หากมองย้อนกลับไปในปี 2016 เกม Overwatch ของผู้พัฒนา Blizzard นับเป็นเกมยอดฮิตที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งสามารถกวาดทั้งยอดขาย จำนวนผู้เล่น และรางวัลสาขาต่าง ๆ ไปได้มากมายตลอดระยะเวลา 2-3 ปีแรกที่เกมเปิดให้บริการ จนกระทั่งในปี 2019 เมื่อผู้พัฒนา Blizzard ได้ออกมาเปิดตัวเกม Overwatch 2 ภาคต่อยอดนิยมที่จะคืนชีพให้กับเกม Hero Shooter ลูกรักของพวกเขาอีกครั้ง

แต่ยิ่งเวลาล่วงเลยไปเรื่อย ๆ ข่าวคราวเกี่ยวกับเกม Overwatch 2 ก็ร่อยหรอลงไปทุกที พร้อมกับความนิยมของทั้งเกม Overwatch ภาคแรกที่ขาดการอัปเดทจากทีมพัฒนามาพักใหญ่แล้ว และความเชื่อมั่นของแฟน ๆ ในผู้พัฒนา Blizzard ที่ริบหรี่ลงไปตามกัน ซ้ำร้ายยังถูกแทนที่ด้วยข่าวปัญหาวัฒนธรรมองค์กรมากมายจาก Activision Blizzard ที่กลายนำไปสู่การขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้วในปีที่ผ่านมา และนำไปสู่การเข้าซื้อกิจการบริษัทโดย Microsoft เมื่อเร็ว ๆ นี้

หนึ่งในผลกระทบแง่บวกของการเข้าซื้อกิจการโดย Microsoft ครั้งนี้ คือการที่ CEO เข้าปัญหาคนเดิมอย่าง Bobby Kotick อาจจะก้าวลงจากตำแหน่งในที่สุด หลังจากที่เขาถูกกล่าวถึงในฐานะต้นเหตุของปัญหามากมายภายในองค์กร Activision Blizzard โดยล่าสุดดูเหมือนว่าเกมเมอร์ทั้งหลายอาจจะมีเหตุผลให้สาปส่งคุณ Bobby มากขึ้นอีกข้อแล้ว เมื่อผู้พัฒนาตำแหน่งโปรดิวเซอร์ทีม Overwatch คุณ Tracy Kennedy เปิดเผยว่าเขาได้แทรกแซงการทำงานของทีม เป็นเหตุให้เกม Overwatch 2 สร้างไม่เสร็จซักที?!

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อคุณ Bobby ได้สัมภาษณ์กับสื่อ GamesBeat เกี่ยวกับการขายกิจการ Activision Blizzard ให้กับ Microsoft โดยคุณ Bobby กล่าวตอนหนึ่งว่าการเลื่อนวันวางจำหน่ายของทั้งเกม Diablo 4 และ Overwatch 2 ได้ส่งผลกระทบแง่ลบต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท ซึ่งเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การตัดสินใจขายกิจการในที่สุด ทำให้คุณ Tracy ต้องออกมาปกป้องทีมพัฒนา

'บ๊อบบี้ ทำไมนายไม่บอกทุกคนเกี่ยวกับโปรเจกต์อะไรก็ไม่รู้สำหรับ Overwatch 1 ที่นายบังคับให้ทีมทำ ทำให้ทีมต้องจำใจทำงานล่วงเวลา แค่เพื่อให้พวกนายมายกเลิกงานของเราในที่สุด และทำให้เสียเวลาพัฒนา Overwatch 2 ไปหลายเดือน หรือการที่ทีมหลายทีมพากันลาออกยกทีมโดยที่ยกชื่อนายขึ้นมาเป็นสาเหตุ ไม่ต้องอายน่า'

ภายในกระทู้ทวิตเตอร์ดังกล่าว คุณ Tracy ยังได้เรียกคุณ Bobby ว่าเป็น 'ไอ้ขี้ขลาดที่หลบหลังแพะรับบาป' และเป็น 'ตัวตลกจอมโลภ' อีกด้วย ก่อนที่จะแสดงความยินดีว่าคุณ Bobby จะไม่มีอำนาจในการแทรกแซงการพัฒนาเกมของเธอและเพื่อนร่วมงานอีกต่อไป

แหล่งข่าว: Gamerant