ใกล้จะได้สัมผัสกันแล้วสำหรับ Ghost of Tsushima เกมแนวแอคชั่น Open World จาก Sucker Punch ทีมสร้างที่เคยฝากฝังผลงานซีรีส์ Infamous อันโด่งดัง ที่ได้ทำการโชว์เกมเพลย์ครั้งใหญ่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ในรายการไลฟ์สตรีม State of Play รอบพิเศษ จนทำให้เกมเมอร์ที่ไดรับชมพากันตื่นเต้นกับเกมกันยกใหญ่

นอกจากการโชว์เกมเพลย์ที่กล่าวไปนั้น ผู้พัฒนาของเกมหลายคนยังได้เดินสายให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลายสำนัก เพื่อพูดถึงรายระบบต่างๆ ของเกม ซึ่งล่าสุดทาง Creative Director และ Art Director ของเกมอย่างคุณ Jason Connell ได้ออกมาให้สัมภาษณ์บนเว็บไซต์ IGN โดยเน้นพูดถึงขนาดของเกม ที่เขากล่าวว่าเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ค่าย Sucker Punch เคยสร้างมาเลยทีเดียว

ขนาดและความยาวของเกม

"เกมนี้มันใหญ่กว่า Infamous: Second Son มากๆ มันเป็นเกมที่ใหญ่ที่สุดของ Sucker Punch อย่างที่เกมอื่นเทียบไม่ติดเลย ทั้งในปริมาณของรายละเอียดและกิจกรรมในเกม รวมไปถึงความกว้างของแผนที่เพียวๆ" คุณ Connell กล่าว

คุณ Connell อธิบายต่อไปว่าเมื่อพูดถึงขนาดของเกม คำถามที่มักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้คือระยะเวลาในการเล่นเกมจนจบ โดยเขากล่าวว่ายากที่จะระบุเพราะว่า "การเล่นจบ" อาจจะมีความหมายที่แตกต่างกันไปสำหรับผู้เล่นแต่ละคน บางคนอาจจะเล่นแค่เนื้อเรื่อง หรือบางคนอยากทำทุกอย่างให้ครบทั้งหมด ทางสตูดิโอเองก็รับรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงได้ทำการสร้างโลกที่ใหญ่เพื่อรองรับทั้งสองแบบ ทั้งผู้เล่นที่สนใจติดตามเนื้อเรื่องเป็นหลัก และผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจโลกของเกมจริงๆ

ทั้งนี้ คุณ Connell ได้เคยเปิดเผยต่อสื่ออีกสำนักว่าเกม Ghost of Tsushima จะสามารถเล่นได้ไม่ต่ำกว่า 40-50 ชั่วโมงสำหรับคนที่ต้องการสำรวจโลกของเกม ในขณะที่ผู้ที่สนใจจะเล่นเพียงเนื้อเรื่องของเกม อาจจะใช้เวลาเล่นน้อยกว่านี้พอสมควร

"แน่นอนว่าถ้าคุณอยากติดตามเนื้อเรื่องของเกมอย่างเดียว คุณก็อาจจะใช้เวลาไม่นานมาก แต่ผมอยากแนะนำให้ทุกคนลองออกจากเส้นทางหลักเพื่อสำรวจทิวทัศน์อันสวยงามของเกาะสึชิมะ และความลับมากมายที่เราใส่เข้าไปด้วย"

สมรรถภาพที่แท้จริงของเครื่อง PS4

จากตัวอย่าง Demo ที่เผยออกมา ต้องยอมรับว่า Ghost of Tsushima เป็นเกมที่มีกราฟิกสวยงามไม่แพ้เกมระดับแนวหน้าที่วางจำหน่ายในช่วงไม่กี่ปีมานี้เลย คุณ Connell กล่าวว่าทีมพัฒนา Sucker Punch ได้เค้นเอาศักยภาพทั้งหมดของเครื่อง PS4 ออกมาใช้ในการสร้างเกมนี้

"เกม Infamous: Second Son ถือเป็นเกม Exclusive แรกๆ ของเครื่อง PS4 ที่แสดงศักยภาพของเครื่องออกมาได้อย่างเต็มที่ และ Ghost of Tsushima ก็เป็นเกม Exclusive เกมสุดท้ายของเครื่อง PS4 เช่นกัน ในระหว่างทางพวกเราได้เรียนรู้อะไรมากมาย และได้ปรับปรุงเทคโนโลยีในการสร้างเกมของค่ายให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เรามีทีมผู้พัฒนาที่ชำนาญด้านนี้มากมายหลายคน เราจึงสามารถเค้าเอาพลังทุกหยดของเครื่องออกมาใช้ได้สำหรับเกมนี้"

"คุณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ในเกมได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และมันไม่ได้เป็นแค่สิ่งฉากที่เราใช้ลูกเล่นสร้างขึ้นมาหลอกๆ เท่านั้น แต่คุณจะสามารถเดินทางไปยังสถานที่ที่คุณมองเห็นได้ทั้งหมดจริงๆ ซึ่งในแง่เทคนิคถือว่าน่าทึ่งที่ทีมพัฒนาสามารถทำมันออกมาได้ถึงระดับนี้"

สึชิมะ: สถานที่จริงในจินตนาการ

แม้ว่าคุณ Connell จะยอมรับว่าขนาดของเกาะสึชิมะในเกมจะไม่ได้ใหญ่เท่ากับเกาะจริงแบบ 1 ต่อ 1 แต่ทีมพัฒนาก็ใส่ใจและให้เกียรติสถานที่จริง ด้วยการพยายามคงไว้ซึ่งรูปร่างโดยรวมและ "บรรยากาศ" ของเกาะ มากกว่าจะพยายามสร้างเกาะที่จำลองจากของจริงโดยตรง

"เมื่อพูดถึงภูมิประเทศและภูมิอากาศของเกาะ ด้วยความที่เกมตั้งอยู่ในช่วงเวลาที่ผ่านมานานมากๆ แล้ว ทำให้ไม่มีการบันทึกสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศจริงของเกาะในยุคนั้น" คุณ Connell กล่าว ทำให้ผู้พัฒนาเลือกที่จะคงไว้ซึ่งบรรยากาศคร่าวๆ เช่นเดียวกับที่ค่ายเคยทำตอนสร้างเมือง Seattle ของเกม Infamous: Second Son



ในส่วนของภูมิประเทศและภูมิอากาศที่ผู้เล่นสามารถพบได้ในเกมนั้น คุณ Connell ไม่ได้เปิดเผยชัดๆ ว่ามีที่แตกต่างกันอยู่กี่แห่ง/ชนิด แต่ก็ได้ยกตัวอย่างภูมิประเทศบางชนิดที่ผู้เล่นสามารถพบได้ในเกม เช่นทุ่งหญ้าโล่งกว้าง (ที่เห็นได้ในเดโมงาน State of Play), ป่าไผ่, และบึง เป็นต้น

"เราพยายามอย่างมากที่จะให้พื้นที่ต่างๆ บนเกาะมีเอกลักษณ์ด้านการออกแบบของตัวเอง เพื่อให้ผู้เล่นสามารถจดจำสถานที่มากมายในเกมได้อย่างแม่นยำ เพราะเกาะสึชิมะของเรามีขนาดใหญ่ และจะไม่มีการปักหมุดหรือแสดงลูกศรนำทางไปยังภารกิจด้วย เราจึงอยากให้ผู้เล่นสามารถมองหาสถานที่ที่เขาต้องการจะไปได้จากทุกแห่งบนเกาะ และใช้สายตาในการนำทางเท่านั้น"

---

Ghost of Tsushima หรือชื่อภาษาไทยอย่างเป็นทางการ "นักรบปีศาจแห่งสึชิมะ" จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กรกฏาคมนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ