GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Gravity Circuit แรงบันดาลใจจาก Mega Man แบบจัดเต็ม แต่ก็ยังมีความเป็นตัวเองที่โดดเด่นจนไม่ควรพลาด
ลงวันที่ 28/07/2023

Capcom มัวแต่ห่วงแฟรนไชส์อื่นจนหลายคนอาจจะคิดว่าลืม Mega Man ไปแล้ว แต่เกมเหล่านี้ การจะหาตัวแทนผู้สืบทอดจิตวิญญาณเอง ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หลังจาก 20xx และ 30xx เราอาจจะกำลังได้เกมแนวนี้ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ต้นฉบับ เกมนี้มีอะไรดี มาหาคำตอบกันในรีวิว Gravity Circuit  

ภารกิจยับยั้งกองทัพไวรัส เนื้อเรื่องที่เห็นกันมาไม่รู้กี่รอบแล้ว


Gravity Circuit ยังคงใช้ฉากหลังยอดนิยมของโลกวิดีโอเกม นั่นคือความเป็น post-Apocalypse หรือโลกหลังการล่มสลาย แต่โลกหลังการล่มสลายของเกมนี้จะเต็มไปด้วยเหล่าจักรกลที่มีความรู้สึกนึกคิดราวกับมนุษย์ โลกในตอนนี้ถูกคุกคามโดยศัตรูเก่าที่กองทัพ Guardian Cops เคยปราบไปในอดีต นั่นคือ Virus Army หรือกองทัพไวรัส ที่แสดงตัวตนอีกครั้ง โดยมาพร้อมเป้าหมายในการยึดครองโลกมนุษย์โดยสมบูรณ์แบบ แต่เพราะ Guardian Cops เองก็อ่อนแอลงอย่างมาก ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปขอความช่วยเหลือจากวีรบุรุษสงครามจากการต่อสู้ครั้งก่อนอย่าง Kai ยอดนักสู้ที่ยังคงมีพลังในการควบคุมพลังเอาไว้ได้ ในฐานะที่เป็นวีรบุรุษคนสุดท้าย เขาจึงกลายเป็นความหวังเดียวของการต่อสู้ในครั้งนี้


ต้องบอกว่า ใครที่เห็นสไตล์เกมภาพพิกเซลแบบนี้แล้วคาดหวังว่าจะมีเนื้อเรื่องล้ำ ๆ ก็อาจจะคิดผิด ทั้งรูปแบบการนำเสนอ ทั้งเนื้อหา ต่างทำให้เราหวนนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ สมัยเกม Arcade กำลังโด่งดัง เกมนี้ก็เน้นนำเสนอเรื่องราวที่เหมาะสมกันดี นั่นคือการมีเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย ก็แค่มีตัวร้ายบุกโลก มีฝ่ายตัวดีที่มีฮีโร่ในตำนานและต้องออกโรงเอง เนื้อเรื่องของเกมนี้แทบไม่มีความซับซ้อนใด ๆ ดังนั้นใครที่คิดจะหาเนื้อเรื่องดี ๆ จากเกมนี้ ปล่อยจอยไปเกมอื่นได้เลย

มนต์เสน่ห์แห่งเกมเก่า ที่เกมนี้รักษาเอาไว้ได้ครบถ้วน


สิ่งแรกที่ต้องชมหลังได้สัมผัสเลยคือ ความทรงจำในวัยเด็กของใครหลายคนที่เคยสัมผัสเกมแนวนี้ น่าจะกลับมาแบบครบถ้วน และเกมได้แรงบันดาลใจอย่างหนักเลยทีเดียว จากเกมแอ็คชั่นแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Mega Man หรือร็อคแมนที่เรารู้จักกันดี เอามาแทบจะทุกส่วนเลยก็ว่าได้ แต่เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่เกมก๊อปปี้แบบที่คิด แม้เราจะบอกว่าเอามาแทบทุกส่วน แต่มันเป็นการหยิบเอามาต่อยอด และทำให้มันมีเอกลักษณ์หรือลายเซ็นเป็นของตัวเอง บางส่วนที่เหมือน ก็เอามาดัดแปลงจนดูไม่น่าเกลียดเกินไปนัก และเป็นอะไรที่ให้อภัยกันได้ บางส่วนที่เราอาจจะรำคาญจาก Mega Man ภาคเก่า ๆ เกมนี้ก็หยิบมาปรับปรุงแก้ไข แต่ก็มีบางอย่างที่ Mega Man เป็นอย่างไร เกมนี้ก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน


เริ่มจากระบบความสามารถของตัว Kai ที่ต่างไปจากตัว Mega Man อยู่บ้าง ตัว Mega Man นั้นจะใช้แขนปล่อยพลังโจมตีระยะไกล และชาร์จได้ ส่วนตัว Kai จะเป็นการเข้าไปต่อสู้ระยะประชิดด้วยหมัดติดตั้งอุปกรณ์ เอาแค่การโจมตีระยะประชิดนั้น ก็ทำให้รูปแบบเกมการเล่นต่างกันออกไปมากแล้ว แต่ก็ใช่ว่า Kai ของเราจะไม่มีอะไรเอาไว้ใช้เพิ่มระยะการต่อสู้เลย ตัวละคร Kai จะมีสาย Grappling Hook ที่เอาไว้ยึดเกี่ยวกับทุกสิ่ง รวมไปถึงตัว Kai เอง ยังสามารถกระโดดเกาะพื้นผิวต่าง ๆ ได้ ดังนั้นหมดปัญหาเรื่องตกเหว ถ้าคุณไวพอ ก็สามารถปีนกำแพงกลับขึ้นมาได้ด้วยการกระโดดเกาะกำแพงรัว ๆ ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกมการเล่นแตกต่างไปจาก Mega Man

เพียงแต่หลายสิ่งหลายอย่าง มันเป็นการยืมเอาระบบ Mega Man มาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท้าประลองกับเหล่าบอสต่าง ๆ ที่มาเหมือนกันเป๊ะ คือเมื่อถึงห้องบอสจะมีจุด Checkpoint รอเราอยู่ด้านหน้า ถ้าเป็นเกมโซลก็คือรู้เลยว่าเป็นห้องบอส แต่ปัญหาของเกมนี้จากที่ผู้เขียนได้ลองเล่นมาทั้งหมด น่าจะเป็นเรื่องของความยากที่แกว่งไปมาแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้ว่าในตอนเลือกฉาก เกมจะมีหลอดบอกระดับอยู่สองแบบ คือแบบ MAP และ POW โดยเข้าใจได้ว่า Map น่าจะหมายถึงกลไกความยากของแผนที่ในฉากนั้น และ POW น่าจะเป็นเรื่องของความยากในการสู้บอส แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้รู้สึกมากขนาดนั้น ใครเก๋าเกมจริงก็เลือกตัวยาก ๆ แต่แรกเลยก็ได้ เกมมันไม่ได้ห้ามให้คุณสู้ข้ามขั้นอยู่แล้ว


นอกจากนั้น การดีไซน์ด่านยังมีการออกแบบฉากให้เข้ากับความสามารถของผู้เล่น เช่นการใช้ Grappling Hook ห้อยโหนตัวเพื่อหลบกับดักหนาม ซึ่งกับดักหนามนี้ถ้าเราโดน จะไม่ตายทันที แต่จะเสียพลังชีวิต และเราจะโดดดีดกลับไปยังจุด Checkpoint ใกล้ ๆ แทน และการดีไซน์ฉาก ยังมีความยากและท้าทายมาก ๆ เอาจริง ๆ แล้วมันอาจจะยิ่งกว่าการต่อสู้ด้วยซ้ำไป อย่างที่บอกไปว่า เราสามารถกระโดดเกาะกำแพง ยิงฮุคได้ ทำให้บางจุดเราจำเป็นจะต้องใช้ทักษะเหล่านี้ หรือบางจุดก็ต้องใช้แบบต่อเนื่องกันไปเลย ถึงจะเอาอยู่ ซึ่งบอกเลยว่าบางครั้งนี่ทำเอาปวดมือกันเลยทีเดียว เพราะต้องใช้ความรวดเร็วอย่างมากในการควบคุม 

ที่ผู้เขียนชอบ คือการออกแบบด่านที่โดดเด่นเป็นเอกเทศน์ของตัวเองมาก ๆ การที่คุณเล่นด่านก่อนหน้ามาอย่างคล่องแคล่ว ไปเจอด่านต่อไป คุณอาจจะตายกันรัว ๆ จนต้องพักการเล่นไปก่อนเลยก็ได้ เพราะแต่ละด่านถูกดีไซน์มาแบบเป็นเอกเทศ คุณไม่สามารถเอาความเชี่ยวชาญที่ได้จากด่านก่อนไปใช้กับด่านต่อไปได้ แถมการอัปเกรดพลังต่าง ๆ ก็ไม่ได้ทำให้เราเอาชนะบอสตัวใหม่ ๆ ได้เหมือน Mega Man ซะด้วย ซึ่งตรงนี้นี่แหละที่ทำให้ความยากแกว่ง บอสบางตัวจะมีรูปแบบการโจมตีสุดปวดหัว และรวดเร็ว กว่าเราจะจับทางได้ และเอาชนะ ก็อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งมีบรรยากาศและกลิ่นอายเกมเก่าอยู่เต็มไปหมด ใครคิดถึงเกมคลาสสิคที่ต้องใช้ฝีมือและความอดทนในการเรียนรู้จริง ๆ น่าจะชอบเกมนี้ได้ไม่ยาก


เรื่องของกราฟิกอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่อยากลองเล่นเกมนี้ เพราะตัวเกมใช้การนำเสนอแบบเกม Retro ย้อนยุค กราฟิกจะถูกนำเสนอเป็นแบบพิกเซล 16 Bit และโทนสีจะไม่ได้มีมากเท่า ใครที่ชอบเกมสีสันจัดจ้าน อาจจะไม่ถูกใจเกมนี้ แต่นอกเหนือจากด้านการนำเสนอที่อาจเป็นเรื่องเฉพาะทางนั้น เกมนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน คือการนำเอาของเก่ากลับทำใหม่ และให้แฟนเกมยุคปัจจุบันสนุกไปกับมันได้

ด้วยความที่เป็นเกมอินดี้ ขายคุณภาพ เกมนี้จึงไม่ค่อยมีความยาว หรือ Replayable Value ในการเล่นซ้ำมากขนาดนั้น รวมไปถึงราคาที่ค่อนข้างสูงในโซนไทย ทำให้มันอาจจะเป็นราคาที่ต้องพิจารณากันเสียหน่อย ว่าควรค่าที่จะซื้อมาเล่นหรือไม่ แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบเกมเก่า หรือเกมย้อนยุค รับรองว่าคุณจะถูกใจตั้งแต่ฉากเปิดเกมเลยก็ว่าได้

Gravity Circuit วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC (Steam, GOG)

7
ข้อดี

- ความสนุก และกลิ่นอายจากเกมยุคเก่าที่มาครบ แต่ปรับปรุงให้การควบคุมลื่นไหลขึ้น

- เกมเพลย์สนุก รวดเร็ว เน้นแอ็คชั่นของผู้เล่น

- เพลงประกอบดีงาม

ข้อเสีย

- สีสันของเกมไม่น่าดึงดูด

- ความยากค่อนข้างแกว่ง

- คุณค่าการเล่นซ้ำน้อย

7
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Gravity Circuit แรงบันดาลใจจาก Mega Man แบบจัดเต็ม แต่ก็ยังมีความเป็นตัวเองที่โดดเด่นจนไม่ควรพลาด
28/07/2023

Capcom มัวแต่ห่วงแฟรนไชส์อื่นจนหลายคนอาจจะคิดว่าลืม Mega Man ไปแล้ว แต่เกมเหล่านี้ การจะหาตัวแทนผู้สืบทอดจิตวิญญาณเอง ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หลังจาก 20xx และ 30xx เราอาจจะกำลังได้เกมแนวนี้ที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ต้นฉบับ เกมนี้มีอะไรดี มาหาคำตอบกันในรีวิว Gravity Circuit  

ภารกิจยับยั้งกองทัพไวรัส เนื้อเรื่องที่เห็นกันมาไม่รู้กี่รอบแล้ว


Gravity Circuit ยังคงใช้ฉากหลังยอดนิยมของโลกวิดีโอเกม นั่นคือความเป็น post-Apocalypse หรือโลกหลังการล่มสลาย แต่โลกหลังการล่มสลายของเกมนี้จะเต็มไปด้วยเหล่าจักรกลที่มีความรู้สึกนึกคิดราวกับมนุษย์ โลกในตอนนี้ถูกคุกคามโดยศัตรูเก่าที่กองทัพ Guardian Cops เคยปราบไปในอดีต นั่นคือ Virus Army หรือกองทัพไวรัส ที่แสดงตัวตนอีกครั้ง โดยมาพร้อมเป้าหมายในการยึดครองโลกมนุษย์โดยสมบูรณ์แบบ แต่เพราะ Guardian Cops เองก็อ่อนแอลงอย่างมาก ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากไปขอความช่วยเหลือจากวีรบุรุษสงครามจากการต่อสู้ครั้งก่อนอย่าง Kai ยอดนักสู้ที่ยังคงมีพลังในการควบคุมพลังเอาไว้ได้ ในฐานะที่เป็นวีรบุรุษคนสุดท้าย เขาจึงกลายเป็นความหวังเดียวของการต่อสู้ในครั้งนี้


ต้องบอกว่า ใครที่เห็นสไตล์เกมภาพพิกเซลแบบนี้แล้วคาดหวังว่าจะมีเนื้อเรื่องล้ำ ๆ ก็อาจจะคิดผิด ทั้งรูปแบบการนำเสนอ ทั้งเนื้อหา ต่างทำให้เราหวนนึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ สมัยเกม Arcade กำลังโด่งดัง เกมนี้ก็เน้นนำเสนอเรื่องราวที่เหมาะสมกันดี นั่นคือการมีเนื้อเรื่องที่เรียบง่าย ก็แค่มีตัวร้ายบุกโลก มีฝ่ายตัวดีที่มีฮีโร่ในตำนานและต้องออกโรงเอง เนื้อเรื่องของเกมนี้แทบไม่มีความซับซ้อนใด ๆ ดังนั้นใครที่คิดจะหาเนื้อเรื่องดี ๆ จากเกมนี้ ปล่อยจอยไปเกมอื่นได้เลย

มนต์เสน่ห์แห่งเกมเก่า ที่เกมนี้รักษาเอาไว้ได้ครบถ้วน


สิ่งแรกที่ต้องชมหลังได้สัมผัสเลยคือ ความทรงจำในวัยเด็กของใครหลายคนที่เคยสัมผัสเกมแนวนี้ น่าจะกลับมาแบบครบถ้วน และเกมได้แรงบันดาลใจอย่างหนักเลยทีเดียว จากเกมแอ็คชั่นแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Mega Man หรือร็อคแมนที่เรารู้จักกันดี เอามาแทบจะทุกส่วนเลยก็ว่าได้ แต่เดี๋ยวก่อน มันไม่ใช่เกมก๊อปปี้แบบที่คิด แม้เราจะบอกว่าเอามาแทบทุกส่วน แต่มันเป็นการหยิบเอามาต่อยอด และทำให้มันมีเอกลักษณ์หรือลายเซ็นเป็นของตัวเอง บางส่วนที่เหมือน ก็เอามาดัดแปลงจนดูไม่น่าเกลียดเกินไปนัก และเป็นอะไรที่ให้อภัยกันได้ บางส่วนที่เราอาจจะรำคาญจาก Mega Man ภาคเก่า ๆ เกมนี้ก็หยิบมาปรับปรุงแก้ไข แต่ก็มีบางอย่างที่ Mega Man เป็นอย่างไร เกมนี้ก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน


เริ่มจากระบบความสามารถของตัว Kai ที่ต่างไปจากตัว Mega Man อยู่บ้าง ตัว Mega Man นั้นจะใช้แขนปล่อยพลังโจมตีระยะไกล และชาร์จได้ ส่วนตัว Kai จะเป็นการเข้าไปต่อสู้ระยะประชิดด้วยหมัดติดตั้งอุปกรณ์ เอาแค่การโจมตีระยะประชิดนั้น ก็ทำให้รูปแบบเกมการเล่นต่างกันออกไปมากแล้ว แต่ก็ใช่ว่า Kai ของเราจะไม่มีอะไรเอาไว้ใช้เพิ่มระยะการต่อสู้เลย ตัวละคร Kai จะมีสาย Grappling Hook ที่เอาไว้ยึดเกี่ยวกับทุกสิ่ง รวมไปถึงตัว Kai เอง ยังสามารถกระโดดเกาะพื้นผิวต่าง ๆ ได้ ดังนั้นหมดปัญหาเรื่องตกเหว ถ้าคุณไวพอ ก็สามารถปีนกำแพงกลับขึ้นมาได้ด้วยการกระโดดเกาะกำแพงรัว ๆ ซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกมการเล่นแตกต่างไปจาก Mega Man

เพียงแต่หลายสิ่งหลายอย่าง มันเป็นการยืมเอาระบบ Mega Man มาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท้าประลองกับเหล่าบอสต่าง ๆ ที่มาเหมือนกันเป๊ะ คือเมื่อถึงห้องบอสจะมีจุด Checkpoint รอเราอยู่ด้านหน้า ถ้าเป็นเกมโซลก็คือรู้เลยว่าเป็นห้องบอส แต่ปัญหาของเกมนี้จากที่ผู้เขียนได้ลองเล่นมาทั้งหมด น่าจะเป็นเรื่องของความยากที่แกว่งไปมาแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้ว่าในตอนเลือกฉาก เกมจะมีหลอดบอกระดับอยู่สองแบบ คือแบบ MAP และ POW โดยเข้าใจได้ว่า Map น่าจะหมายถึงกลไกความยากของแผนที่ในฉากนั้น และ POW น่าจะเป็นเรื่องของความยากในการสู้บอส แต่เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้รู้สึกมากขนาดนั้น ใครเก๋าเกมจริงก็เลือกตัวยาก ๆ แต่แรกเลยก็ได้ เกมมันไม่ได้ห้ามให้คุณสู้ข้ามขั้นอยู่แล้ว


นอกจากนั้น การดีไซน์ด่านยังมีการออกแบบฉากให้เข้ากับความสามารถของผู้เล่น เช่นการใช้ Grappling Hook ห้อยโหนตัวเพื่อหลบกับดักหนาม ซึ่งกับดักหนามนี้ถ้าเราโดน จะไม่ตายทันที แต่จะเสียพลังชีวิต และเราจะโดดดีดกลับไปยังจุด Checkpoint ใกล้ ๆ แทน และการดีไซน์ฉาก ยังมีความยากและท้าทายมาก ๆ เอาจริง ๆ แล้วมันอาจจะยิ่งกว่าการต่อสู้ด้วยซ้ำไป อย่างที่บอกไปว่า เราสามารถกระโดดเกาะกำแพง ยิงฮุคได้ ทำให้บางจุดเราจำเป็นจะต้องใช้ทักษะเหล่านี้ หรือบางจุดก็ต้องใช้แบบต่อเนื่องกันไปเลย ถึงจะเอาอยู่ ซึ่งบอกเลยว่าบางครั้งนี่ทำเอาปวดมือกันเลยทีเดียว เพราะต้องใช้ความรวดเร็วอย่างมากในการควบคุม 

ที่ผู้เขียนชอบ คือการออกแบบด่านที่โดดเด่นเป็นเอกเทศน์ของตัวเองมาก ๆ การที่คุณเล่นด่านก่อนหน้ามาอย่างคล่องแคล่ว ไปเจอด่านต่อไป คุณอาจจะตายกันรัว ๆ จนต้องพักการเล่นไปก่อนเลยก็ได้ เพราะแต่ละด่านถูกดีไซน์มาแบบเป็นเอกเทศ คุณไม่สามารถเอาความเชี่ยวชาญที่ได้จากด่านก่อนไปใช้กับด่านต่อไปได้ แถมการอัปเกรดพลังต่าง ๆ ก็ไม่ได้ทำให้เราเอาชนะบอสตัวใหม่ ๆ ได้เหมือน Mega Man ซะด้วย ซึ่งตรงนี้นี่แหละที่ทำให้ความยากแกว่ง บอสบางตัวจะมีรูปแบบการโจมตีสุดปวดหัว และรวดเร็ว กว่าเราจะจับทางได้ และเอาชนะ ก็อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งมีบรรยากาศและกลิ่นอายเกมเก่าอยู่เต็มไปหมด ใครคิดถึงเกมคลาสสิคที่ต้องใช้ฝีมือและความอดทนในการเรียนรู้จริง ๆ น่าจะชอบเกมนี้ได้ไม่ยาก


เรื่องของกราฟิกอาจจะเป็นอุปสรรคสำหรับคนที่อยากลองเล่นเกมนี้ เพราะตัวเกมใช้การนำเสนอแบบเกม Retro ย้อนยุค กราฟิกจะถูกนำเสนอเป็นแบบพิกเซล 16 Bit และโทนสีจะไม่ได้มีมากเท่า ใครที่ชอบเกมสีสันจัดจ้าน อาจจะไม่ถูกใจเกมนี้ แต่นอกเหนือจากด้านการนำเสนอที่อาจเป็นเรื่องเฉพาะทางนั้น เกมนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมตามมาตรฐาน คือการนำเอาของเก่ากลับทำใหม่ และให้แฟนเกมยุคปัจจุบันสนุกไปกับมันได้

ด้วยความที่เป็นเกมอินดี้ ขายคุณภาพ เกมนี้จึงไม่ค่อยมีความยาว หรือ Replayable Value ในการเล่นซ้ำมากขนาดนั้น รวมไปถึงราคาที่ค่อนข้างสูงในโซนไทย ทำให้มันอาจจะเป็นราคาที่ต้องพิจารณากันเสียหน่อย ว่าควรค่าที่จะซื้อมาเล่นหรือไม่ แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบเกมเก่า หรือเกมย้อนยุค รับรองว่าคุณจะถูกใจตั้งแต่ฉากเปิดเกมเลยก็ว่าได้

Gravity Circuit วางจำหน่ายแล้ววันนี้บน PC (Steam, GOG)


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header