GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ข่าวเกม
[Review] รีวิว HyperX Cloud III Wireless หูฟังไร้สายขั้นเทพ แบตอึดทนนานกว่า 120 ชั่วโมง
ลงวันที่ 09/09/2023

ถ้าให้พูดถึงแบรนด์ Gaming Gear คุณภาพ เชื่อว่าแบรนด์ HyperX ก็น่าจะอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน ซึ่งทางเจ้านี้ก็ได้ออกผลิตภันฑ์อุปกรณ์เล่นเกมดี ๆ ออกมามากมาย และหนึ่งในอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงอย่างมากก็คงจะเป็นทางหูฟัง และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ปล่อยหูฟังรุ่นใหม่อย่าง HyperX Cloud III Wireless และในวันนี้พวกเรา GameFever TH ก็จะมาแนะนำและรีวิวหลังใช้งานมาว่าตัวหูฟังมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

สำหรับ HyperX Cloud III Wireless เป็นการต่อยอดที่เปลี่ยนมาเป็นรุ่นไร้สายจากหูฟัง HyperX Cloud III ที่ออกมาไม่กี่เดือนก่อน โดยตัวรุ่นนี้วางจำหน่ายออกมาด้วยกันสองสีนั่นก็คือสีดำแดง Original ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ และอีกสีที่พวกเราได้มาก็คือสีดำล้วน


สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมา ตัวหูฟังรุ่นนี้ก็จะให้เราสามารถใช้งานด้วยอุปกรณ์หลากหลายประเภทได้มากขึ้น เพราะตัวรับสัญญาณจะเป็นหัว USB - C (แต่จะมีอแดปเตอร์เป็น USB ปกติต่อคอมได้) ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ iPAD หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้หลากหลาย และมีสายชาร์จแถมมาด้วย ซึ่งวิธีการใช้งานตัวหูฟังก็ค่อนข้างง่าย แค่เสียบเราก็สามารถใช้งานได้ทันที รวมถึงมีการแถมถุงใส่หูฟังเผื่อเอาไปใช้ออกนอกสถานที่ได้ด้วย


โดยรูปลักษณ์ของอุปกรณ์จะเหมือนกันกับ HyperX Cloud III  รุ่นมีสายแบบเป๊ะ ๆ ซึ่งตรงฟองน้ำครอปหูฟังถ้าให้เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง HyperX Cloud II ตัวฟองน้ำจะมีทรงที่เป็นวงรี และมีความใหญ่มากกว่า ทำให้การใส่หูฟังนั้นมีความรู้สึก เบา สบายมากกว่าเดิม ทำให้ใส่หูฟังได้นานขึ้น และไม่รู้สึกว่ามีอะไรเบียดหูอยู่ ซึ่งค่อนข้างใช้งานได้อย่างดีเลยสำหรับผู้เขียนที่ค่อนข้างหูใหญ่ รวมถึงตัวน้ำหนักของหูฟังรุ่งนี้ถ้าให้เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนก็ค่อนข้างมีน้ำหนักเบามากกว่าชัดเจน


โดยเสียงที่ออกมาจากความรู้สึกส่วนตัว ถ้าให้เปรียบเทียบกับหูฟังรุ่นก่อนหน้าอย่าง HyperX Cloud II Wireless ตัวหูฟังจะมีย่านเสียงที่ค่อนข้างกว้าง และก้องกังวาลมากกว่า ซึ่งข้อดีก็คือมันจะทำให้เราเก็บรายละเอียดในทุก ๆ เสียงได้ดียิ่งขึ้น แต่เวลาฟังเพลงจากความรู้สึกเสียงย่านเบสของหูฟังตัวนี้ถ้าให้เทียบกับรุ่นก่อนก็จะเบาลงมาหน่อย คนที่ชอบฟังเพลงที่อยากได้ยินเสียงเบสชัดเจนอาจจะไม่ตอบโจทย์ตรงนี้ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนคลิปไปฟังเพลงสไตล์ Live หรือ Concert ตัวหูฟัง HyperX Cloud III Wireless จะค่อนข้างได้อรรธรสกว่ามาก แต่ต้องย้ำก่อนว่าไม่ใช่ว่า HyperX Cloud III Wireless ไม่มีย่านเสียงเบสนะครับ ตัวหูฟังก็ยังมีย่านนี้ไม่ขาดตกอ่ะไร แต่ถ้าให้เทียบกับรุ่นก่อนอาจจะไม่เด่นเท่านั่นเอง


ตัวไมค์โครโฟนถือว่าได้รับการอัปเกรดอย่างมาก จากหูฟังรุ่นก่อนอย่าง HyperX Cloud II Wireless ที่เสียงจะแตก ๆ ไม่ชัด แต่คุณภาพไมค์โครโฟนของรุ่นนี้มีมาตรฐานที่ทำให้เสียงมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่อาจจะต้องระวังอย่างเดียวก็คือการรับ Noise ที่ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้เวลาเราพูดใส่ไมค์ หัวไมค์จะมีการจับเสียงมันการพูดเราไปออกบนหูฟังเพื่อให้เราได้ยินเสียงตัวเองเล็กน้อยเวลาพูดด้วย ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจมาก ๆ


สิ่งสุดท้ายที่เป็นจุดเด่นของหูฟัง HyperX Cloud III Wireless ก็คงจะเป็นในด้านแบตเตอร์รี่ ที่ทางแบรนด์เคลมว่ามันสามารถใช้งานได้สูงถึง 120 ชั่วโมง หรือราว ๆ เกือบ 5 วันเลยทีเดียว ซึ่งปกติแล้วตัวผู้เขียนนั้นใช้งานหูฟังรุ่นเก่าอย่าง HyperX Cloud II Wireless ในการเล่นทุก ๆ คืนผู้เขียนก็จะต้องชาร์จหูฟังเอาไว้ด้วย เพื่อที่ตื่นมาตัวหูฟังจะได้มีแบตพร้อมใช้งานได้เต็ม แต่ตัว HyperX Cloud III Wireless ในเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ตัวผู้เขียนทำการชาร์จแบตไปเพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งมันค่อนข้างมีความสะดวกสบายในการใช้งาน และการชาร์จแบตไม่บ่อย มันก็ช่วยไม่ทำให้แบตเสื่อมเร็วด้วย

สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายซักตัว HyperX Cloud III Wireless เป็นหูฟังที่ค่อนข้างตอยโจทย์มาก ๆ ทั้งในด้านฟังเพลงและเล่นเกม สิ่งที่ทำให้ชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นในด้านของแบตเตอร์รี่ที่ใช้ได้นานกว่า 120 ชั่วโมงนี่แหละ ที่มันตัดเรื่องความน่ารำคาญออกไปได้เยอะ โดย HyperX Cloud III Wireless วางขายในราคา 4,890 บาท สามารถสั่งซื้อได้ทาง - https://hyperx.gg/47Uk7Hb



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิว HyperX Cloud III Wireless หูฟังไร้สายขั้นเทพ แบตอึดทนนานกว่า 120 ชั่วโมง
09/09/2023

ถ้าให้พูดถึงแบรนด์ Gaming Gear คุณภาพ เชื่อว่าแบรนด์ HyperX ก็น่าจะอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน ซึ่งทางเจ้านี้ก็ได้ออกผลิตภันฑ์อุปกรณ์เล่นเกมดี ๆ ออกมามากมาย และหนึ่งในอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงอย่างมากก็คงจะเป็นทางหูฟัง และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้ปล่อยหูฟังรุ่นใหม่อย่าง HyperX Cloud III Wireless และในวันนี้พวกเรา GameFever TH ก็จะมาแนะนำและรีวิวหลังใช้งานมาว่าตัวหูฟังมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

สำหรับ HyperX Cloud III Wireless เป็นการต่อยอดที่เปลี่ยนมาเป็นรุ่นไร้สายจากหูฟัง HyperX Cloud III ที่ออกมาไม่กี่เดือนก่อน โดยตัวรุ่นนี้วางจำหน่ายออกมาด้วยกันสองสีนั่นก็คือสีดำแดง Original ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ และอีกสีที่พวกเราได้มาก็คือสีดำล้วน


สำหรับอุปกรณ์ที่แถมมา ตัวหูฟังรุ่นนี้ก็จะให้เราสามารถใช้งานด้วยอุปกรณ์หลากหลายประเภทได้มากขึ้น เพราะตัวรับสัญญาณจะเป็นหัว USB - C (แต่จะมีอแดปเตอร์เป็น USB ปกติต่อคอมได้) ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ iPAD หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้หลากหลาย และมีสายชาร์จแถมมาด้วย ซึ่งวิธีการใช้งานตัวหูฟังก็ค่อนข้างง่าย แค่เสียบเราก็สามารถใช้งานได้ทันที รวมถึงมีการแถมถุงใส่หูฟังเผื่อเอาไปใช้ออกนอกสถานที่ได้ด้วย


โดยรูปลักษณ์ของอุปกรณ์จะเหมือนกันกับ HyperX Cloud III  รุ่นมีสายแบบเป๊ะ ๆ ซึ่งตรงฟองน้ำครอปหูฟังถ้าให้เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง HyperX Cloud II ตัวฟองน้ำจะมีทรงที่เป็นวงรี และมีความใหญ่มากกว่า ทำให้การใส่หูฟังนั้นมีความรู้สึก เบา สบายมากกว่าเดิม ทำให้ใส่หูฟังได้นานขึ้น และไม่รู้สึกว่ามีอะไรเบียดหูอยู่ ซึ่งค่อนข้างใช้งานได้อย่างดีเลยสำหรับผู้เขียนที่ค่อนข้างหูใหญ่ รวมถึงตัวน้ำหนักของหูฟังรุ่งนี้ถ้าให้เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนก็ค่อนข้างมีน้ำหนักเบามากกว่าชัดเจน


โดยเสียงที่ออกมาจากความรู้สึกส่วนตัว ถ้าให้เปรียบเทียบกับหูฟังรุ่นก่อนหน้าอย่าง HyperX Cloud II Wireless ตัวหูฟังจะมีย่านเสียงที่ค่อนข้างกว้าง และก้องกังวาลมากกว่า ซึ่งข้อดีก็คือมันจะทำให้เราเก็บรายละเอียดในทุก ๆ เสียงได้ดียิ่งขึ้น แต่เวลาฟังเพลงจากความรู้สึกเสียงย่านเบสของหูฟังตัวนี้ถ้าให้เทียบกับรุ่นก่อนก็จะเบาลงมาหน่อย คนที่ชอบฟังเพลงที่อยากได้ยินเสียงเบสชัดเจนอาจจะไม่ตอบโจทย์ตรงนี้ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนคลิปไปฟังเพลงสไตล์ Live หรือ Concert ตัวหูฟัง HyperX Cloud III Wireless จะค่อนข้างได้อรรธรสกว่ามาก แต่ต้องย้ำก่อนว่าไม่ใช่ว่า HyperX Cloud III Wireless ไม่มีย่านเสียงเบสนะครับ ตัวหูฟังก็ยังมีย่านนี้ไม่ขาดตกอ่ะไร แต่ถ้าให้เทียบกับรุ่นก่อนอาจจะไม่เด่นเท่านั่นเอง


ตัวไมค์โครโฟนถือว่าได้รับการอัปเกรดอย่างมาก จากหูฟังรุ่นก่อนอย่าง HyperX Cloud II Wireless ที่เสียงจะแตก ๆ ไม่ชัด แต่คุณภาพไมค์โครโฟนของรุ่นนี้มีมาตรฐานที่ทำให้เสียงมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่อาจจะต้องระวังอย่างเดียวก็คือการรับ Noise ที่ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้เวลาเราพูดใส่ไมค์ หัวไมค์จะมีการจับเสียงมันการพูดเราไปออกบนหูฟังเพื่อให้เราได้ยินเสียงตัวเองเล็กน้อยเวลาพูดด้วย ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจมาก ๆ


สิ่งสุดท้ายที่เป็นจุดเด่นของหูฟัง HyperX Cloud III Wireless ก็คงจะเป็นในด้านแบตเตอร์รี่ ที่ทางแบรนด์เคลมว่ามันสามารถใช้งานได้สูงถึง 120 ชั่วโมง หรือราว ๆ เกือบ 5 วันเลยทีเดียว ซึ่งปกติแล้วตัวผู้เขียนนั้นใช้งานหูฟังรุ่นเก่าอย่าง HyperX Cloud II Wireless ในการเล่นทุก ๆ คืนผู้เขียนก็จะต้องชาร์จหูฟังเอาไว้ด้วย เพื่อที่ตื่นมาตัวหูฟังจะได้มีแบตพร้อมใช้งานได้เต็ม แต่ตัว HyperX Cloud III Wireless ในเวลาประมาณ 1 อาทิตย์ตัวผู้เขียนทำการชาร์จแบตไปเพียงแค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งมันค่อนข้างมีความสะดวกสบายในการใช้งาน และการชาร์จแบตไม่บ่อย มันก็ช่วยไม่ทำให้แบตเสื่อมเร็วด้วย

สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายซักตัว HyperX Cloud III Wireless เป็นหูฟังที่ค่อนข้างตอยโจทย์มาก ๆ ทั้งในด้านฟังเพลงและเล่นเกม สิ่งที่ทำให้ชอบมากที่สุดก็คงจะเป็นในด้านของแบตเตอร์รี่ที่ใช้ได้นานกว่า 120 ชั่วโมงนี่แหละ ที่มันตัดเรื่องความน่ารำคาญออกไปได้เยอะ โดย HyperX Cloud III Wireless วางขายในราคา 4,890 บาท สามารถสั่งซื้อได้ทาง - https://hyperx.gg/47Uk7Hb



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header