GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
IT
รีวิว Acer Swift 3 เครื่องทำงานโมเดล Intel Core i7 Gen 11 ที่สามารถเล่นเกมเบาๆ ได้!
ลงวันที่ 24/08/2021

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1 - 2 เดือน ผู้เขียนได้เคยผาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Notebook เล่นเกมราคาไม่แรง น้ำหนักเบา จากทาง Acer ในรุ่น Swift X ไปแล้ว โดยข้อเสียหนึ่งเดียวสำหรับ Notebook รุ่นดังกล่าวคือมีขนาดของหน้าจอที่เล็กไปหน่อย (14 นิ้ว) ซึ่งอาจไม่ถูกใจสำหรับสายทำงานเท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่เพียงพอต่อการใช้งาน 

เพื่อให้ตอบสนองต่อกลุ่มผู้ใช้งานที่อยากมี Notebook ไว้ทำงานเป็นหลัก และใช้เล่นเกมเบาๆ บ้างเป็นบางครั้ง ทาง Acer จึงได้มีการออก Swift รหัสอื่นๆ ที่เน้นไปที่ความแรง CPU และลดความแรงของ GPU ลง หนึ่งในนั้นคือ Swift 3 รุ่นราคาเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Acer Swift 3 โมเดลใหม่ที่มาพร้อมกับ CPU ตัวแรงอย่าง Intel Core i7-11370H กัน


คุณสมบัติทางเทคนิค

  • CPU : Intel Core i7-11370H (3.30 GHz, 8 MB L3 Cache up to 4.80 Ghz)
  • GPU Intel Iris Xe Graphics G7
  • RAM : 8 GB LPDDR4x On Board 
  • Monitor : 16.1 inch (1920x1080) Full HD IPS sRGB 91% / AdobeRGB 70%
  • Storage : 512 GB SSD PCIe M.2 
  • Battery : 56Wh
  • Weigth : 1.75 kg

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Swift 3 โมเดลใหม่นี้เป็นเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับการทำงานอย่างแท้จริง จะสังเกตได้ว่าจุดเด่นคือ CPU ที่ให้มาเป็นตัวแรงอย่าง Intel Core i7-11370H ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 4.80 Ghz ส่งผลให้สามารถเรนเดอร์วิดีโอ และไฟล์รูปภาพได้รวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ CPU รุ่นดังกล่าวยังมาพร้อมกับ AI สำหรับช่วยในการทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตัดทอนเสียงรบกวน การเบลอพื้นหลัง ความละเอียดวิดีโอสูงสุด และตัวถอดรหัส/เข้ารหัสวิดีโอล่าสุด ก็วางใจให้เพื่อน AI ทำแทนได้เลย

ด้วยขนาดของหน้าจอ 16.1 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่กว่า Notebook มาตรฐาน จึงทำให้ตัวเครื่องมีขนาดยาวมากกว่า Swift X พอสมควร แน่นอนว่าหมายถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.3 KG ด้วย แต่ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น จึงทำให้การใช้งานหลายๆ โปรแกรมสามารถทำได้ง่ายกว่า และสะดวกมากกว่าด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คีย์บอร์ดของตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งเพิ่ม Numpad เข้ามาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าแลกเปลี่ยนกันไป

ในส่วนของการอัปเกรด จุดนี้ต้องยอมรับว่าน่าเสียดายจริงๆ ที่ช่องเสียบ SSD ของตัวเครื่องมีมาให้แค่เพียงช่องเดียว การอัปเกรดจึงจำเป็นต้องถอด SSD ตัวเก่าก่อน และใส่ตัวที่มีความจุมากกว่าเข้าไปแทน ในส่วนของ RAM เองก็มาแบบ On Board ทำให้ไม่สามารถเพิ่มเข้าไปมากกว่านี้ได้ แต่สำหรับการทำงาน ใช้งานทั่วไป และเล่นเกมไม่หนักมาก เท่านี้ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งานครับ


ดีไซน์ / ฟีเจอร์สำคัญ

สำหรับดีไซน์ของ Swift 3 จะเป็นสไตล์เรียบหรูเช่นเดียวกับ Swift X ต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของขนาด ทำให้ถือว่าเป็น Notebook ที่เหมาะสำหรับพกไปทำงาน ด้วยน้ำหนักที่เบาจึงทำให้การพกพาสามารถทำได้สักด้วยในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับอาชีพที่ต้องการความเชื่อถือเมื่อจำเป็นต้องพก Notebook ไปทำงานด้วย

หนึ่งในจุดที่เหมือนกันระหว่าง Siwft 3 กับ Swift X คือมีระบบสแกนลายนิ้วมือ บริเวณขวาล่างของคีย์บอร์ดเหมือนกัน ทำให้สะดวกต่อการปลดล็อกเครื่องเวลาจะใช้งาน ทางฝังลำโพงก็มีการใช้งานมาตรฐาน dts เช่นเดียวกัน สามารถขับเสียงออกมาได้ไพเราะ เหมาะกับการรับชมสื่อบันเทิงทุกชนิด ยิ่งมาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นด้วย ยิ่งได้อรรถรสมากกว่าเครื่องที่มีหน้าจอเล็กแน่นอน


คีย์บอร์ดของ Swift 3 จะมาเป็นแบบ Full Size คือมีส่วนของ Numpad ด้วย มีไฟใต้คีย์แต่ละตัว สามารถมองเห็นได้แม้อยู่ในที่มืด ซึ่งด้วยขนาดของตัวเครื่องที่ใหญ่เป็นพิเศษ จึงทำให้ Touchpad ของรุ่นนี้มีขนาดใหญ่มากด้วยเช่นกัน ดีไซน์ออกมาเป็นแบบซ้อนปุ่มคลิกซ้าย / คลิกขวา มีฟังก์ชันใช้งาน 2 นิ้ว 3 นิ้ว พร้อมกันเช่นเดียวกับ Notebook รุ่นอื่นๆ ในตลาด

สำหรับกล้อง Webcam กับ Microphone ยังคงมีแถมมาให้ใน Swift 3 บริเวณด้านบนของหน้าจอ เนื่องจาก Acer เข้าใจดีว่า ในการทำงานจริง มันเป็นเรื่องปกติที่เราอาจต้องมีประชุมกับลูกค้าแบบเปิดกล้องเพื่อให้เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย จึงไม่ได้มีการตัดฟังก์ชันออกไป


ของแถมอื่นๆ ที่มาพร้อมกับ Swift 3 

ในเมื่อเป็นเครื่องสำหรับทำงาน ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักหาจะมีการแถมโปรแกรมสำหรับทำงานมาด้วย Swift 3 เองก็เช่นกัน โดยทาง Acer มีการแถม Office Home & Student 2019 ทำให้ใช้งาน Word/ Excel / Power Point แบบยาวๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม สำหรับใครที่กำลังมองหา Notebook เครื่องใหม่ ให้เขาได้ใช้สำหรับเรียน ทำงาน และเล่นเกมบ้างเป็นบางครั้ง Swift 3 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย

อีกหนึ่งของแถมที่น่าสนใจซึ่งมาด้วยกับ Swift 3 คือ บริการ 3 Hour Service หรือบริการซ้อมด่วนภายใน 3 ชม. เพื่อให้ลูกค้าสามารถกลับไปทำงานเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในส่วนของประกันเครื่องจะอยู่ที่ 3 ปี ตามมาตรฐานของ Acer แต่ในส่วนของซ้อมด่วนจะสามารถใช้บริการได้แค่ภายในปีแรกของประกันเท่านั้น


ผลทดสอบ

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า "เครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับการ์ดจอแยก จะเล่นเกมไหวเหรอ?" ผมต้องบอกตรงนี้เลยว่า อย่าได้ดูถูก Intel Iris Xe Graphics G7 ไป เนื่องจากนี้คือการ์ดจอที่มากับ CPU และแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว ถ้าถามว่าแรงขนาดไหน? ก็ต้องบอกเลยว่าไม่น้อยหน้า 1050 เท่าไหร่ครับ!

สำหรับโปรแกรมที่หยิบมาทดสอบในครั้งนี้ยังคงเป็น 3D Mark Time Spy เช่นเดิม แต่ในส่วนของเกมผมเลือกที่จะหยิบมาเป็นเกม MOBA ชื่อดังอย่าง DOTA 2 กับ LOL มาทดสอบ เนื่องจากโดยปกติคงไม่มีใครเอาคอมสำหรับทำงานไปเล่นเกม AAA หนักๆ อยู่แล้ว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็อยู่ข้างล่างนี้เลย


สำหรับ 3D Mark ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับทดสอบ GPU โดยเฉพาะ ไม่ใช่เรื่องแปลกนักหากเราจะได้คะแนนโดยร่วมน้อย เนื่องจาก Intel Iris Xe Graphics G7 ถือเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ไม่ได้มีความสามารถในการประมวลผลมากมายอะไรนัก แต่สังเกตที่คะแนนของ CPU Score ที่ทำได้ถึง 5091 ที่เรียกได้ว่าสูงพอสมควร แต่คะแนนจากโปรแกรม Benchmark อย่างเดียวอาจไม่สามารถบอกอะไรได้มากมายนัก ดังนั้นเรามาดู FPS ที่ทำได้เมื่อเล่นเกมจริงๆ กันบ้าง


สำหรับเกมแรกที่เราหยิบมาทดสอบคือ MOBA ชื่อดังอย่าง Dota 2 โดยการตั้งค่ากราฟิกจะอยู่ที่ Best ในส่วนของ FPS ที่ทำได้เรียกว่าไม่น่าผิดหวังมีค่าแกว่งอยู่ที่ประมาณ 48 - 80 FPS และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 74 FPS เรียกได้ว่าสามารถเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา 


ต่อมาดูที่เกม MOBA ซึ่งได้รับความนิยมมากๆ ในบ้านเราอย่าง LOL กันบ้าง ในการตั้งค่ากราฟิกระดับปานกลาง Swift 3 สามารถดัด FPS ของเกมให้สูงกว่า 140 FPS ได้สบายๆ และค่าจะแกว่งอยู่ที่ประมาณ 120 - 170 FPS หรือกล่าวคือสามารถเล่นเได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน


ในส่วนของ FPS ที่ทำได้ในเกมอื่นๆ จากรูปข้างบนจะสังเกตได้ว่าเกม Online ดังๆ อย่าง Rocket League, CS:GO และ Valorant เจ้า  Intel Iris Xe Graphics สามารถทำได้มากกว่า 100 ในทุกๆ เกม ในส่วนของเกม AAA ดังบางเกมอย่าง GTA V, Overwatch และ GRID 2019 (VRS) ก็ยังสามารถทำ FPS ได้ประมาณ 50 - 60 ด้วย กล่าวคือใช้เล่นเกมทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน


ราคา ?

อ่านกันมาจนถึงตรงนี้เชื่อว่าคำถามสุดท้ายที่อยู่ในใจทุกคนคงเป็นเรื่องของราคาเจ้า Swift 3 โมเดลใหม่นี้ว่าเท่าไหร่? สำหรับรุ่นเริ่มต้นจะมีราคาอยู่ที่ 25,900 บาท และรุ่น 29,900 บาท โดยรุ่นราคาเริ่มต้นจะมาพร้อมกับ CPU ตัวน้องอย่าง intel Core i5 11300H ส่วนตัวที่อยู่ในรีวิวฉบับนี้คือตัวรุ่นพี่ที่มีราคาแพงกว่า และมาพร้อมกับ intel Core i7-11370H ทั้งสองรุ่นสามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือร้านขายคอมพิวเตอร์ชั้นนำอย่าง JIB, Advice และ Banana It ถ้าหากเพื่อนๆ กำลังมาหา Notebook สำหรับทำงาน ที่เอามาเล่นเกมในยามว่างได้ มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพงจนเกินไป ก็ขอแนะนำ Acer Swift 3 เลย


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
รีวิว Acer Swift 3 เครื่องทำงานโมเดล Intel Core i7 Gen 11 ที่สามารถเล่นเกมเบาๆ ได้!
24/08/2021

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1 - 2 เดือน ผู้เขียนได้เคยผาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Notebook เล่นเกมราคาไม่แรง น้ำหนักเบา จากทาง Acer ในรุ่น Swift X ไปแล้ว โดยข้อเสียหนึ่งเดียวสำหรับ Notebook รุ่นดังกล่าวคือมีขนาดของหน้าจอที่เล็กไปหน่อย (14 นิ้ว) ซึ่งอาจไม่ถูกใจสำหรับสายทำงานเท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่เพียงพอต่อการใช้งาน 

เพื่อให้ตอบสนองต่อกลุ่มผู้ใช้งานที่อยากมี Notebook ไว้ทำงานเป็นหลัก และใช้เล่นเกมเบาๆ บ้างเป็นบางครั้ง ทาง Acer จึงได้มีการออก Swift รหัสอื่นๆ ที่เน้นไปที่ความแรง CPU และลดความแรงของ GPU ลง หนึ่งในนั้นคือ Swift 3 รุ่นราคาเริ่มต้นไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งวันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ Acer Swift 3 โมเดลใหม่ที่มาพร้อมกับ CPU ตัวแรงอย่าง Intel Core i7-11370H กัน


คุณสมบัติทางเทคนิค

  • CPU : Intel Core i7-11370H (3.30 GHz, 8 MB L3 Cache up to 4.80 Ghz)
  • GPU Intel Iris Xe Graphics G7
  • RAM : 8 GB LPDDR4x On Board 
  • Monitor : 16.1 inch (1920x1080) Full HD IPS sRGB 91% / AdobeRGB 70%
  • Storage : 512 GB SSD PCIe M.2 
  • Battery : 56Wh
  • Weigth : 1.75 kg

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Swift 3 โมเดลใหม่นี้เป็นเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับการทำงานอย่างแท้จริง จะสังเกตได้ว่าจุดเด่นคือ CPU ที่ให้มาเป็นตัวแรงอย่าง Intel Core i7-11370H ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 4.80 Ghz ส่งผลให้สามารถเรนเดอร์วิดีโอ และไฟล์รูปภาพได้รวดเร็วทันใจ นอกจากนี้ CPU รุ่นดังกล่าวยังมาพร้อมกับ AI สำหรับช่วยในการทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตัดทอนเสียงรบกวน การเบลอพื้นหลัง ความละเอียดวิดีโอสูงสุด และตัวถอดรหัส/เข้ารหัสวิดีโอล่าสุด ก็วางใจให้เพื่อน AI ทำแทนได้เลย

ด้วยขนาดของหน้าจอ 16.1 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่กว่า Notebook มาตรฐาน จึงทำให้ตัวเครื่องมีขนาดยาวมากกว่า Swift X พอสมควร แน่นอนว่าหมายถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.3 KG ด้วย แต่ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น จึงทำให้การใช้งานหลายๆ โปรแกรมสามารถทำได้ง่ายกว่า และสะดวกมากกว่าด้วยเช่นกัน นอกจากนี้คีย์บอร์ดของตัวเครื่องก็มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมทั้งเพิ่ม Numpad เข้ามาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าแลกเปลี่ยนกันไป

ในส่วนของการอัปเกรด จุดนี้ต้องยอมรับว่าน่าเสียดายจริงๆ ที่ช่องเสียบ SSD ของตัวเครื่องมีมาให้แค่เพียงช่องเดียว การอัปเกรดจึงจำเป็นต้องถอด SSD ตัวเก่าก่อน และใส่ตัวที่มีความจุมากกว่าเข้าไปแทน ในส่วนของ RAM เองก็มาแบบ On Board ทำให้ไม่สามารถเพิ่มเข้าไปมากกว่านี้ได้ แต่สำหรับการทำงาน ใช้งานทั่วไป และเล่นเกมไม่หนักมาก เท่านี้ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งานครับ


ดีไซน์ / ฟีเจอร์สำคัญ

สำหรับดีไซน์ของ Swift 3 จะเป็นสไตล์เรียบหรูเช่นเดียวกับ Swift X ต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของขนาด ทำให้ถือว่าเป็น Notebook ที่เหมาะสำหรับพกไปทำงาน ด้วยน้ำหนักที่เบาจึงทำให้การพกพาสามารถทำได้สักด้วยในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับอาชีพที่ต้องการความเชื่อถือเมื่อจำเป็นต้องพก Notebook ไปทำงานด้วย

หนึ่งในจุดที่เหมือนกันระหว่าง Siwft 3 กับ Swift X คือมีระบบสแกนลายนิ้วมือ บริเวณขวาล่างของคีย์บอร์ดเหมือนกัน ทำให้สะดวกต่อการปลดล็อกเครื่องเวลาจะใช้งาน ทางฝังลำโพงก็มีการใช้งานมาตรฐาน dts เช่นเดียวกัน สามารถขับเสียงออกมาได้ไพเราะ เหมาะกับการรับชมสื่อบันเทิงทุกชนิด ยิ่งมาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นด้วย ยิ่งได้อรรถรสมากกว่าเครื่องที่มีหน้าจอเล็กแน่นอน


คีย์บอร์ดของ Swift 3 จะมาเป็นแบบ Full Size คือมีส่วนของ Numpad ด้วย มีไฟใต้คีย์แต่ละตัว สามารถมองเห็นได้แม้อยู่ในที่มืด ซึ่งด้วยขนาดของตัวเครื่องที่ใหญ่เป็นพิเศษ จึงทำให้ Touchpad ของรุ่นนี้มีขนาดใหญ่มากด้วยเช่นกัน ดีไซน์ออกมาเป็นแบบซ้อนปุ่มคลิกซ้าย / คลิกขวา มีฟังก์ชันใช้งาน 2 นิ้ว 3 นิ้ว พร้อมกันเช่นเดียวกับ Notebook รุ่นอื่นๆ ในตลาด

สำหรับกล้อง Webcam กับ Microphone ยังคงมีแถมมาให้ใน Swift 3 บริเวณด้านบนของหน้าจอ เนื่องจาก Acer เข้าใจดีว่า ในการทำงานจริง มันเป็นเรื่องปกติที่เราอาจต้องมีประชุมกับลูกค้าแบบเปิดกล้องเพื่อให้เห็นหน้าตาของอีกฝ่าย จึงไม่ได้มีการตัดฟังก์ชันออกไป


ของแถมอื่นๆ ที่มาพร้อมกับ Swift 3 

ในเมื่อเป็นเครื่องสำหรับทำงาน ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักหาจะมีการแถมโปรแกรมสำหรับทำงานมาด้วย Swift 3 เองก็เช่นกัน โดยทาง Acer มีการแถม Office Home & Student 2019 ทำให้ใช้งาน Word/ Excel / Power Point แบบยาวๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่ม สำหรับใครที่กำลังมองหา Notebook เครื่องใหม่ ให้เขาได้ใช้สำหรับเรียน ทำงาน และเล่นเกมบ้างเป็นบางครั้ง Swift 3 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลย

อีกหนึ่งของแถมที่น่าสนใจซึ่งมาด้วยกับ Swift 3 คือ บริการ 3 Hour Service หรือบริการซ้อมด่วนภายใน 3 ชม. เพื่อให้ลูกค้าสามารถกลับไปทำงานเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในส่วนของประกันเครื่องจะอยู่ที่ 3 ปี ตามมาตรฐานของ Acer แต่ในส่วนของซ้อมด่วนจะสามารถใช้บริการได้แค่ภายในปีแรกของประกันเท่านั้น


ผลทดสอบ

หลายคนอาจตั้งคำถามว่า "เครื่องนี้ไม่ได้มาพร้อมกับการ์ดจอแยก จะเล่นเกมไหวเหรอ?" ผมต้องบอกตรงนี้เลยว่า อย่าได้ดูถูก Intel Iris Xe Graphics G7 ไป เนื่องจากนี้คือการ์ดจอที่มากับ CPU และแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว ถ้าถามว่าแรงขนาดไหน? ก็ต้องบอกเลยว่าไม่น้อยหน้า 1050 เท่าไหร่ครับ!

สำหรับโปรแกรมที่หยิบมาทดสอบในครั้งนี้ยังคงเป็น 3D Mark Time Spy เช่นเดิม แต่ในส่วนของเกมผมเลือกที่จะหยิบมาเป็นเกม MOBA ชื่อดังอย่าง DOTA 2 กับ LOL มาทดสอบ เนื่องจากโดยปกติคงไม่มีใครเอาคอมสำหรับทำงานไปเล่นเกม AAA หนักๆ อยู่แล้ว ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็อยู่ข้างล่างนี้เลย


สำหรับ 3D Mark ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับทดสอบ GPU โดยเฉพาะ ไม่ใช่เรื่องแปลกนักหากเราจะได้คะแนนโดยร่วมน้อย เนื่องจาก Intel Iris Xe Graphics G7 ถือเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ไม่ได้มีความสามารถในการประมวลผลมากมายอะไรนัก แต่สังเกตที่คะแนนของ CPU Score ที่ทำได้ถึง 5091 ที่เรียกได้ว่าสูงพอสมควร แต่คะแนนจากโปรแกรม Benchmark อย่างเดียวอาจไม่สามารถบอกอะไรได้มากมายนัก ดังนั้นเรามาดู FPS ที่ทำได้เมื่อเล่นเกมจริงๆ กันบ้าง


สำหรับเกมแรกที่เราหยิบมาทดสอบคือ MOBA ชื่อดังอย่าง Dota 2 โดยการตั้งค่ากราฟิกจะอยู่ที่ Best ในส่วนของ FPS ที่ทำได้เรียกว่าไม่น่าผิดหวังมีค่าแกว่งอยู่ที่ประมาณ 48 - 80 FPS และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 74 FPS เรียกได้ว่าสามารถเล่นได้อย่างไม่มีปัญหา 


ต่อมาดูที่เกม MOBA ซึ่งได้รับความนิยมมากๆ ในบ้านเราอย่าง LOL กันบ้าง ในการตั้งค่ากราฟิกระดับปานกลาง Swift 3 สามารถดัด FPS ของเกมให้สูงกว่า 140 FPS ได้สบายๆ และค่าจะแกว่งอยู่ที่ประมาณ 120 - 170 FPS หรือกล่าวคือสามารถเล่นเได้อย่างไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน


ในส่วนของ FPS ที่ทำได้ในเกมอื่นๆ จากรูปข้างบนจะสังเกตได้ว่าเกม Online ดังๆ อย่าง Rocket League, CS:GO และ Valorant เจ้า  Intel Iris Xe Graphics สามารถทำได้มากกว่า 100 ในทุกๆ เกม ในส่วนของเกม AAA ดังบางเกมอย่าง GTA V, Overwatch และ GRID 2019 (VRS) ก็ยังสามารถทำ FPS ได้ประมาณ 50 - 60 ด้วย กล่าวคือใช้เล่นเกมทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน


ราคา ?

อ่านกันมาจนถึงตรงนี้เชื่อว่าคำถามสุดท้ายที่อยู่ในใจทุกคนคงเป็นเรื่องของราคาเจ้า Swift 3 โมเดลใหม่นี้ว่าเท่าไหร่? สำหรับรุ่นเริ่มต้นจะมีราคาอยู่ที่ 25,900 บาท และรุ่น 29,900 บาท โดยรุ่นราคาเริ่มต้นจะมาพร้อมกับ CPU ตัวน้องอย่าง intel Core i5 11300H ส่วนตัวที่อยู่ในรีวิวฉบับนี้คือตัวรุ่นพี่ที่มีราคาแพงกว่า และมาพร้อมกับ intel Core i7-11370H ทั้งสองรุ่นสามารถหาซื้อได้ง่ายผ่านตัวแทนจำหน่าย หรือร้านขายคอมพิวเตอร์ชั้นนำอย่าง JIB, Advice และ Banana It ถ้าหากเพื่อนๆ กำลังมาหา Notebook สำหรับทำงาน ที่เอามาเล่นเกมในยามว่างได้ มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพงจนเกินไป ก็ขอแนะนำ Acer Swift 3 เลย


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header