ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงที่ผ่านมาเราในฐานะผู้ติดตามข่าวสารภายในวงการเกม ก็น่าจะผ่านตากับประเด็นการฟ้องร้องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานของทาง Activision Blizzard กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมเกมในวงกว้าง และหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลนั้นเลยก็คือผู้พัฒนาค่ายดังอย่าง Ubisoft นั่นเอง
จากเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว ที่พนักงานงานของทาง Ubisoft หลายคนได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทางเพศ รวมไปถึงวัฒนธรรมการรังแกกันที่เกิดขึ้นภายในองค์กร และได้รับการคำมั่นจากทีมผู้บริหารว่าจะลงโทษผู้กระทำผิด ซึ่งส่วนทางกับผลที่ตามมา เพราะมีพนักงานส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกไล่ออก ในขณะที่ผู้กระทำผิดอีกหลายคนก็เพียงแค่โดนย้ายงาน หรือเลวร้ายที่สุดก็คือได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
ทำให้ในที่สุดเมื่อสองวันก่อน ทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานของทาง Ubisoft จำนวนกว่า 500 คนก็ได้รวมตัวกันลงนามในจดหมายเปิดผนึก เพื่อแสดงจุดยืน ว่าเป็นหนึ่งในเสียงที่สนันสนุนฝ่ายพนักงานของ Activision Blizzard ที่ออกมาเปิดเผยว่าถูกล่วงละเมิด และชี้ให้เห็นถึงปัญหาของการจัดการกับกรณีการล่วงละเมิด ที่ไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งจดหมายฉบับนี้ก็ไม่เรียกร้องให้เพียง Activision Blizzard ที่เดียวเท่านั้น ทำการปรับปรุงและแก้ไขต่อไปในอนาคต หากแต่หมายรวมไปถึงต้องการให้บริษัทอื่นๆ หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทางเพศ และการรังแกกันภายในองค์กร ในระดับโครงสร้างของอุตสากรรมการพัฒนาเกมด้วย
หลักจากนั้น Yves Guillemot ซีอีโอของทาง Ubisoft ก็ได้ออกจดหมายตอบกลับมา โดยจดหมายฉบับสมบูรณ์นั้นก็ได้รับการโพสต์ลงใน Twitter ในใจความที่ว่า Guillemot และ Ubisoft จะยกประเด็นดังกล่าวนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจัง และบริษัทตั้งใจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มั่นคง ยั่งยืนต่อไป นอกจากนั้นก็ยังมีการระบุถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบริษัท เช่น การปรับปรุงการทำงานของ HR และการที่พนักงานไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนอีกต่อไป ในการรายงายปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษัท
ซึ่งในขณะที่เนื้อความในจดหมายลงลึกถึงประเด็นความเปลี่ยนแปลงที่ Ubisoft ได้ทำไปแล้ว การร้องเรียนจากจดหมายต้นฉบับก็ยังสมเหตุสมผลอยู่ เพราะไม่ว่าบริษัทจะมีโครงสร้างภายในที่ดีเพียงใด หากผู้บริหารไม่ได้ให้ความสนใจที่จะแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ทำอะไรให้ดูเป็นรูปธรรม ก็ย่อมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดขึ้นอยู่ดี นอกจากนี้จดหมายของ Guillemot ก็ยังไม่ได้ระบุข้อมูลใดเกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในอนาคตเลย ซึ่งแตกต่างกับจดหมายฉบับล่าสุดของ Bobby Kotick ซีอีโอของทาง Activision Blizzard
ที่จดหมายดังกล่าวนั้นมีการพูดถึงโปรเจกต์ราคาแพงที่กำหนดไว้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2021 ซึ่งจะส่งมอบแผนงานดังกล่าวให้กับทางพนักงานเพื่อสรุปการพัฒนา ความเปลี่ยนแปลง และการอัปเดตทาง HR ใหม่ ซึ่งทางพนักงานเองก็สามารถติดต่อกับ Guillemot ได้โดยตรงเลย หากมีข้อกังวลหรือเกิดปัญหาใดขึ้น
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับการสนับสนุนจากชุมชนเกมเอง แทนที่จะไปหวังพึ่งให้บริษัทต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง และเราก็ได้แต่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นจากการฟ้องร้องในครั้งนี้ รวมถึงการประท้วงที่เกิดขึ้นของผู้คนจำนวนมาก จะสามารถช่วยพลิกอุตสาหกรรมเกม และเยียวยาปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการกดขี่ภายในองค์กรที่เรื้อรังมาเป็นเวลานานได้ในสักวันค่ะ
Credit: GameRant
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงที่ผ่านมาเราในฐานะผู้ติดตามข่าวสารภายในวงการเกม ก็น่าจะผ่านตากับประเด็นการฟ้องร้องเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานของทาง Activision Blizzard กันมาบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นก็ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมเกมในวงกว้าง และหนึ่งในผู้ที่ได้รับผลนั้นเลยก็คือผู้พัฒนาค่ายดังอย่าง Ubisoft นั่นเอง
จากเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว ที่พนักงานงานของทาง Ubisoft หลายคนได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทางเพศ รวมไปถึงวัฒนธรรมการรังแกกันที่เกิดขึ้นภายในองค์กร และได้รับการคำมั่นจากทีมผู้บริหารว่าจะลงโทษผู้กระทำผิด ซึ่งส่วนทางกับผลที่ตามมา เพราะมีพนักงานส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกไล่ออก ในขณะที่ผู้กระทำผิดอีกหลายคนก็เพียงแค่โดนย้ายงาน หรือเลวร้ายที่สุดก็คือได้รับการเลื่อนตำแหน่ง
ทำให้ในที่สุดเมื่อสองวันก่อน ทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานของทาง Ubisoft จำนวนกว่า 500 คนก็ได้รวมตัวกันลงนามในจดหมายเปิดผนึก เพื่อแสดงจุดยืน ว่าเป็นหนึ่งในเสียงที่สนันสนุนฝ่ายพนักงานของ Activision Blizzard ที่ออกมาเปิดเผยว่าถูกล่วงละเมิด และชี้ให้เห็นถึงปัญหาของการจัดการกับกรณีการล่วงละเมิด ที่ไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ซึ่งจดหมายฉบับนี้ก็ไม่เรียกร้องให้เพียง Activision Blizzard ที่เดียวเท่านั้น ทำการปรับปรุงและแก้ไขต่อไปในอนาคต หากแต่หมายรวมไปถึงต้องการให้บริษัทอื่นๆ หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกปฏิบัติ การล่วงละเมิดทางเพศ และการรังแกกันภายในองค์กร ในระดับโครงสร้างของอุตสากรรมการพัฒนาเกมด้วย
หลักจากนั้น Yves Guillemot ซีอีโอของทาง Ubisoft ก็ได้ออกจดหมายตอบกลับมา โดยจดหมายฉบับสมบูรณ์นั้นก็ได้รับการโพสต์ลงใน Twitter ในใจความที่ว่า Guillemot และ Ubisoft จะยกประเด็นดังกล่าวนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างจริงจัง และบริษัทตั้งใจจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มั่นคง ยั่งยืนต่อไป นอกจากนั้นก็ยังมีการระบุถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบริษัท เช่น การปรับปรุงการทำงานของ HR และการที่พนักงานไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนอีกต่อไป ในการรายงายปัญหาที่เกิดขึ้นภายในบริษัท
ซึ่งในขณะที่เนื้อความในจดหมายลงลึกถึงประเด็นความเปลี่ยนแปลงที่ Ubisoft ได้ทำไปแล้ว การร้องเรียนจากจดหมายต้นฉบับก็ยังสมเหตุสมผลอยู่ เพราะไม่ว่าบริษัทจะมีโครงสร้างภายในที่ดีเพียงใด หากผู้บริหารไม่ได้ให้ความสนใจที่จะแก้ปัญหาอย่างแท้จริง ไม่ทำอะไรให้ดูเป็นรูปธรรม ก็ย่อมไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดขึ้นอยู่ดี นอกจากนี้จดหมายของ Guillemot ก็ยังไม่ได้ระบุข้อมูลใดเกี่ยวกับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในอนาคตเลย ซึ่งแตกต่างกับจดหมายฉบับล่าสุดของ Bobby Kotick ซีอีโอของทาง Activision Blizzard
ที่จดหมายดังกล่าวนั้นมีการพูดถึงโปรเจกต์ราคาแพงที่กำหนดไว้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2021 ซึ่งจะส่งมอบแผนงานดังกล่าวให้กับทางพนักงานเพื่อสรุปการพัฒนา ความเปลี่ยนแปลง และการอัปเดตทาง HR ใหม่ ซึ่งทางพนักงานเองก็สามารถติดต่อกับ Guillemot ได้โดยตรงเลย หากมีข้อกังวลหรือเกิดปัญหาใดขึ้น
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับการสนับสนุนจากชุมชนเกมเอง แทนที่จะไปหวังพึ่งให้บริษัทต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง และเราก็ได้แต่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นจากการฟ้องร้องในครั้งนี้ รวมถึงการประท้วงที่เกิดขึ้นของผู้คนจำนวนมาก จะสามารถช่วยพลิกอุตสาหกรรมเกม และเยียวยาปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงการกดขี่ภายในองค์กรที่เรื้อรังมาเป็นเวลานานได้ในสักวันค่ะ
Credit: GameRant