GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "นอกเรื่อง"
ทำไม Vtuber ถึงได้เติบโตอย่างรวดเร็วในสังคมของเหล่าเกมเมอร์
หากพูดถึงการเล่นเกมเพื่อมอบความบันเทิงให้กับคนดูแบบสมัยก่อน ก็คงต้องนึกถึงการเล่นแบบใส่ตัวตนเข้าไป ให้ Reaction ที่เป็นเอกลักษณ์ เพียงแค่น้ำเสียงและความตื่นเต้น รวมถึงฝีมือในการเล่นก็สร้างความสนุกสนานให้กับคนดูได้อย่างมากมาย แต่ด้วยบางคนใจรักอยากจะลองทำดู แต่ด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาหรือน้ำเสียงที่ไม่เหมาะหรือรู้สึกไม่เข้ากัน มันจึงเกิดนวัตกรรมโลกเสมือนและการมอบความบันเทิงผ่านโลกของเกมขึ้นมา นั้นคือสิ่งที่เรียกว่า Virtual Reality แล้วสิ่งที่เรียกว่า Virtual Reality ผนวกกับการสร้างสรรค์ Content สุดแปลกแหวกแนว ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า นวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการ Live Stream หรือที่เราชอบเรียกกันว่าแคสเกม จนมีผู้ติดตาม ชื่นชอบหรือสร้างตัวตนเสมือนเพื่อแคสเกมกันอย่างมากมาย แต่จุดเริ่มต้น, ปัจจัยและสิ่งต่างๆ อาจจะไม่ได้เล่าหรือหยิบยกเหล่า Vtuber มาทั้งหมด เพราะสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ ทำไม Vtuber กลายเป็นสิ่งที่เหล่า Gamer ชื่นชอบมากๆ และเป็นแรงบัลดาลใจให้ใครหลายคน ================================================== Ami Yamato ผู้ให้กำเนิดนิยามคำว่า Vtuber Youtube หากพูดถึงชื่อนี้หลายคนก็น่าจะรู้จักว่าเป็นเว็บไซต์แหล่งรวบรวมวีดีโอที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีทั้งสาระ สิ่งบันเทิง เพลงและเหล่า Youtuber ที่สร้างสรรค์ Content ต่างๆ ให้เราได้ดูกัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรจนกระทั่งปี 2011 ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มมีการใช้ Virtual Reality ในการออกแบบหรือสร้างสื่อทั่วไป ผู้คนเริ่มเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ ทำให้เจ้าของ Channel ที่ชื่อว่า Ami Yamato ได้ลองสร้างตัวตนเสมือนให้ปรากฎตัวในโลกจริงๆ ได้ อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าอาจจะเป็น Virtual Reality ตัวแรกของโลกที่ได้ปรากฎบนสื่อ แต่ก็จัดได้ว่าเป็น Channel แรกที่ทำลงบน Youtube ทำให้เกิดคำว่า Vtuber ขึ้นมา ซึ่งตัว Vtuber นี้เป็นผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมานานแล้ว ได้สร้างตัวตนเสมือนออกมาก็ทำออกมาลื่นไหล ดูมีชีวิตชีวาจริงๆ แถม Content ก็มีสาระความรู้ ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกมนัก ทำให้ Channel นี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก แต่หากสนใจก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ Ami Yamato Chennel ได้เลยจ้า AI Channel ผู้สร้างปรากฎการณ์ Vtuber จนเป็นที่รู้จัก แน่นอนว่า Vtuber ได้ถูกบรรญัติขึ้นในโลกของ Youtube แล้ว แต่ก็ยังไม่มีกระแสหรือการตอบรับมากมายนัก เนื่องด้วยการเข้าถึงของเทคโนโลยี Virtual Reality ยังมีราคาสูงเกินไป จนกระทั่งปี 2016 ที่ได้นำคำว่า ไอดอล, ตัวตนเสมือนและการสร้างความบันเทิงในรูปแบบตัวตนของตัวเอง กลายเป็น Vtuber สุดแสนน่ารักที่มีชื่อว่า Kizuna AI ขึ้นมาพร้อมกับยอดผู้ติดตามนับล้านภายในเวลาอันรวดเร็ว Kizuna AI หรือเรียกสั้นๆ กันว่า ไอจัง ได้มอบประสบการณ์ใหม่ของคำว่า Vtuber ให้คนเป็นที่รู้จัก ทั้งน้ำเสียงที่น่ารัก การเคลื่อนไหวที่ดูเป็นธรรมชาติ หลายคนคิดว่าคงไม่ต่างอะไรกับ อนิเมชั่นสไตล์ญี่ปุ่นหรือที่เรียกติดปากว่าอนิเมะแบบ Live 3D ทื่อๆ แข็งๆ แต่เปล่าเลย เธอเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมีชีวิตจริงๆ หลายคนจึงยกย่องว่าเธอคือผู้ให้กำเนิดโลกของ Vtuber อย่างแท้จริง ( แม้ว่าจะไม่ใช่ Vtuber คนแรกก็ตาม ) YAGOO ผู้ปฎิวัติ ( และถูกปฎิวัติ ) ให้ใครๆ ก็ทำ Vtuber ได้ หลังจากช่วงของ Kizuna AI ได้เปิดตัว ก็มี Vtuber จำนวนมากผุดขึ้นอย่างมากมาย และถูกสร้างมาเพื่อนอกเหนือจากความบันเทิงด้วยอย่าง Kaguya Luna ที่ได้ออกโฆษณาบะหมี่กึ่งยี่ห้อหนึ่ง และอีกหลายโฆษณา นอกเหนือจากการทำ Content, หรือ Hiyori Ibara จากช่อง IbakiraTV ที่กลายเป็นตัวตนเสมือนตัวแรกๆ ที่ได้รับหน้าที่เป็นโฆษกประจำจังหวัด Ibaraki เพื่อโฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด แต่ก็มีคน คนหนึ่งที่กล้าแสดงให้เห็นว่า การเป็น Vtuber ใครๆ ก็ทำได้หากตั้งใจ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ราคาแพง นั้นคือคุณ Motoaki Tanigo Motoaki Tanigo มีชื่อเล่นว่า YAGOO เขามาพร้อมกับความฝันอยากสร้างไอดอลบนโลกเสมือนหรือ Virtual Idol มีแรงบัลดาลใจมาจาก AKB48 บวกกับการมอบอิสระเพื่อดึงความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จนเกิดสุดยอดวงไอดอลที่เรียกว่า Hololive Production หรือเรียกสั้นๆ ว่าโฮโลไลฟ์ รวบรวมผู้ที่มีความตั้งใจและมีความสามารถ ได้กลายมาเป็นไอดอลตัวตนเสมือนที่พร้อมจะมอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน บนพื้นฐานของไอดอลที่เรียกว่า ความไม่สมบูรณ์และพัฒนาต่อไป ทำให้เกิดแรงบัลดาลใจของใครหลายๆ คนอยากทำ Vtuber เป็นของตัวเองมากมาย ในปัจจุบันก็มี Vtuber ในสังคมนับหลายชีวิตก่อนที่ถูกเหล่าสาวๆ เนี่ยแหละปฏิวัติ (?) YAGOO จนเกิดไอดอลสุดกาวอย่างที่เห็น แต่นั้นแหละเพราะความเป็นตัวตนของตัวเองทำให้ผู้คนติดตามและชื่นชอบความไม่ยึดติดและคิดนอกกรอบแบบนี้ แล้ววงการ Vtuber ไทยเริ่มต้นและเป็นกระแสตอนไหน หากพูดว่ากระแสในบ้านเราเริ่มมี Vtuber แรกๆ ช่วงไหน ? ก็คงประมาณสักสองปีที่แล้ว ที่ได้รู้จัก Vtuber ไทยคนแรกๆ อย่างเจ้าของแชลแนล MikuRu-0 หรือ "มิคุรุ" และก็เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างกระแสให้บ้านเราเริ่มเปิด Vtuber กันมากมายไปหมด เพราะนอกจาการสร้าง Content ที่สนุกสนาน จุดที่ทำให้เหล่า Gamer ชื่นชอบคือการเป็น Reaction การเล่นเกมต่างๆ บางคนก็เล่นเก่งจนหลายคนอายก็มี นอกจากนี้ยังมี Aisha Chennel ที่โด่งดังมากที่สุดในเมืองไทยขณะนี้ และเรียกตัวเองว่า Virtual Idol ไม่ใช่ Vtuber ซึ่ง "ไอช่าจัง" ก็เป็นแชลแนลไอดอลตัวตนเสมือนที่หลายคนเข้าถึงง่าย ดูน่ารักสดใสแบบไอดอล จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ การสร้างร่างเสมือนและปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มันทำให้คนที่ตั้งใจอยากทำ Content บันเทิงต่างๆ รวมถึงการอยาก Live Stream โชว์การเล่นเกมที่เหนือชั้น แต่ติดที่ว่าขาดความมั่นใจในตัวเองหรือปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้ไม่เต็มที่ การสร้างตัวตนเสมือนนั้นก็จะเป็นคำตอบให้กับพวกเขาเหล่านี้ ตัวตนที่ไม่ต้องกังวลว่าจะทำอย่างไรให้ดูดี ในเมื่อตัวตนเสมือนออกแบบมาให้เพียบพร้อม ที่เหลือคือการใส่ความเป็นตัวตนของเราและมอบความสนุกให้กับผู้คน ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่า Vtuber บางคนฉายแววการเป็น Gamer มืออาชีพแต่ขี้อาย พอการมีตัวตนเสมือนก็ช่วยเสริมความมั่นใจกลายเป็นการสร้างและพัฒนาวงการเกมยุคใหม่ที่มีแนวโน้มว่าจะไปไกลได้อีกในอนาคตข้างหน้า Vtuber จะเข้ามาแทนที่ Streamer แบบเดิมๆ หรือไม่ ? ถ้าให้พูดกันตามตรงแล้วล่ะก็ มันทั้ง "ได้" และ "ไม่ได้" ในส่วนของคำว่าได้กล่าวคือในอนาคตผู้คนก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยหน้าหรือเปิดเผยตัวตนเพื่อ Live Stream อีกต่อไปในเมื่อตัวตนเสมือนตอบโจทย์พวกเขา ตัวตนเสมือนแสนน่ารักผนวกกับฝีมือการเล่นเกมเพื่อสร้างความบันเทิงเพื่อคนดู เป็นอะไรที่ดีสุดๆ ของวงการเกมยุคนี้ ในส่วนของคำว่าไม่ได้ก็จะพูดถึง Streamer ที่มี Content โชว์การเล่นเทพๆ ไม่ได้สนเอกลักษณ์หรือรูปร่าง ซึ่งก็เป็นการบอกตัวตนของพวกเขาในรูปแบบหนึ่งอย่าง Heart Rocker, Bay Riffer, Nightblue3 หรือแม้กระทั่ง Shroud อดีตเทพเกม CS:GO ที่ผันตัวมาเป็น Streamer เพราะใบหน้าที่แท้จริงของเขามันคือเอกลักษณ์ที่ผู้คนจดจำ อนาคตของ Vtuber กับ Gamer หลังจากนี้ โดยส่วนตัวคนเขียนแล้วเชื่อเลยว่าการสร้างตัวตนเสมือนเพื่อการเป็นที่ยอมรับหรือการเป็นบุคคลสาธารณะบนเวทีสักที่ จะเป็นอะไรที่เติบโตอย่างรวดเร็วและจำนวนก็จะเพิ่มเรื่อยๆ อย่างเหล่า Vtuber ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และในอนาคตอาจจะมี Content ดีๆ ที่สร้างสรรค์หรือได้โชว์ฝีมือกันมากมาย จนเกิดเครือข่ายและสังคมขนาดใหญ่ เหล่า Vtuber จะสามารถเล่นเกมและพูดคุยร่วมกันผ่านเครือข่ายอันไร้พรมแดนนี้กันได้ง่ายและลื่นไหลขึ้นราวกับว่าพวกเขาได้ร่วมเล่นเกมอยู่ที่เดียวกันทั้งที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลกก็ตาม เผลอๆ อีกหน่อยอาจจะมีการแข่งขัน E-Sport โดยมี Vtuber เป็นคนแข่งก็ได้ ใครจะไปรู้กัน ================================================== สุดท้ายนี้แม้ว่าอนาคตจริงๆ ของตัวตนเสมือนอย่าง Vtuber จะเปลี่ยนแปลงวงการเกมไปในทิศทางไหนบ้าง แต่ที่แน่ๆ การเสพสื่อบรรเทิงและการเล่นเกมจะเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อตัวตนเสมือนเข้ามามีบทบาท แต่ก็อย่าลืมว่าตัวตนโลกเสมือนนั้นก็ไม่ใช่ของจริง มันอาจจะฟังดูเจ็บปวดหากเราได้ชื่นชอบ Vtuber คนใดมากๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีตัวตนจริงๆ ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สร้างเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและแรงบัลดาลใจให้พวกเราได้มีความสุขพร้อมลุยกับชีวิตในวันพรุ่งนี้ยังไงล่ะ ( ปล. ส่วนคนเขียนชื่นชอบ Qu Qualia มากๆ เลยล่ะ พูดได้สามภาษา, เล่นเกมแนว FPS เก่งมากแถมเป็นกันเองและน่ารักอีกด้วย )
06 Aug 2020
ส่องพัฒนาการของเกมมือถือ และหนทางสู่ตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หากย้อนตัวเองไปสักสิบกว่าปีก่อน ช่วงต้นยุค 2000 การมีมือถือสักเครื่องสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะเป็นอะไรที่เข้าถึงค่อนข้างยาก และสเปคของเครื่องในขณะนั้นก็ไม่ได้แรงอะไรนัก ยกตัวอย่าง Nokia N-gage (บอกอายุได้เลยทีเดียว) พกมานี่มีแต่คนรุมล้อมขอยืมเล่น แม้มันจะไม่ได้มีกราฟิกอะไรให้ชวนว้าวเลยตั้งแต่สมัยนั้น แต่มันก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ที่มีแสนแพงเอาเรื่องอยู่ไม่ใช่น้อยทีเดียว กลับมาในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีมือถือได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จนกลายเป็นว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแทบจะเป็นปัจจัยที่ห้าในการดำรงชีวิตไปแล้ว ซึ่งมนุษย์อย่างเราๆ อาจจะขาดไปไม่ได้ เพราะมันคือสิ่งที่รวมเกือบทุกอย่างย่อส่วนลงมาในนี้ เช่นเรื่องการอำนวยความสะดวกสะบาย ระบบ GPS ช่วยในการเดินทาง การสั่งซื้อของออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมบนมือถือก็แทบจะเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องใช้มือถือราคาแพง เพียงไม่กี่พันบาทก็สามารถเข้าถึงเกมได้เกือบจะเท่าเทียมกับคนที่ใช้มือถือราคาหลักหมื่นได้แล้ว จนทำให้ตลาดเกมมือถือในปัจจุบันกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในวงการเกมทั่วโลกไปแล้ว จากตลาดที่เคยถูกดูแคลนว่าเป็นเพียง "ของแถม" ในมือถือ สู่สถานะปัจจุบันในฐานะอุตสาหกรรมที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก เรามาลองสำรวจองค์ประกอบหลัก ที่ขับเคลื่อน "เกมมือถือ" ให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ================================================== ยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมเกมมือถือช่วงบุกเบิก จำเรื่องราวของ Nokia N-gage ที่พูดไว้ในข้างต้นได้หรือเปล่า? ต้องขอบอกเลยว่าก่อนที่จะมีเกมมือถือที่เป็นเกมเนื้อเรื่องยาวๆ ส่วนใหญ่ก็มักเป็นเกมที่ดาวน์โหลด เสียค่าบริการหลายสิบบาท และส่วนใหญ่เป็นเกมแนว Puzzle หรือเกมขำๆ ใช้เวลาเล่นไม่นานนัก เนื่องจากมือถือยุคนั้นที่ยังเป็น Feature Phone แบบ 2G ที่เน้นโทรออก รับสาย ส่งข้อความ สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้แต่ไม่ได้รวดเร็ว และสเปคที่ไม่ได้ดีนัก จนกระทั่งมือถือ Nokia N-gage เข้าสู่ตลาดในปี 2003 และนั่นคือจุดเริ่มต้นการปฏิวัติวงการเกมมือถือยุคแรกๆ ที่สมัยนั้นคนเขียนยังเรียนมัธยม วัยที่ยังนัดกับเพื่อนสุดสัปดาห์ไปเล่น Ragnarok ร้านเกมอยู่เลย จากคนที่ไม่ค่อยสนเรื่องมือถือถึงกับร้องว้าวและอยากได้บ้าง (แต่สุดท้ายก็ได้แต่ใช้ Nokia 3310 ไปก่อน) จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมกับอวดโทรศัพท์มือถือ Nokia N-gage พร้อมกับเกม Prince of Persia โดยมาในรูปแบบของ Memory Game เสียบปุ๊บเล่นได้เลย ซึ่งเพื่อนก็ใจดีก็ให้ยืมเล่น โดยกราฟิกของมันก็ไม่ได้ดีอะไรไปกว่ามือถือจอสี Nokia รุ่นอื่นๆ แต่ที่ประทับใจเลยก็คือ การออกแบบมาเพื่อคอเกมในยุคนั้นจริงๆ สำหรับคนเขียนแล้ว Nokia N-gage ถือว่าตอบโจทย์คนเล่นเกมยุคนั้นมาก แต่ทว่าคนที่เล่นเกมมือถือนั้นน้อยมากๆ และยังไม่เป็นที่นิยม สุดท้ายซีรีส์ N-gage ก็เลือนหายไปตามกาลเวลาเพราะคนไม่นิยม แม้จะมีเกมชื่อดังหลายเกมที่วางจำหน่าย สำหรับเครื่องนี้โดยเฉพาะก็ตาม เข้าสู่ช่วง 3G กับเทคโนโลยีจอสัมผัส พอช่วงเรียนจบ ประมาณช่วงปี 2000 ปลายๆ ถึง 2010 ต้นๆ นับว่าเป็นยุคการมาของโครงข่าย 3G ที่ได้เข้าถึงประเทศไทย พร้อมกับนวัตกรรมที่เรียกว่า "สมาร์ทโฟน" เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีสมาร์ทโฟน 3 OS หลัก ที่ขับเคี้ยวกันอย่างดุเดือดมากคือ Symbian OS (ของ Nokia), iOS และ Android การขับเคี้ยวครั้งนี้ ก็ทำให้อุตสาหกรรมเกมมือถือเริ่มโตขึ้นอย่างน่าประหลาด มีเกมมากมายให้เลือกดาวน์โหลดได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อตัวเกมอีกต่อไป และเกมต่างๆ ทำออกมาได้สนุกมากขึ้น รวมถึงเริ่มมีการเล่นแบบออนไลน์เกิดขึ้น มีเกมแนวสร้างเมืองแบบ Real-time ซึ่งยุคนั้นเป็นอะไรที่สนุกใช้ได้เลย แม้ว่าภายหลัง Nokia จะกลายเป็นผู้แพ้ในวงการโทรศัพท์มือถือในเวลาต่อมาก็ตาม แต่พูดได้เต็มปากว่าจุดนี้คือยุคที่การปฎิวัติอุตสาหกรรมเกมมือถือได้เริ่มขึ้นแล้ว Fantasica เกมมือถือในตำนานผู้นำเทรน TCG ยุคบุกเบิก คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักเกมนี้ แต่สำหรับคนที่เติบโตมาในยุคสมาร์ทโฟนรุ่นแรก อาจจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เกมแรกๆ ที่นำความโมเอะลายเส้นอนิเมะหรือการ์ตูน มาให้เล่นในรูปแบบ Online Real-time ที่ดังที่สุดในยุคนั้นแล้วล่ะก็ ไม่มีใครไม่รู้จักเกม Fantasica หากใน PC อาจจะพูดถึง Ragnarok ในมือถือก็ต้องพูดถึง Fantasica เฉกเช่นเดียวกัน เกม Fantasica เป็นเกมแนว Trade Card Game, Defend Tower ของค่าย Mobage เป็นเกมมือถือที่เปิดให้บริการในช่วงปี 2011 สามารถเล่นออนไลน์ร่วมกันแบบ Real-Time และระบบการเล่นที่อาศัยการวางแผนและการวางตัวละครป้องกัน (แบบ Arknights ในปัจจุบัน) สิ่งสำคัญที่ทำให้เกมนี้มีแรงดึงดูดให้ผู้คนมาเล่นเกมมือถือเลยก็คือ "ตลาดการซื้อขายการ์ด" พอมีตลาด ก็เริ่มมีชุมชนผู้เล่นขึ้น และก็ขยายใหญ่ขึ้นมาก ถึงขนาดตั้งกลุ่มคนไทยเล่นด้วยกันที่มีสมาชิกร่วมหมื่นคนได้ แต่ที่ผู้เขียนเล่นเกมนี้ไม่ใช่เพราะตลาดหรือกลุ่มสังคมขนาดใหญ่ แต่เป็นเพราะ... เพราะภาพ Art ตัวละครต่างๆ ที่คนมาวาดให้กับเกมนี้มันดึงดูดมากๆ โดยเฉพาะการ์ดใบนี้ที่ชื่อว่า Werewolf ผู้เขียนได้มาจากอีเวนท์ Halloween และยอมเสียเงินหลายพันบาทซื้อไอเท็มเสริมคะแนนในอีเวนท์เพื่อการ์ดใบนี้ใบเดียว บอกเลยว่าเจ็บปวดแต่สุขใจเพราะเกมนี้เล่นกันทั่วโลก คนที่ครอบครองใบนี้มีแค่ 500 ใบเท่านั้น เคยมีคนซื้อต่อเป็นเงินจำนวนมากก็ไม่ยอมขายเพราะหวง แรร์และรักมาก (ถึงขั้นจ้าง Fanart มาวาดให้ส่วนตัว บ่งบอกถึงความโอตาคุสมัยวัยเยาว์มาก) ด้วยอะไรต่างๆ มากมายที่วงการอุตสาหกรรมเกมมือถือยุคแรกไม่เคยมี ก็กลายเป็นบรรทัดฐานให้เกมอื่นๆ ได้สร้างตามกันมาอย่างเกม Valkyrie Crusader ที่เปิดให้บริการช่วงเวลาไล่ๆ กัน ที่ปัจจุบันก็ยังเปิดให้บริการอยู่ และอีกหลายๆ เกมในเวลาต่อมา ก็ได้แรงบัลดาลใจมาจากเกม Fantasica เสียส่วนใหญ่ ตัวเกม Fantasica ในปัจจุบันก็ปิดให้บริการไปเมื่อช่วง 31 มีนาคม 2019 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นเกมเก่าที่เปิดมาอย่างยาวนานร่วม 8 ปีเลยทีเดียว เข้าสู่ยุคที่เกมมือถือมีเอกลักษณ์และสนุกไม่แพ้ใคร ในช่วงกลางยุคปี 2010 นับได้ว่าเป็นยุคทองของเกมมือถือเลย เพราะการแสดงผลทำได้ลื่นไหล่มากขึ้น แต่ทว่าสเปคยังไม่ได้แรงอะไรขนาดนั้น และนั้นเองก็ทำให้เกมมือถือมักจะมีแนวที่กราฟิกไม่ได้อลังการนัก แต่มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์มากๆ ยกตัวอย่างเช่นเกม Fate Grand/Order ซึ่งเป็นเกมแนว Tactic Turn-based ที่มีสไตล์การเล่นไม่เหมือนกันพร้อมกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้นเหมือนซดกาแฟอเมริกาโนเพียวๆ แม้กราฟิกเกมช่วงแรกจะไม่ได้หรูหราอะไรขนาดนั้นเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นปัจจุบัน ที่มีการใส่คัตซีน Noble Phantasm (ท่าไม้ตาย) จนเกิดความอลังการงานสร้าง แต่ถือว่าสมัยนั้นหลายคนยกให้เป็นเกมที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ และทำให้ทิศทางของอุตสาหกรรมเกมมือถือยุคนั้น เน้นไปที่เอกลักษณ์ ไม่เน้นกราฟิกเสียเท่าไหร่นัก เมื่อทิศทางกระแสของเกมมือถือที่ไม่เน้นความอลังแต่เน้นสไตล์ ทำให้พี่จีนก็ได้เริ่มพัฒนาที่มีเอกลักษณ์และความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง เช่น Girls Frontline ออกมาซึ่งเป็นเกมแนว Tactical Turn-based Strategy ปัจจุบันตัวเกมก็เปิดให้บริการมา 4 ปีแล้วโดยทางผู้เขียนเล่นเป็นเกมหลักเลยล่ะ หรือถ้าจะเปลี่ยนแนวหน่อยก็มาเป็นแนว Rhythm กดตามจังหวะดนตรีอย่าง Love Live! School Idol ของทาง Bushiroad ซึ่งก็เป็นเกมกดตามจังหวะโดนตรีทั่วไปไม่มีอะไรมาก แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานเพราะมนต์ขลังของตัวละครและเนื้อเรื่องใสๆ ชวนลุ้นชวนติดตามของเหล่านักเรียนที่อยากเป็นไอดอลในแต่ละรุ่น จีนบุกตลาดอุตสาหกรรมเกมมือถือ เกมอลังจึงบังเกิด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้จนถึงปัจจุบัน ประเทศจีนได้รุกเข้าสู่ตลาดเกมมือถือหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพัฒนาเกมให้มีกราฟิกอลังการไม่แพ้ PC อีกทั้งการพัฒนา CPU ในตัวสมาร์ทโฟนปัจจุบันก็สามารถรองรับกราฟิกคุณภาพสูงระดับนี้ได้ ยิ่งทำให้เด็กรุ่นใหม่รู้สึกว่าเกมเข้าถึงง่ายมากด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียวในราคาไม่กี่พันบาท โดยเฉพาะเกม Dragon Raja ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เกมนี้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วแค่ไหน และผู้คนก็เล่นกันมากมายเพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนกับการซื้อเครื่องเล่นเกมหรือ PC ราคาสูงเพื่อเสพกราฟิกและความสนุกของเกม เกมเดียว เพราะใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ แต่กำไรสูง และในแง่ของผู้ผลิตเอง ต้องยอมรับว่าเกมมือถือนั้นใช้ทรัพยากรและการลงทุนในการพัฒนาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเกมใน PC หรือคอนโซล แต่กลับสามารถให้กำไรสูงไม่ต่างกัน เพราะเข้าถึงง่ายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายเร่งรีบในปัจจุบัน ผู้ผลิตและผู้พัฒนาสามารถสรรสร้างผลงานออกมาได้ตรงตามคุณภาพที่กำหนดไว้ได้ ทำให้เวลาเปิดให้บริการแล้วผู้เล่นรู้สึกถูกใจ ชื่นชอบก็อยากสนับสนุนเป็นธรรมดา พอให้ผู้พัฒนามีทุนที่จะพัฒนาเนื้อหาเพิ่มเติมต่อไปได้เรื่อยๆ ตราบใดที่มีผู้เล่นสนับสนุนอยู่แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม การ Live Stream เป็นเทรนด์ของนักเล่นเกมยุคใหม่ หากพูดถึงแล้ว ไม่มีใครที่ไม่เคยไลฟ์สตรีมเกมที่ตัวเองเล่นให้ผู้อื่นดู ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เร็วมากพอที่จะส่งสัญญาณแบบ Real-Time ได้ อีกทั้งสเปคโทรศัพท์มือถือก็มากพอที่จะทำการไลฟ์สตรีมไปพร้อมกับเล่นเกมได้ ฉะนั้นเพียงแค่กดปุ่ม ปุ่มเดียวก็ทำการเล่นเกมสดๆ ให้เพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ ได้ดู และสร้างความ Entertain ไปด้วยกันได้ดี เพราะทางผู้เขียนเองก็เคยไลฟ์เกมมือถือ Girls Frontline กับ Arknights บ้างเป็นครั้งคราว e-Sport ในเกมมือถือ มิติใหม่ของเด็กที่อยากเป็น หัวข้อสำคัญที่สุดที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือ การเข้าถึงวงการ e-Sport เกมมือถือในปัจจุบันนั้น ง่ายแสนง่าย ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมายหรือราคาแพงขนาดนั้น ทุกคนก็สามารถมาฝึกซ้อมทีมได้ เพียงแค่มีมือถือคนละเครื่อง พอทุกอย่างเข้าถึงง่าย ผู้ชมรวมถึงเงินสนับสนุนก็ถาโถมเข้ามาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไม e-Sport ในเกมมือถือสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ================================================== และนี่คือความเป็นมาและเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมเกมมือถือในปัจจุบันเข้าถึงง่ายกว่าเกมบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วยความที่เกมทำออกมามีคุณภาพโดยใช้ต้นทุนต่ำ โทรศัพท์มือถือที่เล่นเกมได้ก็ราคาไม่แพง อีกทั้งมีการจัดการแข่งขันบ่อยสุดๆ เป็นว่าเล่น รวมถึง การไลฟ์สตรีมเกมเพื่อความบันเทิงส่วนใหญ่ก็มาจากเกมมือถือ จึงไม่แปลกใจเลยว่าผู้คนสมัยใหม่ถึงชื่นชอบเกมมือถือ แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นประสบการณ์ตรงที่เคยพบเจอเท่านั้น หากมีอะไรอยากแชร์หรือแบ่งปั่น สามารถเข้ามาคอมเมนต์เพื่อแบ่งปันให้ทางทีมงานและผู้คนอื่นๆ ได้รับทราบกันด้วยนะ สุดท้ายแล้วก็อย่าลืมที่จะแบ่งเวลาการเล่นและการพักผ่อนให้เหมาะสมด้วยล่ะ
22 Jun 2020
[บทความพิเศษ] ทำไมตัวละครถึงเป็นบ้าใบ้ ไม่พูดไม่จา ทำไมกันนะ?
เคยสังเกตุกันไหมล่ะว่า เวลาที่เราเล่นเกมน้ำดีระดับ AAA สักเกม ทุกอย่างดูดี ทั้งฉาก ทั้งแสง สี เสียง และเนื้อเรื่องที่ทำให้ผู้เล่น Hype หรือมีลูกเล่นที่ทำให้เราตราตรึงใจจดจำกับเกมที่เราเล่นได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนรวมถึงคนเขียนเองรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม นั้นก็คือ "ตัวละครเป็นใบ้" ใช่แล้วล่ะ เพราะตัวละครเป็นใบ้แบบนี้ บางทีก็อาจจะคิดว่า "เฮ้ย ทีมพัฒนาไม่มีค่าจ้างพากย์เสียงเหรอ?" แต่เปล่าเลย ทีมพัฒนาเขามีเหตุผลที่จะทำให้ตัวละครเป็นแบบนั้น เป็นจุดประสงค์ที่เขาอยากทำตั้งแต่ต้นมากกว่า ซึ่งเราจะมาลองตั้งทฤษฎี, สมมุติฐานและข้อเท็จจริงกันว่าทำไมตัวละครเหล่านี้ อาจจะเคยพูดหรือไม่เคยพูดไปเลยว่ามีใครที่น่าสนใจกันบ้าง ================================================== 1. Gordon Freeman: Half-Life Series ตำนานชายผู้ถือชะแลง ไล่แทงไล่หวดเหล่าเอเลี่ยนและ Combine ซึ่งตัวละครนี้เป็นตัวละครเอกจากเกม Half-Life ตั้งแต่ภาคแรก แน่นอนว่าพอพูดถึงเขาเราจะนึกถึงสามอย่างคือ ชะแลง, ชุด HEV Suit Mk.4 และความเป็นใบ้ของเขา ซึ่งหลายคนก็ทราบกันดีว่าตลอดทั้งเกมนั้น เขาไม่เคยพูดแม้จะปริปากกระซิบอะไรเลย แต่มันก็มีเหตุผลมาจากทีมพัฒนาเกม Half-Life ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ Gordon Freeman ไม่พูดไม่จาเพราะอยากให้ผู้เล่นแสดงเป็นตัวตนของเขา หรือพูดง่ายๆ ก็คือให้เราคิดเอาเองว่า Gordon กำลังพูดโดยเป็นเสียงของผู้เล่นเอง...จะว่าไปมันก็เข้าท่านะ แต่หากผู้หญิงเล่นเกมนี้ล่ะ? เสียงที่จินตนาการมันจะเป็นยังไงกันนะ? 2. Chell: Portal Series สาวผู้ที่เปิดวาร์ปได้ทุกสรรสิ่ง ( ยกเว้นสื่อลามกอนาจาร ) พอพูดถึงแล้วคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Chell ผู้ที่เคยเข้ารับการทดลองจากสถาบันวิจัย Aperture Laboratories พร้อมได้ทำการจำศิลเพื่อรอเรียกใช้งาน แต่พอตื่นขึ้นมาจากการปลุกของผู้ประกาศปริศนาก็พบว่า โลกใบนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว นอกจากตัวเราที่จะต้องใช้ Portal Gun ในการผ่านอุปสรรคต่างๆ อย่างสร้างสรรไม่เหมือนใครแล้ว ก็ต้องรับมือจาก AI ที่ชื่อว่า GLaDOS ที่จะค่อยฆ่าเราอีกด้วย แม้ว่าตัวเกมจะสั้นแต่ก็ทำใครหลายคนหัวร้อนและตราตรึงความสนุกมากๆ ทั้งสองภาค โดยเหตุผลที่เธอไม่พูดตลอดทั้งเกมนั้นเพราะทีมพัฒนาได้อยากให้เราจิตนาการถึงเสียงเธอนั้นเอง แต่ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งจากผู้เล่นที่ว่ากันว่า ผลของการจำศีลนานเกินไป ส่งผลทำให้เธอสูญเสียความสามารถในการพูดถาวร แต่อย่างว่าแหละมันเป็นการทฤษฎีเท่านั้น 3. Doom Guy, Doom Slayer: DOOM Series ในช่วงนี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา ชายผู้ที่ปีศาจต่างหวาดกลัว นรกยังต้องขอร้องชีวิต นั้นคือ Doom Guy หรือ Doom Slayer นั้นเอง! ซึ่งหากจะย้อนไปสมัยเกม Doom ภาคแรกๆ นั้นยังพอเข้าใจเหตุผลได้ว่าเหตุที่เขาไม่พูดเพราะตัวเกมนั้นเน้นยิงแหลก แหกนรกอยู่แล้ว บทพูดของเขาคงไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่พอเริ่มมาเป็นเกม DOOM เวอร์ชั่นที่ออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2016 จนถึงภาค Eternal ก็ได้เผยความลับว่า ก่อนที่ Doom Guy ได้รับฉายา Doom Slayer เขาเคยพูดได้ก่อนถูกเข้าเครื่องที่เสริมความแกร่งให้เขาสามารถฉีกกระชากเหล่าปีศาจได้เหมือนขนมปัง ซึ่งเป็นไปได้ทั้งสองทฤษฎีว่า หลังจากเขาได้เข้าเครื่องเสริมแกร่งแล้ว มันก็ทำให้เขาพูดไม่ได้ หรืออีกทฤษฎีคือ จิตใจในปัจจุบันของ Doom Slayer นั้นแข็งแกร่งมากพอจนไม่จำเป็นต้องพูดกับเหล่าปีศาจแล้ว เจอทีใส่เลย ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา 4. Agents: Tom Clancys The Division Series สำหรับเกม The Division ที่มีเนื้อหาของเกมชวนหม่นหมองและเข้มข้น ทั้งเบื้องหลังอันดำมืดของรัฐบาลอเมริกา การทรยศหักและและการถูกทอดทิ้งภายใต้แสงแห่งความหวังเพียงริบหรี่ อีกทั้งยังมีระบบการเล่นแบบ Grinding MMORPG คือเน้นฟาร์ม อัพเวล อัพสกิลบนโลก Open World ทำให้เกมนี้สามารถเล่นได้เพลินๆ กับภารกิจที่ถูกอัพเดตให้ทำในทุกวัน ส่วนตัวละครผู้เล่นหรือ Agent ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกเรียกตัวมาเพื่อกู้อเมริกากลับมาจากหายนะครั้งนี้ ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมไม่พูดไม่จากันเลย แต่มันก็มีเหตุผลง่ายๆ เลยก็คือ ให้เราจินตนาการเรื่องเสียงพูดเอาเอง น่าจะอินกว่า ซึ่งมันก็จริง บางทีการไม่มีเสียงพากย์ให้กับตัวละครผู้เล่นมันก็ทำให้เราใช้จินตนาการเรื่องเสียงแล้วรู้สึกว่าอินกว่าจริงๆ 5. Commander: Command & Comquer Series "หมูมะนาว!" มันคือประโยคคุ้นหูที่ได้ยินในสมัยเด็กๆ ของเกม Command & Conquer: Red Alert 2 ( หากไม่รู้จักก็ขอบแสดงความยินดีด้วยที่ผู้อ่านนั้นอายุยังน้อย ) ที่จริงเกม Command & Conquer อดีตมันเคยเป็นเกมแนว RTS ที่สนุกมากๆเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว แต่ภาคที่ผู้เล่นให้เสียงตอบรับมากที่สุดก็คงไม่พ้น Red Alert 2 จนมีวลีหมูมะนาวซึ่งยังคงได้ยินอยู่จากเกมเมอร์รุ่นเดอะ และปัจจุบันก็มี Youtuber หลายท่านกลับมาจุดกระแสเกมนี้อีกครั้ง ซึ่งเอาจริงๆ แม้ตัวเกมผ่านมานานมากแต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังมีความทันสมัยในปัจจุบัน ส่วนในโหมด Campaign ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นผู้บัญชาการซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้บัญชาการฝ่ายสัมพันธมิตรหรือฝ่ายโซเวียต แต่ไม่ว่าฝ่ายไหน เราจะไม่เคยเห็นหน้าตาของตัวเองและเสียงของตัวเองเลย มีแต่เหล่า Operator และเหล่านายพลพูดฉอดๆ ใส่เราอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนเหตุผลว่าทำไมผู้บัญชาการอย่างเรากลายเป็นคนบ้าใบ้ในเกมก็คงจะให้เราจินตนาการเสียงและหน้าตาว่าเป็นตัวเราเองก็เป็นได้ แต่ก็มีอีกทฤษฎีขำๆ เลยก็คือ เราอาจจะเป็นผู้บัญชาการหน้าใหม่ ยศน้อยกว่ามีหน้าที่รับฟังอย่างเดียวก็เป็นไปได้ 6. Pointman: F.E.A.R Series เกมเก่าแนว FPS Horror สุดสยองขวัญที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่ความน่ากลัวสยองขวัญก็ยังตราตึงในหัวของผู้ที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้ว ยอมรับว่าสมัยที่เล่นภาคแรก กลัวจนนอนไม่หลับแถมเล่นไม่จบด้วย แต่เสียดายที่จบแค่ภาคสามแล้วไม่มีภาคต่ออีกเลย ซึ่งมองอีกแง่ ตำนานความสยองขวัญก็ควรจบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ส่วนตัวละครที่ชื่อ Pointman นั้นเป็นรหัสเรียกขานของตัวเอง ไม่มีชื่อจริงและปฏิบัติการในหน่วย First Encounter Assualt Recon หรือหน่วย F.E.A.R ที่มีหน้าที่รับมือกับสิ่งเหนือทางธรรมชาติ ภายใต้กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งหลังจากเขารับงานไปกำจัด Fattel ผู้ที่มีพลังจิตและกำลังอาลวาดไล่ฆ่าคนในสมาบันวิจัยของ ATC เขาได้รู้ความจริงว่า เขาคือพี่ชายของ Fettel เป็นลูกชายคนโตของ Alma ผู้ที่เป็นต้นเหตุความสยองทุกอย่าง แต่เขานั้นไม่มีพลังจิตเหมือนแม่หรือ Fettel แต่เขากลับมีความสามารถทางกายภาพที่สูงกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก และด้วยการถูกจับทดลองต่างๆ นานา อันแสนโหดร้ายในวัยเด็กก็อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำให้เขาไม่สามารถพูดได้ ก่อนจะจับ Pointman ล้างสมองและส่งให้กองทัพสหรัฐฯ ไปฝึกทหารต่อนั้นเอง 7. Sona: League of Legends หากจะมองหาตัวละคร Champion ที่เป็นใบ้โดยสมบูรณ์ในโลกของ League of Legends แล้วล่ะก็ ก็ต้องนึกถึงตัวละครสายซัพพอร์ตสุดแสนบอบบางของเกมอย่าง Sona อย่างแน่นอน ซึ่งประวัติของเธอนั้นก็ถูกทิ้งไว้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมกับพิณวิเศษติดตัวตั้งแต่จำความได้ แม้ในเกมจะไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่พูด อาจจะเกิดสภาวะจิตใจหรือโดนอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอเปล่งเสียงจากปากไม่ได้ แต่เธอสามารถส่งเสียงของเธอได้ผ่านคลื่นเสียงที่เธอเล่นและผ่านทางจิตได้โดยตรง ซึ่งแม้เธอจะสามารถส่งเสียงของเธอโดนไม่ปริปากได้ แต่ก็นับว่าเธอเป็นใบในรายนี้แล้วกัน ================================================== ดูเหมือนว่าบทความนี้จะสั้นเกินไปหรือเปล่า ที่จริงมันยังมีอีกหลายตัวละครที่ไม่พูดไม่จา แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นใบ้โดยสมบูรณ์ ฉะนั้นทางเราจะขอแถมอีกเสียเล็กน้อย Aphelios: League of Legends หนึ่งในตัวละคร Champion สายอ๊ปป้าหล่อลาก กระชากใจสาวๆ แต่กลับมีอัตราโดน Ban มากที่สุดใน Pro League ของเกาหลีใต้อย่าง Aphelios จากเกม League of Legends นั้นเอง ซึ่งประวัติของเขานั้น เขาเป็นชาว Lunari เหมือนกับ Diana และเขาต้องการติดต่อกับ Alume ซึ่งเป็นพี่สาวของเธอที่อยู่ในอีกโลกที่เขาสัมผัสหรือติดต่อไม่ได้ ด้วยความทรัศธาจึงดื่มยาพิษที่ทำให้เขาไม่สามารถพูดได้อีก แลกกับการได้อาวุธพิเศษห้าชิ้นและได้ติดต่อกับพี่สาวผ่านทางจิตสมใจตั้งแต่นั้นมา...แต่ว่าในเกม เขายังร้องเจ็บ ยังหัวเราะสั้นๆ ได้ ยังหอบเหนื่อยเป็นเสียงได้ ก็ไม่รู้ว่าควรนับเขาว่าเป็นใบ้อย่างสมบูรณ์ได้หรือไม่ Dragonborn: Elder Scroll V - Slyrim ตัวละครอีกตัวที่ขอยกยอดว่า ( เกือบจะเป็นใบ้ ) อีกตัวละครหนึ่งแล้วกัน ซึ่งถือว่ากลายเป็นมีมที่คนทั่วโลกจดจำนั้นก็คือ Dovakin หรือ Dragonborn หรือผู้ที่สามารถเปล่งภาษามังกรได้ โดยผู้เล่นนั้นจะสามารถแต่งหน้าทาผม เลือกเผ่าเลือกเพศได้ แต่เราจะไม่สามารถพูดอะไรได้ดุจคนใบ้จนกระทั่งได้เรียนรู้ภาษามังกร "FUS-RO-DAH!!!" เท่านั้นแหละพูดได้เลย แต่ก็พูดได้แค่ภาษามังกรเท่านั้น ก็เลยนับว่าตัวละครนี้ไม่ได้เป็นใบ้กับเหล่ามังกร แต่เป็นใบ้กับพวกมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วยกันก็แล้วกันนะ ================================================== ทั้งหมดนี้คือคัวละครจากในเกมที่เป็นบ้าใบ้ ไม่พูดไม่จ้า เจอกันทีก็ใส่หน้าก่อนโดยไม่ถาม ซึ่งเอาจริงๆ อาจจะมีตัวลครอื่นๆ ที่เราอาจจะไม่รู้จักแล้วเป็นใบ้อยู่ก็ได้ ยังไงหากเจอใครที่น่าสนใจนอกเหนือจากบทความนี้ก็สามารถเข้ามาพูดคุยและแชร์ตัวละครมาให้พวกเรารับทราบกันด้วยล่ะ จะได้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ผู้อ่านทุกคนได้รับทราบกันจ้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่      
05 Jun 2020
(บทความ) Spoiler ทำวงการภาพยนต์เจ็บ ทำวงการเกมถึงขั้นโคม่า
"Spoiler" หรือการสปอย หมายถึงการเปิดเผยเนื้อหาของเกมหรือสื่อบันเทิงชนิดใดก็ได้ แก่ผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อชิ้นนั้นๆ จนทำให้ผู้ที่โดนสปอยสูญเสียอรรถรสในการเสพสื่อชิ้นนั้นลง ยิ่งในยุคนี้ ที่สื่อบันเทิงหลายชนิดจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างชิ้นงานหลายปีต่อหนึ่งชิ้น ก็คงไม่แปลกถ้าเหล่าแฟนๆ ของชิ้นงานที่ถูกสปอยจะเกิดอาการไม่พอใจอย่างแรง โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ซักเรื่องหรือเกมซักเกมมากๆ เจอสปอยล์เข้าไปหนึ่งครั้งอาจจะทำให้ประสบการณ์ที่เขาเฝ้ารอจะได้สัมผัสมาเป็นแรมปี ถูกทำลายลงโดยที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แม้หลายๆ คนอาจจะมีภูมิต้านทานการสปอยล์อยู่บ้าง แต่ก็มีอีกหลายคนที่รับไม่ได้ และเปราะบางกับเรื่องนี้พอสมควร ที่สำคัญ เรื่องนี้อาจจะมีผลกระทบต่อทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเหล่านั้น หากการสปอยครั้งนั้นทำให้รายได้ที่พวกเขาควรจะได้จากชิ้นงานต้องหดหายไปจากการกระทำที่อยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา ซึ่งสุดท้ายก็จะส่งผลย้อนกลับมาที่ผู้เสพผลงานอย่างพวกเราอีกที เพราะถ้าไม่มีเม็ดเงินไปหมุนให้เหล่าผู้สร้างผลงานได้ลงทุนในผลงานชิ้นต่อไป ก็จะไม่มีอะไรให้พวกเราได้ติดตามกันอีกต่อไปเช่นกัน การแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเปิดเผยเนื้อหาที่อาจถูกมองเป็นการสปอยจึงเป็นมารยาทสากลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ยกเว้นในกรณีชิ้นงานที่เก่ามากๆ ซึ่งก็ยังตอบยากอยู่ดีว่าแล้วเราจำเป็นต้องทิ้งช่วงนานแค่ไหน ก่อนจะพูดถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้โดยไม่ทำร้ายผู้อื่น อิทธิพลของการ Spoiler ต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ สำหรับวงการบันเทิงนั้น การถูกสปอยผลงานถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญอาจจะทำให้ยอดผู้เข้าชมหนังหรือซีรีส์ลดลงจนทำให้ผลงานเหล่านั้นไม่สามารถทำกำไร (หรือในบางกรณีแม่แต่จะคืนทุนสร้าง) ได้ อย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง The Expendables 4 ของนักแสดงสุดอมตะอย่าง Sylvester Stallone ที่มีแขกรับเชิญเป็นดาวแอคชั่นระดับแนวหน้าอีกนับสิบชีวิตมาร่วมสมทบ ก็ต้องประสบปัญหายอดผู้ชมที่เหือดแห้งไป หลังจากที่ตัวหนังออกหลุดมาทางอินเตอร์เน็ต แม้ว่าสุดท้ายแล้ว จะมีผลงานที่สามารถเอาชนะการถูกสปอยได้ด้วยแรงช่วยจากแฟนๆ เช่นภาพยนตร์ Avengers: Endgame ที่เนื้อเรื่องทั้งหมดหลุดออกมาก่อนภาพยนตร์จะเข้าโรง แต่ก็ถือเป็นผู้โชคดีส่วนน้อย และสำหรับสงการภาพยนตร์ในภาพกว้าง การถูกสปอยเนื้อหาก็ยังคงเป็นความเสี่ยงที่่ต้องหลีกเลี่ยงให้ได้ ยิ่งในยุคอินเตอร์เน็ตที่ข้อมูลสามารถรั่วไหลและแพร่พระจายออกไปได้ในวงกว้างเพียงชั่วพริบตา ยิ่งทำให้ค่ายเจ้าของผลงานจำเป็นต้องระมัดระวังกับการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทำให้เรามักจะเห็นค่ายหนังใหญ่ๆ พยายามจะปกปิดเนื้อหาของสิ่งที่พวกเขาจะนำเสนออยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงวันฉาย ทั้งมาตรการในด้านของกฎหมาย รวมถึงกลวิธีต่างๆ เพื่อที่จะป้องกันข้อมูลให้ได้มากที่สุด [caption id="attachment_53039" align="alignnone" width="1000"] Tom Holland รู้ =โลกรู้[/caption] ในวงการเกมเองก็มักจะมีเรื่องการหลุดข้อมูลให้ได้เห็นกันบ่อยๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของปกเกมบ้าง ชื่อเกมบ้าง หรือในบางครั้งก็มีเหล่ามือดีเข้าไปขุดไฟล์ในตัวเกมให้เราได้เห็นข้อมูลของ Patch ใหม่ๆ ก่อนที่ผู้พัฒนาจะได้บอกเราเสียอีก ในหลายกรณีก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะยิ่งผู้พัฒนาพยายามปกปิดข้อมูลมาก ผู้เล่นที่มีความอยากรู้มากพอ ก็จะยิ่งพยายามหาวิธีพิศดารๆ ในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นมากขึ้น การสปอย: การกระทำที่มีแต่ผู้แพ้? เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีบุคคลหรือกลุ่มคนผู้ไม่หวังดี ทำการเปิดเผยเนื้อหาของเกมดังอย่าง The Last of Us Part 2  ชนิดที่เรียกว่าหลุด Plot ของเกมจนแทบตั้งแต่ต้นจนจบ แถมยังมีฉากคัตซีนที่สำคัญออกมาให้ดูมากมายอีกต่างหาก และด้วยความนิยมของเกม ทำให้ข้อมูลที่รั่วออกมาแพร่กระจายออกไปทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ อย่างรวดเร็ว จนทำให้ทั้งผู้พัฒนา Naughty Dog และผู้จัดจำหน่ายเกมอย่าง Sony ต้องออกมาไล่ลบข้อมูลทั้งหมดอย่างเร่งด่วน และประกาศวันวางจำหน่ายของเกมแทยจะทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ ทั้งที่เพิ่งจะประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งหลายคนสันนิษฐานว่าการหลุดข้อมูลครั้งนี้อาจจะมีผลให้ผู้พัฒนาจำใจต้องประกาศวันวางจำหน่ายเกมก่อนจะพร้อมจริงๆ ก็เป็นได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการหลุดข้อมูลเกมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงหลายปีมานี้เลย เพราะเกม The Last of Us Part 2 เป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่แบกรับทั้งความคาดหวังของแฟนๆ และของผู้พัฒนาเอาไว้เต็มเปี่ยม ยิ่งเมื่อมีกระแสต่อต้านจากแฟนๆ บางกลุ่มที่ไม่ชอบใจข้อมูลที่ตนได้รับทราบมา คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าการหลุดครั้งนี้จะส่งผลต่อยอดขายของเกมแน่นอน แล้วลองคิดดูว่าถ้าเกมทุนใหญ่อย่าง The Last of Us 2 เกิดขาดทุนขึ้นมา จากการที่แฟนๆ พากันยกเลิกพรีออเดอร์ หรือตัดสินใจไม่ซื้อเกม จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้พัฒนา Naughty Dog และเกมที่พวกเขากำลังพัฒนาอยู่บ้าง? การหลุดข้อมูลครั้งนี้ถูกซ้ำเติมเข้าไปอีก โดยกลุ่มคนที่พยายามจะนำเนื้อหาที่เป็นการ "สปอย" เหล่านี้ออกมาเผยแพร่ โดยไม่ได้สนใจว่าอาจจะทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่บอกว่าตัวเองรับการสปอยได้หรือไม่ได้ก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการรู้ข้อมูลมาก่อนเช่นนี้ ย่อมส่งผลต่ออรรถรสที่คุณจะได้รับจากเกม เราได้อะไรจากการสปอย? หนึ่งในเหตุผลที่นักสปอยหลายๆ คนยกมาใช้ปกป้องการกระทำของตนเอง คือความรู้สึกอยาก "ประจาน" ในสิ่งที่รู้สึกว่าเกมทำไม่ดี เพื่อเป็นการ "เตือน" ไม่ให้ผู้เล่นอื่นหลงผิดไปซื้อเข้า แต่นั่นเท่ากับเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของผู้อื่นในการตัดสินใจด้วยตัวเองหรือเปล่า? อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าสิ่งที่คุณคิดว่าไม่ดี จะไม่ไปถูกใจกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้? และที่สำคัญ คุณรู้ได้อย่างไรว่าถ้าคุณไม่ถูกสปอยมาก่อน และได้เล่นเกมตั้งแต่ต้นตามแบบที่ผู้พัฒนาตั้งใจ ความรู้สึกของคุณต่อสิ่งนั้นๆ อาจจะเปลี่ยนไปด้วยบริบททั้งหมดที่อยู่ในเกมก็เป็นได้ ดังที่ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann กล่าวว่า "ไม่ว่าคุณจะรับทราบอะไรมา มันเทียบไม่ได้กับการนั่งเล่นเกมกับมือจริงๆ" ดังนั้นแล้ว เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีในชุมชนเกมเมอร์ และเพื่อปกป้องเหล่าผู้สร้างผลงาน ที่ทำให้เรามีโอกาสเพลิดเพลินกับเกม ภาพยนตร์ หรือซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ที่เราชื่นชอบ จงลด-ละ-เลิกการสปอยกันเถอะครับ หากต้องการจะสนทนาหัวข้อที่ละเอียดอ่อน อย่างน้อยๆ ก็โพสต์เตือนหรือซ่อนข้อมูลเอาไว้ซะหน่อย เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสตัดสินผลงานด้วยตัวเองจริงๆ ขอบคุณบทความอ้างอิงจาก: NME ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
08 May 2020
7 ของแนะนำนอกจากเกมมิ่งเกียร์ ที่ควรมีบนโต๊ะเกมเมอร์
ชีวิตเกมเมอร์อย่างเรานั้นอยู่ที่หน้าโต๊ะคอมเป็นส่วนใหญ่ เกมเมอร์หลายคนมีการจัดโต๊ะคอมในรูปแบบต่างๆตามความชอบของแต่ละคน โดยส่วนมากจะเน้นไปที่เกมมิ่งเกียร์เป็นหลัก แต่การมีอุปกรณ์พวกนี้มันก็ช่วยทำให้การเล่นเกมหรือทำงานอยู่บนหน้าคอมมีความสะดวกสบาย และมีประโยชน์ต่อร่างกายเราเป็นอย่างมากด้วยนะ เรา GameFever TH อยากแนะนำให้เหล่าเกมเมอร์มีอยู่บนโต๊ะเอาไว้ ซึ่งรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง 1.ยาดม ดมเพื่อช่วยให้สมองโล่งระหว่างเล่นเกม ดมซักทีสองทีแก้อาการเวียนหัว หัวร้อน ซึ่งยาดมบางอย่างเป็นแบบน้ำ สามารถทาแต้มที่ขมับ และจมูกช่วยให้ผ่นอคลายมากขึ้นได้อีกด้วย 2.Hand Cream เกมเมอร์ทุกคนต้องใช้มือในการเล่นเกม แต่อย่าลืมดูแลรักษามันด้วย Hand  Cream นอกจากจะช่วยเรื่องการบำรุงทำให้มือของเกมเมอร์เนียนแล้ว โดยส่วนมากจะมีกลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย 3.น้ำดื่ม  การดื่มน้ำเยอะๆในหนึ่งวันย่อมทำให้เกมเมอร์มีสุขภาพที่ดี แต่ภาชนะที่ใส่ควรจะไม่หกง่าย แนะนำว่าควรเป็นภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เพราะนอกจากจะไม่หกเลอะเทอะแล้ว ยังป้องกันน้ำหกใส่คอมของเราด้วย 4. เสปรย์น้ำแร่  เติมความสดชื่นระหว่างเล่นเกม และเวลาง่วงได้ดี อีกทั้งยังทำให้ผิวหน้าดีด้วย โดยเฉพาะเกมเมอร์ผู้หญิง ที่บางคนอาจแต่งหน้าแล้วสตรีม เสปรย์น้ำแร่โดยส่วนมากแล้วสามารถฉีบทับ Make Up ได้เลย 5.ทิชชู่เปียก  มีไว้เช็ดอุปกรณ์ต่างๆ เวลากินขนมเลอะเทอะ ฝุ่น โดยเฉพาะใช้กับหูฟังที่เป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรก เมื่อหูฟังสะอาดเรื่องสิว ต่างๆไม่ต้องพูดถึง และยังสามารถใช้กับเม้าส์และคีย์บอร์ดได้อีกด้วย สุดท้ายหากต้องการความสดชื่นก็ยังสามารถนำมาเช็ดแขนหรือคอได้อีกด้วย 6.เจลล้างมือ ด้วยสถาณการณ์ปัจจุบัน บางคนอาจใช้คอมร่วมกับคนอื่น การทำให้มือเราสะอาดก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก อีกทั้งการทำให้มือเราสะอาดอยู่เสมอก็ทำให้โต๊ะคอมรวมถึงเกมมิ่งเกียร์ของเราสะอาดมากยิ่งขึ้นไปด้วย หรือจะเป็นแอลกอฮอล์และลำสีคอยเช็ดทำความสะอาด Gaming Gear เราก็ได้ 7.แว่นกรองแสง มีเกมเมอร์หลายคนไม่ใส่แว่นขณะเล่นเกม ซึ่งการใส่แว่นเป็นสิ่งสำคัญมาก การอยู่หน้าจอนานๆทำให้สายตาเสื่อมถอยในทุกๆวัน แม้จะไม่เคยมีปัญหาเรื่องสายตา แต่ควรใส่แว่นกรองแสงทุกครั้งที่เล่นเกม ไม่งั้นจากแว่นกรองแสงธรรมดา ท่านอาจได้ใส่แว่นสายตาพ่วงไปด้วยไม่ช้าก็เร็ว
20 Apr 2020
5 วิธีเลือก SKINCARE สำหรับเกมเมอร์นอนดึก แต่ยังอยากผิวดี
เกมเมอร์อย่างเรา การโต้รุ้ง การนอนดึกต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าใครก็ยังอยากสวยอยากหล่อ แต่จะให้นอนเร็วก็ไม่ได้ เพราะเพื่อนและทีมยังต้องการเราอยู่ วันนี้จึงอยากมาแนะนำ SKINCARE ที่ช่วยเรื่องผิวของเกมเมอร์ รวมถึงวิธีเลือก SKINCARE จะได้ไปเลือกใช้กันเองได้เลย รับรองผิวหน้าดีขึ้นแน่นอน โดยมีหลักการเลือกที่แนะนำดังนี้ 1.ดึกแล้วหรือจะเช้าแล้วขี้เกียดทาครีมเยอะๆหลายขั้นตอน แนะนำให้ใช้ Sleeping Mask ก็คือทาอย่างเดียว ไม่ต้องล้างออก Sleeping Mark ไม่เหมือน Mask ปกติที่ต้องรอ 5-10 นาทีแล้วเอาออก เกมเมอร์ทุกคนสามารถทา Sleeping Mask และนอนได้เลย ตื่นมาจะพบว่าหน้าและผิวได้รับการบำรุง อีกอย่างคือไม่ต้องซื้อครีมหลายตัว และมีขั้นตอนทาครีมตอนกลางคืนหลายตัว ตัวเดียวเอาอยู่ 2.ตาคล้ำทำยังไงดี จริงๆแล้วคือต้องนอนให้เพียงพอจะช่วยได้มากสุด แต่ถ้าใครอยากหาครีมบำรุง แอบบอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ SKincare บำรุงตาเฉพาะจุด เพราะแพงโดยใช้เหตุ ให้ใช้ครีมทีทาหน้านี่แหละแคต่เป็นสูตรอ่อนโยนให้ความชุ่มชื้น ลองหาครีมที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ เจลว่านหางจระเข้ จะดีที่สุด 3.สิวหาย สิวลดง่ายๆ ใช้ยาแต้มสิวอักเสบ แต่ที่สำคัญคือ ใช้ยาฆ่าเชื้อสิว Benzac ทาทิ้งไว้ก่อนล้างหน้า ปิดท้ายก่อนนอนใช้ Differin และหาเวลาไปกดสิวบ้าง แค่นี้บอกเลย สิวลดแน่นอน วิธีรลดสิวได้ตั้งแต่สิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตันต่างๆ 4.ล้างหน้าอย่างไร หาโฟมล้างหน้าที่ล้างแล้ว หน้าไม่เอี๊ยด คือยังทิ้งความชุ่นชื้นไว้บนใบหน้า คนที่เป็นสิวเพราะโฟมล้างหน้าที่ใช้ ทำให้หน้าแห้งเกินไป หรือ ล้างหน้าไม่สะอาด โฟมที่ดีคือ ล้างแล้วยังคงความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้หน้าอยู่ หรือจะใช้โฟมล้างหน้าสูตรเรื่องความันบนใบหน้าหรือแก้ปัญหาเรื่องสิวก็ได้ 5.เน้นการซ่อมแซม และทำให้ผิวหน้าแข็งแรงมากกว่าความขาวใส งด Skincare ผลัดเซลล์ผิวให้ความขาวต่างๆไปก่อนเพราะสารเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เกมเมอร์ร์อย่างเราแทบไม่โดนแดด ผิวที่อิ่มฟูสุขภาพดีคือตอบโจทย์ที่สุด เพราะผิวที่ฟูและไม่มีริ้วรอย จะมาพร้อมกับความใส และทำให้ดูขาวขึ้นนั้นเอง เน้นส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยเป็นหลัก สุดท้ายนี้ของที่ดีสำหรับคนอื่นอาจไม่ดีกับเรา ของแพงใช้ว่าจะดี ของถูกก็เช่นกัน เลือกสิ่งที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา และเลือกเน้นที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองจะดีที่สุด
08 Apr 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "นอกเรื่อง"
ทำไม Vtuber ถึงได้เติบโตอย่างรวดเร็วในสังคมของเหล่าเกมเมอร์
หากพูดถึงการเล่นเกมเพื่อมอบความบันเทิงให้กับคนดูแบบสมัยก่อน ก็คงต้องนึกถึงการเล่นแบบใส่ตัวตนเข้าไป ให้ Reaction ที่เป็นเอกลักษณ์ เพียงแค่น้ำเสียงและความตื่นเต้น รวมถึงฝีมือในการเล่นก็สร้างความสนุกสนานให้กับคนดูได้อย่างมากมาย แต่ด้วยบางคนใจรักอยากจะลองทำดู แต่ด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาหรือน้ำเสียงที่ไม่เหมาะหรือรู้สึกไม่เข้ากัน มันจึงเกิดนวัตกรรมโลกเสมือนและการมอบความบันเทิงผ่านโลกของเกมขึ้นมา นั้นคือสิ่งที่เรียกว่า Virtual Reality แล้วสิ่งที่เรียกว่า Virtual Reality ผนวกกับการสร้างสรรค์ Content สุดแปลกแหวกแนว ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า นวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการ Live Stream หรือที่เราชอบเรียกกันว่าแคสเกม จนมีผู้ติดตาม ชื่นชอบหรือสร้างตัวตนเสมือนเพื่อแคสเกมกันอย่างมากมาย แต่จุดเริ่มต้น, ปัจจัยและสิ่งต่างๆ อาจจะไม่ได้เล่าหรือหยิบยกเหล่า Vtuber มาทั้งหมด เพราะสิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ ทำไม Vtuber กลายเป็นสิ่งที่เหล่า Gamer ชื่นชอบมากๆ และเป็นแรงบัลดาลใจให้ใครหลายคน ================================================== Ami Yamato ผู้ให้กำเนิดนิยามคำว่า Vtuber Youtube หากพูดถึงชื่อนี้หลายคนก็น่าจะรู้จักว่าเป็นเว็บไซต์แหล่งรวบรวมวีดีโอที่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีทั้งสาระ สิ่งบันเทิง เพลงและเหล่า Youtuber ที่สร้างสรรค์ Content ต่างๆ ให้เราได้ดูกัน ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรจนกระทั่งปี 2011 ซึ่งเป็นยุคที่เริ่มมีการใช้ Virtual Reality ในการออกแบบหรือสร้างสื่อทั่วไป ผู้คนเริ่มเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ ทำให้เจ้าของ Channel ที่ชื่อว่า Ami Yamato ได้ลองสร้างตัวตนเสมือนให้ปรากฎตัวในโลกจริงๆ ได้ อาจจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าอาจจะเป็น Virtual Reality ตัวแรกของโลกที่ได้ปรากฎบนสื่อ แต่ก็จัดได้ว่าเป็น Channel แรกที่ทำลงบน Youtube ทำให้เกิดคำว่า Vtuber ขึ้นมา ซึ่งตัว Vtuber นี้เป็นผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมานานแล้ว ได้สร้างตัวตนเสมือนออกมาก็ทำออกมาลื่นไหล ดูมีชีวิตชีวาจริงๆ แถม Content ก็มีสาระความรู้ ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกมนัก ทำให้ Channel นี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก แต่หากสนใจก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ Ami Yamato Chennel ได้เลยจ้า AI Channel ผู้สร้างปรากฎการณ์ Vtuber จนเป็นที่รู้จัก แน่นอนว่า Vtuber ได้ถูกบรรญัติขึ้นในโลกของ Youtube แล้ว แต่ก็ยังไม่มีกระแสหรือการตอบรับมากมายนัก เนื่องด้วยการเข้าถึงของเทคโนโลยี Virtual Reality ยังมีราคาสูงเกินไป จนกระทั่งปี 2016 ที่ได้นำคำว่า ไอดอล, ตัวตนเสมือนและการสร้างความบันเทิงในรูปแบบตัวตนของตัวเอง กลายเป็น Vtuber สุดแสนน่ารักที่มีชื่อว่า Kizuna AI ขึ้นมาพร้อมกับยอดผู้ติดตามนับล้านภายในเวลาอันรวดเร็ว Kizuna AI หรือเรียกสั้นๆ กันว่า ไอจัง ได้มอบประสบการณ์ใหม่ของคำว่า Vtuber ให้คนเป็นที่รู้จัก ทั้งน้ำเสียงที่น่ารัก การเคลื่อนไหวที่ดูเป็นธรรมชาติ หลายคนคิดว่าคงไม่ต่างอะไรกับ อนิเมชั่นสไตล์ญี่ปุ่นหรือที่เรียกติดปากว่าอนิเมะแบบ Live 3D ทื่อๆ แข็งๆ แต่เปล่าเลย เธอเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมีชีวิตจริงๆ หลายคนจึงยกย่องว่าเธอคือผู้ให้กำเนิดโลกของ Vtuber อย่างแท้จริง ( แม้ว่าจะไม่ใช่ Vtuber คนแรกก็ตาม ) YAGOO ผู้ปฎิวัติ ( และถูกปฎิวัติ ) ให้ใครๆ ก็ทำ Vtuber ได้ หลังจากช่วงของ Kizuna AI ได้เปิดตัว ก็มี Vtuber จำนวนมากผุดขึ้นอย่างมากมาย และถูกสร้างมาเพื่อนอกเหนือจากความบันเทิงด้วยอย่าง Kaguya Luna ที่ได้ออกโฆษณาบะหมี่กึ่งยี่ห้อหนึ่ง และอีกหลายโฆษณา นอกเหนือจากการทำ Content, หรือ Hiyori Ibara จากช่อง IbakiraTV ที่กลายเป็นตัวตนเสมือนตัวแรกๆ ที่ได้รับหน้าที่เป็นโฆษกประจำจังหวัด Ibaraki เพื่อโฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด แต่ก็มีคน คนหนึ่งที่กล้าแสดงให้เห็นว่า การเป็น Vtuber ใครๆ ก็ทำได้หากตั้งใจ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ราคาแพง นั้นคือคุณ Motoaki Tanigo Motoaki Tanigo มีชื่อเล่นว่า YAGOO เขามาพร้อมกับความฝันอยากสร้างไอดอลบนโลกเสมือนหรือ Virtual Idol มีแรงบัลดาลใจมาจาก AKB48 บวกกับการมอบอิสระเพื่อดึงความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด จนเกิดสุดยอดวงไอดอลที่เรียกว่า Hololive Production หรือเรียกสั้นๆ ว่าโฮโลไลฟ์ รวบรวมผู้ที่มีความตั้งใจและมีความสามารถ ได้กลายมาเป็นไอดอลตัวตนเสมือนที่พร้อมจะมอบรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน บนพื้นฐานของไอดอลที่เรียกว่า ความไม่สมบูรณ์และพัฒนาต่อไป ทำให้เกิดแรงบัลดาลใจของใครหลายๆ คนอยากทำ Vtuber เป็นของตัวเองมากมาย ในปัจจุบันก็มี Vtuber ในสังคมนับหลายชีวิตก่อนที่ถูกเหล่าสาวๆ เนี่ยแหละปฏิวัติ (?) YAGOO จนเกิดไอดอลสุดกาวอย่างที่เห็น แต่นั้นแหละเพราะความเป็นตัวตนของตัวเองทำให้ผู้คนติดตามและชื่นชอบความไม่ยึดติดและคิดนอกกรอบแบบนี้ แล้ววงการ Vtuber ไทยเริ่มต้นและเป็นกระแสตอนไหน หากพูดว่ากระแสในบ้านเราเริ่มมี Vtuber แรกๆ ช่วงไหน ? ก็คงประมาณสักสองปีที่แล้ว ที่ได้รู้จัก Vtuber ไทยคนแรกๆ อย่างเจ้าของแชลแนล MikuRu-0 หรือ "มิคุรุ" และก็เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างกระแสให้บ้านเราเริ่มเปิด Vtuber กันมากมายไปหมด เพราะนอกจาการสร้าง Content ที่สนุกสนาน จุดที่ทำให้เหล่า Gamer ชื่นชอบคือการเป็น Reaction การเล่นเกมต่างๆ บางคนก็เล่นเก่งจนหลายคนอายก็มี นอกจากนี้ยังมี Aisha Chennel ที่โด่งดังมากที่สุดในเมืองไทยขณะนี้ และเรียกตัวเองว่า Virtual Idol ไม่ใช่ Vtuber ซึ่ง "ไอช่าจัง" ก็เป็นแชลแนลไอดอลตัวตนเสมือนที่หลายคนเข้าถึงง่าย ดูน่ารักสดใสแบบไอดอล จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ การสร้างร่างเสมือนและปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มันทำให้คนที่ตั้งใจอยากทำ Content บันเทิงต่างๆ รวมถึงการอยาก Live Stream โชว์การเล่นเกมที่เหนือชั้น แต่ติดที่ว่าขาดความมั่นใจในตัวเองหรือปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้ไม่เต็มที่ การสร้างตัวตนเสมือนนั้นก็จะเป็นคำตอบให้กับพวกเขาเหล่านี้ ตัวตนที่ไม่ต้องกังวลว่าจะทำอย่างไรให้ดูดี ในเมื่อตัวตนเสมือนออกแบบมาให้เพียบพร้อม ที่เหลือคือการใส่ความเป็นตัวตนของเราและมอบความสนุกให้กับผู้คน ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่า Vtuber บางคนฉายแววการเป็น Gamer มืออาชีพแต่ขี้อาย พอการมีตัวตนเสมือนก็ช่วยเสริมความมั่นใจกลายเป็นการสร้างและพัฒนาวงการเกมยุคใหม่ที่มีแนวโน้มว่าจะไปไกลได้อีกในอนาคตข้างหน้า Vtuber จะเข้ามาแทนที่ Streamer แบบเดิมๆ หรือไม่ ? ถ้าให้พูดกันตามตรงแล้วล่ะก็ มันทั้ง "ได้" และ "ไม่ได้" ในส่วนของคำว่าได้กล่าวคือในอนาคตผู้คนก็ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยหน้าหรือเปิดเผยตัวตนเพื่อ Live Stream อีกต่อไปในเมื่อตัวตนเสมือนตอบโจทย์พวกเขา ตัวตนเสมือนแสนน่ารักผนวกกับฝีมือการเล่นเกมเพื่อสร้างความบันเทิงเพื่อคนดู เป็นอะไรที่ดีสุดๆ ของวงการเกมยุคนี้ ในส่วนของคำว่าไม่ได้ก็จะพูดถึง Streamer ที่มี Content โชว์การเล่นเทพๆ ไม่ได้สนเอกลักษณ์หรือรูปร่าง ซึ่งก็เป็นการบอกตัวตนของพวกเขาในรูปแบบหนึ่งอย่าง Heart Rocker, Bay Riffer, Nightblue3 หรือแม้กระทั่ง Shroud อดีตเทพเกม CS:GO ที่ผันตัวมาเป็น Streamer เพราะใบหน้าที่แท้จริงของเขามันคือเอกลักษณ์ที่ผู้คนจดจำ อนาคตของ Vtuber กับ Gamer หลังจากนี้ โดยส่วนตัวคนเขียนแล้วเชื่อเลยว่าการสร้างตัวตนเสมือนเพื่อการเป็นที่ยอมรับหรือการเป็นบุคคลสาธารณะบนเวทีสักที่ จะเป็นอะไรที่เติบโตอย่างรวดเร็วและจำนวนก็จะเพิ่มเรื่อยๆ อย่างเหล่า Vtuber ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และในอนาคตอาจจะมี Content ดีๆ ที่สร้างสรรค์หรือได้โชว์ฝีมือกันมากมาย จนเกิดเครือข่ายและสังคมขนาดใหญ่ เหล่า Vtuber จะสามารถเล่นเกมและพูดคุยร่วมกันผ่านเครือข่ายอันไร้พรมแดนนี้กันได้ง่ายและลื่นไหลขึ้นราวกับว่าพวกเขาได้ร่วมเล่นเกมอยู่ที่เดียวกันทั้งที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลกก็ตาม เผลอๆ อีกหน่อยอาจจะมีการแข่งขัน E-Sport โดยมี Vtuber เป็นคนแข่งก็ได้ ใครจะไปรู้กัน ================================================== สุดท้ายนี้แม้ว่าอนาคตจริงๆ ของตัวตนเสมือนอย่าง Vtuber จะเปลี่ยนแปลงวงการเกมไปในทิศทางไหนบ้าง แต่ที่แน่ๆ การเสพสื่อบรรเทิงและการเล่นเกมจะเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อตัวตนเสมือนเข้ามามีบทบาท แต่ก็อย่าลืมว่าตัวตนโลกเสมือนนั้นก็ไม่ใช่ของจริง มันอาจจะฟังดูเจ็บปวดหากเราได้ชื่นชอบ Vtuber คนใดมากๆ แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีตัวตนจริงๆ ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็สร้างเสียงหัวเราะ รอยยิ้มและแรงบัลดาลใจให้พวกเราได้มีความสุขพร้อมลุยกับชีวิตในวันพรุ่งนี้ยังไงล่ะ ( ปล. ส่วนคนเขียนชื่นชอบ Qu Qualia มากๆ เลยล่ะ พูดได้สามภาษา, เล่นเกมแนว FPS เก่งมากแถมเป็นกันเองและน่ารักอีกด้วย )
06 Aug 2020
ส่องพัฒนาการของเกมมือถือ และหนทางสู่ตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
หากย้อนตัวเองไปสักสิบกว่าปีก่อน ช่วงต้นยุค 2000 การมีมือถือสักเครื่องสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะเป็นอะไรที่เข้าถึงค่อนข้างยาก และสเปคของเครื่องในขณะนั้นก็ไม่ได้แรงอะไรนัก ยกตัวอย่าง Nokia N-gage (บอกอายุได้เลยทีเดียว) พกมานี่มีแต่คนรุมล้อมขอยืมเล่น แม้มันจะไม่ได้มีกราฟิกอะไรให้ชวนว้าวเลยตั้งแต่สมัยนั้น แต่มันก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมเปลี่ยนโลก ที่มีแสนแพงเอาเรื่องอยู่ไม่ใช่น้อยทีเดียว กลับมาในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีมือถือได้พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จนกลายเป็นว่าปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแทบจะเป็นปัจจัยที่ห้าในการดำรงชีวิตไปแล้ว ซึ่งมนุษย์อย่างเราๆ อาจจะขาดไปไม่ได้ เพราะมันคือสิ่งที่รวมเกือบทุกอย่างย่อส่วนลงมาในนี้ เช่นเรื่องการอำนวยความสะดวกสะบาย ระบบ GPS ช่วยในการเดินทาง การสั่งซื้อของออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมบนมือถือก็แทบจะเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่ต้องใช้มือถือราคาแพง เพียงไม่กี่พันบาทก็สามารถเข้าถึงเกมได้เกือบจะเท่าเทียมกับคนที่ใช้มือถือราคาหลักหมื่นได้แล้ว จนทำให้ตลาดเกมมือถือในปัจจุบันกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในวงการเกมทั่วโลกไปแล้ว จากตลาดที่เคยถูกดูแคลนว่าเป็นเพียง "ของแถม" ในมือถือ สู่สถานะปัจจุบันในฐานะอุตสาหกรรมที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก เรามาลองสำรวจองค์ประกอบหลัก ที่ขับเคลื่อน "เกมมือถือ" ให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ================================================== ยุคปฎิวัติอุตสาหกรรมเกมมือถือช่วงบุกเบิก จำเรื่องราวของ Nokia N-gage ที่พูดไว้ในข้างต้นได้หรือเปล่า? ต้องขอบอกเลยว่าก่อนที่จะมีเกมมือถือที่เป็นเกมเนื้อเรื่องยาวๆ ส่วนใหญ่ก็มักเป็นเกมที่ดาวน์โหลด เสียค่าบริการหลายสิบบาท และส่วนใหญ่เป็นเกมแนว Puzzle หรือเกมขำๆ ใช้เวลาเล่นไม่นานนัก เนื่องจากมือถือยุคนั้นที่ยังเป็น Feature Phone แบบ 2G ที่เน้นโทรออก รับสาย ส่งข้อความ สามารถใช้อินเตอร์เน็ตได้แต่ไม่ได้รวดเร็ว และสเปคที่ไม่ได้ดีนัก จนกระทั่งมือถือ Nokia N-gage เข้าสู่ตลาดในปี 2003 และนั่นคือจุดเริ่มต้นการปฏิวัติวงการเกมมือถือยุคแรกๆ ที่สมัยนั้นคนเขียนยังเรียนมัธยม วัยที่ยังนัดกับเพื่อนสุดสัปดาห์ไปเล่น Ragnarok ร้านเกมอยู่เลย จากคนที่ไม่ค่อยสนเรื่องมือถือถึงกับร้องว้าวและอยากได้บ้าง (แต่สุดท้ายก็ได้แต่ใช้ Nokia 3310 ไปก่อน) จนกระทั่งเพื่อนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมกับอวดโทรศัพท์มือถือ Nokia N-gage พร้อมกับเกม Prince of Persia โดยมาในรูปแบบของ Memory Game เสียบปุ๊บเล่นได้เลย ซึ่งเพื่อนก็ใจดีก็ให้ยืมเล่น โดยกราฟิกของมันก็ไม่ได้ดีอะไรไปกว่ามือถือจอสี Nokia รุ่นอื่นๆ แต่ที่ประทับใจเลยก็คือ การออกแบบมาเพื่อคอเกมในยุคนั้นจริงๆ สำหรับคนเขียนแล้ว Nokia N-gage ถือว่าตอบโจทย์คนเล่นเกมยุคนั้นมาก แต่ทว่าคนที่เล่นเกมมือถือนั้นน้อยมากๆ และยังไม่เป็นที่นิยม สุดท้ายซีรีส์ N-gage ก็เลือนหายไปตามกาลเวลาเพราะคนไม่นิยม แม้จะมีเกมชื่อดังหลายเกมที่วางจำหน่าย สำหรับเครื่องนี้โดยเฉพาะก็ตาม เข้าสู่ช่วง 3G กับเทคโนโลยีจอสัมผัส พอช่วงเรียนจบ ประมาณช่วงปี 2000 ปลายๆ ถึง 2010 ต้นๆ นับว่าเป็นยุคการมาของโครงข่าย 3G ที่ได้เข้าถึงประเทศไทย พร้อมกับนวัตกรรมที่เรียกว่า "สมาร์ทโฟน" เต็มรูปแบบ ซึ่งจะมีสมาร์ทโฟน 3 OS หลัก ที่ขับเคี้ยวกันอย่างดุเดือดมากคือ Symbian OS (ของ Nokia), iOS และ Android การขับเคี้ยวครั้งนี้ ก็ทำให้อุตสาหกรรมเกมมือถือเริ่มโตขึ้นอย่างน่าประหลาด มีเกมมากมายให้เลือกดาวน์โหลดได้โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อตัวเกมอีกต่อไป และเกมต่างๆ ทำออกมาได้สนุกมากขึ้น รวมถึงเริ่มมีการเล่นแบบออนไลน์เกิดขึ้น มีเกมแนวสร้างเมืองแบบ Real-time ซึ่งยุคนั้นเป็นอะไรที่สนุกใช้ได้เลย แม้ว่าภายหลัง Nokia จะกลายเป็นผู้แพ้ในวงการโทรศัพท์มือถือในเวลาต่อมาก็ตาม แต่พูดได้เต็มปากว่าจุดนี้คือยุคที่การปฎิวัติอุตสาหกรรมเกมมือถือได้เริ่มขึ้นแล้ว Fantasica เกมมือถือในตำนานผู้นำเทรน TCG ยุคบุกเบิก คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักเกมนี้ แต่สำหรับคนที่เติบโตมาในยุคสมาร์ทโฟนรุ่นแรก อาจจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เกมแรกๆ ที่นำความโมเอะลายเส้นอนิเมะหรือการ์ตูน มาให้เล่นในรูปแบบ Online Real-time ที่ดังที่สุดในยุคนั้นแล้วล่ะก็ ไม่มีใครไม่รู้จักเกม Fantasica หากใน PC อาจจะพูดถึง Ragnarok ในมือถือก็ต้องพูดถึง Fantasica เฉกเช่นเดียวกัน เกม Fantasica เป็นเกมแนว Trade Card Game, Defend Tower ของค่าย Mobage เป็นเกมมือถือที่เปิดให้บริการในช่วงปี 2011 สามารถเล่นออนไลน์ร่วมกันแบบ Real-Time และระบบการเล่นที่อาศัยการวางแผนและการวางตัวละครป้องกัน (แบบ Arknights ในปัจจุบัน) สิ่งสำคัญที่ทำให้เกมนี้มีแรงดึงดูดให้ผู้คนมาเล่นเกมมือถือเลยก็คือ "ตลาดการซื้อขายการ์ด" พอมีตลาด ก็เริ่มมีชุมชนผู้เล่นขึ้น และก็ขยายใหญ่ขึ้นมาก ถึงขนาดตั้งกลุ่มคนไทยเล่นด้วยกันที่มีสมาชิกร่วมหมื่นคนได้ แต่ที่ผู้เขียนเล่นเกมนี้ไม่ใช่เพราะตลาดหรือกลุ่มสังคมขนาดใหญ่ แต่เป็นเพราะ... เพราะภาพ Art ตัวละครต่างๆ ที่คนมาวาดให้กับเกมนี้มันดึงดูดมากๆ โดยเฉพาะการ์ดใบนี้ที่ชื่อว่า Werewolf ผู้เขียนได้มาจากอีเวนท์ Halloween และยอมเสียเงินหลายพันบาทซื้อไอเท็มเสริมคะแนนในอีเวนท์เพื่อการ์ดใบนี้ใบเดียว บอกเลยว่าเจ็บปวดแต่สุขใจเพราะเกมนี้เล่นกันทั่วโลก คนที่ครอบครองใบนี้มีแค่ 500 ใบเท่านั้น เคยมีคนซื้อต่อเป็นเงินจำนวนมากก็ไม่ยอมขายเพราะหวง แรร์และรักมาก (ถึงขั้นจ้าง Fanart มาวาดให้ส่วนตัว บ่งบอกถึงความโอตาคุสมัยวัยเยาว์มาก) ด้วยอะไรต่างๆ มากมายที่วงการอุตสาหกรรมเกมมือถือยุคแรกไม่เคยมี ก็กลายเป็นบรรทัดฐานให้เกมอื่นๆ ได้สร้างตามกันมาอย่างเกม Valkyrie Crusader ที่เปิดให้บริการช่วงเวลาไล่ๆ กัน ที่ปัจจุบันก็ยังเปิดให้บริการอยู่ และอีกหลายๆ เกมในเวลาต่อมา ก็ได้แรงบัลดาลใจมาจากเกม Fantasica เสียส่วนใหญ่ ตัวเกม Fantasica ในปัจจุบันก็ปิดให้บริการไปเมื่อช่วง 31 มีนาคม 2019 ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นเกมเก่าที่เปิดมาอย่างยาวนานร่วม 8 ปีเลยทีเดียว เข้าสู่ยุคที่เกมมือถือมีเอกลักษณ์และสนุกไม่แพ้ใคร ในช่วงกลางยุคปี 2010 นับได้ว่าเป็นยุคทองของเกมมือถือเลย เพราะการแสดงผลทำได้ลื่นไหล่มากขึ้น แต่ทว่าสเปคยังไม่ได้แรงอะไรขนาดนั้น และนั้นเองก็ทำให้เกมมือถือมักจะมีแนวที่กราฟิกไม่ได้อลังการนัก แต่มีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์มากๆ ยกตัวอย่างเช่นเกม Fate Grand/Order ซึ่งเป็นเกมแนว Tactic Turn-based ที่มีสไตล์การเล่นไม่เหมือนกันพร้อมกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้นเหมือนซดกาแฟอเมริกาโนเพียวๆ แม้กราฟิกเกมช่วงแรกจะไม่ได้หรูหราอะไรขนาดนั้นเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นปัจจุบัน ที่มีการใส่คัตซีน Noble Phantasm (ท่าไม้ตาย) จนเกิดความอลังการงานสร้าง แต่ถือว่าสมัยนั้นหลายคนยกให้เป็นเกมที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ และทำให้ทิศทางของอุตสาหกรรมเกมมือถือยุคนั้น เน้นไปที่เอกลักษณ์ ไม่เน้นกราฟิกเสียเท่าไหร่นัก เมื่อทิศทางกระแสของเกมมือถือที่ไม่เน้นความอลังแต่เน้นสไตล์ ทำให้พี่จีนก็ได้เริ่มพัฒนาที่มีเอกลักษณ์และความเข้มข้นของเนื้อเรื่อง เช่น Girls Frontline ออกมาซึ่งเป็นเกมแนว Tactical Turn-based Strategy ปัจจุบันตัวเกมก็เปิดให้บริการมา 4 ปีแล้วโดยทางผู้เขียนเล่นเป็นเกมหลักเลยล่ะ หรือถ้าจะเปลี่ยนแนวหน่อยก็มาเป็นแนว Rhythm กดตามจังหวะดนตรีอย่าง Love Live! School Idol ของทาง Bushiroad ซึ่งก็เป็นเกมกดตามจังหวะโดนตรีทั่วไปไม่มีอะไรมาก แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานเพราะมนต์ขลังของตัวละครและเนื้อเรื่องใสๆ ชวนลุ้นชวนติดตามของเหล่านักเรียนที่อยากเป็นไอดอลในแต่ละรุ่น จีนบุกตลาดอุตสาหกรรมเกมมือถือ เกมอลังจึงบังเกิด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้จนถึงปัจจุบัน ประเทศจีนได้รุกเข้าสู่ตลาดเกมมือถือหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการพัฒนาเกมให้มีกราฟิกอลังการไม่แพ้ PC อีกทั้งการพัฒนา CPU ในตัวสมาร์ทโฟนปัจจุบันก็สามารถรองรับกราฟิกคุณภาพสูงระดับนี้ได้ ยิ่งทำให้เด็กรุ่นใหม่รู้สึกว่าเกมเข้าถึงง่ายมากด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียวในราคาไม่กี่พันบาท โดยเฉพาะเกม Dragon Raja ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เกมนี้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วแค่ไหน และผู้คนก็เล่นกันมากมายเพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนกับการซื้อเครื่องเล่นเกมหรือ PC ราคาสูงเพื่อเสพกราฟิกและความสนุกของเกม เกมเดียว เพราะใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ แต่กำไรสูง และในแง่ของผู้ผลิตเอง ต้องยอมรับว่าเกมมือถือนั้นใช้ทรัพยากรและการลงทุนในการพัฒนาค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับเกมใน PC หรือคอนโซล แต่กลับสามารถให้กำไรสูงไม่ต่างกัน เพราะเข้าถึงง่ายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายเร่งรีบในปัจจุบัน ผู้ผลิตและผู้พัฒนาสามารถสรรสร้างผลงานออกมาได้ตรงตามคุณภาพที่กำหนดไว้ได้ ทำให้เวลาเปิดให้บริการแล้วผู้เล่นรู้สึกถูกใจ ชื่นชอบก็อยากสนับสนุนเป็นธรรมดา พอให้ผู้พัฒนามีทุนที่จะพัฒนาเนื้อหาเพิ่มเติมต่อไปได้เรื่อยๆ ตราบใดที่มีผู้เล่นสนับสนุนอยู่แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม การ Live Stream เป็นเทรนด์ของนักเล่นเกมยุคใหม่ หากพูดถึงแล้ว ไม่มีใครที่ไม่เคยไลฟ์สตรีมเกมที่ตัวเองเล่นให้ผู้อื่นดู ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เร็วมากพอที่จะส่งสัญญาณแบบ Real-Time ได้ อีกทั้งสเปคโทรศัพท์มือถือก็มากพอที่จะทำการไลฟ์สตรีมไปพร้อมกับเล่นเกมได้ ฉะนั้นเพียงแค่กดปุ่ม ปุ่มเดียวก็ทำการเล่นเกมสดๆ ให้เพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ ได้ดู และสร้างความ Entertain ไปด้วยกันได้ดี เพราะทางผู้เขียนเองก็เคยไลฟ์เกมมือถือ Girls Frontline กับ Arknights บ้างเป็นครั้งคราว e-Sport ในเกมมือถือ มิติใหม่ของเด็กที่อยากเป็น หัวข้อสำคัญที่สุดที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็คือ การเข้าถึงวงการ e-Sport เกมมือถือในปัจจุบันนั้น ง่ายแสนง่าย ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์มากมายหรือราคาแพงขนาดนั้น ทุกคนก็สามารถมาฝึกซ้อมทีมได้ เพียงแค่มีมือถือคนละเครื่อง พอทุกอย่างเข้าถึงง่าย ผู้ชมรวมถึงเงินสนับสนุนก็ถาโถมเข้ามาด้วยเช่นกัน ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไม e-Sport ในเกมมือถือสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ================================================== และนี่คือความเป็นมาและเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมเกมมือถือในปัจจุบันเข้าถึงง่ายกว่าเกมบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ด้วยความที่เกมทำออกมามีคุณภาพโดยใช้ต้นทุนต่ำ โทรศัพท์มือถือที่เล่นเกมได้ก็ราคาไม่แพง อีกทั้งมีการจัดการแข่งขันบ่อยสุดๆ เป็นว่าเล่น รวมถึง การไลฟ์สตรีมเกมเพื่อความบันเทิงส่วนใหญ่ก็มาจากเกมมือถือ จึงไม่แปลกใจเลยว่าผู้คนสมัยใหม่ถึงชื่นชอบเกมมือถือ แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นประสบการณ์ตรงที่เคยพบเจอเท่านั้น หากมีอะไรอยากแชร์หรือแบ่งปั่น สามารถเข้ามาคอมเมนต์เพื่อแบ่งปันให้ทางทีมงานและผู้คนอื่นๆ ได้รับทราบกันด้วยนะ สุดท้ายแล้วก็อย่าลืมที่จะแบ่งเวลาการเล่นและการพักผ่อนให้เหมาะสมด้วยล่ะ
22 Jun 2020
[บทความพิเศษ] ทำไมตัวละครถึงเป็นบ้าใบ้ ไม่พูดไม่จา ทำไมกันนะ?
เคยสังเกตุกันไหมล่ะว่า เวลาที่เราเล่นเกมน้ำดีระดับ AAA สักเกม ทุกอย่างดูดี ทั้งฉาก ทั้งแสง สี เสียง และเนื้อเรื่องที่ทำให้ผู้เล่น Hype หรือมีลูกเล่นที่ทำให้เราตราตรึงใจจดจำกับเกมที่เราเล่นได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนรวมถึงคนเขียนเองรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกม นั้นก็คือ "ตัวละครเป็นใบ้" ใช่แล้วล่ะ เพราะตัวละครเป็นใบ้แบบนี้ บางทีก็อาจจะคิดว่า "เฮ้ย ทีมพัฒนาไม่มีค่าจ้างพากย์เสียงเหรอ?" แต่เปล่าเลย ทีมพัฒนาเขามีเหตุผลที่จะทำให้ตัวละครเป็นแบบนั้น เป็นจุดประสงค์ที่เขาอยากทำตั้งแต่ต้นมากกว่า ซึ่งเราจะมาลองตั้งทฤษฎี, สมมุติฐานและข้อเท็จจริงกันว่าทำไมตัวละครเหล่านี้ อาจจะเคยพูดหรือไม่เคยพูดไปเลยว่ามีใครที่น่าสนใจกันบ้าง ================================================== 1. Gordon Freeman: Half-Life Series ตำนานชายผู้ถือชะแลง ไล่แทงไล่หวดเหล่าเอเลี่ยนและ Combine ซึ่งตัวละครนี้เป็นตัวละครเอกจากเกม Half-Life ตั้งแต่ภาคแรก แน่นอนว่าพอพูดถึงเขาเราจะนึกถึงสามอย่างคือ ชะแลง, ชุด HEV Suit Mk.4 และความเป็นใบ้ของเขา ซึ่งหลายคนก็ทราบกันดีว่าตลอดทั้งเกมนั้น เขาไม่เคยพูดแม้จะปริปากกระซิบอะไรเลย แต่มันก็มีเหตุผลมาจากทีมพัฒนาเกม Half-Life ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลที่ Gordon Freeman ไม่พูดไม่จาเพราะอยากให้ผู้เล่นแสดงเป็นตัวตนของเขา หรือพูดง่ายๆ ก็คือให้เราคิดเอาเองว่า Gordon กำลังพูดโดยเป็นเสียงของผู้เล่นเอง...จะว่าไปมันก็เข้าท่านะ แต่หากผู้หญิงเล่นเกมนี้ล่ะ? เสียงที่จินตนาการมันจะเป็นยังไงกันนะ? 2. Chell: Portal Series สาวผู้ที่เปิดวาร์ปได้ทุกสรรสิ่ง ( ยกเว้นสื่อลามกอนาจาร ) พอพูดถึงแล้วคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Chell ผู้ที่เคยเข้ารับการทดลองจากสถาบันวิจัย Aperture Laboratories พร้อมได้ทำการจำศิลเพื่อรอเรียกใช้งาน แต่พอตื่นขึ้นมาจากการปลุกของผู้ประกาศปริศนาก็พบว่า โลกใบนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว นอกจากตัวเราที่จะต้องใช้ Portal Gun ในการผ่านอุปสรรคต่างๆ อย่างสร้างสรรไม่เหมือนใครแล้ว ก็ต้องรับมือจาก AI ที่ชื่อว่า GLaDOS ที่จะค่อยฆ่าเราอีกด้วย แม้ว่าตัวเกมจะสั้นแต่ก็ทำใครหลายคนหัวร้อนและตราตรึงความสนุกมากๆ ทั้งสองภาค โดยเหตุผลที่เธอไม่พูดตลอดทั้งเกมนั้นเพราะทีมพัฒนาได้อยากให้เราจิตนาการถึงเสียงเธอนั้นเอง แต่ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งจากผู้เล่นที่ว่ากันว่า ผลของการจำศีลนานเกินไป ส่งผลทำให้เธอสูญเสียความสามารถในการพูดถาวร แต่อย่างว่าแหละมันเป็นการทฤษฎีเท่านั้น 3. Doom Guy, Doom Slayer: DOOM Series ในช่วงนี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา ชายผู้ที่ปีศาจต่างหวาดกลัว นรกยังต้องขอร้องชีวิต นั้นคือ Doom Guy หรือ Doom Slayer นั้นเอง! ซึ่งหากจะย้อนไปสมัยเกม Doom ภาคแรกๆ นั้นยังพอเข้าใจเหตุผลได้ว่าเหตุที่เขาไม่พูดเพราะตัวเกมนั้นเน้นยิงแหลก แหกนรกอยู่แล้ว บทพูดของเขาคงไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่พอเริ่มมาเป็นเกม DOOM เวอร์ชั่นที่ออกจำหน่ายตั้งแต่ปี 2016 จนถึงภาค Eternal ก็ได้เผยความลับว่า ก่อนที่ Doom Guy ได้รับฉายา Doom Slayer เขาเคยพูดได้ก่อนถูกเข้าเครื่องที่เสริมความแกร่งให้เขาสามารถฉีกกระชากเหล่าปีศาจได้เหมือนขนมปัง ซึ่งเป็นไปได้ทั้งสองทฤษฎีว่า หลังจากเขาได้เข้าเครื่องเสริมแกร่งแล้ว มันก็ทำให้เขาพูดไม่ได้ หรืออีกทฤษฎีคือ จิตใจในปัจจุบันของ Doom Slayer นั้นแข็งแกร่งมากพอจนไม่จำเป็นต้องพูดกับเหล่าปีศาจแล้ว เจอทีใส่เลย ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา 4. Agents: Tom Clancys The Division Series สำหรับเกม The Division ที่มีเนื้อหาของเกมชวนหม่นหมองและเข้มข้น ทั้งเบื้องหลังอันดำมืดของรัฐบาลอเมริกา การทรยศหักและและการถูกทอดทิ้งภายใต้แสงแห่งความหวังเพียงริบหรี่ อีกทั้งยังมีระบบการเล่นแบบ Grinding MMORPG คือเน้นฟาร์ม อัพเวล อัพสกิลบนโลก Open World ทำให้เกมนี้สามารถเล่นได้เพลินๆ กับภารกิจที่ถูกอัพเดตให้ทำในทุกวัน ส่วนตัวละครผู้เล่นหรือ Agent ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกเรียกตัวมาเพื่อกู้อเมริกากลับมาจากหายนะครั้งนี้ ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมไม่พูดไม่จากันเลย แต่มันก็มีเหตุผลง่ายๆ เลยก็คือ ให้เราจินตนาการเรื่องเสียงพูดเอาเอง น่าจะอินกว่า ซึ่งมันก็จริง บางทีการไม่มีเสียงพากย์ให้กับตัวละครผู้เล่นมันก็ทำให้เราใช้จินตนาการเรื่องเสียงแล้วรู้สึกว่าอินกว่าจริงๆ 5. Commander: Command & Comquer Series "หมูมะนาว!" มันคือประโยคคุ้นหูที่ได้ยินในสมัยเด็กๆ ของเกม Command & Conquer: Red Alert 2 ( หากไม่รู้จักก็ขอบแสดงความยินดีด้วยที่ผู้อ่านนั้นอายุยังน้อย ) ที่จริงเกม Command & Conquer อดีตมันเคยเป็นเกมแนว RTS ที่สนุกมากๆเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว แต่ภาคที่ผู้เล่นให้เสียงตอบรับมากที่สุดก็คงไม่พ้น Red Alert 2 จนมีวลีหมูมะนาวซึ่งยังคงได้ยินอยู่จากเกมเมอร์รุ่นเดอะ และปัจจุบันก็มี Youtuber หลายท่านกลับมาจุดกระแสเกมนี้อีกครั้ง ซึ่งเอาจริงๆ แม้ตัวเกมผ่านมานานมากแต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังมีความทันสมัยในปัจจุบัน ส่วนในโหมด Campaign ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทเป็นผู้บัญชาการซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้บัญชาการฝ่ายสัมพันธมิตรหรือฝ่ายโซเวียต แต่ไม่ว่าฝ่ายไหน เราจะไม่เคยเห็นหน้าตาของตัวเองและเสียงของตัวเองเลย มีแต่เหล่า Operator และเหล่านายพลพูดฉอดๆ ใส่เราอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนเหตุผลว่าทำไมผู้บัญชาการอย่างเรากลายเป็นคนบ้าใบ้ในเกมก็คงจะให้เราจินตนาการเสียงและหน้าตาว่าเป็นตัวเราเองก็เป็นได้ แต่ก็มีอีกทฤษฎีขำๆ เลยก็คือ เราอาจจะเป็นผู้บัญชาการหน้าใหม่ ยศน้อยกว่ามีหน้าที่รับฟังอย่างเดียวก็เป็นไปได้ 6. Pointman: F.E.A.R Series เกมเก่าแนว FPS Horror สุดสยองขวัญที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่ความน่ากลัวสยองขวัญก็ยังตราตึงในหัวของผู้ที่เคยเล่นเกมนี้มาแล้ว ยอมรับว่าสมัยที่เล่นภาคแรก กลัวจนนอนไม่หลับแถมเล่นไม่จบด้วย แต่เสียดายที่จบแค่ภาคสามแล้วไม่มีภาคต่ออีกเลย ซึ่งมองอีกแง่ ตำนานความสยองขวัญก็ควรจบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ส่วนตัวละครที่ชื่อ Pointman นั้นเป็นรหัสเรียกขานของตัวเอง ไม่มีชื่อจริงและปฏิบัติการในหน่วย First Encounter Assualt Recon หรือหน่วย F.E.A.R ที่มีหน้าที่รับมือกับสิ่งเหนือทางธรรมชาติ ภายใต้กองทัพสหรัฐฯ ซึ่งหลังจากเขารับงานไปกำจัด Fattel ผู้ที่มีพลังจิตและกำลังอาลวาดไล่ฆ่าคนในสมาบันวิจัยของ ATC เขาได้รู้ความจริงว่า เขาคือพี่ชายของ Fettel เป็นลูกชายคนโตของ Alma ผู้ที่เป็นต้นเหตุความสยองทุกอย่าง แต่เขานั้นไม่มีพลังจิตเหมือนแม่หรือ Fettel แต่เขากลับมีความสามารถทางกายภาพที่สูงกว่ามนุษย์ทั่วไปมาก และด้วยการถูกจับทดลองต่างๆ นานา อันแสนโหดร้ายในวัยเด็กก็อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำให้เขาไม่สามารถพูดได้ ก่อนจะจับ Pointman ล้างสมองและส่งให้กองทัพสหรัฐฯ ไปฝึกทหารต่อนั้นเอง 7. Sona: League of Legends หากจะมองหาตัวละคร Champion ที่เป็นใบ้โดยสมบูรณ์ในโลกของ League of Legends แล้วล่ะก็ ก็ต้องนึกถึงตัวละครสายซัพพอร์ตสุดแสนบอบบางของเกมอย่าง Sona อย่างแน่นอน ซึ่งประวัติของเธอนั้นก็ถูกทิ้งไว้ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อมกับพิณวิเศษติดตัวตั้งแต่จำความได้ แม้ในเกมจะไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่พูด อาจจะเกิดสภาวะจิตใจหรือโดนอะไรสักอย่างที่ทำให้เธอเปล่งเสียงจากปากไม่ได้ แต่เธอสามารถส่งเสียงของเธอได้ผ่านคลื่นเสียงที่เธอเล่นและผ่านทางจิตได้โดยตรง ซึ่งแม้เธอจะสามารถส่งเสียงของเธอโดนไม่ปริปากได้ แต่ก็นับว่าเธอเป็นใบในรายนี้แล้วกัน ================================================== ดูเหมือนว่าบทความนี้จะสั้นเกินไปหรือเปล่า ที่จริงมันยังมีอีกหลายตัวละครที่ไม่พูดไม่จา แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นใบ้โดยสมบูรณ์ ฉะนั้นทางเราจะขอแถมอีกเสียเล็กน้อย Aphelios: League of Legends หนึ่งในตัวละคร Champion สายอ๊ปป้าหล่อลาก กระชากใจสาวๆ แต่กลับมีอัตราโดน Ban มากที่สุดใน Pro League ของเกาหลีใต้อย่าง Aphelios จากเกม League of Legends นั้นเอง ซึ่งประวัติของเขานั้น เขาเป็นชาว Lunari เหมือนกับ Diana และเขาต้องการติดต่อกับ Alume ซึ่งเป็นพี่สาวของเธอที่อยู่ในอีกโลกที่เขาสัมผัสหรือติดต่อไม่ได้ ด้วยความทรัศธาจึงดื่มยาพิษที่ทำให้เขาไม่สามารถพูดได้อีก แลกกับการได้อาวุธพิเศษห้าชิ้นและได้ติดต่อกับพี่สาวผ่านทางจิตสมใจตั้งแต่นั้นมา...แต่ว่าในเกม เขายังร้องเจ็บ ยังหัวเราะสั้นๆ ได้ ยังหอบเหนื่อยเป็นเสียงได้ ก็ไม่รู้ว่าควรนับเขาว่าเป็นใบ้อย่างสมบูรณ์ได้หรือไม่ Dragonborn: Elder Scroll V - Slyrim ตัวละครอีกตัวที่ขอยกยอดว่า ( เกือบจะเป็นใบ้ ) อีกตัวละครหนึ่งแล้วกัน ซึ่งถือว่ากลายเป็นมีมที่คนทั่วโลกจดจำนั้นก็คือ Dovakin หรือ Dragonborn หรือผู้ที่สามารถเปล่งภาษามังกรได้ โดยผู้เล่นนั้นจะสามารถแต่งหน้าทาผม เลือกเผ่าเลือกเพศได้ แต่เราจะไม่สามารถพูดอะไรได้ดุจคนใบ้จนกระทั่งได้เรียนรู้ภาษามังกร "FUS-RO-DAH!!!" เท่านั้นแหละพูดได้เลย แต่ก็พูดได้แค่ภาษามังกรเท่านั้น ก็เลยนับว่าตัวละครนี้ไม่ได้เป็นใบ้กับเหล่ามังกร แต่เป็นใบ้กับพวกมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ด้วยกันก็แล้วกันนะ ================================================== ทั้งหมดนี้คือคัวละครจากในเกมที่เป็นบ้าใบ้ ไม่พูดไม่จ้า เจอกันทีก็ใส่หน้าก่อนโดยไม่ถาม ซึ่งเอาจริงๆ อาจจะมีตัวลครอื่นๆ ที่เราอาจจะไม่รู้จักแล้วเป็นใบ้อยู่ก็ได้ ยังไงหากเจอใครที่น่าสนใจนอกเหนือจากบทความนี้ก็สามารถเข้ามาพูดคุยและแชร์ตัวละครมาให้พวกเรารับทราบกันด้วยล่ะ จะได้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ผู้อ่านทุกคนได้รับทราบกันจ้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่      
05 Jun 2020
(บทความ) Spoiler ทำวงการภาพยนต์เจ็บ ทำวงการเกมถึงขั้นโคม่า
"Spoiler" หรือการสปอย หมายถึงการเปิดเผยเนื้อหาของเกมหรือสื่อบันเทิงชนิดใดก็ได้ แก่ผู้ที่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าถึงสื่อชิ้นนั้นๆ จนทำให้ผู้ที่โดนสปอยสูญเสียอรรถรสในการเสพสื่อชิ้นนั้นลง ยิ่งในยุคนี้ ที่สื่อบันเทิงหลายชนิดจำเป็นต้องใช้เวลาในการสร้างชิ้นงานหลายปีต่อหนึ่งชิ้น ก็คงไม่แปลกถ้าเหล่าแฟนๆ ของชิ้นงานที่ถูกสปอยจะเกิดอาการไม่พอใจอย่างแรง โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ซักเรื่องหรือเกมซักเกมมากๆ เจอสปอยล์เข้าไปหนึ่งครั้งอาจจะทำให้ประสบการณ์ที่เขาเฝ้ารอจะได้สัมผัสมาเป็นแรมปี ถูกทำลายลงโดยที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แม้หลายๆ คนอาจจะมีภูมิต้านทานการสปอยล์อยู่บ้าง แต่ก็มีอีกหลายคนที่รับไม่ได้ และเปราะบางกับเรื่องนี้พอสมควร ที่สำคัญ เรื่องนี้อาจจะมีผลกระทบต่อทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเหล่านั้น หากการสปอยครั้งนั้นทำให้รายได้ที่พวกเขาควรจะได้จากชิ้นงานต้องหดหายไปจากการกระทำที่อยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา ซึ่งสุดท้ายก็จะส่งผลย้อนกลับมาที่ผู้เสพผลงานอย่างพวกเราอีกที เพราะถ้าไม่มีเม็ดเงินไปหมุนให้เหล่าผู้สร้างผลงานได้ลงทุนในผลงานชิ้นต่อไป ก็จะไม่มีอะไรให้พวกเราได้ติดตามกันอีกต่อไปเช่นกัน การแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเปิดเผยเนื้อหาที่อาจถูกมองเป็นการสปอยจึงเป็นมารยาทสากลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ยกเว้นในกรณีชิ้นงานที่เก่ามากๆ ซึ่งก็ยังตอบยากอยู่ดีว่าแล้วเราจำเป็นต้องทิ้งช่วงนานแค่ไหน ก่อนจะพูดถึงเนื้อหาเหล่านี้ได้โดยไม่ทำร้ายผู้อื่น อิทธิพลของการ Spoiler ต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ สำหรับวงการบันเทิงนั้น การถูกสปอยผลงานถือเป็นเรื่องอันตราย เพราะการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญอาจจะทำให้ยอดผู้เข้าชมหนังหรือซีรีส์ลดลงจนทำให้ผลงานเหล่านั้นไม่สามารถทำกำไร (หรือในบางกรณีแม่แต่จะคืนทุนสร้าง) ได้ อย่างเช่นภาพยนตร์เรื่อง The Expendables 4 ของนักแสดงสุดอมตะอย่าง Sylvester Stallone ที่มีแขกรับเชิญเป็นดาวแอคชั่นระดับแนวหน้าอีกนับสิบชีวิตมาร่วมสมทบ ก็ต้องประสบปัญหายอดผู้ชมที่เหือดแห้งไป หลังจากที่ตัวหนังออกหลุดมาทางอินเตอร์เน็ต แม้ว่าสุดท้ายแล้ว จะมีผลงานที่สามารถเอาชนะการถูกสปอยได้ด้วยแรงช่วยจากแฟนๆ เช่นภาพยนตร์ Avengers: Endgame ที่เนื้อเรื่องทั้งหมดหลุดออกมาก่อนภาพยนตร์จะเข้าโรง แต่ก็ถือเป็นผู้โชคดีส่วนน้อย และสำหรับสงการภาพยนตร์ในภาพกว้าง การถูกสปอยเนื้อหาก็ยังคงเป็นความเสี่ยงที่่ต้องหลีกเลี่ยงให้ได้ ยิ่งในยุคอินเตอร์เน็ตที่ข้อมูลสามารถรั่วไหลและแพร่พระจายออกไปได้ในวงกว้างเพียงชั่วพริบตา ยิ่งทำให้ค่ายเจ้าของผลงานจำเป็นต้องระมัดระวังกับการเปิดเผยข้อมูลมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ทำให้เรามักจะเห็นค่ายหนังใหญ่ๆ พยายามจะปกปิดเนื้อหาของสิ่งที่พวกเขาจะนำเสนออยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงวันฉาย ทั้งมาตรการในด้านของกฎหมาย รวมถึงกลวิธีต่างๆ เพื่อที่จะป้องกันข้อมูลให้ได้มากที่สุด [caption id="attachment_53039" align="alignnone" width="1000"] Tom Holland รู้ =โลกรู้[/caption] ในวงการเกมเองก็มักจะมีเรื่องการหลุดข้อมูลให้ได้เห็นกันบ่อยๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของปกเกมบ้าง ชื่อเกมบ้าง หรือในบางครั้งก็มีเหล่ามือดีเข้าไปขุดไฟล์ในตัวเกมให้เราได้เห็นข้อมูลของ Patch ใหม่ๆ ก่อนที่ผู้พัฒนาจะได้บอกเราเสียอีก ในหลายกรณีก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะยิ่งผู้พัฒนาพยายามปกปิดข้อมูลมาก ผู้เล่นที่มีความอยากรู้มากพอ ก็จะยิ่งพยายามหาวิธีพิศดารๆ ในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นมากขึ้น การสปอย: การกระทำที่มีแต่ผู้แพ้? เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีบุคคลหรือกลุ่มคนผู้ไม่หวังดี ทำการเปิดเผยเนื้อหาของเกมดังอย่าง The Last of Us Part 2  ชนิดที่เรียกว่าหลุด Plot ของเกมจนแทบตั้งแต่ต้นจนจบ แถมยังมีฉากคัตซีนที่สำคัญออกมาให้ดูมากมายอีกต่างหาก และด้วยความนิยมของเกม ทำให้ข้อมูลที่รั่วออกมาแพร่กระจายออกไปทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ อย่างรวดเร็ว จนทำให้ทั้งผู้พัฒนา Naughty Dog และผู้จัดจำหน่ายเกมอย่าง Sony ต้องออกมาไล่ลบข้อมูลทั้งหมดอย่างเร่งด่วน และประกาศวันวางจำหน่ายของเกมแทยจะทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ ทั้งที่เพิ่งจะประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งหลายคนสันนิษฐานว่าการหลุดข้อมูลครั้งนี้อาจจะมีผลให้ผู้พัฒนาจำใจต้องประกาศวันวางจำหน่ายเกมก่อนจะพร้อมจริงๆ ก็เป็นได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการหลุดข้อมูลเกมครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงหลายปีมานี้เลย เพราะเกม The Last of Us Part 2 เป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่แบกรับทั้งความคาดหวังของแฟนๆ และของผู้พัฒนาเอาไว้เต็มเปี่ยม ยิ่งเมื่อมีกระแสต่อต้านจากแฟนๆ บางกลุ่มที่ไม่ชอบใจข้อมูลที่ตนได้รับทราบมา คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าการหลุดครั้งนี้จะส่งผลต่อยอดขายของเกมแน่นอน แล้วลองคิดดูว่าถ้าเกมทุนใหญ่อย่าง The Last of Us 2 เกิดขาดทุนขึ้นมา จากการที่แฟนๆ พากันยกเลิกพรีออเดอร์ หรือตัดสินใจไม่ซื้อเกม จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้พัฒนา Naughty Dog และเกมที่พวกเขากำลังพัฒนาอยู่บ้าง? การหลุดข้อมูลครั้งนี้ถูกซ้ำเติมเข้าไปอีก โดยกลุ่มคนที่พยายามจะนำเนื้อหาที่เป็นการ "สปอย" เหล่านี้ออกมาเผยแพร่ โดยไม่ได้สนใจว่าอาจจะทำให้ผู้อื่นต้องเดือดร้อน เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่บอกว่าตัวเองรับการสปอยได้หรือไม่ได้ก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการรู้ข้อมูลมาก่อนเช่นนี้ ย่อมส่งผลต่ออรรถรสที่คุณจะได้รับจากเกม เราได้อะไรจากการสปอย? หนึ่งในเหตุผลที่นักสปอยหลายๆ คนยกมาใช้ปกป้องการกระทำของตนเอง คือความรู้สึกอยาก "ประจาน" ในสิ่งที่รู้สึกว่าเกมทำไม่ดี เพื่อเป็นการ "เตือน" ไม่ให้ผู้เล่นอื่นหลงผิดไปซื้อเข้า แต่นั่นเท่ากับเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของผู้อื่นในการตัดสินใจด้วยตัวเองหรือเปล่า? อะไรทำให้คุณมั่นใจว่าสิ่งที่คุณคิดว่าไม่ดี จะไม่ไปถูกใจกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้? และที่สำคัญ คุณรู้ได้อย่างไรว่าถ้าคุณไม่ถูกสปอยมาก่อน และได้เล่นเกมตั้งแต่ต้นตามแบบที่ผู้พัฒนาตั้งใจ ความรู้สึกของคุณต่อสิ่งนั้นๆ อาจจะเปลี่ยนไปด้วยบริบททั้งหมดที่อยู่ในเกมก็เป็นได้ ดังที่ผู้กำกับเกมคุณ Neil Druckmann กล่าวว่า "ไม่ว่าคุณจะรับทราบอะไรมา มันเทียบไม่ได้กับการนั่งเล่นเกมกับมือจริงๆ" ดังนั้นแล้ว เพื่อรักษาบรรยากาศที่ดีในชุมชนเกมเมอร์ และเพื่อปกป้องเหล่าผู้สร้างผลงาน ที่ทำให้เรามีโอกาสเพลิดเพลินกับเกม ภาพยนตร์ หรือซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ที่เราชื่นชอบ จงลด-ละ-เลิกการสปอยกันเถอะครับ หากต้องการจะสนทนาหัวข้อที่ละเอียดอ่อน อย่างน้อยๆ ก็โพสต์เตือนหรือซ่อนข้อมูลเอาไว้ซะหน่อย เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสตัดสินผลงานด้วยตัวเองจริงๆ ขอบคุณบทความอ้างอิงจาก: NME ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
08 May 2020
7 ของแนะนำนอกจากเกมมิ่งเกียร์ ที่ควรมีบนโต๊ะเกมเมอร์
ชีวิตเกมเมอร์อย่างเรานั้นอยู่ที่หน้าโต๊ะคอมเป็นส่วนใหญ่ เกมเมอร์หลายคนมีการจัดโต๊ะคอมในรูปแบบต่างๆตามความชอบของแต่ละคน โดยส่วนมากจะเน้นไปที่เกมมิ่งเกียร์เป็นหลัก แต่การมีอุปกรณ์พวกนี้มันก็ช่วยทำให้การเล่นเกมหรือทำงานอยู่บนหน้าคอมมีความสะดวกสบาย และมีประโยชน์ต่อร่างกายเราเป็นอย่างมากด้วยนะ เรา GameFever TH อยากแนะนำให้เหล่าเกมเมอร์มีอยู่บนโต๊ะเอาไว้ ซึ่งรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน มาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง 1.ยาดม ดมเพื่อช่วยให้สมองโล่งระหว่างเล่นเกม ดมซักทีสองทีแก้อาการเวียนหัว หัวร้อน ซึ่งยาดมบางอย่างเป็นแบบน้ำ สามารถทาแต้มที่ขมับ และจมูกช่วยให้ผ่นอคลายมากขึ้นได้อีกด้วย 2.Hand Cream เกมเมอร์ทุกคนต้องใช้มือในการเล่นเกม แต่อย่าลืมดูแลรักษามันด้วย Hand  Cream นอกจากจะช่วยเรื่องการบำรุงทำให้มือของเกมเมอร์เนียนแล้ว โดยส่วนมากจะมีกลิ่นหอมช่วยให้ผ่อนคลายได้อีกด้วย 3.น้ำดื่ม  การดื่มน้ำเยอะๆในหนึ่งวันย่อมทำให้เกมเมอร์มีสุขภาพที่ดี แต่ภาชนะที่ใส่ควรจะไม่หกง่าย แนะนำว่าควรเป็นภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เพราะนอกจากจะไม่หกเลอะเทอะแล้ว ยังป้องกันน้ำหกใส่คอมของเราด้วย 4. เสปรย์น้ำแร่  เติมความสดชื่นระหว่างเล่นเกม และเวลาง่วงได้ดี อีกทั้งยังทำให้ผิวหน้าดีด้วย โดยเฉพาะเกมเมอร์ผู้หญิง ที่บางคนอาจแต่งหน้าแล้วสตรีม เสปรย์น้ำแร่โดยส่วนมากแล้วสามารถฉีบทับ Make Up ได้เลย 5.ทิชชู่เปียก  มีไว้เช็ดอุปกรณ์ต่างๆ เวลากินขนมเลอะเทอะ ฝุ่น โดยเฉพาะใช้กับหูฟังที่เป็นแหล่งรวมสิ่งสกปรก เมื่อหูฟังสะอาดเรื่องสิว ต่างๆไม่ต้องพูดถึง และยังสามารถใช้กับเม้าส์และคีย์บอร์ดได้อีกด้วย สุดท้ายหากต้องการความสดชื่นก็ยังสามารถนำมาเช็ดแขนหรือคอได้อีกด้วย 6.เจลล้างมือ ด้วยสถาณการณ์ปัจจุบัน บางคนอาจใช้คอมร่วมกับคนอื่น การทำให้มือเราสะอาดก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก อีกทั้งการทำให้มือเราสะอาดอยู่เสมอก็ทำให้โต๊ะคอมรวมถึงเกมมิ่งเกียร์ของเราสะอาดมากยิ่งขึ้นไปด้วย หรือจะเป็นแอลกอฮอล์และลำสีคอยเช็ดทำความสะอาด Gaming Gear เราก็ได้ 7.แว่นกรองแสง มีเกมเมอร์หลายคนไม่ใส่แว่นขณะเล่นเกม ซึ่งการใส่แว่นเป็นสิ่งสำคัญมาก การอยู่หน้าจอนานๆทำให้สายตาเสื่อมถอยในทุกๆวัน แม้จะไม่เคยมีปัญหาเรื่องสายตา แต่ควรใส่แว่นกรองแสงทุกครั้งที่เล่นเกม ไม่งั้นจากแว่นกรองแสงธรรมดา ท่านอาจได้ใส่แว่นสายตาพ่วงไปด้วยไม่ช้าก็เร็ว
20 Apr 2020
5 วิธีเลือก SKINCARE สำหรับเกมเมอร์นอนดึก แต่ยังอยากผิวดี
เกมเมอร์อย่างเรา การโต้รุ้ง การนอนดึกต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่าใครก็ยังอยากสวยอยากหล่อ แต่จะให้นอนเร็วก็ไม่ได้ เพราะเพื่อนและทีมยังต้องการเราอยู่ วันนี้จึงอยากมาแนะนำ SKINCARE ที่ช่วยเรื่องผิวของเกมเมอร์ รวมถึงวิธีเลือก SKINCARE จะได้ไปเลือกใช้กันเองได้เลย รับรองผิวหน้าดีขึ้นแน่นอน โดยมีหลักการเลือกที่แนะนำดังนี้ 1.ดึกแล้วหรือจะเช้าแล้วขี้เกียดทาครีมเยอะๆหลายขั้นตอน แนะนำให้ใช้ Sleeping Mask ก็คือทาอย่างเดียว ไม่ต้องล้างออก Sleeping Mark ไม่เหมือน Mask ปกติที่ต้องรอ 5-10 นาทีแล้วเอาออก เกมเมอร์ทุกคนสามารถทา Sleeping Mask และนอนได้เลย ตื่นมาจะพบว่าหน้าและผิวได้รับการบำรุง อีกอย่างคือไม่ต้องซื้อครีมหลายตัว และมีขั้นตอนทาครีมตอนกลางคืนหลายตัว ตัวเดียวเอาอยู่ 2.ตาคล้ำทำยังไงดี จริงๆแล้วคือต้องนอนให้เพียงพอจะช่วยได้มากสุด แต่ถ้าใครอยากหาครีมบำรุง แอบบอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องซื้อ SKincare บำรุงตาเฉพาะจุด เพราะแพงโดยใช้เหตุ ให้ใช้ครีมทีทาหน้านี่แหละแคต่เป็นสูตรอ่อนโยนให้ความชุ่มชื้น ลองหาครีมที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนิค แอซิด หรือ เจลว่านหางจระเข้ จะดีที่สุด 3.สิวหาย สิวลดง่ายๆ ใช้ยาแต้มสิวอักเสบ แต่ที่สำคัญคือ ใช้ยาฆ่าเชื้อสิว Benzac ทาทิ้งไว้ก่อนล้างหน้า ปิดท้ายก่อนนอนใช้ Differin และหาเวลาไปกดสิวบ้าง แค่นี้บอกเลย สิวลดแน่นอน วิธีรลดสิวได้ตั้งแต่สิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตันต่างๆ 4.ล้างหน้าอย่างไร หาโฟมล้างหน้าที่ล้างแล้ว หน้าไม่เอี๊ยด คือยังทิ้งความชุ่นชื้นไว้บนใบหน้า คนที่เป็นสิวเพราะโฟมล้างหน้าที่ใช้ ทำให้หน้าแห้งเกินไป หรือ ล้างหน้าไม่สะอาด โฟมที่ดีคือ ล้างแล้วยังคงความชุ่มชื้นและปรับสมดุลให้หน้าอยู่ หรือจะใช้โฟมล้างหน้าสูตรเรื่องความันบนใบหน้าหรือแก้ปัญหาเรื่องสิวก็ได้ 5.เน้นการซ่อมแซม และทำให้ผิวหน้าแข็งแรงมากกว่าความขาวใส งด Skincare ผลัดเซลล์ผิวให้ความขาวต่างๆไปก่อนเพราะสารเหล่านั้นอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เกมเมอร์ร์อย่างเราแทบไม่โดนแดด ผิวที่อิ่มฟูสุขภาพดีคือตอบโจทย์ที่สุด เพราะผิวที่ฟูและไม่มีริ้วรอย จะมาพร้อมกับความใส และทำให้ดูขาวขึ้นนั้นเอง เน้นส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและลดริ้วรอยเป็นหลัก สุดท้ายนี้ของที่ดีสำหรับคนอื่นอาจไม่ดีกับเรา ของแพงใช้ว่าจะดี ของถูกก็เช่นกัน เลือกสิ่งที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา และเลือกเน้นที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองจะดีที่สุด
08 Apr 2020