Command & Conquer Remastered Collection ชุดรวมตำนวนเกมแนว RTS ทั้ง 2 ภาคได้แก่เกม Command & Conquer ภาคแรกและ Red Alert ภาคแรก พร้อมเป็นการยกเครื่อง Remaster ให้เล่นได้ลื่นไหลขึ้นกับ PC ยุคสมัยนี้รวมทั้งยังรองรับระบบออนไลน์เล่นกับเพื่อน กำลังลดราคาบน PC โปรแกรม Steam เหลือ 81 บาทจนถึงวันที่ 24 มกราคม 2023 นะ!!! โดยบน Steam จะยังรองรับ Steam Workshop ให้ไปดาวน์โหลด mod ต่างๆ ของเกมได้ผ่านโปรแกรม Steam แบบแสนจะง่ายอีกด้วย แถมตัวเกมในชุดรวมนี้จะยังมีคอนเทนต์ครบทั้งหมด คอนเทนต์ไหนที่เคยมีแค่บน Console ก็จะถูกใส่เข้ามาให้เล่นได้ด้วย ใครสนใจไปซื้อเล่นกับเพื่อนๆ ได้ที่ด้านล่างเครดิต : steam

The Last of Us Remastered เกมที่นำ The Last of Us ภาค 1 มายกเครื่องใหม่ และวางขายไปแล้วบน PS5 แต่ล่าสุดนี้ได้ปล่อยคลิปใหม่ และแจ้งแล้วนะจะวางขายบน PC ใน 3 มีนาคม 2023 นี้!!! โดยถือเป็นเกม The Last of Us ภาคแรกเลยที่มาวางขายบน PC ซึ่งก็ยังไม่ได้เผยรายละเอียดว่าบน PC จะมีจุดเด่นยังไงบ้าง แต่ก็น่าจะมีลูกเล่นพิเศษด้านภาพกราฟิกให้ปรับได้ต่างจาก PS5 เยอะหลายส่วน รวมทั้งนี่ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกว่า The Last of Us 2 ก็จะตามมาลงบน PC ด้วย!!! ชาว PC ที่รอเล่นก็เตรียมตัวกันได้เลยในวันที่ 3 มีนาคมปีหน้าเครดิต : youtube

Square Enix ได้ประกาศว่าตัวเกม Final Fantasy 6 Pixel Remaster จะลงให้กับเครื่อง PC, iOS และ Android อย่างเป็นทางการแล้ว โดยตัวเกมจะเปิดให้เล่นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2022 (ในโซนอเมริกาเหนือ)โดยการ Remaster ในครั้งนี้ ตัวเกมจะได้รับการอัปเกรดคุณภาพกราฟิกแบบ 2 มิติให้ดียิ่งขึ้นกว่าภาคต้นฉบับ ปรับปรุงระบบการเล่นให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ UI ของตัวเกมทันสมัยขึ้น มีตัวเลือก Auto-Battle มาให้สำหรับผู้เล่น นอกจากนี้ยังจะมีการเรียบเรียงเพลงประกอบใหม่ โดย Nobuo Uematsu ที่เป็นนักแต่งเพลงตั้งแต่ภาคดั้งเดิมอีกด้วยสำหรับคนที่สั่งซื้อล่วงหน้า จะได้รับส่วนลดถึง 20% แถมยังได้รับของรางวัลพิเศษอย่างวอลเปเปอร์กับ 5 เพลงประกอบสุดพิเศษอีกด้วย แน่นอนว่าเพลงทั้ง 5 เพลงนี้ก็ได้รับการเรียบเรียงใหม่โดยยังเคารพต้นฉบับเหมือนเดิมและถึงแม้ว่าตัวเกมจะลงให้กับแค่ PC และโทรศัพท์มือถือ แต่ทาง Square Enix ยังได้กล่าวเอาไว้ว่า หากมีผู้เล่นจำนวนมากพอ ต้องการให้เรานำตัวเกมไปลงบนแพลตฟอร์มอื่น พวกเราก็จะพิจารณาในการขยับขยายในภายหลังเพราะฉะนั้นคนที่อยากจะลองสัมผัสตัวเกม Final Fantasy 6 Pixel Remaster บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็ยังคงไม่หมดหวังไปเสียทีดีนะครับ อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าตัวเกมภาคนี้จะทยอยลงให้กับเครื่อง Switch ภายในปีนี้อีกด้วยแหล่งข้อมูล: gamingbolt

ดูเหมือนว่าทาง Rockstar Games กำลังมีแผนที่จะเอาเกมเก่าๆ กลับมาปรับปรุงกราฟิกใหม่เกือบทุกภาค อย่างที่ทราบว่าตอนนี้ผู้พัฒนาเตรียมวางจำหน่ายเกมอย่าง Grand Theft Auto: The Trilogy ที่เอาเกมอย่าง GTA III, GTA Vice City และ GTA San Andreas มาปรับปรุงภาพใหม่ และล่าสุดมีข่าวลือจากทาง Twitter นามว่า RalphsValve นักปล่อยข่าววงในได้กล่าวว่า Grand Theft Auto 4 ฉบับ Remastered กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา และจะเปิดตัวในปี 2023 ลงให้กับเครื่อง PC, PS5 , Xbox Series X/S, PS4 และ Xbox Oneรวมถึงยังมีการรวมเอา DLC ของเกมใส่เข้ามาด้วยทั้ง Liberty Cit, The Lost and the Damned และ The Ballad of Gay Tony และตัวเกมนี้จะมาแค่ในโหมด Single Player เท่านั้น จะไม่มีการเอาโหมด Multiplayer เข้ามา Credit - Gamingbolt

ต่อจากข่าวเปิดให้ Pre-Order กับราคาเกม ก็เป็นช่วงวางขายของเกมฉบับแผ่นสำหรับ GTA Trilogy Remasters ซึ่งเหมือนว่าก่อนคริสต์มาสปีนี้จะได้เล่นพร้อมกันอย่างแน่นอน เมื่อรายงานจาก PPE ได้เปิดเผยว่า ตัวเกมฉบับแผ่นของเครื่อง PS4 จะเริ่มถูกส่งให้กับคนที่ Pre-Order รวมถึงวางขายหน้าร้านก่อนคริสต์มาสปีนี้PS4, Xbox One และ Switch จะได้แผ่นกันในวันที่ 7 ธันวาคม 2021 แต่สำหรับฉบับ PS5, Xbox Series X / S จะมาในช่วงปีหน้าแทน สำหรับทาง Official ล่าสุดบอกแค่ว่า GTA Trilogy remasters จะวางขายช่วงปลายปีนี้สำหรับเครื่อง Console และ PC ส่วนมือถือจะตามมาในช่วง 2022อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ Tom Henderson นักปล่อยข่าวลือได้บอกว่า RockStar Games วางแผนจะปล่อยเกมในแบบ Digital ภายในเดือน พฤศจิกายน ดังนั้นเอาจริงๆ ไม่สามารถยืนยันได้จริงๆ ว่าข่าวไหน คือข้อมูลที่ถูกต้องกันแน่ แต่ในเมื่อจะขายภายในปีนี้ อย่างน้อย RockStar Games น่าจะประกาศวันวางขายจริงๆ ก่อนเกมออกแน่ๆ ครับCredit : VGC

วางจำหน่ายแล้วสำหรับ Alan Wake Remastered ให้เราได้กลับไปสนุกกับเกมเก่าในภาพที่สวยงามขึ้น ความละเอียดสูงขึ้น ลงให้กับ Xbox Series X / S, Xbox One, PS5, PS4 และ PC ซึ่งดูเหมือนชาว Nintendo Switch อาจมีสิทธิได้เล่นเกมนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อล่าสุดเพิ่งจะถูกจัดหมวดหมู่อายุโดย PEGI สำหรับ Switch ไปPEGI ได้มีการจัดหมวดหมู่อายุผู้เล่นที่เหมาะสมให้กับเกม สำหรับเครื่อง Nintendo Switch ซึ่งหมายความว่าตัวเกมน่าจะกำลังถูกพอร์ตมาลงให้กับ Nintendo แน่ๆ แล้ว คำถามคือเมื่อไหร่เสียมากกว่า แต่ยังไม่ทราบว่าตัวเกมจะมาในฉบับ Cloud หรือมาเป็นเกมเต็มเลย เมื่อล่าสุด Kingdom Hearts ที่น่าจะเล่นบนเครื่อง Switch ได้อย่างไม่มีปัญหากลับถูกเอามาลงในรูปแบบ Cloud เท่านั้นเวลาเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ของผู้เล่นได้ ในเมื่อถูกจัดหมวดหมู่อายุแล้ว อีกไม่นานเราคงได้เห็นการประกาศอย่างเป็นทางการแน่นอนCredit : GamingBolt

Alan Wake Remastered เกมฉบับ Remastered ของเกมสุดคลาสสิกของค่าย Remedy Entertainment กำลังจะเปิดให้เล่นแล้วในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ได้มีการปล่อยวิดีโอเกมเพลย์ยาว 7 นาทีในภาพระดับ 4K ให้รับชมกันว่าเกมนี้มีภาพกราฟิกระดับไหนและสามาารถทำอะไรในเกมได้บ้าง วิดีโอจะเริ่มในช่วงหลังเล่นเกมมาซัก 30 นาทีและตัวเอกของเกม Alan Wake ได้เอาตัวรอดมาจากอุบัติเหตุรถชนมาได้และมาเจอสภาพรอบข้างที่แปลกไปจากปกติทำให้ Alan Wake ต้องสืบหาข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้นกับที่นี่กันแน่Alan Wake Remastered มีกำหนดเปิดให้เล่นในวันที่ 5 ตุลาคม บน Xbox Series X/S, Xbox One, PS5, PS4 และ PC ผ่านทาง Epic Games StoreCredit: Gamingbolt

หลังจากที่มีกระแสข่าวกันมาพักใหญ่ๆ ทางทีมผู้พัฒนาของเกมในตำนาน Alan Wake อย่าง Remedy Entertainment ก็ทำการออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า พวกเขาตั้งใจที่จะสร้างจักรวาลของ Remedy Connected Universe ที่ใหญ่ขึ้น และมีเกมหลายเกมรวมเข้าด้วยกัน ซึ่ง Alan Wake นั้นจะเป็นเหมือนเกมที่เข้ามาขยายมันให้กว้างใหญ่ขึ้นนั่นเองโดยตัวเกม Alan Wake Remastered ที่กำลังจะมาถึงนั้น เราอาจจะได้เห็นทางทีมผู้พัฒนาทำการแก้ไขเนื้อหาบางส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมโยง ให้เกมนั้นร่วมเข้ามาอยู่ในจักรวาลเดียวกันกับเกมอื่นๆ จากการพูดคุยกับ Thomas Puha ผู้กำกับด้านการสื่อสารของทาง Remedy ก็ได้มีการกล่าวว่า Alan Wake Remastered จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแบบโดยสิ้นเชิง แต่จะมีการเพิ่มเติมส่วนเชื่อมโยงเข้าไป เพื่อให้ตัวเกมเชื่อมถึงเกมอื่นๆ ของ Remedy และเขายังกล่าวเสริมอีกว่า “สิ่งที่เราจะบอกก็คือ จงให้ความสนใจในการเล่นภาค Remastered”นอกจากนั้นในตอนนี้ทาง Remedy Entertainment เองก็กำลังซุ่มพัฒนาเกม AAA เกมใหม่อยู่ และแน่นอนว่ามันจะเป็นตัวเกมที่อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับ Control กับ Alan Wake ซึ่งก็ไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็น Alan Wake 2 ก็เป็นได้อย่างไรก็ดี Alan Wake Remastered นั้นเตรียมจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 ตุลาคม บน PS4, Xbox One และ PC ค่ะ อดใจรอกันอีกไม่นานแล้วนะ!Credit: GamingBolt

เพื่อนๆ ยังจำงาน E3 กันได้ไหมครับ ย้อนกลับไปช่วงนั้นทาง Square Enix ได้ประกาศรีมาสเตอร์เกม Final Fantasy ภาคเก่าๆ รวม 6 ภาค โดยใช้ชื่อว่า Final Fantasy Pixel Remaster ถึงในตอนนั้นจะไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก แต่หลังเริ่มวางขายภาค Remaster นี้ไปได้ 3 ภาคผลตอบรับก็เริ่มดีขึ้นเรี่อยๆ จนตอนนี้ก็วางขายภาคที่ 4 แล้วFinal Fantasy 4 Pixel Remaster เริ่มวางขายแล้วบนเครื่อง PC, iOS และ Android เกมนี้มีถูกอัปเดตให้ดูดีขึ้น ปรับเสียง Soundtrack ใหม่ ปรับ UI ให้ดูทันสมัยขึ้น ​​เพิ่มระบบการต่อสู้อัตโนมัติ และปรับอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวเกมมีราคาอยู่ที่ $17.99 (ประมาณ 600 บาท) แต่ในตอนนี้สามารถรับส่วนลด 20% ได้จนถึงวันที่ 23 กันยายน เพื่อนๆ สามารถรับชมตัวอย่างเปิดตัวได้ด้านล่างนี้เลยครับ<iframe width='720' height='405' src='https://www.youtube.com/embed/WKfapivkH8A' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>ถึงจะวางขายภาค 4 แล้วแต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าววันวางขายภาค 5 กับภาค 6 ออกมา แต่เมื่อ 2 - 3 เดือนที่แล้วทาง Square Enix ได้กล่าวไว้ว่า Final Fantasy Pixel Remaster ยังสามารถวางขายให้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อีกด้วย Credit : GamingBolt

Crytek ประกาศ Crysis Remastered Trilogy จะวางขายพร้อมกัน 15 ตุลาคม 2021 นี้ โดยภายในแพ็กจะมาพร้อมกับ Crysis, Crysis 2, Crysis 3 โดยสำหรับคนที่ซื้อเกม Remastered ภาคแรกมาแล้ว สามารถซื้อภาค 2 กับภาค 3 อย่างเดียวได้เช่นกันสำหรับสิ่งที่เปลี่ยนไปในฉบับ Remastered นี้เห็นชัดที่สุดคือเรื่องของภาพ และกราฟิก โดยผู้พัฒนาได้มีการปล่อยวิดีโอเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ว่าตัวเกมฉบับ PS3 กับ PS5 มีความแตกต่างกันมากขนาดไหน ซึ่งในฉบับ PC จะแตกต่างกันแบบคนละเรื่องเลยเช่นเดียวกัน สำหรับใครที่รอจะเล่นภาค 2 กับภาค 3 ฉบับ Remastered อยู่ก็เตรียมเงินกันไว้ดีๆCrysis Remastered Trilogy จะวางขาย 15 ตุลาคม 2021 บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/_NEwP29H-z4' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : Wccftech

Crytek ได้ประกาศเปิดตัว Crysis Remastered Trilogy ไว้เมื่อ 2-3 เดือนที่แล้ว ตามที่แฟนๆ ได้คาดหวังกันไว้ โดย Remastered ครั้งนี้ทางทีมงานจะปรับปรุงด้านกราฟิกให้สวยงามขึ้น ก่อนหน้านี้เราก็ยังไม่รู้ว่าจะสวยขึ้นขนาดไหน แต่ตอนนี้ก็มีตัวอย่างใหม่ออกมาให้เราได้เห็นกันแล้วว่าเราสามารถคาดหวังได้มากขนาดไหน  อย่างที่ผมบอกตามหัวข่าวเลยครับ ในตัวอย่างใหม่นี้จะเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่างกราฟิกในเครื่อง Xbox 360 กับเครื่อง Xbox Series X ผลลัพธ์ออกมาสำหรับผม ผมว่าค่อนข้างน่าประทับใจเลย หลายๆ อย่างดูสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นคุณภาพกราฟิก กับดีเทลต่างๆ ในขณะเดียวกันยังเป็นการเทียบกันระหว่างความละเอียดแบบไดนามิกระหว่าง 1080p และ 4K ที่สูงถึง 60 เฟรมต่อวินาทีอีกด้วย เพื่อนๆ สามารถรับชมการเปรียบเทียบได้ด้านล่างนี้เลยครับ Crysis Remastered Trilogy จะวางขายให้กับเครื่อง PS4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC ในช่วงเดือนกันยายน - พฤศจิกายนนี้ พร้อมการเพิ่มประสิทธิภาพตามที่ทีมงานสัญญาไว้ให้กับเครื่อง PS5 และ Xbox Series X / S ด้วย Credit : GamingBolt

หลังจากที่มีการประกาศและยืนยันจากภายในงาน E3 ที่ผ่านมาว่า เกม Life is Strange จะทำการอัปเดตเวอร์ชัน Remastered Collection และ True Colours ลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch เมื่อเร็วๆ นี้พวกเขาก็ได้ออกมาประกาศเพิ่มเติมว่า การอัปเดตดังกล่าวจะเกิดความล่าช้ากว่ากำหนดโดยทาง Square Enix ได้ออกมาโพสต์ยืนยันอย่างเป็นทางการผ่าน Twitter ของ Life is Strange เองว่า Life of Strange: True Colors เวอร์ชัน Switch “จะออกมาช้าหน่อย” แต่อย่างน้อยๆ เราก็ยังหวังได้ว่าตัวเกมตั้งใจจะเปิดตัวในปีนี้แน่ๆ แม้จะยังไม่รู้ว่าเป็นเมื่อไหร่ก็ตามนอกจากนั้นเมื่อวานซืนทาง Square Enix ยังมีการออกมายืนยันเพิ่มเติมอีกว่า Life is Strange: Remastered Collection จะถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2022 อีกด้วยถึงจะยังไม่มีข่าวดีเลยสำหรับผู้เล่นชาว Nintendo แต่อย่างน้อยที่สุดตัวเกม Life is Strange: True Colors ก็มีกำหนดการที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 กันยายน บน PS5, Xbox Series X / S, PS4, Xbox One, PC และ Stadia ค่ะ Credit: GamingBolt

จากข่าวเมื่อวานที่ทาง Square Enix ได้ยืนยันวันวางจำหน่าย Final Fantasy Pixel Remaster ผ่านวิดีโอ แต่ภายหลังก็ลบออกไปนั้น วันนี้ก็มีประกาศใหม่ออกมาแล้วว่าตัวเกมจะวางขายวันไหน พร้อมกับบอกด้วยว่าจะเริ่มวางขายภาค 1 ถึง 3 ให้กับ PC, Android กับ iOS ก่อนส่วนภาค 4 ถึง 6 จะตามมาในภายหลัง แต่ก็ยังไม่มีประกาศว่าจะขายให้กับเครื่องคอนโซลแต่อย่างใดFinal Fantasy ภาค 1 ถึง 3 จะขายในราคา $11.99 ต่อภาค (ประมาณ 380 บาท) ตอนนี้สามารถสั่งพรีออเดอร์ได้โดยจะลดราคา 20% เหลือ $9.59 ต่อภาค (ประมาณ 300 บาท) นอกจากนี้ยังมีเป็นรวมภาคด้วย โดยจะรวมภาค 1 จนถึง 6 โดยจะมีราคา $74.82 (ประมาณ 2400 บาท) สำหรับคนที่พรีออเดอร์จะได้รับเพลงประกอบและวอลเปเปอร์ฟรีของแต่ละภาคด้วยการรีมาสเตอร์ครั้งนี้จะเปลี่ยนกราฟิกกับเพลงประกอบแทบทั้งหมด รวมถึงตัวละครด้วยโดยเรื่องของตัวละครจะถูกรีมาสเตอร์โดยคุณ Kazuko Shibuya ส่วนเพลงประกอบก็ได้รับการรีมาสเตอร์โดยนักแต่งเพลง Nobuo Uematsu โดยทั้งคู่ทำงานในแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ Final Fantasy ภาคแรก Credit : GamingBolt

หลังเปิดตัวไปในงาน E3 2021 ด้วยข้อมูลอันน้อยนิด โดยบอกแค่ว่าตัวเกมจะเล่นในไหนได้บ้าง จนตอนนี้มีข่าวออกมาเพิ่มเติมแล้ว โดยทาง Square Enix ได้ยืนยันเรียบร้อยแล้วว่าตัวเกมจะเริ่มวางขายในเดือนหน้านี้ ถึงแม้ว่าตัววิดีโอนี้ถูกลบออกไปแล้วแต่ก็ยังดีที่มีมือดีอัดเอาไว้ สามารถดูได้ด้านล่างนี้  ในวิดีโอดังกล่าวได้เปิดเผยวันที่จะวางขายบน iOS, Android และ PC ไว้ซึ่งในวิดีโอยังมีผู้สร้างซีรีส์ Hironobu Sakaguchi นักแต่งเพลง Nobuo Uematsu และโปรดิวเซอร์ Yoshinori Kitase มาพูดคุยกันในวิดีโอนี้ด้วย ทั้งสามคนพูดถึงการพัฒนาของเกมแต่ละภาคพร้อมยืนยันว่าตัวละครพิกเซลอาร์ตได้รับการรีมาสเตอร์หมดแล้ว โดยคนที่ทำการรีมาสเตอร์พวกนี้คือ Kazuko Shibuya โดยเขาทำงานในแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ Final Fantasy ภาคแรกFinal Fantasy Pixel Remaster จะรวมตัวเกมตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาค 6 ไว้ด้วยกันโดยเราสามารถซื้อแต่ละภาคแยกกันได้ แต่ก็มีแบบรวมภาคให้ซื้อเช่นกัน Credit : GamingBolt

นับได้ว่าเป็นผลงานชิ้นใหญ่ของกลุ่มแฟนคลับ Dark Souls เลยก็ว่าได้กับ Dark Souls: Night Fall Mod ของเกม Dark Souls Remastered ที่เปรียบเป็นภาคต่ออย่างไม่เป็นทางการของ Dark Souls ภาคดั้งเดิมที่มาพร้อมด้วยเนื้อเรื่องใหม่ แผนที่ใหม่ ระบบการต่อสู้ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยใน Mod มีกำหนดปล่อยให้โหลดในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ สามารถดูตัวอย่างได้ด้านล่างนี้Mod นี้จะเหมือนกับเกมต้นฉบับตรงที่เนื้อเรื่องจะเริ่มที่ Undead Asylum แต่จุดต่างจะอยู่ที่ไม่มีกามาคว้าตัวผู้เล่นเลย แต่จะตกลงไปที่ Kiln of the First Flame แทนซึ่งดูเหมือนว่าตัวเอกจะจัดการ Gwyn ไปเรียบร้อยแล้วเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทางแฟนคลับยังได้ปล่อยตัวอย่างเกมเพลย์ที่อยู่ในช่วงพัฒนานาน 18 นาทีออกมาด้วยสามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลย Credit : PC Gamer

จากข่าวลือมากมายเกี่ยวกับ Bloodborne เกม Action RPG จาก FromSoftware ที่วางจำหน่ายให้กับเครื่อง PS4 ที่กำลังจะมีการรีมาสเตอร์สำหรับ PS5 จากข่าวลือตั้งแต่มิถุนายน 2020 ระบุไว้ว่าทาง QLOC กับ Bluepoint กำลังร่วมกันพัฒนา Bloodborne Remaster และในเดือนกันยายน 2020 มีข่าวลืออีกเรื่องหนึ่งบอกว่าการรีมาสเตอร์นั้นคืบหน้ามากและจะมีคอนเทนต์ใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาด้วยแน่นอนว่ายังไม่มีใครได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมเลยหลังจากนั้น แต่เมื่อไม่นานมานี้นักปล่อยข่าวลือบน Twitter ที่ใช้ชื่อว่า SoulsHunt ผู้ที่ปล่อยรายละเอียดเกี่ยวกับ Stranger of Paradise Final Fantasy Origin ก่อนการประกาศอย่างเป็นทางการ ได้โพสต์ลง Twitter ว่า (ใช้ DeepL ในการแปล) Bloodborne Remastered กำลังจะวางขายในปีนี้สำหรับ PS5 ส่วนของ PC จะมาในภายหลังลิงก์ Twitter : Beaucoup attendent une suite à Bloodborne mais cela n'arrivera pas. FS préfère se focaliser sur de nouvelles IPsCependant, Bloodborne sortira bien cette année sur PS5 (plus tard sur PC) ! Le remaster n'est pas développé par Bluepoint ni FS mais est ambitieux pic.twitter.com/zX2aBEkMAC— SoulsHunt (@SoulsHunts) June 19, 2021 อย่างไรก็ตามในโพสต์ของ SoulsHunt ยังบอกอีกว่าภาคใหม่นี้ไม่ได้พัฒนาโดย Bluepoint Games หรือ FromSoftware แต่เป็นฝีมือของ QLOC ในการพัฒนาทั้งหมดแทน และยังมีบอกอีกว่าเป็นเกมที่มีความทะเยอทะยานสูง ซึ่งอาจตรงกับข่าวลือก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคอนเทนต์ใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาถึงแม้ว่าข้อมูลของ SoulsHunt จะมีความน่าเชื่อถือ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อข่าวลือทั้งหมด เราก็แค่รอการประกาศอย่างเป็นทางการอย่างเดียว อย่างไรก็ตามระหว่างนี้สามารถเล่น Bloodborne บน PS5 ได้ แต่ทำงานที่ 30 FPS เท่านั้นCredit : https://gamingbolt.com/bloodborne-remaster-is-out-this-year-on-ps5-later-for-pc-rumor

เมื่อช่วงปีที่แล้ว Saints Row: The Third เกมแนว Openworld ที่เรารู้จักได้ทำการ Remastered ปรับภาพให้สวยขึ้น ลงให้กับเครื่อง PC, PS4 และ Xbox One และล่าสุดตัวเกมได้ทำการอัพเกรดกราฟิกให้ดีกว่าเดิมบนเครื่อง PS5 และ Xbox Series X แล้วตอนนี้ !!โดยเกมเวอร์ชันอัปเกรดนี้จะแสดงผลแบบไดนามิก 4K บวกกับ 60 FPS รวมถึงตัวกราฟิกยังสวยเทียบเท่ากับกราฟิก High Setting บนเครื่อง PC แถมยังมีการปรับปรุง Effect, Texture Resulution และอื่นๆ ด้วย !! รวมถึงสำหรับคนที่เล่นเกมนี้บนเครื่อง PS5 ตัวเกมก็ซัพพอร์ตจอย DualSense ด้วย ส่วนใครที่มีเครื่อง Xbox Series S คุณสามารถเลือกเล่นโหมด Beauty ที่แสดงค่า 4K (Upscale) 30 FPS หรือโหมด Performance ที่จะเป็น 1080p 60 FPS ได้ซึ่งใครที่มีเกมนี้บนเครื่อง PS4 และ Xbox One จะได้รับการอัพเกรดแบบอัตโนมัติCredit - Gamingbolt

ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ Crysis วันนี้บนเครื่อง PS5 กับ Xbox Series X / S เมื่อล่าสุดได้มีการอัพแพตช์ใหม่ที่เปิดให้สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นเกมนี้แบบ Quality Mode ที่มาพร้อมกับกราฟิกสวยๆ หรือ Performance Mode ที่ได้ FPS นิ่งๆ ที่ 60 หรือ Ray Tracing ที่มีแสงสวยงามกว่าเนื่องจากโหมดที่เปิดได้มีเยอะมาก ผมเลยขอสรุกให้เข้าใจง่ายๆ ข้างล่างนี้ครับXBOX SERIES XPerformance mode - 1080p - 60 fpsQuality mode – 2160p - 60 fpsRayTracing - 1440p - 60 fpsXBOX SERIES SPerformance mode – 1080p - 60 fpsQuality mode - 2160p - 30 fpsRayTracing - 1080p - 30 fpsPlayStation 5Performance mode – 1080p - 60 fpsQuality mode - 1800p - 60 fpsRayTracing - 1440p - 60 fpsไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม Xbox ถึงเล่นแบบ 4K ได้ แต่กลับไม่สามารถทำได้บน PlayStation ในเมื่อ PS5 น่าจะมี Hardware ที่ดีกว่า Xbox Series S ครับ<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='en' dir='ltr'>Crysis Remastered console update is now live for PlayStation 4/5 and Xbox One / Series X/S players!<br><br>Ascension Level ✔<br>Classic Nanosuit Controls ✔<br>Multiple Bug Fixes ✔<br>Frame Rate Enhancements ✔<br><br>For more details:<a href='https://t.co/pcE9li2MQV'>https://t.co/pcE9li2MQV</a><a href='https://t.co/K39rCDNt67'>https://t.co/K39rCDNt67</a> <a href='https://t.co/KnpLWxodj4'>pic.twitter.com/KnpLWxodj4</a></p>&mdash; Crysis (@Crysis) <a href='https://twitter.com/Crysis/status/1379801915605843970?ref_src=twsrc%5Etfw'>April 7, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>Credit: https://gamingbolt.com/crysis-remastered-update-adds-graphical-modes-for-ps5-xbox-series-x-s

ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือน 10 ของปีนี้ เราได้ทราบว่า Marvel’s Spider-Man Remastered จะเป็น Code ที่แถมมากับเกม  Marvel’s Spider-Man: Miles Morales Ultimate Edition บนเครื่อง PS5 ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมามันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะซื้อเฉพาะภาค Remaster ของตัวเกมมาเล่นเพียงอย่างเดียว แต่เหมือนว่าอะไรๆ ก็กำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อล่าสุดมีภาคหลุดราคาของเกมภาค Remaster เพียงอย่างเดียวออกมาครับ! อยู่ดีๆ ก็มีการปล่อยข้อมูลรูปภาพราคาของ Marvel’s Spider-Man Remastered แบบตัวเกมแยกออกมาผ่านหน้าร้านค้า PSN ของอเมริกา และอังกฤษ ($39.99 และ £44.99 ตามลำดับ) ซึ่งแน่นอนว่ารูปภาพดังกล่าวถูกเอาลงจากหน้าเว็บไซต์เรียบร้อยแล้วในตอนนี้ แต่โชคดีที่ยังมีคนที่แคปภาพไว้ได้ทันครับ แม้ยังไม่มีการยืนยันโดย Insomniac Games หรือ Sony ออกมาในตอนนี้ แต่เชื่อว่าภาพหลุดดังกล่าวก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้เล่นที่อยากเล่นเฉพาะภาค Remastered ของเกม มีความหวังขึ้นมาแล้วครับ Marvel’s Spider-Man Remastered และ Marvel’s Spider-Man: Miles Morales วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PS5 เท่านั้น Credit: GamingBolt

ในที่สุด Marvel’ s Spider-Man Remastered ก็สามารถเล่นแบบเปิด Ray Trancing พร้อมกับมีเฟรมเรท 60 FPS ได้แล้ว โดยก่อนหน้านี้ตัวเกมมีตัวเลือกให้เราแค่ว่า จะเล่นแบบภาพสวยที่สุด หรือมีเฟรมเรทดีที่สุด วันนี้ตัวเลือกที่ 3 ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองได้ถูกอัปเดตเพิ่มเข้ามาแล้ว แน่นอนว่าการที่จะเปิด Ray Tracing พร้อมกับยังไงได้ 60 FPS อยู่ หมายความว่าคุณภาพแสง / เงา, การสะท้อนของแสง รวมไปจนถึง ความละเอียดของภาพจะโดนลดลงมา แต่ก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ผู้เล่นไปตัดสินใจกันครับ Marvel’s Spider-Man Remastered วางจำหน่ายพร้อมกับ Marvel’s Spider-Man: Miles Morales แล้ววันนี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit: GamingBolt

ย้อนกลับไปในปี 2018 เกมเมอร์ทั่วทั้งโลกได้สัมผัสกับเกม Marvels Spider-Man เป็นครั้งแรก ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า Insomniac Games ทำเกมนี้ออกมาได้ดีจริงๆ วันนี้เกมนี้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remastered และต้องบอกเลยว่ากราฟิกของเกมสวยงามขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ IGN ได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่ที่เปรียบเทียบเกม Marvels Spider-Man กับ Marvels Spider-Man Remastered ออกมา ซึ่งต้องบอกเลยว่าภาพ และกราฟิกของเกมมีความสวยงามต่างกันอย่างมากจริงๆ ขนาดในโหมด Performance ที่เน้น FPS มากกว่าความสวยงามของภาพ ก็ยังมีภาพที่สวยกว่าตัวเกมดั้งเดิมเยอะเลย สามารถรับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Marvels Spider-Man Remastered วางจำหน่ายพร้อมกับ Marvels Spider-Man Miles Morales แล้ววันนี้ครับ Credit: VG247

เพิ่งจะผ่านไปเลยกับเทศกาล Halloween (และลอยกระทง) ซึ่งแน่นอนว่าช่วงนี้หลายคนน่าจะไม่ได้ออกไปไหน เพราะเล่นเกมอยู่บ้านมันปลอดภัยกว่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงไม่มีเกมเล่น และกำลังรอการมาของเกมใหญ่ๆ ช่วงกลางเดือนอยู่ ผมเลยเอาข่าวแจกเกมฟรีจากทาง Epic Games Store มาฝากครับ! เพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลผีๆ แบบนี้ Blair Witch กับ Ghostbusters Remaster คือ 2 เกมที่ถูกเอามาแจกในครั้งนี้ สำหรับใครที่ชอบเล่นเกมผีแนว Outlast บอกได้เลยว่าคุณน่าจะชอบ Blair Witch เช่นกัน แต่ถ้าหากว่าเกมแนวนี้มันน่ากลัวเกินไปยังไงก็รู้สึกว่าเล่นไม่ไหว Ghostbusters Remaster อาจเป็นเกมแนวสู้กับผีที่คุณกำลังตามหาอยู่ครับ ดู Trailer ของทั้ง 2 เกมได้ข้างล่างนี้เลย Blair Witch กับ Ghostbusters Remaster จะเปิดให้รับได้ฟรีบน Epic Games Store จนถึงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2020 นี้ครับ Credit: VG247

The Last of Us เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านเนื้อเรื่อง และเกมเพลย์ ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนเลย ตอนนี้ตัวเกมมีเวอร์ชัน Remastered วางขายบน PS4 ด้วยเช่นกัน ข้อเสียอย่างเดียวที่เกมนี้มีคือใช้เวลาโหลดในแต่ละฉากนานมาก แต่ปัญหาดังกล่าวเหมือนจะถูกแก้ไขแล้วในแพตช์ 1.11 ที่เพิ่งปล่อยออกมาครับ! Anthony Caliber ผู้เล่นสาย Speed Run ของเกม The Last of Us ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง Twitter บอกให้รู้ว่า แพตช์ 1.11 ทำให้ตัวเกมสามารถโหลดได้เร็วขึ้นถึง 18 วินาที ในเหตุการณ์สู้กับ David นอกจากนี้ทาง ElAnalistaDeBits ก็ได้ปล่อยวิดีโอใหม่โชว์ให้เห็นว่าตัวเกมโหลดเร็วขึ้นขนาดไหนออกมาเช่นกัน สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้ครับ The Last of Us Remastered วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: IGN 

อีกหนึ่งเกมที่กลับมาอีกครั้ง และจะวางจำหน่ายพร้อมกับเครื่อง PS5 คือเกม Demon’s Souls Remastered ที่ช่วงปี 2019 มีข่าวออกมามากมายว่าแฟนๆ ต้องการเกมนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งมันก็อีกเพียงแค่ 2 - 3 อาทิตย์เท่านั้นที่เครื่อง PS5 จะวางขาย ทางผู้พัฒนาเกมเองก็เหมือนจะพร้อมวางจำหน่ายเกมนี้แล้วเช่นกันครับ! ผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า Lance McDonald ได้โพสต์ข้อความใหม่บอกว่าเกม Demon’s Souls Remastered นั้นปัจจุบันได้อยู่ในสถานะ Gone Gold เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2020 ดังนั้นในวันที่ PS5 วางจำหน่าย ทุกคนจะมีโอกาสได้สัมผัสเกมนี้พร้อมกันแน่นอนครับ! Demon’s Souls Remastered จะวางจำหน่ายในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2020 บนเครื่อง PS5 เท่านั้น! Demons Souls Remake went gold on September 24th. https://t.co/5zaRwSbdeL — Lance McDonald (@manfightdragon) October 25, 2020 So as you can probably imagine, Ive been allowed to see a few very small sections of gameplay from the Demons Souls Remake, as well as been given a lot of information about the game now. Im very happy with everything so far, but I also loved the gameplay reveal trailer so... ? — Lance McDonald (@manfightdragon) October 25, 2020 Credit: GamingBolt 

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับการวางจำหน่ายเกม Marvel’s Spider-Man Remastered เท่าที่ดูจากภาพ และวิดีโอที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ตัวเกมจะมีภาพที่สวย รวมไปจนถึงกราฟิกที่สวยขึ้นเป็นอย่างมาก แน่นอนว่ามีการเพิ่มคอนเทนต์ใหม่ๆ เข้ามาด้วยในเวอร์ชันนี้ หนึ่งในนั้นคือชุดใหม่ 3 แบบที่จะมีให้เก็บเพิ่มเติม โดยล่าสุดมีข่าวดีว่า ชุดทั้ง 3 จะมาในตัวเกมเวอร์ชัน PS4 ด้วย! ผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า mr sandman ได้โพสต์ข้อความถามผู้พัฒนาว่า ชุดใหม่ของ Peter ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเกม Marvel’s Spider-Man Remastered จะถูกอัปเดตให้กับเวอร์ชัน PS4 ด้วยหรือไม่? ซึ่งคุณ James Stevenson ที่เป็นผู้พัฒนาได้ยืนยันว่า มันจะถูกอัปเดตให้กับเกมเวอร์ชัน PS4 ด้วย Marvel’s Spider-Man Remastered จะมาพร้อมกับ Marvel’s Spider-Man: Miles Morales ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น I spent a bunch of time chasing this for you and I’m pleased to say they will come to PS4. Exact timing TBD — James Stevenson (@JamesStevenson) October 21, 2020 Credit: GamingBolt

สุดท้ายก็มาจริงๆ ครับกับเกม Need For Speed Hot Pursuit Remastered ที่เมื่อวานนี้มีข่าวลือออกมาว่า จะมีการเปิดตัวภาคนี้เวลา 22.00 ของเมื่อวาน ซึ่งก็ได้มีการเปิดตัวเกิดขึ้นจริงครับ ที่น่าตกใจคือตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2020 นี้เลยด้วย! Need For Speed Hot Pursuit Remastered จะมาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องของโมเดล หรือแสงเงา ตัวเกมยังสามารถเล่นได้สูงสุดที่ความชัดระดับ 4K 60 FPS บนเครื่อง PC ส่วนบนเครื่อง PS4 และ Xbox One จะสามารถรันได้ที่ 1080P 60 FPS ไม่ก็  4K 30 FPS แล้วแต่ความต้องการของผู้เล่นครับ มีการปล่อยวิดีโอโชว์เกมเพลย์ภาคนี้ออกมาด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลย Need For Speed Hot Pursuit Remastered จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2020 ทั้งบนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Credit: GamingBolt

Need for Speed: Hot Pursuit วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2010 และถือเป็นหนึ่งในภาคที่ทำออกมาได้ดี โหด และสนุกมาก จนได้รับคะแนนจากเหล่าผู้เล่นไปสูงถถึง 9 เต็ม 10 บน Steam โดยหลังจากผ่านไป 10 ปี เหมือนว่าภาคนี้กำลังจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remastered บนเครื่อง PS4 และ Nintendo Switch ครับ EA เจ้าของลิขสิทธิ์เกมนี้ได้มีการปล่อยหน้าเว็บไซต์นับถอยหลังเตรียมเปิดตัว Need for Speed ภาคใหม่มาได้สักพักแล้ว โดยคืนนี้เวลา 22.00 คือเวลาที่การนับถอยหลังจบลง แต่ล่าสุดผู้ใช้งาน Twitter ที่ชื่อว่า "れんか" ได้ออกมาสปอยก่อนแล้วว่าภาคใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวคือ Need for Speed: Hot Pursuit Remastered นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยข้อมูลของเกม พร้อมกับรูปภาพหน้าปกของกล่องเกมสำหรับเครื่อง PS4 และ Nintendo Switch ด้วย "れんか" ได้กล่าวว่า "ในเวอร์ชัน Remastered นี้ ตัวเกมจะมีคอนเทนต์ใหม่ให้เล่นมากขึ้นถึง 6 ชั่วโมง, กว่า 30 ชาเลนจ์ใหม่, และถ้วยใหม่ๆ จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ DLC ทั้งหมดที่มีในเกมเวอร์ชัน Original จะถูกรวมไว้ในเวอร์ชัน Remastered นี้ด้วย" ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไปว่าข่าวนี้จะเป็นความจริงมากน้อย แค่ไหนครับ PS4/Switch 「Need for Speed: Hot Pursuit Remastered」 11月6日発売、税込4299円 ・全DLC収録済 ・約6時間の追加ゲームプレイ（30を超えるチャレンジ含む）、新たなアチーブメント＆車の色など、追加DLCを発売時に全て配信予定 ・クロスプラットフォーム マルチプレイ対応#NeedforSpeed　#NFS pic.twitter.com/VGAzreyndu — れんか (@Renka_schedule) October 4, 2020 Credit: GamingBolt 

เมื่อไม่นานมานี้มีการเปิดเผยว่า Insomniac Games ได้พัฒนา Marvels Spider-Man Remastered มาได้ประมาณหนึ่งปีแล้ว และเห็นได้ชัดว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนมากในเกมนี้ครับ แล้วมันจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหนวันนี้เราก็มีการเปรียบเทียบกันแบบชัดๆ มาให้ดูกันแล้วครับ ช่อง YouTube ที่ใช้ชื่อว่า ElAnalistaDeBits ได้อัปโหลดวิดีโอที่เขาทำการเปรียบเทียบเกม Spider-Man ระหว่างรุ่นรีมาสเตอร์กับเกมต้นฉบับที่ทำงานบน PlayStation 4 Pro ให้เราได้ดูกันแบบชัดๆ ว่า Insomniac Games ได้พัฒนาเกมนี้ได้ไกลกว่าเดิมขนาดไหน สามารถดูวิดีโอดังกล่าวได้ด้านล่างครับ โดย Marvel’s Spider-Man Remastered นั้นจะมีโหมดที่ชื่อ Performance Mode ที่จะทำให้เราสามารถเล่นเกมนี้แบบ 60 FPS ได้ อีกทั้งยังมีระบบ Ray-Tracing พร้อมกับการอัปเดตสภาพแวดล้อม และการอัพเกรดด้านอื่นๆ ในเกม Marvel’s Spider-Man Remastered ให้ดีกว่าเกมต้นฉบับอีกมากมาย Marvel’s Spider-Man Remastered จะมีให้เล่นบนเครื่อง PlayStation 5 เท่านั้น โดยจะดาวน์โหลดเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์นี้ได้ก็ต่อเมื่อมีเกม Marvels Spider-Man: Miles Morales Ultimate Edition เท่านั้นครับ ในตอนนี้เกมดังกล่าวยังไม่มีแผนที่จะวางจำหน่ายแยก Credit: Gamingbolt

ในปี 2018 Sony กับ Marvel ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาวิดีโอเกมที่ดัดแปลงมาจากคอมมิคฮีโร่เพื่อนบ้านที่แสนดีในชื่อ Marvels Spider-Man และปีนี้เราก็จะได้เล่นเกมนี้อีกครั้งในเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ที่จะออกมาพร้อมกับเกม Marvels Spider-Man: Miles Morales ที่สำคัญตอนนี้ผู้พัฒนาก็ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์นี้ออกมาด้วย James Stevenson ได้เปิดเผยข้อมูลว่าเกม Marvels Spider-Man เวอร์ชั่นรีมาสเตอร์นั้นได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว และเวอร์ชั่นนี้มีทีมงานคอยพัฒนาแบบเต็มรูปแบบในระดับเดียวกับการพัฒนาเกมใหม่เลยทีเดียว โดยเขาได้เปิดเผยข้อมูลนี้บน Twitter อย่างเป็นทางการของเขา สามารถดูข้อความดังกล่าวได้ด้านล่างครับ Its very gratifying to show the amazing work the team has been doing for the last year on this. Look at that ray-tracing! 60fps footage! New Peter! And of course, finally... the TASM suit. https://t.co/h2KuoUGOuI — James Stevenson (@JamesStevenson) September 30, 2020 นอกจากนี้ผู้พัฒนายังมีการเปิดเผยใบหน้าที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ของ Peter Parker ในตัวอย่างล่าสุดที่ปล่อยออกมา ซึ่งหลังจากที่ดูแล้วก็รู้สึกว่าตัวละครดูมีความเป็นมนุษย์ที่สมจริงมากขึ้นและมีการแสดงสีหน้าที่ดูสมจริงมากขึ้นด้วย อีกทั้ง Marvels Spider-Man Remastered ได้มีการปล่อยวิดีโอออกมาอีกตัว นั่นคือวิดีโอที่โชว์โหมด Performance ซึ่งมันดูลื่นไหลและสวยงามมากว่าภาคต้นฉบับไม่น้อยเลยทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเป็นแสงสะท้อน เงา ท้องฟ้า หรือวัตถุในเกม ก็ดูมีมิติมากขึ้นทีเดียวครับ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกใหม่สำหรับโหมดถ่ายภาพด้วย (เช่นการเปลี่ยนชุดของเจ้าแมงมุมเมื่อจะถ่ายภาพ) สามารถดูวิดีโอดังกล่าวได้ด้านล่างครับ Credit: Gamingbolt

ตัวร้ายถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เราจะต้องเจอในทุก ๆ เกม เพื่อเป็นจุดมุ่งหมายของการเล่น แต่มีหลาย ๆ เกมแทนที่จะให้เราเป็นตัวเอก ดันให้เราเล่นเป็นตัวผู้ร้ายสะงั้น ซึ่งก็ให้ความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างอย่างมาก วันนี้พวกเรา GameFever TH จะขอแนะนำ 10 เกมที่ให้เราได้เล่นเป็นตัวร้าย 1.Series GTA Grand Theft Auto หรือ GTA หนึ่งในเกมตระกูลที่จะให้เรารับบทเป็นอาชกรระดับพระกาฬ ที่ต้องไต่เต้าตัวเองขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่นี้ โดยเกมนี้จะให้เราอิสระกับเราในการทำอะไรก็ได้ที่ชีวิตจริงคงไม่มีใครทำกัน พร้อมกับโลกในเกมอันแสนกว้างใหญ่ที่จะทำให้คุณติดหนึบกับเกมนี้ไปหลายวัน 2.Series Mafia หากซีรีส์ GTA เป็นแนวอาชกรแบบสมัยนิยม Mafia จะเป็นกลุ่มอาชกรที่เน้นในเรื่องของศักดิ์ศรีและความเป็นครอบครัวเดียวกันมากกว่า ตัวเกมมีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยม มีบรรยากาศในเกมที่ยากจะหาได้จากที่อื่น นับว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สายอาชญากรรมต้องลองเล่น 3.Plague Inc. หนึ่งในเกมที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมาก ๆ กับ Plague Inc. เกมที่จะให้เรารับบทเป็นเชื้อโรคที่จะต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพื่อที่จะแพร่กระจายเชื้อไปทั่วโลกและสังหารเหล่ามนุษย์ให้สิ้นเผ่าพันธ์ุ ตัวเกมเป็นเกมแนววางแผนที่เราจะต้องบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ให้ดี พร้อมกับการเลือกการอัปเกรดที่เหมาะสม ที่หากเลือกอัปผิดอาจจะทำให้แพ้ได้เลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมน่าเล่นเลยทีเดียว 4.Shadow Of The Colossus Shadow Of The Colossus แม้ว่าจะเป็นเกมอายุเกือบ ๆ 12 ปีแล้ว แต่ว่าคุณค่าของเกมนี้ไม่ได้ลดลงเลย ตัวเกมจะให้เรารับบทเป็นคน ๆ หนึ่งที่ต้องออกตามล่าเหล่าผู้พิทักษ์ เพื่อที่จะชุบชีวิตบุคคลอันเป็นที่รักของเขากลับมา ไม่ว่าเหล่าผู้พิทักษ์คนนั้นจะผู้บริสุทธิ์ขนาดไหน นอกจากนี้ตัวเกมยังรองรับภาษาไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งเกม Masterpiece มาก ๆ 5.Destroy all Human สำหรับเกมนี้ก็ตามชื่อของเกมเลยครับผม Destroy all Human จะให้เรารับบทเป็นเอเลี่ยนนามว่า Cryptosporidium ที่ต้องออกไปตะลุยกับเหล่ามนุษย์ จนกว่าจะยึดดวงนี้มาเป็นของเอเลี่ยนให้ได้ แม้ว่าจะต้องกำจัดเหล่ามนุษย์ทุกตัวก็ตาม 6.Series Saints Row Saints Row คือแกงค์อาชญากรรมสุดเกรียนแห่งวงการเกม ที่พวกเขาไม่เน้นเรื่องของความสมจริงแต่เน้นในเรื่องของความฮาล้วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกาย อาวุธ เนื้อเรื่องทำออกมาได้อย่างฮา ที่สำคัญตัวเกมยังมีการลดราคาบ่อย ๆ อีกด้วย เป็นไปได้ก็แนะนำให้หามาลองเล่น 7.MANHUNT หนึ่งในเกมเนื้อหาสุดรุนแรงที่ถูกแบนไปแล้วหลาย ๆ ประเทศ MANHUNT ที่จะให้เราเล่นเป็น James Earl Cash ที่ต้องออกไปไล่ฆ่าผู้คน ด้วยวิธีการต่าง ๆ อันสุดแสนจะอมหิตที่ใครขวัญอ่อนควรที่จะเลี่ยงเกมนี้(รวมถึงน้อง ๆ ที่อายุไม่เกิน 18 ปีด้วยเช่นกัน) โดยปัจจุบันตัวเกมวางจำหน่ายอยู่ใน Steam ใครสนใจก็ลองหามากันได้ 8.Series Hitman Hitman โล้นซ่านักฆ่าหัวบาร์โค้ด หนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก โดยจุดเด่นของเกมคือการที่จะให้เราสามารถออกแบบวิธีการสังหารเป้าหมายได้อย่างอิสระ ตามที่ความคิดสร้างสรรค์ของเราจะนำทาง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในซีรีส์เกมที่คุณควรหามาลอง 9.Dead by Daylight Dead by Daylight เกมนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยเล่นกันมาบ้างแล้ว โดยในเกมนี้จะให้เราแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายผู้รอดชีวิตและฝ่ายฆาตกร ที่ทั้งสองฝ่ายจะมีวัตถุประสงค์ต่างกัน ซึ่งหลาย ๆ คนคงเดาได้ใช่ไหมว่าใครเป็นตัวร้าย ฝ่ายฆาตกรนั่นเอง ที่เล่นได้สนุกมาก ๆ โดยเฉพาะตอนที่สามารถสังหารผู้รอดชีวิตได้ทุกคนที่ฟินสุด ๆ เมื่อทำได้ 10.Assassins Creed: Rogue ปิดท้ายกันด้วยเกม Assassins Creed: Rogue ที่ในรอบนี้ศัตรูของเราไม่ใช้เหล่า Templar ที่เหมือนกับทุก ๆ ภาคที่ผ่านมาก แต่เป็นการต่อสู้กับเหล่า Assassin ด้วยกันเอง ถือว่าเป็นหนึ่งในอารมณ์แปลกใหม่ของซีรีส์ อีกทั้งตัวเกมก็ยังเล่นได้สนุกมากอีกด้วย เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 10 เกมที่ให้เราได้เล่นเป็นตัวร้ายที่พวกเราเอามานำเสนอในวันนี้ ชอบเกมไหนก็บอกพวกเราได้เลย

เราเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคอลเลคชั่นรีมาสเตอร์ใหม่ของเกม Mass Effect Trilogy ในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ และในตอนนี้เราก็ยังคงได้เห็นข่าวลือหรือข้อมูลหลุดออกมาอยู่ตลอดครับ เช่นเดียวกับในครั้งนี้ที่เป็นข้อมูลหลุดมาจากร้านค้าปลีกอีกครั้งหนึ่ง Herni-Svet ร้านค้าปลีกสัญชาติเช็กได้หลุดลิสต์ข้อมูลเกม Mass Effect Trilogy Remastered ออกมาพร้อมกับแพลตฟอร์มที่จะวางจำหน่าย ได้แก่ PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch ซึ่งสำหรับเวอร์ชั่น Switch นั้นน่าสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับตัวรีมาสเตอร์นี้ ในตอนแรก มีการบอกไว้ว่าจะไม่ลงให้กับเครื่องคอนโซลของ Nintendo แต่บางที EA อาจเปลี่ยนแผนตั้งแต่มีข้อมูลเรื่องดังกล่าวหลุดออกมา (หากข้อมูลนั้นถูกต้อง) ในขณะเดียวกันในลิสต์ดังกล่าวยังมีการพูดถึงวันที่วางจำหน่ายด้วย ซึ่งเจ้าตัวคอลเลคชั่นรีมาสเตอร์นี้จะวางจำหน่ายวันที่ 15 ตุลาคม แต่ก็แน่นอนว่าข้อมูลเหล่านี้อาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ ดังนั้นเราก็ไม่ควรคาดหวังมากเกินไปนัก แต่ถ้าหากข้อมูลเรื่องนี้มีความใกล้เคียงกับความจริง ในช่วงต้นเดือนตุลาคมเราก็จะได้เห็นข้อมูลใหม่ๆ ที่มาจากทางผู้พัฒนาเองครับ Credit: Gamingbolt

อีกไม่นานแฟนๆ ก็จะได้เข้าไปสัมผัสเกมที่รอคอยกันมานานอย่าง Crysis Remastered ที่ล่าสุดทางทีมผู้พัฒนาได้ปล่อยวิดีโอโชว์ขุมพลังของภาพเกมที่สามารถขับไปได้ถึง 8K กันเลยทีเดียว ตรงตามชื่อกันเลยสำหรับเกม Crysis Remastered ซึ่งจากการสัมภาษณ์ผู้พัฒนาเกมตลอดระยะเวลาของการพัฒนาพวกเขาได้เน้นย้ำว่าการ Remaster ในครั้งนี้เขาจะทำให้ภาพของตัวเกมออกมาอลังการงานสร้างยิ่งกว่าเดิม จากครั้งแรกที่ปล่อยผลงานออกมาคือช่วงปี 2007 ก็ถือเป็นเกมที่สร้างรายละเอียดต่างๆ ออกมาได้ดีเยี่ยม และสมจริงมากๆทีเดียวสามารถรับชมที่วิดีโอภาพเกม 8K ได้ข้างล่างนี้เลย Crysis Remastered จะพร้อมให้ทุกคนได้เล่นบน PC, PS4, และ Xbox One ในวันที่ 18 กันยายน 2020 นี้ Credit: Gamingbolt

อีกไม่ถึง 10 วัน เราก็จะได้สัมกับเกมเก่าระดับตำนานที่ถูกเอากลับมาทำใหม่อีกครั้งอย่าง Crysis Remastered แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปล่อยภาพโชว์ความสวมงามของกราฟิกเกมแบบ 4K ออกมาด้วย มันคงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หากบอกว่า Crysis เวอร์ชั่นนี้จะสามารถเปิด Ray Tracing แต่ถ้าผมบอกว่าสามารถเปิดโหมดดังกล่าวได้ แม้จะเล่นบนเครื่อง PS4 PRO หรือ Xbox One X ละครับ? ซึ่งมันนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เพราะการเปิด Ray Tracing บนเครื่องเล่นเกมคอนโซลควรจะทำในเครื่องเล่นเกมเจนใหม่เท่านั้น แต่ในเมื่อมีการปล่อยวิดีโอ รวมถึงหลักฐานภาพในเกมออกมาผ่านทาง Youtube ก็คงต้องยอมรับว่ามันสามารถทำได้จริงๆ ครับ อย่างไรก็ตามการเปิด Ray Tracing บนเครื่องคอนโซลในปัจจุบัน จะทำตัวเกมต้องลดความละเอียดลงเหลือแค่เพียง 1080P เท่านั้น ก็เรียกได้ว่าแลกกันไปครับ Crysis Remastered จะวางจำหน่ายในวันที่ 18 กันยายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ส่วนเครื่อง Nintendo Switch สามารถซื้อมาเล่นได้แล้วตอนนี้ Credit: VG247

Crysis Remastered ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้มีการอธิบายถึงการตั้งค่ากราฟิกสูงสุดไว้ว่า "ออกแบบมาเพื่อให้คุณใช้งานฮาร์ดแวร์ล่าสุดทุกชิ้นของคุณด้วยการตั้งค่าที่ไร้ขีดจำกัด" มันมีชื่อแบบขำๆ สำหรับการตั้งค่ากราฟิกสูงสุดนี้ว่า "Can it Run Crysis?" ก่อนหน้านี้ Crytek ได้โพสต์ภาพในเกมแบบ 4K บน Twitter อย่างเป็นทางการของเกมนี้ซึ่งภาพดังกล่าวนั้นคือการตั้งค่ากราฟิกแบบ "Can it Run Crysis?" นั่นเอง ซึ่งเจ้าชื่อโหมด "Can it Run Crysis?" นี้มีมาตั้งแต่ยุค 2007 แล้ว เนื่องจากกราฟิกสูงสุดของเกมฉบับดั้งเดิมนั้นมันต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่สูงมากจน PC ของผู้เล่นในเวลานั้นส่วนใหญ่ไม่สามารถรองรับความต้องการของเกมนี้ได้นั่นเอง มันก็เลยกลายเป็น Meme ขำๆ ในช่วงเวลานั้น กราฟิกใน Screenshots ที่ผู้พัฒนาโพสต์มานั้นน่าประทับใจมากจนแม้แต่การบีบรูปของ Twitter ก็ไม่สามารถทำให้ภาพดังกล่าวนี้ดรอปลงไปได้เลยครับ นับว่าคุณภาพกราฟิกของเกมดังกล่าวน่าจะคาดหวังได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว Todays post is dedicated to our PC community! We want to show you, for the very first time, an in-game screenshot using the new "Can it Run Crysis?" Graphic mode, which is designed to demand every last bit of your hardware with unlimited settings - exclusively on PC! pic.twitter.com/kVHEf63oWe — Crysis (@Crysis) September 6, 2020 Credit: PCGAME

Mass Effect trilogy remaster ที่ช่วงนี้เราได้ยินข่าวลือของเกมอย่างมากมายในปี 2020 เนื่องจากอีกไม่กี่เดือนข้างนี้เราก็จะได้สัมผัสกับตัวเกมจริงกันแล้ว แต่ก็มีข่าวลือให้แฟนๆ เกมอาจจะรู้สึกไม่พอใจกันเล็กน้อยเนื่องจากมีข้อมูลหลุดออกมาว่าตัวเกมอาจจะเลื่อนออกไปอีก !! ข่าวลือดังกล่าวถูกปล่อยออกมาจาก GamesBeat สื่อเกมจากต่างประเทศที่คุณ Jeff Grubb ได้เปิดเผยเกี่ยวกับตัวเกมว่าจากเดิมที่ทาง EA ได้ประกาศจะวางจำหน่ายให้ทุกคนได้เข้าสู่จักรวาลของ Mass Effect ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ แต่ด้วยปัญหามากมายของปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งการระบาดของไวรัส COVID-19 จึงมีแนวโน้มทำให้ตัวเกมอาจจะถูกเลื่อนออกไปอีก เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วย ณ ตอนนี้ตัวเกมก็ยังมีกำหนดการวางจำหน่ายตามเดิมอยู่แต่ก็มีสิทธิที่ตัวเกมจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความล่าช้าเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าตัวเกมจะถูกเลื่อนออกไป อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงข่าวลือที่ดูจะเป็นความคาดการณ์ของคุณ Jeff Grubb ซึ่งยังไม่มีหละกฐานอะไรออกมายืนยันในเรื่องนี้อย่างชัดเจนคงต้องรอทีมผู้พัฒนาออกมาชี้แจงรายละเอียดในเรื่องนี้อีกครั้ง Credit: Gamingbolt

หลังจากที่มีการประกาศว่า Crysis Remastered จะมีความล่าช้าในการวางจำหน่ายสำหรับแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจาก Nintendo Switch แต่ในตอนนี้ก็ได้มีการประกาศวันวางจำหน่ายออกมาแล้ว จากวิดีโอด้านล่างได้มีการเขียนถึงวันวางจำหน่ายไว้ว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 18 กันยายน สำหรับเครื่อง Xbox One, PlayStation 4 และ PC (เวอร์ชั่น PC จะเป็นเกม Exclusive ของ Epic Games Store) ตัวเกมที่กำลังจะวางจำหน่ายนี้นอกจากมีระบบแสงที่พัฒนาใหม่และระบบต่างๆ แล้ว Texture เองก็ได้อัปเกรดจนมีความละเอียดสูงสุดที่ 8K เลยทีเดียว ในส่วนของระบบ Ray-Tracing นั้นมีผลทั้งแบบการสะท้อนปกติและการสะท้อนของผิวน้ำ นอกจากนี้ยังมีระบบใหม่ๆ อีกมากมายที่ได้รับการพัฒนาหรือปรับปรุงสำหรับเกม Crysis Remastered โดยรวมแล้วมันน่าดึงดูดให้เราลองเข้าไปเล่นมากและดูคุ้มค่ากับการเลื่อนวันวางจำหน่ายอยู่ไม่น้อยเลย แต่เมื่อดูจากตัวอย่างวิดีโอแล้วดูเหมือนความต้องการของระบบ PC สำหรับเกมนี้คงจะสูงไม่น้อยเลยครับ Credit: Gamingbolt

Crysis Remastered ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักในตอนที่มีข่าวหลุดออกมา นั่นทำให้ทางผู้พัฒนาอย่าง Crytek ตั้งใจว่าจะทำให้มันดียิ่งกว่านี้จึงตัดสินใจชะลอการวางจำหน่ายเกมเพื่อขัดเกลามันเพิ่มเติม (ยกเว้นเวอร์ชั่น Nintendo Switch ที่วางจำหน่ายไปเมื่อเดือนที่แล้ว) ผู้พัฒนายังไม่มีการประกาศเรื่องวันวางจำหน่ายเกมนี้ในแพลตฟอร์มอื่นๆ ใหม่อีกครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นวิดีโอใหม่จาก PlayStation Access ที่สามารถดูได้ด้านล่างนั้นมีรายละเอียดของเกมใหม่ที่จะลงให้กับเครื่อง PS4 ในสัปดาห์นี้ และมันน่าแปลกใจมากที่มีชื่อของเกม Crysis Remastered อยู่ด้วย แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเวอร์ชั่น PS4 แต่ส่วนใหญ่ก็จะลงให้กับ Xbox One และ PC ด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าเกม Crysis Remastered อาจจะวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 4, Xbox One และ PC ในวันที่ 21 สิงหาคม นี้ ส่วนเวอร์ชั่น Nintendo Switch นั้นพร้อมให้เล่นแล้วครับ! Credit: Gamingbolt

ช่วงเดือนที่ผ่านมาเราได้ทราบข่าวเกี่ยวกับ Shin Megami Tensei 3: Nocturne เกมแนว RPG ที่โด่งดังในสมัยเครื่อง PS2 ว่าจะนำมาทำการรีมาสเตอร์ให้ภาพสวยมากขึ้น และเหมาะสมกับเกมในยุคใหม่มากขึ้น ล่าสุดผู้พัฒนาได้ปล่อยภาพภายในตัวเกม พร้อมเผยตัวละครในเกมให้เราได้รับชมกัน !! ทางผู้พัฒนาได้เคยกล่าวไว้ว่าจะทำตัวเกมออกมาในเนื้อเรื่องเดิมตามแบบฉบับ PS2 แต่จะเพิ่มความสวยงามของภาพ รวมถึงการปรับแต่งตัวละครให้ดูดีขึ้นตามที่ทุกคนจะได้รับชมในภาพด้านล่างนี้  ซึ่งหากมองในภาพแล้วถือว่าทีมผู้พัฒนาทำตัวภาพเกมออกมาได้ดีมาก รายละเอียดต่างๆ ของตัวละครเดิมไม่ได้หายไปพร้อมทั้งยังเพิ่มรายละเอียดบางอย่างให้สวยมากขึ้นไปกว่าเดิมด้วย คาดว่าแฟนๆ ต้องชอบอย่างแน่นอน Shin Megami Tensei 3: Nocturne HD Remaster จะพร้อมให้เล่นบนเครื่อง PS4 กับ Nintendo Switch เป็นที่แรกในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 29 ตุลาคม 2020 และจะพร้อมให้เล่นทั่วโลกเป็นภาษาอังกฤษในวันปี 2021 Credit: Gamingbolt [gallery columns="2" ids="63377,63378,63379,63380,63383,63384,63385,63386"]  

จากที่มีการยืนยันออกมาแล้วว่าตัวเกมอย่าง Shin Megami Tensei 3: Nocturne HD กำลังจะทำการรีมาสเตอร์ออกมา แต่ก็ไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับตัวเกมออกมาเพิ่มเติม ล่าสุดการประกาศออกมาจากผู้พัฒนาแล้วว่าตัวเกมจะคงความเป็นเสน่ห์เดิมของเกมไว้ เพียงจะทำให้ภาพ และองค์ประกอบต่างๆ ของเกมดูดีเพิ่มขึ้นเพื่อคงความเป็น Original เอาไว้     จากทีมผู้พัฒนาเกมคุณ Kazuyuki Yamai ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อนิตยสารญี่ปุ่น Famitsu เขาได้เปิดเผยมุมมองในหลายๆ แง่มุมที่สะท้อนให้แฟนเกมได้เห็นถึงการทำงานของทีมพัฒนาที่อยากปรับเปลี่ยนแค่เพียงภาพกับองค์ประกอบในเกมให้สวยงามขึ้นสมกับเป็นเกมยุคใหม่ แต่จะยังคงเรื่องราวให้เป็นไปตามเดิม ซึ่งเขายังกล่าวเพิ่มอีกว่าด้วยตัวเกม Nocturne เป็นตัวเกม RPG ที่ไม่ได้มีสีสันสดใสคล้ายกับเกมอื่นๆ เขาจึงอยากคงความแตกต่างของตัวเกมนี้ไว้     Shin Megami Tensei 3: Nocturne HD Remaster จะพร้อมให้ทุกคนได้เล่นบนเครื่อง PS4 และ Switch ครั้งแรกในเดือน ตุลาคม ปี 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมจะเปิดให้เล่นทั่วโลกบนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษในปี 2021 นี้ !!

ทาง Nintendo Switch ได้นำตัวเกม Crysis Remastered ลงบนเครื่องเกมถือเป็นสิ่งที่พวกเขาภาคภูมิใจในการนำเสนอตัวเกมผ่านมุมมองการยิงปืนแบบ First-person โดยผู้พัฒนาจาก Saber Interactive ที่มีส่วนช่วยให้ตัวเกมสามารถทำออกมาได้สำเร็จ ซึ่งตัวเกมทำออกมาได้ดีอย่างมากเลยทีเดียว     Crysis Remastered ที่ได้ลงบนเครื่อง Switch มีความละเอียดของภาพให้เลือกอยู่ระหว่าง 720p - 900p ซึ่งถือว่าน่าประทับใจในเรื่องของรายละเอียดที่สามารถทำออกมาได้คมชัดขนาดนี้ผ่านเครื่องเกม Switch เลยทีเดียว สำหรับวิดีโอเกมเพลย์มีความยาวถึง 30 นาที ให้เหล่าแฟนเกมได้รับชมตัวอย่างของเกมก่อนเข้าไปลุยกันในเกมจริงๆ สามารถรับชมวิดีโอได้ที่ข้างล่างนี้เลย     Crysis Remastered ที่ตอนจะมาบนเครื่อง PS4, Xbox one และ PC ดูเหมือนว่าจะมีท่าทีจะทำออกมาในเร็วๆ นี้เนื่องจากกระแสของเกมที่มีข่าวเปิดเผยออกมาอย่างล่าช้ามาก รวมถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีกำหนดการณ์วางจำหน่ายออกมาเลย         Credit: Gamingbolt    

ตัวเกม Shin Megami Tensei III Nocturne ตัวดั่งเดิมนั้นลงบนเครื่อง PlayStation 2 ครั้งแรกในปี 2003 ซึ่งต่อมาก็ได้มีการปรับเปลี่ยนเรื่องของภาษา และได้วางจำหน่ายตามประเทศต่างๆ ล่าสุด Shin Megami Tensei III Nocturne HD Remaster ได้รับการยืนยันแล้วจากทาง Nintendo Switch และตัวเกมจะลงบนเครื่อง PlayStation 4 ด้วยเช่นกัน     ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมภายในตัวเกมตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยออกมาให้เหล่าแฟนเกมได้ทราบข่าวกันสักเท่าไหร่ แต่ก็มีแหล่งข่าวบางที่เผยออกมาว่าจะมีระบบความยากของตัวเกมระดับ “Merciful” มาเพิ่มในภาค Remaster เพื่อให้มีความแตกต่างจากตัวเกมเดิมเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงการเล่นที่ยากขึ้นไปอีกขั้นได้อีกด้วย หากใครสนใจอยากรับชมวิดีโอเทรลเลอร์ของตัวเกมสามารถรับชมได้ที่ข้างล่างนี้       รายการสิ่งของที่จะได้รับ:   -แผ่นเกม Shin Megami Tensei III Nocturne HD Remaster - magazine สุดพิเศษจาก Ayakashi จำนวน 106 หน้า -ซาวด์แทร็กหายากที่บรรเลงด้วยเปียโน จำนวน 2 แผ่น รวม 37 เพลง -โคมไฟกลิ่น aroma ลาย Amala Drum-style (โมเดล 2020) -กล่องดีไซน์สุดเท่ห์ และแปลกใหม่     โดยมีกำหนดวางจำหน่ายแล้ววันนี้จนกว่าสินค้าจะหมด ตัวเกม Shin Megami Tensei III Nocturne HD Remaster พร้อมให้เล่นบนเครื่อง PS4 กับ Nintendo Switch ที่แรกในประเทศญี่ปุ่นวันที่ 20 ตุลาคม 2020 และจะพร้อมให้ทุกคนทั่วโลกได้เล่นช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2021 นี้     Credit: Siliconera

จากที่ก่อนหน้านนี้มีข่าวว่า Square Enix ได้เปิดตัวเกม Final Fantasy Crystal Chronicles ที่จะทำการรีมาสเตอร์ หลังจากตัวเกมนี้เคยทำออกมาเมื่อหลายปีมาแล้วบนเครื่อง Nintendo Gamecube ล่าสุดมีรายละเอียดเพิ่มเติมในระบบของตัวเกมออกมาเพิ่มแล้ว !! จากโพสทวิตเตอร์ของทางผู้พัฒนา Final Fantasy Crystal Chronicles ฉบับรีมาสเตอร์ได้ถูกแปลโดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Robert Sephazon เนื้อหากล่าวว่าตัวเกมได้รับการยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการเล่นแบบ multiplayer และ Co-op สาเหตุมาจากปัญหาการพัฒนา ซึ่งผู้เล่นหลายๆคนที่กำลังเล่นตัวเกมนี้ต่างก็คาดหวังให้มีระบบเล่นออนไลน์กลับมาดังเดิม Final Fantasy Crystal Chronicles จะพร้อมให้ทุกคนได้เล่นบนเครื่อง PS4 ,Switch และบนสมาร์ทโฟน ในวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ It has been confirmed that Final Fantasy: Crystal Chronicles Remastered does not offer offline/local multiplayer due to development reasons. https://t.co/YoSZ0UMvI2 — Robert Sephazon (@Sephazon) July 15, 2020 Credit: Gamingbolt

การกลับมาของ Crysis Remastered ดูจะสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ พอสมควร แต่ยังไม่ทันได้หายตื่นเต้น ก็ดูเหมือนจะต้องผิดหวังกันแล้วครับ เมื่อล่าสุดทาง Crytek ได้ออกมาประกาศว่า ตัวเกมจะถูกเลื่อนวางจำหน่ายออกไป 1-2 อาทิตย์ โดยที่ไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่า ตัวเกมจะถูกวางจำหน่ายเมื่อไหร่กันแน่! ข่าวดังกล่าวถูกประกาศออกมาผ่านทาง Official Twitter ของ Crysis เอง ซึ่งดูเหมือนว่าจริงๆ ตัวเกมจะพัฒนาเสร็จแล้ว แต่ทางผู้พัฒนาต้องการเวลาอีกเล็กน้อยเพื่อทำให้เกมมันสมบูรณ์ที่สุด โดยพวกเขาจะใช้เวลาอีกเล็กน้อยที่ได้เพิ่มมาทำในส่วนดังกล่าวให้เสร็จสิ้น ตอนแรกตัวเกมมีกำหนดจะวางขายในวันที่ 23 กรกฎาคม ดังนั้นคิดว่าวันวางจำหน่ายใหม่น่าจะเป็นต้นเดือนหน้าครับ We would like to share an important update with you all! pic.twitter.com/ylu0OisDf3 — Crysis (@Crysis) July 1, 2020 Credit: Gamingbolt

Crysis Remastered ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับวันที่วางจำหน่ายและอื่นๆ ในหน้าร้านค้าของ Microsoft แล้วตอนนี้ยังมี eShop ของ Nintendo อีกด้วย บน eShop ในหลายภูมิภาคสามารถดูภาพ Screenshot และ Trailer ที่ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ Trailer นั้นแสดงให้เราเห็นภาพของเกมที่ทำงานบนเครื่อง Switch และมันก็ดูไม่เลวเลยเมื่อพิจารณาจากฮาร์ดแวร์ของเครื่อง Crysis Remastered มีกำหนดให้บริการบนเครื่อง PS4, Xbox One, Nintendo Switch และ PC และตามข่าวลือเมื่อเร็วๆ นี้ เกมดังกล่าวจะวางจำหน่ายในวันที่ 23 กรกฎาคม Credit: Gamingbolt

จากการประสบความสำเร็จของเกม Crysis ในปี 2007 เป็นเกมที่โด่งดังและสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก ผู้พัฒนาได้มีการประกาศจัดทำภาคต่อจากตัวเกมมาเพิ่ม 2 ตัว โดยหนึ่งในนั้นจะคือ Crysis Remastered ค่ะ! จากหน้าเว็บไซต์แอพพลิเคชั่นของ Microsoft บนเครื่อง Xbox One ของบราซิลมีการอัปเดตข้อมูลตัวเกมรวมไปถึงภาพภายในเกมที่มีความคล้ายกับตัวเกมในภาคแรกเป็นอย่างมาก Crysis Remastered ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่น่าตกใจก็คือขนาดของตัวเกมอยู่ที่จะใช้พื้นที่แค่  7.01 GB เท่านั้น หากใครสนใจอยากรับชมเทเลอร์ของตัวเกม พรุ่งนี้เวลา 23.00 นาฬิกา จะมีการปล่อย Trailer ใหม่ของเกมออกมา รอรับชมกันได้เลยค่ะ ซึ่งเราจะได้รู้กันในอีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้ เราคงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าตัวเกมจะออกมาเป็นอย่างไรกัน และจะใช่ Crysis Remastered อย่างที่พวกเราคิดไว้หรือเปล่า ตัวเกมจะพร้อมให้เล่นบน PlayStation 4, Xbox One, Switch และ PC, Credit : Gmingbolt

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเปิดตัวทดลองเล่นของเกม Final Fantasy Crystal Chronicles: Remastered Edition ทางผู้พัฒนาเลยใจดี เปิดให้ผู้เล่นที่สนใจเข้าไปร่วมทดลองพร้อมกับเพื่อนๆ ได้ฟรี !! ตัวเกมเวอร์ชั่นทดลองจะให้ผู้เล่นได้ตะลุย 3 ดันเจี้ยนแรกของเกมพร้อมกับเพื่อนๆ สูงสุด 4 คน ก่อนที่ตัวเกมจะพร้อมให้ได้เล่นกันในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม หากต้องการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ผู้ที่เล่นตัวเกมเวอร์ชั่น Demo จะสามารถเล่นตัวเกมต่อได้ทันทีในตอนที่เกมออกตัวเต็มมา หากมองภาพให้เข้าใจมากขึ้นคือหากเราเข้าร่วมดันเจี้ยนที่ 3 ไปแล้วเราก็จะผ่านดันเจี้ยนนั้นๆ ในตัวเกมเวอร์ชั่นเต็มด้วยนั่นเองถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยหล่ะ Final Fantasy Crystal Chronicles Remastered Edition สามารถเล่นได้บนเครื่อง Nintendo Switch, PlayStation 4 พร้อมทั้งสมาร์ทโฟน ระบบ Android และ Apple iOS ในญี่ปุ่น และอเมริกาเหนือ วันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ Credit: Siliconera

หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวเกมพร้อมกับการเปิดตัวเครื่องเกม Console อย่าง PS5 เมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา ด้วยวีดีโอตัวอย่างของเกมที่ทางผู้เล่นจะได้ดำเนินเรื่องราวการผจญภัยครั้งใหม่ของหนุ่มสไปเดอร์แมนที่มีชื่อว่า Miles Morales ตามชื่อของตัวเกม ซึ่งตัวเกมจะเป็นการดำเนินเรื่องราวที่คล้ายกับตัวละครในภาคแรกอย่าง Peter Parker ทาง SONY ได้ให้สัมภาษณ์ทางสื่อ The Telegraph เกี่ยวกับการ Remaster ในครั้งนี้อีกด้วยว่า ตัวเกมจะเป็นการดำเนินเรื่องราวตามเดิมแต่จะเป็นการนำเสนอผ่านตัวละครหนุ่ม Miles Morales ที่จะปรับปรุงตัวเกมที่จากเดิมบนเครื่อง PS4 ในปี 2018 ที่ผ่านมาให้น่าสนใจมากขึ้นอีกทั้งตัวเกมจะปรับปรุงระบบภายในเกมให้สอดคล้องกับฟีเจอร์ภายในเครื่อง PS5 (จะเป็นระบบเสียง 3D รึเปล่านะ) สำหรับผู้เล่นที่กังวลกับการเปลี่ยนแปลงว่าตัวเกมจะแตกต่างจากเดิม ทางผู้พัฒนาเกมได้ทำการยืนยันเพิ่มเติมด้วยว่าจะยังคงเสน่ห์จากภาคเก่าไว้เช่นเดิมเพียงแค่จะปรับปรุงส่วนที่ควรปรับปรุงจากเดิมเท่านั้น Marvel’s Spider-man: Miles Morales จะวางจำหน่ายบนเครื่อง PS5 ในช่วงปลายปี 2020 นี้ Credit : VGC สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Command and Conquer เรียกได้ว่าเป็นเกม RTS ระดับตำนานที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่นเป็นอย่างมากในช่วงปี 2000 ทำให้จนถึงตอนนี้มีตัวเกมภาคอื่นๆ ของซีรีส์ออกตามมาเป็นจำนวนมาก แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถกลับไปเล่น Command and Conquer ภาคแรกได้อีกครั้ง และมีความสวยงามของกราฟิกแบบเกมปัจจุบัน! ความฝันนั้นไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วครับ เพราะล่าสุด Command and Conquer Remastered Collection ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PC ซึ่งภายในแพ็คเกจนี้จะมี  Command and Conquer: Tiberian Dawn กับ Red Alert ถูกแถมมาด้วย ได้มีการปล่อยวิดีโอเปิดตัวออกมาจากผู้พัฒนาด้วยเช่นกัน สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Command and Conquer Remastered Collection วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PC เท่านั้น Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  

หมายเหตุ : รีวิวชิ้นนี้ ได้รับการสนับสนุนคีย์โดย EA และบริษัท Play4Fun  หมายเหตุ 2 : รีวิวชิ้นนี้ เขียนขึ้นโดยใช้ข้อมูลการเล่นจบภารกิจหลักของ GDI ในภาค Tiberian Dawn และภารกิจหลัก Soviet ในภาค Red Alert ที่ความยากระดับ Normal และทดสอบการเล่นโหมด Skirmish สองเกม กับโหมด Multiplayer ไปสามแมทช์ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน มีคนมาบอกกับผู้เขียนว่า เกมแนววางแผนแบบจับเวลาจริงหรือ Real-Time Strategy นั้น จะล้มหายตายไปจากสารบบ กลายเป็นแนวเกมที่คนไม่นิยม และผู้สร้างไม่ปลื้มนั้น เชื่อว่าผู้เขียนในเวลานั้นคงรู้สึกตลกและหัวเราะจนปอดฉีกทะลุอกออกมาเหมือน Chestburster ในหนังซีรีส์ Aliens กันให้ได้เสียอย่างนั้น ก็ทำไมจะไม่ตลก ในเมื่อแวดล้อมรอบตัวเวลานั้น ผู้พัฒนาแต่ละค่ายต่างสรรหากลวิธี และนำเสนอชิ้นงานเกมแนว RTS ป้อนเข้าสู่ตลาดชนิดมากมายเล่นกันไม่หวาดไม่ไหว เป็นยุคสมัยที่เกมวางแผนจับเวลาจริงหลายเกมได้แจ้งเกิดและสร้างตำนานมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ Warcraft, Starcraft, Battle Realms, Age of Empires และเรือธงจาก Westwood Studios ที่ฮิตติดลมบนอย่างยาวนาน ซีรีส์ Command and Conquer ทั้งภาคหลัก และจักรวาลแยกอย่าง Red Alert โอกาสที่เกมแนวนี้จะเหี่ยวเฉาซบเซานั้น แทบจะเรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว [caption id="attachment_55663" align="aligncenter" width="1024"] และ CnC ก็ทำให้โลกแห่งเกมได้รู้จักกับ Kane ตัวร้ายหัวล้านทรงเสน่ห์แห่ง Brotherhood of Nod ผู้เป็นดั่ง Icon สำคัญของซีรีส์นี้มากว่าสองทศวรรษ[/caption] แต่มาในวันนี้ ... ไอ้ที่เคยรู้สึกตลก ก็กลายเป็นเรื่องขำขื่นไปเสีย เพราะความไม่เที่ยงอันเป็นสัจธรรมแท้จริงของทุกสิ่งบนโลก ก็เกิดขึ้นกับเกมแนว RTS ที่แม้จะมีดาวเด่นอย่างซีรีส์ Starcraft ภาคสองที่ยังคงแข่งขันอย่างเข้มข้นบนเวที eSports ระดับสากล แต่ความนิยมในเกมแนวนี้ก็ดูจะเสื่อมถอย ไม่โชติช่วงเท่ากับเวลาตั้งต้นของมัน รวมทั้งเปลี่ยนโฉมเป็นแนว MOBA ที่รวดเร็วยิ่งกว่า เรียกว่าห่างไกลจากแสงไฟไปอย่างน่าเศร้า (และกลายเป็นตลกร้าย ที่เกม Turn-Based Strategy ที่เคยซบเซา กลับเข้ามาเป็นทางเลือกที่มีให้เล่นไม่หวาดไม่ไหวไปแทน) [caption id="attachment_55683" align="aligncenter" width="400"] แถมปิดฉากด้วยภาค Tiberian Twilight ที่สมควรถูกลืมไปจากสารบบเสียให้ได้อีกต่างหาก....[/caption] ที่กล่าวมานั้นไม่ใช่ว่าจะมารำพึงความเศร้าเล่าความหลังอะไร แต่มันเป็นสถานการณ์ที่น่าประหลาดใจ เมื่อ Command and Conquer ได้ประกาศจะกลับมาครั้งใหม่ ในแบบ ‘Remastered’ ที่สัญญาถึงคุณภาพที่ตามยุคสมัย ให้เหล่า Old School และหน้าใหม่ได้สัมผัสกัน กล่าวโดยสรุป Command and Conquer Remastered Collection ชิ้นนี้ อาจจะไม่ได้เป็นการปฏิวัติหรือพลิกฟื้นวงการ Real-Time Strategy ให้กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง แต่มันก็เป็นชิ้นงานระดับคุณภาพที่ผ่านการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน โดยอดีตผู้สร้างดั้งเดิม เติมรสด้วยความทันสมัย ในแก่นกลางหลักหัวใจของการทำลายล้างที่รวดเร็วฉับไว ที่เคยสร้างตำนานอย่างยิ่งใหญ่เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาให้กลับคืนมาอีกครั้ง สำหรับ CnC Remastered แพ็คเกจนี้ ขออย่าได้สับสนกับรวมฮิตเมดเล่ย์ 17 ภาคที่ออกมาก่อนหน้านั้นของ EA เพราะนี่คือชิ้นงานที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า กับสองภาคหลักสุดคลาสสิค Command and Conquer : Tiberian Dawn และ Command and Conquer : Red Alert ที่ผนวกพ่วงเนื้อหาหลัก, เนื้อหาภาคเสริม และเนื้อหาภาคคอนโซลสมัย Playstation 1 มาบรรจุไว้ เรียกว่าครบเซ็ทสำเร็จเล่นได้ในแพ็คเดียวเลยก็ว่าได้ [caption id="attachment_55667" align="aligncenter" width="1024"] เทียบกันจะๆ ระหว่างกราฟิกแบบ Legacy ดั้งเดิม และแบบ Remastered ความละเอียด 4K[/caption] สิ่งที่โดดเด่นจนต้องขอกล่าวถึงในเบื้องแรกสำหรับ CnC Remastered ชิ้นนี้ คือคุณภาพกราฟิก ที่คมชัดเนียนกริบระดับ 4K ที่ผ่านการตกแต่งอย่างใส่ใจ ทุกพื้นที่ ทุกยูนิต ทุกสิ่งก่อสร้าง ถูกร่างและเพิ่มความละเอียดจนถึงขีดสุดประสิทธิภาพของยุคสมัย ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่แม้จะเป็นเกมเดิมก็ตาม รวมถึง Full Motion Video คั่นฉากภารกิจที่ได้รับการ Upscale ให้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น แม้แต่เสียงพากย์ของ EVA ระบบ AI ของภาค Tiberian Dawn ก็ยังได้ Kia Huntzinger เจ้าของเสียงโมโนโทนต้นตำรับกลับมารับบทอีกครั้ง แต่สำหรับใครที่คิดถึงกราฟิกแบบพิกเซลลายจุด ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโหมด Legacy ได้ง่ายๆ เพียงแค่กดปุ่ม Spacebar เท่านั้น เรียกว่าเป็นความพิถีพิถันจากทีม Petroglyph อดีตเด็กเก่าค่าย Westwood Studios และทีม Lemon Sky Studios ที่พิสูจน์ผลงานมาแล้วกับ Starcraft Remastered ดังนั้น เรื่องกราฟิกจึงหายห่วง มันลื่นไหล มันละเอียด และมันเนียนเสียจนให้ทุกเกมการเล่นสามารถดำเนินไปได้อย่างเพลิดเพลินเจริญสายตาเป็นอย่างยิ่ง [caption id="attachment_55669" align="aligncenter" width="1024"] โหมด Jukebox เลือกเพลงที่คิดถึงใส่ใน Playlist ได้ตามความชอบใจ กับทุกแทร็คกำกับใหม่ ความยาวร่วม 7 ชั่วโมงเต็ม[/caption] ความสุดยอดด้านกราฟิกอาจจะเป็นตัวนำ แต่เพลงประกอบก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญสำหรับซีรีส์ Command and Conquer ซึ่งในเวอร์ชัน Remastered ก็ได้ Frank Klepacki และวง The Tiberian Sons ประพันธกรดั้งเดิม กลับมาทำการ Rearrange ทุกเพลงที่มีทั้งภาค Tiberian Dawn และ Red Alert ด้วยจำนวนเพลงทุกแทร็คความยาวรวมกว่า  7 ชั่วโมง และสามารถเลือก Playlist แบบ Jukebox ได้ตามที่ชอบใจ สำหรับแฟนเก่าเดนตาย คงไม่มีอะไรจะสุดยอดเท่ากับการได้ฟังเพลงอย่าง Act on Instinct และระห่ำสะใจไปกับจังหวะเบสจากนรก Hell March ที่น่าหลงใหลนี้อีกแล้ว เป็นความอร่อยหูที่ให้ฟังเวียนซ้ำอีกกี่รอบก็ไม่มีเบื่อ อีกจุดหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นตามยุคสมัย คือในส่วนของโหมด Multiplayer ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบ Server แบบ Dedicated สร้างห้องแล้ว Join ได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด แน่นอนว่าในขณะที่เขียนบทความชิ้นนี้ จะยังไม่มีห้องให้เข้าไป Join อย่างเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก แต่ความสะดวกที่มี พร้อมทั้งโหมด Map Editor ที่รองรับ Mod Support ก็น่าจะช่วยขยายอายุการเล่นของสองภาคหลักในแพ็คเกจนี้ได้ดี แม้ว่าในสายเลือดแบบ Old-School จะยังคงคิดถึงการเชื่อมต่ออันแสนยากลำบากแบบ TCP/IP ดั้งเดิม แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความสะดวกที่มาใหม่นี้ เป็นอะไรที่น่าจับตาและน่าจับใจผู้เล่นทั้งหน้าเก่าและใหม่ให้มาโรมรันกัน อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่อาจจะต้องเตือนผู้เล่นกันเสียแต่เนิ่นๆ เพราะการกลับมาของ CnC ครั้งนี้ มันคือการ ‘Remastered’ ขนานแท้ เพราะแม้ว่าจะมีการเพิ่มและปรับปรุง Quality of Life ในการเล่น, กราฟิก, เพลงประกอบ และจำนวนภารกิจที่มีให้เล่นกันอย่างล้นหูล้นหัว แต่โดยแก่นแล้ว มันยังคงเป็น ‘เกมเดิม’ จากเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ที่เมื่อเราถอดแว่นสีกุหลาบระลึกความหลังทิ้งไป คุณจะได้พบกับความ ‘เก่า’ ที่ยังคงตามติดประชิดหลอนในแบบที่ไม่สมควรพบเจอในเกมยุคโมเดิร์น ไม่ว่าจะด้วยความฉลาด AI ที่เข้าข่ายซื่อบื้อจนถึงขีดสุด (ถ้าไม่อยู่ในระยะทำการ ก็สามารถยืนนิ่งเป็นเป้ากระสุนไปซะเฉยๆ) , ไม่มีระบบเดินไปโจมตีไป จนถึงระบบค้นหาเส้นทาง Pathfinding ที่ห่วยแตกยังไงก็ยังงั้น (ผิดปกติจนเป็นปกติกันเลย...) [caption id="attachment_55672" align="aligncenter" width="1024"] ต่อให้มียูนิตมากมาย แต่สุดท้าย รถถัง ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการปิดบัญชี ... (ถ้าไม่นับการ Engineer Rush ช่วงต้นเกมล่ะก็นะ...)[/caption] ความเก่าเหล่านี้ รวมไปถึงการเล่นหลักที่ไม่ได้มี Strategic Layer อะไรซับซ้อนนอกไปจากการ Rush ยึดฐานด้วยทหารช่าง Engineer (แบบเดียวที่ Bay Riffer ได้ลองสาธิตในวิดีโอภาค Yuri’s Revenge) ไปจนถึงการปั๊มรถถังออกมาให้มากที่สุดเพื่อบุกถล่มให้ราบเป็นหน้ากลอง แต่ละยูนิตมีฟังก์ชันเพียงระนาบเดียว และไม่มีความสามารถหรือสกิลใดๆ สำหรับการพลิกเกมแม้แต่น้อย (และยูนิตที่มีความสามารถแปลกๆ ก็มีไว้เป็นเพียงแค่สีสันแต่เพียงเท่านั้น) เมื่อบวกรวมกับแผนที่ในโหมด Multiplayer ที่ปราศจากความสมดุลอย่างรุนแรง เชื่อว่านักเล่นสาย RTS แบบโมเดิร์นก็น่าจะขัดใจกันบ้าง ไม่มากก็น้อย (และเชื่อเถอะว่า ถ้าเกมวางจำหน่ายเมื่อไหร่ คุณจะได้เจอกลยุทธ์ที่ว่าจากเหล่าเซียนสิงห์สนามแน่ๆ เรียกว่ารำมวยรอท่าไว้ล่วงหน้ากันเลยทีเดียว…) [caption id="attachment_55676" align="aligncenter" width="1024"] แผนที่ที่ปราศจากความสมดุลอย่างรุนแรง น่าจะทำให้สมรภูมิ Multiplayer นั้น น่าเล่นน้อยลงไปถนัดใจ....[/caption] แต่เมื่อมองโดยภาพรวมแล้ว Command and Conquer: Remastered Collections ก็ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ไม่ใช่การปฏิวัติแวดวง RTS แต่เป็นเครื่องย้อนพากลับสู่อดีตอันน่าคิดถึง ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ที่ชื่อของ Command and Conquer และ Westwood Studios นั้นยังเป็นยักษ์ใหญ่ยืนตระหง่านเป็นปูชนียสถานให้แก่นักพัฒนารุ่นอื่นๆ ที่ตามมา และภาค Remastered นี้ มันคือจดหมาย มันคือปูมบันทึก มันคือ ‘ไวน์’ ชั้นเลิศที่แม้จะถูกเปลี่ยนฉลากใหม่ แต่ยังคงหัวใจของรสชาติที่น่าลิ้มลอง ที่ผ่านการบ่มเพาะมาอย่างยาวนานกว่าสองทศวรรษ ก่อนที่จะได้รับการเปิดจุกคอร์กและดื่มร่ำให้เพลิดเพลินกันอีกครั้ง “มันคือรสอันนุ่มละมุน ท่ามกลางสมรภูมิแห่งการทำลายล้าง ทุ่งราบไทบีเรียน และจักรวาลคู่ขนานแห่งเกม Real-Time Strategy ที่ทำให้หวนระลึกว่า เรานั้นได้เดินทางมา ไกลเท่าใดแล้ว…” [penci_review id="55661"]

Final Fantasy VII Remake เพิ่งวางจำหน่ายไปช่วง ต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ FF ภาคเดียวที่ได้วางจำหน่ายในปีนี้ครับ เพราะล่าสุดได้มีข่าวออกมาแล้วว่า Final Fantasy Crystal Chronicles Remastered Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ครับ แน่นอนขึ้นชื่อว่าเป็นภาค Remastered ตัวภาพ กราฟิก และเสียงของเกมต่างได้รับการทำใหม่ จนสวยงามยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช้แค่นั้นเพราะตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีระบบ Cross-Play กับ Cross-Save ให้เราสามารถเล่นกับเพื่อนบนเครื่องอื่นๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มดันเจี้ยนใหม่เข้ามาให้ท้าทายมากมายเลยด้วย ใครเป็นแฟนเกมนี้คงต้องบอกว่าห้ามพลาดครับ Final Fantasy Crystal Chronicles Remastered Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้บนเครื่อง Nintendo Switch, PlayStation 4, Android และ Apple iOS. Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา EA ได้เปิดเผยรายงานผลกไรประจำไตรมาสล่าสุดของบริษัท ซึ่งเปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผนการของบริษัทตั้งแต่บัดนี้จนถึงช่วงเดือนมีนาคม 2021 เดลยทีเดียว โดยนอกจากจะมีการเอ่ยถึงเกมที่บริษัทเตรียมจะวางจำหน่ายในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 14 เกมแล้ว ยังมีการกล่าวถึงแผนการในการวางจำหน่ายเกมสำหรับเครื่อง Nintendo Switch ซึ่งที่ผ่านมาเป็นคอนโซลที่บริษัทให้การสนับสนุนค่อนข้างน้อย สำหรับเกมที่ EA จะวางจำหน่ายนั้น ส่วนหนึ่งจะเป็นเกมแนวกีฬาที่วางจำหน่ายรายปีอยู่แล้วเช่น FIFA และ Madden และยังมีเกมที่ประกาศไปแล้วอย่าง Command & Conquer Remastered อีกด้วย อีกเกมที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นพิเศษในรายงานคือเกม Burnout: Paradise Remastered ที่จะวางจำหน่ายในเครื่อง Nintendo Switch (ยังไม่ระบุวันวางจำหน่ายแน่นอน) โดยบริษัทประกาศว่ามีแผนจะวางจำหน่ายเกมในเครื่อง Nintendo Switch หลายเกมในปีนี้ นอกจากนี้ ในรายงานได้ยืนยันว่าเกม Battlefield ภาคต่อไปจะข้ามไปวางจำหน่ายในปี 2021 เลย โดย EA ได้เผยว่าจะวางจำหน่ายเกมฟอร์มใหญ่อีกเกมเพื่อทดแทนในปีนี้ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นเกมอะไร EA ปิดการรายงานด้วยการแจ้งผลกำไรที่เติบโตขึ้นจากการให้บริการเกมแนว Live Service อย่าง Apex Legends และเกมตระกูลกีฬา Ultimate Sports ทั้งหลายนั่นเอง โดยเกม Apex Legends เพิ่งจะประกาศเปิดตัว Season 5 ของเกมไปในระยะเวลาใกล้เคียงกัน พร้อมกับเทรลเลอร์ที่แนะนำตัวละครใหม่ของเกม Credit: IGN สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

เรียกได้ว่าช่วงนี้เกมตระกูล Call of Duty มาแรงจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นภาค Modern Warfare(2019) ที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ,การกลับมารของภาค Modern Warfare 2 Remastered หรือว่า Warzone ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ ก็ล่วนแล้วแต่เรียกความตื่นเต้นจากเหล่าผู้เล่นได้ทั้งสิ้น และเหมือนกับที่ข่าวลือก่อนหน้านี้ได้เคยบอกไว้ ดูเหมือนว่า Modern Warfare 3 Remastered ก็กำลังจะมาแล้วเช่นกันครับ! TheGamingRevolution ที่เคยทำการปล่อย Footage ของเกมเพลย์ รวมไปจนถึงข่าวที่บอกว่า Modern Warfare 2 Remastered กำลังจะมาก่อนหน้านี้ ได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่ออกมาบน YouTube ซึ่งเนื้อหาที่ถูกปล่อยออกมานั้นก็ไม่ใช้เรื่องอื่นไกล แต่เป็นเรื่องที่บอกว่า Modern Warfare 3 Remastered เองก็กำลังจะมาเร็วๆ นี้เช่นกัน โดยนอกจากจะบอกว่ากำลังจะมาแล้ว ยังมีการเปิดเผยรายละเอียดของเกมนิดหน่อยด้วย สามารถรับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ปี 2020 ถือว่าเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสำหรับมวลมนุษยชาติ แม้จะเป็นเวลาเพียงแค่ 4 เดือนแต่ความหนักหน่วงของเหตุการณ์ที่เจอทำให้เรารู็สึกว่าแต่ละเดือนผ่านไปช้ามาก เรื่องนี้ส่งผลมาถึงวงการเกมเช่นกันที่ในบางเกมก็ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับเดือนพฤษภาคมนี้ก็ยังคงมีเกมน่าเล่นมากมายให้เราได้หามาเล่นแต่ 10 เกมนี้คือเกมน่าเล่นประจำเดือนที่พวกเรา GamefeverTH อยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนหามาเล่น 1.Someday You’ll Return - 5 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, Xbox One, PC เปิดมาเกมแรกประจำเดือนนี้เอาใจเกมเมอร์สายเกมสยองขวัญกันหน่อย Someday You’ll Return ว่าด้วยเรื่องราวของ Daniel ที่ต้องออกตามหาลูกสาวของเขาในป่าลึกลับ พร้อมกับปริศนาต่าง ๆ มากมายและบรรยากาศสุดสยอง เกมเมอร์ท่าไหนใจแข็งก็ลองหามาเล่นดู 2.Sonic At The Olympic Games – Tokyo 2020 - 7 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: iOS , Android แม้ว่า Olympic ในชีวิตจริงจะเลื่อนไปแล้วจากเหตุการณ์ระบาดของเชื้อ COVID -19 แต่ว่าในโลกของวิดีโอเกมการแข่งขันกีฬานี้ยังอยู่ Sonic At The Olympic Games เป็นเกมที่นำเอาตัวละครดังขวัญใจเกมเมอร์อย่าง Sonic ของทาง SEGA มาทำเป็นรูปแบบเกมมือถือที่เล่นสนุก เต็มไปด้วย Mini Game ต่าง ๆ มากมายรวมถึงกีฬาต่าง ๆ ให้เราได้วัดฝีมือ ที่สำคัญเกมนี้ยังเป็นเกมที่เล่นฟรีอีกด้วย 3.Best Friend Forever - 14 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PC , Nintendo Switch เกมต่อมาเอาใจคนรักสัตว์กับ Best Friend Forever เกมที่เป็นการผสมกันระหว่างการเลี้ยงหมาและการออกเดตเข้าด้วยกัน ตัวเกมจะให้เราดูแลน้องหมาที่มีอารมณ์ต่าง ๆ ไม่ต่างจากมนุษย์ รวมถึงพัฒนาทักษะให้น้องหมาของเราเก่งขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็ต้องออกไปสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ในเมืองอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจมาก ๆ 4.Those Who Remain - 15 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, Xbox One, PC Those Who Remain เป็นเกมแนวสยองขวัญจากทีมพัฒนา Camel 101 ว่าด้วยเรื่องของ Edward ชายหนุ่มที่มีทุกอย่างพร้อมไม่ว่าจะเป็นภรรยาที่สวย ลูกสาวที่น่ารักแต่หลังจากที่เขาดื่มเหล้าแล้วเข้าพักที่ Golden Oak Motel ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ตัวเกมเต็มไปด้วยเรื่องราวลี้ลับสยองขวัญมากมาย นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบทางเลือกที่ฉากจบจะเป็นเช่นไรก็อยู่ที่เราอีกด้วย 5.The Wonderful 101: Remastered - 19 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, PC, Nintendo Switch The Wonderful 101 เกม Action Adventurer สุดมันส์จากเมื่อ 7 ปีที่แล้วกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของการ Remastered โดยโปรเจกต์นี้เกิดจากการที่เหล่าแฟนเกมได้ระดมทุนผ่านทาง Kickstarster ให้กับทาง Platinum Game มากถึง 250 ล้านเยน ตัวเกมได้รับการอัปเกรดในด้านต่าง ๆ ของกราฟิก ระบบการเล่นใหม่ ๆ และอื่น ๆ อีกมากมายให้เหล่าผู้เล่นได้ย้อนรำลึกความหลังกัน 6.Maneater - 22 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, Xbox One, PC หากคุณชอบเล่นเกม Hungry Shark Evolution ในมือถือละก็คุณจะต้องชอบเกมนี้อย่างแน่นอนโดย Maneater จะให้เรารับบทเป็นฉลามออกไล่ล่าสัตว์อื่นในท้องทะเล พร้อมทั้งวิวัฒนาการฉลามของเราให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ตัวเกมยังมีเนื้อเรื่องให้เราได้เสพอีกด้วย ใครอยากลองเกมแนว SharkRPG ก็ลองเกมนี้ได้เลย 7.Saints Row: The Third Remastered - 22 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, Xbox One, PC หากพูดถึงซีรีส์เกมที่เป็นคู่แข่งของเกม GTA แต่มีแนวทางการนำเสนอที่แหวกแนวสุด ๆ คงหนีไม่พ้น Saints Row: The Third ที่รอบนี้กลับมาในรูปแบบของการ Remastered ตัวเกมได้รับการอัปเดตในด้านของกราฟิกให้ดีขึ้น เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ดีขึ้นรวมถึงรวมทุก DLC มาให้เรียบร้อย เรียกได้ว่าน่าเล่นสุด ๆ ไปเลยเกมนี้ 8.Sword Art Online: Alicization Lycoris - 22 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, Xbox One, PC Kirito ตำนานเทพทรูแห่งโลก Sword Art Online ต้องกลับมาลุยอีกครั้งในเกม Sword Art Online: Alicization Lycoris  ที่ได้ดัดแปลงเนื้อเรื่องของ Anime ใน Season ที่ 3 มาอยู่ในโลกของวิดีโอเกม ตัวเกมได้มีการพัฒนาในเรื่องของกราฟิก ระบบการเล่น รวมถึงการเล่าเรื่องให้ดีขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ อีกด้วย ใครที่เป็นสาวกของเกมนี้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง 9.Minecraft: Dungeons - 26 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม: PlayStation 4, Xbox One, PC , Nintendo Switch หลังจากถูกโรคเลื่อนไปหนึ่งเดือนในที่สุด Minecarft:Dungeons ก็ได้ฤกษ์ในการเปิดให้เกมเมอร์ได้เล่นเสียที ตัวเกมจะนำเอาเรื่องราวของเกม Minecraft มาทำใหม่ให้อยู่ในรูปแบบของเกมตะลุยดันเจี้ยนพร้อมกับเพื่อน 4 คน ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าเล่นมาก ๆ หากคุณอยากเล่นเกม Minecraft ที่มีกลิ่นอายของเกม RPG เกมนี้แนะนำเลย 10.Borderlands Legendary Collection - 29 พฤษภาคม แพลตฟอร์ม:Nintendo Switch ปิดท้ายกันสุดยอดเกมแนว FPS - RPG ที่ในตอนนี้ได้มาถึงมือของสาวก Nintendo Switch แล้วกับเกม Borderlands ที่จะให้เราเลือกเล่นตัวละครหนึ่งตัวแล้วออกไปลุยกับโลก Pandora ที่วุ่นวาย บ้าบอและฮาแบบสุด ๆ โดยมาในคราวนี้ชาว Nintendo จะได้เล่นพร้อมกันถึงสามเกมจากการซื้อเพียงครั้งเดียว เรียกได้ว่าคุ้มมาก ๆ

หลังจากมีข่าวลือออกมาติดๆ กันถึง 2 วัน ในที่สุดวันนี้ก็ได้มีการเปิดตัวเกม Crysis Remastered อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเหตุผล ที่ทำให้ทาง EA เลือกที่จะทำเกมภาคนี้ในแบบ Remastered ออกมา น่าจะเป็นเพราะว่า Crysis ถือเป็นหนึ่งในเกมที่โดงดังมากๆ เรื่องของกราฟิกในอดีต ทำให้เรียกได้ว่าเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่มีฐานแฟนคลับใหญ่มากๆ ของ EA ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร ถ้าเกมนี้จะอยู่ในโปรเจ็คเกม Remastered จำนวนมากของ EA ที่ได้เคยประกาศว่ากำลังทำอยู่ในช่วงปลายปี 2019 ครับ ในช่วงแรกของ Trailer ที่ปล่อยออกมา ดูเหมือนจะเป็นความรู้สึกของเหล่าแฟนๆ ที่ยินดีกับการได้เห็นข่าวว่า Crysis จะกลับมาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็เป็น Footage เล็กน้อยของชายที่ใส่ชุด Nanosuit อยู่ และกำลังหันมามองกล้องอย่างช้าๆ ปิดท้ายด้วยการประกาศว่า เกมที่กำลังจะมาคือ Crysis Remastered และยังไม่พอ Trailer ตัวนี้ยังมี Surprise ตอนจบที่บอกว่าตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch อีกด้วย! รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Crysis Remastered ยังไม่ประกาศวันวางจำหน่าย แต่ตัวเกมจะลงให้ PS4, Xbox One ,PC และ Nintendo Switch Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ว่าเกม Saints Row: The Third ฉบับ Remastered ได้จดทะเบียนกับคณะกรรมการจัดเรทของประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้เราแฟน ๆ ต่างตื่นเต้นกับการมาถึงของเกมนี้ ล่าสุดวันนี้ทาง Deep Silver ได้ประกาศเปิดตัวเกมนี้เสียเลย โดยตัวเกมมาในชื่อ Saints Row: The Third Remastered ที่ได้มีการอัปเกรดกราฟิกต่าง ๆ ให้สวยงามขึ้น ตึกรามบ้านช่องมีรายละเอียดที่สูงขึ้น เอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่จัดเต็มขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ตัวเกมยังพร้อมกับ DLC ทั้งหมดของเกมอีกด้วย Saints Row: The Third Remastered มีกำหนดการวางจำหน่าย 22 พฤษภาคมนี้ ในเครื่อง PlayStation 4 , Xbox One และ PC Source:www.gamesradar.com ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เรียกได้ว่าเพิ่งจะมีอัปเดคข่าวลือไปเมื่อวาน วันนี้ก็มี Footage ของเกมออกมาเพียบเลยครับ กับเกม Call of Duty: Modern Warfare 2 Remastered เพราะไม่ใช้แค่ตัว Trailer ของเกมเท่านั้นที่มีการหลุดออกมา แต่กระทั้ง Gameplay Footage เองก็มีหลุดออกมาเพียบเลยใน Youtube ไม่ว่าจะเป็นด่าน No Russian, S.S.D.D กระทั้งด่านที่ Roach กับ Ghost ตายก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน คือเรียกได้ว่ามีแถบทุกด่านในเกมให้ดูเลยครับ ซึ่งจากเท่าที่ได้ดูแล้ว ตัวเกมนั้นมีภาพที่สวยขึ้นเป็นอย่างมาก คือถ้าไม่ได้ใช้เนื้อเรื่องเดิมทั้งหมด จะบอกว่าเป็นภาค Remake ผู้เขียนยังเชื่อเลย และด้วยความที่ว่ามันมี Footage หลุดออกมาเยอะขนาดนี้ Twitter Nibel ก็ได้โพสต์ข้อความใหม่ที่คาดเดาว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายภายในอาทิตย์นี้ อีกทั้ง PS Store ของประเทศเยอรมัน ก็มีการวางขายเกมแล้วในราคา 24.99 ยูโร แถมวันวางจำหน่ายของเกมที่เขียนไว้ข้างบนยังเป็นวันที่ 31 มีนาคม 2020 หรือวันนี้ด้วยครับ รับชม Trailer ใหม่ วิดีโอ และ โพสต์บน Twitter ต่างๆ ได้ข้างล่างนี้เลยครับ https://twitter.com/MW2Remastered4K/status/1244599249876258819?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1244599249876258819&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.pcgamer.com%2Fmodern-warfare-2-remastered-trailer-leaks-release-rumored-for-tomorrow%2F https://twitter.com/Nibellion/status/1244599864144601088?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1244599864144601088&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.pcgamer.com%2Fmodern-warfare-2-remastered-trailer-leaks-release-rumored-for-tomorrow%2F ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่    

Patapon เป็นเกมแนว Rhythm Action RPG ที่ใช้มุมมองแบบ Side-Scrolling และวางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง PlayStation Portable (PSP) ในปี 2007 ตัวเกมได้รับกระแสตอบที่ดีมาก ๆ จนส่งผลให้มีเกมภาค 2 และ 3 ออกในเวลาต่อมา วันนี้เกม Patapon 2 กลับมาอีกครั้งในชื่อ Patapon 2 Remastered ซึ่งก่อนจะเริ่มรีวิว ผู้เขียนต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า ไม่เคยสัมผัสเกมในซีรีส์นี้มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นในการรีวิวครั้งนี้จะเป็นความประทับใจแรกของผู้เขียนล้วน ๆ สวดว่าผู้เขียนมีความคิดเห็นยังไง มาดูกันเลยครับ ◊ เนื้อเรื่อง ◊ เนื้อเรื่อง Patapon 2 นั้นจะเป็นเหตุการต่อจากภาคแรก โดยหลังจากที่เหล่า Patapon สามารถเอาชนะพวกปีศาจ Zigoton ได้ และใช้ชีวิตอย่างสงบสุขผ่านไปไม่นาน เหล่า Patapon ก็ตัดสินใจที่จะต่อเรือ เพื่อออกเดินหาแผนดินใหม่ แต่การเดินทางมันไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด การเดินของเหล่า Patapon พบกับอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นพายุที่โหมกระหน่ำ , ปีศาจปลาหมึกที่เข้ามาจูโจม ถึงแม้ว่าเหล่า Patapon จะมีหัวใจ กับร้างกายที่เข้มแข็ง แต่ไม่ใช้กับเรือที่โดยสารมา เมื่อผ่านไปได้ 49 วัน เรือของเหล่า Patapon ก็ได้จมลง Hatapon (ตัวโบกธง) ตื่นขึ้นมาที่ชายหาดบนแผนดินที่ไม่รู้จัก พร้อมกับธงคู้ใจของเขา ทุกอย่างยังปกติยกเว้นแต่เพื่อน ๆ Patapon ที่หายไป เราจึงต้อง ตีกลอง กูร้อง ออกเดินทางเพื่อรวบรวมพวกพ้องที่หายไป หลังจากออกเดินทางได้ไม่นาน เหล่า Patapon ก็ได้พบกับเผ่าประหลาดที่กำลังทำร้าย Patapon ตัวหนึ่งอยู่ หลังจากขับไล่และช่วย Patapon ปริศนาเอาไวได้ เธอได้แนะนำตัวเองว่าเธอมีชื่อว่า Medan เป็นหนึ่งในเผ่า Patapon ที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ ซึ่งจากคำบอกเล่าของเธอก็ทำให้เรารู้ว่า บนแผ่นดินนี้เคยมีเหล่า Patapon อาศัยอยู่ เธอจะขอให้เราทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ กับเผา Patapon กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ กราฟิกของเกม Patapon นั้นไม่ได้มีความสวยงามสมจริงอะไรเหมือนกับเกมส่วนใหญ่ในยุคสมัยนี้ แต่ด้วยภาพ และกราฟิกของเกมที่ดูตะมุตะมิน่ารัก ๆ ก็ช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับเกมได้มากพอสมควรเลยทีเดียว ยิ่งโมเดิลต่าง ๆ ของเหล่าสัตว์ประหลาดนี่มีความน่ารักมากกว่าน่ากลัวซะอีก จนทำให้บางครั้งผู้เขียนก็รู้สึกว่าอยากจะวิ่งเข้าไปกอดมากกว่าวิ่งเข้าไปฆ่ามัน ถ้ากำลังหาเกมเล่นแก้เบื่ออยู่ละก็ ผู้เขี่ยนคิดว่าเกมนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเลยครับ ในด้านการนำเสนอ ถึงแม้ว่าจะเป็นเกมแบบ Side-Scrolling ที่มักจะทำให้รู้สึกห่างเหินเวลาเล่น แต่การเล่าเรื่องที่เหมือนว่าเราเป็นผู้นำของเผ่า หรือพระเจ้าของเผ่า มันทำให้รู้สึกว่าอยากจะชี้นำให้เผ่า Patapon นี้ สามารถเอาชีวิตรอดในโลกอันแสนโหดร้ายนี้ไปให้ได้ แถมการเล่าเรื่อง หรือฉาก Cut Scene ก็ถูกเล่าผ่าน Gameplay ทั้งหมด ทำให้ระหว่างเล่นจะรู้สึกว่าทุกอย่างมันดำเนินไปอย่างลื่นไหล่มาก ๆ ซึ่งมันทำให้เราเพลิ่นเพลนไปกับการเล่นพอสมควรครับ ด้วยความที่ตัวละครส่วนใหญ๋ในเกมนี้มันจะหน้าตาเหมือน ๆ กันไปหมดก็เลยทำให้รู้สึกว่าไม่มีตัวไหนเลยที่น่าจดจำ จริงอยู่ที่โมเดิลของตัว Patapon เองมีความเป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำอยู่มาก แต่ความที่หน้าตาเหมือนกันไปหมด มันทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครไหนเป็นพิเศษเลย ซึ่งอาจจะเป็นข้อเสียเพียงเล็กน้อยของเกมนี้ครับ อีกทั้งยังมีความรู้สึกว่าผู้พัฒนา น่าจะยังสามารถทำเกมออกมาให้ดีกว่านี้ได้อีก คือมีความรู้สึกว่าเกมนี้ยังดูไม่สมกับ เกมบนเครื่อง PS4 เลยครับ ◊ เกมเพลย์ ◊ อย่างที่บอกข้างต้นว่าเกมนี้เป็นแนว Rhythm Action ดังนั้นการเล่น การเดิน การโจมตี รวมไปจนถึงการป้องกัน จำเป็นต้องกดตัวโน๊ตของเกมให้ถูกต้อง ซึ่งปุ่ม เอ็ก , โอ , สามเหลี่ยม , สี่เหลี่ยม จะแทนที่ด้วยโน้ตเพลงต่าง ๆ เช่นถ้าหากจะเดินหน้าก็ต้องกด สี่เหลี่ยม , สี่เหลี่ยม , สี่เหลี่ยม , โอ ตามจังหวะเพลงให้ถูกต้อง ถ้าอยากจะโจมตีต้องกด โอ , โอ , สี่เหลี่ยม , โอ ตามจังหวะเพลงแทน รูปแบบการเล่นนี้เห็นครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่า ดูยุ่งยากน่ารำคาญ แต่พอได้เล่นเองจริง ๆ กลับทำให้รู้สึกตื่นตัว , เพลิดเพลิน , และสนุกมากกว่าที่คิดครับ จริงอยู่ที่ด้วยระบบเกมเพลย์นี้ทำให้ผู้เล่นต้องตื่นตัวตลอดเวลา แต่เพราะว่าเป็นระบบแบบนี้แหละ ถึงทำให้ไม่สามารถเล่นเกมนี้แบบชิล ๆ ได้เช่นกัน ทุกครั้งที่เล่นจำเป็นต้องมีสมาธิกับเสียงจังหวะ และหน้าจอสูงมาก ดังนั้นถ้าวันไหนไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่นเกมซึ่งต้องใช้สมาธิได้ ก็จะไม่สามารถเล่นเกมนี้ได้ในเวลาเดียวกัน หรือเมื่อเล่นไปสักพักอาจจะรู้สึกว่าหนักหัว เพราะใช้สมาธิมากเกินไปได้เช่นกัน ไม่รู้เหมือนกันว่านับเป็นข้อเสียรึเปล่า แต่สำหรับผู้เขียนแล้วคิดว่าเรื่องนี้นับเป็นข้อเสียของเกมครับ แน่นอนว่าเวลาเราไปออกรบหรือสำรวจ เหล่า Patapon ไม่เคยเดินทางคนเดียว แต่เดินทางไปเป็นกองทัพ ดังนั้นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้การเล่นเกมนี้สนุก ก็คือการจัดกองทัพเพื่อเตรียมออกเดินทาง ตัวชนควรอยู่ตรงไหน , นักธนูควรอยู่ตรงไหน , พลหอกควรอยู่ตรงไหน ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นระบบเล็ก ๆ แต่ผู้เขียนกล้าพูดเลยว่า การที่ต้องมานั่งคิดทุกครั้งก่อนจะออกเดินทาง นั่งจินตนาการว่าจะมีอะไรรออยู่ข้างหน้าบ้าง และต้องเอาตัวไหนไปบ้างถึงจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ก็เป็นหนึ่งในความเพลิดเพลินที่หาได้ในเกมนี้เช่นกันครับ ◊ สรุป ◊ Patapon 2 Remaster เป็นเกม Rhythm Action RPG ที่ใช้มุมมองแบบ Side-Scrolling ตัวเกมมีภาพน่ารัก , เป็นเอกลักษณ์ , ระบบเกมเพลย์เองก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดี มีความสนุกอยู่มากพอสมควร แต่เกมนี้จำเป็นต้องมีสมาธิเต็มร้อยในตอนที่เล่น ดังนั้นการเล่นนาน ๆ อาจจะทำให้เกิดความเหนื่อยล้ามาก ๆ ได้เช่นกันครับ แต่ถ้าตัดข้อนี้ออกไปแล้ว เกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวครับ จากทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ผู้เขียนจึงได้ให้คะแนนเกมนี้อยู่ที่ 8 เต็ม 10 ถ้าจะเก็บเกมนี้ไว้เล่นตอนเบื่อ ๆ ก็คิดว่าคงจะเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยเลยครับ [penci_review id="43723"]

แม้ว่าคอนโซล Wii U ของ Nintendo จะไม่ได้รับความนิยมมากนัก เมื่อเทียบกับเครื่องคอนโซลอื่นๆ ของค่าย แต่เครื่อง Wii U ก็ยังเป็นบ้านของเกมยอดนิยมหลายเกม โดยหนึ่งในนั้นก็คือเกมฮีโร่ The Wonderful 101 จากค่าย Platinum Games ที่กำลังจะได้รับการ Remastered ใหม่สำหรับ PS4, PC, Nintendo Switch นั่นเอง หลังจากที่ประสบความสำเร็จมากมายทางเว็บ Kickstarter เมื่อไม่นานมานี้ ล่าสุดผู้พัฒนา Platinum Games ได้ออกมาประกาศวันวางจำหน่ายของเกม The Wonderful 101 Remastered แล้ว โดยเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ในอเมรีกา (และวันที่ 22 ในยุโรป) ถือเป็นการวางจำหน่ายที่ค่อนข้างเร็ว เมื่อพิจารณาว่าเกมเพิ่งจะประกาศเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ทางค่าย Platinum Games ดูจะขยันขันแข็งกันเป็นพิเศษในช่วงนี้ ไหนจะต้องทำการ Remastered เกม The Wonderful 101 นี้ และยังมี Project G.G. ที่เพิ่งปล่อยทีเซอร์เปิดตัวกันไปอีก หวังว่าทาง Platinum Games จะไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำกันมากเกินไปนะ! Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

สวัสดีครับทุกท่าน! ขอต้อนรับเข้าสู่  Lore และตำนานภายในเกม Dark Souls บทที่เจ็ด ซึ่งในบทนี้เราจะมาพูดถึงการเปลี่ยนผ่านอำนาจจากมือของเทพเจ้าไปสู่มือของมนุษย์ และการหวนคืนของวงจรอุบาทว์ที่จะนำโลกกลับสู่ยุคมืดอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมก็ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ Lore และตำนานภายในเกม Dark Souls บทที่เจ็ด “ อำนาจแห่งปุถุชน และการหวนคืนของคำสาป ” < ลิงค์บทความก่อนหน้า >  บทที่หนึ่ง บทที่สอง บทที่สาม บทที่สี บทที่ห้า บทที่หก   ดินแดนแห่งมวลมนุษย์              โลกยุคใหม่ที่เกิดขึ้นจากการที่ Gwyn อุทิศดวงวิญญาณให้กับ The First Flame ได้นำพาโลกนี้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าอาณาจักร Lordran ของเหล่าทวยเทพก็ไม่ได้กลับมายิ่งใหญ่และรุ่งเรืองเหมือนดังเช่นเคย มิหนำซ้ำพวกดินแดนที่อยู่รอบๆก็ต่างเริ่มตั้งตนขึ้นมาเป็นใหญ่จนสามารถเทียบเคียงบารมีกับเมืองหลวง Anor Londo ได้ อาทิเช่นแคว้น Zena ที่มีความเจริญในด้านเศรษฐกิจและการค้าขายเป็นอย่างมาก ( ภาพประกอบ : Domhnall คือพ่อค้าเร่จากแคว้น Zena ซึ่งมีนิสัยส่วนตัวชอบขุดเอาทรัพย์สินของคนตายมาขาย ) ต่อมาก็คือนคร Catarina ที่ขี้นชื่อเรื่องการจัดงานมหรสพรื่นเริง แถมยังมีของดีประจำเมืองเป็นเบียร์รสเลิศซึ่งหาดื่มจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว และอีกจุดสำคัญที่ทำให้นคร Catarina กลายเป็นที่จดจำของเหล่าผู้คนมากมาย ก็คือชุดเกราะที่มีรูปทรงโค้งมนจนดูเหมือนกับคนอ้วน อีกทั้งยังมีหมวกที่มีรูปทรงประหลาดคล้ายกับหัวหอมจนทำให้นักรบของเมืองนี้มักจะถูกล้อเลี่ยนอยู่บ่อยๆซึ่งสวนทางกับประสิทธิภาพที่ดีจนเหลือเชื่อ นั่นก็เพราะว่าส่วนที่โค้งมนนี่เองที่คอยเป็นตัวช่วยทำให้อาวุธที่มากระทบแฉลบออกไปด้านข้างแทน ( ภาพประกอบ : ชุดเกราะของนักรบ Catarina ) ตามมาด้วยเมืองดีศรีคนกล้า Astora ซึ่งมีความเจริญทางด้านอารยธรรมที่สูงเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านยุทโธปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน แถมผู้คนในเมืองนี้ยังมีศีลธรรมและจริยธรรมที่สูงส่งไม่ได้ดีเเตกเสแสร้งทำเหมือนนคร Oolacile... เมื่อในอดีตเมือง Astora เคยถูกโจมตีโดยอสูรกายลึกลับตนหนึ่งจนเกือบที่จะวอดวายกันทั้งเมือง แต่ว่ามีผู้กล้าคนหนึ่งลุกขึ้นต่อสู้จนสามารถกำจัดมันลงได้ จากนั้นก็นำเอาดวงตาของเจ้าอสูรกายมาทำเป็นแหวนที่มีชื่อว่า Ring of the Evil Eye ที่มีคุณสมบัติในการดูดกลืนวิญญาณเพื่อนำมารักษาบาดแผลให้กับผู้ที่สวมใส่มัน ( ภาพประกอบ : ชุดเกราะบางส่วนของนักรบจาก Astora ) ( ภาพประกอบ : แหวน Ring of the Evil Eye ภายในเกม Dark Souls ) อีกเมืองก็คือ Carim อันเเลื่องชื่อในความหลากหลายทางด้านการนับถือศาสนา โดยจะมีทั้งพวกที่นับถือเทพเจ้านอกรีตอย่าง Velka ตลอดจนเทพเจ้าที่อยู่นอกเหนือตระกูลของ Gwyn อย่างเช่น Caitha เทพแห่งการร่ำไห้, Fina เทพแห่งความงดงาม, หรือแม้แต่พวก Way of White เองก็มีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเอกลักษณ์ของคนที่มาจากเมืองนี้ก็คือท่าทางการพูดที่ฟังดูแปลกประหลาดเอามากๆ เดี่ยวก็พูดจริงจังเคร่งขรึมเดี่ยวก็หัวเราะอย่างกับคนบ้า ( ภาพประกอบ : มนุษย์ในภาพนี้ทั้งหมดล้วนนับถือเทพเจ้าที่แตกต่างกันแต่ก็มาจากเมือง Carim เหมือนกัน ) ส่วนศาสนา Way of White ที่ในยุคสมัยก่อนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมเหล่า Undead โดยเฉพาะ แต่ทว่าในปัจจุบันการที่มีมนุษย์เข้ามาบริหารองค์กรมากขึ้น ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งใหญ่ใน Way of White ไปด้วยและเริ่มมีการชิงดีชิงเด่นเพื่อเหตุผลทางการเมืองมากขึ้น ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือเมือง Thorolund อันเป็นบ้านของเหล่าพระชั้นสูงใน Way of Withe มากมายที่มักจะใช้ศาสนาบังหน้าเพื่อออกคำสั่งกำจัดศัตรูทางการเมือง   ( ภาพประกอบ : เหล่า Way of White ที่มาจากเมือง Thorolund ) เมืองที่ได้กล่าวมาข้างต้นล้วนแล้วแต่เป็นเมืองที่ปกครองโดยมนุษย์ทั้งหมด ซึ่งเปี่ยมไปด้วยอำนาจและขุมกำลังทหารที่มากพอสำหรับปกครองตัวเองได้สบาย แต่ก็มีบางสถานที่ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นเมืองใหญ่โตอะไรแต่ก็มีผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมา ด้วยปรารถนาที่จะเรียนรู้ศาสตร์แห่งเวทมนต์ Sorcery ซึ่งที่แห่งนั้นก็คือโรงเรียนจอมเวทย์ Vinheim หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งเรียกว่าโรงเรียนมังกรโดยชื่อนี้ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติให้กับ Seath ที่เป็นเหมือนบิดาแห่งศาสตร์เวทมนต์ทั้งมวล และถ้านักเรียนคนใดที่จบการศึกษาไปแล้วแต่ยังมีความกระหายใคร่รู้อยู่ ก็ยังสามารถออกเดินทางไปหา Seath ที่หอจดหมายเหตุภายในเมืองหลวง Anor Londo เพื่อขอฝากตัวเป็นข้ารับใช้และเรียนรู้ Sorcery  อยู่ที่นั่นได้ แม้ว่าในภายหลัง Seath จะถูกผนึกทางเข้าออกหอจดหมายเหตุเอาไว้แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายที่ดันทุรังพยายามฝ่าเข้าไปเพื่อจะสนองความกระหายของตน ( ภาพประกอบ : เหล่านักเวทย์ที่มาจาก Vinheim )   นอกจากนี้ก็ยังมีอาณาจักรที่อยู่ห่างไกลซึ่งไม่ค่อยมีชื่อเสียงเเละความสลักสำคัญอะไรอน่าง Balder, เเละ Berenike เป็นเหมือนเเค่เขตปกครองตัวเองของมนุษย์ธรรมดาๆ   ราชวงศ์ที่แตกสลาย              ณ เมืองหลวง Anor Londo ที่ดูเหมือนว่าจะสงบสุขดีเเละไร้ซึ่งปัญหาจากภายนอก... บนฟากฟ้ามีตวงตะวันคอยสาดแสงในยามเช้าและมอบความอบอุ่นภายให้กับผู้คนในเมืองดังเช่นที่เป็นตลอดมา ทว่าความจริงเเล้วตอนนี้เมืองหลวง Anor Londo แทบจะเรียกได้ว่าถูกตัดขาดออกจากโลกภายอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเพราะคำทำนายของผู้ถูกเลือกที่ทำให้เมืองนี้ต้องปิดกั้นตัวเอง ทุกตารางนิ้วล้วนเต็มไปด้วยเหล่า Silver Knight และทหารยักษ์มากมายที่ถูกวางกำลังไว้อย่างแน่นหนา และแน่นอนว่าวังหลวงที่เป็นสถานที่อยู่อาศัยของ Gwynevere และ Gwyndolin ก็ย่อมต้องมีปราการสุดหินเป็นด้านสุดท้ายเพื่อทดสอบผู้ถูกเลือก ซึ่งก็คือสองนักรบฝีมือฉกาจนามว่าอัศวินราชสีห์ Ornstein และมือเพชฌฆาต Smough ( ภาพประกอบ : Ornstein(ขวา) และ Smough(ซ้าย) คู่หูมหาประลัยเเห่งเมืองหลวง Anor Londo ) ทั้งสองได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นองครักษ์สูงสุดเพื่อปกป้องเทพเจ้า แต่ในอดีตนั้น Smough มีนิสัยที่วิปริตผิด มนุษย์มนาชื่นชอบการกินกระดูกของมนุษย์ที่ถูกเขาฆ่าตาย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้จนทำให้เขาไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นขุนพลสักที… ทุกท่านสงสัยกันไหมครับว่าทำไมถึงต้องเอาคนแบบนี้เข้ามาเป็นองครักษ์ระดับสูงภายในวัง นั่นก็เพราะตอนนี้ในเมืองหลวง Anor Londo แทบจะไม่เหลือขุนพลคนอื่นๆอยู่อีกแล้ว อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ Gwyn และ Nameless King ซึ่งเคยเป็นที่พึ่งพิงทางจิตวิญญาณของเหล่านักรบได้สูญสิ้นไปหมดเเล้ว ทำให้บางส่วนได้เกษียณตัวเองดังเช่น Hawkeye Gough บ้างก็ออกเดินทางหายสาบสูญไปอีกนับไม่ถ้วน ( ภาพประกอบ : รูปปั้นของ Ornstein(ซ้าย) และ Smough(ขวา) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีการแต่งตั้งให้ทั้งสองทำหน้าที่เป็นองครักษ์อย่างเป็นทางการ ) มาพูดถึงด้านของ Ornstein กันบ้าง ซึ่งเขาก็คือยอดนักรบที่เคยรับใช้ Gwyn มาตั้งแต่สมัยสงครามมังกรในอดีต อีกทั้งยังเป็นศิษย์เอกของ Nameless King ที่ได้รับการถ่ายทอดกระบวนท่าสังหารมังกรมาโดยตรง จนทำให้เขาได้รับฉายาว่า “นักปราบมังกร Ornstein” (อู้ฮู!...) และเท่านั้นยังไม่พอเขายังเป็นหนึ่งใน “สี่สุดยอดขุนพลแห่ง Gwyn” โดยตัวเขาเองได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำของกลุ่ม, คนถัดมาก็คืออัศวินเขี้ยวหมาป่า Artorias ผู้ซึ่งกลายเป็นตำนานในการพิชิต The Abyss, คนที่สามก็คือมือมีดแห่งเหล่าทวยเทพ Ciaran นักลอบสังหารแห่งอาณาจักร Lordran, และคนสุดท้ายก็คือนัยน์ตาปักษา Gough ผู้ที่มีฝีมือการยิงธนูที่แม่นยำราวกับปาฏิหาริย์ แต่ทว่าเกือบทั้งหมดที่กล่าวมานั่นไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง Anor Londo อีกแล้ว จะเหลือเอาไว้ก็แต่ Ornstein ที่นับวันก็ยิ่งเริ่มคิดทบทวนถึงจุดมุ่งหมายในชีวิต เพราะตัวเขาก็เหมือนกับเสือดุที่มีเจ้านายถ้าหากคนขี่หลังอยู่ไม่เข้มแข็งพอละก็จะไม่มีวันควบคุมเสือดุตัวนี้ได้ และเนื่องจากการที่เขาเป็นนักรบที่เจนศึกมามากก็ย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีความกระหายในการต่อสู้ แต่นี่ต้องมาติดอยู่ภายในวังหลวงโดยจะออกไปไหนมาไหนห่างไกลก็ไม่ได้ มันจึงยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดขึ้นเป็นทวีคูณ ( ภาพประกอบ : สี่สุดยอกขุนพลเเห่ง Gwyn ประกอบไปด้วย Ornstein(ซ้ายบน), Artorias(ขวาบน), Ciaran(ซ้ายล่าง), Gough(ขวาล่าง) ทั้งสี่คนคือขุนพลที่ Gwyn ไว้ใจมากที่สุด  )              ส่วนทางด้านของเทพเจ้าอย่าง Gwynevere เองก็ใช่ว่าจะดีเด่นไปกว่าคนอื่นๆ เพราะตัวนางก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายกับตำแหน่งหัวโขนที่ได้รับ และไหนจะพวกราชกิจต่างๆที่ถูกวงการโดยน้องชายอยู่ลับหลัง จะใช้อำนาจตามดุลพินิจของตัวเองก็ไม่ได้...จะกลับไปทำหน้าที่ตั้งครรภ์และเลี้ยงดูบุตรเเบบเดิมก็ไม่ได้ Gwynevere จึงได้นำเอาความคับข้องใจนี้ไปปรึกษากับ Gwyndolin ผู้เป็นน้องชายเพื่อที่จะหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน แต่ทว่าต่อให้ Gwyndolin จะสงสารพี่สาวคนนี้มากแค่ไหนก็ตามแต่คำสั่งเสียของผู้เป็นพ่อก็ย่อมต้องมาก่อนเสมอ! ด้วยนี้นี่เองจึงทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเริ่มหินห่างมากขึ้นและที่สำคัญมันทำให้ Gwynevere  นึกหวนคิดถึงคำพูดของ Nameless King ผู้เป็นพี่ชาย ที่เคยกล่าวว่านางควรคิดคำนึงถึงความต้องการของตนเองให้มากกว่าความต้องการของคนที่ตายไปแล้ว ทำให้นางเริ่มมีความคิดว่าเมืองหลวง Anor Londo ไม่ใช่บ้านอีกไปแล้วแต่เป็นเหมือนคุกที่จองจำจิตใจของนางเอาไว้ ( ภาพประกอบ : Divine Blessing คือน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่ Gwnevere ประทานให้เเก่เหล่าสาวกที่บูชานางในฐานะเทพพีเเห่งความอุดมสมบูรณ์เเละการมีบุตร… ซึ่งมีฤทธิ์รักษาบาดเเผลเเละเป็นยาชูกำลังชั้นเยี่ยม…. ) แต่ในระหว่างที่เกิดความไม่ลงรอยกันของสองพี่น้อง ก็มีรายงานจาก Way of White ว่าตามชานเมืองเริ่มมีข่าวลือถึงการกลับมาของ Curse of Undead! เมื่อเหล่าเทพเจ้าทราบเรื่องก็ต่างอกสั่นขวัญแขวนกันไปตามๆกัน เพราะยังคงจดจำภาพแห่งความวินาศสันตะโรอันเกิดจากการที่ The First Flame อ่อนกำลังลงได้เป็นอย่างดี ดังนั้น Gwyndolin จึงได้รับสั่งการให้ Way of White เร่งเผยแพร่คำทำนายของผู้ถูกเลือกออกไปยังดินแดนต่างๆให้มากที่สุดจนนำไปสู่การตีความคำทำนายออกมาแบบต่างๆซึ่งเเทบจะไม่เหลือเค้าเดิมอยู่เลย กลับมาทางด้านของ Gwynevere เมื่อนางได้รู้ว่า Curse of Undead ได้กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทำให้นางตระนักได้ว่าความมืดจะย่างกรายเข้ามาสู่เมืองหลวง Anor Londo ในอีกไม่ช้า Gwynevere จึงได้ตัดสินใจด้วยตัวเองว่าจะแอบหนีออกจากเมืองหลวง Anor Londo ไปพร้อมๆกับเทพเจ้าหลายองค์ที่มีตวามคิดเช่นเดียวกัน จากนั้น Gwynevere ก็ได้ไปพึ่งใบบุญของ Flann เทพแห่งอัคคีและทั้งสองก็ได้อภิเษกสมรสกัน ณ อาณาจักรในดินแดนที่ห่างไกลนามว่า Heide ซึ่งจะมีบทบาทที่สำคัญในเวลาต่อมา.... ( ภาพประกอบ : Ring of the Sun Princess เป็นของดูต่างหน้าไม่กี่อย่างที่ Gwynevere ทิ้งเอาไว้  ) กลับมาทางด้านของเมืองหลวง Anor Londo ที่ตอนนี้กำลังประสบปัญหาความน่าเชื่อถือเพราะเหล่าเทพเจ้าหลายองค์ได้หายตัวไปอย่างเป็นปริศนา บีบให้ Gwyndolin จึงแก้ปัญหาด้วยการใช้เวทมนต์สร้างภาพลวงตาของบรรดาทุกคนที่หายตัวไปขึ้นมาทดเเทน ซึ่งภาพลวงตาเหล่านี้จะมีพลังวิเศษและนิสัยใจคอใกล้เคียงกับตัวจริงทุกประการ เมื่อปัญหาการหายตัวไปถูกจัดการได้เเล้วต่อมาก็ถึงคราวของปัญหาภาพลักษณ์ภายในตัวเมือง Gwyndolin ได้จัดการสร้างภาพลวงตาของดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าแสงสว่างยังคงสาดส่องอยู่ในเมือง Anor Londo ดังเช่นวันวาน…. แต่ทว่ามีหรือเรื่องที่ฉาวโฉ่เช่นนี้จะรอดพ้นสายตาของ Ornstein ไปได้ เขาได้คอยเฝ้ามองทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นและได้นำกลับมาคิดทบทวน จนมีอยู่วันหนึ่ง Ornstein ก็ได้เดินทางไปยังวิหารของเทพเจ้าที่อยู่ใกล้ๆ ซึ่งในนั้นมีเเท่นบูชาที่ว่างเปล่าอยู่อันหนึ่งซึ่งในอดีตมันเคยรองรับเทวรูปของ Nameless King ผู้เป็นอาจารย์ของเขา Ornstein ได้จ้องมองเข้าไปยังแท่นบูชาที่ว่างเปล่านั้นราวกับว่าในสายตาเขามันยังคงมีเทวรูปของ Nameless King ตั้งอยู่เสมอมา… ( ภาพประกอบ : ทางด้านซ้ายของแท่นบูชาเคยเป็นที่วางรูปปั้นของ Nameless King ) ค่ำคืนที่แสนเยือกเย็นและยาวนานค่อยๆลอยผ่านพ้นเมืองหลวง Anor Londo ไปอย่างช้าๆ ต่างกับภายในวังที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากการสังสรรค์รื่นเริง แต่ทว่าค่ำคืนนี้กลับมีบุคคลปริศนาที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาร่วมงานด้วย… บุคคลปริศนาคนนั้นได้เดินแหวกกลางงานที่เต็มไปด้วยเหล่าทวยเทพมากมายอย่างไม่สนใจมารยาทหรือพิธีรีตองอะไรทั้งสิ้น โดยเขามุ่งตรงเข้าไปหา Gwyndolin จากนั้นก็เอยปากบอกให้เทพเจ้าคนนี้คลายภาพลวงตาของทุกคนออกไปซะ เมื่อพูดจบผู้คนในงานก็ต่างหันไปมองยังบุคคลปริศนาซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น Ornstein นี่เอง! เขาได้เริ่มสาธยายความคับข้องใจออกมาว่า Nameless King นั้นพูดถูกต้องมาตลอดสถานที่แห่งนี้ได้เดินทางมาถึงจุดแตกดับแล้ว เเต่ Gwyndolin กลับเอาแต่เบือนหน้าหนีความเป็นจริง เเละตัวเขาจะไม่ปกป้องภาพลวงตาที่ไม่มีอยู่จริงเป็นอันขาด นับแต่บัดนี้เป็นต้นไปจะไม่มีองครักษ์ที่ชื่อว่า Ornstein อีก สิ่งที่เขาพูดออกมาทำให้ Gwyndolin โกรธจนแทบอยากจะฆ่าอัศวินราชสีห์คนนี้ทิ้งแต่ก็ต้องยั้งเอามือไว้ เพราะฉายา “นักปราบมังกร” ของ Ornstein นั้นเป็นของจริง! เพียงแค่ Gwyndolin กระดิกนิ้วเขาก็สามารถพุ่งเข้าประชิดตัวได้ในพริบตา ( ภาพประกอบ : Ornstein มีชื่อเรื่องการใช้หอกแทงทะลุเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตรได้ด้วยความเร็วชั่วพริบตา ) เมื่อเห็นว่าไม่มีท่าทีจะเกลี้ยกล่อมได้ Gwyndolin จึงใช้วิธีลงทัณฑ์โดยอ้างถึงการตระบัดสัตย์ต่อเทพเจ้า ฉะนั้นก่อนที่เขาจะไปก็จะต้องมอบ Soul ครึ่งหนึ่งของตนเองคืนให้แก่เหล่าทวยเทพ และแค่นั้นยังไม่พอ Gwyndolin ยังสั่งให้เขาถอดแหวน Leo Ring ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ 4 สุดยอดขุนพลเพราะคนที่ทรยศไม่มีสิทธิที่จะสวมมันอีกเเล้ว การลงทัณฑ์ดังกล่าวสำหรับ Ornstein มันก็ไม่ต่างอะไรกับการย่ำยีเกียรติของนักรบซึ่งเขาพากเพียรสั่งสมมานาน...แต่ทว่า Ornstein กลับไม่ลังเลที่จะทิ้งมันไปเลย เขาลงมือกระชาก Soul ออกมาร่างกายของตัวเองพร้อมๆกับถอดแหวน Leo Ring ทิ้งเอาไว้ที่พื้นและก็เดินจากไป ปล่อยให้ Gwyndolin ต้องยืนสงบนิ่งท่ามกลางเหล่าภาพลวงตาทั้งหลาย ที่เริ่มกลับมาสังสรรค์อีกครั้งโดยเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ( ภาพประกอบ : Leo Ring เป็นหนึ่งในแหวนที่สี่สุดยอดขุนพลแต่ละคนจะได้รับเพื่อเป็นการแสดงเกียรติสูงสุดของนักรบ ) ก่อนที่ Ornstein จะก้าวเท้าออกจากเมืองหลวง Anor Londo เขาก็ได้ไปบอกลาเพื่อนคนสุดท้ายอย่าง Smough ที่กำลังโมโหโกรธาเขาเป็นอย่างยิ่งและยังได้กล่าวว่าตนควรจะฆ่า Ornstein ทิ้งซะเดี๋ยวนี้ แต่เพราะยังเห็นว่าเคยเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อนจึงได้ยอมปล่อยให้ขาผ่านไป...ใครจะไปอยากเชื่อกันเล่า Smough ที่ผู้คนปรามาสถึงนิสัยส่วนตัวอันน่ารังเกียจกลับกลายเป็นคนสุดท้ายที่มีความจงรักภักดีต่อนายเหนือหัวมากที่สุด     เส้นทางของคำทำนาย              กระแพร่กระจายของข่าวลือที่ว่า Curse of Undead ได้กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ได้ทำให้หลายอาณาจักรเริ่มตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือกันอย่างแข็งขัน  หลายดินแดนเริ่มมีการคัดสันเหล่าตัวแทนเพื่อส่งไปทำตามคำทำนายที่ดินแดน Lordran โดยส่วนมากก็จะเป็นพวก Undead เพราะว่าสามารถที่จะตายแล้วเกิดใหม่ได้เรื่อยๆแถมยังเป็นการป้องกันปัญหาการเข้าสู่ภาวะ Hollow ไปในตัว จนคำติดปากที่ว่า “ผู้ถูกเลือก” ได้ถูกเปลี่ยนเป็น “Undead ผู้ถูกเลือก” ไปแทน แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่เดินทางมายังดินแดน Lordran จะมาเพื่อทำตามคำทำนายของผู้ถูกเลือกกันเสียหมด บางคนก็เป็นพ่อค้าที่มาเพื่อการค้าขายโดยเฉพาะ บ้างก็เป็นอาชญากรที่รักในการปล้นฆ่าโดยมาเพื่อคอยดักปล้นหรือกลั่นแกล้งเหล่า Undead คนอื่นๆ... ซึ่งคนพวกนี้จะมองว่า Curse of Undead ไม่ใช่คำสาปแต่มันเป็นเหมือนพรจากพระเจ้าที่มอบชีวิตอันเป็นอมตะให้ ( ภาพประกอบ : เหล่าบรรดาคนที่มายังดินเเดน Lordran ด้วยเหตุผลอื่น ) ดูเหมือนว่าในยุคนี้สถานการณ์ของ Curse of Undead จะอยู่ในสภาพที่สามารถควบคุมและดูแลได้ ทุกคนต่างก็คิดว่าแค่รอให้เวลาผ่านไปแล้วเดียวผู้ถูกเลือกตามคำทำนายก็จะโผล่ตัวออกมาเอง แต่ที่ไหนได้เมื่อยิ่งเวลาผ่านพ้นไป จากวันก็เข้าสู่เดือน จากเดือนก็เข้าสู่ปี จากปีก็กลายเป็นหลายสิบปีซึ่งก็ไม่มีวี่แววของผู้ถูกเลือกว่าจะโผล่สักที ประกอบกับช่วงพักหลังมานี้มี Undead หลายคนเริ่มไม่ยอมทำตามคำนายส่งผลให้หลายอาณาจักรเริ่มร้อนรน ประกอบกับจำนวนของ Undead ที่ยิ่งนับวันก็ยิ่งมีเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจนเป็นการยากที่จะควบคุม ทาง Way of White เองก็ได้เร่งประโคมข่าวหนักขึ้นอีก! โดยหยิบเอามาตรการที่รุนแรงมากขึ้นมาใช้อย่างเช่นการจัดตั้งอาสาสมัครตามหมู่บ้านเล็กๆให้ออกตามล่าและขับไล่พวก Undead เพื่อบีบให้ต้องลี้ภัยไปยังดินแดน Lordran ที่ตอนนี้กลายเป็นที่ทิ้งขยะของดินเเดนอื่นๆไปเเล้ว… จากการคัดสันหาตัวแทนมาตอนนี้ก็ได้แปลเลี่ยนกลายเป็นการบีบบังคับไปเเทน ในบางอาณาจักรถึงขั้นจัดตั้งสถานกักกันเหล่า Undead ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเหล่าผู้โชคร้ายทั้งหลายจะถูกนำตัวมาเเละบังคับให้ผูกวิญญาณเข้ากับ Bonfire ในสถานนี้เพื่อให้เกิด, ตาย, และวนเวียนอยู่ในสถานกักกันไปตลอดกาล (โหดร้ายสุดๆ) โลกทั้งใบได้กำลังกลับเข้าสู่ความโกลาหลอีกครั้งหนึ่ง! ( ภาพประกอบ : มุมมองจากภายนอกของ Undead Asylum ) ณ ดินแดนทางตอนเหนืออันห่างไกลสุดลูกหูลูกตา ได้มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกเรียกว่า Undead Asylum ที่สร้างขึ้นมาเพื่อกักขังและทำการทดสอบเพื่อค้นหาตัว Undead ผู้ถูกเลือก แต่ทว่าท่ามกลางเหล่าผู้คนมากมายที่ถูกจับตัวมาอย่างไม่ยินยอม ก็ได้มีนักรบหนุ่มอยู่คนหนึ่งที่เต็มใจอาสามายังสุสานแห่งนี้ด้วยตัวเองเพราะมีศรัทธาอันแรงกล้าต่อคำทำนาย นามของนักรบคนนั้นก็คือ Oscar แห่ง Astora ซึ่งเขาได้พยายามรวบรวมผู้คนข้างใน Undead Asylum ให้ช่วยกันต่อสู้เเละหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้ แต่ทว่าอุปสรรคตามรายทางนั้นก็ช่างมีมากเสียเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นเส้นทางภายในที่มีความคดเคี้ยววงวน จรดเหล่าทหารยามและพวกอสูรร้ายที่ได้รับอนุญาตให้สังหาร Undead ทันทีที่พบเจอ หลายคนเริ่มยอมแพ้และสิ้นหวังเพราะต่อให้ฝ่าฟันขึ้นไปยังดาดฟ้าได้สำเร็จ พื้นที่เเห่งนี้ก็ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาและหุบเหวสูงลึก ไม่ว่าจะพยายามปีนป่ายแค่ไหนหากพลาดเพียงก้าวเดียวก็จะตกลงไปตายและกลับมาเกิดใหม่ยัง Undead Asylum เหมือนเดิม ทำให้ทุกคนที่เหลืออยู่หมดหวังจนกลายสภาพเป็น Hollow จะเหลือก็แต่ตัว Oscar คนเดียวเท่านั้นที่ยังพอมีสติลงเหลือแบบเลือนราง... แต่เหมือนมีบางอย่างดลใจทำให้เขาได้ไปพบเข้ากับ “Undead นิรนาม” คนหนึ่งที่ถูกขุมขังอยู่คุกเบื้องล่าง และเมื่อ Oscar ดูจนแน่ใจว่า Undead นิรนามคนนั้นไม่ได้เป็นพวก Hollow เขาจึงหอบสังขารของตนเองไปยังซากศพที่อยู่ใกล้ๆ และจัดการเอากุญแจประตูห้องขังที่มีอยู่กับตัวยัดเข้าใส่ในเนื้อหนังของศพ เพื่อป้องกันไม่ให้กุญแจที่แสนสำคัญนี้กระเด็นหายไปจากแรงของการโยนกระเเทกพื้น ( ภาพประกอบ : Oscar กำลังพยายามช่วย Undead นิรนาม ) ( ภาพประกอบ : กุญเเจเเห่งความหวังที่ถูกส่งมาโดย Oscar ) Oscar ได้โยนศพลงไปในห้องขังของ Undead นิรนามที่อยู่เบื้องล่าง ทั้งคู่ต่างจ้องมองกันเเละกันเเต่ไม่ปริปากพูดคุยกันเลยเเม้เเต่คำเดียว เหมือนกับเป็นสัญญาณว่าให้หนีออกไปได้เสียก่อนแล้วค่อยมากล่าวขอบคุณก็ยังไม่สาย... Undead นิรนามได้ไขกุญแจและออกเดินไปตามทางโถงทางเดินแคบๆซึ่งเต็มไปเหล่า Undead มากมายที่นั่งลงอย่างสิ้นหวังเเละเสียสติ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตนกำลังถูกเทพเจ้า Velka จับจ้องอยู่ห่างๆ   วิกฤติความมืดในครั้งนี้ช่างหนักหนายิ่งนัก หนึ่งราชาละทิ้งหน้าที่แห่งราชวงศ์ หนึ่งอัศวินหมาป่าเสียสละแต่ล้มเหลว หนึ่งเทพเจ้าร่ำไห้เเละเบือนความจริง หนึ่งหญิงสาวหลับใหลชั่วนิรันดร์เพื่อยับยั้งความมืด  นำไปสู่การสูญสิ้นดวงตะวันแห่งเหล่าทวยเทพ จะมีก็แต่เจ้ามนุษย์ตัวจ่อยที่อาจหาญขึ้นท้าทายด้วยแรงศรัทธา อันก่อกำเนิดมาจากคำปลิ้นปล้อนของคนตาย     ( ภาพประกอบ : โถงทางเดินใน Undead Asylum ที่มีเเสงสว่างสลับกับความมืดไปจนสุดทางเดิน... )   คุยกันหลังเรื่องเล่า           ก็จบกันลงไปแล้วนะครับกับ Lore และตำนานภายในเกม Dark Souls บทที่เจ็ด “ อำนาจแห่งปุถุชน และการหวนคืนของคำสาป ” ตอนแรกผมวางแผนว่าจะเขียนบทนี้ให้รวบยอดและเร่งเข้าเหตุการณ์ในตัวเกมให้เร็วที่สุด แต่ว่าหากทำเช่นนั้นก็จะเป็นการข้ามเนื้อซึ่งเป็นเสน่ห์สำคัญของเกมๆนี้ไป และอาจทำให้ท่านผู้ชมไม่เข้าใจถึงแรงผลักดันต่างๆของตัวละครภายในเกม ดังนั้นเพื่อจัดวางเนื้อหาให้เป็นระเบียบมากขึ้นผมจะแบ่งการสรุปเนื้อหาออกเป็นสองส่วน ซึ่งก็คือ Main Quest หรือเนื้อเรื่องหลักที่ผมจะเขียนให้เสร็จสิ้นไปเสียก่อน และจากนั้นผมถึงจะค่อยหยิบเอาพวก Side Quests ที่มีเนื้อเรื่องรองออกมาสาธยายให้อ่านกันและรวมไปถึงฉากจบแบบต่างๆด้วย...แต่ว่าตอนนี้ก็สมควรแก่เวลาแล้วผมจึงขอตัวลาทุกท่านไปก่อน สวัสดีครับ  

น่าจะเป็นเรื่องดีกว่า หากสัปดาห์นึงจะมีเกมใหม่ ๆ ให้เล่นสัปดาห์ละ 1 เกม เพราะยิ่งมีเกมดี ๆ ออกมามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเล่นเกมเหล่านั้นไม่ครบถ้วนซักทีเท่านั้น โดยเฉพาะสัปดาห์นี้เรียกได้ว่ารวมเกมใหญ่ ๆ มาเปิดพร้อมกันเป็นจำมาก มาก มากกกก ไม่ว่าจะเกม Action MMORPG ฟอร์มยักษ์อย่าง Black Desert Mobile, เกม RPG ใหญ่ในอดีตอย่าง The Last Remnant Remastered, เกมที่จะทำให้เราต้องกลัวฝันร้าย และเวลากลางคืน Very Little Nightmares, เกมสไตล์ Ori and the Blind Forest อย่าง Rima: The Story Begins และ Countersnipe เกมยิง Sniper แนว PvP Team เกมที่ 1 : Black Desert Mobile ค่ายเกม : PEARL ABYSS แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] Black Desert Mobile ถือเป็นเกม Action MMORPG ฟอร์มยักษ์ ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเกมออนไลน์บนแพลตฟอร์ม PC อย่าง Black Desert Online ที่โดดเด่นตั้งแต่กราฟฟิก เนื้อเรื่อง ระบบการต่อสู้ ระบบการเล่น ไปจนถึงระบบภารกิจ โดยการที่เราจะได้เข้าไปในโลกของตัวเกม เราจะได้รับประสบการณ์ในการสร้างตัวละครที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาก่อน รวมไปถึงยังสามารถเลือกสายอาชีพที่อยากเล่นได้มากถึง 5 สายอาชีพ (ในอนาคตจะมีอาชีพขั้น 2 และอาชีพหลักอีกหลายสิบอาชีพด้วยกัน) ประกอบไปด้วย Warrior, Witch, Ranger, Giant, และ Valkyrie เกร็ดเสริม : ตัวเกมมีคนมาลงทะเบียนล่วงหน้ารอเล่นกว่า 4.5 ล้านคน โดยการเปิดให้บริการครั้งนี้ มีฟังก์ชั่นที่ให้เราเลือกภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์ ตัวเกมเต็มไปด้วยระบบ PVP, Multiplayer และ Co-op Raid Boss ทั้งยังมีระบบใช้ชีวิต อย่างตั้งแคมป์ ตกปลา ทำฟาร์ม ให้เล่นเวลาเบื่อ ๆ ด้วย https://youtu.be/7rrIBXJWOuQ เกมที่ 2 : THE LAST REMNANT Remastered ค่ายเกม : SQUARE ENIX Co.,Ltd. แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] The Last Remnant Remastered เป็นเกม RPG ฟอร์มยักษ์อีกหนึ่งเกม ที่ในอดีตมันเคยผงาดมาแล้วทั้งบนแพลตฟอร์ม PC, PS4 หรือ Xbox 360 รวมไปถึงล่าสุดกับแพลตฟอร์ม Nintendo Switch ซึ่งแน่นอนว่าการมาถึงแพลตฟอร์ม iOS และ Android จึงค่อนข้างเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ตัวเกมจะเล่าถึงวัตถุทรงประสิทธิภาพที่ชื่อว่า Remnants เรื่องราวจะดำเนินเรื่องผ่านตัวละครอย่าง Rush Sykes เด็กหนุ่มวัยรุ่น ที่ต้องกระโจนเข้าสู่สงครามอย่างช่วยไม่ได้ เกร็ดเสริม : ตัวเกมราคา 699 บาทนะครับ และต้องการพื้นที่ 6 - 9GB ในเครื่อง ตัวเกมเป็นเกม RPG ที่เราจะได้ควบคุมกลุ่มตัวละครมากมาย นั่นทำให้ตัวเกมค่อนข้างเป็นอะไรที่ซีเรียสเกี่ยวกับตำแหน่งการยืนในสนามรบป็นอย่างมาก นอกจากนี้ตัวเกมยังมีระบบขวัญกำลังใจ ที่ถ้าขวัญกำลังใจเราดี ทีมตัวละครของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมด้วย https://youtu.be/aCo-h0nyPV8 เกมที่ 3 : Very Little Nightmares ค่ายเกม : BANDAI NAMCO Entertainment Europe แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] Very Little Nightmares นั้นคล้าย ๆ กับ Little Nightmares แต่ก็ต่างกันแบบชัดเจน เพราะตัวเกมเป็นเกมแนวพัชเซิล มากกว่าจะเป็นเกมแนวแพลตฟอร์มเมอร์ตามรูปลักษณ์หน้าตาของมัน ตัวเกมจะให้เราได้รับบทเป็นหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ในปราสาทฝันร้ายที่ชื่อว่า The Nest ซึ่งเต็มไปด้วยกับดัก และสัตว์ร้ายมากมาย เกร็ดเสริม : ตัวเกมมีราคาอยู่ที่ 240 บาท https://youtu.be/M9UyaeNsX-o เกมที่ 4 : Rima: The Story Begins ค่ายเกม : BANDAI NAMCO Entertainment Europe แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] หากใครที่ชอบเล่นเกมแนวแพลตฟอร์มเมอร์ หรือเคยสัมผัสกับความยอดเยี่ยมของเกม Ori and the Blind Forest มาแล้ว Rima: The Story Begins คือเกมทีจะทำให้คุณ ประทับใจไม่ต่างกัน โดยก่อนหน้านี้ตัวเกมได้ลงบน Android ไปแล้ว และล่าสุดตอนนี้เหล่าผู้ใช้ iOS ก็ถึงเวลาที่จะได้สัมผัสมันต่อแล้ว Rima: The Story Begins มีสไตล์กราฟฟิก และตัวเกมเพลย์ที่คล้าย ๆ กับเกม Ori and the Blind Forest เป็นอย่างมาก มากจนอาจนึกว่าก๊อปปี้กันได้เลย เกร็ดเสริม : Rima: The Story Begins เป็นเกมแพลตฟอร์มเมอร์ เราจะได้ออกสำรวจป่าอันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีเส้นทางลับ และไอเทมซ่อนอยู่มากมาย ยิ่งเราดำเนินตัวเกมไปถึงช่วงหลัง เราก็จะยิ่งได้ปลดล็อคความสามารถของเรามากขึ้นตามไปด้วย https://youtu.be/UcZdiphf8UY เกมที่ 5 : Countersnipe ค่ายเกม : ninja kiwi แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] Countersnipe เป็นเกมแนว Multiplayer Sniping ที่เราจะได้รับบทเป็นสไนเปอร์ไล่ล่าเป้าหมาย แต่เป้าหมายของเราจะเป็นผู้เล่นด้วยเช่นกัน โดยตัวเกมจะมีโหมดให้สู้กับผู้เล่นด้วยกันเองแบบ 4v4 เราจะได้จุดเกิดที่แตกต่างกันไป ซึ่งจะมีกว่า 100 จุด วิธีการเล่นก็ไม่มีอะไรมาก หาฝ่ายตรงข้ามให้เจอ แล้วทำการจัดการสังหารซะ อย่างไรก็ตาม ในฉากมีวัตถุหลอก ที่เราสามารถทำลาย และหลอกอีกฝ่ายได้เหมือนกัน เกร็ดเสริม : ในเกมมีปืนสไนเปอร์ให้เราเลือกใช้กว่า 25 แบบ โดยมีพลังแตกต่างกัน 5 ระดับ ปืนทั้งหมดสามารถอัwเกรดได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสไตล์การเล่นของเรา https://youtu.be/0L8Ozr6yQPQ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นหนึ่งในเกมที่มีคนรอให้มีข่าวขวามเคลื่อนไหวอยู่กับ Final Fantasy 8 Remastered โดยล่าสุดทาง Square Enix ก็ได้ประกาศวันวางจำหน่ายของภาคนี้ออกมาแล้วนั้นคือวันที่ 3 กันยายน 2562 บนเครื่อง Xbox , Ps4 , PC และ Nintendo Switch ในราคา 19.99 ดอลล่า https://www.youtube.com/watch?v=V_XUmO3IWJE Final Fantasy 8 คือหนึ่งในภาคที่มีคนชอบมากที่สุดในซีรีส์ของ Final Fantasy และในเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้มีการ Remodel ของตัวละครและมอนสเตอร์ให้มีความคมและละเอียดยิ่งขึ้นพร้อมระบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Battle Assist ที่จะทำให้เราได้รับประสบการณ์ในการเล่นที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย Credit : Gemingbolt(  https://gamingbolt.com/final-fantasy-8-remastered-releases-on-september-3rd-new-gameplay-revealed ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/

วันนี้ในงาน Tokyo Game Show 2018 ทางค่าย Square Enix ได้ทำการไลฟ์สตรีมวีดีโอเกมเพลย์ตัวแรกสำหรับเกม The Last Remnant: Remastered เกมเก่าของค่ายที่เคยปล่อยออกมาครั้งแรกในปี 2008 ที่กำลังจะกลับมาอีกครั้งเร็วๆ นี้ https://www.youtube.com/watch?v=XHNXLbC0mks ในด้านของกราฟิคถือว่าพัฒนาขึ้นจากของเก่าอย่างมหาศาลจากการที่ค่ายเปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine 4 ในการสร้างเกม นอกจากนี้ เกมเวอร์ชั่น Remastered นี้จะมาพร้อมกับระบบการเล่นใหม่ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้าไปในภาค PC ของเกม และมีระบบการเคลื่อนที่ที่เร็วขึ้นอีกด้วย แม้ว่าเกมภาคดั้งเดิมจะได้รับคะแนนรีวิวเพียงปานกลางในตอนที่วางจำหน่ายครั้งแรก แต่เกม The Last Remnant ก็ยังถือเป็นเกม JRPG ที่มีระบบการเล่นอันเป็นเอกลักษณ์ แถมยังเล่นได้นานมากๆ เพราะมีตัวละครให้เก็บสะสมนับร้อยตัวเลยทีเดียว The Last Remnant: Remastered จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 ธันวาคมนี้สำหรับ PS4 (ขอบคุณวีดีโอเกมเพลย์จาก Gematsu)

เมื่อเร็วๆ นี้ทางค่ายเหลี่ยม Square Enix ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่สำหรับเกม The Last Remnant: Remastered ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของกราฟิคในเกมเวอร์ชั่นดั้งเดิม (Xbox 360) และเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ (PS4) ที่กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 6 ธันวาคมนี้พร้อมกันทั่วโลกสำหรับ PS4 โดยเฉพาะ https://www.youtube.com/watch?v=qCx9QY0oFuk จากที่เห็นในเทรลเลอร์ เกมเวอร์ชั่น PS4 มีความคมชัดมากกว่ากันอย่างชัดเจน แถมยังมีการปรับปรุงคุณภาพของรายละเอียดและแสงสีอีกด้วยจากการที่เปลี่ยนมาใช้ Unreal Engine 4 แทน แม้ว่าเกมจะยังมีเค้าของความเก่าตามอายุอยู่บ้างก็ตาม The Last Remnant: Remastered จะวางจำหน่ายสำหรับ PS4 ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้

กลายเป็นข่าวขึ้นมาอีกครั้งกับเกม The Last Remnant ของค่ายเหลี่ยม Square Enix หลังจากที่เกมโดนถอดจากร้านค้าออนไลน์อย่าง Steam ไปอย่างเงียบๆ สรุปแล้วดูเหมือนว่าเหตุผลที่ Square Enix ดึงเกมลงก็เพราะว่าตั้งใจจะปล่อยเกมในเวอร์ชั่น Remastered นั่นเอง! โดยค่ายได้เปิดตัวเทรลเลอร์ใหม่จากเกมเป็นครั้งแรกในเวทีแถลงข่าว Pre-Tokyo Game Show 2018 ของ Playstation เมื่อเร็วๆ นี้ https://www.youtube.com/watch?v=7k3o-ydsF74 เกม The Last Remnant วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2008 สำหรับ Xbox 360 (PC มาปี 2009) โดยเกมได้คะแนนรีวิวในระดับกลางๆ (ประมาณ 7/10) ด้วยระบบการเล่นที่เข้าใจยากสำหรับหลายๆ คน แต่ก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนเกมอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเกมจะวางจำหน่ายในญี่ปุ่นสำหรับ PS4 ในช่วงปลายปีนี้ (6 ธันวาคม) และจะมีภาคภาษาอังกฤษตามมาในปี 2019 (ขอบคุณข้อมูลจาก GameRant)

วันนี้ทางไลฟ์สตรีมเปิดตัวเกมที่จะนำมาโชว์ในงาน Tokyo Game Show 2018 ของโซนี่ ค่ายพัฒนาหน้าเหลี่ยม Square Enix ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่เพื่อเปิดตัวการกลับมาของเกมสุดคลาสสิค Final Fantasy: Crystal Chronicles ฉบับ Remastered ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2019 สำหรับ PS4, Nintendo Switch https://www.youtube.com/watch?v=uoa97CdeG_w สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ Final Fantasy: Crystal Chronicles วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2004 สำหรับเครื่อง GameCube เป็นเกมสปินออฟที่เปลี่ยนเกมเพลย์แบบ RPG Turn-based ธรรมดาของซีรี่ย์ในยุคนั้นให้กลายเป็นเกมแอคชั่น RPG ที่สนับสนุนผู้เล่นถึง 4 คนพร้อมๆ กัน สำหรับเวอร์ชั่นใหม่นี้ นอกจากจะมีกราฟิคที่ปรับปรุงใหม่แล้ว ยังจะสนับสนุนโหมดออนไลน์ให้เราสามารถหาตี้จากทั่วโลกได้ด้วย Final Fantasy: Crystal Chronicles Remastered จะวางจำหน่ายในปี 2019 สำหรับ PS4, Nintendo Switch

หลังจากที่โดนโรคเลื่อนและเงียบหายกันไปให้ลุ้น ล่าสุด Bandai Namco และ From Software ได้ประกาศวันวางจำหน่ายเกม Dark Souls: Remastered และหุ่น Amiibo Solaire of Astora แล้ว คือวันที่ 19 ตุลาคมนี้! Praise The Sun! DARK SOULS: Remastered for #NintendoSwitch and the Solaire of Astora amiibo will launch on Oct. 19th! Journey to Lordran and experience the groundbreaking action-RPG on the go! An online Network Test will be scheduled prior to release. Stay tuned for more info. pic.twitter.com/WE1xNmLi0j — Bandai Namco US (@BandaiNamcoUS) August 14, 2018 สำหรับเกม Dark Souls: Remastered เคยวางจำหน่ายในคอนโซล PS4, Xbox One, PC ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในตอนแรกจะวางจำหน่ายเกมสำหรับเครื่อง Switch พร้อมๆ กัน ก่อนที่ Bandai Namco จะออกมาประกาศว่าเกมจะเลื่อนไปออกช่วงปลายปีแทนเพื่อให้ทีมพัฒนาได้มีโอกาสปรับแต่งเกมให้เหมาะสมกับ Switch ให้มากที่สุด นอกจากนี้ ผู้พัฒนายังประกาศด้วยว่าเกมจะทำการเปิดทดสอบระบบออนไลน์ก่อนวันวางจำหน่ายด้วย แต่ไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด

คงต้องฟังหูไว้หูกันให้หนักๆ เลยกับข่าวนี้ เมื่อเกมเมอร์จากเว็บบอร์ด Resetera ขาประจำได้โพสต์รายงานถึง Amazon Italy ที่ล่าสุดได้เพิ่มหน้าสินค้าสำหรับเกมมากมาย ตั้งแต่ Bloodborne 2, Sunset Overdrive 2 และSpinter Cell ภาคใหม่ แถมยังเฉลยวันวางจำหน่ายเกม Dreams และ Dark Souls Remastered สำหรับ Switch อีกด้วย   สำหรับเกม Bloodborne 2 และ Sunset Overdrive 2 นั้นเรียกว่าเชื่อยากทั้งสองเกม เพราะทาง From Software ผู้พัฒนา Bloodborne ก็มีงานเต็มมือทั้ง Sekiro: Shadows Die Twice และเกม PSVR Deracine ส่วนผู้พัฒนาเกม Sunset Overdrive อย่าง Insomniac ก็เคยประกาศชัดเจนว่าไม่มีแผนจะสร้างภาคต่อ (เกมภาคแรกเวอร์ชั่น PC ที่รับปากมานานยังไม่ออกด้วยซ้ำ)   ส่วน Splinter Cell นั้นมีข่าวแว่วๆ มาว่าจะเปิดตัวในงาน E3 หลังจากที่ Ubisoft ได้ปล่อย DLC ที่พาพระเอก Sam Fisher ไปเป็นแขกรับเชิญในเกม Ghost Recon: Wildlands แม้ว่าสุดท้ายเกมจะไม่ได้เปิดตัวในงานอย่างที่คาดกัน แต่ในปีนี้ก็ยังมีงานเกมใหญ่ๆ อย่าง Gamescom อยู่ซึ่งเป็นงานใหญ่สำหรับค่ายฟังยุโรป จึงเป็นไปได้ว่า Ubisoft อาจจะกั๊กเกมไว้เปิดตัวในงานนั้น (เดือนสิงหาคม) ก็ได้   สำหรับเกม Dreams เกม Playstation Exclusive จากผู้สร้างเกม Little Big Planet นั้นเคยเปิดตัวกันไปแล้ว แต่ไม่เคยประกาศวันวางจำหน่ายมาก่อน ในเว็บ Amazon Italy บอกว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2019 ซึ่งจะชนกับเกมเรือธงของโซนี่อย่าง Days Gone และเกมฟอร์มยักษ์อย่าง Anthem และ Metro: Exodus จึงดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ (แถมผู้พัฒนาเคยรับปากว่าจะวางจำหน่ายปีนี้)   เกม Dark Souls Remastered ดูจะเป็นเกมเดียวที่อาจจะมีความเป็นไปได้ โดยใน Amazon Italy ลงวันวางจำหน่ายไว้เป็นวันที่ 31 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ Nintendo จะวางจำหน่าย Amiibo Solaire of Astora จึงดูจะสมเหตุสมผลที่สุดในเกมที่หลุดออกมา

น่าจะมีเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่ตื่นเต้นกับเกม Dark Souls: Remastered ที่เพิ่งจะปล่อยออกมาให้เล่นกันเมื่อวันศุกที่ผ่านมา ล่าสุด Youtuber ชาวฝรั่งนามว่า Forty Battletoad ได้อัพโหลดวีดีโอบอสลับจากเกมภาคใหม่ บอกได้เลยว่าโหดแน่นอน! ดูแล้วน่าจะเอาลงยาก เล่นโจมตีรอบตัวแบบไม่เหลือช่องว่างให้เข้าไปตีเลย XD เพื่อนๆ คนไหนมีบอสตัวโปรดกับเขาบ้างไหมเอ่ย คอมเมนต์เข้ามาบอกกันบ้างนะจ๊ะ!

สำหรับเกมเมอร์สายโหดทั้งหลายที่รอจะสัมผัสเกมสุดฮิดอย่าง Dark Souls ในเวอร์ชันปรับปรุงใหม่อีกครั้ง สามารถเข้าไปโหลดเกมมาเล่นผ่าน Steam ได้เร็วขึ้นหนึ่งวัน จากกำหนดการเดิมที่จะวางจำหน่ายพรุ่งนี้! โดยนอกจากกราฟิกแล้ว ในเวอร์ชันใหม่นี้ยังปรับปรุงการทำงานของเกมให้เป็น Full-HD 1080p (และซัพพอร์ต 4K) 60FPS อีกด้วย (ภาค Switch สุดแค่ 30FPS) และแก้บั๊กหลายๆ จุดทำให้เกมเป็นเวอร์ชันที่สมบูรณ์ที่สุด นอกจากนี้ เวอร์ชันใหม่ยังปรับปรุงระบบอื่นๆ ในเกมขึ้นเล็กน้อย เช่นทำให้สามารถรองรับผู้เล่นในโหมดออนไลน์ได้ 6 คนจากเดิมได้ 4 คน เป็นต้น สำหรับผู้ที่เคยซื้อเกมเวอร์ชัน Dark Souls: Prepare to Die Edition มาก่อนแล้ว สามารถซื้อเกมเวอร์ชันใหม่นี้ได้ในราคา 50%! เพื่อนๆ ที่เคยเล่นแล้วคิดถึงบอสตัวไหนใน Dark Soul มากที่สุด คอมเมนต์เข้ามาคุยกันนะ!

โซนี่ญี่ปุ่นประกาศแผนการ remaster เกมซีรี่ย์ดังอย่าง Yakuza ภาค 3, 4, 5 ตามรายงานจากนิตยสาร Dengeki Playstation โดยจะปล่อยภาคแรกในญี่ปุ่นเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ เกมภาค 4 และ 5 จะตามมาภายในปลายปี 2018 และกลางปี 2019 ตามลำดับ โดยในภาค remaster นี้จะทำการปรับปรุงกราฟฟิคและเฟรมเรตของเกม เพื่อพัฒนาทั้งความละเอียดและความลื่นไหลของภาพในเกมนั่นเอง (ยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายภาคภาษาอังกฤษ) เพื่อนๆ คนไหนเป็นแฟนนักเลงฝั่งตะวันออกอย่างซีรี่ย์ Yakuza บ้าง คอมเม้นเข้ามาคุยกันได้นะ! อ้างอิง - Yakuza 3, 4, and 5 remasters announced for PS4 จากเว็บ Gematsu