GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
รีวิวเกม
รีวิว Apex Legends : Arena Mode เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องสู้แบบ 3 Vs 3!
ลงวันที่ 22/04/2021

เปิดตัวกันแล้วอย่างน่าตื่นเต้นสำหรับโหมดใหม่ในเกม Apex Legends อย่าง Arena Mode ที่มาพร้อมกับรูปแบบเกมเพลย์ใหม่แบบ 3 Vs 3 โดยเตรียมเปิดให้เล่นพร้อมกันวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 พร้อมกับเริ่ม Season 9 ที่มีการเพิ่มทั้งตัวละครใหม่ และอาวุธใหม่อย่างธนูเข้ามา 

ต้องขอบคุณทาง EA ที่ให้โอกาสพวกเรา GameFever Th ได้มีโอกาสได้เข้าไปทดลองเล่นโหมดดังกล่าวก่อนในวันที่ 22 เมษายน 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ และรายละเอียดของโหมดนี้ พร้อมกับวิธีเล่นยังไงให้ได้เปรียบมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย


Arena เป็นโหมดแบบไหน

ในโหมดนี้ผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นสองทีมแบบ 3 Vs 3 สามารถเลือกตัวละครที่ชอบได้ตามปกติ แต่จะต่างตรงที่ว่าเกมไม่ได้เริ่มที่ฉากกระโดดลงจากยาน แต่เริ่มในหน้าซื้อของ ที่ให้ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะเริ่มต้นในแต่ละรอบด้วยอาวุธปืนชิ้นไหน พร้อมกับ Mod อะไรบ้าง โดยใช้ Materials (แร่สำหรับ Craft Mod ปืนในเกมปกติ) ในการซื้อ ยิ่งปืนเก่งเท่าไหร่ ใส่ Mod ระดับสูงขนาดไหน ก็ยิ่งจำเป็นต้องจ่าย Materials มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าในโหมดนี้มียาแบบเดียวกับโหมด BR แต่ก็จำเป็นต้องใช้ Materials ในการซื้อเช่นกัน

ในส่วนของสกิลจะไม่สามารถใช้ได้เรื่อยๆ โดยต้องรอ Cooldown หลังจากใช้เหมือนกับโหมด Battle Royale ในโหมดนี้แต่ละตัวจะมีข้อจำกัดในการใช้สกิลของตัวเองอยู่ ซึ่งสามารถซื่อเพิ่มได้โดยการจ่าย materials รวมถึงสกิลท่าไม้ตายที่ก็จำเป็นต้องใช้ Materials ซื้อเช่นกัน บางสกิลที่มีผลต่อการต่อสู้มากๆ อย่าง Bangalore จะไม่สามารถซื้อใช้งานสองรอบติดๆ กันได้ 


จุดแตกต่างของโหมด Arena กับเกม FPS อื่นๆ ที่มีในตลาดคือ ทุกๆ รอบตัวละครจะเกิดมาพร้อมกับเกราะ และหมวกเลย ซึ่งเกราะจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนรอบที่ผ่านไป แต่ขอให้เข้าใจว่าอาวุธปืนที่ผู้เล่นถือเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนวิธีการหา Materials ในแต่ละรอบจะเหมือนกับ FPS ชื่อดังในตลาดเลย แต่ต่างตรงที่ในการเล่นแต่ละรอบภายในด่านจะมี Materials  ให้เก็บสำหรับใช้ในรอบต่อไปด้วย โดยจะส่งผลทั้งทีม (ต่อให้ฆ่าไม่ได้เลย และแพ้ด้วย ถ้าเก็บ Materials ได้เยอะก็เงินซื้อของในรอบต่อไปเยอะนั้นเอง) โดยในโหมดนี้ไม่สามารถเก็บปืนเอาไว้ใช้สำหรับรอบต่อไปได้ ทุกครั้งที่เริ่มรอบจำเป็นต้องซื้อใหม่เสมอ ดังนั้นจะเอา Materials ไปซื้ออะไรบ้างต้องคิดดีๆ

ในโหมดนี้จะมีการบีบวงต่อสู้ให้เล็กลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับโหมด BR และมีการใส่กล่อง กับ Airdrop เข้าไปในด่านด้วย โดยต้องบอกเลยว่าวงของโหมดนี้แรงมากๆ ถ้าวิ่งเข้าไม่ทันตายได้ง่ายๆ เลย ส่วนภายในกล่องจะมีการใส่ของจำพวกยาเอาไว้ไปถึงก่อน ส่วน Airdrop จะเป็นอาวุธปืนสามช่องเสมอ สามารถออกบ้านตัวเปล่าไปรอเก็บปืนจาก Airdrop ได้ แต่ขอให้เข้าใจว่าตรงจุดดังกล่าวอาจต้องปะทะกับศัตรูที่เข้ามารอเก็บได้เช่นกัน 


สนุกรึเปล่า?

ด้วยขนาดของด่านที่ไม่ใหญ่มาก (ฺประมาณ 4-5 เท่า ของระยะสแกน Bloodhound) บวกกับการที่มีการบีบวงต่อสู้ให้เล็กลง ทำให้การปะทะในแต่ละรอบ มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปสุ่ม RNG ว่าจะได้ใช้ปืนอะไรบ้าง แต่ละรอบการเล่นมันจึงเหมือนได้วัดฝีมือกับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่แพ้ก็รู้สึกว่าแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี เวลาที่ชนะก็รู้สึกได้ถึงความหอมหวานของการอยู่เหนือกว่า กล่าวคือเป็นโหมดที่เกิดมาเพื่อเหล่าเกมมอร์ที่ชอบการแข่งขันอย่างแท้จริง อีกทั้งในแต่ละรอบการเล่นยังใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับเอาไว้เล่นแก้เบื่อ หรือรอเพื่อนๆ ไปเล่นโหมด BR ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ในส่วนของความหลากหลายด่าน อาจยังเป็นข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของโหมดนี้ ในรอบทดสอบโหมด Arena มีด่านให้เล่นเพียง 3 ด่านเท่านั้น กล่าวคือความหลากหลายยังน้อยเกินไปหน่อยในตอนนี้ แต่ผู้พัฒนาได้สัญญาว่าจะมีการเพิ่มด่านใหม่ๆ เข้ามาให้เราเล่นด้วยอย่างแน่นอน


อะไรคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชนะ? 

เนื่องจากรูปแบบการเล่นในโหมดนี้จะแตกต่างจาก BR พอสมควร ส่งผลให้วิธีเล่นให้ชนะแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน ในหัวข้อสุดท้ายนี้ผมจะขอพูดถึงสิ่งที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้เปรียบในการเล่นแผนที่นี้ โดยจริงๆ มันเริ่มตั้งแต่ตอนเลือกตัวละครเลยครับ เพราะจะมี Legends อยู่ประมาณ 2 - 3 กลุ่มที่ถ้าหากว่าทีมมีแล้วจะทำให้ได้เปรียบพอสมควร


กลุ่มตัวที่หาตำแหน่งอีกฝ่ายได้ (Bloodhound,  Crypto)

แม้ว่าขนาดของแผนที่จะไม่ใหญ่มากในโหมดนี้ แต่ยังไงการหาตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ก่อนก็เป็นอะไรที่สร้างความได้เปรียบให้กับทีมได้มากๆ อยู่ดี โดยเฉพาะ Crypto ที่สามารถระเบิดเกราะของอีกฝ่ายได้ด้วย EMP ของเขา ส่วน Bloodhound ก็ใช้สกิลสแกนของเขาช่วยได้เยอะมากๆ เลยเช่นกัน เท่าที่ได้เล่นมา การมีสองตัวนี้ กับไม่มีทำให้เล่นยากกว่าพอสมควรเลย ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามหยิบให้มีทุกเกมไว้ครับ 


กลุ่มตัวที่ย้ายตำแหน่งได้เร็ว (Octane,  Bangalore,   Wraith, Pathfinder, Horizon, Valkyrie)

ไม่ใช่ทุกครั้งที่เมื่อดวลปืนกันแล้วเราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เมื่อรู้ว่าสู้ไม่ได้ควรหาที่หลบเพื่อเติมเลือด ดังนั้นการที่ตัวละครสามารถเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองได้เร็วๆ จึงมีผลช่วยสร้างความได้เปรียบเยอะมาก ทั้งจังหวะ Hit and Run และการปะทะแบบ Hard Engage ทำให้ตัวละครทั้ง 6 ที่ผมกล่าวมา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแนวหน้าของทีม ที่ต้องปะทะกับศัตรูตลอดเวลา ไม่ว่าจะในฐานะตัวล่อ หรือตัวทำดาเมหลัก


กลุ่มตัวที่สร้างความวุ้นวายได้ (Caustic, Fuse) 

ยิ่งสร้างความวุ่นวายได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างจังหวะยิงแบบฟรีๆ ให้กับทีมได้มากเท่านั้น Caustic ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก แต่อาจจำเป็นต้องทำความเข้าใจแผนที่ของโหมดก่อนจึงจะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน Fuse จะเก่งมากๆ ในโหมดนี้หากซื้อสกิลไม้ตายมา เนื่องจากสามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของศัตรูพร้อมกับบังสายตาได้ในเวลาเดียวกัน

อย่ามองข้ามระเบิดในโหมดนี้   

เนื่องจาก Materials มีอย่างจำกัดในการซื้อปืนดีๆ มาใช้ ทำให้หลายคนอาจมองข้ามการซื้อระเบิดมาขว้างเพื่อสร้างความได้เปรียบเวลาปะทะ ซึ่งจริงๆ แล้วการซื้อปืนดีๆ หนึ่งกระบอก และไปรอเก็บอีกกระบอกจาก Air Drop เอา โดยเอาเงินที่เหลือไปซื้อยา กับระเบิด จะช่วยสร้างความได้เปรียบได้มากกว่าในจังหวะปะทะครับ ดังนั้นถ้าหาก Materials ผมอยากแนะนำให้ซื้อระเบิดติดตัวไว้ด้วย โดยเฉพาะกงจักรไฟฟ้า กับระเบิดไฟ


สุดท้ายยังไงโหมด Arena ก็เป็นโหมดที่เน้นปะทะ ไม่เน้นฟาร์มสุดท้ายจริงๆ แล้วสิ่งที่กำหนดว่าทีมไหนจะชนะก็คือฝีมือการยิงปืนของเพื่อนๆ เอง แม้ว่าตัวละครกับระเบิด จะช่วยให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้นจริง แต่มันก็ยังไม่เพียงจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายหมด หากยิงไม่โดนเลยครับ ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ทำให้เพื่อนๆ ชนะมากขึ้นสักเล็กน้อยผมก็ดีใจมากๆ แล้ว!

บทความที่คล้ายกัน

GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
รีวิว Apex Legends : Arena Mode เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องสู้แบบ 3 Vs 3!
22/04/2021

เปิดตัวกันแล้วอย่างน่าตื่นเต้นสำหรับโหมดใหม่ในเกม Apex Legends อย่าง Arena Mode ที่มาพร้อมกับรูปแบบเกมเพลย์ใหม่แบบ 3 Vs 3 โดยเตรียมเปิดให้เล่นพร้อมกันวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 พร้อมกับเริ่ม Season 9 ที่มีการเพิ่มทั้งตัวละครใหม่ และอาวุธใหม่อย่างธนูเข้ามา 

ต้องขอบคุณทาง EA ที่ให้โอกาสพวกเรา GameFever Th ได้มีโอกาสได้เข้าไปทดลองเล่นโหมดดังกล่าวก่อนในวันที่ 22 เมษายน 2021 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ และรายละเอียดของโหมดนี้ พร้อมกับวิธีเล่นยังไงให้ได้เปรียบมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย


Arena เป็นโหมดแบบไหน

ในโหมดนี้ผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นสองทีมแบบ 3 Vs 3 สามารถเลือกตัวละครที่ชอบได้ตามปกติ แต่จะต่างตรงที่ว่าเกมไม่ได้เริ่มที่ฉากกระโดดลงจากยาน แต่เริ่มในหน้าซื้อของ ที่ให้ผู้เล่นเลือกได้ว่าจะเริ่มต้นในแต่ละรอบด้วยอาวุธปืนชิ้นไหน พร้อมกับ Mod อะไรบ้าง โดยใช้ Materials (แร่สำหรับ Craft Mod ปืนในเกมปกติ) ในการซื้อ ยิ่งปืนเก่งเท่าไหร่ ใส่ Mod ระดับสูงขนาดไหน ก็ยิ่งจำเป็นต้องจ่าย Materials มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าในโหมดนี้มียาแบบเดียวกับโหมด BR แต่ก็จำเป็นต้องใช้ Materials ในการซื้อเช่นกัน

ในส่วนของสกิลจะไม่สามารถใช้ได้เรื่อยๆ โดยต้องรอ Cooldown หลังจากใช้เหมือนกับโหมด Battle Royale ในโหมดนี้แต่ละตัวจะมีข้อจำกัดในการใช้สกิลของตัวเองอยู่ ซึ่งสามารถซื่อเพิ่มได้โดยการจ่าย materials รวมถึงสกิลท่าไม้ตายที่ก็จำเป็นต้องใช้ Materials ซื้อเช่นกัน บางสกิลที่มีผลต่อการต่อสู้มากๆ อย่าง Bangalore จะไม่สามารถซื้อใช้งานสองรอบติดๆ กันได้ 


จุดแตกต่างของโหมด Arena กับเกม FPS อื่นๆ ที่มีในตลาดคือ ทุกๆ รอบตัวละครจะเกิดมาพร้อมกับเกราะ และหมวกเลย ซึ่งเกราะจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนรอบที่ผ่านไป แต่ขอให้เข้าใจว่าอาวุธปืนที่ผู้เล่นถือเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนวิธีการหา Materials ในแต่ละรอบจะเหมือนกับ FPS ชื่อดังในตลาดเลย แต่ต่างตรงที่ในการเล่นแต่ละรอบภายในด่านจะมี Materials  ให้เก็บสำหรับใช้ในรอบต่อไปด้วย โดยจะส่งผลทั้งทีม (ต่อให้ฆ่าไม่ได้เลย และแพ้ด้วย ถ้าเก็บ Materials ได้เยอะก็เงินซื้อของในรอบต่อไปเยอะนั้นเอง) โดยในโหมดนี้ไม่สามารถเก็บปืนเอาไว้ใช้สำหรับรอบต่อไปได้ ทุกครั้งที่เริ่มรอบจำเป็นต้องซื้อใหม่เสมอ ดังนั้นจะเอา Materials ไปซื้ออะไรบ้างต้องคิดดีๆ

ในโหมดนี้จะมีการบีบวงต่อสู้ให้เล็กลงเรื่อยๆ เช่นเดียวกับโหมด BR และมีการใส่กล่อง กับ Airdrop เข้าไปในด่านด้วย โดยต้องบอกเลยว่าวงของโหมดนี้แรงมากๆ ถ้าวิ่งเข้าไม่ทันตายได้ง่ายๆ เลย ส่วนภายในกล่องจะมีการใส่ของจำพวกยาเอาไว้ไปถึงก่อน ส่วน Airdrop จะเป็นอาวุธปืนสามช่องเสมอ สามารถออกบ้านตัวเปล่าไปรอเก็บปืนจาก Airdrop ได้ แต่ขอให้เข้าใจว่าตรงจุดดังกล่าวอาจต้องปะทะกับศัตรูที่เข้ามารอเก็บได้เช่นกัน 


สนุกรึเปล่า?

ด้วยขนาดของด่านที่ไม่ใหญ่มาก (ฺประมาณ 4-5 เท่า ของระยะสแกน Bloodhound) บวกกับการที่มีการบีบวงต่อสู้ให้เล็กลง ทำให้การปะทะในแต่ละรอบ มักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปสุ่ม RNG ว่าจะได้ใช้ปืนอะไรบ้าง แต่ละรอบการเล่นมันจึงเหมือนได้วัดฝีมือกับอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่แพ้ก็รู้สึกว่าแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี เวลาที่ชนะก็รู้สึกได้ถึงความหอมหวานของการอยู่เหนือกว่า กล่าวคือเป็นโหมดที่เกิดมาเพื่อเหล่าเกมมอร์ที่ชอบการแข่งขันอย่างแท้จริง อีกทั้งในแต่ละรอบการเล่นยังใช้เวลาไม่นาน เหมาะสำหรับเอาไว้เล่นแก้เบื่อ หรือรอเพื่อนๆ ไปเล่นโหมด BR ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ในส่วนของความหลากหลายด่าน อาจยังเป็นข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของโหมดนี้ ในรอบทดสอบโหมด Arena มีด่านให้เล่นเพียง 3 ด่านเท่านั้น กล่าวคือความหลากหลายยังน้อยเกินไปหน่อยในตอนนี้ แต่ผู้พัฒนาได้สัญญาว่าจะมีการเพิ่มด่านใหม่ๆ เข้ามาให้เราเล่นด้วยอย่างแน่นอน


อะไรคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชนะ? 

เนื่องจากรูปแบบการเล่นในโหมดนี้จะแตกต่างจาก BR พอสมควร ส่งผลให้วิธีเล่นให้ชนะแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน ในหัวข้อสุดท้ายนี้ผมจะขอพูดถึงสิ่งที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้เปรียบในการเล่นแผนที่นี้ โดยจริงๆ มันเริ่มตั้งแต่ตอนเลือกตัวละครเลยครับ เพราะจะมี Legends อยู่ประมาณ 2 - 3 กลุ่มที่ถ้าหากว่าทีมมีแล้วจะทำให้ได้เปรียบพอสมควร


กลุ่มตัวที่หาตำแหน่งอีกฝ่ายได้ (Bloodhound,  Crypto)

แม้ว่าขนาดของแผนที่จะไม่ใหญ่มากในโหมดนี้ แต่ยังไงการหาตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ก่อนก็เป็นอะไรที่สร้างความได้เปรียบให้กับทีมได้มากๆ อยู่ดี โดยเฉพาะ Crypto ที่สามารถระเบิดเกราะของอีกฝ่ายได้ด้วย EMP ของเขา ส่วน Bloodhound ก็ใช้สกิลสแกนของเขาช่วยได้เยอะมากๆ เลยเช่นกัน เท่าที่ได้เล่นมา การมีสองตัวนี้ กับไม่มีทำให้เล่นยากกว่าพอสมควรเลย ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามหยิบให้มีทุกเกมไว้ครับ 


กลุ่มตัวที่ย้ายตำแหน่งได้เร็ว (Octane,  Bangalore,   Wraith, Pathfinder, Horizon, Valkyrie)

ไม่ใช่ทุกครั้งที่เมื่อดวลปืนกันแล้วเราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ เมื่อรู้ว่าสู้ไม่ได้ควรหาที่หลบเพื่อเติมเลือด ดังนั้นการที่ตัวละครสามารถเปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองได้เร็วๆ จึงมีผลช่วยสร้างความได้เปรียบเยอะมาก ทั้งจังหวะ Hit and Run และการปะทะแบบ Hard Engage ทำให้ตัวละครทั้ง 6 ที่ผมกล่าวมา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแนวหน้าของทีม ที่ต้องปะทะกับศัตรูตลอดเวลา ไม่ว่าจะในฐานะตัวล่อ หรือตัวทำดาเมหลัก


กลุ่มตัวที่สร้างความวุ้นวายได้ (Caustic, Fuse) 

ยิ่งสร้างความวุ่นวายได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างจังหวะยิงแบบฟรีๆ ให้กับทีมได้มากเท่านั้น Caustic ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมาก แต่อาจจำเป็นต้องทำความเข้าใจแผนที่ของโหมดก่อนจึงจะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน Fuse จะเก่งมากๆ ในโหมดนี้หากซื้อสกิลไม้ตายมา เนื่องจากสามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของศัตรูพร้อมกับบังสายตาได้ในเวลาเดียวกัน

อย่ามองข้ามระเบิดในโหมดนี้   

เนื่องจาก Materials มีอย่างจำกัดในการซื้อปืนดีๆ มาใช้ ทำให้หลายคนอาจมองข้ามการซื้อระเบิดมาขว้างเพื่อสร้างความได้เปรียบเวลาปะทะ ซึ่งจริงๆ แล้วการซื้อปืนดีๆ หนึ่งกระบอก และไปรอเก็บอีกกระบอกจาก Air Drop เอา โดยเอาเงินที่เหลือไปซื้อยา กับระเบิด จะช่วยสร้างความได้เปรียบได้มากกว่าในจังหวะปะทะครับ ดังนั้นถ้าหาก Materials ผมอยากแนะนำให้ซื้อระเบิดติดตัวไว้ด้วย โดยเฉพาะกงจักรไฟฟ้า กับระเบิดไฟ


สุดท้ายยังไงโหมด Arena ก็เป็นโหมดที่เน้นปะทะ ไม่เน้นฟาร์มสุดท้ายจริงๆ แล้วสิ่งที่กำหนดว่าทีมไหนจะชนะก็คือฝีมือการยิงปืนของเพื่อนๆ เอง แม้ว่าตัวละครกับระเบิด จะช่วยให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้นจริง แต่มันก็ยังไม่เพียงจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายหมด หากยิงไม่โดนเลยครับ ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ทำให้เพื่อนๆ ชนะมากขึ้นสักเล็กน้อยผมก็ดีใจมากๆ แล้ว!


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header