Ragnarok M: Eternal Love 2.0 แนะนำการเล่น Rune Knight สายแบชผสมพ่นไฟ (By. Shipdont)
Rune Knight ถือเป็นอาชีพหนึ่งที่โดดเด่นใน Ragnarok M: Eternal Love 2.0 เพราะมีพลังโจมตีและพลังชีวิตที่สูง
อาชีพนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นทั้งสาย PVP และ GVG ในฐานะตัวท้าชนแนวหน้า สำหรับผู้เล่นที่สนใจในอาชีพนี้
วันนี้เรามีไกด์แนะนำการเล่นอาชีพ Rune Knight ทั้งสาย PVP และ GVG จากแชนแนล Shipdont
โดยเน้นไปที่การเสริมพลังสกิล Bash ผสมกับ Dragon Breath มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย
**ก่อนเริ่มบทความทางเรา GamefeverTH ต้องขอขอบคุณทาง Shipdont ที่ให้ข้อมูลอ้างอิงกับเราครับ**
Status สำหรับสาย PVP
- เนื่องจากการลง PVP ไม่ได้เน้นการตะลุมบอนเหมือน GVG จึงไม่จำเป็นต้องลง Agi เยอะ
ถึงแม้ว่ามันจะมีผลต่อการ Parry ก็ตาม สามารถเอาแต้มที่เหลือจากการลด Agi ไปลง Dex เพื่อเพิ่ม Hitของสกิล Dragon Breath ให้มากขึ้นจะดีกว่า
- ค่า Hit ขั้นพื้นฐานสำหรับสาย PVP ควรมีประมาณ 400 ขึ้นไป
Status สำหรับสาย GVG
- Rune Knight ใน GVG ต้องทั้งถึกทนและมีพลังโจมตีที่แรง จึงต้องปรับสมดุลด้วยการลด Str กับ Dex ลง
และนำไปลงกับ Vit เพื่อเพิ่มพลังชีวิต และ Agi เพื่อใช้ Parry ความเสียหายแทน
*หมายเหตุ* Status ต่าง ๆ สามารถปรับให้เข้ากับของที่สวมใส่อยู่ได้
Skills สำหรับสาย PVP
⦁ Dragon Training อัปเลเวล 5/5 = เพิ่ม Atk.Spd. 10% เมื่อขี่มังกร, เพิ่มพลังโจมตีของ Dragon Breath 25%, และเพิ่มความเสียหายสูงสุด 100% เมื่อสวมใส่หอกและขี่มังกร
⦁ Dragon Howling อัปเลเวล 5/5 = เพิ่มโอกาสในการทำให้ศัตรูติดสถานะ Fear สูงสุด 8 ตัวในระยะรัศมี 3 เมตร เป็นเวลา 3 วินาที
⦁ Dragon Breath อัปเลเวล 10/10 = เรียกมังกรมาพ่นไฟสร้างความเสียหายต่อศัตรู ทำให้ศัตรูมีโอกาสติดสถานะ Burn ความแรงของสกิลนี้ขึ้นอยู่กับค่า Vit โดยทุก ๆ 10 Vit จะเพิ่มความแรงขึ้นอีก 1%
⦁ Enchant Blade อัปเลเวล 10/10 = ทำให้สกิล Bash แรงขึ้นด้วยการเอา M. Atk มาเสริมพลัง
⦁ Sink or Swim อัปเลเวล 10/10 = ลด M.Def แต่จะเพิ่ม M.Atk (1 M.Def = ได้ 1.5 M.Atk) ซึ่งช่วยคอมโบกับ Enchant Blade ทำให้สกิล Bash และ Dragon Breath แรงขึ้นอีก เพราะความแรงของ Dragon Breath ขึ้นอยู่กับ M.Atk
⦁ Dragon’s Protection อัปเลเวล 5/5 = เพิ่มความแรงของไฟ 5% และช่วยลดความเสียหายจากไฟ 10%
Skills สำหรับสาย GVG
เริ่มต้นด้วย 4 สกิลที่จำเป็นสำหรับอาชีพนี้เช่นเดียวกับสาย PVP ได้แก่
⦁ Dragon Training อัปเลเวล 5/5 = เพิ่ม Atk.Spd. 10% เมื่อขี่มังกร, เพิ่มพลังโจมตีของ Dragon Breath 25%, และเพิ่มความเสียหายสูงสุด 100% เมื่อสวมใส่หอกและขี่มังกร
⦁ Dragon Howling อัปเลเวล 5/5 = เพิ่มโอกาสในการทำให้ศัตรูติดสถานะ Fear สูงสุด 8 ตัวในระยะรัศมี 3 เมตร เป็นเวลา 3 วินาที
⦁ Dragon Breath อัปเลเวล 10/10 = เรียกมังกรมาพ่นไฟสร้างความเสียหายต่อศัตรู ทำให้ศัตรูมีโอกาสติดสถานะ Burn ความแรงของสกิลนี้ขึ้นอยู่กับค่า Vit โดยทุก ๆ 10 Vit จะเพิ่มความแรงขึ้นอีก 1%
⦁ Dragon’s Protection อัปเลเวล 5/5 = เพิ่มความแรงของไฟ 5% และช่วยลดความเสียหายจากไฟ 10%
⦁ Rune Mastery ทั้งสองแบบ (Active/Passive)
- อัปสกิลแรก (Active) เลเวล 2/5 หรืออัปเต็ม 5/5 ก็ได้ เพื่อใช้สร้างหินรูน
- อัปสกิลที่ 2 (Passive) ให้ถึงเลเวล 10/10 เพื่อใช้ยืดระยะเวลาของหินที่เรากินไป 1 เท่าตัว (100%) เช่น กินหิน Str ปกติผลคงอยู่ 3 นาที พอมี Rune Mastery ก็จะยืดผลเป็น 6 นาที หรือผลของหินป้องกันอาการผิดปกติทุกอย่างจาก 5 วินาที ก็จะยืดเป็น 10 วินาที ทำให้โคตรโหด
⦁ หากมี Skill Point เหลือ ก็สามารถนำไปใช้อัพสกิลอื่น ๆ ตามที่ใช้งานได้
Rune สาย PVP
ให้ใช้ตามที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับเรามากที่สุด เรียงตามลำดับความสำคัญ เช่น ขาดแดเมจ หรือตัวบาง
สาย Rune แนะนำสำหรับสาย PVP
⦁ เริ่มต้นด้วย Rune ดั้งเดิมของสายดาบก่อน เช่น Bash, Aura Blade, Sword Mastery, Cavalry Mastery
⦁ Furious Rage = ทำให้หลุดจากสถานะผิดปกติ และเสริมด้วย Furious Rage – CC Immunity เพื่อเพิ่มเวลากันสถานะได้อีก 4 วินาที
⦁ Frenzy Spear = ลดคูลดาวน์ของสกิล Frenzy หากลงทั้งหมด 3 จุด จุดละ 7% จะลดคูลดาวน์รวม 21%
⦁ Dragon Breath – Strong = เพิ่มความแรงของสกิล Dragon Breath อีก 6% ต่อจุด
⦁ Enchant Blade – Transformed = หากลง Rune ครบ 5 จุด จะเพิ่ม M.Atk รวม 25%
⦁ สามารถเสริมด้วย Sink or Swim – Steadfast เพื่อลด M.Def (ถ้าไม่ใช้ก็ไม่จำเป็นต้องอัป)
Rune สาย GVG
⦁ ใช้สาย Rune เช่นเดียวกับสาย PVP เกือบทั้งหมด เช่น เริ่มต้นด้วย Bash, Aura Blade, Sword Mastery, Cavalry Mastery
⦁ Furious Rage = ทำให้หลุดจากสถานะผิดปกติ
⦁ เสริมด้วย Furious Rage – CC Immunity เพื่อเพิ่มเวลากันสถานะได้อีก 4 วินาที
⦁ Frenzy Spear = ลดคูลดาวน์ของสกิล Frenzy หากลงทั้งหมด 3 จุด จุดละ 7% จะลดคูลดาวน์รวม 21%
⦁ Dragon Breath – Strong = เพิ่มความแรงของสกิล Dragon Breath อีก 6% ต่อจุด
⦁ Enchant Blade – Transformed = หากลง Rune ครบ 5 จุด จะเพิ่ม M.Atk รวม 25%
⦁ สามารถเสริมด้วย Sink or Swim – Steadfast เพื่อลด M.Def
⦁ **แต่ที่แตกต่างจากสาย PVP คือ Rune Mastery – Lengthened = ยืดระยะเวลาของสกิล Rune Mastery (Passive) ให้เพิ่มขึ้น หากลงครบ 4 จุด จะเพิ่มระยะเวลาของสกิลรวม 20% กลายเป็นว่าเมื่อกดใช้สกิลจะมีผล 120% [100% จากสกิล Rune Mastery (Passive) + 20% จาก Rune Mastery – Lengthened]
แนะนำหินสเตตัส
Status สำคัญสำหรับการสร้างหิน Rune คือ Int และ Str ซึ่งค่า Int จะช่วยให้สร้างหิน Rune ติดง่ายขึ้น ไม่มีสูตรการใช้หินที่ตายตัว สามารถเลือกนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งสาย PVP และ GVG หากใช้หินร่วมกับ Rune Mastery – Lengthened เท่ากับว่าทุกครั้งที่กินหิน 10 ก้อน จะเพิ่มระยะเวลาแสดงผลของหินอีก 3 นาที
⦁ หินสีเหลือง (Turisus) = หินยอดนิยมของสายคริติคอล ใช้เพื่อเพิ่ม 10 Str และ Crit.Dmg 20% เป็นเวลา 3 นาที
⦁ หินสีเขียว (Isia) = เพิ่มอัตราการรับ Healing และผลของอาหาร 30%
⦁ หินสีแดง (Hagalas) = หินยอดนิยมของสาย Agi ใช้ Parry เพื่อลด Atk และ M.Atk ของเป้าหมายที่ตีอยู่ 10% จึงไม่เหมาะกับสกิล Bash และ Dragon Breath
⦁ หินสีม่วง (Nosiege) = หินหลักของอาชีพ Rune Knight ใช้ป้องกันสถานะผิดปกติทุกอย่างเป็นเวลา 5 วินาที ถ้าอัปสกิล Rune Mastery (Passive) เลเวล 10/10 จะเพิ่มเวลาเป็น 10-12 วินาที เหมาะสำหรับใช้วิ่งลุยกับดัก
⦁ หินสีฟ้า (Verkana) = เพิ่ม 200 Def และ 50 M.Def เป็นเวลา 3 นาที
⦁ หินสีน้ำเงิน (Urj) = ใช้ฟื้นฟู 100 SP ทุก ๆ 5 วินาที
บทความนี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นในการเล่นอาชีพ Rune Knight เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้เล่นสามารถนำไปประยุกต์ตามสไตล์การเล่นของตัวเองเพื่อให้เพลิดเพลินไปกับเกมได้อย่างเต็มที่ สำหรับวันนี้ ขอให้สนุกกับการผจญภัยในโลกแฟนตาซี และพบกันใหม่ในครั้งหน้าจ้า
ติดตามเฟสบุค Shipdont :
https://www.facebook.com/shipdont.ch/
รับชมแบบคลิปวิดีโอ
https://www.youtube.com/watch?v=sejgWurdaNI