สวัสดียอดนักอ่านทุกๆ ท่าน ปี 2021 นี้ ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกินนะคะ รู้สึกตัวอีกทีก็เดือนมิถุนายนเสียแล้ว 

จะว่าไปแล้วในเดือนนี้เองก็มีความพิเศษอยู่นะคะ เพราะมิถุนายนนั้นได้ถูกเรียกว่า Pride Month หรือเดือนแห่งความเท่าเทียมทางเพศ ที่จะมีการจัด Pride Parade ขึ้นในหลายๆ ประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ กลุ่ม LGBTQ+ สามารถเปิดเผยตัวตนของตนเองได้อย่างเต็มที่ โดยจะไม่ถูกกดอยู่ภายใต้บรรทัดฐานของสังคมสองเพศ และสนับสนุนความหลากหลายทางเพศไปพร้อมๆ กัน

เป็นความจริงที่ในปัจจุบันนั้น กลุ่ม LGBTQ+ เองก็เริ่มที่จะได้รับการยอมรับจากผู้คนมากขึ้นแล้ว โดยพวกเขาเหล่านั้นก็จะไม่ถูกมองว่าสิ่งที่เป็น คือสิ่งที่ผิดแปลกไปจากปกติอีกเหมือนในอดีต แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็น ณ สถานที่แห่งใดบนโลกใบนี้ ก็ยังคงมีผู้คนอยู่ไม่น้อย ที่ยังไม่เข้าใจและไม่ยอมรับในความหลากหลายทางเพศของกลุ่ม LGBTQ+ 

ซึ่งบางครั้งพวกเขาเหล่านั้น ก็อาจจะแสดงการไม่ยอมรับออกมาในรูปแบบที่มีการใช้ความรุนแรง อันก่อให้เกิดความไม่สบายทั้งทางกาย และทางใจให้กับใครหลายคน ซึ่งในหลายๆ เหตุการณ์ที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อมา ก็กลายเป็นแผลใจและเป็นเหตุการณ์สะเทือนใจ ที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนไปอีกนานแสนนาน

เพื่อช่วยลดหรือบรรเทาไม่ให้เรื่องแสนเศร้าเหล่านั้นเกิดขึ้นกับใครอีก ก็ทำให้ผู้คนจำนวนมากจากในหลายๆ วงการ เริ่มมองหาวิธีการเพื่อรณรงค์สนับสนุน กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศออกมามากมาย จนเรียกได้ว่ากระแสรณรงค์เพื่อชาว LGBTQ+ เหล่านั้น เป็นเหมือนดั่งเกลียวคลื่นที่ส่งอิทธิพลต่อความเปลี่ยนแปลง รวมถึงมุมมองของทั้งผู้คน และสังคมเป็นอย่างมาก...ไม่เว้นแม้กระทั่งกับในวงการเกม

โดยการสนับสนุนความหลากหลายเหล่านั้น ก็ถูกแสดงออกมาในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่บริษัทเกมต่างๆ พยายามนำเสนอ ตัวเกมที่พวกเขาพัฒนาออกมา หรือสัมภาษณ์ต่างๆ จากทีมผู้พัฒนาเองโดยตรง 

ยกตัวอย่างเช่น บริษัทผู้พัฒนาเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Electronic Arts หรือ ชื่อที่คุ้นหูชาวเกมเมอร์อย่าง EA ซึ่งสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ และความหลากหลายอย่างเปิดเผยมาโดยตลอด จนได้รับรางวัลสถานที่ทำงานดีเด่นสำหรับความเท่าเทียมทางเพศ จาก Human Rights Watch องค์กรระดับโลกถึงสามปีซ้อน ไปจนถึงการพัฒนาเกมที่ตัวละครมีความหลากหลายทางเพศ อย่าง The Sims ที่ให้อิสระในการกำหนดทั้ง Gender และ Love ของตัวละครที่เราเล่นได้ ตามความต้องการของผู้เล่นโดยไร้ข้อจำกัด

โดย The Sims อาจเรียกได้ว่าเป็นเกมแรกๆ จากค่ายเกมใหญ่เลย ที่ให้การสนับสนุนความเป็น LGBTQ+ ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะมีเกมที่สนับสนุนความหลากหลาย ตามออกมาอีกหลายต่อหลายเกม ทั้งจากค่ายเกมใหญ่ไปจนถึงทีมผู้พัฒนาเกมอินดี้เล็กๆ 

อย่างหนึ่งในซีรีส์ชื่อดังของ BioWare อย่าง Mass Effect: Andromeda เกมโลกเปิดแนวแอคชัน Sci-fi ที่นอกจากตัวเกมจะให้อิสระกับผู้เล่นในการเลือกเพศของตัวละครหลักที่จะเล่น รวมถึงมอบทางเลือกในการสานสัมพันธ์กับตัวละครอื่นภายในเกมได้ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของ Gender แล้วภายในเกมก็ยังมีตัวละครอีกหลายตัวด้วยกันที่เป็น LGBTQ+ อีกด้วย

หรือเกม Fallout: New Vegas จากค่าย Bethesda ที่ได้รับการยกย่องจากชาวเกมหลายคน ว่าเป็น Fallout ที่ยอดเยี่ยมทั้งสำหรับผู้เล่นเก่าและผู้เล่นใหม่ โดยตัวเกมนั้นจะให้ผู้เล่นเลือกเป็นตัวละครหญิงหรือชายก็ได้ และสามารถเลือกสร้างความสัมพันธ์กับตัวละคร Gender ใดในเกมก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นหลายภารกิจภายในเกม ก็ยังมีการนำเสนอความหลากหลายอย่างชัดเจนอีกด้วย

หรืออีกหนึ่งเกมชื่อดังที่เป็นกระแสในหมู่ผู้เล่นอย่าง The Last of Us: Left Behind ผลงานจากทีมพัฒนา Naughty Dog ที่มีการเปิดเผยความสัมพันธ์อันสวยงามระหว่าง Ellie กับ Riley อย่างชัดเจนเช่นกัน

ในขณะที่บางเกมเองก็มีการสนับสนุนความหลากหลาย ด้วยการนำเสนอออกมา ในรูปแบบของการให้อิสระในการสร้างตัวละครของผู้เล่นเอง แบบไม่จำกัดรูปแบบ Gender ใดๆ อย่างเกม Cyberpunk 2077 ที่ไม่จำเป็นจะต้องระบุเพศตอนสร้างตัวละคร และเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกรูปแบบของร่างกายกับเสียงตัวละครได้อย่างอิสระ

กระทั่งกับเกมแนว Virtual Novel อย่าง The Arcana: A Mystic Romance หรือ A Foretold Affair ที่นอกจากจะให้อิสระในการเลือกเพศของตัวละครหลักที่ผู้เล่นจะได้เล่นแล้ว ก็ยังมีการมอบทางเลือกให้สามารถเลือกคำสรรพนาม ที่จะถูกเรียกต่อไปภายในเกมได้ตามต้องการอีกด้วย ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นรายละเอียดเพียงเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้ผู้เล่นอย่างเราๆ สามารถรับรู้ได้ถึงความใส่ใจจากผู้พัฒนาได้เป็นอย่างดี

ซึ่งนอกจากบรรดาเกมที่พยายามนำเสนอความหลากหลากเอาไว้ภายในเกมแล้ว ก็ยังมีแคมเปญอีกมากมายที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรณรงค์สนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ ยกตัวอย่างเช่น แคมเปญอย่าง 'Think B4 You Speak' ที่จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อหยุดการใช้วลี 'that's so gay' ในเชิงเหยียดชาว LGBTQ+ และพยายามสร้างให้สังคมเกมออนไลน์ต่างๆ น่าอยู่ขึ้น

หรือ GLAAD Media Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่จะมอบโดยชาว LGBTQ+ ให้กับสื่อมวลชนในสาขาต่างๆ ซึ่งมีการสร้างประเด็นที่เกี่ยวข้อง และส่งผลต่อการใช้ชีวิตของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ได้มีการเพิ่มสาขารางวัลสำหรับเกมเข้ามาในปี 2019 

นอกเหนือไปจากเกมที่เรายกตัวอย่างมานี้แล้ว ในปัจจุบันก็ยังมีเกมอีกมากมายที่ถูกสร้างออกมา โดยมีแนวคิดที่คำนึงถึงกลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้น ซึ่งเราก็เชื่อและหวังว่าความใส่ใจนี้ จะเพิ่มมากขึ้นต่อไปอีกในอนาคต จนความหลากหลายทางเพศได้รับการยอมรับว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้น ก็คือสิ่งที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมาค่ะ

แม้ว่าการช่วยเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงผ่านเกม อาจจะเป็นการรณรงค์เฉพาะกลุ่มอยู่บ้าง แต่ความปรารถนาดีนี้ก็เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญ ที่จะช่วยเหลือผู้คนซึ่งกำลังโศกเศร้าและทรมานจากการไม่ได้รับการยอมรับ แน่นอนว่ามันอาจจะเป็นเหมือนเพียงกระแสคลื่นเล็กๆ หากแต่เราก็หวังว่าคลื่นที่ซัดสาดเข้าฝั่งในทุกๆ วันนี้ จะช่วยกัดเซาะให้การไม่ยอมรับและความรุนแรงทั้งหลาย ค่อยๆ เบาบางลง และหมดไปได้ในสักวันหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ดีความเชื่อที่ได้รับการปลูกฝังมาอย่างยาวนาน จนฝังแน่นลงไปในหัวใจของผู้คน ก็เป็นสิ่งที่ยากที่ใครหรือสิ่งใดจะสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการพยายามยัดเยียดความเชื่อแบบใหม่หรือบังคับให้ใครเปลี่ยน ก็ไม่ใช่หนทางที่ดีในการสนับสนุนแนวคิดของตนเอง 

อย่างที่เราได้เห็นตัวอย่างกันมาบ้างแล้ว กับกรณีดราม่าที่ผ่านมาของ Battlefield V เกมซีรีส์ดังจากค่าย EA ซึ่งจริงอยู่ว่าประเด็นหลักๆ ของดราม่า อาจเกิดจากความไม่พอใจของผู้เล่นที่รู้สึกว่า การใส่ตัวละครผู้หญิงลงไปเป็นหนึ่งในตัวละครหลักของเกม ที่วางเนื้อเรื่องอ้างอิงอยู่ภายในสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้เกมไม่สมจริงและหลังจากนั้น การตอบกลับของทีมผู้พัฒนาที่รุนแรงเอง ก็ยิ่งกระพือกระแสความไม่พอใจให้ลุกลามขึ้นไปอีก

เริ่มแรกสุดในการพัฒนาเกมที่มีความตั้งใจจะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียง เราเองก็เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจากความปรารถนาดี ที่ต้องการจะสนับสนุนและนำเสนอความหลากหลาย อย่างที่ EA ทำมาโดยตลอด แต่การจะทำเช่นนั้นเอง มันก็ควรที่จะคำนึงถึงความเหมาะสมในการนำเสนอด้วยเช่นกัน เพราะตัวเกมอิงจากสงครามโลกครั้งที่สอง และนำเสนอธีมสงครามโลกที่สมจริง การใส่ตัวละครผู้หญิงเข้ามาในบทบาทที่ขัดกับประวัติศาสตร์ และตัดสิ่งที่ถูกบันทึกอยู่จริงออกไป ก็ดูเหมือนจะกลายเป็นการยัดเยียดความหลากหลายเข้าเสียมากกว่า จนในท้ายที่สุด มันก็ขัดแย้งกับธีมที่ตนตั้งใจจะนำเสนอมาตั้งแต่แรก

ดังนั้นแล้วแน่นอนว่าการพยายามสนับสนุน ให้เกิดการตระหนักและการเปลี่ยนแปลงภายในสังคมนั้น เป็นสิ่งที่ดี ยิ่งการได้รับการสนับสนุนจากผู้คนหรือสื่อที่มีชื่อเสียง ก็ยิ่งทำให้คนจำนวนมากขึ้น ให้ความสนใจและเริ่มให้การยอมรับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศมากขึ้น 

แต่ในขณะเดียวกัน มันเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป คำนึงถึงบริบทและความเหมาะสมในการนำเสนอ ไม่จำเป็นจะต้องรีบเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้ในทันที เพียงแต่ค่อยๆ ทำให้ผู้คนตระหนักถึงกลุ่มคนที่มีความหลากหลายเหล่านี้ และพยายามทำความเข้าใจพวกเขามากขึ้น เราก็เชื่อว่านั่นจะเป็นการสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ+ และความหลากหลายได้เป็นอย่างดีแล้วค่ะ 

Credit : https://1th.me/Ca44R

https://1th.me/YOWi4

https://1th.me/eDJXB

https://1th.me/XqiEx

https://1th.me/M92LV

https://1th.me/r34ag

https://1th.me/yx2CQ

https://1th.me/d9NXO

https://1th.me/j5Iqd