GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
บทความ
[แนะนำเกม] The Outlast Trials สปินออฟเกมสยองขวัญในตำนาน ช่วยกันเอาตัวรอดจากฆาตกรคลั่ง
ลงวันที่ 06/11/2022

คนที่ชอบเล่นเกมแนวสยองขวัญ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเกมสยองขวัญในตำนานอย่าง Outlast เกมเอาตัวรอดในโรงพยาบาลจิตเวชที่แทบจะเป็น Pure Horror เพราะเราต่อสู้ไม่ได้ หนีอย่างเดียว เอาตัวรอดอย่างเดียวทั้งเกม Outlast มีออกมาทั้งหมด 2 ภาคด้วยกัน และถึงแม้ว่าภาค 2 จะมีเนื้อหาที่ลึกเกินหลายคนจะเอ็นจอยด้วย แต่สำหรับภาคแรกนั้น เข้าขั้นมาสเตอร์พีซของวงการเกมสยองขวัญไปแล้ว


แต่ Outlast กลับมาอีกครั้ง ในภาคใหม่ที่เปลี่ยนแนวไปเป็นเกม Co-op ที่ต้องร่วมมือกันในทำภารกิจหนีตายเอาตัวรอดจากสถานที่คุมขังสุดโหด แต่การ Co-op กันจะทำให้ความน่ากลัวของมันลดลงหรือไม่ เราได้ไปทดลองเล่นในช่วงทดสอบมาแล้ว และขอนำประสบการณ์แรกมาเล่าต่อให้ได้ฟังกันกับ The Outlast Trials ภาคใหม่ของซีรีส์ Outlast ในช่วง Beta ของเกมนี้ มีเพียงด่านเดียวให้เลือกเล่น นั่นคือ Police Station หรือสถานีตำรวจ ดังนั้นเราจะอธิบายและรีวิวระบบเกมเพลย์การเล่นคร่าว ๆ จากที่ได้ลองมา


สำหรับเกมนี้จะรองรับการเล่นแบบ Co-op 3 คน ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องช่วยกันทำภารกิจและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการผ่านไป โดยในฉาก Police Station นี้ เราจะต้องช่วยกันพานักโทษที่ถูกทรมานหลบหนีออกมา โดยมีอุปสรรคคือเหล่าตำรวจโรคจิตที่จะออกมาไล่ล่าเราในบางช่วง และพวกนักโทษที่คาดว่าจะเป็นเหล่ามนุษย์ที่ถูกจับไปทดลองจนเสียสติ หากเราเข้าไปใกล้ ๆ พวกมันอาจจะหันมาเล่นงานเราได้ และตามสไตล์ Outlast เลยคือเราไม่สามารถที่จะโจมตี หรือสู้กลับเหล่าศัตรูได้เลย ทำได้แค่หลบหนี สกัดมันไม่ให้เข้ามาโจมตีเราได้แค่นั้น


อย่างแรกคือเรื่องของ Rig คือสกิลความสามารถของตัวละคร ในช่วง Beta นี้จะมีตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถทั้งหมด 4 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการสแกนหาของ ฟื้นฟูพลังชีวิต หรือลบสถานะผิดปกติต่าง ๆ ผู้เล่นแต่ละคนจะเลือกตัวละครที่มีความสามารถต่างกันและเข้าทำภารกิจในเกม เมื่อเริ่มเกมในแต่ละรอบเราจะได้รับ Objective จากระบบเกม เช่นการหากุญแจ การหาอุปกรณ์ เครื่องปั่นไฟ และอื่น ๆ ที่เราจำเป็นจะต้องทำไปตามเงื่อนไข

ระหว่างการทำภารกิจ ฉากของเกมจะเป็นแบบกึ่งเปิดกว้าง เราสามารถออกสำรวจฉาก เพื่อหาไอเทมช่วยเหลือได้ ตัวละครของเราจะสามารถถือไอเทมได้ 3 ชนิด ประเภทของไอเทมแต่ละชนิดจะทำหน้าที่ต่างกัน เช่นอุปกรณ์อรรถประโยชน์หรือ Lockpick ที่ใช้สะเดาะกุญแจ เปิดตู้เอาไอเทมอื่น ๆ เช่นกล่องพยาบาลรักษาพลังชีวิต เข็มไซริงชุบชีวิตเพื่อน หรือกล่องชาร์จสกิล และแบตเตอร์รี่ ชาร์จแว่นกลางคืน (Night Vision)


แน่นอนว่าเป็น Outlast จะขาดสิ่งสำคัญในการเอาตัวรอดไปไม่ได้ อย่างในเกมหลักเราจะใช้กล้องถ่ายวิดีโอ ที่จำเป็นจะต้องหาแบตเตอรี่มาใช้ตลอดเวลา แต่พอเป็นภาค Trials นี้ สิ่งที่เราได้มาทดแทนก็เหมือนกับเป้นแว่นมองกลางคืนหรือ ์ight Vision นั่นเอง สำหรับ Night Vision จะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับกล้องวิดีโอของเกมภาคก่อน ๆ คือเมื่อเราเปิดใช้งาน เราจะมองเห็นสภาพแวดล้อมในที่มืดได้ และแบตเตอรี่จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อแบตเตอรี่หมด มันจะไม่ดับจนมืดสนิท แต่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะลดลงอย่างมากจนเล่นได้ลำบาก ทำให้เราต้องคอยมองหาแบตเตอรี่ไว้เติมตลอด แต่ฉากภายในเกมก็ไม่ใช่ฉากความมืดทั้งหมด ยังมีส่วนที่มีไฟเปิดอยู่ ทำให้เกมการเล่นไม่ได้ยากจนเกินไปนัก


สำหรับในช่วง Beta ภารกิจใน Police Station จะเริ่มจากการเข้าไปด้านใน ปั่นไฟ หากุญแจ พานักโทษหนี และต้องชาร์จไฟที่แท่น สิ่งที่ทำให้ The Outlast Trials ต่างจากเกมอื่น ๆ คือ ปกติแล้วเกมอื่นนั้น การทำเกมแนวสยองขวัญจะเป็นแบบ PvP หรือก็คือผู้เล่นจะต้องเจอกับคนเล่นด้วยกันเอง แบ่งเป็นมนุษย์ 4 ผี 1 อะไรก็ว่ากันไป แต่สำหรับ The Outlast Trials นั้น จะเป็นเกมการเล่นแบบ PvE เต็มรูปแบบ ซึ่งหาได้ยากมากสำหรับเกมแนวนี้ ศัตรูของเราคือ Environment หรือก็คือพวก A.I. และศัตรูที่เป็นบอทเท่านั้น

ความสนุกของเกมนี้คือการเล่นแบบ Co-op ร่วมมือกัน และแม้ว่าจะเป็นเกมแบบ Co-op แต่ในความเป็น Outlast ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวมันลดน้อยลงเลย เพียงแต่ว่าพอเล่นกันเป็นกลุ่มแล้ว ความน่ากลัวก็อาจจะลดหย่อนลงไป นอกจากนั้นอีกหนึ่งความสนุกเลยก็คือการบริหารไอเทมที่เราได้มา เพราะตัวละครเราถือไอเทมได้เพียง 3 ชิ้น การจะถืออะไรสำรองไว้ ก็ต้องดูว่าเราจะได้ใช้มันช่วงไหน หรือบางครั้งต้องใช้ถือ Key Item ด้วยหรือไม่ แต่ไอเทมจำพวก Recharge ที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ หรือกล่องชาร์จสกิลนั้น สามารถเก็บมาแล้วใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องถือไว้กับตัว


นอกจากนั้นการที่ตัวละครแต่ละตัว สามารถเลือกสกิลติดตัวได้ ทำให้การเล่นร่วมมือกันนั้นสนุกขึ้นมาก ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องพูดคุยและสื่อสารกัน ในการช่วยกันหาไอเทม แจ้งศัตรู หรือตามหาคำใบ้ที่ใช้ไขปริศนาหาไอเทมในฉาก และช่วยกันเอาตัวรอดไปด้วยกัน การทำงานเป็นทีมของเกมนี้สำคัญมาก และเวลาเราเอาตัวรอด หรือทำภารกิจสำเร็จ บอกเลยว่าเป็นความรู้สึกที่ดีไม่ใช่น้อยเลย

น่าเสียดายที่ในช่วง Beta นั้น ยังไม่มีระบบ Progression ทำให้เรายังไม่รู้ว่าตัวเกมจะมีอะไรให้น่าเก็บสะสม หรือทำแล้วสนุกอีกบ้าง คาดว่าคงต้องรอช่วงเกมเต็ม และอีกอย่างที่ต้องชื่นชมคือ ทีมงานน่าจะทำเกมนี้มานานพร้อม ๆ กับการขัดเกลาและ Optimize ตัวเกมมาเป็นอย่างดี เพราะการเล่นในช่วง Beta แทบจะไม่เจอปัญหาเฟรมเรทตก การเชื่อมต่อขัดข้องใด ๆ เลย และหากมันเปิดตัวได้สวยงามอย่างนี้ในช่วงที่เป็นเกมเต็ม และมีคอนเทนต์ทีร่มากพอ The Outlast Trials อาจจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ประสบความสำเร็จในการทำเกมแนว Horror Co-op เลยก็เป็นได้ ส่วนเกมเต็มจะมาช่วงไหนก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป


GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
[แนะนำเกม] The Outlast Trials สปินออฟเกมสยองขวัญในตำนาน ช่วยกันเอาตัวรอดจากฆาตกรคลั่ง
06/11/2022

คนที่ชอบเล่นเกมแนวสยองขวัญ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเกมสยองขวัญในตำนานอย่าง Outlast เกมเอาตัวรอดในโรงพยาบาลจิตเวชที่แทบจะเป็น Pure Horror เพราะเราต่อสู้ไม่ได้ หนีอย่างเดียว เอาตัวรอดอย่างเดียวทั้งเกม Outlast มีออกมาทั้งหมด 2 ภาคด้วยกัน และถึงแม้ว่าภาค 2 จะมีเนื้อหาที่ลึกเกินหลายคนจะเอ็นจอยด้วย แต่สำหรับภาคแรกนั้น เข้าขั้นมาสเตอร์พีซของวงการเกมสยองขวัญไปแล้ว


แต่ Outlast กลับมาอีกครั้ง ในภาคใหม่ที่เปลี่ยนแนวไปเป็นเกม Co-op ที่ต้องร่วมมือกันในทำภารกิจหนีตายเอาตัวรอดจากสถานที่คุมขังสุดโหด แต่การ Co-op กันจะทำให้ความน่ากลัวของมันลดลงหรือไม่ เราได้ไปทดลองเล่นในช่วงทดสอบมาแล้ว และขอนำประสบการณ์แรกมาเล่าต่อให้ได้ฟังกันกับ The Outlast Trials ภาคใหม่ของซีรีส์ Outlast ในช่วง Beta ของเกมนี้ มีเพียงด่านเดียวให้เลือกเล่น นั่นคือ Police Station หรือสถานีตำรวจ ดังนั้นเราจะอธิบายและรีวิวระบบเกมเพลย์การเล่นคร่าว ๆ จากที่ได้ลองมา


สำหรับเกมนี้จะรองรับการเล่นแบบ Co-op 3 คน ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องช่วยกันทำภารกิจและเงื่อนไขต่าง ๆ ในการผ่านไป โดยในฉาก Police Station นี้ เราจะต้องช่วยกันพานักโทษที่ถูกทรมานหลบหนีออกมา โดยมีอุปสรรคคือเหล่าตำรวจโรคจิตที่จะออกมาไล่ล่าเราในบางช่วง และพวกนักโทษที่คาดว่าจะเป็นเหล่ามนุษย์ที่ถูกจับไปทดลองจนเสียสติ หากเราเข้าไปใกล้ ๆ พวกมันอาจจะหันมาเล่นงานเราได้ และตามสไตล์ Outlast เลยคือเราไม่สามารถที่จะโจมตี หรือสู้กลับเหล่าศัตรูได้เลย ทำได้แค่หลบหนี สกัดมันไม่ให้เข้ามาโจมตีเราได้แค่นั้น


อย่างแรกคือเรื่องของ Rig คือสกิลความสามารถของตัวละคร ในช่วง Beta นี้จะมีตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถทั้งหมด 4 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการสแกนหาของ ฟื้นฟูพลังชีวิต หรือลบสถานะผิดปกติต่าง ๆ ผู้เล่นแต่ละคนจะเลือกตัวละครที่มีความสามารถต่างกันและเข้าทำภารกิจในเกม เมื่อเริ่มเกมในแต่ละรอบเราจะได้รับ Objective จากระบบเกม เช่นการหากุญแจ การหาอุปกรณ์ เครื่องปั่นไฟ และอื่น ๆ ที่เราจำเป็นจะต้องทำไปตามเงื่อนไข

ระหว่างการทำภารกิจ ฉากของเกมจะเป็นแบบกึ่งเปิดกว้าง เราสามารถออกสำรวจฉาก เพื่อหาไอเทมช่วยเหลือได้ ตัวละครของเราจะสามารถถือไอเทมได้ 3 ชนิด ประเภทของไอเทมแต่ละชนิดจะทำหน้าที่ต่างกัน เช่นอุปกรณ์อรรถประโยชน์หรือ Lockpick ที่ใช้สะเดาะกุญแจ เปิดตู้เอาไอเทมอื่น ๆ เช่นกล่องพยาบาลรักษาพลังชีวิต เข็มไซริงชุบชีวิตเพื่อน หรือกล่องชาร์จสกิล และแบตเตอร์รี่ ชาร์จแว่นกลางคืน (Night Vision)


แน่นอนว่าเป็น Outlast จะขาดสิ่งสำคัญในการเอาตัวรอดไปไม่ได้ อย่างในเกมหลักเราจะใช้กล้องถ่ายวิดีโอ ที่จำเป็นจะต้องหาแบตเตอรี่มาใช้ตลอดเวลา แต่พอเป็นภาค Trials นี้ สิ่งที่เราได้มาทดแทนก็เหมือนกับเป้นแว่นมองกลางคืนหรือ ์ight Vision นั่นเอง สำหรับ Night Vision จะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับกล้องวิดีโอของเกมภาคก่อน ๆ คือเมื่อเราเปิดใช้งาน เราจะมองเห็นสภาพแวดล้อมในที่มืดได้ และแบตเตอรี่จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อแบตเตอรี่หมด มันจะไม่ดับจนมืดสนิท แต่ทัศนวิสัยในการมองเห็นจะลดลงอย่างมากจนเล่นได้ลำบาก ทำให้เราต้องคอยมองหาแบตเตอรี่ไว้เติมตลอด แต่ฉากภายในเกมก็ไม่ใช่ฉากความมืดทั้งหมด ยังมีส่วนที่มีไฟเปิดอยู่ ทำให้เกมการเล่นไม่ได้ยากจนเกินไปนัก


สำหรับในช่วง Beta ภารกิจใน Police Station จะเริ่มจากการเข้าไปด้านใน ปั่นไฟ หากุญแจ พานักโทษหนี และต้องชาร์จไฟที่แท่น สิ่งที่ทำให้ The Outlast Trials ต่างจากเกมอื่น ๆ คือ ปกติแล้วเกมอื่นนั้น การทำเกมแนวสยองขวัญจะเป็นแบบ PvP หรือก็คือผู้เล่นจะต้องเจอกับคนเล่นด้วยกันเอง แบ่งเป็นมนุษย์ 4 ผี 1 อะไรก็ว่ากันไป แต่สำหรับ The Outlast Trials นั้น จะเป็นเกมการเล่นแบบ PvE เต็มรูปแบบ ซึ่งหาได้ยากมากสำหรับเกมแนวนี้ ศัตรูของเราคือ Environment หรือก็คือพวก A.I. และศัตรูที่เป็นบอทเท่านั้น

ความสนุกของเกมนี้คือการเล่นแบบ Co-op ร่วมมือกัน และแม้ว่าจะเป็นเกมแบบ Co-op แต่ในความเป็น Outlast ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ากลัวมันลดน้อยลงเลย เพียงแต่ว่าพอเล่นกันเป็นกลุ่มแล้ว ความน่ากลัวก็อาจจะลดหย่อนลงไป นอกจากนั้นอีกหนึ่งความสนุกเลยก็คือการบริหารไอเทมที่เราได้มา เพราะตัวละครเราถือไอเทมได้เพียง 3 ชิ้น การจะถืออะไรสำรองไว้ ก็ต้องดูว่าเราจะได้ใช้มันช่วงไหน หรือบางครั้งต้องใช้ถือ Key Item ด้วยหรือไม่ แต่ไอเทมจำพวก Recharge ที่ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ หรือกล่องชาร์จสกิลนั้น สามารถเก็บมาแล้วใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องถือไว้กับตัว


นอกจากนั้นการที่ตัวละครแต่ละตัว สามารถเลือกสกิลติดตัวได้ ทำให้การเล่นร่วมมือกันนั้นสนุกขึ้นมาก ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องพูดคุยและสื่อสารกัน ในการช่วยกันหาไอเทม แจ้งศัตรู หรือตามหาคำใบ้ที่ใช้ไขปริศนาหาไอเทมในฉาก และช่วยกันเอาตัวรอดไปด้วยกัน การทำงานเป็นทีมของเกมนี้สำคัญมาก และเวลาเราเอาตัวรอด หรือทำภารกิจสำเร็จ บอกเลยว่าเป็นความรู้สึกที่ดีไม่ใช่น้อยเลย

น่าเสียดายที่ในช่วง Beta นั้น ยังไม่มีระบบ Progression ทำให้เรายังไม่รู้ว่าตัวเกมจะมีอะไรให้น่าเก็บสะสม หรือทำแล้วสนุกอีกบ้าง คาดว่าคงต้องรอช่วงเกมเต็ม และอีกอย่างที่ต้องชื่นชมคือ ทีมงานน่าจะทำเกมนี้มานานพร้อม ๆ กับการขัดเกลาและ Optimize ตัวเกมมาเป็นอย่างดี เพราะการเล่นในช่วง Beta แทบจะไม่เจอปัญหาเฟรมเรทตก การเชื่อมต่อขัดข้องใด ๆ เลย และหากมันเปิดตัวได้สวยงามอย่างนี้ในช่วงที่เป็นเกมเต็ม และมีคอนเทนต์ทีร่มากพอ The Outlast Trials อาจจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่ประสบความสำเร็จในการทำเกมแนว Horror Co-op เลยก็เป็นได้ ส่วนเกมเต็มจะมาช่วงไหนก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป


บทความที่คล้ายกัน

ล่าสุด
Ragnarok Origin รวมไกด์แนวทางการเล่นทั้งหมดของเกม(อัปเดตเรื่อย ๆ)
testprofile
YeeTester2
test
IHu
[เกมลดเป๋าสั่น] Euro Truck Simulator 2 เกมขับสิบล้อเน้นสมจริง และมีให้เล่นแบบ Coop ลดเหลือ 102 บาท!
IHu
วิธีรับ The Evil Within เกมสยองชื่อดังแนว Survival Horror กำลังแจกฟรี!
IHu
[ขุมทรัพย์ GF] รู้จักกับ Drug Dealer Simulator 2 เกม Coop Open World ให้เล่นเป็นเด็กส่งยากับเพื่อน!
IHu
Editors' Choice
[แนะนำเกม] Spire Horizon เกม RPG Open World ฝีมือคนไทย ! กับการตามหาตัวตนของโครงกระดูก ผจญภัยในโลกจินตนาการ
YoJung
The Ants: Underground Kingdom เกมดูแลอาณาจักรมด ประกาศกิจกรรมฉลองคร 2 ปี รับ Code รางวัลพิเศษก่อนใครที่นี่เลย!
BASUP!
PS VR2 + HORIZON: CALL OF THE MOUNTAIN REVIEW "ประสบการณ์ VR สุดล้ำหน้า กับความคุ้มค่าที่ยังไม่มีคำตอบ"
OcelotBoy
[โชว์ห่วย] ย้อนรอยหนังดัง Super Mario Bros. The Movie (1993) กับความพังที่ยากจะให้อภัย
sLAUGHTER
Show header