ถือเป็นเกมที่หลายคนจับตามองอยู่ไม่น้อยกับ Forspoken เกมแอคชันผจญภัยจากผู้พัฒนาชื่อดัง Square Enix ที่จะให้ผู้เล่นรับบทเป็นเด็กาววัยรุ่นจากนิวยอร์ค ผู้ซึ่งถูกส่งไปผจญภัยในโลกเวทมนต์ด้วยเหตุผลปริศนาบางอย่าง โดยเราในฐานะตัวเอกหญิง Frey จะต้องฝ่าฟันเหล่าสิ่งมีชีวิตอันบิดเบี้ยวของโลกแห่งนี้ ด้วยเวทมนต์คาถาอันทรงพลัง เพื่อหาทางกลับบ้านของเธอให้จงได้

ทางทีมงาน GameFever ได้มีโอกาสทดลองเล่นเดโมของเกมมาแล้ว จึงอยากจะลองมาบอกเล่าถึงความรู้สึกนึกคิดให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน

• เดโมเริ่มขึ้นมาด้วยการสอนใช้ทักษะเบื้องต้นต่าง ๆ เช่นการเคลื่อนที่ การใช้ระบบ Magic Parkour และการต่อสู้ด้วยเวทมนต์ชนิดต่าง ๆ โดยในเดโมจะมีเวทมนต์ให้ใช้สองสายด้วยกันคือ ดิน และ ไฟ

• เวทมนต์แต่ละสายจะมาพร้อมกับ “เวทย์โจมตี” 3 ชนิด เช่นการเสกหินก้อนใหญ่พุ่งใส่ศัตรู หรือการเสกดาบไฟออกมาโจมตีเป็นวงกว้าง และ “เวทย์สนับสนุน” (Utility Spells) อีกจำนวนหนึ่ง เช่นการเสกเกราะหิน หรือการวางกับดักลาวาไว้ใต้เท้าศัตรู เป็นต้น โดยเวทย์สนับสนุนที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษเป็นของสายไฟ ซึ่งเมื่อใช้แล้วจะทำให้ Frey เตะศัตรูเป้าหมายกระเด็นกลับไป ก่อนที่ตัวมันจะระเบิดสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

• นอกจากนี้ ยังมีเวทย์ไม้ตายขนาดใหญ่ที่เราเห็นได้ในตัวอย่างเกม ซึ่งจะสามารถใช้ได้เป็นระยะเท่านั้น

• การต่อสู้ในเกมมีความเร็วค่อนข้างมาก เพราะเรามักจะพบกับศัตรูทีละเป็นกลุ่ม ๆ ซึ่งศัตรูในเกมนี้หลายตัวดูจะมีความดุดันกว่าในเกมแอคชันหลาย ๆ เกม และจะพยายามโจมตีผู้เล่นโดยแทบไม่เว้นจังหวะให้ยืนพักเฉย ๆ เลย ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องเคลื่อนที่ไปมาเพื่อหลบการโจมตีไปด้วย ระหว่างการร่ายเวทย์โจมตีศัตรูซะเอง

• สำหรับผู้เขียน รู้สึกว่าการต่อสู้ของเกม Forspoken แม้จะเน้นการใช้เวทย์เป็นหลัก มากกว่าจะเป็นปืนหรือดาบเหมือนในเกมแอคชันบุคคลที่ 3 หลาย ๆ เกม แต่เมื่อเล่นจริง ๆ แล้วก็พบว่าไม่ได้ต่างกันนักในทางปฏิบัติ ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สนุก แต่ก็อาจไม่ได้แปลกใหม่เท่าที่หลายคนคาดหวังเช่นกัน

• ทั้งนี้ ด้วยความเร็วของเกม Forspoken เองด้วย รวมกับแสงสีเวทมนต์สุดตระการตาที่พวยพุ่งเต็มจอตลอดเวลา ทำให้เกมติดปัญหายอดฮิตของเกมแอคชันมุมมองบุคคลที่ 3 ซึ่งก็คือเรื่องของมุมกล้อง ที่ในหลายจังหวะก็ตามการเคลื่อนที่ของเราไม่ทัน และแม้ระบบการล๊อคเป้าศัตรูในเกมก็พอช่วยได้บ้าง แต่ก็ยังมีหลายจังหวะที่กล้องพยายามเหวี่ยงตามศัตรูมากจนมองอะไรไม่เห็นอยู่ดี

• ในส่วนของการสำรวจ ต้องบอกตามตรงว่าเป็นองค์ประกอบที่ผู้เขียนรู้สึกผิดหวังมากเป็นพิเศษ เพราะจากตัวอย่างเกมมักจะแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนที่ด้วยเวทมนต์ที่ลื่นไหล รวดเร็ว ให้ผู้เล่นสามารถเดินทางข้ามระยะทางไกล ๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่พอได้มาลองเล่นในเดโมจริง ๆ ก็พบว่าการเคลื่อนที่ในเกม Forspoken ยังมีข้อจำกัดอยู่เยอะ โดยเฉพาะระบบ Magic Parkour ที่ดูจะใช้ได้แต่ในแนวราบเท่านั้น แต่พอพยายามจะเดินทางในแนวตั้ง (เช่นไต่กำแพงหรือหน้าผา) กลับไม่สามารถทำได้ โดยมีหลายจังหวะที่ผู้เขียนเผลอวิ่งตกหลุมหรือเหว และไม่สามารถกระโดดกลับออกมาได้ จนต้องเปิดแผนที่และวาร์ปกลับไปยังจุด Fast Travel ที่ใกล้ที่สุดเท่านั้น

• ทั้งนี้ทั้งนั้น การเคลื่อนที่ในเกมอาจจะใกล้เคียงกับในตัวอย่างมากขึ้น เมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสปลดล๊อคทักษะใหม่ ๆ มากกว่านี้ ซึ่งก็คงต้องรอตอนเกมจริงออกถึงจะตัดสินได้อย่างแน่ชัดว่าระบบ Magic Parkour ของเกมจะรุ่งหรือร่วงกันแน่

• นอกจากนี้ ด้วยความที่โลก Athia ของเกมถูกปกคลุมโดยพลังเวทย์มนต์ปริศนา ที่ทำให้มนุษย์และสัตว์ทั้งหมดที่สัมผัสกลายพันธุ์เป็นปีศาจดุร้าย ส่งผลให้ภายในแผนที่โลกเปิดของเกมเต็มไปด้วยศัตรู ซึ่งก็ทำให้โลกของเกมรู้สึกเปลี่ยวชอบกล เพราะสิ่งมีชีวิตที่เห็นในแผนที่ ตั้งแต่มนุษย์ นก กวาง หรือจระเข้ จะโจมตีเราทันทีที่เข้าใกล้ 

• กล่าวโดยสรุป จากเดโมที่ได้ลองเล่นมา แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมก็ยังสนุกตามมาตรฐานของเกมแอคชันบุคคลที่ 3 ทุนใหญ่ ๆ หลาย ๆ เกม แม้จะยังมีหลายองค์ประกอบที่ยังบอกไม่ถูกว่าจะทำได้เทียบเท่ากับราคาคุยของผู้พัฒนาหรือไม่เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าเสี้ยวที่ได้ลองเล่นนั้นยังเป็นเสี้ยวที่เล็กมาก ๆ จากเกม ซึ่งก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าประสบการณ์เกมเต็ม ๆ จะสามารถกลบจุดอ่อนในเดโมได้มากน้อยเพียงใด