GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "เนื้อเรื่อง"
Cyberpunk 2077 วิธีช่วยชีวิต Takemura
Cyberpunk 2077 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีภารกิจหลัก ภารกิจเสริมที่เยอะมากๆ และแต่ละภารกิจนั้นก็น่าสนใจมากเช่นกันเพราะแต่ละภารกิจนั้นผู้เล่นสามารถเลือกตัวเลือกที่แตกต่างกันออกไปได้ โดยการตัดสินใจในแต่ละครั้งนั้นจะมีผลกระทบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ภารกิจ Search And Destroy ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะช่วยหรือจะหนี ในวันนี้พวกเรา GameFever จะพาทุกคนมาดูทางเลือกของภารกิจนี้กันว่าทำอย่างไหนคือการช่วยชีวิต Takemura และแบบไหนคือการปล่อยให้เขาตาย. 1.ช่วงเริ่มก่อนภารกิจ ในภารกิจหลัก Search And Destroy นั้นผู้เล่นจะมีโอกาสในการช่วยชีวิตทาเคมูระ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าการโฟกัสหาตัวเขานั้นทำได้ยาก และไม่มีตัวเลือกให้เราตัดสินใจต้องใช้ผลของการกระทำเท่านั้น โดยในช่วงก่อนเริ่มภารกิจนั้น ช่วงที่ผู้เล่นอยู่กับทาเคมูระที่เซฟเฮาส์ จะมีการบุกโจมตีโดยกลุ่มลูกน้องของอาราซากะ และผลของการบุกถล่มในครั้งนี้ทำให้พื้นถล่มจนผู้เล่นตกลงไปที่โถงทางเดินด้านล่างของอพาร์ทเมนท์ จากนั้นถูกผู้เล่นจะฟื้นขึ้นมาจากการปลุกของ Johny Silverhand และเราต้องกลับไปหาทาเคมูระโดยเร็วที่สุด 2.ตัดสินใจว่าจะช่วยหรือจะหนี! การที่เราจะกลับไปหาทาเคมูระได้นั้นตัวเกมจะไม่ได้บอกตำแหน่งที่ชัดเจน ซึ่งในขณะที่ผู้เล่นเดินมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายไฟนีออนสีฟ้า ( ตรงนี้แล้วแต่คนจะมองนะครับเพราะบางคนบอกว่ามันคือป้ายสัญลักษณ์บวก บางคนก็ว่ามันคือสัญลักษณ์ไม้กางเขน ) ตรงจุดนี่แหละผู้เล่นจะพบกับทางแยก 2 แขนง ซึ่งการตัดสินใจด้วยการกระทำต่อไปนี้จะมีผลอันใหญ่หลวงต่อผู้เล่นในอนาคต ดังนี้ : เลือกทางขวา - เพียงเดินไปเรื่อยๆ และผ่านเส้นทางนี้ออกไปจะเป็นการทิ้งทาเคมูระและปล่อยให้เขาตาย เลือกทางซ้าย - การเข้าไปในรอยแตกเล็กๆ ถือเป็นการกลับเข้าไปในอพาร์ทเมนท์และนี่คือ วิธีช่วยชีวิตทาเคมูระ! 3.ห้อง 303 คือคำตอบ! ถ้าเลือกทางซ้ายเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้เล่นจะต้องจัดการกับบรรดาลูกน้องของอาราซาระ จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปสองชั้น เดินไปเรื่อยๆ จากนั้นเลี้ยวขวาจะพบห้องหมายเลข 303 เมื่อเข้าไปให้จัดการกับทหารภายในนั้นและช่วยทาเคมูระออกจาก ตรงนี้ผู้เล่นห้ามกลับทางเดิมเพราะจะเป็นการทำให้ทาเคมูระตาย ให้เราไปยังทางเดินยาวๆ อีกทางหนึ่ง เพราะถ้าทาเคมูระตายเขาจะไม่มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องหลังจากนี้ตลอดไปจนจบเกม แต่ถ้าผู้เล่นช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ เขาจะมาปรากฏตัวอีกครั้งในตอนจบของเส้นทางฮานาโกะ. Credit : Thegamer  
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 เงื่อนไขการมีความรักกับ NPC ภายในเกม
เรียกได้ว่ากระแสของเกม Cyberpunk 2077 นั้นกำลังมาแรงมากๆ เพราะเป็นเกม RPG / Open-World ที่มีระบบน่าสนใจอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ "ระบบความรัก" ความหมายก็คือผู้เล่นสามารถที่จะจีบ NPC ในเกมได้ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น การทำเควสเสริม การเลือกตัวเลือกที่ถูกใจ NPC คนนั้น ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอมาแนะนำเส้นทางรักโรแมนติดในเกม Cyberpunk 2077 ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.Judy Alvarez เงื่อนไข - จูดี้นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียง และรูปร่างที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับจูดี้ได้หลังจากที่ทำเควสหลักที่เกี่ยวข้องกับ Evelyn Parker และ Judy ได้แก่ The Information / Automatic Love และพอหลังจากนี้ Judy จะโทรศัพท์มาหาเรา และมอบงานเสริมให้นั่นคือ The Space in Between  / Disasterpiece จากนั้นผู้เล่นจะได้รับเควสเสริมทำให้สามารถติดต่อกับเธอได้มากขึ้น และหลังจากนี้ผู้เล่นต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีในสายตาของจูดี้ และอย่าลืมที่จะตัดสินใจในตัวเลือกที่สำคัญบางอย่างในระหว่างทำเควสเสริมเพื่อให้เพิ่มความรักให้เธอจะมีให้กับ V มากขึ้นด้วย ดังนี้ Both Sides Now : เลือกเป็นคนดีและช่วยเหลือจูดี้ด้วยการเยียวยาเธอจากการสูญเสียคนที่รัก Ex-Factor : เลือกฆ่า Woodman Talking About a Revolution : เลือกปฏิเสธการชำระเงิน Maikos plan : ผู้เล่นจะต้องให้ V ปฏิเสธแผนของ Maiko และช่วยให้ Clouds เป็นอิสระ เลือกที่จะไม่ฆ่า Maiko Pyramid Song : ไปดำน้ำกับจูดี้และเลือกตัวเลือกที่จะทำให้เธอรัก หลังจากที่ผู้เล่นตั้งใจจะทำให้เธอรักแบบหมดใจ การกระทำนี้จะส่งผลในช่วงท้ายเกมและตอนจบ 2. Panam Palmer เงื่อนไข - Panam นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับ Panam ได้หลังจากที่ทำเควสหลักเหล่านี้เสร็จแล้ว ได้แก่ Ghost Town / Lightning Breaks / Life During Wartime  จากนั้นผู้เล่นสามารถที่จะทำเควสเสริมเพื่อทำให้เธอเริ่มรู้สึกกับเรามากขึ้นด้วยการเลือกตัวเลือกบางอย่างในระหว่างภารกิจหลักจะช่วยผนึกข้อตกลงได้เช่นกัน ดังนี้ : เนื้อเรื่องหลัก Mission Ghost Town: รับเครื่องดื่ม เนื้อเรื่องหลัก Mission Life During Wartime : ปกป้องเธอต่อหน้าซาอูล เควสเสริม Riders on the Storm : เลือกที่จะไปกับ Panam With a Little Help From My Friends : เก็บแผนของ Panam ไว้เป็นความลับบอก พร้อมกับเธอว่าเธอพลาด และจับมือพาเธอไปใกล้ๆ กองไฟ 3.Kerry Eurodyne เงื่อนไข -  เคอรี่นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ถึงแม้ว่าผู้เล่นไม่พบกับ Kerry มากเท่ากับอีกสองตัวละครด้านบน แต่ก็ยังสามารถที่จะพบกับเคอรรี่ได้จากหลายๆ เควส ทั้งเควสหลัก และเควสเสริมอื่นๆ จากนั้นให้ผู้เล่นทำสิ่งต่อไปนี้ Off the Leash:  จีบ Kerry Boat Drinks: จูบ Kerry หลังจากนี้ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างความสัมพันธ์แบบความรักหรือแค่เพียงพบกันแบบ One Night Stand แต่ขอบอกใบ้ให้ว่าถ้าคุณเส้นทางนี้เขาจะพาผู้เล่นไปเจอหนึ่งในอาวุธที่ดีทีสุดในเกมและยานพาหนะ อันดับต้นๆ ของเกมเลย. 4.River Ward เงื่อนไข -  ริเวอร์วอร์ดนั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้หญิง (รวมถึงอวัยวะลับ) River Ward นั้นเป็นตัวละครที่เราสามารถพบได้จากเควสเสริมที่ชื่อว่า I Fought the Law โดยผู้เล่นจะพบว่าเขาเป็นนักสือของ NCPD และหลังจากนั้นก็จะสามารถพบกับเขาได้มากขึ้นจากการทำเควสเสริมต่างๆ โดยแนะนำให้เลือกตัวเลือกคัวสำคัญดังต่อไปนี้ : The Hunt : ช่วย Randy และแสดงความสนใจตัวเขา Following the River : จูบเขาสองครั้ง และเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนในเกมนี้ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะสานต่อความรักครั้งนี้หรือเลือกที่จะพบกันแบบ One Night Stand ซึ่งการตัดสินใจสำหรับหัวข้อนี้จะมีผลกับตอนจบด้วย!   5.ความรักในแบบอื่นๆ สำหรับในเรื่องของความรักและการจีบอีก 4 คนด้านบนนั้น ผู้เล่นยังสามารถที่จะพบรักและสานความสัมพันธ์กับ NPC คนอื่นๆ ได้ดังนี้ : Meredith Stout : ผู้เล่นสามารถพบได้ในช่วงเริ่มต้นภารกิจ The Pickup ซึ่งแนะนำว่าควรจ่ายเงินให้ Royce ด้วยชิป Militech โดยไม่ต้องลบมัลแวร์ออก จากนั้นให้บอก Meredith ว่าเราต้องการที่จะทำงานร่วมกันอีกครั้งและจะทำให้สามารถใช้เวลาร่วมด้วยกันได้มากขึ้น Joytoys : สามารถพบได้ใน Night City เฉพาะบนถนน Jig Jig และสามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้ด้วยการจ่ายค่าบริการ Rogue Amendiares : อนุญาตให้ Johnny เจ้าครอบครองร่างของ V เป็นครั้งเป็นคราวจะทำให้สามารถเดทกับ Rogue ผ่านภารกิจ Tapeworm ได้ Credit : vg247  Gamerant
14 Dec 2020
Cyberpunk 2077 ปล่อยวิดีโอโชว์เบื้องหลังการ Mocap ของคุณ Keanu Reeves
Johnny Silverhand คือชื่อของตัวละครที่คุณ Keanu Reeves นักแสดงหนังชื่อดังมารับบทให้ในเกม Cyberpunk 2077 ซึ่งจากประวัติของเขาที่เราได้ทำออกมาก่อนหน้านี้ Johnny จะเป็นตัวละครสำคัญในเนื้อเรื่องเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และวันนี้เราก็มีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังการทำ Motion-Capture ของตัวละครนี้ออกมาด้วยครับ! ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ออกมาจากทาง CD Projekt Red หนึ่งเป็นวิดีโอเกี่ยวกับ Johnny Silverhand ในเกม และอีกหนึ่งเป็นเบื่องหลังการ Motion-Capture ของคุณ Keanu Reeves โดยจากวิดีโอดูเหมือนเขาจะสนุกไปกับการรับบทเป็น Johnny ไม่น้อยเลยทีเดียว รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer 
20 Nov 2020
Cyberpunk 2077 เผยข้อมูลภูมิหลังของทั้งสามแบบ และผลกระทบต่อเนื้อเรื่อง
หลังจากทื่ปล่อยให้รออยู่นาน ในที่สุด CD Projekt Red ก็ได้ทำการปล่อยไลฟสตรีม Night City Wire EP.2 แล้ว ซึ่งในไลฟ์สตรีมครั้งนี้วิดีโอที่ถูกปล่อยออกมาตัวแรก เป็นวิดีโอที่โชว์ให้ผู้เล่นเห็นว่า การเลือกเส้นทางชีวิตของ V ทั้ง 3 แบบ ผู้เล่นจะได้พบกับอะไรบ้าง รวมไปจนถึงว่าจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องอย่างไรครับ! วิดีโอดังกล่าว จะเริ่มจากเส้นทางชัวิตในแบบ Street Kid ก่อน จากนั้นจึงเป็น Nomad และปิดท้ายด้วย Corpo โดย Street Kid เป็นไปตามชื่อ V จะเกิด และใช้ชีวิตในฐานะเด็กข้างถนนมาก่อน มันทำให้ V รู้ทางหนีทีไล่ภายในเมืองเป็นอย่างดี รวมถึงยังทำให้สามารถเข้าถึง Gang ต่างๆ ได้ง่ายกว่า ส่วน Nomad เป็นเส้นทางที่ V เกิด รวมถึงใช้ชีวิตในเขต Badlands โดยผู้คนในเขตนี้มักจะใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัย การเลือกเส้นทางนี้จึงทำให้ V สามารถเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ได้ง่ายกว่า ในขณะที่หากเลือก Corpo ผู้เล่นจะรู้เรื่องภายในของบริษัท Arasaka รวมไปจนถึงความลับของบริษัทแทน คุณ Philipp Weber ผู้รับหน้าที่ออกแบบเควส และเนื้อเรื่องของเกมได้กล่าวว่า "ภูมิหลังของ V จะส่งผลให้เนื้อเรื่องที่ผู้เล่นได้พบหลังจากนั้นแตกต่างกัน และช้อยส์ที่เลือกได้ ก็จะแตกต่างกันไปด้วย" การที่มีประสบการแตกต่างกัน มักทำให้การจัดการปัญหาเดียวกันของแต่ละคนแตกต่างออกไป นับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ถ้าหากว่า เนื้อเรื่องของเกม หรือช้อยส์ที่เราเลือกได้จะแตกต่างกันไป ยกตัวอย่าง ในเควสที่เราจะต้องไปขโมยหุ่นยนต์จาก Maelstrom ในเควสนี้ ถ้าหากว่าเลือก Corpo เราจะรู้ว่าสิ่งที่จะต้องไปขโมยคืออะไร รวมไปจนถึงมันสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นมีตัวเลือกบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในระหว่างทำภารกิจ แต่ถ้าหากว่าเลือก Nomad ตัวละครเราจะรู้ว่า Maelstrom ไปเอาสิ่งนี้มาจากไหน แต่ถ้าหากว่าเลือกที่จะเริ่มต้นด้วย Street Kid ผู้เล่นจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับของที่ต้องไปขโมยเลย แต่จะสามารถเข้าหาคนของ Maelstorm ได้แทน รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC
10 Aug 2020
Cyberpunk 2077 รายละเอียดทั้งหมดของเกม [PC, PS4 และ Xbox One]
Title: Cyberpunk 2077 Genre: Action RPG Openworld Platform: PC, PS4 และ Xbox One Engine: REDengine 4 Release Date: 16 เมษายน 2020 Developer: CD Projekt Red Director: Adam Badowski Designer: Konrad Tomaszkiewicz Artist: Katarzyna Redesiuk Writer: Stanisław Święcicki Composer: Marcin Przybyłowicz https://www.youtube.com/watch?v=YApuEWtG30w https://www.youtube.com/watch?v=euqbMkM-QQk ประวัติการพัฒนา Cyberpunk 2077 เป็นเกมจากทีม CD Projekt Red ที่เคยพัฒนาเกมชื่อดัง The Witcher จนได้รับรางวัล Game of the Years ภายในงาน The Game Awards 2015 โดยเกมนี้ดัดแปลงมาจากเกมกระดาน Cyberpunk 2020 ที่วางจำหน่ายมาในปี 1990 โดย Concept เกมนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ 2012 แต่เริ่มพัฒนาจริงๆ หลังจากที่เสร็จสิ้นโปรเจกต์เกม The Witcher 3: Wild Hunt เสร็จสิ้นในปี 2016 รวมถึงเกมนี้ยังมีผู้พัฒนาถึง 450 คน มากกว่าจำนวนที่ใช้พัฒนาเกมก่อนหน้าอีกด้วย เนื้อเรื่อง โดยตัวเกมจะดำเนินอยู่ในเมือง Night City ช่วง 57 ปีหลังจากยุค Dystopian อันเสื่อมทรามของอเมริกา ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทต่างๆ ที่ไม่มีกฏหมายใดๆ มีความขัดแย้งและสงครามของเหล่าแก๊งต่างๆ และหน่วยงานที่ปกครอง ที่หันหน้าเข้าสู่กับเพื่อการปกครองในเมือง โดยในเมืองนี้หุ่นยนต์ต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเช่นการเก็บขยะการบำรุงรักษาและการขนส่งสาธารณะ อินเทอร์เน็ตได้ดูแลโดย บริษัท และกองทัพ ถึงแม้ภายในเมืองจะมีผู้ยากจน ผู้ไร้บ้านมากมาย แต่การดัดแปลงร่างกายเองก็สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ก่อให้เกิดการเสพติดการดัดแปลงและความรุนแรงที่ตามมา โดยภายในเมืองมีการคุกคามจากกองกำลังติดอาวุธที่เรียกว่า Psycho Squad จึงทำให้ประชาชนทุกคนสามารถพกอาวุธได้ เกมเพลย์ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครสมมติ V ทหารรับจ้างที่เราสามารถปรับแต่งตัวละครต่างๆ ได้ทั้ง เพศ, ทรงผม, ใบหน้า, ร่างกาย, การดัดแปลง และพื้นภูมิหลังของตัวละคร(เป็นเด็กเรร่อน, คนจากองค์กร) เสื้อผ้าสามารถปรับแต่งได้ รวมถึงเสื้อผ้าของ V จะเปลี่ยนแปลงวิธีการโต้ตอบของ NPC ต่างได้ ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่โรแมนติกและเพศสัมพันธ์ได้ หมวดหมู่สเตตัสของตัวละครจะแบ่งออกเป็น Strength(พละกำลัง), Constitution(ความแข็งแกร่ง), Intelligence(ความฉลาด), Reflex(การโต้ตอบ), Tech(เทคโนโลยี) และ Cool(ความเยือกเย็น) มี Perk Tree ที่จะแตกออกเป็นกิ่งก้านซึ่งจะแยกออกเป็นสายต่างๆ ให้เลือกเล่นคือ Melee, Blades, Handguns, Shotguns, Rifles, Sniper Rifles, Hacking, Wwo-handed Combat, Assassination, Cold blood, Engineering และ Athletics ผู้เล่นจะต้องไปคุยกับ Ripperdoc เพื่ออัพเกรดและซื้อการปลูกถ่ายไซเบอร์ในราคาเป็น Eurodollars ในตลาดมืด อาวุธต่างๆ จะมีระบบความแรร์ตั้งแต่ระดับ Uncommon (สีเขียว) ถึง Epic (สีม่วง) V สามารถ Cover เข้าที่กำบังได้, เล็ง, วิ่งบนพื้นดิน, กระโดด, กระโดดสองครั้ง, สไลด์ รวมถึงมีดบนแขนของ V ที่จะทำให้เขาสามารถวิ่งไต่กำแพงได้เช่นเดียวกับอาวุธระยะประชิดอื่นๆ ส่วนอาวุธระยะไกลจะแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ อาวุธ Power (มาตรฐาน), อาวุธ Tech (ใช้เจาะเกราะ, กำแพง) และ Smart (ปืนที่ใช้กระสุน Homing Bullets) โดยอาวุธพวกนี้สามารถปรับแต่งได้ มีการตกแต่งต่อการกระเด็นของกระสุน หรือสะท้อน มี Bullet Time เพื่อสโลว์ศัตรู รวมถึงมีการสร้างความเสียหายอยู่ ประเภทคือ Physical(กายภาพ), Thermal(ความร้อน), EMP และ Chemical(เคมี) โดยสามารถซ่อมและอัพเกรดอาวุธได้ที่ Gunsmiths และถึงแม้ว่าเกมจะมีอาวุธให้ใช้มากมาย แต่เราสามารถจบเกมโดยไม่ต้องฆ่าใครก็ได้ โดยการจะเลือกอาวุธที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ภายในโลกของเกมจะมีทั้งหมด 6 ภูมิภาค ศูนย์กลาง Corporate City , Watson ย่านของเหล่าผู้อพยพ, Westbrook ย่านคนสวย,ชานเมือง Heywood, แหล่งชาวแก๊ง Pacifica และ แหล่งอุตสาหกรรม Santo Domingo โดยภายในเมืองตัวละคร V สามารถเดินทางสำรวจได้อย่างอิสระ การเดินทางสามารถไปได้โดยการเดินเท้า, ยานพาหนะที่สามารถปรับแต่งได้พร้อมทั้งยังใช้โหมด 3rd Person หรือ 1st Person ในการขับรถได้ด้วย พร้อมทั้งเรายังสามารถเลือกโหมดรถออโต้ที่จะสามารถให้เราจดจ่อให้การต่อสู้อย่างเดียวได้ รวมถึงในรถก็จะมีวิทยุให้ฟัง วัฏจักรวันเวลาของเกมจะมีทั้งกลางวัน-กลางคืน มีสภาพอากาศต่างๆ ทั้งดีและแปรปรวน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของ NPC ด้วย ตัวอพาร์ทเมนต์สามารถซื้อและใช้เป็นฐานบ้านได้ ซึ่ง V จะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำอาวุธและเครื่องแต่งกายมาใช้ หรือจะนำ NPC กลับมาเพื่อทำกิจกรรมทางเพศได้ และตัวเกมมีตัวละครที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษด้วย โดยผู้เล่นที่ไม่เข้าใจภาษาสามารถซื้อล่ามเพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้น Braindance" อุปกรณ์บันทึกข้อมูลดิจิตอลจะพุ่งตรงเข้าสู่สมองช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับอารมณ์กระบวนการทางสมองและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของบุคคลอื่นราวกับว่าเป็นคนๆ นั้น รวมถึงการโต้ตอบกับ NPC จะมีคำตอบให้เลือกเป็นกิ่งก้านในการทำเควส และผลลัพธิ์ต่างๆ จะแตกต่างกันไปในการเลือกตอบของแต่ละคน คะแนนประสบการณ์จะได้รับจากเควสหลักและเพิ่มสเตตัสของตัวเราด้วย ส่วนเควสเสริมจะปลดล็อค Skill, คนขายของ, สถานที่และเควสเพิ่มเติม โดยการรับเควสจะรับจากตัวละครที่ชื่อว่า Fixers และตลอดทั้งเกม V จะได้รับความช่วยเหลือจากสหายต่างๆ อีกด้วย จะมีพวกไอเท็มต่างๆ อย่างเช่นพวกน้ำอัดลมที่จะสามารถเพิ่มเลือดได้ โดยสามารถตรวจสอบได้จาก Inventory ของ V รวมถึงมีมินิเกมต่างๆ ให้เล่นอย่างเช่น Hacking, Boxing, Auto Racing, Martial Arts และ Shooting Ranges และข้อความ Game Over จะปรากฏขึ้นที่จุดตายเท่านั้น หากภารกิจล้มเหลวเกมก็จะดำเนินต่อไปเหมือนเดิม โดยผู้เล่นจะดำเนินและนำไปสู่ตอนจบที่แตกต่างกันไป สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมได้ที่ Facebook : GameFever TH YouTube : GameFever TH
30 Jul 2020
Cyberpunk 2077 เจาะลึกประวัติ Militech คู่ปรับตลอดการของ Arasaka
Cyberpunk 2077 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ เป็นเกมที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานรวมถึงโลกที่ใหญ่มาก ถึงแม้ว่าตัวเนื้อเรื่องของเกมจะโฟกัสอยู่ที่เมือง Night City เท่านั้น แต่องค์กร รวมถึงแก๊งต่างๆ ก็มีอยู่มากมายเลย ในเมืองแห่งนี้ ในช่วงก่อนหน้านี้เราได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ Arasaka บริษัทรักษาความปลอดภัยจากแดนปลาดิบไปแล้ว วันนี้เรา จะเจาะลึกประวัติคู่ปรับตลอดการของ Arasaka กันบ้างครับ! บริษัทดังกล่าวไม่ใช้ใครที่ไหน แต่เป็น Militech ที่ทำธุรกิจคล้ายๆ กัน จากประเทศมหาอำนาจแดนตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกานั้นเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าหาก Arasaka คือบริษัทเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 200 ปีแล้วละก็ Militech นั้นมีอายุเพียงแค่เกือบๆ 100 ปีเท่านั้น แล้วอะไรที่ทำให้บริษัทที่มีอายุน้อยกว่าถึง 1 เท่า สามารถเป็นคู่แข่งที่สูสี กับผู่ที่อยู่มานานเกือบ 200 ปี ได้คืออะไร? ไปดูกันครับ! เกี่ยวกับ Militech Militech International Armaments เป็นบริษัททางการทหารยักษ์ใหญ่ในโลกขง Cyberpunk โดยจะแตกต่างกับ Arasaka ที่มีการทำธุรกิจที่หลากหลาย บริษัทนี้โฟกัสแค่ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการสู้รบเท่านั้น ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ Militech เหมือนกับกลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่ที่สามารถผลิตอาวุธเองได้ และมีศักยภาพเทียบเท่ากับกองทัพของประเทศใหญ่ๆ  นั่นเอง สาขาใหญ่ของ Militech ตั้งอยู่ที่ อเมริกาตะวันออก พวกเขาทำงานใกล้ชิดกับ ตำรวจ และทหารของอเมริกา (คือมีอเมริกาเป็นลูกค้าหลัก) ดังนั้นอาจเปรียบได้ว่าบริษัทนี้ไม่ต่างอะไรกับส่วนหนึ่งของกองทัพอเมริกาเลย แน่นอนว่าอเมริกาไม่ใช้ลูกค้าเพียงประเทศเดียวของ Militech แต่ยังมีอีกหลายประเทศในโลก ที่ใช้บริการรักษาความปลอดภัยของพวกเขา อย่างไรก็ตามถ้าจะให้บอกว่าพวกเขาสามารถหาเงินได้จากธุรกิจด้านไหนมากที่สุด คงต้องบอกว่าเป็นการผลิตอาวุธขาย Militech เป็นบริษัทที่ขายอาวุธทุกชนิดจริงๆ ตั้งแต่ ปืนกลเล็ก, ปืนกลหนัก, รถถัง, เครื่องบินรบ หรือขีปนาวุธ คือถ้าพูดถึงความสามารถในการผลิตอาวุธอย่างเดียว ในโลกของ Cyberpunk ไม่มีบริษัทไหนสามารถเปรียบเทียบกับบริษัทนี้ได้เลย ยุคก่อตั้ง ปี 1996 - 1998 บริษัทนี้ถูกก่อตั้งโดยนักออกแบบอาวุธชาวอิตาลี Antonio Luccessi ในปี 1996 และใช้ชื่อว่า Armatech-Lucessi International เส้นทางที่ทำให้บริษัทนี้กลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ของโลก เริ่มขึ้นในปี 1998 เมื่อสหรัฐอเมริกาต้องการจะเปลี่ยนอาวุธปืนประจำกายของเหล่าทหารในกองทัพจาก M-16A2 เป็นปืนที่ทันสมัยมากขึ้น ในตอนนั้นมีปืนไรเฟิล 3 กระบอกที่เข้าตากองทัพอเมริกาคือ FN SAP ปืนไรเฟิลที่คาดหวังอะไรไม่ค้อยได้ โดยเฉพาะในเรื่องของความแม่นยำ แต่มันมีราคาไม่แพง ซึ่งเหตุผลเดียวที่ไรเฟิลกระบอกนี้ อยู่ในตัวเลือก เป็นเพราะบริษัทผู้ผลิตปืนนี้ Fabrique International มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลของอเมริกา นอกจากนี้ตัวปืนยังกระสุนแบบเดียวกับที่พันธมิตรของพวกเขาใช้ ซึ่งมันทำให้การช่วยออกรบภายในกลุ่ม NATO สามารถทำได้ง่ายขึ้น AR-17X ปืนไรเฟิลคุณภาพสูงที่มีใช้เงินเยอะมากในการผลิต Ronin Light ไรเฟิลรุ่นใหม่จากทาง Armatech-Lucessi International ที่มีความแมนยำ และพลังอำนาจในการเจาะทะลวงสูง ด้วยพลังอำนาจในการเจาะทะลวง และความแม่นยำชนิดไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้นายพล Donald Lundee ถูกอกถูกปืนไรเฟิลกระบอกนี้มาก พร้อมลงความเห็นว่า สมควรถูกเอามาใช้เป็นอาวุธประจำกายใหม่ของทหารกองทัพสหรัฐ แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นสหรัฐอเมริกา กำลังเจอกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก ทำให้เป็นการยากที่จะเอา Ronin Light มาเป็นอาวุธประจำกายใหม่ จนทำให้ Donald Lundee ต้องจำใจเลือก FN SAP ไรเฟิลที่ด้อยกว่ามาก แต่ใช้เงินในการผลิตน้อยกว่าแทน [caption id="" align="aligncenter" width="1148"] ปืนไรเฟิลของ Armatech-Lucessi International[/caption] จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ ปี 2004 - 2010 ในปี 2004 อเมริกาสูญเสียทหารไปหลายพันคน ในการรบที่เขตป่าช่วงกลางของทวีป เนื่องจาก FN SAP เป็นปืนที่ไม่เหมาะจะใช้ในพื้นที่เขตร้อนมากๆ นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เกิดจากความผิดพลาดในการตัดสินใจของกองทัพในช่วง 6 ปีก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่า Lundee จะไม่ได้ลงไปรบในสงครามครั้งนี้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกผิดต่อเหล่าทหารที่ต้องตาย เพราะอาวุธมีประสิทธิภาพไม่ดีพอสมควร ในช่วงเวลาเดียวกัน Luccessi ได้ยื่นข้อเสนอ ว่าอยากให้ Lundee เข้ามารับตำแหน่ง CEO ของบริษัท Armatech ซึ่งมันส่งผลให้เขาลาออกจากการเป็นนายพลในกองทัพของอเมริกาในเวลาต่อมา การเคยเป็นอดีตคนที่มีตำแหน่งสูงใน Pentagon ทำให้เขารู้ดีว่าตลาดการซื้อขายอาวุธเป็นอย่างไร รวมถึงสภาพของตลาดในปัจจุบันว่ามีจุดอ่อนตรงไหน กับยังขาดอะไร พอเอาไปรวมกับความสามารถในการออกแบบอาวุธระดับสูงของ Luccessi และการไม่ยึดติดว่าจะต้องขายอาวุธของตัวเองให้กับชาติใดชาติหนึ่ง ทำให้บริษัทนี้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และได้เปลี่ยนชื่อของตัวเองเป็น Militech Arms International หลังจากนั้นเป็นต้นมา ในปีเดียวกัน Militech ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หล่วง หลังจากที่อเมริกาสูญเสียอย่างหนักในสงครามอเมริกากลาง กองทัพจึงได้ตัดสินใจที่จะเลิกใช้ FN SAP และหันมาพึ่ง Ronin Light ซึ่งเป็นไรเฟิลของ Militech แทน ด้วนความยอดเยี่ยมของปืนกระบอกนี้ ทำให้ทาง Militech ได้เซ็นสัญญาซื้อขาย กับกองทัพอเมริกาอย่างเป็นทางการ จากการได้ทำสัญญาครั้งนี้ ทำให้บริษัทเริ่มผลิตอาวุธชนิดอื่นๆ นอกจากปืนไรเฟิลออกมาขาย ไม่ว่าจะเป็น รถถัง, เครื่องบินรบ, อาวุธระเบิด รวมไปจนถึงยานหาหนะ และส่งขายไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับคุณภาพของอาวุธที่ได้ Militech ได้เซ็นสัญญาซื้อขายอาวุธของพวกเขา กับประเทศ หรือบริษัทอื่นๆ ทั่วโลกอีกมากมายในเวลาต่อมา ในปี 2010 บริษัท Militech ได้กลายเป็น หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก พร้อมทั้งยังเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการป้องกัน-ปราบปราม ของสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ อีก 7-8 แห่งทั่วโลก สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ปี 2022 - 2027 ด้วยความที่กลายเป็นบริษัททางการทหารที่มีอิธิพลอันดับต้นๆ ทำให้ Donald Lundee ลุ่มหลงในพลังอำนาจ และปราถนาที่จะทำให้ Militech เป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลก แต่ความเป็นจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะในโลกยังมีอีก 2 บริษัท ที่มีอำนาจมากกว่าบริษัทของเขา อย่าง Arasaka และ EBM อยู่ ซึ่ง Lundee เชื่อมันอย่างมากว่า บริษัทของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทั้ง 2 เลย Lundee เชื่อว่าการจะเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ เขาจำเป็นต้องกำจัดบริษัทที่เกี่ยวกับอาวุธสงคราม ทั้งหมดออกไปให้พ้นทางเสียก่อน เขาจึงได้เริ่มกวาดล่าง หรือไม่ก็ดึงบริษัทอื่นๆ มาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บริษัทอื่นๆ โดยกลุ่มยังเหลือรอดอยู่ คือกลุ่มที่อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ หรือไม่ก็เล็กเกินไปจนไม่ต้องเอามาใส่ใจเท่านั้นส โอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลกของ Militech มาเร็วกว่าที่คิด ในปี 2022 เกิดสงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ขึ้น และพวกเขาเองก็มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ด้วย แถมฝั่งตรงข้ามยังเป็น Arasaka ที่เป็นคู่แข่งทางการค้าของพวกเขาอีกต่างหาก ส่งผลให้สงครามครั้งรุนแรง และยาวนานมาก ชนิดที่เมือง Night City ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสงครามครั้งนี้ กลายเป็นเขตที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้เลยทีเดียว หลังจากผ่านไป 5 ปี สงครามครั้งนี้ได้จบลงด้วยชัยชนะของบริษัท Militech และขึ้นเป็นบริษัทขายอาวุธสงครามที่มีอำนาจมากที่สุดของโลก Cyberpunk 2077 ทุกคนใน Night City รู้ดีว่า Militech คือบริผลิตอาวุธอันดับ 1 ของโลก พวกเขาทำงานร่วมกับกองทัพของสหรัฐอเมริกา อยู่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามข้อมูลของบริษัทนี้ในปี 2077 เรียกได้ว่ามีอยู่น้อยมากๆ ในตอนนี้ คงต้องรอดูในช่วงปลายปีว่า พวกเขาจะมีบทบาทในเนื้อเรื่องของเกมมากน้อยขนาดไหนครับ! Credit: Fandom 
17 Jul 2020
Cyberpunk 2077 เจาะลึกประวัติ Arasaka บริษัทผู้ทรงอิทธิพลจากแดนตะวันออก
Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ธีมถูกเซ็ตอยู่โลกยุคอนาคต ผู้คนเริ่มมีการดัดแปลงร่างกายตัวเองจนกลายเป็นไซบอร์ก, รถสามารถวิ่งบนทองฟ้าได้, รวมไปจนถึงมีเทคโนโลยีที่ทำให้คนสามารถเข้าไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ถึงแม้หลายอย่างที่กล่าวมาจะดูไซไฟสุดๆ แต่ในโลกแบบนี้ ก็มีหนึ่งอย่างที่ไม่ได้แตกต่างจากความเป็นจริงเท่าไหร่ นั้นก็คือการที่โลกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยเหล่าบริษัทยักษ์ที่มีเงินมากมายต่างๆ เหมือนเดิม แน่นอนว่าเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่มากมายในโลกของ Cyberpunk 2077 ไม่ว่าจะเป็น EBM, Militech, IEC, หรือ Arasaka โดยในบทความนี้ตัวผมจะขอพาทุกคนไปเจาะลึกประวัติของ Arasaka หนึ่งบริษัทที่มีบทบาทมากมายในโลก Cyberpunk อย่างน้อยในสงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 พวกเขาก็มีบทบาทไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ! เกี่ยวกับ Arasaka Arasaka เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ทำธุรกิจหลักๆ 3 อย่างด้วยกันคือ การรักษาความปลอดภัย, ขายอาวุธ, และให้บริการเก็บรักษาเงิน(ธนาคาร) จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่มูลค่าของบริษัทนี้จะสูงมากๆ แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมายอย่างเดียว หากแต่ใช้ทุกอย่างเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นติดสินบน,  กรรโชกทรัพย์, แม้กระทั้งการแบล็กเมล์ หรือธุรกิจใต้ดินอื่นๆ อย่าง การลอบสังหาร, สำนักงานทนายแก้ต่างคดี รวมไปจนถึงกลุ่มยากูซ่า แต่ถ้าจะให้ระบุว่าบริษัทนี้ขึ้นชื่อในด้านไหนมากที่สด คงต้องบอกว่าเป็นในด้านการรักษาความปลอดภัย ที่ไม่เป็นสองรองใครในโลกของ Cyberpunk แน่นอนว่าเพื่อที่จะให้บริการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทาง Arasaka จึงมีทั้งกำลังพล และอาวุธในครอบครองจำนวนมาก ส่งผลให้พวกเขาไม่ได้มีอิทธิพลในเชิงธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังมีอำนาจในเชิงการทหารสูงมากด้วย ยุคก่อตั้ง ปี 1915-2020 บริษัท Arasaka ถูกก่อตั้งครั้งแรกในปี 1915 โดย Sasai Arasaka ที่เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น โดยช่วงแรกพวกเขามุ่งเน้นไปที่การผลิตอาวุธขาย ซึ่งในปี 1937 บริษัทนี้ได้กำไรมหาศาลจากการขายอาวุธในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม Sasai มองเห็นว่าญี่ปุ่นจะแพ้ในสงครามครั้งนี้แน่ๆ และมันจะทำให้บริษัท Arasaka ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาจึงทำการกระจายเงินที่มี ไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ยากต่อการค้นหา และป้องกันไม่ให้ถูกเอาไปโดยผู้ที่ชนะสงคราม ตอนนั้นเศรษฐกิจของญึ่ปุ่น อยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากๆ เนื่องจากใกล้จะแพ้สงครามอยู่เต็มทน Saburo Arasaka บุตรชายของ Sasai ได้มองว่าญี่ปุ่นยังสามารถกลับมายิ่งใหญ๋ได้อีกครั้ง ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้มันเป็นจริงได้คือผู้นำที่ยอดเยี่ยม และเงินทุนที่มากพอ อย่างไรก็ตาม Sasai ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงสูงเกินไป และตัวเขาต้องการให้บริษัท Arasaka อยู่รอดได้ แม้สงครามจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของญีปุ่นมากกว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 1945 มหาจักพรรดิ์ของญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ตอนนั้น Saburo กำลังรับใช้ชาติอยู่ในฐานะร้อยโทของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นแล้ว การพ่ายแพ้ในสงครามแบบนี้เป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่าตาย ทำให้ทหารหลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตายมากกว่าจะกลับบ้านไปหาลูกเมีย แน่นอนว่า Saburo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ในวินาทีที่กำลังจะลงมีดตัวเอง เขาได้คิดทบทวนเหตุการที่ผ่านมา และเข้าใจในที่สุดว่าทำไมพ่อของเขาถึงไม่เห็นด้วย กับความคิดของเขาก่อนหน้านี้ ทั้งยังตระหนักได้ว่าตัวเองยังมีบริษัท Arasaka อยู่ พ่อของเขา Sasai Arasaka ก็อายุมากแล้ว สักวันหนึ่งบริษัทนี้ก็ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา คืนนั้น Saburo เลิกคิดที่จะฆ่าตัวตาย และหันมาศึกษา การเมือง, กฎหมาย, กับการตลาด เพื่อเตรียมรับช่วงต่อบริษัทจากพ่อของเขาแทน ในปี 1960 ผู้ก่อตั้งบริษัท Sasai Arasaka ได้ถึงแก่กรรมด้วยวัย 101 ปี ทำให้ Saburo ที่ตอนนั้นมีอายุ 41 ปี ขึ้นมารับช่วงต่อบริษัท Arasaka แทนต็มตัว ตอนนั้นตัวบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ และยังเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ พวกเขาพยายามก่อร่างสร้างตัวใหม่ด้วยการค้าขายระหว่างประเทศ แน่นอนว่าบริษัท Arasaka เติบโตมากขึ้นทุกวัน แต่เหมือนว่าความทะเยอทะยานของเขา จะมากกว่าการเป็นบริษัทใหญ่ ที่มีเงินไหลเข้ามาเยอะๆ Saburo เชื่อว่า "ข้อมูล" เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าจะมีอำนาจในโลกยุคใหม่นี้ ดังนั้นเขาจึงได้พยายามทำให้ Arasaka กลายเป็นบริษัทที่สามารถรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในโลกได้ง่าย Saburo ตั้งแผนกใหม่ที่ให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะขึ้นมา โดยการรักษาความปลอกภัยในที่นี้ ไม่ใช้แค่ในเชิงกายภาพอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ด้วย Saburo ใช้เวลาอยู่นานมาก กว่าจะทำให้การรักษาความปลอดภัยของ Arasaka มีชื่อเสียงโดงดังไปทั่วโลกได้จริง จนกระทั้งในช่วงปี 1990 เขาก็ทำสำเร็จ ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่เขาสะสมมาหลายปี  Saburo สามารถคาดการณ์ได้ว่าโลกจะพบกับ วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 1996 ทำให้บริษัท Arasaka สามารถเตรียมตัวที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ในการขยายอิทธิพลมากขึ้นไปอีก จนทำให้ Arasaka ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกในเวลาต่อมา จากการที่ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก Saburo ได้เริ่มต้นทำความปรารถนาที่จะเป็นใหญ่ในโลกของเขา Arasaka ได้เริ่มสะสมกำลังพล และอาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดียวกันเขาได้ทำลาย รวมถึงกวาดล้างบริษัทคู่แข่งไปมากมายเช่นกัน แน่นอนว่าบริษัทไหนที่ดูใช้ประโยชน์ได้ เขาก็จะรวบบริษัทเหล่านั้นเข้ากับ Arasaka เพื่อเก็บไว้ใช้งาน หลังจากนั้นจนถึงปี 2020 บริษัท Arasaka ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะทำธุรกิจมากมาย แต่การรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และ การขายอาวุธยังคงเป็นรายได้หลักอยู่เช่นเดิม ด้วยอายุ 78 ปี Saburo ได้ก่าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัทในปี 1997 และให้ Kei Arasaka ลูกชายของเขาขึ้นรับช่วงต่อแทน โดยตัว Saburo ลดบทบาทตัวเองจนเหลือเพียงแค่เป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องสำคัญๆ เท่านั้น สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ปี 2022-2027 ในปีช่วงปลายปี 2021 สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ได้อุบัติขึ้น ระหว่าง CINO กับ OTEC ที่เป็นบริษัทขนส่งทางน้ำของยุโรป และอเมริกา โดยจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้ เป็นเพราะ IHAG ที่เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งใต้น้ำยักษ์ใหญ่เกิดล้มละลาย ทำให้ CINO กับ OTEC แข่งกันเข้ายึดทรัพยากรต่างๆ ของ IHAG ในตอนแรกทั้ง 2 ก็สู้กันในตลาดหุ่นดีๆ แต่การต่อสู้ก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปถึงขั้นมีการว่าจ่าง Arasaka กับ Militech ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอาวุธ และการรักษาความปลอดภัย ให้เข้ามามีบทบาทในสงครามครั้งนี้ด้วย ด้วยความที่ Arasaka กับ Militech ต่างก็เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และการทหารยักษ์ใหญ่เหมือนกัน ทำให้ทั้ง 2 เองก็เป็นคู่แข่งทางการตลาดมานานแล้ว แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างพยายามที่จะกำจัดอีกฝ่ายออกไปมาโดยตลอด ทำให้สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 เป็นข้ออ้างอันดี ที่ทั้ง 2 จะใช้ เพื่อลดอำนาจของอีกฝ่ายลง ในช่วงเวลานั้น Saburo คิดว่า Donald Lundee ประธานของบริษัท Militech ไม่ต่างอะไรกับตัวแทนของ ผู้คน, ประเทศ, หรือทหารที่ช่วงชิงเกียรติยศของชาวญี่ปุ่นไป ทำให้ตัวเขารู้สึกอยากจะเอาชนะในสงครามครั้งนี้เป็นอย่างมาก ทางด้าน Donald Lundee เอง ก็คิดว่า Arasaka เป็นศัตรูที่เขาต้องรับมือด้วยกำลังทหารเท่านั้นเช่นกัน ส่งผลให้สงครามในครั้งนี้รุนแรงมากๆ ในปี 2022 ผู้รับหน้าที่ออกคำสังปฏิบัติการประจำวันไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็น Kei Arasaka ผู้เป็นลูกชาย แตกต่างจากพ่อของเขา Kei มองว่าการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง และไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวด้วย แต่เขาเห็นด้วยว่าบริษัทจำเป็นต้องเอาชนะในสงครามครั้งนี้ให้ได้ เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า Arasaka จะชนะในศึกนี้ ต่อมาในปี 2024 ตัวของ Kei ได้ขึ้นมาควบคุมบริษัทนี้แบบ 100% เพราะพ่อของเขาจำเป็นต้องไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโดนลอบสังหาร ไม่ว่าจะเป็นกำลังคน หรืออาวุธ Kei มองว่าทุกอย่างเป็นเพียงหมากชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากว่าสูญเสียไป ก็เพียงแค่หาหมากใหม่มาทดแทนเท่านั้น ส่งผลให้ลูกชายคนเล็กของเขา Yorinobu Arasaka ไม่พอใจการกระทำของพ่อเขามากๆ และคิดที่จะก่อกบฏ จนทำให้บริษัท Arasaka ต้องรับทั้งศึกภายนอก และภายใน สงครามรครั้งนี้จบลง หลังจากที่ตึกของ Arasaka ในเมือง Night City ถูกระเบิดจนต้องถล่มลงมา สร้างความเสียหายให้กับเมือง Night City เป็นอย่างมาก Kei Arasaka ถูกบังคับให้ต้องฆ่าตัวตาย ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา Kress โทษว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของ Arasaka และตราหน้าบริษัทนี้ว่าไม่ต่างอะไรจากผู้ก่อการร้าย ส่งผลให้ผู้บริหารทั้งหมดของบริษัทถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไปด้วย ต่อมาในปี 2027 บริษัทถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่าย Bakafu ที่นำโดย Hanako Arasaka ลูกสาวคนโต, ฝ่าย Princess ที่นำโดย Michiko Arasaka ลูกสาวของ Kei ที่หันไปจับมือกับอเมริกา และฝ่าย Rebel ที่นำโดยลูกชายผู้เป็นกบฏของตระกูล Yorinobu Arasaka Cyberpunk 2077 ในปี 2077 บริษัท Arasaka ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิธิพลอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าบริษัทนี้ยังคงให้บริการรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และค่าอาวุธเช่นเดิม Yorinobu Arasaka ดูเหมือนจะเป็นผู้นำคนปัจจุบันของบริษัทนี้ ที่น่าตกใจคือ Saburo Arasaka ทีมีอายุถึง 158 ปีแล้ว ยังไม่ตายด้วย! ในขณะที่ทาง Hanako Arasaka กับ Michiko Arasaka ยังไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ถ้าหากเราเลือกให้ "V" เคยเป็นคนในบริษัทมาก่อน เนื้อเรื้องจะเริ่มต้นในบริษัท Arasaka ของเมือง Night City ด้วย ต้องรอดูต่อไปว่า Arasaka จะมีบทบาทยังไงในเกมช่วงปลายปีนี้ครับ Credit: Fandom
16 Jul 2020
Cyberpunk 2077 เล่าเรื่องราวของ Evelyn อีกหนึ่งตัวละครสำคัญผ่าน Twitter!
เรื่องราวของตัวละครต่างๆ ในเกม Cyberpunk 2077 เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าตัวเกมจะยังไม่วางจำหน่ายช่วงนี้ แต่ล่าสุดก็ได้มีการปล่อยเรื่องราวของตัวละครบางตัวออกมาแล้วผ่านทาง Twitter และวันนี้ตัวละครที่ได้รับโอกาสนั้นคือ Evelyn Parker ครับ Evelyn Parker เปิดตัวครั้งแรกใน Trailer ของงาน Night City Wire โดยจากโพสต์ล่าสุดขน Twitter ของ Cyberpunk 2077 ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนฉลาด ทั้งมีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก เธอมีความฝันที่อยากเป็นนักแสดงอาชีพ และด้วยสมองที่ชาญฉลาด ได้ทำให้เธอสามารถเข้าทำงานที่ Doll House ได้ แต่เหมือนว่าก้อนหินที่เธอคิดจะใช้เหยียบขึ้นไปนี้กลายเป็นสิ่งที่ผู้มัดเธอไว้มากกว่า Evelyn ดูน่าจะเป็นตัวละครที่มีความสำคัญในเนื้อเรื่อง แต่ว่าเธอจะสำคัญยังไงคงต้องรอติดตามต่อไปในวันที่เกมวางจำหน่าย 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Evelyn Parker’s intelligence and ambition drives her to demand more from life. Her goal of becoming a professional actress, and her rational head for the biz, led her to a job at the Doll House, but this stepping stone in her career quickly became something much more permanent. pic.twitter.com/CjGgSWU68A — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) July 6, 2020 Credit: GameRant
08 Jul 2020
Cyberpunk 2077 การก่อตั้งเมือง Night City และสรุปเรื่องราวก่อนปี 2013!
Night City คือชื่อของเมืองในเกม Cyberpunk 2077 แต่รู้รึเปล่าครับว่าจริงๆ แล้ว Cyberpunk ไม่ใช่เกม Original ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย CD Projekt Red เอง หากแต่เป็นเกมที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Cyberpunk 2013 และ Cyberpunk 2020 ที่เป็นบอร์ดเกม ดังนั้นเมือง Night City ที่เป็นเซ็ตติ้งของเกมเอง ก็ไม่ได้เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา แต่มีประวัติศาสตร์มาช้านานแล้วเช่นกัน แถมเมืองนี้ยังมีอายุเกือบ 100 ปีแล้วด้วย วันนี้ผมเลยจะพาเพื่อนๆ ชาว GameFever TH มาย้อนรอยประวัติศาสตร์ไปดูกันว่า กว่าจะมาเป็นเมือง Night City ในเกม Cyberpunk 2077 ที่กำลังจะออกได้ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างไร และมีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้างก่อนปี 2077 ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ จุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองในฝัน (ปี 1992) Richard Alex Night คื่อชื่อของนักธุรกิจที่เป็นคนก่อตั้งเมื่อง Night City ขึ้นมา ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะสร้างเมืองนี้ขึ้นมา เกิดจากการที่ตัวเขาเองเริ่มไม่พอใจ กับการบริหารโครงการก่อสร้างต่างๆ ในบริษัทที่เขาทำงานอยู่ เขาจึงตัดสินใจลาออกมาตั้งบริษัทของตนเอง โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องสร้างเมืองตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาให้ได้ อ่าว Del Coronado คือสถานที่ซึ่ง Richard ตัดสินใจที่จะสร้างเมืองในฝันนี้ขึ้นมาในชื่อ "Coronado City"  โดย Richard ยังหวังอีกด้วยว่าเมืองนี้จะเป็นเขตปลอดภัยที่ไม่มีการก่ออาชญากรรม หรือสิ่งที่ผิดจริยธรรม ในปี 1992 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Arasaka, EBM, กับ Petrochem ได้ลงทุนเป็นจำนวนมากให้กับโปรเจคสร้างเมืองในฝันครั้งนี้ จนทำให้ Richard สามารถซื้อพื้นที่รอบๆ อ่าว Del Coronado ทั้งหมดไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสร้างเมืองได้ ต่อมาในปี 1993 การสร้างเมือง Coronado City จึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ การตายของ Richard Alex Night และจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งแรก (ปี 1998) Richard Alex Night ถือเป็นนักธุรกิจที่เก่งมาก เขาสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งที่เกิดขึ้นจากการสร้างเมือง รวมไปจนถึงที่เกิดจากความอิจฉาของผู้คนในความสำเร็จของเขา แต่นับวันปัญหาที่เข้ามาหาก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขนาดที่ถึงขั้นก่อวินาศกรรม ในวันที่ 20 กันยายน ปี 1998 ตัว Richard ถูกพบเป็นศพในบ้านของตัวเอง จากสภาพที่เกิดเหตุนักสืบได้สรุปว่า Richard ถูกฆาตกรรม แต่ก็ไม่เคยมีใครได้พบกับตัวฆาตกรเลย เพื่อเป็นการให้เกียรติกับเขา เมือง Coronado City จึงได้ถูกเรียกว่า Night City นับแต่นั้นเป็นต้นมา การตายของ Richard ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนชื่อของเมืองเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตัวเขานั้นเปรียบเสมือนผู้มีอำนาจมากที่สุดในเมือง ดังนั้นการจากไปจึงทำให้เกิดการแย่งอำนาจภายในเมืองจาก 2 ขั้วอํานาจนั้นคือ ฝั่งบริษัทยักษ์ใหญ่ กับฝั่งของประชาชน โดยฝั่งบริษัทได้ควบคุมพื้นที่ส่วนกลางของเมือง กับรัฐบาลเอาไว้ ส่วนฝั่งประชาชนก็ได้เข้าควบคุมร้านค้าเล็กๆ รวมไปจนถึงบริการเกือบทั้งหมดในเมือง ส่งผลให้เกิดแก๊งค์ต่างๆ ขึ้นมาในเวลานั้น ชัยชนะของเหล่าแก๊งค์ และจุดเริ่มต้นของยุคมืดแห่งเมือง Night City (ปี 2005) หลังจากต่อสู้กันมานานถึง 7 ปี ในที่สุดปี 2005 เหล่าแก๊งค์ก็ได้รับชนะ และกลายเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดในเมือง เหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ จึงต้องหนีไปสร้างฐานที่มันอยู่บริเวณ Beavervilles และ CorporatePlaza โดยพวกเขาไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมืองอีกเลยหลังจากนั้น ทางฝั่งของรัฐบาลเองเมื่อไม่มีการสนับสนุนจากเหล่าบริษัท ก็ไม่สามารถบริหารบ้านเมืองได้เช่นกัน จากเหตุการดังกล่าวส่งผลให้ 4 ปี หลังจากนั้นเมือง Night City ได้กลายเป็นนรก ในยุคนี้เมือง Night City เป็นยุคของผู้ที่แข็งแกรงรอดอ่อนแอตายอย่างแท้จริง มีคนตายทุกวัน, รถถูกระเบิดเป็นว่าเล่น, คดีฆาตกรรมที่ไม่ถูกสืบสวนมีเป็นพันๆ เคส ในยุคนี้ได้มีแก๊งค์สุดโหดเหี้ยมได้ถือกำเนิดขึ้น 2 แก๊งค์ นั้นก็คือ Blood Razors กับ Slaughterhouse  กำเนิดสงครามครั้งที่ 2 ระหว่างแก๊งค์ด้วยกัน และการเข้าควบคุมของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ (2009-2011) หลังจากเมืองอยู่สภาพที่ไม่ต่างจากนรกเป็นเวลา 4 ปี ในที่สุดปี 2009 ก็ได้เกิดสงครามระหว่างระหว่างแก๊งค์ด้วยกันขึ้น มีการใช้ความรุนแรง รวมถึงเหตุฆาตกรรม เกิดขึ้นทุกหนแห่งของเมือง Night City ชนิดที่เรียกได้ว่าถ้าก่อนหน้านี้เป็นนรกแล้ว ในเหตุการนี้คือนรกขุมที่อยู่ลึกกว่า แต่สงครามดังกล่าวก็ต้องจบลงเมื่อบริษัท Arasaka ที่เป็นหนึ่งในผู้ออกทุนสร้างเมือง ได้ใช้กำลังทหารเข้าควบคุมเมืองในเวลาต่อมา หลังจากนั้นไม่นานบริษัทต่างๆ ได้กลับเข้ามามีบทบาทในการปกคลองเมือง Night City อีกครั้ง และสิ่งแรกที่พวกเขาทำก็คือการพยายามสร้างเมืองที่เสียหายจากสงครามขึ้นมาใหม่ ด้วยการออกกฏหมายว่า "ทุกคนจำเป็นต้องรับผิดชอบซ่อมแซมบ้านของตัวเองใหม่ ถ้าไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อปรับปรุงบ้านได้จะต้องถูกรัฐบาลยึดบ้าน" ซึ่งมันทำให้ที่อยู่อาศัยราคาปานกลางลงไปเกือบทั้งเมืองถูกยึดไปโดยรัฐบาล ส่งผลให้มีจำนวนของคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นอย่างมากในเมือง มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น รวมไปจนถึงการมอบอำนาจให้กับหน่วยรักษาความปลอดภัยในเมือง และมีการบูรณะสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา หรือห่วงทรัพย์สินค้าที่เสียหายจากสงคราม คุยกันท้ายบทความ เรื่องราวของ Night City ที่ผมได้เล่ามาทั้งหมดนี้ คือเหตุการที่เกิดขึ้นก่อน Cyberpunk 2013 ที่เป็นบอร์ดเกมตัวแรก ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าเรื่องราวที่ทุกคนเพิ่งได้อ่านไปเป็นเพียงบทนำของตำนานเมือง Night City เท่านั้น ในช่วงต่อจากนี้จะมีเหตุการสำคัญที่เกิดขึ้นอีก 6 ช่วงปีด้วยกันคือ 2013, 2020, 2022, 2025, 2030, และ 2040 โดยตัวผมจะขอเล่าบทสรุปของเนื้อเรื่องในช่วงปีดังกล่าวต่อไปแล้วรออ่านกันได้เลยครับ
19 Jun 2020
Cyberpunk 2077 เผยเรื่องราวของแก๊งค์ Maelstrom แล้ว!
Cyberpunk 2077 กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนกันยายน 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งเราก็ได้รู้ไปแล้วว่าเนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึ่งแก๊งค์ทั้ง 8 ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในเมือง Night City โดยก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นเรื่องราวของแก๊งค์ต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว วันนี้ก็มาถึงคิวของแก๊งค์ Maelstrom บ้างครับ! ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของแก๊งค์ Maelstorm ออกมาจากทาง Twitter ของ Cyberpunk 2077 เอง โดยแก๊งค์ดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม Watson โดย Maelstorm เป็นแก๊งค์ที่หมกมุ่นอยู่กับการ กำจัดจุดอ่อนบนเนื้อหนังของมนุษย์ โดยการใช้ Cybertechnology เข้ามาช่วย ผู้เล่นจะสามารภพบกับพวกเขาได้ที่ Totentaz Club ภายในเกม นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจมากครับ ต้องรอดูต่อไปว่าแก๊งค์ Maelstrom จะมีบทบาทยังไงในเนื้อเรื่องของเกมต่อไป เกม Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2020 บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Maelstrom’s territory is the industrial part of Watson. Its factories, the Totentanz Club – you’ll meet them there. They are obsessed with cybertechnology, and their urge to improve the weakness of human flesh is far stronger than their fear of cyberpsychosis. #Cyberpunk2077 pic.twitter.com/Xp3whIDhMf — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) May 11, 2020 Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  
13 May 2020
Cyberpunk 2077 เปิดเผยเรื่องราวของ Valentinos Gang แล้ว!
Cyberpunk 2077 กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้แล้ว เชื่อว่าตอนนี้หลายคนเลยที่กำลังเฝ้ารอการมาของเกมนี้อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งเพื่อไม่ให่กระแสของเกมต้องตกไปซะก่อน ทางผู้พัฒนาจึงได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของเหล่าแก๊งต่างๆ ออกมามากมาย ล่าสุดก็ได้มีการเปิดเผยเนื้อเรื่อง รวมไปจนถึงที่มาที่ไปของแก๊ง Valentinos แล้วครับ! Valentinos เป็นเหมือนแก๊งที่รวมตัวกันเพราะ หลักจรรยาบรรณ กับประเพณีที่เก่าแก่ พวกเขาเป็นใหญ่ในพื้นที่ Heywood สิ่งที่เหล่าคนภายในแก๊งนี้ให้คุณค่ามากที่สุดคือ เกียรติยศ, ความยุติธรรม, และความเป็นพี่น้อง เป็นอีกหนึ่งแก๊งที่ดูจะมีเรื่องราวที่ลึกลับมากๆ ต้องรอดูต่อไปครับว่า Valentinos จะมีผลอย่างไรกับเนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC https://twitter.com/CyberpunkGame/status/1255119636443607045 Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
29 Apr 2020
Cyberpunk 2077 จะมีเนื้อเรื่อง Side Quest ในระดับเดียวกับ Main Quest
อีกหนึ่งเกม AAA ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงอยู่อย่าง Cyberpunk 2077 นอกจากระบบตัวละครและเกมเพลย์แล้ว เกมนี้จะยังมีระบบ Side Quest แบบจัดเต็มอีกด้วย CD Projekt RED ได้เปิดเผยว่า "พวกเราอยากทำให้ Side Quest ของเกมนี้เป็นที่จดจำของผู้เล่น เราเลยตั่งทีมขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบส่วนนี้เลยที่เดียว" โดยทีมนี้นอกจากะทำ Side Quest แล้วยังเก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆ ภายในเมืองเพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกไปกับการตามหาสิ่งต่างๆ ที่ทำได้ในเมืองนี้อีกด้วย Phillip Weber ผู้ออกแบบเควสได้กล่าวว่า "สิ่งต่างๆ ที่ทำได้ในเมืองนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนี้ Unique ในตัวของมันเอง สุดท้ายก็ใสเนื้อเรื่องที่ดีเข้าไปเกมนี้ก็จะสมบูรณ์" เกมนี้ดูเหมือนจะมีอะไรให้เราทำเยอะกว่าที่เราคิดครับ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
09 Sep 2019
CD Projekt Red ยืนยัน Cyberpunk 2077 จะนำเสนอเรื่องศาสนา ความเชื่อด้วย
CD Projekt Red เจ้าของเกม โลกอนาคต Cyberpunk 2077 ที่เปิดตัวได้น่าประทับใจที่สุดเกมหนึ่งในงาน E3 2019 และได้บอกข้อมูลเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 มามายมาย รวมถึงการมี “ศาสนาความเชื่อ” เป็นองค์กรหนึ่งในเกมอีกด้วย ลัทธิความเชื่อจะมีบทบาทในเมือง Night City รวมถึงศาสนาคริสต์ CD Projekt Red กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “พวกเราจะไม่ละเลยประเด็นพวกนี้ แม้มันจะค่อนข้างเซนซิทีฟกับบางคนก็ตาม พวกเราไม่ได้นำเรื่องนี้เข้ามาเพื่อตัดสินว่ามันถูกหรือผิด” ฟังดูแล้วพวกเขาต้องการที่จะนำเสนอเพียงเท่านั้น นอกเหนือจากการให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้มีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมแต่อย่างใดว่า ประเด็นศาสนา ความเชื่อ ลักธิพวกนี้ จะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบใด Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บน Xbox One, PS4 และ PC อ้างอิง: playstationlifestyle
25 Jul 2019
เปิดโลก Cyberpunk 2077 (ฝ่าย อาชีพ โลก ตำนาน)
แม้เกมที่แค่เปิดตัวมาก็เรียกเสียงตอบรับได้ดีมากๆ อย่าง Cyberpunk 2077 จะยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายออกมา แต่เนื่องจากเกมดัดแปลงมาจากเกมกระดาน RPG ในชื่อ Cyberpunk 2020 เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเกมค่อนข้างมาก ทางเว็บไซต์ VG247 ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเกม Cyberpunk 2020 มาเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมอย่างละเอียดยิบให้เราๆ เกมเมอร์ที่รอคอยเกมนี้ได้ทราบกัน ซึ่งพวกเรา GameFever ได้ทำการสรุปออกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน โลกของเกม โลกของ Cyberpunk  เกิดขึ้นในยุคอนาคตแบบ Dystopia ที่มนุษย์กับเทคโนโลยีหลอมรวมกันจนเส้นแบ่งระหว่างสองสิ่งนั้นมีอยู่น้อยเต็มที วิทยาการพัฒนาไปถึงขั้นที่มนุษย์สามารถหาชิ้นส่วนมาอัพเกรดร่างกายตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ อยากฉลาดขึ้น นั่นไม่ใช่ปัญหา ขาขาด เบื่อขาเก่า ก็หามาเปลี่ยนใหม่ได้เสมอ ผู้คนถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท คนที่มีทุกสิ่ง กับคนที่ไม่มีอะไรเลย ประเทศอเมริกาหายไปจากแผนที่โลก ล่มสลายลงจากปัญหาล้มละลาย ความอดอยาก สงคราม การประท้วง สิ่งที่ขึ้นมาแทนคือบริษัทมหาอำนาจที่สร้างกำแพงเหล็กและคอนกรีตหนา เฝ้าเวรยามด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยชั้นแนวหน้า ด้านในกำแพงคือผู้ที่โชคดีพอได้ทำงานในบริษัทใหญ่ยักษ์เหล่านั้น ส่วนนอกกำแพงนั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล Old Cities (เมืองเก่า) ใน Old Cities หรือเมืองเก่าเป็นที่ที่รัฐบาลที่เหลืออยู่ต่อสู้กับแก๊งและกลุ่มไร้กฎหมายต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อแย่งชิงพื้นที่ The Dust ศูนย์กลางของประเทศอเมริกากลายเป็นดินแดนแห้งแล้งที่บรรดากลุ่ม "ครอบครัว" เร่ร่อน เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่อยู่ตลอดเวลา ด้วยรถบ้าน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถตู้ ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด Space (อวกาศ) ในอวกาศเป็นที่ที่บริษัท Orbitals ซึ่งควบคุมโดยประเทศในกลุ่มยูโรโซน เล็งอุปกรณ์ใหญ่ยักษ์มาที่โลก เตรียมยิงถล่มใครหน้าไหนก็ตามที่ขัดขวางการครอบงำทางเศรษฐกิจของตน และท่ามกลางเรื่องราวทั้งหมดนี้ยังมีกลุ่มคนผู้กล้าหาญกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกว่า Edgerunner เคลื่อนไหวในความมืด ต่อรอง ทำภารกิจ ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระ ซึ่งผู้เล่นก็คือหนึ่งในนั้น ฝ่าย Corporations (บริษัท) บริษัทคือฝ่ายที่เข้ามามีอำนาจในโลกของเกมเมื่อรัฐบาลเสื่อมอำนาจลง เข้ามาจัดการเรื่องการศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน จ้างทหารรักษาความปลอดภัย ติดกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่ ทำให้เกิดอาชญากรรมขึ้นน้อยมาก และวางบทลงโทษของผู้กระทำผิดอย่างสาหัส ผู้คนของบริษัทเชื่อว่าตัวเองมีอิสระเสรี แต่นั่นหมายถึงการแลกเสรีภาพกับความปลอดภัย Nomads (กลุ่มคนเร่รอน) กลุ่มคนเร่ร่อนคือกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่หลายกลุ่ม บางกลุ่มก็คือชาวเมืองทั้งเมือง ซึ่งถูกทิ้งไว้ท่ามกลางความแห้งแล้งจากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความโลภและการเมินเฉยของกลุ่มบริษัท กลุ่มคนพวกนี้เดินทางเร่ร่อนเพื่อหาสถานที่แห่งใหม่ที่เรียกว่าบ้าน ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็มีกฎของตัวเอง Gangs (แก๊ง) แก๊งคือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในด้านมืดของเมือง แก๊งที่ทำสิ่งผิดกฎหมายอย่างค้ายาหรืออาวุธก็ยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในโลกของเกมนี้ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแก๊งใหม่ที่น่าเกรงกลัวอย่าง Boostergangs  ซึ่งสมาชิกแก๊งเป็นพวกที่เสพติดการอัพเกรดร่างกายตนเอง และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนอัพเกรดใหม่มา Cops (ตำรวจ) ถึงแม้รัฐบาลกลางจะล่มสลายลง แต่บางเมืองก็ยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิมๆ ไว้อยู่ และนั่นยังหมายถึงการมีอยู่ของกฎและผู้คุมกฎอย่างตำรวจ Edgerunners Edgerunners คือซามูไรข้างถนน ทหารรับจ้าง หมาป่าเดียวดาย แล้วแต่ชื่อที่ผู้คนจะเรียก ทำงานที่คนธรรมดาไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาคือเจ้าหน้าที่นิรนามทำงานให้กับผู้ที่ไม่อยากเปิดเผยตัว มีชีวิตอยู่เพื่อเงิน ไม่ภักดีกับใคร และฝากความเป็นความตายของตนไว้ที่ทักษะและไหวพริบของตนเอง นี่คือฝ่ายของผู้เล่น บทบาทและอาชีพ Solos เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ ไม่ว่าจะไรเฟิล ปืนพก หรือเครื่องยิงระเบิด ทำงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือการต่อสู้ Techies (ผู้เชี่ยวชาญ) เป็นผู้ที่มีความสามารถในการซ่อมแซม ล็อก ปลดล็อก จัดการอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เครื่องมือ อะไรก็ตามที่มีความซับซ้อน สร้างและรื้อของทุกอย่างที่มีคนสร้างขึ้นมา Fixers เป็นคนที่สามารถหาทุกอย่างที่มีคนต้องการมาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอาไว้แบล็คเมล์ ที่อยู่หัวหน้าแก๊ง ปืนไรเฟิลรุ่นหายาก ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ Cops (ตำรวจ) ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และบางครั้งก็เป็นกฎหมายเสียเอง Medias (สื่อ) ในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร คนที่เป็นคนรายงานเรื่องราวก็คือคนที่ควบคุมความจริง คุณอาจเป็นคนที่ถือความจริงเป็นสิ่งสูงสุด หรือจะยอมขายวิญญาณพูดในสิ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่อยากให้เป็นความจริง Rockers (ชาวร็อค) คุณคือกวีที่ถ่ายทอดผลงานผ่านเสียงเพลง ต่อสู้เพื่อดนตรีและส่งต่อข้อความที่เชื่อ เป็นไอดอลของกลุ่มคนจำนวนมาก Corps (บุคคลของบริษัท) คุณคือคนที่ขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดก่อนใคร ใช้อุปกรณ์อัพเกรดร่างกายที่หรูหราที่สุด ใส่สูทราคาแพงกว่าบ้านของใครหลายคน คุณมองหาข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจอยู่เสมอ โดยไม่ลังเลที่จะจ้างใครมาทำงานแทนหรือทำให้มือตัวเองสกปรก Netrunners (นักท่องไซเบอร์) เน็ตรันเนอร์คือแฮ็กเกอร์ที่ติดตั้งระบบอินเตอร์เฟซคอมพิวเตอร์ลงในร่างกาย ทำให้ไม่ว่าอะไรที่อยู่บนคอมพิวเตอร์เน็ตรันเนอร์ก็สามารถเจาะเข้าไปเอามาได้หมด สำหรับใครที่พลาดเทรลเลอร์ของเกมไปสามารถดูได้ที่นี่
04 Jul 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "เนื้อเรื่อง"
Cyberpunk 2077 วิธีช่วยชีวิต Takemura
Cyberpunk 2077 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีภารกิจหลัก ภารกิจเสริมที่เยอะมากๆ และแต่ละภารกิจนั้นก็น่าสนใจมากเช่นกันเพราะแต่ละภารกิจนั้นผู้เล่นสามารถเลือกตัวเลือกที่แตกต่างกันออกไปได้ โดยการตัดสินใจในแต่ละครั้งนั้นจะมีผลกระทบกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ภารกิจ Search And Destroy ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะช่วยหรือจะหนี ในวันนี้พวกเรา GameFever จะพาทุกคนมาดูทางเลือกของภารกิจนี้กันว่าทำอย่างไหนคือการช่วยชีวิต Takemura และแบบไหนคือการปล่อยให้เขาตาย. 1.ช่วงเริ่มก่อนภารกิจ ในภารกิจหลัก Search And Destroy นั้นผู้เล่นจะมีโอกาสในการช่วยชีวิตทาเคมูระ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าการโฟกัสหาตัวเขานั้นทำได้ยาก และไม่มีตัวเลือกให้เราตัดสินใจต้องใช้ผลของการกระทำเท่านั้น โดยในช่วงก่อนเริ่มภารกิจนั้น ช่วงที่ผู้เล่นอยู่กับทาเคมูระที่เซฟเฮาส์ จะมีการบุกโจมตีโดยกลุ่มลูกน้องของอาราซากะ และผลของการบุกถล่มในครั้งนี้ทำให้พื้นถล่มจนผู้เล่นตกลงไปที่โถงทางเดินด้านล่างของอพาร์ทเมนท์ จากนั้นถูกผู้เล่นจะฟื้นขึ้นมาจากการปลุกของ Johny Silverhand และเราต้องกลับไปหาทาเคมูระโดยเร็วที่สุด 2.ตัดสินใจว่าจะช่วยหรือจะหนี! การที่เราจะกลับไปหาทาเคมูระได้นั้นตัวเกมจะไม่ได้บอกตำแหน่งที่ชัดเจน ซึ่งในขณะที่ผู้เล่นเดินมาเรื่อยๆ จนเจอป้ายไฟนีออนสีฟ้า ( ตรงนี้แล้วแต่คนจะมองนะครับเพราะบางคนบอกว่ามันคือป้ายสัญลักษณ์บวก บางคนก็ว่ามันคือสัญลักษณ์ไม้กางเขน ) ตรงจุดนี่แหละผู้เล่นจะพบกับทางแยก 2 แขนง ซึ่งการตัดสินใจด้วยการกระทำต่อไปนี้จะมีผลอันใหญ่หลวงต่อผู้เล่นในอนาคต ดังนี้ : เลือกทางขวา - เพียงเดินไปเรื่อยๆ และผ่านเส้นทางนี้ออกไปจะเป็นการทิ้งทาเคมูระและปล่อยให้เขาตาย เลือกทางซ้าย - การเข้าไปในรอยแตกเล็กๆ ถือเป็นการกลับเข้าไปในอพาร์ทเมนท์และนี่คือ วิธีช่วยชีวิตทาเคมูระ! 3.ห้อง 303 คือคำตอบ! ถ้าเลือกทางซ้ายเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้เล่นจะต้องจัดการกับบรรดาลูกน้องของอาราซาระ จากนั้นก็ขึ้นบันไดไปสองชั้น เดินไปเรื่อยๆ จากนั้นเลี้ยวขวาจะพบห้องหมายเลข 303 เมื่อเข้าไปให้จัดการกับทหารภายในนั้นและช่วยทาเคมูระออกจาก ตรงนี้ผู้เล่นห้ามกลับทางเดิมเพราะจะเป็นการทำให้ทาเคมูระตาย ให้เราไปยังทางเดินยาวๆ อีกทางหนึ่ง เพราะถ้าทาเคมูระตายเขาจะไม่มีส่วนร่วมในเนื้อเรื่องหลังจากนี้ตลอดไปจนจบเกม แต่ถ้าผู้เล่นช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ เขาจะมาปรากฏตัวอีกครั้งในตอนจบของเส้นทางฮานาโกะ. Credit : Thegamer  
16 Dec 2020
Cyberpunk 2077 เงื่อนไขการมีความรักกับ NPC ภายในเกม
เรียกได้ว่ากระแสของเกม Cyberpunk 2077 นั้นกำลังมาแรงมากๆ เพราะเป็นเกม RPG / Open-World ที่มีระบบน่าสนใจอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือ "ระบบความรัก" ความหมายก็คือผู้เล่นสามารถที่จะจีบ NPC ในเกมได้ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น การทำเควสเสริม การเลือกตัวเลือกที่ถูกใจ NPC คนนั้น ในวันนี้พวกเรา GameFever TH จึงขอมาแนะนำเส้นทางรักโรแมนติดในเกม Cyberpunk 2077 ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.Judy Alvarez เงื่อนไข - จูดี้นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียง และรูปร่างที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับจูดี้ได้หลังจากที่ทำเควสหลักที่เกี่ยวข้องกับ Evelyn Parker และ Judy ได้แก่ The Information / Automatic Love และพอหลังจากนี้ Judy จะโทรศัพท์มาหาเรา และมอบงานเสริมให้นั่นคือ The Space in Between  / Disasterpiece จากนั้นผู้เล่นจะได้รับเควสเสริมทำให้สามารถติดต่อกับเธอได้มากขึ้น และหลังจากนี้ผู้เล่นต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีในสายตาของจูดี้ และอย่าลืมที่จะตัดสินใจในตัวเลือกที่สำคัญบางอย่างในระหว่างทำเควสเสริมเพื่อให้เพิ่มความรักให้เธอจะมีให้กับ V มากขึ้นด้วย ดังนี้ Both Sides Now : เลือกเป็นคนดีและช่วยเหลือจูดี้ด้วยการเยียวยาเธอจากการสูญเสียคนที่รัก Ex-Factor : เลือกฆ่า Woodman Talking About a Revolution : เลือกปฏิเสธการชำระเงิน Maikos plan : ผู้เล่นจะต้องให้ V ปฏิเสธแผนของ Maiko และช่วยให้ Clouds เป็นอิสระ เลือกที่จะไม่ฆ่า Maiko Pyramid Song : ไปดำน้ำกับจูดี้และเลือกตัวเลือกที่จะทำให้เธอรัก หลังจากที่ผู้เล่นตั้งใจจะทำให้เธอรักแบบหมดใจ การกระทำนี้จะส่งผลในช่วงท้ายเกมและตอนจบ 2. Panam Palmer เงื่อนไข - Panam นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ผู้เล่นจะสามารถพบกับ Panam ได้หลังจากที่ทำเควสหลักเหล่านี้เสร็จแล้ว ได้แก่ Ghost Town / Lightning Breaks / Life During Wartime  จากนั้นผู้เล่นสามารถที่จะทำเควสเสริมเพื่อทำให้เธอเริ่มรู้สึกกับเรามากขึ้นด้วยการเลือกตัวเลือกบางอย่างในระหว่างภารกิจหลักจะช่วยผนึกข้อตกลงได้เช่นกัน ดังนี้ : เนื้อเรื่องหลัก Mission Ghost Town: รับเครื่องดื่ม เนื้อเรื่องหลัก Mission Life During Wartime : ปกป้องเธอต่อหน้าซาอูล เควสเสริม Riders on the Storm : เลือกที่จะไปกับ Panam With a Little Help From My Friends : เก็บแผนของ Panam ไว้เป็นความลับบอก พร้อมกับเธอว่าเธอพลาด และจับมือพาเธอไปใกล้ๆ กองไฟ 3.Kerry Eurodyne เงื่อนไข -  เคอรี่นั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้ชาย (รวมถึงอวัยวะลับ) ถึงแม้ว่าผู้เล่นไม่พบกับ Kerry มากเท่ากับอีกสองตัวละครด้านบน แต่ก็ยังสามารถที่จะพบกับเคอรรี่ได้จากหลายๆ เควส ทั้งเควสหลัก และเควสเสริมอื่นๆ จากนั้นให้ผู้เล่นทำสิ่งต่อไปนี้ Off the Leash:  จีบ Kerry Boat Drinks: จูบ Kerry หลังจากนี้ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่าจะสร้างความสัมพันธ์แบบความรักหรือแค่เพียงพบกันแบบ One Night Stand แต่ขอบอกใบ้ให้ว่าถ้าคุณเส้นทางนี้เขาจะพาผู้เล่นไปเจอหนึ่งในอาวุธที่ดีทีสุดในเกมและยานพาหนะ อันดับต้นๆ ของเกมเลย. 4.River Ward เงื่อนไข -  ริเวอร์วอร์ดนั้นสามารถรักกับ V ที่มีน้ำเสียงและรูปร่างเป็นผู้หญิง (รวมถึงอวัยวะลับ) River Ward นั้นเป็นตัวละครที่เราสามารถพบได้จากเควสเสริมที่ชื่อว่า I Fought the Law โดยผู้เล่นจะพบว่าเขาเป็นนักสือของ NCPD และหลังจากนั้นก็จะสามารถพบกับเขาได้มากขึ้นจากการทำเควสเสริมต่างๆ โดยแนะนำให้เลือกตัวเลือกคัวสำคัญดังต่อไปนี้ : The Hunt : ช่วย Randy และแสดงความสนใจตัวเขา Following the River : จูบเขาสองครั้ง และเขาก็เป็นอีกหนึ่งคนในเกมนี้ที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะสานต่อความรักครั้งนี้หรือเลือกที่จะพบกันแบบ One Night Stand ซึ่งการตัดสินใจสำหรับหัวข้อนี้จะมีผลกับตอนจบด้วย!   5.ความรักในแบบอื่นๆ สำหรับในเรื่องของความรักและการจีบอีก 4 คนด้านบนนั้น ผู้เล่นยังสามารถที่จะพบรักและสานความสัมพันธ์กับ NPC คนอื่นๆ ได้ดังนี้ : Meredith Stout : ผู้เล่นสามารถพบได้ในช่วงเริ่มต้นภารกิจ The Pickup ซึ่งแนะนำว่าควรจ่ายเงินให้ Royce ด้วยชิป Militech โดยไม่ต้องลบมัลแวร์ออก จากนั้นให้บอก Meredith ว่าเราต้องการที่จะทำงานร่วมกันอีกครั้งและจะทำให้สามารถใช้เวลาร่วมด้วยกันได้มากขึ้น Joytoys : สามารถพบได้ใน Night City เฉพาะบนถนน Jig Jig และสามารถสานต่อความสัมพันธ์ได้ด้วยการจ่ายค่าบริการ Rogue Amendiares : อนุญาตให้ Johnny เจ้าครอบครองร่างของ V เป็นครั้งเป็นคราวจะทำให้สามารถเดทกับ Rogue ผ่านภารกิจ Tapeworm ได้ Credit : vg247  Gamerant
14 Dec 2020
Cyberpunk 2077 ปล่อยวิดีโอโชว์เบื้องหลังการ Mocap ของคุณ Keanu Reeves
Johnny Silverhand คือชื่อของตัวละครที่คุณ Keanu Reeves นักแสดงหนังชื่อดังมารับบทให้ในเกม Cyberpunk 2077 ซึ่งจากประวัติของเขาที่เราได้ทำออกมาก่อนหน้านี้ Johnny จะเป็นตัวละครสำคัญในเนื้อเรื่องเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และวันนี้เราก็มีโอกาสได้เห็นเบื้องหลังการทำ Motion-Capture ของตัวละครนี้ออกมาด้วยครับ! ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ออกมาจากทาง CD Projekt Red หนึ่งเป็นวิดีโอเกี่ยวกับ Johnny Silverhand ในเกม และอีกหนึ่งเป็นเบื่องหลังการ Motion-Capture ของคุณ Keanu Reeves โดยจากวิดีโอดูเหมือนเขาจะสนุกไปกับการรับบทเป็น Johnny ไม่น้อยเลยทีเดียว รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ! Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ธันวาคม 2020 นี้บนเครื่อง PS5, PS4, Xbox Series X / S, Xbox One และ PC Credit: PCGamer 
20 Nov 2020
Cyberpunk 2077 เผยข้อมูลภูมิหลังของทั้งสามแบบ และผลกระทบต่อเนื้อเรื่อง
หลังจากทื่ปล่อยให้รออยู่นาน ในที่สุด CD Projekt Red ก็ได้ทำการปล่อยไลฟสตรีม Night City Wire EP.2 แล้ว ซึ่งในไลฟ์สตรีมครั้งนี้วิดีโอที่ถูกปล่อยออกมาตัวแรก เป็นวิดีโอที่โชว์ให้ผู้เล่นเห็นว่า การเลือกเส้นทางชีวิตของ V ทั้ง 3 แบบ ผู้เล่นจะได้พบกับอะไรบ้าง รวมไปจนถึงว่าจะส่งผลต่อเนื้อเรื่องอย่างไรครับ! วิดีโอดังกล่าว จะเริ่มจากเส้นทางชัวิตในแบบ Street Kid ก่อน จากนั้นจึงเป็น Nomad และปิดท้ายด้วย Corpo โดย Street Kid เป็นไปตามชื่อ V จะเกิด และใช้ชีวิตในฐานะเด็กข้างถนนมาก่อน มันทำให้ V รู้ทางหนีทีไล่ภายในเมืองเป็นอย่างดี รวมถึงยังทำให้สามารถเข้าถึง Gang ต่างๆ ได้ง่ายกว่า ส่วน Nomad เป็นเส้นทางที่ V เกิด รวมถึงใช้ชีวิตในเขต Badlands โดยผู้คนในเขตนี้มักจะใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัย การเลือกเส้นทางนี้จึงทำให้ V สามารถเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ได้ง่ายกว่า ในขณะที่หากเลือก Corpo ผู้เล่นจะรู้เรื่องภายในของบริษัท Arasaka รวมไปจนถึงความลับของบริษัทแทน คุณ Philipp Weber ผู้รับหน้าที่ออกแบบเควส และเนื้อเรื่องของเกมได้กล่าวว่า "ภูมิหลังของ V จะส่งผลให้เนื้อเรื่องที่ผู้เล่นได้พบหลังจากนั้นแตกต่างกัน และช้อยส์ที่เลือกได้ ก็จะแตกต่างกันไปด้วย" การที่มีประสบการแตกต่างกัน มักทำให้การจัดการปัญหาเดียวกันของแต่ละคนแตกต่างออกไป นับเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ถ้าหากว่า เนื้อเรื่องของเกม หรือช้อยส์ที่เราเลือกได้จะแตกต่างกันไป ยกตัวอย่าง ในเควสที่เราจะต้องไปขโมยหุ่นยนต์จาก Maelstrom ในเควสนี้ ถ้าหากว่าเลือก Corpo เราจะรู้ว่าสิ่งที่จะต้องไปขโมยคืออะไร รวมไปจนถึงมันสามารถทำอะไรได้บ้าง ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นมีตัวเลือกบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในระหว่างทำภารกิจ แต่ถ้าหากว่าเลือก Nomad ตัวละครเราจะรู้ว่า Maelstrom ไปเอาสิ่งนี้มาจากไหน แต่ถ้าหากว่าเลือกที่จะเริ่มต้นด้วย Street Kid ผู้เล่นจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับของที่ต้องไปขโมยเลย แต่จะสามารถเข้าหาคนของ Maelstorm ได้แทน รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ครับ Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC
10 Aug 2020
Cyberpunk 2077 รายละเอียดทั้งหมดของเกม [PC, PS4 และ Xbox One]
Title: Cyberpunk 2077 Genre: Action RPG Openworld Platform: PC, PS4 และ Xbox One Engine: REDengine 4 Release Date: 16 เมษายน 2020 Developer: CD Projekt Red Director: Adam Badowski Designer: Konrad Tomaszkiewicz Artist: Katarzyna Redesiuk Writer: Stanisław Święcicki Composer: Marcin Przybyłowicz https://www.youtube.com/watch?v=YApuEWtG30w https://www.youtube.com/watch?v=euqbMkM-QQk ประวัติการพัฒนา Cyberpunk 2077 เป็นเกมจากทีม CD Projekt Red ที่เคยพัฒนาเกมชื่อดัง The Witcher จนได้รับรางวัล Game of the Years ภายในงาน The Game Awards 2015 โดยเกมนี้ดัดแปลงมาจากเกมกระดาน Cyberpunk 2020 ที่วางจำหน่ายมาในปี 1990 โดย Concept เกมนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ 2012 แต่เริ่มพัฒนาจริงๆ หลังจากที่เสร็จสิ้นโปรเจกต์เกม The Witcher 3: Wild Hunt เสร็จสิ้นในปี 2016 รวมถึงเกมนี้ยังมีผู้พัฒนาถึง 450 คน มากกว่าจำนวนที่ใช้พัฒนาเกมก่อนหน้าอีกด้วย เนื้อเรื่อง โดยตัวเกมจะดำเนินอยู่ในเมือง Night City ช่วง 57 ปีหลังจากยุค Dystopian อันเสื่อมทรามของอเมริกา ที่ถูกควบคุมโดยบริษัทต่างๆ ที่ไม่มีกฏหมายใดๆ มีความขัดแย้งและสงครามของเหล่าแก๊งต่างๆ และหน่วยงานที่ปกครอง ที่หันหน้าเข้าสู่กับเพื่อการปกครองในเมือง โดยในเมืองนี้หุ่นยนต์ต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันเช่นการเก็บขยะการบำรุงรักษาและการขนส่งสาธารณะ อินเทอร์เน็ตได้ดูแลโดย บริษัท และกองทัพ ถึงแม้ภายในเมืองจะมีผู้ยากจน ผู้ไร้บ้านมากมาย แต่การดัดแปลงร่างกายเองก็สามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ก่อให้เกิดการเสพติดการดัดแปลงและความรุนแรงที่ตามมา โดยภายในเมืองมีการคุกคามจากกองกำลังติดอาวุธที่เรียกว่า Psycho Squad จึงทำให้ประชาชนทุกคนสามารถพกอาวุธได้ เกมเพลย์ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวละครสมมติ V ทหารรับจ้างที่เราสามารถปรับแต่งตัวละครต่างๆ ได้ทั้ง เพศ, ทรงผม, ใบหน้า, ร่างกาย, การดัดแปลง และพื้นภูมิหลังของตัวละคร(เป็นเด็กเรร่อน, คนจากองค์กร) เสื้อผ้าสามารถปรับแต่งได้ รวมถึงเสื้อผ้าของ V จะเปลี่ยนแปลงวิธีการโต้ตอบของ NPC ต่างได้ ซึ่งพวกเขาสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่โรแมนติกและเพศสัมพันธ์ได้ หมวดหมู่สเตตัสของตัวละครจะแบ่งออกเป็น Strength(พละกำลัง), Constitution(ความแข็งแกร่ง), Intelligence(ความฉลาด), Reflex(การโต้ตอบ), Tech(เทคโนโลยี) และ Cool(ความเยือกเย็น) มี Perk Tree ที่จะแตกออกเป็นกิ่งก้านซึ่งจะแยกออกเป็นสายต่างๆ ให้เลือกเล่นคือ Melee, Blades, Handguns, Shotguns, Rifles, Sniper Rifles, Hacking, Wwo-handed Combat, Assassination, Cold blood, Engineering และ Athletics ผู้เล่นจะต้องไปคุยกับ Ripperdoc เพื่ออัพเกรดและซื้อการปลูกถ่ายไซเบอร์ในราคาเป็น Eurodollars ในตลาดมืด อาวุธต่างๆ จะมีระบบความแรร์ตั้งแต่ระดับ Uncommon (สีเขียว) ถึง Epic (สีม่วง) V สามารถ Cover เข้าที่กำบังได้, เล็ง, วิ่งบนพื้นดิน, กระโดด, กระโดดสองครั้ง, สไลด์ รวมถึงมีดบนแขนของ V ที่จะทำให้เขาสามารถวิ่งไต่กำแพงได้เช่นเดียวกับอาวุธระยะประชิดอื่นๆ ส่วนอาวุธระยะไกลจะแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ อาวุธ Power (มาตรฐาน), อาวุธ Tech (ใช้เจาะเกราะ, กำแพง) และ Smart (ปืนที่ใช้กระสุน Homing Bullets) โดยอาวุธพวกนี้สามารถปรับแต่งได้ มีการตกแต่งต่อการกระเด็นของกระสุน หรือสะท้อน มี Bullet Time เพื่อสโลว์ศัตรู รวมถึงมีการสร้างความเสียหายอยู่ ประเภทคือ Physical(กายภาพ), Thermal(ความร้อน), EMP และ Chemical(เคมี) โดยสามารถซ่อมและอัพเกรดอาวุธได้ที่ Gunsmiths และถึงแม้ว่าเกมจะมีอาวุธให้ใช้มากมาย แต่เราสามารถจบเกมโดยไม่ต้องฆ่าใครก็ได้ โดยการจะเลือกอาวุธที่ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ภายในโลกของเกมจะมีทั้งหมด 6 ภูมิภาค ศูนย์กลาง Corporate City , Watson ย่านของเหล่าผู้อพยพ, Westbrook ย่านคนสวย,ชานเมือง Heywood, แหล่งชาวแก๊ง Pacifica และ แหล่งอุตสาหกรรม Santo Domingo โดยภายในเมืองตัวละคร V สามารถเดินทางสำรวจได้อย่างอิสระ การเดินทางสามารถไปได้โดยการเดินเท้า, ยานพาหนะที่สามารถปรับแต่งได้พร้อมทั้งยังใช้โหมด 3rd Person หรือ 1st Person ในการขับรถได้ด้วย พร้อมทั้งเรายังสามารถเลือกโหมดรถออโต้ที่จะสามารถให้เราจดจ่อให้การต่อสู้อย่างเดียวได้ รวมถึงในรถก็จะมีวิทยุให้ฟัง วัฏจักรวันเวลาของเกมจะมีทั้งกลางวัน-กลางคืน มีสภาพอากาศต่างๆ ทั้งดีและแปรปรวน ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของ NPC ด้วย ตัวอพาร์ทเมนต์สามารถซื้อและใช้เป็นฐานบ้านได้ ซึ่ง V จะใช้คอมพิวเตอร์เพื่อนำอาวุธและเครื่องแต่งกายมาใช้ หรือจะนำ NPC กลับมาเพื่อทำกิจกรรมทางเพศได้ และตัวเกมมีตัวละครที่ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษด้วย โดยผู้เล่นที่ไม่เข้าใจภาษาสามารถซื้อล่ามเพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้น Braindance" อุปกรณ์บันทึกข้อมูลดิจิตอลจะพุ่งตรงเข้าสู่สมองช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับอารมณ์กระบวนการทางสมองและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อของบุคคลอื่นราวกับว่าเป็นคนๆ นั้น รวมถึงการโต้ตอบกับ NPC จะมีคำตอบให้เลือกเป็นกิ่งก้านในการทำเควส และผลลัพธิ์ต่างๆ จะแตกต่างกันไปในการเลือกตอบของแต่ละคน คะแนนประสบการณ์จะได้รับจากเควสหลักและเพิ่มสเตตัสของตัวเราด้วย ส่วนเควสเสริมจะปลดล็อค Skill, คนขายของ, สถานที่และเควสเพิ่มเติม โดยการรับเควสจะรับจากตัวละครที่ชื่อว่า Fixers และตลอดทั้งเกม V จะได้รับความช่วยเหลือจากสหายต่างๆ อีกด้วย จะมีพวกไอเท็มต่างๆ อย่างเช่นพวกน้ำอัดลมที่จะสามารถเพิ่มเลือดได้ โดยสามารถตรวจสอบได้จาก Inventory ของ V รวมถึงมีมินิเกมต่างๆ ให้เล่นอย่างเช่น Hacking, Boxing, Auto Racing, Martial Arts และ Shooting Ranges และข้อความ Game Over จะปรากฏขึ้นที่จุดตายเท่านั้น หากภารกิจล้มเหลวเกมก็จะดำเนินต่อไปเหมือนเดิม โดยผู้เล่นจะดำเนินและนำไปสู่ตอนจบที่แตกต่างกันไป สามารถติดตามข่าวสารวงการเกมได้ที่ Facebook : GameFever TH YouTube : GameFever TH
30 Jul 2020
Cyberpunk 2077 เจาะลึกประวัติ Militech คู่ปรับตลอดการของ Arasaka
Cyberpunk 2077 ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ เป็นเกมที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานรวมถึงโลกที่ใหญ่มาก ถึงแม้ว่าตัวเนื้อเรื่องของเกมจะโฟกัสอยู่ที่เมือง Night City เท่านั้น แต่องค์กร รวมถึงแก๊งต่างๆ ก็มีอยู่มากมายเลย ในเมืองแห่งนี้ ในช่วงก่อนหน้านี้เราได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ Arasaka บริษัทรักษาความปลอดภัยจากแดนปลาดิบไปแล้ว วันนี้เรา จะเจาะลึกประวัติคู่ปรับตลอดการของ Arasaka กันบ้างครับ! บริษัทดังกล่าวไม่ใช้ใครที่ไหน แต่เป็น Militech ที่ทำธุรกิจคล้ายๆ กัน จากประเทศมหาอำนาจแดนตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกานั้นเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าหาก Arasaka คือบริษัทเก่าแก่ที่มีอายุเกือบ 200 ปีแล้วละก็ Militech นั้นมีอายุเพียงแค่เกือบๆ 100 ปีเท่านั้น แล้วอะไรที่ทำให้บริษัทที่มีอายุน้อยกว่าถึง 1 เท่า สามารถเป็นคู่แข่งที่สูสี กับผู่ที่อยู่มานานเกือบ 200 ปี ได้คืออะไร? ไปดูกันครับ! เกี่ยวกับ Militech Militech International Armaments เป็นบริษัททางการทหารยักษ์ใหญ่ในโลกขง Cyberpunk โดยจะแตกต่างกับ Arasaka ที่มีการทำธุรกิจที่หลากหลาย บริษัทนี้โฟกัสแค่ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการสู้รบเท่านั้น ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ Militech เหมือนกับกลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่ที่สามารถผลิตอาวุธเองได้ และมีศักยภาพเทียบเท่ากับกองทัพของประเทศใหญ่ๆ  นั่นเอง สาขาใหญ่ของ Militech ตั้งอยู่ที่ อเมริกาตะวันออก พวกเขาทำงานใกล้ชิดกับ ตำรวจ และทหารของอเมริกา (คือมีอเมริกาเป็นลูกค้าหลัก) ดังนั้นอาจเปรียบได้ว่าบริษัทนี้ไม่ต่างอะไรกับส่วนหนึ่งของกองทัพอเมริกาเลย แน่นอนว่าอเมริกาไม่ใช้ลูกค้าเพียงประเทศเดียวของ Militech แต่ยังมีอีกหลายประเทศในโลก ที่ใช้บริการรักษาความปลอดภัยของพวกเขา อย่างไรก็ตามถ้าจะให้บอกว่าพวกเขาสามารถหาเงินได้จากธุรกิจด้านไหนมากที่สุด คงต้องบอกว่าเป็นการผลิตอาวุธขาย Militech เป็นบริษัทที่ขายอาวุธทุกชนิดจริงๆ ตั้งแต่ ปืนกลเล็ก, ปืนกลหนัก, รถถัง, เครื่องบินรบ หรือขีปนาวุธ คือถ้าพูดถึงความสามารถในการผลิตอาวุธอย่างเดียว ในโลกของ Cyberpunk ไม่มีบริษัทไหนสามารถเปรียบเทียบกับบริษัทนี้ได้เลย ยุคก่อตั้ง ปี 1996 - 1998 บริษัทนี้ถูกก่อตั้งโดยนักออกแบบอาวุธชาวอิตาลี Antonio Luccessi ในปี 1996 และใช้ชื่อว่า Armatech-Lucessi International เส้นทางที่ทำให้บริษัทนี้กลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ของโลก เริ่มขึ้นในปี 1998 เมื่อสหรัฐอเมริกาต้องการจะเปลี่ยนอาวุธปืนประจำกายของเหล่าทหารในกองทัพจาก M-16A2 เป็นปืนที่ทันสมัยมากขึ้น ในตอนนั้นมีปืนไรเฟิล 3 กระบอกที่เข้าตากองทัพอเมริกาคือ FN SAP ปืนไรเฟิลที่คาดหวังอะไรไม่ค้อยได้ โดยเฉพาะในเรื่องของความแม่นยำ แต่มันมีราคาไม่แพง ซึ่งเหตุผลเดียวที่ไรเฟิลกระบอกนี้ อยู่ในตัวเลือก เป็นเพราะบริษัทผู้ผลิตปืนนี้ Fabrique International มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลของอเมริกา นอกจากนี้ตัวปืนยังกระสุนแบบเดียวกับที่พันธมิตรของพวกเขาใช้ ซึ่งมันทำให้การช่วยออกรบภายในกลุ่ม NATO สามารถทำได้ง่ายขึ้น AR-17X ปืนไรเฟิลคุณภาพสูงที่มีใช้เงินเยอะมากในการผลิต Ronin Light ไรเฟิลรุ่นใหม่จากทาง Armatech-Lucessi International ที่มีความแมนยำ และพลังอำนาจในการเจาะทะลวงสูง ด้วยพลังอำนาจในการเจาะทะลวง และความแม่นยำชนิดไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้นายพล Donald Lundee ถูกอกถูกปืนไรเฟิลกระบอกนี้มาก พร้อมลงความเห็นว่า สมควรถูกเอามาใช้เป็นอาวุธประจำกายใหม่ของทหารกองทัพสหรัฐ แต่ด้วยความที่ช่วงนั้นสหรัฐอเมริกา กำลังเจอกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนัก ทำให้เป็นการยากที่จะเอา Ronin Light มาเป็นอาวุธประจำกายใหม่ จนทำให้ Donald Lundee ต้องจำใจเลือก FN SAP ไรเฟิลที่ด้อยกว่ามาก แต่ใช้เงินในการผลิตน้อยกว่าแทน [caption id="" align="aligncenter" width="1148"] ปืนไรเฟิลของ Armatech-Lucessi International[/caption] จุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ ปี 2004 - 2010 ในปี 2004 อเมริกาสูญเสียทหารไปหลายพันคน ในการรบที่เขตป่าช่วงกลางของทวีป เนื่องจาก FN SAP เป็นปืนที่ไม่เหมาะจะใช้ในพื้นที่เขตร้อนมากๆ นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เกิดจากความผิดพลาดในการตัดสินใจของกองทัพในช่วง 6 ปีก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่า Lundee จะไม่ได้ลงไปรบในสงครามครั้งนี้ด้วยตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกผิดต่อเหล่าทหารที่ต้องตาย เพราะอาวุธมีประสิทธิภาพไม่ดีพอสมควร ในช่วงเวลาเดียวกัน Luccessi ได้ยื่นข้อเสนอ ว่าอยากให้ Lundee เข้ามารับตำแหน่ง CEO ของบริษัท Armatech ซึ่งมันส่งผลให้เขาลาออกจากการเป็นนายพลในกองทัพของอเมริกาในเวลาต่อมา การเคยเป็นอดีตคนที่มีตำแหน่งสูงใน Pentagon ทำให้เขารู้ดีว่าตลาดการซื้อขายอาวุธเป็นอย่างไร รวมถึงสภาพของตลาดในปัจจุบันว่ามีจุดอ่อนตรงไหน กับยังขาดอะไร พอเอาไปรวมกับความสามารถในการออกแบบอาวุธระดับสูงของ Luccessi และการไม่ยึดติดว่าจะต้องขายอาวุธของตัวเองให้กับชาติใดชาติหนึ่ง ทำให้บริษัทนี้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และได้เปลี่ยนชื่อของตัวเองเป็น Militech Arms International หลังจากนั้นเป็นต้นมา ในปีเดียวกัน Militech ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หล่วง หลังจากที่อเมริกาสูญเสียอย่างหนักในสงครามอเมริกากลาง กองทัพจึงได้ตัดสินใจที่จะเลิกใช้ FN SAP และหันมาพึ่ง Ronin Light ซึ่งเป็นไรเฟิลของ Militech แทน ด้วนความยอดเยี่ยมของปืนกระบอกนี้ ทำให้ทาง Militech ได้เซ็นสัญญาซื้อขาย กับกองทัพอเมริกาอย่างเป็นทางการ จากการได้ทำสัญญาครั้งนี้ ทำให้บริษัทเริ่มผลิตอาวุธชนิดอื่นๆ นอกจากปืนไรเฟิลออกมาขาย ไม่ว่าจะเป็น รถถัง, เครื่องบินรบ, อาวุธระเบิด รวมไปจนถึงยานหาหนะ และส่งขายไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับคุณภาพของอาวุธที่ได้ Militech ได้เซ็นสัญญาซื้อขายอาวุธของพวกเขา กับประเทศ หรือบริษัทอื่นๆ ทั่วโลกอีกมากมายในเวลาต่อมา ในปี 2010 บริษัท Militech ได้กลายเป็น หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก พร้อมทั้งยังเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการป้องกัน-ปราบปราม ของสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ อีก 7-8 แห่งทั่วโลก สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ปี 2022 - 2027 ด้วยความที่กลายเป็นบริษัททางการทหารที่มีอิธิพลอันดับต้นๆ ทำให้ Donald Lundee ลุ่มหลงในพลังอำนาจ และปราถนาที่จะทำให้ Militech เป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลก แต่ความเป็นจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะในโลกยังมีอีก 2 บริษัท ที่มีอำนาจมากกว่าบริษัทของเขา อย่าง Arasaka และ EBM อยู่ ซึ่ง Lundee เชื่อมันอย่างมากว่า บริษัทของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทั้ง 2 เลย Lundee เชื่อว่าการจะเป็นอันดับ 1 ของโลกได้ เขาจำเป็นต้องกำจัดบริษัทที่เกี่ยวกับอาวุธสงคราม ทั้งหมดออกไปให้พ้นทางเสียก่อน เขาจึงได้เริ่มกวาดล่าง หรือไม่ก็ดึงบริษัทอื่นๆ มาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บริษัทอื่นๆ โดยกลุ่มยังเหลือรอดอยู่ คือกลุ่มที่อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ หรือไม่ก็เล็กเกินไปจนไม่ต้องเอามาใส่ใจเท่านั้นส โอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นบริษัทอันดับ 1 ของโลกของ Militech มาเร็วกว่าที่คิด ในปี 2022 เกิดสงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ขึ้น และพวกเขาเองก็มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ด้วย แถมฝั่งตรงข้ามยังเป็น Arasaka ที่เป็นคู่แข่งทางการค้าของพวกเขาอีกต่างหาก ส่งผลให้สงครามครั้งรุนแรง และยาวนานมาก ชนิดที่เมือง Night City ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสงครามครั้งนี้ กลายเป็นเขตที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้เลยทีเดียว หลังจากผ่านไป 5 ปี สงครามครั้งนี้ได้จบลงด้วยชัยชนะของบริษัท Militech และขึ้นเป็นบริษัทขายอาวุธสงครามที่มีอำนาจมากที่สุดของโลก Cyberpunk 2077 ทุกคนใน Night City รู้ดีว่า Militech คือบริผลิตอาวุธอันดับ 1 ของโลก พวกเขาทำงานร่วมกับกองทัพของสหรัฐอเมริกา อยู่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามข้อมูลของบริษัทนี้ในปี 2077 เรียกได้ว่ามีอยู่น้อยมากๆ ในตอนนี้ คงต้องรอดูในช่วงปลายปีว่า พวกเขาจะมีบทบาทในเนื้อเรื่องของเกมมากน้อยขนาดไหนครับ! Credit: Fandom 
17 Jul 2020
Cyberpunk 2077 เจาะลึกประวัติ Arasaka บริษัทผู้ทรงอิทธิพลจากแดนตะวันออก
Cyberpunk 2077 เป็นเกมที่ธีมถูกเซ็ตอยู่โลกยุคอนาคต ผู้คนเริ่มมีการดัดแปลงร่างกายตัวเองจนกลายเป็นไซบอร์ก, รถสามารถวิ่งบนทองฟ้าได้, รวมไปจนถึงมีเทคโนโลยีที่ทำให้คนสามารถเข้าไปอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ต ถึงแม้หลายอย่างที่กล่าวมาจะดูไซไฟสุดๆ แต่ในโลกแบบนี้ ก็มีหนึ่งอย่างที่ไม่ได้แตกต่างจากความเป็นจริงเท่าไหร่ นั้นก็คือการที่โลกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยเหล่าบริษัทยักษ์ที่มีเงินมากมายต่างๆ เหมือนเดิม แน่นอนว่าเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่มีอยู่มากมายในโลกของ Cyberpunk 2077 ไม่ว่าจะเป็น EBM, Militech, IEC, หรือ Arasaka โดยในบทความนี้ตัวผมจะขอพาทุกคนไปเจาะลึกประวัติของ Arasaka หนึ่งบริษัทที่มีบทบาทมากมายในโลก Cyberpunk อย่างน้อยในสงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 พวกเขาก็มีบทบาทไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ! เกี่ยวกับ Arasaka Arasaka เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ทำธุรกิจหลักๆ 3 อย่างด้วยกันคือ การรักษาความปลอดภัย, ขายอาวุธ, และให้บริการเก็บรักษาเงิน(ธนาคาร) จึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่มูลค่าของบริษัทนี้จะสูงมากๆ แน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ได้ พวกเขาไม่ได้ทำธุรกิจอย่างถูกกฏหมายอย่างเดียว หากแต่ใช้ทุกอย่างเพื่อเพิ่มอำนาจให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นติดสินบน,  กรรโชกทรัพย์, แม้กระทั้งการแบล็กเมล์ หรือธุรกิจใต้ดินอื่นๆ อย่าง การลอบสังหาร, สำนักงานทนายแก้ต่างคดี รวมไปจนถึงกลุ่มยากูซ่า แต่ถ้าจะให้ระบุว่าบริษัทนี้ขึ้นชื่อในด้านไหนมากที่สด คงต้องบอกว่าเป็นในด้านการรักษาความปลอดภัย ที่ไม่เป็นสองรองใครในโลกของ Cyberpunk แน่นอนว่าเพื่อที่จะให้บริการนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทาง Arasaka จึงมีทั้งกำลังพล และอาวุธในครอบครองจำนวนมาก ส่งผลให้พวกเขาไม่ได้มีอิทธิพลในเชิงธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังมีอำนาจในเชิงการทหารสูงมากด้วย ยุคก่อตั้ง ปี 1915-2020 บริษัท Arasaka ถูกก่อตั้งครั้งแรกในปี 1915 โดย Sasai Arasaka ที่เมือง Tokyo ประเทศญี่ปุ่น โดยช่วงแรกพวกเขามุ่งเน้นไปที่การผลิตอาวุธขาย ซึ่งในปี 1937 บริษัทนี้ได้กำไรมหาศาลจากการขายอาวุธในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม Sasai มองเห็นว่าญี่ปุ่นจะแพ้ในสงครามครั้งนี้แน่ๆ และมันจะทำให้บริษัท Arasaka ต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เขาจึงทำการกระจายเงินที่มี ไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ทั่วโลก เพื่อให้ยากต่อการค้นหา และป้องกันไม่ให้ถูกเอาไปโดยผู้ที่ชนะสงคราม ตอนนั้นเศรษฐกิจของญึ่ปุ่น อยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากๆ เนื่องจากใกล้จะแพ้สงครามอยู่เต็มทน Saburo Arasaka บุตรชายของ Sasai ได้มองว่าญี่ปุ่นยังสามารถกลับมายิ่งใหญ๋ได้อีกครั้ง ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้มันเป็นจริงได้คือผู้นำที่ยอดเยี่ยม และเงินทุนที่มากพอ อย่างไรก็ตาม Sasai ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะมันมีความเสี่ยงสูงเกินไป และตัวเขาต้องการให้บริษัท Arasaka อยู่รอดได้ แม้สงครามจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของญีปุ่นมากกว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม ปี 1945 มหาจักพรรดิ์ของญี่ปุ่นได้ประกาศยอมแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ ตอนนั้น Saburo กำลังรับใช้ชาติอยู่ในฐานะร้อยโทของกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นแล้ว การพ่ายแพ้ในสงครามแบบนี้เป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่าตาย ทำให้ทหารหลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตายมากกว่าจะกลับบ้านไปหาลูกเมีย แน่นอนว่า Saburo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ในวินาทีที่กำลังจะลงมีดตัวเอง เขาได้คิดทบทวนเหตุการที่ผ่านมา และเข้าใจในที่สุดว่าทำไมพ่อของเขาถึงไม่เห็นด้วย กับความคิดของเขาก่อนหน้านี้ ทั้งยังตระหนักได้ว่าตัวเองยังมีบริษัท Arasaka อยู่ พ่อของเขา Sasai Arasaka ก็อายุมากแล้ว สักวันหนึ่งบริษัทนี้ก็ต้องตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา คืนนั้น Saburo เลิกคิดที่จะฆ่าตัวตาย และหันมาศึกษา การเมือง, กฎหมาย, กับการตลาด เพื่อเตรียมรับช่วงต่อบริษัทจากพ่อของเขาแทน ในปี 1960 ผู้ก่อตั้งบริษัท Sasai Arasaka ได้ถึงแก่กรรมด้วยวัย 101 ปี ทำให้ Saburo ที่ตอนนั้นมีอายุ 41 ปี ขึ้นมารับช่วงต่อบริษัท Arasaka แทนต็มตัว ตอนนั้นตัวบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากการแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อยู่ และยังเป็นเพียงองค์กรเล็กๆ พวกเขาพยายามก่อร่างสร้างตัวใหม่ด้วยการค้าขายระหว่างประเทศ แน่นอนว่าบริษัท Arasaka เติบโตมากขึ้นทุกวัน แต่เหมือนว่าความทะเยอทะยานของเขา จะมากกว่าการเป็นบริษัทใหญ่ ที่มีเงินไหลเข้ามาเยอะๆ Saburo เชื่อว่า "ข้อมูล" เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าจะมีอำนาจในโลกยุคใหม่นี้ ดังนั้นเขาจึงได้พยายามทำให้ Arasaka กลายเป็นบริษัทที่สามารถรวบรวมข้อมูลข่าวสารต่างๆ ในโลกได้ง่าย Saburo ตั้งแผนกใหม่ที่ให้บริการด้านรักษาความปลอดภัยโดยเฉพาะขึ้นมา โดยการรักษาความปลอกภัยในที่นี้ ไม่ใช้แค่ในเชิงกายภาพอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ด้วย Saburo ใช้เวลาอยู่นานมาก กว่าจะทำให้การรักษาความปลอดภัยของ Arasaka มีชื่อเสียงโดงดังไปทั่วโลกได้จริง จนกระทั้งในช่วงปี 1990 เขาก็ทำสำเร็จ ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่เขาสะสมมาหลายปี  Saburo สามารถคาดการณ์ได้ว่าโลกจะพบกับ วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 1996 ทำให้บริษัท Arasaka สามารถเตรียมตัวที่จะรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ในการขยายอิทธิพลมากขึ้นไปอีก จนทำให้ Arasaka ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกในเวลาต่อมา จากการที่ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก Saburo ได้เริ่มต้นทำความปรารถนาที่จะเป็นใหญ่ในโลกของเขา Arasaka ได้เริ่มสะสมกำลังพล และอาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดียวกันเขาได้ทำลาย รวมถึงกวาดล้างบริษัทคู่แข่งไปมากมายเช่นกัน แน่นอนว่าบริษัทไหนที่ดูใช้ประโยชน์ได้ เขาก็จะรวบบริษัทเหล่านั้นเข้ากับ Arasaka เพื่อเก็บไว้ใช้งาน หลังจากนั้นจนถึงปี 2020 บริษัท Arasaka ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าบริษัทนี้จะทำธุรกิจมากมาย แต่การรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และ การขายอาวุธยังคงเป็นรายได้หลักอยู่เช่นเดิม ด้วยอายุ 78 ปี Saburo ได้ก่าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัทในปี 1997 และให้ Kei Arasaka ลูกชายของเขาขึ้นรับช่วงต่อแทน โดยตัว Saburo ลดบทบาทตัวเองจนเหลือเพียงแค่เป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องสำคัญๆ เท่านั้น สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ปี 2022-2027 ในปีช่วงปลายปี 2021 สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 ได้อุบัติขึ้น ระหว่าง CINO กับ OTEC ที่เป็นบริษัทขนส่งทางน้ำของยุโรป และอเมริกา โดยจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งนี้ เป็นเพราะ IHAG ที่เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งใต้น้ำยักษ์ใหญ่เกิดล้มละลาย ทำให้ CINO กับ OTEC แข่งกันเข้ายึดทรัพยากรต่างๆ ของ IHAG ในตอนแรกทั้ง 2 ก็สู้กันในตลาดหุ่นดีๆ แต่การต่อสู้ก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไปถึงขั้นมีการว่าจ่าง Arasaka กับ Militech ที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับอาวุธ และการรักษาความปลอดภัย ให้เข้ามามีบทบาทในสงครามครั้งนี้ด้วย ด้วยความที่ Arasaka กับ Militech ต่างก็เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และการทหารยักษ์ใหญ่เหมือนกัน ทำให้ทั้ง 2 เองก็เป็นคู่แข่งทางการตลาดมานานแล้ว แน่นอนว่าทั้งคู่ต่างพยายามที่จะกำจัดอีกฝ่ายออกไปมาโดยตลอด ทำให้สงครามระหว่างบริษัทครั้งที่ 4 เป็นข้ออ้างอันดี ที่ทั้ง 2 จะใช้ เพื่อลดอำนาจของอีกฝ่ายลง ในช่วงเวลานั้น Saburo คิดว่า Donald Lundee ประธานของบริษัท Militech ไม่ต่างอะไรกับตัวแทนของ ผู้คน, ประเทศ, หรือทหารที่ช่วงชิงเกียรติยศของชาวญี่ปุ่นไป ทำให้ตัวเขารู้สึกอยากจะเอาชนะในสงครามครั้งนี้เป็นอย่างมาก ทางด้าน Donald Lundee เอง ก็คิดว่า Arasaka เป็นศัตรูที่เขาต้องรับมือด้วยกำลังทหารเท่านั้นเช่นกัน ส่งผลให้สงครามในครั้งนี้รุนแรงมากๆ ในปี 2022 ผู้รับหน้าที่ออกคำสังปฏิบัติการประจำวันไม่ใช้ใครที่ไหนแต่เป็น Kei Arasaka ผู้เป็นลูกชาย แตกต่างจากพ่อของเขา Kei มองว่าการต่อสู้ในครั้งนี้เป็นการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง และไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวด้วย แต่เขาเห็นด้วยว่าบริษัทจำเป็นต้องเอาชนะในสงครามครั้งนี้ให้ได้ เขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า Arasaka จะชนะในศึกนี้ ต่อมาในปี 2024 ตัวของ Kei ได้ขึ้นมาควบคุมบริษัทนี้แบบ 100% เพราะพ่อของเขาจำเป็นต้องไปหลบอยู่ในที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโดนลอบสังหาร ไม่ว่าจะเป็นกำลังคน หรืออาวุธ Kei มองว่าทุกอย่างเป็นเพียงหมากชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถ้าหากว่าสูญเสียไป ก็เพียงแค่หาหมากใหม่มาทดแทนเท่านั้น ส่งผลให้ลูกชายคนเล็กของเขา Yorinobu Arasaka ไม่พอใจการกระทำของพ่อเขามากๆ และคิดที่จะก่อกบฏ จนทำให้บริษัท Arasaka ต้องรับทั้งศึกภายนอก และภายใน สงครามรครั้งนี้จบลง หลังจากที่ตึกของ Arasaka ในเมือง Night City ถูกระเบิดจนต้องถล่มลงมา สร้างความเสียหายให้กับเมือง Night City เป็นอย่างมาก Kei Arasaka ถูกบังคับให้ต้องฆ่าตัวตาย ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา Kress โทษว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของ Arasaka และตราหน้าบริษัทนี้ว่าไม่ต่างอะไรจากผู้ก่อการร้าย ส่งผลให้ผู้บริหารทั้งหมดของบริษัทถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไปด้วย ต่อมาในปี 2027 บริษัทถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่าย คือฝ่าย Bakafu ที่นำโดย Hanako Arasaka ลูกสาวคนโต, ฝ่าย Princess ที่นำโดย Michiko Arasaka ลูกสาวของ Kei ที่หันไปจับมือกับอเมริกา และฝ่าย Rebel ที่นำโดยลูกชายผู้เป็นกบฏของตระกูล Yorinobu Arasaka Cyberpunk 2077 ในปี 2077 บริษัท Arasaka ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิธิพลอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าบริษัทนี้ยังคงให้บริการรักษาความปลอดภัย, ธนาคาร และค่าอาวุธเช่นเดิม Yorinobu Arasaka ดูเหมือนจะเป็นผู้นำคนปัจจุบันของบริษัทนี้ ที่น่าตกใจคือ Saburo Arasaka ทีมีอายุถึง 158 ปีแล้ว ยังไม่ตายด้วย! ในขณะที่ทาง Hanako Arasaka กับ Michiko Arasaka ยังไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยว่า ถ้าหากเราเลือกให้ "V" เคยเป็นคนในบริษัทมาก่อน เนื้อเรื้องจะเริ่มต้นในบริษัท Arasaka ของเมือง Night City ด้วย ต้องรอดูต่อไปว่า Arasaka จะมีบทบาทยังไงในเกมช่วงปลายปีนี้ครับ Credit: Fandom
16 Jul 2020
Cyberpunk 2077 เล่าเรื่องราวของ Evelyn อีกหนึ่งตัวละครสำคัญผ่าน Twitter!
เรื่องราวของตัวละครต่างๆ ในเกม Cyberpunk 2077 เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าตัวเกมจะยังไม่วางจำหน่ายช่วงนี้ แต่ล่าสุดก็ได้มีการปล่อยเรื่องราวของตัวละครบางตัวออกมาแล้วผ่านทาง Twitter และวันนี้ตัวละครที่ได้รับโอกาสนั้นคือ Evelyn Parker ครับ Evelyn Parker เปิดตัวครั้งแรกใน Trailer ของงาน Night City Wire โดยจากโพสต์ล่าสุดขน Twitter ของ Cyberpunk 2077 ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคนฉลาด ทั้งมีความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก เธอมีความฝันที่อยากเป็นนักแสดงอาชีพ และด้วยสมองที่ชาญฉลาด ได้ทำให้เธอสามารถเข้าทำงานที่ Doll House ได้ แต่เหมือนว่าก้อนหินที่เธอคิดจะใช้เหยียบขึ้นไปนี้กลายเป็นสิ่งที่ผู้มัดเธอไว้มากกว่า Evelyn ดูน่าจะเป็นตัวละครที่มีความสำคัญในเนื้อเรื่อง แต่ว่าเธอจะสำคัญยังไงคงต้องรอติดตามต่อไปในวันที่เกมวางจำหน่าย 19 พฤศจิกายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Evelyn Parker’s intelligence and ambition drives her to demand more from life. Her goal of becoming a professional actress, and her rational head for the biz, led her to a job at the Doll House, but this stepping stone in her career quickly became something much more permanent. pic.twitter.com/CjGgSWU68A — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) July 6, 2020 Credit: GameRant
08 Jul 2020
Cyberpunk 2077 การก่อตั้งเมือง Night City และสรุปเรื่องราวก่อนปี 2013!
Night City คือชื่อของเมืองในเกม Cyberpunk 2077 แต่รู้รึเปล่าครับว่าจริงๆ แล้ว Cyberpunk ไม่ใช่เกม Original ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย CD Projekt Red เอง หากแต่เป็นเกมที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Cyberpunk 2013 และ Cyberpunk 2020 ที่เป็นบอร์ดเกม ดังนั้นเมือง Night City ที่เป็นเซ็ตติ้งของเกมเอง ก็ไม่ได้เพิ่งถูกสร้างขึ้นมา แต่มีประวัติศาสตร์มาช้านานแล้วเช่นกัน แถมเมืองนี้ยังมีอายุเกือบ 100 ปีแล้วด้วย วันนี้ผมเลยจะพาเพื่อนๆ ชาว GameFever TH มาย้อนรอยประวัติศาสตร์ไปดูกันว่า กว่าจะมาเป็นเมือง Night City ในเกม Cyberpunk 2077 ที่กำลังจะออกได้ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาอย่างไร และมีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้างก่อนปี 2077 ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ จุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองในฝัน (ปี 1992) Richard Alex Night คื่อชื่อของนักธุรกิจที่เป็นคนก่อตั้งเมื่อง Night City ขึ้นมา ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เขาตัดสินใจที่จะสร้างเมืองนี้ขึ้นมา เกิดจากการที่ตัวเขาเองเริ่มไม่พอใจ กับการบริหารโครงการก่อสร้างต่างๆ ในบริษัทที่เขาทำงานอยู่ เขาจึงตัดสินใจลาออกมาตั้งบริษัทของตนเอง โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องสร้างเมืองตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาให้ได้ อ่าว Del Coronado คือสถานที่ซึ่ง Richard ตัดสินใจที่จะสร้างเมืองในฝันนี้ขึ้นมาในชื่อ "Coronado City"  โดย Richard ยังหวังอีกด้วยว่าเมืองนี้จะเป็นเขตปลอดภัยที่ไม่มีการก่ออาชญากรรม หรือสิ่งที่ผิดจริยธรรม ในปี 1992 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Arasaka, EBM, กับ Petrochem ได้ลงทุนเป็นจำนวนมากให้กับโปรเจคสร้างเมืองในฝันครั้งนี้ จนทำให้ Richard สามารถซื้อพื้นที่รอบๆ อ่าว Del Coronado ทั้งหมดไว้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสร้างเมืองได้ ต่อมาในปี 1993 การสร้างเมือง Coronado City จึงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ การตายของ Richard Alex Night และจุดเริ่มต้นของสงครามครั้งแรก (ปี 1998) Richard Alex Night ถือเป็นนักธุรกิจที่เก่งมาก เขาสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งที่เกิดขึ้นจากการสร้างเมือง รวมไปจนถึงที่เกิดจากความอิจฉาของผู้คนในความสำเร็จของเขา แต่นับวันปัญหาที่เข้ามาหาก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขนาดที่ถึงขั้นก่อวินาศกรรม ในวันที่ 20 กันยายน ปี 1998 ตัว Richard ถูกพบเป็นศพในบ้านของตัวเอง จากสภาพที่เกิดเหตุนักสืบได้สรุปว่า Richard ถูกฆาตกรรม แต่ก็ไม่เคยมีใครได้พบกับตัวฆาตกรเลย เพื่อเป็นการให้เกียรติกับเขา เมือง Coronado City จึงได้ถูกเรียกว่า Night City นับแต่นั้นเป็นต้นมา การตายของ Richard ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนชื่อของเมืองเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตัวเขานั้นเปรียบเสมือนผู้มีอำนาจมากที่สุดในเมือง ดังนั้นการจากไปจึงทำให้เกิดการแย่งอำนาจภายในเมืองจาก 2 ขั้วอํานาจนั้นคือ ฝั่งบริษัทยักษ์ใหญ่ กับฝั่งของประชาชน โดยฝั่งบริษัทได้ควบคุมพื้นที่ส่วนกลางของเมือง กับรัฐบาลเอาไว้ ส่วนฝั่งประชาชนก็ได้เข้าควบคุมร้านค้าเล็กๆ รวมไปจนถึงบริการเกือบทั้งหมดในเมือง ส่งผลให้เกิดแก๊งค์ต่างๆ ขึ้นมาในเวลานั้น ชัยชนะของเหล่าแก๊งค์ และจุดเริ่มต้นของยุคมืดแห่งเมือง Night City (ปี 2005) หลังจากต่อสู้กันมานานถึง 7 ปี ในที่สุดปี 2005 เหล่าแก๊งค์ก็ได้รับชนะ และกลายเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดในเมือง เหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ จึงต้องหนีไปสร้างฐานที่มันอยู่บริเวณ Beavervilles และ CorporatePlaza โดยพวกเขาไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารบ้านเมืองอีกเลยหลังจากนั้น ทางฝั่งของรัฐบาลเองเมื่อไม่มีการสนับสนุนจากเหล่าบริษัท ก็ไม่สามารถบริหารบ้านเมืองได้เช่นกัน จากเหตุการดังกล่าวส่งผลให้ 4 ปี หลังจากนั้นเมือง Night City ได้กลายเป็นนรก ในยุคนี้เมือง Night City เป็นยุคของผู้ที่แข็งแกรงรอดอ่อนแอตายอย่างแท้จริง มีคนตายทุกวัน, รถถูกระเบิดเป็นว่าเล่น, คดีฆาตกรรมที่ไม่ถูกสืบสวนมีเป็นพันๆ เคส ในยุคนี้ได้มีแก๊งค์สุดโหดเหี้ยมได้ถือกำเนิดขึ้น 2 แก๊งค์ นั้นก็คือ Blood Razors กับ Slaughterhouse  กำเนิดสงครามครั้งที่ 2 ระหว่างแก๊งค์ด้วยกัน และการเข้าควบคุมของเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่ (2009-2011) หลังจากเมืองอยู่สภาพที่ไม่ต่างจากนรกเป็นเวลา 4 ปี ในที่สุดปี 2009 ก็ได้เกิดสงครามระหว่างระหว่างแก๊งค์ด้วยกันขึ้น มีการใช้ความรุนแรง รวมถึงเหตุฆาตกรรม เกิดขึ้นทุกหนแห่งของเมือง Night City ชนิดที่เรียกได้ว่าถ้าก่อนหน้านี้เป็นนรกแล้ว ในเหตุการนี้คือนรกขุมที่อยู่ลึกกว่า แต่สงครามดังกล่าวก็ต้องจบลงเมื่อบริษัท Arasaka ที่เป็นหนึ่งในผู้ออกทุนสร้างเมือง ได้ใช้กำลังทหารเข้าควบคุมเมืองในเวลาต่อมา หลังจากนั้นไม่นานบริษัทต่างๆ ได้กลับเข้ามามีบทบาทในการปกคลองเมือง Night City อีกครั้ง และสิ่งแรกที่พวกเขาทำก็คือการพยายามสร้างเมืองที่เสียหายจากสงครามขึ้นมาใหม่ ด้วยการออกกฏหมายว่า "ทุกคนจำเป็นต้องรับผิดชอบซ่อมแซมบ้านของตัวเองใหม่ ถ้าไม่สามารถจ่ายเงินเพื่อปรับปรุงบ้านได้จะต้องถูกรัฐบาลยึดบ้าน" ซึ่งมันทำให้ที่อยู่อาศัยราคาปานกลางลงไปเกือบทั้งเมืองถูกยึดไปโดยรัฐบาล ส่งผลให้มีจำนวนของคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นอย่างมากในเมือง มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น รวมไปจนถึงการมอบอำนาจให้กับหน่วยรักษาความปลอดภัยในเมือง และมีการบูรณะสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา หรือห่วงทรัพย์สินค้าที่เสียหายจากสงคราม คุยกันท้ายบทความ เรื่องราวของ Night City ที่ผมได้เล่ามาทั้งหมดนี้ คือเหตุการที่เกิดขึ้นก่อน Cyberpunk 2013 ที่เป็นบอร์ดเกมตัวแรก ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าเรื่องราวที่ทุกคนเพิ่งได้อ่านไปเป็นเพียงบทนำของตำนานเมือง Night City เท่านั้น ในช่วงต่อจากนี้จะมีเหตุการสำคัญที่เกิดขึ้นอีก 6 ช่วงปีด้วยกันคือ 2013, 2020, 2022, 2025, 2030, และ 2040 โดยตัวผมจะขอเล่าบทสรุปของเนื้อเรื่องในช่วงปีดังกล่าวต่อไปแล้วรออ่านกันได้เลยครับ
19 Jun 2020
Cyberpunk 2077 เผยเรื่องราวของแก๊งค์ Maelstrom แล้ว!
Cyberpunk 2077 กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงกลางเดือนกันยายน 2020 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งเราก็ได้รู้ไปแล้วว่าเนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึ่งแก๊งค์ทั้ง 8 ซึ่งมีอิทธิพลสูงสุดในเมือง Night City โดยก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นเรื่องราวของแก๊งค์ต่างๆ ไปพอสมควรแล้ว วันนี้ก็มาถึงคิวของแก๊งค์ Maelstrom บ้างครับ! ได้มีการเปิดเผยข้อมูลของแก๊งค์ Maelstorm ออกมาจากทาง Twitter ของ Cyberpunk 2077 เอง โดยแก๊งค์ดังกล่าวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม Watson โดย Maelstorm เป็นแก๊งค์ที่หมกมุ่นอยู่กับการ กำจัดจุดอ่อนบนเนื้อหนังของมนุษย์ โดยการใช้ Cybertechnology เข้ามาช่วย ผู้เล่นจะสามารภพบกับพวกเขาได้ที่ Totentaz Club ภายในเกม นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจมากครับ ต้องรอดูต่อไปว่าแก๊งค์ Maelstrom จะมีบทบาทยังไงในเนื้อเรื่องของเกมต่อไป เกม Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2020 บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC Maelstrom’s territory is the industrial part of Watson. Its factories, the Totentanz Club – you’ll meet them there. They are obsessed with cybertechnology, and their urge to improve the weakness of human flesh is far stronger than their fear of cyberpsychosis. #Cyberpunk2077 pic.twitter.com/Xp3whIDhMf — Cyberpunk 2077 (@CyberpunkGame) May 11, 2020 Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  
13 May 2020
Cyberpunk 2077 เปิดเผยเรื่องราวของ Valentinos Gang แล้ว!
Cyberpunk 2077 กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้แล้ว เชื่อว่าตอนนี้หลายคนเลยที่กำลังเฝ้ารอการมาของเกมนี้อย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งเพื่อไม่ให่กระแสของเกมต้องตกไปซะก่อน ทางผู้พัฒนาจึงได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของเหล่าแก๊งต่างๆ ออกมามากมาย ล่าสุดก็ได้มีการเปิดเผยเนื้อเรื่อง รวมไปจนถึงที่มาที่ไปของแก๊ง Valentinos แล้วครับ! Valentinos เป็นเหมือนแก๊งที่รวมตัวกันเพราะ หลักจรรยาบรรณ กับประเพณีที่เก่าแก่ พวกเขาเป็นใหญ่ในพื้นที่ Heywood สิ่งที่เหล่าคนภายในแก๊งนี้ให้คุณค่ามากที่สุดคือ เกียรติยศ, ความยุติธรรม, และความเป็นพี่น้อง เป็นอีกหนึ่งแก๊งที่ดูจะมีเรื่องราวที่ลึกลับมากๆ ต้องรอดูต่อไปครับว่า Valentinos จะมีผลอย่างไรกับเนื้อเรื่องของเกม Cyberpunk 2077 Cyberpunk 2077 จะวางจำหน่ายในวันที่ 17 กันยายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC https://twitter.com/CyberpunkGame/status/1255119636443607045 Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
29 Apr 2020
Cyberpunk 2077 จะมีเนื้อเรื่อง Side Quest ในระดับเดียวกับ Main Quest
อีกหนึ่งเกม AAA ที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงอยู่อย่าง Cyberpunk 2077 นอกจากระบบตัวละครและเกมเพลย์แล้ว เกมนี้จะยังมีระบบ Side Quest แบบจัดเต็มอีกด้วย CD Projekt RED ได้เปิดเผยว่า "พวกเราอยากทำให้ Side Quest ของเกมนี้เป็นที่จดจำของผู้เล่น เราเลยตั่งทีมขึ้นมาเพื่อรับผิดชอบส่วนนี้เลยที่เดียว" โดยทีมนี้นอกจากะทำ Side Quest แล้วยังเก็บรายละเอียดสิ่งต่างๆ ภายในเมืองเพื่อให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกไปกับการตามหาสิ่งต่างๆ ที่ทำได้ในเมืองนี้อีกด้วย Phillip Weber ผู้ออกแบบเควสได้กล่าวว่า "สิ่งต่างๆ ที่ทำได้ในเมืองนี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกมนี้ Unique ในตัวของมันเอง สุดท้ายก็ใสเนื้อเรื่องที่ดีเข้าไปเกมนี้ก็จะสมบูรณ์" เกมนี้ดูเหมือนจะมีอะไรให้เราทำเยอะกว่าที่เราคิดครับ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
09 Sep 2019
CD Projekt Red ยืนยัน Cyberpunk 2077 จะนำเสนอเรื่องศาสนา ความเชื่อด้วย
CD Projekt Red เจ้าของเกม โลกอนาคต Cyberpunk 2077 ที่เปิดตัวได้น่าประทับใจที่สุดเกมหนึ่งในงาน E3 2019 และได้บอกข้อมูลเกี่ยวกับเกม Cyberpunk 2077 มามายมาย รวมถึงการมี “ศาสนาความเชื่อ” เป็นองค์กรหนึ่งในเกมอีกด้วย ลัทธิความเชื่อจะมีบทบาทในเมือง Night City รวมถึงศาสนาคริสต์ CD Projekt Red กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “พวกเราจะไม่ละเลยประเด็นพวกนี้ แม้มันจะค่อนข้างเซนซิทีฟกับบางคนก็ตาม พวกเราไม่ได้นำเรื่องนี้เข้ามาเพื่อตัดสินว่ามันถูกหรือผิด” ฟังดูแล้วพวกเขาต้องการที่จะนำเสนอเพียงเท่านั้น นอกเหนือจากการให้สัมภาษณ์ก็ไม่ได้มีข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมแต่อย่างใดว่า ประเด็นศาสนา ความเชื่อ ลักธิพวกนี้ จะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบใด Cyberpunk 2077 วางจำหน่ายในวันที่ 16 เมษายน 2020 บน Xbox One, PS4 และ PC อ้างอิง: playstationlifestyle
25 Jul 2019
เปิดโลก Cyberpunk 2077 (ฝ่าย อาชีพ โลก ตำนาน)
แม้เกมที่แค่เปิดตัวมาก็เรียกเสียงตอบรับได้ดีมากๆ อย่าง Cyberpunk 2077 จะยังไม่ประกาศวันวางจำหน่ายออกมา แต่เนื่องจากเกมดัดแปลงมาจากเกมกระดาน RPG ในชื่อ Cyberpunk 2020 เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกของเกมค่อนข้างมาก ทางเว็บไซต์ VG247 ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญเกม Cyberpunk 2020 มาเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมอย่างละเอียดยิบให้เราๆ เกมเมอร์ที่รอคอยเกมนี้ได้ทราบกัน ซึ่งพวกเรา GameFever ได้ทำการสรุปออกมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน โลกของเกม โลกของ Cyberpunk  เกิดขึ้นในยุคอนาคตแบบ Dystopia ที่มนุษย์กับเทคโนโลยีหลอมรวมกันจนเส้นแบ่งระหว่างสองสิ่งนั้นมีอยู่น้อยเต็มที วิทยาการพัฒนาไปถึงขั้นที่มนุษย์สามารถหาชิ้นส่วนมาอัพเกรดร่างกายตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ อยากฉลาดขึ้น นั่นไม่ใช่ปัญหา ขาขาด เบื่อขาเก่า ก็หามาเปลี่ยนใหม่ได้เสมอ ผู้คนถูกแบ่งเป็น 2 ประเภท คนที่มีทุกสิ่ง กับคนที่ไม่มีอะไรเลย ประเทศอเมริกาหายไปจากแผนที่โลก ล่มสลายลงจากปัญหาล้มละลาย ความอดอยาก สงคราม การประท้วง สิ่งที่ขึ้นมาแทนคือบริษัทมหาอำนาจที่สร้างกำแพงเหล็กและคอนกรีตหนา เฝ้าเวรยามด้วยหน่วยรักษาความปลอดภัยชั้นแนวหน้า ด้านในกำแพงคือผู้ที่โชคดีพอได้ทำงานในบริษัทใหญ่ยักษ์เหล่านั้น ส่วนนอกกำแพงนั้นเต็มไปด้วยความโกลาหล Old Cities (เมืองเก่า) ใน Old Cities หรือเมืองเก่าเป็นที่ที่รัฐบาลที่เหลืออยู่ต่อสู้กับแก๊งและกลุ่มไร้กฎหมายต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อแย่งชิงพื้นที่ The Dust ศูนย์กลางของประเทศอเมริกากลายเป็นดินแดนแห้งแล้งที่บรรดากลุ่ม "ครอบครัว" เร่ร่อน เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่อยู่ตลอดเวลา ด้วยรถบ้าน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถตู้ ทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชีวิตรอด Space (อวกาศ) ในอวกาศเป็นที่ที่บริษัท Orbitals ซึ่งควบคุมโดยประเทศในกลุ่มยูโรโซน เล็งอุปกรณ์ใหญ่ยักษ์มาที่โลก เตรียมยิงถล่มใครหน้าไหนก็ตามที่ขัดขวางการครอบงำทางเศรษฐกิจของตน และท่ามกลางเรื่องราวทั้งหมดนี้ยังมีกลุ่มคนผู้กล้าหาญกลุ่มเล็กๆ ที่เรียกว่า Edgerunner เคลื่อนไหวในความมืด ต่อรอง ทำภารกิจ ดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นอิสระ ซึ่งผู้เล่นก็คือหนึ่งในนั้น ฝ่าย Corporations (บริษัท) บริษัทคือฝ่ายที่เข้ามามีอำนาจในโลกของเกมเมื่อรัฐบาลเสื่อมอำนาจลง เข้ามาจัดการเรื่องการศึกษา ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน จ้างทหารรักษาความปลอดภัย ติดกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่ ทำให้เกิดอาชญากรรมขึ้นน้อยมาก และวางบทลงโทษของผู้กระทำผิดอย่างสาหัส ผู้คนของบริษัทเชื่อว่าตัวเองมีอิสระเสรี แต่นั่นหมายถึงการแลกเสรีภาพกับความปลอดภัย Nomads (กลุ่มคนเร่รอน) กลุ่มคนเร่ร่อนคือกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่หลายกลุ่ม บางกลุ่มก็คือชาวเมืองทั้งเมือง ซึ่งถูกทิ้งไว้ท่ามกลางความแห้งแล้งจากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ความโลภและการเมินเฉยของกลุ่มบริษัท กลุ่มคนพวกนี้เดินทางเร่ร่อนเพื่อหาสถานที่แห่งใหม่ที่เรียกว่าบ้าน ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็มีกฎของตัวเอง Gangs (แก๊ง) แก๊งคือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในด้านมืดของเมือง แก๊งที่ทำสิ่งผิดกฎหมายอย่างค้ายาหรืออาวุธก็ยังคงพบเห็นได้ทั่วไปในโลกของเกมนี้ แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือแก๊งใหม่ที่น่าเกรงกลัวอย่าง Boostergangs  ซึ่งสมาชิกแก๊งเป็นพวกที่เสพติดการอัพเกรดร่างกายตนเอง และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนอัพเกรดใหม่มา Cops (ตำรวจ) ถึงแม้รัฐบาลกลางจะล่มสลายลง แต่บางเมืองก็ยังคงรูปแบบการปกครองแบบเดิมๆ ไว้อยู่ และนั่นยังหมายถึงการมีอยู่ของกฎและผู้คุมกฎอย่างตำรวจ Edgerunners Edgerunners คือซามูไรข้างถนน ทหารรับจ้าง หมาป่าเดียวดาย แล้วแต่ชื่อที่ผู้คนจะเรียก ทำงานที่คนธรรมดาไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาคือเจ้าหน้าที่นิรนามทำงานให้กับผู้ที่ไม่อยากเปิดเผยตัว มีชีวิตอยู่เพื่อเงิน ไม่ภักดีกับใคร และฝากความเป็นความตายของตนไว้ที่ทักษะและไหวพริบของตนเอง นี่คือฝ่ายของผู้เล่น บทบาทและอาชีพ Solos เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธ ไม่ว่าจะไรเฟิล ปืนพก หรือเครื่องยิงระเบิด ทำงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือการต่อสู้ Techies (ผู้เชี่ยวชาญ) เป็นผู้ที่มีความสามารถในการซ่อมแซม ล็อก ปลดล็อก จัดการอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับวงจรไฟฟ้า เครื่องมือ อะไรก็ตามที่มีความซับซ้อน สร้างและรื้อของทุกอย่างที่มีคนสร้างขึ้นมา Fixers เป็นคนที่สามารถหาทุกอย่างที่มีคนต้องการมาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอาไว้แบล็คเมล์ ที่อยู่หัวหน้าแก๊ง ปืนไรเฟิลรุ่นหายาก ไม่มีอะไรที่หาไม่ได้ Cops (ตำรวจ) ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย และบางครั้งก็เป็นกฎหมายเสียเอง Medias (สื่อ) ในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร คนที่เป็นคนรายงานเรื่องราวก็คือคนที่ควบคุมความจริง คุณอาจเป็นคนที่ถือความจริงเป็นสิ่งสูงสุด หรือจะยอมขายวิญญาณพูดในสิ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่อยากให้เป็นความจริง Rockers (ชาวร็อค) คุณคือกวีที่ถ่ายทอดผลงานผ่านเสียงเพลง ต่อสู้เพื่อดนตรีและส่งต่อข้อความที่เชื่อ เป็นไอดอลของกลุ่มคนจำนวนมาก Corps (บุคคลของบริษัท) คุณคือคนที่ขับรถรุ่นใหม่ล่าสุดก่อนใคร ใช้อุปกรณ์อัพเกรดร่างกายที่หรูหราที่สุด ใส่สูทราคาแพงกว่าบ้านของใครหลายคน คุณมองหาข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจอยู่เสมอ โดยไม่ลังเลที่จะจ้างใครมาทำงานแทนหรือทำให้มือตัวเองสกปรก Netrunners (นักท่องไซเบอร์) เน็ตรันเนอร์คือแฮ็กเกอร์ที่ติดตั้งระบบอินเตอร์เฟซคอมพิวเตอร์ลงในร่างกาย ทำให้ไม่ว่าอะไรที่อยู่บนคอมพิวเตอร์เน็ตรันเนอร์ก็สามารถเจาะเข้าไปเอามาได้หมด สำหรับใครที่พลาดเทรลเลอร์ของเกมไปสามารถดูได้ที่นี่
04 Jul 2018