แม้ว่าเกมเมอร์รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อค่ายพัฒนาเกมรุ่นบุกเบิกอย่าง Atari เท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงเกมชื่อก้องโลกที่เป็นผลงานของค่ายอย่าง Pac-Man, Pong, หรือ Centipede แล้วล่ะก็ เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยน่าจะถึงบางอ้อกันขึ้นมาทีเดียว โดยแม้ว่าค่าย Atari จะไม่ค่อยมีผลงานโดดเด่นออกมาหลายปีแล้ว แต่ชื่อ Atari ก็ยังเป็นชื่อที่มีความหมายสำหรับเกมเมอร์รุ่นใหญ่หลายคน ในฐานะบริษัทแห่งแรก ๆ ที่ผลักดัน 'วิดีโอเกม' อย่างกว้างขวาง
ในปี 2022 นี้ จะตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีของบริษัทพอดี โดยทาง Atari ก็ได้ออกมาเปิดเผยแผนการในการฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน 'ผู้บุกเบิก' วิดีโอเกม... ด้วยการวางจำหน่าย NFT ในรูปแบบของ Lootbox (กล่องสุ่ม)?!
สำหรับกล่อง 'Atari GFT' เหล่านี้ ถูกเรียกว่าเป็น 'กล่องของขวัญ NFT' ซึ่งจะมีภาพ NFT แบบสุ่มกล่องละ 10 ชิ้น ที่ถูก Mint บนบล๊อคเชน Ethereum โดยรูปภาพในกล่องจะมีระดับความหายากแตกต่างกันไปตั้งแต่ Common (ธรรมดา) ไปจนถึงระดับ Rare (หายากที่สุด) ซึ่งแน่นอนว่าราคาขายของแต่ละภาพก็จะแตกต่างกันไปด้วย
กล่อง Atari GFT เหล่านี้เป็นผลการร่วมทุนระหว่าง Atari และบริษัท Republic Realm ซึ่งเป็นผู้ผลิต NFT ชื่อดัง โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถขาย NFT ราคาสูง ๆ ได้มากมาย เช่นเรือยอร์ชจำลองใน Sandbox metaverse ซึ่งทำเงินได้ถึง $650,000 เลยทีเดียว (ราว 21.6 ล้านบาท)
แน่นอนว่าการประกาศขาย NFT ของ Atari ครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับเกมเมอร์เป็นอย่างมาก เพราะ Atari เปรียบเสมือนผู้ให้กำเนิดอุตสาหกรรมเกมที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน แต่ค่ายกลับเลือกที่จะฉลองวาระอันสำคัญอย่างการครบรอบ 50 ปีด้วยการวางจำหน่าย NFT ซึ่งเป็นสิ่งที่เกมเมอร์หลายกลุ่มต่อต้านอย่างหนัก แถมยังเป็น NFT ผสมกับ Lootbox ซึ่งเป็นระบบที่เกมเมอร์เคยต่อต้านมาก่อน NFT อีกต่างหาก
ทั้งนี้ สื่อ Kotaku รายงานว่า CEO คนปัจจุบันของ Atari คุณ Wade Rosen ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Republic Realm อีกด้วย จึงเชื่อได้เลยว่ากล่อง Atari GFT เหล่านี้น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
แหล่งข่าว: Kotaku
แม้ว่าเกมเมอร์รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อค่ายพัฒนาเกมรุ่นบุกเบิกอย่าง Atari เท่าไหร่ แต่ถ้าพูดถึงเกมชื่อก้องโลกที่เป็นผลงานของค่ายอย่าง Pac-Man, Pong, หรือ Centipede แล้วล่ะก็ เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยน่าจะถึงบางอ้อกันขึ้นมาทีเดียว โดยแม้ว่าค่าย Atari จะไม่ค่อยมีผลงานโดดเด่นออกมาหลายปีแล้ว แต่ชื่อ Atari ก็ยังเป็นชื่อที่มีความหมายสำหรับเกมเมอร์รุ่นใหญ่หลายคน ในฐานะบริษัทแห่งแรก ๆ ที่ผลักดัน 'วิดีโอเกม' อย่างกว้างขวาง
ในปี 2022 นี้ จะตรงกับวาระครบรอบ 50 ปีของบริษัทพอดี โดยทาง Atari ก็ได้ออกมาเปิดเผยแผนการในการฉลองประวัติศาสตร์อันยาวนานของบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน 'ผู้บุกเบิก' วิดีโอเกม... ด้วยการวางจำหน่าย NFT ในรูปแบบของ Lootbox (กล่องสุ่ม)?!
สำหรับกล่อง 'Atari GFT' เหล่านี้ ถูกเรียกว่าเป็น 'กล่องของขวัญ NFT' ซึ่งจะมีภาพ NFT แบบสุ่มกล่องละ 10 ชิ้น ที่ถูก Mint บนบล๊อคเชน Ethereum โดยรูปภาพในกล่องจะมีระดับความหายากแตกต่างกันไปตั้งแต่ Common (ธรรมดา) ไปจนถึงระดับ Rare (หายากที่สุด) ซึ่งแน่นอนว่าราคาขายของแต่ละภาพก็จะแตกต่างกันไปด้วย
กล่อง Atari GFT เหล่านี้เป็นผลการร่วมทุนระหว่าง Atari และบริษัท Republic Realm ซึ่งเป็นผู้ผลิต NFT ชื่อดัง โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทสามารถขาย NFT ราคาสูง ๆ ได้มากมาย เช่นเรือยอร์ชจำลองใน Sandbox metaverse ซึ่งทำเงินได้ถึง $650,000 เลยทีเดียว (ราว 21.6 ล้านบาท)
แน่นอนว่าการประกาศขาย NFT ของ Atari ครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับเกมเมอร์เป็นอย่างมาก เพราะ Atari เปรียบเสมือนผู้ให้กำเนิดอุตสาหกรรมเกมที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน แต่ค่ายกลับเลือกที่จะฉลองวาระอันสำคัญอย่างการครบรอบ 50 ปีด้วยการวางจำหน่าย NFT ซึ่งเป็นสิ่งที่เกมเมอร์หลายกลุ่มต่อต้านอย่างหนัก แถมยังเป็น NFT ผสมกับ Lootbox ซึ่งเป็นระบบที่เกมเมอร์เคยต่อต้านมาก่อน NFT อีกต่างหาก
ทั้งนี้ สื่อ Kotaku รายงานว่า CEO คนปัจจุบันของ Atari คุณ Wade Rosen ยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Republic Realm อีกด้วย จึงเชื่อได้เลยว่ากล่อง Atari GFT เหล่านี้น่าจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
แหล่งข่าว: Kotaku