GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "NBA2K"
แล้วไงใครแคร์! ค่ายเกมฝรั่งไม่สะทกสะท้านกับสถานการณ์รัฐบาลจีนแช่แข็งออกใบอนุญาติ
กระทบกระทั่งกันมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเลย ระหว่างรัฐบาลและวงการเกมในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เฉพาะปีนี้ก็มีเรื่องให้ปวดหัวกันมากมาย ตั้งแต่การแช่แข็งกระบวนการออกใบอนุญาติจำหน่ายเกมในประเทศ ซึ่งส่งผลให้บริษัทเกมยักษ์ใหญ่เชื้อสายจีนอย่าง Tencent ต้องเสียผลกำไรนับพันๆ ล้านเหรียญ ไปจนถึงประเด็นการต่อกรกับปัญหาสายตาสั้นและติดเกมในเด็กด้วยการจำกัดเวลาเล่นเกมของเด็ก ผ่านการเปิดให้บริษัทเกมเข้าถึงข้อมูลประชากร ด้วยขนาดของตลาดที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าการสร้างข้อจำกัดต่างๆ ให้เหล่านักพัฒนาเกมเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อรายรับของบริษัทเกมนอกจีนด้วย แต่อาจจะไม่มากเท่าที่หลายคนคาดเดากัน เมื่อเว็บ GameIndustry.biz ได้เผยบทสัมภาษณ์กับผู้บริหารจากค่ายเกมชั้นนำของฝั่งตะวันตกหลายค่าย โดยทุกค่ายต่างออกความเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ในประเทศจีนยังไม่ใช่เรื่องน่ากังวล คนแรกคือ CEO ของบริษัทจัดจำหน่าย Take-Two คุณ Strauss Zelnick ที่เผยว่าเกม NBA2K ของค่ายได้รับใบอนุญาติไปแล้ว จึงยังไม่ส่งผลต่อบริษัทนัก "แน่นอนว่าจีนยังคงเป็นตลาดที่สำคัญกับแผนงานของบริษัทในระยะยาว และเราก็นับวันรอให้รัฐบาลเปิดกระบวนการออกใบอนุญาติอีกครั้ง แต่ในตอนนี้ผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาในระยะยาวแน่นอน และจีนก็ยังคงเป็นตลาดที่เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับเรา" CEO ของค่าย EA คุณ Blake Jorgensen เองก็ให้คำตอบคล้ายๆ กัน โดยคุณ Blake เผยว่าเกมที่บริษัทตั้งความคาดหวังไว้สูงในตลาดจีนอย่าง FIFA Online 4 และ FIFA Mobile ต่างก็ได้รับใบอนุญาติมาแล้ว และเกมที่ค่ายตั้งใจสร้างเพื่อตีตลาดจีนเกมต่อไปก็ยังคงอยู่ระหว่างพัฒนา บริษัทจึงไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ ในส่วนของ Ubisoft นั้น CEO ของบริษัทคุณ Yves Guillemot ได้เปิดเผยต่อผู้ถือหุ้นว่าบริษัทมีความกังวลอยู่บ้างในระยะยาวถ้าสถานการณ์นี้ไม่คลี่คลาย แต่ในขณะนี้บริษัทก็ยังคงทำเงินจากเกมที่วางจำหน่ายไปแล้วอย่าง Rainbow Six: Siege ได้ดีอยู่ จึงยังไม่ใช่เรื่องต้องกังวลในระยะสั้น "การเปิดตัวเกมภายในประเทศได้หรือไม่ได้จะไม่ส่งผลต่อผลกำไรเท่าที่หลายคนคิด" คุณ Yves กล่าวกับผู้ถือหุ้น โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มขายเกมออนไลน์อย่าง Steam ที่แม้จะไม่ได้เปิดบริการในจีนอย่างถูกต้อง 100% แต่ก็เป็นหนทางเดียวที่ผู้เล่นจีนจะเข้าถึงเกมตะวันตกหลายๆ เกมได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยบริการ Steam มีผู้ใช้ในจีนถึง 30 ล้านคนเลยทีเดียว ได้ยินอย่างนี้แล้วก็โล่งใจที่เรื่องราวในจีนจะไม่ส่งผลเสียต่อวงการเกมโดยกว้างเท่าที่คิด เป็นห่วงก็แต่ผู้พัฒนาเล็กๆ ในจีนที่จะไม่มีช่องทางทำเงิน ส่วนค่ายเกมใหญ่ๆ อย่าง Tencent หรือ Netease ก็มีปัญญาเปิดตลาดตะวันตกแทนไปก่อนได้
19 Nov 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "NBA2K"
แล้วไงใครแคร์! ค่ายเกมฝรั่งไม่สะทกสะท้านกับสถานการณ์รัฐบาลจีนแช่แข็งออกใบอนุญาติ
กระทบกระทั่งกันมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีเลย ระหว่างรัฐบาลและวงการเกมในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ที่เฉพาะปีนี้ก็มีเรื่องให้ปวดหัวกันมากมาย ตั้งแต่การแช่แข็งกระบวนการออกใบอนุญาติจำหน่ายเกมในประเทศ ซึ่งส่งผลให้บริษัทเกมยักษ์ใหญ่เชื้อสายจีนอย่าง Tencent ต้องเสียผลกำไรนับพันๆ ล้านเหรียญ ไปจนถึงประเด็นการต่อกรกับปัญหาสายตาสั้นและติดเกมในเด็กด้วยการจำกัดเวลาเล่นเกมของเด็ก ผ่านการเปิดให้บริษัทเกมเข้าถึงข้อมูลประชากร ด้วยขนาดของตลาดที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก แน่นอนว่าการสร้างข้อจำกัดต่างๆ ให้เหล่านักพัฒนาเกมเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อรายรับของบริษัทเกมนอกจีนด้วย แต่อาจจะไม่มากเท่าที่หลายคนคาดเดากัน เมื่อเว็บ GameIndustry.biz ได้เผยบทสัมภาษณ์กับผู้บริหารจากค่ายเกมชั้นนำของฝั่งตะวันตกหลายค่าย โดยทุกค่ายต่างออกความเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ในประเทศจีนยังไม่ใช่เรื่องน่ากังวล คนแรกคือ CEO ของบริษัทจัดจำหน่าย Take-Two คุณ Strauss Zelnick ที่เผยว่าเกม NBA2K ของค่ายได้รับใบอนุญาติไปแล้ว จึงยังไม่ส่งผลต่อบริษัทนัก "แน่นอนว่าจีนยังคงเป็นตลาดที่สำคัญกับแผนงานของบริษัทในระยะยาว และเราก็นับวันรอให้รัฐบาลเปิดกระบวนการออกใบอนุญาติอีกครั้ง แต่ในตอนนี้ผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาในระยะยาวแน่นอน และจีนก็ยังคงเป็นตลาดที่เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับเรา" CEO ของค่าย EA คุณ Blake Jorgensen เองก็ให้คำตอบคล้ายๆ กัน โดยคุณ Blake เผยว่าเกมที่บริษัทตั้งความคาดหวังไว้สูงในตลาดจีนอย่าง FIFA Online 4 และ FIFA Mobile ต่างก็ได้รับใบอนุญาติมาแล้ว และเกมที่ค่ายตั้งใจสร้างเพื่อตีตลาดจีนเกมต่อไปก็ยังคงอยู่ระหว่างพัฒนา บริษัทจึงไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ ในส่วนของ Ubisoft นั้น CEO ของบริษัทคุณ Yves Guillemot ได้เปิดเผยต่อผู้ถือหุ้นว่าบริษัทมีความกังวลอยู่บ้างในระยะยาวถ้าสถานการณ์นี้ไม่คลี่คลาย แต่ในขณะนี้บริษัทก็ยังคงทำเงินจากเกมที่วางจำหน่ายไปแล้วอย่าง Rainbow Six: Siege ได้ดีอยู่ จึงยังไม่ใช่เรื่องต้องกังวลในระยะสั้น "การเปิดตัวเกมภายในประเทศได้หรือไม่ได้จะไม่ส่งผลต่อผลกำไรเท่าที่หลายคนคิด" คุณ Yves กล่าวกับผู้ถือหุ้น โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มขายเกมออนไลน์อย่าง Steam ที่แม้จะไม่ได้เปิดบริการในจีนอย่างถูกต้อง 100% แต่ก็เป็นหนทางเดียวที่ผู้เล่นจีนจะเข้าถึงเกมตะวันตกหลายๆ เกมได้ในช่วงที่ผ่านมา โดยบริการ Steam มีผู้ใช้ในจีนถึง 30 ล้านคนเลยทีเดียว ได้ยินอย่างนี้แล้วก็โล่งใจที่เรื่องราวในจีนจะไม่ส่งผลเสียต่อวงการเกมโดยกว้างเท่าที่คิด เป็นห่วงก็แต่ผู้พัฒนาเล็กๆ ในจีนที่จะไม่มีช่องทางทำเงิน ส่วนค่ายเกมใหญ่ๆ อย่าง Tencent หรือ Netease ก็มีปัญญาเปิดตลาดตะวันตกแทนไปก่อนได้
19 Nov 2018