GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "XCOM"
เปิดตัว Marvel's Midnight Suns ในฐานะเกม Tactical สวมบทบาทอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยระบบเกมเพลย์ เตรียมวางจำหน่ายต้นปีหน้า!
หลังจากที่ปล่อยวิดีโอตัวอย่างสั้นๆ มาให้แฟน Marvel ได้ตื่นเต้นกันไปแล้วในช่วงงาน Opening Night Live: Gamecom 2021 ที่ผ่านมา ในวันนี้  Marvel’s Midnight Suns ก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในฐานะเกมแนว Tactical สวมบทบาท จากฝีไม้ลายมือการพัฒนาของ Firaxis Games พร้อมวิดีโอตัวอย่างใหม่ที่เผยให้เราเห็น Cinematics และเกมเพลย์บางส่วนที่มีทั้งการสนทนากับตัวละครอื่น รวมไปถึงระบบเกมเพลย์ของเกมอีกด้วยโดยฮีโร่ทั้ง 12 คนภายในเกม จะมีความสามารถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน แต่พวกเขาจะไม่สามารถใช้สกิลเหล่านั้นในการต่อสู้ได้ทันที เพราะพวกมันจะถูกบรรจุลงในการ์ดที่จะถูกสุ่มขึ้นมาในการต่อสู้แต่ละครั้ง ซึ่งการ์ดเหล่านั้นก็จะสามารถทำการอัปเกรดได้เมื่อกลับไปที่ฐานแล้วซึ่งการ์ดแต่ละใบก็ดูเหมือนจะมีความสามารถที่น่าสนใจไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น การใช้สกิลผลักศัตรูให้กระเด็นถอยหลังไปกระแทกผนัง หรือชนถังระเบิด ในขณะที่การ์ดบางใบก็มีความสามารถ ในการทำให้ผู้ใช้หรือตัวศัตรูติดค่าสถานะต่างๆ ได้ นอกจากนั้นตัวเกมก็ยังมีระบบการต่อสู้แบบ Team-up อีกด้วย!ส่วนในระหว่างที่ไม่ได้อยู่ในโหมดการต่อสู้ ผู้เล่นก็จะสามารถเลือกผูกมิตรและสานความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ภายในเกมได้ และนอกจากฐานของเราจะใช้เป็นสร้านที่พบปะสังสรรค์แล้ว เราก็ยังสามารถค้นหาสิ่งใหม่ๆ ได้ เช่น Words of Power ที่เป็นการปลดล็อกพื้นที่ใหม่ๆ ไปจนถึงภารกิจประจำวันที่พร้อมจะนำเสนอ เกมการเล่นสุดเป็นเอกลักษณ์ อย่างการเดินเล่นทอดน่องไปกับ Tony Stark หรือนั่งสมาธิฝึกจิตใจกับ Magik โดยเหล่าฮีโร่ก็จะมีบุคลิกและความชื่นชอบเป็นของตัวเอง ทำให้ในการผูกมิตรกับแต่ละคนจำเป็นจะต้องใช้วิธีที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดีการที่เรามีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา ก็จะส่งผลดีไปจนถึงระบบการต่อสู้ด้วยนั่นเองค่ะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม XCOM ที่น่าสนใจมากเกมหนึ่งสำหรับทั้งแฟนของ 2K และ Marvel อย่างไรก็ดี Marvel’s Midnight Suns จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2022 สำหรับ Xbox Series X/S, Xbox One, PS4, PS5, PC และ Nintendo Switch ค่ะCredit: GamingBolt
02 Sep 2021
เปิดตัว Marvel's Midnight Suns เกมซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลจากผู้สร้าง XCOM!
นักพัฒนากลยุทธ์ของทีมพัฒนาเกมอย่าง Firaxis Games ได้ประกาศภายในงาน Opening Night Live: Gamecom 2021 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ ถึงการมาถึงของ Marvel's Midnight Suns ที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมปี 2022 ที่เรียกได้ว่ามันจะเป็นเกม XCOM ที่อัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นอย่างเหนือชั้น!โดยผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟของเกมอย่าง Jake Solomon ก็ได้กล่าวว่าฮีโร่ภายใน Marvel's Midnight Suns นั้นจะสามารถปรับแต่งได้จริง และจะเป็นการมอบประสบการณ์อันแปลกใหม่จากเกม XCOM ทั่วไปที่ผู้เล่นได้เคยสัมผัสผ่านมา โดยตัวเกมจะมีทั้งฮีโร่คารมดี มาดเพลย์บอยขวัญใจแฟนๆ อย่าง Iron Man ไปจนถึงสาวแกร่งประจำจักรวาลอย่าง Captain Marvel ร่วมกันต่อสู้กับศัตรูและมีเป้าหมายในการกำจัดพวกมันให้ได้มากที่สุด นอกจากนั้นแล้วตัวเกมก็ยังคงรักษาฟีเจอร์ที่แฟนๆ คุ้นเคยอย่างสิ่งแวดล้อมที่สามารถทำลายได้เอาไว้ ในขณะที่ลบระบบ Permadeath หรือการตายถาวรออกไป รวมถึงการปรับระบบเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมด!Solomon กล่าวว่า “ไอเดียในการสร้างเกมนี้ คือการทำให้เกมเพลย์เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ในขณะที่ตัวแทนของทาง 2K ได้อธิบายถึง Marvel's Midnight Suns ว่ามันจะเป็นเกมที่เน้นให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์สำหรับ Single player โดยตัวเกมจะให้คุณได้รับบทเป็น The Hunter ตัวละครที่เราจะสามารถปรับแต่งเองได้ และเป็นลูกของ Lilith ตัวร้ายของเรื่อง ผู้จะสามารถใช้พลังแห่งแสงหรือความมืดก็ได้ โดยพลังแห่งความมืดก็จะมีพลานุภาพมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีค่าตอบแทนที่ต้องแลกเปลี่ยน นอกจากนั้นบรรดาฮีโร่ที่เราจะได้พบก็มีอีกถึง 12 คน ได้แก่ Ghost Rider, Dr. Strange, Iron Man, Wolverine, Captain America, Magik, Nico, Captain Marvel และ Blade“มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยได้รับการเล่ามาก่อน และมันได้มอบวายร้ายคนใหม่รวมถึงคาร์แรคเตอร์ใหม่ๆ ให้ได้นำออกมาพูดถึง พวกคาร์แรกเตอร์ที่มีพลังเหนือธรรมชาติซึ่งผู้เล่นน่าจะไม่คุ้นเคยมาก่อน ไปจนถึงตัวละครยอดนิยมที่จะนำเราดำดิ่งไปสู่ด้านมืดของจักรวาล Marvel ได้” Solomon กล่าวนอกจากนั้นอีกสิ่งที่น่าสนใจเลยก็คือการที่เราจะได้เห็นตัวละครจาก X-men อย่าง Wolverine และ Magik เข้ามาร่วมแจมภายในเกมด้วย แม้ในตอนนี้รายละเอียดส่วนใหญ่จะยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา แต่จากวิดีโอตัวอย่างที่ทางสตูดิโอปล่อยออกมา ก็พอจะทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นกับการรอคอยขึ้นมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยอย่างไรก็ดี Firaxis วางแผนที่จะเปิดเผยเกมเพลย์ของ Marvel's Midnight Suns อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 กันยายน และตัวเกมก็กำลังพัฒนาลงให้สำหรับทุกๆ แพล็ตฟอร์มรวมถึง PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S, Nintendo Switch, PC และบน Epic Games Store โดยมีกำหนดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ปี 2022 ค่ะCredit: IGN
26 Aug 2021
XCOM เกมใหม่ลงสมาร์ทโฟนเป็น Free-to-Play
Iridium Starfish ได้มีการปล่อยเกม XCOM ภาค Spin-Off ลงบน Google Play โดยจะมีชื่อว่า XCOM: Legends ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาและจะเปิดให้บริการในบางประเทศเท่านั้น พร้อมกับปล่อยวิดีโอตัวอย่างพร้อมเกมเพลย์ตัวเกม XCOM: Legends จะมีการเล่นเป็นแนวตั้งพร้อมกับระบบ Turn-based ที่เราจะต้องพาตัวละคร 5 ตัวไปสู้กับศัตรูอีก 5 ตัวเกมจะอยู่ในไทม์ไลน์เดียวกับ XCOM 2 และจะมีตัวละครที่หลายๆ คนคุ้นเคยโผล่มาให้เห็นบ้าง ในเกมจะมีเครื่องมือจากต่างดาวชื่อว่า Archway หรือก็คืออุปกรณ์ในการอัญเชิญตัวละครและของต่างๆ นั่นเอง XCOM: Legends จะเป็นเกมกาชาที่นำตัวละครเด่นๆ จากเกมภาคหลักเข้ามาร่วมสู้กับเราในตอนที่คุณไม่เล่นก็จะมีระบบ "Integrated Drone Looting Experience" หรือ IDLE ที่จะทำการหาทรัพยากรให้กับเราอัตโนมัติ แค่อ่านก็เห็นแล้วว่านี่เป็นเกมที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นระบบหรือรูปแบบเกม เราก็ได้แต่หวังว่าเกมนี้จะไม่ทำให้แฟนๆ เกม XCOM ผิดหวังCredit: PC Gamer
19 Jul 2021
รีวิว XCOM : Chimera Squad ย่นขนาด ย่อส่วนความสนุก
หมายเหตุ : งานเขียนรีวิวชิ้นนี้ เขียนขึ้นหลังจากใช้เวลาเล่น XCOM: Chimera Squad เป็นเวลา 20 ชั่วโมงที่ระดับความยาก Normal ซึ่งประสบการณ์การเล่น อาจจะแตกต่างออกไปในความยากระดับอื่นๆ หมายเหตุ 2 : ในขณะที่ผู้เขียนลงบทความชิ้นนี้ มีอีกหนึ่งชิ้นงาน Turn-Based Strategy อย่าง Gears Tactics ที่ออกวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ลอง แต่มีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ใครที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ระบบ Steam ในราคา 699 บาท *********************************************************************************************************** ออกตัวกันก่อนว่า สำหรับผู้เขียน ถ้าลงว่าเป็นเกมแนว Turn-Based Strategy หรือเกมวางแผนแบบผลัดตากันเดินแล้วนั้น เรียกได้ว่าเป็นของโปรดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับซีรีส์ ‘XCOM’ จากทีม Firaxis ที่ผู้เขียนเล่นมาตั้งแต่ภาคดั้งเดิมปี 1994 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผูกใจเล่นเป็นเวลานับร้อยชั่วโมง และนำกลับมาเล่นซ้ำได้อย่างไม่รู้เบื่อ (เฉพาะแค่ภาคสองกับส่วนเสริม War of the Chosen ก็สะสมเวลาเล่นไปแล้วถึงระดับ 200 ชั่วโมงกว่าๆ ในการเล่นสี่รอบ พร้อมลง Mod เติมคุณสมบัติต่างๆ ไปอีกมากมาย…) แต่ในขณะที่ผู้สร้างซีรีส์ดั้งเดิมอย่าง Julian Gollop ได้ออกเดินทางในผลงานใหม่อย่าง Phoenix Point เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทีม Firaxis ก็กลับมาพร้อมประกาศการมาของ ‘Chimera Squad’ ที่ไม่มีวี่แววใดๆ และโผล่มาในแบบปุบปับปัจจุบันทันด่วน สร้างความตกตะลึงในระดับเบาะๆ เพราะหลังจากการวางจำหน่ายภาคสองและส่วนเสริมไปเกือบสามปี มันไม่มีสัญญาณถึงภาคต่อที่จะมาถึงเลยแม้แต่น้อย (เรียกว่าประกาศเปิดตัว นับไปอีกหนึ่งอาทิตย์ก็วางจำหน่ายเลย) กล่าวโดยสรุป Chimera Squad นั้นมาด้วยสเกลที่เล็กกว่า XCOM สองภาคที่ผ่านมาค่อนข้างมาก และมาในแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง มันถูกย่อขนาดให้กระชับขึ้น เน้นการบอกเล่าเนื้อหา และใส่ใจกับการเล่นในระดับจุลภาคที่สามารถจบหนึ่ง Session การปะทะได้อย่างรวดเร็ว เป็นงานเกมขนาดย่อมที่สมน้ำสมเนื้อกับสนนราคาค่าตัว ซึ่งทีมสร้างมีความตั้งใจเพื่อใช้สำหรับทดลองแนวทางใหม่ ที่อาจจะถูกนำมาผนวกสำหรับภาคต่อขนาดใหญ่ที่รอคอยอยู่ภายภาคหน้าก็เป็นได้ Chimera Squad เปิดฉากเรื่องราวห้าปีหลังเหตุการณ์จากเกมภาคสอง เมื่อกองทัพต่างดาว Advent ปราชัยให้แก่กองกำลังต่อต้าน XCOM โลกกลับเข้าสู่สันติภาพ ที่ที่มนุษย์ เหล่าลูกผสม และเผ่าพันธุ์ต่างดาว ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในความสัมพันธ์แบบใหม่ โดยเฉพาะกับ City 31 เมืองแห่งความหลากหลายทางสายพันธุ์ แต่แล้วเมื่อการลอบสังหารนายกเทศมนตรีเกิดขึ้น สั่นคลอนความมั่นคงและการดำรงอยู่ของความสัมพันธ์ดังกล่าวจนอาจนำไปสู่ความโกลาหลในบั้นปลาย จึงเป็นหน้าที่ของกองกำลัง Chimera Squad หน่วยลูกผสมพิเศษพิทักษ์เมือง ที่จะต้องรักษาความสงบ และสืบสาวไปให้ถึงต้นตอว่าใครที่กำลังประสงค์ร้ายต่อความมั่นคงและสันติภาพของเมืองในครั้งนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกที่สัมผัสได้จาก Chimera Squad ทีค่อนข้างชัดเจนเป็นอย่างมากคือ ตัวเกมมีสนามการเล่นที่เล็กลงจากเกมสองภาคก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะในขณะที่ XCOM ที่ผ่านมานั้นเน้นสเกลการเล่นแบบใหญ่ วางแผนกันในระดับโลก เกมนี้ถูกย่อส่วนลงมาให้เหลือเพียงแค่ระดับเมือง ที่ถูกแบ่งออกเป็น 9 พื้นที่หลัก ที่จะตามมาด้วยเหตุการณ์ที่เราจะต้องส่งกองกำลังลงสู่พื้นที่เพื่อเคลียร์สถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวประกัน กวาดล้างกองกำลัง ไปจนถึงการค้นหาหลักฐานสำคัญก่อนถอนตัวออกจากพื้นที่ เป็นต้น แน่นอนว่าด้วยขนาดของกองกำลังที่เล็กลง ตัวเกมจึงเน้นเป็นพิเศษในส่วนของการปะทะในแต่ละครั้งที่แบ่งออกเป็น ‘Phase’ ที่จะเริ่มต้นด้วยการเลือกจุดที่จะเข้าปะทะ (Breaching Point) ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงบางจุดที่อาจจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่เป็นเฉพาะ เช่น การทลายกำแพงด้วยระเบิด หรือการแฮ็คประตูด้วยบัตรผ่าน เหล่านี้ สร้างความหลากหลายในมิติของการวางแผนได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะในแต่ละจุด ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป บางจุดสามารถให้โบนัสด้านการโจมตี บางพื้นที่เป็นเส้นทางตรงแต่มีข้อเสียที่ตามมา เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การบุกทะลวงในแต่ละ Phase นั้น เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกจุดหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากรูปแบบของ XCOM ดั้งเดิมที่สังเกตได้ คือรูปแบบการสลับตาเล่นของแต่ละยูนิตในสนามรบ เพราะใช้ระบบแบบ ‘ผลัดกันเดิน (Interleved)’ ที่ตาเดินของผู้เล่น จะผสานเข้ากับตาเดินของศัตรูในพื้นที่ แทนที่จะแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่สลับกัน เหล่านี้ ขยายขอบเขตความเป็นไปได้ในการวางแผนให้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีอีกแล้วกับการเลือกใช้กองกำลังที่ทรงพลังที่สุด เพื่อกวาดล้างทุกสิ่งให้จบสิ้นลงไปในหนึ่งตาเดิน แต่ต้องพิจารณาและเลือกใช้คุณสมบัติของหน่วยรบที่มีอยู่ในมือโดยดูจากลำดับเป็นสำคัญ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกมแนว Turn-Based Strategy ยุคโมเดิร์นในช่วงหลัง ที่ถูกนำมาประยุกต์ได้อย่างเข้ากันดีกับ Chimera Squad ที่ช่วยให้เกมมีความฉับไวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และด้วยรูปแบบของเกมที่เล็กลง ทีมสร้างได้เลือกใช้การกำหนดยูนิตของกองกำลัง Chimera Squad ที่เป็นตัวละครกึ่งสำเร็จรูป ที่มีพื้นหลังเรื่องราว คุณสมบัติ ไปจนถึงทักษะและความสามารถที่แตกต่างกัน ที่ผู้เล่นจะได้เลือก 8 จาก 11 คนที่มีให้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์เอเลียนยอดนักพลังจิตที่สามารถคุมความคิดของยูนิต, หน่วยรบพุ่งทะลวงฟันจอมถึก, สายลับนักเทคโนโลยี ไปจนถึงพลแม่นปืนและเอเลียนสายพันธุ์งูที่สามารถซอกซอนเข้าสู่จุด Breaching Point ในแบบที่ยูนิตอื่นไม่สามารถทำได้ ทั้งหมด ถูกกำหนดเอาไว้อย่างพร้อมสรรพ มีความชัดเจน และให้ผู้เล่นได้เลือกผสมผสานจนเกิดเป็นรูปแบบการเล่นที่เป็นเฉพาะได้ตามที่ใจต้องการ กระนั้นแล้ว ภายใต้ข้อคุณสมบัติที่กล่าวไปในข้างต้น เราอาจจะไม่สามารถละเลยความจริงข้อหนึ่งของ Chimera Squad ว่า นี่เป็นเกมระดับ ‘ทุนต่ำ’ ของ Firaxis ที่สะท้อนออกมาในทุกช่วงของตัวเกม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ Asset เก่าจากเอนจิ้นของเกมภาคสองที่ยังคงมีบั๊กส์ทางเทคนิคประปราย การลดสเกลการเล่นลงให้เหลือเพียงแค่การปะทะอย่างเพียวๆ จำกัดการปรับแต่งคุณสมบัติยูนิตที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างตายตัว ไปจนถึงการปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ทั้งเก้า ที่แทบไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าส่วนเสริมให้รู้สึกถึงภาพกว้างอย่างจำกัด ไม่ได้ส่งผลใดๆ กับการเล่นอย่างมีนัยสำคัญมากนัก (นอกเสียจากการเป็นพื้นที่เพื่อให้ทรัพยากรในการพัฒนากองกำลัง ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น) การกำหนดคุณสมบัติอย่างตายตัวของยูนิตกองกำลัง Chimera Squad ทั้งสิบเอ็ดคนก็ถือได้ว่าเป็นข้อจำกัดที่น่าขัดใจ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น พวกเขาเหล่านี้มาพร้อมกับทักษะและความสามารถอันเป็นเฉพาะ นั่นทำให้การปรับแต่งต่างๆ ที่เคยมีมาในภาคก่อนหน้านั้นถูกลดทอนลงไป อีกทั้งการที่ผู้พัฒนาเลือกที่จะ Focus ในส่วนของเนื้อหาให้ Streamlined เป็นเส้นตรง ก็นำมาซึ่งการถอด ‘Permadeath’ หรือการสูญเสียยูนิตแบบถาวรที่เคยเป็นเสน่ห์หลักของซีรีส์ XCOM ไป (ในเกมนี้ ถ้าคุณสูญเสียยูนิต สิ่งเดียวที่เกมอนุญาตให้ทำคือการเริ่มต้นการปะทะใหม่จนกว่าจะผ่าน….) และนั่น นำมาซึ่งข้อเสียที่ร้ายแรงที่สุดของ Chimera Squad เพราะเมื่อคุณไม่สามารถสูญเสียยูนิตไปอย่างถาวร และการกำหนดยูนิตอย่างตายตัว มันทำให้เกมนั้น ‘ง่าย’ กว่าทุกภาคที่ผ่านๆ มา ไม่มีอีกแล้วกับความตื่นระทึกจากการวางแผน หรือการระแวดระวังไม่ให้ยูนิตที่ปั้นมาอย่างดีต้องล้มตายในสนามรบ เพราะเมื่อไม่มีระบบ Permadeath ยูนิตของคุณมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นตามจำนวนภารกิจที่ผ่านไป และทุกการอัพเกรดที่เพิ่มเข้ามา และนั่น ทำให้ตัวเกมเลือกที่จะใช้เทคนิคโยนศัตรูจำนวนมหาศาลในหนึ่งการปะทะ แทนที่จะสร้างความหลากหลายให้เกิดขึ้น จนท้ายที่สุดแล้ว กลยุทธ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือ บุกทะลวง แล้วทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในห้อง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้การเล่นช่วงท้ายแผ่วปลายลงไปอย่างน่าใจหาย ไม่นับรวมสเกลความยากในช่วงท้ายที่ถูกถีบขึ้นอย่างน่างุนงง (แม้จะไม่ได้มากจนถึงขั้นเล่นต่อไม่ได้ แต่ออกจะน่ารำคาญใจเสียมากกว่า…) นอกเหนือจากนั้นแล้ว การบ่งบอกข้อมูลและรายละเอียดที่สำคัญผ่านหน้าจอของผู้เล่นหรือ User Interface ก็ยังคงมีส่วนขาดตกบกพร่องและไม่ได้บอกในสิ่งที่ผู้เล่นควรทราบเอาไว้อย่างชัดเจนและเพียงพอ (จนถึงในขณะที่เขียน ทักษะบางอย่างของบางยูนิตก็ยังคงเป็นที่ต้องสงสัยแม้จะเล่นจบไปแล้วก็ตาม) และแน่นอน เมื่อเป็นซีรีส์ XCOM โอกาสที่คุณจะได้เห็นการจ่อยิงแต่พลาดแม้เปอร์เซ็นต์การเข้าเป้าสูง (ที่ถูกเอาไปยำทำ Meme ให้ตลกขำขื่นกันมานักต่อนัก…) ก็จะยังกลับมาหลอกหลอนได้อย่างครบถ้วนไม่ขาดตกอีกเช่นเคย แต่ทั้งนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงโปรเจ็กต์ Spin-Off ต้นทุนต่ำที่ถูกย่นขนาดและย่อส่วนความสนุกลงไป แต่ Chimera Squad ก็อาจจะเป็นการตอบโจทย์ที่สำคัญของทีมสร้างและทิศทางของซีรีส์ XCOM ที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต ว่าเกมแนว Turn-Based Strategy นั้น มีคุณสมบัติที่จะ ‘เร็วขึ้น’ ได้มากน้อยเพียงใด และสามารถใส่และสร้างจุดร่วมทางเนื้อหาได้มากน้อยแค่ไหน ดังที่ผู้สร้างได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ช่วงต้นว่า นี่เป็นงานที่ทำขึ้นเพื่อทดสอบคุณสมบัติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเกมภาคถัดไป (ที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจ ว่ามันจะมีต่อแน่ๆ แต่เมื่อใดนั้น ก็ยากที่จะบอกได้) เพราะโลกแห่งแวดวงวิดีโอเกมนั้นเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง และซีรีส์ XCOM ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งหมุดหมายสำคัญของเกมแนว Turn-Based Strategy ของยุคโมเดิร์น ที่มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และการมาถึงของ Chimera Squad ที่แม้จะขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่มันก็ยังทำให้เราได้รู้สึกมั่นใจ ว่าผู้สร้างนั้นไม่ได้ละทิ้ง หรือยึดติดกับความสำเร็จแบบเดิมๆ ที่เคยเป็นมา หากแต่หาหนทางใหม่เพื่อขยายขอบเขตความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุด เพื่อผลงานที่จะตามมาในภายภาคหน้า ที่จะดีขึ้น มากขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้น และผลสำเร็จของเกมนี้ ก็ตอกย้ำว่า สิ่งที่ดีๆ ดังที่ว่า จะเกิดขึ้นตามมา และชื่อของ XCOM ก็จะยังคงอยู่ต่อไป ไม่ล้มหายตายไปจากสารบบในเวลาที่กำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน [penci_review id="52466"]
30 Apr 2020
รวมข้อมูลเกี่ยวกับเกม XCOM: Chimera Squad
XCOM ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่อยู่คู่กับเหล่าเกมเมอร์มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 1984 มาจนถึงปัจจุบัน ตัวเกมมีจุดเด่นในเรื่องของการเล่นแบบ Turn Base ในการต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนผสมกับระบบการตายแบบ Perma Death ที่หากตัวละครของเราตายจะไม่สามารถเล่นตัวละครนั้นอีกเลย ทำให้เกมนี้มีความท้าทายมาก ๆ ยิ่งระดับความยากสูงยิ่งท้าทาย XCOM: Chimera Squad เป็นเกมล่าสุดของซีรีส์ที่กำลังจะเปิดให้เล่นในวันที่ 24 เมษายน 2020 นี้ ตัวเกมได้มีการพัฒนารูปแบบต่าง ๆ และระบบการเล่นให้น่าสนใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่ยังตัดสินใจว่าจะซื้อเกมนี้ดีหรือไม่ พวกเรา GameFever TH มีรายละเอียดมาแนะนำเสนอให้เกมเมอร์ทุกท่านได้นำไปพิจารณา Trailer เปิดตัวเกม XCOM: Chimera Squad เปิดตัวด้วยตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นถึงโทนของเกมที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก แสงสี เสียง รวมถึงการที่จะต้องร่วมมือกับมนุษย์ต่างดาวในการต่อสู้กับศัตรู พร้อมกับ Sound Track เจ๋ง ๆ ที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังหามาฟังอยู่ก็เป็นได้ เนื้อเรื่อง ตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวหลังจากเกม XCOM 2 เป็นเวลา 5 ปี โดยมนุษย์สามารถที่จะเอาชนะสงครามและ Overlord ได้หนีกลับไปทิ้งทหารของพวกเขาไว้ทำให้มนุษย์โลกและเหล่าเอเลี่ยนผู้รุกรานต่างเลือกที่จะอยู่ร่วมกันและสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่ เนื้อเรื่องของเกมจะเน้นไปยังหน่วย Chimera Squad หน่วยรบพิเศษของเมือง City 31 ที่แม้ว่ามนุษย์โลกและเหล่าเอเลี่ยนจะอยู่ร่วมกันได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ทำให้เราจะต้องนำเหล่า Agent ประจำหน่วยเข้าต่อกรกับองค์กรใต้ดินเหล่านี้ Gameplay ทุกตัวละครมีความสามารถต่างกัน XCOM: Chimera Squad นำเสนอระบบใหม่คือความแตกต่างระหว่าง Agent ที่เป็นมนุษย์โลกและเหล่าเอเลี่ยน ที่จะมีนิสัยรวมถึงความสามารถที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีระบบของ Specialized และ Complementary Classes ระบบที่จะทำให้เราสามารถจัดความสามารถของสมาชิกในทีมให้สอดคล้องกันได้ ยิ่งเราผสานทักษะต่าง ๆ ของสมาชิกในทีมได้ดี ทีมของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ระบบเทิร์นแบบใหม่ เรียกได้ว่าลดความ Hardcore ของระบบเทิร์นแบบเก่าให้เข้าใจง่ายกับรูปแบบ Interleaved Turns ที่เปลี่ยนการนับเทิร์นแบบฝ่ายเป็นการนับเทิร์นทีละตัวละครแทน ทำให้เราสามารถที่จะวางแผนการได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างการเล่นเราสามารถที่จะใช้ความสามารถ Team UP ในการทำให้ตัวละครหนึ่งได้รับ Order สูงสุดเป็นต้น Breach Mode Breach Mode จะเป็นโหมดใหม่ที่ให้เราสามารถวางกลยุทธ์ตั้งแต่เริ่มเกม โดยเราสามารถที่จะนำเอาตัวละครของเราไปวางไว้ในจุดต่าง ๆ ซึ่งจะให้ความสามารถพิเศษต่างกัน รวมถึงสามารถกำหนดเทิร์นของตัวละครเราได้ว่าจะให้ทำอะไรก่อนหลังได้อีกด้วย ความท้าทายนอกสมรภูมิ XCOM: Chimera Squad ไม่ได้เน้นเฉพาะการต่อสู้เท่านั้น แต่การบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกภารกิจที่เราจะต้องจัดลำดับความสำคัญเอง ว่าภารกิจไหนควรที่จะทำก่อน ภารกิจไหนควรที่จะทำทีหลัง  นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องของการวิจัยอาวุธด้วย เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายนอกสมiภูมิดี ๆ นี่เอง สเปกเครื่อง สำหรับเกมนี้มาพร้อมกับสเปกที่ไม่ได้สูงมากนักคอมพิวเตอร์สเปกกลาง ๆ ก็สามารถที่จะเล่นเกมนี้ได้อย่างเลื่อนไหล สิ่งที่ต้องคำนึงถึงนั้นมีเพียงความจุของเกมที่ต้องการ 18 GB ถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับเกมอื่น ๆ ในยุคปัจจุบัน คะแนนรีวิว XCOM: Chimera Squad ได้รับคะแนนวิจารณ์ค่อนข้างที่จะดี โดยกวาดคะแนนรีวิวมากถึง 78 จาก 100 คะแนน ซึ่งหลาย ๆ สำนักค่างลงความเห็นว่าเกมนี้ให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบ Turn - Base ที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็สามารถที่จะสนุกกับระบบการเล่นได้ อย่างไรก็ตามตัวเกมมีความสดใหม่เพียงแค่ 2 - 3 ชั่วโมงแรกเท่านั้นเล่นไปสักพักอาจจะเกิดอาการเบื่อกันได้ วันวางจำหน่าย สำหรับเกมนี้มีกำหนดการในการวางจำหน่ายวันที่ 24 เมษายน 2020 โดยจะมีการลดราคาตัวเกมลง 50% เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2020 บนแพลตฟอร์ม Steam สำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ยังไม่มีกำหนดการในการวางจำหน่ายขณะนี้ สนใจสั่งซื้อได้ที่ Steam ได้เลย
29 Apr 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "XCOM"
เปิดตัว Marvel's Midnight Suns ในฐานะเกม Tactical สวมบทบาทอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยระบบเกมเพลย์ เตรียมวางจำหน่ายต้นปีหน้า!
หลังจากที่ปล่อยวิดีโอตัวอย่างสั้นๆ มาให้แฟน Marvel ได้ตื่นเต้นกันไปแล้วในช่วงงาน Opening Night Live: Gamecom 2021 ที่ผ่านมา ในวันนี้  Marvel’s Midnight Suns ก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในฐานะเกมแนว Tactical สวมบทบาท จากฝีไม้ลายมือการพัฒนาของ Firaxis Games พร้อมวิดีโอตัวอย่างใหม่ที่เผยให้เราเห็น Cinematics และเกมเพลย์บางส่วนที่มีทั้งการสนทนากับตัวละครอื่น รวมไปถึงระบบเกมเพลย์ของเกมอีกด้วยโดยฮีโร่ทั้ง 12 คนภายในเกม จะมีความสามารถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกัน แต่พวกเขาจะไม่สามารถใช้สกิลเหล่านั้นในการต่อสู้ได้ทันที เพราะพวกมันจะถูกบรรจุลงในการ์ดที่จะถูกสุ่มขึ้นมาในการต่อสู้แต่ละครั้ง ซึ่งการ์ดเหล่านั้นก็จะสามารถทำการอัปเกรดได้เมื่อกลับไปที่ฐานแล้วซึ่งการ์ดแต่ละใบก็ดูเหมือนจะมีความสามารถที่น่าสนใจไม่น้อย ยกตัวอย่างเช่น การใช้สกิลผลักศัตรูให้กระเด็นถอยหลังไปกระแทกผนัง หรือชนถังระเบิด ในขณะที่การ์ดบางใบก็มีความสามารถ ในการทำให้ผู้ใช้หรือตัวศัตรูติดค่าสถานะต่างๆ ได้ นอกจากนั้นตัวเกมก็ยังมีระบบการต่อสู้แบบ Team-up อีกด้วย!ส่วนในระหว่างที่ไม่ได้อยู่ในโหมดการต่อสู้ ผู้เล่นก็จะสามารถเลือกผูกมิตรและสานความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ภายในเกมได้ และนอกจากฐานของเราจะใช้เป็นสร้านที่พบปะสังสรรค์แล้ว เราก็ยังสามารถค้นหาสิ่งใหม่ๆ ได้ เช่น Words of Power ที่เป็นการปลดล็อกพื้นที่ใหม่ๆ ไปจนถึงภารกิจประจำวันที่พร้อมจะนำเสนอ เกมการเล่นสุดเป็นเอกลักษณ์ อย่างการเดินเล่นทอดน่องไปกับ Tony Stark หรือนั่งสมาธิฝึกจิตใจกับ Magik โดยเหล่าฮีโร่ก็จะมีบุคลิกและความชื่นชอบเป็นของตัวเอง ทำให้ในการผูกมิตรกับแต่ละคนจำเป็นจะต้องใช้วิธีที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดีการที่เรามีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา ก็จะส่งผลดีไปจนถึงระบบการต่อสู้ด้วยนั่นเองค่ะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกม XCOM ที่น่าสนใจมากเกมหนึ่งสำหรับทั้งแฟนของ 2K และ Marvel อย่างไรก็ดี Marvel’s Midnight Suns จะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2022 สำหรับ Xbox Series X/S, Xbox One, PS4, PS5, PC และ Nintendo Switch ค่ะCredit: GamingBolt
02 Sep 2021
เปิดตัว Marvel's Midnight Suns เกมซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลจากผู้สร้าง XCOM!
นักพัฒนากลยุทธ์ของทีมพัฒนาเกมอย่าง Firaxis Games ได้ประกาศภายในงาน Opening Night Live: Gamecom 2021 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ ถึงการมาถึงของ Marvel's Midnight Suns ที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมปี 2022 ที่เรียกได้ว่ามันจะเป็นเกม XCOM ที่อัปเกรดประสิทธิภาพขึ้นอย่างเหนือชั้น!โดยผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟของเกมอย่าง Jake Solomon ก็ได้กล่าวว่าฮีโร่ภายใน Marvel's Midnight Suns นั้นจะสามารถปรับแต่งได้จริง และจะเป็นการมอบประสบการณ์อันแปลกใหม่จากเกม XCOM ทั่วไปที่ผู้เล่นได้เคยสัมผัสผ่านมา โดยตัวเกมจะมีทั้งฮีโร่คารมดี มาดเพลย์บอยขวัญใจแฟนๆ อย่าง Iron Man ไปจนถึงสาวแกร่งประจำจักรวาลอย่าง Captain Marvel ร่วมกันต่อสู้กับศัตรูและมีเป้าหมายในการกำจัดพวกมันให้ได้มากที่สุด นอกจากนั้นแล้วตัวเกมก็ยังคงรักษาฟีเจอร์ที่แฟนๆ คุ้นเคยอย่างสิ่งแวดล้อมที่สามารถทำลายได้เอาไว้ ในขณะที่ลบระบบ Permadeath หรือการตายถาวรออกไป รวมถึงการปรับระบบเกมเพลย์ใหม่ทั้งหมด!Solomon กล่าวว่า “ไอเดียในการสร้างเกมนี้ คือการทำให้เกมเพลย์เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ในขณะที่ตัวแทนของทาง 2K ได้อธิบายถึง Marvel's Midnight Suns ว่ามันจะเป็นเกมที่เน้นให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์สำหรับ Single player โดยตัวเกมจะให้คุณได้รับบทเป็น The Hunter ตัวละครที่เราจะสามารถปรับแต่งเองได้ และเป็นลูกของ Lilith ตัวร้ายของเรื่อง ผู้จะสามารถใช้พลังแห่งแสงหรือความมืดก็ได้ โดยพลังแห่งความมืดก็จะมีพลานุภาพมากกว่า แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีค่าตอบแทนที่ต้องแลกเปลี่ยน นอกจากนั้นบรรดาฮีโร่ที่เราจะได้พบก็มีอีกถึง 12 คน ได้แก่ Ghost Rider, Dr. Strange, Iron Man, Wolverine, Captain America, Magik, Nico, Captain Marvel และ Blade“มันเป็นเรื่องราวที่ไม่เคยได้รับการเล่ามาก่อน และมันได้มอบวายร้ายคนใหม่รวมถึงคาร์แรคเตอร์ใหม่ๆ ให้ได้นำออกมาพูดถึง พวกคาร์แรกเตอร์ที่มีพลังเหนือธรรมชาติซึ่งผู้เล่นน่าจะไม่คุ้นเคยมาก่อน ไปจนถึงตัวละครยอดนิยมที่จะนำเราดำดิ่งไปสู่ด้านมืดของจักรวาล Marvel ได้” Solomon กล่าวนอกจากนั้นอีกสิ่งที่น่าสนใจเลยก็คือการที่เราจะได้เห็นตัวละครจาก X-men อย่าง Wolverine และ Magik เข้ามาร่วมแจมภายในเกมด้วย แม้ในตอนนี้รายละเอียดส่วนใหญ่จะยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา แต่จากวิดีโอตัวอย่างที่ทางสตูดิโอปล่อยออกมา ก็พอจะทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นกับการรอคอยขึ้นมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยอย่างไรก็ดี Firaxis วางแผนที่จะเปิดเผยเกมเพลย์ของ Marvel's Midnight Suns อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 กันยายน และตัวเกมก็กำลังพัฒนาลงให้สำหรับทุกๆ แพล็ตฟอร์มรวมถึง PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S, Nintendo Switch, PC และบน Epic Games Store โดยมีกำหนดว่าจะวางจำหน่ายในเดือนมีนาคม ปี 2022 ค่ะCredit: IGN
26 Aug 2021
XCOM เกมใหม่ลงสมาร์ทโฟนเป็น Free-to-Play
Iridium Starfish ได้มีการปล่อยเกม XCOM ภาค Spin-Off ลงบน Google Play โดยจะมีชื่อว่า XCOM: Legends ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนพัฒนาและจะเปิดให้บริการในบางประเทศเท่านั้น พร้อมกับปล่อยวิดีโอตัวอย่างพร้อมเกมเพลย์ตัวเกม XCOM: Legends จะมีการเล่นเป็นแนวตั้งพร้อมกับระบบ Turn-based ที่เราจะต้องพาตัวละคร 5 ตัวไปสู้กับศัตรูอีก 5 ตัวเกมจะอยู่ในไทม์ไลน์เดียวกับ XCOM 2 และจะมีตัวละครที่หลายๆ คนคุ้นเคยโผล่มาให้เห็นบ้าง ในเกมจะมีเครื่องมือจากต่างดาวชื่อว่า Archway หรือก็คืออุปกรณ์ในการอัญเชิญตัวละครและของต่างๆ นั่นเอง XCOM: Legends จะเป็นเกมกาชาที่นำตัวละครเด่นๆ จากเกมภาคหลักเข้ามาร่วมสู้กับเราในตอนที่คุณไม่เล่นก็จะมีระบบ "Integrated Drone Looting Experience" หรือ IDLE ที่จะทำการหาทรัพยากรให้กับเราอัตโนมัติ แค่อ่านก็เห็นแล้วว่านี่เป็นเกมที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าจะเป็นระบบหรือรูปแบบเกม เราก็ได้แต่หวังว่าเกมนี้จะไม่ทำให้แฟนๆ เกม XCOM ผิดหวังCredit: PC Gamer
19 Jul 2021
รีวิว XCOM : Chimera Squad ย่นขนาด ย่อส่วนความสนุก
หมายเหตุ : งานเขียนรีวิวชิ้นนี้ เขียนขึ้นหลังจากใช้เวลาเล่น XCOM: Chimera Squad เป็นเวลา 20 ชั่วโมงที่ระดับความยาก Normal ซึ่งประสบการณ์การเล่น อาจจะแตกต่างออกไปในความยากระดับอื่นๆ หมายเหตุ 2 : ในขณะที่ผู้เขียนลงบทความชิ้นนี้ มีอีกหนึ่งชิ้นงาน Turn-Based Strategy อย่าง Gears Tactics ที่ออกวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ลอง แต่มีเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ใครที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ระบบ Steam ในราคา 699 บาท *********************************************************************************************************** ออกตัวกันก่อนว่า สำหรับผู้เขียน ถ้าลงว่าเป็นเกมแนว Turn-Based Strategy หรือเกมวางแผนแบบผลัดตากันเดินแล้วนั้น เรียกได้ว่าเป็นของโปรดอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับซีรีส์ ‘XCOM’ จากทีม Firaxis ที่ผู้เขียนเล่นมาตั้งแต่ภาคดั้งเดิมปี 1994 และต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ผูกใจเล่นเป็นเวลานับร้อยชั่วโมง และนำกลับมาเล่นซ้ำได้อย่างไม่รู้เบื่อ (เฉพาะแค่ภาคสองกับส่วนเสริม War of the Chosen ก็สะสมเวลาเล่นไปแล้วถึงระดับ 200 ชั่วโมงกว่าๆ ในการเล่นสี่รอบ พร้อมลง Mod เติมคุณสมบัติต่างๆ ไปอีกมากมาย…) แต่ในขณะที่ผู้สร้างซีรีส์ดั้งเดิมอย่าง Julian Gollop ได้ออกเดินทางในผลงานใหม่อย่าง Phoenix Point เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทีม Firaxis ก็กลับมาพร้อมประกาศการมาของ ‘Chimera Squad’ ที่ไม่มีวี่แววใดๆ และโผล่มาในแบบปุบปับปัจจุบันทันด่วน สร้างความตกตะลึงในระดับเบาะๆ เพราะหลังจากการวางจำหน่ายภาคสองและส่วนเสริมไปเกือบสามปี มันไม่มีสัญญาณถึงภาคต่อที่จะมาถึงเลยแม้แต่น้อย (เรียกว่าประกาศเปิดตัว นับไปอีกหนึ่งอาทิตย์ก็วางจำหน่ายเลย) กล่าวโดยสรุป Chimera Squad นั้นมาด้วยสเกลที่เล็กกว่า XCOM สองภาคที่ผ่านมาค่อนข้างมาก และมาในแนวทางการเล่นที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง มันถูกย่อขนาดให้กระชับขึ้น เน้นการบอกเล่าเนื้อหา และใส่ใจกับการเล่นในระดับจุลภาคที่สามารถจบหนึ่ง Session การปะทะได้อย่างรวดเร็ว เป็นงานเกมขนาดย่อมที่สมน้ำสมเนื้อกับสนนราคาค่าตัว ซึ่งทีมสร้างมีความตั้งใจเพื่อใช้สำหรับทดลองแนวทางใหม่ ที่อาจจะถูกนำมาผนวกสำหรับภาคต่อขนาดใหญ่ที่รอคอยอยู่ภายภาคหน้าก็เป็นได้ Chimera Squad เปิดฉากเรื่องราวห้าปีหลังเหตุการณ์จากเกมภาคสอง เมื่อกองทัพต่างดาว Advent ปราชัยให้แก่กองกำลังต่อต้าน XCOM โลกกลับเข้าสู่สันติภาพ ที่ที่มนุษย์ เหล่าลูกผสม และเผ่าพันธุ์ต่างดาว ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในความสัมพันธ์แบบใหม่ โดยเฉพาะกับ City 31 เมืองแห่งความหลากหลายทางสายพันธุ์ แต่แล้วเมื่อการลอบสังหารนายกเทศมนตรีเกิดขึ้น สั่นคลอนความมั่นคงและการดำรงอยู่ของความสัมพันธ์ดังกล่าวจนอาจนำไปสู่ความโกลาหลในบั้นปลาย จึงเป็นหน้าที่ของกองกำลัง Chimera Squad หน่วยลูกผสมพิเศษพิทักษ์เมือง ที่จะต้องรักษาความสงบ และสืบสาวไปให้ถึงต้นตอว่าใครที่กำลังประสงค์ร้ายต่อความมั่นคงและสันติภาพของเมืองในครั้งนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ความเปลี่ยนแปลงอย่างแรกที่สัมผัสได้จาก Chimera Squad ทีค่อนข้างชัดเจนเป็นอย่างมากคือ ตัวเกมมีสนามการเล่นที่เล็กลงจากเกมสองภาคก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะในขณะที่ XCOM ที่ผ่านมานั้นเน้นสเกลการเล่นแบบใหญ่ วางแผนกันในระดับโลก เกมนี้ถูกย่อส่วนลงมาให้เหลือเพียงแค่ระดับเมือง ที่ถูกแบ่งออกเป็น 9 พื้นที่หลัก ที่จะตามมาด้วยเหตุการณ์ที่เราจะต้องส่งกองกำลังลงสู่พื้นที่เพื่อเคลียร์สถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวประกัน กวาดล้างกองกำลัง ไปจนถึงการค้นหาหลักฐานสำคัญก่อนถอนตัวออกจากพื้นที่ เป็นต้น แน่นอนว่าด้วยขนาดของกองกำลังที่เล็กลง ตัวเกมจึงเน้นเป็นพิเศษในส่วนของการปะทะในแต่ละครั้งที่แบ่งออกเป็น ‘Phase’ ที่จะเริ่มต้นด้วยการเลือกจุดที่จะเข้าปะทะ (Breaching Point) ที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงบางจุดที่อาจจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่เป็นเฉพาะ เช่น การทลายกำแพงด้วยระเบิด หรือการแฮ็คประตูด้วยบัตรผ่าน เหล่านี้ สร้างความหลากหลายในมิติของการวางแผนได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะในแต่ละจุด ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป บางจุดสามารถให้โบนัสด้านการโจมตี บางพื้นที่เป็นเส้นทางตรงแต่มีข้อเสียที่ตามมา เหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้การบุกทะลวงในแต่ละ Phase นั้น เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกจุดหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากรูปแบบของ XCOM ดั้งเดิมที่สังเกตได้ คือรูปแบบการสลับตาเล่นของแต่ละยูนิตในสนามรบ เพราะใช้ระบบแบบ ‘ผลัดกันเดิน (Interleved)’ ที่ตาเดินของผู้เล่น จะผสานเข้ากับตาเดินของศัตรูในพื้นที่ แทนที่จะแบ่งออกเป็นส่วนใหญ่สลับกัน เหล่านี้ ขยายขอบเขตความเป็นไปได้ในการวางแผนให้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีอีกแล้วกับการเลือกใช้กองกำลังที่ทรงพลังที่สุด เพื่อกวาดล้างทุกสิ่งให้จบสิ้นลงไปในหนึ่งตาเดิน แต่ต้องพิจารณาและเลือกใช้คุณสมบัติของหน่วยรบที่มีอยู่ในมือโดยดูจากลำดับเป็นสำคัญ เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกมแนว Turn-Based Strategy ยุคโมเดิร์นในช่วงหลัง ที่ถูกนำมาประยุกต์ได้อย่างเข้ากันดีกับ Chimera Squad ที่ช่วยให้เกมมีความฉับไวและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และด้วยรูปแบบของเกมที่เล็กลง ทีมสร้างได้เลือกใช้การกำหนดยูนิตของกองกำลัง Chimera Squad ที่เป็นตัวละครกึ่งสำเร็จรูป ที่มีพื้นหลังเรื่องราว คุณสมบัติ ไปจนถึงทักษะและความสามารถที่แตกต่างกัน ที่ผู้เล่นจะได้เลือก 8 จาก 11 คนที่มีให้พร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์เอเลียนยอดนักพลังจิตที่สามารถคุมความคิดของยูนิต, หน่วยรบพุ่งทะลวงฟันจอมถึก, สายลับนักเทคโนโลยี ไปจนถึงพลแม่นปืนและเอเลียนสายพันธุ์งูที่สามารถซอกซอนเข้าสู่จุด Breaching Point ในแบบที่ยูนิตอื่นไม่สามารถทำได้ ทั้งหมด ถูกกำหนดเอาไว้อย่างพร้อมสรรพ มีความชัดเจน และให้ผู้เล่นได้เลือกผสมผสานจนเกิดเป็นรูปแบบการเล่นที่เป็นเฉพาะได้ตามที่ใจต้องการ กระนั้นแล้ว ภายใต้ข้อคุณสมบัติที่กล่าวไปในข้างต้น เราอาจจะไม่สามารถละเลยความจริงข้อหนึ่งของ Chimera Squad ว่า นี่เป็นเกมระดับ ‘ทุนต่ำ’ ของ Firaxis ที่สะท้อนออกมาในทุกช่วงของตัวเกม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ Asset เก่าจากเอนจิ้นของเกมภาคสองที่ยังคงมีบั๊กส์ทางเทคนิคประปราย การลดสเกลการเล่นลงให้เหลือเพียงแค่การปะทะอย่างเพียวๆ จำกัดการปรับแต่งคุณสมบัติยูนิตที่ถูกกำหนดเอาไว้อย่างตายตัว ไปจนถึงการปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ทั้งเก้า ที่แทบไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าส่วนเสริมให้รู้สึกถึงภาพกว้างอย่างจำกัด ไม่ได้ส่งผลใดๆ กับการเล่นอย่างมีนัยสำคัญมากนัก (นอกเสียจากการเป็นพื้นที่เพื่อให้ทรัพยากรในการพัฒนากองกำลัง ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น) การกำหนดคุณสมบัติอย่างตายตัวของยูนิตกองกำลัง Chimera Squad ทั้งสิบเอ็ดคนก็ถือได้ว่าเป็นข้อจำกัดที่น่าขัดใจ เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น พวกเขาเหล่านี้มาพร้อมกับทักษะและความสามารถอันเป็นเฉพาะ นั่นทำให้การปรับแต่งต่างๆ ที่เคยมีมาในภาคก่อนหน้านั้นถูกลดทอนลงไป อีกทั้งการที่ผู้พัฒนาเลือกที่จะ Focus ในส่วนของเนื้อหาให้ Streamlined เป็นเส้นตรง ก็นำมาซึ่งการถอด ‘Permadeath’ หรือการสูญเสียยูนิตแบบถาวรที่เคยเป็นเสน่ห์หลักของซีรีส์ XCOM ไป (ในเกมนี้ ถ้าคุณสูญเสียยูนิต สิ่งเดียวที่เกมอนุญาตให้ทำคือการเริ่มต้นการปะทะใหม่จนกว่าจะผ่าน….) และนั่น นำมาซึ่งข้อเสียที่ร้ายแรงที่สุดของ Chimera Squad เพราะเมื่อคุณไม่สามารถสูญเสียยูนิตไปอย่างถาวร และการกำหนดยูนิตอย่างตายตัว มันทำให้เกมนั้น ‘ง่าย’ กว่าทุกภาคที่ผ่านๆ มา ไม่มีอีกแล้วกับความตื่นระทึกจากการวางแผน หรือการระแวดระวังไม่ให้ยูนิตที่ปั้นมาอย่างดีต้องล้มตายในสนามรบ เพราะเมื่อไม่มีระบบ Permadeath ยูนิตของคุณมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นตามจำนวนภารกิจที่ผ่านไป และทุกการอัพเกรดที่เพิ่มเข้ามา และนั่น ทำให้ตัวเกมเลือกที่จะใช้เทคนิคโยนศัตรูจำนวนมหาศาลในหนึ่งการปะทะ แทนที่จะสร้างความหลากหลายให้เกิดขึ้น จนท้ายที่สุดแล้ว กลยุทธ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนคือ บุกทะลวง แล้วทำลายทุกสิ่งที่อยู่ในห้อง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนทำให้การเล่นช่วงท้ายแผ่วปลายลงไปอย่างน่าใจหาย ไม่นับรวมสเกลความยากในช่วงท้ายที่ถูกถีบขึ้นอย่างน่างุนงง (แม้จะไม่ได้มากจนถึงขั้นเล่นต่อไม่ได้ แต่ออกจะน่ารำคาญใจเสียมากกว่า…) นอกเหนือจากนั้นแล้ว การบ่งบอกข้อมูลและรายละเอียดที่สำคัญผ่านหน้าจอของผู้เล่นหรือ User Interface ก็ยังคงมีส่วนขาดตกบกพร่องและไม่ได้บอกในสิ่งที่ผู้เล่นควรทราบเอาไว้อย่างชัดเจนและเพียงพอ (จนถึงในขณะที่เขียน ทักษะบางอย่างของบางยูนิตก็ยังคงเป็นที่ต้องสงสัยแม้จะเล่นจบไปแล้วก็ตาม) และแน่นอน เมื่อเป็นซีรีส์ XCOM โอกาสที่คุณจะได้เห็นการจ่อยิงแต่พลาดแม้เปอร์เซ็นต์การเข้าเป้าสูง (ที่ถูกเอาไปยำทำ Meme ให้ตลกขำขื่นกันมานักต่อนัก…) ก็จะยังกลับมาหลอกหลอนได้อย่างครบถ้วนไม่ขาดตกอีกเช่นเคย แต่ทั้งนี้ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงโปรเจ็กต์ Spin-Off ต้นทุนต่ำที่ถูกย่นขนาดและย่อส่วนความสนุกลงไป แต่ Chimera Squad ก็อาจจะเป็นการตอบโจทย์ที่สำคัญของทีมสร้างและทิศทางของซีรีส์ XCOM ที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต ว่าเกมแนว Turn-Based Strategy นั้น มีคุณสมบัติที่จะ ‘เร็วขึ้น’ ได้มากน้อยเพียงใด และสามารถใส่และสร้างจุดร่วมทางเนื้อหาได้มากน้อยแค่ไหน ดังที่ผู้สร้างได้กล่าวเอาไว้ตั้งแต่ช่วงต้นว่า นี่เป็นงานที่ทำขึ้นเพื่อทดสอบคุณสมบัติต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในเกมภาคถัดไป (ที่ผู้เขียนค่อนข้างมั่นใจ ว่ามันจะมีต่อแน่ๆ แต่เมื่อใดนั้น ก็ยากที่จะบอกได้) เพราะโลกแห่งแวดวงวิดีโอเกมนั้นเดินหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง และซีรีส์ XCOM ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งหมุดหมายสำคัญของเกมแนว Turn-Based Strategy ของยุคโมเดิร์น ที่มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และการมาถึงของ Chimera Squad ที่แม้จะขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่มันก็ยังทำให้เราได้รู้สึกมั่นใจ ว่าผู้สร้างนั้นไม่ได้ละทิ้ง หรือยึดติดกับความสำเร็จแบบเดิมๆ ที่เคยเป็นมา หากแต่หาหนทางใหม่เพื่อขยายขอบเขตความเป็นไปได้อันไม่สิ้นสุด เพื่อผลงานที่จะตามมาในภายภาคหน้า ที่จะดีขึ้น มากขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้น และผลสำเร็จของเกมนี้ ก็ตอกย้ำว่า สิ่งที่ดีๆ ดังที่ว่า จะเกิดขึ้นตามมา และชื่อของ XCOM ก็จะยังคงอยู่ต่อไป ไม่ล้มหายตายไปจากสารบบในเวลาที่กำลังจะมาถึงอย่างแน่นอน [penci_review id="52466"]
30 Apr 2020
รวมข้อมูลเกี่ยวกับเกม XCOM: Chimera Squad
XCOM ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่อยู่คู่กับเหล่าเกมเมอร์มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 1984 มาจนถึงปัจจุบัน ตัวเกมมีจุดเด่นในเรื่องของการเล่นแบบ Turn Base ในการต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนผสมกับระบบการตายแบบ Perma Death ที่หากตัวละครของเราตายจะไม่สามารถเล่นตัวละครนั้นอีกเลย ทำให้เกมนี้มีความท้าทายมาก ๆ ยิ่งระดับความยากสูงยิ่งท้าทาย XCOM: Chimera Squad เป็นเกมล่าสุดของซีรีส์ที่กำลังจะเปิดให้เล่นในวันที่ 24 เมษายน 2020 นี้ ตัวเกมได้มีการพัฒนารูปแบบต่าง ๆ และระบบการเล่นให้น่าสนใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม สำหรับใครที่ยังตัดสินใจว่าจะซื้อเกมนี้ดีหรือไม่ พวกเรา GameFever TH มีรายละเอียดมาแนะนำเสนอให้เกมเมอร์ทุกท่านได้นำไปพิจารณา Trailer เปิดตัวเกม XCOM: Chimera Squad เปิดตัวด้วยตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นถึงโทนของเกมที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นกราฟิก แสงสี เสียง รวมถึงการที่จะต้องร่วมมือกับมนุษย์ต่างดาวในการต่อสู้กับศัตรู พร้อมกับ Sound Track เจ๋ง ๆ ที่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังหามาฟังอยู่ก็เป็นได้ เนื้อเรื่อง ตัวเกมว่าด้วยเรื่องราวหลังจากเกม XCOM 2 เป็นเวลา 5 ปี โดยมนุษย์สามารถที่จะเอาชนะสงครามและ Overlord ได้หนีกลับไปทิ้งทหารของพวกเขาไว้ทำให้มนุษย์โลกและเหล่าเอเลี่ยนผู้รุกรานต่างเลือกที่จะอยู่ร่วมกันและสร้างอารยธรรมขึ้นมาใหม่ เนื้อเรื่องของเกมจะเน้นไปยังหน่วย Chimera Squad หน่วยรบพิเศษของเมือง City 31 ที่แม้ว่ามนุษย์โลกและเหล่าเอเลี่ยนจะอยู่ร่วมกันได้แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ ทำให้เราจะต้องนำเหล่า Agent ประจำหน่วยเข้าต่อกรกับองค์กรใต้ดินเหล่านี้ Gameplay ทุกตัวละครมีความสามารถต่างกัน XCOM: Chimera Squad นำเสนอระบบใหม่คือความแตกต่างระหว่าง Agent ที่เป็นมนุษย์โลกและเหล่าเอเลี่ยน ที่จะมีนิสัยรวมถึงความสามารถที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีระบบของ Specialized และ Complementary Classes ระบบที่จะทำให้เราสามารถจัดความสามารถของสมาชิกในทีมให้สอดคล้องกันได้ ยิ่งเราผสานทักษะต่าง ๆ ของสมาชิกในทีมได้ดี ทีมของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ระบบเทิร์นแบบใหม่ เรียกได้ว่าลดความ Hardcore ของระบบเทิร์นแบบเก่าให้เข้าใจง่ายกับรูปแบบ Interleaved Turns ที่เปลี่ยนการนับเทิร์นแบบฝ่ายเป็นการนับเทิร์นทีละตัวละครแทน ทำให้เราสามารถที่จะวางแผนการได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ในระหว่างการเล่นเราสามารถที่จะใช้ความสามารถ Team UP ในการทำให้ตัวละครหนึ่งได้รับ Order สูงสุดเป็นต้น Breach Mode Breach Mode จะเป็นโหมดใหม่ที่ให้เราสามารถวางกลยุทธ์ตั้งแต่เริ่มเกม โดยเราสามารถที่จะนำเอาตัวละครของเราไปวางไว้ในจุดต่าง ๆ ซึ่งจะให้ความสามารถพิเศษต่างกัน รวมถึงสามารถกำหนดเทิร์นของตัวละครเราได้ว่าจะให้ทำอะไรก่อนหลังได้อีกด้วย ความท้าทายนอกสมรภูมิ XCOM: Chimera Squad ไม่ได้เน้นเฉพาะการต่อสู้เท่านั้น แต่การบริหารทรัพยากรต่าง ๆ ก็สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกภารกิจที่เราจะต้องจัดลำดับความสำคัญเอง ว่าภารกิจไหนควรที่จะทำก่อน ภารกิจไหนควรที่จะทำทีหลัง  นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องของการวิจัยอาวุธด้วย เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายนอกสมiภูมิดี ๆ นี่เอง สเปกเครื่อง สำหรับเกมนี้มาพร้อมกับสเปกที่ไม่ได้สูงมากนักคอมพิวเตอร์สเปกกลาง ๆ ก็สามารถที่จะเล่นเกมนี้ได้อย่างเลื่อนไหล สิ่งที่ต้องคำนึงถึงนั้นมีเพียงความจุของเกมที่ต้องการ 18 GB ถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับเกมอื่น ๆ ในยุคปัจจุบัน คะแนนรีวิว XCOM: Chimera Squad ได้รับคะแนนวิจารณ์ค่อนข้างที่จะดี โดยกวาดคะแนนรีวิวมากถึง 78 จาก 100 คะแนน ซึ่งหลาย ๆ สำนักค่างลงความเห็นว่าเกมนี้ให้ประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบ Turn - Base ที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ก็สามารถที่จะสนุกกับระบบการเล่นได้ อย่างไรก็ตามตัวเกมมีความสดใหม่เพียงแค่ 2 - 3 ชั่วโมงแรกเท่านั้นเล่นไปสักพักอาจจะเกิดอาการเบื่อกันได้ วันวางจำหน่าย สำหรับเกมนี้มีกำหนดการในการวางจำหน่ายวันที่ 24 เมษายน 2020 โดยจะมีการลดราคาตัวเกมลง 50% เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์จนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม 2020 บนแพลตฟอร์ม Steam สำหรับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ยังไม่มีกำหนดการในการวางจำหน่ายขณะนี้ สนใจสั่งซื้อได้ที่ Steam ได้เลย
29 Apr 2020