หากทุกวันนี้ คุณเป็นหนึ่งในคนที่โดดยานเหาะ ลงไปลูทของไล่ยิงกับคนอื่นทุกวันใน Apex Legends เชื่อว่าคุณจะต้องเคยสัมผัส หรือเคยได้ยินชื่อของเกมต้นกำเนิดจักรวาลนี้อย่าง Titanfall กันมาบ้างแล้ว เพราะ Titanfall คือสุดยอดเกม FPS Sci-fi ที่เรียกได้ว่า มาถูกที่ แต่ผิดเวลาอย่างมาก และกว่าทุกคนจะต้องการมันอย่างแท้จริง ก็ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไปแล้ว วันนี้เราขอพาทุกท่านมาย้อนชมถึงการตลาดที่ผิดพลาด และเกมที่มีคนหันมารักมันในวันที่อาจจะสายเกินไปแล้ว กับ Titanfall

การเปิดตัวที่โด่งดังและดุเดือดของภาคแรก

แม้หลายคนจะประทับใจ และตราตรึงกับ Titanfall 2 แต่ภาค 2 ไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากไม่มีภาคแรก หลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว ว่า Titanfall ภาคแรก คือการร่วมมือกันของ Jason West และ Vince Zampella สองหัวเรือใหญ่ผู้สร้าง Call of Duty: Modern Warfare 2 จนโด่งดังเป็นพลุแตกในตอนนั้น สาเหตุเพราะทั้ง Jason และ Vince นั้น ผิดสัญญาและไม่เชื่อฟังคำสั่งผู้บริหาร ทำให้ทาง Activision ตัดสินใจไล่สองคนนี้ออก และเกิดเป็นคดีความตามมาอีกมากมาย ก่อนที่ทั้งสองจะมาก่อตั้งสตูดิโอของตัวเองในชื่อ Respawn Entertainment ที่ในตอนนั้น ไม่มีใครทราบได้ว่า มันจะกลายเป็นสตูดิโอเดอะแบกของ EA ในปัจจุบัน

Jason และ Vince ก่อตั้งสตูดิโอด้วยกัน ยังไม่พอ ยังมีทีมงานบางส่วนจาก Infinity Ward หรือก็คือผู้สร้าง Call of Duty: Modern Warfare นั่นแหละ ตามออกมาด้วย พวกเขาวางแผนแนวคิดเกมกันว่า จะให้เป็นสงครามของเหล่าหุ่นรบจักรกล และต้องเป็นระบบแบบ Multiplayer การเริ่มต้นพัฒนาเต็มไปด้วยปัญหานานาประการ และท้ายที่สุดลงเอยด้วยการใช้ Source Engine เพราะเป็นเอนจิ้นที่ทีมงานคุ้นเคย และยังสามารถรันเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพบนเครื่อง PS3, Xbox 360 

หลังผ่านเวลาอันยาวนาน ตัวเกมได้พัฒนาเสร็จสิ้นในช่วงธันวาคมปี 2013 และพวกเขาใช้เวลาที่เหลือในการปรับปรุงและขัดเกลาตัวเกม รวมไปถึงเปิดให้ทดสอบช่วง Close Beta ที่ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟนเกม จนในที่สุด เกมก็พร้อมวางจำหน่ายสู่มือเกมเมอร์ทั่วโลกในวันที่ 11 มีนาคม 2014

Titanfall ภาคแรกนั้น ไม่มีโหมด Single Player มีเพียงโหมด Multiiplayer เท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เพราะสิ่งที่ทำให้ผู้คนกล่าวถึงในตอนนั้น คือระบบเกมการเล่นที่ลื่นไหล ที่เรียกว่า Free-Running ที่ถูกใส่เข้ามาในเกม ผสมผสานเข้ากับเกมการเล่นแบบหุ่นรบที่เราจะได้ควบคุมและบังคับตัวละครสองแบบ แบบแรกคือพวก Pilot หรือทหารเดินเท้าทั่วไป แต่มีความสามารถในการ Wall Run หรือแม้กระทั่ง Double Jump ทำให้มีลีลาการต่อสู้ที่ผาดโผนเหนือกว่าเกมอื่นมาก และที่เด็ดสุดเลยคือการเสกหุ่น TItan ขนาดยักษ์ลงมาซัดกันได้อย่างยิ่งใหญ่อลังการ และเพราะในตอนนั้น Respawn Entertainment ไม่ใช่สตูดิโอใหญ่อะไร ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำโหมดเนื้อเรื่องและโหมดออนไลน์ไปพร้อม ๆ กันได้ พวกเขาจึงใส่การเล่าเรื่องลงไปในโหมดออนไลน์แทน

กระแสตอบรับในภาคแรกนั้นถือว่าประสบความสำเร็จมาก มันสามารถทำยอดขายได้มากถึง 10 ล้านชุดหลังวางจำหน่ายไปเพียง 1 ปี แต่ปัญหาของเกมภาคแรกคือคอนเทนต์มันน้อยมาก โหมดเกมการเล่นที่มีไม่ค่อยเยอะ ไม่มีโหมดเนื้อเรื่องอะไรให้ติดตาม อีกอย่างคือเกมในช่วงนั้น ไม่ได้มีระบบการเก็บ Battle Pass หรือ Progression ที่น่าสนใจเท่ากับยุคนี้ ท้ายที่สุดเกมนี้จึงค่อย ๆ กระแสแผ่วลงไปในที่สุด

ภาค 2 กับการตลาดที่ผิดพลาด (หรือจงใจ ?) ของ EA

แน่นอนว่ายอดขายของภาคแรกที่สูงถึง 10 ล้านชุด มีหรือภาคต่อจะไม่ตามมา จากแหล่งข่าวหลายแหล่ง ระบุว่า ตัวเกมภาค 2 นั้น เริ่มพัฒนากันตั้งแต่กลางปี 2014 หรือหลังภาคแรกวางจำหน่ายไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น และเกมภาคนี้ใช้เวลาทำนานกว่า 2 ปีเต็ม ก่อนจะเข็นออกมาให้เราได้เล่นกันในช่วงปี 2016

สิ่งที่แตกต่างจากภาคแรกเลยก็คือ ในภาคนี้ ตัวเกมได้รับการพัฒนาในส่วนของ Single Player หรือโหมดเนื้อเรื่องแล้ว แถมยังเป็นโหมดเนื้อเรื่องที่น่าประทับใจในด้านการนำเสนอและการเขียนบทอีกด้วย กระแสคำชมของเกมภาคนี้ก็มาจากโหมดเนื้อเรื่องด้วยจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ส่วนของโหมดออนไลน์ก็ถือว่าเป็นการเก็บฟีดแบคจากผู้เล่นไปปรับปรุงได้ดีมาก คราวนี้นอกจากหุ่นไททันจะมีเยอะขึ้นแล้ว ยังมีอาวุธและความสามารถที่ปรับเปลี่ยนได้อีกหลายแบบ และโหมดการเล่นก็เยอะมากขึ้นกว่าเดิมด้วย ดู ๆ แล้วทุกอย่างเหมือนว่าดีขึ้นจากภาคแรก และมันน่าจะไปได้สวย ถ้าไม่ใช่เพราะการตลาดที่ดูเหมือนว่าจะผิดพลาด (หรือจงใจ?) ของค่ายแม่ อย่าง EA..

และสำหรับใครที่ติดตามข่าวสารวงการเกมมาตลอด จะรู้ว่าในปี 2016 นั้น EA ไม่ได้ส่งเกม Titanfall 2 เข้ามาเป็นเกมยิงเพียงหนึ่งเดียวของค่าย แต่กลับส่งลูกรักตีคู่มาด้วยอย่างน่าประหลาดใจ และเกมนั้นคือ Battlefield 1 ในตอนนั้น Battlefield 1 มีกำหนดวางขาย 20 ตุลาคม 2016 และหลังจากนั้นเพียง 8 วันก็ส่ง Titanfall 2 ตามออกมา แถมเรื่องของการโปรโมทก็ไม่เท่ากันแล้ว เพราะตอนนั้นทาง EA จัดหนักจัดเต็ม โปรโมท Battlefield 1 อย่างหนัก แน่นอนว่า Titanfall 2 แทบไม่มีที่ยืนกันเลยทีเดียว และในขณะที่เกมวางจำหน่าย กระแสของ Battlefield 1 ก็ยังลุกเป็นไฟอยู่ นั่นแหละคือคำตอบที่ว่า ทำไม Titanfall กำลังจะ Fall สมชื่อ

แต่ทั้งหมดทั้งมวลของ Titanfall นั้น สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เรื่องของเกมเพลย์อันดุเดือด รวดเร็ว และไม่เหมาะสำหรับมือใหม่เป็นอย่างมาก Titanfall นั้น เป็นเกมที่มีระบบการควบคุมเหนือล้ำกว่าเกมทั่วไป และมีสปีดความเร็วในการเล่นที่สูงกว่ามาก แม้ว่าในปัจจุบันนี้ เรายังสามารถหาห้องเล่นโหมดออนไลน์ของ Titanfall 2 ได้อยู่ แต่การเข้าไปเจอเหล่าโปรเพลเยอร์ที่เหาะเหินเดินอากาศในตอนนี้ ไม่ใช่แฮคเกอร์ แต่เป็นฝีมือของจริง ก็ไม่แน่ใจเหมือนกนัว่าเราจะสนุกไปกับตัวเกมได้มากน้อยแค่ไหน

3 ปีผ่านไป กับการสานต่อด้วยเกมที่ชื่อ Apex Legends

หลังจาก Titanfall 2 ก็ Fall ไปตามชื่อเกม แม้จะไม่ใช่ความผิดของตัวเกมและทีมพัฒนาเกมเองก็ตาม ช่วงต้นปี 2019 อยู่ดี ๆ ไม่รู้ EA และ Respawn เกิดอยากจะทำอะไรขึ้นมา เพราะได้มีการประกาศเปิดตัว Apex Legends ขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมไม่ได้แค่ประกาศเปิดตัวแล้วบิวด์อารมณ์ให้อยากเล่น แต่เป็นการประกาศเปิด แบบเปิดให้เล่นเลย ไม่ต้องรอคอยกันนาน และดูเหมือนว่าความใจถึง บวกกับคุณภาพของตัวเกม จะถูกอกถูกใจแฟน ๆ ไม่ใช่น้อย

Apex Legends ทำยอดผู้เล่นอย่างถล่มทลายนับตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกหลังเปิดตัว เรียกได้ว่าทำลายทุกสถิติของผู้เล่นแนวเกม Battle Royale ในตอนนั้นเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบเอาอาวุธบางอย่างจาก Titanfall มาปรับใช้ ลดสปีดความเร็วจาก Titanfall ลง จนคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และเพียงไม่นาน มันก็กลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด จนกระทั่งในปี 2022 นี้ มันเป็นเกมที่ทำเงินให้กับ EA ได้มากกว่าเกมเรือธงก่อนหน้าอย่าง Battlefield ไปแล้ว

เมื่อคนรักในวันที่สายไป กับการตลาดที่ผิดพลาดและไม่อาจแก้ไข

ผ่านมาจนถึงตอนนี้ Apex Legends ยังคงเดินหน้าอัปเดตคอนเทนต์ใหม่ ๆ แบบสม่ำเสมอ และหลายครั้งหลายคราว ที่เนื้อหาที่อัปเดตเข้ามานั้น มีความเกี่ยวข้องกับทาง Titanfall โดยตรง เช่นตัวละคร Valkyrie หรือแม้กระทั่งอาวุธปืนหลายอย่าง ก็ได้มาจากตัวเกม Titanfall หลักด้วย และถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ทุกวันนี้เราแทบจะไม่ได้ข่าวคราว หรือวี่แววใด ๆ เกี่ยวกับ Titanfall 3 เลย ทั้งที่แฟน ๆ เองก็เรียกร้องกันเข้ามามากมายเหลือเกิน ว่าใส่การเชื่อมโยงเข้ามาขนาดนี้ ก็สมควรที่จะมาภาคใหม่ หรือเริ่มเกมใหม่ได้แล้ว

หากมองย้อนกลับไปทั้งหมด ความผิดพลาดทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะโทษใครแบบเต็ม 100% ก็ไม่ได้ อาจจะเพราะทาง Respawn ที่ทำภาคแรกออกมาได้ไม่สุดเท่าที่ควร ภาค 2 ที่ถูก EA เตะตัดขาแบบงง ๆ หรือแม้แต่ผู้เล่นเองที่หันมาสนใจมันช้าเกินไปหน่อย ซึ่งก็ซ่าไม่ได้ เพราะ Apex Legends นั้น เป็นตัวจุดกระแสมันขึ้นมา

ตอนนี้ก็ได้แต่เพียงหวังลึก ๆ ว่า ในอนาคต ชื่อ Titanfall จะกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ไร้ข้อผิดพลาด แต่ดูแล้วน่าจะอีกนาน โดยเฉพาะในช่วงวันเวลาที่ทาง Respawn กำลังงานล้นมือแบบนี้ไปเสียแล้ว