GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Sea of stars ปัดฝุ่น Turn-Based ระบบเก่า ๆ มาปรับให้เล่นสนุกขึ้น แถมยังมี Style เป็นของตัวเอง
ลงวันที่ 07/09/2023

Sea of stars ของดีแห่งเดือนกันยายน จั่วมาแบบให้ความหวังกันเลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ เอาฮะชีวิตคนเราต้องมีหวัง ผมได้เล่นเกมนี้จนจบไปแล้ว เล่นกันแบบที่ว่า Non Stop 3 วัน 3 คืน กันไปเลย (อันนี้ผมก็โม้เอาเท่ไปงั้น แต่ผมเท่จริ๊งงง ว้าวุ่นเลยทีนี้ 5555) เอาเป็นว่าผมก็ดำเนินเกมมาจนถึงจุดจบของมัน พลาดไอเทมในจุดลับบางอย่างไปบ้าง แต่ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับที่ตัวผมเองพอใจ เนื่องจากผมไม่ได้เล่นเกมแนว RPG Turn-Based มานานเพราะเบื่อความซ้ำซากของเกมเพลย์ ต้องยืน ๆ ตี ๆ เลือก ๆ เมนูสกิลมั่ง ไอเทมมั่ง ฮีลมั่งอะไรมั่ง กว่าจะถึงเทิร์นตัวเมนของเรา แหม!!! มันช่างนานเหลือเกิน แต่ก็นั่นแหละครับ มันก็เป็นเสน่ห์ของเกมแนวนี้ที่ผมคิดถึง เห็น Sea of stars เปิดวางจำหน่ายแบบตัวเต็มเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2023 ผมเลยกดลงคลัง แล้วเล่นแบบยิงยาวมาเลย ปะไปดูกันดีกว่าว่าเนื้อเรื่อง เกมเพลย์ คอนเทนต์ต่าง ๆ ในเกมมันจะแจ่มว้าวขนาดไหน แต่บอกเลยเตรียมเงินไว้ด้วยนะครับ เพราะผมจะป้ายยาแน่นอน อิอิอิอิ

เนื้อเรื่องแบบมีหลากหลายความรู้สึก มีมิติในทุกทุกโมเมนต์ (สัญญาว่าจะสปอยล์นิดเดียว)

ผมจะขอตัดช่วง Intro แบบเกริ่นนำโดย ผู้เดินทางข้ามกาลเวลา เป็นอัมตะ เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และเป็นนักเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างเดินทาง เอกสารสำคัญทางกาลเวลา เหตุการณ์ต่าง ๆ เขาคนนี้เป็นผู้เขียนและจัดเก็บไว้ทั้งหมด(เขาโม้มาแบบนั้นเลยนะ ฮ่า ๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่เขาจะเป็นผู้ร่วมทางกับเราในช่วงกลางเกมครับ) อะอะตัดออกไปก่อนเดียวจะสปอยล์ซะก่อน งั้นเดี๋ยวผมจะไปพูดถึงเหตุการณ์หลังจากนั้นสักหน่อย เรื่องราวของเด็กที่มีพลังพิเศษ 2 คน Zale และ Valare ที่ถูกจัดส่งมาโดยนกอินทรีย์ และเราจะต้องเล่นเป็นพวกเขาครับ

จุดเริ่มต้นของตัวละคร

ผมจะเล่าต่อจากด้านบนเลยนะ ผมจะเล่าแบบรวบรัดเลย รวมรัดเกมนี้เชื่อผมเถอะครับว่ายาวแน่ ๆ เพราะเนื้อเรื่องเกมนี้สนุกครับ ตัวละครหลาย ๆ ตัวจะมีปูมหลังกันมาหมด เราจะพูดถึงไอ้เด็กห้าวเป้ง 3 คน ในช่วงคัตซีนหลัง Intro เท่านั้นมั้ง 55555 เรื่องราวจะเริ่มต้นที่เด็ก 3 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ได้แก่ Zale, Valare และ Garl 

Zale และ Valare เป็นเด็กที่มีพลังเวทมนตร์ หรือที่ในเกมเรียกว่า Children of the Solstice เด็ก ๆ เหล่านี้จะถูกส่งลงมาที่โลกของเราในทุก ๆ ศตวรรษ แต่ Zale และ Valare มีความแปลกกว่า Children of the Solstice คนอื่น ๆ ที่เคยถูกส่งลงมา เพราะพวกเขา 2 คน ถูกส่งมาภายในปีเดียวกันครับ เด็ก ๆ จะถูกตั้งชื่อโดยชาวเมือง และมีอาจารย์คอยฝึกเด็ก ๆ ให้เป็น Solstice Warriors เพื่อไปต่อสู้กับ The Fleshmancer และคอยสกัดกั้นทุกพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ The Fleshmancer ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (เราจะเลือกเล่นใครก็ได้ระหว่าง Zale หรือ Valere เพื่อที่จะให้เป็น Lead Party ครับ)

ส่วน Garl เนี่ยเป็นเด็กธรรมดาในหมู่บ้านที่ Zale และ Valere อาศัยอยู่ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร อารมณ์แบบตัวโจ๊กเลย ฮ่า ๆ เขาจะตัวติดกับ Zale และ Valere ตลอดเวลา ก่อนที่ Zale และ Valere จะถูกอาจารย์ใหญ่ Moraine เรียกไปฝึกแบบจริงจังบน Zenith Academy ไอ้ไอเดียของเพื่อน Garl จอมเบียวของเรานั้นก็ได้เร่งให้ทุกอย่างมันดำเนินไปเร็วขึ้น เพราะไอ้ต้าว Garl พลังบวกมันพูดปลุกใจ Zale และ Valere ให้ไป Forbidden Cavern เพื่อที่จะโชว์ออฟว่าเด็ก ๆ อย่างเราน่ะเก่งและสามารถผ่านไปอีกฝั่งของถ้ำได้โดยที่ไม่ต้องฝึกครับ มันจะชวนเพื่อนหนีนั่นแหละ ฮ่า ๆ


พอมาจริง ๆ นูบก็คือนูบครับ 5555 เด็กน้อยสามคนที่ยังไม่ได้ผ่านการฝึกอะไรใดใดทั้งสิ้น เวทมนตร์ที่มีอยู่ก็เบ่งออกมาใช้ได้เหมือนลมตด ก็เลยทำให้พอเจอมอนสเตอร์ในถ้ำทำให้เด็กทั้ง 3 คนนั้นเป็น Panic ไอ้เด็กที่มีเวทมนตร์น่ะมันชวนกลับตั้งแต่เข้าถ้ำมาแล้ว แต่ไอ้เด็กเบียวน่ะมันปลุกใจอยู่ อะแต่ยังดีนะพอเจอภัยจริง ๆ ไอ้ Garl จอมพลังของเรานี่แหละครับ ที่รับดาเมจจากมอนสเตอร์แทนเพื่อน ๆ หายซ่าตาบอดไปข้าง โดนจับแยกกับเพื่อนอีกเป็นปีปี เพราะเพื่อนต้องขึ้นไปบนโรงเรียนลอยฟ้าเพื่อฝึกวิทยายุทธ เด็กสามคนไม่ได้เจอกันนานแรมปี พอ Zale และ Valere ฝึกวิชาจนครบหมดทุกกระบวนท่าและพร้อมจะออกเดินทางแล้ว จอมเบียวของเรามันก็เก่งขึ้นแล้วเหมือนกัน มันข้ามไปรอเราที่อีกด้านหนึ่งของถ้ำก่อน Solstice Warriors อี๊ก เอาสิใจมันได้ การผจญภัยของเด็กหนุ่มธรรมดา 1 คน ที่ทำอาหารเก่งมว๊ากกก และ 2 Solstice Warriors ก็ได้เริ่มต้นขึ้นตรงนี้แหละครับ ส่วนที่เหลือผมเล่ามาขนาดนี้แล้ว กดซื้อได้แล้วม้างงงงงงงง ฮ่า ๆ ๆ


เอาจริง ๆ สำหรับผมในด้านเนื้อเรื่อง ใจหนึ่งก็แอบคิดว่าเบียวนิด ๆ แหละ ฮ่า ๆ ฟีลคล้าย ๆ แบบตอนอ่านวันพีชสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก(จนตอนนี้จะ 40 อยู่แล้ว วันพีชยังไม่มีท่าทีจะจบสักที 5555) มิตรภาพดีงามพระรามแปด เพื่อพวกพ้อง ต้องร้องไห้ อะไรแบบนั้นเลยครับ แต่ก็ไม่ได้จะเบียวไปซะอย่างเดียว ยังมีจุดที่แบบเหมือนจะสวิตช์ความรู้สึกคนเล่นไป ๆ มา ๆ เพราะบางอย่างมันหักมุมจากที่เราคิด มันก็เลยทำให้สตอรีไลน์ในมุมคนเล่นอย่างผมนั้นได้เกิดการเซอร์ไพร์สอยู่บ่อย ๆ 

"อ้าว!!! สรุปใช้วิธีนี้ได้เหรอ? ไม่ต้องสู้ก็ได้เหรอ? อ้าว!!! ตีอยู่ตั้งนานเป็นสัตว์เลี้ยงมีหัวใจก็ไม่บอก สงสารน้อน 555"


เดินเข้าห้องไปคุยกับ NPC บางทีเตรียมใจจะสู้ไว้แล้ว แต่ NPC ก็ยื่นไอเทมมาให้ง่าย ๆ ซะอย่างนั้นเลย บางทีมีมุกแบบเจ้าของบ้านเดือดดาลไล่ลูกน้องออกด้วย เพราะดันมาช่วยเรา (เจ้านายจ้างให้เฝ้าบ้าน แต่ดันมาช่วยผู้บุกรุกอย่างเราหน้าตาเฉย 5555) มุกอะไรต่าง ๆ ก็น่ารักทำให้อมยิ้มได้ โดยเฉพาะ Garl จอมเบียวของเรา ถึงแม้ว่าเขาจะดูรักพวกพ้องจนน่ามั่นไส้ แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเราได้พินิจพิเคราะห์ตัวละครนี้อย่างจริง ๆ จัง ๆ เราจะเห็นว่าเขาเป็นคนรูปแบบหนึ่งที่ถ้ามีในโลกของเราเยอะ ๆ จะทำให้ผู้คนยิ้มได้ ไม่มีพิษมีภัย เป็นมิตรกับทุกสิ่ง พยายามมองปัญหาในแง่บวก และแก้ปัญหาแบบบวกบวก การมีความคิดสร้างสรรค์ในเชิงบวก ก็ทำให้เนื้อเรื่องของเกมนี้ดำเนินไปอย่างน่ารักจริง ๆ


เกมเพลย์บอกเลยว่าลืม RPG Turn-Based แบบง่วง ๆ ในอดีตไปซะ

อันนี้ดี อันนี้ชอบ อันนี้ปัง เป็นการเล่น Turn-Based ที่เพลย์เยอร์อย่างเราเราได้มีส่วนรวมในการต่อสู้ เนื้อเรื่องก็ไม่เนิบนาบ Puzzle ที่มีให้เล่นก็สนุก การซ่อนของต่าง ๆ ให้หาก็ไม่ได้ยากจนเกินไป มอนก็ไม่ได้ออกมาบังคับให้ต่อสู้จนน่ารำคาญ Movement ของตัวละครที่ไม่ได้ช้า และแมปต่าง ๆ ก็ไม่ได้กว้างมาก ทำให้การเล่นเกมเกิดความลงตัวและรู้สึกว่าแค่นี้แหละกำลังดี เดี๋ยวแยกเป็นหัวข้อให้อ่านกันเลย แต่อาจจะยกเอามาทั้งเกมไม่ได้ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาอันที่เด่น ๆ และคอนเทนต์ที่ผมรู้สึกว่าดีกว่าเกมแนว Turn-Based ที่ผมเคยเล่นมาในอดีต เกมสุดท้ายที่ผมเล่นน่าจะเป็น Crono Cross ในเครื่อง PS1 นู่นเลยนะ นานจนจำอะไรไม่ได้แล้วว่าเนื้อเรื่องคืออะไร 55555 ซึ่งเกม Turn-Based ยุคเก่า ๆ มันก็จะมีความน่าเบื่อของมันอยู่ เดี๋ยวผมจะยกไปพูดรวมทีเดียวเลยในหัวข้อย่อยด้านล่างนะฮะ ถ้าใครอ่านแล้วมีไฟในใจแบบอยากเล่นแล้ว ไม่อยากอ่านต่อแล้ว ก็ไปซื้อเลยฮะ เกมโคตรดี ย้ำเลยว่าถึงจะเบียวแต่ดีครับ 55555


ระบบการต่อสู้ - การต่อสู้ในรูปแบบของเกม Turn-Based โดยส่วนใหญ่ในทุก ๆ เกมที่ผมเล่นมานั้น จะแบ่งเป็นเทิร์น ๆ ให้ได้เล่น พอถึงเทิร์นตัวละครตัวไหนแล้ว ก็จะมีเมนูการต่อสู้มาให้เราเลือก ทำอยู่แบบนี้วน ๆ ไป น่าเบื่อมาก ๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรให้ทำนอกจากนี้เลย ถึงจะมีเอฟเฟกต์ให้ดูท่าไม้ตาย หรือการซัมมอนสัตว์อสูร แรก ๆ ก็ตื่นเต้นดีและอลังการหลัง ๆ ก็เริ่มเบื่อละได้ดูบ่อยเกิ๊น แล้วกินระยะเวลาเนิ่นนาน บอสบางตัวตีกันเป็นหลัก 20 นาที โดยที่เราไม่มีส่วนร่วมอะไรกับตัวละครเลย กด เลือก รอการต่อสู้ วนลูปมันอยู่ร่ำไป


แต่เกมนี้ครับ Dev ดูเหมือนหรืออาจจะรับทราบถึงความน่าเบื่อตรงนั้น อัปเกรดระบบการต่อสู้มาให้เข้ากับอุปนิสัยของคนรุ่นใหม่ เราจะต้องคอยสังเกตท่าของเราและมอนสเตอร์ในการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา เพราะเราต้องคอยบล็อกการโจมตีของมอนสเตอร์ในระหว่างที่เราเป็นฝ่ายตั้งรับ และการบล็อกทุกครั้งเราก็จะได้รับเกจไปสะสมเอาไว้เพื่อใช้ท่าคอมโบกับเพื่อนในทีม รวมถึงการใช้ Skill ต่าง ๆ ก็ต้องกดให้ตรงจังหวะเมื่อตัวละครของเราออกท่าทางการต่อสู้ไปแล้ว เมื่อเรากดตรงจังหวะเราก็จะได้รับโบนัสเป็น Mana คืนมา หรือได้รับเกจในส่วนของท่า Ultimate มาสะสมไว้ด้วย

ความสนุกไม่ได้มีเท่านี้ครับ ลูกเล่นในการต่อสู้ที่ผมคิดว่าดีมาก ๆ ของเกมนี้ยังมีอีกอย่างก็คือ การที่เราสามารถเบรกการต่อสู้ของมอนสเตอร์ได้ โดยการสังเกตสัญลักษณ์เอฟเฟกต์ท่าการต่อสู้ที่ขึ้นมาบนหัวของมอนสเตอร์ เราจะได้คิดทุกครั้งว่าเราจะต้องใช้คอมโบไหนเพื่อที่จะให้ครบตามสัญลักษณ์ที่แสดงขึ้นมาภายในเทิร์นที่กำหนด หรือถ้าเราทำได้ไม่ครบเพราะเทิร์นมันค่อนข้างสั้นแต่สัญลักษณ์แสดงขึ้นมา 8 อย่าง (ส่วนใหญ่จะเจอแบบนี้กับบอสครับ) เราสามารถตีมอนสเตอร์ตามสัญลักษณ์ต่าง ๆ เท่าที่เราทำได้เพื่อลดดาเมจในการโจมตีของมอนสเตอร์ลงได้ครับ บอกเลยว่าเป็น Turn-Based ที่ต้องคิดอยู่ตลอด และมันสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแนว Turn-Based ที่ดีให้กับผมมาก ๆ มันทำให้ผมไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในการต่อสู้ระหว่างเทิร์นด้วยครับ

อีกส่วนที่ทำให้ผมประทับใจก็น่าจะเป็นในส่วนของ Relics หาซื้อได้ตามร้านค้าตามเมืองต่าง ๆ ที่เราไป มันคือของที่ระลึกแต่มีเอฟเฟกต์ให้เราใช้ในการต่อสู้นั่นแหละครับ อย่างในรูปด้านล่างตอนที่เรายังไม่มีมัน หลังการต่อสู้ทุกครั้งเราต้องตั้งแคมป์นอนพักเพื่อฟื้นฟู HP ของเรา แต่หลังจากที่ผมได้ Relics ชิ้นนี้มาแล้วและเปิดใช้ ทุกครั้งหลังการต่อสู้เลือดของผมจะถูกรีโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องตั้งแคมป์ฟงแคมป์ไฟอะไรให้เสียเวลาอีกแล้ว และ Relics ที่เราหามาได้ทุกชิ้นสามารถเปิดใช้พร้อมกันได้ทั้งหมด แจ่มสุด ๆ มันช่วยลดความเสียเวลาให้เพลย์เยอร์ได้หลายสิ่งหลายอย่างเลยครับ


อีกอย่างที่ต้องชมก็เห็นจะเป็นเรื่องการอัปเลเวลของตัวละคร ซึ่งถึงแม้ตัวละครนั้นเราจะไม่ได้เลือกสลับลงไปร่วมสู้ด้วยเลย ก็ยังจะได้รับค่าเลเวลเหมือนเพื่อน ๆ อยู่ดี เวลาเลเวลอัปมันก็จะอัปพร้อมกันทุกตัวเลย ตรงนี้ผมมองว่าดี ไม่ต้องไปเสียเวลาปั้นตัวละคร บางทีก็นะมีตัวในใจไง มีเมนอยู่เลือกแต่ตัวเมนมาเล่นแหละ ตัวอื่นเลเวลไม่อัปกันเลย ฮ่า ๆ อันนี้ก็ได้ตัดเรื่องความลำเอียงตรงนั้นไป อัปมันให้หมดทุกตัว


จะว่าไปก็ไม่ได้มีส่วนที่ผมชอบไปซะทั้งหมด มันก็มีจุดที่ผมไม่ชอบอยู่เหมือนกัน ในระบบปาร์ตี้ของเกมนี้เนี่ยเราจะมีเพื่อนร่วมเดินทางที่ต่อสู้กับเราได้เต็มที่คือ 5 คน แต่เวลาเราลงต่อสู้เนี่ย เกมนี้จะให้สู้ได้สูงสุดแค่ 3 คนครับ ซึ่งจะมีปุ่มให้สลับตัวละครไป ๆ มา ๆ เมืออยู่ในการต่อสู้ ซึ่งผมชอบระบบที่ปาร์ตี้แบบ 6-7 คนก็อัดกันลงมาได้เลยแบบใน Final Fantasy มากกว่า 

การพบเจอมอนสเตอร์ของเกมนี้ผมต้องขอลุกขึ้นยืนปรบมือให้เลยครับ ชอบมากกกกกกก ผมรู้สึกถึงการไม่บังคับให้สู้ มันยังเจอมอนนะ แต่ไม่ได้เจอเป็นวินาทีแบบหลาย ๆ เกมที่ผมเคยเล่นมา เอาแค่ตระกูล Final Fantasy เนี่ย เดินปุ๊บดึงเข้าสู้เลย โอเคมันกดหนีได้ถ้าไม่อยากสู้ แต่หลัง ๆ มันเบื่อจนหนีตลอดเลยอะ 5555 ส่วนใน Sea of stars ถ้าสู้หมดแล้วคือหมดเลย ไม่ต้องเจอมอนสเตอร์แล้ว จนกว่าจะเดินออกจากแมปนั้นไป แล้วกลับเข้ามาใหม่มอนถึงจะ Respawn กลับมา อันนี้ดี เกมเมื่อก่อนเนี่ยถ้าผมไม่มี Action Replay แล้วใส่โค้ดสูตร ไม่เจอมอน ขยับนิดหนึ่งมันก็ดึงเข้าไปสู้แล้วครับ สู้เสร็จเพิ่งออกมาจะเดินถึงเมืองอยู่แล้ว แหมมันวาร์ปให้เข้าไปสู้อีกละ ยังไม่ทันหายใจเลย เกมนี้คือดีผมไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้สู้ แล้วไม่ต้องสู้ถี่ให้ผู้เล่นอย่างผมมีเวลาวิ่งเล่นหาหงหาหีบบ้างอะไรบ้าง เพลิน ๆ ขอบพระคุณกับระบบนี้มาก ๆ ครับ


Movement - เป็นส่วนที่อยากจะกดไลก์หัวใจให้สัก 100 ดวง ตัวละครเกมนี้ไม่ได้เดินช้าอืดอาด อาจจะมีช้าบ้างตอนเดินอยู่ในแมปแบบ Bird eye view แต่พอเข้าฉากไปแล้วก็จะเดินแบบเอาใจสายซิ่งไปเลย จากเกมอื่น ๆ ที่เดินกันช้า ๆ กว่าจะเร็วขึ้นได้ต้องรอพาหนะก่อน อันนี้ไม่ต้องพอได้เรือมาแล้วก็ไว หลัง ๆ นี่แบบโดนใจวัยรุ่นไปเลย บินเองแม่งเลย 5555 แล้วบินไวด้วยนะ ผมนี่นึกว่า Miss Marvel พอบินได้ มันก็จะมีเกาะแก่งต่าง ๆ ในแผนที่เปิดให้เราเข้าไปเล่น Puzzle เพื่อหาของอี๊ก คือแบบเพื่อน ๆ ต้องซื้ออะ มีอะไรให้ทำเยอะมาก ๆ ขนาดว่าเนื้อเรื่องหลักจบไปแล้ว ก็มีประตูลับเปิดตอนเกมจบให้เล่นอีก 680 บาทสำหรับผมคือโคตรคุ้มค่า



Puzzle & Mini Game - หีบสมบัติเยอะมากกกกก แค่หาหีบบอกเลยแก้ปริศนากันสนุกมาก ๆ แล้ว เพราะมีซ่อนให้เราได้เข้าไปค้นไปหาได้ทุกซอกทุกมุมจริง ๆ เอาเป็นว่าเมืองบาดาลอะเข้าทุกบ้านเจอทุกบ้าน 5555 ยังไม่นับการผ่านประตูบางอย่างที่จะต้องแก้ปริศนา ย้ายก้อนหินไป ๆ มา ๆ มีทั้งระดับง่าย ๆ แบบเด็กอนุบาลก็เล่นได้ ไปจนถึงระดับที่ว่าต้องนั่งดันหินกันเป็นนาทีก็มี บางอย่างผมก็ปล่อยผ่านเพราะหาทางเข้าไปเอาของไม่เจอจริง ๆ ผมเห็นนะว่าอยู่ตรงไหนเดินหาทั่วทั้งแมปแล้วก็ไม่รู้จะเข้าทางไหน ได้แต่โบกมือลา แล้วไปสอยของที่ดีกว่าในเนื้อเรื่องถัดไป แต่บางอย่างสถานการณ์บังคับ ยังไงเราก็ต้องพยายามแก้ปริศนาให้ผ่านเพราะเราจะได้รับสกิลคอมโบใหม่ ๆ ซึ่งถ้าเราพลาดแล้วเนี่ยก็จะไม่สามารถหาซื้อได้ครับ ฉะนั้นบาง Puzzle อย่าเดินหนี พยายามใช้หมองนั่งมาธิแล้วแก้ให้ผ่านด้วยครับเพื่อน ๆ


มินิเกมจะมีให้เราเล่นตาม Tavern (โรงเตี๊ยม) ที่เราไปนอนนั่นแหละครับ บอกเลยว่าแรก ๆ ผมเล่นก็ยังงง ๆ กับกติกาของเกม แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะเอาตัวพิเศษ และเหรียญไปแข่งชิงแชมป์กับ อะผมลืมจริง ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้ว แต่เขาอยู่บนหอนาฬิกาครับ เราต้องเล่นแบบชิงแชมป์ให้ชนะทุกคนก่อนถึงจะไปแข่งกับเขาได้ มินิเกมนี้มีชื่อว่า Wheels ครับ ซึ่งพอเล่นไปเรื่อย ๆ ตัวหมากของเรามีให้เลือกเล่นเยอะขึ้น ก็จะยิ่งสนุกขึ้นซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความสามารถแตกต่างกันไป แต่บอกเลยว่าผมเล่นจนติดมาก ๆ ผมอยู่กับไอ้โต๊ะ Wheels นี่วันวันเป็นชั่วโมง ถ้าเพื่อน ๆ ซื้อเกมแล้วลองเข้าไปเล่นดูฮะ แรก ๆ ก็จะยากหน่อย พอเข้าใจแล้วก็จะง่ายขึ้นมาก และก็จะวางแผนรูปแบบในการชนะได้ดีมากขึ้นด้วยครับ


Boss Fight - บอสบางตัวมีหลายเฟส หลายฟอร์มให้ได้กระหน่ำใส่นัวกัน ช่วงแรก ๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะยังไม่มี Ultimate พอช่วงหลัง ๆ เก็บเกจอัลติได้ การต่อสู้กับบอสก็จะหย่นเวลาลงครับ และคัตซีนของอัลติเมตก็สวยงามตระการตามาก ๆ บอสตายง่ายขึ้น บอสเนี่ยแม้แต่เนื้อเรื่องรอง หรือใน Puzzle ต่าง ๆ ก็มีโผล่มาให้เราได้สู้อยู่อย่างต่อเนื่องครับ แม้กระทั่งในอารีน่า(อันนี้ช่วงหลัง ๆ เวลาเราพักในโรงแรมให้เดินไปคุยกับ B'st ถ้าเขาพูดถึงอารีน่า ก็แสดงว่าอารีน่าเปิดแล้วให้ไปได้เลย) 

การตกปลา ที่ดูไม่ค่อยมีความจำเป็น

เกมนี้เราสามารถตกปลาได้นะครับ เราจะได้เนื้อปลา เนื้อกุ้งมาไว้ใช้สำหรับทำอาหารให้เรา การตกปลาเกมนี้ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่โยนเบ็ด รอปลากินเหยื่อ แล้วก็ดึงขึ้นมาตามกระแสน้ำ โดยที่เราบังคับทิศทางของปลาไปซ้ายหรือขวาตามกระแสน้ำที่เห็นครับ จริง ๆ ระบบนี้ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ผมเข้าใจว่าที่ Dev ต้องใส่ลงมาเพราะว่ามันมีระบบทำอาหารนี่แหละครับ ซึ่งสำหรับผมมันดูไม่จำเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ เพราะว่าอาหารบางอย่างก็มีขายอยู่แล้ว แล้วเล่นมาทั้งเกมผมแทบจะไม่ได้แตะกับระบบพวกนี้เลย เพราะมีวัตถุดิบอย่างอื่นที่ใช้ทำอาหารแทนได้เช่นกัน และหาได้ง่ายกว่าปลา คือปลาเกมนี้เราต้องตั้งใจไปตกเท่านั้นเลย เพราะจะมีเป็นบ่อให้ตก ซึ่งถ้าตอนที่เรายังบินไม่ได้จะโคตรเสียเวลาเดินทางมาก ๆ ซึ่งพวกมะเขือเทศ มัน หรือหัวหอม มันหาได้ง่ายกว่าตามทาง และอาหารสามารถหาซื้อเอาได้ตามร้านค้าในเมือง ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะตกปลาไปทำไม นอกจากจะเก็บ Acheivement ใน Steam

การเพิ่มเลือดด้วยอาหาร ถ้าเปลี่ยนเป็น Potion น่าจะดีกว่า

ที่ผมจั่วหัวมาแบบนี้มันก็มีเหตุผลนะครับ หลัก ๆ น่าจะเป็นที่ว่าอาหารเราจะได้สูตรมาตลอดการผจญภัยของเราเลย ไม่ว่าจะเป็นเปิดหีบ ซื้อจากร้านค้าในเมืองต่าง ๆ หรือได้รางวัลมา คือสูตรเยอะมาก แต่อาหารที่ทำมาไม่ว่าจะหลากหลายขนาดไหนมันก็เพิ่มให้เราได้แค่ HP และ MP เท่านั้นครับ คือสกิลที่ให้ใช้อะมันก็มีสกิลฮีลอยู่เกือบจะทุกตัวละครอยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มเล่นเกมจนจบเกม ผมกินอาหารน้อยมาก ๆ ส่วนใหญ่ก็อัดสกิลเลย เพราะมันเพิ่มเลือดได้เยอะกว่ากินอาหารมาก ผมอยากให้อาหารไปเพิ่มค่าสเตตัสให้ในส่วนอื่น ๆ มากกว่า เช่น เพิ่มพลังโจมตี, เพิ่ม DEF, เพิ่ม M.ATK, โจมตีบอสแรงขึ้นไรเงี้ย แต่มันไม่ใช่ไงครับ มันเลยแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับผมเท่าไหร่ น่าเสียดายที่ทำคอนเทนต์ของระบบปรุงอาหารมาน่ารักมาก แต่ผมแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากอาหารเท่าไหร่เลย

เกมไซซ์เล็ก ๆ เครื่องไม่ต้องแรงก็เล่นได้ แถมใช้ Game Pad ได้อีกด้วย

ถ้าใครหาเกมที่แบบไม่ต้องใช้ Spec เครื่องสูง ๆ แล้วชอบเล่นเกมแนว Turn-Based ผมบอกเลยว่าเพื่อน ๆ เทใจมาที่เกมนี้ได้เลย ภาพน่ารักสีสันสดใส แล้วตอนใช้อัลติภาพก็สวยงามงานดีมาก ๆ ถึงแม้มันจะเป็นเกมภาพ 2D ก็ตาม ผมมองว่ามันเป็น Turn-Based สมัยใหม่ ที่ปรับปรุงมาให้เราได้สนุกกับเกมมากขึ้น ถ้าใครอยากใช้จอยเล่นแบบผม ผมก็แนะนำเลยว่าให้ซื้อที่มี Analog และพวกปุ่ม LS RS ด้วย ส่วนผมอยากจะแบบย้อนวันวานไง ใช้จอย Game Pad ของ 8Bitdo รุ่น ที่ทำเลียนแบบจอย Super Famicom แล้วคือปุ่มมันไม่สามารถใช้ได้ทุกฟังก์ชันของเกม ผมก็เลยต้องใช้ปุ่มบางอย่างจากคีย์บอร์ดด้วย 5555 ถ้าใครจะใช้ก็ซื้อแบบปุ่มครบ ๆ มาเลย จะได้ไม่เซ็งเหมือนผม อยากจะอินวันวนวันวาน แต่ไม่ยอมดูสังขารของจอยเลยว่าไม่แมตช์ แต่ใช้ Game Pad เล่นได้ฮะสำหรับเกมนี้ และได้อรรถรสด้วย ไม่ต้อง Setting ให้วุ่นวาย Connect จอยปุ๊บมันตั้งค่าให้เราเลย เล่นแล้วได้ฟีลดีกว่าคีย์บอร์ดมาก ๆ ครับ และเราไม่เมื่อยด้วย ย้ำอีกทีถ้าอยากจะอินให้ซื้อตัวที่มี Analog นะฮะ


อันนี้คือตัวที่ผมใช้ ฟีลได้มาก ๆ เหมือน Super Famicom เลยครับ แต่ปุ่มใช้งานไม่พอ 5555

สรุป

Sea of stars สำหรับผมนั้นมันเป็นเกม RPG Turn-Based ที่สร้างมุมมองที่ดีให้ผมมองเกมแนวนี้เปลี่ยนไป คือต้องบอกตรง ๆ ว่าเมื่อก่อนตอนเล่นเกมแนว Turn-Based ใหม่ ๆ ตอนยุคผมเด็ก ๆ นั้น ผมก็สนุกกับมันอยู่ช่วงหนึ่งแหละ เพราะผมต้องเอาไปคุยโม้กับเพื่อนที่โรงเรียนว่าผมเล่นถึงไหนแล้วไง 5555 เด็ก ๆ ในยุคของผมนั้นเรียกเกมแนวนี้ว่าเกมภาษา สิ่งที่ทำหลังเกมออกก็คือรอซื้อบทสรุป พูดแล้วก็คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นมาก ๆ ครับ (น้ำตาคลอเลย แอบเบียวเหมือน Garl ไปอี๊ก 55555) แต่เกม Turn-Based ในยุคนั้นคือมีให้เล่นเยอะมาก ๆ รูปแบบเกมมันก็จะวน ๆ ยิ่งตอนเจอมอนสเตอร์เนี่ย เจอถี่_ิบหาย มันจะถี่อะไรขนาดน้านนนน แบบโคตรน่าเบื่อ เกมนี้เนี่ยเหมือน Dev เกิดในยุคของผมอะ แล้วเป็นคนประเภทเดียวกัน ฉันเบื่ออะไรแบบนี้ พอมาทำเกมเอง Dev ได้แก้จุดบอดของเกมแนว Turn-Based เดิม ๆ ให้กลับมาเล่นได้สนุกขึ้น โดยการใส่ลูกเล่นระหว่างต่อสู้ มอนสเตอร์ที่ไม่ได้บังคับให้เราสู้อยู่ตลอดเวลา มันก็เลยทำให้การเล่นเกมดูผ่อนคลายขึ้น

ถึงแม้เกมนี้จะไม่ได้แปลเป็นภาษาไทย แต่ภาษาอังกฤษที่ใช้ในเกมก็ไม่ได้ยากจนเกินไป บอกเลยว่าคุ้มค่ากับราคา 680 บาท ใครสนใจตามไปจิ้มมาเล่นเป็นเพื่อนผมได้เลยใน Steam คอนเทนต์ในเกมอัดมาให้เล่นแบบเยอะมาก แค่มินิเกมที่ชื่อว่า Wheel เนี่ยบอกเลยว่าเล่นเพลินได้เป็นชั่วโมง ถึงแม้ว่าการตกปลากับการทำอาหารที่ผมมองว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ เนื้อเรื่องและเกมเพลย์ของ Sea of stars ก็ทำให้ผมมองข้ามเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของการทำอาหารและการหาปลาไปได้ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องบางช่วงจะดูเบียว ๆ เหมือนตอนอ่านมังงะ อารมณ์ประมาณนั้นเลย 5555 แต่ผมเชื่อว่าคนเบียว ๆ แบบ Garl ถ้ามีอยู่ในโลกของเรียลลิตี้ก็คงน่ารักดี แต่ในมุมของผม อย่ารักคนอื่นมากกว่าตัวเองแบบ Garl เลยครับ รักตัวเองก๊อนนนนน เอาเป็นว่า Sea of stars ถ้าใครชอบเสพเนื้อเรื่อง ชอบเล่นเกมแนว Turn-Based เพื่อน ๆ มาลองเปิดใจกับเกมนี้ดู ผมรับประกันว่าจะไม่ผิดหวังครับ กดคืนเงินไม่ทันหรอก แค่ต้นเรื่องตอนเล่าเรื่องไอ้เด็กห้าว 3 คนก็อ่านเพลินจนหมดเวลารีฟันด์แล้ว เขาเอา Turn-Based ระบบเก่า ๆ มาปรับให้เล่นสนุกขึ้น แถมยังมี Style เป็นของตัวเอง ใจคอยังจะขอรีฟันด์กันอีกเหรอ จิตใจทำด้วยอะไรอะฮะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ



สั่งซื้อ

https://store.steampowered.com/app/1244090/Sea_of_Stars/

ป้ายยาจอยเพื่อเติมช่องว่างในหัวใจ

ใครสนใจเล่น Sea of Stars ผ่านจอยผมแนะนำรุ่นนี้เลย มี Analog 2 ข้าง มีปุ่ม L2 R2 ด้วย จับง่ายกระชับมือ แต่ถ้าสำหรับคนมือใหญ่ ๆ อาจจะรู้สึกค่อนข้างเล็กครับ Blutooth เชื่อมต่อง่าย ใช้ได้ทั้ง PC, มือถือ และ Nintendo Switch 

8Bitdo ถ้าสั่งจากจีนมีของปลอมครับ ราคาถูกก็จริงแต่เราอาจจะโดนของปลอมได้ด้วย ใครอยากได้ตามไปตำร้านเดียวกับผมรับประกันว่าได้ของแท้แน่นอน เสียตังซื้อเกมมาแล้ว ซื้อจอยไปเอา Feeling ตอนเล่นเกมด้วย ถือว่าซื้อมาเล่นเป็นเพื่อนผมละกัน ป้ายยาเลยตัวนี้ ซื้อครั้งเดียวเล่นได้ทุกเกม เจ็บแต่จบ 5555

สั่งซื้อจิ้มเลย


 

7
ข้อดี

ภาพมีสีสันสดใส ตอนใช้อัลติเมตภาพสวยอลังการในแบบ 2D

ดนตรีประกอบเพลงเลือกมาได้ดี เข้ากับเกมและเหตุการณ์ในเกม

เนื้อเรื่องของเกมสนุกน่าติดตาม

ระบบมินิเกมที่ชื่อว่า Wheel เล่นสนุกมากถ้าเข้าใจกับกติกาของมันแล้ว

เอา Turn-Based ระบบเก่า ๆ มาปรับให้เล่นสนุกขึ้น แถมยังมี Style เป็นของตัวเอง

มีภาพเป็นแบบการ์ตูนแทรกเข้ามาตอนคัตซีน

มีระบบต่าง ๆ หรือเนื้อเรื่องแยกย่อยซ่อนอยู่ใน Puzzle

ข้อเสีย

เกมอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน เพราะมีความเบียวนิด ๆ ถ้าคนไม่ชอบความคิดแบบโลกสวยให้ไปเกมอื่นเลย

ระบบการทำอาหารมีอาหารหลากหลายเมนู แต่อาหารให้ Status ไม่หลากหลาย

ระบบตกปลาที่ดูไม่มีประโยชน์มากนัก เพราะใช้วัตถุดิบอย่างอื่นนอกจากปลาทำอาหารได้

ไม่มีภาษาไทย

9
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Sea of stars ปัดฝุ่น Turn-Based ระบบเก่า ๆ มาปรับให้เล่นสนุกขึ้น แถมยังมี Style เป็นของตัวเอง
07/09/2023

Sea of stars ของดีแห่งเดือนกันยายน จั่วมาแบบให้ความหวังกันเลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ เอาฮะชีวิตคนเราต้องมีหวัง ผมได้เล่นเกมนี้จนจบไปแล้ว เล่นกันแบบที่ว่า Non Stop 3 วัน 3 คืน กันไปเลย (อันนี้ผมก็โม้เอาเท่ไปงั้น แต่ผมเท่จริ๊งงง ว้าวุ่นเลยทีนี้ 5555) เอาเป็นว่าผมก็ดำเนินเกมมาจนถึงจุดจบของมัน พลาดไอเทมในจุดลับบางอย่างไปบ้าง แต่ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายอยู่ในระดับที่ตัวผมเองพอใจ เนื่องจากผมไม่ได้เล่นเกมแนว RPG Turn-Based มานานเพราะเบื่อความซ้ำซากของเกมเพลย์ ต้องยืน ๆ ตี ๆ เลือก ๆ เมนูสกิลมั่ง ไอเทมมั่ง ฮีลมั่งอะไรมั่ง กว่าจะถึงเทิร์นตัวเมนของเรา แหม!!! มันช่างนานเหลือเกิน แต่ก็นั่นแหละครับ มันก็เป็นเสน่ห์ของเกมแนวนี้ที่ผมคิดถึง เห็น Sea of stars เปิดวางจำหน่ายแบบตัวเต็มเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2023 ผมเลยกดลงคลัง แล้วเล่นแบบยิงยาวมาเลย ปะไปดูกันดีกว่าว่าเนื้อเรื่อง เกมเพลย์ คอนเทนต์ต่าง ๆ ในเกมมันจะแจ่มว้าวขนาดไหน แต่บอกเลยเตรียมเงินไว้ด้วยนะครับ เพราะผมจะป้ายยาแน่นอน อิอิอิอิ

เนื้อเรื่องแบบมีหลากหลายความรู้สึก มีมิติในทุกทุกโมเมนต์ (สัญญาว่าจะสปอยล์นิดเดียว)

ผมจะขอตัดช่วง Intro แบบเกริ่นนำโดย ผู้เดินทางข้ามกาลเวลา เป็นอัมตะ เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และเป็นนักเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ระหว่างเดินทาง เอกสารสำคัญทางกาลเวลา เหตุการณ์ต่าง ๆ เขาคนนี้เป็นผู้เขียนและจัดเก็บไว้ทั้งหมด(เขาโม้มาแบบนั้นเลยนะ ฮ่า ๆ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็แล้วแต่ แต่เขาจะเป็นผู้ร่วมทางกับเราในช่วงกลางเกมครับ) อะอะตัดออกไปก่อนเดียวจะสปอยล์ซะก่อน งั้นเดี๋ยวผมจะไปพูดถึงเหตุการณ์หลังจากนั้นสักหน่อย เรื่องราวของเด็กที่มีพลังพิเศษ 2 คน Zale และ Valare ที่ถูกจัดส่งมาโดยนกอินทรีย์ และเราจะต้องเล่นเป็นพวกเขาครับ

จุดเริ่มต้นของตัวละคร

ผมจะเล่าต่อจากด้านบนเลยนะ ผมจะเล่าแบบรวบรัดเลย รวมรัดเกมนี้เชื่อผมเถอะครับว่ายาวแน่ ๆ เพราะเนื้อเรื่องเกมนี้สนุกครับ ตัวละครหลาย ๆ ตัวจะมีปูมหลังกันมาหมด เราจะพูดถึงไอ้เด็กห้าวเป้ง 3 คน ในช่วงคัตซีนหลัง Intro เท่านั้นมั้ง 55555 เรื่องราวจะเริ่มต้นที่เด็ก 3 คน ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ได้แก่ Zale, Valare และ Garl 

Zale และ Valare เป็นเด็กที่มีพลังเวทมนตร์ หรือที่ในเกมเรียกว่า Children of the Solstice เด็ก ๆ เหล่านี้จะถูกส่งลงมาที่โลกของเราในทุก ๆ ศตวรรษ แต่ Zale และ Valare มีความแปลกกว่า Children of the Solstice คนอื่น ๆ ที่เคยถูกส่งลงมา เพราะพวกเขา 2 คน ถูกส่งมาภายในปีเดียวกันครับ เด็ก ๆ จะถูกตั้งชื่อโดยชาวเมือง และมีอาจารย์คอยฝึกเด็ก ๆ ให้เป็น Solstice Warriors เพื่อไปต่อสู้กับ The Fleshmancer และคอยสกัดกั้นทุกพิธีกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ The Fleshmancer ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (เราจะเลือกเล่นใครก็ได้ระหว่าง Zale หรือ Valere เพื่อที่จะให้เป็น Lead Party ครับ)

ส่วน Garl เนี่ยเป็นเด็กธรรมดาในหมู่บ้านที่ Zale และ Valere อาศัยอยู่ไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร อารมณ์แบบตัวโจ๊กเลย ฮ่า ๆ เขาจะตัวติดกับ Zale และ Valere ตลอดเวลา ก่อนที่ Zale และ Valere จะถูกอาจารย์ใหญ่ Moraine เรียกไปฝึกแบบจริงจังบน Zenith Academy ไอ้ไอเดียของเพื่อน Garl จอมเบียวของเรานั้นก็ได้เร่งให้ทุกอย่างมันดำเนินไปเร็วขึ้น เพราะไอ้ต้าว Garl พลังบวกมันพูดปลุกใจ Zale และ Valere ให้ไป Forbidden Cavern เพื่อที่จะโชว์ออฟว่าเด็ก ๆ อย่างเราน่ะเก่งและสามารถผ่านไปอีกฝั่งของถ้ำได้โดยที่ไม่ต้องฝึกครับ มันจะชวนเพื่อนหนีนั่นแหละ ฮ่า ๆ


พอมาจริง ๆ นูบก็คือนูบครับ 5555 เด็กน้อยสามคนที่ยังไม่ได้ผ่านการฝึกอะไรใดใดทั้งสิ้น เวทมนตร์ที่มีอยู่ก็เบ่งออกมาใช้ได้เหมือนลมตด ก็เลยทำให้พอเจอมอนสเตอร์ในถ้ำทำให้เด็กทั้ง 3 คนนั้นเป็น Panic ไอ้เด็กที่มีเวทมนตร์น่ะมันชวนกลับตั้งแต่เข้าถ้ำมาแล้ว แต่ไอ้เด็กเบียวน่ะมันปลุกใจอยู่ อะแต่ยังดีนะพอเจอภัยจริง ๆ ไอ้ Garl จอมพลังของเรานี่แหละครับ ที่รับดาเมจจากมอนสเตอร์แทนเพื่อน ๆ หายซ่าตาบอดไปข้าง โดนจับแยกกับเพื่อนอีกเป็นปีปี เพราะเพื่อนต้องขึ้นไปบนโรงเรียนลอยฟ้าเพื่อฝึกวิทยายุทธ เด็กสามคนไม่ได้เจอกันนานแรมปี พอ Zale และ Valere ฝึกวิชาจนครบหมดทุกกระบวนท่าและพร้อมจะออกเดินทางแล้ว จอมเบียวของเรามันก็เก่งขึ้นแล้วเหมือนกัน มันข้ามไปรอเราที่อีกด้านหนึ่งของถ้ำก่อน Solstice Warriors อี๊ก เอาสิใจมันได้ การผจญภัยของเด็กหนุ่มธรรมดา 1 คน ที่ทำอาหารเก่งมว๊ากกก และ 2 Solstice Warriors ก็ได้เริ่มต้นขึ้นตรงนี้แหละครับ ส่วนที่เหลือผมเล่ามาขนาดนี้แล้ว กดซื้อได้แล้วม้างงงงงงงง ฮ่า ๆ ๆ


เอาจริง ๆ สำหรับผมในด้านเนื้อเรื่อง ใจหนึ่งก็แอบคิดว่าเบียวนิด ๆ แหละ ฮ่า ๆ ฟีลคล้าย ๆ แบบตอนอ่านวันพีชสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก(จนตอนนี้จะ 40 อยู่แล้ว วันพีชยังไม่มีท่าทีจะจบสักที 5555) มิตรภาพดีงามพระรามแปด เพื่อพวกพ้อง ต้องร้องไห้ อะไรแบบนั้นเลยครับ แต่ก็ไม่ได้จะเบียวไปซะอย่างเดียว ยังมีจุดที่แบบเหมือนจะสวิตช์ความรู้สึกคนเล่นไป ๆ มา ๆ เพราะบางอย่างมันหักมุมจากที่เราคิด มันก็เลยทำให้สตอรีไลน์ในมุมคนเล่นอย่างผมนั้นได้เกิดการเซอร์ไพร์สอยู่บ่อย ๆ 

"อ้าว!!! สรุปใช้วิธีนี้ได้เหรอ? ไม่ต้องสู้ก็ได้เหรอ? อ้าว!!! ตีอยู่ตั้งนานเป็นสัตว์เลี้ยงมีหัวใจก็ไม่บอก สงสารน้อน 555"


เดินเข้าห้องไปคุยกับ NPC บางทีเตรียมใจจะสู้ไว้แล้ว แต่ NPC ก็ยื่นไอเทมมาให้ง่าย ๆ ซะอย่างนั้นเลย บางทีมีมุกแบบเจ้าของบ้านเดือดดาลไล่ลูกน้องออกด้วย เพราะดันมาช่วยเรา (เจ้านายจ้างให้เฝ้าบ้าน แต่ดันมาช่วยผู้บุกรุกอย่างเราหน้าตาเฉย 5555) มุกอะไรต่าง ๆ ก็น่ารักทำให้อมยิ้มได้ โดยเฉพาะ Garl จอมเบียวของเรา ถึงแม้ว่าเขาจะดูรักพวกพ้องจนน่ามั่นไส้ แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเราได้พินิจพิเคราะห์ตัวละครนี้อย่างจริง ๆ จัง ๆ เราจะเห็นว่าเขาเป็นคนรูปแบบหนึ่งที่ถ้ามีในโลกของเราเยอะ ๆ จะทำให้ผู้คนยิ้มได้ ไม่มีพิษมีภัย เป็นมิตรกับทุกสิ่ง พยายามมองปัญหาในแง่บวก และแก้ปัญหาแบบบวกบวก การมีความคิดสร้างสรรค์ในเชิงบวก ก็ทำให้เนื้อเรื่องของเกมนี้ดำเนินไปอย่างน่ารักจริง ๆ


เกมเพลย์บอกเลยว่าลืม RPG Turn-Based แบบง่วง ๆ ในอดีตไปซะ

อันนี้ดี อันนี้ชอบ อันนี้ปัง เป็นการเล่น Turn-Based ที่เพลย์เยอร์อย่างเราเราได้มีส่วนรวมในการต่อสู้ เนื้อเรื่องก็ไม่เนิบนาบ Puzzle ที่มีให้เล่นก็สนุก การซ่อนของต่าง ๆ ให้หาก็ไม่ได้ยากจนเกินไป มอนก็ไม่ได้ออกมาบังคับให้ต่อสู้จนน่ารำคาญ Movement ของตัวละครที่ไม่ได้ช้า และแมปต่าง ๆ ก็ไม่ได้กว้างมาก ทำให้การเล่นเกมเกิดความลงตัวและรู้สึกว่าแค่นี้แหละกำลังดี เดี๋ยวแยกเป็นหัวข้อให้อ่านกันเลย แต่อาจจะยกเอามาทั้งเกมไม่ได้ งั้นเดี๋ยวผมจะเอาอันที่เด่น ๆ และคอนเทนต์ที่ผมรู้สึกว่าดีกว่าเกมแนว Turn-Based ที่ผมเคยเล่นมาในอดีต เกมสุดท้ายที่ผมเล่นน่าจะเป็น Crono Cross ในเครื่อง PS1 นู่นเลยนะ นานจนจำอะไรไม่ได้แล้วว่าเนื้อเรื่องคืออะไร 55555 ซึ่งเกม Turn-Based ยุคเก่า ๆ มันก็จะมีความน่าเบื่อของมันอยู่ เดี๋ยวผมจะยกไปพูดรวมทีเดียวเลยในหัวข้อย่อยด้านล่างนะฮะ ถ้าใครอ่านแล้วมีไฟในใจแบบอยากเล่นแล้ว ไม่อยากอ่านต่อแล้ว ก็ไปซื้อเลยฮะ เกมโคตรดี ย้ำเลยว่าถึงจะเบียวแต่ดีครับ 55555


ระบบการต่อสู้ - การต่อสู้ในรูปแบบของเกม Turn-Based โดยส่วนใหญ่ในทุก ๆ เกมที่ผมเล่นมานั้น จะแบ่งเป็นเทิร์น ๆ ให้ได้เล่น พอถึงเทิร์นตัวละครตัวไหนแล้ว ก็จะมีเมนูการต่อสู้มาให้เราเลือก ทำอยู่แบบนี้วน ๆ ไป น่าเบื่อมาก ๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรให้ทำนอกจากนี้เลย ถึงจะมีเอฟเฟกต์ให้ดูท่าไม้ตาย หรือการซัมมอนสัตว์อสูร แรก ๆ ก็ตื่นเต้นดีและอลังการหลัง ๆ ก็เริ่มเบื่อละได้ดูบ่อยเกิ๊น แล้วกินระยะเวลาเนิ่นนาน บอสบางตัวตีกันเป็นหลัก 20 นาที โดยที่เราไม่มีส่วนร่วมอะไรกับตัวละครเลย กด เลือก รอการต่อสู้ วนลูปมันอยู่ร่ำไป


แต่เกมนี้ครับ Dev ดูเหมือนหรืออาจจะรับทราบถึงความน่าเบื่อตรงนั้น อัปเกรดระบบการต่อสู้มาให้เข้ากับอุปนิสัยของคนรุ่นใหม่ เราจะต้องคอยสังเกตท่าของเราและมอนสเตอร์ในการต่อสู้อยู่ตลอดเวลา เพราะเราต้องคอยบล็อกการโจมตีของมอนสเตอร์ในระหว่างที่เราเป็นฝ่ายตั้งรับ และการบล็อกทุกครั้งเราก็จะได้รับเกจไปสะสมเอาไว้เพื่อใช้ท่าคอมโบกับเพื่อนในทีม รวมถึงการใช้ Skill ต่าง ๆ ก็ต้องกดให้ตรงจังหวะเมื่อตัวละครของเราออกท่าทางการต่อสู้ไปแล้ว เมื่อเรากดตรงจังหวะเราก็จะได้รับโบนัสเป็น Mana คืนมา หรือได้รับเกจในส่วนของท่า Ultimate มาสะสมไว้ด้วย

ความสนุกไม่ได้มีเท่านี้ครับ ลูกเล่นในการต่อสู้ที่ผมคิดว่าดีมาก ๆ ของเกมนี้ยังมีอีกอย่างก็คือ การที่เราสามารถเบรกการต่อสู้ของมอนสเตอร์ได้ โดยการสังเกตสัญลักษณ์เอฟเฟกต์ท่าการต่อสู้ที่ขึ้นมาบนหัวของมอนสเตอร์ เราจะได้คิดทุกครั้งว่าเราจะต้องใช้คอมโบไหนเพื่อที่จะให้ครบตามสัญลักษณ์ที่แสดงขึ้นมาภายในเทิร์นที่กำหนด หรือถ้าเราทำได้ไม่ครบเพราะเทิร์นมันค่อนข้างสั้นแต่สัญลักษณ์แสดงขึ้นมา 8 อย่าง (ส่วนใหญ่จะเจอแบบนี้กับบอสครับ) เราสามารถตีมอนสเตอร์ตามสัญลักษณ์ต่าง ๆ เท่าที่เราทำได้เพื่อลดดาเมจในการโจมตีของมอนสเตอร์ลงได้ครับ บอกเลยว่าเป็น Turn-Based ที่ต้องคิดอยู่ตลอด และมันสร้างประสบการณ์การเล่นเกมแนว Turn-Based ที่ดีให้กับผมมาก ๆ มันทำให้ผมไม่รู้สึกเบื่อหน่ายในการต่อสู้ระหว่างเทิร์นด้วยครับ

อีกส่วนที่ทำให้ผมประทับใจก็น่าจะเป็นในส่วนของ Relics หาซื้อได้ตามร้านค้าตามเมืองต่าง ๆ ที่เราไป มันคือของที่ระลึกแต่มีเอฟเฟกต์ให้เราใช้ในการต่อสู้นั่นแหละครับ อย่างในรูปด้านล่างตอนที่เรายังไม่มีมัน หลังการต่อสู้ทุกครั้งเราต้องตั้งแคมป์นอนพักเพื่อฟื้นฟู HP ของเรา แต่หลังจากที่ผมได้ Relics ชิ้นนี้มาแล้วและเปิดใช้ ทุกครั้งหลังการต่อสู้เลือดของผมจะถูกรีโดยอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องตั้งแคมป์ฟงแคมป์ไฟอะไรให้เสียเวลาอีกแล้ว และ Relics ที่เราหามาได้ทุกชิ้นสามารถเปิดใช้พร้อมกันได้ทั้งหมด แจ่มสุด ๆ มันช่วยลดความเสียเวลาให้เพลย์เยอร์ได้หลายสิ่งหลายอย่างเลยครับ


อีกอย่างที่ต้องชมก็เห็นจะเป็นเรื่องการอัปเลเวลของตัวละคร ซึ่งถึงแม้ตัวละครนั้นเราจะไม่ได้เลือกสลับลงไปร่วมสู้ด้วยเลย ก็ยังจะได้รับค่าเลเวลเหมือนเพื่อน ๆ อยู่ดี เวลาเลเวลอัปมันก็จะอัปพร้อมกันทุกตัวเลย ตรงนี้ผมมองว่าดี ไม่ต้องไปเสียเวลาปั้นตัวละคร บางทีก็นะมีตัวในใจไง มีเมนอยู่เลือกแต่ตัวเมนมาเล่นแหละ ตัวอื่นเลเวลไม่อัปกันเลย ฮ่า ๆ อันนี้ก็ได้ตัดเรื่องความลำเอียงตรงนั้นไป อัปมันให้หมดทุกตัว


จะว่าไปก็ไม่ได้มีส่วนที่ผมชอบไปซะทั้งหมด มันก็มีจุดที่ผมไม่ชอบอยู่เหมือนกัน ในระบบปาร์ตี้ของเกมนี้เนี่ยเราจะมีเพื่อนร่วมเดินทางที่ต่อสู้กับเราได้เต็มที่คือ 5 คน แต่เวลาเราลงต่อสู้เนี่ย เกมนี้จะให้สู้ได้สูงสุดแค่ 3 คนครับ ซึ่งจะมีปุ่มให้สลับตัวละครไป ๆ มา ๆ เมืออยู่ในการต่อสู้ ซึ่งผมชอบระบบที่ปาร์ตี้แบบ 6-7 คนก็อัดกันลงมาได้เลยแบบใน Final Fantasy มากกว่า 

การพบเจอมอนสเตอร์ของเกมนี้ผมต้องขอลุกขึ้นยืนปรบมือให้เลยครับ ชอบมากกกกกกก ผมรู้สึกถึงการไม่บังคับให้สู้ มันยังเจอมอนนะ แต่ไม่ได้เจอเป็นวินาทีแบบหลาย ๆ เกมที่ผมเคยเล่นมา เอาแค่ตระกูล Final Fantasy เนี่ย เดินปุ๊บดึงเข้าสู้เลย โอเคมันกดหนีได้ถ้าไม่อยากสู้ แต่หลัง ๆ มันเบื่อจนหนีตลอดเลยอะ 5555 ส่วนใน Sea of stars ถ้าสู้หมดแล้วคือหมดเลย ไม่ต้องเจอมอนสเตอร์แล้ว จนกว่าจะเดินออกจากแมปนั้นไป แล้วกลับเข้ามาใหม่มอนถึงจะ Respawn กลับมา อันนี้ดี เกมเมื่อก่อนเนี่ยถ้าผมไม่มี Action Replay แล้วใส่โค้ดสูตร ไม่เจอมอน ขยับนิดหนึ่งมันก็ดึงเข้าไปสู้แล้วครับ สู้เสร็จเพิ่งออกมาจะเดินถึงเมืองอยู่แล้ว แหมมันวาร์ปให้เข้าไปสู้อีกละ ยังไม่ทันหายใจเลย เกมนี้คือดีผมไม่รู้สึกว่าถูกบังคับให้สู้ แล้วไม่ต้องสู้ถี่ให้ผู้เล่นอย่างผมมีเวลาวิ่งเล่นหาหงหาหีบบ้างอะไรบ้าง เพลิน ๆ ขอบพระคุณกับระบบนี้มาก ๆ ครับ


Movement - เป็นส่วนที่อยากจะกดไลก์หัวใจให้สัก 100 ดวง ตัวละครเกมนี้ไม่ได้เดินช้าอืดอาด อาจจะมีช้าบ้างตอนเดินอยู่ในแมปแบบ Bird eye view แต่พอเข้าฉากไปแล้วก็จะเดินแบบเอาใจสายซิ่งไปเลย จากเกมอื่น ๆ ที่เดินกันช้า ๆ กว่าจะเร็วขึ้นได้ต้องรอพาหนะก่อน อันนี้ไม่ต้องพอได้เรือมาแล้วก็ไว หลัง ๆ นี่แบบโดนใจวัยรุ่นไปเลย บินเองแม่งเลย 5555 แล้วบินไวด้วยนะ ผมนี่นึกว่า Miss Marvel พอบินได้ มันก็จะมีเกาะแก่งต่าง ๆ ในแผนที่เปิดให้เราเข้าไปเล่น Puzzle เพื่อหาของอี๊ก คือแบบเพื่อน ๆ ต้องซื้ออะ มีอะไรให้ทำเยอะมาก ๆ ขนาดว่าเนื้อเรื่องหลักจบไปแล้ว ก็มีประตูลับเปิดตอนเกมจบให้เล่นอีก 680 บาทสำหรับผมคือโคตรคุ้มค่า



Puzzle & Mini Game - หีบสมบัติเยอะมากกกกก แค่หาหีบบอกเลยแก้ปริศนากันสนุกมาก ๆ แล้ว เพราะมีซ่อนให้เราได้เข้าไปค้นไปหาได้ทุกซอกทุกมุมจริง ๆ เอาเป็นว่าเมืองบาดาลอะเข้าทุกบ้านเจอทุกบ้าน 5555 ยังไม่นับการผ่านประตูบางอย่างที่จะต้องแก้ปริศนา ย้ายก้อนหินไป ๆ มา ๆ มีทั้งระดับง่าย ๆ แบบเด็กอนุบาลก็เล่นได้ ไปจนถึงระดับที่ว่าต้องนั่งดันหินกันเป็นนาทีก็มี บางอย่างผมก็ปล่อยผ่านเพราะหาทางเข้าไปเอาของไม่เจอจริง ๆ ผมเห็นนะว่าอยู่ตรงไหนเดินหาทั่วทั้งแมปแล้วก็ไม่รู้จะเข้าทางไหน ได้แต่โบกมือลา แล้วไปสอยของที่ดีกว่าในเนื้อเรื่องถัดไป แต่บางอย่างสถานการณ์บังคับ ยังไงเราก็ต้องพยายามแก้ปริศนาให้ผ่านเพราะเราจะได้รับสกิลคอมโบใหม่ ๆ ซึ่งถ้าเราพลาดแล้วเนี่ยก็จะไม่สามารถหาซื้อได้ครับ ฉะนั้นบาง Puzzle อย่าเดินหนี พยายามใช้หมองนั่งมาธิแล้วแก้ให้ผ่านด้วยครับเพื่อน ๆ


มินิเกมจะมีให้เราเล่นตาม Tavern (โรงเตี๊ยม) ที่เราไปนอนนั่นแหละครับ บอกเลยว่าแรก ๆ ผมเล่นก็ยังงง ๆ กับกติกาของเกม แต่พอเล่นไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะเอาตัวพิเศษ และเหรียญไปแข่งชิงแชมป์กับ อะผมลืมจริง ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้ว แต่เขาอยู่บนหอนาฬิกาครับ เราต้องเล่นแบบชิงแชมป์ให้ชนะทุกคนก่อนถึงจะไปแข่งกับเขาได้ มินิเกมนี้มีชื่อว่า Wheels ครับ ซึ่งพอเล่นไปเรื่อย ๆ ตัวหมากของเรามีให้เลือกเล่นเยอะขึ้น ก็จะยิ่งสนุกขึ้นซึ่งแต่ละตัวก็จะมีความสามารถแตกต่างกันไป แต่บอกเลยว่าผมเล่นจนติดมาก ๆ ผมอยู่กับไอ้โต๊ะ Wheels นี่วันวันเป็นชั่วโมง ถ้าเพื่อน ๆ ซื้อเกมแล้วลองเข้าไปเล่นดูฮะ แรก ๆ ก็จะยากหน่อย พอเข้าใจแล้วก็จะง่ายขึ้นมาก และก็จะวางแผนรูปแบบในการชนะได้ดีมากขึ้นด้วยครับ


Boss Fight - บอสบางตัวมีหลายเฟส หลายฟอร์มให้ได้กระหน่ำใส่นัวกัน ช่วงแรก ๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะยังไม่มี Ultimate พอช่วงหลัง ๆ เก็บเกจอัลติได้ การต่อสู้กับบอสก็จะหย่นเวลาลงครับ และคัตซีนของอัลติเมตก็สวยงามตระการตามาก ๆ บอสตายง่ายขึ้น บอสเนี่ยแม้แต่เนื้อเรื่องรอง หรือใน Puzzle ต่าง ๆ ก็มีโผล่มาให้เราได้สู้อยู่อย่างต่อเนื่องครับ แม้กระทั่งในอารีน่า(อันนี้ช่วงหลัง ๆ เวลาเราพักในโรงแรมให้เดินไปคุยกับ B'st ถ้าเขาพูดถึงอารีน่า ก็แสดงว่าอารีน่าเปิดแล้วให้ไปได้เลย) 

การตกปลา ที่ดูไม่ค่อยมีความจำเป็น

เกมนี้เราสามารถตกปลาได้นะครับ เราจะได้เนื้อปลา เนื้อกุ้งมาไว้ใช้สำหรับทำอาหารให้เรา การตกปลาเกมนี้ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่โยนเบ็ด รอปลากินเหยื่อ แล้วก็ดึงขึ้นมาตามกระแสน้ำ โดยที่เราบังคับทิศทางของปลาไปซ้ายหรือขวาตามกระแสน้ำที่เห็นครับ จริง ๆ ระบบนี้ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ผมเข้าใจว่าที่ Dev ต้องใส่ลงมาเพราะว่ามันมีระบบทำอาหารนี่แหละครับ ซึ่งสำหรับผมมันดูไม่จำเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละ เพราะว่าอาหารบางอย่างก็มีขายอยู่แล้ว แล้วเล่นมาทั้งเกมผมแทบจะไม่ได้แตะกับระบบพวกนี้เลย เพราะมีวัตถุดิบอย่างอื่นที่ใช้ทำอาหารแทนได้เช่นกัน และหาได้ง่ายกว่าปลา คือปลาเกมนี้เราต้องตั้งใจไปตกเท่านั้นเลย เพราะจะมีเป็นบ่อให้ตก ซึ่งถ้าตอนที่เรายังบินไม่ได้จะโคตรเสียเวลาเดินทางมาก ๆ ซึ่งพวกมะเขือเทศ มัน หรือหัวหอม มันหาได้ง่ายกว่าตามทาง และอาหารสามารถหาซื้อเอาได้ตามร้านค้าในเมือง ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะตกปลาไปทำไม นอกจากจะเก็บ Acheivement ใน Steam

การเพิ่มเลือดด้วยอาหาร ถ้าเปลี่ยนเป็น Potion น่าจะดีกว่า

ที่ผมจั่วหัวมาแบบนี้มันก็มีเหตุผลนะครับ หลัก ๆ น่าจะเป็นที่ว่าอาหารเราจะได้สูตรมาตลอดการผจญภัยของเราเลย ไม่ว่าจะเป็นเปิดหีบ ซื้อจากร้านค้าในเมืองต่าง ๆ หรือได้รางวัลมา คือสูตรเยอะมาก แต่อาหารที่ทำมาไม่ว่าจะหลากหลายขนาดไหนมันก็เพิ่มให้เราได้แค่ HP และ MP เท่านั้นครับ คือสกิลที่ให้ใช้อะมันก็มีสกิลฮีลอยู่เกือบจะทุกตัวละครอยู่แล้ว ตั้งแต่เริ่มเล่นเกมจนจบเกม ผมกินอาหารน้อยมาก ๆ ส่วนใหญ่ก็อัดสกิลเลย เพราะมันเพิ่มเลือดได้เยอะกว่ากินอาหารมาก ผมอยากให้อาหารไปเพิ่มค่าสเตตัสให้ในส่วนอื่น ๆ มากกว่า เช่น เพิ่มพลังโจมตี, เพิ่ม DEF, เพิ่ม M.ATK, โจมตีบอสแรงขึ้นไรเงี้ย แต่มันไม่ใช่ไงครับ มันเลยแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรกับผมเท่าไหร่ น่าเสียดายที่ทำคอนเทนต์ของระบบปรุงอาหารมาน่ารักมาก แต่ผมแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรจากอาหารเท่าไหร่เลย

เกมไซซ์เล็ก ๆ เครื่องไม่ต้องแรงก็เล่นได้ แถมใช้ Game Pad ได้อีกด้วย

ถ้าใครหาเกมที่แบบไม่ต้องใช้ Spec เครื่องสูง ๆ แล้วชอบเล่นเกมแนว Turn-Based ผมบอกเลยว่าเพื่อน ๆ เทใจมาที่เกมนี้ได้เลย ภาพน่ารักสีสันสดใส แล้วตอนใช้อัลติภาพก็สวยงามงานดีมาก ๆ ถึงแม้มันจะเป็นเกมภาพ 2D ก็ตาม ผมมองว่ามันเป็น Turn-Based สมัยใหม่ ที่ปรับปรุงมาให้เราได้สนุกกับเกมมากขึ้น ถ้าใครอยากใช้จอยเล่นแบบผม ผมก็แนะนำเลยว่าให้ซื้อที่มี Analog และพวกปุ่ม LS RS ด้วย ส่วนผมอยากจะแบบย้อนวันวานไง ใช้จอย Game Pad ของ 8Bitdo รุ่น ที่ทำเลียนแบบจอย Super Famicom แล้วคือปุ่มมันไม่สามารถใช้ได้ทุกฟังก์ชันของเกม ผมก็เลยต้องใช้ปุ่มบางอย่างจากคีย์บอร์ดด้วย 5555 ถ้าใครจะใช้ก็ซื้อแบบปุ่มครบ ๆ มาเลย จะได้ไม่เซ็งเหมือนผม อยากจะอินวันวนวันวาน แต่ไม่ยอมดูสังขารของจอยเลยว่าไม่แมตช์ แต่ใช้ Game Pad เล่นได้ฮะสำหรับเกมนี้ และได้อรรถรสด้วย ไม่ต้อง Setting ให้วุ่นวาย Connect จอยปุ๊บมันตั้งค่าให้เราเลย เล่นแล้วได้ฟีลดีกว่าคีย์บอร์ดมาก ๆ ครับ และเราไม่เมื่อยด้วย ย้ำอีกทีถ้าอยากจะอินให้ซื้อตัวที่มี Analog นะฮะ


อันนี้คือตัวที่ผมใช้ ฟีลได้มาก ๆ เหมือน Super Famicom เลยครับ แต่ปุ่มใช้งานไม่พอ 5555

สรุป

Sea of stars สำหรับผมนั้นมันเป็นเกม RPG Turn-Based ที่สร้างมุมมองที่ดีให้ผมมองเกมแนวนี้เปลี่ยนไป คือต้องบอกตรง ๆ ว่าเมื่อก่อนตอนเล่นเกมแนว Turn-Based ใหม่ ๆ ตอนยุคผมเด็ก ๆ นั้น ผมก็สนุกกับมันอยู่ช่วงหนึ่งแหละ เพราะผมต้องเอาไปคุยโม้กับเพื่อนที่โรงเรียนว่าผมเล่นถึงไหนแล้วไง 5555 เด็ก ๆ ในยุคของผมนั้นเรียกเกมแนวนี้ว่าเกมภาษา สิ่งที่ทำหลังเกมออกก็คือรอซื้อบทสรุป พูดแล้วก็คิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นมาก ๆ ครับ (น้ำตาคลอเลย แอบเบียวเหมือน Garl ไปอี๊ก 55555) แต่เกม Turn-Based ในยุคนั้นคือมีให้เล่นเยอะมาก ๆ รูปแบบเกมมันก็จะวน ๆ ยิ่งตอนเจอมอนสเตอร์เนี่ย เจอถี่_ิบหาย มันจะถี่อะไรขนาดน้านนนน แบบโคตรน่าเบื่อ เกมนี้เนี่ยเหมือน Dev เกิดในยุคของผมอะ แล้วเป็นคนประเภทเดียวกัน ฉันเบื่ออะไรแบบนี้ พอมาทำเกมเอง Dev ได้แก้จุดบอดของเกมแนว Turn-Based เดิม ๆ ให้กลับมาเล่นได้สนุกขึ้น โดยการใส่ลูกเล่นระหว่างต่อสู้ มอนสเตอร์ที่ไม่ได้บังคับให้เราสู้อยู่ตลอดเวลา มันก็เลยทำให้การเล่นเกมดูผ่อนคลายขึ้น

ถึงแม้เกมนี้จะไม่ได้แปลเป็นภาษาไทย แต่ภาษาอังกฤษที่ใช้ในเกมก็ไม่ได้ยากจนเกินไป บอกเลยว่าคุ้มค่ากับราคา 680 บาท ใครสนใจตามไปจิ้มมาเล่นเป็นเพื่อนผมได้เลยใน Steam คอนเทนต์ในเกมอัดมาให้เล่นแบบเยอะมาก แค่มินิเกมที่ชื่อว่า Wheel เนี่ยบอกเลยว่าเล่นเพลินได้เป็นชั่วโมง ถึงแม้ว่าการตกปลากับการทำอาหารที่ผมมองว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่ เนื้อเรื่องและเกมเพลย์ของ Sea of stars ก็ทำให้ผมมองข้ามเรื่องความไม่สมเหตุสมผลของการทำอาหารและการหาปลาไปได้ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องบางช่วงจะดูเบียว ๆ เหมือนตอนอ่านมังงะ อารมณ์ประมาณนั้นเลย 5555 แต่ผมเชื่อว่าคนเบียว ๆ แบบ Garl ถ้ามีอยู่ในโลกของเรียลลิตี้ก็คงน่ารักดี แต่ในมุมของผม อย่ารักคนอื่นมากกว่าตัวเองแบบ Garl เลยครับ รักตัวเองก๊อนนนนน เอาเป็นว่า Sea of stars ถ้าใครชอบเสพเนื้อเรื่อง ชอบเล่นเกมแนว Turn-Based เพื่อน ๆ มาลองเปิดใจกับเกมนี้ดู ผมรับประกันว่าจะไม่ผิดหวังครับ กดคืนเงินไม่ทันหรอก แค่ต้นเรื่องตอนเล่าเรื่องไอ้เด็กห้าว 3 คนก็อ่านเพลินจนหมดเวลารีฟันด์แล้ว เขาเอา Turn-Based ระบบเก่า ๆ มาปรับให้เล่นสนุกขึ้น แถมยังมี Style เป็นของตัวเอง ใจคอยังจะขอรีฟันด์กันอีกเหรอ จิตใจทำด้วยอะไรอะฮะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ



สั่งซื้อ

https://store.steampowered.com/app/1244090/Sea_of_Stars/

ป้ายยาจอยเพื่อเติมช่องว่างในหัวใจ

ใครสนใจเล่น Sea of Stars ผ่านจอยผมแนะนำรุ่นนี้เลย มี Analog 2 ข้าง มีปุ่ม L2 R2 ด้วย จับง่ายกระชับมือ แต่ถ้าสำหรับคนมือใหญ่ ๆ อาจจะรู้สึกค่อนข้างเล็กครับ Blutooth เชื่อมต่อง่าย ใช้ได้ทั้ง PC, มือถือ และ Nintendo Switch 

8Bitdo ถ้าสั่งจากจีนมีของปลอมครับ ราคาถูกก็จริงแต่เราอาจจะโดนของปลอมได้ด้วย ใครอยากได้ตามไปตำร้านเดียวกับผมรับประกันว่าได้ของแท้แน่นอน เสียตังซื้อเกมมาแล้ว ซื้อจอยไปเอา Feeling ตอนเล่นเกมด้วย ถือว่าซื้อมาเล่นเป็นเพื่อนผมละกัน ป้ายยาเลยตัวนี้ ซื้อครั้งเดียวเล่นได้ทุกเกม เจ็บแต่จบ 5555

สั่งซื้อจิ้มเลย


 


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header