GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ไกด์เกม
[ไกด์เกม] Elden Ring: สอนปั้นตัวละครสาย Bleed "จงชโลมแดนมัฌชิมาด้วยเลือด!"
ลงวันที่ 17/04/2022

ณ จุดนี้ เชื่อว่าเกมเมอร์น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับ "Elden Ring" หนึ่งในเกมแอคชั่น RPG ตระกูล Soulsborne ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ โดยนอกจากความยากมหาหินอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้พัฒนา FromSoftware นัั้น จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของเกม Elden Ring คือการสร้าง "บิ๊ลด์" (Build) หรือ "สาย" ของตัวละครในเกม ที่ให้คุณสามารถใช้อาวุธและสกิลต่าง ๆ มาผสมผสานกันอย่างหลากหลายไม่สิ้นสุด เพื่อปราบศัตรูอันร้ายกาจนับไม่ถ้วนที่รออยู่บนหนทางสู่บัลลังค์ Elden Lord ของคุณ

เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้มัวหมองหน้าใหม่หลาย ๆ คนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่แคนมัฌชิมาเป็นครั้งแรก (หรือผู้มัวหมองหน้าเก่าที่อยากหาอะไรใหม่ ๆ เล่น) วันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอมาแนะนำไกด์สอนบิ๊ลด์สาย: Bleed หรือ "เลือดออก" ซึ่งเป็นสายการเล่นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในเกม จากความสามารถในการสร้างความเสียหายมหาศาลจากสถานะ Blood Loss แถมยังมีตัวเลือกให้พลิกแพลงผสมผสานกันได้อีกมากเมื่อเทียบกับสายอื่น ๆ บางสาย ทำให้นอกจากจะมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมแล้ว ยังเปิดทางเลือกให้ผู้เล่นได้ทดลองของใหม่ ๆ แก้เบื่อได้อีกด้วย!

สาย Bleed คืออะไร

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การเล่นตัวละครสาย Bleed จะเน้นไปที่การทำให้ศัตรูติดสถานะ Blood Loss ให้บ่อยและรวดเร็วที่สุด โดยสถานะดังกล่าวจะส่งผลให้ศัตรูเสียพลังชีวิตเทียบเท่ากับ 15% ของพลังชีวิตทั้งหมดทันที หมายความว่าไม่ว่าศัตรูตัวนั้นจะมีพลังชีวิตมากขนาดไหน ถ้าหากโดน Bleed ครบ 7 ครั้งก็จะตายทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขเลยทีเดียว

เช่นเดียวกันสถานะผิดปกติอื่น ๆ ในเกม Elden Ring อย่าง Poison (ติดพิษ) หรือ Frostbite (แช่แข็ง) สถานะ Bleed หรือ Blood Loss นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้อาวุธที่มีค่าสถานะนั้นโจมตีศัตรูไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ซึ่งก็หมายความว่าการต่อสู้กับศัตรูหรือบอสซักตัวอาจจะต้องติดสถานะเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น เพราะยังมีความเสียหายจากการโจมตีปกติปนอยู่เสมอ

หากจะมีจุดอ่อน คงเป็นการที่มีศัตรูและบอสบางตัวในเกมที่ไม่สามารถติดสถานะ Blood Loss ได้ ซึ่งเมื่อเจอศัตรูเหล่านี้ก็อาจจะทำให้ตึงมือขึ้นมามากขึ้นบ้าง แต่เอาเข้าจริงลก็ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น โดยบิ๊ลด์ Bleed สามารถใช้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบเกมเลยทีเดียว


Stats ที่คุณควรอัพ

ในส่วนของค่า Stat นั้น น่าจะเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเริ่มเลือกอาชีพตัวละครช่วงต้นเกม โดยแม้ว่าจะสามารถหาไอเทมมารีเซ็ต Stat ได้ในภายหลัง แต่การเริ่มต้นให้ถูกทางย่อมทำให้การเล่นเกมสะดวกสบายมากขึ้น โดยนอกจากค่า Vigor (ที่เพิ่มขนาดหลอดเลือด) และค่า Endurance (เพิ่มหลอดสตามิน่า) ที่ควรค่อย ๆ อัพตลอดการเล่นอยู่แล้ว ค่า Stat ที่สายนี้ควรเน้นประกอบไปด้วย:

  • ARCANE: สำหรับค่า Arcane นั้นจะส่งผลต่ออัตราการติดสถานะอะไรก็แล้วแต่ของผู้เล่น รวมไปถึงอัตราการดรอปไอเทมของศัตรูที่เราฆ่า โดยสำหรับสายที่เน้นการติดสถานะอย่าง Bleed ย่อมต้องอยากอัพแต้มใส่ค่านี้อยู่แล้ว ที่สำคัญคืออาวุธและสกิลสาย Bleed ส่วนใหญ่ยังมีความต้องการในค่านี้ และได้รับความเสียหายเพิ่มจากค่านี้ในระดับต่าง ๆ กันไปด้วย เราจึงควรอัพค่านี้นำก่อนเป็นอันดับแรก
  • STRENGTH/DEXTERITY: สำหรับค่าทั้งสองนี้ ควรเลือกอัพค่าใดค่าหนึ่งนำเป็นหลัก ตามอาวุธที่เราเลือกใช้ โดยอาวุธบางชิ้นอาจได้รับความเสียหายเพิ่มจาก STRENTH มากกว่า ในขณะที่บางชิ้นอาจได้รับจาก DEXTERITY มากกว่า
  • FAITH: นอกจากอาวุธทั้งหลาย ยังมีเวทมนต์ Incantation จำนวนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการเล่นของสาย Bleed โดยเวทย์เหล่านี้ (รวมไปถึงอาวุธ Seal ที่ต้องใช้ในการร่าย) มักจะมาพร้อมความต้องการในค่า Faith ไม่มากก็น้อย ซึ่งเราอาจเลือกอัพแค่ให้พอใช้เวทย์หรือ Seal ที่ต้องการได้ก็พอ

ตัวอย่างของการอัพ Stat ช่วงท้ายเกมสำหรับตัวละครสาย Bleed ที่ใช้อาวุธสาย DEXTERITY:

StatsValue
Vigor60
Mind15
Endurance30
Strength17
Dexterity45
Intelligence9
Faith8
Arcane45

ภาพรวมวิธีเล่น

เนื่องจากการคำนวนค่าสถานะต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่โจมตี ทำให้อาวุธสาย Bleed ส่วนใหญ่มักจะเป็นอาวุธที่สามารถโจมตีศัตรูได้หลายครั้งในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะจากท่วงท่าการโจมตีของอาวุธประเภทนั้นทั้งหมด หรือเป็นสกิลที่ทำให้สามารถโจมตีหลายครั้งในการกดใช้ครั้งเดียวเป็นต้น

ตัวอย่างอาวุธ

Uchigatana


เอาเข้าจริง ๆ แล้วสาย Bleed จะสามารถใช้อาวุธอะไรก็ได้ที่มีค่า Blood Loss Buildup ติดอยู่ โดยสำหรับช่วงเริ่มต้นนั้นอาวุธดาบคาตะนะ Uchigatana ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมาพร้อมกับค่า Blood Loss Buildup ตั้งต้นถึง 45 แถมท่าโจมตีของอาวุธประเภทดาบคาตานะยังมีความรวดเร็วและคล่องตัวประมาณหนึ่ง ซึ่งก็มีประโยชน์สำหรับการเล่นสาย Bleed อย่างแน่นอน และถ้าเลือกอาชีพซามูไรตั้งแต่ต้นเกมก็จะสามารถเริ่มเกมพร้อมกับดาบนี้ได้เลยอีกด้วย

ทั้งนี้ ตัวเลือกช่วงต้นเกมที่น่าสนใจก็ยังมีดาบ Curved Swords ของอาชีพ Warrior และดอบสองด้าน Twin Blade ซึ่งก็สามารถหาเก็บได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมเช่นเดียวกัน โดยผู้เล่นที่ไม่ได้เลือกเริ่มเล่นเป็นอาชีพซามูไรจะสามารถหาดาบนี้ได้จากดันเจี้ยน Deathtouched Catacombs ในเขต Stormhill ของภูมิภาค Limgrave

  

Rivers Of Blood


นอกจากท่าโจมตีของอาวุธดาบคาตานะที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ดาบ Rivers of Blood ยังมีจุดเด่นตรงสกิลประจำตัว Corpse Piler ที่จะฟาดฟันดาบออกไปเป็นคอมโบหลายครั้งอย่างรวดเร็ว โดยการโจมตีแต่ละครั้งยังจะมีคลื่นดาบกระจายออกไปเพื่อเพิ่มระยะของการโจมตี แถมยังเพิ่มสถานะ Blood Loss ได้รวดเร็วกว่าการโจมตีปกติอีกด้วย แต่ความเสียหายของสกิลก็สูงมากพอที่หลายครั้งอาจฆ่าศัตรูตายก่อนจะติดสถานะ Blood Loss ได้ด้วยซ้ำ!

สามารหาดาบเล่มนี้ได้จากการเอาชนะ NPC ที่ชื่อว่า Bloody Finger Okina ได้แถวโบสถ์ Church of Repose ในเขต Mountaintop of the Giants


Eleonora's Poleblade


หากคุณไม่ชอบใช้ดาบคาตานะ อาวุธดาบสองด้านอย่าง Eleonora's Poleblade ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยท่าโจมตีของอาวุธที่สามารถสร้างความเสียหายได้หลายครั้งในการกดโจมตีเพียงครั้งเดียว ทำให้สามารถติดสถานะ Blood Loss ได้รวดเร็วกว่าอาวุธคาตานะอีกในหลาย ๆ กรณี โดยอาวุธชิ้นนี้ยังมาพร้อมความสามารถติดตัว Bloodblade Dance ที่จะควงอาวุธรอบ ๆ ตัวเพื่อโจมตีศัตรูหลายครั้งติดกัน อาจเรียกอาวุธนี้ได้ว่าเป็นดาบ Rivers of Blood เวอร์ชั่นดาบสองด้านก็ได้

อาวุธชิ้นนี้จะได้รับเมื่อเอาชนะ NPC ชื่อ Eleonora, Violet Bloody Finger ที่โบสถ์ Second Church of Marika ในเขต Altus Plateau


Godskin Peeler (หรืออาวุธใด ๆ ก็แล้วแต่ที่แปะเถ้าสงครามเองได้)


อาวุธหน้าตาประหลาดนี้จัดอยู่ในประเภทเดียวกับ Eleonora's Poleblade ซึ่งก็ทำให้มีความสามารถในการโจมตีหลายครั้งติด ๆ กันอย่างรวดเร็ว โดยข้อดีอย่างหนึ่งของอาวุธนี้คือการที่มันไม่ใช่อาวุธพิเศษ ผู้เล่นจึงสามารถเลือกสวมใส่สกิลที่ต้องการได้ผ่านระบบเถ้าสงครามนั่นเอง ซึ่งสกิลที่นิยมใช้กันบ่อย ๆ ก็คือสกิล Seppuku ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นแทงตัวเองหนึ่งครั้ง สร้างความเสียหายเท่ากับสถานะ Blood Loss (หรือ 15% ของพลังชีวิต) เพื่อทำให้อาวุธได้ค่า Buildup เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนช่วงท้ายเกมแทบจะติดสถานะในการโจมตีครั้งเดียวได้เลย

ทั้งนี้ จุดสำคัญจริง ๆ อาจไม่ใช่ตัวอาวุธ แต่คือความสามารถในการแปะเถ้าสงคราม Seppuku ต่างหาก ฉะนั้นหากคุณมีอาวุธที่ชื่นชอบนอกจาก Godskin Peeler ที่สามารถแปะเถ้าสงครามได้ ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมด ขอเพียงแค่ให้อาวุธนั้นมีค่า Buildup ติดตัวมาอยู่แล้ว และสามารถโจมตีได้รวดเร็ว โดยอาวุธ Godskin Peeler สามารถเก็บได้จากบอส Godskin Apostle ในหมู่บ้าน Windmill Village เขต Altus Plateau


ตัวอย่างเวทย์มนต์

ว่ากันจริง ๆ แล้ว เวทย์มนต์ที่มีความสามารถสาย Bleed ในเกม Elden Ring นั้นมีอยู่เพียง 4 ตัวเลือกเท่านั้น โดยทั้งหมดเป็นเวทย์สาย Incantation ที่ต้องใช้อาวุธ Seal ในการร่าย ซึ่งแน่นอนว่า Seal ที่เหมาะกับสายนี้ต้องเป็น Dragon Communion's Seal ที่ได้รับพลังโจมตีเพิ่มจากค่า Arcane ของเราด้วย

ในส่วนของคาถาที่นิยมใช้กันบ่อย ๆ ประกอบไปด้วย:

  • Swarm of Flies


สำหรับคาถานี้จะทำการเสกฝูงแมลงวันออกมา ซึ่งจะไล่ตามไปกัดศัตรูเป้าหมายเพื่อติดสถานะ Blood Loss อย่างรวดเร็ว โดยแม้ว่าเวทย์นี้จะไม่ได้ทำความเสียหายด้วยตัวเองมากนัก แต่ก็สามารถร่ายได้อย่างรวดเร็วและใช้ FP ไม่มาก เหมาะสำหรับการใช้โจมตีบอสที่โจมตีเราอย่างรวดเร็วจนหาช่องสวนกลับยาก

  • Bloodflame Blade


เสกเพลิงโลหิตมาปกคลุมอาวุธ โดยนอกจากจะเพิ่มความเสียหายธาตุไฟให้กับอาวุธแล้ว เวทย์นี้ยังจะบัฟค่า Buildup ของอาวุธเพิ่มขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือสถานะ Bloodflame นั้นจะส่งผลคล้ายให้ศัตรูโดน "เผา" ด้วยเพลิงโลหิตเพิ่มทุกครั้งที่โจมตี ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายแล้ว ยังทำให้ศัตรูยังคงได้รับค่า Buildup สถานะ Blood Loss เพิ่มต่อไปอีกครู่หนึ่งหลังจากที่โดนโจมตี ทำให้ยิ่งติดสถานะ Blood Loss ง่ายขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ เวทย์นี้จะใช้ได้กับอาวุธที่ไม่ได้มีความเสียหายพิเศษติดมาอยู่แล้ว (เช่นอาวุธบางอันอาจสร้างความเสียหายกายภาพ + ไฟเป็นต้น) ซึ่งก็จำกัดตัวเลือกลงมาประมาณหนึ่ง ใครอยากใช้เวทย์นี้ก็ลองดูดี ๆ ก่อนนะจ๊ะว่าอาวุธที่เราชอบมันสามารถติดบัฟได้หรือเปล่า

Talismans

ในส่วนของ Talisman นั้น แต่ละคนก็อาจมีตัวเลือกที่ชอบต่างกันไป แต่ Talisman ที่เราแนะนำว่าเหมาะสมกับสาย Bleed เป็นอย่างมากก็มีอยู่สองชิ้นคือ:

  • Lord Of Blood's Exultation

How to Get Lord of Blood's Exultation: Effects and Locations | Elden  Ring|Game8

สำหรับ Talisman ตัวนี้จะเพิ่มความเสียหายทั้งหมดที่เราทำ 20% ทุกครั้งที่มีศัตรูติดสถานะ Blood Loss ในรัศมี ซึ่งสำหรับสายนี้เท่ากับว่าแทบจะได้บัฟนี้ตลอดเวลาเลยทีเดียว

  • Winged Sword Insignia

Elden Ring Winged Sword Insignia Builds | Where To Find Location, Effects

Talisman ตัวนี้จะเพิ่มพลังโจมตีขึ้นเมื่อเราสามารถโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาวุธสาย Bleed ส่วนใหญ่ต้องการจะทำความเสียหายหลายครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ อยู่แล้ว จึงเหมาะกับ Talisman ตัวนี้พอดี

ชุดเกราะ

หากจะให้ว่ากันตามตรง เกราะในเกม Elden Ring นั้นส่งผลต่อการเล่นโดยรวมไม่มากนัก โดยคำแนะนำกลาง ๆ ก็คือให้สวมเกราะที่ให้พลังป้องกันมากที่สุดโดยที่ไม่ทำให้น้ำหนักตัวของเราสูงเกินไปจนกลิ้งไม่ได้ จะมีก็เพียงช่องหมวกเท่านั้นที่อยากแนะนำให้ใส่:

  • White Mask

How To Get The White Mask In Elden Ring

เกราะเพียงชิ้นเดียวที่สำคัญคือ White Mask ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเสียหายทุกครั้งที่มีการติด Blood Loss ใกล้ผู้เล่น คล้ายกับไอเทม Lord Of Blood's Exultation ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ โดยส่วนที่ดีที่สุดของ White Mask คือมันสามารถมีผลซ้อนทับกับ Talisman ดังกล่าวได้ ทำให้เราได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นแทบจะตลอดเวลาที่ต่อสู้เลยทีเดียว

Credit:  THEGAMER , Elden Ring Wiki


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[ไกด์เกม] Elden Ring: สอนปั้นตัวละครสาย Bleed "จงชโลมแดนมัฌชิมาด้วยเลือด!"
17/04/2022

ณ จุดนี้ เชื่อว่าเกมเมอร์น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักกับ "Elden Ring" หนึ่งในเกมแอคชั่น RPG ตระกูล Soulsborne ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ โดยนอกจากความยากมหาหินอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้พัฒนา FromSoftware นัั้น จุดเด่นสำคัญอย่างหนึ่งของเกม Elden Ring คือการสร้าง "บิ๊ลด์" (Build) หรือ "สาย" ของตัวละครในเกม ที่ให้คุณสามารถใช้อาวุธและสกิลต่าง ๆ มาผสมผสานกันอย่างหลากหลายไม่สิ้นสุด เพื่อปราบศัตรูอันร้ายกาจนับไม่ถ้วนที่รออยู่บนหนทางสู่บัลลังค์ Elden Lord ของคุณ

เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้มัวหมองหน้าใหม่หลาย ๆ คนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่แคนมัฌชิมาเป็นครั้งแรก (หรือผู้มัวหมองหน้าเก่าที่อยากหาอะไรใหม่ ๆ เล่น) วันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอมาแนะนำไกด์สอนบิ๊ลด์สาย: Bleed หรือ "เลือดออก" ซึ่งเป็นสายการเล่นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในเกม จากความสามารถในการสร้างความเสียหายมหาศาลจากสถานะ Blood Loss แถมยังมีตัวเลือกให้พลิกแพลงผสมผสานกันได้อีกมากเมื่อเทียบกับสายอื่น ๆ บางสาย ทำให้นอกจากจะมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมแล้ว ยังเปิดทางเลือกให้ผู้เล่นได้ทดลองของใหม่ ๆ แก้เบื่อได้อีกด้วย!

สาย Bleed คืออะไร

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การเล่นตัวละครสาย Bleed จะเน้นไปที่การทำให้ศัตรูติดสถานะ Blood Loss ให้บ่อยและรวดเร็วที่สุด โดยสถานะดังกล่าวจะส่งผลให้ศัตรูเสียพลังชีวิตเทียบเท่ากับ 15% ของพลังชีวิตทั้งหมดทันที หมายความว่าไม่ว่าศัตรูตัวนั้นจะมีพลังชีวิตมากขนาดไหน ถ้าหากโดน Bleed ครบ 7 ครั้งก็จะตายทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขเลยทีเดียว

เช่นเดียวกันสถานะผิดปกติอื่น ๆ ในเกม Elden Ring อย่าง Poison (ติดพิษ) หรือ Frostbite (แช่แข็ง) สถานะ Bleed หรือ Blood Loss นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเราใช้อาวุธที่มีค่าสถานะนั้นโจมตีศัตรูไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่ง ซึ่งก็หมายความว่าการต่อสู้กับศัตรูหรือบอสซักตัวอาจจะต้องติดสถานะเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น เพราะยังมีความเสียหายจากการโจมตีปกติปนอยู่เสมอ

หากจะมีจุดอ่อน คงเป็นการที่มีศัตรูและบอสบางตัวในเกมที่ไม่สามารถติดสถานะ Blood Loss ได้ ซึ่งเมื่อเจอศัตรูเหล่านี้ก็อาจจะทำให้ตึงมือขึ้นมามากขึ้นบ้าง แต่เอาเข้าจริงลก็ไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น โดยบิ๊ลด์ Bleed สามารถใช้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบเกมเลยทีเดียว


Stats ที่คุณควรอัพ

ในส่วนของค่า Stat นั้น น่าจะเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเริ่มเลือกอาชีพตัวละครช่วงต้นเกม โดยแม้ว่าจะสามารถหาไอเทมมารีเซ็ต Stat ได้ในภายหลัง แต่การเริ่มต้นให้ถูกทางย่อมทำให้การเล่นเกมสะดวกสบายมากขึ้น โดยนอกจากค่า Vigor (ที่เพิ่มขนาดหลอดเลือด) และค่า Endurance (เพิ่มหลอดสตามิน่า) ที่ควรค่อย ๆ อัพตลอดการเล่นอยู่แล้ว ค่า Stat ที่สายนี้ควรเน้นประกอบไปด้วย:

  • ARCANE: สำหรับค่า Arcane นั้นจะส่งผลต่ออัตราการติดสถานะอะไรก็แล้วแต่ของผู้เล่น รวมไปถึงอัตราการดรอปไอเทมของศัตรูที่เราฆ่า โดยสำหรับสายที่เน้นการติดสถานะอย่าง Bleed ย่อมต้องอยากอัพแต้มใส่ค่านี้อยู่แล้ว ที่สำคัญคืออาวุธและสกิลสาย Bleed ส่วนใหญ่ยังมีความต้องการในค่านี้ และได้รับความเสียหายเพิ่มจากค่านี้ในระดับต่าง ๆ กันไปด้วย เราจึงควรอัพค่านี้นำก่อนเป็นอันดับแรก
  • STRENGTH/DEXTERITY: สำหรับค่าทั้งสองนี้ ควรเลือกอัพค่าใดค่าหนึ่งนำเป็นหลัก ตามอาวุธที่เราเลือกใช้ โดยอาวุธบางชิ้นอาจได้รับความเสียหายเพิ่มจาก STRENTH มากกว่า ในขณะที่บางชิ้นอาจได้รับจาก DEXTERITY มากกว่า
  • FAITH: นอกจากอาวุธทั้งหลาย ยังมีเวทมนต์ Incantation จำนวนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการเล่นของสาย Bleed โดยเวทย์เหล่านี้ (รวมไปถึงอาวุธ Seal ที่ต้องใช้ในการร่าย) มักจะมาพร้อมความต้องการในค่า Faith ไม่มากก็น้อย ซึ่งเราอาจเลือกอัพแค่ให้พอใช้เวทย์หรือ Seal ที่ต้องการได้ก็พอ

ตัวอย่างของการอัพ Stat ช่วงท้ายเกมสำหรับตัวละครสาย Bleed ที่ใช้อาวุธสาย DEXTERITY:

StatsValue
Vigor60
Mind15
Endurance30
Strength17
Dexterity45
Intelligence9
Faith8
Arcane45

ภาพรวมวิธีเล่น

เนื่องจากการคำนวนค่าสถานะต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่โจมตี ทำให้อาวุธสาย Bleed ส่วนใหญ่มักจะเป็นอาวุธที่สามารถโจมตีศัตรูได้หลายครั้งในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะจากท่วงท่าการโจมตีของอาวุธประเภทนั้นทั้งหมด หรือเป็นสกิลที่ทำให้สามารถโจมตีหลายครั้งในการกดใช้ครั้งเดียวเป็นต้น

ตัวอย่างอาวุธ

Uchigatana


เอาเข้าจริง ๆ แล้วสาย Bleed จะสามารถใช้อาวุธอะไรก็ได้ที่มีค่า Blood Loss Buildup ติดอยู่ โดยสำหรับช่วงเริ่มต้นนั้นอาวุธดาบคาตะนะ Uchigatana ถือเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมาพร้อมกับค่า Blood Loss Buildup ตั้งต้นถึง 45 แถมท่าโจมตีของอาวุธประเภทดาบคาตานะยังมีความรวดเร็วและคล่องตัวประมาณหนึ่ง ซึ่งก็มีประโยชน์สำหรับการเล่นสาย Bleed อย่างแน่นอน และถ้าเลือกอาชีพซามูไรตั้งแต่ต้นเกมก็จะสามารถเริ่มเกมพร้อมกับดาบนี้ได้เลยอีกด้วย

ทั้งนี้ ตัวเลือกช่วงต้นเกมที่น่าสนใจก็ยังมีดาบ Curved Swords ของอาชีพ Warrior และดอบสองด้าน Twin Blade ซึ่งก็สามารถหาเก็บได้ตั้งแต่ช่วงต้นเกมเช่นเดียวกัน โดยผู้เล่นที่ไม่ได้เลือกเริ่มเล่นเป็นอาชีพซามูไรจะสามารถหาดาบนี้ได้จากดันเจี้ยน Deathtouched Catacombs ในเขต Stormhill ของภูมิภาค Limgrave

  

Rivers Of Blood


นอกจากท่าโจมตีของอาวุธดาบคาตานะที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ดาบ Rivers of Blood ยังมีจุดเด่นตรงสกิลประจำตัว Corpse Piler ที่จะฟาดฟันดาบออกไปเป็นคอมโบหลายครั้งอย่างรวดเร็ว โดยการโจมตีแต่ละครั้งยังจะมีคลื่นดาบกระจายออกไปเพื่อเพิ่มระยะของการโจมตี แถมยังเพิ่มสถานะ Blood Loss ได้รวดเร็วกว่าการโจมตีปกติอีกด้วย แต่ความเสียหายของสกิลก็สูงมากพอที่หลายครั้งอาจฆ่าศัตรูตายก่อนจะติดสถานะ Blood Loss ได้ด้วยซ้ำ!

สามารหาดาบเล่มนี้ได้จากการเอาชนะ NPC ที่ชื่อว่า Bloody Finger Okina ได้แถวโบสถ์ Church of Repose ในเขต Mountaintop of the Giants


Eleonora's Poleblade


หากคุณไม่ชอบใช้ดาบคาตานะ อาวุธดาบสองด้านอย่าง Eleonora's Poleblade ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ด้วยท่าโจมตีของอาวุธที่สามารถสร้างความเสียหายได้หลายครั้งในการกดโจมตีเพียงครั้งเดียว ทำให้สามารถติดสถานะ Blood Loss ได้รวดเร็วกว่าอาวุธคาตานะอีกในหลาย ๆ กรณี โดยอาวุธชิ้นนี้ยังมาพร้อมความสามารถติดตัว Bloodblade Dance ที่จะควงอาวุธรอบ ๆ ตัวเพื่อโจมตีศัตรูหลายครั้งติดกัน อาจเรียกอาวุธนี้ได้ว่าเป็นดาบ Rivers of Blood เวอร์ชั่นดาบสองด้านก็ได้

อาวุธชิ้นนี้จะได้รับเมื่อเอาชนะ NPC ชื่อ Eleonora, Violet Bloody Finger ที่โบสถ์ Second Church of Marika ในเขต Altus Plateau


Godskin Peeler (หรืออาวุธใด ๆ ก็แล้วแต่ที่แปะเถ้าสงครามเองได้)


อาวุธหน้าตาประหลาดนี้จัดอยู่ในประเภทเดียวกับ Eleonora's Poleblade ซึ่งก็ทำให้มีความสามารถในการโจมตีหลายครั้งติด ๆ กันอย่างรวดเร็ว โดยข้อดีอย่างหนึ่งของอาวุธนี้คือการที่มันไม่ใช่อาวุธพิเศษ ผู้เล่นจึงสามารถเลือกสวมใส่สกิลที่ต้องการได้ผ่านระบบเถ้าสงครามนั่นเอง ซึ่งสกิลที่นิยมใช้กันบ่อย ๆ ก็คือสกิล Seppuku ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นแทงตัวเองหนึ่งครั้ง สร้างความเสียหายเท่ากับสถานะ Blood Loss (หรือ 15% ของพลังชีวิต) เพื่อทำให้อาวุธได้ค่า Buildup เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จนช่วงท้ายเกมแทบจะติดสถานะในการโจมตีครั้งเดียวได้เลย

ทั้งนี้ จุดสำคัญจริง ๆ อาจไม่ใช่ตัวอาวุธ แต่คือความสามารถในการแปะเถ้าสงคราม Seppuku ต่างหาก ฉะนั้นหากคุณมีอาวุธที่ชื่นชอบนอกจาก Godskin Peeler ที่สามารถแปะเถ้าสงครามได้ ก็สามารถใช้ได้ทั้งหมด ขอเพียงแค่ให้อาวุธนั้นมีค่า Buildup ติดตัวมาอยู่แล้ว และสามารถโจมตีได้รวดเร็ว โดยอาวุธ Godskin Peeler สามารถเก็บได้จากบอส Godskin Apostle ในหมู่บ้าน Windmill Village เขต Altus Plateau


ตัวอย่างเวทย์มนต์

ว่ากันจริง ๆ แล้ว เวทย์มนต์ที่มีความสามารถสาย Bleed ในเกม Elden Ring นั้นมีอยู่เพียง 4 ตัวเลือกเท่านั้น โดยทั้งหมดเป็นเวทย์สาย Incantation ที่ต้องใช้อาวุธ Seal ในการร่าย ซึ่งแน่นอนว่า Seal ที่เหมาะกับสายนี้ต้องเป็น Dragon Communion's Seal ที่ได้รับพลังโจมตีเพิ่มจากค่า Arcane ของเราด้วย

ในส่วนของคาถาที่นิยมใช้กันบ่อย ๆ ประกอบไปด้วย:

  • Swarm of Flies


สำหรับคาถานี้จะทำการเสกฝูงแมลงวันออกมา ซึ่งจะไล่ตามไปกัดศัตรูเป้าหมายเพื่อติดสถานะ Blood Loss อย่างรวดเร็ว โดยแม้ว่าเวทย์นี้จะไม่ได้ทำความเสียหายด้วยตัวเองมากนัก แต่ก็สามารถร่ายได้อย่างรวดเร็วและใช้ FP ไม่มาก เหมาะสำหรับการใช้โจมตีบอสที่โจมตีเราอย่างรวดเร็วจนหาช่องสวนกลับยาก

  • Bloodflame Blade


เสกเพลิงโลหิตมาปกคลุมอาวุธ โดยนอกจากจะเพิ่มความเสียหายธาตุไฟให้กับอาวุธแล้ว เวทย์นี้ยังจะบัฟค่า Buildup ของอาวุธเพิ่มขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือสถานะ Bloodflame นั้นจะส่งผลคล้ายให้ศัตรูโดน "เผา" ด้วยเพลิงโลหิตเพิ่มทุกครั้งที่โจมตี ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายแล้ว ยังทำให้ศัตรูยังคงได้รับค่า Buildup สถานะ Blood Loss เพิ่มต่อไปอีกครู่หนึ่งหลังจากที่โดนโจมตี ทำให้ยิ่งติดสถานะ Blood Loss ง่ายขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ เวทย์นี้จะใช้ได้กับอาวุธที่ไม่ได้มีความเสียหายพิเศษติดมาอยู่แล้ว (เช่นอาวุธบางอันอาจสร้างความเสียหายกายภาพ + ไฟเป็นต้น) ซึ่งก็จำกัดตัวเลือกลงมาประมาณหนึ่ง ใครอยากใช้เวทย์นี้ก็ลองดูดี ๆ ก่อนนะจ๊ะว่าอาวุธที่เราชอบมันสามารถติดบัฟได้หรือเปล่า

Talismans

ในส่วนของ Talisman นั้น แต่ละคนก็อาจมีตัวเลือกที่ชอบต่างกันไป แต่ Talisman ที่เราแนะนำว่าเหมาะสมกับสาย Bleed เป็นอย่างมากก็มีอยู่สองชิ้นคือ:

  • Lord Of Blood's Exultation

How to Get Lord of Blood's Exultation: Effects and Locations | Elden  Ring|Game8

สำหรับ Talisman ตัวนี้จะเพิ่มความเสียหายทั้งหมดที่เราทำ 20% ทุกครั้งที่มีศัตรูติดสถานะ Blood Loss ในรัศมี ซึ่งสำหรับสายนี้เท่ากับว่าแทบจะได้บัฟนี้ตลอดเวลาเลยทีเดียว

  • Winged Sword Insignia

Elden Ring Winged Sword Insignia Builds | Where To Find Location, Effects

Talisman ตัวนี้จะเพิ่มพลังโจมตีขึ้นเมื่อเราสามารถโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาวุธสาย Bleed ส่วนใหญ่ต้องการจะทำความเสียหายหลายครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ อยู่แล้ว จึงเหมาะกับ Talisman ตัวนี้พอดี

ชุดเกราะ

หากจะให้ว่ากันตามตรง เกราะในเกม Elden Ring นั้นส่งผลต่อการเล่นโดยรวมไม่มากนัก โดยคำแนะนำกลาง ๆ ก็คือให้สวมเกราะที่ให้พลังป้องกันมากที่สุดโดยที่ไม่ทำให้น้ำหนักตัวของเราสูงเกินไปจนกลิ้งไม่ได้ จะมีก็เพียงช่องหมวกเท่านั้นที่อยากแนะนำให้ใส่:

  • White Mask

How To Get The White Mask In Elden Ring

เกราะเพียงชิ้นเดียวที่สำคัญคือ White Mask ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเสียหายทุกครั้งที่มีการติด Blood Loss ใกล้ผู้เล่น คล้ายกับไอเทม Lord Of Blood's Exultation ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ โดยส่วนที่ดีที่สุดของ White Mask คือมันสามารถมีผลซ้อนทับกับ Talisman ดังกล่าวได้ ทำให้เราได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นแทบจะตลอดเวลาที่ต่อสู้เลยทีเดียว

Credit:  THEGAMER , Elden Ring Wiki


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header