


ปกติแล้วเกมสไตล์โซลแบบนี้ มักจะมีเนื้อเรื่องแบบดารค์แฟนตาซียุคกลาง แต่ Lies of P ขอแหวกด้วยการหยิบยืมเอานวนิยายชื่อดังของโลกอย่าง The Adventures of Pinocchio ที่เล่าเรื่องราวของ Pinocchio หุ่นเชิดที่แตกต่างจากหุ่นเชิดตัวอื่น ๆ 

ในเกมนี้ เหล่าหุ่นเชิดถูกประดิษฐ์ขึ้นในเมือง Krat เมืองนี้ได้ค้นพบแหล่งพลังงานที่เรียกว่า Ergo และหุ่นเชิดก็ถูกใช้เป็นแรงงานเยี่ยงทาสเพื่อให้ทำงานให้กับมนุษย์ และเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดคิด Geppetto จึงคอยสั่งสอนและโปรแกรมเหล่าหุ่นเชิด เพื่อไม่ให้โกหกหรือโจมตีพวกมนุษย์ แต่ท้ายที่สุดเหล่าหุ่นเชิดก็ก่อกบฎ เมือง Krat กลายเป็นนรกบนดิน ซ้ำร้ายยังเกิดโรคระบาดปริศนา ที่คนจะค่อย ๆ ตาบอด และกลายเป็นหิน แถมบางทีก็ทำให้กลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดสุดสะพรึงได้

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Pinocchio ที่ตื่นมาบนขบวนรถไฟร้าง ตอนนี้ในเมือง Krat โดนพวกหุ่นเชิดก่อกบฎและยึดเมืองนี้เอาไว้แล้ว เราจะได้เดินทางไปถึงโรงแรม Krat และเจอกับหญิงสาวชื่อ Sophia และเราจะได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งนี้ หลัก ๆ เลยคือการตามหาผู้สร้างของเราอย่าง Geppetto และหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ก่อกบฎในครั้งนี้


หากเทียบกับเกม Souls เกมอื่น ๆ หรือโดยเฉพาะกับต้นฉบับอย่าง FromSoftware นั้น Lies of P ถือว่าเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องชัดเจนและเป็นรูปเป็นร่างกว่ามาก แต่เราอาจจะต้องใช้เวลาในการตามหาเอกสาร อ่านบทสนทนา หรือพยายามออกสำรวจมุมเล็ก ๆ ต่าง ๆ ของเมือง จะมีไฟล์เอกสาร และข้อมูลต่าง ๆ ที่ช่วยบอกเล่าและขยายสถานการณ์ของตัวเกมและโลกในเกมเข้าไปให้ ดังนั้นขอแค่ผู้เล่นสำรวจ และอ่านให้เยอะ ยังไงก็รับรู้เรื่องราวของเกมแน่นอน ไม่ได้เหมือนเกมตระกูลโซลที่หลายอย่างจะปิดไว้ให้ผู้เล่นไปสำรวจ หรือตีความต่อเอาเอง และจังหวะการเล่าเรื่องของเกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี มีความสับสนน้อยกว่าเกมอื่น ๆ และเล่าเรื่องแบบเส้นตรงซะเป็นส่วนใหญ่ 


อย่างไรก็ตาม การจะเล่นเกมนี้ให้ครบจบสมบูรณ์นั้น จำเป็นจะต้องเล่นไม่ต่ำกว่า 3 รอบด้วยกัน และแต่ละรอบ การตัดสินใจสำคัญ ๆ จะมีส่วนที่ส่งผลกับตอนจบ ซึ่งการตัดสินใจสำคัญ ๆ นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือความรากเลือดของเกมนี้ที่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน และนี่แหละคือระบบเกมเพลย์ของเกมนี้

มนตร์เสน่ห์แห่งเมืองคลั่งที่ผสมความหลอนเอาไว้ได้อย่างลงตัว


ก่อนจะเข้าไปในเรื่องเกมเพลย์นั้น มีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือเรื่องของบรรยากาศและการนำเสนอของเกมนี้ นับตั้งแต่เกมเปิดตัว หลายคนก็นำเกมนี้ไปเทียบกับสุดยอดเกม Souls-like ในตำนาน ที่อายุอานามใกล้ 10 ปีเข้าไปแล้ว อย่าง Bloodborne เพราะความเป็น Dark Fantasy หรือ Gothic มืด ๆ หม่น ๆ เหมือนกัน จนกระทั่งเกมเต็มออกวางจำหน่าย เราก็รู้สึกว่า เกมนี้มีหลายอย่างที่ได้ Bloodborne เป็นแรงบันดาลใจจริง ๆ นับตั้งแต่บรรยากาศไปจนถึง NPC บางตัว

เมือง Krat ที่เป็นเมืองสมมติขึ้นมา แต่ดูแล้วก็น่าจะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากยุควิคตอเรียนของอังกฤษ ทั้งสถาปัตยกรรมรูปแบบต่าง ๆ สิ่งของ ตึก อาคาร เหมือนเราได้ย้อนไปเที่ยวอังกฤษยุคเก่ากันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ใครชอบเกมที่มีการดีไซน์ฉากหรือเมืองสวย ๆ รับรองว่าชอบเกมนี้ นอกจากนั้น แม้เกมนี้จะไม่มีระบบกลางวัน กลางคืนแบบ Fix แต่การไปในแต่ละสถานที่ อาจจะเกิดช่วงเวลาขึ้นแบบสุ่ม เช่นเป็นช่วงกลางคืนแบบเต็มตัว เป็นช่วงเย็นที่แสงอาทิตย์กำลังโพล้เพล้ หรือเป็นช่วงกลางวันที่เมฆหมอกหนา ระบบนี้ทำให้การเล่นเกมของเรามีอรรถรสมากยิ่งขึ้น หรือเปลี่ยน Mood ของเกมกันไปเลย อย่างเช่นการไปเจอศัตรูสุดสยองในช่วงเวลากลางคืนก็แทบจะเปลี่ยนให้เกมกลายไปเป็นเกม Horror เลยก็ว่าได้ หรือถ้าไปเจอฝูงศัตรูหุ่นยนต์ตอนกลางวัน ก็อาจจะเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเกมแอ็คชั่นทั่วไป ระบบนี้ถือว่าเวิร์คมาก และอาจจะมีค่ายอื่น ๆ หยิบไปสานต่อเพิ่มในภายหลังได้ 


การออกแบบและดีไซน์แผนที่ ใครที่เคยเล่นพวกเกมตระกูล Souls ก็น่าจะเข้าใจได้ดี มันจะเป็นทางเดียวไปต่อเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะไปเจอบอสหรือศัตรูระดับ Elite ซึ่งถ้าเราจัดการมันลงได้ อาจจะเป็นการปลดล็อค Shortcut หรือทางลัดให้เส้นทางเชื่อมต่อกันอย่างง่าย ๆ ตามสไตล์ของเกมแนว Souls-like และนอกจากนั้น บางฉากยังดีไซน์ฉากแบบแนวดิ่ง ผสมแพลตฟอร์ม คือผู้เล่นจะต้องค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นที่สูงไปเรื่อย ๆ เพื่อไปต่อ และมีอุปสรรคเป็นฉาก รวมไปถึงศัตรู บางทีขึ้นไปสูงมาก แต่โดนสกัดตกลงมาตาย หรือร่วงลงมาที่แรก ก็แทบจะกลายเป็นความพยายามอันไร้ค่า นอกเสียจากการเรียนรู้ ทำให้เกมนี้ หัวอุ่นกับศัตรูไม่พอ ยังต้องมาหัวอุ่นกับฉากอีกด้วย และเกมนี้ค่อนข้างจะท้าทายฝีมือผู้เล่นอยู่พอสมควร เพราะจุด Stargazer ที่เปรียบเสมือนกับ Bonfire หรือ Checkpoint นั้น จะค่อนข้างอยู๋ไกลจากจุดไปต่อมากพอสมควร ดังนั้นในเรื่องความยากและความท้าทายนั้น Lies of P ไม่เป็นสองรองใครเลยจริง ๆ 


และใครที่หลงทางง่าย อาจจะมีปัญหากับระบบแผนที่ในเกมนี้กันซะหน่อย นอกจากเกมนี้จะไม่มีแผนที่เพราะเป็นปกติของเกมแนวนี้อยู่แล้ว แต่ในช่วงกลางเกมขึ้นไป แผนที่จะค่อนข้างมีความซับซ้อนมาก เราจำเป็นจะต้องอาศัยความจำของตัวเอง เท่านั้นยังไม่พอ อุปสรรคระหว่างฉากก็ไม่ได้มีแค่ศัตรู เราอาจจะเจอกับดัก เจอบ่อพิษ เจอศัตรูปาระเบิดไฟใส่จนติดสถานะต่าง ๆ เรียกได้ว่า กว่าจะฝ่าจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งได้ อาจรีดเอาพลังงานคนเล่นมาใช้จนหมดเลยทีเดียว

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ถือว่า Lies of P นั้น ออกแบบเกมมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในส่วนของบรรยากาศตัวเมือง และระบบการเล่น และส่วนต่อไปคือ Gameplay ที่ต้องบอกว่า ยอดเยี่ยมเกินความคาดหมาย

แรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม แต่ก็ใส่ความเป็นตัวเองเอาไว้อย่างเต็มที่


ปกติแล้ว เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตระกูล Souls ส่วนมากจะหนีไม่พ้นเรื่องของความยากเป็นทุนเดิม และไม่ค่อยต่อยอดอะไรใหม่ ๆ เข้าไปมากนัก แต่ Lies of P สรรหาวิธีใหม่ ๆ ที่จะทำให้การเล่นของผู้เล่นสนุกขึ้น แต่ยังคงไว้ลายซึ่งความยากชนิดปาจอยทิ้งและชวนถอดใจอย่างมาก อย่างแรกที่ต้องเรียนรู้กันก่อนเลยก็คือ ระบบการป้องกันและการ Parry ของเกมนี้ ที่วัดฝีมือผู้เล่นอย่างมาก การกดป้องกันอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้ผู้เล่นรอดจากการโดนดาเมจ เพราะพลังชีวิตของเราจะลดลง และหลอดเลือดจะขึ้นเป็นสีเทา ๆ อยู่ ระบบนี้จะคล้าย ๆ กับ Bloodborne โดยหากเรารีบเข้าไปโจมตีคืนในช่วงที่หลอดพลังชีวิตเป็นสีเทา ๆ อยู่นั้น เราจะมีโอกาสได้พลังชีวิตคืน ดังนั้นหากคุณ Perfect Parry ไม่เก่ง หากโดนโจมตีแล้วก็ต้องรีบสวนคืนเพื่อชิงเอาพลังชีวิตคืนมา

ส่วนอีกแบบหนึ่งคือระบบ Perfect Parry การจะกดป้องกันด้วยระบบนี้ คือผู้เล่นจะต้องกดป้องกันในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ศัตรูโจมตีเข้ามาแบบเป๊ะ ๆ 100% ห้ามช้ากว่าหรือเร็วกว่า เสี้ยววินาทีก็ไม่ได้ หาก Perfect Parry ติดจะเกิดเป็นแสงและเสียงสีแดงที่เห็นได้ชัดเจนมาก การป้องกันประเภทนี้ผู้เล่นจะไม่ได้รับดาเมจใด ๆ เลย และมีโอกาสที่จะเป็นการทำลายอาวุธของศัตรูอีกด้วย แต่การ Perfect Parry นี้ก็ถือว่าทำได้ยากเอาเรื่อง สำหรับคนที่เป็นมือใหม่เกมตระกูลนี้ อาจจะต้องฝึกและเรียนรู้กันพอสมควร 


และเกมนี้ยังมีระบบหลากหลายอย่างที่เกมโซลเกมอื่นไม่มี ยกตัวอย่างเช่นระบบผสมอาวุธ โดยระหว่างการผจญภัย หากเราออกสำรวจหรือสังหารบอสลงได้ ก็มีโอกาสที่จะได้รับอาวุธเป็นเซ็ต โดยจะแบ่งเป็นส่วนของหัวอาวุธและด้ามอาวุธ เราสามารถสลับส่วนหัวและด้ามไปให้กับอาวุธชิ้นใดก็ได้แล้วแต่ความสะดวก แต่ก็ต้องดูเรื่องของการคำนวณค่าสเตตัสว่าเมื่อผสมอาวุธกันไปแล้ว จะยังสามารถใส่เพื่อใช้งานได้หรือไม่ ระบบนี้ทำให้เกิดความหลากหลายในการเล่นเป็นอย่างมาก โดยอาวุธก็จะมีหลายแบบ ทั้งแบบคม แบบทื่อ แบบใหญ่ แบบเล็ก การใช้อาวุธที่ต่างกันจะส่งผลต่อน้ำหนักตัวละคร รวมไปถึงการใช้ Stamina ในแต่ละครั้งที่เราโจมตีด้วย นอกเหนือไปจากนั้นเราสามารถพกของใน Extra Bag ไปได้อีก 4 ชิ้น โดยจะเป็นทั้งของขว้างระยะไกลที่จะช่วยให้เรากำจัดศัตรูที่เกินระยะการโจมตี หรือจะเป็นไอเทมน้ำยาบัฟ หรือลบล้างสถานะต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นจะบริหารจัดการอย่างไร

และเกมนี้เราจำเป็นจะต้องคอยซ่อมแซมอาวุธของตัวเองตลอดเวลา อย่าตีเพลินจนลืมดู เพราะถ้าอาวุธพังจนหลอดแดง เราจะไม่สามารถใช้เลื่อยยนต์ที่ติดตัวอยู่ซ่อมอาวุธได้ ต้องกลับไปซ่อมที่ Stargazer เท่านั้น แต่เราสามารถพกอาวุธติดตัวเอาไว้ได้ 2 ชิ้น และกดสลับได้ง่าย ๆ จากหน้าเมนูตัวละคร แต่ทางที่ดีอาวุธไหนใช้เป็นหลักก็พยายามอย่าให้มันพังระหว่างทางจะเล่นได้ง่ายกว่า 


และอีกทีเด็ดของเกมนี้คือระบบ Legion Arm หรืออาวุธแขนกลที่ติดอยู่ที่มือซ้ายของตัว Pinocchio โดย Legion Arm นี้จะมีหลายแบบให้เราได้เลือกใช้งาน และมันจะมีความสามารถที่ต่างกันออกไปด้วย ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ Arm ไหน โดย Arm แต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติในการใช้งานไม่เหมือนกัน บางประเภทเน้นทำดาเมจ บางประเภทเน้นขัดจังหวะศัตรูและสร้างสถานะพิเศษ ดังนั้นการคอมโบระหว่างอาวุธที่เหมาะสมกับ Arm ที่ดี อาจจะทำให้เกมนี้เล่นได้สะดวกสบายมากขึ้น และแน่นอนว่าทั้งอาวุธและ Legion Arm และทั้งอาวุธและ Legion Arm นั้น สามารถเก็บ Ergo หน่วยเงินของเกมนี้มาอัปเกรดได้ทั้งหมด

สิ่งแรกที่เราแนะนำในการเข้ามาเหยียบเกมนี้เลยคือ พยายามเรียนรู้ที่จะใช้ Perfect Parry หรือการตั้งการ์ดก่อน เพราะเกมนี้จะมีระบบที่ต่างไปจากเกมโซลเกมอื่น ๆ หากเราเอาหน้าไถโดยไม่รู้อะไรเลย รับรองว่ายังไงก็ไม่รอด บอสไฟท์แต่ละตัวยังมาพร้อมกับมหึมายิ่งใหญ่ตามสไตล์เกมประเภทนี้ แต่เกมก็ไม่ได้ใจร้าย การ Perfect Parry นั้น ถือว่าปรับปรุงมาได้ดีจากช่วง Demo รวมไปถึงมีจังหวะ i-Frame ให้ได้พักหายใจหายคอกันได้เยอะขึ้น แต่ยังคงต้องระวังค่าสถานะพิเศษที่มาจากแหล่งต่าง ๆ อย่างเช่นการ Overheat ที่มาจากการติดไฟ ที่จะลดพลังชีวิตเราไปเรื่อย ๆ หรือแสบมาก ๆ อย่าง Decay ที่เมื่อโดนจนเต็มหลอด มันจะกัดกร่อนความคงทนของอาวุธเราไปเรื่อย ๆ ดังนั้นก่อนออกรบจากจุด Checkpoint ที่ต้องเตรียมเลยคือพวกน้ำยาลบล้างสถานะต่าง ๆ เพราะถ้าโดนขึ้นมาแล้วไม่มียาแก้ เกมจะเล่นยากขึ้นอีกหลายเท่า


ลูกเล่นอื่น ๆ ที่ช่วยให้เราต่อสู้ได้ก็ยังมีทั้งการเคลือบธาตุอาวุธ โดยใช้ไอเทมพิเศษ ที่จะช่วยทำให้อาวุธของเราสามารถสร้างดีบัฟเอฟเฟกต์ให้กับศัตรูได้ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นช็อตไฟฟ้า หรือเผาศัตรู ซึ่งสถานะส่วนมากก็จะเป็นแบบเดียวกับที่ศัตรูทำใส่เราได้ เพียงแต่พอเราทำใส่ศัตรูบ้าง ก็เหมือนโดนเนิร์ฟลงซะอย่างนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ระบบนี้เป็นการบอกเราว่า หนทางชนะไม่ได้มีแค่การเอาหน้าเข้าไปไถ ปะทะกับศัตรูโดยตรง เราสามารถใช้ทริค เทคนิค Legion Arm และสกิลต่าง ๆ ผสมผสานกันเป็นสุดยอดการโจมตีที่หลากหลายได้

ส่วนระบบการอัปเกรดตัวละครนั้น ก็จะยังคงใช้แบบเดียวกันกับเกมโซล นั่นคือการเก็บสะสม Ergo หรือแต้มเงินประจำเกมนี้ เจ้า Ergo นี้ได้จากการต่อสู้กบัมอนสเตอร์ทุกระดับ ทุกประเภท และยังมีโอกาสได้มาในรูปแบบของก้อนพลังให้กดใช้แล้วจะได้ทีละจำนวนมาก ๆ โดยเราสามารถกลับมาที่โรงแรม Krat ที่เป็นเหมือนกับ HUB ของเกมนี้ เราจะได้เจอกับ NPC สำคัญ ๆ อย่างเช่น Sophia ที่เอาไว้อัปเลเวลตัวละคร และแบ่งค่าสเตตัสที่เราเลือกได้ว่าจะเล่นสายใด ตีแรง แบกของเยอะ พลังชีวิตเยอะ หรือหลอดท่าพิเศษเยอะขึ้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้ Pinocchio ของเรานั้น โดดเด่นในด้านใด และนอกเหนือไปจากนี้ ใครที่ผ่านประสบการณ์เกมโซลมาเยอะ ๆ ก็น่าจะรู้วิธีสู้ วิธีเอาชนะกันหมดแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามของผู้เล่นแต่ละคน ว่าจะยอมโดนเกมนี้นวดอีกกี่ยกถึงจะเข้ามือ


Lies of P ถือเป็นเกมที่ค่อนข้างผิดคาด จากที่หลายคนแอบเผื่อใจไว้ว่ามันจะแป้ก แต่ท้ายที่สุดมันก็ทำออกมาได้ดีในทุกแง่มุม ยิ่งดูเครดิตรายชื่อผู้สร้าง จะเห็นว่านี่คือผลงานของสตูดิโอชาวเกาหลีล้วน ยิ่งทำให้เห็นว่า อีกไม่นาน เกาหลีอาจจะผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์ต้น ๆ ในวงการเกม เพราะเขารู้แล้วว่าอะไรคือจุดแข็ง อะไรคือจุดอ่อน และจะปรับยังไงให้มันสนุก และสมดุล งานนี้รอดูกันในอนาคตเลยว่า ทีมทำเกมจากเกาหลี หรือทีมนี้นี่แหละ จะมีงานอะไรเด่น ๆ ออกมาให้เราได้ว้าวกันอีกบ้าง


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header