GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Crime Boss: Rockay City เกมแอ็คชั่นรวมดาราดัง ที่มาผิดที่ผิดเวลาแบบสุด ๆ
ลงวันที่ 25/05/2023

Crime Boss: Rockay City เป็นเกมแนว FPS Shooting จากทาง INGAME STUDIOS ที่เปิดตัวอย่างน่าสนใจ เพราะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ขนพลังดารายุค 90 มาใช้อย่างจัดหนักจัดเต็ม แต่พอหลังจากที่เกมวางจำหน่าย ต่อให้มีพลังดารามหาศาล มันกลับไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะอะไรรีวิว Crime Boss: Rockay City ของเรา GameFever TH มีคำตอบ

เนื้อเรื่องผิดยุคผิดสมัย แถมเล่าได้น่าเบื่อสุด ๆ


เรื่องราวของ Crime Boss: Rockay City จะว่าด้วยตัวละคร Travis Baker หัวหน้าแก๊งที่หวังจะโค่นเจ้าพ่อทั้งหมดในเมือง Rockay เพื่อขึ้นเป็นใหญ่ในวงการอาชญากรรมแทน ทำให้เขาค่อย ๆ เริ่มออกปล้นเล็กน้อย หาเงินไปซื้อตัวสมาชิกแก๊งเพิ่ม และค่อย ๆ ก่อการใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีสองสมาชิกร่วมอย่าง Casey ที่รับหน้าที่ช่วยเป็ฯเลขาและจัดการบัญชีแก๊ง กับ Nasara ที่มาเป็นคนคอยช่วยเหลือการวางแผนด้วย แต่การจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งในเมืองนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากแก๊งต่าง ๆ จะมีขุมกำลังเป็นของตัวเองที่ยากจะต่อกรด้วยแล้ว เมืองนี้ยังมีสุดยอดนายอำเภออย่าง Norris ที่พร้อมจะเด็ดหัวทุกแก๊งที่ก่อความไม่สงบอยู่ด้วย ภารกิจของ Travis Baker จึงไม่หมูอย่างที่คิดไว้ 


ต้องบอกว่านี่เป็นเกมที่มีดาราฮอลลีวูดมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง ทั้งใบหน้าแบบ Motion Capture และการให้เสียงพากย์ แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เหมือนเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับส่วนของเนื้อเรื่องในเกมนี้เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ Core Story ที่เบาบางมาก ๆ เอาง่าย ๆ มันคือเส้นทางการไต่เต้าขึ้นเป็นสุดยอดอาชญากรรมเบอร์หนึ่ง ที่เน้นการเล่าเรื่องแบบเส้นตรง นอกจากนั้นก็คือการใส่บทสนทนาสุด Cringe ที่ไม่ควรจะเห็นในยุคนี้แล้ว แต่ถ้าเอามันไปไว้ในช่วงปี 90 หรือปี 2000 คิดว่าน่าจะยังเหมาะสม แต่กับปัจจุบันก็คงได้แต่ส่ายหน้าหรือไม่ก็แค่หัวเราะเบา ๆ เท่านั้น คงไม่มีใครแก้ปัญหาด้วยกันหยิบปืนมาไล่ยิงกันกลางเมืองแบบนี้อีกแล้ว ทั้งส่วนของการทำคัทซีน ตัดสลับไปมาแบบงง ๆ ฉากนึงมีตัวละครสองตัวคุยอยู่ ตัดไปอีกฉาก ก็เป็นสองตัวเดิม แค่เปลี่ยนสถานที่ คือดูแล้วสัมผัสได้ว่า ทีมสร้างเกมนี้เขาไม่ได้อยากจะทำเนื้อเรื่องเลยแม้แต่น้อย เลยทำมาแบบสุกเอาเผากินเท่านั้น ใครหวังจะได้เห็นเกม Gangster ดุ ๆ บอกเลย ผิดหวังแน่ ๆ 

จุดขายคือเหล่าดารานักแสดงอันโด่งดัง (ในอดีต) จนน่าจะหมดงบไปกับส่วนนี้ไม่ใช่น้อย


สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนมีความสุข คือการได้เห็นเหล่าดาราชื่อดังกลับมารวมทีมอยู่ในเกมนี้กันเป็นจำนวนมาก แต่ต้องบอกว่าเป็นอดีตซะเป็นส่วนมาก เพราะในปัจจุบัน แม้ดาราเหล่านี้จะยังคงมีผลงานการแสดงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจฮิตระเบิด เทียบเท่านักแสดงรุ่นใหม่แล้ว อย่างตัวเอกของเกมนี้อย่าง Travis Baker ก็ได้ Michael Madsen นักแสดงคู่บุญของ Quentin Tarantino มาแสดงนำ / Kim Basinger นักแสดงสาวรุ่นใหญ่ ที่มาในเกมนี้ก็ถูกลดอายุจนเป็นตัวละครสาวทรงเสน่ห์ที่เป็นผู้ช่วยของ Travis และเกมยังมีนักแสดงอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Michael Rooker (ยอนดู จาก Guardians of the Galaxy) Danny Trejoi (มาเชเต้) Danny Glover (Lethal Weapon) รวมไปถึงไฮไลท์เลยคือนักแสดงที่เป็นมีมระดับตำนานอย่าง Chuck Norris ที่มารับบทนายอำเภอ Norris งานนี้ไม่รู้คนสร้างเกมไปทาบทามอีท่าไหน เขาถึงตอบรับงานนี้ เพราะ Chuck Norris แทบไม่รับงานแสดงเลย นับตั้งแต่ The Expendables 2 เมื่อปี 2012 อยู๋ดี ๆ มารับเชิญทั้งให้เสียงพากย์และโมชั่นแคปเจอร์เกมนี้เฉย

แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความที่นักแสดงคับเกมขนาดนี้ เชื่อเหลือเกินว่าทีมพัฒนาเกมน่าจะหมดงบส่วนหนึ่งไปกับการจ้างเหล่าดารามาอยู่ในเกมมากมาย ส่งผลให้ส่วนอื่น ๆ ภายในเกมมันดูแปลกพิกลไปแทบจะทั้งหมด สำหรับคอนเทนต์หลักของเกมนี้จะมีทั้งโหมด Campaign ที่เป็นเนื้อเรื่องหลักที่เล่าถึงการขยายอำนาจของแก๊ง Travis Baker ที่จะเล่าเรื่องราวแบบเป็นเส้นตรง สลับกับพาไปดูมุมมองจากตัวละครอื่น ๆ บ้าง โดยโหมดเนื้อเรื่องนี้ยังรองรับการ Co-op ด้วยการชวนผู้เล่นอื่นเข้ามาแจมด้วยได้ นอกจากนั้นยังมีโหมดออนไลน์แยกโดยเฉพาะ ให้เราได้ตั้งทีมปล้นกับเพื่อน ออกไปปล้นแก๊งศัตรูหรือตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งบอกเลยว่ามันเหมือนกับ Payday แทบจะทุกกระเบียด แต่อยู่ในบริบทที่ย่ำแย่กว่าในทุก ๆ ด้าน

ในด้านกราฟิกของเกม อันนี้ต้องชื่นชมเลยว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่เกมทุนสูง แต่กราฟิกของเกมและคัทซีนนั้น ถือว่าทำมาได้ดีสมราคามาก อย่างน้อยตอนนี้ถ้าเอไปเทียบกับเกมอย่าง Redfall กราฟิกของ Crime Boss ยังถือว่าชนะขาด รวมไปถึงใบหน้าและโมเดลของตัวละครก็ทำออกมาได้ดี 

ภาพรวมของ Crime Boss: Rockay City จึงเป็นเหมือนผลงานสร้างเอามันส์ สร้างนองนีดใครก็ตามที่ชื่นชอบดารายุคเก่า จึงจับเอาพวกเขาและเธอมารวมตัวกันกลายเป็นเกมนี้ มันอาจจะโอเคในแง่ของพลังดารา แต่ในความเป็นเกมนั้นถือว่ามีปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะกับเกมเพลย์ที่วางการออกแบบมาดี แต่มีบาดแผลเยอะเหลือเกิน ซึ่งเรากำลังจะบอกทั้งหมดในหัวข้อถัดไป

ออกแบบระบบเกมดี แต่เกมเพลย์ดันหลงทิศหลงทางไปหมด


มันน่าเสียดายจริง ๆ ที่ Crime Boss: Rockay City นั้น ออกแบบระบบเกมการเล่นมาได้น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเราจะเล่าให้ฟังทีละอย่าง อย่างที่บอกไว้ในส่วนของเนื้อเรื่อง เกมนี้เป้าหมายของเราคือการขยายอาณาเขตแก๊งให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยตอนแรกเราจะมีพื้นที่อยู่เพียงหยิบมือ การจะขยายพื้นที่ได้ เราจำเป็นจะต้องส่งสมาชิกแก๊งออกไปลุย ซึ่งในแผนที่หลัก เราจะได้เห็นว่าพื้นที่นั้น มีสมาชิกแก๊งใดครอบครองอยู่ และจะมีภารกิจขึ้นมาให้เราทำ แต่ละภารกิจก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น เปิดวอร์กับแก๊งศัตรู ขโมยของ ปล้นของ หรือไล่ถล่มแก๊งศัตรูจนพื้นที่ตรงนั้นไม่มีใครควบคุม เราก็นำกองกำลังแก๊งเราเข้าไปยึดพื้นที่ และรับเงินแบบ Passive Income ต่อวันซะเอง

เกมนี้จะมีความเป็นเกมกาชา + บริหารจัดการทรัพยากรอยู่ กาชาที่ว่าก็คือ การที่เราจะหาสมาชิกแก๊งที่มีประสิทธิภาพสูง เราจะสามารถหาได้จากการสุ่มด้วยเงินทุนที่เรามี เมื่อเราสุ่มเจอสมาชิกที่ชอบ มีค่าสเตตัสที่โอเค เราก็ค่อยจ้างเข้ามาอยู่ในแก๊งเรา โดยสมาชิกแก๊งแต่ละคนจะมีอาวุธประชิดและอาวุธปืนติดตัว รวมไปถึงหากนำไปออกลุยบ่อย ๆ เราจะสามารถเลื่อนขั้นให้สมาชิกแก๊งคนนั้นได้ด้วย เงื่อนไขก็คือสมาชิกแก๊งแต่ละคน จะออกไปทำภารกิจได้เพียง 1 ครั้งต่อวัน และต้องพักผ่อนจึงจะใช้ได้ใหม่อีกรอบ นั่นหมายความว่าเราต้องบริหารจัดการให้ดี ภารกิจไหนยาก ๆ ก็ต้องเอาตัวที่มีความสามารถสูง ๆ ไป หรือด่านไหนที่จำเป็นจะต้องใช้คนเยอะ ๆ ถึงจะเอาพวกที่มีความสามารถกลาง ๆ รวมทีมกันไปลุย


รูปแบบภารกิจต่าง ๆ จะมีตั้งแต่การลักลอบเข้าไปปล้นของแบบเงียบ ๆ ซึ่งตรงนี้ผู้เล่นจะซุ่มเงียบแบบ Payday ก็ทำได้ เพราะเกมสามารถสั่งการบอทร่วมทีมได้อย่างเต็มรูปแบบในกรณีที่เราไม่มีเพื่อนเล่นด้วย เราสามารถสั่งให้ตัวประกันคุกเข่า ใช้เคเบิลไทด์มัดมือ และหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิด ทุบตู้กระจก เครื่องคิดเงิน แล้วขโมยเงินหรือของมีค่าก่อนหลบหนีออกไปเงียบ ๆ หรือเราจะไม่สนใจ ชักปืนยิงโป้ง หรือตะโกนบอกว่า ข้ามาปล้น ก็ได้ แต่ตำรวจจะเริ่มแห่แหนเข้ามาจนเรารับมือไม่ไหว ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไรก็ลองคิดให้ดี ทั้งตอนที่เล่นกับบอทหรือตอนที่เล่นกับเพื่อนด้วยกันเอง 

อีกภารกิจที่ค่อนข้างชอบ คือภารกิจชิงพื้นที่ โดยอันนี้เกมจะเปลี่ยนโหมดไปเป็นแบบ Team Deathmatch กันเลยทีเดียว ก่อนเริ่มภารกิจนี้เราจำเป็นจะต้องมีสมาชิกแก๊งที่มากเพียงพอก่อน แล้วตั้งเป็น Army (กองกำลัง) จากนั้นเลือกพื้นที่ที่เราจะไปบุกยึด เราก็บุกยิงแก๊งตรงข้ามให้หมด ถ้าสำเร็จก็จะยึดพื้นที่นั้นได้ และเราสามารถทำเงินแบบ Daily Income จากพื้นที่ที่เรายึดมาได้ด้วย ส่วนบางภารกิจก็จะเป็นการบุกไปป่วน ปล้น ทำลายของ และอื่น ๆ ที่จะทำให้เราขยายพื้นที่เข้ายึดครองได้


ฟังดูเหมือนจะดี แต่อย่างที่บอกว่าระบบเกมดี แต่เกมเพลย์มันหมดสีสันสุด ๆ เพราะนอกจากการยิงแล้ว เกมเพลย์ก็แทบไม่มีอะไรเลย แถมการดีไซน์ต่าง ๆ ยังดูซ้ำซากอย่างเหลือเชื่อ อย่างเช่นฉากหลังของภารกิจที่บางฉากนั้น ซ้ำกันให้เห็นแบบโต้ง ๆ กันเลยทีเดียว รวมไปถึงกลไกการปรับแต่งทั้งตัวละครสมาชิกแก๊ง และอาวุธของเราก็มีน้อยมาก ๆ เรียกได้ว่าแทบจะ Fix กันแบบตายตัวเลยว่าตัวนี้ใช้อาวุธนี้เท่านั้น ทำให้ความหลากหลายของมันมีน้อยมาก เล่นได้ไม่นานก็รู้สึกว่าเราเจอแต่อะไรเดิม ๆ ไปหมดแล้ว ทำให้น่าเสียดายที่มีการวางระบบของเกมมาดี แต่ซ้ำซากเร็วไปมาก สไตล์การเล่นหลาย ๆ อย่างก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Payday แทบจะหมด ไม่ว่าจะเป็นการเจาะสว่าน การโกยของมีค่า หรือเงินเข้ากระเป๋าและหลบหนี แต่เหมือนทุกอย่างถูกดาวน์เกรดลงมาให้ทำกันได้ง่าย ๆ โกยของ ขึ้นรถ หนี ไม่มีคัทซีน บางทีตำรวจยิงถล่มอยู่ด้านหลัง เราก็วิ่งหนีขึน้รถ จบภารกิจได้ง่าย ๆ ซะอย่างนั้น ระบบการหาเงินแบบ Daily Income หรือการทำธุรกิจผิดกฎหมาย แค่เห็นเกมนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เขาวางคอนเซปต์เกมมาดี แต่มือไม่ถึงที่จะทำ มันเลยกลายเป็นเหมือนระบบเกมมือถือง่าย ๆ ธรรมดา ๆ ทั่วไป ลากเมาส์ขายของ หาเงินเข้าตัวเองจบ 


นอกจากนั้นเกมยังมีโหมดออนไลน์ แต่ถือว่าเป็นโหมดออนไลน์ที่จืดชืดมาก ผู้เล่นจะได้ร่วมมือกับคนอื่น ๆ ในการทำภารกิจที่มีเงื่อนไขแบบเดียวกันกับโหมดเนื้อเรื่อง ยิ่งทำให้เกมการเล่นจบไวมาก เรียกได้ว่าหาห้องนานกว่าเล่นซะอีก เพราะหากสุ่มเข้าไปเจอคนเล่นเป็นงาน หรือรู้เส้นทาง อาจจะจบเกมได้ภายในเวลา 2-3 นาทีด้วยซ้ำไป หรือบางห้องก็ไม่สนใจทำตาม Objective เน้นชักปืนมายิงแหลก ทำให้อรรถรสของโหมดเกมบางเกมหายไปซะดื้อ ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็โทษคนเล่นไม่ได้ เพราะตัวเกมไม่มีระบบอะไรมารองรับเลยว่าถ้าทำนอกกติกาแล้วรางวัลจะลดลง ทำให้คนเล่นส่วนใหญ่ ชักปืนยิงแหลกมากกว่าลอบเร้นจนได้ฟีลแก๊งโจร เพราะสุดท้ายของรางวัลมันก็เท่ากันอยู่ดี 


เนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยจะดี มาเจอกับเกมเพลย์ที่อยู่ในระดับกลาง ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ประสบการณ์ของ Crime Boss: Rockay City ไม่ใช่อะไรที่เลวร้ายจนเกินไปนัก แต่หากมองถึงมาตรฐานเกมปี 2023 เกมนี้ก็ถือว่าทำได้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร ซึ่งก็น่าจะเป็นผลจากการที่ทีมพัฒนาเอางบไปลงกับทีมนักแสดงจนเกือบหมดนั่นแหละ น่าเสียดายตรงจุดจุดนี้แทนมาก ๆ 

ประสิทธิภาพเกมที่ลื่นไหลเกินกว่าที่คาดไว้


เหนือสิ่งอืนใดที่ดูเหมือนว่าเกมนี้จะทำได้ดีกว่าเกมอื่น ๆ ดันเป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการรันเกม นอกจากกราฟิกที่ไม่ได้แย่อะไรแล้ว เกมยังสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก ๆ มากชนิดที่ว่าไม่คิดว่าจะทำได้ดีขนาดนี้ แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเกมนี้ไม่ได้มีฉากเป็นโลกเปิดกว้าง แต่เป็นฉากพื้นที่ปิดธรรมดา ทำให้สามารถจัดการปรับปรุงและขัดเกลาให้ตัวเกมลื่นไหลได้ ในขณะเดียวกันตัวเกมก็ใส่การปรับปรุงและการตั้งค่ารูปแบบต่าง ๆ เข้ามาได้เยอะพอสมควร ดังนั้นใครที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสเปคขั้นต่ำก็น่าจะเล่นเกมนี้ได้อย่างสบาย ๆ 

แม้ว่าหน้าเกมจะดูไม่น่าสนใจ แต่หลังจากได้ลองเล่นมาแล้ว ตัวเกมมีการวางโครงสร้างและระบบที่ดีมาก ซึ่งก็ย่าเสียดายอีกยกที่เกมเพลย์มันถูกออกแบบมาอย่างตื่นเขิน ซึ่งน่าจะเอาทุนไปลงกับนักแสดงและกราฟิกซะหมด งานนี้ก็ถือว่าน่าจับตามอง หากสตูดิโอนี้จะมีผลงานใหม่ออกมาในอนาคต เพราะถ้ามีทุน มีเวลาให้มากกว่านี้ ทีมนี้อาจทำผลงานคุณภาพออกมาเลยก็ได้

7
ข้อดี

- กราฟิกสวยงาม สมยุคสมัย

- ระบบเกมหลายอย่างทำมาดีมาก

- ถ้าคุณเป็นแฟนภาพยนตร์ยุค 80-90 จะเต็มอิ่มกับตัวละครในเกมนี้มาก

ข้อเสีย

- เกมเพลย์ซ้ำซากและตกยุคสุด ๆ การออกแบบระบบที่ดี ไม่ได้ช่วยอะไรมาก

- การเล่าเรื่องและการลำดับเนื้อหาก็ชวนงงมาก ๆ 

- ใส่ความเป็นกาชาเข้ามาในเกมแบบงง ๆ อีก

- หลายอย่างถูก Reuse หลายรอบมาก ทั้งฉากเดิม ตัวละครหน้าเดิม ๆ

- ราคาเกมไม่คุ้มค่ากับคุณภาพที่ได้รับ ในภาพรวม

5
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Crime Boss: Rockay City เกมแอ็คชั่นรวมดาราดัง ที่มาผิดที่ผิดเวลาแบบสุด ๆ
25/05/2023

Crime Boss: Rockay City เป็นเกมแนว FPS Shooting จากทาง INGAME STUDIOS ที่เปิดตัวอย่างน่าสนใจ เพราะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ขนพลังดารายุค 90 มาใช้อย่างจัดหนักจัดเต็ม แต่พอหลังจากที่เกมวางจำหน่าย ต่อให้มีพลังดารามหาศาล มันกลับไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร เพราะอะไรรีวิว Crime Boss: Rockay City ของเรา GameFever TH มีคำตอบ

เนื้อเรื่องผิดยุคผิดสมัย แถมเล่าได้น่าเบื่อสุด ๆ


เรื่องราวของ Crime Boss: Rockay City จะว่าด้วยตัวละคร Travis Baker หัวหน้าแก๊งที่หวังจะโค่นเจ้าพ่อทั้งหมดในเมือง Rockay เพื่อขึ้นเป็นใหญ่ในวงการอาชญากรรมแทน ทำให้เขาค่อย ๆ เริ่มออกปล้นเล็กน้อย หาเงินไปซื้อตัวสมาชิกแก๊งเพิ่ม และค่อย ๆ ก่อการใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีสองสมาชิกร่วมอย่าง Casey ที่รับหน้าที่ช่วยเป็ฯเลขาและจัดการบัญชีแก๊ง กับ Nasara ที่มาเป็นคนคอยช่วยเหลือการวางแผนด้วย แต่การจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นเบอร์หนึ่งในเมืองนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากแก๊งต่าง ๆ จะมีขุมกำลังเป็นของตัวเองที่ยากจะต่อกรด้วยแล้ว เมืองนี้ยังมีสุดยอดนายอำเภออย่าง Norris ที่พร้อมจะเด็ดหัวทุกแก๊งที่ก่อความไม่สงบอยู่ด้วย ภารกิจของ Travis Baker จึงไม่หมูอย่างที่คิดไว้ 


ต้องบอกว่านี่เป็นเกมที่มีดาราฮอลลีวูดมาร่วมแสดงกันอย่างคับคั่ง ทั้งใบหน้าแบบ Motion Capture และการให้เสียงพากย์ แต่ที่น่าเสียดายก็คือ เหมือนเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับส่วนของเนื้อเรื่องในเกมนี้เลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ Core Story ที่เบาบางมาก ๆ เอาง่าย ๆ มันคือเส้นทางการไต่เต้าขึ้นเป็นสุดยอดอาชญากรรมเบอร์หนึ่ง ที่เน้นการเล่าเรื่องแบบเส้นตรง นอกจากนั้นก็คือการใส่บทสนทนาสุด Cringe ที่ไม่ควรจะเห็นในยุคนี้แล้ว แต่ถ้าเอามันไปไว้ในช่วงปี 90 หรือปี 2000 คิดว่าน่าจะยังเหมาะสม แต่กับปัจจุบันก็คงได้แต่ส่ายหน้าหรือไม่ก็แค่หัวเราะเบา ๆ เท่านั้น คงไม่มีใครแก้ปัญหาด้วยกันหยิบปืนมาไล่ยิงกันกลางเมืองแบบนี้อีกแล้ว ทั้งส่วนของการทำคัทซีน ตัดสลับไปมาแบบงง ๆ ฉากนึงมีตัวละครสองตัวคุยอยู่ ตัดไปอีกฉาก ก็เป็นสองตัวเดิม แค่เปลี่ยนสถานที่ คือดูแล้วสัมผัสได้ว่า ทีมสร้างเกมนี้เขาไม่ได้อยากจะทำเนื้อเรื่องเลยแม้แต่น้อย เลยทำมาแบบสุกเอาเผากินเท่านั้น ใครหวังจะได้เห็นเกม Gangster ดุ ๆ บอกเลย ผิดหวังแน่ ๆ 

จุดขายคือเหล่าดารานักแสดงอันโด่งดัง (ในอดีต) จนน่าจะหมดงบไปกับส่วนนี้ไม่ใช่น้อย


สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้เขียนมีความสุข คือการได้เห็นเหล่าดาราชื่อดังกลับมารวมทีมอยู่ในเกมนี้กันเป็นจำนวนมาก แต่ต้องบอกว่าเป็นอดีตซะเป็นส่วนมาก เพราะในปัจจุบัน แม้ดาราเหล่านี้จะยังคงมีผลงานการแสดงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจฮิตระเบิด เทียบเท่านักแสดงรุ่นใหม่แล้ว อย่างตัวเอกของเกมนี้อย่าง Travis Baker ก็ได้ Michael Madsen นักแสดงคู่บุญของ Quentin Tarantino มาแสดงนำ / Kim Basinger นักแสดงสาวรุ่นใหญ่ ที่มาในเกมนี้ก็ถูกลดอายุจนเป็นตัวละครสาวทรงเสน่ห์ที่เป็นผู้ช่วยของ Travis และเกมยังมีนักแสดงอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Michael Rooker (ยอนดู จาก Guardians of the Galaxy) Danny Trejoi (มาเชเต้) Danny Glover (Lethal Weapon) รวมไปถึงไฮไลท์เลยคือนักแสดงที่เป็นมีมระดับตำนานอย่าง Chuck Norris ที่มารับบทนายอำเภอ Norris งานนี้ไม่รู้คนสร้างเกมไปทาบทามอีท่าไหน เขาถึงตอบรับงานนี้ เพราะ Chuck Norris แทบไม่รับงานแสดงเลย นับตั้งแต่ The Expendables 2 เมื่อปี 2012 อยู๋ดี ๆ มารับเชิญทั้งให้เสียงพากย์และโมชั่นแคปเจอร์เกมนี้เฉย

แต่ก็นั่นแหละ ด้วยความที่นักแสดงคับเกมขนาดนี้ เชื่อเหลือเกินว่าทีมพัฒนาเกมน่าจะหมดงบส่วนหนึ่งไปกับการจ้างเหล่าดารามาอยู่ในเกมมากมาย ส่งผลให้ส่วนอื่น ๆ ภายในเกมมันดูแปลกพิกลไปแทบจะทั้งหมด สำหรับคอนเทนต์หลักของเกมนี้จะมีทั้งโหมด Campaign ที่เป็นเนื้อเรื่องหลักที่เล่าถึงการขยายอำนาจของแก๊ง Travis Baker ที่จะเล่าเรื่องราวแบบเป็นเส้นตรง สลับกับพาไปดูมุมมองจากตัวละครอื่น ๆ บ้าง โดยโหมดเนื้อเรื่องนี้ยังรองรับการ Co-op ด้วยการชวนผู้เล่นอื่นเข้ามาแจมด้วยได้ นอกจากนั้นยังมีโหมดออนไลน์แยกโดยเฉพาะ ให้เราได้ตั้งทีมปล้นกับเพื่อน ออกไปปล้นแก๊งศัตรูหรือตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งบอกเลยว่ามันเหมือนกับ Payday แทบจะทุกกระเบียด แต่อยู่ในบริบทที่ย่ำแย่กว่าในทุก ๆ ด้าน

ในด้านกราฟิกของเกม อันนี้ต้องชื่นชมเลยว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก อย่าลืมว่านี่ไม่ใช่เกมทุนสูง แต่กราฟิกของเกมและคัทซีนนั้น ถือว่าทำมาได้ดีสมราคามาก อย่างน้อยตอนนี้ถ้าเอไปเทียบกับเกมอย่าง Redfall กราฟิกของ Crime Boss ยังถือว่าชนะขาด รวมไปถึงใบหน้าและโมเดลของตัวละครก็ทำออกมาได้ดี 

ภาพรวมของ Crime Boss: Rockay City จึงเป็นเหมือนผลงานสร้างเอามันส์ สร้างนองนีดใครก็ตามที่ชื่นชอบดารายุคเก่า จึงจับเอาพวกเขาและเธอมารวมตัวกันกลายเป็นเกมนี้ มันอาจจะโอเคในแง่ของพลังดารา แต่ในความเป็นเกมนั้นถือว่ามีปัญหาอย่างหนัก โดยเฉพาะกับเกมเพลย์ที่วางการออกแบบมาดี แต่มีบาดแผลเยอะเหลือเกิน ซึ่งเรากำลังจะบอกทั้งหมดในหัวข้อถัดไป

ออกแบบระบบเกมดี แต่เกมเพลย์ดันหลงทิศหลงทางไปหมด


มันน่าเสียดายจริง ๆ ที่ Crime Boss: Rockay City นั้น ออกแบบระบบเกมการเล่นมาได้น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งเราจะเล่าให้ฟังทีละอย่าง อย่างที่บอกไว้ในส่วนของเนื้อเรื่อง เกมนี้เป้าหมายของเราคือการขยายอาณาเขตแก๊งให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยตอนแรกเราจะมีพื้นที่อยู่เพียงหยิบมือ การจะขยายพื้นที่ได้ เราจำเป็นจะต้องส่งสมาชิกแก๊งออกไปลุย ซึ่งในแผนที่หลัก เราจะได้เห็นว่าพื้นที่นั้น มีสมาชิกแก๊งใดครอบครองอยู่ และจะมีภารกิจขึ้นมาให้เราทำ แต่ละภารกิจก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น เปิดวอร์กับแก๊งศัตรู ขโมยของ ปล้นของ หรือไล่ถล่มแก๊งศัตรูจนพื้นที่ตรงนั้นไม่มีใครควบคุม เราก็นำกองกำลังแก๊งเราเข้าไปยึดพื้นที่ และรับเงินแบบ Passive Income ต่อวันซะเอง

เกมนี้จะมีความเป็นเกมกาชา + บริหารจัดการทรัพยากรอยู่ กาชาที่ว่าก็คือ การที่เราจะหาสมาชิกแก๊งที่มีประสิทธิภาพสูง เราจะสามารถหาได้จากการสุ่มด้วยเงินทุนที่เรามี เมื่อเราสุ่มเจอสมาชิกที่ชอบ มีค่าสเตตัสที่โอเค เราก็ค่อยจ้างเข้ามาอยู่ในแก๊งเรา โดยสมาชิกแก๊งแต่ละคนจะมีอาวุธประชิดและอาวุธปืนติดตัว รวมไปถึงหากนำไปออกลุยบ่อย ๆ เราจะสามารถเลื่อนขั้นให้สมาชิกแก๊งคนนั้นได้ด้วย เงื่อนไขก็คือสมาชิกแก๊งแต่ละคน จะออกไปทำภารกิจได้เพียง 1 ครั้งต่อวัน และต้องพักผ่อนจึงจะใช้ได้ใหม่อีกรอบ นั่นหมายความว่าเราต้องบริหารจัดการให้ดี ภารกิจไหนยาก ๆ ก็ต้องเอาตัวที่มีความสามารถสูง ๆ ไป หรือด่านไหนที่จำเป็นจะต้องใช้คนเยอะ ๆ ถึงจะเอาพวกที่มีความสามารถกลาง ๆ รวมทีมกันไปลุย


รูปแบบภารกิจต่าง ๆ จะมีตั้งแต่การลักลอบเข้าไปปล้นของแบบเงียบ ๆ ซึ่งตรงนี้ผู้เล่นจะซุ่มเงียบแบบ Payday ก็ทำได้ เพราะเกมสามารถสั่งการบอทร่วมทีมได้อย่างเต็มรูปแบบในกรณีที่เราไม่มีเพื่อนเล่นด้วย เราสามารถสั่งให้ตัวประกันคุกเข่า ใช้เคเบิลไทด์มัดมือ และหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิด ทุบตู้กระจก เครื่องคิดเงิน แล้วขโมยเงินหรือของมีค่าก่อนหลบหนีออกไปเงียบ ๆ หรือเราจะไม่สนใจ ชักปืนยิงโป้ง หรือตะโกนบอกว่า ข้ามาปล้น ก็ได้ แต่ตำรวจจะเริ่มแห่แหนเข้ามาจนเรารับมือไม่ไหว ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำอะไรก็ลองคิดให้ดี ทั้งตอนที่เล่นกับบอทหรือตอนที่เล่นกับเพื่อนด้วยกันเอง 

อีกภารกิจที่ค่อนข้างชอบ คือภารกิจชิงพื้นที่ โดยอันนี้เกมจะเปลี่ยนโหมดไปเป็นแบบ Team Deathmatch กันเลยทีเดียว ก่อนเริ่มภารกิจนี้เราจำเป็นจะต้องมีสมาชิกแก๊งที่มากเพียงพอก่อน แล้วตั้งเป็น Army (กองกำลัง) จากนั้นเลือกพื้นที่ที่เราจะไปบุกยึด เราก็บุกยิงแก๊งตรงข้ามให้หมด ถ้าสำเร็จก็จะยึดพื้นที่นั้นได้ และเราสามารถทำเงินแบบ Daily Income จากพื้นที่ที่เรายึดมาได้ด้วย ส่วนบางภารกิจก็จะเป็นการบุกไปป่วน ปล้น ทำลายของ และอื่น ๆ ที่จะทำให้เราขยายพื้นที่เข้ายึดครองได้


ฟังดูเหมือนจะดี แต่อย่างที่บอกว่าระบบเกมดี แต่เกมเพลย์มันหมดสีสันสุด ๆ เพราะนอกจากการยิงแล้ว เกมเพลย์ก็แทบไม่มีอะไรเลย แถมการดีไซน์ต่าง ๆ ยังดูซ้ำซากอย่างเหลือเชื่อ อย่างเช่นฉากหลังของภารกิจที่บางฉากนั้น ซ้ำกันให้เห็นแบบโต้ง ๆ กันเลยทีเดียว รวมไปถึงกลไกการปรับแต่งทั้งตัวละครสมาชิกแก๊ง และอาวุธของเราก็มีน้อยมาก ๆ เรียกได้ว่าแทบจะ Fix กันแบบตายตัวเลยว่าตัวนี้ใช้อาวุธนี้เท่านั้น ทำให้ความหลากหลายของมันมีน้อยมาก เล่นได้ไม่นานก็รู้สึกว่าเราเจอแต่อะไรเดิม ๆ ไปหมดแล้ว ทำให้น่าเสียดายที่มีการวางระบบของเกมมาดี แต่ซ้ำซากเร็วไปมาก สไตล์การเล่นหลาย ๆ อย่างก็จะมีความคล้ายคลึงกับ Payday แทบจะหมด ไม่ว่าจะเป็นการเจาะสว่าน การโกยของมีค่า หรือเงินเข้ากระเป๋าและหลบหนี แต่เหมือนทุกอย่างถูกดาวน์เกรดลงมาให้ทำกันได้ง่าย ๆ โกยของ ขึ้นรถ หนี ไม่มีคัทซีน บางทีตำรวจยิงถล่มอยู่ด้านหลัง เราก็วิ่งหนีขึน้รถ จบภารกิจได้ง่าย ๆ ซะอย่างนั้น ระบบการหาเงินแบบ Daily Income หรือการทำธุรกิจผิดกฎหมาย แค่เห็นเกมนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เขาวางคอนเซปต์เกมมาดี แต่มือไม่ถึงที่จะทำ มันเลยกลายเป็นเหมือนระบบเกมมือถือง่าย ๆ ธรรมดา ๆ ทั่วไป ลากเมาส์ขายของ หาเงินเข้าตัวเองจบ 


นอกจากนั้นเกมยังมีโหมดออนไลน์ แต่ถือว่าเป็นโหมดออนไลน์ที่จืดชืดมาก ผู้เล่นจะได้ร่วมมือกับคนอื่น ๆ ในการทำภารกิจที่มีเงื่อนไขแบบเดียวกันกับโหมดเนื้อเรื่อง ยิ่งทำให้เกมการเล่นจบไวมาก เรียกได้ว่าหาห้องนานกว่าเล่นซะอีก เพราะหากสุ่มเข้าไปเจอคนเล่นเป็นงาน หรือรู้เส้นทาง อาจจะจบเกมได้ภายในเวลา 2-3 นาทีด้วยซ้ำไป หรือบางห้องก็ไม่สนใจทำตาม Objective เน้นชักปืนมายิงแหลก ทำให้อรรถรสของโหมดเกมบางเกมหายไปซะดื้อ ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็โทษคนเล่นไม่ได้ เพราะตัวเกมไม่มีระบบอะไรมารองรับเลยว่าถ้าทำนอกกติกาแล้วรางวัลจะลดลง ทำให้คนเล่นส่วนใหญ่ ชักปืนยิงแหลกมากกว่าลอบเร้นจนได้ฟีลแก๊งโจร เพราะสุดท้ายของรางวัลมันก็เท่ากันอยู่ดี 


เนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยจะดี มาเจอกับเกมเพลย์ที่อยู่ในระดับกลาง ๆ อย่างน้อยก็ทำให้ประสบการณ์ของ Crime Boss: Rockay City ไม่ใช่อะไรที่เลวร้ายจนเกินไปนัก แต่หากมองถึงมาตรฐานเกมปี 2023 เกมนี้ก็ถือว่าทำได้ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไร ซึ่งก็น่าจะเป็นผลจากการที่ทีมพัฒนาเอางบไปลงกับทีมนักแสดงจนเกือบหมดนั่นแหละ น่าเสียดายตรงจุดจุดนี้แทนมาก ๆ 

ประสิทธิภาพเกมที่ลื่นไหลเกินกว่าที่คาดไว้


เหนือสิ่งอืนใดที่ดูเหมือนว่าเกมนี้จะทำได้ดีกว่าเกมอื่น ๆ ดันเป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการรันเกม นอกจากกราฟิกที่ไม่ได้แย่อะไรแล้ว เกมยังสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลมาก ๆ มากชนิดที่ว่าไม่คิดว่าจะทำได้ดีขนาดนี้ แต่ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเกมนี้ไม่ได้มีฉากเป็นโลกเปิดกว้าง แต่เป็นฉากพื้นที่ปิดธรรมดา ทำให้สามารถจัดการปรับปรุงและขัดเกลาให้ตัวเกมลื่นไหลได้ ในขณะเดียวกันตัวเกมก็ใส่การปรับปรุงและการตั้งค่ารูปแบบต่าง ๆ เข้ามาได้เยอะพอสมควร ดังนั้นใครที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านสเปคขั้นต่ำก็น่าจะเล่นเกมนี้ได้อย่างสบาย ๆ 

แม้ว่าหน้าเกมจะดูไม่น่าสนใจ แต่หลังจากได้ลองเล่นมาแล้ว ตัวเกมมีการวางโครงสร้างและระบบที่ดีมาก ซึ่งก็ย่าเสียดายอีกยกที่เกมเพลย์มันถูกออกแบบมาอย่างตื่นเขิน ซึ่งน่าจะเอาทุนไปลงกับนักแสดงและกราฟิกซะหมด งานนี้ก็ถือว่าน่าจับตามอง หากสตูดิโอนี้จะมีผลงานใหม่ออกมาในอนาคต เพราะถ้ามีทุน มีเวลาให้มากกว่านี้ ทีมนี้อาจทำผลงานคุณภาพออกมาเลยก็ได้


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header