[Tokyo Game Show 2022] เล่นมาเล่า: Like a Dragon Ishin! ภาครีเมคของเกมซีรีส์ Yakuza ที่หลายคนไม่มีโอกาสได้ลอง
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางผู้พัฒนา SEGA ได้ทำการเปิดตัวเกมใหม่ในซีรีส์ Yakuza (หรือชื่ออย่างเป็นทางการใหม่ Like a Dragon) พร้อมกันถึง 3 เกมด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือเกม Like a Dragon: Ishin! ภาครีเมคของเกมสปินออฟ Ryū ga Gotoku Ishin! ที่วางจำหน่ายไปในปี 2014 และไม่เคยได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษมาก่อน ซึ่งความพิเศษของ Like a Dragon: Ishin! คือการที่เกมตั้งอยู่ในยุคญี่ปุ่นโบราณ และเราจะได้รับบทเป็นนักรบซามูไรแทนนักเลงยากูซ่านั่นเอง
ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสทดลองเล่นเดโมของเกม Like a Dragon: Ishin! มาเล็กน้อย จึงอยากจะเล่าความเห็นและความรู้สึกต่อเกมให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันจ้า!
- สิ่งแรกที่สังเกตได้ตั้งแต่หน้าเมนูหลักของเกม คือหน้าตาของตัวละครต่าง ๆ ภายในเกม ซึ่งใช้โมเดลหน้าตาและนักพากย์จากตัวละครเก่า ๆ ในซีรีส์ Yakuza / Like a Dragon มากมาย ซึ่งน่าจะถูกใจแฟน ๆ ของซีรีส์นี้ไม่น้อย
- เกมพัฒนาโดยใช้ Unreal Engine 4 เช่นเดียวกับเกมภาคก่อนหน้าในซีรีส์อย่าง Yakuza 7: Like a Dragon ที่เป็นเกม RPG แต่กลับรู้สึกว่ากราฟิกไม่ยักน่าประทับใจเท่าภาค 7 อาจเป็นเพราะฉากหลังยุคญี่ปุ่นโบราณซึ่งไม่สามารถนำเสนอแสงสีฉูดฉาดได้เท่ากับในเกมที่ตั้งอยู่ในยุคปัจจุบัน
- เนื้อเรื่องของเกมจะติดตามซามูไร Sakamoto Ryoma (ซากาโมโตะ เรียวมะ) ผู้ซึ่งต้องเข้าร่วมกับองค์กรตำรวจ Shinsengumi เพื่อตามหาคนที่คร่าชีวิตของอาจารย์ของเขา ซึ่งจากฉากคัตซีนเปิดเดโมก็พอจะสรุปได้ว่าเนื้อเรื่องของเกมน่าจะเข้มข้น ดุเดือด ไม่แพ้เกม Yakuza/Like a Dragon ภาคไหน ๆ อย่างแน่นอน
- เช่นเดียวกับในเกม Like a Dragon กระแสหลักที่ผ่าน ๆ มา เราในฐานะ Ryoma จะสามารถเดินสำรวจเมือง Tosa ที่ตั้งของเกมได้ ซึ่งก็จะมี NPC เดินไปเดินมา และ/หรือขายของให้กับเรา รวมไปถึงให้ภารกิจเสริมต่าง ๆ เช่นเดียวกับเกมอื่น ๆ ในซีรีส์ และแน่นอนว่าก็จะมีกลุ่มศัตรูคอยเดินเพ่นพ่านไปมา และจะท้าเราสู้ทันทีที่เห็น
- การต่อสู้ในเกม Like a Dragon Ishin! จะเป็นแนวแอคชันสูตรดั้งเดิมของซีรีส์ Yakuza แต่เปลี่ยนจากการดวยหมัดกันดุ้น ๆ มาเป็นการใช้ดาบและปืนแทน โดยผู้เล่นในฐานะเรียวมะจะสามารถสลับกระบวนท่า (Stance) ของตัวละครได้ 4 แบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็จะเปลี่ยนท่าทางการโจมตีของเราไปโดยสิ้นเชิง ประกอบไปด้วย: ดาบ ปืน ดาบ+ปืน และหมัด
- อีกสิ่งหนึ่งที่กลับมาจากเกมภาคก่อน ๆ ก็คือระบบ Heat Action ซึ่งต้องบอกว่าดุเดือดกว่าทุกภาคเลย เพราะในขณะที่เกมภาคอื่น ๆ จะเน้นการต่อสู้ด้วยหมัดและ/หรือสิ่งของทั่วไปตามถนนมาฟาดกัน แต่เมื่อเกม Ishin! เปลี่ยนมาให้ผู้เล่นถือดาบและปืน ท่า Heat Action ต่าง ๆ ก็ย่อมรุุนแรงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคนที่ชอบความสะใจของระบบ Heat Action ในเกมภาคก่อน ๆ น่าจะถูกใจเกม Ishin! มากเลยทีเดียว
- นอกจากนี้ อีกระบบหนึ่งที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาค 7 ก็คือพวกท่า Essence of ... ต่าง ๆ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นการเรียกเพื่อน NPC ที่เราพบออกมาปล่อยไม้ตาย หรือจะเป็นท่าไม้ตายพิศดาร ๆ ที่เราใช้เอง โดยในเดโมมีท่า Essence ท่าหนึ่ง (ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้) ซึ่งเมื่อใช้แล้วจะทำให้เรียวมะปล่อยคลื่นเต่าขนาดใหญ่มาโจมตีศัตรูด้วย
- ในส่วนของภารกิจเสริม ผู้เขียนได้มีโอกาสลองทำภารกิจหนึ่ง โดย NPC ที่ให้ภารกิจเป็นเจ้าของโรงเกอิชาที่พยายามหว่านล้อมให้เรียวมะเข้าไปใช้บริการ แต่เมื่อเรียวมะเลือกสาวเกอิชาคนที่ต้องการ กลับพบว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นนักซูโม่เพศชายที่แอ๊บหญิง! และเมื่อเรียวมะปฏิเสธจะจ่ายเงิน ทั้งเจ้าของร้านและเกอิชา(?)ก็จู่โจมผู้เล่นทันที ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าเกม Ishin! จะยังคงมีภารกิจเสริมเพี้ยน ๆ ตลก ๆ ให้เราค้นหากันเช่นเคยแน่นอน
- ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยอมรับว่าผู้เขียนเองได้มีเวลาทดลองเล่นเกมนี้ค่อนข้างสั้น ส่วนหนึ่งเพราะเสียเวลาดูคัตซีนยาว ๆ มากไปหน่อย จึงยังไม่สามารถสำรวจเมือง Tosa ของเกมได้เท่าที่อยากสำรวจ แต่ถ้าจะให้สรุปความรู้สึกจากการเล่น ก็คงต้องบอกว่า Ishin! ยังคง DNA ของเกม Yakuza เอาไว้อย่างครบถ้วน แม้จะเปลี่ยนฉากหลังจากยุคปัจจุบันมาเป็นยุคโบราณก็ตาม คนที่ชื่นชอบเกมเพลย์ของ Yakuza ภาคก่อน ๆ อยู่แล้วน่าจะถูกใจเกม Ishin! เช่นเดียวกัน