GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
รีวิวเกม Yes, Your Grace "ทางเลือกที่แสนลำบากใจของกษัตริย์ยุคกลาง"
ลงวันที่ 11/03/2020

ในหนังหรือซีรี่ย์ที่เกี่ยวกับยุคกลาง มักมีเหตุการณ์ที่สุดแสนจะบีบบังคับ ปัญหารุมล้อม ทำให้บางครั้งตัวละครก็เลือกทางเดินที่เห็นว่าไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไร จนพวกเรามานั่งบ่นว่าทำไมไม่ทำอย่างนู่น ทำไมไม่ทำอย่างงี้ (อารมณ์ประมาณเด็กเกาะเบาะ 555+) วันนี้ GameFever TH  จะขอแนะนำเกม Yes, Your Grace ที่จะจำลองการเป็นกษัตริย์แห่งยุคกลาง ทำหน้าบริหารบ้านเมืองและรับมือกับปัญหาต่างๆ มาดูกันว่ามันลำบากยากเย็นแค่ไหน


เนื้อเรื่องและบรรยากาศโดยรวม


เนื้อเรื่องจะเล่าถึงอาณาจักร Davern ที่ปกครองโดยกษัตริย์ Eryk ซึ่งแต่ละวันก็คอยรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ขอให้ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมอนเตอร์บุกโจมตีหมู่บ้าน ของบไปสร้างโรงเตียม (ขอทานก็มีนะ) เป็นต้น แต่ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเดียว กษัตริย์ Eryk ต้องคอยดูแลเรื่องในครอบครัวของตนเองไปพร้อมๆกันด้วย แถมต้องค่อยจัดการเรื่องของขุนนางอีก ซึ่งก็ดูเหมือนจะคล้ายๆซีรี่ย์/หนังยุคกลางธรรมดาเรื่องนึง ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ



ถึงเนื้อเรื่องจะดูธรรมดาไปสักหน่อย แต่เนื้อเรื่องเกมนี้ยาวมาก (ประมาณ 5-7 ชม.) เรียกได้ว่าเล่นกับตาแฉะกันเลยทีเดียว และต้องใช้ความรู้ทางภาษาสักหน่อยเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องและคำร้องเรียนมากขึ้น แถมตลอดเนื้อเรื่องจะมีเหตุการณ์สำคัญแทรกมาเป็นระยะๆ ทำให้เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ น่าตื่นเต้นอยู่ตลอด 



ส่วนบรรยากาศในเกมทำออกมาได้ดี ถึงจะดูเงียบเหงาไปสักหน่อย เพราะตัวละครที่จะโผล่มาในพระราชวัง นอกจากประชาชนที่เข้ามาร้องเรียนแล้ว ก็มีแค่คนในครอบครัวกับทหารแค่ไม่กี่คนภาพในเกมใช้เป็นแบบพิกเซลอาร์ต แถมดนตรีก็ฟังเพลินดีด้วย ซึ่งเข้ากับธีมยุคกลางได้ดี ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาอะไร

ระบบเกมการเล่น 


เริ่มเกมมา ตัวเกมจะขึ้นเตือนเราว่า “เกมนี้เป็นเกมทางเลือกที่แสนลำบากใจ เป็นไปไม่ได้ที่จะสนองความต้องการของทุกคน บางครั้งอาจจะมาดี บางครั้งมีเจตนาชั่วร้าย  และบางครั้งอาจจะไปขวางทางคนอื่น จงบริหารทรัพยากรให้เพียงพอแต่ละสัปดาห์ก็พอแล้ว” เพราะอย่างงั้นทุกๆการตัดสินใจในเกมนี้ ทำให้เราต้องมานั่งคิดดีๆว่าควรทำหรือเปล่า เพราะบางครั้งการตัดสินใจเล็กๆ ก็อาจนำพาเรื่องใหญ่ตามมาในภายหลัง 



พูดถึงระบบการเล่น จะคล้ายกับเกมแนว visual novel ที่เราต้องเลือกตัดสินใจทางเลือกต่างๆ แต่เกมนี้จะมีเรื่องของทรัพยากรพ่วงมาด้วย  โดยเกมจะแบ่งให้เราเล่นเป็นสัปดาห์ๆไป (ให้คิดสะว่า 1 สัปดาห์จะเปิดให้ร้องเรียนแค่ 1 วัน) จะมีประชาชนจำนวนหนึ่งเข้ามาต่อแถวร้องเรียนขอความช่วยเหลือที่ท้องพระโรง (เราสามารถเลือกว่าใครจะขึ้นมาร้องเรียนก่อนก็ได้ ไม่ต้องตามลำดับ) 



ซึ่งแน่นอนการให้ความช่วยเหลือต้องใช้ทรัพยากร (ทรัพยากรมีทอง เสบียง กำลังทหาร หัวหน้าทหาร) ทำให้ต้องมานั่งคิดว่าทรัพยากรจะเพียงพอให้ช่วยเหลือหรือจะเผื่อใช้ในครั้งต่อไป เพราะทรัพยากรมีจำกัด เราไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคน เราจึงสามารถตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือหรือไม่ก็ได้ ถ้าช่วยเหลือ ค่าความสุข(ของประชาชน)เพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ช่วย  ค่าความสุขจะลดลง 



ถึงเรื่องการช่วยเหลือประชาชนจะสำคัญ แต่การดูแลคนในครอบครัวและขุนนางก็สำคัญไม่แพ้กัน เราต้องค่อยแก้ปัญหาความวุ่นวายในครอบครัวด้วย เพราะถึงจะไม่ได้ทำให้เราได้ทรัพยากร แต่ก็ช่วยให้ครอบครัวรักกันดี ไม่แตกแยก หรือมีโอกาสล่มบังลังก์ ส่วนขุนนางเราสามารถติดต่อได้โดยการส่งนกพิราบไป และขุนนางคนนั้นจะมาในสัปดาห์ต่อไป เราสามารถเป็นพันธมิตรได้ โดยทำตามเงื่อนไขของขุนนางคนนั้นๆก่อน ถ้าเป็นพันธมิตรกันแล้ว พวกเขาจะช่วยเหลือเรื่องทรัพยากรต่างๆ (แต่ถ้าไม่ลงรอยกันก็อาจมาทำร้ายเราที่หลังได้ ) 



ทุกครั้งที่เราตัดสินใจหรือมีความก้าวหน้าของเนื้อเรื่อง จะมีบันทึกให้เราสามารถเข้าไปอ่านย้อนความได้ (อยู่ข้างล่างซ้าย)



หลังจากรับเรื่องร้องเรียนทั้งหมดแล้ว เราสามารถเดินสำรวจพระราชวังของเราเราได้ โดยจะแบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น คุก กำแพงเมือง สวน ฯลฯ ซึ่งจะมีรูปคริสตัลขึ้นอยู่ บงบอกว่าส่วนนั้นมีเนื้อเรื่องอยู่ (สีฟ้าเป็นเนื้อเรื่องหลัก สีเขียวเป็นเนื้อเรื่องเสริม) และเราสามารถส่งหัวหน้าทหารไปสำรวจบริเวณรอบอาณาจักรเพื่อหาทรัพยากรได้ 



เราสามารถจะข้ามไปสัปดาห์ต่อไปได้ แต่ต้องทำส่วนเนื้อเรื่องและหน้าที่หลักให้เสร็จก่อน โดยจะขึ้นเตือนว่าเราต้องไปทำอะไรเป็นคำพูดของกษัตริย์ Eryk (ข้ามเรื่องเสริมได้ แต่ก็ควรไปเก็บให้หมด)



เมื่อจบ 1 สัปดาห์จะมีขึ้นบอกว่าสัปดาห์นี้เรามีรายได้รายจ่ายอะไรบ้าง เราสามารถอัพเกรดเมืองได้จากเมนูด้านซ้าย และตัวเกมจะเซฟเป็นสัปดาห์ๆไป เราสามารถย้อนมาเล่นแต่ละสัปดาห์ได้ (แต่เซฟสัปดาห์หลังจากนั้นจะหายไป) และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอฉากจบ



มาพูดถึงข้อเสียกัน เนื่องจากเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่ยาวมาก เลยทำให้บางช่วงอาจจะดูน่าเบื่อไปสักหน่อย จนเผลอๆกดข้ามบ้างให้ส่วนที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร และตัวเกมนอกจากเลือกตัดสินใจในเรื่องต่างๆแล้ว ก็ไม่มีอะไรเลย เราจะเจอแต่เกมเพลแบบนี้ตลอดทั้งเกม เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีอะไรทำ ทั้งที่มันน่าจะทำไรได้มากกว่านี้

ความรู้สึกหลังเล่น


บอกตามตรง ตอนแรกที่ซื้อเกมนี่มา เพราะคิดว่าคงเป็นเกมเล่นเรื่อยๆ รับฟังปัญหาชาวบ้าน และจัดการทรัพยากรเฉยๆ ไม่คิดว่าจะมีเนื้อเรื่องหนักหน่วงขนาดนี้ จะเรียกได้ว่าเป็นซีรี่ย์ดีๆเรื่องนึงเลยก็ได้ แต่แค่เรากำหนดทิศทางของเรื่องได้ (ช่วงท้ายๆของเกม ตัวเลือกแต่ละทางมันช่างหนักใจสุดๆ บีบบังคับมากกกกก) ทำให้ต้องยอมเล่นเกมนี้จบ 2-3 รอบเพื่อหาฉากจบแบบอื่นๆ ถ้าพูดถึงฉากฉากชอบที่สุด ก็คงเป็นฉากสงคราม (บอกเยอะไม่ได้ เดียวสปอย) ดุเดีอดมาก แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบตรงที่เกมนี้ต้องอ่านเยอะมากกกกกกกกกก (อ่านจนเหนื่อย จนบางครั้งก็กดข้ามๆก็มี)


สรุป


Yes, Your Grace เป็นเกมแนวจำลองเหตุการณ์ + บริหารทรัพยากรที่มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น น่าติดตาม และจบได้หลายทาง แต่เพราะเป็นเนื้อเรื่องที่ยาวและต้องอ่านเยอะมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบตามเนื้อเรื่องสักเท่าไร แถมเกมเพลที่ซ้ำซากตลอดทั้งเกม เลยทำให้เกมดูไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ถึงอย่างนั้น Yes, Your Grace ก็ยังเป็นเกมที่น่าซื้อมาลองเสพเนื้อเรื่องอีกเกมนึงอยู่ดี

Link : https://store.steampowered.com/app/1115690/Yes_Your_Grace/

[penci_review id="44737"]

7
ข้อดี
ข้อเสีย
8
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
รีวิวเกม Yes, Your Grace "ทางเลือกที่แสนลำบากใจของกษัตริย์ยุคกลาง"
11/03/2020

ในหนังหรือซีรี่ย์ที่เกี่ยวกับยุคกลาง มักมีเหตุการณ์ที่สุดแสนจะบีบบังคับ ปัญหารุมล้อม ทำให้บางครั้งตัวละครก็เลือกทางเดินที่เห็นว่าไม่ค่อยฉลาดสักเท่าไร จนพวกเรามานั่งบ่นว่าทำไมไม่ทำอย่างนู่น ทำไมไม่ทำอย่างงี้ (อารมณ์ประมาณเด็กเกาะเบาะ 555+) วันนี้ GameFever TH  จะขอแนะนำเกม Yes, Your Grace ที่จะจำลองการเป็นกษัตริย์แห่งยุคกลาง ทำหน้าบริหารบ้านเมืองและรับมือกับปัญหาต่างๆ มาดูกันว่ามันลำบากยากเย็นแค่ไหน


เนื้อเรื่องและบรรยากาศโดยรวม


เนื้อเรื่องจะเล่าถึงอาณาจักร Davern ที่ปกครองโดยกษัตริย์ Eryk ซึ่งแต่ละวันก็คอยรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ขอให้ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมอนเตอร์บุกโจมตีหมู่บ้าน ของบไปสร้างโรงเตียม (ขอทานก็มีนะ) เป็นต้น แต่ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเดียว กษัตริย์ Eryk ต้องคอยดูแลเรื่องในครอบครัวของตนเองไปพร้อมๆกันด้วย แถมต้องค่อยจัดการเรื่องของขุนนางอีก ซึ่งก็ดูเหมือนจะคล้ายๆซีรี่ย์/หนังยุคกลางธรรมดาเรื่องนึง ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ



ถึงเนื้อเรื่องจะดูธรรมดาไปสักหน่อย แต่เนื้อเรื่องเกมนี้ยาวมาก (ประมาณ 5-7 ชม.) เรียกได้ว่าเล่นกับตาแฉะกันเลยทีเดียว และต้องใช้ความรู้ทางภาษาสักหน่อยเพื่อเข้าใจเนื้อเรื่องและคำร้องเรียนมากขึ้น แถมตลอดเนื้อเรื่องจะมีเหตุการณ์สำคัญแทรกมาเป็นระยะๆ ทำให้เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ น่าตื่นเต้นอยู่ตลอด 



ส่วนบรรยากาศในเกมทำออกมาได้ดี ถึงจะดูเงียบเหงาไปสักหน่อย เพราะตัวละครที่จะโผล่มาในพระราชวัง นอกจากประชาชนที่เข้ามาร้องเรียนแล้ว ก็มีแค่คนในครอบครัวกับทหารแค่ไม่กี่คนภาพในเกมใช้เป็นแบบพิกเซลอาร์ต แถมดนตรีก็ฟังเพลินดีด้วย ซึ่งเข้ากับธีมยุคกลางได้ดี ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาอะไร

ระบบเกมการเล่น 


เริ่มเกมมา ตัวเกมจะขึ้นเตือนเราว่า “เกมนี้เป็นเกมทางเลือกที่แสนลำบากใจ เป็นไปไม่ได้ที่จะสนองความต้องการของทุกคน บางครั้งอาจจะมาดี บางครั้งมีเจตนาชั่วร้าย  และบางครั้งอาจจะไปขวางทางคนอื่น จงบริหารทรัพยากรให้เพียงพอแต่ละสัปดาห์ก็พอแล้ว” เพราะอย่างงั้นทุกๆการตัดสินใจในเกมนี้ ทำให้เราต้องมานั่งคิดดีๆว่าควรทำหรือเปล่า เพราะบางครั้งการตัดสินใจเล็กๆ ก็อาจนำพาเรื่องใหญ่ตามมาในภายหลัง 



พูดถึงระบบการเล่น จะคล้ายกับเกมแนว visual novel ที่เราต้องเลือกตัดสินใจทางเลือกต่างๆ แต่เกมนี้จะมีเรื่องของทรัพยากรพ่วงมาด้วย  โดยเกมจะแบ่งให้เราเล่นเป็นสัปดาห์ๆไป (ให้คิดสะว่า 1 สัปดาห์จะเปิดให้ร้องเรียนแค่ 1 วัน) จะมีประชาชนจำนวนหนึ่งเข้ามาต่อแถวร้องเรียนขอความช่วยเหลือที่ท้องพระโรง (เราสามารถเลือกว่าใครจะขึ้นมาร้องเรียนก่อนก็ได้ ไม่ต้องตามลำดับ) 



ซึ่งแน่นอนการให้ความช่วยเหลือต้องใช้ทรัพยากร (ทรัพยากรมีทอง เสบียง กำลังทหาร หัวหน้าทหาร) ทำให้ต้องมานั่งคิดว่าทรัพยากรจะเพียงพอให้ช่วยเหลือหรือจะเผื่อใช้ในครั้งต่อไป เพราะทรัพยากรมีจำกัด เราไม่สามารถช่วยเหลือได้ทุกคน เราจึงสามารถตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือหรือไม่ก็ได้ ถ้าช่วยเหลือ ค่าความสุข(ของประชาชน)เพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ช่วย  ค่าความสุขจะลดลง 



ถึงเรื่องการช่วยเหลือประชาชนจะสำคัญ แต่การดูแลคนในครอบครัวและขุนนางก็สำคัญไม่แพ้กัน เราต้องค่อยแก้ปัญหาความวุ่นวายในครอบครัวด้วย เพราะถึงจะไม่ได้ทำให้เราได้ทรัพยากร แต่ก็ช่วยให้ครอบครัวรักกันดี ไม่แตกแยก หรือมีโอกาสล่มบังลังก์ ส่วนขุนนางเราสามารถติดต่อได้โดยการส่งนกพิราบไป และขุนนางคนนั้นจะมาในสัปดาห์ต่อไป เราสามารถเป็นพันธมิตรได้ โดยทำตามเงื่อนไขของขุนนางคนนั้นๆก่อน ถ้าเป็นพันธมิตรกันแล้ว พวกเขาจะช่วยเหลือเรื่องทรัพยากรต่างๆ (แต่ถ้าไม่ลงรอยกันก็อาจมาทำร้ายเราที่หลังได้ ) 



ทุกครั้งที่เราตัดสินใจหรือมีความก้าวหน้าของเนื้อเรื่อง จะมีบันทึกให้เราสามารถเข้าไปอ่านย้อนความได้ (อยู่ข้างล่างซ้าย)



หลังจากรับเรื่องร้องเรียนทั้งหมดแล้ว เราสามารถเดินสำรวจพระราชวังของเราเราได้ โดยจะแบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น คุก กำแพงเมือง สวน ฯลฯ ซึ่งจะมีรูปคริสตัลขึ้นอยู่ บงบอกว่าส่วนนั้นมีเนื้อเรื่องอยู่ (สีฟ้าเป็นเนื้อเรื่องหลัก สีเขียวเป็นเนื้อเรื่องเสริม) และเราสามารถส่งหัวหน้าทหารไปสำรวจบริเวณรอบอาณาจักรเพื่อหาทรัพยากรได้ 



เราสามารถจะข้ามไปสัปดาห์ต่อไปได้ แต่ต้องทำส่วนเนื้อเรื่องและหน้าที่หลักให้เสร็จก่อน โดยจะขึ้นเตือนว่าเราต้องไปทำอะไรเป็นคำพูดของกษัตริย์ Eryk (ข้ามเรื่องเสริมได้ แต่ก็ควรไปเก็บให้หมด)



เมื่อจบ 1 สัปดาห์จะมีขึ้นบอกว่าสัปดาห์นี้เรามีรายได้รายจ่ายอะไรบ้าง เราสามารถอัพเกรดเมืองได้จากเมนูด้านซ้าย และตัวเกมจะเซฟเป็นสัปดาห์ๆไป เราสามารถย้อนมาเล่นแต่ละสัปดาห์ได้ (แต่เซฟสัปดาห์หลังจากนั้นจะหายไป) และทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอฉากจบ



มาพูดถึงข้อเสียกัน เนื่องจากเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่ยาวมาก เลยทำให้บางช่วงอาจจะดูน่าเบื่อไปสักหน่อย จนเผลอๆกดข้ามบ้างให้ส่วนที่ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไร และตัวเกมนอกจากเลือกตัดสินใจในเรื่องต่างๆแล้ว ก็ไม่มีอะไรเลย เราจะเจอแต่เกมเพลแบบนี้ตลอดทั้งเกม เรียกได้ว่าไม่ค่อยมีอะไรทำ ทั้งที่มันน่าจะทำไรได้มากกว่านี้

ความรู้สึกหลังเล่น


บอกตามตรง ตอนแรกที่ซื้อเกมนี่มา เพราะคิดว่าคงเป็นเกมเล่นเรื่อยๆ รับฟังปัญหาชาวบ้าน และจัดการทรัพยากรเฉยๆ ไม่คิดว่าจะมีเนื้อเรื่องหนักหน่วงขนาดนี้ จะเรียกได้ว่าเป็นซีรี่ย์ดีๆเรื่องนึงเลยก็ได้ แต่แค่เรากำหนดทิศทางของเรื่องได้ (ช่วงท้ายๆของเกม ตัวเลือกแต่ละทางมันช่างหนักใจสุดๆ บีบบังคับมากกกกก) ทำให้ต้องยอมเล่นเกมนี้จบ 2-3 รอบเพื่อหาฉากจบแบบอื่นๆ ถ้าพูดถึงฉากฉากชอบที่สุด ก็คงเป็นฉากสงคราม (บอกเยอะไม่ได้ เดียวสปอย) ดุเดีอดมาก แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยชอบตรงที่เกมนี้ต้องอ่านเยอะมากกกกกกกกกก (อ่านจนเหนื่อย จนบางครั้งก็กดข้ามๆก็มี)


สรุป


Yes, Your Grace เป็นเกมแนวจำลองเหตุการณ์ + บริหารทรัพยากรที่มีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น น่าติดตาม และจบได้หลายทาง แต่เพราะเป็นเนื้อเรื่องที่ยาวและต้องอ่านเยอะมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบตามเนื้อเรื่องสักเท่าไร แถมเกมเพลที่ซ้ำซากตลอดทั้งเกม เลยทำให้เกมดูไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่ถึงอย่างนั้น Yes, Your Grace ก็ยังเป็นเกมที่น่าซื้อมาลองเสพเนื้อเรื่องอีกเกมนึงอยู่ดี

Link : https://store.steampowered.com/app/1115690/Yes_Your_Grace/

[penci_review id="44737"]


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header