เชื่อว่าเกมเมอร์หลายๆ คนคงรู้จักกันอยู่แล้วไม่มากก็น้อยกับเกม God of War ซีรี่ย์แอคชั่นรุ่นเก๋าที่เพิ่งปล่อยภาคใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นการยกเครื่องใหม่กันหมด ตั้งแต่ สถานที่ตั้งของเกม ที่ย้ายจากดินแดนกรีกโบราณมาอยู่ในดินแดนของเหล่าเทพ Norse (เทพไวกิ้งอย่าง ธอร์ หรือ โอดิน นั่นแหละ) ไปจนถึงระบบต่อสู้ ที่เปลี่ยนจากกล้องมุมสูงมาเป็นมุมมองแบบ Third-Person แต่ทีเด็ดจริงๆ ต้องยกให้เนื้อเรื่องและวิธีการเล่า ที่ยกระดับซีรี่ย์นี้ขึ้นไปเทียบเกมในตำนานของเครื่อง PS4 อย่าง The Last of Us หรือ Uncharted ได้สบายๆ ทีมงาน GameFever เองเพิ่งจะเคลียร์โหมดเนื้อเรื่อง จึงอยากจะนำความรู้สึกนึกคิดมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ แบบไม่มีการสปอย กับเกมที่แฟนเกมทุกคนไม่ควรพลาด!
สำหรับเนื้อเรื่องภาคนี้ดำเนินต่อจาก God of War 3 (ที่ปล่อยตั้งแต่ปี 2010) โดยเริ่มขึ้นที่การจากไปของคนรักใหม่ของ Kratos ทิ้งไว้เพียงคำขอสุดท้ายให้ Kratos และลูกชายหรือ Atreus นำอัฐิของเธอไปโปรยลงจากยอดเขาที่สูงที่สุด แต่การเดินทางของทั้งสองกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเหล่าเทพเจ้าถิ่นเริ่มสนใจสองพ่อลูกเทพสงครามผู้บุกรุกในดินแดนของตน
โดยความสัมพันธ์ระหว่างสองพ่อลูก Kratos และ Atreus ถือเป็นแกนหลักของเกมเลยก็ว่าได้ เนื้อเรื่องส่วนใหญ่เน้นไปที่การพัฒนาของสองตัวละครอย่างลึกซึ้ง หลายคนคงรู้จัก Kratos ในฐานะเทพสงครามบ้าเลือด แต่เกมนี้กลับสร้างมิติให้ตัวละครในฐานะพ่อ ที่มีความห่วงใยต่อลูกแต่กลับแสดงออกไม่ถูก ด้วยความกลัวว่าลูกจะกลายเป็นเหมือนตัวเองในอดีต จึงทำได้เพียงแค่ปกป้องลูกอยู่ห่างๆ ทั้งจากภัยยันตรายรอบตัว และจากอดีตอันคาวเลือดของตัวเอง
ในขณะเดียวกัน Atreus เองก็มีปมที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความรักจากพ่อ จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าสามารถดูแลตัวเองได้ แต่แน่นอนว่ายิ่ง Atreus ดูจะพยายามเป็นเหมือนพ่อเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ Kratos ลำบากใจและตีตัวออกห่างมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ Atreus ทำได้แค่ผูกใจเจ็บที่ตัวเองดูจะไม่ดีพอเสียที
การใช้เรื่องราวของทั้งสองเป็นแกนหลัก ยังเป็นการสร้างคุณค่าให้กับเกม ให้เป็นมากกว่าแค่เกมแอคชั่นฟาดฟันเกมนึงที่เนื้อเรื่องเคยถูกเมินอีกด้วย และยกระดับ Kratos ในฐานะตัวละครแบนๆ มิติเดียว เป็นตัวละครที่ลึกซึ้งน่าติดตาม มีอารมณ์ที่หลากหลายมากขึ้น แม้ว่าเนื้อเรื่องของเกมมีความเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าองค์อื่นๆ ด้วย (ไม่งั้นคงไม่ใช่ God of War) แต่เทพเหล่านั้นก็ยังถือเป็นตัวประกอบในเรื่องของสองพ่อลูกอยู่ดี
จากการเล่นไปเกือบ 30 ชั่วโมงของทีมงาน GameFever พบว่าเกมแทบจะไม่มีการเฟรมตกหรือติดบัคใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าน่าทึ่งมากสำหรับเกมที่ใหญ่และรายละเอียดหนาตาขนาดนี้ แต่ที่สุดยอดที่สุดคงเป็นเรื่องมุมกล้อง ที่ถ่ายต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มจนจบเกมโดยไม่มีการตัดเปลี่ยนฉากหรือเข้าหน้าจอโหลดเกมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ผู้เล่นสามารถชื่นชมความงดงามของฉากได้อย่างเต็มที่ รวมกระทั่งการตัดเข้า-ออกคัตซีนด้วย โดยการเปลี่ยนมุมกล้องนี้ ที่ติดตาม Kratos และ Atreus ตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบแบบไม่ตัดไปไหนเลยยังทำให้ผู้เล่นสามารถติดตามอารมณ์ของสองตัวละครตลอดเวลา ทำให้เราเห็นและรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้อย่างใกล้ชิด
แต่ด้วยความที่เนื้อเรื่องภาคนี้ดูจะมีความติดดินกว่าภาคก่อนๆ ทำให้เกมมีโอกาสในการโชว์ฉากแอคชั่นระเบิดระเบ้อเหมือนภาคเก่าๆ น้อยหน่อย โดยจะเน้นไปที่การเดินทางผ่านป่าเขาหรือซากปรักหักพังแทน แต่ทั้งหมดก็ยังถือว่าสวยมากๆ เป็นเกมที่ดูมาแล้วเป็นสิบๆ ชั่วโมงก็ยังไม่เบื่อเลย
สำหรับคนที่เคยเล่นเกมแอคชั่นหรือเกม God of War ภาคก่อนๆ มาอาจจะพอคุ้นเคยกั
บระบบโจมตีหนัก-เบาอยู่บ้าง
โดยเกมภาคล่าสุดก็ยังไม่ทิ้
งวิญญาณเกมแอคชั่นล้างผลาญที่มีมาแต่เดิม แต่อาจจะทำให้ช้าลงมาหน่อย การต่อสู้ทำโดยการกดปุ่ม R1 กับ R2 เพื่อโจมตีเบาและหนักตามลำดับ ผู้เล่นสามารถกดการโจมตีทั้
งสองแบบสลับกันเพื่อสร้างเป็นคอมโบต่างๆ ได้ เป็นระบบที่เข้าใจง่าย แต่ก็ลึกซึ้งเมื่อนำมารวมกั
บระบบอื่นๆในเกมอย่างการใช้
โล่
ห์ป้องกัน การหลบ หรือกระทั่งการปาขวานระยะใกลเพื่อโจมตี แช่แข็ง หรือขัดขาศัตรูให้ล้มแล้ววิ่งเข้าไปต่อยศัตรูมือเปล่าแทน ซึ่งการต่อสู้มือเปล่าก็มีหน้าที่ของมันในการเก็บหลอด Stun Meter ของศัตรู ซึ่งเมื่อเต็มแล้วจะเปิดโอกาศให้เราเข้าไปทำท่าปลิดชีพสุดโหดอันโด่งดังของซีรี่ได้อีกด้วย
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่
าเรื่องราวของพ่อลูก Kratos และ Atreus ถือเป็นแกนหลักของเกม การต่อสู้ก็เช่นกัน โดยเราจะสามารถสั่งเจ้าลูกช
ายของเราให้โจมตีศัตรูด้วยธ
นูได้ ซึ่งนอกจากจะสามารถขัดจังหว
ะการโจมตีของศัตรูได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มหลอด Stun Meter ได้เร็วอีกด้วย โดยเราสามารถอัพสกิลเพื่อเพิ่มความสามารถทั้งของตัวเอง
และลูกชายได้ ซึ่งระบบผูกเข้ากับเนื้อเรื่องได้อย่างแยบยล ด้วยการปลดล๊อคความสามารถบา
งอย่างของ Atreus ตามจุดที่เราอยู่ในเควสหลัก
ทำให้เรารู้สึกเหมือนตัวเอง
สามารถร่วมมือกับลูกได้ดีมา
กขึ้น สะท้อนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ค่อยๆ พัฒนาไปตามเนื้อเรื่อง
โดยแรกๆ อาจจะรู้สึกว่าต้องเ
ลือกอัพสกิลให้ดี เพราะการเก็บ EXP ในช้วงแรกค่อยข้างช้า แต่พอเล่นไปเรื่อยๆ กลับอัพส
กิลเต็มหมดแต่เหลือ EXP กระจุย ทำให้ระบบสกิลที่ตั้งใจเล่น
อย่างระวังตอนแรกกลายเป็นไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่ในท้ายเกม ถ้าระบบสกิลมีความหลากหลายก
ว่านี้ก็คงจะช่วยเพิ่มความห
ลากหลายให้ระบบต่อสู้ได้อีก
มาก
ดูเหมือนง่าย แต่เกมนี้ถือเป็นเกมที่มีคว
ามยากพอสมควร โดยเฉพาะช่วงต้นๆ ที่เรายังไ
ม่มีชุดเกราะหรือสกิลมารับมือกับศัตรูกลุ่มใหญ่ๆ ที่มัก
จะเจอตามด่านเป็นระยะ ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ทักษะอั
นยืดหยุ่นของเกมในการเล่นงา
นจุดอ่อนของศัตรูแต่ละชนิดอีกด้วย การเพิ่มเลือดระหว่างต่อสู้
ก็ค่อนข้างลำบากในหลายๆ ครั้
ง ทำให้ต้องระมัดระวังการโจมตีของศัตรูมากเป็นพิเศษ เกมจึงรู้สึกช้าๆ กว่าเกมแอค
ชั่นเลือดเดือดอย่าง Devil May Cry แต่ใกล้เคียงเกมอย่าง Bloodborne มากกว่า (แต่ไม่ยากขนาดนั้นนะเออ) เกมอาจจะบังคับให้ผู้เล่นใช้ความตั้งใจในการเล่นมากขึ้
น แต่เมื่อคล่องแล้วก็สามารถก
ระโดดเข้าไปล้างบางศัตรูให้
สมชื่อเทพสงครามได้เหมือนกั
น
เกมนี้ถือเป็นเกมแรกในซีรี่
ที่ใช้ระบบกึ่งๆ open-world ซึ่งเปิดโอกาศให้ผู้เล่นสาม
ารถดำเนินเนื้อเรื่องได้ตาม
ใจของตัวเอง หรือจะเลือกไปทำภารกิจย่อยต่างๆ ที่ตัวละครอื่นๆ ในเกมมอ
บให้ก็ได้ ในเกมยังมีความลับและปริศนา
ต่างๆ ซ่อนไว้ให้ผู้เล่นค้นห
า ซึ่งปริศนาในเกมนี้บางทีก็ทำให้เกิดความหัวร้อนจากความ
ยากขึ้นมาได้เหมือนกันในบาง
ครั้ง แต่โดยรวมก็ถือเป็นข้อดี เพราะทำให้เรารู้สึกมีแรงจู
งใจในการออกเดินทางไปตามที่
ต่างๆ ใน
เกม เพราะบางครั้งการแก้ปริศนาเหล่านี้อาจจะให้รางวัลเราเป็นของเพิ่มหลอดเลือด หรือชิ้นส่วนในการอัพเกรดชุดเกราะหายากที่กำลังต้องการอยู่พอดี
การแก้ปัญหาในเกมส่วนใหญ่ทำ
ด้วยการใช้ขวานน้ำแข็งคู่ใจ
หรือ Leviathan Axe ของเรา ที่นอกจากจะใช้จามศัตรูได้อ
ย่างหนักหน่วงสะใจแล้วยังสา
มารถนำมาใช้ปาเพื่อตัดเชือก
แก้ปริศนาอีก โดยเราสามารถกดปุ่มสามเหลี่
ยมเพื่อเรียกขวานให้บินกลับ
มาเข้ามือ Kratos ได้ตลอดเวลาอีกด้วย (เป็นอะไรที่ทำกี่ทีๆ ก็ไม่เ
บื่อจริงๆ ) เมื่อเราดำเนินเนื้อเรื่องไ
ปเรื่อยๆ เราจะเริ่มมีความสามารถพิเศ
ษในการใช้แก้ปริศนาเพิ่มขึ้
นอีกด้วย ฉะนั้นถ้าเจอปริศนาที่ดูเหมือนไม่มีทางแก้อย่าเพิ่งท้อ
เกมอาจจะให้เรากลับมาแก้อีก
ทีภายหลังก็เป็นได้ แถมการสำรวจที่ต่างๆ ในเกมยั
งเปิดโอกาสให้ตัวละครพ่อ-ลู
กได้คุยกันมากขึ้น ทำให้เราสัมผัสความรู้สึกนึ
กคิดของตัวละครในมุมใหม่ๆ ได้อีกด้วย
สรุปคะแนน: 9.5/10
ทีมงาน GameFever พูดได้เต็มปากจริงๆ ครับว่าเกม God of War ภาคใหม่นี้ถือเป็นเกมที่ดีที่สุดอันดับต้นๆ ของ PS4 เลยทีเดียว เป็นเกมที่แฟนซีรี่ God of War หรือแฟนเกมแอคชั่นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ยิ่งคนที่ชอบเสพเนื้อเรื่องดีๆ ด้วยแล้ว ควรซื้อมาประดับเพลย์สี่กัน
ข้อดี
- เนื้อเรื่องระดับท๊อป
- ภาพสวยอันดับต้นๆ แม้ในเครื่อง PS4 ธรรมดา
- ระบบต่อสู้เข้าใจง่ายแต่ลึกและท้าทาย
- เกมเปิดโอกาสให้สำรวจเยอะ มีปริศนาท้าทายให้แก้ตลอดทาง
ข้อเสีย
- ระบบสกิลมีความสำคัญแค่ต้นเกม ท้ายเกมอัพได้หมดอยู่ดี
- ปริศนาบางอันก็ทำหัวร้อนอยู่เหมือนกัน 555