GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "ฺBorderlands 3"
Cate Blanchett ขึ้นแท่นรับบทตัวละคร Lilith ใน Borderlands ฉบับภาพยนตร์
เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แฟนๆ ของซีรี่ส์เกม FPS Shooter-Looter ชื่อดังอย่าง Borderlands ก็ได้รับข่าวดีกรทันหัน ว่าเกมขวัญใจของพวกเขากำลังจะได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดง ซึ่งจะกำกับโดยผู้กำกับหนังสยองขวัญชื่อดัง Eli Roth (Hostel, The Green Inferno) และอำนวยการสร้างโดยค่ายหนัง Lionsgate อีกด้วย ล่าสุด ดูเหมือนว่าจะมีควมคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์ให้ได้ติดตามกันแล้ว เมื่อเว็บไซต์ข่าวบันเทิง Variety รายงานว่ามีแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่าภาพยนตร์ Borderlands ได้นักแสดงนำคนแรกแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะนักแสดงที่ว่าคือคุณ Cate Blanchett (Thor: Ragnarok, The Lord of the Rings, etc.) ผู้ซึ่งรับบทเป็นตัวละคร Lilith นั่นเอง! ทั้งนี้ แม้ว่าทางค่าย Lionsgate จะปฏิเสธที่จะยืนยันข่าวนี้ แต่ค่ายเกม Gearbox ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ Borderlands กลับดูเหมือนจะยืนยันข้อมูลนี้ผ่านทวิตเตอร์หลักของค่ายเลย (CEO ของ Gearbox คุณ Randy Pitchford ยังนั่งตำแหน่ง Executive Producer ของหนังด้วย) We are incredibly excited about this news! Borderlands is shaping up to be an amazing movie!https://t.co/42VT8YUQkc pic.twitter.com/zJY7M7B5to — GearboxOfficial (@GearboxOfficial) May 5, 2020 สำหรับตัวละคร Lilith เป็นหนึ่งในตัวละครที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ในเกม Borderlands ภาคแรก แบะกลายมาเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่สำคัญที่สุดในจักรวาล Borderlands ในเกมภาคต่อๆ มา เธอเป็นหนึ่งใน Siren ไม่กี่คนในจักรวาล และมีพลังพิเศษมากมายตั้งแต่การล่องหน การบิน การวาร์ป หรือกระทั่งการปล่อยไฟออกมาจากร่างกาย จนทำให้เธอได้รับฉายา "เหยี่ยวเพลิง" (Fire Hawk) ในเกม Credit: PCGamer  สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
06 May 2020
Borderlands 3 เพิ่ม Mini Game ใหม่ Borderlands Science!
Borderlands 3 วางจำหน่ายมาได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งตัวเกมภาคนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสําเร็จเหมือนกับภาครุ่นพี่เช่นกัน ผู้พัฒนายังคงพยายามอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ๆ เขามาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรถ้าหากว่าเราจะได้เห็น Mini Game ใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาใน Borderlands 3 ด้วย อย่างลาสุดก็เพิ่งมีการเพิ่ม Mini Game Arcade ใหม่เข้ามาในเกมชื่อว่า Borderlands Science แต่มันพิเศษตรงที่ว่าถ้าหากใครก็ตามที่เล่น Mini Game ตัวนี้ จะเหมือนเป็นการช่วยเหล่านักวิทยาศาสตร์ศึกษาเกี่ยวกับ DNA ในตัวมนุษย์ไปด้วยครับ! Mini Game Arcade ใหม่นี้เป็นผลงานของ Massively Multiplayer Online Science และ The Microsetta Initiative โดย Borderlands Science จะเป็นเกม Puzzle ที่ให้ผู้เล่นทำการดันบล็อกต่างๆ ขึ้นไปเรียงตัวกันให้ได้มากที่สุด ซึ่งบล็อกดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกจำลองแบบมาจาก DNA ของมนุษย์ ดังนั้นจึงหมายความว่าการเล่น Mini Game นี้จะเป็นการช่วยเหล่านักวิทยาศาสตเปรียบเทียบ Microbiome ไปด้วยนั้นเอง แน่นอนว่าเกมมันได้ยากถึงขนาดว่าต้องสามารถแก้ปัญหาในแต่ละด่านให้ได้ทั้งหมดจึงจะสามารถผ่านได้ แต่เพียงแค่แก้ Puzzle จนสามารถทำคะแนนได้ถึงที่กำหนดก็จะผ่านในแต่ละด่านได้เลย การเล่น Mini Game ตัวนี้ยังมอบ Currency ในเกม ที่เอาไว้แลก สกินต่างๆ ของเหล่า Vault Hunter อีกด้วย ตัวเครื่อง Borderlands Science จะถูกตั้งอยู่บนยาน Sanctuary III บริเวณมุมห้องพยาบาลของ Doctor Tannis Borderlands 3 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: Borderlands ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
08 Apr 2020
Borderlands 3 เตรียมปล่อยอัปเดตใหม่ เพิ่มคอนเทนต์ Late Game มากมาย!
Borderlands 3 วางจำหน่ายบน Steam มาได้เกือบจะ 2 อาทิตย์แล้ว ซึ่งเรียกได้ว่าประสบความสําเร็จอย่างมากจริงๆ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่ายอดผู้เล่นพร้อมกันของเกมนี้ทะลุ 90,000 คนไปแล้ว อีกทั้งเร็วๆ นี้จะมีการปล่อย DLC ตัวใหม่ Guns, Love, and Tentacles ออกมาด้วย ยังไม่ใช้แค่นั้น เพราะดูเหมือนว่า Cap Level ของตัวละครกำลังจะถูกเพิ่มเป็น 57 แทน และโหมดความยากแบบ Mayhem 2.0 ก็กำลังจะถูกเพิ่มเข้ามาในเกมครับ Official เว็บไซต์ของ Borderlands 3 ได้มีการปล่อย Update Blog อธิบายว่ากำลังจะมีอะไรบ้างถูกอัปเดตเข้ามาในเกม ซึ่งหลักๆ เลยที่เป็นเรื่องใหม่ ก็จะมีการปลด Max เลเวลของตัวละครเป็น 57 แทน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อค Capstone ได้อีก 2 อัน นอกจากเรื่องของเลเวลแล้ว ก็มีเรื่องโหมด Mayhem 2.0 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความยากอีก 10 ระดับให้ผู้เล่นได้ท้าทาย แน่นอนว่ายิ่งยากมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เป็นการเพิ่ม Rate Drop ด้วยเช่นกัน โดย Mayhem 2.0 จะมาพร้อมกับ Revenge of the Cartels ในช่วงต้นเดือน เมษายน Revenge of the Cartels คือชื่อของ 6 Seasonal Event ใหม่ โดยในอีเวนต์นี้ จะมีการเพิ่มแมพใหม่ที่มีชื่อว่า TheMansion ซึ่งจะเป็นเหมือน Arena ที่มีศัตรูออกมาเลยๆ และแตกต่างกันไป อีกทั้งศัตรูแต่ละประเภทก็จะดรอปไอเทมแตกต่างกันไปด้วย นอกจากนี้อีเวนต์ดังกล่าวยังมี Challenge มากมาย ที่ถ้าหากสามารถทำได้สำเร็จแล้ว จะได้รับ  Gear พิเศษเป็นของรางวัลด้วยครับ Credit: ฺPCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
25 Mar 2020
Borderlands 3 จะเปิดให้ Pre-Load บน Steam ได้วันที่ 10 มีนาคม 2020 นี้!
Borderlands 3 วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 6 เดือนแล้ว และจากข่าวล่าสุดที่บอกว่า Borderlands 3 กำลังจะวางจำหน่ายบน Steam ในวันที่ 13 มีนาคม 2020 นี้ ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเมื้อเกมวางจำหน่ายแล้วใคร ๆ ก็คงอยากจะเข้าไปเล่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โลกนี้จึงเกิดระบบที่เรียกว่า Pre-Load ขึ้นมานั้นเอง และล่าสุดก็ดูเหมือนว่าเราจะสามารถ Pre-Load เกม Borderlands 3 บน Steam ได้ในวันที่ 10 มีนาคม 2020 นี้ครับ! Gearbox Software ได้ทำการโพสต์ข่าวใหม่บนเว็บไซต์ Borderlands 3 ในลักษณะ FAQ และภายในโพสต์ดังกล่าวก็ได้ระบุไว้ว่า "ตัวเกม Borderlands 3 บน Steam จะสามารถ Pre-Load ได้ในช่วงบ่ายของวันที่ 10 มีนาคม 2020 (Pacific Time) และสามารถเริ่มเล่นเกมได้เวลา 7.00 AM วันที่ 13 มีนาคม 2020 (Pacific Time)" นอกจากนี้ผู้เล่นบน Steam กับ Epic Game Store จะสามารถ Cross-Play ได้ด้วย Borderlands 3 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC เกมจะวางจำหน่ายบน Steam ในวันที่ 13 มีนาคม 2020 นี้ครับ Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
06 Mar 2020
Borderlands 3 เตรียมปล่อย DLC Campaign ใหม่ในงาน PAX East 2020 นี้!
Borderlands 3 ภาคต่อของบิดาแห่งเกม Looter Shooter วางจำหน่ายมาได้เกือบจะครึ่งปีแล้ว ซึ่งถ้าใครเป็นแฟน ๆ ของเกมซีรีส์นี้ ก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่านอกจากความสนุกในการเล่น กับความเกรียนแล้ว เกมนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องทำ DLC ออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย โดย DLC ตัวแรกของ Borderlands 3 ก็เพิ่งวางจำหน่ายไปในช่วงปลายเดือน ธันวาคม ที่ผ่านมา แถมยังนำ Handsome Jack กลับมากับ DLC ตัวนี้ด้วย และ DLC Campaign ตัวต่อไปก็ดูเหมือนจะเปิดตัวครั้งแรกในงาน PAX East 2020 ที่จะถึงนี้ครับ! Official Twitter ของ Gearbox Software และหน้าเว็บไซต์ของ Borderlands ได้ทำการโพสต์ข้อความว่า "ในงาน PAX East 2020 ที่จะถึงนี้ว่า จะมีการโชว์ DLC Campaign ตัวใหม่ในงาน " ซึ่งก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า เนื้อเรื่องใน DLC ตัวนี้จะเกี่ยวกับใคร แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับ Axton , Krieg , Gaige หรือ Athena ที่ตอนนี้ยังไม่เคยโผล่มาเลยในเกมภาคนี้ อย่างไรก็ตามวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2020 นี้คิดว่าได้รู้กันครับ Borderlands 3 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 , Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
25 Feb 2020
ฺBorderlands 3 อาจจะได้พอร์ตไปลงเครื่อง Nintendo Switch!
Borderlands 3 เกม Looter Shooter ฟอร์มยักษ์ ที่กลับมาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ ที่สามารถเล่นได้ทั้งบน PS4, Xbox One, PC ถึงแม้ว่าทาง Gearbox Software จะยังไม่เคยประกาศว่าจะนำเกม Borderlands 3 นี้ไปพอร์ตลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch ด้วย แต่ดูเหมื่อนว่าไม่ใช้ว่าจะเป็นไปไม่ไดซะทีเดียวเช่นกัน! สืบเนื่องจากการถ่ายทอดสดของทาง Borderlands 3 เอง ที่ทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมากล่าวเองว่า "ไม่เคยบอกว่าจะไม่พอร์ตไปลง มันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต สักวันก็เป็นได้" ถ้าย้อนกลับไปช่วงเดือน เมษายน ทางผู้พัฒนาก็ได้เคยกล่าวว่าอยากเห็น Borderlands บน Switch เช่นกัน ดังนั้นต้องบอกว่ายังคงมีหวังอยู่ครับ สามารถรับชม วีดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
24 Sep 2019
Review: รีวิวเกม Borderlands 3 "การกลับมาของตัวพ่อเกม Shooting-RPG"
แนวเกม: Shooter-Looter (FPS/RPG) ผู้พัฒนา: Gearbox Software ผู้จัดจำหน่าย: 2K Games เวลาที่ใช้เล่น: ประมาณ 30 กว่าชั่วโมง (จบเนื้อเรื่อง) แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One, PC (Epic Games store) รีวิวใน PS4 Pro ถ้าจะให้พูดถึงแนวเกมเกมแนว Shooter-Looter หรือเกมยิงปืน (ทั้งแบบ FPS และบุคคลที่สาม) ที่ผสมผสานองค์ประกอบของเกม RPG เข้าไปด้วย ถือเป็นแนวเกมลูกผสมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคคอนโซลปัจจุบันนี้ ตั้งแต่เกมอย่าง Destiny, Anthem, The Division, Warframe, หรือเกมที่กำลังจะออกอย่าง Ghost Recon: Breakpoint ต่างก็จัดอยู่ในเกมแนว Shooter-Looter ทั้งสิ้น และทุกเกมก็เป็นเกมที่มีคนจับตามองอย่างใกล้ชิดตลอดการพัฒนา (แต่วางจำหน่ายมาแล้วรุ่งหรือร่วงอีกเรื่องหนึ่ง...) อีกหนึ่งเกมแนว Shooter-Looter ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยในฐานะผู้ให้กำเนิด (หรืออย่างน้อยก็เป็นเกมที่ทำให้แนวนี้ฮิตขึ้นมา) ซึ่งก็คือเกมซีรี่ส์ Borderlands ที่วางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 2009 โดยนำเกมเพลย์แบบชู้ตติ้งบุคคลที่ 1 (FPS) มาผนวกเข้ากับระบบการพัฒนาตัวละครและไอเทมของเกม RPG จนทำให้เกมกลายเป็นซีรี่ส์ในดวงใจของคนหลายๆ คนตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนขนาดเกมภาคต่อ Borderlands 2 (วางจำหน่ายเมื่อปี 2012) ยังคงมียอดผู้เล่นหลายล้านคนจวบจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่เว้นช่วงให้คิดถึงไปหลายปี ในที่สุดเกมเมอร์ทั่วโลกก็จะได้มีโอกาสหวนคืนสู่ดาว Pandora อีกครั้งกับเกม Borderlands 3 ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ที่กลับมาพร้อมกับองค์ประกอบด้านกราฟฟิคลายการ์ตูน Cel-Shade อันเป็นเอกลักษณ์ และเกมเพลย์แบบคลาสสิคที่สามารถรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมของซีรี่ส์เอาไว้พร้อมๆ กับการปรับปรุงรายละเอียดเกมเพลย์ให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งน่าจะตอบโจทย์แฟนๆ ดั้งเดิมของซีรี่ส์ที่เฝ้ารอมาตลอดได้เป็นอย่างดี ◊ เนื้อเรื่อง ◊ สำหรับเนื้อเรื่องของเกม Borderlands 3 จะเกิดขึ้น 5 ปีหลังจากการตายของตัวร้าย Handsome Jack (แจ๊คหน้าหล่อ) จากเกมภาคที่แล้ว โดยผู้เล่นจะสามารถเลือกรับบทเป็นนักล่าสมบัติ (Vault Hunter) หน้าใหม่ทั้งหมด 4 ตัวเพื่อร่วมมือกับกลุ่มนักสู้ Crimson Raiders ที่นำโดยตัวละครอดีตนักล่าสมบัติจากเกมภาคแรก Lilith เพื่อต่อกรกับสองคู่หูฝาแฝดผู้ชั่วร้าย Calypso Twins และเหล่าลูกสมุนนับล้านจากกลุ่ม Children of the Vault และยับยั้งแผนในการยึดครองจักรวาลของทั้งสองคนนั่นเอง แม้ว่าอาจจะไม่ใช่องค์ประกอบที่ผู้เล่นเกม Borderlands จะคิดถึงเป็นอย่างแรกเมื่อพูดถึงจุดเด่นของเกม แต่เนื้อเรื่องในเกม Borderlands 3 ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเกมได้เป็นอย่างดี ด้วยบทอันยียวนกวนประสาทของเกมที่ปล่อยมุกตลกตลอดเวลา ไปจนถึงเหล่าตัวละครทั้งเก่าและใหม่ที่วนเวียนกันเข้ามาสร้างความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ทำให้การเล่นผ่านเควสเนื้อเรื่องที่มีอยู่มากมายของเกมผ่านไปได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิดไว้ อย่างผู้เขียนใช้เวลาเล่นจนจบเนื้อเรื่อง (เล่นเควสเสริมน้อยมาก) ยังใช้เวลาไปเกือบ 35 ชั่วโมง แต่กลับไม่ได้รู้สึกว่านานเลยซักนิดเดียว ยังสามารถเล่นต่่อไปได้เรื่อยๆ เพราะอยากเห็นว่าเกมจะมีตัวละครเพี้ยนๆ แปลกๆ อะไรออกมาให้เราเจออีก ที่น่าชมอีกอย่างคือเนื้อเรื่องของภารกิจเสริมหลายๆ อัน ที่มีความละเอียดและต่อเนื่องไม่ต่างกับภารกิจเนื้อเรื่องเลยด้วย แม้จะไม่ใช่ภารกิจเสริมทั้งหมดที่จะมีคุณภาพดีขนาดนั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายภารกิจที่สนุกไม่แพ้เนื้อเรื่องหลัก แถมภารกิจส่วนใหญ่ยังมีวิธีการผ่านที่ค่อนข้างแตกต่างกัน (ไม่ได้แค่ให้ ฆ่ามอน 5 ตัว หรือ เก็บของ 5 ชิ้น) หรือบางอันอาจจะมีเงื่อนไขในการผ่านที่แปลกแหกวแนวในแบบที่เราคาดไม่ถึง ทำให้แม้จะทำไปเยอะแค่ไหนก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรใหม่ๆ มาให้ตื่นเต้นหรือตลกไปกับมันแทบจะตลอดเวลาเลย แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยความที่เกมเป็นภาคต่อ รวมไปถึงความยาวของเนื้อเรื่องและรูปแบบการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้า (เมื่อเทียบกับเกมทั่วไป) อาจจะทำให้ผู้เล่นที่ไม่ได้อินกับเนื้อเรื่องหรือตัวละครของเกมภาคเก่าๆ มาก่อนรู้สึกงงกับเนื้อเรื่องหรือมุกล้อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรืออาจจะหงุดหงิดกับการดำเนินเรื่องอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังจะได้รับประสบการณ์เนื้อเรื่องแบบจริงจังอย่างในเกมเนื้อเรื่องทั่วๆ ไป ก็น่าจะยังหาความบันเทิงกับมุกตลกหรือตัวละครกาวๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ได้อยู่ ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ แม้ว่าเกม Borderlands 3 จะไม่ได้ใช้กราฟฟิคที่สวยสมจริงเหมือนเกมหลายๆ เกม แต่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าภาพกราฟฟิคลายการ์ตูน Cel-Shade ของเกมนั้นไม่สวย โดยเฉพาะในเกม Borderlands 3 นี้ ที่ผสมผสานกราฟฟิคอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมเข้ากับเทคนิคการแสดงผลแสงและเงาที่ทันสมัย ทำให้สิ่งแวดล้อมของเกม Borderlands 3 มีมิติกว่าทุกครั้ง ซึ่งทำให้การสำรวจแผนที่สนุกกว่าเดิมขึ้นไปอีกขั้น เป็นผลดีมากในภาพรวมเพราะเกม Borderlands มักจะบังคับให้ผู้เล่นจำเป็นต้องเดินทางไปๆ กลับๆ ในแผนที่เดิมหลายต่อหลายครั้งอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าผู้เล่นอยากจะเก็บภารกิจเสริมที่มีอยู่มากมายในเกม การที่ปรับปรุงสภาพแวดล้อมก็ทำให้การเล่นจุดนี้ไม่น่าเบื่อเหมือนหลายๆ ภาคที่ผ่านมา ที่พัฒนาไปอีกขั้นก็คือกราฟฟิคโมเดลของปืนทุกชนิดในเกม ที่เพิ่มความละเอียดขึ้นมาอย่างมาก ปืนทุกกระบอกจะมีรายละเอียดหรือกลไกเล็กๆ น้อยๆ ที่ขยับอยู่ตลอดเวลา ปืนแต่ละชนิดยังมีกราฟฟิคกระสุนและเสียงยิงที่แตกต่างกัน ขนาดปืนที่หน้าตาคล้ายกันสองกระบอกยังอาจจะยิงกระสุนออกมาเป็นคนละแบบอย่างสิ้นเชิง แถมด้วยจำนวนปืนที่เกมมีให้ลองใช้กันเป็นหลักพันล้านกระบอก ทำให้การได้ปืนมาใหม่ซักกระบอกมีความหมายมากกว่าแค่การพัฒนาความสามารถตัวละคร เพราะแม้จะเล่นไปแล้วเป็นสิบชั่วโมง แต่ผู้เขียนก็ยังตื่นเต้นที่จะได้ลองหยิบปืนกระบอกใหม่ๆ แปลกๆ ขึ้นมาลองใช้ตลอดเวลา ความพิเศษอีกอย่างในเกมภาคใหม่นี้คือการเปิดให้ผู้เล่นสามารถเลือกปรับให้เกมแสดงผลโดยเน้น Resolution (ความคมชัด) หรือ Framerate (เฟรมเรต) ได้ด้วย การเลือกโหมด Resolution จะทำให้เกมเน้นแสดงภาพพื้นผิวและแสง/เงาในระดับ 4K แต่จะล๊อคเฟรมเรตไว้ที่ 30FPS ส่วนโหมด Framerate จะทำให้เกมลดความคมชัดของกราฟฟิคลง แลกกับการเล่นที่รู้สึกลื่นไหลมากขึ้น สำหรับผู้เขียนรีวิวเกมในเครื่อง PS4 Pro และเลือกโหมด Framerate ทำให้เกมแสดงผลที่ความชัด 1080p 60FPS จากการทดสอบพบว่าการเลือกโหมด Resolution นั้นทำให้ภาพพื้นผิวทั้งหมดในเกมสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่เกมเองก็ไม่ได้ใช้กราฟฟิคสมจริงเป็นพิเศษด้วยแล้วด้วย เรียกว่าอาจจะใกล้เคียงกับใน PC เลยก็ว่าได้ ในขณะที่การเลือกโหมด Framerate นั้นทำให้ภาพมีความ แบน ลงอย่างชัดเจน ไม่ถึงกับทำให้ภาพไม่สวย แต่ก็ลดความมีมิติลงอย่างชัดเจนเลย แลกมากับการที่เกมปลดล๊อคเฟรมเรตให้ขึ้นไปได้ถึง 60FPS (แม้ว่าเฟรมเรตของเกมมักจะเหวี่ยงไปมาพอสมควรในจังหวะชุลมุน) ทั้งนี้ แม้ว่ากราฟฟิคของเกมในภาพรวมจะถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่เกมก็ยังคงมีปัญหาเรื่องเฟรมตกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเวลาเล่นออนไลน์ ที่บางครั้งเกมก็จอค้างหรือมืดไปเลยในเวลาที่กำลังบู๊ๆ กันอยู่เพราะเอฟเฟกต์กระสุนอันอลังการของทั้งเราและศัตรู แถมบางครั้งเสียงของเกมก็ชอบตัดไปเอง หรืออาจจะช้าตามภาพไม่ทัน ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่มักจะพบเจอในเกม Borderlands 2 ซึ่งวางจำหน่ายมาแล้วเกือบ 10 ปีด้วย แม้จะเกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรงจนส่งผลเสียกับความสนุกของเกมขนาดนั้นในความเห็นของผู้เขียน แต่ทั้งหมดก็เป็นปัญหาที่น่าจะแก้ไขให้หมดไปได้นานแล้วอยู่ดี ◊ เกมเพลย์ ◊ เช่นเดียวกับในเกมภาคที่ผ่านๆ มา สิ่งแรกที่ผู้เล่นจะต้องทำเมื่อเริ่มเล่นเกม Borderlands 3 ก็คือการเลือกตัวละครนักล่าสมบัติที่เราจะเล่น (จากทั้งหมด 4 ตัว) ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละตัวจะมาพร้อมกับความสามารถและจุดดี-จุดด้อยที่แตกต่างกันไป อย่างตัวละคร Amara ที่มาพร้อมกับความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดและการสร้างความเสียหายแบบ Elemental (ธาตุ) หรือ FL4K ที่สามารถใช้สัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ ควบคู่ไปกับความสามารถสายนักล่าอย่างการล่องหนเพื่อเพิ่มความเสียหายแบบ Critical Damage (ความเสียหายเมื่อยิงจุดอ่อนศัตรู) เป็นต้น แต่ในขณะที่เกมภาคเก่าๆ จะให้นักล่าสมบัติตัวหนึ่งมีความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียว เกมนี้จะทำให้นักล่าสมบัติแต่ละตัวมีความสามารถพิเศษให้เลือกใช้ถึงตัวละ 3 อย่าง เช่นตัวละคร Zane จะมีความสามารถในการเรียกหุ่นโดรนออกมาช่วยโจมตี หรือสร้างเกราะบาเรียเพื่อป้องกันเพื่อนในทีม หรือจะสร้างร่างแยกขึ้นมาหลอกศัตรูก็ได้ ทำให้นักล่าสมบัติแต่ละตัวมีแนวทางในการพัฒนาที่หลากหลายขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มาก แถมเกมยังเปิดให้ผู้เล่นสามารถรีเซ็ตความสามารถของตัวละครเพื่อเปลี่ยนสายได้ตลอดเวลาด้วย (ใช้เงินในเกมเพียงน้อยนิด) ถือเป็นข้อปรับปรุงที่ใหญ่หลวงมากๆ สำหรับเกม เพราะการจะเล่นให้จบเนื้อเรื่องซักครั้งต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมง ทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนแนวการเล่นให้รู้สึกใหม่ได้ตลอดเวลาด้วย นอกจากระบบตัวละครที่พัฒนาแล้ว ยังมีเกมเพลย์การยิงปืนและเคลื่อนเบื้องต้นที่ถูกปรับให้ทันสมัยเทียบเท่ากับเกม FPS ยุคใหม่ด้วย โดยในจุดนี้ผู้เขียนยกให้เป็นข้อปรับปรุงที่ดีที่สุดในเกมภาคใหม่นี้เลย คนที่เคยเล่นเกม Borderlands ภาคเก่าๆ มาก่อนน่าจะรู้ดีว่าระบบการยิงปืนในเกมมักจะมีความลอยๆ หวิวๆ แปลกๆ เมื่อเทียบกับเกม FPS ทั่วไป ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ เกม FPS ไม่ค่อยชอบเกมภาคเก่าๆ นั่นเอง แต่ในภาคนี้ปัญหาเหล่านั้นได้หมดไปอย่างสิ้นเชิง ปืนทุกกระบอกให้ความรู้สึกเวลายิงที่ดี แม้ว่าความสามารถประจำตัวของปืนเหล่านั้นจะพิศดารแค่ไหนก็ยังรู้สึกดี มีการตอบสนองทุกครั้งที่ลั่นไก การเคลื่อนที่ของตัวละครแม้จะไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเท่าการยิงปืน แต่ก็เพิ่มความสามารถอย่างการปีนป่ายและการสไลด์ ที่ทำให้การสำรวจแผนที่มีความง่ายและอิสระขึ้นมาเล็กน้อย ในส่วนของระบบปืนนั้น เกม Borderlands 3 ได้เคยโฆษณาเอาไว้อย่างภาคูภูมิว่าเกมจะมีปืนและระเบิดให้เลือกใช้กันได้นับพันล้านชนิด! ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ได้พูดปากเปล่าแน่นอน จากการเล่นของผู้เขียน พบว่าแม้จะมีปืน/ระเบิดหลายกระบอกที่หน้าตาคล้ายๆ กัน หรือปรับเปลี่ยนแค่เพียงตัวเลขค่าสถานะ แต่ส่วนใหญ่เมื่อนำมาใช้ยิงจริงๆ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไปเลย แถมหลายๆ กระบอกยังมีความสามารถกวนๆ อย่างปืนที่มีขางอกออกมาวิ่งไล่ยิงศัตรูด้วยตัวเอง หรือปืนที่จะเพิ่มความรุนแรงเมื่อเรายิงตูดศัตรู หรือกระทั่งปืนที่ยิงแล้วมีเสียงตัวร้ายคอยกวนเราตลอดเวลา ทำให้การได้ปืนใหม่ๆ ในเกมเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นทุกครั้งแม้จะมีปืนผ่านมือกี่กระบอกก็ตาม โดยเฉพาะปืนระดับตำนานหรือ Legendary (สีเหลือง) ซึ่งมักจะมีความสามารถเพี้ยนๆ ฮาๆ ที่คาดไม่ถึงติดมาด้วยเสมอ สภาพแวดล้อมที่เพิ่มเข้ามาใหม่อีกมากมายก็มีส่วนช่วยทำให้เกมเพลย์หลากหลายขึ้นด้วย เพราะในแต่ละดาวที่เราไปเยือนตามเนื้อเรื่องมักจะมาพร้อมกับศัตรูชนิดใหม่ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทำให้เราต้องวางแผนการต่อสู้และเปลี่ยนปืนใช้อยู่เสมๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่นเหล่าทหาร Maliwan ที่เราต้องเจอบนดาว Prometheus ซึ่งมักจะมีเกราะบาเรียติดตัว ทำให้เราต้องใช้อาวุธธาตุสายฟ้าเพื่อทำลายบาเรียซะก่อน หรือศัตรูจากดาว Eden-6 ที่มักจะมีเลือดเยอะ ทำให้เราต้องใช้ปืนธาตุไฟเพื่อลดเลือดเร็วๆ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ก็ช่วยเสริมระบบปืนอันหลากหลายได้ดี ทำให้ผู้เล่นมีเหตุผลในการหาปืนใหม่ๆ ใช้ตลอดเวลา ความหลากหลายของศัตรูจะเห็นได้ชัดที่สุดเมื่อสู้กับเหล่าบอสน้อยใหญ่ที่เราพบเจอได้ในเกม ที่มักจะมาพร้อมกับเทคนิคการเอาชนะที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นต้องใช้การวางแผนแทนการดระโดดเข้าไปสาดกระสุนเฉยๆ เหมือนศัตรูทั่วไป ทำให้การสู้บอสทุกตัวมีความท้าทาย และทำหน้าที่เป็นช่วงขั้นระหว่างการบู๊แหลกได้เป็นอย่างดี องค์ประกอบสุดท้ายที่อยากพูดถึงคือเรื่องของการเล่นกับเพื่อนหรือโหมด Multiplayer ที่ปรับปรุงมาใหม่เช่นกัน โดยในภาคนี้ได้ใส่ระบบใหม่ที่สำคัญลงไปสองอย่างคือ Loot-Instancing และ Level-scaling โดยอันแรก (Loot-Instancing) นั้นจะทำให้ผู้เล่นทุกคนที่เล่นด้วยกันจะได้รับไอเทมเป็นของตัวเอง ตั้งแต่กระสุน หลอดเพิ่มเลือด ไปจนถึงปืนต่างๆ ที่เก็บได้ตามฉาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปแย่งกันเองเหมือนภาคก่อนๆ อีกต่อไป (แต่ก็ยังปรับให้แย่งกันเหมือนภาคเก่าได้นะ) ส่วน Level-scaling จะทำให้ผู้เล่นทุกคนต่อสู้กับศัตรูตามเลเวลของตัวเอง เช่นถ้าตัวละครผู้เล่น A เลเวล 5 ก็จะสู้กับศัตรูเลเวล 5 ในขณะที่ผู้เล่น B ซึ่งเลเวล 20 ที่อยู่ในห้องเดียวกันจะเห็นศัตรูเป็นเลเวล 20 ทั้งหมด หมายความว่าผู้เล่นจะสามารถเข้าร่วมเล่นกับเพื่อนได้ตลอดไม่ว่าเลเวลจะห่างกันแค่ไหน โดยที่เกมจะยังคงมีความท้าทายเหมาะสมกับระดับของผู้เล่นคนนั้นๆ เองด้วย ถือเป็นระบบใหม่ที่น่าสนใจมากๆ เพราะจะหมดปัญหาเรื่องการนัดเวลาเล่นให้ตรงกันไปเลย ทำให้การเล่นกับเพื่อนง่ายกว่าทุกครั้ง เชื่อว่าระบบนี้น่าจะถูกนำไปปรับใช้กับเกมแบบ Multiplayer อื่นๆ อีกในอนาคต พูดมาถึงตรงนี้ คงต้องเอ่ยถึงข้อเสียของเกมซะบ้าง โดยข้อเสียหลักๆ ของเกม Borderlands 3 น่าจะเป็นเรื่องของการแลคหรือกระตุกซึ่งเกิดขึ้นบ่อยพอสมควร โดยเฉพาะเวลาเล่นออนไลน์กับเพื่อน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงจนทำให้เล่นไม่ได้หรือไม่สนุก แต่ก็เป็นปัญหาที่มีมาตั้งแต่สมัย Borderlands 2 แล้ว และไม่ควรเกิดขึ้นแล้วในเกมที่ออกมาในช่วงนี้ การเลือกปรับให้เกมรันในโหมด Performance อาจจะช่วยตรงจุดนี้ได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ปัญหาตรงนี้หายไปเลยได้อยู่ดี ◊ สรุป ◊ แม้จะไม่ใช่เกมที่เพอร์เฟ๊ค แต่ Borderlands 3 ก็เป็นเกมที่เล่นสนุกมากๆ แทบจะตลอดเวลาที่ได้เล่น ด้วยเกมเพลย์ที่เรียบง่ายแต่เร้าใจ กราฟฟิคลายการ์ตูนสีสันสดใสที่แม้จะผ่านไปเป็นสิบๆ ชั่วโมงก็ยังน่ามองอยู่เสมอ และความหลากหลายของอาวุธปืนและระเบิดที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา ทำให้เกม Borderlands 3 สามารถทวงศักดิ์ศรีในฐานะผู้บุกเบิกแนวเกม Shooter-Looter ได้อย่างสมภาคภูมิ ใครที่ต้องการเกมที่เล่นสนุกๆ กับเพื่อนได้ยาวๆ ไม่ควรพลาด! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่       [penci_review id="29087"]
20 Sep 2019
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "ฺBorderlands 3"
Cate Blanchett ขึ้นแท่นรับบทตัวละคร Lilith ใน Borderlands ฉบับภาพยนตร์
เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แฟนๆ ของซีรี่ส์เกม FPS Shooter-Looter ชื่อดังอย่าง Borderlands ก็ได้รับข่าวดีกรทันหัน ว่าเกมขวัญใจของพวกเขากำลังจะได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดง ซึ่งจะกำกับโดยผู้กำกับหนังสยองขวัญชื่อดัง Eli Roth (Hostel, The Green Inferno) และอำนวยการสร้างโดยค่ายหนัง Lionsgate อีกด้วย ล่าสุด ดูเหมือนว่าจะมีควมคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์ให้ได้ติดตามกันแล้ว เมื่อเว็บไซต์ข่าวบันเทิง Variety รายงานว่ามีแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่าภาพยนตร์ Borderlands ได้นักแสดงนำคนแรกแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะนักแสดงที่ว่าคือคุณ Cate Blanchett (Thor: Ragnarok, The Lord of the Rings, etc.) ผู้ซึ่งรับบทเป็นตัวละคร Lilith นั่นเอง! ทั้งนี้ แม้ว่าทางค่าย Lionsgate จะปฏิเสธที่จะยืนยันข่าวนี้ แต่ค่ายเกม Gearbox ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ Borderlands กลับดูเหมือนจะยืนยันข้อมูลนี้ผ่านทวิตเตอร์หลักของค่ายเลย (CEO ของ Gearbox คุณ Randy Pitchford ยังนั่งตำแหน่ง Executive Producer ของหนังด้วย) We are incredibly excited about this news! Borderlands is shaping up to be an amazing movie!https://t.co/42VT8YUQkc pic.twitter.com/zJY7M7B5to — GearboxOfficial (@GearboxOfficial) May 5, 2020 สำหรับตัวละคร Lilith เป็นหนึ่งในตัวละครที่ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นได้ในเกม Borderlands ภาคแรก แบะกลายมาเป็นหนึ่งในตัวละครหลักที่สำคัญที่สุดในจักรวาล Borderlands ในเกมภาคต่อๆ มา เธอเป็นหนึ่งใน Siren ไม่กี่คนในจักรวาล และมีพลังพิเศษมากมายตั้งแต่การล่องหน การบิน การวาร์ป หรือกระทั่งการปล่อยไฟออกมาจากร่างกาย จนทำให้เธอได้รับฉายา "เหยี่ยวเพลิง" (Fire Hawk) ในเกม Credit: PCGamer  สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
06 May 2020
Borderlands 3 เพิ่ม Mini Game ใหม่ Borderlands Science!
Borderlands 3 วางจำหน่ายมาได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งตัวเกมภาคนี้ก็เรียกได้ว่าประสบความสําเร็จเหมือนกับภาครุ่นพี่เช่นกัน ผู้พัฒนายังคงพยายามอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ๆ เขามาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรถ้าหากว่าเราจะได้เห็น Mini Game ใหม่ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาใน Borderlands 3 ด้วย อย่างลาสุดก็เพิ่งมีการเพิ่ม Mini Game Arcade ใหม่เข้ามาในเกมชื่อว่า Borderlands Science แต่มันพิเศษตรงที่ว่าถ้าหากใครก็ตามที่เล่น Mini Game ตัวนี้ จะเหมือนเป็นการช่วยเหล่านักวิทยาศาสตร์ศึกษาเกี่ยวกับ DNA ในตัวมนุษย์ไปด้วยครับ! Mini Game Arcade ใหม่นี้เป็นผลงานของ Massively Multiplayer Online Science และ The Microsetta Initiative โดย Borderlands Science จะเป็นเกม Puzzle ที่ให้ผู้เล่นทำการดันบล็อกต่างๆ ขึ้นไปเรียงตัวกันให้ได้มากที่สุด ซึ่งบล็อกดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกจำลองแบบมาจาก DNA ของมนุษย์ ดังนั้นจึงหมายความว่าการเล่น Mini Game นี้จะเป็นการช่วยเหล่านักวิทยาศาสตเปรียบเทียบ Microbiome ไปด้วยนั้นเอง แน่นอนว่าเกมมันได้ยากถึงขนาดว่าต้องสามารถแก้ปัญหาในแต่ละด่านให้ได้ทั้งหมดจึงจะสามารถผ่านได้ แต่เพียงแค่แก้ Puzzle จนสามารถทำคะแนนได้ถึงที่กำหนดก็จะผ่านในแต่ละด่านได้เลย การเล่น Mini Game ตัวนี้ยังมอบ Currency ในเกม ที่เอาไว้แลก สกินต่างๆ ของเหล่า Vault Hunter อีกด้วย ตัวเครื่อง Borderlands Science จะถูกตั้งอยู่บนยาน Sanctuary III บริเวณมุมห้องพยาบาลของ Doctor Tannis Borderlands 3 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: Borderlands ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
08 Apr 2020
Borderlands 3 เตรียมปล่อยอัปเดตใหม่ เพิ่มคอนเทนต์ Late Game มากมาย!
Borderlands 3 วางจำหน่ายบน Steam มาได้เกือบจะ 2 อาทิตย์แล้ว ซึ่งเรียกได้ว่าประสบความสําเร็จอย่างมากจริงๆ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่ายอดผู้เล่นพร้อมกันของเกมนี้ทะลุ 90,000 คนไปแล้ว อีกทั้งเร็วๆ นี้จะมีการปล่อย DLC ตัวใหม่ Guns, Love, and Tentacles ออกมาด้วย ยังไม่ใช้แค่นั้น เพราะดูเหมือนว่า Cap Level ของตัวละครกำลังจะถูกเพิ่มเป็น 57 แทน และโหมดความยากแบบ Mayhem 2.0 ก็กำลังจะถูกเพิ่มเข้ามาในเกมครับ Official เว็บไซต์ของ Borderlands 3 ได้มีการปล่อย Update Blog อธิบายว่ากำลังจะมีอะไรบ้างถูกอัปเดตเข้ามาในเกม ซึ่งหลักๆ เลยที่เป็นเรื่องใหม่ ก็จะมีการปลด Max เลเวลของตัวละครเป็น 57 แทน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อค Capstone ได้อีก 2 อัน นอกจากเรื่องของเลเวลแล้ว ก็มีเรื่องโหมด Mayhem 2.0 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความยากอีก 10 ระดับให้ผู้เล่นได้ท้าทาย แน่นอนว่ายิ่งยากมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เป็นการเพิ่ม Rate Drop ด้วยเช่นกัน โดย Mayhem 2.0 จะมาพร้อมกับ Revenge of the Cartels ในช่วงต้นเดือน เมษายน Revenge of the Cartels คือชื่อของ 6 Seasonal Event ใหม่ โดยในอีเวนต์นี้ จะมีการเพิ่มแมพใหม่ที่มีชื่อว่า TheMansion ซึ่งจะเป็นเหมือน Arena ที่มีศัตรูออกมาเลยๆ และแตกต่างกันไป อีกทั้งศัตรูแต่ละประเภทก็จะดรอปไอเทมแตกต่างกันไปด้วย นอกจากนี้อีเวนต์ดังกล่าวยังมี Challenge มากมาย ที่ถ้าหากสามารถทำได้สำเร็จแล้ว จะได้รับ  Gear พิเศษเป็นของรางวัลด้วยครับ Credit: ฺPCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
25 Mar 2020
Borderlands 3 จะเปิดให้ Pre-Load บน Steam ได้วันที่ 10 มีนาคม 2020 นี้!
Borderlands 3 วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 6 เดือนแล้ว และจากข่าวล่าสุดที่บอกว่า Borderlands 3 กำลังจะวางจำหน่ายบน Steam ในวันที่ 13 มีนาคม 2020 นี้ ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเมื้อเกมวางจำหน่ายแล้วใคร ๆ ก็คงอยากจะเข้าไปเล่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โลกนี้จึงเกิดระบบที่เรียกว่า Pre-Load ขึ้นมานั้นเอง และล่าสุดก็ดูเหมือนว่าเราจะสามารถ Pre-Load เกม Borderlands 3 บน Steam ได้ในวันที่ 10 มีนาคม 2020 นี้ครับ! Gearbox Software ได้ทำการโพสต์ข่าวใหม่บนเว็บไซต์ Borderlands 3 ในลักษณะ FAQ และภายในโพสต์ดังกล่าวก็ได้ระบุไว้ว่า "ตัวเกม Borderlands 3 บน Steam จะสามารถ Pre-Load ได้ในช่วงบ่ายของวันที่ 10 มีนาคม 2020 (Pacific Time) และสามารถเริ่มเล่นเกมได้เวลา 7.00 AM วันที่ 13 มีนาคม 2020 (Pacific Time)" นอกจากนี้ผู้เล่นบน Steam กับ Epic Game Store จะสามารถ Cross-Play ได้ด้วย Borderlands 3 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC เกมจะวางจำหน่ายบน Steam ในวันที่ 13 มีนาคม 2020 นี้ครับ Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
06 Mar 2020
Borderlands 3 เตรียมปล่อย DLC Campaign ใหม่ในงาน PAX East 2020 นี้!
Borderlands 3 ภาคต่อของบิดาแห่งเกม Looter Shooter วางจำหน่ายมาได้เกือบจะครึ่งปีแล้ว ซึ่งถ้าใครเป็นแฟน ๆ ของเกมซีรีส์นี้ ก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่านอกจากความสนุกในการเล่น กับความเกรียนแล้ว เกมนี้ยังขึ้นชื่อในเรื่องทำ DLC ออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย โดย DLC ตัวแรกของ Borderlands 3 ก็เพิ่งวางจำหน่ายไปในช่วงปลายเดือน ธันวาคม ที่ผ่านมา แถมยังนำ Handsome Jack กลับมากับ DLC ตัวนี้ด้วย และ DLC Campaign ตัวต่อไปก็ดูเหมือนจะเปิดตัวครั้งแรกในงาน PAX East 2020 ที่จะถึงนี้ครับ! Official Twitter ของ Gearbox Software และหน้าเว็บไซต์ของ Borderlands ได้ทำการโพสต์ข้อความว่า "ในงาน PAX East 2020 ที่จะถึงนี้ว่า จะมีการโชว์ DLC Campaign ตัวใหม่ในงาน " ซึ่งก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า เนื้อเรื่องใน DLC ตัวนี้จะเกี่ยวกับใคร แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับ Axton , Krieg , Gaige หรือ Athena ที่ตอนนี้ยังไม่เคยโผล่มาเลยในเกมภาคนี้ อย่างไรก็ตามวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2020 นี้คิดว่าได้รู้กันครับ Borderlands 3 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 , Xbox One และ PC Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
25 Feb 2020
ฺBorderlands 3 อาจจะได้พอร์ตไปลงเครื่อง Nintendo Switch!
Borderlands 3 เกม Looter Shooter ฟอร์มยักษ์ ที่กลับมาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ ที่สามารถเล่นได้ทั้งบน PS4, Xbox One, PC ถึงแม้ว่าทาง Gearbox Software จะยังไม่เคยประกาศว่าจะนำเกม Borderlands 3 นี้ไปพอร์ตลงให้กับเครื่อง Nintendo Switch ด้วย แต่ดูเหมื่อนว่าไม่ใช้ว่าจะเป็นไปไม่ไดซะทีเดียวเช่นกัน! สืบเนื่องจากการถ่ายทอดสดของทาง Borderlands 3 เอง ที่ทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมากล่าวเองว่า "ไม่เคยบอกว่าจะไม่พอร์ตไปลง มันอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต สักวันก็เป็นได้" ถ้าย้อนกลับไปช่วงเดือน เมษายน ทางผู้พัฒนาก็ได้เคยกล่าวว่าอยากเห็น Borderlands บน Switch เช่นกัน ดังนั้นต้องบอกว่ายังคงมีหวังอยู่ครับ สามารถรับชม วีดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
24 Sep 2019
Review: รีวิวเกม Borderlands 3 "การกลับมาของตัวพ่อเกม Shooting-RPG"
แนวเกม: Shooter-Looter (FPS/RPG) ผู้พัฒนา: Gearbox Software ผู้จัดจำหน่าย: 2K Games เวลาที่ใช้เล่น: ประมาณ 30 กว่าชั่วโมง (จบเนื้อเรื่อง) แพลตฟอร์ม: PS4, Xbox One, PC (Epic Games store) รีวิวใน PS4 Pro ถ้าจะให้พูดถึงแนวเกมเกมแนว Shooter-Looter หรือเกมยิงปืน (ทั้งแบบ FPS และบุคคลที่สาม) ที่ผสมผสานองค์ประกอบของเกม RPG เข้าไปด้วย ถือเป็นแนวเกมลูกผสมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคคอนโซลปัจจุบันนี้ ตั้งแต่เกมอย่าง Destiny, Anthem, The Division, Warframe, หรือเกมที่กำลังจะออกอย่าง Ghost Recon: Breakpoint ต่างก็จัดอยู่ในเกมแนว Shooter-Looter ทั้งสิ้น และทุกเกมก็เป็นเกมที่มีคนจับตามองอย่างใกล้ชิดตลอดการพัฒนา (แต่วางจำหน่ายมาแล้วรุ่งหรือร่วงอีกเรื่องหนึ่ง...) อีกหนึ่งเกมแนว Shooter-Looter ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยในฐานะผู้ให้กำเนิด (หรืออย่างน้อยก็เป็นเกมที่ทำให้แนวนี้ฮิตขึ้นมา) ซึ่งก็คือเกมซีรี่ส์ Borderlands ที่วางจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 2009 โดยนำเกมเพลย์แบบชู้ตติ้งบุคคลที่ 1 (FPS) มาผนวกเข้ากับระบบการพัฒนาตัวละครและไอเทมของเกม RPG จนทำให้เกมกลายเป็นซีรี่ส์ในดวงใจของคนหลายๆ คนตลอดหลายปีที่ผ่านมา จนขนาดเกมภาคต่อ Borderlands 2 (วางจำหน่ายเมื่อปี 2012) ยังคงมียอดผู้เล่นหลายล้านคนจวบจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่เว้นช่วงให้คิดถึงไปหลายปี ในที่สุดเกมเมอร์ทั่วโลกก็จะได้มีโอกาสหวนคืนสู่ดาว Pandora อีกครั้งกับเกม Borderlands 3 ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ที่กลับมาพร้อมกับองค์ประกอบด้านกราฟฟิคลายการ์ตูน Cel-Shade อันเป็นเอกลักษณ์ และเกมเพลย์แบบคลาสสิคที่สามารถรักษาจิตวิญญาณดั้งเดิมของซีรี่ส์เอาไว้พร้อมๆ กับการปรับปรุงรายละเอียดเกมเพลย์ให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งน่าจะตอบโจทย์แฟนๆ ดั้งเดิมของซีรี่ส์ที่เฝ้ารอมาตลอดได้เป็นอย่างดี ◊ เนื้อเรื่อง ◊ สำหรับเนื้อเรื่องของเกม Borderlands 3 จะเกิดขึ้น 5 ปีหลังจากการตายของตัวร้าย Handsome Jack (แจ๊คหน้าหล่อ) จากเกมภาคที่แล้ว โดยผู้เล่นจะสามารถเลือกรับบทเป็นนักล่าสมบัติ (Vault Hunter) หน้าใหม่ทั้งหมด 4 ตัวเพื่อร่วมมือกับกลุ่มนักสู้ Crimson Raiders ที่นำโดยตัวละครอดีตนักล่าสมบัติจากเกมภาคแรก Lilith เพื่อต่อกรกับสองคู่หูฝาแฝดผู้ชั่วร้าย Calypso Twins และเหล่าลูกสมุนนับล้านจากกลุ่ม Children of the Vault และยับยั้งแผนในการยึดครองจักรวาลของทั้งสองคนนั่นเอง แม้ว่าอาจจะไม่ใช่องค์ประกอบที่ผู้เล่นเกม Borderlands จะคิดถึงเป็นอย่างแรกเมื่อพูดถึงจุดเด่นของเกม แต่เนื้อเรื่องในเกม Borderlands 3 ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเกมได้เป็นอย่างดี ด้วยบทอันยียวนกวนประสาทของเกมที่ปล่อยมุกตลกตลอดเวลา ไปจนถึงเหล่าตัวละครทั้งเก่าและใหม่ที่วนเวียนกันเข้ามาสร้างความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ทำให้การเล่นผ่านเควสเนื้อเรื่องที่มีอยู่มากมายของเกมผ่านไปได้อย่างรวดเร็วกว่าที่คิดไว้ อย่างผู้เขียนใช้เวลาเล่นจนจบเนื้อเรื่อง (เล่นเควสเสริมน้อยมาก) ยังใช้เวลาไปเกือบ 35 ชั่วโมง แต่กลับไม่ได้รู้สึกว่านานเลยซักนิดเดียว ยังสามารถเล่นต่่อไปได้เรื่อยๆ เพราะอยากเห็นว่าเกมจะมีตัวละครเพี้ยนๆ แปลกๆ อะไรออกมาให้เราเจออีก ที่น่าชมอีกอย่างคือเนื้อเรื่องของภารกิจเสริมหลายๆ อัน ที่มีความละเอียดและต่อเนื่องไม่ต่างกับภารกิจเนื้อเรื่องเลยด้วย แม้จะไม่ใช่ภารกิจเสริมทั้งหมดที่จะมีคุณภาพดีขนาดนั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายภารกิจที่สนุกไม่แพ้เนื้อเรื่องหลัก แถมภารกิจส่วนใหญ่ยังมีวิธีการผ่านที่ค่อนข้างแตกต่างกัน (ไม่ได้แค่ให้ ฆ่ามอน 5 ตัว หรือ เก็บของ 5 ชิ้น) หรือบางอันอาจจะมีเงื่อนไขในการผ่านที่แปลกแหกวแนวในแบบที่เราคาดไม่ถึง ทำให้แม้จะทำไปเยอะแค่ไหนก็ยังรู้สึกว่ามีอะไรใหม่ๆ มาให้ตื่นเต้นหรือตลกไปกับมันแทบจะตลอดเวลาเลย แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยความที่เกมเป็นภาคต่อ รวมไปถึงความยาวของเนื้อเรื่องและรูปแบบการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้า (เมื่อเทียบกับเกมทั่วไป) อาจจะทำให้ผู้เล่นที่ไม่ได้อินกับเนื้อเรื่องหรือตัวละครของเกมภาคเก่าๆ มาก่อนรู้สึกงงกับเนื้อเรื่องหรือมุกล้อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรืออาจจะหงุดหงิดกับการดำเนินเรื่องอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังจะได้รับประสบการณ์เนื้อเรื่องแบบจริงจังอย่างในเกมเนื้อเรื่องทั่วๆ ไป ก็น่าจะยังหาความบันเทิงกับมุกตลกหรือตัวละครกาวๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ได้อยู่ ◊ กราฟิก / การนำเสนอ ◊ แม้ว่าเกม Borderlands 3 จะไม่ได้ใช้กราฟฟิคที่สวยสมจริงเหมือนเกมหลายๆ เกม แต่คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าภาพกราฟฟิคลายการ์ตูน Cel-Shade ของเกมนั้นไม่สวย โดยเฉพาะในเกม Borderlands 3 นี้ ที่ผสมผสานกราฟฟิคอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมเข้ากับเทคนิคการแสดงผลแสงและเงาที่ทันสมัย ทำให้สิ่งแวดล้อมของเกม Borderlands 3 มีมิติกว่าทุกครั้ง ซึ่งทำให้การสำรวจแผนที่สนุกกว่าเดิมขึ้นไปอีกขั้น เป็นผลดีมากในภาพรวมเพราะเกม Borderlands มักจะบังคับให้ผู้เล่นจำเป็นต้องเดินทางไปๆ กลับๆ ในแผนที่เดิมหลายต่อหลายครั้งอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้าผู้เล่นอยากจะเก็บภารกิจเสริมที่มีอยู่มากมายในเกม การที่ปรับปรุงสภาพแวดล้อมก็ทำให้การเล่นจุดนี้ไม่น่าเบื่อเหมือนหลายๆ ภาคที่ผ่านมา ที่พัฒนาไปอีกขั้นก็คือกราฟฟิคโมเดลของปืนทุกชนิดในเกม ที่เพิ่มความละเอียดขึ้นมาอย่างมาก ปืนทุกกระบอกจะมีรายละเอียดหรือกลไกเล็กๆ น้อยๆ ที่ขยับอยู่ตลอดเวลา ปืนแต่ละชนิดยังมีกราฟฟิคกระสุนและเสียงยิงที่แตกต่างกัน ขนาดปืนที่หน้าตาคล้ายกันสองกระบอกยังอาจจะยิงกระสุนออกมาเป็นคนละแบบอย่างสิ้นเชิง แถมด้วยจำนวนปืนที่เกมมีให้ลองใช้กันเป็นหลักพันล้านกระบอก ทำให้การได้ปืนมาใหม่ซักกระบอกมีความหมายมากกว่าแค่การพัฒนาความสามารถตัวละคร เพราะแม้จะเล่นไปแล้วเป็นสิบชั่วโมง แต่ผู้เขียนก็ยังตื่นเต้นที่จะได้ลองหยิบปืนกระบอกใหม่ๆ แปลกๆ ขึ้นมาลองใช้ตลอดเวลา ความพิเศษอีกอย่างในเกมภาคใหม่นี้คือการเปิดให้ผู้เล่นสามารถเลือกปรับให้เกมแสดงผลโดยเน้น Resolution (ความคมชัด) หรือ Framerate (เฟรมเรต) ได้ด้วย การเลือกโหมด Resolution จะทำให้เกมเน้นแสดงภาพพื้นผิวและแสง/เงาในระดับ 4K แต่จะล๊อคเฟรมเรตไว้ที่ 30FPS ส่วนโหมด Framerate จะทำให้เกมลดความคมชัดของกราฟฟิคลง แลกกับการเล่นที่รู้สึกลื่นไหลมากขึ้น สำหรับผู้เขียนรีวิวเกมในเครื่อง PS4 Pro และเลือกโหมด Framerate ทำให้เกมแสดงผลที่ความชัด 1080p 60FPS จากการทดสอบพบว่าการเลือกโหมด Resolution นั้นทำให้ภาพพื้นผิวทั้งหมดในเกมสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่เกมเองก็ไม่ได้ใช้กราฟฟิคสมจริงเป็นพิเศษด้วยแล้วด้วย เรียกว่าอาจจะใกล้เคียงกับใน PC เลยก็ว่าได้ ในขณะที่การเลือกโหมด Framerate นั้นทำให้ภาพมีความ แบน ลงอย่างชัดเจน ไม่ถึงกับทำให้ภาพไม่สวย แต่ก็ลดความมีมิติลงอย่างชัดเจนเลย แลกมากับการที่เกมปลดล๊อคเฟรมเรตให้ขึ้นไปได้ถึง 60FPS (แม้ว่าเฟรมเรตของเกมมักจะเหวี่ยงไปมาพอสมควรในจังหวะชุลมุน) ทั้งนี้ แม้ว่ากราฟฟิคของเกมในภาพรวมจะถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี แต่เกมก็ยังคงมีปัญหาเรื่องเฟรมตกอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเวลาเล่นออนไลน์ ที่บางครั้งเกมก็จอค้างหรือมืดไปเลยในเวลาที่กำลังบู๊ๆ กันอยู่เพราะเอฟเฟกต์กระสุนอันอลังการของทั้งเราและศัตรู แถมบางครั้งเสียงของเกมก็ชอบตัดไปเอง หรืออาจจะช้าตามภาพไม่ทัน ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่มักจะพบเจอในเกม Borderlands 2 ซึ่งวางจำหน่ายมาแล้วเกือบ 10 ปีด้วย แม้จะเกิดขึ้นบ่อยหรือรุนแรงจนส่งผลเสียกับความสนุกของเกมขนาดนั้นในความเห็นของผู้เขียน แต่ทั้งหมดก็เป็นปัญหาที่น่าจะแก้ไขให้หมดไปได้นานแล้วอยู่ดี ◊ เกมเพลย์ ◊ เช่นเดียวกับในเกมภาคที่ผ่านๆ มา สิ่งแรกที่ผู้เล่นจะต้องทำเมื่อเริ่มเล่นเกม Borderlands 3 ก็คือการเลือกตัวละครนักล่าสมบัติที่เราจะเล่น (จากทั้งหมด 4 ตัว) ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละตัวจะมาพร้อมกับความสามารถและจุดดี-จุดด้อยที่แตกต่างกันไป อย่างตัวละคร Amara ที่มาพร้อมกับความสามารถในการต่อสู้ระยะประชิดและการสร้างความเสียหายแบบ Elemental (ธาตุ) หรือ FL4K ที่สามารถใช้สัตว์เลี้ยงชนิดต่างๆ ควบคู่ไปกับความสามารถสายนักล่าอย่างการล่องหนเพื่อเพิ่มความเสียหายแบบ Critical Damage (ความเสียหายเมื่อยิงจุดอ่อนศัตรู) เป็นต้น แต่ในขณะที่เกมภาคเก่าๆ จะให้นักล่าสมบัติตัวหนึ่งมีความสามารถพิเศษเพียงอย่างเดียว เกมนี้จะทำให้นักล่าสมบัติแต่ละตัวมีความสามารถพิเศษให้เลือกใช้ถึงตัวละ 3 อย่าง เช่นตัวละคร Zane จะมีความสามารถในการเรียกหุ่นโดรนออกมาช่วยโจมตี หรือสร้างเกราะบาเรียเพื่อป้องกันเพื่อนในทีม หรือจะสร้างร่างแยกขึ้นมาหลอกศัตรูก็ได้ ทำให้นักล่าสมบัติแต่ละตัวมีแนวทางในการพัฒนาที่หลากหลายขึ้นกว่าภาคก่อนๆ มาก แถมเกมยังเปิดให้ผู้เล่นสามารถรีเซ็ตความสามารถของตัวละครเพื่อเปลี่ยนสายได้ตลอดเวลาด้วย (ใช้เงินในเกมเพียงน้อยนิด) ถือเป็นข้อปรับปรุงที่ใหญ่หลวงมากๆ สำหรับเกม เพราะการจะเล่นให้จบเนื้อเรื่องซักครั้งต้องใช้เวลาหลายสิบชั่วโมง ทำให้ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนแนวการเล่นให้รู้สึกใหม่ได้ตลอดเวลาด้วย นอกจากระบบตัวละครที่พัฒนาแล้ว ยังมีเกมเพลย์การยิงปืนและเคลื่อนเบื้องต้นที่ถูกปรับให้ทันสมัยเทียบเท่ากับเกม FPS ยุคใหม่ด้วย โดยในจุดนี้ผู้เขียนยกให้เป็นข้อปรับปรุงที่ดีที่สุดในเกมภาคใหม่นี้เลย คนที่เคยเล่นเกม Borderlands ภาคเก่าๆ มาก่อนน่าจะรู้ดีว่าระบบการยิงปืนในเกมมักจะมีความลอยๆ หวิวๆ แปลกๆ เมื่อเทียบกับเกม FPS ทั่วไป ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งที่ทำให้แฟนๆ เกม FPS ไม่ค่อยชอบเกมภาคเก่าๆ นั่นเอง แต่ในภาคนี้ปัญหาเหล่านั้นได้หมดไปอย่างสิ้นเชิง ปืนทุกกระบอกให้ความรู้สึกเวลายิงที่ดี แม้ว่าความสามารถประจำตัวของปืนเหล่านั้นจะพิศดารแค่ไหนก็ยังรู้สึกดี มีการตอบสนองทุกครั้งที่ลั่นไก การเคลื่อนที่ของตัวละครแม้จะไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเท่าการยิงปืน แต่ก็เพิ่มความสามารถอย่างการปีนป่ายและการสไลด์ ที่ทำให้การสำรวจแผนที่มีความง่ายและอิสระขึ้นมาเล็กน้อย ในส่วนของระบบปืนนั้น เกม Borderlands 3 ได้เคยโฆษณาเอาไว้อย่างภาคูภูมิว่าเกมจะมีปืนและระเบิดให้เลือกใช้กันได้นับพันล้านชนิด! ซึ่งต้องบอกเลยว่าไม่ได้พูดปากเปล่าแน่นอน จากการเล่นของผู้เขียน พบว่าแม้จะมีปืน/ระเบิดหลายกระบอกที่หน้าตาคล้ายๆ กัน หรือปรับเปลี่ยนแค่เพียงตัวเลขค่าสถานะ แต่ส่วนใหญ่เมื่อนำมาใช้ยิงจริงๆ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงไปเลย แถมหลายๆ กระบอกยังมีความสามารถกวนๆ อย่างปืนที่มีขางอกออกมาวิ่งไล่ยิงศัตรูด้วยตัวเอง หรือปืนที่จะเพิ่มความรุนแรงเมื่อเรายิงตูดศัตรู หรือกระทั่งปืนที่ยิงแล้วมีเสียงตัวร้ายคอยกวนเราตลอดเวลา ทำให้การได้ปืนใหม่ๆ ในเกมเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นทุกครั้งแม้จะมีปืนผ่านมือกี่กระบอกก็ตาม โดยเฉพาะปืนระดับตำนานหรือ Legendary (สีเหลือง) ซึ่งมักจะมีความสามารถเพี้ยนๆ ฮาๆ ที่คาดไม่ถึงติดมาด้วยเสมอ สภาพแวดล้อมที่เพิ่มเข้ามาใหม่อีกมากมายก็มีส่วนช่วยทำให้เกมเพลย์หลากหลายขึ้นด้วย เพราะในแต่ละดาวที่เราไปเยือนตามเนื้อเรื่องมักจะมาพร้อมกับศัตรูชนิดใหม่ๆ อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งทำให้เราต้องวางแผนการต่อสู้และเปลี่ยนปืนใช้อยู่เสมๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่นเหล่าทหาร Maliwan ที่เราต้องเจอบนดาว Prometheus ซึ่งมักจะมีเกราะบาเรียติดตัว ทำให้เราต้องใช้อาวุธธาตุสายฟ้าเพื่อทำลายบาเรียซะก่อน หรือศัตรูจากดาว Eden-6 ที่มักจะมีเลือดเยอะ ทำให้เราต้องใช้ปืนธาตุไฟเพื่อลดเลือดเร็วๆ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ก็ช่วยเสริมระบบปืนอันหลากหลายได้ดี ทำให้ผู้เล่นมีเหตุผลในการหาปืนใหม่ๆ ใช้ตลอดเวลา ความหลากหลายของศัตรูจะเห็นได้ชัดที่สุดเมื่อสู้กับเหล่าบอสน้อยใหญ่ที่เราพบเจอได้ในเกม ที่มักจะมาพร้อมกับเทคนิคการเอาชนะที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้เล่นต้องใช้การวางแผนแทนการดระโดดเข้าไปสาดกระสุนเฉยๆ เหมือนศัตรูทั่วไป ทำให้การสู้บอสทุกตัวมีความท้าทาย และทำหน้าที่เป็นช่วงขั้นระหว่างการบู๊แหลกได้เป็นอย่างดี องค์ประกอบสุดท้ายที่อยากพูดถึงคือเรื่องของการเล่นกับเพื่อนหรือโหมด Multiplayer ที่ปรับปรุงมาใหม่เช่นกัน โดยในภาคนี้ได้ใส่ระบบใหม่ที่สำคัญลงไปสองอย่างคือ Loot-Instancing และ Level-scaling โดยอันแรก (Loot-Instancing) นั้นจะทำให้ผู้เล่นทุกคนที่เล่นด้วยกันจะได้รับไอเทมเป็นของตัวเอง ตั้งแต่กระสุน หลอดเพิ่มเลือด ไปจนถึงปืนต่างๆ ที่เก็บได้ตามฉาก ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปแย่งกันเองเหมือนภาคก่อนๆ อีกต่อไป (แต่ก็ยังปรับให้แย่งกันเหมือนภาคเก่าได้นะ) ส่วน Level-scaling จะทำให้ผู้เล่นทุกคนต่อสู้กับศัตรูตามเลเวลของตัวเอง เช่นถ้าตัวละครผู้เล่น A เลเวล 5 ก็จะสู้กับศัตรูเลเวล 5 ในขณะที่ผู้เล่น B ซึ่งเลเวล 20 ที่อยู่ในห้องเดียวกันจะเห็นศัตรูเป็นเลเวล 20 ทั้งหมด หมายความว่าผู้เล่นจะสามารถเข้าร่วมเล่นกับเพื่อนได้ตลอดไม่ว่าเลเวลจะห่างกันแค่ไหน โดยที่เกมจะยังคงมีความท้าทายเหมาะสมกับระดับของผู้เล่นคนนั้นๆ เองด้วย ถือเป็นระบบใหม่ที่น่าสนใจมากๆ เพราะจะหมดปัญหาเรื่องการนัดเวลาเล่นให้ตรงกันไปเลย ทำให้การเล่นกับเพื่อนง่ายกว่าทุกครั้ง เชื่อว่าระบบนี้น่าจะถูกนำไปปรับใช้กับเกมแบบ Multiplayer อื่นๆ อีกในอนาคต พูดมาถึงตรงนี้ คงต้องเอ่ยถึงข้อเสียของเกมซะบ้าง โดยข้อเสียหลักๆ ของเกม Borderlands 3 น่าจะเป็นเรื่องของการแลคหรือกระตุกซึ่งเกิดขึ้นบ่อยพอสมควร โดยเฉพาะเวลาเล่นออนไลน์กับเพื่อน ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้รุนแรงจนทำให้เล่นไม่ได้หรือไม่สนุก แต่ก็เป็นปัญหาที่มีมาตั้งแต่สมัย Borderlands 2 แล้ว และไม่ควรเกิดขึ้นแล้วในเกมที่ออกมาในช่วงนี้ การเลือกปรับให้เกมรันในโหมด Performance อาจจะช่วยตรงจุดนี้ได้บ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ปัญหาตรงนี้หายไปเลยได้อยู่ดี ◊ สรุป ◊ แม้จะไม่ใช่เกมที่เพอร์เฟ๊ค แต่ Borderlands 3 ก็เป็นเกมที่เล่นสนุกมากๆ แทบจะตลอดเวลาที่ได้เล่น ด้วยเกมเพลย์ที่เรียบง่ายแต่เร้าใจ กราฟฟิคลายการ์ตูนสีสันสดใสที่แม้จะผ่านไปเป็นสิบๆ ชั่วโมงก็ยังน่ามองอยู่เสมอ และความหลากหลายของอาวุธปืนและระเบิดที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นตลอดเวลา ทำให้เกม Borderlands 3 สามารถทวงศักดิ์ศรีในฐานะผู้บุกเบิกแนวเกม Shooter-Looter ได้อย่างสมภาคภูมิ ใครที่ต้องการเกมที่เล่นสนุกๆ กับเพื่อนได้ยาวๆ ไม่ควรพลาด! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่       [penci_review id="29087"]
20 Sep 2019