หากใครที่เล่นเกมแนว RPG Strategy, Defend Tower อย่างเกม Counter: Side ที่กำลังมาแรงในบ้านเราขณะนี้ ก็ขอให้รู้ไว้ว่าเนื้อเรื่องภายในเกมนั้นเข้มข้น ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เพื่อนทรยศ จัดได้ว่าสามารถเอาเนื้อเรื่องมาทำเป็นอนิเมชั่นหรือภาพยนต์ชั้นดีได้เลยทีเดียว

บทความนี้จะเป็นการสรุปเนื้อเรื่องส่วนเสริมของเกม Counter: Side โดยเนื้อเรื่องเสริมนี้มีชื่อว่า 'นิทานของสาวน้อยกับทหารรับจ้าง' ซึ่งขอเตือนมา ณ ที่นี้เลยว่า หากใครที่เพิ่งได้เล่นเกมนี้แล้วอยากเล่นเอง สามารถข้ามบทความนี้แล้วกลับมาย้อนดูทีหลังได้ หรือใครที่อ่อนไหวต่อความรู้สึก อ่อนไหวทางอารมณ์ โปรดตั้งสติในการรับชมบทความ...หากพร้อมแล้ว จะเริ่มสรุปเนื้อหา ณ บัดนี้

======================================

Act 1...

Mas-03: เมนโดซ่าเกา, ทางเข้ารอบนอก - 14:05:38

เออร์เรกกิวลาร์สเกาต์ R7, บริษัทอุตสาหกรรมเหมืองฟินลีย์

CSE ระดับ 2

เรื่องเนื้อเรื่องช่วงนี้ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างเนื้อเรื่องหลัก Episode ที่ 1 และ Episode ที่ 2 หรืออยู่ในเหตุการณ์ก่อนเนื้อเรื่อง Episode ที่ 2 เป็นเรื่องราวของกลุ่มทหารรับจ้าง เออร์เรกกิวลาร์สเกาต์ R7 ประกอบด้วย เอ็ดดี้ที่เป็นหัวหน้าทหารรับจ้าง และสมาชิกอีกสองคนคือชาร์ลีและเจสซิก้า พร้อมคนขับรถตัวประกอบหนึ่งคน ซึ่งทั้งสามก็ได้รับภารกิจจากนายจ้างคนหนึ่งที่ค่อนข้างจะขี้เหนียวพอตัวให้มาลาดตระเวณเพื่อสำรวจพื้นที่ค้นหาทรัพยากร โดยพวกเขานั่งรถ Armoured Personnel Carrier หรือรถยานเกราะส่วนบุคคล APC มาถึงพื้นที่ภารกิจ ทั้งสามก็จะบ่นเรื่องรายได้ที่ไม่ค่อยสวยนัก แต่ว่าก็ยังรับงานนี้เพื่อประทังชีวิต สมาชิกก็มีการตัดเพ้อว่าหากได้เป็นเคาท์เตอร์ก็คงได้อยู่กับบริษัทใหญ่ ๆ ได้งานดีๆ ได้เงินเยอะๆ แต่เอ็ดดี้ก็พูดขึ้นว่า มันก็มีกรณีเคาท์เตอร์บางคนก็ยาจกหรือแม้กระทั่งเป็นพวกไร้บ้านก็มี จนกระทั่งได้มีการปะทะต่อสู้เกิดขึ้นกับพวกวัตถุคอร์รัปต์

เมื่อปะทะกับพวกวัตถุคอร์รัปต์จนล่าถอย ก็ทำให้คนขับรถ APC เสียชีวิตจากการถูกพวกมันโจมตี รถเสียหาย และที่ร้ายยิ่งกว่าคือ พวกมันเป็นแค่หน่วยลาดตระเวณแถมวิทยุสื่อสารก็พังยับ ทำให้เอ็ดดี้ตัดสินใจสั่งเจสซิก้าให้ไปซ่อมวิทยุ ส่วนเขากับชาร์ลีจะถ่วงเวลาไว้ให้เพื่อเตรียมวิทยุแจ้งสถานะการณ์กับทางนายจ้างและข้อความช่วยเหลือจากภายนอก

ระหว่างที่ต้านทานพวกวัตถุคอร์รัปต์อยู่นั้น ก็เพิ่งคิดได้ว่าหากพวกนี้มาบุกโจมตีพวกเขา นั้นหมายความว่าเหล่าเคาท์เตอร์ที่รับจ้างและลาดตระเวณอยู่อีกฝั่งไกลๆ น่าจะต้องรู้ตัวและเข้าปะทะกับพวกนี้ก่อน น่าจะเสียชีวิตหมดแล้วจึงกรู่เข้ามาโจมตีพวกเขาต่อ และยิ่งทำให้ทั้งสามสิ้นหวังมากกว่าเดิมคือ กำลังหลักพวกวัตถุคอร์รัปต์ได้กรู่เข้ามาแล้ว ทำให้โอกาสรอดของทั้งสามคนแทบจะเป็นศูนย์

แต่ทว่าด้วยความโชคดี ก็มีเคาท์เตอร์สาวน้อยหัวขาวปริศนาวิ่งเข้ามาจากอีกฝั่งไม่พูดพร่ำมากมายจัดการเหล่าวัตถุคอร์รัปตือย่างง่ายดาย ก่อนที่สาวน้อยปริศนาจะเดินจากไป ทำให้เอ็ดดี้ตัดสินใจที่จะสั่งให้สมาชิกตามเธอไปพร้อมกับเอาวิทยุมาด้วยเพื่อซ่อมให้ใช้การให้ได้ระหว่างเดินตาม เพราะว่าเธอเป็นถึงเคาท์เตอร์ ถึงจะทำตัวแปลกๆ แต่ก็ช่วยให้รอดจากพวกวัตถุคอร์รัปต์นี้ได้แน่นอน

ระหว่างที่ทั้งสามเดินตามไปเรื่อย ๆ เอ็ดดี้ก็พยายามพูดคุยซักถามว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่ก็ไร้คำพูดใด ๆ จนกระทั่งเธอหยุดเดิน ทั้งสามก็คงคิดว่าเหนื่อยแล้วแต่แท้จริง เด็กสาวปริศนาก็ได้พูดขึ้นมาสั้น ๆ ว่า 'พวกมันมาแล้ว' นั้นเป็นเพราะเธอมีความสามารถด้านการรับกลิ่นที่ไวเป็นพิเศษ โดยสามารถรับกลิ่นของพวกวัตถุคอร์รัปต์ได้ดี จึงไหวตัวทันและพร้อมปะทะกับศัตรูที่เข้ามา ทำให้เอ็ดดี้จึงสั่งการสมาชิกในทีมเตรียมเข้าต่อสู้สนับสนุนเคาท์เตอร์เด็กสาวคนนี้

เมื่อเสร็จสิ้นการปะทะ ก็ทำให้คนทั้งหมดได้พักหายใจอีกครั้ง คราวนี้วิทยุก็กลับมาใช้การได้อีกครั้ง เอ็ดดี้จึงติดต่อนายจ้างของเขา และเขาก็ได้พูดเชิงรู้ทันว่า ภารกิจที่เขาถูกส่งมาที่ห่างไกลแบบนี้เพราะว่าเขาไม่ได้มาแค่ลาดตระเวณหาทรัพยากรที่ต้องการทั่ว ๆ ไป จะต้องหาของสำคัญอย่างแน่นอน เพราะถึงขั้นต้องจ้างเคาท์เตอร์มาตายหรือแม้กระทั่งการใช้รถ APC ในการเดินทางและไหนจะเจอพวกวัตถุคอร์รัปต์ที่โจมตีเป็นระเบียบแบบแผน แต่เอ็ดดี้ไม่ได้คิดจะล้มเลิกภารกิจเพียงแค่นายจ้างปิดบังหรือบอกรายละเอียดภารกิจไม่หมด โดยข้อเสนอว่า ถ้าทำภารกิจให้ลุล่วงก็จ่ายในระดับเดียวกับพวกเคาท์เตอร์ซึ่งเงินค่าจ้างสูงมาก แต่หากได้ของที่ต้องการมามูลค่าก็มหาศาลแล้ว แต่หากเขาตายก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ซึ่งทั้งสองก็เป็นอันตกลงพร้อมให้พูดคุยเรื่องรายละเอียดภารกิจที่แท้จริง

แน่นอนว่า เขาได้รับข้อมูลภารกิจที่แท้จริงคือ การเข้ามาหาแร่ Eternium ที่ยังไม่มีการถูกค้นพบอย่างเป็นทางการในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งแน่นอนหากพบเจอก็หมายความว่าจะรวยมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต เพราะมูลค่าของมันสูงมากแถมเมื่อยังไม่มีการค้นพบเจอ ก็ย่อมหมายถึงจำนวนของแร่นั้นจะมีให้ตักตวงอย่างมหาศาล และนั้นเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกวัตถุคอร์รัปต์เข้ามาโจมตีอย่างมีแบบแผนเพื่อปกป้องแร่พวกนี้เหมือนกัน ภารกิจของพวกเขาคือ ค้นหาให้เจอและแจ้งพิกัดก่อนนายจ้างจะส่งคนไปรับ ซึ่งงานนี้เอ็ดดี้ตั้งใจจะใช้เด็กสาวเคาท์เตอร์คนนี้มายืมแรงในการต่อสู้กับศัตรูแบบฟรี ๆ เพราะเธอนั้นไม่สนใจค่าจ้างอะไรทั้งนั้นนอกจากการฆ่าวัตถุคอร์รัปต์ และก็ทำให้เอ็ดดี้ได้สังเกตุ Watch หรืออุปกรณ์ติดตัวสำหรับเหล่าเคาท์เตอร์ซึ่งของเธอนั้นมีแสงสีแดงส่องตลอดเวลา ทำให้เอ็ดดี้รู้ว่าเธอคนนี้คือออร์ก้า ตามเรื่องเล่าในหมู่ทหารรับจ้างว่ากันว่า เป็นเคาท์เตอร์เร่ร่อนที่จะออกไล่ฆ่าวัตถุคอร์รัปต์โดยไม่สนใจสิ่งใด และหากตายขึ้นมา Watch ก็จะหลุดออกจากตัวและรอคอยถูกรับนามออร์ก้าคนใหม่ และก็จะไล่ฆ่าไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อตกกลางคืน ทั้งสี่คนก็ต้องพักผ่อนหลังจากการต่อสู้จากพวกวัตถุคอร์รัปต์ ซึ่งแน่นอนว่าออร์ก้าจะไม่หยุดล่าจนกว่าร่างกายจะใช้การไม่ได้และตายลง เอ็ดดี้จึงต้องใช้วิธีหลอกล่อและสร้างความเชื่อใจจนในที่สุดออร์ก้าก็ยอมหลับพักผ่อน เพราะเอ็ดดี้จะไม่ยอมเสียคนมีฝีมือในการทำภารกิจนี้ไม่ได้ อีกทั้งออร์ก้ามีเป้าหมายชัดเจนคือการไล่ฆ่าวัตถุคอร์รัปต์อย่างเดียว ฉะนั้นเอ็ดดี้จึงใช้จุดนี้ทำให้ออร์ก้าเชื่อฟังเขานั้นเอง และค่ำคืนนี้ก็จบลง

Act 2...

7.00 นาฬิกา เขตเมือง, ตำแหน่งส่งเสบียง

ออร์ก้า, เออร์เรกกิวลาร์สเกาต์ R7

CSE ระดับ 2

เช้าวันต่อมา ทหารรับจ้างทั้งสามและออร์ก้า เคาท์เตอร์เร่ร่อนก็ได้นั่งทานข้าวกัน โดยเหล่าทหารรับจ้างก็นั่งวงล้อมต่างพูดคุยว่าวันนี้จะทำอย่างไรต่อดี เอ็ดดี้จึงบอกว่าเราจะหาอะไหล่สำหรับการซ่อมแซมรถ APC ที่ทิ้งไว้เมื่อวานเพราะต้องการพาหนะในการเดินทางเพื่อไปยังจุดหมายที่ได้รับ ซึ่งว่ากันว่าจุดนั้นเป็นที่อยู่ของแร่ Eternium ระหว่างนั้นชาร์ลีก็พูดขึ้นมาว่าตนก็มีหลานอายุน่าจะพอๆ กับออร์ก้า ส่วนเจสซิก้าก็บ่นอุบว่าโสดสนิทไม่ขอแต่งงาน ไม่อยากมีภาระ พอทั้งสองหันไปถามเอ็ดดี้ว่ามีครอบครัวไหม เอ็ดดี้ก็เปลี่ยนประเด็นเรื่อง จนกระทั่งพวกวัตถุคอร์รัปตืเข้ามาโจมตี ทั้งหมดจึงต้องหยุดคุยและเข้าปะทะกับศัตรูกันก่อน

หลังจากการปะทะจบลง ศัตรูล่าถอยไปแล้ว ออร์ก้าก็เริ่มคุ้มคลั่งจะรีบไปไล่ฆ่าพวกวัตถุคอร์รัปต์ต่อ แต่ตัวเธอนั้นแม้จะมีร่างกายที่ฟื้นฟูรักษาแผลด้วยตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่แผลก็สาหัสมาก จนทำให้เอ็ดดี้ต้องแอบฉีดยาระงับประสาทเพื่อให้ออร์ก้าหมดสติ ก่อนเอ็ดดี้จะแบกร่างและให้สมาชิกที่เหลือหาอะไหล่และขนกลับไปยังตำแหน่งรถ APC เพื่อเอาไปซ่อมรถจนใช้การได้

เอ็ดดี้ได้ฝันถึงลูกสาวตัวเองและทำให้รู้ว่าลูกสาวนั้นมีบางอย่างที่ร้ายแรงในตัวและเธอกำลังจะหมดลมหายใจในไม่ช้า เอ็ดดี้สัญญากับลูกสาวว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอกลับมาปกติ ทำให้รู้ว่า เอ็ดดี้เคยเป็นพ่อคนก่อนเข้าจะมาเป็นทหารรับจ้าง เมื่อเขาสะดุ้งตื่นขึ้นมาก็พบว่า เขากับออร์ก้าได้นอนอยู่บนรถ APC ได้สักพักแล้ว โดยมีชาร์ลีเป็นคนขับและเจสซิก้านั่งหน้า และออร์ก้าเมื่อรู้สึกตัวก็แสดงความไม่พอใจมากๆ ที่มาฉีดยาใส่ตน แต่มันก็เป็นผลดีที่ทำให้ออร์ก้าไม่คุ้มคลั่งแม้จะชั่วคราวก็ตาม ก่อนจะถูกพวกวัตถุคอร์รัปต์เข้าล้อมอีกครั้งจึงต้องปะทะกับพวกมัน

โชคดีที่ว่าพวกมันเป็นวัตถุคอร์รัปตืระดับล่างสุด จึงจัดการได้อย่างไม่ยากเย็น ถึงจะมีการบ่นกันเกิดขึ้นแต่ทั้งหมดก็ยังคงเดินหน้าทำภารกิจต่อไป

ออร์ก้าเดินไปสำรวจพวกคอร์รัปต์จนไกลสายตาเอ็ดดี้ เขาจึงตามเธอไปก็พบว่าเธอกำลังหาอาหารกระป๋องจากร้านสะดวกซื้อร้างเผื่อจะได้กิน เอ็ดดี้จึงถามว่าทำไมเธอถึงอยากฆ่าพวกวัตถุคอร์รัปต์มาก ก็ทำให้รู้ความจริงว่า เด็กคนนี้ยังไม่ถูกออร์ก้าครอบงำไม่สมบูรณ์ Watch สีแดงอันนี้เคยมีเจ้าของมาก่อน Watch สีแดงจะรอใครก็ตามที่เหมาะสมสวมใส่มัน มันจะเริ่มครอบงำคนและไล่ฆ่าวัตถุคอร์รัปต์จนกว่าจะตาย ซึ่งก่อนหน้าเอ็ดดี้เคยเจอชายอายุ 40 กำลังบ้าคลั่งไล่ฆ่าวัตถุคอร์รัปต์ไปทั่ว และเจ้าของปัจจุบันก็คือเด็กสาวคนนี้ ก่อนจะพาเธอกลับมายังรถ แล้วขอโทษออร์ก้าด้วยการให้มาร์ชแมลโล่ให้เธอกิน หลังจากนั้นออร์ก้าก็ติดใจรสชาติของมาร์ชแมลโล่ตั้งแต่นั้นมา และเอ็ดดี้ก็เริ่มผูกพันธ์กับเด็กสาวราวกับว่าได้สะท้อนเห็นลูกสาวตัวเองตรงหน้า

พอตกกลางคืน ออร์ก้าก็แอบได้ยินเอ็ดดี้คุยวิทยุกับนายจ้างเรื่องภารกิจที่ทำล่าช้าเกินไป เมื่อไหร่จะได้เจอ Eternium ซึ่งเอ็ดดี้ก็ได้ตอบกลับว่าอยากได้เวลาอีกสักนิดเพราะคนทำภารกิจก็มีแค่ทหารรับจ้างสามคนกับเคาท์เตอรืที่ควบคุมยากหนึ่งคน ก่อนจะวางสายไป ออร์ก้าที่จริงอยากจะขอกินมาร์ชแมลโล่อีกเพราะติดใจ เอ็ดดี้เลยใจอ่อนก็ยอมแบ่งมาร์ชแมลโล่ให้เธอได้ทานอีก

ตอนนี้ทีมทหารรับจ้างก็ใกล้กับจุดที่คาดว่าน่าจะเป็นแหล่ง Eternium แล้ว แต่ทว่ามันกลับไม่มีสัญญาณของศัตรุให้เห็น เอ็ดดี้จึงถามเด็กสาวออร์ก้าว่ามีพวกมันซ่อนตัวหรือไม่ ออร์ก้าจึงตอบว่า ตึกนั้นแหละคือวัตถุคอร์รัปต์ ซึ่งมันคือวัตถุคอร์รัปต์ขนาดใหญ่เท่าตึก จึงทำให้ทั้งสี่เริ่มทำการปะทะโดยมีออร์ก้ารับหน้า

แต่แน่นอนว่าสู้โดยลำพังไม่ไหวแน่นอนตัวใหญ่ขนาดนี้ เอ็ดดี้ก็สังเกตุซากยานรบที่อยู่ใกล้ ๆ กัน จึงสั่งให้ออร์ก้ากับชาร์ลีถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้ ก่อนที่เหลือจะเข้าไปในย้านเผื่อเจออะไรที่พอจะใช้ได้ และโชคดีที่ลำแสงปืนใหญ่ยังทำงานได้อยู่ จึงสั่งให้เจสซิก้าเปิดระบบปืนใหญ่ก่อนจะทำการยิงออกไป ผลก็คือสามารถหยุดวัตถุคอร์รัปต์ขนาดใหญ่ได้ แต่ก็ทำให้ออร์ก้าโดนลูกหลงบาดเจ็บด้วย โชคดีที่เธอฟื้นฟูสภาพร่างกายได้รวดเร็ว และชาร์ลีก็ไม่ได้โดนอะไร

ออร์ก้าตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นเอ็ดดี้นั่งข้าง ๆ เธอมา เนื่องจากเธอถูกลูกหลงจากลำแสงปืนใหญ่ เอ็ดดี้จึงได้อุ้มร่างที่หมดสติมาพักฟื้น แต่พอได้สติไม่ทันไร วัตถุคอร์รัปต์ร่างเท่าตึกก็บุกมายังตำแหน่งของพวกเอ็ดดี้ ทำให้เธอที่บาดเจ็บและยังฟื้นร่างกายไม่เต็มที่ก็คุ้มคลั่งและออกไปไล่ฆ่าทันที

แต่เอ็ดดี้ก็ได้สั่งชาร์ลีกับเจสซิก้ารั้งตัวเธอไว้ก่อนเขาจะไปหยิบเข็มสาร Eternium ฉีดเข้าร่างออร์ก้าเพื่อไม่ให้ด้านคุ้มคลั่งในตัวตื่นชั่วคราว และก็จะได้รู้ความจริงว่า สภาพของเอ็ดดี้ตอนนี้บาดเจ็บมาก ทั้งจากการปะทะและตอนที่หามร่างของออร์ก้าออกมาตอนที่ถูกลำแสงปืนใหญ่ยิง ตัวของออร์ก้าร้อนมากๆ ตอนอุ้ม เลยทำให้เขาได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้ แถมต้องสูดควันพิษเพราะผลจากการยิงปืนใหญ๋ลำแสงด้วยด้วยจึงทำให้สภาพตอนนี้ปอดของเขาน่าจะไหม้ไปบางส่วนแล้ว ก่อนจะไล่ชาร์ลีกับเจสซิก้าเพราะมีเรื่องอยากคุยกับออร์ก้า ซึ่งเรื่องที่จะคุยก็คือ เอ็ดดี้ได้เล่าเกีย่วกับตัวเองว่าตนเคยมีลูกสาว แต่ลูกสาวกำลังจะกลายเป็นวัตถุคอร์รัปต์โดยไม่มีหนทางรักษา แต่ถึงอย่างนั้นเอ็ดดี้ก็ได้สอนให้ออร์ก้ามีความหวังการใช้ชีวิต มีชีวิตอยู่เพื่อหาวิธีควบคุมออร์ก้าและใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุด นานที่สุด และต่อสู้กับความสิ้นหวังจนถึงที่สุด สุดท้ายคืออย่าลืมหาขออร่อยเติมใส่ท้องเสมอ 

Act 3...

17.20 นาฬิกา ยานลึกลับ, ห้องควบคุม

ออร์ก้า, เอ็ดดี้, เจสซิก้า, ชาร์ลี

CSE ระดับ 2

หลังจากเอ็ดดี้สภาพบาดเจ็บและเหนื่อยจากการต่อสู้ ก็ได้รู้ความจริงว่าแท้จริงแล้ว นายจ้างของเขาไม่ได้สนใจแร่ Eternium แต่สนใจยานลำนี้ที่มีข้อมูลสำคัญมากมาย และได้รับรู้ว่า พวกวัตถุคอร์รัปต์ที่มีการโจมตีแบบแผนแบบนี้ น่าจะมีใครจงใจสร้างมันขึ้นมาอย่างแน่นอน เขาจึงตกลงข้อเสนอว่า พวกเขาจะขอรับ Eternium ทั้งหมดและให้นายจ้างเอายานลำนี้ไป แต่การเจรจาก็ไม่ได้เป็นผลสำเร็จเสียทีเดียวเมื่อนายจ้างแกล้งทำเป็นยอมรับข้อเสนอ ให้ส่งพิกัดมาก่อนจะทำการส่งทหารเพื่อเข้าไปจับกุมพวกเอ็ดดี้หวังหุบทั้ง Eternium และยานปริศนาลำนี้

โชคดีที่พวกทหารที่นายจ้างส่งมารอบแรกยังไม่ใช้อาวุธหนัก จึงพอต้านทานได้ก่อนที่เอ็ดดี้สั่งเจสซิก้าให้เตรียมเปิดระบบทำลายตัวเองของยานลำนี้ โดยล่อให้พวกทหารเข้ามาข้างใน ก่อนจะแอบหนีออกมาแล้วขโมยยานบินของพวกทหารและขน Eternium ออกไป