เผลอแป๊บเดียวแฟน ๆ เกมตระกูล Dynasty Warriors หรือที่ชาวไทยคุ้นเคยกันในชื่อ “เกมสามก๊ก” หรือ “เกมมุโซ” ก็จะได้รับชมซีรี่ย์ทาง Netfilx ที่สร้างโดยใช้ชื่อเดียวกัน แถมยังมีเกม Samuria Warriors ภาคใหม่จ่อลงเครื่องเกม Gen ปัจจุบันอีก นับว่าเป็นปีที่ดีของแฟนเกมซีรี่ย์นี้จริง ๆ

สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับ Dynasty Warriors เกมนี้คือเกมแนว Hack ‘n’ Slash ฟันดะ ที่ตัวละครของเราสามารถเข้าปะทะกับศัตรูนับพันได้สบาย ๆ ตัวละครและเนื้อเรื่องของเกมนั้นอ้างอิงจากวรรณกรรมสามก๊ก ก่อนจะมีซีรี่ย์รุ่นน้องออกมาเป็น Samurai Warriors ที่ตัวละครและเนื้อเรื่องถูกอ้างอิงมาจากยุคสมัยสงครามเซ็นโกคุของญี่ปุ่นแทน 

แม้จะโด่งดังจากการเป็นเกมฟันแหลก แต่จริง ๆ ซีรี่ย์นี้กลับมีต้นกำเนิดจากการเป็นเกมต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 และนอกจากธีมสงครามแล้ว ตัวเกมก็ถูกนำไปผสมกับเกมและการ์ตูนอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ฤทธิ์หมัดดาวเหนือและ Berserk ทำให้ซีรี่ย์นี้มีพัฒนาการทางเกมเพลย์และการครอสโอเวอร์กับเกมอื่นอีกมากมาย จนมีเกมที่ออกมาแล้วคนต้องอุทานกันว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ?

1. Dynasty Warriors Strikeforce

เปิดตัวด้วย Spin-off ของซีรี่ย์หลักที่ลงให้กับเครื่อง PSP Strikeforce เป็นภาคที่มีพื้นฐานมาจากภาค 6 ตัวเกมถูกปรับให้เป็น RPG มากกว่าเดิม ตัวละครเราสามารถปรับแต่งอาวุธและ Gem ที่สวมใส่ได้ ซึ่ง Gem ก็มีความสามารถหลากหลาย เช่น กระโดดเพิ่มได้อีก 1 ครั้ง พุ่งได้อีก 1 ครั้ง ป้องกันพิษ ไม่กระเด็นเมื่อถูกโจมตี ฯลฯ แต่ระบบที่เป็นจุดเด่นคือระบบแปลงร่าง ที่ตัวละครของเราและของศัตรูจะเปลี่ยนรูปลักษณ์เหมือนซุปเปอร์ไซย่า พลังโจมตี พลังป้องกัน และความเร็วจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตัวละครบางตัวสารถบินเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ได้ แม้จะมีข้อเสียที่ศัตรูในฉากมีจำนวนน้อยเพราะข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ แต่ความสนุกที่ได้ปรับแต่งตัวละคร ได้สู้กับลิโป้ในร่างแมลงสาบไซย่า ก็ทำให้เกมนี้ติดอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน

2. Dynasty Warriors: Godseekers

อีกหนึ่ง Spin-off ของซีรี่ย์หลัก Godseekers เป็นเกมแนววางแผนที่เราจะได้ควบคุมตัวละครในสนามสูงสุด 5 ตัวเพื่อทำภารกิจ ยูนิตต่าง ๆ ถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ สายโจมตี สายป้องกัน สายเทคนิค สายความเร็ว และสายจิตวิญญาณ แม้จะคอนเซ็ปจะฟังดูน่าสนใจ แต่ด้วยความที่เกมเพลย์แตกต่างจากซีรี่ย์หลักมากเกินไป (ตัวเกมหลักมีแนววางแผนเหมือนกัน แต่ก็ผสมแนวต่อสู้ด้วย) แถมยังลงให้กับเครื่อง PS Vita ในตอนที่มันกลายเป็นเครื่องเกมที่ตายแล้ว ก็ทำให้ Godseekers ไม่เคยเป็นที่รู้จักของนักเล่นเกมบางคนด้วยซ้ำ

3. Warriors Orochi

จะไปครอสโอเวอร์กับคนอื่นทำไมในเมื่อครอสโอเวอร์กับตัวเองได้ Warriors Orochi เป็นเกมรวมเนื้อหาและตัวละครของ Dynasty Warriors และ Samurai Warriors เข้าด้วยกัน และสร้างฝ่ายใหม่คือราชาอสรพิษ โอโรจิ แม้ระบบการเล่นจะไม่ต่างจากเดิมมาก เป็นการนำระบบที่เด่น ๆ ของแต่ละเกมมาผสมกัน แต่นี่เป็นซีรี่ย์ที่มีตัวละครให้เล่นมากที่สุดถึง 79 ตัวละคร โดยปัจจุบันตัวเกมเดินทางมาถึงภาคที่ 4 แล้ว ตัวละครรับเชิญแปลก ๆ ก็มีมากมายตาม เช่น เหล่าเทพเจ้ากรีกอย่างซุส ไกอา ฮาเดส หรือแม้กระทั่งริว ฮายาบุสะจากเกม Ninja Gaiden ทำให้ตัวละครรวมของเกมซีรี่ย์นี้มีมากถึง 179 ตัว หากใครอยากเล่นอะไรที่มีตัวละครให้เลือกเยอะ ๆ เกมนี้ก็มีให้คุณเล่นจนตาบวมกันไปข้าง

4. Fire Emblem Warriors

เกมสุดเซอไพร์สที่ไม่มีใครนึกว่าจะทำออกมา Fire Emblem Warriors สร้างโดยอิงจากซีรีย์เกมวางแผน Fire Emblem ภาค Shadow Dragon. Awakening และ Fate ตัวเกมได้รับคำวิจารณ์ไปทางกลาง ๆ เพราะไม่สามารถดึงศักยภาพของตัว Fire Emblem ออกมาได้มากพอ ระบบวางแผนการรบที่แค่สั่งให้ตัวละครเดินไปมา (แต่ผมว่ามันก็โอเคแล้วนะ) ระบบแพ้ทางชนะทางของอาวุธที่บางครั้งก็เห็นผลน้อยเกินไป บางครั้งก็ได้ผลมากไปจนโกง เนื้อเรื่องที่ขาดความลุ่มลึกจนกลายเป็นเพียงการ์ตูนเช้าวันเสาร์อาทิตย์ แต่จุดที่น่าตำหนิที่สุดคือท่าโจมตีของตัวละครที่ซ้ำกันมากกว่า 10 ตัว (ตัวละครทุกตัวที่ใช้ธนูออกท่าโจมตีเดียวกัน ต่างกันแค่พวกท่าไม้ตาย) ทำให้การเล่นเต็มไปด้วยความจืดชืดของท่าโจมตี แต่หากมองผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้ เกมนี้ก็ถือเป็นเกมที่มีคอนเทนต์เน้นมาก เล่นได้กว่า 200 ชั่วโมงเลยทีเดียว

5. Hyrule Warriors และ Hyrule Warriors Age of Calamity

หากการได้ประกาศสร้าง  Fire Emblem Warriors น่าตกใจแล้ว การสร้างเกมแนวมุโซจากเกมผจญภัยอย่าง Legend of Zelda ก็แทบจะช็อกโลกวิดีโอเกมเลยด้วยซ้ำ Hyrule Warriors ลงให้กับเครื่อง 3DS เนื้อเรื่องเป็นการจับนั่นผสมนี่ของ Legend of Zelda หลาย ๆ ภาคมารวมกัน เป็นเกมกลาง ๆ ที่พอจะเอ็นจอยไปกับมันได้

ทว่า Hyrule Warriors Age of Calamity นี่แหละคือการปฏิวัติเกมแนวมุโซอย่างแท้จริง ด้วยเนื้อเรื่องที่ต่อยอดจาก Legend of Zelda Breath of the Wild ได้อย่างน่าสนใจและเปิดประตูบานใหม่ ๆ ให้กับซีรี่ย์ ระบบการเล่นเองก็ถูกสร้างขึ้นอย่างใส่ใจ ตัวละครทุกตัวมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง(แต่หลัก ๆ ก็คือฟันแหลก) ภารกิจรองที่ถูกแฝงมาอย่างหลากหลาย ถือเป็นการต่อยอดจาก Hyrule Warriors เดิม และ Fire Emblem Warriors ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และหากใครสนใจที่จะเล่น Hyrule Warriors Age of Calamity ก็มีแผนการทยอยปล่อย DLC ยาวถึงสิ้นปี ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเกมมุโซหรือแฟนเซลด้าก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

6. Persona 5 Strikers

เราต่างรู้กันดีว่าเกมตระกูล Shin Megami Tensei หรือให้เจาะจงไปอีกว่าเกมตระกูล Persona ชอบทำเกมแนวแปลก ๆ มาหลายเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมต่อสู้อย่าง Persona 4:Arena หรือเกมแดนซ์กระจายอย่าง Persona 5: Dancing in Starlight แต่ใครจะไปนึกว่าสักวันมันจะออกมาเป็นเกมอย่าง Persona 5 Strike (หรือ Persona 5 scramble ในประเทศญี่ปุ่น)

เกมภาคนี้ถือเป็นภาคต่อที่แท้จริงของ Persona 5 (ฉะนั้นตัดภาค Royal ออกจาก Canon ได้เลย) ตัวเกมเปลี่ยนระบบการต่อสู้เป็นด่าน ๆ ที่นิยมใช้กันในเกมมุโซเป็นระบบ Encounter แทน กล่าวคือ แทนที่เจอศัตรูในแผนที่แล้วจะตัดเข้าฉากสู้แบบ Turn-Base ก็กลายเป็นการต่อสู้แบบมุโซแทน ซึ่งตัวเกมก็ดึงเอาระบบหลัก ๆ ของ Persona 5 มาได้ครบถ้วน ทั้งระบบธาตุ ระบบผสมปีศาจ และการ All-out Attack ทั้งยังไม่ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของงานศิลป์และดนตรี เนื้อเรื่องก็ยังคงนุ่มลึกและอบอุ่น ทั้งยังแฝงไปด้วยแนวคิดทางสังคมและการลุกขึ้นต่อต้านความอยุติธรรม แม้รูปแบบจะต่างจากเกมมุโซเดิมที่เราเล่นไปมาก แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงหนทางใหม่ ๆ ในการเปลี่ยนเกมนั้น ๆ เป็นแนวมุโซโดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมไป ตัวผู้เขียนเองหวังว่าจะได้เล่น Final Fantasy แบบมุโซในสักวัน