Lineage ถือว่าเป็น IP อยู่กับเรามายาวนาน นับรวมเวลาประมาณ 24 ปี ตั้งแต่ Lineage ภาคต้นฉบับ จนถึงภาคล่าสุดที่ใกล้จะปล่อยให้เล่นทั่วโลกพร้อมกันอย่าง “Lineage W” โดยถือเป็นภาคที่มีทั้งความทะเยอทะยานสุดขีด กับแนวคิด “Lineage สำหรับทุกคน”
ขึ้นชื่อว่าเป็น Lineage ที่เป็นเกมระดับต้น ๆ ในแนวเกมนี้ แต่ละภาคที่ออกมามักสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกม MMORPG มันมาพร้อมกับความคาดหวังจากทั้งผู้เล่นขาประจำรวมไปถึงขาจรที่เริ่มรู้สึกสนใจใน IP นี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้แต่ผู้พัฒนา NCSOFT ยังกล่าวว่า Lineage ไม่ใช่เป็นเพียงเกมอีกต่อไป Lineage คือชื่อที่ทุกคนรู้จักซึ่งนำเสนอถึงประวัติศาสตร์เกม MMORPG ของประเทศเกาหลี
NCSOFT ใช้เวลาพัฒนา Lineage W เป็นเวลาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ NCSOFT เสร็จสิ้นภารกิจการเตรียมปล่อยเกม Lineage M ในปี 2017 ซึ่ง NCSOFT ก็พัฒนา Lineage W ไปพร้อม ๆ กับ Lineage 2M และก็วางแผนว่าจะปล่อยเกมในช่วงปลายปี 2021 อยู่แล้ว อีกกระทั่งเป็นโครงการสร้างเกมที่ใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก
คงไว้และเติมเต็มความเป็น Lineage
“การพุ่งรบ, พันธะ, สละชีพ และเกียรติยศ” สิ่งดังกล่าวคือหัวใจหลักของความเป็น Lineage ไม่ว่าจะผ่านไปอีกภาค NCSOFT ยังคงพยายามรักษาไว้ยิ่งชีพ และทำการเติมเต็มความเป็น Lineage ให้สมบูรณ์กว่าที่เคยเป็น พวกเขาใช้องค์ความรู้ชำนาญที่มีจากการพัฒนา Lineage ทุกภาค นำมาพัฒนา Lineage W
พวกเขาต้องเจอความท้าทายหลายสิ่งในการสร้างเกมภาคนี้ หากจะต้องทั้งดำรงและเติมเต็มความเป็น Lineage ไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น
การเปลี่ยนภาพให้เป็น 3 มิติเต็มสูบ
พวกเขาต้องตัดสินใจแก้ไขภาพเกมให้เป็น 3 มิติเต็มรูปแบบแต่ต้องพยายามรักษาถึงเอกลักษณ์และการตอบสนองต่อผู้เล่นให้ยังรู้สึกว่านี้คือ Lineage ที่เรารู้จัก ซึ่งเหตุผลในการแก้ไขภาพให้เป็น 3 มิติก็เพื่อการแสดงออกของตัวละครในเกมที่ดียิ่งขึ้นกว่าแบบ 2 มิติ
ยกตัวอย่างเช่นการสร้างระบบเอฟเฟคการโจมตีให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดในรูปแบบเกม 3 มิติ NCSOFT ต้องแยกทีมพิเศษเพื่อทำระบบดังกล่าวโดยเฉพาะ พวกเขาสร้าง, ทำลาย และสร้างใหม่วนไปเป็นร้อย ๆ รอบจนกว่าจะได้ระบบเอฟเฟคการโจมตีที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็น Lineage ต้นฉบับ
Dark Fantasy เต็มรูปแบบ
เพียงแค่ปรับภาพเป็น 3 มิติ ยังไม่เพียงพอ พวกเขาได้ปรับงานศิลป์ของเกมให้มีความมืดมนมากกว่าเดิม จากการที่ NCSOFT พิเคราะห์ว่าเกมภาคก่อน ๆ มีความใกล้เคียงกับความ dark fantasy ซึ่งการใช้ธีมดังกล่าวจะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้มีการเล่าเรื่องที่เสริมสร้างบรรยากาศความเข้มหม่นไปด้วยกัน
Lineage W จะเน้นการเล่าเรื่องราวตัวละครและโลกของเกมกว่าที่เคย ผู้เล่นจะมีอารมณ์ร่วม และพร้อม “ดำดิ่ง” ไปกับเกมนี้โดยไม่ยากเย็นนัก ตัวเกมจะมีระบบเนื้อเรื่องของแต่ละอาชีพ ไม่ว่าผู้เล่นจะเล่นอาชีพใดก็ตาม ผู้เล่นจะได้สัมผัสเรื่องราวที่มีความเฉพาะตัวอย่างยิ่งยวด รวมไปถึงเรื่องราวภายในโลกที่ถูกซ่อนอยู่ในระบบของเกมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น อธิบายสิ่งที่ผู้เล่น Lineage ค้างคาใจมาเป็นเวลา 24 ปี ยกตัวอย่างเช่น การที่ผู้เล่นทำการ enchant จะได้เห็นกันแบบตรง ๆ สักทีว่าเป็นอย่างไร
ซึ่งปัจจุบันเนื้อหาของเกมได้มีการเปิดเผยส่วนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องราวของแต่ละอาชีพและภูมิภาคเริ่มต้น
“แม้ว่าจักถูกชะตาขีดเขียนไว้ ให้พานพบกับการทดสอบไร้จุดจบ เหล่าผู้กล้าของ Aden ยังคงเฉิดฉายจากการกำชัยเหนือการต่อสู้อันงดงาม” ในช่วงแรกเกมมี 4 อาชีพหลัก คือ อัศวิน, ประมุข, จอมเวท และ เอลฟ์ ตอนนี้ NCSOFT ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเพิ่มอาชีพอื่นนอกจากว่าพวกเขาต้องการเปลี่ยนรูปแบบในการต่อสู้ ทาง NCSOFT คิดว่าอาชีพดาร์คเอลฟ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากต้องมีการเพิ่มอาชีพใหม่ โดยเรื่องราวแต่ละอาชีพมีดังต่อไปนี้
อัศวิน
ผู้ที่ร่อนเร่ไปทั่วทุกทิศเพื่อสงวนไว้ซึ่งศรัทธา ค้นหาเพื่อปฏิญาณต่อ Blood Oath แด่นายตลอดกาลเพียงหนึ่งเดียว กับเขาแล้วไซร้ ความตายหาใช่เรื่องสลักสําคัญ ตราบเท่าที่คำปฏิญาณยังถูกรักษาไว้แล้ว หากเป็นทั้งผู้คุ้มครองและตุลาการ อัศวินจักสู้มิรู้จักกลัว
ความสามารถ
ประมุข
ประมุขแห่งราชวงศ์ คงถูกชะตาขีดเขียนไว้ ให้พานพบกับการทดสอบไร้จุดจบ ผู้เฉิดฉายจากชัยชนะอันทรงเกียรติ หรือ เป็นผู้ที่เลือนหายไปในหน้าประวัติศาสตร์ท่ามกลางความพ่ายแพ้อันน่าอดสู ท่านประมุขเดินทอดกายผ่านเส้นทางของโลหิต เพื่อผนึกชะตาอันมิอาจชี้ขาด
ความสามารถ
จอมเวท
เด็กน้อยที่เกิดมาจากความตายดับ ตะกายสู้กับชะตาอันเกรี้ยวกราด ชี้ขาดให้เธอกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ของเทวีแห่งความโฉดชั่ว ดิ้นรนกับเสียงเพรียกเรียกอบายอันนำพาไปสู่ความเสื่อมทราม เดินทางสู่โลกอันตราย เพียงหวังว่าจักจุดแสงสว่างให้การทดสอบของเธอ
ความสามารถ
เอลฟ์
ผู้เหยียบย่างผ่านเส้นทางแห่งการไถ่บาปตราบชั่วนิรันดร คืนวันเลยลับ ทุกสิ่งกลับจางหาย แต่พวกที่ผลิดอกออกผลจากต้นไม้แห่งนิรันดรจักแบ่งบานมิรู้เฉา เลือดของเหล่าบรรพชนที่แปดเปื้อนมือเธอมิอาจถูกชะล้าง หากจากนี้ไป ชีวิตแห่งการไถ่บาปรอเจ้าอยู่
ความสามารถ
ส่วนในแต่ละภูมิภาคนั้นก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่งยวด ปัจจุบัน NCSOFT เปิดเผยเรื่องราวในเกมถึง 4 ภูมิภาคด้วยกัน ได้แก่
เกาะพูดได้
บรรดาจอมเวทของ Ivory Tower ล้วนมาที่เกาะนี้ ซึ่งเป็นที่ ๆ ปล่อยมวลพลัง mana อย่างผิดปกติ กล่าวกันว่าจอมเวทที่ฝึกฝนในเกาะดังกล่าวมักได้ยินเสียงกระซิบที่อยู่เหนือความเข้าใจ และพวกที่ประสบกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดจะกลายเป็นจอมเวททรงพลัง เหตุจากข่าวลือของเกาะและตัวจอมเวทเองได้แพร่หลาย ผู้คนมากมายจึงเรียกเกาะแห่งนี้ว่าเป็น “เกาะพูดได้”
Gludio
Gludio เคยเป็นดินแดนซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ดินแดนที่ทุกคนล้วนอยู่อย่างสงบสุข กินอิ่มนอนหลับ เมื่อ 150 ปีก่อน ตระกูล Gudio อันทรงอำนาจ อย่าง Gregheim ได้ทำการปฏิวัติต่อราชาจอมปลอมนาม Ken Rauhel ร่องรอยของความบรรลัยจากสงครามกลายเป็นเศษซากแห่งความสลด บัดนี้ เรารู้จักกันในนามว่า "ซากแห่งความตาย"
แม้ว่า Gludio ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอแล้ว มันยังเป็นสัญญาณแห่งความหวัง สำหรับผู้ที่มองประวัติศาสตร์นองเลือดดุจดังสิ่งเตือนใจ ว่าพวกเขามาไกลแค่ไหนจนกว่าจะถึงจุด ๆ นี้
ป่าเอลฟ์
“ต้นไม้แห่งบรรพกาล” ได้แผ่รากฝั่งลึกยังโลกมาตั้งแต่กาลก่อน ซึ่งมี “ต้นไม้แห่งการฟื้นฟู” ได้สร้างเอลฟ์และมอบป่าให้สำหรับพวกเอลฟ์เพื่อใช้เอาตัวรอด ม่านกำบังของเธอได้ปกป้องเหล่าเอลฟ์จากอันตรายตั้งแต่อดีต และป่าดังกล่าวยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของเอลฟ์สืบไป
Windawood
Windawood เป็นดินแดนรกร้าง ขาดแคลนซึ่งผลผลิตใด ๆ ผู้คนไร้ทางเลือกนอกจากอดอยากจนตัวตาย ขณะที่ต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาความเป็นมนุษย์ ไม่ก็ต้องอยู่อย่างสัตว์ร้ายเดรัจฉาน พวกอสุรกายได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ และมักเข้าโจมตีอย่างไม่หยุดย่อน
อสุรกายโคตรอันตรายยังคงหลับใหลอยู่ในหุบเขามังกร มันมีนามว่า “Antharas” มังกรพิภพ คนในตระกูล Druga แห่ง Aden ตระกูลนักล่ามังกร ได้ส่งทหารเพื่อจับตามองการเคลื่อนไหวของ Antharas มาเป็นพักใหญ่ ๆ
W ย่อมาจาก World
เป็นหนึ่งในสิ่งชูโรงของภาคนี้ สำหรับการต่อสู้ในระดับโลก โดยการนำสมาชิกของแต่ละ Blood Pledge มาต่อสู้กันจริง ๆ แบบ real time ซึ่ง NCSOFT จะแบ่งประเทศเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ อิงตามปัจจัยทางเวลา โดยจะเปิดให้บริการสำหรับกลุ่มแรกก่อน จากนั้นจะขยายบริการสำหรับกลุ่มสอง ส่วนกลุ่มสามจะตามมาในภายหลัง
โดยทุกกลุ่มจะใช้ตัวเกมเดียวกัน เซิร์ฟเวอร์ทั้ง 12 เซิร์ฟเวอร์ต่างอยู่ในโลกเดียวกัน ไม่มีชื่อตัวละครที่ซ้ำกัน ทาง NCSOFT ยกตัวอย่างว่าหามีตัวละครชื่อ “Light” อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ Deforge 01 จะไม่มีใครใช้ชื่อนี้ได้อีกในเซิร์ฟเวอร์ Deforge 02 ถึง 12
NCSOFT อธิบายเพิ่มเติมในระบบ World ว่าผู้เล่นอาจเล่นเกมกับผู้เล่นจากประเทศอื่นในเซิร์ฟเวอร์เดียวกันตั้งแต่เริ่มต้น ผู้เล่นอาจสร้าง Blood Pledge กับผู้เล่นจากประเทศเดียวกันหรือเลือกที่จะสร้าง Blood Pledge กับผู้เล่นจากประเทศอื่น รวมถึงการรวมรบกับ Blood Pledge ของผู้เล่นจากประเทศอื่น ๆ
การทำลายกำแพงดังกล่าวยังรวมไปถึงกำแพงภาษาที่เกมมีระบบ AI ในการแปลภาษาให้ผู้เล่น ระบบการแปลภาษามีความฉลาดถึงขั้นแปลสำนวนเฉพาะกลุ่มผู้เล่นได้ ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นชาวเกาหลีใช้สำนวนว่า “Ber”, “Tai~”, และ “Myoon Myoon Myoon!” แปลเป็น “teleport” หรือ “immune to harm”
ฉะนั้น Lineage W มิใช่เพียงทำการ “การย่อส่วนของสังคม” แบบภาคอื่น แต่ถึงขั้น “การย่อส่วนของทั้งโลก” เลยทีเดียว ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็ยังคงไว้ซึ่งปรัชญาต้นฉบับของ Lineage อย่างซื่อตรง
โดยปัจจุบัน NCSOFT ได้ประกาศวันให้บริการเกมอย่างเป็นทางการคือวันที่ 4 พฤศจิกายน 2021 สามารถลงทะเบียนได้ที่สโตร์ทั้งสองระบบเพื่อรับของตอบแทน อีกกระทั่งสามารถทำการจองชื่อได้ทันที ที่ https://lineagew.plaync.com/character
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Lineage ถือว่าเป็น IP อยู่กับเรามายาวนาน นับรวมเวลาประมาณ 24 ปี ตั้งแต่ Lineage ภาคต้นฉบับ จนถึงภาคล่าสุดที่ใกล้จะปล่อยให้เล่นทั่วโลกพร้อมกันอย่าง “Lineage W” โดยถือเป็นภาคที่มีทั้งความทะเยอทะยานสุดขีด กับแนวคิด “Lineage สำหรับทุกคน”
ขึ้นชื่อว่าเป็น Lineage ที่เป็นเกมระดับต้น ๆ ในแนวเกมนี้ แต่ละภาคที่ออกมามักสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเกม MMORPG มันมาพร้อมกับความคาดหวังจากทั้งผู้เล่นขาประจำรวมไปถึงขาจรที่เริ่มรู้สึกสนใจใน IP นี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้แต่ผู้พัฒนา NCSOFT ยังกล่าวว่า Lineage ไม่ใช่เป็นเพียงเกมอีกต่อไป Lineage คือชื่อที่ทุกคนรู้จักซึ่งนำเสนอถึงประวัติศาสตร์เกม MMORPG ของประเทศเกาหลี
NCSOFT ใช้เวลาพัฒนา Lineage W เป็นเวลาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ NCSOFT เสร็จสิ้นภารกิจการเตรียมปล่อยเกม Lineage M ในปี 2017 ซึ่ง NCSOFT ก็พัฒนา Lineage W ไปพร้อม ๆ กับ Lineage 2M และก็วางแผนว่าจะปล่อยเกมในช่วงปลายปี 2021 อยู่แล้ว อีกกระทั่งเป็นโครงการสร้างเกมที่ใช้ความประณีตเป็นอย่างมาก
คงไว้และเติมเต็มความเป็น Lineage
“การพุ่งรบ, พันธะ, สละชีพ และเกียรติยศ” สิ่งดังกล่าวคือหัวใจหลักของความเป็น Lineage ไม่ว่าจะผ่านไปอีกภาค NCSOFT ยังคงพยายามรักษาไว้ยิ่งชีพ และทำการเติมเต็มความเป็น Lineage ให้สมบูรณ์กว่าที่เคยเป็น พวกเขาใช้องค์ความรู้ชำนาญที่มีจากการพัฒนา Lineage ทุกภาค นำมาพัฒนา Lineage W
พวกเขาต้องเจอความท้าทายหลายสิ่งในการสร้างเกมภาคนี้ หากจะต้องทั้งดำรงและเติมเต็มความเป็น Lineage ไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น
การเปลี่ยนภาพให้เป็น 3 มิติเต็มสูบ
พวกเขาต้องตัดสินใจแก้ไขภาพเกมให้เป็น 3 มิติเต็มรูปแบบแต่ต้องพยายามรักษาถึงเอกลักษณ์และการตอบสนองต่อผู้เล่นให้ยังรู้สึกว่านี้คือ Lineage ที่เรารู้จัก ซึ่งเหตุผลในการแก้ไขภาพให้เป็น 3 มิติก็เพื่อการแสดงออกของตัวละครในเกมที่ดียิ่งขึ้นกว่าแบบ 2 มิติ
ยกตัวอย่างเช่นการสร้างระบบเอฟเฟคการโจมตีให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดในรูปแบบเกม 3 มิติ NCSOFT ต้องแยกทีมพิเศษเพื่อทำระบบดังกล่าวโดยเฉพาะ พวกเขาสร้าง, ทำลาย และสร้างใหม่วนไปเป็นร้อย ๆ รอบจนกว่าจะได้ระบบเอฟเฟคการโจมตีที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็น Lineage ต้นฉบับ
Dark Fantasy เต็มรูปแบบ
เพียงแค่ปรับภาพเป็น 3 มิติ ยังไม่เพียงพอ พวกเขาได้ปรับงานศิลป์ของเกมให้มีความมืดมนมากกว่าเดิม จากการที่ NCSOFT พิเคราะห์ว่าเกมภาคก่อน ๆ มีความใกล้เคียงกับความ dark fantasy ซึ่งการใช้ธีมดังกล่าวจะไม่สมบูรณ์ หากไม่ได้มีการเล่าเรื่องที่เสริมสร้างบรรยากาศความเข้มหม่นไปด้วยกัน
Lineage W จะเน้นการเล่าเรื่องราวตัวละครและโลกของเกมกว่าที่เคย ผู้เล่นจะมีอารมณ์ร่วม และพร้อม “ดำดิ่ง” ไปกับเกมนี้โดยไม่ยากเย็นนัก ตัวเกมจะมีระบบเนื้อเรื่องของแต่ละอาชีพ ไม่ว่าผู้เล่นจะเล่นอาชีพใดก็ตาม ผู้เล่นจะได้สัมผัสเรื่องราวที่มีความเฉพาะตัวอย่างยิ่งยวด รวมไปถึงเรื่องราวภายในโลกที่ถูกซ่อนอยู่ในระบบของเกมให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น อธิบายสิ่งที่ผู้เล่น Lineage ค้างคาใจมาเป็นเวลา 24 ปี ยกตัวอย่างเช่น การที่ผู้เล่นทำการ enchant จะได้เห็นกันแบบตรง ๆ สักทีว่าเป็นอย่างไร
ซึ่งปัจจุบันเนื้อหาของเกมได้มีการเปิดเผยส่วนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องราวของแต่ละอาชีพและภูมิภาคเริ่มต้น
“แม้ว่าจักถูกชะตาขีดเขียนไว้ ให้พานพบกับการทดสอบไร้จุดจบ เหล่าผู้กล้าของ Aden ยังคงเฉิดฉายจากการกำชัยเหนือการต่อสู้อันงดงาม” ในช่วงแรกเกมมี 4 อาชีพหลัก คือ อัศวิน, ประมุข, จอมเวท และ เอลฟ์ ตอนนี้ NCSOFT ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเพิ่มอาชีพอื่นนอกจากว่าพวกเขาต้องการเปลี่ยนรูปแบบในการต่อสู้ ทาง NCSOFT คิดว่าอาชีพดาร์คเอลฟ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากต้องมีการเพิ่มอาชีพใหม่ โดยเรื่องราวแต่ละอาชีพมีดังต่อไปนี้
อัศวิน
ผู้ที่ร่อนเร่ไปทั่วทุกทิศเพื่อสงวนไว้ซึ่งศรัทธา ค้นหาเพื่อปฏิญาณต่อ Blood Oath แด่นายตลอดกาลเพียงหนึ่งเดียว กับเขาแล้วไซร้ ความตายหาใช่เรื่องสลักสําคัญ ตราบเท่าที่คำปฏิญาณยังถูกรักษาไว้แล้ว หากเป็นทั้งผู้คุ้มครองและตุลาการ อัศวินจักสู้มิรู้จักกลัว
ความสามารถ
ประมุข
ประมุขแห่งราชวงศ์ คงถูกชะตาขีดเขียนไว้ ให้พานพบกับการทดสอบไร้จุดจบ ผู้เฉิดฉายจากชัยชนะอันทรงเกียรติ หรือ เป็นผู้ที่เลือนหายไปในหน้าประวัติศาสตร์ท่ามกลางความพ่ายแพ้อันน่าอดสู ท่านประมุขเดินทอดกายผ่านเส้นทางของโลหิต เพื่อผนึกชะตาอันมิอาจชี้ขาด
ความสามารถ
จอมเวท
เด็กน้อยที่เกิดมาจากความตายดับ ตะกายสู้กับชะตาอันเกรี้ยวกราด ชี้ขาดให้เธอกลายเป็นบรรจุภัณฑ์ของเทวีแห่งความโฉดชั่ว ดิ้นรนกับเสียงเพรียกเรียกอบายอันนำพาไปสู่ความเสื่อมทราม เดินทางสู่โลกอันตราย เพียงหวังว่าจักจุดแสงสว่างให้การทดสอบของเธอ
ความสามารถ
เอลฟ์
ผู้เหยียบย่างผ่านเส้นทางแห่งการไถ่บาปตราบชั่วนิรันดร คืนวันเลยลับ ทุกสิ่งกลับจางหาย แต่พวกที่ผลิดอกออกผลจากต้นไม้แห่งนิรันดรจักแบ่งบานมิรู้เฉา เลือดของเหล่าบรรพชนที่แปดเปื้อนมือเธอมิอาจถูกชะล้าง หากจากนี้ไป ชีวิตแห่งการไถ่บาปรอเจ้าอยู่
ความสามารถ
ส่วนในแต่ละภูมิภาคนั้นก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างยิ่งยวด ปัจจุบัน NCSOFT เปิดเผยเรื่องราวในเกมถึง 4 ภูมิภาคด้วยกัน ได้แก่
เกาะพูดได้
บรรดาจอมเวทของ Ivory Tower ล้วนมาที่เกาะนี้ ซึ่งเป็นที่ ๆ ปล่อยมวลพลัง mana อย่างผิดปกติ กล่าวกันว่าจอมเวทที่ฝึกฝนในเกาะดังกล่าวมักได้ยินเสียงกระซิบที่อยู่เหนือความเข้าใจ และพวกที่ประสบกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดจะกลายเป็นจอมเวททรงพลัง เหตุจากข่าวลือของเกาะและตัวจอมเวทเองได้แพร่หลาย ผู้คนมากมายจึงเรียกเกาะแห่งนี้ว่าเป็น “เกาะพูดได้”
Gludio
Gludio เคยเป็นดินแดนซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ ดินแดนที่ทุกคนล้วนอยู่อย่างสงบสุข กินอิ่มนอนหลับ เมื่อ 150 ปีก่อน ตระกูล Gudio อันทรงอำนาจ อย่าง Gregheim ได้ทำการปฏิวัติต่อราชาจอมปลอมนาม Ken Rauhel ร่องรอยของความบรรลัยจากสงครามกลายเป็นเศษซากแห่งความสลด บัดนี้ เรารู้จักกันในนามว่า "ซากแห่งความตาย"
แม้ว่า Gludio ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอแล้ว มันยังเป็นสัญญาณแห่งความหวัง สำหรับผู้ที่มองประวัติศาสตร์นองเลือดดุจดังสิ่งเตือนใจ ว่าพวกเขามาไกลแค่ไหนจนกว่าจะถึงจุด ๆ นี้
ป่าเอลฟ์
“ต้นไม้แห่งบรรพกาล” ได้แผ่รากฝั่งลึกยังโลกมาตั้งแต่กาลก่อน ซึ่งมี “ต้นไม้แห่งการฟื้นฟู” ได้สร้างเอลฟ์และมอบป่าให้สำหรับพวกเอลฟ์เพื่อใช้เอาตัวรอด ม่านกำบังของเธอได้ปกป้องเหล่าเอลฟ์จากอันตรายตั้งแต่อดีต และป่าดังกล่าวยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของเอลฟ์สืบไป
Windawood
Windawood เป็นดินแดนรกร้าง ขาดแคลนซึ่งผลผลิตใด ๆ ผู้คนไร้ทางเลือกนอกจากอดอยากจนตัวตาย ขณะที่ต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาความเป็นมนุษย์ ไม่ก็ต้องอยู่อย่างสัตว์ร้ายเดรัจฉาน พวกอสุรกายได้ปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศ และมักเข้าโจมตีอย่างไม่หยุดย่อน
อสุรกายโคตรอันตรายยังคงหลับใหลอยู่ในหุบเขามังกร มันมีนามว่า “Antharas” มังกรพิภพ คนในตระกูล Druga แห่ง Aden ตระกูลนักล่ามังกร ได้ส่งทหารเพื่อจับตามองการเคลื่อนไหวของ Antharas มาเป็นพักใหญ่ ๆ
W ย่อมาจาก World
เป็นหนึ่งในสิ่งชูโรงของภาคนี้ สำหรับการต่อสู้ในระดับโลก โดยการนำสมาชิกของแต่ละ Blood Pledge มาต่อสู้กันจริง ๆ แบบ real time ซึ่ง NCSOFT จะแบ่งประเทศเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ อิงตามปัจจัยทางเวลา โดยจะเปิดให้บริการสำหรับกลุ่มแรกก่อน จากนั้นจะขยายบริการสำหรับกลุ่มสอง ส่วนกลุ่มสามจะตามมาในภายหลัง
โดยทุกกลุ่มจะใช้ตัวเกมเดียวกัน เซิร์ฟเวอร์ทั้ง 12 เซิร์ฟเวอร์ต่างอยู่ในโลกเดียวกัน ไม่มีชื่อตัวละครที่ซ้ำกัน ทาง NCSOFT ยกตัวอย่างว่าหามีตัวละครชื่อ “Light” อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ Deforge 01 จะไม่มีใครใช้ชื่อนี้ได้อีกในเซิร์ฟเวอร์ Deforge 02 ถึง 12
NCSOFT อธิบายเพิ่มเติมในระบบ World ว่าผู้เล่นอาจเล่นเกมกับผู้เล่นจากประเทศอื่นในเซิร์ฟเวอร์เดียวกันตั้งแต่เริ่มต้น ผู้เล่นอาจสร้าง Blood Pledge กับผู้เล่นจากประเทศเดียวกันหรือเลือกที่จะสร้าง Blood Pledge กับผู้เล่นจากประเทศอื่น รวมถึงการรวมรบกับ Blood Pledge ของผู้เล่นจากประเทศอื่น ๆ
การทำลายกำแพงดังกล่าวยังรวมไปถึงกำแพงภาษาที่เกมมีระบบ AI ในการแปลภาษาให้ผู้เล่น ระบบการแปลภาษามีความฉลาดถึงขั้นแปลสำนวนเฉพาะกลุ่มผู้เล่นได้ ตัวอย่างเช่น ผู้เล่นชาวเกาหลีใช้สำนวนว่า “Ber”, “Tai~”, และ “Myoon Myoon Myoon!” แปลเป็น “teleport” หรือ “immune to harm”
ฉะนั้น Lineage W มิใช่เพียงทำการ “การย่อส่วนของสังคม” แบบภาคอื่น แต่ถึงขั้น “การย่อส่วนของทั้งโลก” เลยทีเดียว ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็ยังคงไว้ซึ่งปรัชญาต้นฉบับของ Lineage อย่างซื่อตรง
โดยปัจจุบัน NCSOFT ได้ประกาศวันให้บริการเกมอย่างเป็นทางการคือวันที่ 4 พฤศจิกายน 2021 สามารถลงทะเบียนได้ที่สโตร์ทั้งสองระบบเพื่อรับของตอบแทน อีกกระทั่งสามารถทำการจองชื่อได้ทันที ที่ https://lineagew.plaync.com/character
แหล่งข้อมูลอ้างอิง: