สำหรับเกมเมอร์หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันจัดงาน OpenAI Five Benchmark ซึ่งเป็นวันที่เหล่าผู้พัฒนาของ OpenAI จะนำตัวบอทเวอร์ชั่นล่าสุดมาแข่ง Dota 2 กับทีมผู้เล่นมือโปร เพื่อทดสอบฝีมือของบอทก่อนจะนำไปแข่งแสดงในงาน The International 2018 งานแข่ง Dota 2 ชิงแชมป์โลกที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ (20-25 สิงหา) ผลจากการแข่งทั้งสามเกมปรากฏว่าเจ้า OpenAI สามารถเอาชนะเหล่าโปร (ซึ่งมีฝีมืออยู่ในระดับท๊อป 0.05% ของผู้เล่นทั่วโลก) ไปได้ถึง 2/3 เกม!
(ชมวีดีโอการแข่งทั้งสามเกมได้ด้านล่าง)
สำหรับเกมแรก เจ้า OpenAI สามารถเอาชนะทีมโปรไปได้ในเวลา 21 นาที 37 วินาที ซึ่งทีมประกอบไปด้วยผู้เล่นระดับพระกาฬอย่าง Blitz, Cap, Fogged, และ Merlini ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอดีตโปร E-Sports ทุกคน โดยเจ้า OpenAI มีการขู่เอาไว้ก่อนเริ่มเกมด้วยว่ามีโอกาสชนะเหล่าโปรถึง 95% ทีเดียว ก่อนจะเอาชนะทีมโปรในเกมที่สองด้วยเวลา 24 นาที 53 วินาที
ทีมโปรสามารถเอาชนะเจ้าบอทลงได้ในเกมที่สาม เมื่อผู้พัฒนาปล่อยให้เหล่าผู้ชมใน Twitch เป็นคนเลือกฮีโร่ที่ทีมบอทจะเล่น โดยนักวิเคราะห์ระบบ A.I. หลายคนบอกว่าไม่น่าแปลกใจเพราะเจ้า OpenAI ถูกจำกัดมาให้เล่นฮีโร่เพียง 18 ตัว จาก 115 ตัว (เพื่อช่วยให้บอทสามารถประมวลผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น) ทำให้ใช้ฮีโร่ที่ผู้เล่นเลือกมาได้ไม่เต็มที่ (เพราะผู้เล่นเลือกแต่ตัวตำแหน่ง Carry ด้วย) โดยเจ้า OpenAI ประเมินโอกาสชนะของตัวเองในเกมที่ 3 ไว้เพียง 2% เท่านั้น แม้ว่าเหล่าผู้พัฒนาจะเปิดเผยว่าบอทสามารถฝึกตัวเองได้เทียบเท่ากับการเล่นเกมเป็นเวลา 180 ปีทุกๆ วันก็ตาม
นอกจากนี้ ผู้พัฒนายังเปิดเผยด้วยว่าเจ้า OpenAI ต้องใช้ CPU และ GPU (การ์ดจอ) ในการประมวลผลเยอะมากๆ โดยเจ้าบอทเวอร์ชั่นล่าสุดต้องใช้การ์ดจอ Nvidia P100 ถึง 256 ตัว และการ์ด CPU Core อีกถึง 128,000 ตัวในการสร้างขึ้นมา
สำหรับเกมเมอร์หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันจัดงาน OpenAI Five Benchmark ซึ่งเป็นวันที่เหล่าผู้พัฒนาของ OpenAI จะนำตัวบอทเวอร์ชั่นล่าสุดมาแข่ง Dota 2 กับทีมผู้เล่นมือโปร เพื่อทดสอบฝีมือของบอทก่อนจะนำไปแข่งแสดงในงาน The International 2018 งานแข่ง Dota 2 ชิงแชมป์โลกที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ (20-25 สิงหา) ผลจากการแข่งทั้งสามเกมปรากฏว่าเจ้า OpenAI สามารถเอาชนะเหล่าโปร (ซึ่งมีฝีมืออยู่ในระดับท๊อป 0.05% ของผู้เล่นทั่วโลก) ไปได้ถึง 2/3 เกม!
(ชมวีดีโอการแข่งทั้งสามเกมได้ด้านล่าง)
สำหรับเกมแรก เจ้า OpenAI สามารถเอาชนะทีมโปรไปได้ในเวลา 21 นาที 37 วินาที ซึ่งทีมประกอบไปด้วยผู้เล่นระดับพระกาฬอย่าง Blitz, Cap, Fogged, และ Merlini ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นอดีตโปร E-Sports ทุกคน โดยเจ้า OpenAI มีการขู่เอาไว้ก่อนเริ่มเกมด้วยว่ามีโอกาสชนะเหล่าโปรถึง 95% ทีเดียว ก่อนจะเอาชนะทีมโปรในเกมที่สองด้วยเวลา 24 นาที 53 วินาที
ทีมโปรสามารถเอาชนะเจ้าบอทลงได้ในเกมที่สาม เมื่อผู้พัฒนาปล่อยให้เหล่าผู้ชมใน Twitch เป็นคนเลือกฮีโร่ที่ทีมบอทจะเล่น โดยนักวิเคราะห์ระบบ A.I. หลายคนบอกว่าไม่น่าแปลกใจเพราะเจ้า OpenAI ถูกจำกัดมาให้เล่นฮีโร่เพียง 18 ตัว จาก 115 ตัว (เพื่อช่วยให้บอทสามารถประมวลผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น) ทำให้ใช้ฮีโร่ที่ผู้เล่นเลือกมาได้ไม่เต็มที่ (เพราะผู้เล่นเลือกแต่ตัวตำแหน่ง Carry ด้วย) โดยเจ้า OpenAI ประเมินโอกาสชนะของตัวเองในเกมที่ 3 ไว้เพียง 2% เท่านั้น แม้ว่าเหล่าผู้พัฒนาจะเปิดเผยว่าบอทสามารถฝึกตัวเองได้เทียบเท่ากับการเล่นเกมเป็นเวลา 180 ปีทุกๆ วันก็ตาม
นอกจากนี้ ผู้พัฒนายังเปิดเผยด้วยว่าเจ้า OpenAI ต้องใช้ CPU และ GPU (การ์ดจอ) ในการประมวลผลเยอะมากๆ โดยเจ้าบอทเวอร์ชั่นล่าสุดต้องใช้การ์ดจอ Nvidia P100 ถึง 256 ตัว และการ์ด CPU Core อีกถึง 128,000 ตัวในการสร้างขึ้นมา