HUMANKIND เกมที่ว่าด้วยเรื่องราวของการเดินทางข้ามยุคของมนุษยชาติ ไล่ตั้งแต่ยุคหินยันยุคอวกาศ เปลี่ยนผ่านเปลี่ยนแปลง กำเนิดอารยธรรม วัฒนธรรม ความเป็นมาเป็นไปของมนุษย์ คอนเซ็ปต์ก็ฟังดูคุ้นเคย จนอดคิดถึงเกมที่มีมามากมายหลายภาคอย่างตระกูล Civilization ไม่ได้จริง ๆ ครับ
ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้เริ่มเล่นเกมนี้เมื่อไหร่ จะต้องอดใจเอามันไปเปรียบเทียบกับเกมเก่าที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นเกมสาย Strategy อย่าง Civilization ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะดูจากรูปเกมลักษณะการเล่นเกมเพลย์ต่าง ๆ นั้นผมเชื่อว่า HUMANKIND ต้องได้แรงบันดาลใจหรืออิทธิพลมาจาก Civilization ไม่มากก็น้อยนั่นแหละ
HUMANKIND ลงวางขายใน Steam เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2021 ตอนนี้มันลดราคาอยู่ 80% ผู้เขียนจิ้มมันลงคลังอย่างรวดเร็ว เพราะราคาเหลือแค่ 249.8 บาทเท่านั้นเอง และถึงแม้ว่าถ้าผมเล่นแล้วรู้สึกฟินไม่เท่า Civilization อย่างน้อย ๆ ผมก็ไม่เสียดายเงินแหละครับงานนี้ ฮ่า ๆ
ไทม์ไลน์ของวัฒรธรรม อาจจะไม่ถูกจริตกับผู้เล่นทุกคน
เกมมีวัฒนธรรมหรือ Culture ให้เลือกเล่นเยอะมาก แบ่งออกเป็น 6 ยุค โดยเริ่มจากยุคหินแล้ววิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ แต่ละ Culture จะมีบัปพิเศษ สิ่งก่อสร้างพิเศษและยูนิตพิเศษให้มาอย่างละ 1 อัน สิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบที่สุดในเกมนี้คือการที่เราไม่สามารถ Roleplay วัฒนธรรมเดียวไปได้เรื่อย ๆ จนจบเกมได้ ผมเลยมองว่ามันเหมาะกับคนที่เล่นแล้วชอบปรับตัวเองไปตามสถานการณ์ที่เกมสร้างขึ้นมาให้มากกว่า แต่สำหรับผมที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเกมแบบยาว ๆ ว่าอารยธรรมนี้มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร อยากจะสวมบทบาทแบบอินจ๋า ๆ ไปกับวัฒนธรรมของชนเผ่านั้น ๆ เลยจนจบเกมสำหรับเกมนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะตัวเกมจะมีเหตุการณ์ให้เราเลือกเส้นทางของอารยธรรมอยู่ตลอดเวลา มันดีตรงยืดหยุ่น แต่จะไม่สนุกถ้ามาเทียบกับไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์จริง ๆ ของมนุษย์เราครับ
ระบบแพร่ขยายทุกขั้วอำนาจ ยังสร้างมาให้เล่นเหมือนขอไปที
ระบบการทูต อิทธิพล ศาสนา ยังออกแบบมาได้ตื้นเขินมากกกกกกกครับ เหมือนแค่ให้มีไว้ประดับเกมเฉย ๆ อยู่ใกล้ ๆ เดี๋ยวมันก็เป็นพวกเราเองแหละ (ฮ๊ะ!!! อิหยังวะ) แต่พอประเทศข้าง ๆ ซึมซับอิทธิพล หรือ ศาสนาของเราไปแล้วก็เหมือนจะไม่มีผลอะไรเลย นอกจากได้รับแต้ม Leverage หรือ Faith ที่สูงขึ้น เล่นยันจบเกมก็ยังไม่รู้ว่ามีเอาไว้ทำอะไรจริง ๆ (อ๋อ ประกาศสงครามได้บ่อยขึ้นนิดนุง ฮ่า ๆ) จริง ๆ ยังมีอีกเยอะที่ผู้เขียนไม่ชอบ แต่ถ้าบ่นจนหมดก็คงไม่ได้พูดถึงข้อดีหรือไปบ่นหัวข้ออื่น ๆ ต่อแล้ว
ยูนิตในเกมหลากหลายและลื่นไหล
ยูนิตแต่ละอย่างภายในเกมจะมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นยูนิตพิเศษของแต่วัฒนธรรม หรือยูนิตทั่วไปที่ปลดล็อกจากเทคโนโลยี ขนาดว่าข้ามยุคไปแล้วเรายังสามารถจ่ายเงินเพื่ออัปเกรดยูนิตได้ด้วย แล้วพวกยูนิตอย่าง Spy หรือ Settler สำหรับเกมนี้เราสามารถนำมาใช้งานอย่างอื่นนอกจากสู้รบได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นตัดไม้ Clear พื้นที่ เป็นต้น
ซึ่งผมมองว่าตรงนี้แอบดูดีกว่า Civilization เพราะลื่นไหลและยืดหยุ่นกว่า เล่นสนุกกว่าโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเดินไปเจอยูนิตของฝั่งศัตรูแล้วจะเป็นหง่อยทำอะไรเขาไม่ได้เลย สามารถต่อสู้ สามารถล่าสัตว์ต่าง ๆ ได้ เลยทำให้การเล่นยูนิต Scout เป็นอะไรที่ไม่ต้องคอยเดินหลบหลีก บางครั้งถ้ามั่นใจเราสามารถเข้าไปบวกกับสัตว์ป่าได้เลย เลยทำให้ตรงนี้สำหรับผมค่อนข้างสนุกกับการเล่นเกมอยู่ครับ
เปลี่ยนยุคไวจัด การวิจัยก็ดีไม่สุด
เกมมันข้ามยุคเร็วมาก ต่อให้เลือก Pace ของเกมให้ช้าที่สุดแต่ก็รู้สึกมันเร็วเกินไปอยู่ดี บางทีเราวิจัยปลดล็อคยูนิตพิเศษยังไม่เสร็จเลย หืม!!! พร้อมให้ขึ้นยุคใหม่แล้วจริง บ่ หนิ? ฮ่า ๆ บางคนอยากจะเอ็นจอยกับยุคโบราณหรือยุคกลางให้นาน ๆ สักหน่อย แต่ถ้าไม่รีบขึ้นยุคใหม่เดี๋ยวโดนฝ่ายอื่นแย่ง Culture ดี ๆ ไปหมดอีก ระบบ Tech สายวิทยาศาตร์ส่วนตัวผมมองว่ายังน้อย คือมันมีให้เลือกเล่นแหละ แต่ผมว่ามันยังน้อยเกินไปมากถ้าเทียบกับ Civilization เลยทำให้เกมดูเล่นง่ายไปหมด ดูเป็นเส้นตรงแปลก ๆ มันเลยทำให้เกมตรงนี้ดูขาดมิติไปเยอะมาก ๆ ครับ
อีเวนต์ของเกมสร้างฟีลลิ่งที่หลากหลายยังกับขั้วตรงข้าม
ผมค่อนข้างชอบระบบอีเวนต์ของเกมนี้มาก ถ้าเราได้ตามอ่านเนื้อหาจะยิ่งรู้สึกอินกับเกมมากขึ้น บางอีเวนต์ก็จะเกิดจากสิ่งที่เราทำลงไปด้วย เช่น อีเวนท์วาฬใกล้สูญพันธ์ เพราะเราสร้างสิ่งก่อสร้างท่าเรือล่าวาฬมากเกินไป หรืออีเวนต์ฝุ่นควัน PM 2.5 ปกคลุมเมืองเพราะเราสร้างโรงงานมากเกินไป (แล้วไอ้เมืองที่ผมเจออีเวนต์เนี่ยคือ Bangkok ซะด้วย ฮ่า ๆ)
มลพิษทางอากาศ (Pollution) ถือเป็นเงื่อนไขจบเกมอย่างนึง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อทุกฝ่ายปล่อยควันมากเกินไปจนโลกอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่รู้เลยว่ามลพิษมันเกิดจากจุดไหนบ้างและมีสูตรคำนวณยังไง เพราะไอ้หน้าต่าง UI มันแทบไม่บอกอะไรอีกแล้ว แถมดูแล้วไม่มีทางแก้ไขปัญหามลพิษได้ด้วย ต่อให้ปลูกป่าเยอะแค่ไหนก็ไม่เห็นมันจะยืดเวลาโลกแตกออกไปได้เลย คือใจคอจะให้ตายกันหมดโลกอยู่ดีว่างั้น ที่เห็นทางแก้ชั่วคราวมีแค่เทคโนโลยีอันสุดท้ายที่ลดปริมาณปล่อยมลพิษลงครึ่งหนึ่งแค่นั้น งงไปหมด ฮ่า ๆ
ระบบต่าง ๆ ภายในเกม
HUMANKIND เป็นเกมสร้างเมือง strategy ทีมีระบบภาพ และโมเดลที่สวยงามมาก ๆ ครับ ถ้าใครเครื่องเทพ ๆ ลองปรับภาพสูงสุดตอนช่วงท้ายเกมดูจะได้ร้องว้าวววววววว ผู้พัฒนาเก็บรายละเอียดสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้ดี เมืองต่าง ๆ เชื่อมกันหมดด้วยถนน สามารถซูมดูความสวยงามตอนคนเดินไปเดินมาได้ ยิ่งถ้าเมืองมี Wonder แลนด์มาร์กอย่างพีระมิดหรือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจะสวยงามตระการตามาก ๆ ครับ
การบังคับของเกมนี้ไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้กับเราครับ ถ้าใครเคยเล่น Civilization จะปรับตัวกับเกมนี้ได้เลย แต่สิ่งที่ผมมองว่ามันสร้างความวุ่นวายให้กับเราน่าจะเป็นระบบการสอนของเกมที่โคตรเข้าใจยาก เพราะจะเป็นตัวหนังสือเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีการสาธิตให้ดู หรือจับมือเราทำเท่าไหร่นักครับ
UI เกมนี้ค่อนข้างซับซ้อนและใช้งานยากสำหรับผู้เล่น ถ้ามือใหม่มาเล่นนี่บอกเลยว่ากลับไปเล่น Civilization ดีกว่าครับ การดูข้อมูลต่าง ๆ ที่ยากเกินไป แล้วก็ผลรวมบัปต่าง ๆ ที่เรามีก็ดูไม่ได้อีก ต้องไปเปิดย้อนดูเอาแต่ละยุคแทนว่าแจกบัปอะไรไว้บ้าง ต้องใช้ความเข้าใจกับมันเยอะมาก ๆ มากขนาดที่ว่าอาจจะต้องไปเปิดดูใน Google ช่วยอะครับ ว่าส่วนไหนเอาไว้ทำอะไร
สรุป
HUMANKIND ทางด้านเกมเพลย์ถือว่าเล่นสนุกใช้ได้เลย เราสามารถมีส่วนร่วมกับเกมได้เยอะดี จับยุคนั้นยุคนี้มาผสมผเสปนเปกัน แต่คอนเซ็ปต์ของเกมก็ถือว่าเป็นดาบสองคม เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะเดินหน้าไปพร้อมกับความยืดหยุ่นของเกมในการแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า และเปลี่ยนวัฒนธรรมแบบฉีกมันไปเลย เลยทำให้เกมนี้มันไม่เหมาะสำหรับการเล่นแบบ Roleplay และอินไปกับบทบาททางวัฒนธรรม
แถมมาด้วยระบบที่ทำร้ายผู้ใช้งานอย่าง UI ที่ไม่รู้ว่าจะต้องงมคลำขนาดไหน เพื่อที่จะหารายละเอียดต่าง ๆ ให้เจอ แต่ถึงแม้ว่าทางผู้พัฒนาค่อนข้าง Active เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ตอนนี้ตั้งแต่เกมออกวางจำหน่ายผ่านมาแล้วถึง 2 ปี ถ้าระบบยังคงเป็นแบบนี้อยู่ ถ้าอยากจะขึ้นมาเทียบชั้นกับ Civilization ผู้เขียนมองว่ายังคงเป็นไปไม่ได้สำหรับ ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน
ใครที่สนใจสั่งซื้อ HUMANKIND ผู้เขียนแนะนำว่าให้รอช่วงลดราคาวนกลับมาอีกรอบจะดีกว่าฮะ เพราะถ้าเพื่อน ๆ จะซื้อราคาเต็มที่ 1249 บาท ผมมองว่าจะไม่คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าของเราเท่าไหร่ และอย่างน้อย ๆ ถ้าใครได้ราคาตอนลดราคา 80% มาเหมือนผมสิ่งที่ดีของเกมนี้ก็คือ เราสามารถสร้างประวัติศาสตร์ทางวัฒธรรม อารยธรรม ศาสนา หรือการเมืองได้เลย โดยที่ไม่ต้องสิ้นหวังกับ สว. 250 คน
สั่งซื้อ
https://store.steampowered.com/app/1124300/HUMANKIND/
ถ้าเครื่องใครปรับภาพสุดได้จะได้เห็นภาพสวย ๆ
เกมเล่นง่าย ยิ่งถ้าใครเคยเล่น Civilization แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย
เพลงบรรเลงเพราะมาก คือดีงาม
มีระบบอีเวนต์ที่ดีอิงกับเรียลไทม์
มี Mod ภาษาไทย
มี DLC Siamese ให้คนไทยได้เล่น
ไม่มีความเป็นตัวเอง เพราะระบบต่าง ๆ แทบไม่ต่างอะไรจาก Civilization
ราคาค่อนข้างแรงเกินไป
UI ไม่เป็นมิตรต่อผู้เล่น ซับซ้อนและเข้าใจยาก
ระบบการทูตและระบบศาสนาที่แทบไม่มีอะไรให้ทำ นอกจากเก็บแต้ม
ระบบเทคโนโลยีที่ให้วิจัยยังมีน้อยถ้าเทียบกับ Civilization
Role Play ตาม Culture จนจบเกมไม่ได้ ต้องยืดหยุ่นปรับเปลี่ยน Culture ไปตามสถานการณ์ของเกม อาจจะไม่ถูกจริตกับผู้เล่นบางกลุ่ม
ยุคของเกมเปลี่ยนผ่านค่อนข้างไว ทำให้ไม่มีเวลาอินกับยุคสมัยภายในเกม
มลพิษช่วงท้ายเกมที่ไม่รู้มีไว้ทำไม ซึ่งแทบจะไม่ส่งผลอะไรกับเกมเลย
HUMANKIND เกมที่ว่าด้วยเรื่องราวของการเดินทางข้ามยุคของมนุษยชาติ ไล่ตั้งแต่ยุคหินยันยุคอวกาศ เปลี่ยนผ่านเปลี่ยนแปลง กำเนิดอารยธรรม วัฒนธรรม ความเป็นมาเป็นไปของมนุษย์ คอนเซ็ปต์ก็ฟังดูคุ้นเคย จนอดคิดถึงเกมที่มีมามากมายหลายภาคอย่างตระกูล Civilization ไม่ได้จริง ๆ ครับ
ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าเพื่อน ๆ ได้เริ่มเล่นเกมนี้เมื่อไหร่ จะต้องอดใจเอามันไปเปรียบเทียบกับเกมเก่าที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นเกมสาย Strategy อย่าง Civilization ไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะดูจากรูปเกมลักษณะการเล่นเกมเพลย์ต่าง ๆ นั้นผมเชื่อว่า HUMANKIND ต้องได้แรงบันดาลใจหรืออิทธิพลมาจาก Civilization ไม่มากก็น้อยนั่นแหละ
HUMANKIND ลงวางขายใน Steam เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2021 ตอนนี้มันลดราคาอยู่ 80% ผู้เขียนจิ้มมันลงคลังอย่างรวดเร็ว เพราะราคาเหลือแค่ 249.8 บาทเท่านั้นเอง และถึงแม้ว่าถ้าผมเล่นแล้วรู้สึกฟินไม่เท่า Civilization อย่างน้อย ๆ ผมก็ไม่เสียดายเงินแหละครับงานนี้ ฮ่า ๆ
ไทม์ไลน์ของวัฒรธรรม อาจจะไม่ถูกจริตกับผู้เล่นทุกคน
เกมมีวัฒนธรรมหรือ Culture ให้เลือกเล่นเยอะมาก แบ่งออกเป็น 6 ยุค โดยเริ่มจากยุคหินแล้ววิวัฒนาการไปเรื่อย ๆ แต่ละ Culture จะมีบัปพิเศษ สิ่งก่อสร้างพิเศษและยูนิตพิเศษให้มาอย่างละ 1 อัน สิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบที่สุดในเกมนี้คือการที่เราไม่สามารถ Roleplay วัฒนธรรมเดียวไปได้เรื่อย ๆ จนจบเกมได้ ผมเลยมองว่ามันเหมาะกับคนที่เล่นแล้วชอบปรับตัวเองไปตามสถานการณ์ที่เกมสร้างขึ้นมาให้มากกว่า แต่สำหรับผมที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ของเกมแบบยาว ๆ ว่าอารยธรรมนี้มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร อยากจะสวมบทบาทแบบอินจ๋า ๆ ไปกับวัฒนธรรมของชนเผ่านั้น ๆ เลยจนจบเกมสำหรับเกมนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะตัวเกมจะมีเหตุการณ์ให้เราเลือกเส้นทางของอารยธรรมอยู่ตลอดเวลา มันดีตรงยืดหยุ่น แต่จะไม่สนุกถ้ามาเทียบกับไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์จริง ๆ ของมนุษย์เราครับ
ระบบแพร่ขยายทุกขั้วอำนาจ ยังสร้างมาให้เล่นเหมือนขอไปที
ระบบการทูต อิทธิพล ศาสนา ยังออกแบบมาได้ตื้นเขินมากกกกกกกครับ เหมือนแค่ให้มีไว้ประดับเกมเฉย ๆ อยู่ใกล้ ๆ เดี๋ยวมันก็เป็นพวกเราเองแหละ (ฮ๊ะ!!! อิหยังวะ) แต่พอประเทศข้าง ๆ ซึมซับอิทธิพล หรือ ศาสนาของเราไปแล้วก็เหมือนจะไม่มีผลอะไรเลย นอกจากได้รับแต้ม Leverage หรือ Faith ที่สูงขึ้น เล่นยันจบเกมก็ยังไม่รู้ว่ามีเอาไว้ทำอะไรจริง ๆ (อ๋อ ประกาศสงครามได้บ่อยขึ้นนิดนุง ฮ่า ๆ) จริง ๆ ยังมีอีกเยอะที่ผู้เขียนไม่ชอบ แต่ถ้าบ่นจนหมดก็คงไม่ได้พูดถึงข้อดีหรือไปบ่นหัวข้ออื่น ๆ ต่อแล้ว
ยูนิตในเกมหลากหลายและลื่นไหล
ยูนิตแต่ละอย่างภายในเกมจะมีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นยูนิตพิเศษของแต่วัฒนธรรม หรือยูนิตทั่วไปที่ปลดล็อกจากเทคโนโลยี ขนาดว่าข้ามยุคไปแล้วเรายังสามารถจ่ายเงินเพื่ออัปเกรดยูนิตได้ด้วย แล้วพวกยูนิตอย่าง Spy หรือ Settler สำหรับเกมนี้เราสามารถนำมาใช้งานอย่างอื่นนอกจากสู้รบได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นตัดไม้ Clear พื้นที่ เป็นต้น
ซึ่งผมมองว่าตรงนี้แอบดูดีกว่า Civilization เพราะลื่นไหลและยืดหยุ่นกว่า เล่นสนุกกว่าโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเดินไปเจอยูนิตของฝั่งศัตรูแล้วจะเป็นหง่อยทำอะไรเขาไม่ได้เลย สามารถต่อสู้ สามารถล่าสัตว์ต่าง ๆ ได้ เลยทำให้การเล่นยูนิต Scout เป็นอะไรที่ไม่ต้องคอยเดินหลบหลีก บางครั้งถ้ามั่นใจเราสามารถเข้าไปบวกกับสัตว์ป่าได้เลย เลยทำให้ตรงนี้สำหรับผมค่อนข้างสนุกกับการเล่นเกมอยู่ครับ
เปลี่ยนยุคไวจัด การวิจัยก็ดีไม่สุด
เกมมันข้ามยุคเร็วมาก ต่อให้เลือก Pace ของเกมให้ช้าที่สุดแต่ก็รู้สึกมันเร็วเกินไปอยู่ดี บางทีเราวิจัยปลดล็อคยูนิตพิเศษยังไม่เสร็จเลย หืม!!! พร้อมให้ขึ้นยุคใหม่แล้วจริง บ่ หนิ? ฮ่า ๆ บางคนอยากจะเอ็นจอยกับยุคโบราณหรือยุคกลางให้นาน ๆ สักหน่อย แต่ถ้าไม่รีบขึ้นยุคใหม่เดี๋ยวโดนฝ่ายอื่นแย่ง Culture ดี ๆ ไปหมดอีก ระบบ Tech สายวิทยาศาตร์ส่วนตัวผมมองว่ายังน้อย คือมันมีให้เลือกเล่นแหละ แต่ผมว่ามันยังน้อยเกินไปมากถ้าเทียบกับ Civilization เลยทำให้เกมดูเล่นง่ายไปหมด ดูเป็นเส้นตรงแปลก ๆ มันเลยทำให้เกมตรงนี้ดูขาดมิติไปเยอะมาก ๆ ครับ
อีเวนต์ของเกมสร้างฟีลลิ่งที่หลากหลายยังกับขั้วตรงข้าม
ผมค่อนข้างชอบระบบอีเวนต์ของเกมนี้มาก ถ้าเราได้ตามอ่านเนื้อหาจะยิ่งรู้สึกอินกับเกมมากขึ้น บางอีเวนต์ก็จะเกิดจากสิ่งที่เราทำลงไปด้วย เช่น อีเวนท์วาฬใกล้สูญพันธ์ เพราะเราสร้างสิ่งก่อสร้างท่าเรือล่าวาฬมากเกินไป หรืออีเวนต์ฝุ่นควัน PM 2.5 ปกคลุมเมืองเพราะเราสร้างโรงงานมากเกินไป (แล้วไอ้เมืองที่ผมเจออีเวนต์เนี่ยคือ Bangkok ซะด้วย ฮ่า ๆ)
มลพิษทางอากาศ (Pollution) ถือเป็นเงื่อนไขจบเกมอย่างนึง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อทุกฝ่ายปล่อยควันมากเกินไปจนโลกอยู่ไม่ได้ แต่เราไม่รู้เลยว่ามลพิษมันเกิดจากจุดไหนบ้างและมีสูตรคำนวณยังไง เพราะไอ้หน้าต่าง UI มันแทบไม่บอกอะไรอีกแล้ว แถมดูแล้วไม่มีทางแก้ไขปัญหามลพิษได้ด้วย ต่อให้ปลูกป่าเยอะแค่ไหนก็ไม่เห็นมันจะยืดเวลาโลกแตกออกไปได้เลย คือใจคอจะให้ตายกันหมดโลกอยู่ดีว่างั้น ที่เห็นทางแก้ชั่วคราวมีแค่เทคโนโลยีอันสุดท้ายที่ลดปริมาณปล่อยมลพิษลงครึ่งหนึ่งแค่นั้น งงไปหมด ฮ่า ๆ
ระบบต่าง ๆ ภายในเกม
HUMANKIND เป็นเกมสร้างเมือง strategy ทีมีระบบภาพ และโมเดลที่สวยงามมาก ๆ ครับ ถ้าใครเครื่องเทพ ๆ ลองปรับภาพสูงสุดตอนช่วงท้ายเกมดูจะได้ร้องว้าวววววววว ผู้พัฒนาเก็บรายละเอียดสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ได้ดี เมืองต่าง ๆ เชื่อมกันหมดด้วยถนน สามารถซูมดูความสวยงามตอนคนเดินไปเดินมาได้ ยิ่งถ้าเมืองมี Wonder แลนด์มาร์กอย่างพีระมิดหรือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจะสวยงามตระการตามาก ๆ ครับ
การบังคับของเกมนี้ไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้กับเราครับ ถ้าใครเคยเล่น Civilization จะปรับตัวกับเกมนี้ได้เลย แต่สิ่งที่ผมมองว่ามันสร้างความวุ่นวายให้กับเราน่าจะเป็นระบบการสอนของเกมที่โคตรเข้าใจยาก เพราะจะเป็นตัวหนังสือเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีการสาธิตให้ดู หรือจับมือเราทำเท่าไหร่นักครับ
UI เกมนี้ค่อนข้างซับซ้อนและใช้งานยากสำหรับผู้เล่น ถ้ามือใหม่มาเล่นนี่บอกเลยว่ากลับไปเล่น Civilization ดีกว่าครับ การดูข้อมูลต่าง ๆ ที่ยากเกินไป แล้วก็ผลรวมบัปต่าง ๆ ที่เรามีก็ดูไม่ได้อีก ต้องไปเปิดย้อนดูเอาแต่ละยุคแทนว่าแจกบัปอะไรไว้บ้าง ต้องใช้ความเข้าใจกับมันเยอะมาก ๆ มากขนาดที่ว่าอาจจะต้องไปเปิดดูใน Google ช่วยอะครับ ว่าส่วนไหนเอาไว้ทำอะไร
สรุป
HUMANKIND ทางด้านเกมเพลย์ถือว่าเล่นสนุกใช้ได้เลย เราสามารถมีส่วนร่วมกับเกมได้เยอะดี จับยุคนั้นยุคนี้มาผสมผเสปนเปกัน แต่คอนเซ็ปต์ของเกมก็ถือว่าเป็นดาบสองคม เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะเดินหน้าไปพร้อมกับความยืดหยุ่นของเกมในการแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า และเปลี่ยนวัฒนธรรมแบบฉีกมันไปเลย เลยทำให้เกมนี้มันไม่เหมาะสำหรับการเล่นแบบ Roleplay และอินไปกับบทบาททางวัฒนธรรม
แถมมาด้วยระบบที่ทำร้ายผู้ใช้งานอย่าง UI ที่ไม่รู้ว่าจะต้องงมคลำขนาดไหน เพื่อที่จะหารายละเอียดต่าง ๆ ให้เจอ แต่ถึงแม้ว่าทางผู้พัฒนาค่อนข้าง Active เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ตอนนี้ตั้งแต่เกมออกวางจำหน่ายผ่านมาแล้วถึง 2 ปี ถ้าระบบยังคงเป็นแบบนี้อยู่ ถ้าอยากจะขึ้นมาเทียบชั้นกับ Civilization ผู้เขียนมองว่ายังคงเป็นไปไม่ได้สำหรับ ณ ช่วงเวลาปัจจุบัน
ใครที่สนใจสั่งซื้อ HUMANKIND ผู้เขียนแนะนำว่าให้รอช่วงลดราคาวนกลับมาอีกรอบจะดีกว่าฮะ เพราะถ้าเพื่อน ๆ จะซื้อราคาเต็มที่ 1249 บาท ผมมองว่าจะไม่คุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าของเราเท่าไหร่ และอย่างน้อย ๆ ถ้าใครได้ราคาตอนลดราคา 80% มาเหมือนผมสิ่งที่ดีของเกมนี้ก็คือ เราสามารถสร้างประวัติศาสตร์ทางวัฒธรรม อารยธรรม ศาสนา หรือการเมืองได้เลย โดยที่ไม่ต้องสิ้นหวังกับ สว. 250 คน
สั่งซื้อ
https://store.steampowered.com/app/1124300/HUMANKIND/