GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
[บทความ] ส่องประวัติ FromSoftware ผู้ให้กำเนิดเกมตระกูล Souls ที่สร้างมาตรฐานความยากให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก"
ลงวันที่ 23/02/2022

ในยุคนี้หากพูดถึงค่าย FromSoftware คงมีเกมเมอร์น้อยรายนักที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของสตูดิโอที่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานมหากาพย์ความยากที่คอยเสิร์ฟความทรมานให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก


บ่อยครั้งที่เมื่อเราพูดถึงความยากในเกม สิ่งหนึ่งที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานก็คือ “มันยากเท่า Dark Souls ไหม?” 


ซึ่งหากว่ากันตามตรงแล้ว เกมที่ยากยิ่งกว่าเกมตระกูล Souls นั้นมีอีกมากมาย ทว่าตัวเกมตระกูล Souls จากค่ายสัญชาติญี่ปุ่นค่ายนี้ สามารถเข้าถึงผู้คนทั่วไปได้ง่ายกว่าเกมอื่น ๆ ที่มันยากกว่านั่นเอง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาเกมเมอร์อยากจะพูดถึงความยาก พวกเขาจึงมักจะหยิบยก Dark Souls มาเสมอ เพราะมันทำให้ทุกคนสามารถนึกภาพตามได้ง่าย และทำให้เข้าใจตรงกันว่า อืม มันคือความยากในระดับนี้แหละ


แน่นอนว่า คนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการพัฒนาตัวเกมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ FromSoftware ที่เรากล่าวถึงไปข้างต้น และหากจะให้เจาะจงไปกว่านั้น มันก็คือฝีมือของชายที่ชื่อว่า Hidetaka Miyazaki ที่นั่งแท่นผู้กำกับเกมตระกูล Souls ทั้งหลายจนทำให้ FromSoftware ประสบความสำเร็จจวบจนถึงปัจจุบัน


และในบทความนี้ เราจะมาย้อนรอยบริษัท FromSoftware กันว่า ก่อนที่พวกเขาจะสามารถขึ้นมาเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ประจำวงการเกมได้ พวกเขาเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง


จุดเริ่มต้นคือบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ไม่ใช่พัฒนาเกมแบบทุกวันนี้


ย้อนกลับไปในปี 1986 นั่นคือปีแรกที่บริษัท FromSoftware ได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก โดยจุดมุ่งหมายและธุรกิจที่ทางบริษัททำในยุคนั้นก็คือการรับพัฒนาแอปพลิเคชัน ไปจนถึงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในเชิงธุรกิจนั่นเอง


จนกระทั่งมาถึงปี 1994 เป็นช่วงปีเดียวกันกับทาง Sony ที่เริ่มวางจำหน่าย PlayStation รุ่นแรกพอดิบพอดี ในยุคนั้นเครื่องเกมส่วนใหญ่มันจะใช้ตลับ (cartridge) ในการบรรจุเกมลงไปให้กับผู้บริโภค แต่ทาง PlayStation กลับเลือกที่จะริเริ่มใช้แผ่นดิสก์เป็นเจ้าแรก ๆ ประจวบเหมาะกับทาง FromSoftware ที่มักจะใช้ดิสก์ในการทำงานกันอยู่แล้ว ทางบริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสเหมาะในการลงทุนตรงนี้ พวกเขาจึงได้พัฒนาเกมแรกของบริษัทออกมา ภายใต้ชื่อ ‘King’s Field’ และวางจำหน่ายมันให้กับชาวญี่ปุ่นได้เล่นกัน เพียง 13 วันหลังจากเครื่อง PlayStation วางจำหน่ายเท่านั้น


King's Field (2000) - PC Gameplay / Win 10 - YouTube


ถึงแม้ King’s Field จะไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างเท่ากับเกมตระกูล Souls แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ เนื้อแท้ของพวกมันแทบจะไม่ต่างกันเลย ด้วยความยากระดับสูงที่ไม่ปราณีกับผู้เล่น แถมตัวเกมยังเน้นระบบการต่อสู้มากกว่าการเล่าเรื่อง ดังนั้นหากจะพูดว่า King’s Field คือ Dark Souls ผู้มาก่อนกาลก็คงไม่ผิดมากนัก


ทั้งนี้ King’s Field ภาคแรกได้วางจำหน่ายแค่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยความนิยมที่ล้นหลาม ภาค 2 และ 3 จึงได้เริ่มส่งออกสู่ต่างประเทศ ทว่าภายในต่างประเทศนั้น กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าภายในประเทศญี่ปุ่น


เริ่มมีชื่อเสียงจากเกมแนวหุ่นรบ


ชื่อของ FromSoftware ยังคงไม่คุ้นหูกับชาวต่างชาติมากนัก จนกระทั่งการมาถึงของ Armored Core ในปี 1997 หนึ่งในเกมแนวหุ่นรบ (Mech) ที่สร้างออกมาได้ล้ำยุคมากในสมัยนั้น ด้วยจุดเด่นที่ระบบการต่อสู้แบบรวดเร็ว สะใจ บวกกับการปรับแต่งหุ่นได้หลากหลายรูปแบบ แม้ด้านเนื้อเรื่องจะยังคงอ่อนแอเหมือนเดิม แต่ชื่อของ Armored Core ก็ได้แพร่สะพัดสู่หูของเกมเมอร์ทั่วโลกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว


Armored Core 2 (PS2) Gameplay (PCSX2 Footage) - YouTube


ต่อมาในปี 1999 ทาง FromSoftware ได้ลองของใหม่ กับการเปิดตัวเกมแนว Survival Horror เกมแรกของทางค่ายในชื่อ Echonight แม้ตัวเกมอาจจะไม่ได้นำเสนออะไรใหม่มากนัก แต่เกมนี้ได้สร้างอีกหนึ่งรากฐานให้กับเกมต่อ ๆ มา นั่นก็คือฉากจบที่หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่น ไปจนถึงบรรยากาศความอึมครึมปนสยอง ที่ได้ถูกนำมาสานต่อในอีกหลายเกมต่อจากนี้


และในปี 2000 ทาง FromSoftware ก็ยังคงเชื่อมั่นในของ Sony พวกเขาได้เข้าร่วมตลาดซอฟต์แวร์ PlayStation 2 อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งวางขาย Eternal Ring เป็นครั้งแรก ด้านตัวเกมนั้นมีรีวิวที่ผสมปนเปกันไป เกมเมอร์บางคนชื่นชมในเรื่องกราฟิกที่สวยงาม แถมเนื้อเรื่องที่มีพัฒนาการมากขึ้น แต่บางคนก็กล่าวว่านี่มันคือ King’s Field ที่อัปเกรดภาพให้สวยขึ้น แถมเพิ่มเวทมนตร์เข้าไปเท่านั้นเองนี่หว่า จึงทำให้เกมนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก


จนมาถึงในปี 2002 นี่เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทได้เริ่มพัฒนาเกมให้กับเครื่อง GameCube ของ Nintendo และเครื่อง Xbox ของ Microsoft นับว่าเป็นครั้งแรกที่ FromSoftware เริ่มพัฒนาเกมของตัวเองบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ช่วยขยายฐานแฟนเกมของพวกเขาให้กว้างไปยิ่งขึ้น


ในปีเดียวกันนั้นทางค่ายยังได้วางขาย Armored Core 2 อีกด้วย ซึ่งในภาคนี้ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลกไม่ต่างจากภาคแรก ด้วยระบบต่อสู้ที่ยังคงรวดเร็ว สะใจดังเดิม พ่วงมาด้วยระบบการปรับแต่งหุ่นรบดั่งใจนึก ตบท้ายด้วยภาพกราฟิกที่เรียกได้ว่าเป็นชั้นแถวหน้าในยุคนั้นเลย


จุดเริ่มต้นของผู้พัฒนามือทองผู้จะพลิกโฉมหน้าของบริษัทและวงการเกม


เมื่อย่างเข้าสู่ปี 2004 ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า นี่จะเป็นอีกหนึ่งปีที่จะถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ของทางบริษัท เพราะชายที่ได้สร้างตำนานเกมแห่งความยากอย่าง Hidetaka Miyazaki ได้ยื่นใบสมัครเข้าสู่บริษัท FromSoftware ในตำแหน่งนักออกแบบเกมเป็นครั้งแรก


Sekiro creator Hidetaka Miyazaki on future of gaming: 'I love throwing down  the gauntlet with new tech'


หากจะย้อนกลับไปสักหน่อย เดิม Hidetaka Miyazaki เคยเป็นพนักงานบริษัททั่วไป เขาใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมีเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเขาได้นำเกม ICO มาให้เขาได้ลองเล่น ซึ่งเกมนั้นมันได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล Miyazaki ได้รับรู้ถึงความทรงพลัง และความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดที่วิดีโอเกมสามารถทำได้เหนือกว่าสื่ออื่น ๆ และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เป้าหมายในชีวิตของเขา ก็คือการทำเกมที่จะเทียบเท่า หรือเหนือยิ่งกว่า ICO นั่นเอง


ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจจริงของ Miyazaki เขาจึงได้นั่งแท่นตำแหน่ง Project Manager ของเกมชื่อดังของค่ายอย่าง Armored core last raven ด้วยความรวดเร็ว และหลังจากนั้น เขาก็ยังได้นั่งแท่น Director ของ Armored Core 4 และ Armored Core: For Answer อีกด้วย




ต่อกันที่ในปี 2009 ตัว Miyazaki เริ่มได้รับความไว้วางใจจากบริษัทมากขึ้น จนเขาริเริ่มที่จะอยากลองทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน นั่นก็คือ การนำเอาโปรเจกต์ที่เคยล้มเหลวไปแล้ว ขุดขึ้นมาพัฒนาใหม่ให้สำเร็จ แน่นอนว่าด้วยผลงานที่เขาเคยทำไว้ จึงทำให้ทาง FromSoftware อนุญาตให้เขาลองทำอย่างว่าง่าย เพราะแต่เดิมนั้นหากเขาทำพลาดมันก็ไม่ได้มีใครที่คาดหวังกับโปรเจกต์นี้สักเท่าไหร่ แต่ในทางกลับกัน ตัวของ Miyazaki กลับมองว่าถ้าเขาสามารถทำสำเร็จได้ นี่จะเป็นอีกหนึ่งขั้นบันไดที่ช่วยให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น


และผลลัพธ์ของโปรเจกต์ที่ไม่มีใครเชื่อมั่นนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของตำนานเกม Action-RPG ที่จะมาบัญญัติแนวเกมของตัวเองขึ้นใหม่อย่าง Demon's Souls นั่นเอง


ในตอนแรกตัวเกม Demon's Souls เปิดตัวได้ไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก แต่ด้วยเสียงบอกเล่าแบบปากต่อปากของบรรดาเกมเมอร์ในแดนปลาดิบถึงความยากที่นรกแตก บวกกับความสนุกในระบบต่อสู้ จึงทำให้เกมมียอดขายที่กระเตื้องขึ้นมาบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นทาง Sony ก็ปฏิเสธที่จะวางจำหน่ายเกมนี้ในระดับนานาชาติอยู่ดี ร้อนไปถึงทาง Atlus ได้เข้ามารับช่วงต่อในการเผยแพร่เกม Demon's Souls สู่สายตาของนานาชาติ และท้ายที่สุดสิทธิ์ในการวางขายทั่วโลกก็ตกไปอยู่ในมือของ Bandai Namco อีกที ซึ่งตัวเกมปฐมบทของซีรีส์ Souls เกมนี้ ได้เริ่มจุดเชื้อไฟ และวางฐานแฟนคลับทั่วโลกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


DARK SOULS™: Prepare To Die™ Edition บน Steam


เวลาผ่านเลยไปจนกระทั่งเข้าสู่ปี 2011 ซึ่งคือปีที่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของ FromSoftware ไปตลอดกาล จากค่ายพัฒนาเกมระดับกลางที่พอจะมีชื่อเสียงแค่ภายในญี่ปุ่น กลับกลายเป็นหนึ่งในสตูดิโอพัฒนาเกมที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ และถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเกมระดับแนวหน้าของโลกปัจจุบัน เพราะนี่คือปีที่ Dark Souls ภาคแรกออกวางจำหน่ายนั่นเอง


ด้วยความยาก ความสนุก ไปจนถึงเนื้อเรื่องที่เล่าออกมาแบบให้ผู้เล่นสืบค้นเอง จึงทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกต่างติดพัน ชนิดที่วางกันแทบไม่ลง และมันยังได้เป็นอีกต้นกำเนิดแนวเกม (Genre) ใหม่ขึ้นในวงการวิดีโอเกมอีกด้วย โดยประเภทนั้นจะถูกเรียกกันติดปากว่า Soulslike หรือแปลตรงตัวว่า "เกมเสมือน Souls" ซึ่งมักใช้เรียกเกมแอ็กชันที่มีความยากแสนสาหัส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมตระกูลนี้


Dark Souls ภาคแรก เป็นหนึ่งในเกมที่ทำยอดขายขึ้นหิ้งของ Bandai Namco ไปโดยปริยาย ด้วยยอดขายถึง 13 ล้านชุดทั่วโลก ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ที่บอกว่าไอเดียสุดมาโซคิสต์ของ Miyazaki นั้นใช้ได้ดีกับเกมแนวแอ็กชันผจญภัยทำนองนี้มากแค่ไหน


มาถึงในปี 2014 ทาง FromSoftware ได้ปล่อยตัวเกม Dark Souls 2 ออกมา ทว่าในภาคนี้ทาง Miyazaki กลับไม่ได้รับหน้าที่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการพัฒนาเลย แต่เป็นผลงานกำกับของ Tomohiro Shibuya และ Yui Tanimura แทน โดยแม้จะไร้เงาของ Miyazaki แต่ตัวเกม Dark Souls 2 ก็ยังพอทำยอดขายได้บ้างถึง 2.5 ล้านชุด แต่ทว่ามันคงไม่ได้ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมมากเท่าไรนัก เพราะหากเราลองไปถามแฟนเกม Dark Souls แล้ว คงมีน้อยคนนักที่จะบอกว่าชอบภาค 2 มากที่สุด


ถึงจะเป็นใหญ่ แต่ก็ไม่เคยทิ้งสิ่งที่ใฝ่ฝัน


การปล่อยมือของ Miyazaki ใน Dark Souls 2 ได้ส่งผลตอบแทนอย่างไม่คาดคิดในรูปแบบของผลงาน Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ในชื่อ Bloodborne ซึ่งจะกลับมาตอกย้ำว่าแนวเกม Soulslike ที่คุณ Miyazaki ให้กำเนิดนั้น ยังสามารถเติบโตและวิวัฒนาการไปได้อีกมาก


Bloodborne™


ภายในเกมนี้ เขาได้ใส่สิ่งที่ตัวเองชอบลงไปแบบจัดเต็ม ทั้งแนวคิด Great Old One ของ H. P. Lovecraft การปูฉากหลังของเรื่องให้ดูมืดมนและเข้มข้นตามแบบฉบับ George R. R. Martin ไปจนถึงการใช้เรื่องราว และงานศิลป์ในยุคกลางที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Dracula ของ Bram Stoker


ด้วยการต่อสู้ที่รวดเร็ว ดุดันยิ่งกว่าเกมตระกูล Souls ภาคที่แล้ว ๆ มา ซึ่งคงเสน่ห์ทั้งหมดของเกมต้นตระกูลเอาไว้ได้ พร้อมกับนำเสนอองค์ประกอบใหม่ ๆ ที่ทำให้เกมยังคงมีตัวตนของตัวเองที่แตกต่างจาก Dark Souls อย่างชัดเจน จึงทำให้หลายคนถึงกับยกให้ Bloodborne เป็นเกม Soulslike ที่พวกเขาชื่นชอบที่สุดกันเลยทีเดียว


Dark Souls: A Masterclass in Game Design - Obilisk


ย่างเข้าสู่ปี 2016 Miyazaki ได้กลับมาสานต่อสิ่งที่ตัวเองเริ่มเอาไว้ นั่นคือการนั่งแท่นผู้กำกับของเกม Dark Souls 3 

หากใครได้ลองสัมผัสกับตัวเกมทั้ง 3 ภาค คุณน่าจะพอรู้ว่าเกมนั้นค่อนข้างมีเซอร์ไพรส์ที่ทำให้แฟน ๆ จากภาคแรกต้องยิ้มกันแทบไม่หุบ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการจากลาอย่างสวยงามสำหรับซีรีส์เกมที่มีแฟน ๆ รักไปทั่วโลก


และจากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา รวมไปถึงการปิดฉากไตรภาคอันสวยงาม จึงทำให้ Miyazaki ได้เลื่อนขั้นจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในฐานะนักออกแบบเกมคนหนึ่งในทีม กลายเป็นหนึ่งในประธาน (President) ของค่ายพัฒนา FromSoftware ไปโดยไร้เสียงคัดค้าน


Review] Sekiro: Shadow Die Twice เมื่อความตายคือบทเรียนของคุณ - #beartai


ถึงจะกลายเป็นประธานแล้ว แต่ความฝันของ Miyazaki ก็ยังคงดำเนินต่อไป ในปี 2019 เขาได้นั่งแท่นกำกับเกม Sekiro: Shadow Die Twice ซึ่งเป็นเกม Soulslike เกมแรกของ Miyazaki ที่นำเสนอฉากหลังออกมาในธีมตะวันออก แทนเกมก่อน ๆ ของเขาที่มักจะมุ่งเน้นไปในธีมตะวันตกเสียมากกว่า 


ด้วยระบบแปลกใหม่อย่าง Posture ที่ให้รางวัลสำหรับผู้เล่นที่ปัดป้องได้ การตัดระบบ Stamina ออกไป และระบบใหม่ที่ให้ผู้เล่นตายได้สองครั้งตามชื่อเกม นี่จึงทำให้ตัวเกมซัดความยากที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิมใส่ผู้เล่นได้ไม่ยั้ง อีกทั้งการเล่าเรื่องภายในเกมนี้นับว่าย่อยง่ายยิ่งกว่าเกมที่ผ่านมา ๆ ของตัว Miyazaki เอง ทั้งหมดนี้จึงทำให้ Sekiro: Shadow Die Twice สามารถทำยอดขายสูงถึง 2 ล้านชุดหลังวางขายได้เพียง 10 วันเท่านั้น และยังกวาดรางวัลสาขาต่าง ๆ จากแทบทุกเวที รวมไปถึงรางวัล "Game of the Year" (เกมแห่งปี) จากเวทีประกาศรางวัลใหญ่ The Game Awards 2019 โดยเป็นเกมจากผู้พัฒนาญี่ปุ่นเกมแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวไปเลยทีเดียว


แม้จะโลดแล่นในวงการเกมมากว่า 18 ปี แล้ว แต่ดูเหมือนเชื้อไฟในการทำเกมที่จะเทียบเคียง ICO ได้ของเขาจะยังไม่หมดไป Miyazaki กลับมาพร้อมเกมใหม่ ที่สร้างปรากฎการณ์ Hype ไปทั่วโลกอย่าง Elden Ring ที่สามารถกวาดรางวัลต่าง ๆ ไปได้รวมถึง 8 รางวัล ตั้งแต่ตัวเกมยังไม่ออก และได้รับขนานนามให้เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับคะแนนรีวิวเฉลี่ยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้วในขณะนี้


ชัดเจนว่าผู้พัฒนา FromSoftware ภายใต้การนำของคุณ Miyazaki ยังมีของดีมาให้แฟนเกมอย่างเราได้เชยชมกันไปอีกนาน


Urgent Notice – ELDEN RING Closed Network Test – BANDAI NAMCO Entertainment  Asia


แหล่งข้อมูล: https://www.youtube.com/watch?v=xPFmZQh9t-8&ab_channel=NPCGamingGroup 

https://en.wikipedia.org/wiki/FromSoftware 

https://youtu.be/ZaT8177T_T0 

https://www.ign.com/articles/2015/03/16/the-history-of-from-software 



GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[บทความ] ส่องประวัติ FromSoftware ผู้ให้กำเนิดเกมตระกูล Souls ที่สร้างมาตรฐานความยากให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก"
23/02/2022

ในยุคนี้หากพูดถึงค่าย FromSoftware คงมีเกมเมอร์น้อยรายนักที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของสตูดิโอที่เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานมหากาพย์ความยากที่คอยเสิร์ฟความทรมานให้กับเกมเมอร์ทั่วโลก


บ่อยครั้งที่เมื่อเราพูดถึงความยากในเกม สิ่งหนึ่งที่จะใช้เป็นบรรทัดฐานก็คือ “มันยากเท่า Dark Souls ไหม?” 


ซึ่งหากว่ากันตามตรงแล้ว เกมที่ยากยิ่งกว่าเกมตระกูล Souls นั้นมีอีกมากมาย ทว่าตัวเกมตระกูล Souls จากค่ายสัญชาติญี่ปุ่นค่ายนี้ สามารถเข้าถึงผู้คนทั่วไปได้ง่ายกว่าเกมอื่น ๆ ที่มันยากกว่านั่นเอง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เวลาเกมเมอร์อยากจะพูดถึงความยาก พวกเขาจึงมักจะหยิบยก Dark Souls มาเสมอ เพราะมันทำให้ทุกคนสามารถนึกภาพตามได้ง่าย และทำให้เข้าใจตรงกันว่า อืม มันคือความยากในระดับนี้แหละ


แน่นอนว่า คนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการพัฒนาตัวเกมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ FromSoftware ที่เรากล่าวถึงไปข้างต้น และหากจะให้เจาะจงไปกว่านั้น มันก็คือฝีมือของชายที่ชื่อว่า Hidetaka Miyazaki ที่นั่งแท่นผู้กำกับเกมตระกูล Souls ทั้งหลายจนทำให้ FromSoftware ประสบความสำเร็จจวบจนถึงปัจจุบัน


และในบทความนี้ เราจะมาย้อนรอยบริษัท FromSoftware กันว่า ก่อนที่พวกเขาจะสามารถขึ้นมาเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ประจำวงการเกมได้ พวกเขาเคยผ่านอะไรกันมาบ้าง


จุดเริ่มต้นคือบริษัทรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ไม่ใช่พัฒนาเกมแบบทุกวันนี้


ย้อนกลับไปในปี 1986 นั่นคือปีแรกที่บริษัท FromSoftware ได้ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก โดยจุดมุ่งหมายและธุรกิจที่ทางบริษัททำในยุคนั้นก็คือการรับพัฒนาแอปพลิเคชัน ไปจนถึงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในเชิงธุรกิจนั่นเอง


จนกระทั่งมาถึงปี 1994 เป็นช่วงปีเดียวกันกับทาง Sony ที่เริ่มวางจำหน่าย PlayStation รุ่นแรกพอดิบพอดี ในยุคนั้นเครื่องเกมส่วนใหญ่มันจะใช้ตลับ (cartridge) ในการบรรจุเกมลงไปให้กับผู้บริโภค แต่ทาง PlayStation กลับเลือกที่จะริเริ่มใช้แผ่นดิสก์เป็นเจ้าแรก ๆ ประจวบเหมาะกับทาง FromSoftware ที่มักจะใช้ดิสก์ในการทำงานกันอยู่แล้ว ทางบริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสเหมาะในการลงทุนตรงนี้ พวกเขาจึงได้พัฒนาเกมแรกของบริษัทออกมา ภายใต้ชื่อ ‘King’s Field’ และวางจำหน่ายมันให้กับชาวญี่ปุ่นได้เล่นกัน เพียง 13 วันหลังจากเครื่อง PlayStation วางจำหน่ายเท่านั้น


King's Field (2000) - PC Gameplay / Win 10 - YouTube


ถึงแม้ King’s Field จะไม่ได้รับความนิยมในวงกว้างเท่ากับเกมตระกูล Souls แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ เนื้อแท้ของพวกมันแทบจะไม่ต่างกันเลย ด้วยความยากระดับสูงที่ไม่ปราณีกับผู้เล่น แถมตัวเกมยังเน้นระบบการต่อสู้มากกว่าการเล่าเรื่อง ดังนั้นหากจะพูดว่า King’s Field คือ Dark Souls ผู้มาก่อนกาลก็คงไม่ผิดมากนัก


ทั้งนี้ King’s Field ภาคแรกได้วางจำหน่ายแค่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น แต่ด้วยความนิยมที่ล้นหลาม ภาค 2 และ 3 จึงได้เริ่มส่งออกสู่ต่างประเทศ ทว่าภายในต่างประเทศนั้น กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าภายในประเทศญี่ปุ่น


เริ่มมีชื่อเสียงจากเกมแนวหุ่นรบ


ชื่อของ FromSoftware ยังคงไม่คุ้นหูกับชาวต่างชาติมากนัก จนกระทั่งการมาถึงของ Armored Core ในปี 1997 หนึ่งในเกมแนวหุ่นรบ (Mech) ที่สร้างออกมาได้ล้ำยุคมากในสมัยนั้น ด้วยจุดเด่นที่ระบบการต่อสู้แบบรวดเร็ว สะใจ บวกกับการปรับแต่งหุ่นได้หลากหลายรูปแบบ แม้ด้านเนื้อเรื่องจะยังคงอ่อนแอเหมือนเดิม แต่ชื่อของ Armored Core ก็ได้แพร่สะพัดสู่หูของเกมเมอร์ทั่วโลกภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว


Armored Core 2 (PS2) Gameplay (PCSX2 Footage) - YouTube


ต่อมาในปี 1999 ทาง FromSoftware ได้ลองของใหม่ กับการเปิดตัวเกมแนว Survival Horror เกมแรกของทางค่ายในชื่อ Echonight แม้ตัวเกมอาจจะไม่ได้นำเสนออะไรใหม่มากนัก แต่เกมนี้ได้สร้างอีกหนึ่งรากฐานให้กับเกมต่อ ๆ มา นั่นก็คือฉากจบที่หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่น ไปจนถึงบรรยากาศความอึมครึมปนสยอง ที่ได้ถูกนำมาสานต่อในอีกหลายเกมต่อจากนี้


และในปี 2000 ทาง FromSoftware ก็ยังคงเชื่อมั่นในของ Sony พวกเขาได้เข้าร่วมตลาดซอฟต์แวร์ PlayStation 2 อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งวางขาย Eternal Ring เป็นครั้งแรก ด้านตัวเกมนั้นมีรีวิวที่ผสมปนเปกันไป เกมเมอร์บางคนชื่นชมในเรื่องกราฟิกที่สวยงาม แถมเนื้อเรื่องที่มีพัฒนาการมากขึ้น แต่บางคนก็กล่าวว่านี่มันคือ King’s Field ที่อัปเกรดภาพให้สวยขึ้น แถมเพิ่มเวทมนตร์เข้าไปเท่านั้นเองนี่หว่า จึงทำให้เกมนี้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก


จนมาถึงในปี 2002 นี่เป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทได้เริ่มพัฒนาเกมให้กับเครื่อง GameCube ของ Nintendo และเครื่อง Xbox ของ Microsoft นับว่าเป็นครั้งแรกที่ FromSoftware เริ่มพัฒนาเกมของตัวเองบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ช่วยขยายฐานแฟนเกมของพวกเขาให้กว้างไปยิ่งขึ้น


ในปีเดียวกันนั้นทางค่ายยังได้วางขาย Armored Core 2 อีกด้วย ซึ่งในภาคนี้ก็ได้รับความนิยมไปทั่วโลกไม่ต่างจากภาคแรก ด้วยระบบต่อสู้ที่ยังคงรวดเร็ว สะใจดังเดิม พ่วงมาด้วยระบบการปรับแต่งหุ่นรบดั่งใจนึก ตบท้ายด้วยภาพกราฟิกที่เรียกได้ว่าเป็นชั้นแถวหน้าในยุคนั้นเลย


จุดเริ่มต้นของผู้พัฒนามือทองผู้จะพลิกโฉมหน้าของบริษัทและวงการเกม


เมื่อย่างเข้าสู่ปี 2004 ในตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า นี่จะเป็นอีกหนึ่งปีที่จะถูกจารึกลงในหน้าประวัติศาสตร์ของทางบริษัท เพราะชายที่ได้สร้างตำนานเกมแห่งความยากอย่าง Hidetaka Miyazaki ได้ยื่นใบสมัครเข้าสู่บริษัท FromSoftware ในตำแหน่งนักออกแบบเกมเป็นครั้งแรก


Sekiro creator Hidetaka Miyazaki on future of gaming: 'I love throwing down  the gauntlet with new tech'


หากจะย้อนกลับไปสักหน่อย เดิม Hidetaka Miyazaki เคยเป็นพนักงานบริษัททั่วไป เขาใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมีเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเขาได้นำเกม ICO มาให้เขาได้ลองเล่น ซึ่งเกมนั้นมันได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล Miyazaki ได้รับรู้ถึงความทรงพลัง และความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดที่วิดีโอเกมสามารถทำได้เหนือกว่าสื่ออื่น ๆ และนับแต่นั้นเป็นต้นมา เป้าหมายในชีวิตของเขา ก็คือการทำเกมที่จะเทียบเท่า หรือเหนือยิ่งกว่า ICO นั่นเอง


ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจจริงของ Miyazaki เขาจึงได้นั่งแท่นตำแหน่ง Project Manager ของเกมชื่อดังของค่ายอย่าง Armored core last raven ด้วยความรวดเร็ว และหลังจากนั้น เขาก็ยังได้นั่งแท่น Director ของ Armored Core 4 และ Armored Core: For Answer อีกด้วย




ต่อกันที่ในปี 2009 ตัว Miyazaki เริ่มได้รับความไว้วางใจจากบริษัทมากขึ้น จนเขาริเริ่มที่จะอยากลองทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน นั่นก็คือ การนำเอาโปรเจกต์ที่เคยล้มเหลวไปแล้ว ขุดขึ้นมาพัฒนาใหม่ให้สำเร็จ แน่นอนว่าด้วยผลงานที่เขาเคยทำไว้ จึงทำให้ทาง FromSoftware อนุญาตให้เขาลองทำอย่างว่าง่าย เพราะแต่เดิมนั้นหากเขาทำพลาดมันก็ไม่ได้มีใครที่คาดหวังกับโปรเจกต์นี้สักเท่าไหร่ แต่ในทางกลับกัน ตัวของ Miyazaki กลับมองว่าถ้าเขาสามารถทำสำเร็จได้ นี่จะเป็นอีกหนึ่งขั้นบันไดที่ช่วยให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น


และผลลัพธ์ของโปรเจกต์ที่ไม่มีใครเชื่อมั่นนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของตำนานเกม Action-RPG ที่จะมาบัญญัติแนวเกมของตัวเองขึ้นใหม่อย่าง Demon's Souls นั่นเอง


ในตอนแรกตัวเกม Demon's Souls เปิดตัวได้ไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก แต่ด้วยเสียงบอกเล่าแบบปากต่อปากของบรรดาเกมเมอร์ในแดนปลาดิบถึงความยากที่นรกแตก บวกกับความสนุกในระบบต่อสู้ จึงทำให้เกมมียอดขายที่กระเตื้องขึ้นมาบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นทาง Sony ก็ปฏิเสธที่จะวางจำหน่ายเกมนี้ในระดับนานาชาติอยู่ดี ร้อนไปถึงทาง Atlus ได้เข้ามารับช่วงต่อในการเผยแพร่เกม Demon's Souls สู่สายตาของนานาชาติ และท้ายที่สุดสิทธิ์ในการวางขายทั่วโลกก็ตกไปอยู่ในมือของ Bandai Namco อีกที ซึ่งตัวเกมปฐมบทของซีรีส์ Souls เกมนี้ ได้เริ่มจุดเชื้อไฟ และวางฐานแฟนคลับทั่วโลกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


DARK SOULS™: Prepare To Die™ Edition บน Steam


เวลาผ่านเลยไปจนกระทั่งเข้าสู่ปี 2011 ซึ่งคือปีที่ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของ FromSoftware ไปตลอดกาล จากค่ายพัฒนาเกมระดับกลางที่พอจะมีชื่อเสียงแค่ภายในญี่ปุ่น กลับกลายเป็นหนึ่งในสตูดิโอพัฒนาเกมที่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ และถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาเกมระดับแนวหน้าของโลกปัจจุบัน เพราะนี่คือปีที่ Dark Souls ภาคแรกออกวางจำหน่ายนั่นเอง


ด้วยความยาก ความสนุก ไปจนถึงเนื้อเรื่องที่เล่าออกมาแบบให้ผู้เล่นสืบค้นเอง จึงทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกต่างติดพัน ชนิดที่วางกันแทบไม่ลง และมันยังได้เป็นอีกต้นกำเนิดแนวเกม (Genre) ใหม่ขึ้นในวงการวิดีโอเกมอีกด้วย โดยประเภทนั้นจะถูกเรียกกันติดปากว่า Soulslike หรือแปลตรงตัวว่า "เกมเสมือน Souls" ซึ่งมักใช้เรียกเกมแอ็กชันที่มีความยากแสนสาหัส ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมตระกูลนี้


Dark Souls ภาคแรก เป็นหนึ่งในเกมที่ทำยอดขายขึ้นหิ้งของ Bandai Namco ไปโดยปริยาย ด้วยยอดขายถึง 13 ล้านชุดทั่วโลก ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ที่บอกว่าไอเดียสุดมาโซคิสต์ของ Miyazaki นั้นใช้ได้ดีกับเกมแนวแอ็กชันผจญภัยทำนองนี้มากแค่ไหน


มาถึงในปี 2014 ทาง FromSoftware ได้ปล่อยตัวเกม Dark Souls 2 ออกมา ทว่าในภาคนี้ทาง Miyazaki กลับไม่ได้รับหน้าที่เกี่ยวข้องใด ๆ กับการพัฒนาเลย แต่เป็นผลงานกำกับของ Tomohiro Shibuya และ Yui Tanimura แทน โดยแม้จะไร้เงาของ Miyazaki แต่ตัวเกม Dark Souls 2 ก็ยังพอทำยอดขายได้บ้างถึง 2.5 ล้านชุด แต่ทว่ามันคงไม่ได้ถือเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมมากเท่าไรนัก เพราะหากเราลองไปถามแฟนเกม Dark Souls แล้ว คงมีน้อยคนนักที่จะบอกว่าชอบภาค 2 มากที่สุด


ถึงจะเป็นใหญ่ แต่ก็ไม่เคยทิ้งสิ่งที่ใฝ่ฝัน


การปล่อยมือของ Miyazaki ใน Dark Souls 2 ได้ส่งผลตอบแทนอย่างไม่คาดคิดในรูปแบบของผลงาน Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ในชื่อ Bloodborne ซึ่งจะกลับมาตอกย้ำว่าแนวเกม Soulslike ที่คุณ Miyazaki ให้กำเนิดนั้น ยังสามารถเติบโตและวิวัฒนาการไปได้อีกมาก


Bloodborne™


ภายในเกมนี้ เขาได้ใส่สิ่งที่ตัวเองชอบลงไปแบบจัดเต็ม ทั้งแนวคิด Great Old One ของ H. P. Lovecraft การปูฉากหลังของเรื่องให้ดูมืดมนและเข้มข้นตามแบบฉบับ George R. R. Martin ไปจนถึงการใช้เรื่องราว และงานศิลป์ในยุคกลางที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Dracula ของ Bram Stoker


ด้วยการต่อสู้ที่รวดเร็ว ดุดันยิ่งกว่าเกมตระกูล Souls ภาคที่แล้ว ๆ มา ซึ่งคงเสน่ห์ทั้งหมดของเกมต้นตระกูลเอาไว้ได้ พร้อมกับนำเสนอองค์ประกอบใหม่ ๆ ที่ทำให้เกมยังคงมีตัวตนของตัวเองที่แตกต่างจาก Dark Souls อย่างชัดเจน จึงทำให้หลายคนถึงกับยกให้ Bloodborne เป็นเกม Soulslike ที่พวกเขาชื่นชอบที่สุดกันเลยทีเดียว


Dark Souls: A Masterclass in Game Design - Obilisk


ย่างเข้าสู่ปี 2016 Miyazaki ได้กลับมาสานต่อสิ่งที่ตัวเองเริ่มเอาไว้ นั่นคือการนั่งแท่นผู้กำกับของเกม Dark Souls 3 

หากใครได้ลองสัมผัสกับตัวเกมทั้ง 3 ภาค คุณน่าจะพอรู้ว่าเกมนั้นค่อนข้างมีเซอร์ไพรส์ที่ทำให้แฟน ๆ จากภาคแรกต้องยิ้มกันแทบไม่หุบ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งการจากลาอย่างสวยงามสำหรับซีรีส์เกมที่มีแฟน ๆ รักไปทั่วโลก


และจากผลงานทั้งหมดที่ผ่านมา รวมไปถึงการปิดฉากไตรภาคอันสวยงาม จึงทำให้ Miyazaki ได้เลื่อนขั้นจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในฐานะนักออกแบบเกมคนหนึ่งในทีม กลายเป็นหนึ่งในประธาน (President) ของค่ายพัฒนา FromSoftware ไปโดยไร้เสียงคัดค้าน


Review] Sekiro: Shadow Die Twice เมื่อความตายคือบทเรียนของคุณ - #beartai


ถึงจะกลายเป็นประธานแล้ว แต่ความฝันของ Miyazaki ก็ยังคงดำเนินต่อไป ในปี 2019 เขาได้นั่งแท่นกำกับเกม Sekiro: Shadow Die Twice ซึ่งเป็นเกม Soulslike เกมแรกของ Miyazaki ที่นำเสนอฉากหลังออกมาในธีมตะวันออก แทนเกมก่อน ๆ ของเขาที่มักจะมุ่งเน้นไปในธีมตะวันตกเสียมากกว่า 


ด้วยระบบแปลกใหม่อย่าง Posture ที่ให้รางวัลสำหรับผู้เล่นที่ปัดป้องได้ การตัดระบบ Stamina ออกไป และระบบใหม่ที่ให้ผู้เล่นตายได้สองครั้งตามชื่อเกม นี่จึงทำให้ตัวเกมซัดความยากที่หนักหน่วงยิ่งกว่าเดิมใส่ผู้เล่นได้ไม่ยั้ง อีกทั้งการเล่าเรื่องภายในเกมนี้นับว่าย่อยง่ายยิ่งกว่าเกมที่ผ่านมา ๆ ของตัว Miyazaki เอง ทั้งหมดนี้จึงทำให้ Sekiro: Shadow Die Twice สามารถทำยอดขายสูงถึง 2 ล้านชุดหลังวางขายได้เพียง 10 วันเท่านั้น และยังกวาดรางวัลสาขาต่าง ๆ จากแทบทุกเวที รวมไปถึงรางวัล "Game of the Year" (เกมแห่งปี) จากเวทีประกาศรางวัลใหญ่ The Game Awards 2019 โดยเป็นเกมจากผู้พัฒนาญี่ปุ่นเกมแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวไปเลยทีเดียว


แม้จะโลดแล่นในวงการเกมมากว่า 18 ปี แล้ว แต่ดูเหมือนเชื้อไฟในการทำเกมที่จะเทียบเคียง ICO ได้ของเขาจะยังไม่หมดไป Miyazaki กลับมาพร้อมเกมใหม่ ที่สร้างปรากฎการณ์ Hype ไปทั่วโลกอย่าง Elden Ring ที่สามารถกวาดรางวัลต่าง ๆ ไปได้รวมถึง 8 รางวัล ตั้งแต่ตัวเกมยังไม่ออก และได้รับขนานนามให้เป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับคะแนนรีวิวเฉลี่ยสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ไปแล้วในขณะนี้


ชัดเจนว่าผู้พัฒนา FromSoftware ภายใต้การนำของคุณ Miyazaki ยังมีของดีมาให้แฟนเกมอย่างเราได้เชยชมกันไปอีกนาน


Urgent Notice – ELDEN RING Closed Network Test – BANDAI NAMCO Entertainment  Asia


แหล่งข้อมูล: https://www.youtube.com/watch?v=xPFmZQh9t-8&ab_channel=NPCGamingGroup 

https://en.wikipedia.org/wiki/FromSoftware 

https://youtu.be/ZaT8177T_T0 

https://www.ign.com/articles/2015/03/16/the-history-of-from-software 



บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header