GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
Review: Octopath Traveler
ลงวันที่ 13/07/2018

แนวเกม: JRPG
ผู้พัฒนา: Square Enix
แพลตฟอร์ม: Nintendo Switch




ข้อดี

  • ระบบต่อสู้สนุก

  • เพลงเพราะ

  • ระบบสำรวจเมืองดี


ข้อเสีย

  • เนื้อเรื่องน่าเบื่อ

  • อาร์ตสไตล์น่าอึดอัด






Octopath Traveler ผลงานจากค่ายผู้เชี่ยวชาญในการทำเกม JRPG อย่าง Square Enix เป็นเกม RPG เทิร์นเบสที่มีระบบการเล่นและงานด้านภาพและเสียงแบบเดียวกับเกม RPG ในยุคซูเปอร์แฟมิคอมเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว แต่ได้รับการปรับปรุงขึ้นให้มีคุณภาพระดับ HD และเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ให้มีความสดใหม่ขึ้น

ในเกมนี้จะมีตัวละครหลักทั้งหมด 8 ตัว ตามชื่อของเกม (Octo แปลว่า แปด) แต่ละตัวจะมีอาชีพ เนื้อเรื่อง และทักษะเฉพาะของตัวละคร แบ่งเป็นบทให้เลือกเล่น เกมจะบังคับให้เราสลับไปเล่นตัวละครต่างๆ โดยใช้ข้อจำกัดด้านเลเวลท่ีบทหลังๆ จะมีความยากขึ้น ทำให้เราไม่สามารถลุยเนื้อเรื่องตัวละครเดียวจนจบได้หากอยากเล่นแบบสบายๆ ไม่ต้องเสียเวลาเก็บเลเวลนานๆ

https://www.youtube.com/watch?v=f4S9LQJojJg

ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นทำได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่นักเพราะเกมไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่เป็นแกนหลัก แต่ตัวละครแต่ละตัวจะมีเนื้อเรื่องแยกออกจากกันไปเลย ตัวละครจะอยู่ด้วยกันแค่ในปาร์ตี้ ในฉากต่อสู้ แต่พอตัดเข้าคัทซีนเนื้อเรื่องของแต่ละตัวครก็จะเหลือแค่ตัวละครเจ้าของเนื้อเรื่องนั้นทันที และเนื้อเรื่องไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไร พอบวกกับวิธีการเล่าเรื่องด้วยข้อความเป็นหลักแบบเกมในยุคเก่าก็ทำให้รู้สึกง่วงหรืออยากกดข้ามอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน

ทางด้านงานภาพต้องเรียกว่าทำได้ดีแต่ไม่น่าประทับใจ เกมผสมผสานกราฟิก 2D แบบเกมยุคซูเปอร์แฟมิคอมเข้ากับเทคนิคด้านกราฟิกต่างๆ อย่างการเคลื่อนไหวของน้ำ การเคลื่อนไหวของต้นไม้ เมฆ ได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าถ้าเอาไปเทียบกับเกมที่มีงานภาพแบบนี้ Octopath ทำได้ดีกว่าในทุกๆ ด้าน พากราฟิกแนวนี้ไปอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว แต่เพราะเกมมาออกเอาตอนนี้เลยทำให้ความประทับใจที่ได้หายไปเยอะจากการที่เกมเลือกใช้งานภาพแบบ 16 Bit แบบเกมยุคเก่า



จุดด้อยอีกอย่างของกราฟิกคือเกมใช้เทคนิคด้านภาพอย่างการโฟกัสที่ทำให้จุดที่ตัวละครอยู่มีความคมชัด ส่วนจุดที่อยู่ไกลออกไปจะมองเห็นเป็นภาพจางๆ ทำให้ฉากดูมีมิติ ซึ่งแม้จะทำให้ฉากมีความสวยขึ้นแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกันเพราะรู้สึกว่าฉากถูกบีบให้มีความแคบไปหมด

แม้งานด้านภาพจะมีความล้าสมัยไปบ้างแต่เพลงประกอบต้องเรียกว่าทำได้ยอดเยี่ยม อาจไม่ใช่เพลงที่ฟังแล้วติดหูทันทีอย่างเกมจากซีรีส์ไฟนอลแฟนตาซี แต่เพลงแต่ละเพลงสร้างอารมณ์ร่วมและเลือกมาให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีมาก แต่ละเพลงมีการใช้เครื่องดนตรีจัดเต็มอลังการงานสร้างสุดๆ ใครที่ชอบฟังเพลงประกอบดีๆ ต้องถูกใจแน่นอน

ระบบการต่อสู้คือจุดเด่นจริงๆ ของเกมนี้ เกมทำให้การต่อสู้แบบเทิร์นเบสที่ล้าสมัยไปแล้วสนุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรายังต้องใช้การเลือกคำสั่งโจมตี ป้องกัน ใช้เวทมนต์ ใช้ไอเทม หนี แบบเกม RPG เทิร์นเบสอื่นๆ แต่เกมเพิ่มระบบใหม่อย่างระบบการ "Break" เกราะของศัตรู ศัตรูแต่ละตัวจะมีเกราะอยู่และมีตัวเลขกำกับไว้ เราจะต้องใช้การโจมตีที่เป็นจุดอ่อนของศัตรูนั้นตีศัตรูไปเรื่อยๆ จนเกราะเหลือ 0 ซึ่งจะทำให้ศัตรูมึนและเสียเทิร์น และการโจมตีของเราหลังจากนั้นจะแรงขึ้นมาก ซึ่งจุดนี้เกมให้ความสำคัญมาก ไม่ได้เป็นแค่โบนัสแต่เป็นสิ่งจำเป็น แม้แต่ศัตรูง่ายๆ เราก็จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากจุดนี้ การต่อสู้แต่ละครั้งจำเป็นต้องวางแผน แม้จะมีเลเวลเท่าๆ กับศัตรูแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ จุดนี้ทำให้เกมมีความยากแต่ก็กลายเป็นส่วนสำคัญของความสนุก ทำให้เกิดความลุ้นระทึก การวางแผน ไม่ใช่กดปุ่มโจมตีไปเรื่อยๆ เฉยๆ



เพราะระบบการแพ้ทางข้างต้นเราจึงต้องวางแผนตัวละครที่เราจะจัดเข้าปาร์ตี้ด้วย ซึ่งข้อเสียก็คือตัวละครที่เราไม่ได้เอาเข้าปาร์ตี้จะไม่ได้รับค่าประสบการณ์เลย และการอัพเลเวลจะค่อนข้างยาก แม้การพาตัวละครเลเวลน้อยๆ เข้าปาร์ตี้ไปตีศัตรูเก่งๆ จะทำให้ได้เลเวลเร็วขึ้นแต่ก็ไม่ได้เร็วขึ้นมากแบบเกมอื่นๆ

นอกจากอาชีพทั้ง 8 ตามตัวละครแต่ละตัวแล้ว เรายังสามารถเข้าไปใน Shrine ของแต่ละอาชีพเพื่อนำอาชีพทั้ง 8 มาติดตั้งเป็นอาชีพเสริมให้กับตัวละครอื่นๆ ได้ด้วย อย่างเช่นตัวละครที่เป็น Scholar ที่ปกติใช้แต่เวทมนต์ก็อาจติดอาชีพเสริมเป็น Thief เพื่อใช้ประโยชน์จากอาวุธอย่างมีดที่ปกติ Scholar ใส่ไม่ได้ เพื่อทำให้เรามีตัวละครที่สามารถ Break เกราะศัตรูได้เยอะขึ้น จุดนี้ทำให้ระบบการเล่นของเกมมีความหลากหลายมากขึ้นไปอีก

ในฉากต่อสู้เกมยังมีระบบการ Boost เพิ่มพลังให้ตัวละครของเราโจมตีได้แรงขึ้น หรือหลายครั้งขึ้น ทั้งโจมตีปกติโจมตีด้วยสกิล หรือเวทมนต์ โดยเราจะได้สิ่งที่เรียกว่า Bonus Point ทุกๆ เทิร์นเอาไว้สำหรับ Boost ซึ่งก็ต้องวางแผนดีๆ อีกเช่นกัน หากเก็บไว้ใช้ทีเดียวก็จะโจมตีได้แรงขึ้นมาก หรืออาจใช้เพื่อให้ตัวละครโจมตีตีได้หลายครั้ง เพื่อทำให้ศัตรูทุกตัวเข้าสู่สภาวะ Break โจมตีเราไม่ได้ แต่หากใช้ช้าเกินไปตัวละครก็อาจโดนบอสตบตายก่อน



ลูกเล่นอย่างหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ Octopath ก็คือระบบสกิลสำรวจของแต่ละตัวละครที่เรียกว่า Path โดยปกติแล้วเกมแนวนี้เวลาอยู่ในเมืองสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือพูดคุย รับเควสท์ ซื้อของ นอนพักในโรงแรม แต่ด้วยระบบ Path ของเกมทำให้เราสามารถใช้ทักษะพิเศษของแต่ละตัวละครได้ อย่างตัวละครที่เป็น Thief เราจะสามารถขโมยของจาก NPC ในเมืองได้ และอาวุธและชุดเกราะดีๆ หลายชิ้นจำเป็นต้องได้มาด้วยวิธีนี้ หรือตัวละครอย่าง Scholar เราจะมีความสามารถในการมองตัวละคร NPC อย่างพิจารณาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม อย่างการได้ลดราคาค่าโรงแรม หาที่อยู่ไอเทมลับ เป็นต้น ซึ่งในภารกิจย่อยหลายๆ ภารกิจเราก็จำเป็นต้องใช้ทักษะพวกนี้ในการผ่านด้วย ทำให้เกมมีความหลากหลายในการสำรวจเกมเพิ่มขึ้นมาก

โดยรวมแล้วแม้เกมจะมีจุดด้อยในหลายจุด แต่ต้องยอมรับว่าจุดที่สำคัญจริงๆ อย่างความสนุกของเกม เกม JRPG ย้อนยุคเกมนี้ก็ทำได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นคนชอบเกมแนว RPG เทิร์นเบสอยู่แล้วน่าจะถูกใจกับระบบการต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นมากของเกมนี้ คนที่ไม่ชินกับเกมแนวนี้น่าจะต้องใช้การปรับตัวสักหน่อยแต่ก็น่าจะสนุกกับเกมได้เช่นกัน คนที่น่าจะผ่านเกมนี้ไปเลยจริงๆ ก็คือคนที่ไม่ชอบเล่นเกมยากๆ เพราะเกม Octopath Traveler ไม่ยอมให้ผู้เล่นกดปุ่มเดียวไปเรื่อยๆ เพื่อผ่านเกมแน่นอน
[penci_review id="1952"]

7
ข้อดี
ข้อเสีย
8
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
Review: Octopath Traveler
13/07/2018

แนวเกม: JRPG
ผู้พัฒนา: Square Enix
แพลตฟอร์ม: Nintendo Switch




ข้อดี

  • ระบบต่อสู้สนุก

  • เพลงเพราะ

  • ระบบสำรวจเมืองดี


ข้อเสีย

  • เนื้อเรื่องน่าเบื่อ

  • อาร์ตสไตล์น่าอึดอัด






Octopath Traveler ผลงานจากค่ายผู้เชี่ยวชาญในการทำเกม JRPG อย่าง Square Enix เป็นเกม RPG เทิร์นเบสที่มีระบบการเล่นและงานด้านภาพและเสียงแบบเดียวกับเกม RPG ในยุคซูเปอร์แฟมิคอมเมื่อประมาณ 30 ปีที่แล้ว แต่ได้รับการปรับปรุงขึ้นให้มีคุณภาพระดับ HD และเพิ่มลูกเล่นต่างๆ ให้มีความสดใหม่ขึ้น

ในเกมนี้จะมีตัวละครหลักทั้งหมด 8 ตัว ตามชื่อของเกม (Octo แปลว่า แปด) แต่ละตัวจะมีอาชีพ เนื้อเรื่อง และทักษะเฉพาะของตัวละคร แบ่งเป็นบทให้เลือกเล่น เกมจะบังคับให้เราสลับไปเล่นตัวละครต่างๆ โดยใช้ข้อจำกัดด้านเลเวลท่ีบทหลังๆ จะมีความยากขึ้น ทำให้เราไม่สามารถลุยเนื้อเรื่องตัวละครเดียวจนจบได้หากอยากเล่นแบบสบายๆ ไม่ต้องเสียเวลาเก็บเลเวลนานๆ

https://www.youtube.com/watch?v=f4S9LQJojJg

ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นทำได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่นักเพราะเกมไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่เป็นแกนหลัก แต่ตัวละครแต่ละตัวจะมีเนื้อเรื่องแยกออกจากกันไปเลย ตัวละครจะอยู่ด้วยกันแค่ในปาร์ตี้ ในฉากต่อสู้ แต่พอตัดเข้าคัทซีนเนื้อเรื่องของแต่ละตัวครก็จะเหลือแค่ตัวละครเจ้าของเนื้อเรื่องนั้นทันที และเนื้อเรื่องไม่ได้มีความตื่นเต้นอะไร พอบวกกับวิธีการเล่าเรื่องด้วยข้อความเป็นหลักแบบเกมในยุคเก่าก็ทำให้รู้สึกง่วงหรืออยากกดข้ามอยู่บ่อยๆ เหมือนกัน

ทางด้านงานภาพต้องเรียกว่าทำได้ดีแต่ไม่น่าประทับใจ เกมผสมผสานกราฟิก 2D แบบเกมยุคซูเปอร์แฟมิคอมเข้ากับเทคนิคด้านกราฟิกต่างๆ อย่างการเคลื่อนไหวของน้ำ การเคลื่อนไหวของต้นไม้ เมฆ ได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าถ้าเอาไปเทียบกับเกมที่มีงานภาพแบบนี้ Octopath ทำได้ดีกว่าในทุกๆ ด้าน พากราฟิกแนวนี้ไปอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว แต่เพราะเกมมาออกเอาตอนนี้เลยทำให้ความประทับใจที่ได้หายไปเยอะจากการที่เกมเลือกใช้งานภาพแบบ 16 Bit แบบเกมยุคเก่า



จุดด้อยอีกอย่างของกราฟิกคือเกมใช้เทคนิคด้านภาพอย่างการโฟกัสที่ทำให้จุดที่ตัวละครอยู่มีความคมชัด ส่วนจุดที่อยู่ไกลออกไปจะมองเห็นเป็นภาพจางๆ ทำให้ฉากดูมีมิติ ซึ่งแม้จะทำให้ฉากมีความสวยขึ้นแต่ก็ทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกันเพราะรู้สึกว่าฉากถูกบีบให้มีความแคบไปหมด

แม้งานด้านภาพจะมีความล้าสมัยไปบ้างแต่เพลงประกอบต้องเรียกว่าทำได้ยอดเยี่ยม อาจไม่ใช่เพลงที่ฟังแล้วติดหูทันทีอย่างเกมจากซีรีส์ไฟนอลแฟนตาซี แต่เพลงแต่ละเพลงสร้างอารมณ์ร่วมและเลือกมาให้เข้ากับสถานการณ์ได้ดีมาก แต่ละเพลงมีการใช้เครื่องดนตรีจัดเต็มอลังการงานสร้างสุดๆ ใครที่ชอบฟังเพลงประกอบดีๆ ต้องถูกใจแน่นอน

ระบบการต่อสู้คือจุดเด่นจริงๆ ของเกมนี้ เกมทำให้การต่อสู้แบบเทิร์นเบสที่ล้าสมัยไปแล้วสนุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เรายังต้องใช้การเลือกคำสั่งโจมตี ป้องกัน ใช้เวทมนต์ ใช้ไอเทม หนี แบบเกม RPG เทิร์นเบสอื่นๆ แต่เกมเพิ่มระบบใหม่อย่างระบบการ "Break" เกราะของศัตรู ศัตรูแต่ละตัวจะมีเกราะอยู่และมีตัวเลขกำกับไว้ เราจะต้องใช้การโจมตีที่เป็นจุดอ่อนของศัตรูนั้นตีศัตรูไปเรื่อยๆ จนเกราะเหลือ 0 ซึ่งจะทำให้ศัตรูมึนและเสียเทิร์น และการโจมตีของเราหลังจากนั้นจะแรงขึ้นมาก ซึ่งจุดนี้เกมให้ความสำคัญมาก ไม่ได้เป็นแค่โบนัสแต่เป็นสิ่งจำเป็น แม้แต่ศัตรูง่ายๆ เราก็จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากจุดนี้ การต่อสู้แต่ละครั้งจำเป็นต้องวางแผน แม้จะมีเลเวลเท่าๆ กับศัตรูแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ จุดนี้ทำให้เกมมีความยากแต่ก็กลายเป็นส่วนสำคัญของความสนุก ทำให้เกิดความลุ้นระทึก การวางแผน ไม่ใช่กดปุ่มโจมตีไปเรื่อยๆ เฉยๆ



เพราะระบบการแพ้ทางข้างต้นเราจึงต้องวางแผนตัวละครที่เราจะจัดเข้าปาร์ตี้ด้วย ซึ่งข้อเสียก็คือตัวละครที่เราไม่ได้เอาเข้าปาร์ตี้จะไม่ได้รับค่าประสบการณ์เลย และการอัพเลเวลจะค่อนข้างยาก แม้การพาตัวละครเลเวลน้อยๆ เข้าปาร์ตี้ไปตีศัตรูเก่งๆ จะทำให้ได้เลเวลเร็วขึ้นแต่ก็ไม่ได้เร็วขึ้นมากแบบเกมอื่นๆ

นอกจากอาชีพทั้ง 8 ตามตัวละครแต่ละตัวแล้ว เรายังสามารถเข้าไปใน Shrine ของแต่ละอาชีพเพื่อนำอาชีพทั้ง 8 มาติดตั้งเป็นอาชีพเสริมให้กับตัวละครอื่นๆ ได้ด้วย อย่างเช่นตัวละครที่เป็น Scholar ที่ปกติใช้แต่เวทมนต์ก็อาจติดอาชีพเสริมเป็น Thief เพื่อใช้ประโยชน์จากอาวุธอย่างมีดที่ปกติ Scholar ใส่ไม่ได้ เพื่อทำให้เรามีตัวละครที่สามารถ Break เกราะศัตรูได้เยอะขึ้น จุดนี้ทำให้ระบบการเล่นของเกมมีความหลากหลายมากขึ้นไปอีก

ในฉากต่อสู้เกมยังมีระบบการ Boost เพิ่มพลังให้ตัวละครของเราโจมตีได้แรงขึ้น หรือหลายครั้งขึ้น ทั้งโจมตีปกติโจมตีด้วยสกิล หรือเวทมนต์ โดยเราจะได้สิ่งที่เรียกว่า Bonus Point ทุกๆ เทิร์นเอาไว้สำหรับ Boost ซึ่งก็ต้องวางแผนดีๆ อีกเช่นกัน หากเก็บไว้ใช้ทีเดียวก็จะโจมตีได้แรงขึ้นมาก หรืออาจใช้เพื่อให้ตัวละครโจมตีตีได้หลายครั้ง เพื่อทำให้ศัตรูทุกตัวเข้าสู่สภาวะ Break โจมตีเราไม่ได้ แต่หากใช้ช้าเกินไปตัวละครก็อาจโดนบอสตบตายก่อน



ลูกเล่นอย่างหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของ Octopath ก็คือระบบสกิลสำรวจของแต่ละตัวละครที่เรียกว่า Path โดยปกติแล้วเกมแนวนี้เวลาอยู่ในเมืองสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือพูดคุย รับเควสท์ ซื้อของ นอนพักในโรงแรม แต่ด้วยระบบ Path ของเกมทำให้เราสามารถใช้ทักษะพิเศษของแต่ละตัวละครได้ อย่างตัวละครที่เป็น Thief เราจะสามารถขโมยของจาก NPC ในเมืองได้ และอาวุธและชุดเกราะดีๆ หลายชิ้นจำเป็นต้องได้มาด้วยวิธีนี้ หรือตัวละครอย่าง Scholar เราจะมีความสามารถในการมองตัวละคร NPC อย่างพิจารณาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม อย่างการได้ลดราคาค่าโรงแรม หาที่อยู่ไอเทมลับ เป็นต้น ซึ่งในภารกิจย่อยหลายๆ ภารกิจเราก็จำเป็นต้องใช้ทักษะพวกนี้ในการผ่านด้วย ทำให้เกมมีความหลากหลายในการสำรวจเกมเพิ่มขึ้นมาก

โดยรวมแล้วแม้เกมจะมีจุดด้อยในหลายจุด แต่ต้องยอมรับว่าจุดที่สำคัญจริงๆ อย่างความสนุกของเกม เกม JRPG ย้อนยุคเกมนี้ก็ทำได้เป็นอย่างดี ถ้าเป็นคนชอบเกมแนว RPG เทิร์นเบสอยู่แล้วน่าจะถูกใจกับระบบการต่อสู้ที่พัฒนาขึ้นมากของเกมนี้ คนที่ไม่ชินกับเกมแนวนี้น่าจะต้องใช้การปรับตัวสักหน่อยแต่ก็น่าจะสนุกกับเกมได้เช่นกัน คนที่น่าจะผ่านเกมนี้ไปเลยจริงๆ ก็คือคนที่ไม่ชอบเล่นเกมยากๆ เพราะเกม Octopath Traveler ไม่ยอมให้ผู้เล่นกดปุ่มเดียวไปเรื่อยๆ เพื่อผ่านเกมแน่นอน
[penci_review id="1952"]


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header