GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
[Review] รีวิวเกม Midnight Fight Express ค่ำคืนแห่งการไล่ล่า กับเกมแอคชันเลือดเดือดที่ลึกกว่าตาเห็น
ลงวันที่ 31/08/2022

ศิลปะการต่อสู้ Martial Arts คงเป็นอีกหนึ่งความสนุกที่เราสามารถหาได้จากวิดีโอเกม แม้จะน้อยไปหน่อย หากว่ากันตามตรง เกมแนวนี้ไม่ได้มีออกมามากนัก แถมที่ออกมาก็กระแสไม่ค่อยดีจนภาคต่อไม่มา แต่วันนี้ เราได้เห็นแล้วว่า เกมอินดี้ฟอร์มเล็ก แต่อัดแน่นไปด้วยความสนุก โดยเฉพาะผู้โหยหาความแอ็คชั่นแบบน็อนสต็อป มันทำออกมาได้ดุเดือดแค่ไหน และนี่คือรีวืว Midnight Fight Express เกมแอคชันอินดี้เลือดเดือดน้องใหม่ ที่สนุกร้าวใจไม่แพ้เกมฟอร์มใหญ่หน้าไหนในปีนี้

เนื้อเรื่องสุดแสนจะธรรมดาและเข้าใจง่าย


คุณ รับบทเป็น Babyface ที่เริ่มต้นมาก็โดนจับกุมอยู่ในห้องสืบสวนสอบสวนของเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลังโดนสอบสวนอย่างหนัก แต่คุณกลับจำอะไรไม่ได้เลย ในความทรงจำของคุณมีเพียงแค่ว่า อยู่ดี ๆ คุณก็ได้รับพัสดุเป็นเจ้าโดรนที่พูดได้ ก่อนการเปิดฉากโจมตีของแก๊งอาชญากรรมจะเริ่มขึน้จนทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย เพื่อให้การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราจะต้องนึกให้ออกว่าเราเป็นใคร มาจากไหน และเหตุใดเมืองจึงตกอยู่ภายใต้สงครามแก๊ง อันเป็นจุดเริ่มต้นของ Midnight Fight Express ค่ำคืนแห่งการไล่ล่าสุดโหด


สำหรับพล็อตแบบนี้ ถือว่าเป็นพล็อตที่เราอาจจะพบเห็นได้ตามหนังแอ็คชั่นเกรดบีทั่วไปเลยด้วยซ้ำ และเกมนี้ก็ใช้พล็อตง่าย ๆ แบบนี้ อาจดูเหมือนเนื้อเรื่องจะหลวม ๆ ไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบเรื่องราวฉากหลังของโลกอาชญากรรมใต้ดินแล้วล่ะก็ เกมนี้จะให้บรรยากาศแบบนั้น แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ได้เข้มข้นหรือน่าติดตามอะไรสักเท่าไร นอกจากนั้น เกมจะไม่ได้เล่าเนื้อเรื่องแบบครบทุกอย่างในช่วงคัทซีน แต่จะเล่าแบบผ่านช่วงคัทซีน การดำเนินเรื่องครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง เมื่อผู้เล่นผ่านด่านไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเจอตัวละครใหม่ ๆ ที่รู้ว่าเราเป็นใคร และจะคอยกระตุ้นความทรงจำเราให้กลับมาอีกครั้งด้วย 


ด้วยความที่เกมนี้เป็นเกมเล่นแบบ Single Player แถมหลัก ๆ แล้วยังสร้างจากตัวคนเดียวอีกต่างหาก ทำให้เนื้อเรื่องอาจจะเป็น Point รองลงมา แต่บางช่วงก็ถือว่าน่าสนใจใช้ได้อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือการย่อยง่าย เข้าถึงง่ายแบบที่เราเห็นตามหนังแอ็คชั่นทั่วไป

เกมขนาดเล็กที่ปริมาณคอนเทนต์ไม่ได้เล็กตาม


Midnight Fight Express ถือว่าเป็นเกมอินดี้เลยก็ว่าได้ เพราะเกมนี้สร้างจากผู้สร้างเพียงคนเดียวคือ Jacob Dzwinel เท่านั้น แต่ถึงแม้การทำเกมหลัก ๆ จะมีคนเดียว ด้านของปริมาณคอนเทนต์และการนำเสนอนั้น ไม่ได้เป็นสองรองเกมยักษ์ใหญ่จากค่ายต่าง ๆ เลย เริ่มจากจำนวนด่าน Midnight Fight Express มีความยาวด่านให้เล่นมากถึง 40 ด่านด้วยกัน แต่ละด่านจะมีความยาวในการเล่นไม่เท่ากัน แต่หัวใจหลักคือการบู๊แหลก เตะต่อยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าบางด่านนั้น อาจลุยแบบน็อนสต็อป 4-5 เวฟ จบ แต่บางด่านอาจจะมีการเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนอรรถรสในการต่อสู้ไปเรื่อย ๆ 


นอกจากความยาวที่มากถึง 40 ด่านแล้ว ยังมีความยากให้เลือกเล่นมากถึง แบบ โดยใครที่จบความยากรอบแรก ๆ ไปแล้ว แต่ติดใจความสนุกก็วนมาเล่นซ้ำได้ในความยากที่สูงขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่า ไม่หมูสักเท่าไรนัก ใครชอบความท้าทาย ชอบความยากในระดับที่เล่นสนุก เล่นเพลิน และเป็น Martial Arts เน้นเตะต่อย ๆ มัน ๆ แบบนี้ เกมนี้จะตอบโจทย์คุณมาก


เอาแค่ความยาวในการเล่น 40 ด่านนั้น ก็ว่าเยอะมากแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ก็คือคอนเทนต์หลักของตัวเกม เพราะนอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้วเกมก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ได้เล่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบ คือระบบ Playground หรือห้องทดลองเล่น ทุกครั้งที่เราปลดล็อคสกิล หรือกระบวนท่าใหม่ ๆ มา หากอยากลองใช้งาน หรือดูว่าจะนำไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ยังไงนั้น ก็สามารถเข้าไปลองเล่นใน Playground ก่อนได้ แถมระบบนี้เขาไม่ได้ออกแบบมาเล่น ๆ เลย มันเหมือนกับเป็นอีกโหมดที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจอย่างอิสระ เรากำหนดได้เลยว่าจะให้มีคู่ต่อสู้กี่คน ใช้อาวุธอะไร เข้าโจมตีเราแบบไหน และกำหนดได้ด้วยว่าตัวละครของเรา จะปลดล็อคสกิลอะไรมาใช้งานได้บ้าง เอาง่าย ๆ คือเราทดลองทำทุกอย่างได้จากโหมดนี้ ทำให้เราศึกษาได้เลยว่า สกิลไหนเป็นประโยชน์ ปลดล็อคดีหรือไม่ดี


อีกฟีเจอร์ที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ชอบอวดชาวบ้านแบบเท่ ๆ ก็คือฟีเจอร์การเซฟภาพเป็น .gif โดยทุก ๆ ฉากที่เราเล่นจบและเคลียร์จบไปนั้น ตัวเกมจะเลือกฉากเด็ดให้เราเองโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็ทำเป็นภาพ .gif เอาไว้ให้ทุก ๆ การจบฉาก หากเราชื่นชอบซีนนั้น จะสามารถกดบันทึกภา่พ .gif ฉากนั้นเอาไว้ได้เลย โดยภาพ .gif จะถูกเซฟไว้ที่โฟลเดอร์ที่เราติดตั้งเกมของเราเอง สามารถนำไปอัปโหลดลงโซเชียล อวดเพื่อน ๆ กันได้ จริง ๆ ฟีเจอร์นี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะเกมที่เน้นความเท่ แอ็คชั่นเอามันอย่าง My Friend Pedro ก็ทำมาแล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่เจ๋งดี เวลาที่เราอยากอวดคนอื่น แต่ถ้าใครไม่ชอบ ก็ใช้วิธีอัดวิดีโอเอาไว้ แล้วไปแคปเจอร์ย้อนหลังเอาก็ได้ อาจจะยุ่งยากกว่า แต่จะได้ฉากที่ค่อนข้างชัวร์กว่าว่าเราเท่จริง

ด้วยปริมาณคอนเทนต์ของตัวเกมขนาดนี้ ต่อให้เป็นเกมอินดี้ แต่สามารถตอบโจทย์ความเป็นเกมแอ็คชั่นได้อย่างเต็มอิ่ม สำหรับราคา 289 บาทบน Steam นั้น ถือว่าไม่มากเกินเลย และยิ่งใครที่เล่นบน Xbox Game Pass ด้วยแล้ว มีแต่คำว่าคุ้มกับคุ้มจริง ๆ 

แอ็คชั่นแบบน็อนสตอป มันส์ระห่ำจนเมื่อยนิ้ว ปวดมือ


Midnight Fight Express จัดอยู่ในหมวดของเกม Beat 'em up ก็ว่าได้ แต่จะเป็น Beat 'em up ที่ใช้มุมกล้องจากด้านบน ออกแนว Isometric ในการนำเสนอ เราจะได้ควบคุมตัวละครไปได้ทุกทิศทาง ซ้าย ขวา หน้า หลัง และเกมนี้เป็นเกมแบบเส้นตรง ไม่ค่อยมีซอกซอยหรือความลับอะไรให้สำรวจมากสักเท่าไร แต่ว่าในเกมการเล่นของแต่ละฉากก็จะมี Challenge มีเงื่อนไขที่หากเราเก็บครบก็จะได้ของรางวัลเพิ่มขึ้นอยู่เหมือนกัน แต่ความแสบของเกมนี้คือ Challenge ต่าง ๆ ทั้งหมดของฉากนั้น จะไม่เปิดเผยในครั้งแรกที่เราได้เล่น แต่จะเปิดเผยก็ต่อเมื่อเราเล่นจบฉากนั้นไปแล้ว การทำแบบนี้ทำให้เกิดคุณค่าในการเล่นซ้ำขึ้น ซึ่งก็อยู่ที่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบกันสำหรับวิธีการเล่นซ้ำแบบนี้


แต่สำหรับเกมนี้สิ่งที่ต้องยอมรับว่าสนุกมาก เพราะนี่คือเกมแอ็คชั่นที่เราจะได้ซัดแหลก บู๊ยับกันแบบน็อนสต็อปต่อ 1 ด่าน รับรองว่ารัวจอยกันจนเมื่อยนิ้วไปข้างนึงเลยทีเดียว เงื่อนไขในการผ่านฉากต่าง ๆ ของเกมนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการถล่มคู่ต่อสู้จนหมดฉาก แต่ไฮไลท์ของมันคือการใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ของการต่อสู้ ตัวละคร Babyface ของเรา จะมีความสามารถที่คล้ายกัตัวละครจากหนังประเภท 1vs100 นั่นคือต่อให้ศัตรูจะขนกันมาทั้งกองทัพ คนเดียวเอาอยู่ อารมณ์ตอนเล่นจะไม่ต่างจาก John Wick เลย ยกเว้นแค่ตอนคุณไม่มีปืน เพราะเกมนี้ปืนจะมีให้เก็บเป็นบางช่วงเท่านั้น หลัก ๆ จะเน้นไปที่การเตะต่อยมากกว่า


ความสนุกของเกมนี้คือการที่เราจะต้องบู๊แบบไม่มียั้งของจริง นี่คือเกแอคชั่นบริสุทธิ์ที่คุณอาจจะหาจากเกมอื่นไม่ได้มานานมากแล้ว ตลอดทั้งเกม ตลอดทั้งฉาก คุณจะต้องสู้เพื่อผ่านไปเท่านั้น และความเข้มข้นของมันถูกนำเสนอออกมาผ่านการออกแบบศัตรูที่มีหลากหลายประเภท ผสมเข้ากับ Moveset การโจมตีของ Babyface ที่แรกเริ่มเดิมทีก็มีความสามารถรอบตัวอยู่แล้ว เกมยังมีระบบ Skill & Upgrade ให้เราได้เพิ่มความสามารถของ Babyface ให้โหดมากยิ่งขึ้นไปอีก แถมมาพร้อมลีลาท่ายากอีกมากมายที่ดูแล้วว้าวจนอยากไปหาหนังแอ็คชั่นมัน ๆ สักเรื่องดู ไม่ว่าจะเป็ฯการกลิ้งตัวกระโดดเตะ การสอยอัปปอร์คัท หรือการ Parry ในรูปแบบต่าง ๆ การจับศัตรูเหวี่ยง และอีกมากมาย


แต่เห็นตัวละครเราโหดขนาดนี้ อย่าคิดว่าเกมมันจะง่าย เพราะนี่อาจจะเป็ฯอีกหนึ่งเกมยากที่จะมาท้าทายความสามารถคุณเลยก็ได้ ในช่วงด่านแรก ๆ คุณอาจจะคิดว่า มันก็ง่ายดี ไม่มีอะไรท้าทายตรงไหน แต่เมื่อเข้าสู่สักช่วงด่านที่ 6 ขึ้นไป คราวนี้คุณจะได้พบเจอกับ "ของจริง" ศัตรูแต่ละตัวจะไม่ล้มด้วยหมัด 3-4 หมัดหรือการ Parry สวนกลับอีกต่อไป แถมบางตัวจะไม่สนการโจมตีของเรา สามารถสวนกลับเข้ามาได้ดื้อ ๆ บางตัวมีสกิลชนิด One Burst Kill หรือตีเรารัว ๆ จนตาย หากไม่ระวัง เอาแค่ช่วงต้นเกม ยังไม่พ้นด่าน 10 คุณก็ปาดเหงื่อ และปวดนิ้วจากการรัวจอย ทั้งหลบ ทั้ง Parry ทั้งสู้กลับแล้ว บางช่วงนี่แทบจะกลิ้งหลบกันเป็นเกม Souls เลยก็ว่าได้ 


สิ่งจำเป็นในการเล่นเกมนี้คือ "สติ" และ "คิดไว" ทุกครั้งที่ศัตรูปรากฎตัวออกมา เราต้องดูซ่าตัวไหนจัดการได้ไวที่สุด โค่นง่ายที่สุด แล้วรีบจัดการ ก่อนมันจะมากันเยอะจนไม่รู้จะสู้ยังไงนอกจากกลิ้งต่อย ๆ สกิลที่ปลดล็อคมาแล้วจะช่วยให้เรามีทางเลือกในการสู้มากขึ้น เช่นเตะของใส่ศัตรู กระโดดเข้าไปถึงตัวในระยะประชิด หรืออื่น ๆ อีกมากมาย และหากเราเลี้ยงคอมโบสะสมหลอด Rage จนเต็ม เราจะได้รับพลังโจมตีเพิ่มชั่วคราวที่จะช่วยเคลียร์ศัตรูได้ดีมาก แต่ปัญหาคือการสะสมหลอด Rage นี่แหละที่ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะเราต้องโค่นศัตรูให้ได้อย่างต่อเนื่อง หากโดนโจมตีขึ้นมา หลอดก็จะสะสมได้ช้าลง นอกจากนั้นระบบการสะสมคะแนนของเกมนี้ หากเราจัดการศัตรูไม่ทัน ตัวคูณคะแนนก็จะหายไป แต่การโดนโจมตีเพียง 1-2 ครั้ง จะไม่ถูกหักตัวคูณ ดังนั้นบางสถานการณ์ เราอาจจะต้องเสี่ยงเจ็บตัวเล็กน้อย เพื่อสะสมตัวคูณคะแนนและหลอด Rage เอาไว้


แม้ว่าจะเล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดได้ แต่ผู้เขียนแนะนำว่าให้ต่อจอยเล่นเกมนี้ดีกว่า เพราะจอยจะมีการควบคุมที่ลื่นไหลกว่า ด้วยจำนวนปุ่มที่อยู่ใกล้นิ้วมือของเรามากกว่าบนคีย์บอร์ด ทำให้การออกท่าทาง หรือปฏิกิริยาตอบสนองที่เรามีกับตัวเกม สามารถทำได้ง่ายกว่า แต่ใครอยากท้าทายความสามารถตัวเองด้วยเมาส์ คีย์บอร์ด ก็จัดไป เล่นได้เหมือนกัน แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้ชิน

นอกจากคอนเทนต์หลักของตัวเกมจะมีแต่การตะลุยด่านแบบเพียว ๆ แล้ว ตัวเกมยังมีการปรับแต่งตัวละครและสร้างตัวละครได้ โดยการเล่นจบในแต่ละฉาก หากทำ Challenge ต่าง ๆ ได้มากเท่าไร เราก็จะได้รับโบนัสเงินรางวัลได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ประโยชน์อย่างเดียวของเงินในเกมนี้เลยก็คือการเอาไปปรับแต่งตัวละคร ปรับแต่งที่ว่า คือการปรับแต่งจริง ๆ เช่นการซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์แต่งกาย ของแต่งตัว ที่ทำให้ตัวละคร Babyface ของเรา มีเอกลัษณ์ในแบบที่เราอยากจะให้เป็น แม้จะดูไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไร แต่สำหรับใครที่เบื่อตัวละครแรกเริ่ม ก็ถือว่ามีอิสระมากพอสมควรในการสร้างตัวละครที่ใจต้องการ


Midnight Fight Express เป็นเกมแอ็คชั่นที่จะทำให้คุณอะดรีนาลีนสูบฉีดแทบจะตลอดเวลา ข้อเสียของมันซึ่งอาจจะไม่ใช่ข้อเสียด้วยคือ เล่นนานแล้วปวดมือ ปวดนิ้ว เพราะการรัวปุ่ม ถ้าจะให้แนะนำจริง ๆ ล่ะก็ เล่นจบสักด่านสองด่านก็พักบ้าง ยืดเส้นยืดสายบ้างจะได้ไม่ตึงหรืออ่อนล้าสะสม

ในแง่ของการซื้อ 289 บาท ต้องบอกว่ายังไงก็คุ้มค่ากับความมันส์ของตัวเกม แต่หากเล่นบน Xbox Game Pass ก็ยิ่งคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งเกมอินดี้คุณภาพสูงที่เราอยากแนะนำว่าไม่ควรพลาด ถ้าจะมีข้อเสีย ก็คือมันอาจไม่ใช่เกมที่ทุกคนจะเอ็นจอยได้ กับการบู๊ล้างผลาญแบบถอดสมองเท่านั้น 

Midnight Fight Express วางจำหน่ายแล้ววันนี้ บน PC และ Console

7
ข้อดี

เกมเพลย์แนวแอคชั่นบริสุทธิ์แสนดุเดือด

กราฟิคเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

ระบบการอัปเกรดท่าและระดับความยากทำให้เล่นซ้ำได้หลายครั้ง


ข้อเสีย

ในจังหวะชุลมุนอาจมองอะไรไม่ค่อยเห็น

9
บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[Review] รีวิวเกม Midnight Fight Express ค่ำคืนแห่งการไล่ล่า กับเกมแอคชันเลือดเดือดที่ลึกกว่าตาเห็น
31/08/2022

ศิลปะการต่อสู้ Martial Arts คงเป็นอีกหนึ่งความสนุกที่เราสามารถหาได้จากวิดีโอเกม แม้จะน้อยไปหน่อย หากว่ากันตามตรง เกมแนวนี้ไม่ได้มีออกมามากนัก แถมที่ออกมาก็กระแสไม่ค่อยดีจนภาคต่อไม่มา แต่วันนี้ เราได้เห็นแล้วว่า เกมอินดี้ฟอร์มเล็ก แต่อัดแน่นไปด้วยความสนุก โดยเฉพาะผู้โหยหาความแอ็คชั่นแบบน็อนสต็อป มันทำออกมาได้ดุเดือดแค่ไหน และนี่คือรีวืว Midnight Fight Express เกมแอคชันอินดี้เลือดเดือดน้องใหม่ ที่สนุกร้าวใจไม่แพ้เกมฟอร์มใหญ่หน้าไหนในปีนี้

เนื้อเรื่องสุดแสนจะธรรมดาและเข้าใจง่าย


คุณ รับบทเป็น Babyface ที่เริ่มต้นมาก็โดนจับกุมอยู่ในห้องสืบสวนสอบสวนของเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกำลังโดนสอบสวนอย่างหนัก แต่คุณกลับจำอะไรไม่ได้เลย ในความทรงจำของคุณมีเพียงแค่ว่า อยู่ดี ๆ คุณก็ได้รับพัสดุเป็นเจ้าโดรนที่พูดได้ ก่อนการเปิดฉากโจมตีของแก๊งอาชญากรรมจะเริ่มขึน้จนทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย เพื่อให้การร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราจะต้องนึกให้ออกว่าเราเป็นใคร มาจากไหน และเหตุใดเมืองจึงตกอยู่ภายใต้สงครามแก๊ง อันเป็นจุดเริ่มต้นของ Midnight Fight Express ค่ำคืนแห่งการไล่ล่าสุดโหด


สำหรับพล็อตแบบนี้ ถือว่าเป็นพล็อตที่เราอาจจะพบเห็นได้ตามหนังแอ็คชั่นเกรดบีทั่วไปเลยด้วยซ้ำ และเกมนี้ก็ใช้พล็อตง่าย ๆ แบบนี้ อาจดูเหมือนเนื้อเรื่องจะหลวม ๆ ไม่ค่อยมีอะไร แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบเรื่องราวฉากหลังของโลกอาชญากรรมใต้ดินแล้วล่ะก็ เกมนี้จะให้บรรยากาศแบบนั้น แม้ว่าเนื้อเรื่องจะไม่ได้เข้มข้นหรือน่าติดตามอะไรสักเท่าไร นอกจากนั้น เกมจะไม่ได้เล่าเนื้อเรื่องแบบครบทุกอย่างในช่วงคัทซีน แต่จะเล่าแบบผ่านช่วงคัทซีน การดำเนินเรื่องครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่ง เมื่อผู้เล่นผ่านด่านไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเจอตัวละครใหม่ ๆ ที่รู้ว่าเราเป็นใคร และจะคอยกระตุ้นความทรงจำเราให้กลับมาอีกครั้งด้วย 


ด้วยความที่เกมนี้เป็นเกมเล่นแบบ Single Player แถมหลัก ๆ แล้วยังสร้างจากตัวคนเดียวอีกต่างหาก ทำให้เนื้อเรื่องอาจจะเป็น Point รองลงมา แต่บางช่วงก็ถือว่าน่าสนใจใช้ได้อยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายแล้วมันก็คือการย่อยง่าย เข้าถึงง่ายแบบที่เราเห็นตามหนังแอ็คชั่นทั่วไป

เกมขนาดเล็กที่ปริมาณคอนเทนต์ไม่ได้เล็กตาม


Midnight Fight Express ถือว่าเป็นเกมอินดี้เลยก็ว่าได้ เพราะเกมนี้สร้างจากผู้สร้างเพียงคนเดียวคือ Jacob Dzwinel เท่านั้น แต่ถึงแม้การทำเกมหลัก ๆ จะมีคนเดียว ด้านของปริมาณคอนเทนต์และการนำเสนอนั้น ไม่ได้เป็นสองรองเกมยักษ์ใหญ่จากค่ายต่าง ๆ เลย เริ่มจากจำนวนด่าน Midnight Fight Express มีความยาวด่านให้เล่นมากถึง 40 ด่านด้วยกัน แต่ละด่านจะมีความยาวในการเล่นไม่เท่ากัน แต่หัวใจหลักคือการบู๊แหลก เตะต่อยเหมือนกัน เพียงแต่ว่าบางด่านนั้น อาจลุยแบบน็อนสต็อป 4-5 เวฟ จบ แต่บางด่านอาจจะมีการเปลี่ยนฉาก เปลี่ยนอรรถรสในการต่อสู้ไปเรื่อย ๆ 


นอกจากความยาวที่มากถึง 40 ด่านแล้ว ยังมีความยากให้เลือกเล่นมากถึง แบบ โดยใครที่จบความยากรอบแรก ๆ ไปแล้ว แต่ติดใจความสนุกก็วนมาเล่นซ้ำได้ในความยากที่สูงขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่า ไม่หมูสักเท่าไรนัก ใครชอบความท้าทาย ชอบความยากในระดับที่เล่นสนุก เล่นเพลิน และเป็น Martial Arts เน้นเตะต่อย ๆ มัน ๆ แบบนี้ เกมนี้จะตอบโจทย์คุณมาก


เอาแค่ความยาวในการเล่น 40 ด่านนั้น ก็ว่าเยอะมากแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ก็คือคอนเทนต์หลักของตัวเกม เพราะนอกจากโหมดเนื้อเรื่องแล้วเกมก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ได้เล่นกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบ คือระบบ Playground หรือห้องทดลองเล่น ทุกครั้งที่เราปลดล็อคสกิล หรือกระบวนท่าใหม่ ๆ มา หากอยากลองใช้งาน หรือดูว่าจะนำไปใช้งานในสถานการณ์จริงได้ยังไงนั้น ก็สามารถเข้าไปลองเล่นใน Playground ก่อนได้ แถมระบบนี้เขาไม่ได้ออกแบบมาเล่น ๆ เลย มันเหมือนกับเป็นอีกโหมดที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจอย่างอิสระ เรากำหนดได้เลยว่าจะให้มีคู่ต่อสู้กี่คน ใช้อาวุธอะไร เข้าโจมตีเราแบบไหน และกำหนดได้ด้วยว่าตัวละครของเรา จะปลดล็อคสกิลอะไรมาใช้งานได้บ้าง เอาง่าย ๆ คือเราทดลองทำทุกอย่างได้จากโหมดนี้ ทำให้เราศึกษาได้เลยว่า สกิลไหนเป็นประโยชน์ ปลดล็อคดีหรือไม่ดี


อีกฟีเจอร์ที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ชอบอวดชาวบ้านแบบเท่ ๆ ก็คือฟีเจอร์การเซฟภาพเป็น .gif โดยทุก ๆ ฉากที่เราเล่นจบและเคลียร์จบไปนั้น ตัวเกมจะเลือกฉากเด็ดให้เราเองโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็ทำเป็นภาพ .gif เอาไว้ให้ทุก ๆ การจบฉาก หากเราชื่นชอบซีนนั้น จะสามารถกดบันทึกภา่พ .gif ฉากนั้นเอาไว้ได้เลย โดยภาพ .gif จะถูกเซฟไว้ที่โฟลเดอร์ที่เราติดตั้งเกมของเราเอง สามารถนำไปอัปโหลดลงโซเชียล อวดเพื่อน ๆ กันได้ จริง ๆ ฟีเจอร์นี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะเกมที่เน้นความเท่ แอ็คชั่นเอามันอย่าง My Friend Pedro ก็ทำมาแล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่เจ๋งดี เวลาที่เราอยากอวดคนอื่น แต่ถ้าใครไม่ชอบ ก็ใช้วิธีอัดวิดีโอเอาไว้ แล้วไปแคปเจอร์ย้อนหลังเอาก็ได้ อาจจะยุ่งยากกว่า แต่จะได้ฉากที่ค่อนข้างชัวร์กว่าว่าเราเท่จริง

ด้วยปริมาณคอนเทนต์ของตัวเกมขนาดนี้ ต่อให้เป็นเกมอินดี้ แต่สามารถตอบโจทย์ความเป็นเกมแอ็คชั่นได้อย่างเต็มอิ่ม สำหรับราคา 289 บาทบน Steam นั้น ถือว่าไม่มากเกินเลย และยิ่งใครที่เล่นบน Xbox Game Pass ด้วยแล้ว มีแต่คำว่าคุ้มกับคุ้มจริง ๆ 

แอ็คชั่นแบบน็อนสตอป มันส์ระห่ำจนเมื่อยนิ้ว ปวดมือ


Midnight Fight Express จัดอยู่ในหมวดของเกม Beat 'em up ก็ว่าได้ แต่จะเป็น Beat 'em up ที่ใช้มุมกล้องจากด้านบน ออกแนว Isometric ในการนำเสนอ เราจะได้ควบคุมตัวละครไปได้ทุกทิศทาง ซ้าย ขวา หน้า หลัง และเกมนี้เป็นเกมแบบเส้นตรง ไม่ค่อยมีซอกซอยหรือความลับอะไรให้สำรวจมากสักเท่าไร แต่ว่าในเกมการเล่นของแต่ละฉากก็จะมี Challenge มีเงื่อนไขที่หากเราเก็บครบก็จะได้ของรางวัลเพิ่มขึ้นอยู่เหมือนกัน แต่ความแสบของเกมนี้คือ Challenge ต่าง ๆ ทั้งหมดของฉากนั้น จะไม่เปิดเผยในครั้งแรกที่เราได้เล่น แต่จะเปิดเผยก็ต่อเมื่อเราเล่นจบฉากนั้นไปแล้ว การทำแบบนี้ทำให้เกิดคุณค่าในการเล่นซ้ำขึ้น ซึ่งก็อยู่ที่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบกันสำหรับวิธีการเล่นซ้ำแบบนี้


แต่สำหรับเกมนี้สิ่งที่ต้องยอมรับว่าสนุกมาก เพราะนี่คือเกมแอ็คชั่นที่เราจะได้ซัดแหลก บู๊ยับกันแบบน็อนสต็อปต่อ 1 ด่าน รับรองว่ารัวจอยกันจนเมื่อยนิ้วไปข้างนึงเลยทีเดียว เงื่อนไขในการผ่านฉากต่าง ๆ ของเกมนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการถล่มคู่ต่อสู้จนหมดฉาก แต่ไฮไลท์ของมันคือการใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ของการต่อสู้ ตัวละคร Babyface ของเรา จะมีความสามารถที่คล้ายกัตัวละครจากหนังประเภท 1vs100 นั่นคือต่อให้ศัตรูจะขนกันมาทั้งกองทัพ คนเดียวเอาอยู่ อารมณ์ตอนเล่นจะไม่ต่างจาก John Wick เลย ยกเว้นแค่ตอนคุณไม่มีปืน เพราะเกมนี้ปืนจะมีให้เก็บเป็นบางช่วงเท่านั้น หลัก ๆ จะเน้นไปที่การเตะต่อยมากกว่า


ความสนุกของเกมนี้คือการที่เราจะต้องบู๊แบบไม่มียั้งของจริง นี่คือเกแอคชั่นบริสุทธิ์ที่คุณอาจจะหาจากเกมอื่นไม่ได้มานานมากแล้ว ตลอดทั้งเกม ตลอดทั้งฉาก คุณจะต้องสู้เพื่อผ่านไปเท่านั้น และความเข้มข้นของมันถูกนำเสนอออกมาผ่านการออกแบบศัตรูที่มีหลากหลายประเภท ผสมเข้ากับ Moveset การโจมตีของ Babyface ที่แรกเริ่มเดิมทีก็มีความสามารถรอบตัวอยู่แล้ว เกมยังมีระบบ Skill & Upgrade ให้เราได้เพิ่มความสามารถของ Babyface ให้โหดมากยิ่งขึ้นไปอีก แถมมาพร้อมลีลาท่ายากอีกมากมายที่ดูแล้วว้าวจนอยากไปหาหนังแอ็คชั่นมัน ๆ สักเรื่องดู ไม่ว่าจะเป็ฯการกลิ้งตัวกระโดดเตะ การสอยอัปปอร์คัท หรือการ Parry ในรูปแบบต่าง ๆ การจับศัตรูเหวี่ยง และอีกมากมาย


แต่เห็นตัวละครเราโหดขนาดนี้ อย่าคิดว่าเกมมันจะง่าย เพราะนี่อาจจะเป็ฯอีกหนึ่งเกมยากที่จะมาท้าทายความสามารถคุณเลยก็ได้ ในช่วงด่านแรก ๆ คุณอาจจะคิดว่า มันก็ง่ายดี ไม่มีอะไรท้าทายตรงไหน แต่เมื่อเข้าสู่สักช่วงด่านที่ 6 ขึ้นไป คราวนี้คุณจะได้พบเจอกับ "ของจริง" ศัตรูแต่ละตัวจะไม่ล้มด้วยหมัด 3-4 หมัดหรือการ Parry สวนกลับอีกต่อไป แถมบางตัวจะไม่สนการโจมตีของเรา สามารถสวนกลับเข้ามาได้ดื้อ ๆ บางตัวมีสกิลชนิด One Burst Kill หรือตีเรารัว ๆ จนตาย หากไม่ระวัง เอาแค่ช่วงต้นเกม ยังไม่พ้นด่าน 10 คุณก็ปาดเหงื่อ และปวดนิ้วจากการรัวจอย ทั้งหลบ ทั้ง Parry ทั้งสู้กลับแล้ว บางช่วงนี่แทบจะกลิ้งหลบกันเป็นเกม Souls เลยก็ว่าได้ 


สิ่งจำเป็นในการเล่นเกมนี้คือ "สติ" และ "คิดไว" ทุกครั้งที่ศัตรูปรากฎตัวออกมา เราต้องดูซ่าตัวไหนจัดการได้ไวที่สุด โค่นง่ายที่สุด แล้วรีบจัดการ ก่อนมันจะมากันเยอะจนไม่รู้จะสู้ยังไงนอกจากกลิ้งต่อย ๆ สกิลที่ปลดล็อคมาแล้วจะช่วยให้เรามีทางเลือกในการสู้มากขึ้น เช่นเตะของใส่ศัตรู กระโดดเข้าไปถึงตัวในระยะประชิด หรืออื่น ๆ อีกมากมาย และหากเราเลี้ยงคอมโบสะสมหลอด Rage จนเต็ม เราจะได้รับพลังโจมตีเพิ่มชั่วคราวที่จะช่วยเคลียร์ศัตรูได้ดีมาก แต่ปัญหาคือการสะสมหลอด Rage นี่แหละที่ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะเราต้องโค่นศัตรูให้ได้อย่างต่อเนื่อง หากโดนโจมตีขึ้นมา หลอดก็จะสะสมได้ช้าลง นอกจากนั้นระบบการสะสมคะแนนของเกมนี้ หากเราจัดการศัตรูไม่ทัน ตัวคูณคะแนนก็จะหายไป แต่การโดนโจมตีเพียง 1-2 ครั้ง จะไม่ถูกหักตัวคูณ ดังนั้นบางสถานการณ์ เราอาจจะต้องเสี่ยงเจ็บตัวเล็กน้อย เพื่อสะสมตัวคูณคะแนนและหลอด Rage เอาไว้


แม้ว่าจะเล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดได้ แต่ผู้เขียนแนะนำว่าให้ต่อจอยเล่นเกมนี้ดีกว่า เพราะจอยจะมีการควบคุมที่ลื่นไหลกว่า ด้วยจำนวนปุ่มที่อยู่ใกล้นิ้วมือของเรามากกว่าบนคีย์บอร์ด ทำให้การออกท่าทาง หรือปฏิกิริยาตอบสนองที่เรามีกับตัวเกม สามารถทำได้ง่ายกว่า แต่ใครอยากท้าทายความสามารถตัวเองด้วยเมาส์ คีย์บอร์ด ก็จัดไป เล่นได้เหมือนกัน แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้ชิน

นอกจากคอนเทนต์หลักของตัวเกมจะมีแต่การตะลุยด่านแบบเพียว ๆ แล้ว ตัวเกมยังมีการปรับแต่งตัวละครและสร้างตัวละครได้ โดยการเล่นจบในแต่ละฉาก หากทำ Challenge ต่าง ๆ ได้มากเท่าไร เราก็จะได้รับโบนัสเงินรางวัลได้มากขึ้นเท่านั้น แต่ประโยชน์อย่างเดียวของเงินในเกมนี้เลยก็คือการเอาไปปรับแต่งตัวละคร ปรับแต่งที่ว่า คือการปรับแต่งจริง ๆ เช่นการซื้อเสื้อผ้า อุปกรณ์แต่งกาย ของแต่งตัว ที่ทำให้ตัวละคร Babyface ของเรา มีเอกลัษณ์ในแบบที่เราอยากจะให้เป็น แม้จะดูไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไร แต่สำหรับใครที่เบื่อตัวละครแรกเริ่ม ก็ถือว่ามีอิสระมากพอสมควรในการสร้างตัวละครที่ใจต้องการ


Midnight Fight Express เป็นเกมแอ็คชั่นที่จะทำให้คุณอะดรีนาลีนสูบฉีดแทบจะตลอดเวลา ข้อเสียของมันซึ่งอาจจะไม่ใช่ข้อเสียด้วยคือ เล่นนานแล้วปวดมือ ปวดนิ้ว เพราะการรัวปุ่ม ถ้าจะให้แนะนำจริง ๆ ล่ะก็ เล่นจบสักด่านสองด่านก็พักบ้าง ยืดเส้นยืดสายบ้างจะได้ไม่ตึงหรืออ่อนล้าสะสม

ในแง่ของการซื้อ 289 บาท ต้องบอกว่ายังไงก็คุ้มค่ากับความมันส์ของตัวเกม แต่หากเล่นบน Xbox Game Pass ก็ยิ่งคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งเกมอินดี้คุณภาพสูงที่เราอยากแนะนำว่าไม่ควรพลาด ถ้าจะมีข้อเสีย ก็คือมันอาจไม่ใช่เกมที่ทุกคนจะเอ็นจอยได้ กับการบู๊ล้างผลาญแบบถอดสมองเท่านั้น 

Midnight Fight Express วางจำหน่ายแล้ววันนี้ บน PC และ Console


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header