GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
8 เกม Open-World ที่ไม่ต้องมีการต่อสู้ก็สามารถสนุกได้!
ลงวันที่ 01/08/2021

ในปัจจุบันนี้เกมแนว Open-World โลกเปิดที่ให้ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่ต่างๆ ภายในเกมได้อย่างอิสระกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นเหมือนโลกอีกใบที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปผจญภัยและสนุกไปกับมัน แต่ว่าถ้าเราสังเกตดีๆ จะพบกว่าเกมแนว Open-World นั้น ส่วนใหญ่ล้วนจะมีความเป็น Action ต่อสู้บู๊กันสนั่นจอ แล้วหากมีผู้เล่นบางกลุ่ม หรือตัวคุณเองอย่างเล่นเกมแนว Open-World โลกเปิด แต่อยากสำรวจผจญภัยเฉยๆ ไม่อยากต่อสู้ล่ะ? เกมแบบนั้นมันจะมีหรือไม่? คำตอบคือมี ซึ่งในนั้นนี้พวกเรา GameFever TH ได้รวบรวม 8 เกม Open-World โลกเปิดที่ไม่มีการต่อสู้ก็สนุกได้! มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย!

1.Assassin's Creed Origins ( โหมดเดินทางสำรวจ หรือ Discovery Tour Mode )


  • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Microsoft Windows, PlayStation 4, Xbox One, Stadia
  • วันวางจำหน่าย | 27 ตุลาคม 2017

  • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก |
    ขั้นต่ำ 30 ชั่วโมง
  • สิ่งที่น่าสนใจ | โหมด Discovery Tour โหมดที่จะพาผู้เล่นไปสนุกกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อียิปต์ในเชิงศึกษา
    และมีการยืนยันทั้งจากนักวิจารณ์-นักวิชาการว่า เนื้อหาที่เกมนำเสนอนั้น มีความแม่นยำใกล้เคียงกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก

  • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/582160/Assassins_Creed_Origins/ 

    สำหรับเกม Assassin's Creed นี้ตัวแฟรนไชส์ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2007 แล้ว ทำให้หลายๆ คนน่าจะติดตากับการที่เกมนำเสนอความเป็น Open-World พร้อมกับใส่อารมณ์เกมแนวลอบเร้นกึ่งแอ็คชั่นเข้าไปในตัวเกม ซึ่งตัวเกมยังคงเป็นแบบนี้เรื่อยมา จนกระทั่งการมาถึงของ Assassin's Creed Origins ตัวเกมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ทีมงาน Ubisoft ได้ลองเปลี่ยนทิศทางเกมไปสู่เกมแนว Action-RPG แทน ( หลังจากเรียนรู้ข้อผิดพลาดในภาค Unity ทีมงานก็นำข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาจนดีขึ้น ) ซึ่งแน่นอนว่าเรายังได้เห็นองค์ประกอบต่างๆ นั่นคือการต่อสู่ ภารกิจมากมาย ไปจนถึงศัตรู

    แต่...Assassin's Creed Origins มีอะไรมากกว่านั้น เพราะทีมงานได้นำเสนอโหมด Discovery Tour Mode ซึ่งจะเป็นโหมดที่ให้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ในเกม เพื่อทำการสำรวจวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ต่างๆ ของอียิปต์ในมุมมองที่เกี่ยวกับการศึกษา เพราะในโหมดนี้ระบบต่างๆ จะถูกตัดออกไปนั่นคือ การต่อสู้ ภารกิจ และศัตรู นั่นหมายความว่าหากเราเลือกเล่นโหมดนี้ จะไม่มีการต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สิ่งที่มาแทนที่ก็คือ ไกด์ที่จะคอยแนะนำข้อมูลด้านประวัติศาสตร์หรือสถานที่ต่างๆ ผ่านเสียงในแต่ละที่อย่างละเอียดเลย!


    2.Minecraft ( โหมดสร้างสรรค์ หรือโหมด Creative )


    • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Windows, macOS, Linux, Android, iOS, Xbox 360, Raspberry Pi, Windows Phone, PlayStation 3, Fire OS, PlayStation 4, Xbox One, PlayStation Vita, Universal Windows Platform, Wii U, tvOS, Nintendo Switch, New Nintendo 3DS
    • วันวางจำหน่าย | 18 พฤศจิกายน 2011
    • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ไม่มีระยะเวลากำหนด

    • สิ่งที่น่าสนใจ | โหมด Creative หรือโหมดสร้างสรรค์ที่จะปลดล็อคอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งบล็อก สิ่งมีชีวิต ไปจนถึงอื่นๆ อีกมากมายแทบทุกอย่างในเกม ให้ผู้เล่นสามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัด เพื่อไปโฟกัสที่ความสร้างสรรค์ของผู้เล่นให้สร้างสิ่งต่างๆ โดยอิงจากไอเดียของผู้เล่นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

    • ลิงค์เกม | https://www.minecraft.net/en-us 

        ถึงแม้ว่าเกม Minecraft จะถูกวางจำหน่ายมานานกว่า 10 ปีแล้ว ( ตั้งแต่ปี 2011 ) แต่เราจะเห็นได้ว่าตัวเกมก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเกม Minecraft ขอแนะนำตัวเกมคร่าวๆ ว่าเกมนี้จะเป็นแนว Open-World โลกสี่เหลี่ยมที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกโหมดการเล่นได้ว่าเราจะเล่นโหมดเอาชีวิตรอดที่มีค่าชีวิต ค่าความหิว และต้องฟาร์มสิ่งต่างๆ เพื่อนำมาคราฟของต่างๆ

        ส่วนอีกโหมดนั่นคือ โหมดสร้างสรรค์หรือโหมด Creative ที่จะให้ผู้เล่นมีอิสระในการสร้างสิงต่างๆ บนโลก Open-World โดยไม่ต้องกังวลกับค่าพลังชีวิต หรือค่าความหิวใดๆ เลย ดังนั้นใครที่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถออกแบบหรือสร้างสิ่งต่างๆ โดยใช้ไอเดียของตนออกมาได้มากมาย ซึ่งหากทำเสร็จแล้ว ตัวเจ้าของผลงานหรือตัวผู้เล่นเองก็ยังสามารถนำ Map แผนที่นั้นๆ มาเผยแพร่ให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ผ่านการส่งไฟล์ให้เพื่อน หรือทำเป็น Mod เอาไปโพสต์ลงกระทู้สังคมเกม Minecraft ให้คนอื่นๆ นำไปใช้และต่อยอดได้อีกด้วย!


      3.Yonder: The Cloud Catcher Chronicles


      • แพลตฟอร์มที่รองรับ | PlayStation 4, PlayStation 5, Windows, Nintendo Switch, Xbox One
      • วันวางจำหน่าย | 18 กรกฎาคม 2017
      • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 10 ชั่วโมง

          เกม Yonder: The Cloud Catcher Chronicles ตัวเกมอาจจะดูเหมือนเกมอินดี้ๆ แนวใช้ชีวิต สร้างบ้านทำฟาร์ม แต่จริงๆ แล้วทีมพัฒนาอย่าง Prideful Sloth พวกเขาต้องการนำเสนอความเป็นเกมแนว Open-World ที่จะให้ผู้เล่นเน้นออกสำรวจไปยังส่วนต่างๆ รอบๆ เกาะ โดยเซ็ตเนื้อเรื่องง่ายๆ ไว้ถึงตัวเอกที่เจอเหตุการณ์เรือล่ม แล้วต้องมาติดอยู่บนเกาะเวทย์มนตร์ที่เรียกว่า Gemea ซึ่งเกาะแห่งนี้ถูกปกคลุมได้ด้วยหมอกลึกลับที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ บนเกาะ ทำให้ชาวบ้านต่างพอกันเรียกหมอกนั่นว่า Murk 

          ดังนั้นผู้เล่นจะได้รับหน้าที่ให้ออกเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเกาะซึ่งถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันไปมากถึง 8 แบบ เช่น ชายหาดโซนร้อน โซนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ เป็นต้น โดยเราจะต้องเดินทางไปทำเควสหลักด้วยการไปยังโซนต่างๆ เพื่อรวบรวมของศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อว่า Sprite เพื่อนำกลับมาทำลายหมอกปริศนาดังกล่าว แน่นอนว่าในระหว่างทางผู้เล่นจะได้พบเจอกับสัตว์ ธรรมชาติ และความน่าสนใจต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินสนุกสนานโดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว! นอกจากนี้ยังมีเควสเสริมที่มากมาย เช่น การทำฟาร์ม ช่วยเหลือชาวบ้าน เป็นต้น บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกม Open-World ที่คุณไม่ควรพลาด! 


      4.Shape Of The World


      • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Nintendo Switch, PlayStation 4, Microsoft Windows, ระบบปฏิบัติการ Macintosh, Xbox One
      • วันวางจำหน่าย | 5 มิถุนายน 2018
      • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 1 ชั่วโมง

      • สิ่งที่น่าสนใจ | เสนอวิธีที่ยอดเยี่ยมในการผ่อนคลายด้วยการออกแบบงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม

      • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/642610/Shape_of_the_World/ 

          ถอดสมองออก อย่าไปสนเนื้อเรื่อง เพราะนี่คือเกม Shape of the World เกมแนวเดินสำรวจไปตามที่ต่างๆ บนเกาะผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และงานศิลปะกราฟฟิกในเกมก็เป็นเอกลักษณ์มากๆ นอกจากนี้เพลงประกอบระหว่างการเล่นเกมก็พร้อมจะพาให้ผู้เล่นรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเล่นเลย 

          และในส่วนของเกมเพลย์นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ตัวเกมเพียงให้ผู้เล่นเดินสำรวจไปเรื่อยๆ และในระหว่างทางก็จะมีพวกต้นไม้ พุ่มหญ้างอกเงยออกมาเรื่อยๆ รวมถึงเราจะได้เห็นสัตว์แปลกมากมายๆ ที่พร้อมจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นด้วยโดยบางตัวอาจจะวิ่งหนี หรือบางตัวก็จะวิ่งชนผู้เล่นอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่กำลังเคลียดอยู่อยากเล่นเกมเบาสมอง เน้นชิลๆ ก็ขอแนะนำเกมนี้เลยรับรองว่าทั้งสนุก และคลายเคลียดได้แน่นอน


      5.Forza Horizon 4


      • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Microsoft Windows, Xbox One, Xbox Series X/S
      • วันวางจำหน่าย | 2 ตุลาคม 2018
      • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 12.5 ชั่วโมง

          พูดถึงเกม Open-World ที่เล่าผ่านมุมมองตัวบุคคลกันมาพักหนึ่งแล้ว เรามาคั่นด้วยเกมแนวโลกเปิดที่ให้สำรวจเกาะอังกฤษทางตอนเหนือผ่านมุมมอง ผ่านธีมการขับรถกันดีกว่า นโดยเกมที่ว่านั่นก็คือ Forza Horizon 4 ....หลายๆ คนที่เคยเห็นปกเกม หรือมองผ่านๆ อาจจะคิดว่าเกมนี้มันคือเกมขับรถธรรมดาๆ ทั่วไป แต่อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้น เพราะทีมพัฒนาเกมนี้อย่าง Playground Games พวกเขาใส่ใจในการพัฒนาเกมนี้มากๆ   

          สำหรับ Forza Horizon 4 นี้บอกเลยว่าเพียงผู้เล่นขับรถสำรวจสถานที่ต่างๆ ในเกมได้โดยยังไม่ทำภารกิจหลัก หรือแข่งรถก่อน เท่านี้ก็สามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับตัวเกมแล้ว เพราะทีมพัฒนาใส่ใจในทุกรายละเอียดทั้งศิลปะทั้งวัฒนธรรมของสถานที่ต่างๆ บนโซนทางเหนือของเกาะอังกฤษ-สก็อตแลนด์ ทุกรายละเอียดนั้นใกล้เคียงกับของจริงมากจนราวกับว่าถอดแบบมาเลย นอกจากนี้พวกรถที่ขับโดย AI ก็เป็นรถที่นิยมใช้บนเกาะอังกฤษอีกด้วย รวมถึงยังมีเรื่องการใส่สำเนียงอังกฤษและอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้บรรดาผู้เล่นหลงใหลไม่มีเบื่อกับการขับรถเที่ยวสำรวจไปยังที่ต่างๆ ในเกม แม้ตัวเกมจะไม่มีฉากต่อสู้บู๊ล้างผลาญก็ตาม!


      6.The Sims 3


      • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Microsoft Windows, OS X, Android, BlackBerry OS, Windows Phone, iOS, PlayStation 3, Xbox 360, Nintendo DS, N-Gage 2.0, Wii, Nintendo 3DS
      • วันวางจำหน่าย | 2 มิถุนายน 2009
      • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 15.5 ชั่วโมง

      • สิ่งที่น่าสนใจ | ความสมจริงด้านการใช้ชีวิต การเดินทางไปที่ต่างๆ และการสนทนากับ NPC

      • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/47890/The_Sims_3/?l=thai 

          หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า The Sims 3 มันเป็นเกมเก่าแล้ว ทั้งยังเป็นเกมแนวจำลองการใช้ชีวิต และเน้นการตกแต่งบ้านไม่ใช่หรือ คำตอบคือใช่ แต่สำหรับภาค 3 เป็นต้นไปนี้ ทาง EA ได้เปลี่ยนทิศทางของเกมครั้งใหญ่ด้วยการทำให้ตัวเกมมีความ Open-Wolrd มากขึ้นด้วย โดยเราจะเห็นว่าในภาคนี้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน สนามเด็กเล่น เป็นต้น อีกทั้งเรายังสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเมืองเพื่อทำความรู้จักกับ NPC คนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีทั้งลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันทำให้ตัวเกมน่าสนใจเข้าไปอีกเท่าตัวอีกด้วย! 

        

        7.A Short Hike


        • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Nintendo Switch, Microsoft Windows, Linux, macOS, ระบบปฏิบัติการ Macintosh
        • วันวางจำหน่าย | เมษายน 2019 มิถุนายน
        • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 1.5 ชั่วโมง

        • สิ่งที่น่าสนใจ | ความสนุกไปกับเนื้อเรื่องหลักและเนื้อเรื่องเสริมต่างๆ แบบพอดีพอเหมาะ โลกที่สามารถสำรวจได้อย่างอิสระผ่านศิลปะมี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกม

        • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/1055540/A_Short_Hike/?l=thai 

            นี่คือเกมอินดี้ Open-World ที่ได้รางวัลเกม Seumas McNally Grand Prize ในปี 2020 ( เป็นเหมือนรางวัลที่สูงสุดสำหรับเกมอินดี้ ) ที่ผ่านมาเพราะกวาดคำชมมากมายทั้งจากนักวิจารณ์และผู้เล่น โดยขอบอกเลยว่าเกมนี้ทำโดยนักพัฒนาชาวแคนนาดาอย่าง Adam Robinson-Yu ซึ่งทั้งหมดของการพัฒนาเกมนี้ทั้งหมดแทบจะทำโดยเขาเพียงคนเดียว! 

            หลายๆ คนอาจจะเห็นว่าระยะเวลาการจบเกมทำไมมันสั้นมากเพียงชั่วโมงกว่าๆ ก็เล่นจบแล้ว ต้องบอกก่อนว่านั่นคือความต้องการของผู้พัฒนา เพราะเขาต้องการทำเกมที่คลายเคลียด มุ่งเน้นให้คนที่มาเล่นได้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายหลังเล่นเกมจบ ซึ่งตัวเกมจะมีภารกิจหรือเนื้อเรื่องหลักนั่นคือผู้เล่นจะต้องออกไปตามหาขนนกสีทองวิเศษทั้ง 7 ที่มีไว้เพื่อใช้ในการตีนผาไต่เขาไปสู่จุดสูงสุดของเกม ซึ่งรูปแบบการเล่นนั้นก็ไม่ยากอะไรเลย เราเพียงสำรวจไปตามพื้นที่ต่างๆ เสพบรรยากาศรอบๆ ตัว รวมถึงยังมีสัตว์มากมายในเกมอีกด้วย และนอกจากนี้ยังมีมินิเกมมากมายให้ทำได้อย่างไม่มีเบื่อเลย อย่างเช่น การตกหา หาของที่หายไป และกีฬาภายในเกม ดังนั้นบอกเลยว่าใครที่กำลังหาเกมคลายเคลียดอยู่เกม A Short Hike ช่วยได้แน่นอน!


        8.Eastshade


        • แพลตฟอร์มที่รองรับ | PlayStation 4, Microsoft Windows, Linux, Macintosh operating systems, Xbox One
        • วันวางจำหน่าย | 13 กุมภาพันธ์ 2019
        • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 9.5 ชั่วโมง

        • สิ่งที่น่าสนใจ | โลก Open-World ที่สวยงาม และให้ผู้เล่นรับบทเป็นจิตรกรผู้ต้องออกสำรวจไปยังสถานที่ต่างๆ บนเกาะเพื่อวาดภาพออกมา!

        • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/715560/Eastshade/ 

            ปิดท้ายด้วยเกม Open-World อีกหนึ่งเกมที่ต้องบอกเลยว่าภาพในเกมสวยมากๆ รวมถึงความสมจริงของงานภาพ และเสียงที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกอิน และผ่อนคลายไปในตัว เช่น หากไปยืนบริเวณริมหาด จะมีเสียงคลื่นซัดฝั่งซึ่งเป็นเสียงที่สมจริง รวมถึงผ่อนคลายไปด้วย และเราจะมาเล่าถึงเนื้อเรื่องย่อกับระบบการเล่นเล็กๆ น้อยๆ กันดังนี้

            สำหรับเกม Eastshade นี้ถูกสร้างโดยทีมพัฒนาที่มีชื่อเดียวกันกับตัวเกมเลย เนื้อเรื่องนั้นเล่าจะถึงจิตกรคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผู้เล่นที่ได้ออกเดินทางมาสำรวจยังเกาะ Eastshade เกาะที่เต็มไปด้วยมนุษย์ครึ่งสัตว์มากมาย โดย NPC เหล่านี้ผู้เล่นสามารถเข้าไปโต้ตอบพูดคุยได้ โดยการเลือกตอบบทสนทนาจะมีผลต่อการเล่นในอนาคตอีกด้วย รวมถึงยังมีการให้ผู้เล่นออกสำรวจเพื่อค้นหาวัตถุดิบ ไอเทม และความลับต่างๆ บนเกาะ และอีกเรื่องที่ทำให้เกมนี้ให้อารมณ์จิตรกรศิลปินจริงๆ ก็คือ หากผู้เล่นเดินทางไปตามส่วนต่างๆ ของเกาะแล้วเจอมุมหรือวิวสวยๆ เราสามารถทำการนำฉากตรงนั้นมาใส่บนกระดาษให้อารมณ์เหมือนศิลปินผู้สุนทรีย์ไปกับความงามตรงหน้ากันเลยทีเดียว!


        Credit : GAMERANT


        GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
        8 เกม Open-World ที่ไม่ต้องมีการต่อสู้ก็สามารถสนุกได้!
        01/08/2021

        ในปัจจุบันนี้เกมแนว Open-World โลกเปิดที่ให้ผู้เล่นสามารถสำรวจพื้นที่ต่างๆ ภายในเกมได้อย่างอิสระกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นเหมือนโลกอีกใบที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปผจญภัยและสนุกไปกับมัน แต่ว่าถ้าเราสังเกตดีๆ จะพบกว่าเกมแนว Open-World นั้น ส่วนใหญ่ล้วนจะมีความเป็น Action ต่อสู้บู๊กันสนั่นจอ แล้วหากมีผู้เล่นบางกลุ่ม หรือตัวคุณเองอย่างเล่นเกมแนว Open-World โลกเปิด แต่อยากสำรวจผจญภัยเฉยๆ ไม่อยากต่อสู้ล่ะ? เกมแบบนั้นมันจะมีหรือไม่? คำตอบคือมี ซึ่งในนั้นนี้พวกเรา GameFever TH ได้รวบรวม 8 เกม Open-World โลกเปิดที่ไม่มีการต่อสู้ก็สนุกได้! มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันถ้าพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย!

        1.Assassin's Creed Origins ( โหมดเดินทางสำรวจ หรือ Discovery Tour Mode )


        • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Microsoft Windows, PlayStation 4, Xbox One, Stadia
        • วันวางจำหน่าย | 27 ตุลาคม 2017

        • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก |
          ขั้นต่ำ 30 ชั่วโมง
        • สิ่งที่น่าสนใจ | โหมด Discovery Tour โหมดที่จะพาผู้เล่นไปสนุกกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์อียิปต์ในเชิงศึกษา
          และมีการยืนยันทั้งจากนักวิจารณ์-นักวิชาการว่า เนื้อหาที่เกมนำเสนอนั้น มีความแม่นยำใกล้เคียงกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก

        • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/582160/Assassins_Creed_Origins/ 

            สำหรับเกม Assassin's Creed นี้ตัวแฟรนไชส์ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2007 แล้ว ทำให้หลายๆ คนน่าจะติดตากับการที่เกมนำเสนอความเป็น Open-World พร้อมกับใส่อารมณ์เกมแนวลอบเร้นกึ่งแอ็คชั่นเข้าไปในตัวเกม ซึ่งตัวเกมยังคงเป็นแบบนี้เรื่อยมา จนกระทั่งการมาถึงของ Assassin's Creed Origins ตัวเกมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ทีมงาน Ubisoft ได้ลองเปลี่ยนทิศทางเกมไปสู่เกมแนว Action-RPG แทน ( หลังจากเรียนรู้ข้อผิดพลาดในภาค Unity ทีมงานก็นำข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาจนดีขึ้น ) ซึ่งแน่นอนว่าเรายังได้เห็นองค์ประกอบต่างๆ นั่นคือการต่อสู่ ภารกิจมากมาย ไปจนถึงศัตรู

            แต่...Assassin's Creed Origins มีอะไรมากกว่านั้น เพราะทีมงานได้นำเสนอโหมด Discovery Tour Mode ซึ่งจะเป็นโหมดที่ให้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ในเกม เพื่อทำการสำรวจวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ต่างๆ ของอียิปต์ในมุมมองที่เกี่ยวกับการศึกษา เพราะในโหมดนี้ระบบต่างๆ จะถูกตัดออกไปนั่นคือ การต่อสู้ ภารกิจ และศัตรู นั่นหมายความว่าหากเราเลือกเล่นโหมดนี้ จะไม่มีการต่อสู้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สิ่งที่มาแทนที่ก็คือ ไกด์ที่จะคอยแนะนำข้อมูลด้านประวัติศาสตร์หรือสถานที่ต่างๆ ผ่านเสียงในแต่ละที่อย่างละเอียดเลย!


          2.Minecraft ( โหมดสร้างสรรค์ หรือโหมด Creative )


          • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Windows, macOS, Linux, Android, iOS, Xbox 360, Raspberry Pi, Windows Phone, PlayStation 3, Fire OS, PlayStation 4, Xbox One, PlayStation Vita, Universal Windows Platform, Wii U, tvOS, Nintendo Switch, New Nintendo 3DS
          • วันวางจำหน่าย | 18 พฤศจิกายน 2011
          • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ไม่มีระยะเวลากำหนด

          • สิ่งที่น่าสนใจ | โหมด Creative หรือโหมดสร้างสรรค์ที่จะปลดล็อคอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งบล็อก สิ่งมีชีวิต ไปจนถึงอื่นๆ อีกมากมายแทบทุกอย่างในเกม ให้ผู้เล่นสามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัด เพื่อไปโฟกัสที่ความสร้างสรรค์ของผู้เล่นให้สร้างสิ่งต่างๆ โดยอิงจากไอเดียของผู้เล่นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

          • ลิงค์เกม | https://www.minecraft.net/en-us 

              ถึงแม้ว่าเกม Minecraft จะถูกวางจำหน่ายมานานกว่า 10 ปีแล้ว ( ตั้งแต่ปี 2011 ) แต่เราจะเห็นได้ว่าตัวเกมก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเกม Minecraft ขอแนะนำตัวเกมคร่าวๆ ว่าเกมนี้จะเป็นแนว Open-World โลกสี่เหลี่ยมที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกโหมดการเล่นได้ว่าเราจะเล่นโหมดเอาชีวิตรอดที่มีค่าชีวิต ค่าความหิว และต้องฟาร์มสิ่งต่างๆ เพื่อนำมาคราฟของต่างๆ

              ส่วนอีกโหมดนั่นคือ โหมดสร้างสรรค์หรือโหมด Creative ที่จะให้ผู้เล่นมีอิสระในการสร้างสิงต่างๆ บนโลก Open-World โดยไม่ต้องกังวลกับค่าพลังชีวิต หรือค่าความหิวใดๆ เลย ดังนั้นใครที่มีความคิดสร้างสรรค์ ก็สามารถออกแบบหรือสร้างสิ่งต่างๆ โดยใช้ไอเดียของตนออกมาได้มากมาย ซึ่งหากทำเสร็จแล้ว ตัวเจ้าของผลงานหรือตัวผู้เล่นเองก็ยังสามารถนำ Map แผนที่นั้นๆ มาเผยแพร่ให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ผ่านการส่งไฟล์ให้เพื่อน หรือทำเป็น Mod เอาไปโพสต์ลงกระทู้สังคมเกม Minecraft ให้คนอื่นๆ นำไปใช้และต่อยอดได้อีกด้วย!


            3.Yonder: The Cloud Catcher Chronicles


            • แพลตฟอร์มที่รองรับ | PlayStation 4, PlayStation 5, Windows, Nintendo Switch, Xbox One
            • วันวางจำหน่าย | 18 กรกฎาคม 2017
            • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 10 ชั่วโมง

                เกม Yonder: The Cloud Catcher Chronicles ตัวเกมอาจจะดูเหมือนเกมอินดี้ๆ แนวใช้ชีวิต สร้างบ้านทำฟาร์ม แต่จริงๆ แล้วทีมพัฒนาอย่าง Prideful Sloth พวกเขาต้องการนำเสนอความเป็นเกมแนว Open-World ที่จะให้ผู้เล่นเน้นออกสำรวจไปยังส่วนต่างๆ รอบๆ เกาะ โดยเซ็ตเนื้อเรื่องง่ายๆ ไว้ถึงตัวเอกที่เจอเหตุการณ์เรือล่ม แล้วต้องมาติดอยู่บนเกาะเวทย์มนตร์ที่เรียกว่า Gemea ซึ่งเกาะแห่งนี้ถูกปกคลุมได้ด้วยหมอกลึกลับที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ บนเกาะ ทำให้ชาวบ้านต่างพอกันเรียกหมอกนั่นว่า Murk 

                ดังนั้นผู้เล่นจะได้รับหน้าที่ให้ออกเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเกาะซึ่งถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันไปมากถึง 8 แบบ เช่น ชายหาดโซนร้อน โซนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ เป็นต้น โดยเราจะต้องเดินทางไปทำเควสหลักด้วยการไปยังโซนต่างๆ เพื่อรวบรวมของศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อว่า Sprite เพื่อนำกลับมาทำลายหมอกปริศนาดังกล่าว แน่นอนว่าในระหว่างทางผู้เล่นจะได้พบเจอกับสัตว์ ธรรมชาติ และความน่าสนใจต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินสนุกสนานโดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว! นอกจากนี้ยังมีเควสเสริมที่มากมาย เช่น การทำฟาร์ม ช่วยเหลือชาวบ้าน เป็นต้น บอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกม Open-World ที่คุณไม่ควรพลาด! 


            4.Shape Of The World


            • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Nintendo Switch, PlayStation 4, Microsoft Windows, ระบบปฏิบัติการ Macintosh, Xbox One
            • วันวางจำหน่าย | 5 มิถุนายน 2018
            • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 1 ชั่วโมง

            • สิ่งที่น่าสนใจ | เสนอวิธีที่ยอดเยี่ยมในการผ่อนคลายด้วยการออกแบบงานศิลปะที่ยอดเยี่ยม

            • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/642610/Shape_of_the_World/ 

                ถอดสมองออก อย่าไปสนเนื้อเรื่อง เพราะนี่คือเกม Shape of the World เกมแนวเดินสำรวจไปตามที่ต่างๆ บนเกาะผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง และงานศิลปะกราฟฟิกในเกมก็เป็นเอกลักษณ์มากๆ นอกจากนี้เพลงประกอบระหว่างการเล่นเกมก็พร้อมจะพาให้ผู้เล่นรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเล่นเลย 

                และในส่วนของเกมเพลย์นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย ตัวเกมเพียงให้ผู้เล่นเดินสำรวจไปเรื่อยๆ และในระหว่างทางก็จะมีพวกต้นไม้ พุ่มหญ้างอกเงยออกมาเรื่อยๆ รวมถึงเราจะได้เห็นสัตว์แปลกมากมายๆ ที่พร้อมจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นด้วยโดยบางตัวอาจจะวิ่งหนี หรือบางตัวก็จะวิ่งชนผู้เล่นอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่กำลังเคลียดอยู่อยากเล่นเกมเบาสมอง เน้นชิลๆ ก็ขอแนะนำเกมนี้เลยรับรองว่าทั้งสนุก และคลายเคลียดได้แน่นอน


            5.Forza Horizon 4


            • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Microsoft Windows, Xbox One, Xbox Series X/S
            • วันวางจำหน่าย | 2 ตุลาคม 2018
            • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 12.5 ชั่วโมง

                พูดถึงเกม Open-World ที่เล่าผ่านมุมมองตัวบุคคลกันมาพักหนึ่งแล้ว เรามาคั่นด้วยเกมแนวโลกเปิดที่ให้สำรวจเกาะอังกฤษทางตอนเหนือผ่านมุมมอง ผ่านธีมการขับรถกันดีกว่า นโดยเกมที่ว่านั่นก็คือ Forza Horizon 4 ....หลายๆ คนที่เคยเห็นปกเกม หรือมองผ่านๆ อาจจะคิดว่าเกมนี้มันคือเกมขับรถธรรมดาๆ ทั่วไป แต่อย่าเพิ่งคิดอย่างนั้น เพราะทีมพัฒนาเกมนี้อย่าง Playground Games พวกเขาใส่ใจในการพัฒนาเกมนี้มากๆ   

                สำหรับ Forza Horizon 4 นี้บอกเลยว่าเพียงผู้เล่นขับรถสำรวจสถานที่ต่างๆ ในเกมได้โดยยังไม่ทำภารกิจหลัก หรือแข่งรถก่อน เท่านี้ก็สามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับตัวเกมแล้ว เพราะทีมพัฒนาใส่ใจในทุกรายละเอียดทั้งศิลปะทั้งวัฒนธรรมของสถานที่ต่างๆ บนโซนทางเหนือของเกาะอังกฤษ-สก็อตแลนด์ ทุกรายละเอียดนั้นใกล้เคียงกับของจริงมากจนราวกับว่าถอดแบบมาเลย นอกจากนี้พวกรถที่ขับโดย AI ก็เป็นรถที่นิยมใช้บนเกาะอังกฤษอีกด้วย รวมถึงยังมีเรื่องการใส่สำเนียงอังกฤษและอื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้บรรดาผู้เล่นหลงใหลไม่มีเบื่อกับการขับรถเที่ยวสำรวจไปยังที่ต่างๆ ในเกม แม้ตัวเกมจะไม่มีฉากต่อสู้บู๊ล้างผลาญก็ตาม!


            6.The Sims 3


            • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Microsoft Windows, OS X, Android, BlackBerry OS, Windows Phone, iOS, PlayStation 3, Xbox 360, Nintendo DS, N-Gage 2.0, Wii, Nintendo 3DS
            • วันวางจำหน่าย | 2 มิถุนายน 2009
            • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 15.5 ชั่วโมง

            • สิ่งที่น่าสนใจ | ความสมจริงด้านการใช้ชีวิต การเดินทางไปที่ต่างๆ และการสนทนากับ NPC

            • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/47890/The_Sims_3/?l=thai 

                หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า The Sims 3 มันเป็นเกมเก่าแล้ว ทั้งยังเป็นเกมแนวจำลองการใช้ชีวิต และเน้นการตกแต่งบ้านไม่ใช่หรือ คำตอบคือใช่ แต่สำหรับภาค 3 เป็นต้นไปนี้ ทาง EA ได้เปลี่ยนทิศทางของเกมครั้งใหญ่ด้วยการทำให้ตัวเกมมีความ Open-Wolrd มากขึ้นด้วย โดยเราจะเห็นว่าในภาคนี้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน สนามเด็กเล่น เป็นต้น อีกทั้งเรายังสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆ ของเมืองเพื่อทำความรู้จักกับ NPC คนอื่นๆ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีทั้งลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันทำให้ตัวเกมน่าสนใจเข้าไปอีกเท่าตัวอีกด้วย! 

              

              7.A Short Hike


              • แพลตฟอร์มที่รองรับ | Nintendo Switch, Microsoft Windows, Linux, macOS, ระบบปฏิบัติการ Macintosh
              • วันวางจำหน่าย | เมษายน 2019 มิถุนายน
              • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 1.5 ชั่วโมง

              • สิ่งที่น่าสนใจ | ความสนุกไปกับเนื้อเรื่องหลักและเนื้อเรื่องเสริมต่างๆ แบบพอดีพอเหมาะ โลกที่สามารถสำรวจได้อย่างอิสระผ่านศิลปะมี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกม

              • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/1055540/A_Short_Hike/?l=thai 

                  นี่คือเกมอินดี้ Open-World ที่ได้รางวัลเกม Seumas McNally Grand Prize ในปี 2020 ( เป็นเหมือนรางวัลที่สูงสุดสำหรับเกมอินดี้ ) ที่ผ่านมาเพราะกวาดคำชมมากมายทั้งจากนักวิจารณ์และผู้เล่น โดยขอบอกเลยว่าเกมนี้ทำโดยนักพัฒนาชาวแคนนาดาอย่าง Adam Robinson-Yu ซึ่งทั้งหมดของการพัฒนาเกมนี้ทั้งหมดแทบจะทำโดยเขาเพียงคนเดียว! 

                  หลายๆ คนอาจจะเห็นว่าระยะเวลาการจบเกมทำไมมันสั้นมากเพียงชั่วโมงกว่าๆ ก็เล่นจบแล้ว ต้องบอกก่อนว่านั่นคือความต้องการของผู้พัฒนา เพราะเขาต้องการทำเกมที่คลายเคลียด มุ่งเน้นให้คนที่มาเล่นได้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายหลังเล่นเกมจบ ซึ่งตัวเกมจะมีภารกิจหรือเนื้อเรื่องหลักนั่นคือผู้เล่นจะต้องออกไปตามหาขนนกสีทองวิเศษทั้ง 7 ที่มีไว้เพื่อใช้ในการตีนผาไต่เขาไปสู่จุดสูงสุดของเกม ซึ่งรูปแบบการเล่นนั้นก็ไม่ยากอะไรเลย เราเพียงสำรวจไปตามพื้นที่ต่างๆ เสพบรรยากาศรอบๆ ตัว รวมถึงยังมีสัตว์มากมายในเกมอีกด้วย และนอกจากนี้ยังมีมินิเกมมากมายให้ทำได้อย่างไม่มีเบื่อเลย อย่างเช่น การตกหา หาของที่หายไป และกีฬาภายในเกม ดังนั้นบอกเลยว่าใครที่กำลังหาเกมคลายเคลียดอยู่เกม A Short Hike ช่วยได้แน่นอน!


              8.Eastshade


              • แพลตฟอร์มที่รองรับ | PlayStation 4, Microsoft Windows, Linux, Macintosh operating systems, Xbox One
              • วันวางจำหน่าย | 13 กุมภาพันธ์ 2019
              • ระยะเวลาเล่นจบเฉพาะเนื้อเรื่องหลัก | ขั้นต่ำ 9.5 ชั่วโมง

              • สิ่งที่น่าสนใจ | โลก Open-World ที่สวยงาม และให้ผู้เล่นรับบทเป็นจิตรกรผู้ต้องออกสำรวจไปยังสถานที่ต่างๆ บนเกาะเพื่อวาดภาพออกมา!

              • ลิงค์เกม | https://store.steampowered.com/app/715560/Eastshade/ 

                  ปิดท้ายด้วยเกม Open-World อีกหนึ่งเกมที่ต้องบอกเลยว่าภาพในเกมสวยมากๆ รวมถึงความสมจริงของงานภาพ และเสียงที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกอิน และผ่อนคลายไปในตัว เช่น หากไปยืนบริเวณริมหาด จะมีเสียงคลื่นซัดฝั่งซึ่งเป็นเสียงที่สมจริง รวมถึงผ่อนคลายไปด้วย และเราจะมาเล่าถึงเนื้อเรื่องย่อกับระบบการเล่นเล็กๆ น้อยๆ กันดังนี้

                  สำหรับเกม Eastshade นี้ถูกสร้างโดยทีมพัฒนาที่มีชื่อเดียวกันกับตัวเกมเลย เนื้อเรื่องนั้นเล่าจะถึงจิตกรคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผู้เล่นที่ได้ออกเดินทางมาสำรวจยังเกาะ Eastshade เกาะที่เต็มไปด้วยมนุษย์ครึ่งสัตว์มากมาย โดย NPC เหล่านี้ผู้เล่นสามารถเข้าไปโต้ตอบพูดคุยได้ โดยการเลือกตอบบทสนทนาจะมีผลต่อการเล่นในอนาคตอีกด้วย รวมถึงยังมีการให้ผู้เล่นออกสำรวจเพื่อค้นหาวัตถุดิบ ไอเทม และความลับต่างๆ บนเกาะ และอีกเรื่องที่ทำให้เกมนี้ให้อารมณ์จิตรกรศิลปินจริงๆ ก็คือ หากผู้เล่นเดินทางไปตามส่วนต่างๆ ของเกาะแล้วเจอมุมหรือวิวสวยๆ เราสามารถทำการนำฉากตรงนั้นมาใส่บนกระดาษให้อารมณ์เหมือนศิลปินผู้สุนทรีย์ไปกับความงามตรงหน้ากันเลยทีเดียว!


              Credit : GAMERANT


              บทความที่คล้ายกัน

              ล่าสุด
              Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
              testprofile
              YeeTester2
              test
              IHu
              [เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
              IHu
              วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
              IHu
              [ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
              IHu
              Editors' Choice
              [แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
              YoJung
              The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
              BASUP!
              PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
              OcelotBoy
              [โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
              sLAUGHTER
              Show header